วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 29 คู่มือนนทบุรี นนทบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางของ ประเทศไทย จัดตั้ งขึ้นครังล่าสุด ้ โดยพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัด นครนายก พุทธศักราช 2489 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้ งแต่ วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ปัจจุบัน จังหวัดนนทบุรีจัดเป็นพื้นที่ในเขต ปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร มีขนาดเนื้อที่ใหญ่ เป็นอันดับที่ 75 ของประเทศ (รวมกรุงเทพมหานคร) แต่มีประชากรหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจาก กรุงเทพมหานคร วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 29 Nonthaburi คู่มือนนทบุรี
30 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 ประวัติศาสตร์ สภาพทั่วไปของจังหวัดนนทบุรีเป็นที่ราบลุ ่มมีความ อุดมสมบูรณ์จึงมีผู้คนมาตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนหนาแน่นตาม ริมแม่น�้าเจ้าพระยามาตั้งแต่อดีต เช่น บ้านวัดชลอ บ้านวัด เขมา บ้านบางม่วง บ้านตลาดขวัญ บ้านบางขนุน เป็นต้น สมัยอยุธยา หลักฐานการตั้งถิ่นฐานที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ปรากฏที่วัดปรางค์หลวง ตั้งอยู่ในต�าบลบางม่วง อ�าเภอ บางใหญ่เป็นวัดที่มีพระปรางค์ลักษณะย่อมุมไม้ยี่สิบขนาด ใหญ่สันนิษฐานว่าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นหลักแก่ชุมชนชาวเมืองอู่ทอง ที่อพยพหนีโรคระบาดมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนี้ก่อนจะมี การสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีชุมชนแห่งนี้ได้ขยาย ตัวและกระจัดกระจายออกไปตามพื้นที่ต่างๆ ในบริเวณนี้ โดยมีชุมชนส�าคัญอีกแห่งหนึ่งคือ บ้านตลาดขวัญ ตั้งอยู่ริม แม่น�้าเจ้าพระยาแต่ท้องที่จังหวัดนนทบุรีทั้งหมดในสมัยนี้ยัง คงเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งปีพ.ศ. 2091 สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ โปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองลัดแม่น�้าเจ้าพระยา จากเหนือวัด ชลอไปทะลุใกล้วัดมูลเหล็ก (ปัจจุบันคือวัดสุวรรณคีรีเขต บางกอกน้อย) เพื่อใช้เป็นเส้นทางลัดในการเดินทางและเพื่อ เพิ่มปริมาณแหล่งน�้าส�าหรับการเกษตรในพื้นที่ ในปีเดียวกันนั้น พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้กษัตริย์พม่าได้ยก กองทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยา ผลจากสงครามท�าให้สมเด็จพระ สุริโยทัยสิ้นพระชนม์บนคอช้าง เมื่อพม่ายกทัพกลับไป และ กรุงศรีอยุธยาได้จัดการพระศพสมเด็จพระสุริโยทัยเรียบร้อย แล้ว สมเด็จพระมหาจักรพรรดิจึงทรงปรับปรุงกิจการทหาร ให้มั่นคงกว่าเดิม พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเมืองใหม่ขึ้น อีกหลายเมือง รวมทั้งให้ยกฐานะหมู่บ้านตลาดขวัญขึ้นเป็น เมืองนนทบุรีในปีพ.ศ. 2092 เนื่องจากมีราษฎรจ�านวน มากหนีภัยสงครามครั้งนั้นไปอยู่ตามป่าเขาและไม่ยอมกลับ พระนคร หากตั้งเมืองใหม่ขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อการเกณฑ์ ไพร่พลเมื่อเกิดสงคราม นอกจากนี้ยังสามารถเป็นเมืองท่า และเมืองหน้าด ่านของกรุงศรีอยุธยาได้อีกด้วย ที่ตั้งของ เมืองนนทบุรีในครั้งแรกนี้ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น�้า เจ้าพระยา มีวัดเทพอุรุมภังค์(วัดหัวเมือง) เป็นเขตเหนือ (ปัจจุบันคือโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า)และมีวัดท้ายเมืองเป็น เขตใต้
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 31 Nonthaburi คู่มือนนทบุรี ต่อมาในปีพ.ศ. 2179 รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระองค์โปรด เกล้าฯ ให้ขุดคลองลัดตัดส่วนโค้งของแม่น�้าเจ้าพระยาตั้งแต่ใต้วัดท้ายเมืองไป ทะลุออกหน้าวัดเขมา (เดิมแม่น�้าเจ้าพระยาไหลวกเข้าไปทางบางกรวยและ บางใหญ่) ซึ่งท�าให้กระแสน�้าเปลี่ยนทางเดินไหลเข้าคลองที่ขุดใหม่ กลายเป็น แนวแม่น�้าเจ้าพระยาหน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่าในปัจจุบัน ส่วนแม่น�้าเดิม ก็ตื้นเขินลงเป็นคลองอ้อม คลองบางกอกน้อย และคลองบางกรวยตามที่ปรากฏ ในปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2208 สมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีพระราชด�าริว่า แนวแม่น�้า เจ้าพระยาที่สั้นลงจะท�าให้ข้าศึกเข้าสู่กรุงศรีอยุธยาได้ง่ายขึ้น จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองนนทบุรีจากบ้านตลาดขวัญไปตั้งบริเวณปากคลองอ้อม บ้าน บางศรีเมือง (ที่ตั้งเมืองอยู่บริเวณนี้จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) และให้สร้างก�าแพงเมืองรวมทั้งป้อมปราการขึ้น 2 ป้อม คือ “ป้ อมแก้ว” ตั้งอยู่ที่ บ้านตลาดแก้ว (สันนิษฐานว่าอยู่ที่วัดปากน�้าในปัจจุบัน) และ “ป้ อมทับทิม” ตั้ง อยู่บริเวณวัดเฉลิมพระเกียรติในปัจจุบัน (ปัจจุบันก�าแพงและป้อมถูกรื้อไปหมด แล้ว) ในช่วงนี้สภาพเศรษฐกิจของเมืองนนทบุรีมีความมั่นคงมาก ทั้งการค้าขาย และการท�าสวนผลไม้ ต่อมาเมื่อปีพ.