The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กำหนดผู้มีหน้ำที่จัดทำบัญชี หลักเกณฑ์และวิธีกำรในกำรจัดทำบัญชี กำกับดูแลและส่งเสริมกำรจัดทำบัญชีให้ได้มำตรฐำน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by legal.dbd.15, 2019-10-10 02:29:25

พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓

กำหนดผู้มีหน้ำที่จัดทำบัญชี หลักเกณฑ์และวิธีกำรในกำรจัดทำบัญชี กำกับดูแลและส่งเสริมกำรจัดทำบัญชีให้ได้มำตรฐำน

พระราชบญั ญตั ิ
การบญั ชี
พ.ศ. ๒๕๔๓

ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วันท่ี ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๓

เปน ปท่ี ๕๕ ในรัชกาลปจจบุ นั

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯ ใหประกาศวา
โดยทเ่ี ปนการสมควรปรบั ปรุงกฎหมายวาดว ยการบญั ชี
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙
ประกอบกับมาตรา ๓๕ มาตรา ๔๘ และมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยบัญญัติใหกระทําไดโดย
อาศัยอํานาจตามบทบญั ญตั แิ หง กฎหมาย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหตราพระราชบัญญัติข้ึนไวโดยคําแนะนําและยินยอมของรัฐสภา
ดังตอ ไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตนิ เี้ รยี กวา “พระราชบญั ญัตกิ ารบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินใ้ี หใ ชบ ังคับเม่ือพนกําหนดเกา สิบวันนบั แตวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปนตนไป
มาตรา ๓ ใหยกเลกิ ประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบับท่ี ๒๘๕ ลงวนั ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญตั ินี้
“งบการเงิน” หมายความวา รายงานผลการดําเนินงาน ฐานะการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงิน
ของกิจการ ไมวาจะรายงานโดยงบดุล งบกําไรขาดทุน งบกําไรสะสม งบกระแสเงินสด งบแสดงการเปล่ียนแปลงสวน
ของผถู ือหุน งบประกอบ หรอื หมายเหตปุ ระกอบงบการเงิน หรือคําอธบิ ายอนื่ ซงึ่ ระบุไววาเปนสวนหนง่ึ ของงบการเงนิ
“มาตรฐานการบัญชี” หมายความวา หลักการบัญชีและวิธีปฏิบัติทางการบัญชีท่ีรับรองทั่วไปหรือ
มาตรฐานการบญั ชที ก่ี าํ หนดตามกฎหมายวาดวยการนน้ั
“ผูมหี นา ที่จดั ทาํ บญั ชี” หมายความวา ผมู หี นาทจ่ี ดั ใหม กี ารทําบัญชตี ามพระราชบัญญัตนิ ้ี
“ผูทําบัญชี” หมายความวา ผูรับผิดชอบในการทําบัญชีของผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชีไมวาจะไดกระทําใน
ฐานะเปนลกู จางของผูมีหนา ท่ีจดั ทําบญั ชหี รือไมก ต็ าม
“สารวัตรใหญบัญชี” หมายความวา อธบิ ดี และใหห มายความรวมถึงผซู ึ่งอธิบดีมอบหมายดว ย
[ดูคําส่ังกรมพัฒนาธุรกิจการคา ท่ี ๑๓๐/๒๕๕๙ เรื่อง มอบหมายใหขาราชการเปนสารวัตรใหญบัญชี
และแตงตงั้ สารวตั รบัญชี]
[ดูคาํ สงั่ กรมพฒั นาธรุ กจิ การคา ที่ ๑๘/๒๕๕๒ เรื่อง มอบหมายใหขาราชการเปนสารวัตรใหญบัญชี และ
แตงตั้งสารวัตรบัญชี]
“สารวตั รบญั ชี” หมายความวา ผซู ่ึงอธิบดแี ตง ตงั้ ใหเปนสารวตั รบญั ชปี ระจาํ สาํ นกั งานบัญชีประจาํ ทองที่

-๒-
“อธบิ ดี” หมายความวา อธบิ ดกี รมพัฒนาธรุ กจิ การคา 0*
“รัฐมนตรี” หมายความวา รฐั มนตรผี ูร ักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี
มาตรา ๕ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงพาณิชยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และใหมีอํานาจออก
กฎกระทรวงเพอ่ื ปฏิบัติการตามพระราชบญั ญัตนิ ี้
กฎกระทรวงนนั้ เมอื่ ไดประกาศในราชกิจจานุเบกษาแลวใหใ ชบงั คับได
[ดูกฎกระทรวงวาดวยการยกเวนไมตองจัดใหงบการเงินไดรับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดย
ผูส อบบญั ชรี ับอนญุ าต พ.ศ. ๒๕๔๔]

