วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 1/11
หน่วยการเรียนท8ี 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
หน่วยการเรียนรู้ที8 8
ภาพตดั (SECTION VIEWS)
ในการเขียนแบบเครื.องกลน3นั หากตอ้ งการเห็นรายละเอียดภายในของชิ3นงานใหช้ ดั เจนจาํ เป็นตอ้ งมี
การเขียนภาพตดั เพอื. แสดงรายละเอียดภายในของชิ3นงานใหเ้ ห็นชดั เจน ในการมองภาพร่าง การแสดงการให้
ขนาด ผวิ พิกดั งานสวม หรือรายละเอียดอ.ืน ๆ ในการตดั ชิ3นงานจะมีแนวตดั ระนาบเดียวหรือหลายระนาบก็
ได้ ซ.ึงเราเรียกแนวตดั น3ีวา่ ระนาบตดั ณ จุดท.ีทาํ ใหเ้ กิดพ3นื ท.ีเราเรียกวา่ พ3นื ท.ีภาพตดั ดงั แสดงในภาพ
ระนาบตดั
พ3นื ท.ีภาพตดั
พ3นื ท.ีภาพตดั
ภาพชิ3นงานปกติ ภาพชิ3นงานภาคตดั
ปกติ
วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 2/11
หน่วยการเรียนท8ี 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
การผ่าแบบ (Section )ภาพตดั เป็ นการผา่ แบบในจินตนาการเท่าน3นั งานจริงจะไม่ถูกตดั ผา่ เลย เป็ น
เพียงแต่คิดวา่ ผา่ เพ.ือตอ้ งการแสดงรายละเอียดภายในของชิ3นงานเท่าน3นั ส่วนท.ีเป็นเน3ือของวสั ดุเม.ือถูกผา่ จะ
แสดงดว้ ยสัญลกั ษณ์ลายเส้น (Hatch Patterns) ตามชนิดของวสั ดุงานน3นั ๆ ส่วนท.ีเป็ นโพรงหรือรูจะเวน้ วา่ ง
เอาไว้ (เป็นส่วนที.ไม่ถูกตดั ) ดงั แสดงในภาพ
SECTION A-A
ในการเขียนภาพตดั อาจเขียนแสดงรายละเอียดไดไ้ ม่ชดั เจนท3งั หมด ดงั น3นั จึงมีการแบ่งชนิดของ
การเขียนภาพตดั เพอื. แสดงรายละเอียดใหค้ รบถว้ นและเหมาะสมกบั งานแต่ละอยา่ งไดด้ งั น3ี
1. ภาพตดั เตม็ (Full Section)
2. ภาพตดั คร.ึง (Half Section)
3. ภาพตดั ออฟเซต (Offset Section)
4. ภาพตดั พเิ ศษ (ในหน่วยน3ีจะไม่ไดก้ ล่าวถึงภาพตดั ชนิดน3ี)
วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 3/11
หน่วยการเรียนที8 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
ภาพตดั เตม็ (Full Section)
ภาพตัดเต็มเป็ นภาพของชิ3นงานที.ถูกแสดงรายละเอียดภายในของภาพไวเ้ ต็มหน้า คือแสดง
รายละเอียดไวเ้ ตม็ ส่วนตามดา้ นที.มองเห็น
SECTION VIEW
ภาพที& 8.1 แสดงการตัดเตม็
SECTION A-A
ภาพที& 8.2 แสดงการตดั เตม็ จากภาพฉาย
วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 4/11
หน่วยการเรียนท8ี 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
ภาพตดั ครึ8ง (Half Section)
ภาพตดั คร.ึงเป็ นภาพของชิ3นงานที.ถูกตดั โดยแสดงรายละเอียดของชิ3นงานไวเ้ พียง 1/ 4 (คือจะตดั