ศ.2264 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระโปรดเกล้าฯให้ขุดคลอง ลัดเกร็ดขึ้นตัดความโค้งของแม่น�้าเจ้าพระยาช่วงที่ไหลวกอ้อมไปทางบางบัวทอง ต่อมากระแสน�้าเปลี่ยนทิศทางการไหล ชายฝั่งทั้งสองข้างของคลองลัดเกร็ดถูกกัด เซาะให้ห่างออกจากกันมากขึ้น พื้นที่ตรงกลางที่มีน�้าล้อมรอบจึงกลายเป็นเกาะ เรียกว่า “เกาะเกร็ด” ปี พ.ศ. 2307 ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าเล็กน้อย พระเจ้ามังระ กษัตริย์ พม่าโปรดเกล้าฯให้มังมหานรธาเป็นแม่ทัพเข้าตีเข้ากรุงศรีอยุธยาจากทางทิศใต้ ตีหัวเมืองรายทางเรื่อยมาจนถึงเมืองธนบุรีและเมืองนนทบุรีก็เข้ายึดเมืองทั้งสอง ได้เช่นกัน พม่าแบ่งก�าลังบางส่วนขึ้นมาตั้งค่ายอยู่บริเวณวัดเขมา ขณะนั้นมีเรือ ก�าปั่นอังกฤษซึ่งมาค้าขายอยู่ที่เมืองธนบุรีได้อาสาช่วยรบโดยยิงปืนเข้าใส่ค่าย พม่าในเวลากลางคืน แต่ในที่สุดก็สู้กองทัพพม่าไม่ได้ จึงล่องเรือหนีไป จากนั้นกองทัพพม่าจึงบุกขึ้นไปทางทิศเหนือเข้าล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2309 และเข้ายึดได้ในปี พ.ศ. 2310 ตลอดการสู้รบได้ส่งผลให้บ้านเมือง วัดวาอารามต ่างๆ ถูกท�าลายและทิ้ง ร้าง ชาวเมืองนนทบุรีต้องอพยพจาก ถิ่นที่อยู่เดิม ข้ามแม่น�้าไปหลบซ่อนใน สวนบางกรวยและบางใหญ่เพื่อหนีภัย สงคราม สมัยธนบุรี ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้ โปรดเกล้าฯให้ข้าหลวงไปรับครอบครัว ชาวมอญมาตั้งบ้านเรือนอยู ่ในแขวง เมืองนนท์ในท้องที่ปากเกร็ดหลังจาก ที่มอญพ่ายพม่า ในภาวะสงครามคืนสู่ ปกติ ชาวนนทบุรีเริ่มเพาะปลูก ค้าขาย และติดต่อกับเมืองหลวง นนทบุรีขณะ นั้นมีสถานะเป็นชานพระนคร ยังเป็น แหล่งรองรับชาวกรุงเก่า สมัยรัตนโกสินทร์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ พุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ ให้ ผู้คนต ่างถิ่นตั้งถิ่นฐานอยู ่ที่เมือง นนทบุรีเมืองปทุมธานีและเมือง นครเขื่อนขันธ์นอกจากนี้ยังมีชาวไทย มุสลิมเมืองปัตตานีที่ถูกกวาดต้อนเข้า มาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธ ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และชาวไทย มุสลิมเมืองไทรบุรีที่เข้ามาในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งสองพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ชาว
32 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 ไทยมุสลิมเหล่านี้ตั้งถิ่นฐานที่บ้านท่า อิฐ(ปัจจุบันอยู่ในเขตอ�าเภอปากเกร็ด) และบ้านบางบัวทอง ต ่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรด เกล้าฯ ให้เปลี่ยนสร้อยชื่อเมืองจาก เดิมคือ เมืองนนทบุรีศรีมหาสมุทร เป็น เมืองนนทบุรีศรีมหาอุทยาน และ ต ่อมาเปลี่ยนเป็น เมืองนนทบุรีศรี เกษตราราม ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอน ต้นนี้เมืองนนทบุรีมีฐานะเป็นหัวเมือง ชายทะเล สังกัดกรมท่า ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู ่หัว พระองค์ ท ร งปฏิ รูปก า รปกค รอ งหั วเมือ ง ต่างๆ เป็นการปกครองส ่วนภูมิภาค เมืองนนทบุรีจึงจัดอยู ่ในมณฑล กรุงเทพ แบ่งเขตการปกครองออก เป็น 4 อ�าเภอ ได้แก่ อ�าเภอตลาดขวัญ อ�าเภอบางใหญ่ อ�าเภอบางบัวทอง และอ�าเภอปากเกร็ด ส่วนศาลากลาง เมืองนนทบุรีนั้นโปรดเกล้าฯ ให้ย้าย จากปากคลองอ้อม บ้านบางศรีเมือง มาตั้งอยู ่ที่ปากคลองบางซื่อใกล้วัด ท้ายเมือง จนกระทั่งปีพ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่ หัวโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนค�าว่าเมือง เป็น “จังหวัด” เมืองนนทบุรีจึงเปลี่ยน ชื่อเรียกเป็น จังหวัดนนทบุรี นอกจากนี้ ในปีพ.ศ. 2471 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายศาลากลางจังหวัด นนทบุรีมาตั้งที่โรงเรียนราชวิทยาลัย ศาลากลางจังหวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจาก ที่ท�าการเมืองและศาลากลางจังหวัด นนทบุรีในอดีตลงมาทางทิศใต้ปัจจุบัน ก็คือศาลากลางจังหวัดหลังเก่าบริเวณ ท่าน�้านนทบุรีนั่นเอง สมัยปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2474 ทางราชการได้ตัดถนนประชาราษฎร์ขึ้นเป็นเส้นทางเชื่อม การคมนาคมระหว่างจังหวัดนนทบุรีกับจังหวัดพระนครสายแรก และต่อมาจึง ตัดถนนพิบูลสงครามเลียบแม่น�้าเจ้าพระยาขึ้นเป็นสายที่สองในท้องที่ต�าบลสวน ใหญ่ เมื่อวันที่10ธันวาคมพ.