รายงานโครงงานวชิ าชีพภูมทิ ศั น์
เร่อื ง
การออกแบบปรับปรงุ ภมู ทิ ัศน์ในพื้นทแี่ คบดว้ ยสวนแนวตั้ง
สาขาเทคโนโลยีภมู ิทศั น์ คณะสถาปตั ยกรรมศาสตรแ์ ละการออกแบบส่งิ แวดลอ้ ม
ช่อื โครงงาน โครงงานการออกแบบปรับปรงุ ภมู ิทศั นใ์ นพนื้ ท่แี คบดว้ ยสวนแนวตงั้
มหาวทิ ยาลัยแม่โจ้
ปีการศกึ ษา 2564
อนุมัติโครงงาน
ชอ่ื โครงงาน การออกแบบปรับปรุงภมู ิทัศนใ์ นพื้นที่แคบดว้ ยสวนแนวตั้ง
ชอื่ ผู้เขียน นางสาว พกิ ุลแก้ว ชยั สทิ ธ์ิ
สาขาวิชา เทคโนโลยีภมู ทิ ศั น์
คณะมหาวิทยาลยั คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบส่งิ แวดลอ้ ม
ปกี ารศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้
1/2564
ชอ่ื อาจารยท์ ่ีปรึกษา รองศาสตราจารยร์ มยช์ ลีรดา ดา่ นวันดี
ลงนาม .................................................
ชือ่ ผูเ้ ขียน นางสาว พิกุลแก้ว ชยั สิทธิ์
สาขาวิชา เทคโนโลยภี มู ทิ ัศน์
ปกี ารศึกษา 1/2564
บทคัดยอ่
โครงงานการออกแบบปรับปรุงภมู ิทัศน์ในพื้นที่แคบด้วยสวนแนวตัง้ dCondo Sign - Chiangmai: ดี
คอนโด ซายน์ – เชียงใหม่ ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่ - ลำปาง) ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้กับพื้นที่ที่มีจำกัดในเรื่องของขนาดพื้นที่แคบ เพื่อให้เกิดความผ่อนคลายแก่ผู้อยู่
อาศัยในพื้นที่ จึงเป็นที่มาของแนวความคิดในการออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สอดคล้องกับการทำกิจกรมมที่
เกดิ ข้ึนในพน้ื ท่ี เพอ่ื ใหพ้ น้ื ที่เกดิ การใชป้ ระโยชนไ์ ด้สูงสดุ ตามวตั ถุประสงคท์ ีต่ ง้ั ไว้
สรุปผลการศึกษาครั้งนี้พบว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ สรุปได้ตังนี้ 1)จากการศึกษาการ
ออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่แคบ ได้เป็นแนวทางในการจัดสวนแนวตั้งเป็นทางเลือกจากแบบแปลนที่
นำมาเป็นตัวอย่างกรณีศึกษา 2) ศึกษานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องในการออกแบบสวนแนวตั้ง และเพื่อให้สามารถ
จัดการพน้ื ท่ีให้เกิดประโยชนส์ ูงสุดทงั้ ยงั เป็นพ้นื ที่ผ่อนคลายส่วนตัวได้โดยท่ียงั สามารถทำกิจกรรมเดิมได้อยู่ 3)
การศึกษาพืชพรรณที่เหมาะสมกับพื้นที่พืชพรรณที่ใช้ได้มีการอ้างอิงและสืบค้นจากแหล่งข้อมูลที่สามารถ
เชื่อถือได้พบวา่ พืชพรรณท่ีเหมาะสมมากที่สดุ เป็นพืชพรรณประเภทตระกูลเฟิรน์ สับปะรดสี เศรษฐีเรือนนอก
ผีเสื้อราตรเี ขียว พรมกำมะหยี่ กลว้ ยไม้
คำสำคัญ : การออกแบบปรบั ปรุงภูมิทศั น,์ นวัตกรรม
กติ ติกรรมประกาศ
โครงงานการออกแบบปรับปรุงภูมิทศั นใ์ นพื้นที่แคบด้วยสวนแนวตัง้ dCondo Sign - Chiangmai: ดี
คอนโด ซายน์ – เชียงใหม่ ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่ - ลำปาง) ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เป็นโครงงานการออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์ที่ให้นักศึกษาได้ศึกษาค้นคว้าอย่างลึกซ้ึงเกี่ยวกับหัวข้อโครงงานท่ี
สนใจ และฝกึ ฝนการวิเคราะห์เตรียมความรู้และข้อมูลท่ีเกย่ี วข้องกับการจัดสวนแนวต้ังและพื้นท่ีโครงการหรือ
ข้อมลู อนื่ ๆทีเ่ ปน็ ปจั จยั สำคญั ในการออกแบบปรับปรุงภูมิท้ศน์ ซึ่งโครงการนส้ี ำเรจ็ ลุล่วงได้ด้วยความกรุณาจาก
รองศาสตราจารย์ รมย์ชลีรดา ด่านวันดี อาจารย์ที่ปรึกษาที่กรุณาให้คำปรึกษาแนะแนวทางที่ถูกต้อง
ช่วยเหลือทุกปัญหาในโครงงาน ตลอดจนการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ด้วยความละเอียดและใส่ใจสอนองค์
ความรแู้ ละตรวจแบบ ขอกราบขอบพระคณุ อย่างสูงไว้ ณ โอกาสน้ี
นอกจากนี้ขอบคุณเพื่อนมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่มีส่วนร่วมช่วยเหลือในทุกด้าน ขอขอบพระคุณ
มหาวิทยาลยั แมโ่ จ้ ตึกเรยี นภูมิทศั น์ทใี่ หส้ ถานที่ทำงาน และสดุ ทา้ ยขอบคุณตัวข้าพเจา้ เองท่ีมีความพยายามใน
การศึกษาหาความรคู้ รงั้ นี้ จนประสบความสำเร็จลุลว่ งไปดว้ ยดี
พิกลุ แก้ว ชยั สิทธ์ิ
1 ธนั วาคม 2564
เรอื่ ง สารบัญ ก
บทคดั ย่อ
กิตติกรรมประกาศ โครงงานการออกแบบปรับปรุงภมู ิทัศนใ์ นพื้นท่ีแคบดว้ ยสวนแนวต้งั หน้า
สารบญั บทนำ
สารบญั ภาพ หลักการและเหตุผล ก
โครงงานเร่อื ง วัตถปุ ระสงค์ ค
บทท่ี 1 สมมุตฐิ านของการศึกษาโครงงาน
ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะได้รับ 1
บทท่ี 2 การทบทวนวรรณกรรม 1
2.1 งานศกึ ษาเกยี่ วกบั การจดั สวนบนอาคาร 2
บทท่ี 3 2.2 ลกั ษณะสวนทมี่ ีพืน้ ทแี่ คบหรือพื้นท่จี ำกัดโดยแบ่งตามประเภทอาคาร 2
2.3 การจัดสวนแนวตัง้ 2
2.4 กรณศี ึกษา (Case Studies) 3
วธิ ีการศึกษาโครงงาน 3
3.1 ขอบเขตของการศึกษาโครงงาน 4
3.2 ขน้ั ตอนวธิ ีการดำเนินการศกึ ษาโครงงาน 5
3.3 วสั ดอุ ปุ กรณ์ เคร่ืองมือที่ใช้ 7
20
20
21
22
เร่อื ง สารบัญ (ตอ่ ) ข
บทที่ 4
ผลการศกึ ษาและการอภิปรายผล หน้า
บทที่ 5 4.1 งานวเิ คราะห์ข้อมูล 23
บรรณานกุ รรม 4.2 การสงั เคราะห์ (Site synthesis) 23
ภาคผนวก 4.3 ขนั้ ตอนการออกแบบทางเลอื ก (Type S1 และ Type 2B1) 32
ประวตั ผิ ู้ศึกษา 4.4 การอภปิ รายผล 32
5.1 สรปุ ผลการศึกษา 38
5.2 ขอ้ เสนอแนะ 39
40
41
42
45
สารบัญรปู ภาพ ค
เรือ่ ง หน้า
ภาพท่ี 1 ตึก Bosco Verticale ในมิลาน 8
ภาพที่ 2 ภาพการจัดสวนแนวตงั้ ”Sweet & Colorful Vertical Garden” 9
ภาพที่ 3 แสดงรูปด้านและไดอะแกรมของผลติ ภณั ฑแ์ บบกระถาง 10
ภาพท่ี 4 ตวั อยา่ งในการยดึ ติดโครงสร้างเหล็กเขา้ กบั กำแพงและเกี่ยวกระถางกบั โครงสร้างอีกที 10
ภาพที่ 5 ภาพแสดงโครงสรา้ งรปู แบบกระถางเดีย่ ว 11
ภาพท่ี 6 ภาพแสดงตวั อย่างการใชร้ ปู แบบกระถางเดีย่ ว 11
ภาพท่ี 7 ภาพแสดงโครงสร้างรปู แบบกระถางยาว 12
ภาพที่ 8 ภาพแสดงการใชร้ ูปแบบกระถางยาว 12
ภาพท่ี 9 ภาพแสดงโครงสรา้ งเหล็กรูปแบบกระถางเด่ยี ว 13
ภาพที่ 10 ภาพแสดงโครงสร้างเหล็กรูปแบบกระถางเดยี่ ว 13
ภาพท่ี 11 ภาพแสดงแผน่ แผง PlanterCell ® H2O-R Panel 14
ภาพที่ 12 ภาพแสดงโครงสร้างรปู แบบแผง 15
ภาพที่ 13 ภาพแสดงการใช้รูปแบบแผง 15
ภาพที่ 14 การทำสวนแนวต้งั ดว้ ยเหลก็ 16
ภาพท่ี 15 การทำสวนแนวตั้งด้วยเหลก็ 16
ภาพท่ี 16 การทำสวนแนวต้ังด้วยเคร่ืองใช้จากปนู 17
ภาพท่ี 17 การทำสวนแนวต้งั ด้วยการแขวนกระถาง 17
ภาพท่ี 18 การทำสวนแนวตง้ั ด้วยวัสดุเหลอื ใช้ 18
ภาพท่ี 19 แสดงท่ตี ้ังของจังหวดั เชียงใหม่ 23
สารบัญรูปภาพ (ต่อ) ง
เร่อื ง หน้า
ภาพที่ 20 แสดงที่ตั้งอำเภอเมืองเชียงใหม่ 24
ภาพท่ี 21 แสดงทตี่ ง้ั โครงการ 24
ภาพที่ 22 แสดงผงั แมบ่ ท dCondo Sign - Chiangmai: ดคี อนโด ซายน์ – เชยี งใหม่ 25
ภาพที่ 23 แสดงแปลน Type S1 25
ภาพที่ 24 แสดงแปลน Type 2B1 26
ภาพที่ 25 แสดงเส้นทางที่ 1 26
ภาพท่ี 26 แสดงเส้นทางท่ี 2 27
ภาพที่ 27 แสดงบริเวณใกล้เคียง 27
ภาพท่ี 28 แสดงสภาพแวดล้อมของพื้นท่โี ครงการ 28
ภาพที่ 29 แสดงด้านหน้าทางเขา้ พืน้ ทโ่ี ครงการ 28
ภาพที่ 30 แสดงพ้ืนทีส่ วนสาธารณะสว่ นกลาง 29
ภาพท่ี 31 กราฟแสดงลักษณะสภาพภมู ิอากาศ พ.ศ.2559-2563 29
ภาพท่ี 32 กราฟความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิ พ.ศ.2559-2563 30
