The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติกรีฑา ข้อมูลและประเภทกรีฑา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by พีรณัฐ มาแก้ว, 2021-12-23 04:46:13

ประวัติกรีฑา ข้อมูลและประเภทกรีฑา

ประวัติกรีฑา ข้อมูลและประเภทกรีฑา

ประวัตกิ รีฑา ข้อมลู และประเภทกรีฑา

ความร้ทู ่วั ไปเกี่ยวกบั กรีฑา

ประวตั ิกรีฑา

เช่อื กันว่า ต้นกำเนดิ ของกรฑี านนั้ เริ่มมากจากชาวกรีกโรมนั เมอื่ ประมาณ 776 ปีกอ่ นครสิ ต
ศักราช โดยเจา้ เมอื งน้นั อยากใหพ้ ลเมืองของกรีกมสี ขุ ภาพพลานามัยที่แข็งแรง เพื่อรับใชป้ ระเทศไดอ้ ย่าง
เตม็ ท่ี นอกจากนี้ในสมยั ก่อนเชอ่ื ว่า มีเทพเจา้ สถิตอยู่บนเขาโอลิมปสั พยายามทำตวั ให้เป็นทโ่ี ปรดปราน ด้วย
การทำพิธกี รรมบวงสรวงตา่ ง ๆ พรอ้ มเลน่ กฬี าถวาย ณ ลานเชงิ เขาโอลมิ ปัสแควน้ อีลสิ เพอ่ื ใหเ้ กียรตแิ กเ่ ทพ
เจ้า โดยมีกีฬาที่ชาวกรีกเลน่ นั้น มี 5 ประเภท คือ การว่ิงแข่ง การกระโดด มวยปลำ้ พ่งุ แหลน ขว้างจักร ทั้งนี้
เป็นที่สังเกตได้วา่ นอกจากกีฬามวยปลำ้ แลว้ กฬี าทง้ั 4 ชนิด ล้วนแตเ่ ปน็ กฬี ากรีฑาทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังได้
ดำเนนิ การแข่งขนั ตดิ ต่อกนั มาเป็นเวลานานกว่า 1,200 ปี เลยทีเดยี ว

ตอ่ มากรีกเส่ือมอำนาจลง และตกอยู่ภายใต้อำนาจของชาวโรมนั การกีฬาของกรีกเลยเสื่อมลงตามลำดับ ใน
พ.ศ. 936 (ค.ศ. 393) เนอ่ื งจากจักรพรรดิธีโอดซีอสุ แห่งโรมัน มคี ำสงั่ ให้ยกเลิกการเล่นกีฬา ทั้ง 5 ประเภท
เพราะเห็นว่าประชาชนเลน่ กีฬาเพ่ือการพนนั ไม่ได้เล่นเพื่อสขุ ภาพแต่อย่างใด และนับตง้ั แต่นั้นกีฬาโอลมิ ปกิ ก็
ไดย้ ุตเิ ปน็ ระยะเวลานานกว่า 15 ศตวรรษ

หลังจากนัน้ กไ็ ด้มบี ุคคลสำคญั กลบั มาร้ือฟน้ื ใหก้ ีฬาโอลมิ ปกิ กลบั มาเรมิ่ อกี ครั้ง โดย บารอน ปีแอร์
เดอ คแู บร์แตง (BaronPierredeCoubertin) ชาวฝรัง่ เศส ซึง่ เขาไดช้ กั ชวนบุคคลคนสำคัญของชาติต่าง ๆ เขา้
มาร่วมประชุม เพ่ือแขง่ ขันกฬี าร่วมกนั โดยใหจ้ ดั การแขง่ ขัน 4 ปี ต่อ 1 ครง้ั พร้อมระบุขอ้ ตกลงในการเล่น
กีฬากรีฑาเป็นหลักของการแข่งขัน เพ่ือเปน็ เกียรติและอนุสรณแ์ กช่ าวกรกี ในสมยั โบราณ ผ้รู เิ รม่ิ กีฬา
โอลิมปกิ ทัง้ นี้ กีฬาโอลิมปกิ ไดเ้ รมิ่ แขง่ ขนั ข้ึนอกี ครัง้ ใน พ.ศ.2439 (ค.ศ. 1896) ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก

