วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 21 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (Ministry of Industry) เป็นหน่วยงานราชการ ส่วนกลางประเภทกระทรวงของไทย มีอ�านาจหน้าที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนา อุตสาหกรรม การพัฒนาผู้ประกอบการ และราชการอื่นตามที่มีกฎหมายก�าหนด ให้เป็นอ�านาจหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือส่วนราชการที่สังกัดกระทรวง อุตสาหกรรม Ministry of Industry กระทรวงอุตสาหกรรม ประวัติกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เริ่มจากการก ่อตั้ง กอง อุตสาหกรรม ในกรมพาณิชย์ กระทรวงเศรษฐการ เมื่อ พ.ศ. 2479 ก่อนจะยกฐานะขึ้นเป็น กองอิสระรัฐพาณิชย์ ใน พ.ศ. 2480 ถัดมาเมื่อ พ.ศ. 2484 ได้มีการปรับปรุงส่วนราชการ กองเศรษฐการใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น กระทรวงเศรษฐกิจ และจัดตั้ง กรมอุตสาหกรรม สังกัดกระทรวงเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ประกาศใช้พระ ราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวงกรมจัดตั้ง“กระทรวงการ อุตสาหกรรม” โดยมีส่วนราชการในสังกัด คือ • ส�านักงานเลขานุการรัฐมนตรี • ส�านักงานปลัดกระทรวง • กรมโรงงานอุตสาหกรรม (ตั้งใหม่) • กรมโลหกิจ (โอนมาจากกระทรวงมหาดไทย) • กรมวิทยาศาสตร์(โอนมาจากกระทรวงการ เศรษฐกิจ) • กรมส ่งเสริมอุตสาหกรรม (กรมอุตสาหกรรม กระทรวงการเศรษฐกิจเดิม) กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการอุตสาหกรรม เปลี่ยน ชื่อเป็น กระทรวงอุตสาหกรรม ใน พ.ศ. 2495 โดยมีปลัดกระทรวงคนแรก ได้แก่ พ.อ.สุวรรณ เพ็ญจันทร์ ด�ารงต�าแหน่งตั้งแต่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2495 ถึง 19 กันยายน พ.ศ. 2495และ ดร.พร ศรีจามร ด�ารงต�าแหน่งเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2495เป็นปลัดคนต่อ มา ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562 นาย กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ด�ารงต�าแหน่งปลัด กระทรวงอุตสาหกรรม วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 21 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม
22 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 หน่วยงานในสังกัด ส่วนราชการ • ส�านักงานรัฐมนตรี • ส�านักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม • กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม • กรมโรงงานอุตสาหกรรม • ส�านักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม • ส�านักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม • กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ • ส�านักงานคณะกรรมการอ้อยและน�้าตาลทราย รัฐวิสาหกิจ • การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย • ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ก�ากับดูแลร่วมกับกระทรวงการคลัง) ตราสัญลักษณ์ ตราสัญลักษณ์ของกระทรวงอุตสาหกรรม คือ ตรานารายณ์เกษียรสมุทร ซึ่งน�าจากเรื่องนารายณ์สิบ ปาง ปางที่สองหรือกูรมาวตาร โดยถือเอาสัญลักษณ์ ขณะที่พระนารายณ์ทรงแสดงอิทธิฤทธิ์ประกอบพิธีกวน น�้าอมฤต ซึ่งในการกวนน�้าอมฤตนี้ ก็ได้เกิดผลิตผลอย่า งอื่นๆ ขึ้นในโลกอีกด้วย สถาบันเครือข่าย • สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ • สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม • สถาบันอาหาร • สถาบันยานยนต์ • สถาบันไทย - เยอรมัน • สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ • สถาบันรับรองมาตรฐานไอ เอส โอ • สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ • สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย •สถาบันพลาสติก • สถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย • สถาบันพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา หน่วยงานภายใต้การก�ากับดแลของรัฐมนตรี ู • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 22 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 23 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 23 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม ผู้บริหารระดับสูง กระทรวงอุตสาหกรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุชาติ ไตรแสงรุจิระ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 23 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม
24 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 วิสัยทัศน์ ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่4.0เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของไทยให้เติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ4.5 ภายใน ปี 2564 พันธกิจ • ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง และสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก • ขับเคลื่อนและพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรม (Ecosystem) เพื่อเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไทยสู่ อุตสาหกรรม 4.0 • ส่งเสริมการประกอบกิจการอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม • บูรณาการด�าเนินงานหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวงฯ เพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย ติดต่อกระทรวงอุตสาหกรรม • กระทรวงอุตสาหกรรม 75/6 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 • Tel : 0-2430-6999 • Fax : 0-2430-6991 Social Media • Facebook : กระทรวงอุตสาหกรรม • Twitter : @industryprmoi • Youtube : กระทรวงอุตสาหกรรม ค่านิยม ASIA Accountability รับผิดชอบในหน้าที่ Suggestion เสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ Integrity มีความซื่อสัตย์สุจริต Achievement Motion มุ่งผลสัมฤทธิ์ ยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเสริมสร้างศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตและเข้มแข็ง ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาปัจจัยสนับสนุนให้เอื้อต่อการลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรม ยุทธศาสตร์ที่ 3 การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาสมรรถนะองค์กรเพื่อให้บริการอย่างมีคุณภาพ 24 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 31 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม กรมอนามัย ใช้ 4 มาตรการหลัก ยกระดับคุมความปลอดภัยโรงงาน ป้องกันโควิด-19 กรมอนามัย กระทรวง สาธารณสุข ยกระดับ 4 มาตรการ หลัก “มาตรการด้านการป้องกัน โรค มาตรการด้านอนามัยสิ่ง แวดล้อม มาตรการเสริมส�าหรับ โรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ และมาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้อ” ดูแลสถานประกอบกิจการประเภท โรงงาน ป้องกันการแพร่ระบาดโค วิด-19 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดี กรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 ในกลุ ่มโรงงานอุตสาหกรรม กรม อนามัยได้ร่วมกับกระทรวงแรงงาน สภาอุตสาหกรรม และกระทรวงมหาดไทย ดูแลในเรื่องการป้องกันความ เสี่ยงร่วม โดยสื่อสารให้สถานประกอบกิจการประเภท โรงงานปฏิบัติตามแนวทางทางการป้องกันโรค Good Factory practice (GFP) ด้วยการประเมินตนเองผ่าน แพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus ซึ่งมีมาตรการหลัก 14 ข้อ แบ่งเป็นด้านการป้องกันโรค 8 ข้อ ด้านอนามัยสิ่ง แวดล้อม 6 ข้อ และเมื่อประเมินแล้วจะส่งข้อมูลกลับมา