ชิ3นงานออก 1 ส่วนจากจาํ นวน 4 ส่วน) ดงั น3นั จึงทาํ ใหส้ ามารถมองเห็นชิ3นงานท3งั ภายในและภายนอก
ภาพตดั คร.ึงน3ีส่วนมากจะใชใ้ นกรณีท.ีตอ้ งการแสดงรายละเอียดให้สามารถมองเห็นท3งั ภายในและ
ภายนอกของชิ3นงานส่วนมากชิ3นงานจะมีลกั ษณะที.สมมาตรกนั ดงั แสดงในภาพ
ข้อกาํ หนดของการเขยี นภาพตดั คร8ึง
1. เสน้ ท.ีแสดงการแบ่งคร.ึงระหวา่ งผวิ ดา้ นนอกและผวิ ดา้ นในจะใชแ้ สดงดว้ ยเสน้ ศูนยก์ ลางของงาน
2. เสน้ ประจะไม่แสดงไวใ้ นภาพตดั คร.ึง (คือซีกท.ีไม่ถูกตดั )
3. การกาํ หนดขนาดรูท.ีมองเห็นเพียงซีกเดียวเราสามารถแสดงหัวลูกศรไวเ้ พียงดา้ นเดียวส่วนอีก
ซีกหน.ึงจะไม่แสดงหวั ลูกศร เช่นขนาด ø 24 ดงั แสดงในภาพ
4. แนวเสน้ ตดั ตรงหวั มุมตอ้ งเป็นเสน้ หนา (Y) ดงั แสดงในภาพ
ภาพท&ี 8.3 แสดงการตัดคร&ึง
Y
ภาพที& 8.4 แสดงการตัดครึ&งจากภาพฉาย
วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 5/11
หน่วยการเรียนที8 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
กฎเกณฑ์การวางภาพของการเขยี นภาพตดั คร8ึง
@ การเขียนภาพในแนวนอนส่วนที.ถูกตดั ซ.ึง
แสดงรายละเอียดภายในจะแสดงไวต้ าํ แหน่ง
ขา้ งล่างเสน้ ศูนยก์ ลาง เหนือเสน้ ศูนยก์ ลาง
@ การเขียนภาพในแนวต3ัง ส่วนท.ีถูกตัดซ.ึง
แสดงรายละเอียดภายในจะแสดงไวต้ าํ แหน่ง
ทางดา้ นขวามือของเสน้ ศูนยก์ ลางส่วนผวิ
ภายนอกจะแสดงอยทู่ างดา้ นซา้ ยมือ
@ ภาพตัดคร.ึงแนวก.ึงกลางจะเขียนเป็ นเส้น
ศูนย์กลาง ยกเวน้ งานที.มองเห็นเป็ นเส้นเต็ม
หรือมองเห็นขอบของงานอยู่แล้วจึงจะยงั คง
A แ ส ด ง เ ส้ น เ ต็ ม ไ ว้ เ ห มื อ น เ ดิ ม (A)
วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 6/11
หน่วยการเรียนท8ี 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
การตดั แบบออฟเซท (Offset Section)
การตดั แบบออฟเซทเป็นการตดั ภาพที.นอกเหนือจากการตดั เป็นเสน้ ตรง ซ.ึงงานบางอยา่ งหากตดั
เป็นแนวตรงจะไม่สามารถแสดงรายละเอียดไดค้ รบถว้ นชดั เจนท3งั หมด การตดั แบบออฟเซทน3ีจะสามารถ
ช่วยใหแ้ สดงรายละเอียดดียงิ. ข3ึนไดโ้ ดยการหกั แนวเสน้ ตดั (แนวตดั ผา่ )ไปตามแนวชิ3นงานที.ตอ้ งการแสดง
รายละเอียด การตดั แบบน3ีจึงเรียกวา่ การตดั แบบออฟเซท ซ.ึงเราสามารถนาํ รายละเอียดต่าง ๆ ของชิ3นงานมา
แสดงไวบ้ นภาพเดียวกนั ได้
SECTION A-A
ภาพท&ี 8.4 แสดงการตัดออฟเซท
กฎเกณฑ์การเขยี นภาพออฟเซท ภาพท&ี 8.4 แสดงการตัดออฟเซทจากภาพฉาย
SECTION A-A @ ตาํ แหน่งท.ีหกั มุมจุดที.ตอ้ งการแสดง