ประวัติความเป็นมาของกรีฑาในประเทศไทย

ผรู้ ิเรม่ิ ให้มกี ารแข่งขันกรีฑาในประเทศไทยนนั้ ก็ คือ กระทรวงธรรมการ (ปัจจุบันคือ
กระทรวงศึกษาธกิ าร) ที่ได้จดั ใหม้ กี ารแขง่ ขันกรีฑาระดบั นักเรียน ครั้งแรกเม่ือวนั ท่ี 11 มกราคม พ.ศ. 2440
ณ ท้องสนามหลวง โดยมี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว และ
สมเด็จพระนางเจา้ พระบรมราชินนี าถ เสด็จพระราชดำเนิน มาทรงเปน็ องคป์ ระธานเปิดการแข่งขนั กรีฑา
นกั เรียนเป็นประจำทุกปี และได้จดั ตงั้ ให้มีสมาคมกรีฑาสมัครเลน่ ประเทศไทยข้นึ

ประเภทของกรีฑา
1. กรีฑาประเภทลู่

กรฑี าประเภทล่เู ป็นกรีฑาทต่ี ้องแข่งขนั กันบนทางวิ่งหรอื ลวู่ ิง่ ตลอดระยะทาง ใช้การว่งิ เป็นสำคัญ
ตดั สินแพช้ นะกันดว้ ยเวลาการแขง่ ขันทน่ี ิยมกนั ทั่วไปมี ดังนี้

1.1 ) การว่ิงระยะส้ัน หมายถงึ การว่ิงในระยะทางไมเ่ กิน 400 เมตร นบั จากจดุ เร่ิมตน้ จนถงึ เสน้ ชยั
ซ่งึ จะต้องวิ่งในลูข่ องตนเองตลอดระยะทาง โดยแบง่ ระยะทางวิ่งออกเป็น 60, 80, 100, 200 และ 400 เมตร

1.2) การวิง่ ระยะกลาง หมายถงึ การวิง่ ในระยะทางตง้ั แต่ 800 เมตรข้ึนไป แต่ไม่เกิน 1,500 เมตร
1.3) การว่ิงระยะไกล หมายถงึ การวิ่งในระยะทางมากกว่า 1,500 เมตรข้นึ ไป และการว่ิงมาราธอน
(42.195 เมตร )
1.4) การวิ่งผลดั หมายถงึ การแขง่ ขันท่ีแบ่งเปน็ ชุด ๆ แต่ละชุดมีจำนวนผูแ้ ขง่ ขันเทา่ ๆ กนั มดี งั น.้ี ..
การวิ่งผลัดระยะทางเท่ากัน หมายถึง ผเู้ ขา้ แข่งขนั แต่ละคนในชุดเดียวกันต้องว่ิงในระยะทางเท่ากัน
เชน่ 5 x 80, 8 x 50, 4 x100,4 x 200, 4 x 400 เมตร เปน็ ตน้
การวงิ่ ผลดั ต่างระยะ หมายถึง ผเู้ ข้าแข่งขนั แตล่ ะคนในชดุ เดียวกนั ว่ิงในระยะทางไม่เท่ากัน เชน่ 80
x 120 x 120 x 80 เมตร เป็นตน้
1.5) การว่งิ ข้ามร้ัว หมายถึง การวิ่งตามลู่วง่ิ ข้ามส่ิงกดี ขวางความสงู และจำนวนรัว้ ที่ใช้แข่งขนั ในแต่
ละประเภทแตกต่างกนั ไป เชน่ วิ่งขา้ มรว้ั 100 ,110,400 เมตร เป็นตน้