ภาพที่ 33 กราฟชว่ งแสงแดดในชว่ งวนั พ.ศ.2559-2563 30
ภาพท่ี 34 ภาพแสดงการวิเคราะห์ทิศทางลมและแสงแดด 31
ภาพท่ี 35 ภาพแสดงคา่ สารพิษทางอากาศในเชียงใหม่ 31
ภาพที่ 36 แปลนระเบยี ง Type S1 33
ภาพที่ 37 รูปตัด (Section) 33
ภาพท่ี 38 รปู ด้าน (Elevation) 34
สารบัญรูปภาพ (ตอ่ ) จ
เรือ่ ง หน้า
ภาพที่ 39 รปู ทัศนียภาพ (Perspective) 34
ภาพที่ 40 รูปทัศนียภาพ (Perspective) 35
ภาพท่ี 41 แปลนระเบยี ง Type 2B1 35
ภาพท่ี 42 รปู ด้าน (Elevation) 36
ภาพที่ 43 รูปตดั (Section) 36
ภาพที่ 44 รูปทัศนียภาพ (Perspective) 37
ภาพท่ี 45 รูปทัศนยี ภาพ (Perspective) 37
ภาพท่ี 46 การสำรวจรอบพื้นท่โี ครงการ 42
ภาพที่ 47 การสำรวจรอบพนื้ ทโ่ี ครงการ 42
ภาพที่ 48 การสำรวจรอบพน้ื ทโ่ี ครงการ 43
ภาพท่ี 49 การสำรวจรอบพ้นื ทโ่ี ครงการ 43
ภาพท่ี 50 การสำรวจรอบพื้นที่โครงการ 44
ภาพที่ 51 การสำรวจรอบพน้ื ท่ีโครงการ 44
บทที่ 1
บทนำ
หลกั การและเหตุผล
จากการพฒั นาในด้านตา่ งๆของมนษุ ย์ในปจั จุบัน ไม่วา่ จะเป็นด้าน เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและเทคโนโลยี ทำ
ให้เกิดควาเปลยี่ นแปลงในหลายดา้ นรวมทั้งรปู แบบวถิ ชี ีวิตและสังคมความเป็นอยขู่ องมนุษย์ในปัจจบุ ัน ท่ีกำลัง
เปลยี่ นแปลงไปตามความเจริญในด้านต่างๆรขยายตัวของชีวติ แบบสังคมเมือง ที่ดินมีราคาสูงขน้ึ พื้นท่ีว่างและ
พื้นที่สีเขียวในเมืองใหญ่ๆนั้นมีขนาดเล็กลงแต่ประชากรกลับมีจำนวนมากขึ้น และยังมีความต้องการพื้นที่สี
เขียวเพอ่ื ใชเ้ ปน็ ที่พักผ่อนหยอ่ นใจประชากรในเขตเมืองใหญ่เช่นกรงุ เทพมหานคร จึงมีความเปฉ็ ยู่ที่แตกต่างไป
จากพื้นที่ส่วนอื่นๆของประเทศ เนื่องจากราคาที่ดินที่สูงจึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอาคารสูงเช่น
คอนโดมีเนียม อพาร์ทเม้น หรือ ห้องเช่าต่างๆ ซึ่งเป็นผลให้มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างจำกัด จึงนิยมการจัดสวน
ขนาดเล็กตามที่ว่างของอาคารที่พักอาศัย เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนส่วนตัว การจัดสวนในที่จำกัดบนอาคารสูงน้ัน
นอกจากเพื่อความสวยงามและการพักผ่อนหย่อนใจ ดังเช่นสวนขนาดใหญ่ทั่วไปแล้ว ยังสามารถลดความร้อน
ในตัวอาคารลงได้ และยงั เปน็ การใชพ้ ้นื ท่ี ทมี่ ีอยูจ่ ำกัดใหเ้ กิดประโยชนอ์ กี ดว้ ย
การจัดสวนในที่แคบเช่น ระเบียง หรือ เฉลียงห้องพักนั้น หากไม่มีการศึกษาและจัดเตรียมที่ถูกต้อง อาจ
ส่งผลให้เกิดปัญหาจากการจัดสวนตามมาภายหลัง เช่นการขยายขนาดของต้นไม้และรากที่อาจส่งผลต่อ
โครงสร้างของอาคารได้ ดังนั้นการจัดสวนในที่จำกัดบนอาคารสูงนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องทำการศึกษามากกว่า
การจัดสวนโดยทั่วไปในหลายๆเรื่อง เช่น การออกแบบ โครงสร้างต่างๆที่จะสามารถใช้ในพื้นที่จำกำกัดได้
การศึกษาเรื่องของแสง ทิศทางและความเร็วของลม ขนาดของพื้นที่วิธีการในการระบายน้ำ การติดตั้ง การ
รักษาความปลอดภัย และการบำรุงรักษา เป็นต้น หากมีการจัดการและการศึกษาสิ่งต่างๆหล่านี้ให้ดจี ะทำผ้ทู ี่
ตอ้ งการจดั สวนในพน้ื ทจ่ี ำกัดบนอาคารสงู นัน้ ไมต่ ้องประสบปญั หาดังทก่ี ล่าวมาจากทก่ี ล่าวมาแลว้ ข้างต้นน้ันจะ
เห็นได้ว่าการจัดสวนในพื้นที่จำกัดบนอาคารสูงนั้นจำเป็นตอ้ งมีการศึกษาและรวบรวมขอ้ มูล แต่แหล่งข้อมูลที่
จำเป็นตอ้ งใชใ้ นการศึกษาดังกล่าวก็อยู่อยา่ งกระจัดกระจายทั้งหนังสือและเวป็ ไซค์ ภาษาไทยและต่างประเทศ
ยังไมม่ กี ารรวบรวมขอ้ มูลไว้ในท่เี ดยี วกันสว่ นใหญ่ยงั เป็นเรอ่ื งของทฤษฎใี นการเลือกใช้เครอ่ื งมือเทา่ นน้ั หากพดู
ในเรื่องของความสวยงามในการจัดสวนยังต้องศึกษาในเรื่องราวต่างๆอีกมากมาย เช่นการศึกษาแนวคิดและ
ทฤษฎีในการจัดสวน รูปแบบของการจัดสวนประเภทต่างที่เหมาะสมกับการจัดสวนบนอาคารสูง รวมไปถึง
เรื่องของการเลือกพันธ์ไม้ ทั้งทางด้านความต้องกาของพืชและขนาดที่เหมาะสม ทำให้เป็นการยากต่อ
การศึกษาของผู้สนใจในการจัดสวนในพื้นที่จำกัดบนอาคารสูง ส่วนใหญ่จึงมีการข้ามข้ันตอนในการเตรียมการ
จัดสวน หรืออาจจะทำการแก้ไข โดยการจ้างผู้เชี่ยวชาญจัดสวนมาดูแลซึ่งจำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง หาก
ตอ้ งการจดั สวนในส่วนพืน้ ท่ี เล็กๆ เชน่ ระเบียงหรือเฉลียงในห้องพกั ยอ่ มเปน็ การไม่คมุ้ คา่
2
ป ั ญห าการ จ ั ด ส ว น ใน พ ื ้ น ท ี ่ จ ำ กั ด บ น อา คา ร ส ู ง เ พื ่ อ ส ร ้ าง ส ภ า พ แว ด ล ้ อ ม ที ่ ด ี ใ น ก าร อ ย ู ่ อา ศั ย ป ิ ด บั ง
สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมของบริเวณใกล้เคียง หากมีการออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่แคบ หรือการ
แก้ปัญหาการจัดสวนในพื้นที่จำกัดบนอาคารสูง ดังที่กล่าวมาในข้างต้นจะเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพ
ชีวติ ของคนทีอ่ าศัยอยู่ในอาคารสูงตอ่ ไป
วตั ถุประสงค์
1 เพือ่ ศกึ ษาการออกแบบปรบั ปรุงภูมิทศั น์ในพน้ื ท่ีแคบ หรอื พนื้ ทท่ี ีจ่ ำกัด ด้วยการจดั สวนแนวตัง้
2 เพ่ือศกึ ษาแนวทางและนวัตกรรมในการจัดสวนแนวต้ัง
3 เพื่อศึกษาพืชพรรณทเ่ี หมาะสมกบั พ้นื ทห่ี รอื เหมาะสมกับโครงสร้างในพ้ืนท่ีน้ันๆ
สมมตุ ิฐานของการศกึ ษาโครงงาน
1 การที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกับตึกหรือตัวอาคารเพื่อเป็นการลดอุณภูมิลดภาวะโลกร้อนทั้งยังฟอก
อากาศด้วยการศกึ ษาพชื พรรณทชี่ ว่ ยในการฟอกอากาศและลดอณุ หภูมิให้กับห้องหรือพื้นท่ีนนั้ ๆ
2 การจดั สวนแบบ สวนแนวต้งั Vertical Garden ในรปู แบบตา่ งๆ
ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับ
1 รปู แบบการออกแบบ สวนแนวต้ัง Vertical Garden ปรบั ปรงุ ภูมทิ ัศนใ์ นพื้นทแี่ คบ
2 นวัตกรรมทีส่ อดคลอ้ งกบั พชื พรรณและต่อการจดั สวนแนวต้งั
3 พชื พรรณที่เหมาะสมกบั พืน้ ที่และตวั โครงสรา้ ง
4 การดแู ลรักษาระบบ สวนแนวตัง้ Vertical Garden
บทที่ 2
การทบทวนวรรณกรรม
2.1 งานศึกษาเก่ียวกับการจัดสวนบนอาคาร
ศศิธร จำปาเทศ (พ.ศ.2557) พืชผกั สเี ขียวบนดาดฟ้าอาคารดังกล่าว เกิดขน้ึ มาจากโครงการการสร้าง
วิทยาเขตสีเขียวที่กินได้ โดยการริเริ่มของ รศ.พาสินี สุนากร หัวหน้าภาควิชานวัตกรรมอาคาร คณะ
สถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับอาจารย์จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นต้นแบบการทำเกษตร
ในเมือง โดยได้งบสนับสนุนจากแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
(สสส.) ในปี 2557 รศ.พาสินี ผู้ริเริ่มโครงการการสร้างวิทยาเขตสีเขียวที่กินได้ เล่าที่มาโครงการว่า ก่อนนี้ทำ
วิจยั เร่ืองการปลูกพชื บนอาคารและได้ทดลองปลูกผักบนดาดฟา้ ของคณะ ต่อมาปี 2554 นำ้ ทว่ มกรุงเทพฯ ตึก
ต่างๆ ในมหาวิทยาลยั จงึ กลายเป็นบ้านของบุคลากรที่ไม่สามารถกลับไปบ้านได้ ผักที่ทดลองปลกู จึงกลายเป็น
อาหารให้กับคนเหล่านี้ จากเหตุการณ์นั้นทำให้เล็งเห็นความสำคัญของการปลูกพืชบนอาคารมากขึ้น ในปี
2555 จึงรวมตัวกับอาจารย์ในคณะ 5 คน เสนอขอทุนจากโครงการสวนผักคนเมือง ซึ่งตอนนั้นเป็นทุนขนาด
เลก็ และตอ่ มากไ็ ด้เสนอขอทนุ จาก สสส.