บนฐานข้อมูลออนไลน์หากโรงงานไหนประเมินไม่ผ่าน จะต้องมีการปรับปรุง นอกจากนี้จะมีการประเมินแบบ On site โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัดจะเข้าไป สุ่มประเมิน โดยก�าหนดให้ทุกจังหวัดต้องมีการประเมิน โรงงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 – 20 ซึ่งสถานประกอบ กิจการประเภทโรงงานที่มีคนงานคนไทยและแรงงาน ต่างด้าวเป็นจ�านวนมาก จะมีความเสี่ยงมากเป็นอันดับ ต้น ๆ ขอให้สถานประกอบกิจการประเภทโรงงานขนาด ใหญ่ประเมินตนเองให้เสร็จภายในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ แต่หากมีมาตรการที่ไม่ผ่าน ต้องด�าเนินการปรับปรุงแก้ไข ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน เพื่อที่ส�านักงาน อุตสาหกรรมจังหวัด ส�านักงานแรงงานจังหวัด และ ส�านักงานสาธารณสุขจังหวัด จะด�าเนินการสุ่มตรวจ โดยกรมอนามัยได้ท�าหนังสือส่งถึงผู้ประกอบการให้ เข้าไปประเมินตนเองและขอให้ประเมินตามความเป็น จริง เพื่อเป็นประโยชน์ในการป้องกันโรคและแก้ไขจุด เสี่ยงต่อไป นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ส�าหรับ การยกระดับคุมเข้มการระบาดของโรคโควิด-19 ใน สถานประกอบกิจการประเภทโรงงาน กรมอนามัยได้ ก�าหนด 4 มาตรการหลัก คือ 1) มาตรการด้านการ ป้องกันโรค มีการคัดกรองวัดอุณหภูมิสวมหน้ากาก ผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดให้มีที่ล้างมือ พร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการ ลดความแออัด การเว้นระยะห่าง ติดตามข้อมูลของผู้ปฏิบัติงาน จัด ให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการ รวมถึงการให้ผู้ที่อยู่ในโรงงานปฏิบัติตามมาตรการ 2) มาตรการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ท�าความสะอาดพื้น ผิวสัมผัส การจัดการขยะมูลฝอย จัดให้มีการระบาย อากาศที่เหมาะสม หอพักส�าหรับผู้ปฏิบัติงานต้อง สะอาด ไม่แออัด และหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม หากมีรถ รับ-ส่ง ต้องมีการท�าความสะอาด ส�าหรับการจ�าหน่าย อาหารและเครื่องดื่มในโรงอาหาร โดยก�าหนดเส้น ทางการเดิน จุดนั่ง เดิน ยืน หรือที่พักรอให้ชัดเจน แยก ส�ารับอาหาร แล้วไม่ใช้แก้วน�้า จาน ชาม ร่วมกัน
32 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ยังต้องมี การเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยมีการยก ระดับ 4 มาตรการหลัก เพื่อดูแลความ ปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน นายแพทย์สุวรรณชัยวัฒนา ยิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิด เผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ ่ม โรงงานอุตสาหกรรม กรมอนามัย ได้ร ่วมกับกระทรวงแรงงาน สภา อุต ส าห ก ร รม และกระทรวง มหาดไทย ดูแลในเรื่องการป้องกัน ความเสี่ยงร่วม โดยสื่อสารให้สถาน ประกอบกิจการประเภทโรงงาน ปฏิบัติตามแนวทางทางการป้องกัน โรค Good Factory practice (GFP) ด้วยการประเมินตนเองผ่าน แพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus ซึ่งมีมาตรการหลัก 14 ข้อ แบ่ง เป็นด้านการป้องกันโรค 8 ข้อ ด้าน อนามัยสิ่งแวดล้อม 6 ข้อ และเมื่อ ประเมินแล้วจะส่งข้อมูลกลับมาบน ฐานข้อมูลออนไลน์หากโรงงานไหน ประเมินไม่ผ่านจะต้องมีการปรับปรุง นอกจากนี้จะมีการประเมิน แบบ On site โดยหน ่วยงานที่ เกี่ยวข้องระดับจังหวัดจะเข้าไปสุ่ม ประเมิน โดยก�าหนดให้ทุกจังหวัด ต้องมีการประเมินโรงงานไม ่น้อย กว่าร้อยละ 10 – 20 ซึ่งสถาน ประกอบกิจการประเภทโรงงานที่มี คนงานคนไทยและแรงงานต่างด้าว เป็นจ�านวนมาก จะมีความเสี่ยงมาก เป็นอันดับต้น ๆ ขอให้สถานประกอบ กิจการประเภทโรงงานขนาดใหญ ่ ประเมินตนเองให้เสร็จภายในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ “3) มาตรการเสริมส�าหรับโรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ ต้องมีกลไกการจัดการและแผน เมื่อเกิดเหตุกรณีพบพนักงานติดเชื้อ ต้องมีการซักซ้อมแผน หากมีแรงงานต่างด้าวต้องด�าเนินการให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย และส�าหรับโรงงานขนาดใหญ่ต้องเข้มเรื่องการคัดกรองผู้ ปฏิบัติงานและผู้มาติดต่อโดยใช้ระบบประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์“ไทย เซฟไทย” ก่อนเข้าปฏิบัติงาน เพื่อประเมินความเสี่ยงรายบุคคล กรณีมีรถ รับ-ส่งให้พนักงานสวมหน้ากากตลอดเวลาเว้นระยะห่างวัดอุณหภูมิก่อน ขึ้นรถ และเช็ดฆ่าเชื้อรถหลังใช้งาน ท�าความสะอาดฆ่าเชื้อในพื้นที่ส่วน กลาง และจุดสัมผัสร่วมให้เปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติ เช่น ประตู ก๊อกน�้า เป็นต้น และ 4) มาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้อ ให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อในพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมงเพื่อให้เจ้าหน้าที่สั่งการและค�าแนะน�า หลังจากนั้นให้พิจารณาปิดพื้นที่หรือสถานที่และท�าความสะอาดพื้นผิว ทันที ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้ส่งตรวจเชื้อและกักตนเองทันที ส่วนผู้เสี่ยง ต�่าให้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ถ้ามีผู้ติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 10 ให้ใช้ Bubbleand seal เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และให้กระบวนการ ผลิตสามารถด�าเนินการต่อไปได้” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด ข้อมูล / ภาพประกอบ : pr.moph.go.th 32 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 33 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม ยกระดับคุมความปลอดภัยโรงงาน ป้องกันโควิด-19 แต ่หากมีมาตรการที่ไม ่ผ ่าน ต้องด�าเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน เพื่อที่ส�านักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ส�านักงานแรงงานจังหวัด และส�านักงานสาธารณสุขจังหวัด จะด�าเนิน การสุ่มตรวจโดยกรมอนามัยได้ท�าหนังสือส่งถึงผู้ประกอบการให้เข้าไป ประเมินตนเอง และขอให้ประเมินตามความเป็นจริง เพื่อเป็นประโยชน์ใน การป้องกันโรคและแก้ไขจุดเสี่ยงต่อไป นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ส�าหรับการยกระดับคุมเข้ม การระบาดของโรคโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการประเภทโรงงาน กรม อนามัยได้ก�าหนด 4 มาตรการหลัก คือ 1) มาตรการด้านการป้องกันโรค มี การคัดกรองวัดอุณหภูมิสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการ ลดความแออัด การเว้นระยะห่าง ติดตามข้อมูลของผู้ปฏิบัติงาน จัดให้มีที่ล้างมือพร้อม สบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการรวมถึงการให้ผู้ที่อยู่ในโรงงานปฏิบัติตาม มาตรการ 2) มาตรการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ท�าความสะอาดพื้นผิวสัมผัส การจัดการขยะมูลฝอย จัดให้มีการระบายอากาศที่เหมาะสม หอพักส�าหรับ ผู้ปฏิบัติงานต้องสะอาด ไม่แออัด และหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม หากมีรถรับส่ง ต้องมีการท�าความสะอาด ส�าหรับการจ�าหน่ายอาหารและเครื่องดื่มใน โรงอาหารโดยก�าหนดเส้นทางการเดิน จุดนั่งเดิน ยืน หรือที่พักรอให้ชัดเจน แยกส�ารับอาหาร แล้วไม่ใช้แก้วน�้า จาน ชาม ร่วมกัน 3) มาตรการเสริมส�าหรับโรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ ต้อง มีกลไกการจัดการและแผน เมื่อเกิด เหตุกรณีพบพนักงานติดเชื้อต้อง มีการซักซ้อมแผน หากมีแรงงาน ต ่างด้าวต้องด�าเนินการให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย และส�าหรับโรงงาน ขนาดใหญ่ต้องเข้มเรื่องการคัดกรอง ผู้ปฏิบัติงานและผู้มาติดต่อ โดยใช้ ระบบประเมินตนเองผ ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” ก่อนเข้าปฏิบัติงาน เพื่อประเมินความเสี่ยงรายบุคคล กรณีมีรถรับ-ส ่ง ให้พนักงานสวม หน้ากากตลอดเวลาเว้นระยะห่างวัด อุณหภูมิก่อนขึ้นรถ และเช็ดฆ่าเชื้อ รถหลังใช้งาน ท�าความสะอาดฆ่า เชื้อในพื้นที่ส่วนกลาง และจุดสัมผัส ร ่วมให้เปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติ เช่น ประตู ก๊อกน�้า เป็นต้น และ 4) มาตรการเมื่อพบผู้ ติดเชื้อ ให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อในพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สั่งการและค�าแนะน�า หลังจากนั้นให้พิจารณาปิดพื้นที่ หรือสถานที่และท�าความสะอาดพื้น ผิวทันทีส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้ส่ง ตรวจเชื้อและกักตนเองทันทีส่วนผู้ เสี่ยงต�่าให้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ ชิด ถ้ามีผู้ติดเชื้อมากกว ่าร้อยละ 10 ให้ใช้Bubble and seal เพื่อ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และ ให้กระบวนการผลิตสามารถด�าเนิน การต่อไปได้ ข้อมูล / ภาพประกอบ : thaihealth.or.th / pexels.com ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม
34 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564
34 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 SME มีเฮ! ก.อุตสาหกรรม ขยายเวลา พักช�าระหนี้ต่อ ถึงสิ้นปี’64 นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ใน ฐานะประธานคณะกรรมการกองทุน พัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโค วิด-19 ระลอกใหม ่นี้ได้เข้ามาซ�้า เติมผลกระทบจากสถานการณ์ใน รอบแรกที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SME) ส่วนใหญ่ของประเทศ ยัง ไม่สามารถพลิกฟื้นธุรกิจให้กลับสู่ ภาวะปกติได้และสร้างความยาก ล�าบากในการด�าเนินธุรกิจมากยิ่ง ขึ้นกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนว ประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม เล็ง เห็นถึงสถานการณ์ดังกล ่าวจึงได้ ออกมาตรการช ่วยเหลือเอสเอ็มอี ที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อของกองทุนฯ ที่ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัย แล้งและสถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา(COVID19)ไป แล้ว 2 ครั้งด้วยการพักช�าระหนี้และ ให้บริการความช่วยเหลือผู้ประกอบ กระทรวงอุตสาหกรรม ออก มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ฝ่าวิกฤต COVID-19 ระลอกใหม่ ผ่านกองทุน พัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ โดย การพักช�าระหนี้เงินต้นสูงสุด ไม่เกิน 6 เดือนและไม่เกินสิ้นปี 2564 ผ่าน SME D BANK เริ่มตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2564
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 35 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 35 การเอสเอ็มอีในเรื่องการตลาด การ เงิน และระบบบัญชีตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2563 โดยมีผู้เข้าร่วมใน โครงการดังกล ่าว จ�านวนทั้งสิ้น 3,300 ราย แต ่เนื่องจากสถานการณ์ ของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยัง คงส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และการด�าเนินธุรกิจของเอสเอ็มอี อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการ บรรเทาภาระการช�าระหนี้ของลูก หนี้ให้มีสภาพคล ่อง และสามารถ ด�าเนินธุรกิจต่อไปได้ในช่วงภาววะ วิกฤต รวมทั้งยังเป็นการลดแนว โน้มการเป็นหนี้ที่ไม ่ก ่อให้เกิดราย ได้(NPLs) คณะกรรมการบริหาร กองทุนฯ จึงมีมติในคราวประชุม เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 เห็น ชอบมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ เป็นลูกหนี้สินเชื่อของกองทุนฯ ที่ยัง ไม่ด้อยคุณภาพ (Non NPL) หรือ ไม่อยู่ในระหว่างที่ถูกกองทุนด�าเนิน คดี ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้สามารถยื่น ความประสงค์ขอพักช�าระหนี้เงิน ต้นกับทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมแห่ง ประเทศไทย (SME D Bank) โดย สามารถพักช�าระหนี้ได้สูงสุด ไม่เกิน 6 เดือน และไม่เกินวันที่31ธันวาคม 2564 “จากภาระที่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีก�าลังเผชิญอยู ่ในขณะนี้ ทางกองทุนฯมองเห็นความพยายาม ช่วยเหลือตัวเองอย่างสุดก�าลังของผู้ ประกอบการเอสเอ็มอีมาโดยตลอด จึงต้องการเป็นอีกพลังช่วยสนับสนุน ให้เอสเอ็มอีสามารถก้าวผ่านวิกฤต ไปได้อีกครั้ง โดยออกมาตรการช่วย เหลือระยะที่ 3 นี้ เป็นมาตรการต่อ เนื่องจากการให้ความช ่วยเหลือ ก่อนหน้า ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยบรรเทา ความเดือดร้อนให้กับเอสเอ็มอี โดย เฉพาะรายเล็กที่ประสบปัญหาจาก การขายสินค้าหรือการให้บริการใน สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา (COVID19) และคาดว่าจะ ช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงานได้ไป จนถึงสิ้นปีนี้” นายกอบชัยฯ กล่าว ทั้ งนี้ ลูกหนี้ สินเชื่ อของ กองทุนฯ สามารถแจ้ งความ ประสงค์ ขอเข้ าร่ วมมาตรการ พักช�าระเงินต้ น พร้ อมขอรั บ ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม พั ฒ น า ใ น ด้ า น ต่างๆ อาทิ การตลาด การผลิต การเงินและบัญชี ได้ที่ SME D BANK ทุกสาขาทั่ วประเทศใน เขตพื้ นทีที่สถานประกอบการตั่ ้ ง อย่ ได้ตัูงแต่วันที้ ่ วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 และสอบถามรายละเอียดเพิ่ ม เติมได้ที่ Call Center โทร 1357 น อ ก จ า ก นี้ กระทรวง อุตสาหกรรม ยังมอบหมายให้ SME D Bank ในฐานะหน่วยงาน ร่วมด�าเนินโครงการสินเชื่อกองทุน พัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ออกมาตรการพักช�าระหนี้เงินต้นให้ แก ่ลูกค้าของกองทุนพัฒนาเอสเอ็ มอีตามแนวประชารัฐ ประกอบด้วย สินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตาม วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 35
36 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 แนวประชารัฐ วงเงิน 10,000 ล้านบาท สินเชื่อกองทุนคนตัวเล็ก วงเงิน 8,000 ล้านบาท และสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน วงเงิน 3,000 ล้านบาท ด้วยการให้สิทธิสามารถขอพักช�าระหนี้เงินต้นได้สูงสุด 6 เดือน ภายในไม่ เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยให้เริ่มพักช�าระหนี้เงินต้น ตั้งแต่งวดถัด จากที่ได้รับอนุมัติหรืองวดถัดจากที่ครบก�าหนดเข้าร่วมมาตรการเดิม โดย ก�าหนดคุณสมบัติต้องเป็นลูกค้าที่มีสถานะไม่เป็นNPLs ณ วันที่ 1 มีนาคม2564 ส�าหรับลูกค้ากองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ที่ต้องการ เข้ารับมาตรการพักช�าระหนี้เงินต้น สามารถแจ้งความประสงค์ได้ ณ สาขา ของ SME D Bank ที่ท่านใช้บริการ หรือในพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึง 31 กรกฎาคม 2564 นี้ ทั้งนี้ การลดภาระค่าใช้จ่าย จะท�าให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่อง ทางการเงินมากยิ่งขึ้น ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนไปได้ส่วนหนึ่ง และหาก ต้องการสินเชื่อไปเพิ่มสภาพคล่องมากยิ่งขึ้น SME D Bank ได้จัดเตรียม สินเชื่อพิเศษต่างๆ ไว้รองรับ เช่น สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash ซึ่งเปิดกว้าง ส�าหรับทุกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและ นิติบุคคล วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาท ต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3%ต่อ ปีใน 2 ปีแรก ระยะผ่อนนานสูงสุด 5 ปี ปลอดช�าระคืนเงินต้นสูงสุด 12 เดือน ที่ส�าคัญ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ ค�้าประกัน สามารถยื่นกู้ได้ถึง 30 มิถุนายน 2564 นี้ และสินเชื่อเพื่อยก ระดับเศรษฐกิจชุมชน อัตราดอกเบี้ย นิติบุคคล 2.875% ต่อปี นาน 3 ปี แรก วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท และ บุคคลธรรมดา 4.875% ต่อปีนาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท ผ่อน นานสูงสุด 7 ปีสามารถยื่นกู้ได้ถึง18 ธันวาคม 2564 นี้ เป็นต้น ข้อมูล / ภาพประกอบ : thaigov.go.th / Facebook : กระทรวงอุตสาหกรรม