ศ.2485เกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต�่าหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ทางราชการจึงยุบจังหวัดนนทบุรีลงเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณโดย โอนอ�าเภอเมืองนนทบุรีและอ�าเภอปากเกร็ดไปขึ้นกับจังหวัดพระนคร และโอน อ�าเภอบางกรวย อ�าเภอบางใหญ่ และอ�าเภอบางบัวทองไปขึ้นกับจังหวัดธนบุรี จนกระทั่งนนทบุรีได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดอีกครั้งในปีพ.ศ.2489 อ�าเภอ ต่างๆ จึงกลับมาอยู่ในเขตการปกครองของทางจังหวัดตามเดิม ปีพ.ศ. 2499 กระทรวงมหาดไทยได้ยกกิ่งอ�าเภอไทรน้อยซึ่งแยกพื้นที่ ปกครองจากอ�าเภอบางบัวทองมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2491 ให้มีฐานะเป็นอ�าเภอ ไทรน้อยจังหวัดนนทบุรีจึงมีเขตการปกครองรวม 6 อ�าเภอจนถึงปัจจุบัน ในปีพ.ศ.2535 กระทรวงมหาดไทยย้ายศาลากลางจังหวัดนนทบุรีและหน่วย งานราชการอื่นๆ ไปตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ถนนรัตนาธิเบศร์ ต�าบล บางกระสอ และใช้เป็นที่ท�าการมาจนถึงทุกวันนี้ ที่ตั้งและอาณาเขตติดต่อ จังหวัดนนทบุรีตั้งอยู่ในเขตที่ราบลุ่มแม่น�้าเจ้าพระยาตอนล่าง ห่างจาก กรุงเทพมหานครไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่อนทางเหนือ 20 กิโลเมตร มี พื้นที่ปกครองทั้งหมด 622.303 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 388,939.375 ไร่ โดยมีพิกัดภูมิศาสตร์อยู่ละติจูดที่13องศา47 ลิปดาเหนือ ถึงละติจูดที่14องศา
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 33 Nonthaburi คู่มือนนทบุรี 04 ลิปดาเหนือ และลองจิจูดที่ 100 องศา 15 ลิปดาตะวันออก ถึงลองจิจูดที่ 100 องศา 34 ลิปดาตะวันออก และมีอาณาเขตจรดอ�าเภอและจังหวัดข้างเคียงเรียง ตามเข็มนาฬิกา ดังนี้ ทิศเหนือติดต่อกับอ�าเภอลาดบัวหลวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ�าเภอ ลาดหลุมแก้ว และอ�าเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ทิศตะวันออก ติดต ่อกับเขตดอนเมือง เขตหลักสี่ และเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (ฝั่งพระนคร) ทิศใต้ติดต ่อกับเขตบางพลัด เขตตลิ่งชัน และเขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร (ฝั่งธนบุรี) ทิศตะวันตก ติดต่อกับอ�าเภอพุทธมณฑลและอ�าเภอบางเลน จังหวัด นครปฐม ลักษณะภูมิประเทศ จังหวัดนนทบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีแม่น�้าไหลผ่าน จึงแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งตะวันตก มีพื้นที่ 3 ใน 4 ของจังหวัด พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มมีน�้าท่วมถึง มีคูคลองขนาดต่างๆ เชื่อมโยงกันหลายสายเหมือนใยแมงมุม มีการท�าเรือกสวน ไร่นา และฝั่งตะวันออกมีพื้นที่ 1 ใน 3 ของจังหวัด ได้แก่พื้นที่ในเขตเทศบาลนคร นนทบุรีและเทศบาลนครปากเกร็ด เป็นเขตเมืองมีประชากรอยู่อย่างหนาแน่น อาจถือได้ว่าส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองหลวง เพราะเขตแดนระหว่างนนทบุรี กับกรุงเทพมหานครนั้นแทบจะไม่เป็นที่รู้จัก ลักษณะภูมิอากาศ สภาพภูมิอากาศของจังหวัดนนทบุรีเป็นแบบร้อนชื้นเช่นเดียวกับจังหวัด อื่นๆ ในภาคกลางของประเทศ สัญลักษณ์ประจ�าจังหวัด ตัวอักษรย่อ จังหวัดนนทบุรีใช้อักษรย่อ “นบ” ค�าขวัญประจ�าจังหวัด พระต�าหนักสง่างาม ลือนามสวนสมเด็จ เกาะเกร็ดแหล่งดินเผา วัดเก่านามระบือ เลื่องลือทุเรียนนนท์ งามน่ายลศูนย์ราชการ ตราประจ�าจังหวัด รูปหม้อน�้าลายวิจิตร หมายถึง ชาวจังหวัดนนทบุรีมีอาชีพท�า เครื่องปั้นดินเผา ซึ่งยึดถือเป็นอาชีพและมีชื่อเสียงมาช้านาน ต้นไม้ประจ�าจังหวัด ต้นนนทรี (Peltophorum pterocarpum) ดอกไม้ประจ�าจังหวัด ดอกนนทรี สัตว์น�้าประจ�าจังหวัด ปลาเทพา (Pangasius sanitwongsei)
34 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 35 คู่มือนนทบุรี วัดสวนแก้ว ๙ วัด ไหว้พระ ณ นนทบุรี วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 35 วัดสวนแก้ว วัดสวนแก้ว เป็นวัดในจังหวัดนนทบุรี ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 55/1 หมู่ที่ 1 ต�ำบล บำงเลน อ�ำเภอบำงใหญ่ จังหวัดนนทบุรี มีเจ้ำอำวำส คือ พระพยอม กัลยำโณ ประวัติ เดิมชื่อ วัดแก้ว เป็นวัดร้ำงมำ 80 ปี ภำยหลังหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ และ พระภิกษุอีก 3-4 รูปได้เข้ำมำพ�ำนัก แต่พื้นที่ของวัดเต็มไปด้วยเรือกสวน หลวง พ่อไม่สำมำรถจะบูรณะได้เพรำะขำดบุคลำกรที่จะช่วยพัฒนำ พ.ศ. 2521 พระพยอมและเพื่อนพระภิกษุอีก 2 รูป ได้เดินทำงมำกรำบหลวง พ่อเทียน เพื่อขอท�ำโครงกำรบวชเณรภำคฤดูร้อน เมื่อเสร็จแล้วก็จะลำกลับสวน โมกข์ เมื่อหลวงพ่อเทียนได้อนุญำตให้พ�ำนักแล้ว ยังได้ช่วยสนับสนุนงำนบวช เณรภำคฤดูร้อนด้วยโดยช่วยเป็นพระพี่เลี้ยงให้ พ.