หมวด ๑
บททวั่ ไป

มาตรา ๖ ใหก รมพัฒนาธรุ กจิ การคา * กระทรวงพาณชิ ย เปน สํานกั งานกลางบญั ชี
ใหอธิบดีมีอํานาจจัดตั้งสํานักงานบัญชีประจําทองที่ โดยขึ้นตรงตอสํานักงานกลางบัญชี และมีสารวัตร
บญั ชคี นหน่ึงเปนหวั หนาสํานกั งานบญั ชปี ระจาํ ทอ งท่ี
[ดูประกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา เร่ือง จัดตั้งสํานักงานบัญชีประจําทองท่ี และแตงตั้งหัวหนาสํานักงาน
บญั ชปี ระจาํ ทองที่ พ.ศ. ๒๕๕๙]
การจัดตั้งสํานักงานบญั ชปี ระจาํ ทอ งทใี่ หป ระกาศในราชกิจจานเุ บกษา
มาตรา ๗ อธิบดมี ีอํานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากาํ หนดในเรอื่ ง ดงั ตอ ไปนี้
(๑) ชนดิ ของบญั ชีที่ตองจดั ทํา
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เรื่อง กําหนดชนิดของบัญชีท่ีตองจัดทํา ขอความและรายการท่ีตองมี
ในบญั ชีระยะเวลาท่ตี อ งลงรายการในบัญชี และเอกสารทีต่ องใชประกอบการลงบัญชี (รวมลา สุด)]
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เรื่อง กําหนดชนิดของบัญชีท่ีตองจัดทํา หลักเกณฑและวิธีการ
เกี่ยวกับวันเริ่มทําบัญชีและวิธีการจัดทําบัญชีของผูมีหนาที่จัดทําบัญชี ซ่ึงเปนบุคคลธรรมดาหรือหางหุนสวนที่มิไดจด
ทะเบียนทป่ี ระกอบธุรกิจเก่ียวกบั งาชา ง พ.ศ. ๒๕๕๒]
(๒) ขอ ความและรายการท่ตี องมใี นบญั ชี
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เร่ือง กําหนดชนิดของบัญชีท่ีตองจัดทํา ขอความและรายการท่ีตองมี
ในบญั ชีระยะเวลาทตี่ อ งลงรายการในบญั ชี และเอกสารทตี่ อ งใชประกอบการลงบญั ชี (รวมลา สุด)]
(๓) ระยะเวลาทีต่ อ งลงรายการในบัญชี
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เรื่อง กําหนดชนิดของบัญชีที่ตองจัดทํา ขอความและรายการท่ีตองมี
ในบัญชีระยะเวลาทต่ี อ งลงรายการในบญั ชี และเอกสารท่ีตองใชป ระกอบการลงบัญชี (รวมลา สุด)]
(๔) เอกสารท่ตี องใชประกอบการลงบัญชี

* พระราชกฤษฎกี าแกไ ขบทบญั ญัติใหสอดคลอ งกบั การโอนอาํ นาจหนา ที่ของสว นราชการใหเปนไปตามพระราชบญั ญตั ปิ รบั ปรงุ กระทรวง
ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๒๑ ในพระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓ ใหแกไขคําวา “กรมทะเบียนการคา ” เปน “กรม
พฒั นาธรุ กิจการคา ” และคาํ วา “อธบิ ดกี รมทะเบียนการคา” เปน “อธิบดกี รมพฒั นาธรุ กิจการคา ”

-๓-
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เร่ือง กําหนดชนิดของบัญชีท่ีตองจัดทํา ขอความและรายการท่ีตองมี
ในบญั ชรี ะยะเวลาทตี่ อ งลงรายการในบัญชี และเอกสารท่ีตอ งใชประกอบการลงบัญชี (รวมลาสดุ )]
(๕) กําหนดขอยกเวนใหผูมีหนาที่จัดทําบัญชีหรือผูทําบัญชีไมตองปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชี
ในเรื่องใดเร่ืองหนง่ึ หรอื สวนใดสวนหนึ่ง
(๖) คุณสมบัติและเงื่อนไขของการเปน ผทู ําบญั ชตี ามพระราชบญั ญตั นิ ี้
[ดูประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา เรอ่ื ง กําหนดคุณสมบตั แิ ละเงอื่ นไขของการเปน ผทู ําบัญชี (รวมลาสดุ )]
ในการประกาศขอกําหนดตามวรรคหนึ่ง ใหอธิบดีคํานึงถึงมาตรฐานการบัญชีและขอคิดเห็นของ
หนว ยงานที่เก่ยี วขอ งและสถาบนั วชิ าชีพบญั ชี
ขอ กําหนดตาม (๕) และ (๖) ตอ งไดร บั ความเหน็ ชอบจากรฐั มนตรีดว ย
ขอกาํ หนดตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) หากเรื่องน้ันมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติไวเปนอยางอื่น เมื่อ
ผูมหี นา ทจี่ ัดทําบัญชีปฏบิ ตั ิตามกฎหมายเฉพาะนนั้ แลว ใหถอื วา ไดจดั ทําบัญชโี ดยถกู ตองตามพระราชบญั ญตั ิน้ีแลว

หมวด ๒
ผูมีหนา ท่จี ดั ทาํ บัญชี

มาตรา ๘ ใหหางหุนสวนจดทะเบียน บริษัทจํากัด บริษัทมหาชนจํากัด ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย
นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายตางประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย กิจการรวมคาตามประมวลรัษฎากร
เปนผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชี และตองจัดใหมีการทําบัญชีสําหรับการประกอบธุรกิจของตนโดยมีรายละเอียด หลักเกณฑ
และวธิ ีการตามท่บี ญั ญัติไวในพระราชบญั ญัติน้ี

ในกรณีท่ีผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชีประกอบธุรกิจเปนประจําในสถานท่ีหลายแหงแยกจากกัน ใหผูมีหนาท่ี
รับผดิ ชอบในการจดั การธรุ กจิ ในสถานท่นี นั้ เปน ผมู ีหนา ทีจ่ ดั ทาํ บญั ชี

ในกรณีท่ีผูมีหนาที่จัดทําบัญชีเปนกิจการรวมคาตามประมวลรัษฎากร ใหบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการ
ดาํ เนินการของกจิ การนัน้ เปนผูมหี นา ทจ่ี ัดทาํ บัญชี

รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอํานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษา กําหนดใหบุคคล
ธรรมดาใดหรือหางหุนสวนที่มิไดจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจใดในประเทศไทยตามเงื่อนไขใดเปนผูมีหนาที่จัดทํา
บญั ชีตามพระราชบญั ญตั ินีไ้ ด

[ดูประกาศกระทรวงพาณิชย เรื่อง กําหนดใหผูประกอบธุรกิจเก่ียวกับงาชางเปนผูมีหนาที่จัดทําบัญชี
พ.ศ. ๒๕๕๑]