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 37 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม BCG Model ของกระทรวงอุตสาหกรรม การขับเคลื่อน BCG Model ของ กระทรวงอุตสาหกรรม แนวทางการขับเคลื่อนBCG Model ของกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นกา รส ร้างความยั่งยืนทาง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม เป้าหมายการขับเคลื่อน 1. สร้างความมั่งคั่งทาง เศรษฐกิจ เพิ่มอัตราการเติบโตทาง เศรษฐกิจ สร้างงาน และยกระดับ รายได้ของประชากร 2.สร้างความมั่นคงทาง สังคม สร้างความมั่งคงทางอาหาร สุขภาพ และพลังงานในทุกระดับ เพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิต 3.สร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดของเสียและมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม 4.ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs 14 ใน 17 เป้าหมาย BCG Model ของกระทรวงอุตสาหกรรม ระบบเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ จากทรัพยากรชีวภาพอย ่างคุ้มค ่า เพิ่มผลิตภาพ และสร้างมูลค ่าเพิ่ม อุตสาหกรรมเป้าหมาย เกษตร อาหาร ยาและการแพทย์ พลังงานชีวภาพ เคมีชีวภาพ พลาสติกชีวภาพโดยคาดว่าจะมีเป้าหมายการขับเคลื่อน ปี 2565-2569 มีอัตราการเติบโตอุตสาหกรรมชีวภาพเพิ่มขึ้น...% คิดเป็น มูลค่าการลงทุนอุตสาหกรรมชีวภาพเพิ่มขึ้น...ล้านบาท กลไกการขับเคลื่อน Bio Economy • การวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม จาก Center of Bio Excellence : CoBE • เงินทุน สิทธิประโยชน์และรางวัล ได้รางวัล Prime Minister’s Award ด้านการเพิ่มผลผลิตและด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์
38 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 • การพัฒนาก�าลังคนและความสามารถจากCenterofBioExcellence • บ่มเพาะ สร้างและยกระดับผู้ประกอบการและรูปแบบธุรกิจใหม่ จาก EECi Biopolis , Bio Complex , CIV หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ -มาตรฐาน กฎหมาย กฎระเบียบที่เอื้อต่อการพัฒนา BCG มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ , พ.ร.บ.อ้อยและน�้าตาล , เพิ่มบัญชีประเภทอุตสาหกรรม เคมีชีวภาพ , มาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกย่อย สลายได้ทางชีวภาพ • การสร้างและพัฒนาตลาด ด้วย i-mall แพลตฟอร์มตลาด อุตสาหกรรมออนไลน์ ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มุ่งเน้นการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดลดการใช้ ทรัพยากรที่มีจ�ากัด และลดของเสีย อุตสาหกรรมเป้าหมาย พลาสติก ยาง รถยนต์ วัสดุก่อสร้าง เหล็กและโลหะอื่นๆ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เซลล์แสง อาทิตย์ แบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า โดยคาดว่าจะมีเป้าหมายการขับเคลื่อน • ปี2565 มีIndustrial Symbiosis 5 พื้นที่อุตสาหกรรม มีกาก อุตสาหกรรมเข้าสู่ระบบ 100% • ปี 2567 มีIndustrial Symbiosis 10 พื้นที่อุตสาหกรรม การน�า ขยะไปใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น...%ต่อปี • ปี 2569 มีIndustrial Symbiosis 15 พื้นที่อุตสาหกรรม โรงงาน... %เป็น Zero Waste กลไกการขับเคลื่อน Circular Economy • การวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม จาก ITC : ศูนย์วิจัยและ พัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล • เงินทุน สิทธิประโยชน์และรางวัล ได้รับ Prime Minister’s Award ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน และ Certified Zero Waste to Landfill • การพัฒนาก�าลังคนและความสามารถ จากCEPAS , e-learning • บ่มเพาะ สร้าง และยกระดับผู้ประกอบการและรูปแบบธุรกิจ ใหม่ จากวิสาหกิจชุมชนคัดแยกขยะ และการยกระดับการจัดการกาก อุตสาหกรรม • มาตรฐาน กฎหมาย กฎระเบียบที่เอื้อต ่อการพัฒนา BCG มาตรฐานเศรษฐหมุนเวียน (มตช.2/2562) , พ.ร.บ.โรงงาน (กาก อุตสาหกรรม) • การสร้างและพัฒนาตลาด ด้วย i-mall แพลตฟอร์มตลาด อุตสาหกรรมออนไลน์ ระบบเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาที่สมดุลทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมเป้า หมาย ทุกอุตสาหกรรม โดยคาดว่า จะมีเป้าหมายการขับเคลื่อน • ปี2565 50% Green Industry ลดการปล ่อยก๊าซเรือน กระจก...ตัน CO2เทียบเท่า • ปี2567 75% Green Industry ลดการปล ่อยก๊าซเรือน กระจก...ตัน CO2เทียบเท่า • ปี2569 100% Green Industry ลดการปล ่อยก๊าซเรือน กระจก...ตัน CO2เทียบเท่า กลไกการขับเคลื่อน Green Economy • การวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม จาก Smart Factory -เงินทุน สิทธิประโยชน์และรางวัล ได้ รับ Prime Minister’s Award ด้าน การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ด้าน ความรับผิดต ่อสังคม ด้านบริหาร ความปลอดภัย และสิทธิประโยชน์ ผู้ได้รับ GI 4-5 • การพัฒนาก�าลังคนและ ความสามารถ จาก Third Party การ พัฒนาบุคลากรภาครัฐ/เอกชน และ การสร้างเครือข่ายภาคประชาชน -บ่มเพาะ สร้าง และยกระดับผู้ ประกอบการและรูปแบบธุรกิจใหม่ จากGreen Industry , Eco-industrial Estate/Town , CSR-DIW , CSR-DPIM • มาตรฐาน กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เอื้อต่อการพัฒนา BCG มาตรฐานผลิตภัณฑ์ , มาตรฐาน ระบบ , พ.ร.บ.โรงงาน • การสร้างและพัฒนา ตลาด ด้วยi-mallแพลตฟอร์มตลาด อุตสาหกรรมออนไลน์ ข้อมูล / ภาพประกอบ : industry.go.th
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 39 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม
40 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 ข่าวแวดวงอุตสาหกรรม ก.อุตสาหกรรมเผยดัชนีอุตสาหกรรม มี.ค. 64 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 29 เดือน ร้อยละ 4.12 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นายสุริยะจึงรุ่งเรืองกิจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม(อก.) เผยว่า สถานการณ์ภาคการผลิตอุตสาหกรรมเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ส่งผล ให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมีนาคม 2564 อยู่ที่ระดับ 107.73 เพิ่มขึ้นร้อยละ4.12เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน กลับมาเป็นบวก และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 29 เดือน (ต.ค. 61 – ก.