คู่มือแนะนำโรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ”
มหาวิทยาลัยบูรพา
Guidebook
ประวัติความเป็นมา
โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพาเปิดการเรียนการสอนระดับ
การศึกษาปฐมวัยตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2544 ปัจจุบันมีนักเรียนระดับปฐมวัยชั้นปีที่
1 , 2 และ 3 จำนวน 316 คน มีผู้บริหาร ครู และเจ้าหน้าที่ รวม 22 คน ฝ่ายปฐมวัยจัดการศึกษา
ครอบคลุมสำหรับเด็กอายุ 3 ปี ถึง 5 ปี มีจำนวน 3 ระดับ ระดับละ 4 ห้องเรียน จำนวน
30 - 35 คนต่อห้อง ซึ่งจะเป็นการจัดการศึกษาที่สอดคล้องตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
ของกระทรวงศึกษาธิการ
การจัดการศึกษาของฝ่ายปฐมวัย โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา
มุ่งเน้นตามปรัชญาการศึกษาปฐมวัย กล่าวคือ เน้นการพัฒนาเด็กอายุ 3 - 6 ปี บนพื้นฐาน
ของการอบรมเลี้ยงดู และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติ และพัฒนาการ
ของเด็กแต่ละคนตามศักยภาพภายใต้บริบทสังคม และวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ด้วยความรัก
ความเอื้ออาทร และความเข้าใจของทั้งผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เกิดคุณค่าต่อตนเอง
และสังคม หลักสูตรสถานศึกษาฝ่ายปฐมวัยของโรงเรียนได้จัดทำขึ้นโดยนำสภาพต่างๆ
ที่เป็นจุดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน สังคมทั้งทางด้านศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น
คุณลักษณะที่พึงประสงค์เพื่อการเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
มากำหนดเป็นสาระในการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้แก่เด็กปฐมวัย โดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
ที่เกี่ยวข้อง
สั ญ ลั ก ษ ณ์ ป ร ะ จำ โ ร ง เ รี ย น
สีทอง เป็นสีของโลหะสูงค่า หมายถึง คุณธรรม
สีเทา
สีเทาทอง เป็นสีของมันสมองมีความหมายแทนความเจริญทางสติปัญญา
หมายความว่า นักเรียนที่จบจากโรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ”
เป็นผู้กอปรด้วยสติปัญญาและคุณธรรม
1. ตราเป็นรูปวงกลม ตรงกลางเป็นรูปเลข 9 หมายถึง รัชสมัยของ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9
2. มีกนกเปลวเพลิงล้อมรอบ หมายถึง ความรุ่งโรจน์และรุ่งเรืองรัศมี
ประกอบ 8 แฉก
3. ด้านล่างเป็นเส้นโค้ง หมายถึง ความเคลื่อนไหวและพัฒนาไม่สิ้นสุด
วิสัยทัศน์
ต้นแบบหลักสูตรแห่งการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมที่เท่าทันต่อการ
เปลี่ยนแปลงของโลก สู่ความเป็นผู้นำ ก้าวล้ำความคิด ผลิต
นวัตกรรม นำสู่สากล
เอกลักษณ์ของโรงเรียน
สังคมแห่งการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม โดยใช้กิจกรรม
และกระบวนการวิจัยเป็นฐาน
อัตลักษณ์ของนักเรียน
• เรียนรู้อย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม มีแนวคิดแบบ