[ดูประกาศกระทรวงพาณิชย เรื่อง กําหนดใหบุคคลธรรมดาหรือหางหุนสวนที่มิไดจดทะเบียน
เปนผูมหี นาท่ีจัดทาํ บัญชี พ.ศ. ๒๕๔๔]

ประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคสี่ ใหประกาศในราชกจิ จานุเบกษาลวงหนา ไมนอยกวาหกเดอื นกอนวันใชบ ังคบั
ในกรณีที่มีประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคส่ี ใหอธิบดีกําหนดหลักเกณฑและวิธีการเก่ียวกับวันเร่ิมทํา
บัญชคี รง้ั แรก และกาํ หนดวิธีการจดั ทําบญั ชขี องบุคคลธรรมดาหรือหางหุนสวนที่มิไดจดทะเบียนนั้น
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เร่ือง กําหนดชนิดของบัญชีที่ตองจัดทํา ขอความและรายการท่ีตองมี
ในบญั ชรี ะยะเวลาท่ตี องลงรายการในบญั ชี และเอกสารทีต่ อ งใชป ระกอบการลงบัญชี (รวมลา สุด)]

-๔-

[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เร่ือง หลักเกณฑและเง่ือนไขในการรับรองคุณภาพสํานักงานบัญชี
พ.ศ. ๒๕๕๘]

[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เรื่อง กําหนดชนิดของบัญชีท่ีตองจัดทํา หลักเกณฑและวิธีการ
เก่ียวกับวันเริ่มทําบัญชีและวิธีการจัดทําบัญชีของผูมีหนาที่จัดทําบัญชี ซ่ึงเปนบุคคลธรรมดาหรือหางหุนสวนที่มิไดจด
ทะเบียนที่ประกอบธรุ กิจเกยี่ วกบั งาชา ง พ.ศ. ๒๕๕๒]

มาตรา ๙ ผูมีหนาที่จัดทาํ บัญชีตองจัดใหมีการทาํ บัญชีนับแตวันเริ่มทําบัญชี ดังตอไปน้ีเปนตนไป
(๑) หางหุนสวนจดทะเบียน บริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัด ใหเร่ิมทําบัญชีนับแตวันที่หางหุนสวน
จดทะเบยี น บริษัทจํากดั หรอื บริษัทมหาชนจาํ กัดนั้น ไดรบั การจดทะเบยี นเปน นิติบคุ คลตามกฎหมาย
(๒) นิติบุคคลทีต่ ง้ั ขนึ้ ตามกฎหมายตางประเทศท่ปี ระกอบธรุ กจิ ในประเทศไทย ใหเร่ิมทําบัญชีนับแตวันท่ี
นติ ิบุคคลทีต่ ้งั ขึ้นตามกฎหมายตา งประเทศนัน้ ไดเริ่มตนประกอบธรุ กจิ ในประเทศไทย
(๓) กิจการรว มคา ตามประมวลรัษฎากร ใหเ ริม่ ทําบัญชีนับแตว ันทกี่ ิจการรว มคา น้ันไดเริ่มตนประกอบกิจการ
(๔) สถานท่ีประกอบธุรกิจเปนประจําตามมาตรา ๘ วรรคสอง ใหเริ่มทําบัญชีนับแตวันท่ีสถานที่ประกอบ
ธุรกิจเปนประจําน้ันเรม่ิ ตนประกอบกจิ การ
มาตรา ๑๐ ผมู หี นาที่จดั ทาํ บญั ชีตองปดบัญชีครั้งแรกภายในสิบสองเดือนนับแตวันเร่ิมทําบัญชีที่กําหนด
ตามมาตรา ๘ วรรคหก หรือวันเริ่มทําบัญชีตามมาตรา ๙ แลวแตกรณี และปดบัญชีทุกรอบสิบสองเดือนนับแตวันปด
บัญชคี รง้ั กอ น เวนแต
(๑) เม่อื ไดรับอนญุ าตจากสารวัตรใหญบัญชีหรือสารวัตรบัญชีใหเปลี่ยนรอบปบัญชีแลวอาจปดบัญชีกอน
ครบรอบสิบสองเดอื นได
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เรื่อง หลักเกณฑและวิธีในการขออนุญาตและการอนุญาตใหเปล่ียนรอบป
บัญชี การขออนุญาตและ การอนุญาตใหเก็บรักษาบัญชีและเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชีไว ณ สถานท่ีอื่น การแจง
บัญชีหรือเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชีสูญหายและเสียหาย และการสงมอบบัญชีและเอกสารท่ีตองใช
ประกอบการลงบญั ชี (กรณีเลกิ ประกอบธุรกจิ โดยมไิ ดมีการชาํ ระบัญช)ี ทางอิเล็กทรอนิกส (e-Permit) พ.ศ.๒๕๖๑]
(๒) ในกรณีมหี นา ทีจ่ ัดทาํ บญั ชตี ามมาตรา ๘ วรรคสอง ใหป ด บัญชีพรอ มกบั สํานกั งานใหญ
มาตรา ๑๑ ผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชีซ่ึงเปนหางหุนสวนจดทะเบียนท่ีจัดต้ังข้ึนตามกฎหมายไทย นิติบุคคลที่
ตั้งข้ึนตามกฎหมายตางประเทศ และกิจการรวมคาตามประมวลรัษฎากร ตองจัดทํางบการเงินและยื่นงบการเงิน
ดังกลาวตอสํานักงานกลางบัญชีหรือสํานักงานบัญชีประจําทองที่ภายในหาเดือนนับแตวันปดบัญชีตามมาตรา ๑๐
สําหรับกรณีของบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดท่ีจัดตั้งข้ึนตามกฎหมายไทยใหยื่นภายในหนึ่งเดือนนับแตวันที่งบ
การเงินน้ันไดรับอนุมัติในที่ประชุมใหญ ท้ังน้ี เวนแตมีเหตุจําเปนทําใหผูมีหนาที่จัดทําบัญชีไมสามารถจะปฏิบัติตาม
กําหนดเวลาดงั กลา วได อธบิ ดีอาจพจิ ารณาส่ังใหขยายหรือเล่ือนกาํ หนดเวลาออกไปอกี ตามความจําเปน แกกรณไี ด
การยืน่ งบการเงนิ ใหเปน ไปตามหลกั เกณฑและวิธีการที่อธิบดีกาํ หนด
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกจิ การคา เร่อื ง หลกั เกณฑแ ละวิธกี ารยน่ื งบการเงิน ประจาํ ป]
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เรื่อง หลักเกณฑและวิธีการในการย่ืนงบการเงินผานทาง
อเิ ลก็ ทรอนิกส (DBD e-Filing) พ.ศ. 2561]

