The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Prompat Sonsomnuk, 2023-11-22 21:32:26

ข้อมูลโรคปลา(1)

ข้อมูลโรคปลา(1)

โรคจุดขาว ลักษณะอาการ มีจุดเล็กๆสีขาวขุ่นกระจายอยู่ตามล าตัวและครีบต่างๆ ครีบปลาจะห่อ ไม่เบ่งบานเหมือนปกติ สาเหตุ ตัวอ่อนของโปรโตซัว ที่ชื่อว่า Ichthyophthirius multifilis หรือ “อิ๊ค” เป็นโรคที่เกิดขึ้นเสมอในช่วงที่อุณหภูมิน ้า เปลี่ยน จะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิน ้าต ่า มักเกิดกับปลาที่มีเกล็ด วิธีการรักษา 1. เปลี่ยนถ่ายน ้าออก 50% โดยดูดตะกอนต่างๆและเศษอาหารออกให้มากที่สุด 2. ยาที่ใช้ได้ผลกับโรคชนิดนี้มักจะมีส่วนผสมของ “มาลาไคท์ กรีน(Malachite Green) และฟอร์มาลีน” ***ควรให้ยาเป็นเวลาติดต่อกันประมาณ 3-4 วัน และเว้น 3-4 วัน รวมแล้วเป็นเวลาประมาณ 12-16 วัน มิฉะนั้นเชื้อ โรคก็จะกลับมาได้อีก 3. ใส่เกลือ 3 กรัม/ลิตร 4. เป็นโรคติดต่อที่ติดกันได้ง่าย อุปกรณ์ที่ใช้กับตู้ปลาที่เป็นโรคนี้ควรท าความสะอาดทั้งหมด ไม่ควรน าไปใช้ร่วมกับตู้ อื่น 5. ลดหรืองดอาหารระหว่างการรักษา ขึ้นอยู่กับร่างกายของตัวปลา ถ้าปลาไม่ยอมกินอาหาร ให้งดให้อาหาร เพราะ เศษอาหารท าให้น ้าเน่าได้ง่าย ท าให้รักษาได้ยากกว่าเดิม


โรคครีบ-หาง เปื่อย ลักษณะอาการ บริเวณครีบ มีลักษณะเปื่อยยุ่ย มีขุยสีขาว ครีบกร่อนลงเรื่อยๆ มีอาการตกเลือดร่วมด้วย สาเหตุ สาเหตุจากปรสิตเซลเดียวมีชื่อว่า เททราไฮมีนา(Terahymena sp.) สามารถผลิตน ้าย่อยโปรตีน ที่มีคุณสมบัติ ท าลายเนื้อเยื่อปลา มักจะเกิดเมื่อน ้ามีคุณภาพแย่ หรือปลาภูมติตกจากการเดินทาง หรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ อย่างกระทันหันอย่างเช่น ฝนตก วิธีรักษา 1.หากเป็นระยะแรก การเปื่อยยังอยู่แค่ปลายครีบ ให้เปลี่ยนน ้า 50% ใส่เกลือ 5 กรัมต่อน ้า 1 ลิตร และสังเกตว่าขุยสีขาว หลุดร่อนออกไปหรือไม่ถ้าหลุดแปลว่าวิธีนี้ได้ผล ให้ท าซ ้ากระบวนการนี้อย่างน้อย 3 วัน หลังจากนั้นให้ลดปริมาณเกลือลง ให้อยู่ที่ความเค็ม 0.1-0.3% Salnity 2.หากเป็นหนัก มีการกินเข้าให้ใช้วิธีที่ 1 ร่วมกับกสรใส้ยาเหลือง