ศ. 2522 หลวงพ่อเทียนได้มอบหมำยให้พระพะยอมและเพื่อนภิกษุเป็นผู้ ดูแลรักษำวัดต่อไป ส่วนตัวหลวงพ่อเทียน กลับจังหวัดเลย ที่วัดแก้วนี้ พระพยอมได้ พัฒนำพื้นที่ของวัดและเตรียมจ�ำลองสวนโมกขพลำรำมให้เกิดขึ้นในเมือง ตำมค�ำ ที่ท่ำนพุทธทำสเคยปรำรภเมื่อครำวที่ ยังศึกษำธรรมอยู่ที่สวนโมกข์ ท่ำนได้ทุ่มเทชีวิตใจเพื่อกำรบูรณะ วัดอย่ำงเต็มที่และได้น�ำทรัพย์ส่วนตัว มำพัฒนำวัดแก้ว ภำยหลังได้เปลี่ยน ชื่อเป็น วัดสวนแก้ว เมื่อพัฒนำวัดจน เหมำะสมกับสภำพสิ่งแวดล้อมของวัด แล้วจึงมุ่งเผยแพร่พุทธศำสนำอีกครั้ง หนึ่ง พ.ศ. 2529 เป็นปีที่พระพยอมรับ กิจนิมนต์มำกท�ำให้ทรำบถึงปัญหำ ต่ำงๆ ของคนระดับกลำงลงมำ ซึ่งต้อง ยอมรับว่ำบุคคลเหล่ำนี้มีพฤติกรรม วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 35 Nonthaburi คู่มือนนทบุรี
36 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 หลงใหล ใฝ่ต�่ำเรื่องเพศ เรื่องเหล้ำ เมำยำ ไม่มีสมอง ที่จะคิดพัฒนำใดๆ เท่ำที่ควรท�ำให้พระพยอมตัดสิน ใจที่จะช่วยบุคคลเหล่ำนี้ให้มีควำมเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พระ พยอมจึงได้รวบรวมทุนทรัพย์ส่วนตัวซึ่งมีไม่มำกนัก น�ำมำใช้พัฒนำบริเวณวัด และหำทุนซื้อที่ดินบริเวณ ใกล้เคียงต่อออกไปอีก เพื่อท�ำเป็นมูลนิธิสวนแก้ว ทั้งนี้ เพื่อควำมสะดวกในกำรบริหำรงำนช่วยสังคม ปัญหำของสังคมทุกวันนี้เป็นปัญหำที่เกิดขึ้นระหว่ำง ฐำนะ อำชีพ ควำมรู้ และโอกำส ซึ่งพระสงฆ์ควรจะ มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหำนี้ด้วย ด้วยปณิธำนที่จะช่วย เหลือเพื่อนมนุษย์ และเผยแพร่ศีลธรรมค�ำสอนของ พระพุทธเจ้ำ เพื่อให้ประชำชนได้รู้จักกำรใช้หลักธรรม ในกำรด�ำเนินชีวิตและแก้ปัญหำด้วยตนเอง ท่านจึงได้ จัดตั้งมูลนิธิสวนแก้วขึ้น ในปี พ.ศ. 2529 พ.ศ. 2555 เป็นวัดพัฒนำตัวอย่ำงประจ�ำปี 2555 จำกส�ำนักงำนพระพุทธศำสนำแห่งชำติ ปี พ.ศ. 2529 เริ่มจัดตั้ง “มูลนิธิสวนแก้ว” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประกำร คือ • เพื่อเผยแผ่ศีลธรรมในศำสนำ • เพื่อสนับสนุนให้ก�ำลังใจแก่ผู้กระท�ำควำมดี • เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้คนดีมีสัมมำชีพ วัดนี้มีอำณำบริเวณกว้ำงขวำงมำก ตลอดทำง เดินเข้ำสู่ตัววัดมีไม้ใหญ่เขียวครึ้ม ติดป้ำยค�ำขวัญเป็น ข้อควำมเตือนสติพร้อมทั้งยังมีภำพ วำดที่สวยงำม อยู่ภำยในวัด ด้ำนหน้ำวัดมีร้ำนขำยของที่ระลึก และ ร้ำนค้ำเล็กๆ มำกมำย เมื่อเดินเข้ำไปด้ำนในวัด จะพบลำนโค้งและพระอุโบสถธรรมชำติ ซึ่งแต่ละ วันจะมีพุทธศำสนิกชนมำฟังเทศน์ฟังธรรมกันเป็น จ�ำนวนมำก ในปี พ.ศ. 2548 มูลนิธิสวนแก้วได้รับกำรรับรอง เป็นองค์กรสำธำรณประโยชน์ (ทะเบียนเลขที่ 0163) ตำมควำมในมำตรำ 34 แห่งพระรำชบัญญัติส่ง เสริมกำรจัดสวัสดิกำรสังคม พ.ศ. 2546 เมื่อวันที่ 6 กันยำยน พ.ศ. 2548 ภำยใต้ของส�ำนักงำนคณะ กรรมกำรส่งเสริมกำรจัดสวัสดิกำรสังคมแห่งชำติ กระทรวงพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ โดย มีวัตถุประสงค์หลัก 6 ประกำร คือ 1. เพื่อเผยแผ่พระพุทธศำสนำ 2. เพื่อส่งเสริมศีลธรรม จรรยำอันดี 3.เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมและ ประเพณีไทย 4. เพื่อร่วมมือกับองค์กำรกำรกุศลอื่น ๆ เพื่อสำธำรณประโยชน์ 5. ไม่ด�ำเนินกำรเกี่ยวข้องกับกำรเมืองแต่อย่ำงใด 6. จัดกำรศึกษำและส่งเสริมกำรศึกษำ พระราชธรรมนิเทศ (พยอม กลฺยาโณ) พระราชธรรมนิเทศ มีนำมเดิมว่ำ พยอม จั่นเพชร ฉำยำ กลฺ ยาโณ เป็นพระรำชำคณะชั้นรำช นักเทศน์ และนักสังคมสงเครำะห์ ชำวนนทบุรี ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสวนแก้ว
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 37 Nonthaburi คู่มือนนทบุรี ประวัติ พระรำชธรรมนิเทศ เกิดเมื่อวันที่ 24 เมษำยน พ.ศ. 2492 อ�ำเภอบำงใหญ่ จังหวัดนนทบุรี บรรพชำเมื่อเดือนเมษำยน พ.ศ. 2502 และอุปสมบทเมื่อวันที่ 16 มิถุนำยน พ.ศ. 2513 ณ วัดสังวรพิมลไพบูลย์ อ�ำเภอบำงใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ส�ำเร็จ กำรศึกษำนักธรรมชั้นเอกในปี พ.ศ. 2516 และได้ไปจ�ำพรรษำอยู่กับท่ำนพุทธทำส ที่สวนโมกขพลำรำมในกำรปฏิบัติธรรม แล้วจึงได้กลับมำท�ำกำรเผยแผ่พระพุทธ ศำสนำและพัฒนำวัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี ทั้งนี้ ท่ำนอำจำรย์พยอม กัลยำโณ เป็นศิษย์คนส�ำคัญท่ำนหนึ่งของท่ำนพุทธ ทำสด้วยเช่นกัน การยกย่อง พระพยอมได้รับกำรยกย่องว่ำ เป็นพระนักเทศน์และพระผู้เสียสละ ดังกวีนิพนธ์ โดย อำจำรย์เนำวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ พระผ้สร้างผู้ท�ูาน�าคนทุกข์ ให้ร้ทางสร้างสุขพึ ูงตนได้่ เอาเหงือต่างน�่า้มนต์พ้นพิษภัย เอาชนะทุกข์ได้ด้วยการงาน เป็นทีพระพิศาลธรรมพาที ่ เป็นพระดีทีรักของชาวบ้าน่ ไม่ออกนอกแก่นธรรมนอกต�านาน ท่านอาจารย์พระพยอมกัลยาโณ