-๕-

งบการเงินตองมีรายการยอตามท่ีอธิบดีประกาศกําหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี เวนแตกรณีที่ได
มีกฎหมายเฉพาะกําหนดเพิ่มเติมจากรายการยอของงบการเงินที่อธิบดีกําหนดไวแลวใหใชรายการยอตามที่กําหนด
ในกฎหมายเฉพาะนัน้

[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกจิ การคา เร่อื ง กาํ หนดรายการยอทต่ี อ งมีในงบการเงนิ พ.ศ. ๒๕๕๔]
[ดูประกาศกรมพฒั นาธรุ กิจการคา เรอ่ื ง กําหนดรายการยอท่ีตองมใี นงบการเงิน (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙]
งบการเงินตองไดรับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผูสอบบัญชีรับอนุญาต เวนแตงบการเงิน
ของผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชีซ่ึงเปนหางหุนสวนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยท่ีมีทุน สินทรัพย หรือรายได
รายการใดรายการหน่ึงหรอื ทกุ รายการ ไมเ กินท่ีกําหนดโดยกฎกระทรวง
[ดูกฎกระทรวงวาดวยการยกเวนไมตองจัดใหงบการเงินไดรับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดย
ผสู อบบัญชรี บั อนญุ าต พ.ศ. ๒๕๔๔]
มาตรา ๑๒ ในการจัดทําบัญชี ผูมีหนาที่จัดทําบัญชีตองสงมอบเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชี
ใหแกผูทาํ บัญชีใหถูกตองครบถวน เพื่อใหบัญชีที่จัดทําข้ึนสามารถแสดงผลการดําเนินงาน ฐานะการเงิน หรือการ
เปล่ยี นแปลงฐานะการเงินท่ีเปนอยูตามความเปน จรงิ และตามมาตรฐานการบญั ชี
มาตรา ๑๓ ผูมีหนาที่จัดทําบัญชีตองเก็บรักษาบัญชีและเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชีไว ณ
สถานที่ทาํ การ หรือสถานที่ที่ใชเปนท่ีทาํ การผลิตหรือเก็บสินคาเปนประจําหรือสถานที่ที่ใชเปนที่ทํางานประจํา เวน
แตผ ูมหี นาท่ีจดั ทําบัญชีจะไดรับอนุญาตจากสารวัตรใหญบัญชีหรือสารวัตรบัญชีใหเก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ตองใช
ประกอบการลงบัญชีไว ณ สถานทอี่ ่ืนได
การขออนุญาตและการอนุญาตตามวรรคหนึ่งใหเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการที่อธิบดีกําหนดและ
ในระหวางรอการอนุญาตใหผูมีหนาที่จัดทําบัญชีเก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชีไวในสถานที่
ที่ยืน่ ขอนนั้ ไปพลางกอ นได
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เร่ือง หลักเกณฑและวิธีในการขออนุญาตและการอนุญาตใหเปลี่ยน
รอบปบัญชี การขออนุญาตและ การอนุญาตใหเก็บรักษาบัญชีและเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชีไว ณ สถานท่ีอ่ืน
การแจงบญั ชหี รอื เอกสารทต่ี องใชประกอบการลงบัญชีสญู หายและเสียหาย และการสงมอบบัญชีและเอกสารที่ตองใช
ประกอบการลงบัญชี (กรณีเลิกประกอบธุรกิจโดยมิไดมีการชาํ ระบัญชี) ทางอิเล็กทรอนิกส (e-Permit) พ.ศ.๒๕๖๑]
ในกรณีท่ีจัดทําบัญชีดวยเครื่องคอมพิวเตอรหรือเครื่องมืออื่นใดในสถานท่ีอื่นใดในราชอาณาจักรที่มิใช
สถานท่ีตามวรรคหนึ่ง แตมีการเช่ือมโยงเครือขายคอมพิวเตอรหรือเคร่ืองมือน้ันมายังสถานท่ีตามวรรคหนึ่ง กรณี
ดังกลาวนีใ้ หถือวาไดม ีการเก็บรักษาบญั ชไี ว ณ สถานท่ตี ามวรรคหนึ่งแลว
มาตรา ๑๔ ผูมีหนาที่จัดทําบัญชีตองเก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชีไวเปน
เวลาไมน อ ยกวาหา ปน ับแตวันปดบญั ชีหรอื จนกวาจะมกี ารสงมอบบญั ชีและเอกสารตามมาตรา ๑๗
เพื่อประโยชนในการตรวจสอบบัญชีของกิจการประเภทใดประเภทหนึ่ง ใหอธิบดีโดยความเห็นชอบของ
รัฐมนตรมี ีอาํ นาจกาํ หนดใหผมู หี นาทีจ่ ัดทาํ บัญชเี ก็บรกั ษาบัญชีและเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชีไวเกินหาปแต
ตองไมเกินเจ็ดปไ ด
มาตรา ๑๕ ถาบญั ชหี รือเอกสารท่ีตองใชป ระกอบการลงบญั ชสี ูญหายหรือเสียหาย ใหผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชี
แจงตอสารวัตรใหญบัญชีหรือสารวัตรบัญชีตามหลักเกณฑและวิธีการที่อธิบดีกําหนดภายในสิบหาวันนับแตวันที่ทราบ
หรอื ควรทราบถึงการสญู หายหรือเสยี หายน้นั