รายละเอียดของภาพตดั เพอื. ใหไ้ ดภ้ าพท.ีชดั เจน
จะตอ้ งเป็นเสน้ ศูนยเ์ สน้ หนา คือตาํ แหน่ง A ,A
@ ในบางกรณีท.ีการตดั มีการหกั มุมมากหรือ
หลายตาํ แหน่งและมีการตดั หลายแนวจะตอ้ ง
กาํ หนดตวั อกั ษรกาํ กบั จุดน3นั เพอื. ป้องกนั การ
สบั สนในการอ่านแบบ
วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 7/11
หน่วยการเรียนที8 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
SECTION A-A @ จากความเป็นจริงของการตดั หกั มุมเป็นเหลี.ยม
เกิดข3ึนและทาํ ให้เรามองเห็นเป็ นเส้นเต็ม แต่เรา
ไม่จาํ เป็ นต้องเขียนเส้นเหล.ียมน3ันลงไป เพราะ
การตดั ภาพน3ันจะเกิดจากจินตนาการในการตดั
เท่าน3นั ซ.ึงชิ3นงานจริงจะไม่ถูกตดั จริง ๆ
@ ชิ3น งาน ท.ี มีแน วตัดห ลายแน วเพื.อแสดง
ร า ย ล ะ เอี ย ด ภ า ย ใ น จ ะ ต้ อ ง มี ตัว อัก ษ ร กํา กั บ
(ตัวอัก ษ รพิ ม พ์ให ญ่ ) อ ยู่ติ ด กับ ป ล ายเส้ น
ศูนยก์ ลางเส้นหนา (เริ.มตน้ และสิ3นสุด) ส่วนแนว
ตดั หักฉากและบริเวณท.ีแสดงพ3ืนท.ีภาพตดั ก็ให้
เขียน อักษรแน วตัดกํากับไว้ เช่น A-A ห รื อ
SECTION A-A เป็นตน้
@ การเขียนตวั อกั ษรแสดงแนวการตดั หากแนว
ของการตดั ซบั ซอ้ นมากที.แนวหกั ฉากของชิ3นงาน
ให้เขียนตัวอกั ษรกาํ กับไว้ ตาํ แหน่งแนวตัดที.มี
ตวั อกั ษรกาํ กบั จะตอ้ งเรียงตามลาํ ดบั และมีขนาด
ความโตของตัวอักษรเท่ากับกลุ่มเส้นเต็มหนา
ระนาบตดั ที.เย3อื งและขนานกนั และอยใู่ นขอบเขต
ข อ ง เส้ น ศู น ย ์ก ล าง เดี ย ว กัน จ ะ อ นุ ญ าต ใ ห้ เขี ย น
เสน้ ลายตดั เย3อื งกนั ได้
วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 8/11
หน่วยการเรียนที8 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
สัญลกั ษณ์ของเส้นในการเขยี นภาพตดั
ในการเขียนเสน้ ลายตดั เพอ.ื แสดงพ3นื ท.ีงานท.ีถูกตดั จะนิยมเขียนดว้ ยสญั ลกั ษณ์ของวสั ดุชิ3นงานน3นั
ดงั ต่อไปน3ี
วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 9/11
หน่วยการเรียนที8 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
หลกั เกณฑ์ในการเขยี นภาพตดั
วิธีการเขียนภาพตดั ให้ถูกตอ้ งตามกฎเกณฑแ์ ต่ละชนิดของภาพตดั น3นั ผเู้ ขียนแบบจะสามารถเขียน
ไดด้ ีและอ่านไดถ้ ูกตอ้ งจาํ เป็ นที.จะตอ้ งทราบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที.เป็ นขอ้ บงั คบั หรือขอ้ กาํ หนดของการเขียน
แบบภาพตดั ดงั ต่อไปน3ี
@ พ3ืนท.ีท.ีแสดงดว้ ยเส้นลายตดั (เส้นเต็มบาง) ที.