38 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 วัดบรมราชา กาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี ่ 2) 38 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 39 Nonthaburi คู่มือนนทบุรี วัดบรมราชากาญจนา ภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์ จีนนิกายรังสรรค์ หรือ วัด เล่งเน่ยยี่ 2 เป็นวัดมหำยำนใน ควำมอุปถัมภ์ของคณะสงฆ์จีนนิกำย แห่งประเทศไทย ตั้งอยู่เลขที่ 75 หมู่ที่ 4 ต�ำบลโสนลอย อ�ำเภอบำงบัวทอง จังหวัดนนทบุรี บนพื้นที่ 12 ไร่เศษ จัด สร้ำงขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบำท สมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลย เดชมหำรำช เนื่องในวโรกำสงำนฉลอง สิริรำชสมบัติครบ 50 ปี 9 มิถุนำยน พ.ศ. 2539 ประวัติ วัดบรมรำชำกำญจนำภิเษกอนุ สรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกำยรังสรรค์ เดิม เป็นโรงเจขนำดเล็ก บนพื้นที่ประมำณ 2 ไร่ ต่อมำคณะสงฆ์จีนนิกำยแห่ง ประเทศไทย โดยวัดมังกรกมลำวำส (เล่งเน่ยยี่) ได้มอบหมำยให้พระ คณำจำรย์จีนธรรมปัญญำจริยำภรณ์ (เย็นเชี้ยว) เป็นประธำนด�ำเนินกำรจัด สร้ำงฝ่ำยสงฆ์ และพระมหำคณำจำรย์ จีนธรรมสมำธิวัตร (เย็นเต็ก) เป็น ประธำนที่ปรึกษำกำรจัดสร้ำงฝ่ำยสงฆ์ โดยเปิดให้พุทธบริษัทชำวไทย-ชำวจีน ได้ร่วมบุญ ในกำรจัดสร้ำง เพื่อถวำย เป็นพระรำชกุศล ในวโรกำสดังกล่ำว โดยมีนำยแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขำธิกำรพระรำชวัง เป็นผู้ด�ำเนิน กำรขอพระบรมรำชำนุญำตจัดสร้ำง วัดฯ จำกพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งในกำรนี้ ทรงพระ กรุณำโปรดเกล้ำฯ พระรำชทำนนำม ว่ำ วัดบรมรำชำกำญจนำภิเษกอนุ สรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกำยรังสรรค์ โดย เมื่อเวลำ 15.00 น. วันเสำร์ที่ 30 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2539 สมเด็จพระ ญำณสังวร สมเด็จพระสังฆรำช สกล มหำสังฆปรินำยก เสด็จทรงเป็นองค์ประธำนในพิธีวำงศิลำฤกษ์วัด ปัจจุบัน วัดบรมรำชำกำญจนำภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกำยรังสรรค์ ได้ จัดสร้ำงเสร็จสมบูรณ์ โดยใช้ระยะเวลำด�ำเนินกำรกว่ำ 12 ปี (2539-2551) ใน บริเวณวัดประกอบด้วยวิหำรต่ำงๆ ที่มีรูปแบบสถำปัตยกรรมตำมแนวปรัชญำ และคติธรรมทำงศำสนำพุทธจีนนิกำยฝ่ำยมหำยำน อันประกอบด้วย วิหาร พระกวนอิมโพธิสัตว์, วิหารหมื่นพุทธเจ้า, วิหารบู รพาจารย์ ห้องปฏิบัติธรรม ที่ พ�านักสงฆ์ และโรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว ทรง พระกรุณำโปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสำธิรำชฯ สยำมมกุฎ รำชกุมำร เสด็จฯ แทนพระองค์ พร้อมด้วยพระเจ้ำวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ำศรีรัศมิ์ พระวรชำยำฯ ทรงเป็นองค์ประธำนในพิธีสมโภชเมื่อวันที่ 20 มีนำคม พ.ศ. 2551 และสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำ สยำมบรมรำชกุมำรี เสด็จพระรำชด�ำเนินทรงตัด หวำยลูกนิมิตพระอุโบสถ เมื่อวันที่ 30 กันยำยน พ.ศ. 2552
40 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 วัดเฉลิมพระเกียรติ วรวิหาร ที่ นี่ คุ ณ จ ะ ไ ด ้ น มั ส ก ำ ร “พระพุทธมหาโลกาภินันท ปฏิมา” พระคู่บ้ำนคู่เมือง ซึ่ง ประดิษฐำนไว้ภำยในวัดเฉลิมพระ เกียรติวรวิหำร กำรเดินทำงมำได้ หลำยทำง ทั้งทำงบก ทำงน�้ำ ในอดีต ประชำชนมักเลือกสัญจรทำงน�้ำเป็น หลัก วัดแห่งนี้สร้ำงขึ้นริมฝั่งแม่น�้ำ เจ้ำพระยำ ทำงทิศตะวันตก หำกข้ำม แม่น�้ำเจ้ำพระยำและหันหน้ำเข้ำวัด ฝั่ง ด้ำนขวำมือจะมีพระบรมรำชำนุสำวรีย์ พระบำทสมเด็จพระนั่งเกล้ำเจ้ำอยู่หัว (รัชกำลที่3) แต่เดิมบริเวณนี้เป็นป้อม ปรำกำรเก่ำ ชื่อว่ำ ป้อมทับทิม ส�ำหรับ ใช้ส่องตรวจตรำข้ำศึก จำกนั้นจึง โปรดให้สร้ำงป้อมปรำกำรสี่มุมก่ออิฐ ถือปูน มีใบเสมำเป็นท�ำนองเดียวกัน กับพระบรมมหำรำชวัง ไว้รอบวัดเป็น อนุสรณ์ พร้อมทั้งพระรำชทำนนำมวัด
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 41 Nonthaburi คู่มือนนทบุรี แห่งนี้ว่ำ “วัดเฉลิมพระเกียรติ” ที่นี่เป็น พระอำรำมหลวง ชั้นโท ชนิดวรวิหำร ฝ่ ำยมหำนิกำย สร้ ำงบนนิว ำสสถำน ของ พระย ำนนทบุรีศรีมห ำอุทยำน (บุญจัน) อดีตเจ้ ำเมืองนนทบุรี กับ คุณหญิงเพ็ง ผู้เป็นพระอัยก ำและพระ อัยยิก ำ (ต ำกับย ำย) โดยแล้วเสร็จใน สมัยพระบ ำทสมเด็จพระจอมเกล้ ำเจ้ ำ อยู่หัว รัชกำลที่ 4 ด ้ ำ นสถ ำปัตยกรรมในก ำ ร ออกแบบพระอุโบสถ รัชกำลที่ 3 โปรด เกล้ ำฯให้สร้ ำงขึ้นด้วยสถ ำปัตยกรรม ไทยผสมจีน หลังค ำมุงด้วยกระเบี้อง รำงดินเผ ำชนิดก ำบกล้วยไม่เคลือบ สี ถือปูนทับแนว ท�ำเป็นลอนลูกฟูก แบบจีน หน้ ำบันประดับด้วยกระเบื้อง เคลือบสีสด ตกแต่งสีปั้นและประดับ ตกแต่งให้เป็นใบและดอกพุดต ำน ภำยในประดิษฐ ำนพระประธ ำนปำง มำรวิชัย หล่อด้วยทองแดงทั้งองค์ รัชก ำลที่ 3 โปรดให้ขุดแร่ทองแดง ที่ อ�ำเภอจันทึก จังหวัดนครร ำชสีมำ ขน ำดหน้ ำตักกว้ ำง 6 ศอก สูงจรด พระเศียร 8 ศอก 1 คืบ 4 นิ้ว ถวำย พระนำมว่ำ “พระพุทธมหำโลกำภินันท ปฏิม ำ” ส่วนด้ ำนหลังอุโบสถ จะเห็น พระเจดีย์ทรงลังก ำองค์สีข ำว มีฐำน แปดเหลี่ยมสองชั้น จ ำกฐ ำนถึงยอด มีคว ำมสูงประม ำณ 45 เมตร ภ ำยใน บรรจุพระบรมธำตุ เมื่อปี พ.ศ.2530 ยังได้จัดตกแต่งพื้นที่ให้ร่มรื่น มีชื่อว่ ำ น�้ำตกเฉลิมร ำช เพื่อดึงดูดให้ประช ำชน เข้ ำวัดท�ำนุบ�ำรุงพระพุทธศ ำสน ำสืบไป ปัจจุบันวัดก�ำลังซ่อมแซมบูรณะศำลำ กำรเปรียญหลวง ปัจจุบัน พระธรรม กิตติมุนี (ส ำย ฐ ำนมงคโล) ด�ำรง ต�ำแหน่งเป็นเจ้ำอำวำส