-๖-

[ดูประกาศกรมพฒั นาธรุ กิจการคา เร่ือง หลักเกณฑและวิธีในการขออนุญาตและการอนุญาตใหเปลี่ยนรอบป
บัญชี การขออนุญาตและ การอนุญาตใหเก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชีไว ณ สถานท่ีอื่น การแจง
บัญชีหรือเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชีสูญหายและเสียหาย และการสงมอบบัญชีและเอกสารที่ตองใช
ประกอบการลงบญั ชี (กรณีเลกิ ประกอบธุรกจิ โดยมิไดมีการชําระบญั ชี) ทางอเิ ล็กทรอนิกส (e-Permit) พ.ศ.๒๕๖๑]

มาตรา ๑๖ ในกรณีท่ีสารวัตรใหญบัญชีหรือสารวัตรบัญชีตรวจพบวาบัญชีและเอกสารท่ีตองใชประกอบ
การลงบัญชที ีเ่ ปนสาระสาํ คญั แกก ารจดั ทําบัญชีสูญหายหรือถกู ทําลาย หรือปรากฏวาบญั ชีและเอกสารดงั กลา วมิไดเก็บไว
ในท่ปี ลอดภัย ใหส นั นษิ ฐานวา ผูมหี นา ท่จี ดั ทําบญั ชมี ีเจตนาทาํ ใหเสยี หาย ทําลาย ซอนเรน หรอื ทําใหสญู หายหรอื ทําให
ไรประโยชนซ่ึงบัญชีหรือเอกสารน้ัน เวนแตผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชีจะพิสูจนใหเช่ือไดวาตนไดใชความระมัดระวังตามสมควร
แกก รณแี ลว เพ่อื ปองกันมิใหบ ัญชีหรอื เอกสารท่ตี องใชประกอบการลงบัญชีสญู หายหรือเสยี หาย

มาตรา ๑๗ เม่ือผูมีหนาที่จัดทําบัญชีเลิกประกอบธุรกิจดวยเหตุใด ๆ โดยมิไดมีการชําระบัญชี ใหสง
มอบบัญชีและเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชีแกสารวัตรใหญบัญชีหรือสารวัตรบัญชีภายในเกาสิบวันนับแตวัน
เลิกประกอบธรุ กิจ และใหส ารวตั รใหญบญั ชีหรอื สารวตั รบญั ชเี ก็บรักษาบญั ชีและเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชี
ดังกลาวไวไมนอยกวา หาป

เม่ือผูม ีหนา ทจี่ ัดทาํ บญั ชรี องขอ ใหส ารวตั รใหญบัญชีหรือสารวัตรบัญชมี ีอาํ นาจขยายเวลาการสงมอบบัญชีและ
เอกสารตามวรรคหนง่ึ ได แตร ะยะเวลาทข่ี ยายเมอื่ รวมกันแลวตองไมเกินหนง่ึ รอ ยแปดสิบวนั นับแตว นั เลกิ ประกอบธรุ กจิ

ในกรณีที่ผูมีหนาที่จัดทําบัญชีสงมอบบัญชีและเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชีไมครบถวนถูกตอง
สารวัตรใหญบัญชีหรือสารวัตรบัญชีมีอํานาจเรียกใหผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชีสงมอบบัญชีและเอกสารที่ตองใชประกอบการ
ลงบัญชใี หครบถว นถกู ตองภายในเวลาที่กําหนด

[ดูประกาศกรมพฒั นาธรุ กิจการคา เรื่อง หลักเกณฑและวิธีในการขออนุญาตและการอนุญาตใหเปล่ียนรอบป
บัญชี การขออนุญาตและ การอนุญาตใหเก็บรักษาบัญชีและเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชีไว ณ สถานท่ีอื่น การแจง
บัญชีหรือเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชีสูญหายและเสียหาย และการสงมอบบัญชีและเอกสารที่ตองใช
ประกอบการลงบัญชี (กรณีเลิกประกอบธุรกจิ โดยมไิ ดมีการชาํ ระบัญช)ี ทางอิเลก็ ทรอนกิ ส (e-Permit) พ.ศ.๒๕๖๑]

มาตรา ๑๘ งบการเงนิ บัญชี และเอกสารที่สารวัตรใหญบ ญั ชหี รือสารวัตรบัญชีไดรับและเก็บรกั ษาไวตาม
มาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๗ ผูมีสวนไดเสียหรือบุคคลทั่วไปอาจขอตรวจดูหรือขอภาพถายสําเนาไดโดยเสีย
คา ใชจ ายตามท่อี ธบิ ดีกาํ หนด

[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เร่ือง กําหนดคาใชจายในการขอตรวจดูหรือขอถายสําเนางบการเงิน
ของผูม หี นาทจ่ี ัดทาํ บญั ชี พ.ศ. 2561]

หมวด ๓
ผูทําบญั ชี

มาตรา ๑๙ ผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชีตองจัดใหมีผูทําบัญชีซ่ึงเปนผูมีคุณสมบัติตามที่อธิบดีกําหนดตาม
มาตรา ๗ (๖) เพื่อจัดทาํ บัญชีตามพระราชบัญญัตินี้ และมีหนาท่ีควบคุมดูแลผูทําบัญชีใหจัดทําบัญชีใหตรงตอความ
เปน จรงิ และถกู ตอ งตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี

ผมู ีหนาท่ีจดั ทาํ บัญชซี ง่ึ เปน บคุ คลธรรมดาจะเปน ผูทําบญั ชสี าํ หรับกจิ การของตนเองก็ได

-๗-

มาตรา ๒๐ ผูทําบัญชีตองจัดทําบัญชีเพื่อใหมีการแสดงผลการดําเนินงาน ฐานะการเงิน หรือการ
เปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของผูมีหนาที่จัดทําบัญชีที่เปนอยูตามความเปนจริงและตามมาตรฐานการบัญชี โดยมี
เอกสารท่ีตอ งใชประกอบการลงบญั ชีใหถ กู ตองครบถวน

มาตรา ๒๑ ในการลงรายการในบญั ชี ผทู ําบัญชตี องปฏบิ ัติ ดังตอ ไปนี้
(๑) ลงรายการเปนภาษาไทย หากลงรายการเปนภาษาตางประเทศใหมีภาษาไทยกํากับ หรือลงรายการเปน
รหสั บญั ชีใหม ีคมู ือแปลรหสั ที่เปนภาษาไทยไว
(๒) เขยี นดว ยหมึก ดดี พิมพ ตีพมิ พ หรือทําดวยวิธีอน่ื ใดทไี่ ดผลในทาํ นองเดียวกัน

หมวด ๔
การตรวจสอบ

มาตรา ๒๒ สารวัตรใหญบัญชีและสารวัตรบัญชีมีอํานาจตรวจสอบบัญชีและเอกสารที่ตองใช
ประกอบการลงบัญชีเพื่อใหเปนไปตามพระราชบัญญัติน้ี ในการน้ีใหมีอํานาจเขาไปในสถานท่ีทําการหรือสถานที่เก็บ
รักษาบัญชีและเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชีของผูมีหนาที่จัดทําบัญชีหรือผูทําบัญชีหรือสถานที่รวบรวมหรือ
ประมวลขอมลู ของบุคคลดังกลา วไดในระหวา งเวลาทาํ การของสถานท่ีนน้ั

ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อไดวามีการฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามบทบัญญัติแหงพระราชบัญญัตินี้ ให
สารวัตรใหญบัญชีหรือสารวัตรบัญชีมีอํานาจเขาไปในสถานที่ตามวรรคหนึ่ง เพื่อยึด หรืออายัดบัญชีและเอกสารที่
ตอ งใชป ระกอบการลงบญั ชไี ดในระหวางเวลาพระอาทิตยขน้ึ จนถงึ พระอาทิตยตกหรือในเวลาทําการของสถานท่ีนั้น เมื่อมี
เหตุอันควรเชื่อไดวาหากเนิ่นชากวาจะเอาหมายคนมาได บัญชีเอกสารท่ีตองใชประกอบการลงบัญชี หรือเอกสารหรือ
หลักฐานอืน่ ท่เี กย่ี วขอ งกับความผดิ ดงั กลาวนนั้ จะถูกยกั ยา ย ซุกซอน ทําลาย หรอื ทําใหเ ปลีย่ นสภาพไปจากเดิม

มาตรา ๒๓ ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติน้ี สารวัตรใหญบัญชีและสารวัตรบัญชีตองแสดงบัตร
ประจําตัวตอ ผทู เ่ี ก่ียวของ

บัตรประจาํ ตวั ใหเปน ไปตามแบบทีอ่ ธิบดีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
[ดูประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา เรื่อง บตั รประจาํ ตัวสารวัตรใหญบัญชีและสารวัตรบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓]
มาตรา ๒๔ ในการปฏิบัติหนาท่ีตามพระราชบัญญัติน้ี ใหสารวัตรใหญบัญชีและสารวัตรบัญชีมีอํานาจส่ัง
เปน หนังสอื
(๑) ใหผูมีหนาทจ่ี ดั ทาํ บัญชี ผทู ําบัญชี หรือบุคคลทเี่ กีย่ วขอ งมาใหถ อ ยคาํ เกยี่ วกับการจดั ทาํ บัญชีหรือการ
เก็บรกั ษาบญั ชแี ละเอกสารทตี่ อ งใชประกอบการลงบัญชี
(๒) ใหผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชีหรือผูทําบัญชีสงบัญชี เอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชี หรือรหัสบัญชีมา
เพือ่ ตรวจสอบ
หนังสือทีส่ งั่ ตามวรรคหน่ึง ใหสงโดยทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับหรือใหนําสง ณ ภูมิลําเนาหรือถิ่นท่ี
อยูหรือสถานที่ประกอบธุรกิจของผูมีหนาที่จัดทําบัญชี ผูทําบัญชี หรือบุคคลที่เกี่ยวของ ถาไมพบผูรับ ณ ภูมิลําเนา
หรือถ่ินท่ีอยูหรือสถานท่ีประกอบธุรกิจของผูน้ัน จะสงใหแกบุคคลใดซึ่งบรรลุนิติภาวะแลวและอยูหรือทํางานอยูใน
บานหรอื สถานท่ีประกอบธรุ กจิ ทปี่ รากฏวาเปนของผูรบั น้นั กไ็ ด

-๘-

ในกรณีที่ไมสามารถสงตามวิธีการในวรรคสอง หรือผูมีหนาที่จัดทําบัญชี ผูทําบัญชีหรือบุคคลที่เกี่ยวของนั้น
ออกไปนอกราชอาณาจักร ใหใชวิธีปดหนังสือดังกลาวในที่ซ่ึงเห็นไดงาย ณ ที่อยูหรือสถานท่ีประกอบธุรกิจของผูน้ันหรือ
บานที่ผูนั้นมีช่ืออยูในทะเบียนตามกฎหมายวาดวยการทะเบียนราษฎร หรือโฆษณาขอความยอในหนังสือพิมพที่
จําหนายเปนปกติในทอ งทีน่ ั้นก็ได