2. กรฑี าประเภทลาน

2. กรีฑาประเภทลาน
กรฑี าประเภทลาน เปน็ กรฑี าที่ตอ้ งแข่งขันกนั ในสนาม ตัดสนิ แพช้ นะกันดว้ ยระยะทาง อาจเปน็ ความ

ไกลหรือความสูง โดยแบง่ ประเภทการแขง่ ขนั ดังนี้
2.1) ประเภททต่ี ัดสินดว้ ยความไกล ได้แก่ กระโดดไกล เขย่งกา้ วกระโดด ทุ่มลูกนำ้ หนัก ขวา้ งค้อน

ขว้างจักร และพ่งุ แหลน
2.2) ประเภททีต่ ดั สินด้วยความสูง ไดแ้ ก่ กระโดดสูง และกระโดดคำ้
3. กรฑี าประเภทผสม

กรฑี าประเภทผสมเป็นการแขง่ ขนั ที่นำกรีฑาประเภทลู่ และลานบางส่วนผสมกัน แบ่งประเภทการ
แขง่ ขัน ดังนี้

3.1) ประเภทชาย มีกรีฑาประเภทผสมให้เลือกแข่งขนั ได้ 2 แบบ ดังนี้
ปญั จกรฑี า ประกอบด้วยการแขง่ ขัน 5 รายการ ทำการแข่งขนั ภายในวันเดียว ตามลำดบั คือ
กระโดดไกล, พุ่งแหลน , วง่ิ 200 เมตร, ขว้างจักร และวิ่ง 1,500 เมตร
ทศกรฑี า ประกอบด้วยการแขง่ ขัน 10 รายการ ทำการแข่งขนั 2 วนั ติดต่อกนั ตามลำดับ ดงั นี้
วันทห่ี นึง่ : วิ่ง 100 เมตร กระโดดไกล ทมุ่ ลูกนำ้ หนกั กระโดดสงู และวิ่ง 400 เมตร
วนั ท่ีสอง : วิ่งขา้ มรวั้ 110 เมตร ขวา้ งจักร กระโดดคำ้ พุง่ แหลน และว่งิ 1,500 เมตร
3.2) ประเภทหญิง มีการแข่งขันเพยี งแบบเดยี ว คือ สัตตกรีฑา ประกอบดว้ ยการแขง่ ขัน 7 รายการ
ทำการแขง่ ขนั 2 วัน ตดิ ต่อกันตามลำดับ ดังนี้
วันท่ีหนึ่ง : วิง่ ข้ามรว้ั 100 เมตร, กระโดดสูง, ทุ่มลูกน้ำหนัก และว่งิ 200 เมตร
วนั ทสี่ อง : กระโดดไกล, พุง่ แหลน และวิ่ง 800 เมตร
สำหรบั กรีฑาประเภทผสมนน้ั ผู้ชนะ คอื ผู้ท่สี ามารถทำคะแนนสูงสุดในการแขง่ ขนั ถ้าไมเ่ ข้าแข่งขนั
หรือไม่ทำการประลองแม้แตค่ รัง้ เดยี วใหถ้ ือว่าเลิกการแขง่ ขัน

กตกิ ากรีฑา
การแข่งขันประเภทลู่ ประกอบไปด้วย...