42 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 วัดอัมพวัน เป็นวัดรำษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ำยมหำนิกำย ตั้งอยู่ ในหมู่ที่ 13 บ้ำนคลองขวำง ต�ำบลบำง ม่วง อ�ำเภอบำงใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ประวัติ วัดอัมพวันสร้ำงขึ้น พ.ศ. 2175 ใน สมัยสมเด็จพระเจ้ำปรำสำททอง เดิม ชื่อ วัดบางม่วง ตั้งอยู่ริมคลองแม่น�้ำ อ้อมซึ่งเป็นแม่น�้ำเจ้ำพระยำสำยเดิม สันนิษฐำนว่ำชื่อวัดตั้งตำมสภำพกำร ท�ำสวนมะม่วงของชำวบ้ำนรอบพื้นที่ วัด ทั้งนี้ค�ำว่ำ อัมพวัน หรือ อัมพวาน แปลว่ำ ป่ำมะม่วงหรือสวนมะม่วง และ ในสมัยพุทธกำลก็มีสวนอัมพวัน ซึ่งตั้ง อยู่ระหว่ำงก�ำแพงกรุงรำชคฤห์กับภู เขำคิชฌกูฏ ครั้งหนึ่งหมอชีวกโกมำร ภัจจ์เคยถวำยกำรรักษำอำกำรประชวร ของพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำให้หำยเป็น ปกติ วัดอัมพวันได้รับพระรำชทำน วิสุงคำมสีมำเมื่อวันที่ 26 พฤษภำคม พ.ศ. 2551 อาคารเสนาสนะ อำคำรเสนำสนะที่โดดเด่นของวัด คือ หอไตร ซึ่งมีควำมสมบูรณ์ทำง สถำปัตยกรรมไทยอย่ำงมำก เป็นเรือน ไม้กลำงน�้ำ 2 ชั้น หลังคำซ้อน 2 ชั้น มี ปีกนก 1 ชั้น มุงกระเบื้องดินเผำใต้เชิง ชำย และหน้ำบันประดับไม้สลักลำย รดน�้ำ ชั้นล่ำงโล่งไม่มีพื้นและฝำ ชั้น บนเป็นตัวหอขนำด 2 ห้อง ช่วงล่ำง เป็นลูกฟักกระดำนดุน ตอนบนเป็นซี่ ลูกกรงไม้กลึง เสำกรอบประตูเป็นเสำ หัวเม็ด ประตูหูข้ำง เครื่องล�ำยองเป็น ไม้จ�ำหลัก ฝำผนังด้ำนนอกทำสีลูกฟัก ด้วยสีแดงขอบขำว ตัวไม้เครื่องบันอื่นๆ ทำสีขำวตัดเหลี่ยมสีแดง เสำลงพื้น สีขำวเขียนลำยแดง หน้ำบำน ประตู เข้ำในหอไตรเป็นบำนไม้ลงรักปิดทอง ลำยพุ่มข้ำวบิณฑ์และลำยประจ�ำยำม ก้ำนแย่ง อกเลำเป็นไม้จ�ำหลักลำย ดอกพุดตำนลูกฟัก เหนือประตูเป็น ภำพนกข้ำงละตัว เหนือขึ้นไปเป็นภำพ พระอำทิตย์และพระจันทร์ ในห้องสะ กัดท้ำย ภำยในหอไตรเก็บพำนตะลุ่ม และฐำนพระพุทธรูปไม้จ�ำหลักเป็น จ�ำนวนมำก อุโบสถประดิษฐำน พระพุทธมงคล สุโขทัย ในกุฏิเจ้ำอำวำสมีพระปำงเทริด สะดุ้งมำรซึ่งมีลักษณะเหมือนใส่หมวก อยู่ในท่ำยืนตรง มีต้นก�ำเนิดมำจำก สมัยอยุธยำ วัดยังมีมณฑปพระพุทธบำท ภำยในมีพระพุทธบำทจ�ำลองท�ำด้วย โลหะประดิษฐำนอยู่บนฐำนปูน และ ศำลำท่ำน�้ำที่งดงำมมำก วัดอัมพวัน
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 43 คู่มือนนทบุรี วัดต�าหนักใต้ วัดต�าหนักใต้ เป็นวัดรำษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหำนิกำยในต�ำบล ท่ำทรำย อ�ำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัด นนทบุรี ก่อนที่จะสร้ำงวัด สถำนที่ตั้งเคย เป็นที่สร้ำงพลับพลำที่ประทับชั่วครำว ของสมเด็จพระเจ้ำกรุงธนบุรี และ สันนิษฐำนว่ำวิหำรและหอระฆังสร้ำง ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2367 (รัชกำลที่ 3) เดิมวัดนี้เรียกกันว่ำ วัดต�าหนัก ต่อมำ สมเด็จพระมหำสมณเจ้ำ กรมพระยำ วชิรญำณวโรรส เสด็จตรวจรำชกำร คณะสงฆ์เมื่อปี พ.ศ. 2464 ทรงเห็น ว่ำมีชื่อวัดซ�้ำ จึงได้ต่อค�ำว่ำ ใต้ท้ำยชื่อ จำกทิศที่ตั้ง พระอุโบสถหลังใหม่ สร้ำงขึ้นจำก น�ำบำนประตูหน้ำต่ำง เพดำนของ อุโบสถหลังเก่ำมำใช้ ซึ่งหน้ำบันนั้นเป็น ไม้สักแกะสลักเป็นรูปนกประดับด้วย พุดตำนเทศ มีรูปช้ำงทรงเครื่อง ยืนอยู่ เหนือเมฆตรงกลำงลำยกระหนก พระ ประธำนเป็นปำงมำรวิชัยสมัยสุโขทัย วิหำรเก่ำแก่ซึ่งมีหน้ำบันเป็นไม้สักแกะ สลักเป็นรูปกระหนกดอกจอก มีรูปม้ำ ทรงเครื่องอยู่ภำยในกระหนก ซุ้มบำน ประตู ซุ้มหน้ำต่ำง เป็นลำยดอกไม้ ปูนปั้นยังคงเหลืออยู่บ้ำง บำนประตู หน้ำต่ำง เขียนลำยทองรดน�้ำ หอ ระฆัง 2 ชั้นที่หลังคำท�ำเป็นรูปปรำงค์ ลึกเข้ำไป และมีต้นโพธิ์พุทธคยำจำก อินเดียมำปลูกโดยอดีตเจ้ำอำวำสวัด ต�ำหนักใต้ เมื่อวันที่ 8 กรกฎำคม พ.ศ. 2514 มีบันทึกว่า วัดต�าหนักใต้เป็นจุด ที่พระเจ้าตากสินเสด็จพระราชด�าเนิน มารับพระแก้วมรกตเข้าส่พระนคร เพื่อู ประดิษฐานที่วัดอรุณราชวรารามราช วรมหาวิหาร Nonthaburi คู่มือนนทบุรี