เป็นเน3ือโลหะจะทาํ มุมเอียง 45 องศา กบั ขอบของ
ชิ3นงาน ทิศทางของเส้นลายตดั สามารถเขียนให้
เอียงซา้ ยหรือเอียงขวากไ็ ดแ้ ละมีระยะห่างระหวา่ ง
เส้ น ล ายตัด ให้เห ม าะส ม กับ ข น าด ภ าพ ร่ างข อ ง
พ3นื ที.ภาพตดั และใหม้ ีระยะห่างเท่า ๆ กนั
@ พ3ืนท.ีภาพตดั ของชิ3นงานไม่มีแนวขอบชิ3นงาน
ท.ีจะสามารถวดั ระนาบมุมไดเ้ พอ.ื เขียนเสน้ ตดั เช่น
วงกลม วงรีเป็ นตน้ ให้ใชเ้ ส้นศูนยก์ ลางของภาพ
เป็ นระนาบเพ.ือกาํ หนดให้เส้นลายตดั เอียงทาํ มุม
45 องศา
@ ชิ3นงานที.เอียงเป็นมุม เสน้ ลายตดั ท.ีแสดงวา่
เป็นเน3ือโลหะท.ีถูกตดั จะตอ้ งเขียนเป็นมุมเอียง 45
องศา กบั แนวเสน้ ขอบภาพหลกั ที.เป็นเสน้ ตรง
@ ชิ3นงานแต่ละชิ3นที.ต่างชนิดกนั ประกอบเขา้
ดว้ ยกนั หรือตดั กนั อยู่ เสน้ ท.ีเขียนแสดงวา่ เป็นเน3ือ
โลหะจะตอ้ งเขียนเสน้ ลายตดั ไปในทิศทางที.
แตกต่างกนั และถา้ หากเสน้ ตดั เอียงไปในทิศทาง
เดียวกนั จะตอ้ งกาํ หนดความห่างของเสน้ ลายตดั
ใหแ้ ตกต่างกนั
วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 10/11
หน่วยการเรียนท8ี 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
@ หากเกิดความจําเป็ นที.จะต้องให้เส้นบอก
ขนาดในชิ3นงานท.ีเราตดั จะตอ้ งเวน้ ช่องว่างของ
เส้นลายตดั ไวเ้ พ.ือเขียน ตวั เลข ตวั อกั ษรหรือเส้น
กาํ หนดขนาดดว้ ย
@ หากพ3ืนท.ีชิ3นงานที.ตดั มีขนาดใหญ่จะอนุญาต
ให้เขียนเส้นลายตดั แสดงเฉพาะบริเวณขอบของ
ชิ3นงานได้
@ ในชิ3นงานท.ีมีพ3ืนท.ีหน้าตัดแคบมาก ๆ เช่น
พวกเหล็กในงานโครงสร้าง สามารถแสดง
ลายเส้นตดั ไดโ้ ดยใชว้ ิธีการระบายสีทึบเต็มหน้า
ตดั ของชิ3นงานแทนการเขียนดว้ ยเสน้ ลายตดั
@ หากการเขียนภาพตดั ของชิ3นงานที.มีหน้าตดั
แคบมาก ๆ ท.ียาวกวา่ ขนาดของกระดาษท.ีใชเ้ ขียน
ห รื อต้องก ารแส ด งเพี ยงบ างส่ วน ให้ เขี ยน
ย่อส่วนลง และหากชิ3นงานประกอบกนั ชนกนั
หรือซ้อนกันอยู่ ให้เวน้ ช่องว่างระหว่างชิ3นงาน
ประมาณ 0.5 ม.ม.
วชิ า : เขยี นแบบเทคนิคเบื/องต้น 11/11
หน่วยการเรียนที8 8 : ภาพตดั (Section Views) ใบเนื/อหา
@ หากต้องการแสดงรายละเอียดของชิ3นงาน
เดียวกันในแต่ละจุดด้วยการตดั เฉพาะส่วนด้วย
เส้นมือเปล่าให้เขียนแสดงเส้นลายตดั ในทิศทาง
เดียวกนั และระยะห่างเหมือนกนั
@ เส้นแสดงแนวตดั จะเขียนดว้ ยเส้นศูนยก์ ลาง
เต็มหนา มีขนาดความหนาเท่ากบั เส้นขอบภาพ
ของชิ3นงาน โดยจะเขียนไวท้ .ีขอบของชิ3นงานท3งั
สองขา้ งและท.ีปลายของเส้นศูนยก์ ลางหนาจะมี
ลูกศรช3ีไปในทิศทางท.ียงั คงภาพเหมือนอยู่หรือ
ทิศทางที.จะเขียนภาพท.ีจะมอง
@ ในกรณีการเขียนภาพตัดจะไม่นิยม
เขียนแสดงเส้นประ(Hath Line) ยกเวน้
ในกรณี ที.ภาพบางภาพมีความยุ่งยาก
ซบั ซอ้ นมาก ๆ จึงจะแสดงเส้นประไดใ้ น
ภาพตดั ดว้ ย เช่น งานเขียนแบบแม่พิมพ์
เป็ นตน้