พ. 64) โดยมี อัตราการใช้ก�าลังการผลิตอยู่ที่ระดับร้อยละ69.59 สะท้อนให้เห็นแนวโน้ม ภาคการผลิตของประเทศเติบโตตามเศรษฐกิจของโลกที่ดีขึ้น รวมถึงรัฐบาล ไม่ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์และกลุ่มแพร่ระบาดไม่ได้อยู่ในกลุ่มแรงงาน โรงงาน ดังนั้น ภาคการผลิตอุตสาหกรรมยังคงประกอบกิจการได้อย่างต่อ เนื่อง ประกอบกับรัฐบาลยังคงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการเราชนะ เรารักกัน คนละครึ่งเฟส 3 เป็นต้น และประเทศไทย เริ่มทยอยฉีดวัคซีนให้ประชาชนและมีแผนบริหารจัดการวัคซีนให้ครอบคลุม ทั่วประเทศภายในสิ้นปี2564 ท�าให้ความเชื่อมั่นทั้งในภาคการผลิตและการ บริโภคดีขึ้น ก ระท ร ว งอุตส าหก ร รม (อก.) เผยการผลิตในอุตสาหกรรม หลักปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ภาพรวม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมีนาคม 2564 มีระดับอยู ่ที่ 107.73 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.12 เมื่อ เทียบกับ เดือนเดียวกันของปีก ่อน เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 29 เดือน (ต.ค. 61 – ก.พ. 64) หลังจาก ที่ภาค การผลิตได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์สงครามการค้าระหว่าง จีนและสหรัฐอเมริกา และการแพร่ ระบาดโควิด-19โดยอัตราการใช้ก�าลัง การผลิตเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน (ร้อยละ 69.59) เป็นผลจากมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจของภาครัฐและความคืบ หน้าของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งใน และต่างประเทศ ท�าให้เกิดความเชื่อมั่น ของผู้ผลิตและผู้บริโภค ส่งผลให้การ ส ่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไม ่รวม ทองค�าและรายการพิเศษเดือนมีนาคม 2564ขยายตัวร้อยละ25.77เป็นการ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และ เป็นการขยายตัวระดับ 2 หลักในรอบ 31 เดือน ซึ่งจากการกลับมาขยายตัว ของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมนี้ ท�าให้ ในไตรมาสที่ 1/2564 ดัชนีผลผลิต อุตสาหกรรมขยายตัวที่ร้อยละ 0.25
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 41 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม ข้อมูล / ภาพประกอบ : industry.go.th วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 41 นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้ อ�านวยการส�านักงานเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมส�าคัญที่ส ่งให้MPI ขยายตัว ได้แก่ อุตสาหกรรมยาน ยนต์ที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ7.53 จากการผลิตที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ ทุกประเภทตามความต้องการทั้ง จากในประเทศและการส ่งออกที่ ขยายตัว ในกลุ่มประเทศเอเชีย โอ เชียเนีย และยุโรป และอุตสาหกรรม เหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐานมี การผลิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 19.19 เนื่องจากเร ่งผลิตเพื่อท�าก�าไรใน ช ่วงที่ราคาเหล็กในตลาดโลกเพิ่ม สูงขึ้นร้อยละ 40-60 และการปรับ ตัวของอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เพิ่ม ขึ้น นายทองชัยกล่าวต่อว่า มูลค่า การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่ รวมทองค�าและรายการพิเศษ)ขยาย ตัวร้อยละ 25.77 ขยายตัวระดับ 2 หลักครั้งแรกในรอบ 31 เดือน อีก ทั้งมีการน�าเข้าสินค้าวัตถุดิบและ กึ่งส�าเร็จรูป ขยายตัวร้อยละ 26.45 สินค้าที่มีการน�าเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ส่วนประกอบเครื่องใช้ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เป็นต้น โดยในภาคการผลิตอุตสาหกรรมมี แนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากการน�าเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่ง ส�าเร็จรูปที่เพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ภาคการผลิตในเดือนถัดไปจะมีแนว โน้มเพิ่มขึ้น ส�าหรับอุตสาหกรรมหลัก ที่มีดัชนีผลผลิตขยายตัวในเดือน มีนาคม 2564 เมื่อเทียบกับช ่วง เดียวกันของปีก่อน ได้แก่ รถยนต์ และเครื่องยนต์ขยายตัวเพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.53 จากรถบรรทุกปิคอัพรถยนต์ นั่งขนาดเล็ก และเครื่องยนต์ดีเซล เนื่องจากความต้องการในประเทศ ที่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 มีการจัดงานมอเตอร์โชว์และการส่ง ออกที่ขยายตัวในกลุ่มประเทศเอเชีย โอเชียเนีย และยุโรป เหล็กและเหล็กกล้าขั้น มูลฐาน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช ่วง เดียวกันของปีก ่อนร้อยละ 19.19 จากเหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กเคลือบ สังกะสีเหล็กลวด เหล็กรูปพรรณ รีดร้อน และเหล็กเส้นกลม เป็นหลัก โดยได้รับอานิสงส์จากปริมาณเหล็ก ในตลาดโลกลดลง ท�าให้ราคาเหล็ก โลกปรับตัวสูงขึ้น ผู้ผลิตจึงมีการเร่ง ผลิตเพื่อท�าก�าไรในช่วงที่ยังมีภาวะ ขาดแคลนสินค้า น�้าตาล ขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ26.89 เนื่องจากปีนี้โรงงานปิดหีบช้ากว่าปี ก่อน และผลผลิตอ้อยสดมีคุณภาพ สามารถหีบสกัดเป็นน�้าตาลได้สูง กว่าปีก่อน เฟอร์นิเจอร์ขยายตัวเพิ่ม ขึ้นจากช ่วงเดียวกันของปีก ่อน ร้อยละ 42.76 จากเครื่องเรือนท�า ด้วยไม้เนื่องจากมีค�าสั่งซื้อจาก สหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง อาหารสัตว์ส�าเร็จรูป ขยาย ตัวเพิ่มขึ้นจากช ่วงเดียวกันของปี ก่อนร้อยละ 15.48 จากการขยาย ตลาดของกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงและ สุกร โดยเฉพาะค�าสั่งซื้ออาหารแมว จากสหรัฐอเมริกาที่มีเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง นอกจากนี้ผู้ผลิตยังได้ขยาย ตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ บริโภคที่ใช้ชีวิตตามวิถีใหม่ วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 41 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม
42 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 เร่งสกัดโควิดลามโรงงาน “กระทรวงอุตสาหกรรม” สั่ง 6.4 พันแห่ง ประเมินผ่านออนไลน์ก่อนสิ้น มิ.ย. กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งเดินหน้าสกัดโควิดลามโรงงาน ขอความร่วมมือโรงงานตรวจประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ก่อนสิ้นเดือนมิถุนายน นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิด เผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ส่ง หนังสือด่วนที่สุดแจ้งไปยังผู้ประกอบ การ และให้หน ่วยงานในสังกัดทั้ง สามติดตามการด�าเนินการของ สถานประกอบการ ซึ่งตั้งเป้าหมาย ส�าหรับโรงงานขนาดใหญ่ คนงาน ตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป (จ�านวน 3,304 โรง) ต้องท�าการประเมินตนเองผ่าน แพลตฟอร์ม Thai Stop Covid Plus และ Thai Save Thai ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2564 และ โรงงานทั้งหมด (ประมาณ 64,000 โรง) ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ซึ่งขณะนี้มีโรงงานเข้าสู่ระบบท�าการ ประเมินแล้วประมาณ 20% เท่านั้น หากโรงงานใดไม ่ให้ความร ่วมมือ อาจจะมีการพิจารณาบทลงโทษต่อ ไป ซึ่งอยู่ระหว่างประชุมหารือ ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมาย จากที่ประชุมศูนย์ ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้เป็น เจ้าภาพหลักขับเคลื่อนมาตรการ ป้องกันและควบคุมการแพร่กระจาย ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสถาน ประกอบกิจการโรงงาน ด้วยการ ประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือ โรงงานกว่า 60,000 โรงทั่วประเทศ ด�าเนินการตามมาตรการป้องกัน และควบคุมการแพร ่กระจายเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (Covid-19) ในสถานประกอบ กิจการโรงงาน (Good Factory Practice : GFP) ของสาธารณสุข โดยประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม ออนไลน์Thai Stop Covid Plus ทุกสองสัปดาห์และให้พนักงาน ประเมินด้วย Thai Save Thai ก่อน เข้าปฏิบัติงาน ตั้งเป้าให้โรงงานทุก