44 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 วัดชลประทานรังสฤษดิ ์ ภายในวัดกว้างขวางร่มรื่น เป็นสถานที่เผยแพร่และศึกษาพระ ธรรม มีลานไผ่เอนกประสงค์ที่ชาวพุทธโดยทั่ วไปจะมารวมกันเป็น จ�านวนมากเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และฟังธรรมจากพระ เทพวิสุทธิเมธี (ปัญญานันทภิกขุ) เจ้าอาวาส ทุกวันอาทิตย์และวัน ส�าคัญทางพระพุทธศาสนา 44 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 45 คู่มือนนทบุรี หำกกล่ำวถึง “วัดชลประทา นรังสฤษดิ์ ” พุทธศำสนิกชนต่ำงต้อง ร�ำลึกถึงอดีตเจ้ำอำวำสพระปัญญำนันท ภิภขุ หรือพระพรหมมังคลำจำรย์ เทพวิ สุทธิเมธี หนึ่งในภิกษุผู้มีชื่อเสียงและเปี่ยม ด้วยคุณธรรมเมตตำธรรม เดิมหลวงพ่อจ�ำ พรรษำอยู่ที่วัดอุโมงค์จังหวัดเชียงใหม่ จน เมื่อ ม.ล.ชูชำติ ก�ำภู อธิบดีกรมชลประทำน ได้สร้ำงวัดชลประทำนรังสฤษดิ์ขึ้นใน พ.ศ. 2502 จึงได้อำรำธนำพระปัญญำนันทภิกขุมำ เป็นเจ้ำอำวำสใน พ.ศ. 2503 ด้วยวิธีกำรสอน ธรรมะแนวใหม่ของท่ำนจำกเคยนั่งเทศนำ บนธรรมำสน์ถือใบลำนมำเป็นกำรยืนพูด ปำกเปล่ำต่อสำธำรณชนพร้อมยกตัวอย่ำง เหตุผลร่วมสมัยทันต่อเหตุกำรณ์ฟังแล้ว เข้ำใจง่ำยจึงสำมำรถเข้ำถึงคนได้ทุกชนชั้น และดึงดูดให้ประชำชนหันเข้ำหำธรรมะได้ เป็นอย่ำงมำก หลวงพ่อเป็นพระสงฆ์รูปแรกที่ กล้ำปฏิรูปพิธีกรรมทำงศำสนำของชำวไทยที่ ประกอบพิธีกรรมหรูหรำฟุ่มเฟือยให้ประหยัด มีประโยชน์และเรียบง่ำย เช่น กำรจัดงำน ฌำปนกิจศพที่วัดชลประทำนรังสฤษดิ์มีเพียง กำรบรรยำยธรรม ไม่มีเลี้ยงอำหำร ไม่มีกำร แสดงมหรสพ และงดพวงหรีด ดังนั้นหลวงพ่อ จึงได้รับกำรขนำนนำมว่ำ “ผู้ปฏิรูปพิธีกรรม ของชำวพุทธไทย” ที่วัดแห่งนี้สงบร่มรื่นและ กว้ำงขวำงมีลำนไผ่อเนกประสงค์ส�ำหรับให้ พุทธศำสนิกชนเข้ำร่วมประกอบพิธีกรรมทำง ศำสนำ ตลอดจนฟังเทปพระธรรมเทศนำจำก หลวงพ่อปัญญำนันทภิกขุ แต่เดิมเป็นประจ�ำ ทุกวันอำทิตย์ตั้งแต่เวลำ 09.00 น. และใน วันส�ำคัญทำงพระพุทธศำสนำก็จะมีกำร สวดมนต์บรรยำยปำฐกถำธรรมพร้อมถวำย เพลพระสงฆ์ที่ลำนหินโค้ง ปัจจุบันวัดแห่งนี้ มีพระมหำเจริญสุทฺธิญำณเมธี ป.ธ.7 รักษำ กำรเจ้ำอำวำสหลังจำกที่หลวงพ่อปัญญำ นันทภิกขุมรณภำพเมื่อวันที่ 10 ตุลำคม พ.ศ. 2550 ด้วยอำกำรปอดอักเสบและไตวำย ที่โรง พยำบำลศิริรำชสิริอำยุรวม 96 ปี เปิดให้เข้ำ ชมทุกวันตั้งแต่เวลำ 8.00-16.30 น. Nonthaburi คู่มือนนทบุรี
46 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 วัดปรางค์หลวง วัดปรางค์หลวง เป็น วัดรำษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ำยมหำ นิกำย ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 1 บ้ำนปรำงค์ หลวง ต�ำบลบำงม่วง อ�ำเภอบำงใหญ่ จังหวัดนนทบุรี วัดมีกำรจัดงำน นมัสกำรและปิดทองประจ�ำปีในเดือน มิถุนำยน นับเป็นวัดเก่ำแก่ที่สุดในเขต กรุงเทพมหำนครและปริมณฑล วัดปรำงค์หลวงสร้ำงขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1890 อีกแหล่งข้อมูลระบุสร้ำง ในปี พ.ศ. 1908 ในรัชสมัยสมเด็จ พระรำมำธิบดีที่ 1 (พระเจ้ำอู่ทอง) ผู้สถำปนำกรุงศรีอยุธยำ ไม่แน่ชัด ว่ำใครสร้ำงอำจเป็นกษัตริย์หรือผู้มี บรรดำศักดิ์ เดิมชื่อว่ำ วัดหลวง เชื่อ ว่ำพระเจ้ำอู่ทองได้อพยพผู้คนหนีโรค ระบำดมำประทับอยู่ที่บริเวณนี้ ก่อนที่ จะกลับไปตั้งรำชธำนีที่กรุงศรีอยุธยำ จนในสมัยสมเด็จพระมหำสมณเจ้ำ กรมพระยำวชิรญำณวโรรส และเปลี่ยน ชื่อมำเป็น “วัดปรางค์หลวง” สันนิษฐำน ว่ำสร้ำงพระปรำงค์ขึ้นพร้อมวัด พระ ปรำงค์ตั้งอยู่ระหว่ำงพระอุโบสถกับ พระวิหำรน้อย มีลักษณะก่ออิฐสอ ดินยอดเจ็ดชั้น ย่อมุมไม้สิบ ประดับ ลำยปูนปั้น เรือนธำตุมีซุ้มจรน�ำทั้ง 4 ทิศ ประดิษฐำนพระพุทธรูปยืน ปำงอุ้มบำตร องค์พระปรำงค์มีสภำพ ช�ำรุดมำก ปัจจุบันพระปรำงค์องค์นี้มี ลักษณะเอนอันเนื่องมำจำกดินทรุด[1] มีกำรขุดเจำะกลำงเรือนธำตุเห็นเป็นก รุอยู่ภำยในแต่ไม่มีช่องทำงขึ้นสู่ยอด ผนังเรือนธำตุเป็นผนังทึบไม่มีประตู ฐำนมองไม่เห็นสภำพเดิม พระพุทธรูปประธำนในพระอุโบสถ หลังเก่ำ นำม หลวงพ่ออู่ทอง ถูกท�ำลำย ไปเมื่อปี พ.ศ. 2536 ด้วยควำมไม่รู้ คุณค่ำ เป็นศิลปกรรมแบบอู่ทอง เป็น พระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง ปำงมำร วิชัย หน้ำตัก 9 คืบ ใบเสมำมีขนำดใหญ่ ท�ำจำกหินชนวน ไม่มีลวดลำย ปักลงบนดินเป็นลักษณะใบเสมำ ถูกท�ำลำยพร้อม อุโบสถเก่ำ ปัจจุบันเหลือ 1 ใบ พระวิหำรน้อย คำดว่ำสร้ำงขึ้นพร้อมพระปรำงค์ เป็นอำคำรไม้ก่ออิฐถือปูน จ�ำนวน 2 หลัง ช�ำรุดมำก