พาสินี (พ.ศ.2559) ยกตัวอย่างข้อดีของสวนผักดาดฟ้าที่นอกจากบริโภคได้แล้ว ยังช่วยลดภาวะเกาะ
ความร้อนเมืองได้ โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อุณหภูมิในเมืองสูงกว่าในชนบทเป็นผลมาจากวัสดุแผ่ความร้อนบน
ดาดฟ้าซึ่งเป็นพื้นที่ที่โดนแดดตลอดวัน ในต่างประเทศจึงออกกฎหมายให้ทุกอาคารมีมาตรการลดภาวะเกาะ
ความร้อนเมือง การทำสวนบนดาดฟ้าถูกนำมาใช้อย่างโดดเด่นที่สุด ยิ่งมีสวนมากขึน้ เท่าไร อุณหภูมิเมืองก็จะ
ยิ่งลด ขณะเดียวกันก็ทำให้พื้นที่ใต้ดาดฟ้าเย็นลงด้วย ทั้งช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ เพราะต้นไม้ช่วยลดก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน ทั้งยังช่วยดูดซับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ซึ่งปล่อย
ออกมาจากอาคารอกี ดว้ ย
ฐปนา วชิรมาศ (พ.ศ.2556) บริเวณระเบยี งมักมีข้อจำกัดในเรอ่ื งพน้ื ท่แี คบและรับนำ้ หนักได้ไม่มากนัก
ดังนน้ั การเลือกพันธไุ์ มก้ ระถางจึงเปน็ วธิ ที ีเ่ หมาะสมที่สุด แตท่ ้งั นีใ้ นการ จดั สวนระเบียง เราจำเป็นต้องคำนึงถึง
การจัดใหพ้ อดีกับขนาดพ้ืนที่ ไม่ควรเลือกตน้ ไม้ขนาดใหญ่ที่อาจจะกนิ พื้นทีห่ รอื ปลูกจำนวนมากเกินไป อาจบัง
แสงทำให้ห้องมืดเพราะระเบียงเป็นทางผา่ นของแสงธรรมชาติที่เข้ามาในห้องด้วย นอกจากนี้สวนระเบียงควร
จะมีก๊อกน้ำ ท่อระบายน้ำ และตะแกรง เพื่อช่วยกรองเศษใบไม้ที่ร่วงหล่นจนอาจเป็นเหตุทำให้ท่อน้ำอุดตัน
และเกิดปัญหาน้ำท่วมตามมาได้อีกด้วย รวมทั้งเพ่ือให้ทำความสะอาดง่าย และใต้กระถางต้นไม้ควรจะมีจาน
รองเพื่อรับน้ำ และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกสิ่งหนึ่งคือ น้ำหนักของกระถางต้นไม้ที่เรานำมาจัดไม่ควรมากเกินไป
เพราะอาจมอี นั ตรายตอ่ ระเบียงได้
การเลือกพรรณไม้ การเลือกว่าควรปลูกไม้กระถางชนิดไหนถึงจะดี เราต้องรู้ก่อนว่าตรงบริเวณริม
ระเบียงมีสภาพแวดลอ้ มแบบไหน ถ้าหากระเบียงได้รับแดดน้อย หรอื ได้รับแดดไม่เต็มวันให้เลอื กปลูกพรรณไม้
4
จำพวกไม้ในร่มซึ่งมักเป็นไม้ใบชนิดต่าง ๆ เช่น เฟิน จั๋ง สับปะรดสี เดหลี แต่ถ้าเป็นระเบียงทีไ่ ด้รับแดดเต็ม ๆ
วันก็ควรเลือกพรรณไม้ที่ชอบแสงแดด ทนทานและดูแลง่าย อย่างเช่น ชวนชม คุณนายตื่นสาย พรมญี่ปุ่น
กหุ ลาบหนู หรอื ต้นไมท้ ่ีตกแต่งพมุ่ ไดอ้ ยา่ งพวก ชาปตั ตาเวีย พดุ ศุภโชค สว่ นใครทีอ่ ยากได้ตน้ ไม้ท่ีสามารถเก็บ
ลูกมาทาน หรือเป็นประโยชน์กับเรื่องการกินอยู่ พืชผักสวนครัวก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีนะคะ เพราะด้วยพื้นท่ี
ระเบียงคอนโดส่วนใหญ่จะอยู่ ใกล้กับครัวยิ่งง่ายกว่าการเดินไปตลาดมากเลยค่ะ พรรณไม้ที่สามารถปลูกได้ก็
อยา่ งเชน่ โหระพา กะเพรา พรกิ สามารถเดด็ ใบเกบ็ ผลมาใช้ทำอาหารได้
การจัดวางให้เหมาะสม การจัดวางต้นไม้ที่บริเวณระเบียงนั้นเราควรนำต้นไม้ต้นที่สูงที่สุดวางไว้
ด้านหลัง และต้นไม้ที่เตี้ยลงมาก็วางไว้ด้านหน้า การจัดองค์ประกอบแบบนี้จะช่วยเพิ่มมิติในการมองเหมือน
ธรรมชาติ รวมถึงการดูแลรักษาต้นไม้จะได้ทั่วถึงทุก ๆ ต้น ส่วนการเรียงไม้กระถางที่อยู่ชิดขอบทางเดินนั้น
ควรเอียงกระถางสักเล็กน้อยเพราะกิ่ง กา้ น และใบที่ย่นื ออกมาจากแนวขอบทางเดนิ จะยงิ่ ทำใหส้ วนระเบียงดู
เป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ไม่ใช่วางจนเกะกะเดินไม่สะดวกนะคะ การเลือกกระถางสำหรับต้นไม้ที่ริมระเบียง
นอกจากการใช้กระถางเรียบ ๆ อย่างดินเผาแล้ว เรายังสามารถนำกระถางที่มีความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น
รูปทรง สีสัน หรือวัสดุมาใช้ร่วมกันได้อยา่ งน่าสนใจ แต่หากเราเพิ่งเคยจัดสวนระเบียงเป็นครัง้ แรก แนะนำให้
เลอื กโทนสีประมาณ 2 – 3 สี เพอื่ จะชว่ ยป้องกนั ไมใ่ ห้สวนระเบียงมสี ีเยอะมากเกินไป
สวนระเบียงของเราจะสวยงามหรืออยู่ได้นานแค่ไหน นอกจากองค์ประกอบทั้งหมดข้างต้นแล้ว ยัง
ต้องอาศัยความเอาใจใส่ของเจ้าของในการดูแลเป็นสำคัญ หมั่นรดน้ำ พรวนดิน ตัดแต่งกิ่งทรงพุ่มให้เข้าที่เข้า
ทาง วันเวลาผ่านไป ความสวยของสวนไม่เพียงไม่ลดลง แต่ยังเพิ่มความรู้สึกผูกพันคุ้นเคยให้เรายิ่งขึ้นด้วย
ระเบียงคอนโดตัวอยา่ งของเรามีพน้ื ท่ีค่อนขา้ งจำกัด เนอื่ งจากพื้นท่ใี นแนวราบไม่สามารถวางอะไรได้อีก เพราะ
ต้องใช้เป็นทางเดินไปสู่ห้องน้ำ คงเหลือแต่พื้นที่ในแนวตั้ง ซึ่งเดิมเป็นโครงเหล็กดัด 2 ชั้น ช่องว่างระหว่างซี่
เหลก็ หา่ งกนั มาก ทำใหไ้ ม่สามารถวางกระถางได้ จึงแกป้ ญั หาโดยการซ้ือไมเ้ นื้อแข็งที่ทนแดดทนฝน สั่งตัดตาม
ความยาวของช้ันเหล็กดัดมาใชร้ องเป็นที่วาง กระถาง จงึ เกดิ เป็นสวนกระถางเล็ก ๆ ริมระเบยี ง
2.2 ลักษณะสวนที่มีพนื้ ท่แี คบหรอื พนื้ ทจ่ี ำกดั โดยแบง่ ตามประเภทอาคาร
สำนกั งานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลงั งาน (พ.ศ.2563) สวนทาวนเ์ ฮ้าส์ การจัดสวนทาวน์
เฮ้าส์ค่อนยาก เนื่องจากพื้นที่จำกัด ประมาณ 8 ตร.ม. (2.0x4.0) ส่วนมากมักจะเทคอนกรีต ทั้งๆ ที่คอนกรีต
เพิ่มความร้อนให้กับตัวบ้าน และการอยู่แต่ในห้องทำให้เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว การมีสวนเล็กๆ ขนาด
กระทัดรัด มีผลต่อจิตใจมาก จึงควรใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตรงนี้ให้มากที่สุด เราอาจปลูกไม้คลุมดิน บางชนิด
เช่น หนวดปลาดุก ดีปลี หรือพลูกำมะหยี่ ซึ่งให้ความเขียวและความชุ่มชื้นบนดินทำให้รู้สึกเย็นสบาย พื้นที่
บางสว่ นปูวสั ดุแข็ง เชน่ อิฐดนิ เผา ศลิ าแลง หรือหนิ ทราย ไวใ้ ชว้ างชุดสนาม การปลูกไม้ยนื ต้น ควรเป็น ต้นไม้
ขนาดเล็ก หรือขนาดกลางมีความสูงประมาณ 1.0-1.5 เมตร เช่น โมก แก้ว รำเพย แก้วเจ้าจอม พุด หรือ
ปาล์มขนาดเลก็ เช่น หมากเขียว หมากแดง หมากนวล เป็นตน้
5
สวนหอพกั ระเบียงของหอพัก โดยทว่ั ไปจะมีขนาดประมาณ 1.50x2.0 เมตร คอ่ นข้างจะคับแคบ แต่ก็
สามารถจัดให้เป็น ที่พักผ่อน ได้ด้วยการจัดเก้าอี้และตน้ ไม้ให้ชิดขา้ งฝาจะทำให้พื้นท่ีดูกว้างขึน้ วัสดุอุปกรณ์ท่ี
ใชจ้ ดั สวนหอพัก ควรมนี ำ้ หนักเบา ยกย้ายงา่ ย เพราะผ้ทู ีอ่ ยู่หอพักไม่ใช่เจ้าของทีถ่ าวรวสั ดุท่ีมนี ้ำหนักเบาได้แก่
กระบะไม้ หรือกระถางพลาสติก หากใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ควรให้เป็นวัสดุชนิดเดียวกันเพื่อให้กลมก ลืนท้ัง
บริเวณ ตน้ ไมท้ ใี่ ช้ควรดูแลงา่ ยสามารถอยู่ในท่ีร่มรำไร ถา้ หากมแี สงแดดสาดถึงกใ็ ชไ้ ม้ดอกได้
สวนอาคารชุดจะมีลักษณะค่อนข้างถาวร เพราะผู้อยู่อาศัยเป็นเจ้าของ ดังนั้นการตกแต่ง จึงไม่ต้อง
คำนึงถึงการโยกย้ายบ่อยๆ อาจยกระดับพื้นขึ้นตรงบริเวณที่วางชุดนั่งเล่น กระบะต้นไม้อาจมีขนาดใหญ่สัก
หนอ่ ยก็ได้ การทำโครงไมร้ ะแนงก็เพอ่ื ไว้แขวนต้นไม้ หรอื ปลูกไม้เลอ้ื ย ถา้ มแี สงแดดเพียงพอ
สวนอาคารพาณชิ ย์ โดยทว่ั ไประเบยี งอาคารพาณิชย์ จะมีขนาดคอ่ นขา้ งแคบ แตอ่ าจออกแบบให้ใหญ่
ได้หากเจ้าของต้องการ อย่างไรก็ตาม เอกลักษณ์ของ อาคารพาณิชย์ คือเหล็กดัด ดังนั้นจึงน่าออกแบบให้
เหล็กดัดมีความสวยงามน่าดู และใช้ประโยชน์ได้มากกว่ากันขโมย เช่น ใช้เป็นที่วาง กระบะต้นไม้ แขวน
กระถางต้นไม้ต้นไม้ไม่ควร มีขนาดใหญ่มาก หากมแี สงน้อย เพอ่ื จะไดส้ ับเปลี่ยนโยกย้ายให้ได้รับแสงโดยท่ัวถึง
พืน้ จะเปน็ กระเบอื้ งหรือไม้ขึ้นอยู่กับรสนิยม และความเหมาะสมของทิศทาง อ่างน้ำล้นเป็นของตกแต่ง ท่ีอาจ
เปลี่ยนเปน็ อยา่ งอนื่ ได้ตามความชอบ
สวนบ้านเดี่ยว หน้าบ้าน ควรเลือกพันธุ์ไม้ปลูกตามความเหมาะสมของทิศทางแดด ตัวเอย่างเช่น ถ้า