การแข่งขนั ว่ิง

1. ประเภทวิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร, 400 เมตร, ข้ามรว้ั 100 เมตร, ขา้ มรั้ว 110 เมตร
2. ประเภทวิ่ง 400 เมตร, 800 เมตร, วิ่งผลดั 4x100 เมตร, ว่ิงผลัด 4x400 เมตร
3. ประเภท 1,500 เมตร
4. ประเภท 3,000 เมตร, วิ่งวิบาก 3,000 เมตร
5. ประเภท 5,000 เมตร
6. ประเภท 10,000 เมตร
การแขง่ ขนั ว่ิงผลดั
1. เขตรบั สง่ ไม้คทามีระยะทาง 20 เมตร โดยถือไม้คทาเป็นเกณฑ์ไมเ่ ก่ยี วกับขา แขน ลำตวั ของ
นกั กฬี า
2. การแข่งขนั ว่ิงผลัด 4x200 เมตร นกั กีฬาคนท่ี 1 และ คนท่ี 2จะต้องวง่ิ ชอ่ งวิง่ ของตนเองเทา่ น้ัน คน
ที่ 3 จะว่ิงในชอ่ งวิง่ ของตนเองจนกระท่ังถงึ เส้นตดั (เสน้ โคง้ แรกประมาณ 120 เมตร)
3. การแข่งขนั วง่ิ ผลัด 4x400 เมตร คนที่ 1 ว่งิ ในช่องว่งิ ของตนเองเทา่ นัน้ คนที่ 2 วง่ิ ในชอ่ งวง่ิ ของ
ตนเอง จนกระท่ังถงึ เสน้ ตัด ซึ่งอย่ใู นแนวเสน้ ชยั คนท่ี 3 และ 4 จะยืนคอยรับในเขตรับระยะรวมเทา่ นนั้ เม่ือ
นักกีฬาทีมใดว่ิงมาถึงจุด 200 เมตร ก่อน ทีมนัน้ จะสามารถยนื คอยรบั คทาจากด้านในของลู่วิ่งเรยี งตามลำดับ
ออกมา
4. ถอื ไม้คทาด้วยมอื ตลอดการแข่งขัน หลงั สง่ ไม้คทาแลว้ ควรอยู่ในชอ่ งวง่ิ ของตนเอง หรือภายในเขต
รับส่งจนกวา่ ทางว่งิ จะไม่มนี ักกฬี า
5. สามารถเปลี่ยนนกั กฬี าได้ 2 คนจะตอ้ งมรี ายช่อื ในการแข่งขนั ครงั้ น้นั
6. กรณีการแข่งขันวง่ิ ผลัด 4x100 เมตร, 4x400 ถ้ามที มี แขง่ ขนั ไมเ่ กนิ 5 ทมี ให้ไมแ้ รกวงิ่ โคง้ เดียว
แลว้ ตัดเข้าช่องในได้

การแขง่ ขันวิง่ ข้ามร้วั
นักกีฬาจะต้องวงิ่ ข้ามรัว้ ท้งั หมด 10 ครงั้ ตลอดระยะทางการแข่งขัน
สิง่ ตอ้ งห้าม : ว่งิ ข้ามรว้ั เพียงขาข้างเดียว และห้ามใช้มือผลกั ดันร้ัวหรือใชข้ าเจตนาถบี ร้วั ใหล้ ้ม
การแขง่ ขนั ประเภทลาน แบ่งออกเปน็ 2 ประเภทดังนี้
1. การแข่งขนั ประเภทกระโดด ไดแ้ ก่ กระโดดสงู , เขยง่ ก้าวกระโดด, กระโดดสงู , กระโดดคำ้ ถอ่
2. การแขง่ ขันประเภททุ่ม พุ่ง ขว้าง ได้แก่ ทุ่มน้ำหนัก, ขว้างจกั , ขว้างฆ้อน, พงุ่ แหลน

การแขง่ ขนั กระโดดไกล
การแขง่ ขัน นกั กฬี ากระโดดในขั้นที่ดีที่สุดของแตล่ ะคน จะถอื เป็นสถิติ รวมท้ังตัดสนิ เสมอกนั ของ

อนั ดบั ท่ี 1 ดว้ ย นกั กีฬากระโดดลงในบอ่ ทรายแล้วตอ้ งออกไปข้างหนา้ หรือด้านข้างเท่านั้น
การแขง่ ขนั เขย่งก้าวกระโดด