เห็บปลา อาการ ปลาว่ายเอาล าตัวถูกับพื้นตู้ สังเกตที่ตัวปลาเห็นมีตัวอะไรเกาะลักษณะดังภาพ หากทิ้งไว้นานปลาจะเริ่มมีอาการ เปื่อยร่วมด้วย และตายในที่สุด สาเหตุ มีปรสิตติดมากับปลาใหม่ หากไม่ได้กักโรคก่อน ก็สามารถแพร่ไปยังปลาเก่าได้ หากใช้น ้าบ่อก็อาจจะมาจากตรงนั้น ได้เช่นกัน เบื้องต้นหากเป็นไปได้แนะน าให้แกะเห็บออกจากตัวปลาก่อน ถ้ามีปริมาณไม่เยอะ 1.ใช้ยาก าจัดปรสิตปลา 2.เติมเกลือ 3-5กรัม/ลิตร เพื่อลดการแพร่กระจายของตัวอ่อนเห็บ และ แบคทีเรียที่ท าให้ปลาเปื่อยกระจายไปยังตัว อื่นๆ 3.ใส่ยาเหลือง เพื่อฆ่าเชื้อโรคและรักษาแผล 4.ถ่ายน ้า 50% อย่างน้อย 3 วันติดต่อกัน ใส่ยาเหลืองและรักษาระดับความเค็ม 5.ใส่ยาก าจัดปรสิตซ ้า ตามวันที่ฉลากระบุไว้


หนอนสมอ ล อาการ มีปริสิตหน้าตาคล้ายหนอนเกาะอยู่ตามตัวปลา ปลามีอาการละคายเคือง ผอมลงผิดปรกติ ไม่กินอาหาร ในบางตัวที่ มีการติดเชิ้อแบคทีเรียจากแผลด้วย จะมีครีบแข็ง ว่ายแข็ง สาเหตุ มีปรสิตติดมากับปลาใหม่ หากไม่ได้กักโรคก่อน ก็สามารถแพร่ไปยังปลาเก่าได้ วิธีรักษา หากเป็นไปได้ให้ดึงหนอนสมอออกจากตัวปลาก่อน 1.ใช้ยาก าจัดปรสิตปลา 2.เติมเกลือ 3-5กรัม/ลิตร เพื่อลดการแพร่กระจายของตัวอ่อนเห็บ และ แบคทีเรียที่ท าให้ปลาเปื่อยกระจายไปยังตัว อื่นๆ 3.ใส่ยาเหลือง เพื่อฆ่าเชื้อโรคและรักษาแผล ในรายที่อาการหนักสามารถใช้ยาฆ่าเชื้อ ร่วมด้วยได้ 4.ถ่ายน ้า 50% อย่างน้อย 3 วันติดต่อกัน ใส่ยาเหลืองและรักษาระดับความเค็ม 5.ใส่ยาก าจัดปรสิตซ ้า ตามวันที่ฉลากระบุไว้


เชื้อรา อาการ มีขุยฟู หมือนส าลีน อยู่ตามล าตัวปลา อีกกรณหนึ่งที่มีลักษระคล้ายกันแต่เกิดจาก โปรโตซัว ถ้ายกปลาขึ้นมาจากน ้าแล้วขุยยุบคือเชิ้อรา ถ้าฟูเหมือนเดิมคือโปรโตซัว สาเหตุ ปลามีแผล และน ้าที่คุณภาพแย่ ท าให้สปอร์หรือเส้นใยขอเชื้อราที่ก าลังหาอาหารในที่นี้คือแผลปลา เข้าโจมตีตัวปลา การรักษา 1.ใส่เกลือ 3 กรัม/ลิตร สังเกตอาการ 5-30 นาที เชื้อราจะหลุดออกไปจากตัวปลา 2.ใช้มาลาไคท์กรีนใส่ลงไปในน ้า ถ้าแผลไม่ใหญ่สามารถป้ายลงที่แผลได้เลย 3.ท าการเปลี่ยนน ้า และรักษาความเค็มรวมถึงใส่มาลาไคท์กรีนติดต่อกันสม ่าเสมออย่างน้อย 3-5 วัน