หน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก แดดจะส่องเข้า บ้านแรงมาก ในตอนบ่าย ควรปลูกต้นไม้ที่สามารถบังแดดได้
เพื่อไม่ให้ผนังบ้านร้อน ถ้าบ้านมีพื้นที่หน้าบ้าน มากพอที่จะปลูกต้นไม้ ให้ร่มเงา เช่น พิกุล จำปี ปีป ซึ่งการ
ดูแลให้ต้นปีปมีใบดกแน่น ต้องหมั่นให้น้ำ มิฉะนั้นปีปจะมีใบโปร่งทำให้ได้ร่มเงาน้อย แต่ถ้าบ้านมีเนื้อที่น้อย
ควรปลูกต้นไม้ ที่ไม่กินพื้นที่มากแต่สามารถทำให้ผนงั บ้านได้ร่มเงา ได้แก่ ต้นไม้ตระกูลหมาก หรือปาล์ม บาง
ชนิด เช่น หมากเขียว หมากเหลือง หมากนวล เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีขนาดค่อนข้างกระทัดรัดและรากไม่
รบกวน โครงสร้างของอาคาร
ถ้าหากหน้าบา้ นหนั ทางทิศเหนือ หรอื ตะวันออก ปัญหาเร่ืองแสงแดดจะน้อย เพราะไดเ้ งาของอาคาร
ชว่ ยในตอนบา่ ย ดงั นนั้ จะใช้ ตน้ ไมข้ นาดเลก็ เชน่ โมก แกว้ หรอื ลำดวนก็ได้
หน้าบ้าน เป็นจุดที่ทุกคน ต้องการให้สวย จึงควรจัดเป็นสวนหย่อม และไม่ควรมีต้นไม้ที่ทึบมาก จน
มองไมเ่ หน็ หนา้ บา้ น หากมีใครไปใครมา และการจดั สวน ท่ีใหส้ สี นั บ้างจะใหบ้ รรยากาศตอ้ นรับแกผ่ ู้มาเยือน
การทำสนามหน้าบา้ น นอกจากจะให้ความร้สู ึกรม่ ร่ืนแล้ว หญา้ จะช่วยเกบ็ ความชุ่มช้ืนใหด้ นิ และช่วย
ให้ต้นไม้เจริญเติบโตดี และให้ความ เย็นแก่ พื้นดิน บริเวณบ้าน ทำให้บ้านเย็นสบายมากขึ้น ซึ่งทำให้ช่วยลด
การใชแ้ อร์ และพดั ลมลงได้
2.3 การจัดสวนแนวตงั้
ปวรรณรัตน์ (พ.ศ.2563) “สวนแนวตั้ง” หรือ Vertical Garden เป็นการจัดสวนรูปแบบหนึ่ง ที่สอด
รับการใช้ชีวิตประจำวันให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ อีกทั้งการจัดสวนแนวตั้ง หรือ ที่เรี ยกกันว่า Vertical
6
Garden น้ี ยังเพ่ิมพ้นื ที่สีเขียวให้กับบา้ น อาคาร และชมุ ชนเมอื งท่ีมีพืน้ ทจ่ี ำกดั และสร้างมีทัศนยี ภาพท่สี วยงาม
ร่มรื่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ได้สูดอากาศบริสุทธิ์มากขึ้น ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย เพราะสวน
แนวตั้งช่วยให้บ้านเย็นขึ้น ซึ่งวิธีการจัดสวนแนวตั้งนี้ ถูกคิดค้นโดย Stanley Hart White อาจารย์ด้านภูมิ
สถาปัตยกรรมชาวอเมริกันตั้งแต่ปี 1938 และนำมาต่อยอดโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส นาม Patrick
Blanc กระทั่งแพร่หลายไปทั่วโลก เพราะสวนแนวตั้งสามารถรองรับและเติบโตได้ในพื้นที่ที่มีอยู่จำกัด ซ่ึง
เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่มีพื้นที่อยู่อาศัยอย่างจำกัด ช่วยทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามและช่วยลด
อุณหภูมิของพื้นที่ ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกมีส่วนร่วมกับธรรมชาติมากขึ้น โดยทั่วไปแล้ว การจัดสวนแนวตั้ง มี 2
ระบบด้วยกันได้แก่ ระบบแผง (Panel System) และ ระบบ กระถาง (Pot System)
Condo new d บทความจากเวบ็ ไซต์ (พ.ศ.2564) การจัดสวนแนวตั้งใช้พื้นท่ีเพียงเล็กน้อย สำหรับผู้
ที่ไม่มีพื้นที่เพียงพอในแนวราบ เพียงแค่มีพื้นที่บนกำแพง หรือพื้นที่บนพื้นเล็กน้อยในการวางผนังต้นไม้ก็
สามารถปลกู สวนแนวตั้งได้ เนอื่ งจากการจดั สวนแนวตัง้ ใช้พืน้ ท่นี ้อยในการปลกู น้ีเอง จึงทำให้การดูแลรักษาไม่
เหนื่อยเท่ากับการปลูกสวนแบบแนวนอนบนดิน โดยเฉพาะกับการปลูกสวนสำหรับไม้ผล พื้นที่ยิ่งกว้างก็ย่ิง
เหนื่อยในการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยวพืชผล การปลูกแบบแนวตั้งทำให้ง่ายต่อการเก็บผลหรือดอก ไม่ต้องก้ม
ลงไปท่พี ้ืนให้ปวดหลังหรือปวดขา และสะดวกต่อผู้พิการและทุพพลภาพอีกดว้ ย อกี ทง้ั การปลูกพืชบนพื้นดินก็
จะทำใหม้ วี ชั พชื และสัตว์จากดนิ ตา่ ง ๆ มาทำลายต้นไม้ได้ง่ายกวา่ การปลกู เป็นแบบแนวต้ัง
2.3.1 การดแู ลสวนแนวต้ัง
การจัดสวนใด ๆ ก็ตามก็ต้องมีการดแู ลรกั ษา โดยการจัดสวนแนวต้งั นั้นจะดแู ลได้
งา่ ยกว่าสวนแนวนอนแบบปกตทิ ั่วไป และเน่ืองจากการที่ไม่ได้ปลกู ติดพน้ื ดินก็จะทำให้มปี ัญหานอ้ ยกวา่ สวน
แบบปกติ แต่การดแู ลสวนแนวตัง้ ก็มีสิง่ ท่ตี ้องคำนงึ เชน่ เดียวกันกบั สวนแนวนอนท่ัวไป
2.3.2 การรดนำ้
สำหรับการดูแลสวนแนวตั้งนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ต้องดูแลให้ต้นไม้ได้รับน้ำอย่าง
เพียงพอ ควรรดน้ำต้นไม้อย่างสม่ำเสมอและปริมาณพอเหมาะ การจะรดน้ำมากน้อยหรือบ่อยถี่แค่ไหนน้ัน
ขึ้นอยู่กับพรรณไม้ที่ปลูกและปริมาณแดดที่ผนังได้รับด้วย ซึ่งการรดน้ำก็ต้องมาพร้อมกับการระบายน้ำที่
พอเหมาะเช่นกนั ตอ้ งมีชอ่ งทางให้น้ำท่ีมากเกนิ ไปสามารถระบายออกดว้ ย เพราะหากนำ้ ขังอยจู่ ำนวนมากก็จะ
ทำให้ต้นไม้ตายได้ หากสวนแนวตั้งที่ปลูกอยู่ในบริเวณที่รดน้ำได้ยากหรือไม่สะดวกในการรดน้ำด้วยมือ เช่น
สวนแนวตั้งในอาคารที่มีพื้นที่มากและมีความสูงมาก ควรติดตั้งระบบรดน้ำอัตโนมัติไว้ด้วยเพื่อให้ต้นไม้ได้รับ
น้ำอย่างเพียงพอ โดยปั๊มนำ้ ต้องมีกำลังแรงพอในการสูบนำ้ เพื่อจ่ายบนผนงั ท่ีมคี วามสูง และอย่าลืมหมั่นตรวจ
สภาพระบบน้ำและอุปกรณจ์ ่ายน้ำใหอ้ ยใู่ นสภาพดีพร้อมใชง้ านอยเู่ สมอดว้ ย
2.3.3 การใหป้ ุ๋ย
นอกจากการรดนำ้ แลว้ ยงั ต้องมกี ารให้ป๋ยุ ดว้ ย ควรใชป้ ยุ๋ ออรแ์ กนิก หลกี เลย่ี งการใช้
ปุ๋ยเคมี เนื่องจากปุ๋ยเคมีจะทำให้ดินและรากพืชเสียได้ง่าย ควรให้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน โดยปุ๋ยที่นิยมใช้
กับการจัดสวนแบบแนวตั้งนั้นจะนิยมให้ปุ๋ยชนิดที่เป็นสารละลายโดยให้ผ่านทางการรดน้ำ หรือปุ๋ยละลายช้า
โดยให้ทกุ 2-3 เดือน
7
2.3.4 การควบคมุ โรคและแมลง
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องมีการดูแลสังเกตต้นไม้ที่มีโรคอยู่เสมอ
เช่น ใบเปน็ จุด ใบด่าง ใบไหม้ เปน็ ตน้ ต้องคอยหมั่นดงึ ใบหรือต้นท่ีตายทงิ้ เพื่อป้องกนั ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด
ของโรคและแมลงรบกวนไปยังต้นอื่น ๆ เนื่องจากการจัดสวนแนวตั้งจะมีการปลูกต้นไม้ชิดติดกันมากทำให้
สามารถเกิดการลุกลามของโรคได้ง่าย โดยใบหรอื ตน้ ตดิ โรคทีด่ ึงท้งิ ไปนนั้ ห้ามนำไปทำเป็นปุย๋ ต้องแยกทิ้งหรือ
เผาทำลายไปเลยเพื่อป้องกันการกลับมาระบาดของโรค และอาจฉีดพ่นยากันเชื้อราทุก 2 เดือน และสำหรับ
แมลงรบกวนสามารถใช้มือหยิบแมลงออกไป หรือใช้น้ำฉีดไล่ หรืออาจใช้ยากำจัดแมลงเฉพาะเมื่อมีความ
จำเปน็ เทา่ นั้น และตอ้ งเลอื กใชแ้ บบออร์แกนกิ เพ่ือไม่ให้เปน็ อันตราย
2.3.5 การตดั แต่งต้นไม้
ต้นไมท้ ี่ไดร้ ับสารอาหารเพียงพอจะมีการเจรญิ เตบิ โตได้ดี ตอ้ งหม่ันตัดแต่งต้นไม้เพ่ือ
ควบคุมรูปทรงพุ่มไม้และขนาดต้นไม้ไม่ให้มีขนาดใหญ่หรือทึบเกินไปด้วย เพื่อให้ต้นไม้คงรูปสวยงาม และท่ี
สำคัญคือเพื่อให้แสงสามารถส่องไปยังพรรณไม้ได้ทั่วถึงทั้งผนัง การตัดแต่งต้นไม้ยังช่วยให้เกิดการระบาย
อากาศไดด้ ี ช่วยลดโรคและเชอ้ื ราได้
2.4 กรณีศึกษา (Case Studies)
2.4.1 ดา้ นผลงานการออกแบบจดั สวนแนวต้ัง
2.4.1.1 ป่าไมแ้ นวตงั้ ในมลิ าน Bosco Verticale
Bosco Verticale เปน็ อาคารท่ีได้รับการออกแบบโดย Stefano Boeri ลกั ษณะเป็น
อาคารที่มีความความสูง 27 ชั้น ตั้งอยู่ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี อาคารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นป่าแนวตั้งแห่ง
แรกในโลก แนวคิด Go Green Concept อาคารทป่ี กคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญเ่ ลก็ ต้นไมเ้ หลา่ นีจ้ ะปกปอ้ งอาคาร
จากมลภาวะต่าง ๆ ของเมืองตลอดจนช่วยกรองคาร์บอนไดออกไซด์ และเพิ่มปริมาณอ๊อกซิเจนให้กับเมื อง
ในช่วงหน้าร้อน ต้นไม้ยังช่วยลดความร้อน และลดการใช้พลังงานภายในตัวอาคาร ขณะที่ในช่วงหน้าหนาว