แห่งด�าเนินการภายใน 30 มิถุนายน นี้ “ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่ม ก้อนในแรงงานภาคอุตสาหกรรม ท�าให้ต้องหยุดประกอบกิจการ ส่ง ผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบ กิจการโรงงาน และเศรษฐกิจใน ภาพรวมของประเทศ โดยได้มี การสั่งการเร่งด่วนให้ อธิบดีกรม โรงงานอุตสาหกรรม ผู้ว่าการการ นิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และอุตสาหกรรมจังหวัดทุก จังหวัด แจ้งขอความร่วมมือสถาน ประกอบการ ด�าเนินการประเมิน ตนเองตามแนวทางของกระทรวง สาธารณสุข โดยใช้แพลตฟอร์ม ออนไลน์ที่กรมอนามัย กระทรวง สาธารณสุขได้พัฒนาขึ้น ได้แก่ Thai Stop Covid Plus ซึ่งเป็นข้อแนะน�า ทางด้านสาธารณสุข ในการป้ องกัน การแพร่ระบาดฯ ประกอบด้วย มาตรการ/แนวทางปฏิบัติส�าหรับ ผู้ประกอบการ ผู้ปฏิบัติงาน และ แนวทางการปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อ ซึ่งผู้ประกอบการต้องประเมินตนเอง อย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์ ในส่วนของ พนักงานทุกคน ต้องประเมินตนเอง โดยใช้แพลตฟอร์ม Thai Save Thai ซึ่งยกระดับ การคัดกรองคนก่อน เข้าโรงงานอย่างเข้มงวด เพื่อป้ องกัน ผู้มีความเสี่ยงไม่ให้เข้ามาปฏิบัติงาน 42 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 43 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 43 และแพร่เชื้อ ในสถานประกอบการ รวมทั้งการสนับสนุน ให้พนักงาน สมัครใจเข้าร่วมโครงการ ก้าวท้าใจ ด้วยการ ออกก�าลังกาย ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง และมีภูมิต้านทานโรค” นายเดชา จาตุธนานันนท์ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าศูนย์บริหาร สถานการณ์วิกฤต กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ระบบดังกล่าวจะเป็นเช็กลิสต์ข้อแนะน�าออนไลน์เพื่อให้ ผู้ประกอบการและพนักงานทุกคนประเมินและจัดการ ความเสี่ยงโรงงานจะได้เรียนรู้วิธีการป้องกันการระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การจัดการอนามัย สิ่งแวดล้อม และมาตรการเสริมอื่น ๆ รวมทั้งข้อแนะน�า หากพบผู้ติดเชื้อต้องท�าอย่างไร ตลอดจนค�าแนะน�าใน การกักตัว เพื่อท�าให้ทราบว่ามาตรการที่ด�าเนินการอยู่ ของแต่ละโรงงาน ผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของ สาธารณสุข ประโยชน์ที่ผู้ประกอบการจะได้รับ คือ การปรับตัวสู่การท�างานวิถีใหม่ (New Normal) เพื่อให้ โรงงาน ปลอดโควิด พนักงานปลอดภัย ขณะที่ภาครัฐ เองก็มีข้อมูลในการก�ากับดูแล (Monitor) ซึ่งหน่วยงาน ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จะแลกเปลี่ยนข้อมูลและใช้ประโยชน์ ในข้อมูลร ่วมกัน ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวง อุตสาหกรรม และกระทรวงแรงงาน ส�าหรับโรงงานที่ประเมินผ่านแฟลตฟอร์ม Thai Stop Covid Plusแล้ว มีคะแนนต�่ากว่าเกณฑ์ที่ก�าหนด จะมี ทีมตรวจประเมินของรัฐเข้าไปช่วยเหลือ โดยกระ ทรวงฯ จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เช่น จังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด และ สาธารณสุขจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม เพื่อสนับสนุน โรงงานให้ผ่านเกณฑ์ฯ ต่อไป อย่างไรก็ตามหากพบ พนักงานติดเชื้อโรงงานจะต้องด�าเนินการตรวจหาเชื้อ เชิงรุก แยกผู้ติดเชื้อไปรักษาและผู้ใกล้ชิด ต้องกักตัว และหากโรงงานใดพบมีการติดเชื้อมากกว่า 10% จะ คงยังใช้หลักการ Bubble & Seal (โรงงานจัดหาที่พัก ให้อยู่ในสถานที่ที่ก�าหนด และให้โรงงานจัดหาที่พัก ให้พนักงานอยู ่ภายในโรงงาน เพื่อสามารถควบคุม โรคจนกว่าสถานการณ์การติดเชื้อกลับสู่ปกติ) และสั่ง ปิดโรงงานเพื่อควบคุมเชื้อโควิด-19 ไม่ให้ออกสู่สังคม ภายนอก เช ่นเดียวกับเคสที่ได้ด�าเนินการที่ผ ่านมา มั่นใจว่ามาตรการที่ ศบค. มอบหมายให้กระทรวงฯ มา ช่วยขับเคลื่อน จะสามารถลดการแพร่ระบาดของเชื้อโค วิด-19 ในโรงงานอุตสาหกรรมได้ ข้อมูล / ภาพประกอบ : industry.go.th วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 43
44 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 กระทรวงอุตสาหกรรมเร่ง หนุนผู้ประกอบการเครื่องมือแพทย์ รับมือโควิดระบาด ตั้งเป้ายกระดับกว่า 100 ราย ภายในปี 2564 นายสุริยะ จึงรุ่ งเรืองกิจ รั ฐ ม น ต รี ว่ า ก า ร ก ร ะ ท ร ว ง อุ ต ส า ห ก ร ร ม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรม ส ่งเส ริมอุตสาหก ร รม ห รือ ดี พร้อม (DIPROM) เร ่งขับเคลื่อน กลุ ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ให้เติบโตอย ่า งต ่อเนื่อ ง เพื่อ สอดคล้องกับแผนการพัฒนาระยะ ยาวของทางกระทรวงที่ต้องการ ยกระดับศักยภาพและมาตรฐาน ของผลิตภัณฑ์เครื่องมือและการ ให้บริการทางการแพทย์ให้เทียบ เท่ากับระดับสากล โดยเน้นการยก ระดับการแพทย์สร้างศูนย์ทดสอบ มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ทางการ แพทย์ส ่งเสริมการอ�านวยความ สะดวกในการตรวจและรับรอง มาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ของไทยให้กับผู้ประกอบการอย่าง ถูกต้อง รวดเร็ว ในราคาที่เป็นธรรม เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถ แข่งขันได้มากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทยในปัจจุบัน ที่ยังไม ่สามารถควบคุมได้ ท�าให้ กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งหนุน ผู้ประกอบการเครื่องมือแพทย์ รับมือโควิดระบาด จ�านวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น จาก ปัจจัยดังกล ่าวจึงส ่งผลให้ความ ต้องการเครื่องมือทางการแพทย์มี เพิ่มมากขึ้นในช ่วงที่ผ ่านมา โดย กระทรวงอุตสาหกรรมเล็งเห็นถึง ความส�าคัญและเร ่งการสนับสนุน อุตสาหกรรมเครื่องมือทางการ แพทย์ในการพัฒนาและผลักดันให้ พร้อมรับมือวิกฤติสุขภาพได้อย่างมี สิทธิภาพสูงสุด เพื่อเป็นอีกหนึ่งจิ๊ก ซอว์ที่จะช่วยประเทศไทยผ่านวิกฤติ โควิด-19 ครั้งนี้ไปให้ได้ นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดีพร้อม เร่งด�าเนินการปรับแผนและ รูปแบบการด�าเนินงานในช่วงครึ่งปี หลังของงบประมาณประจ�าปี 2564 เพื่อให้สอดรับนโยบายทางกระทรวง อุตสาหกรรม และสอดคล้องกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 โดยหนึ่งในนั้นคือการเร่ง สนับสนุนอุตสาหกรรมเครื่องมือ แพทย์อย่างครอบคลุมในหลายมิติ ให้มีความสอดคล้องสถานการณ์ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อ สร้างความพร้อมในการเป็นรากฐาน ที่ส�าคัญรองรับต่อสถานการณ์การ แพร่ระบาดในปัจจุบันและอนาคต ด้วยการผลักดันให้เกิดความพร้อม ในภาคอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ผ่าน 4 มาตรการเร่งด่วน ดังนี้ 1.การส่งเสริมด้านบุคลากร ในภาคอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ให้มีความพร้อมและองค์ความรู้ทั้ง ด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย การน�า เทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะ สม รวมไปถึงสร้างความรู้ความ เข้าใจด้านกฎระเบียบและข้อบังคับ