โรคเกล็ดพอง อาการ ปลามีลักษณะเกล็ดกางออก เหมือนคนเวลาขนลุก ตัวบวมบางทีมีอาการตาโปนร่วมด้วย โรคเกล็ดพองเป็น “ผลลัพ” ของการติดเชื้อภายในของปลา ซึ่งเกิดขึ้นได้หลายอวัยวะด้วยกัน สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อ เชื้อแบคทีเรีย และโปรโตรซัวบางชนิด เช่น Aeromonashydrophila และ Glossatella sp. มักจะเกิดจากความเครียดและสิ่งเเวดล้อมที่ท าให้ปลามีภาวะภูมิคุ้มกันต ่า น ้าคุณภาพแย่สะสม พบบ่อยในปลาทอง เพราะเป็นปลาที่ ขับของเสียมากกว่าปลาอื่นๆ วิธีรักษา 1.อย่างที่ได้พูดไปก่อนหน้านี้ว่าภาวะเกล็ดพองเป็น “ผลลัพ” ของการติดเชื้อในอวัยะภายใน อาจจะรวมถึงในกระแส เลือดด้วย จึงเป็นการยากที่จะรู้ว่า ต้องใช้ยาอะไรถึงจะรักษาได้อย่างตรงจุด แม้จะมีการบอกให้ใช้ยา ปฏิชีวนะ อย่าง เตตร้า ไซคลิน หรือ อ๊อกซี่เตตร้าไซคลีน ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ได้ผล 2.สิ่งที่พอจะท าได้คือ การรักษาคุณภาพน ้าให้สะอาด หากมีหลอด UV ช่วยฆ่าเชื้อในน ้าด้วยก็จะยิ่งดี เพราะถ้าปลา เป็นระยะแรกและไม่ได้รับเชื้อเพิ่ม มีโอกาสหายได้


โรคแผลหลุม(Ulcer Disease) อาการ มีแผลเป็นจุดสีแดงของปลา บวมแดงรอบๆแผล แผลมีความกว้างและลึกขึ้นเรื่องจนถึงชั้นเนื้อปลาหรือหากเลวร้าย มากอาจะถึงขั้นก้างปลาเลยทีเดียว สาเหตุ เกิดการจารติดเชื้อแบคทีเรียAeromonashydro-phila การรักษา 1.ใช้ยาอ๊อกซีเททราไซคลิน 10-30 มิลลิกันมต่อน ้า 1 ลิตรแช่นาน 1-2 วัน ท าติดต่อกัน 3-4 ครั้งตามที่ระบในฉลากยา 2.ระหว่างการรักษาควรรักษาคุณภาพน ้าห้สะอาดอยู่เสมอและใส่เกลือเพื่อป้องกันเชื้อโรคอื่นๆ เนื่องจากระหว่าง รักษาน ้าจะมีความขุ่นและเน่าเสียง่าย การรักษาใช้ระยะเวลานานขึ้นอยุ่กับความลึกของแผล หากไม่รักษาคุณภาพ น ้าให้ดีตลอดมีโอกาสกลับมาเป็นเพิ่มและอาจจะตายในที่สุด การป้องกัน กักโรคปลาใหม่ ทั้งนี้เราสามารถแช่ปลาใหม่ด้วยด่างทับทิมเพื่อท าการฆ่าเชื้อที่อาจจะติดมากับตัวปลาภาพนอกก่อน ช่วยลดโอกาสในการแพร่เชื้อ โรคเมือกขุ่น


อาการ อาการของโรคนี้คือ ปลาจะมีเมือกสีขาวปกคลุมล าตัวเป็นหย่อมๆ หรือขับเมือกออกมามาก จนกระทั่งได้กลิ่นคาว ครีบหุบ ว่ายน ้ากระเลือกกระสน บางครั้งจะลอยอยู่ตามผิวน ้าอาจจะสับสนกับโรคเชื้อรา แตกต่างตรงที่เชื้อรามีขุยเป็นขนชัดเจน ถ้าเอาปลาขึ้นจากน ้าขุยจะยุบ แต่หากโรคเมือกขุยจะไม่ยุบ สาเหตุ เกิดจากกลุ่มปรสิตเซลล์เดียวเช่น คอสเตีย (Costia sp.) (ซีโลโดเนลล์(Chilodonella sp.) ไซฟ์เดีย (Scyphidia sp.) และโบโดโมแนส (Bodomonas sp.) การป้องกันและรักษา : 1.ใช้ฟอร์มาลิน 25 - 40 ซีซี. ต่อน ้า 1,000 ลิตร แช่นาน 48 ชั่วโมง หรือ แช่ปลาในด่างทับทิม 1-3 กรัม ต่อน ้า 1,000 ลิตร นาน 24 ชั่วโมง หรือ 2.ใช้เกลือเม็ด 1-5 กิโลกรัม ต่อน ้า 1,000 ลิตร แช่นาน 48 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นกับขนาดของปลา โรคเห็บระฆัง