ต้นไม้ที่ผลัดใบก็จะให้แสงแดดส่องเข้ามาในอาคารให้ความอบอุ่น ช่วยประหยัดพลังงานได้อีก ส่วนน้ำที่ใช้ใน
การดูแลต้นไม้ เปน็ นำ้ ท่ไี ด้จากน้ำทใ่ี ชแ้ ล้วในอาคาร
8
ภาพท่ี 1 ตกึ Bosco Verticale ในมิลาน
ทมี่ า : https://www.winnews.tv/news/17215
2.4.1.2 "Sweet & Colorful Vertical Garden"
Location : เพนทเ์ ฮา้ ส์ คุณเกียรติศักด์ิ สงิ ห์สัจจเทศ Jaspal's Residential
By : Ben greenwall & landscape
Tropical การจดั สวนลกั ษณะน้เี ป็นท่ีนยิ มมากในบ้านเนือ่ งเราจากเป็นภมู ปิ ระเทศใน
เขตร้อนชื้น คอนเซ็ปต์นี้จึงถูกนำมาแทรกไว้ทีระเบียงกลางเมือง จุดเด่นอยู่ตรงกำแพงทั้ง 2 ข้างเสมือนนั่งอยู่
ท่ามกลางป่ามองดูดอกไม้เบ่งบาน ผนังมีไม้สีสันอย่างบอนแดงและขาว, พรมญี่ปุ่นคละสี สับปะรดสีทั้งขนาด
ใหญ่และเล็ก, ประทัดจีนเพิ่มความหวาน บวกกับพรรณไม้อีกกว่า 50 ชนิดทั้งทรีเฟิร์นคาลิโคเนีย,เฟิร์น
เกล็ดหอย, บีโกเนียชนิดต่างๆ, มิ้นท์เลื้อย,ไอริส, เดปขาว โดดเด่นด้วยปาล์มไผ่ซึ่งจะเป็นตัวเก็บรายละเอียด
แต่งเติมด้วยเฟิร์นขนนก และไทรใบสักที่มีเท็กซ์เจอร์ใบตัดกัน จัดวางเก้าอี้หวายน่ังเพลิดเพลินรับวิวด้านนอก
เพ่มิ ความสนุ ทรยี ใ์ นการพักผ่อน
9
ภาพท่ี 2 ภาพการจัดสวนแนวตัง้ ”Sweet & Colorful Vertical Garden”
ท่ีมา : https://www.facebook.com/bengreenwall
2.4.2 ด้านนวัตกรรมทเี่ กีย่ วขอ้ งในการออกแบบ
รูปแบบในการติดตั้งผลิตภณั ฑ์สำหรับปลูกต้นไมน้ ัน้ มีด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่ “แบบกระถาง (Tray
System) และแบบแผ่น (Panel System)” ซึ่งในส่วนของการปลูกในแบบกระถางนั้น สามารถเลือกใช้พืช
พรรณในการปลูกได้อย่างหลากหลาย การติดตั้งแผงยึดและถาดเป็นไปได้ง่ายด้วยการแขวนกระถางยึดกับ
โครงสร้างแผงหลัก รวมถงึ มีการระบายนำ้ ดา้ นล่างของตัวกระถางลงสถู่ าดรองด้านลา่ งดว้ ย
ระบบกระถาง
เป็นการใชก้ ระถางมาจดั เรยี งตามแบบทเ่ี หมาะสม สวนแนวตง้ั ระบบน้จี ะคอ่ นข้างมีความสะดวกสบาย
สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย ต้นไม้ที่ใช้ควรมีขนาดเล็กหรือขนาดกลาง ตัวกระถางมีน้ำหนักเบา ทนต่อรังสี
UV มคี วามทนทานสงู ติดต้ังง่าย เหมาะสำหรบั โครงการทตี่ ้องการซอ่ มแซมโครงสร้างและโครงการใหม่ และไม่
ต้องอนุบาลต้นไม้กอ่ นการตดิ ตั้ง ช่วยลดปรมิ าณการใหน้ ำ้ งา่ ยต่อการแทนท่ีระหวา่ งการดูแลรักษา ซง่ึ แตล่ ะรุ่น
ก็จะมคี วามพิเศษทแ่ี ตกต่างกันออกไป
10
ภาพที่ 3 แสดงรปู ดา้ นและไดอะแกรมของผลิตภัณฑแ์ บบกระถาง
ทม่ี า : https://homedeedee.com (2563)
ภาพที่ 4 ตัวอยา่ งในการยึดติดโครงสร้างเหลก็ เข้ากบั กำแพงและเกยี่ วกระถางกบั โครงสรา้ งอกี ที
ทม่ี า : https://homedeedee.com (2563)
11
ภาพท่ี 5 ภาพแสดงโครงสร้างรูปแบบกระถางเดยี่ ว
ท่ีมา : http://www.designerhub.in.th/Content/Articles/GreenWallSystem (2562)
ภาพท่ี 6 ภาพแสดงตัวอยา่ งการใช้รปู แบบกระถางเด่ียว
ที่มา : http://www.designerhub.in.th/Content/Articles/GreenWallSystem (2562)
12
ภาพท่ี 7 ภาพแสดงโครงสรา้ งรูปแบบกระถางยาว
ที่มา : http://www.designerhub.in.th/Content/Articles/GreenWallSystem (2562)
ภาพท่ี 8 ภาพแสดงการใช้รปู แบบกระถางยาว
ทมี่ า : http://www.designerhub.in.th/Content/Articles/GreenWallSystem (2562)
13
ภาพท่ี 9 ภาพแสดงโครงสร้างเหลก็ รปู แบบกระถางเด่ียว
ทีม่ า : http://www.designerhub.in.th/Content/Articles/GreenWallSystem (2562)
ภาพท่ี 10 ภาพแสดงโครงสร้างเหล็กรูปแบบกระถางเด่ยี ว
ทม่ี า : http://www.designerhub.in.th/Content/Articles/GreenWallSystem (2562)
14
ระบบแผง
คอ่ นข้างเปน็ ทน่ี ยิ มกันมาก เน่ืองจากตวั Build-up ของแผ่น panel มคี วามบาง ชว่ ยประหยดั พ้ืนที่
เมอื่ ปลกู ตน้ ไม้ทำใหม้ ีความสวยงาม ทั้งยังสามารถเพม่ิ ลูกเล่นได้ เช่น การจัดต้นไม้ไล่สี หรอื ทำเปน็ ลวดลาย
ตา่ งๆ ได้อย่างงา่ ยดาย โดยในการจัดสวนแนวต้ัง ส่ิงสำคัญคือ วัสดทุ ม่ี คี วามแข็งแรง ปลอดภัยเมอ่ื ใชง้ านจริง
รวมถึงระบบการให้นำ้ ท่ีมีประสทิ ธภิ าพ สามารถใหน้ ้ำไดอ้ ย่างท่ัวถึงในทุกๆ จุด จึงจะทำให้ตน้ ไมเ้ จรญิ เตบิ โตดู
สวยงาม
ภาพที่ 11 ภาพแสดงแผ่นแผง PlanterCell ® H2O-R Panel
ที่มา : http://www.designerhub.in.th/Content/Articles/GreenWallSystem (2562)
PlanterCell ® H2O-R Panel
โครงสรา้ งภายในของตัวแผงประกอบไปด้วย แผ่นหลงั PVC นำ้ หนักเบา ชั้นโฟมไฮโดรฟลิ ลคิ ที่มี
ความสามารถในการกกั เกบ็ น้ำ แผน่ ใยสังเคราะห์ ชน้ั กากใยมะพรา้ ว และแผน่ ใยตาข่าย HDPE เปน็ การพัฒนา
ออกแบบวสั ดใุ ห้มีความบาง และสามารถจัดสวนไดห้ ลากหลาย
15
ภาพท่ี 12 ภาพแสดงโครงสร้างรปู แบบแผง
ท่มี า : http://www.designerhub.in.th/Content/Articles/GreenWallSystem (2562)
ภาพท่ี 13 ภาพแสดงการใช้รูปแบบแผง
ทม่ี า : http://www.designerhub.in.th/Content/Articles/GreenWallSystem (2562)
16
วัสดุเหลือใช้หรอื ประดิษฐเ์ อง กส็ ามารถนำมาปรับใชใ้ นการตกแต่งพ้ืนที่ได้เชน่ กันโดยวัสดุท่นี ิยมใชก้ นั
มากจะเป็นเหลก็ ดดั ซเี มนต์ ขวดแก้ว และกระถางดนิ เผา
ภาพที่ 14 การทำสวนแนวตั้งดว้ ยเหล็ก
ทมี่ า : https://www.onestockhome.com (2562)
ภาพที่ 15 การทำสวนแนวต้ังด้วยเหล็ก
ทมี่ า : https://www.onestockhome.com (2562)
17
ภาพที่ 16 การทำสวนแนวตั้งดว้ ยเครอ่ื งใช้จากปนู
ทีม่ า : https://www.onestockhome.com (2562)
ภาพที่ 17 การทำสวนแนวตัง้ ด้วยการแขวนกระถาง
ที่มา : https://www.onestockhome.com (2562)
18
ภาพท่ี 18 การทำสวนแนวต้งั ด้วยวัสดุเหลือใช้
ท่ีมา : https://www.onestockhome.com (2562)
2.4.3 ดา้ นพืชพรรณทเี่ หมาะสมในการออกแบบ
ต้นไม้ที่นิยมใช้ในการตกแต่งสวนแนวตัง้ ควรมีระบบรากไม่ลึกมาก สามารถยึดเกาะได้ดี และปรับตัว
ในสภาพอากาศช้ืนไดต้ ลอดเวลา เชน่ ตระกูลเฟริ น์ สับปะรดสี เศรษฐเี รอื นนอก ผเี สอื้ ราตรเี ขียว พรมกำมะหย่ี
กล้วยไม้ และอ่นื ๆ
1.เฟริ น์ ขา้ หลวง ชอ่ื วทิ ยาสตร์ Asplenium nidus L
2.เฟิร์นบอสตัน ชื่อวิทยาสตร์ Nephrolepis exaltata (L.) Schott ‘Bostoniensis
Compacta’
3.เฟริ ์นเงิน ช่อื วทิ ยาสตร์ Pleris ensiformis ‘Victoriae’
4.เฟริ ์นเขากวาง ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์: Polypodium polycarpon Sw. ‘Grandiceps’
5.เฟิร์นก้านดำใบฝอย ชื่อวิทยาศาสตร์: Adiantum raddianum C. Prest ‘Double
Leaflet’
6.สับปะรดสีนีโอเรเจเลีย ชื่อวิทยาศาสตร์: Neoregelia spp. and hybrid
7.สับปะรดสี นีโอเรเจเลีย โมราโด ชือ่ วทิ ยาศาสตร:์ Neoregelia ‘Morado’
8.สับปะรดสี นีโอเรเจเลยี เกรซ ชอื่ วทิ ยาศาสตร์: Neoregelia ‘Grace’
9.สบั ปะรดสี นโี อเรเจเลีย ซันเดย์ เบสท์ ชื่อวทิ ยาศาสตร:์ Neoregelia ‘Sunday Best’
10.สบั ปะรดสี นีโอเรเจเลีย มารต์ นิ ช่ือวิทยาศาสตร:์ Neoregelia ‘Martin’
11.เศรษฐเี รือนนอก ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์: Chlorophytum bichetii (Karrer) Backer
19
12.เศรษฐเี รือนใน ช่อื วทิ ยาศาสตร์: Chlorophytum comosum (Thunb.) Jacques
13.พลูดา่ ง ช่อื วิทยาศาสตร:์ Epipremnum aureum (Lindl. & Andre’) G.S.Bunting
14.พลทู อง หรอื ราชนิ ีสีทอง ช่อื วิทยาศาสตร์: Epipremnum aureum ‘Bunting Lime’
15.พลูฉลุ หรือพลูทะลุ (Window-leaf) ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์: Monstera obliqua Miq.