ประกอบด้วยเขย่ง การกา้ ว และการกระโดด การเขยง่ จะต้องใช้เท้าเดยี วกบั ท่เี หยยี บกระดานลงสู่พ้ืน
จะต้องกระโดดดว้ ยเทา้ ข้างเดยี ว สามารถกระโดดไดไ้ มเ่ กนิ 3 ครง้ั จะหมดสิทธใิ์ นการแขง่ ขันความสูง
ตอ่ ไป นักกีฬาที่ชนะเลิศสามารถเลอื กความสงู ไดต้ ามต้องการ
การแขง่ กระโดดคำ้ ถ่อ
หากกระโดดไมผ่ ่าน 3 ครั้ง ถอื วา่ หมดสทิ ธิ์ หา้ มใช้ผา้ ยางพันมือหรือนิว้ มือ ยกเว้นบาดเจบ็ การแข่งขนั
ในข้ันทด่ี ที ่ีสุดถอื ว่าเปน็ สถิติ

การแขง่ ขันทุ่มน้ำหนัก
นกั กฬี าเขา้ แข่งขันมากกว่า 8 คน การแขง่ ขนั คนละ 3 ครง้ั ผู้ทำสถิตดิ ที ่สี ดุ ทำการแข่งขันรอบสุดทา้ ย

ถา้ ไมเ่ กิน 8 คน คนละ 6 คร้ัง ทำการฝกึ ซ้อมได้ไม่เกนิ 2 ครัง้ ตอ้ งทุ่มภายในบริเวณวงกลม ลกู นำ้ หนกั ต้องทุม่
ออกไปจากไหลด่ ้วยมือขา้ งเดียว โดยลกู น้ำหนักต้องสัมผัสหรืออย่ชู ิดคาง และมือต้องไม่ลดตำ่ กวา่ ไหล่เลยไป
ดา้ นหลัง ขณะจะทุ่มลูกน้ำหนักออกไป

การฟาลว์ เมื่อเข้าไปในวงกลมเพ่ือทำการทุ่มแลว้ สัมผสั ภายนอกวงกลมหรือขอบบนของไม้ขวาง หรือ
ขอบบนไมข้ วางหรือขอบบนของวงกลม จะต้องวางอปุ กรณ์ไวด้ ้านนอกหรือภายในวงกลมแล้วเดินออกดา้ นหลงั

- หา้ มใชผ้ ้ายางพนั น้ิว มอื 2 นว้ิ หรือมากกวา่ เข้าด้วยกันยกเว้นบาดเจบ็

- ห้ามสวมถุงมือ

- ห้ามฉีดสเปรยห์ รือสารบางอย่างในวงกลมหรือรองเทา้

- สามารถใชส้ ารทามือได้

- สามารถคาดสายเข็มขดั หนังหรืออุปกรณ์อื่นทจ่ี ำเปน็ วา่ เหมาะสม เพอื่ ป้องกนั การบาดเจบ็ ของ
กระดูกได้

- ลกู น้ำหนกั ตอ้ งอยู่ภายในเสน้ รัศมี และตอ้ งไม่ออกจากวงกลมจนกวา่ ลูกทุ่มน้ำหนักจะตกถงึ พน้ื
การขวา้ งจกั ร

จักรจะต้องตกภายในเสน้ รศั มีเท่านัน้ ห้ามออกนอกวงกลม จนกว่าจักรจะตกถึงพ้ืนคร้ังแรกสมบรู ณ์
แลว้ และต้องไม่ฉีดสเปรย์หรือสารบางอย่างในวงกลมหรอื รองเทา้ หา้ มใชผ้ ้ายางพันน้วิ มอื 2 น้วิ หรือมากกวา่
เข้าดว้ ยกันยกเว้นบาดเจ็บ สามารถคาดสายเขม็ ขดั หนังหรอื อุปกรณ์อืน่ ทีจ่ ำเปน็ ว่าเหมาะสม เพือ่ ป้องกนั การ
บาดเจ็บของกระดกู ได้ ส่วนจกั รทขี่ ว้างออกไปแลว้ หา้ มขวา้ งกลับมาให้ถือกลบั มาท่ีวงกลม และห้ามออกนอก
วงกลมจนกว่าจักรถึงเสน้