อาการ มีการเคลื่อนที่ไปมาจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งอยู่ตลอดเวลา ท าให้ปลาเกิดเป็นแผลขนาดเล็กตามผิว ตัวและเหงือก ที่มีขนาดเล็กมาก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 ไมครอน (Ghiraldelli et al., 2006) ไม่ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ก าลังขยายสูงจึงจะเห็นรูปร่างของเห็บระฆัง ชัดเจน สาเหตุ โรคนี้จะท าให้ปลาเกิดการระคายเคืองเนื่องจากปรสิตในกลุ่ม Trichodinids เป็นปรสิตเซลล์ เดียวรูปร่างคล้ายระฆังทรงเตี้ย มีแผ่นคล้ายใบมีดจ านวนมากอยู่กลางเซลล์ใช่ในการเกาะผิวตัวและ เหงือกปลา การป้องกันและรักษา 1.แช่ฟอร์มาลิน 30-50 ซีซี. ต่อน ้า 1,000 สิตร นาน 24 ชั่วโมงหรือใช้ยาฆ่าปรสิต 2.หากปลามีอาการเปื่อยร่วมด้วย ใช้ยาเหลืองเพื่อช่วยฆ่าเชื้อในน ้า โรคจุดแดง(VHS)


อาการ มีจุดช ้าเลือด บริเวณล าตัวเป็นหย่อมๆ บางคนมักสับสนกับภาวะตกเลือด ซึ่งจะมีความคล้ายกัน ตรงที่ตกอาการตก เลือดจะ ปลาจะมีผิวหนังที่แดง แต่เป็นในลักษณะของเส้นเลือดใต้ผิวหนังมีการขยายตัวมากจนเห็นได้ชัด เหมือน เวลาเราขยี้ตาแล้วตาแดง ส่วนจุดแดงจะเกิดเป็นกลุ่มๆ ไม่ได้แดงทั้งตัว สาเหตุ ติดเชื้อไวรัสร้ายแรงที่เรียกว่า Viral hemorrhagic septicemia virus (VHSV หรือ VHSv) การป้องกันและรักษา 1.ยังไม่มีวธีรักษาที่ได้ผลชัดเจน แต่สามารถป้องกันการแพร่กระจายด้วยการแยกปลาที่เป็นโรคออกจากที่เลี้ยง และติด UV C เพื่อช่วยในการฆ่าเชื้อในน ้า 2.ใช้ ฟอมาลีน ด่างทับทิม หรือ K31 เพื่อฆ่าเชื้อที่ยังอาจหลงเหลือยู่น ้า เพื่อป้องกันเชื้อแพร่กระจาย โรคปรสิตปลิงใส


อาการ มีอาการว่ายน ้าทุรนทุราย ลอยตัวตามผิวน ้า แยกฝูง ซึม ผอม กระพุ้งแก้มเปิดปิดเร็วกว่าปกติ อาจมีแผลขนาดเล็ก เกิดขึ้นทั่วล าตัว ถ้าเป็นการติดโรคในขั้นรุนแรง ปลาจะตายเป็นจ านวนมาก เนื่องจากบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการยึด เกาะของปลิงใส ท าให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราตามมา โรคนี้พบได้ในปลาเกือบทุกชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูกปลาที่เริ่มปล่อยลงเลี้ยงในบ่อดินใหม่ๆ ควรระวังโรคนี้ด้วยถ้าพบว่าปลาเป็นโรคในระยะแรกๆ สามารถรักษาให้ หายได้ สาเหตุ ถูกปรสิตประเภทปลิงใสโจมตี การป้องกันและรักษา : 1.ใช้ฟอร์มาลิน 25-50 ชีซี. ต่อน ้า1,000 ลิตร แช่นาน 24 ชั่วโมง 2.ใช้ยาฆ่าปรสิต 3. หากมีอาการเปื่อยร่วมด้วย ใช้ยาเหลืองเพื่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย


Click to View FlipBook Version