16.พลูงาชา้ ง ชอื่ วิทยาศาสตร์: Epipremnum aureum (Linden & André) G. S. Bunting
17.พลปู กี นก ช่ือวทิ ยาศาสตร์: Monstera Karstenianum.
18.พลูนางฟ้า นางฟ้าจำแลง ดาดตะก่วั เถา ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์: Cissus discolor Blume
19.พลูหัวใจแนบ ชือ่ วิทยาศาสตร์: Scindapsus pictus Hassk. ‘Argyreus’
20.เดหลี ช่อื วทิ ยาศาสตร์: Spathiphyllum
21. เดฟเขยี ว ชื่อวิทยาศาสตร์: Dischidia sp.
22. บิโกเนยี ช่ือวิทยาศาสตร์: Begonia spp. & hybrid
23. นกกระทา ชอื่ วทิ ยาศาสตร์: Pilea cadierei Gagnep. & Guillaumin
24. ผกากรองเลอ้ื ย ชื่อวทิ ยาศาสตร:์ Lantana sp. and hybrid
25. ลีกวนยแู ฮร์ ชอื่ วทิ ยาศาสตร:์ Vernonia elliptica D
บทที่ 3
วธิ ีการศึกษาโครงงาน
3.1 ขอบเขตของการศึกษาโครงงาน
3.1.1 เชงิ พนื้ ท่ี
dCondo Sign - Chiangmai: ดีคอนโด ซายน์ – เชียงใหม่ ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่ - ลำปาง)
ตำบลฟา้ ฮา่ ม อำเภอเมือง จังหวดั เชยี งใหม่ Type S1 และ Type 2B1
ทิศเหนือ ติดกบั หมู่บา้ นศรีอนันตท์ าวน์เฮาส์
ทศิ ใต้ ตดิ กับ ถนนซปุ เปอรไ์ ฮเวย์ เชยี งใหม่ - ลำปาง
ทิศตะวนั ออก ตดิ กบั Central Festival
ทศิ ตะวนั ตก ติดกับ บริษทั เอกชน
3.1.2 เชิงเน้อื หา
3.1.2.1 กรอบแนวความคิด
สาเหตุ ศักยภาพ ผล
สาเหตุส่วนบุคคล มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น ให้กับพื้นท่ี -ทำใหม้ ีอุณหภมู บิ รเิ วณระเบียงไม่
-เพื่อลดอุณหภูมิกับ พื้นที่ตรง ตัวอาคารที่มีบริเวณที่จำกัด หรือ ร้อน และยงั กรองอากาศได้
ระเบียงหอ้ ง พนื้ ทแ่ี คบ -ทำให้มีความรู้สึกผ่อนคลายได้ใน
-เพื่อเพิ่มพื้นที่พักผ่อนแบบ พืน้ ท่ีส่วนตัว ทจ่ี ำกดั
ธรรมชาตใิ นมมุ สว่ นตวั
3.1.2.2 เนื้อหา/ประเด็นการศึกษา
3.1.2.2.1 การศกึ ษาขอ้ มูลพืน้ ฐานท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั การออกแบบ ได้แก่
1) ขอบเขตและทต่ี ้งั โครงการ สภาพแวดล้อมและ ปญั หา
2) เหตผุ ลและความเป็นไปได้ของโครงการ
3) การวเิ คราะห์สภาพทางดา้ นกายภาพและรายละเอียดโครงการ
4) ข้อมลู ตา่ งๆ และกฎหมาย ท่ีสามารถทำมาปฏบิ ตั ใิ นโครงการ
3.1.2.2.2 การวางผงั บริเวณ
21
1) การวางตำแหน่งแปลนในพน้ื ทโ่ี ครงการ
3.2 ข้ันตอนวิธีดำเนนิ การศกึ ษาโครงงาน
3.2.1 กำหนดวตั ถปุ ระสงคข์ องการศึกษาโครงการ
1) เพื่อศึกษาการออกแบบปรับปรุงภมู ทิ ัศน์ในพ้นื ทแ่ี คบ หรือพนื้ ทที่ ีจ่ ำกัด ด้วยการจัดสวนแนวตัง้
2) เพื่อศกึ ษาแนวทางและนวตั กรรมในการจดั สวนแนวตง้ั
3) เพ่ือศกึ ษาพืชพรรณทเ่ี หมาะสมกบั พื้นทหี่ รือเหมาะสมกับโครงสรา้ งในพืน้ ทีน่ ้นั ๆ
3.2.2 กำหนดขอบเขตการศกึ ษา
การศึกษาในครั้งนี้ มุ่งเน้นเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่แคบด้วยการจัดสวนแนวต้ัง
ภายใต้หลักการออกแบบภูมิทัศน์ และยังเป็นการออกแบบให้เป็นแบบทางเลือกเพื่อที่จะได้นำไปต่อยอดกับ
พื้นทอี่ ่ืนๆ
3.2.3 ศึกษาความเป็นไปไดข้ องโครงการ
3.2.3.1 การศึกษาความเป็นไปได้ด้านผู้ใช้
ปัจจุบันนี้มีการนิยมปลูกตน้ ไม้ในบ้าน ท่ีเป็นความนิยมเนื่องด้วยมาจากสถานะการณ์ โควิด-
19 ที่ทำให้มีการกักตวั ที่บา้ น ทั้งการทำงานแบบเวิร์กฟอร์มโฮม และการเรียนออนไลน์ เพื่อให้มีพื้นที่สีเขียวท่ี
เป็นจุดพักสายตาและเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวที่มีความปลอดภยั ไม่มคี วามเสีย่ งจากการออกไปสวนสาธารณะ
ข้างนอกท่ีมผี คู้ นจำนวนมาก
3.2.4 การเกบ็ ขอ้ มลู
3.2.4.1 ข้อมูลภาคสนาม ทางด้านที่ตั้ง และบริบทรอบๆ แปลนพื้นที่ในการออกแบบปรับปรุง
ภมู ิทํศน์
3.2.4.2 ข้อมูลทางด้านอื่นๆที่จำเป็นต่อการออกแบบภูมิทัศน์ในอาคาร เช่น ไม้มงคล ไม้ฟอก
อากาศ อุปกรณ์วสั ดทุ จี่ ำเปน็
3.2.5 งานวิเคราะห์ข้อมูล (Analysis)
3.2.5.1 ที่ตั้งโครงการ การเข้าถึง การคมนาคม และการเชื่อมโยงของพื้นที่โครงการ (Site
Location, Accessibility, Transportation and Site Linkage)
3.2.5.2 สภาพแวดล้อมของพ้ืนท่โี ครงการ
1) สิง่ กอ่ สร้างเดมิ ในพน้ื ที่ (Existing Buildition)
2) พืชพรรณเดิม (Buildition Plants)
22
3) มมุ มองทัศนียภาพ (Visual Impact)
4) สภาพภูมิอากาศ (Climate)
5) ความลาดชนั (Slopes)
6) การระบายน้ำ (Drainage)
7) ปญั หาอ่ืนๆ (Problems)
3.2.6 ศึกษาโครงการทม่ี ีความใกลเ้ คียงกันในประเทศเพ่ือนำไปปรับใช้ (Case Studies)
3.2.6.1 ปา่ ไม้แนวตง้ั ในมลิ าน Bosco Verticale
3.2.6.2 "Sweet & Colorful Vertical Garden"
3.2.7 การสงั เคราะห์ (Site synthesis)
3.2.7.1 ศกั ยภาพและข้อจำกดั (Site Potential and Constrains)
3.2.7.2 การพัฒนาโปรแกรม (Program Development)
3.2.7.3 ขอ้ กำหนด โปรแกรม (Program Requirement)
3.2.8 ขนั้ ตอนเสนอแนวความคิดในการออกแบบ
3.2.8.1 แนวความคิดดา้ นการวางผังพืชพรรณ (Softscape)
3.2.8.2 แนวความคดิ ดา้ นการใช้วสั ดุหรอื สงิ่ กอ่ สร้างในการวางผงั (Hardscape)
2.3.9 ข้ันตอนการออกแบบทางเลอื ก (Type S1 และ Type 2B1)
3.2.9.1 ผังแมบ่ ท (Master plan)
3.2.9.2 ผงั รายละเอียด (Detail Plan)
3.2.9.3 รายละเอยี ดการใช้พชื พรรณ (Planting Detail)
3.2.9.4 รูปตัดและรูปดา้ น (Section and Elevation)
3.2.9.5 รูปทศั นียภาพ (Perspective)
3.2.9.6 รูปเล่มโครงงาน
2.3.10 สรปุ ผลการศกึ ษาและข้อเสนอแนะในการจัดทำโครงงาน
3.3วัสดอุ ุปกรณ์ เคร่อื งมือที่ใช้
3.3.1 วสั ดุอปุ กรณ์สำนกั งาน
1) คอมพวิ เตอร์ เคร่ืองปรน้ิ เตอร์ A4 และกระดาษ Double A
2) โปรแกรมสำเรจ็ รูปทใี่ ช้ในการออกแบบ และตกแตง่ ภาพ
บทท่ี 4
ผลการศึกษาและการอภิปรายผล
การศึกษาโครงงานการออกแบบปรับปรุงภมู ทิ ัศน์พน้ื ท่ีแคบด้วยการจัดสวนแนวตง้ั ตามสมมุติฐานท่ีว่า
เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกับตึกหรือตัวอาคารเพื่อเป็นการลดอุณภูมิลดภาวะโลกร้อนทั้งยังฟอกอากาศด้วย
การศึกษาพืชพรรณที่ช่วยในการฟอกอากาศและลดอุณหภูมิให้กับห้องหรือพื้นที่นั้นๆ ด้วยการจัดสวนแบบ
สวนแนวตั้ง Vertical Garden ในรูปแบบต่างๆ โดยมีพื้นที่ตัวอย่างเป็น dCondo Sign - Chiangmai: ดี
คอนโด ซายน์ – เชียงใหม่ ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่ - ลำปาง) ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
แปลน Type S1 และ Type 2B1
4.1 งานวเิ คราะหข์ อ้ มูล
1) ทต่ี งั้ โครงการ
dCondo Sign - Chiangmai: ดีคอนโด ซายน์ – เชียงใหม่ ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่ -
ลำปาง) ตำบลฟ้าฮา่ ม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ภาพท่ี 19 แสดงท่ีต้งั ของจังหวดั เชียงใหม่
ท่ีมา : https://th.wikipedia.org (2564)
24
ภาพท่ี 20 แสดงที่ต้ังอำเภอเมืองเชยี งใหม่
ทมี่ า : https://th.wikipedia.org (2564)
ภาพท่ี 21 แสดงท่ตี ้งั โครงการ
ทีม่ า : https://www.google.com/maps/place (2564)