นวัตกร
ต้นไม้ประจำโรงเรียน
ต้นราชพฤกษ์
ภารกิจปฐมวัย
ST.BUU EARLYCHILDHOOD
1. จัดประสบการณ์ และสภาพแวดล้อมอย่างเหมาะสมและปลอดภัย
2. ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม และความมีระเบียบวินัย
3. ส่งเสริมให้รักสิ่งแวดล้อมภูมิปัญญาท้องถิ่น และรู้จักพอเพียง
4. ปลูกฝังการช่วยเหลือ และแบ่งปัน
5. ส่งเสริมพัฒนาการ หรือความสามารถตามวัย
6. ฝึกการใช้ภาษาให้ถูกต้องตามวัย
7. พัฒนาความคิดสร้างสรรค์
8. ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ฝึกสุขนิสัยที่ดี และเอาใจใส่ดูแลสุขภาพ
นักเรียน
9. สนับสนุนการเรียนรู้สู่ความเป็นสากล และการเป็นพลโลก
10. เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดประสบการณ์
กิ จ ก ร ร ม ป ร ะ จำ วั น
เวลา กิ จ ก ร ร ม
07.15-08.00น. นักเรียนมาโรงเรียน
08.15-08.15น. เคารพธงชาติกิจกรรมยามเช้า
08.15-08.30น. ดื่มนม
08.30-11.00น. กิจกรรมการเรียนการสอน
แ บ บ บู ร ณ า ก า ร
11.00-12.00น. รับประทานอาหารกลางวัน /
แปรงฟั น / เปลี่ยนชุดนอน
12.00-14.00น. นอนหลับพั กผ่อน
14.00-14.30น. ตื่นนอน / เปลี่ยนชุด /
รั บ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร ว่ า ง
14.30-15.20น. กิจกรรมเสรี / เกมการศึ กษา
15.20-15.30น. เตรียมตัวกลับบ้าน
แนวทางการจัด
ประสบการณ์ของ
ฝ่ายปฐมวัย
1. เป็นการจัดประสบการณ์ที่สอดคล้องกับจิตวิทยาพัฒนาการ คือ เหมาะสมกับเด็กอายุ 3 ปี 4 ปี
และ 5 ปี และสอดคล้องกับระดับพัฒนาการของเด็กแต่ละคน เพื่ อให้เด็กทุกคนได้พัฒนา
เต็มตามศักยภาพของตนเอง
2. โดยให้เด็กได้ลงมือกระทำเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้เคลื่ อนไหว สำรวจ เล่น สังเกต
สืบค้น ทดลองและคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง
3. จัดประสบการณ์ในรูปแบบของการบูรณาการทั้งทักษะ และสาระการเรียนรู้
4. จัดให้เด็กได้ฝึกคิด วางแผน ตัดสินใจ ลงมือกระทำ และนำเสนอความคิดโดยมีครูเป็นผู้
สนับสนุน อำนวยความสะดวก และเรียนรู้ร่วมกับเด็ก
5. ฝึกการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่ นทั้งที่อายุเท่ากัน และที่อายุมากกว่าและน้อยกว่า รวมทั้งผู้ใหญ่
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้ อต่อการเรียนรู้ในบรรยากาศที่อบอุ่น มีความสุข เรียนรู้การทำ
กิจกรรมแบบร่วมมือในลักษณะต่างๆ กัน
6. เรียนรู้จากสื่ อ และแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย
7. ส่งเสริมลักษณะนิสัยที่ดี และทักษะการใช้ชีวิตประจำวันตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม
ให้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างต่อเนื่ องสม่ำเสมอ
8. จัดประสบการณ์ทั้งในลักษณะที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาพจริง
โดยไม่ได้คาดการณ์ไว้
9. เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดประสบการณ์ทั้งการวางแผน