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 47 คู่มือนนทบุรี วัดเสาธงทอง วัดเสาธงทอง เป็นวัดรำษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ำยมหำนิกำย ตั้งอยู่ในหมู่ ที่ 6 บ้ำนเสำธงทอง ต�ำบลเกำะเกร็ด อ�ำเภอ ปำกเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และยังเป็นที่ตั้ง โรงเรียนประถมศึกษำแห่งแรกของอ�ำเภอ ปำกเกร็ดด้วย ประวัติ วัดเสำธงทองเดิมมีชื่อว่ำ วัดสวนหมาก เนื่องจำกเมื่อได้สร้ำงวัดขึ้น ต้นหมำกก็ถูก ตัดจนหมด วัดสร้ำงโดยชำวมอญซึ่งได้มำอยู่ ที่เกำะเกร็ดในสมัยกรุงศรีอยุธยำ ชำวมอญ เรียกว่ำ เพี้ยะอะล้าต แปลว่ำ วัดตะวันตก เพรำะอยู่ทำงทิศตะวันตกของเกำะเกร็ด ต่อ มำเจ้ำจอมมำรดำอัมพำ ในรัชกำลที่ 2 พร้อม ด้วยกรมหมื่นภูบำลบริรักษ์และกรมขุนวรจักร ธรำนุภำพได้ร่วมกันบูรณะวัดเมื่อช่วงปลำย สมัยพระบำทสมเด็จพระจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว และได้เปลี่ยนชื่อวัดมำเป็น “วัดเสาธงทอง” เนื่องจำกได้สร้ำงเสำหงส์หลำยต้นปักเรียง รำยอยู่หน้ำวัด แต่ภำยหลังเสำหงส์เหล่ำนี้ ช�ำรุด พระอุดมญำณมุนี อดีตเจ้ำอำวำสจึง ให้รื้อถอนออก พ.ศ. 2440 พระบำทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัวเสด็จพระรำชด�ำเนิน มำประทับแรมที่วัดนี้ 1 คืน และเสด็จนมัสกำร พระประธำนในอุโบสถ จำกนั้นทอดพระเนตร กำรปั้นโอ่งปั้นอ่ำงที่โรงปั้นโอ่ง หลังจำกนั้นยัง กลับมำถวำยผ้ำพระกฐินที่วัดนี้อีกครั้ง อาคารเสนาสนะ เจดีย์มีลักษณะย่อมุมไม้สิบสองขนำด ใหญ่ ถือเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเขตอ�ำเภอ ปำกเกร็ด มีเจดีย์บริวำร 2 องค์ ล้อมรอบอีก 2 ชั้น ด้ำนข้ำงโบสถ์มีเจดีย์องค์ใหญ่อีก 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังกลมอีกองค์หนึ่ง มีรูปแปลกมีฐำนเหลี่ยม ภำยในโบสถ์มีกำร เขียนลำยทองกรวยเชิง พระประธำนเป็นพระ ปำงมำรวิชัย ปูนปั้น ในวัดมีศำลสองกุมำรผม จุก และศำลเจ้ำแม่ตะเคียน Nonthaburi คู่มือนนทบุรี
48 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 วัดปรมัยยิกาวาส วัดปรมัยยิกาวาส เป็นพระอารามหลวงชันโท ชนิดวรวิหาร ตั ้ ้ งในหมู่ที่ 7 บ้านโอ่งอ่าง ต�าบลเกาะเกร็ด อ�าเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 49 Nonthaburi คู่มือนนทบุรี วัดปรมัยยิกำวำสเป็นวัดโบรำณ น่ำจะสร้ำงหลังจำกพระเจ้ำท้ำยสระ โปรดให้ขุดคลอง เมื่อ พ.ศ. 2264 ชำว เรือเรียก วัดปำกอ่ำว จนปี พ.ศ. 2307 พม่ำบุกยึดเมืองนนทบุรี กลำยเป็นวัด ร้ำงเมื่อปี พ.ศ. 2317 ชำวมอญที่อพยพ มำในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ำตำกสิน มหำรำชได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ คน มอญเรียกว่ำ “เภี่ยมุเกี๊ยะเติ้ง” แปลว่ำ วัดแหลม (ที่ยื่นไปในน�้ำ) ในปี พ.ศ. 2417 พระบำทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว เสด็จ พระรำชด�ำเนินทอดกฐินวัดมอญ 4 วัด ได้แก่ วัดปากอ่าว วัดรามัญ (วัดเกาะ พญาเจ่ง) วัดบางพัง และวัดสนาม (สนามเหนือ) ต่อมำทรงเห็นว่ำวัดปำก อ่ำวทรุดโทรมมำก จึงโปรดเกล้ำฯ ให้ ปฏิสังขรณ์วัดใหม่ทั้งวัดโดยรักษำรูป แบบมอญไว้ เพื่อถวำยเป็นพระรำชกุศล สนองพระคุณพระเจ้ำบรมมหัยยิกำ เธอ กรมสมเด็จพระสุดำรัตนรำชประยูร ผู้ทรงอภิบำลพระองค์มำแต่ทรงพระ เยำว์ และได้พระรำชทำนนำมวัดว่ำ วัดปรมัยยิกาวาส ซึ่งมีควำมหมำยว่ำ “วัดของพระบรมอัยยิกา” สิ่งส�ำคัญภำยในวัดมีพระอุโบสถ ที่มีภำพจิตรกรรมฝำผนังแบบไทย ประยุกต์ บำนประตูหน้ำต่ำงประดับ ลำยปูนปั้นเขียนด้วยสี ก�ำแพงแก้วรอบ พระอุโบสถมีลวดลำยที่สวยงำม เป็น ก�ำแพงเหล็กอย่ำงดีท�ำมำจำกยุโรป อีกทั้งด้ำนหลังพระอุโบสถมีพระเจดีย์ รูปทรงแบบมอญซึ่งพระบำทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัวได้เสด็จ พระรำชด�ำเนินมำทรงบรรจุพระบรม สำรีริกธำตุที่เจดีย์นี้ เมื่อปี พ.ศ. 2427 และใกล้กันนั้นมีพระวิหำรซึ่งเป็นที่ ประดิษฐำนพระพุทธไสยำสน์ขนำด ใหญ่เป็นที่สำมในอ�ำเภอปำกเกร็ด ส่วน ด้ำนหน้ำพระวิหำรเป็นที่ประดิษฐำน พระพุทธรูปหินอ่อน ซึ่งพระปฏิมำกร ซำนซิวซูนทูลเกล้ำฯ ถวำยพระบำท สมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว และมี “พระนนทมุนินท์” เป็นพระพุทธ รูปปำงขัดสมำธิเพชร หน้ำตักกว้ำง 1 เมตร สูง 1.65 เมตร หล่อด้วยโลหะ พระ ศำสนโสภณ (อ่อน) เจ้ำคณะมณฑล กรุงเทพสร้ำงเป็นพระพุทธรูปประจ�ำ เมืองนนทบุรี พระยำรำชสงครำมเป็น ผู้อัญเชิญมำประดิษฐำนไว้ด้ำนใต้พระ วิหำรพระพุทธไสยำสน์ วัดปรมัยยิกำวำสวรวิหำร มี ประเพณีของเมืองสืบมำว่ำ เมื่อผู้ว่ำ รำชกำรจังหวัดนนทบุรีย้ำยมำด�ำรง ต�ำแหน่งใหม่ ได้จัดพิธีรับอย่ำงเป็น ทำงกำรพร้อมมีพิธีนมัสกำรพระพุทธ รูปประจ�ำเมืองนนทบุรีที่วัดแห่งนี้ สร้ำงขึ้นในสมัยพระบำทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว เพื่อเป็น พระพุทธรูปประจ�ำจังหวัดนนทบุรี ประดิษฐำนอยู่ในตู้กระจก ใต้พำไล ด้ำนหลังพระวิหำรแห่งนี้ด้วย วัดมอญ เก่ำแก่แห่งนี้มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงำ มำกมำย ทั้งยังมีม้ำนั่งส�ำหรับชม ทัศนียภำพอันสวยงำมริมเกำะ นับเป็น วัดส�ำคัญวัดหนึ่งของเกำะเกร็ด
50 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566 ตลาดน�า ตลาดไนท์ ตลาดไหนๆ ก็มีแต่ของอร่อย เกาะ เกร็ด 50 วารสารเพื่อการติดต่อสื่อสารท่องเที่ยวและการลงทุน ประจำาปี 2566