25
ภาพท่ี 22 แสดงผงั แม่บท dCondo Sign - Chiangmai: ดีคอนโด ซายน์ – เชยี งใหม่
ทีม่ า : http://www.aseanliving.com/ (2556)
ภาพท่ี 23 แสดงแปลน Type S1
ท่ีมา : http://www.aseanliving.com/ (2556)
26
ภาพที่ 24 แสดงแปลน Type 2B1
ทมี่ า : http://www.aseanliving.com/ (2556)
2) การเขา้ ถงึ พื้นท่โี ครงการ
เสน้ ทางที่ 1 เรม่ิ ตน้ เดนิ ทางจากสถานีขนส่งผูโ้ ดยสารจังหวัดเชยี งใหม่แห่งท่ี 3 (อาเขต) ไปยัง
dCondo Sign - Chiangmai: ดีคอนโด ซายน์ โดยการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง
รถยนต์บริการส่วนบุคคล จะใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 6 นาที โดยใช้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์
เชยี งใหม่-ลำปาง ผ่าน ทางคู่ขนานถนน สายอ.แมร่ มิ เชียงใหม่-ลำปาง ดว้ ยระยะทาง 2.6 กโิ ลเมตร
ภาพท่ี 25 แสดงเส้นทางที่ 1
ทมี่ า : https://www.google.com/maps/dir/ (2564)
27
เส้นทางท่ี 2 เดินทางจากทา่ อากาศยานเชยี งใหม่ ไปยัง dCondo Sign - Chiangmai: ดคี อนโด ซายน์
โดยการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง รถยนต์บริการส่วนบุคคล จะใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ
15 นาที โดยใช้เสน้ ทาง ถนนหมายเลข 1141 และตดั เข้าถนนหมายเลข 11 ดว้ ยระยะทาง 11.3 กิโลเมตร
ภาพท่ี 26 แสดงเสน้ ทางที่ 2
ทมี่ า : https://www.google.com/maps/dir/ (2564)
3) สภาพแวดลอ้ มพน้ื ที่โครงการ
ทิศเหนอื ตดิ กับ หมู่บ้านศรีอนนั ตท์ าวน์เฮาส์
ทศิ ใต้ ตดิ กบั ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชยี งใหม่ - ลำปาง
ทศิ ตะวันออก ติดกับ Central Festival
ทิศตะวันตก ตดิ กบั บรษิ ทั เอกชน
ทิศเหนอื ทิศใต้ ทิศตะวนั ออก ทิศตะวนั ตก
ภาพท่ี 27 แสดงบริเวณใกลเ้ คียง
ทม่ี า : https://www.google.com/maps/dir/ (2564)
28
ภาพท่ี 28 แสดงสภาพแวดล้อมของพน้ื ทีโ่ ครงการ
ที่มา : https://www.google.com/maps (2564)
ภาพท่ี 29 แสดงด้านหน้าทางเขา้ พืน้ ท่ีโครงการ
ทมี่ า : http://www.aseanliving.com/ (2556)
29
ภาพที่ 30 แสดงพ้นื ท่สี วนสาธารณะส่วนกลาง
ท่มี า : http://www.aseanliving.com/ (2556)
1) ส่ิงก่อสรา้ งเดมิ ในพ้นื ท่ี (Existing Buildition)
พน้ื ทอี่ ยภู่ ายในอาคารจงึ ไมม่ ีสิ่งกอ่ สร้างอย่างอื่นนอกจากตวั พ้นื ทีใ่ นการออกแบบจดั สวน
2) พืชพรรณเดมิ (Buildition Plants)
พ้ืนที่อยู่ภายในอาคารเป็นพื้นทรี่ ะเบยี งไมม่ ีพชื พรรณเดิม
3) มมุ มองทัศนียภาพ (Visual Impact)
จากมุมมองเมอื่ มองจากห้องระเบยี งจะเห็นสวนสาธารณะของโครงการและสระวา่ ยน้ำ
4) สภาพภมู อิ ากาศ (Climate) รวบรวมขอ้ มูลสภาพอากาศเชียงใหม่ 5 ปี ยอ้ นหลงั
ภาพที่ 31 กราฟแสดงลักษณะสภาพภมู ิอากาศ พ.ศ.2559-2563
ที่มา : https://www.tmd.go.th/province.php?id=2 (2565)
เดือนที่อุณหภูมิอากาศประจำเดือน สูงกว่าอุณหภูมิอากาศเฉลี่ยรายปีและความชื้นสัมพันธ์
ประจำเดอื น ตำ่ กวา่ ความชนื้ สัมพันธเ์ ฉลย่ี รายปีไดแ้ ก่เดอื น กมุ ภาพันธ์ถงึ เดือนตลุ าคม
30
ภาพท่ี 32 กราฟความสัมพันธร์ ะหว่างอณุ หภมู ิ พ.ศ.2559-2563
ทีม่ า : https://www.tmd.go.th/province.php?id=2 (2565)
สภาพอากาศร้อนและอบอ้าวได้แก่เดือนเมษายน-มิถุนายนเดือนท่ีมีอากาศหนาวได้แกเ่ ดือนมกราคม-
กุมภาพันธ์ (ภาวะหน้าสบายอุณหภูมิอากาศประจำเดือน ต่ำกว่า 30 องศา C แต่สูงกว่า 20 องศา C )
ความชื้นสัมพนั ธ์อยู่ท่รี ะหว่าง 60 – 65 %
ภาพท่ี 33 กราฟชว่ งแสงแดดในชว่ งวัน พ.ศ.2559-2563
ทม่ี า : https://www.tmd.go.th/province.php?id=2 (2565)
ความยาวแสงแดดเฉลีย่ 2,616.4 ชวั่ โมงฤดูฝนมคี วามยาวแสงแดดส้นั กวา่ ฤดูหนาว ฤดรู ้อนมีความ
ยาวแสงแดดมากที่สุด
31
N Type 2B1 ลมมรสมุ ทศิ
ตะวันออกเฉียงเหนือ
Type S1
ลมมรสมุ ทิศตะวนั ตก
เฉยี งใต้
ภาพที่ 34 ภาพแสดงการวิเคราะหท์ ิศทางลมและแสงแดด
ท่มี า : https://www.tmd.go.th/province.php?id=2 (2565)
ฤดูร้อนเริ่มตน้ เดอื นมนี าคมจนถึงกลางเดือนพฤกษภาคม จากนัน้ กจ็ ะเขา้ สชู่ ่วงฤดูฝนถึงเดือนตุลาคม
ในชว่ งฤดฝู นนี้ประเทศของเราจะไดร้ ับอิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงใต้ ต้นเดือนพฤศจกิ ายนจนถงึ ปลายเดือน
กมุ ภาพันธ์ โดยปกตจิ ะไม่มีอากาศที่หนาวจัด แต่จะเปน็ อากาศทเ่ี ยน็ สบาย ทิศทางลม ช่วงกลางเดือนตุลาคม-
กลางเดอื นกุมภาพันธ์ มีลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื พัดพาอากาศหนาวมาช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์-
กลางเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงลมเปล่ยี นทิศจากลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉียงเหนือเปน็ ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉียงใต้
ชว่ งกลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดอื นตลุ าคม มีลมมรสุมตะวนั ตกเฉยี งใต้พดั พาฝนและความชนื้ มา สรปุ ไดว้ า่
จากรูป ผังType S1ได้รับแสงและลม นอ้ ยกว่า ผัง Type 2B1
ภาพที่ 35 ภาพแสดงคา่ สารพษิ ทางอากาศในเชียงใหม่
ทีม่ า : www.tomorrow.io/weather/th/TH/50/Amphoe_Mueang_Chiang_Mai/105539/health/
32
ค่าสารมลพิษในเชยี งใหม่คา่ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) และกา๊ ซโอโซน (O3) ค่าฝนุ่
อยูใ่ นระดับคุณภาพอากาศดีความเสี่ยงคอ่ นข้างต่ำ สามารถทำกจิ กรรมกลางแจ้งและการท่องเทย่ี วไดต้ ามปกติ
ฝนุ่ ละอองขนาดไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอน (PM2.5) อยู่ในระดบั ควรเฝ้าระวงั แต่ยงั สามารถทำกิจกรรมกลางแจง้
และท่องเทีย่ วได้ตามปกติ แต่ควรสวมหน้ากากอนามัยเวลาออกข้างนอกหรือทำกจิ กรรมกลา้ งแจง้ กา๊ ซ
ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ก๊าซซลั เฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) อย่ใู นระดบั
คา่ ความเส่ยี งต่ำ สามารถทำกิจกรรมได้ปกตไิ มเ่ ปน็ พิษต่อระบบทางเดินหายใจ
5) ความลาดชัน (Slopes)
เนอื่ งจากพ้นื ที่เปน็ พ้นื ท่ีในอาคาร ความลาดชนั จงึ เป็นแนวราบ ไม่มคี วามชนั
6) การระบายนำ้ (Drainage)
หารระบายน้ำในพื้นที่ระเบียงมีท่อระบายน้ำอยู่บริเวณส่วนมุมของพื้นที่ และไหลลงท่อตามระบบระบายน้ำ
ของโครงสร้างตวั อาคาร
7) ปญั หาอื่นๆ (Problems)
พืน้ ทีโ่ ครงการค่อนข้างทจ่ี ะแคบ จึงเหมาะท่ีจะทำโครงการน้เี พ่ือเป็นทางเลอื กให้กับบุคคลทั่วไปท่สี วนใจในการ
ปลูกต้นไม้ หรือจัดสวน ท่ีต้องการพ้นื ทส่ี เี ขยี วภายในบ้าน เปน็ พื้นทส่ี ว่ นตัวสำหรับการผ่อนคลาย
4.2 การสังเคราะห์ (Site synthesis)
4.2.1 ศักยภาพและขอ้ จำกัด (Site Potential and Constrains)
พื้นที่เป็นพื้นที่ระเบียงส่วนตัว มีศักยภาพสามารถทำกิจกรรมการซักผ้า และตากผ้าในพื้นที่ระเบียง ปัญหาท่ี
พบคือพื้นที่คอ่ นขา้ งท่จี ะแคบ