การสนับสนุนสื่ อการสอน การจัดประสบการณ์ให้แก่เด็ก การเข้าร่วมกิจกรรมหรือโครงการ
และการประเมินพัฒนาการ
10. รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการ และการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคลนำข้อมูลที่รวบรวมได้
มาวิเคราะห์และนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและการวิจัยในชั้นเรียน
11. กำหนดระยะเวลาในการจัดกิจกรรมแต่ละกิจกรรมให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก ยืดหยุ่นตามความ
ต้องการและความสนใจของเด็ก เช่น เด็กอายุ 3 ปี มีช่วงความสนใจประมาณ 8 นาที เด็กอายุ
4 ปี มีช่วงความสนใจประมาณ 12 นาทีและเด็กอายุ 5 ปี มีช่วงความสนใจประมาณ 15 นาที
การจัดกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิด ทั้งในกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ไม่ควรใช้เวลาต่อเนื่ องนานเกิน
กว่า 20 นาที
12. มีการจัดกิจกรรมที่เด็กมีอิสระเลือกเล่นอย่างเสรี เช่น เล่นตามมุม เล่นกลางแจ้ง
13. มีการจัดกิจกรรมอย่างสมดุลระหว่างกิจกรรมในห้องเรียนและนอกห้องเรียน กิจกรรมที่ใช้
กล้ามเนื้ อใหญ่และกล้ามเนื้ อเล็ก กิจกรรมที่เป็นกิจกรรมรายบุคคล กิจกรรมกลุ่มย่อย และ
กิจกรรมกลุ่มใหญ่ กิจกรรมที่เด็กเป็นผู้ริเริ่มและครูเป็นผู้ริเริ่ม กิจกรรมที่ใช้กำลังและกิจกรรม
ที่ไม่ใช้กำลัง รวมทั้งกิจกรรมที่ต้องออกกำลังกายและกิจกรรมที่ไม่ต้องออกกำลังกายมากนัก
เพื่ อเด็กจะได้ไม่เหนื่ อยเกินไป จัดกิจกรรมตามแนวการสอนมอนเตสซอรี่ โดยจัดเตรียม
สิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์ การสอนต่างๆ ให้แก่เด็กปฐมวัยและนำวิธีการสอน 3 ขั้นตอน
ของการสอนแบบมอนเตสซอรี่ ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้สอนความคิดรวบยอดใหม่ด้วยการทำซ้ำ
ใช้กับการสาธิตขั้นต้น ถ้าเด็กไม่เข้าใจขั้นตอน
14. จัดการเรียนรู้ในรูปแบบโครงงานในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย
15. จัดการเรียนรู้การใช้ภาษาที่สื่ อความหมายกับเด็ก ด้านการพู ด การฟัง การอ่าน การเขียน
มีการจัดสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยภาษาที่สื่ อความหมาย และจะต้องจัดสื่ อการเรียนรู้ให้เด็ก
ได้เรียนรู้ภาษาผ่านกระบวนการเล่นอย่างเป็นธรรมชาติ
โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา มีการจัดอย่างหลากหลายตามแนวการจัด
ประสบการณ์ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุ ทธศักราช 2560 และได้มีการนำนวัตกรรมทางด้าน
การศึกษาปฐมวัยหลายลักษณะเข้ามาประยุกต์ใช้ในการจัดประสบการณ์โดยเน้นถึงพัฒนาการด้าน
ร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา และคำนึงถึงความสนใจ ความสามารถและสภาพแวดล้อม
ของเด็กเป็นสำคัญ
การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้
โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา ได้สร้างบรรยากาศการเรียนรู้
โดยมีการจัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาปฐมวัยอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงความสะอาด
ความปลอดภัย ความมีอิสระอย่างมีขอบเขตในการเล่น ความสะดวกในการทำกิจกรรม
ความพร้อมของอาคารสถานที่ สื่ อ แหล่งเรียนรู้และเครื่องเล่นจะช่วย เสริมสร้างบรรยากาศ
ในการเรียนรู้ อีกทั้งได้จัดให้มีการจัดตกแต่งและตั้งชื่อห้องเรียนให้มีความน่าสนใจ ดังนี้
ห้องเรียนชั้นปฐมวัยปีที่ 1 มีจำนวน 4 ห้องเรียน ได้แก่
ชั้นปฐมวัยปีที่ 1/1 ห้องดาวทะเล
ชั้นปฐมวัยปีที่ 1/2 ห้องกุ้งมังกร
ชั้นปฐมวัยปีที่ 1/3 ห้องปะการัง (JIP)
ชั้นปฐมวัยปีที่ 1/4 ห้องแมงกะพรุน (JIP)
ห้องเรียนชั้นปฐมวัยปีที่ 2 มีจำนวน 4 ห้องเรียน ได้แก่
ชั้นปฐมวัยปีที่ 2/1 ห้องปลาการ์ตูน
ชั้นปฐมวัยปีที่ 2/2 ห้องม้าน้ำ
ชั้นปฐมวัยปีที่ 2/3 ห้องโลมา (JIP)
ชั้นปฐมวัยปีที่ 2/4 ห้องฉลาม (JIP)
ห้องเรียนชั้นปฐมวัยปีที่ 3 มีจำนวน 4 ห้องเรียน ได้แก่
ชั้นปฐมวัยปีที่ 3/1 ห้องปูทะเล
ชั้นปฐมวัยปีที่ 3/2 ห้องวาฬ
ชั้นปฐมวัยปีที่ 3/3 ห้องสิงโตทะเล (JIP)
ชั้นปฐมวัยปีที่ 3/4 ห้องหมึกยักษ์ (JIP)
การจัดสภาพแวดล้อมภายใน
ฝ่ายปฐมวัยได้มีการจัดสภาพแวดล้อ
มภายในห้องเรียนให้เหมาะสมกับการจัด
กิจกรรมตามหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย พ.ศ. 2560 ดังนี้
1. พื้นที่อำนวยความสะดวกเพื่อเด็กและครู ประกอบด้วย
1.1 แสดงผลงานของเด็ก ได้แก่ แผ่นป้ายฟิวเจอร์บอร์ดแสดงผลงานเด็กรายวัน และลิ้นชัก
เก็บผลงานเด็กเป็นรายบุคคล
1.2 ชั้นเก็บแฟ้มผลงานของเด็กรายบุคคล
1.3 ที่เก็บเครื่องใช้ส่วนตัวของเด็กได้แก่ ล็อคเกอร์เก็บที่นอนและกระเป๋าของเด็ก ล็อคเกอร์
เก็บชุดนอน ที่แขวนแก้ว ที่เก็บแปรงสีฟัน และที่วางนมกล่องของเด็กรายบุคคล
1.4 ที่เก็บเครื่องใช้ของผู้สอนได้แก่ ตู้เก็บเอกสาร ล็อคเกอร์เก็บอุปกรณ์ โต๊ะและเก้าอี้ครู
และคอมพิวเตอร์
1.5 ป้ายนิเทศ ได้แก่ ป้ายนิเทศชื่อหน่วยการเรียนรู้ ตารางเวรประจำวัน ตารางกิจกรรม
ประจำวัน เดือน 12 เดือน วัน 7 วัน สีต่างๆ ป้ายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ป้ายภาพกิจกรรม
รายเดือน ป้ายธนาคารคำ และป้ายคำคล้องจองตามหน่วยการเรียนรู้
2. พื้นที่ปฏิบัติกิจกรรมและการเคลื่ อนไหว
2.1 พื้ นที่ทำกิจกรรมกลุ่มใหญ่ได้แก่ พื้ นที่โล่งกลางห้องเรียนที่ครูกำหนดตำแหน่งไว้สำหรับ
เด็ก
2.2 พื้ นที่ทำกิจกรรมกลุ่มเล็ก ได้แก่ พื้ นที่เดียวกันกับพื้ นที่ที่ทำกิจกรรมกลุ่มใหญ่แต่ครูจะนำ
ป้ายประจำกลุ่มมาวางไว้ขณะปฏิบัติกิจกรรม
2.3 พื้ นที่ทำกิจกรรมรายบุคคล ได้แก่ พื้ นที่บริเวณที่ครูปูพื้ นยางไว้เป็นส่วนๆ และพื้ นที่ที่ครู
วางเบาะรองนั่งไว้
3. พื้นที่จัดมุมประสบการณ์ แต่ละห้องเรียนจะมีมุมต่างๆ ดังนี้
3.1 มุมหนังสือ เป็นมุมเงียบสงบสำหรับให้เด็กได้ดูรูปภาพ อ่านหนังสือนิทาน ฟังนิทาน เป็นมุม