เม่อื ไดป ฏบิ ัตติ ามวิธีการดังกลาวขางตนแลว ใหถอื วาเปนอนั ไดรับแลว
มาตรา ๒๕ หามมิใหผูใดเปดเผยขอความใด ๆ ที่ทราบหรือไดมาเน่ืองจากการปฏิบัติตามมาตรา ๒๒
หรือมาตรา ๒๔ เวน แตจ ะมีอาํ นาจท่จี ะทําไดโ ดยชอบดวยกฎหมาย
มาตรา ๒๖ ในการปฏิบัติหนาท่ี ใหสารวัตรใหญบัญชีและสารวัตรบัญชีเปนเจาพนักงานตามประมวล
กฎหมายอาญา

หมวด ๕
บทกาํ หนดโทษ

มาตรา ๒๗ ผูใดฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามประกาศของอธิบดีที่ออกตามมาตรา ๗ (๑) (๒) (๓) (๔) หรือ
(๖) ตองระวางโทษปรับไมเกินหน่ึงหม่ืนบาท กรณีท่ีฝาฝน หรือไมปฏิบัติตามประกาศของอธิบดีท่ีออกตามมาตรา ๗
(๑) (๒) (๓) หรอื (๔) ใหป รบั เปน รายวันอีกไมเ กนิ วนั ละหา รอ ยบาทจนกวาจะปฏบิ ัติใหถูกตอ ง

มาตรา ๒๘ ผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชีผูใดไมจัดใหมีการทําบัญชีตามมาตรา ๘ หรือมาตรา ๙ ตองระวางโทษ
ปรับไมเกนิ สามหมนื่ บาท และปรบั เปนรายวนั อกี ไมเ กนิ วันละหนง่ึ พันบาทจนกวาจะปฏบิ ตั ิใหถูกตอ ง

มาตรา ๒๙ ผูมีหนาที่จัดทําบัญชีผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๒ หรือมาตรา ๑๙ วรรคหน่ึง ตอง
ระวางโทษปรบั ไมเ กนิ หนง่ึ หมื่นบาท

มาตรา ๓๐ ผูมีหนาที่จัดทําบัญชีผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง ตองระวางโทษปรับไมเกิน
หา หมนื่ บาท

มาตรา ๓๑ ผูมีหนาที่จัดทําบัญชีผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๑ วรรคสาม มาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔
มาตรา ๑๕ หรือมาตรา ๑๗ ตอ งระวางโทษปรบั ไมเ กินหาพันบาท

มาตรา ๓๒ ผูมีหนาที่จัดทําบัญชีผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๑ วรรคสี่ ตองระวางโทษปรับไมเกิน
สองหมื่นบาท

มาตรา ๓๓ ผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชีผูใดแจงขอความตามมาตรา ๑๕ เปนเท็จตอสารวัตรใหญบัญชีหรือ
สารวัตรบัญชีวาบัญชีหรือเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหายตองระวางโทษจําคุกไมเกิน
หกเดือน หรือปรับไมเ กินหนึ่งหมืน่ บาท หรอื ทั้งจําทงั้ ปรบั

มาตรา ๓๔ ผใู ดไมปฏิบัตติ ามมาตรา ๒๐ ตองระวางโทษปรบั ไมเ กินหนึง่ หม่ืนบาท
มาตรา ๓๕ ผใู ดไมป ฏิบัติตามมาตรา ๒๑ ตองระวางโทษปรับไมเ กินหาพนั บาท
มาตรา ๓๖ ผูใดขัดขวางการปฏิบัติหนาที่ของสารวัตรใหญบัญชีหรือสารวัตรบัญชี ซ่ึงปฏิบัติการตาม
มาตรา ๒๒ ตองระวางโทษจําคุกไมเกนิ หนึ่งป หรอื ปรับไมเกินสองหมนื่ บาท หรอื ท้งั จาํ ท้งั ปรับ

-๙-

ผูใดไมอํานวยความสะดวกแกสารวัตรใหญบัญชีหรือสารวัตรบัญชีซึ่งปฏิบัติหนาที่ตามมาตรา ๒๒
หรือฝาฝนคาํ ส่งั ของสารวัตรใหญบัญชีหรอื สารวตั รบญั ชีซ่ึงสง่ั การตามมาตรา ๒๔ ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเกินหน่ึงเดือน
หรือปรับไมเ กินสองพันบาท หรือทัง้ จําท้งั ปรับ

มาตรา ๓๗ ผูใดฝาฝนมาตรา ๒๕ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหกเดือนหรือปรับไมเกินหนึ่งหมื่นบาท
หรือทัง้ จําท้งั ปรบั

ในกรณีท่ีผูกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเปนสารวัตรใหญบัญชี สารวัตรบัญชี หรือเจาพนักงาน ตอง
ระวางโทษจําคุกไมเ กินหน่งึ ป หรอื ปรับไมเ กนิ สองหมน่ื บาท หรอื ทัง้ จําท้ังปรับ

มาตรา ๓๘ ผูใดทําใหเสียหาย ทําลาย ซอนเรน หรือทําใหสูญหายหรือทําใหไรประโยชนซึ่งบัญชีหรือ
เอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชี ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหนึ่งปหรือปรับไมเกินสองหมื่นบาท หรือท้ังจําทั้ง
ปรับ

ในกรณีท่ีผูกระทําความผิดตามวรรคหน่ึงเปนผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชี ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสองป หรือ
ปรับไมเกนิ สห่ี มืน่ บาท หรือทัง้ จําทั้งปรับ