4.2.2 การพัฒนาโปรแกรม (Program Development)
สามารถพัฒนาพ้ืนที่ระเบยี งให้น่าสนใจและเป็นพืน้ ท่ผี ่อนคลายแบบส่วนตัวได้
4.2.3 ข้อกำหนด โปรแกรม (Program Requirement)
แผนในการพฒั นาพื้นที่ โดยใชห้ ลกั การในการจดั สวนแบบสวนแนวตง้ั เพ่ือใหพ้ นื้ ท่ยี ังคงใชท้ ำกจิ กรรมอย่างเดิม
ไดแ้ ละยังเพ่ิมกจิ กรรมการพกั ผ่อนได้ภายในพืน้ ท่ีทม่ี ีอยู่
4.3 ข้ันตอนการออกแบบทางเลือก (Type S1 และ Type 2B1)
4.3.1 ผังแมบ่ ท Type S1 (Master Plan)
33
ภาพท่ี 36 แปลนระเบยี ง Type S1
ทม่ี า : จากการศึกษา (2564)
ภาพท่ี 37 รูปตัด (Section)
ที่มา : จากการศึกษา (2564)
34
ภาพที่ 38 รปู ดา้ น (Elevation)
ท่ีมา : จากการศึกษา (2564)
ภาพที่ 39 รูปทัศนยี ภาพ (Perspective)
ท่ีมา : จากการศึกษา (2564)
35
ภาพท่ี 40 รปู ทัศนียภาพ (Perspective)
ทมี่ า : จากการศึกษา (2564)
3.3.2 ผงั แม่บท Type 2B1 (Master Plan)
ภาพท่ี 41 แปลนระเบยี ง Type 2B1
ที่มา : จากการศึกษา (2564)
36
รปู ตดั และรปู ด้าน (Section and Elevation)
ภาพท่ี 42 รูปด้าน (Elevation)
ทมี่ า : จากการศึกษา (2564)
ภาพที่ 43 รูปตดั (Section)
ทมี่ า : จากการศกึ ษา (2564)
37
ภาพที่ 44 รูปทศั นยี ภาพ (Perspective)
ทีม่ า : จากการศกึ ษา (2564)
ภาพท่ี 45 รปู ทัศนยี ภาพ (Perspective)
ที่มา : จากการศึกษา (2564)
38
4.4 การอภปิ รายผล
การศึกษาครั้งนี้ได้ออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่แคบ บริเวณพื้นที่ในอาคาร โครงการ dCondo
Sign - Chiangmai: ดีคอนโด ซายน์ – เชียงใหม่ ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่ - ลำปาง) ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอ
เมือง จังหวดั เชยี งใหม่ แปลน Type S1 และ Type 2B1 เพือ่ เปน็ ทางเลือกในการจดั ภูมิทัศน์ในพ้ืนท่ีส่วนตัวที่
มพี น้ื ที่จำกัดหรือพน้ื ที่แคบ ซึ่งเปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์สามารถอธิบายไดด้ งั น้ี
1.เพื่อศึกษาการออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่แคบ หรือพื้นที่จำกัดด้วยการจัดสวนแนวตั้ง โดย
การจำลองการวางผังพืชพรรณด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อความแมน่ ยำต่อการนำไปสร้างยังพืน้ ที่จริงหรือ
พนื้ ทีท่ ีม่ ขี นาดใกลเ้ คยี งกบั พืน้ ท่ีทีน่ ำมาประกอบการศึกษา
2.เพื่อการศึกษาแนวทางและนวัตกรรมในการจัดสวน โดยการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งอินเตอร์เน็ต
และแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ได้รับความนิยมและมีความน่าเชื่อถือในเบื้องต้น พบว่าปัจจุบันมีนวัตกรรมด้าน
เทคโนโลยีและอุปกรณ์ทใี่ ห้ความสะดวกในการจัดสวนแนวตง้ั อยูเปน็ จำนวนมากและหลากหลายรูปแบบ
3.เพื่อศึกษาพืชพรรณที่เหมาะสมกับพื้นที่หรือเหมาะสมกับโครงสร้างในพื้นที่นั้นๆ โดยการสืบค้น
ข้อมูลจากหนงั สือและแหลง่ อินเตอร์เนต็ ที่มีความนา่ เช่ือถือเพื่ออ้างองิ การเลือกใช้พชื พรรณ พบว่าพืชพรรณท่ี
เหมาะสมมากที่สุดเป็นพืชพรรณประเภทตระกูลเฟิร์น สับปะรดสี เศรษฐีเรือนนอก ผีเสื้อราตรีเขียว พรม
กำมะหย่ี กล้วยไม้
จากการจำลองภาพแบบสามมิตโิ ดยผ่านโปรแกรมสำเร็จรูปเหน็ ได้ว่าภาพแสดงการวางผังพืชพรรณท่ี
เหมาะกับพื้นที่แคบ และเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับขนาดพื้นที่ โดยผู้ใช้ยังสามารถใช้พื้นที่ทำกิจกรรมอื่นๆได้ด้วย
และยังเปน็ การใช้ประโยชน์พืน้ ทอ่ี ย่างสูงสุดแม้จะมีพ้ืนท่จี ำกดั ก็ตาม
บทท่ี 5
สรุปผลการศกึ ษา
5.1 สรุปผลการศึกษา
การศึกษาโครงการออกแบบปรบั ปรุงภมู ทิ ัศนใ์ นพนื้ ทีแ่ คบด้วยการจัดสวนแนวตง้ั สรุปไดด้ งั น้ี
1.ได้เป็นแนวทางในการจัดสวนแนวตั้งเป็นทางเลือกในการจัดสวนในรูปแบบพื้นที่ที่มีจำกัด สามารถ
จัดการพื้นที่ออกแบบสวนได้หลากหลายรูปแบบ ดังในตัวอย่างพื้นที่กรณีศึกษาที่นำมา จากพื้นที่แปลนผัง
แม่บท Type S1 (Master Plan) ลักษณะพื้นที่ค่อนข้างที่จะแคบมากจึงเลือกใช้ระบบการวางแบบที่ใช้ ใน
รูปแบบแบบแผ่น (Panel System) โดยการเลือกวางพืชพรรณที่ต้องการแสงแดดน้อยหรือแดดรำไร และใน
ส่วนของผังแม่บท Type 2B1 (Master Plan) ลักษณะพื้นที่มีความยาวมากกว่า Type S1 และทิศทางของ
ระเบียงได้รับลมดีกว่าผัง Type S1 อีกทั้งยังแดดส่องถึงมากกว่า Type S1 จากแปลนเดิมแสดงให้เห็นว่าผัง
Type 2B1 มีการวาง คอมเพรสเซอร์แอร์ ไว้ด้านลา่ งต่างจาก Type S1 ท่ีวางคอมเพรสเซอร์แอร์ไวด้ า้ นบน จึง
ทำให้ผัง Type 2B1 มีพ้นื ทีน่ ้อยลง ดังนนั้ เพอ่ื แก้ปญั หาจุดนจ้ี ึงออกแบบพน้ื ท่ีโดยการเนน้ การสรา้ งเฟอร์นิเจอร์
เพื่อให้เข้ากับพื้นที่ เช่นการสร้างท่ีนัง่ ครอบตัว คอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้พืน้ ท่ีอย่าง
สูงสุด โดยผังการวางพืชพรรณจะเน้นการวางในรูปกระถาง เพื่อที่จะสามารถวางได้หลายๆจุดและเพื่อใช้
ร่วมกบั เฟอรน์ เิ จอรใ์ นพน้ื ท่ี
2.นัตกรรมที่สอดคล้องกับงานภูมิทัศน์สวนแนวตั้งที่มีขายตามท้องตลาดในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ใน
พื้นที่กรณีศึกษามีการใช้ “แบบกระถาง (Tray System) และแบบแผ่น (Panel System)” โดยข้อแตกต่าง
ของวัสดุทั้ง 2 ชนิดนี้ ต่างกันตรงที่ระบบการใหน้ ้ำ หากเป็นระบบกระถางจะมีระบบการให้นำ้ ที่ดีกวา่ เพราะมี
การต่อท่อน้ำระหว่างกระถางแต่ละตัวอยู่ทำให้สามารถให้น้ำได้อย่างทั่วถึงทุกกระถาง แต่หากเป็นระบบแผ่น
การใหน้ ้ำจะสามารถให้ดว้ ยการฉดี ผ่นดว้ ยตวั เอง นอกจากนกี้ ารจัดสวนแนวตั้งสามารถใชป้ ระโยชน์จากสิ่งของ
เหลือใชส้ ามารถนำมาปรับใช้กบั การจัดสวนได้เช่นกัน และสามารถจดั การพ้ืนที่ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สุดทั้งยังเป็น
พ้ืนท่ผี ่อนคลายสว่ นตวั ได้โดยท่ยี ังสามารถทำกิจกรรมเดมิ ได้อยู่
3.ผลการศึกษาพืชพรรณที่เหมาะสมกับพื้นที่พืชพรรณที่ใช้ได้มีการอ้างอิงและสืบค้นจากแหล่งข้อมูลที่
สามารถเชื่อถือได้ จากการรวบรวมข้อมูลจากงานเอกสารและแหล่งสืบค้นอินเทอร์เน็ต โดยจากการออกแบบ
ทางเลือกได้ข้อสรุปที่แตกต่างกันของพืชพรรณที่เลือกใช้ดังนี้ ผัง Type S1 เลือกพืชพรรณที่สามารถปลูกใน
พื้นที่ร่มได้ดีเพราะทิศทางของระเบียงแดดส่องไม่ค่อยถึงทำให้มีแดดที่รำไร พืชที่ใช้เป็นไม้ฟอกอากาศและ
สามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่ร่ม โดยใช้ เฟิร์นบอสตัน นกกระทา เดหลี และเศรษฐีเรือนนอก โดยให้เศรษฐี
เรือนนอกอยู่ส่วนด้านบนของแผ่น เฟิร์นบอสตันอยู่ส่วนกลางละเดหลีอยู่ส่วนด้านล่าง และนกกระทาปลูกใน
ส่วนพื้นที่ช่องว่างระหว่าพืชพรรณเพื่อปกคลุมส่วนต่างๆ ส่วนผัง Type 2B1 ลือกการใช้พืชพรรณที่ชอบ
แสงแดด และเจริญเตบิ โตไดง้ า่ ยและชอบอากาศถา่ ยเท เน่อื งจากพื้นท่ไี ด้รบั ลมดีกว่าพนื้ ทีผ่ ัง Type S1
จงึ เลอื กใช้ เดฟเขียว และลีกวนยูแฮร์ เพราะเจริญเติบโตไดง้ า่ ยและชอบอากาศถ่ายเท