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 45 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 45 ของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ 2.การส่งเสริมด้านการพัฒนาต้นแบบ ผลิตภัณฑ์เป็นการพัฒนานวัตกรรมและ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AIและIoTรวมถึงใน กลุ่มของการบ�าบัดฟื้นฟูวินิจฉัยและการรักษา โดยต้นแบบผลิตภัณฑ์ 25% ของผลิตภัณฑ์ที่ ได้รับการส่งเสริมนั้น จะครอบคลุมทั้งในด้าน ของการรองรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 อาทิ ชุดอุปกรณ์จ่ายอากาศ แบบต่อเนื่องส�าหรับหน้ากากชนิดครอบเต็ม ใบหน้า (PAPR) เครื่องทวนสอบเครื่องช่วย หายใจ(VentilatorTester)ระบบปรึกษาข้อมูลสุขภาพ ทางไกล ระบบ AIในการวิเคราะห์โรคปอด และเครื่อง ดูดละอองฝอยน�้าลาย (เครื่องมือทันตกรรม) ทั้งนี้ การ พัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ด�าเนินการโดยการบูรณา การร่วมกันระหว่างสถานประกอบการ ภาคการศึกษา และบุคลากรทางการแพทย์รวมไปถึงสถาบันฯ และ สมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 3.การส ่งเสริมสถานประกอบการในภาค อุตสาหกรรมการผลิตและบริการ การปรับปรุง และ พัฒนากระบวนการผลิตให้สามารถที่จะลดต้นทุน ลดของเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต รวมถึงสามารถผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อการใช้งานในปัจจุบัน อีกทั้ง ส่งเสริมในเรื่องการวางแผนการตลาด เพิ่มมูลค่าและ ยอดขายอีกครั้ง 4.การส่งเสริมการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อ ให้เกิดเป็นกลุ ่มอุตสาหกรรมที่มีความเข้มแข็งและ เพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ การถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้รวมถึงวิสัย ทัศน์ร่วมกัน การสร้างและรวบข้อมูลเครือข่ายหน่วย ทดสอบมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ให้เกิดความพร้อม ทุกมิติ อีกทั้งยังร่วมกันพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ สอดคล้องต่อสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ดีพร้อม ได้ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่ง เงินทุนในการวิจัยและนวัตกรรมแก่ผู้ประกอบการ ผ่าน การเชื่อมโยงหน่วยงานอื่น ๆ อาทิ ส�านักงานการวิจัยแห่ง ชาติ (วช.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความ สามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ส�านักงานสภา นโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แห ่งชาติ(สอวช.) อีกทั้ง ยังช ่วยผลักดันให้ผู้ประกอบ การน�าผลิตภัณฑ์เข้าสู่บัญชีนวัตกรรมไทยและบัญชีสิ่ง ประดิษฐ์ไทย ส�านักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ(สวทช.) เป็นอีกหนึ่งช่องทางหนึ่งในการสร้าง ความน่าเชื่อถือและสามารถจ�าหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับส่วน ราชการ รัฐวิสาหกิจอีกด้วย “ดีพร้อมตั้งเป้ าว่าภายในปี 2564 ต้องสามารถ สนับสนุนผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม เครื่องมือการแพทย์ได้กว่า 100 ผู้ประกอบการ อย่างไร ก็ตาม ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2559 – 2563 ดีพร้อม สามารถ ยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์กว่า 400 ราย อาทิ การพัฒนาชุดอุปกรณ์จ่ายอากาศ แบบต่อเนื่องส�าหรับหน้ากากชนิดครอบเต็ม ใบหน้า บริษัท ทีเอ็มดีดี จ�ากัด โดยทาง ดีพร้อม ได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้าน วัสดุในการผลิต ระบบในการปรับอัตราการไหล ของอากาศ แบตเตอรี่ในการใช้งาน และการ ใช้งานร่วมกับชุดกรองเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ฯลฯ” ข้อมูล / ภาพประกอบ : industry.go.th วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 45
46 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการส�านักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวง อุตสาหกรรมมีนโยบายส ่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ส�าคัญของโลก รวมทั้งส่งเสริมให้มีโครงสร้าง กระทรวงอุตฯ ออกโรงปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ของ ไทย เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิค ต่อการค้า ครั้งที่ 85 ให้เวียดนามทบทวนการรับรองมาตรฐาน Euro 5 รวมถึงระเบียบควบคุมคุณภาพสินค้าเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมีของ อินเดีย หวั่นกระทบส่งออกยานยนต์ไทย กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย หลังเวียดนาม-อินเดียออกระเบียบสกัดส่งออก พื้นฐานด้านการตรวจสอบรับรองที่มีความพร้อม เช่น ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ(ATTRIC) แต่อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยก็ยังประสบปัญหาด้าน การส่งออกไปยังประเทศอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ประเทศเวียดนามได้ประกาศใช้มาตรฐาน Euro 5 ซึ่งจะ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไปซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการส่งออกยานยนต์ของไทย “เวียดนามได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการรถยนต์ ที่ผลิตและประกอบในประเทศ และได้รับใบอนุญาต ก่อนวันที่มาตรฐาน Euro 5 จะมีผลบังคับใช้ สามารถ ผลิตรถยนต์ตามมาตรฐานเดิม (Euro 4) ได้ต่อเนื่องจน กระทั่งใบอนุญาตดังกล่าวหมดอายุ แต่หากเป็นผู้น�าเข้า จะต้องขออนุญาตตามมาตรฐานใหม่คือ Euro 5 ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงแม้ว่าใบอนุญาตจะยังไม่หมด อายุก็ตาม” นายวันชัยกล่าว ทั้งนี้ สมอ.ในฐานะหน่วยงานมาตรฐานแห่ง ชาติซึ่งเป็นผู้แทนประเทศไทยในคณะกรรมการว ่า ด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต ่อการค้า (Committee on TBT) ภายใต้องค์การการค้าโลก (World Trade Organization:WTO) เห็นว่าการปฏิบัติดังกล่าวต่อผู้ ประกอบการรถยนต์ที่ผลิตในประเทศและผู้น�าเข้าไม่เท่า เทียมกัน จึงเตรียมเสนอข้อเรียกร้องให้ทบทวนปรับปรุง กฎระเบียบหรือด�าเนินการแก้ไขกฎระเบียบให้เป็นไป ตามหลักปฏิบัติของ WTO และเตรียมหยิบยกเรื่องดัง กล ่าวขึ้นเป็นข้อกังวลทางการค้าเสนอในการประชุม คณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ครั้ง ที่ 85 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 พฤศจิกายน 2564 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อไป นอกจากนี้ประเทศอินเดียยังได้ออกประกาศกฎ ระเบียบควบคุมคุณภาพสินค้าเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมีที่ จะน�าเข้าสู่อินเดีย โดยจะต้องได้รับการรับรองคุณภาพ สินค้า และได้รับใบอนุญาตจากสถาบันมาตรฐาน อินเดีย และผู้ประกอบการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่า ใช้จ่าย สมอ.จึงได้แจ้งไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมเคมี กลุ่ม responsible care สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเพื่อพิจารณาผลกระ ทบ ประเด็นปัญหา และข้อเรียกร้องต่อกฎระเบียบของ อินเดีย เพื่อเสนอเป็นข้อกังวลทางการค้าในการประชุม Committee on TBT ครั้งที่ 85 ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ สมอ. ในฐานะผู้แทนประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ยืนยันจะ ดูแลและปกป้องภาคอุตสาหกรรมในประเทศ โดยค�านึง ถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นส�าคัญ นายวันชัย กล่าวทิ้งท้าย เข้าไม่เท่า จึงเตรียมเสนอข้อเรียกร้องให้ทบทวนปรับปรุง เนินการแก้ไขกฎระเบียบให้เป็นไป ข้อมูล / ภาพประกอบ : industry.go.th