มาตรา ๓๙ ผูใดลงรายการเท็จ แกไข ละเวนการลงรายการในบัญชีหรืองบการเงิน หรือแกไขเอกสารที่
ตองใชประกอบการลงบัญชีเพื่อใหผิดความเปนจริง ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสองป หรือปรับไมเกินสี่หมื่นบาท หรือ
ท้ังจาํ ทง้ั ปรับ

ในกรณีทีผ่ กู ระทําความผิดตามวรรคหน่งึ เปนผูม ีหนาท่ีจดั ทาํ บัญชี ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสามป หรือ
ปรบั ไมเ กินหกหมืน่ บาท หรอื ท้งั จําทั้งปรบั

มาตรา ๔๐1* ในกรณีที่ผูกระทําความผิดเปนนิติบุคคล ถาการกระทําความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจาก
การสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผูจัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลน้ัน
หรือในกรณที ่บี คุ คลดงั กลา วมีหนาที่ตองส่ังการหรือกระทําการและละเวนไมสั่งการหรือไมกระทําการจนเปนเหตุใหนิติ
บคุ คลนน้ั กระทาํ ความผดิ ผูนน้ั ตองรับโทษตามทีบ่ ัญญตั ิไวส ําหรบั ความผดิ นนั้ ๆ ดวย

มาตรา ๔๑ บรรดาความผิดตามมาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒
มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ และมาตรา ๓๖ วรรคสอง ใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอํานาจเปรียบเทียบได และเม่ือ
ผูกระทําความผดิ ไดช ําระคาปรบั ตามที่ไดเปรยี บเทียบแลว ใหค ดีเปนอันเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
อาญา

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๔๒ บรรดากฎกระทรวง หรือประกาศที่ออกตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๒๘๕
ลงวันท่ี ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ท่ีใชบังคับอยูกอนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใชบังคับใหยังคงใชบังคับไดตอไปเทา ท่ี
ไมขดั หรือแยงกบั พระราชบัญญตั ิน้ี ทัง้ น้ี จนกวาจะไดมกี ฎกระทรวง หรือประกาศท่อี อกตามความในพระราชบัญญตั นิ ี้ใชบ ังคบั

ผูใดเปนผูทําบัญชีของผูมีหนาที่จัดทําบัญชีอยูกอนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับไมนอยกวาหาป
แตไมมีคุณสมบัติของการเปนผูทําบัญชีตามที่อธิบดีกําหนดตามมาตรา ๗ (๖) หากประสงคจะเปนผูทําบัญชีตาม

* แกไขเพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญตั ิแกไ ขเพ่มิ เตมิ บทบัญญัติแหง กฎหมายที่เก่ียวกบั ความรับผิดในทางอาญาของผูแทนนติ ิบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐

- ๑๐ -

พระราชบัญญัติน้ีตอไป ใหแจงตออธิบดีตามหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกาํ หนด ภายในหกสิบวัน
นับแตวันที่พระราชบัญญัติน้ีใชบังคับ และเม่ือผูนั้นเขารับการอบรมและสําเร็จการอบรมตามหลักเกณฑ วิธีการ และ
ระยะเวลาที่อธิบดีประกาศกําหนดแลว ใหผูนั้นเปนผูทําบัญชีตอไปไดเปนเวลาแปดปนับแตวันที่พระราชบัญญัติน้ี
ใชบังคับ

มาตรา ๔๓ ระหวางที่ยังไมม มี าตรฐานการบัญชีท่ีกฎหมายกาํ หนด ใหถือวามาตรฐานการบัญชีที่กําหนด
โดยสมาคมนักบัญชีและผูสอบบัญชีรับอนุญาตแหงประเทศไทยซึ่งคณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพ
สอบบัญชีไดม มี ติใหประกาศใชแลว เปน มาตรฐานการบญั ชตี ามพระราชบัญญัตนิ ี้

มาตรา ๔๔ ใหกิจการรวมคาตามประมวลรัษฎากรซ่ึงเริ่มตนประกอบกิจการรวมคาอยูกอนวันท่ี
พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ไมตองปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้จนกวาจะเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหมหลังจากวันท่ี
พระราชบัญญตั ินี้ใชบ งั คับแลว

มาตรา ๔๕ ใหผูมีหนาที่จัดทําบัญชีจัดใหมีผูทําบัญชีใหถูกตองตามมาตรา ๑๙ ภายในหน่ึงปนับแตวันท่ี
พระราชบัญญัติน้มี ีผลใชบ ังคบั

กําหนดระยะเวลาตามวรรคหน่ึง อธิบดีโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี จะขยายออกไปอีกตามความ
จําเปน แกก รณกี ไ็ ด ทง้ั น้ี ตองไมเ กนิ หน่งึ ป

ในระหวางระยะเวลาตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง มิใหนําบทบัญญัติมาตรา ๒๙ มาใชบังคับแก
ผูมีหนา ทจี่ ดั ทําบญั ชีทมี่ ิไดจ ดั ใหม ผี ทู าํ บญั ชีตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง

ผรู บั สนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัย
นายกรัฐมนตรี

- ๑๑ -
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยท่ีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับท่ี ๒๘๕ ลงวันที่
๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ซึ่งเปนกฎหมายวาดวยการบัญชีไดใชบังคับมาเปนเวลานาน มีหลักการเกี่ยวกับการทํา
บัญชีหลายประการที่ยังไมสอดคลองกับความกาวหนาทางการบัญชีและการจัดทําบัญชี และไมสอดคลองกับ
สถานการณทางเศรษฐกิจการคาท่ีเปล่ียนแปลงไป สมควรปรับปรุงกฎหมายวาดวยการบัญชีใหทันสมัยยิ่งขึ้น
จึงจาํ เปนตอ งตราพระราชบัญญตั ิน้ี


Click to View FlipBook Version