ที่ครูจัดขึ้นเพื่ อให้เด็กได้คุ้นเคยกับตัวหนังสือ และได้ทำกิจกรรมสงบๆ ตามลำพัง
3.2 มุมบล็อก เป็นมุมที่จัดเก็บบล็อกไม้ที่มีขนาดและรูปทรงต่างๆ กัน เด็กสามารถนำมาเล่น
ต่อประกอบกันเป็นสิ่งต่างๆ ตามจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง
3.3 มุมบ้าน/มุมบทบาทสมมติ เป็นมุมที่จัดขึ้นเพื่ อให้เด็กมีโอกาสได้นำเอาประสบการณ์ที่ได้รับ
ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
3.4 มุมดนตรี เป็นมุมที่มีเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ วางไว้สำหรับให้เด็กทดลองใช้เพื่ อทำจังหวะ
ต่างๆ
3.5 มุมวิทยาศาสตร์ เป็นมุมเล่นที่ครูจัดรวบรวมสิ่งของต่างๆ หรือสิ่งที่มีในธรรมชาติมาให้เด็ก
ได้สำรวจ สังเกต ทดลอง ค้นพบด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
3.6 มุมคณิตศาสตร์ เป็นมุมที่ครูได้จัดรวบรวมสิ่งของ และอุปกรณ์ต่างๆ ทางด้าน
ค ณิ ต ศ า ส ต ร์สำ ห รับ ใ ห้เ ด็ ก ท ด ล อ ง ป ฏิ บั ติ ห รือ ฝึ ก ป ฏิ บั ติ ท า ง ด้ า น ค ณิ ต ศ า ส ต ร์
3.7 มุมศิลปะ เป็นมุมสำหรับให้เด็กทำงานศิลปะ โดยมีผ้าพลาสติกหรือ กระดาษปูกันเปื้ อนก่อน
ทำงาน และจัดวางอุปกรณ์ทำงานศิลปะไว้บนโต๊ะ และจัดให้มีกระดานขาหยั่งสำหรับให้เด็กเขียนภาพ
ระบาย สีน้ำ
3.8 มุมเกมการศึกษา เป็นมุมสำหรับให้เด็กเล่นเกมการศึกษาต่างๆ ครูได้จัดวางเกมการศึกษา
ชนิดต่างๆ ให้เด็กเลือกเล่นได้อย่างเสรี
เนื่ องจากมีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 จึงทำให้ทางโรงเรียนมีการ
เปลี่ยนแปลง ไปตามสถานการณ์ ดังนั้นตามมุมต่างๆของห้องจึงงดเล่น และเตรียมอุปกรณ์
การเรียน ของเล่น และของใช้ส่วนตัวให้กับนักเรียนเป็นรายบุคคล และจัดที่นั่งเรียนโดยเว้นระยะห่าง
การจัดสภาพแวดล้อมนอกห้องเรียน
ฝ่ายปฐมวัยได้จัดสภาพแวดล้อมนอกห้องเรียน ดังนี้
1.แปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ ฝ่ายปฐมวัยได้จัดทำแปลงเกษตรตามแนวพระราชดำริของ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 สำหรับให้นักเรียนได้เรียนรู้
ทดลองปลูกพืชผักและทำนาข้าวเพื่ อการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
2. เครื่องเล่นสนามกลางแจ้งฝ่ายปฐมวัยได้ติดตั้งเครื่องเล่นสนามที่มีความมั่นคง
แข็งแรงไว้สำหรับให้นักเรียนได้ออกกำลังกลางแจ้งและวิ่งเล่นได้อย่างเพียงพอ
3. สนามหญ้า ฝ่ายปฐมวัยมีสนามหญ้าขนาดเหมาะสมกับจำนวนนักเรียน ทั้งด้านหน้าของ
อาคารเรียน ด้านข้างและด้านหลังอาคารเรียนโดยมีการดูแลรักษาสนามหญ้าอย่างดี
ตัดหญ้าให้เรียบร้อย และดูแลความปลอดภัยในบริเวณสนามหญ้าอย่างดี เพื่ อให้นักเรียน
สามารถวิ่งเล่นออกกำลังกายในสนามหญ้าได้ตลอดทั้งวัน และได้ใช้สนามหญ้าสำหรับทำ
กิจกรรมกลางแจ้งได้เป็นอย่างดียิ่ง
4. ห้องสมุด ทางโรงเรียนได้จัดห้องสมุดและจัดหาหนังสือที่เหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัย
ไว้ให้นักเรียนได้อ่านเป็นจำนวนมาก ภายในห้องสมุดจะมีที่นั่งที่เหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัย
ให้นักเรียนได้เข้ามานั่งอ่าน ที่ชั้น 2 อาคารห้องสมุดโรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ”
มหาวิทยาลัยบูรพา
5. ห้องฝึกเขียน-อ่าน สำหรับให้นักเรียนชั้นปฐมวัยปีที่ 3 ได้เข้ามาฝึกฝนและปรับพื้ นฐาน
ก่ อ น ขึ้ น ชั้น ร ะ ดั บ ป ร ะ ถ ม ศึ ก ษ า
6. นาฏศิลป์ / ดนตรีไทย จำนวน 1 ห้อง เพื่ อให้นักเรียนได้เรียนรู้พื้ นฐานการแสดงและ
การเล่นเครื่องดนตรีไทยอันเป็นศิลปวัฒนธรรมอันดีของไทย
7. ห้องดนตรีสากล จำนวน 1 ห้อง สำหรับให้นักเรียนได้เรียนรู้พื้ นฐานในการอ่านโน้ต
ดนตรี และเล่นเครื่องดนตรีสากลง่ายๆ ได้
8. สระว่ายน้ำ สำหรับจัดให้นักเรียนชั้นปฐมวัยปีที่ 3 ได้มีพื้ นฐานในการดำรงชีวิต โดยการ
เรียนว่ายน้ำเพื่ อส่งเสริมพัฒนาการทุกด้านและสามารถช่วยเหลือตนเองได้
9. โรงอาหาร เป็นโรงอาหารขนาดเหมาะสมกับจำนวนนักเรียนมีความสะอาด
ถูกสุขลักษณะ และถูกหลักอนามัยสำหรับให้นักเรียนได้ดื่ มนม รับประทานอาหารกลางวัน
และอาหารว่าง
10.ลานอเนกประสงค์อาคารใหม่ ฝ่ายปฐมวัยจัดให้มีลานเอนกประสงค์อาคารใหม่ มีเวที
เพื่ อให้นักเรียนได้แสดงออก และทำกิจกรรมวันสำคัญต่างๆ ร่วมกัน
สื่ อ แ ล ะ แ ห ล่ ง เ รี ย น รู้
โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา ได้จัดให้มีสื่อและแหล่งการเรียนรู้ดังนี้
1. สื่อประกอบการจัดกิจกรรม สื่อที่ใช้ประกอบการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย
ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ประกอบด้วยสื่อประเภท 2 มิติ ได้แก่
บัตรคำ บัตรภาพ ฯลฯ และสื่อประเภท 3 มิติ ได้แก่ ไม้บล็อก หุ่นจำลอง ฯลฯ ที่เป็นสื่อของจริง
สื่อธรรมชาติ สื่อที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก สื่อสะท้อนวัฒนธรรม สื่อที่ปลอดภัยต่อตัวเด็ก สื่อเพื่อพัฒนา
เด็กในด้านต่างๆ สื่อที่เอื้อให้เด็กเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าและสื่อที่มีอยู่ในท้องถิ่น
การใช้สื่อประกอบการจัดกิจกรรมควรเริ่มต้นจากสื่อของจริง ภาพถ่ายภาพโครงร่าง และ
สัญลักษณ์ตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตาม การใช้สื่อต้องเหมาะสมกับวัย วุฒิภาวะ ความแตกต่าง
ระหว่างบุคคล ความสนใจและความต้องการของเด็กแต่ละคนที่หลากหลายด้วยตัวอย่างสื่อ
ประกอบการจัดกิจกรรม ได้แก่
1.1 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ มีการใช้สื่อต่างๆ ได้แก่
1.1.1 เครื่องเคาะจังหวะ เช่น ฉิ่ง แทมบูรีน ฯลฯ
1.1.2 อุปกรณ์ประกอบการเคลื่อนไหว เช่น ห่วง ถุงทราย ริบบิ้น
1.2 กิจกรรมเสริมประสบการณ์หรือกิจกรรมในวงกลม มีการใช้สื่อต่างๆ ได้แก่
1.2.1 สื่อของจริงที่อยู่ใกล้ตัว สื่อจากธรรมชาติหรือวัสดุท้องถิ่นเช่น ต้นไม้ ใบไม้
1.2.2 สื่อที่จำลองขึ้น เช่น ลูกโลก ตุ๊กตาสัตว์