การขว้างฆ้อน

ฝกึ ซอ้ มได้ไมเ่ กิน 2 ครั้ง การขวา้ งเร่มิ จากในวงกลม เม่อื เหว่ยี งสมั ผสั พื้นดนิ หรือขอบของวงกลมจะไม่
ถอื วา่ ฟาล์ว แต่ถ้าหลงั จากสัมผสั พืน้ ดนิ หรอื ขอบเหล็กแลว้ เขาหยุดการหมนุ จะถือวา่ ฟาล์ว เมอ่ื เขา้ ไปในวงกลม
ห้ามสัมผัสพื้นดนิ นอกหรือขอบวงกลมจะถือวา่ ฟาล์ว ถ้าเกิดหลุดหรอื ขาดกลางอากาศไม่ถอื วา่ ฟาลว์ สว่ นถา้
เสียหลกั จนเกดิ การฟาล์ว จะถือว่าการประลองคร้ังน้นั ไมน่ ับเช่นกนั ตวั ฆ้อนต้องตกภายในรศั มี หา้ มออกนอก
วงกลมจนกว่าฆ้อนจะตกถึงพ้ืน นอกจากน้ี อปุ กรณ์ทีข่ ว้างไปแลว้ ห้ามขว้างกลับให้ถือกลับมา

การพุง่ แหลน

- ตอ้ งจับตรงทจี่ ับ การพงุ่ จะต้องพุง่ ออกไปเหนือไหล่หรือเหนอื แขนท่อนบน

- ห้ามใช้วธิ เี หว่ียงหรอื ขว้าง หรอื ม่งุ ด้วยท่าพลิกแพลงอน่ื ๆ

- การท่ีหวั แหลนทีเ่ ปน็ โลหะไม่ได้ถกู พน้ื ก่อนส่วนอื่น ๆ ของแหลน ถือวา่ การแข่งขันไม่มผี ล

- หากสว่ นใดส่วนหนึ่งของร่างกาย หรือแขนขา ถกู ไมโ้ คง้ หรอื เสน้ ที่ลากตอ่ จากปลายของสว่ นโค้ง ถือว่า
การแข่งขนั ไม่ไดผ้ ล

- หากแหลนหักในระหว่างพงุ่ ใหท้ ำการแขง่ ขันใหม่แหลนพุ่งแลว้ หา้ มพุ่งกลับ

การแขง่ ขันเดิน

ลกั ษณะการเดินที่ถูกต้อง ก่อนยกเท้าหลงั จากพื้นเทา้ หน้านำ ต้องสัมผัสพื้นก่อนดว้ ยส้นเท้า เม่ือเท้า
หนา้ นำ สัมผสั พน้ื แลว้ ต้องตงึ ชวั่ ขณะจนกวา่ จะอยู่แนวต้งั ฉากกับลำตวั

การตัดสิน

นกั กีฬาผู้ไดค้ ะแนนสูงสุดเป็นผูช้ นะ ถา้ เสมอกันให้ผเู้ ขา้ แข่งขันมากประเภทกวา่ เปน็ ผู้ชนะ ถา้ ยงั เสมอ
กนั อยู่อกี ก็ใหถ้ ือคะแนนท่ีมากกว่าในประเภทใดประเภทหน่ึงเปน็ ผู้ชนะ สว่ นนกั กฬี าใดไม่ประลองในประเภท
ใดประเภทหนง่ึ ให้ถือวา่ หมดสิทธใ์ิ นการแข่งขันต่อไป ต้องออกจากสนามทนั ที


Click to View FlipBook Version