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 47 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็น ประธานการประชุมหารือมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ใน สถานประกอบกิจการโรงงาน โดยมี นายสุระ เพชรพิรุณ นายสมพล โนดไธ สง นายเดชาจาตุธนานันท์นายนิรันดร์ยิ่งมหิศรานนท์นายใบน้อย สุวรรณ ชาตรีผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายทาวัน ทวีถาวรสวัสดิ์ ผู้ช ่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัด เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference (ZOOM) ณ ห้องประชุม อก.1 ส�านักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ส�าหรับการประชุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ศบค.)ได้มอบหมาย กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และ ส�านักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI)ในการควบคุมและป้องกันโรคโควิด19 ในสถานประกอบกิจการโรงงาน ทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในโรงงาน และเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศ ปลัดฯ กอบชัย เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการป้องกันและ ควบคุมโรคโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการโรงงาน การประชุมหารือมาตรการป้องกันและควบคุม โรคโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการโรงงาน ด�าเนินกิจการได้ในช ่วงของการ ระบาดโควิด-19 นี้ ทั้งนี้ กระทรวง อุตสาหกรรม ได้ก�าหนดจัดการ ประชุมหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อหา แนวทางขับเคลื่อนมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใน โรงงาน ในวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564 นี้ ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมฯ ดัง กล่าว เป็นไปตามมาตรการควบคุม และป้องกันการแพร ่ระบาดของ เชื้อไวรัส โควิด-19 ตามข้อก�าหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2564 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม
48 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 รัฐมนตรีสุริยะฯ เปิดโรงงานผลิตรถยนต์เกรท วอลล์ มอเตอร์ จ.ระยอง วันที่ 9 มิถุนายน 2564 นายสุริยะ จึงรุ ่งเรืองกิจ รัฐมนตรี ว ่ากา รก ระท รว งอุตสาหก ร รม ร ่วมเป็นเกียรติและเป็นประธาน เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรมอีส เทิร์นซีบอร์ด อ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยมีนายกฤชนนท์อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม นายกอบชัย สังสิทธิ สวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายภานุวัฒน์ตริยางกูรศรีรอง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นาย ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส ่ง เสริมอุตสาหกรรมนายวันชัย พนม ชัย เลขาธิการส�านักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นางสาว สุชาดา แทนทรัพย์โฆษกกระทรวง อุตสาหกรรม ร่วมเปิดโรงงาน และ มี Mr. เอลเลียต จาง ประธานเกรท วอลล์ มอเตอร์ภูมิภาคอาเซียน ให้การต้อนรับ น า ย สุ ริ ย ะ จึ ง รุ ่ ง เ รื อ ง กิจ รัฐมนต รีว ่ากา รก ระท รว ง อุตสาหกรรม กล่าวว่า ในนามของ กระทรวงอุตสาหกรรมมีความยินดี เป็นอย่างยิ่งที่วันนี้ได้มาเป็นประธาน ในพิธีเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ของ บริษัท เกรท วอลล์มอเตอร์ใน จ.ระยอง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ เต็มรูปแบบในต่างประเทศ แห่งที่ 3 ของบริษัทฯโดยมีการยกระดับระบบ การผลิตให้เป็นโรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Factory อันดับต้นๆ ของ ประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง การยกระดับอุตสาหกรรมไทยของ กระทรวงอุตสาหกรรม ด้วยการน�าเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่าง สูงสุด เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในหลากหลายมิติ ในนามของรัฐบาลไทยขอขอบคุณ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผู้ ผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) และรถปิกอัพรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จีน ซึ่งมีจุดแข็งในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้มีการลงทุนสร้างฐาน การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออก รถยนต์นั่งและรถปิกอัพทั้งประเภทไฮบริด (HEV) ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้า(BEV)ไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลียและ แอฟริกาใต้สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของอุตสาหกรรม ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์อันดับ ที่ 11 ของโลก อันดับที่ 5 ของเอเชียและอันดับ 1 ของอาเซียน รวมทั้งความ เชื่อมั่นต่อนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของรัฐบาล ซึ่งตลอดช่วงเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลและคณะกรรมการ นโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้พยายามขับเคลื่อนให้ภาคอุตสาหกรรม ยานยนต์ไทยปรับเปลี่ยนจากการเป็นฐานการผลิตยานยนต์เครื่องยนต์ สันดาปภายใน (ICE)ไปสู่การเป็นฐานการผลิต ยานยนต์ไฟฟ้า ตามทิศทาง การพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ของโลก โดยมั่นใจว่า บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์จะเป็นส่วนส�าคัญที่ช่วยสนับสนุนให้รัฐบาลสามารถบรรลุวิสัย ทัศน์ เป้าหมายการผลิต และการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ในปี 2030 (หรือปี พ.ศ. 2573) ตามที่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้ตั้งไว้ ข้อมูล / ภาพประกอบ : industry.go.th
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารด้านการอุตสาหกรรม ประจำาปี 2564 49 ใครเป็นใคร ... ในแวดวง อุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม 75/6 ถ.พระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์: 0-2202-4000 และ 3967 โทรสาร: 0-2354-3390 อีเมล: [email protected] เว็บไซต์: www.diw.go.th กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 75/6 ถ.พระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์: 0-2202-4000 และ 3967 โทรสาร: 0-2354-3390 อีเมล: [email protected] เว็บไซต์: www.dip.go.th/ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) 75/10 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์: 0-2202-3555, 0-2202-3565, 0-2202-3567 โทรสาร: 0-2644-8746 อีเมล: - เว็บไซต์: www.dpim.go.th ส�านักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมม 75/10 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์: 0-2202-3000 โทรสาร: 0-2202-3048 อีเมล: - เว็บไซต์: www.industry.go.th/ops ส�านักงานคณะกรรมการอ้อยและน�้าตาลทราย ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรงเทพฯ 10400 โทรศัพท์: 0-2202-3073 โทรสาร: 0-2354-1651 อีเมล: [email protected] เว็บไซต์: www.ocsb.go.th ส�านักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) 75/42 ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์: 0-2202-3300 โทรสาร: - อีเมล: [email protected] เว็บไซต์: www.tisi.go.th ส�านักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 75/6 ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์: 0-2202-4270 โทรสาร: 0-2644-7136 อีเมล: - เว็บไซต์: www.oie.go.th ส�านักงานรัฐมนตรี กระทรวงอุตสาหกรรม 75/1 ถนน พระรามที่ 6 แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์: 0-2202-3000 โทรสาร: - อีเมล: - เว็บไซต์: www.industry.go.th/om1 การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) 618 ถนนนิคมมักกะสัน เเขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์: 0-2253-0561 Call Center: 0-2207-2700 โทรสาร: 0-2252-6582, 0-2253-4086 อีเมล: [email protected] เว็บไซต์: www.ieat.go.th เบอร์โทรศัพท์หน่วยงานในสังกัด กระทรวงอุตสาหกรรม