1.2.3 สื่อประเภทภาพ เช่น ภาพพลิก ภาพโปสเตอร์
1.2.4 สื่อเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ แผ่นซีดี แผ่นดีวีดี
1.3 กิจกรรมสร้างสรรค์ ได้แก่ สื่อที่เป็นวัสดุอุปกรณ์ในแต่ละกิจกรรมดังนี้
1.3.1 การวาดภาพและระบายสี ได้แก่ สีเทียนแท่งใหญ่ พู่กัน กระดาษ
ผ้ากันเปื้ อน 1.3.2 การเล่นกับสี ได้แก่ หลอด สีน้ำ แป้งเปียก ฯลฯ
1.3.3 การพิมพ์ภาพ ได้แก่ นิ้วมือ ใบไม้ ฯลฯ
1.3.4 การปั้ น ได้แก่ แป้งโดว์ แผ่นรองปั้ น ฯลฯ
1.3.5 การพับ ฉีก ตัด ปะ ได้แก่ กระดาษ กรรไกร กาวน้ำ ฯลฯ
1.3.6 การประดิษฐ์เศษวัสดุ ได้แก่ เศษวัสดุ เศษผ้า สี ฯลฯ
1.3.7 การร้อย ได้แก่ ลูกปัด หลอด ฯลฯ
1.3.8 การสาน ได้แก่ กระดาษ ใบตอง ฯลฯ
1.3.9 การเล่นพลาสติกสร้างสรรค์ ได้แก่ พลาสติกรูปทรงต่างๆ
1.3.10 การสร้างรูป ได้แก่ กระดานปักหมุด แป้นตะปู ฯลฯ
1.4 กิจกรรมเสรีหรือกิจกรรมการเล่นตามมุม ได้แก่ สื่อในมุมต่างๆ เช่น
1.4.1 มุมบทบาทสมมติ เช่น มุมบ้าน มีสื่อได้แก่ ของเล่นเครื่องใช้ในครัว
ของจริงหรือของจำลอง เช่น เตา หม้อ กระทะ ช้อนจาน ฯลฯ เครื่องเล่นตุ๊กตา เครื่องแต่งบ้าน
จำลอง เครื่องแต่งกายบุคคลอาชีพต่างๆ ของใช้ในบ้าน เช่น โทรศัพท์ เตารีด ฯลฯ มุมหมอ
มีสื่อได้แก่ เครื่องมือแพทย์จำลอง มุมร้านค้า มีสื่อได้แก่ ขวดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ฯลฯ
1.4.2 มุมบล็อก เช่น ไม้บล็อกหรือแท่งไม้ที่มีขนาดและรูปทรงต่างๆ
ของเล่นจำลอง ที่เก็บไม้บล็อก ฯลฯ
1.4.3 มุมหนังสือ เช่น หนังสือภาพนิทาน สมุดภาพ อุปกรณ์การอ่าน เช่น
หมอน เสื่อ โต๊ะ ฯลฯ
1.4.4 มุมวิทยาศาสตร์ เช่น วัสดุต่างๆ จากธรรมชาติ เครื่องมือเครื่องใช้
ในการสังเกต การทดลอง เช่น แว่นขยาย แม่เหล็ก ฯลฯ
1.5 กิจกรรมกลางแจ้ง มีการใช้สื่อต่างๆ ได้แก่
1.5.1 เครื่องเล่นสำหรับปีนป่าย ชิงช้า ฯลฯ
1.5.2 ที่เล่นทราย เครื่องเล่นทราย เครื่องตวง ฯลฯ
1.6 เกมการศึกษา ได้แก่ สื่อประกอบเกมการศึกษา เช่น
1.6.1 เกมจับคู่ ได้แก่ เกมจับคู่รูปร่างที่เหมือนกัน เกมจับคู่ภาพกับเงา
1.6.2 เกมภาพตัดต่อ ได้แก่ เกมภาพตัดต่อที่สัมพันธ์กับหน่วยการเรียนรู้ต่างๆ
1.6.3 เกมจัดหมวดหมู่ได้แก่ ภาพรูปทรงเรขาคณิต ภาพของใช้ในชีวิตประจำวัน
1.6.4 เกมโดมิโน ได้แก่ เกมโดมิโนภาพเหมือน เกมโดมิโนภาพสัมพันธ์
1.6.5 เกมเรียงลำดับได้แก่ เกมเรียงลำดับขนาด เกมเรียงลำดับภาพเหตุการณ์
2. สื่อจากแหล่งการเรียนรู้ที่มีอยู่อย่างหลากหลายในชุมชน
3.สื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยได้แก่ เครื่องโปรเจคเตอร์ คอมพิวเตอร์
เครื่องเล่นดีวีดี เครื่องขยายเสียง จอภาพ LED
การประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้
การประเมินพั ฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยของโรงเรียนสาธิต
“พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นกระบวนการต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของ
กิจกรรมปกติตามตารางกิจกรรมประจำวันและครอบคลุมพั ฒนาการของเด็กทุกด้าน
ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เพื่อนำผลมาใช้ในการ
พัฒนาการจัดประสบการณ์ และกิจกรรม ซึ่งจะส่งผลให้สามารถพัฒนาเด็กเต็มตาม
ศักยภาพของแต่ละคน การประเมินพัฒนาการ และการเรียนรู้มีการดำเนินการดังนี้
1. การประเมินพัฒนาการก่อนการจัดการเรียนรู้ เป็นการวัดและประเมินความรู้
พื้นฐานก่อนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย พ.ศ.2560
เพื่อศึกษาความรู้พื้นฐานและประสบการณ์เดิมของเด็กโดยใช้การสังเกต และการสนทนา
ซักถาม ความรู้และประสบการณ์เดิมของเด็กทั้งห้องแล้วนำมาวิเคราะห์เด็กเป็นรายบุคคล
ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาผู้เรียน ระหว่างการจัดการเรียนรู้ และการบรรลุตามมาตรฐาน
ตัวบ่งชี้ และสภาพพึงประสงค์ของหลักสูตร ครูปฐมวัยจะประเมินพัฒนาการก่อนการ
จัดการเรียนรู้ตามแบบประเมินพัฒนาการ ระหว่างการจัดการเรียนรู้ของฝ่ายปฐมวัย
โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา
2. การประเมินพัฒนาการระหว่างการจัดการเรียนรู้ เป็นการวัดและประเมินผล
การเรียนรู้ระหว่างการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย พ.ศ. 2560
โดยใช้การสังเกต สนทนา สัมภาษณ์ และตรวจผลงานในขณะที่เด็กปฏิบัติกิจกรรม
ประจำวัน และบันทึกไว้ในผลการจัดการเรียนรู้ของแต่ละหน่วยการจัดประสบการณ์
แล้วนำผลการวัดและประเมินมาวิเคราะห์ เพื่อพิจารณาปรับปรุงพัฒนาการของเด็ก
เป็นรายบุคคล รายกลุ่ม ทั้งชั้นเรียน รวมทั้งปรับปรุงวิธีการจัดประสบการณ์ และ
กิจกรรมการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ครูปฐมวัยจะประเมินพัฒนาการระหว่างการจัดการ
เรียนรู้ตามแบบประเมินพัฒนาการ ระหว่างการจัดการเรียนรู้ของฝ่ายปฐมวัย
โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา
3. การประเมินพัฒนาการหลังการจัดการเรียนรู้ เป็นการวัดประเมินพัฒนาการ
เด็กตามสภาพจริงทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา โดย
รวบรวมข้อมูลที่ได้จากการประเมินพัฒนาการระหว่างการจัดการเรียนรู้ การสังเกต
พฤติกรรมเด็กขณะเด็กทำกิจกรรมประจำวัน และพฤติกรรมที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
ที่ครูได้บันทึกรวบรวมไว้นำมาวิเคราะห์ สรุป และประเมินพัฒนาการของเด็กแต่ละคน
ตามมาตรฐานตัวบ่งชี้ และสภาพพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา
ระดับปฐมวัย พ.ศ. 2560 แล้วบันทึกลงในสมุดบันทึกพัฒนาการเด็กของครู และสมุด
ประจำตัวนักเรียน ภาคเรียนละ 1 ครั้ง และรายงานให้ผู้ปกครองทราบเมื่อสิ้นภาคเรียน
แนวทางการศึกษาต่อในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
1 โปรมแกรมปกติ
2 โปรมแกรมสองภาษา (JIP)(Junior International Program)
3 หลักสูตรการศึกษานานาชาติขั้นพื้นฐาน ( IEP)
( International Education Program)