1 1 การจัดการระบบอาหารเพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการเด็กก่อนวัยเรียนและวัยเรียนในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา การเปลี่ยนแปลงของสังคม วัฒนธรรม และเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อวิถีการ ดำเนินชีวิต รวมถึงพฤติกรรมการบริโภคอาหารของประชาชนทั่วโลกที่กำลังประสบภาวะโภชนาการทั้งขาดและ เกินหรือที่เรียกว่าทุพโภชนาการสองปลาย (Double Burden Malnutrition, D8MN) ทำให้มีความเสี่ยงต่อการ เกิดภาวะขาดสารอาหารและโภชนาการเกินที่นำไปสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สำหรับประเทศไทยยังคงเผชิญปัญหาทุพ โภชนาการ แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2562 (MICS 6) พบเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีปัญหาภาวะเตี้ย น้ำหนัก เกินและผอม อยู่ในระดับที่น่ากังวล คือ ร้อยละ 13.7, 8.0 และ 9.0 ตามลำดับ (ระบบคลังข้อมูลสุขภาพ Health Data Center (HDC) ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปี พ.ศ. 2561 – 2565) สถานการณ์ภาวะเตี้ย (ภาวะขาดอาหารเรื้อรัง ได้รับอาหารไม่เพียงพอเป็นเวลานาน หรือเจ็บป่วยบ่อยทำ ให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้นน้อยหรือไม่เพิ่ม) ในปีงบประมาณ 2561-2565 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.0 ใน ปีงบประมาณ 2561 เป็นร้อยละ 16.3 ในปีงบประมาณ 2562 ลดลงเป็นร้อยละ 10.5 และ10.3 ในปีงบประมาณ 2563 และ 2564 ตามลำดับ และเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.3 ในปีงบประมาณ 2564 เป็นร้อยละ 11.7 ใน ปีงบประมาณ 2565 เมือพิจารณารายเขตสุขภาพ พบว่า ในปีงบประมาณ 2565 เขตสุขภาพที่ 1,2,3,4,6,8,9,11,12 มีภาวะเตี้ยสูงกว่า ค่าเป้าหมายที่กำหนด (ไม่เกินร้อยละ 10) คือ จะเห็นได้ว่าภาวะเตี้ยยังเป็นประเด็นท้าทาย ใน การดำเนินงาน สถานการณ์ภาวะผอม (ภาวะที่ร่างกายได้รับอาหารไม่เพียงพอระยะสั้น หรือการขาดอาหารระยะสั้น) มี แนวโน้มเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 6.0 ในปี 2561 เป็นร้อยละ 6.7 ในปี 2562 ลดลงเป็นร้อยละ 5.3 และ 4.8 ในปี 2563 และปีงบประมาณ 2564 ตามลำดับ และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5.7 ในปีงบประมาณ 2565 เมื่อพิจารณาราย เขตสุขภาพ พบว่า มีเพียง 2 เขตสุขภาพ ที่ผ่านค่าเป้าหมายที่กำหนด (ไม่เกินร้อยละ 5) สถานการณ์ภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.2 ในปีงบประมาณ 2561 เป็นร้อยละ 11.5 ในปีงบประมาณ 2562 และลดลงเป็นร้อยละ 9.1 และ 8.7 ในปีงบประมาณ 2563 และปีงบประมาณ 2564 ตามลำดับ และเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2565 เป็นร้อยละ 9.5 เมื่อพิจารณารายเขตสุขภาพ พบว่า มีเพียง 3 เขต สุขภาพ ที่ผ่านค่าเป้าหมายที่กำหนด (ไม่เกินร้อยละ 9) จะเห็นได้ว่า ทั้งภาวะเตี้ย ภาวะผอม ภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ยังเป็นประเด็นท้าทายของประเทศไทย ใน การดำเนินงานส่งเสริมการเจริญเติบโตของเด็ก ซึ่งถือว่าเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของภาวะโภชนาการและสุขภาพของ ประชากร เด็กที่ประสบภาวะชะลอการเจริญเติบโตอันเป็นผลมาจากการรับประทานอาหารที่ไม่มีคุณภาพหรือการ
2 2 ติดเชื้อซ้ำมักจะมีความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วยและเสียชีวิต (WHO, 2023) เกือบครึ่งหนึ่งของการเสียชีวิตในเด็ก อายุต่ำกว่า 5 ปี มีสาเหตุมาจากภาวะโภชนาการต่ำ ภาวะโภชนาการต่ำทำให้เด็กมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตจาก การติดเชื้อทั่วไป ทำให้การฟื้นตัวล่าช้า (UNICEF, 2023) ภาวะแคระแกร็นจากขาดสารอาหารในระยะยาว มัก ส่งผลให้พัฒนาการทางจิตใจล่าช้า ผลการเรียนต่ำ และความสามารถทางปัญญาลดลง อันส่งผลกระทบต่อผลผลิต ทางเศรษฐกิจในระดับประเทศ ผู้หญิงรูปร่างเตี้ยมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนทางสูติกรรมเนื่องจากกระดูก เชิงกรานเล็ก นอกจากนี้ ผู้หญิงตัวเล็กยังมีความเสี่ยงสูงในการคลอดทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ ซึ่งมีส่วนทำให้เกิด ภาวะทุพโภชนาการตามวงจรระหว่างวัย เนื่องจากทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดต่ำหรือการเจริญเติบโตของมดลูกที่ ล่าช้ามักจะมีขนาดเล็กลงเมื่อเป็นผู้ใหญ่ เด็กได้รับอาหารไม่เพียงพอหรือมีอุบัติการณ์ของโรคติดเชื้อสูง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งโรคอุจจาระร่วง ของเสียจะบั่นทอนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และอาจนำไปสู่ความรุนแรงและ ระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความไวต่อโรคติดเชื้อ และความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงในการเสียชีวิต จะเพิ่มขึ้นในเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่าปกติเล็กน้อย และความเสี่ยงจะมากขึ้นในเด็กที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่ามาตรฐาน อย่างรุนแรง ส่วนเด็กที่มีน้ำหนักเกิน -โรคอ้วนในวัยเด็กมีความสัมพันธ์กับโอกาสสูงที่จะเป็นโรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่ ซึ่ง อาจนำไปสู่ความพิการและโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวานและโรคหัวใจและหลอดเลือด ความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ส่วนใหญ่ที่เกิดจากโรคอ้วนขึ้นอยู่กับอายุที่เริ่มมีอาการและระยะเวลาที่เป็นโรคอ้วน เด็กและวัยรุ่นที่เป็น โรคอ้วนมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบด้านสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ที่สำคัญที่สุด คือ โรคหัวใจและ หลอดเลือด โรคเบาหวาน ความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกโดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อมและมะเร็งเยื่อบุโพรง มดลูก เต้านม และลำไส้ใหญ่ (WHO, 2023) การคาดการณ์ภาวะทุพโภชนาการในเด็ก ช่วยบ่งบอกว่าโลกกำลังเดินไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือไม่ โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 2.2 เพื่อ “ยุติภาวะทุพโภชนาการทุกรูปแบบภายในปี 2573” ซึ่งอยู่ภายใต้เป้าหมาย ที่ 2 เพื่อ “ยุติความอดอยาก บรรลุความมั่นคงทางอาหารและ ปรับปรุงโภชนาการและส่งเสริมการเกษตรแบบ ยั่งยืน”(UNICEF, 2023) จากปัญหาและผลกระทบดังกล่าวข้างต้น จำเป็นต้องมีการจัดการระบบอาหารเพื่อส่งเสริมภาวะ โภชนาการเด็กก่อนวัยเรียนในศูนย์เด็กเล็กและเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) ในโรงเรียน ซึ่ง เกี่ยวข้องกับระบบอาหาร (Food System/ SFS) ที่ที่ส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหารและสร้างภาวะโภชนาการ แก่ทุกคน และคนรุ่นต่อๆ ไป โดยคำนึงถึงมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม นั่นคือ ต้องมีความยั่งยืนทาง เศรษฐกิจ ต้องมีประโยชน์ในวงกว้างสำหรับสังคม (ความยั่งยืนทางสังคม) มีผลกระทบเชิงบวกหรือเป็นกลางต่อ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ (ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม) ระบบอาหาร ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ ทั้งปัจจัย
3 3 ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง รวมถึงการตัดสินใจจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ อยู่ตลอดเวลา และอาจส่งผล ต่อความยั่งยืนของระบบอาหารนั้น (สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ, 2564) ดังนั้น ผลกระทบการ เปลี่ยนแปลงของระบบอาหารจึงเป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อความสำเร็จของ SDGs ภายในปี 2573 (UN, 2021) ระบบ อาหารที่ยั่งยืน มีบทบาทสำคัญยิ่งในการส่งเสริมอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ปรับปรุงโภชนาการและสร้างเป้าหมายของ การดำเนินงานด้านระบบอาหารสาธารณะต่างๆ ระบบอาหารที่ยั่งยืน คือ ระบบอาหารที่ทำให้มีอาหารที่ปลอดภัย และมีโภชนาการสำหรับผู้คนในรุ่นนี้และรุ่นต่อไป ดังนั้น ระบบอาหารที่ยั่งยืนจะต้องทั่วถึง เท่าเทียม และยืดหยุ่น (สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ, 2564) เพื่อให้ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงของระบบอาหารเป็นตัว ขับเคลื่อนเพื่อความสำเร็จของ SDGs ภายในปี 2573 ระบบอาหารยั่งยืน (SFS) ถือเป็นหัวใจสำคัญของเป้าหมาย การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals/ SDGs) โดยมีเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน คือการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในด้านการเกษตรและระบบอาหารเพื่อยุติความหิวโหย และบรรลุ ความมั่นคงทางอาหารและปรับปรุงโภชนาการให้ได้ภายใน ปี 2573 (ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอาหาร แห่งชาติ, 2565). จากการทบทวนงานวิจัยที่ผ่านมาเกี่ยวกับการขับเคลื่อนระบบอาหารชุมชน พบว่า มีการบริหารจัดการ ระบบอาหาร ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักสำคัญได้แก่ 1) ต้นน้ำ เป็นส่วนของการผลิต ได้แก่ 1.1) กลุ่มเกษตรกร 1.2) กลุ่มวิสาหกิจ 1.3) ผู้รวบรวม/กระจาย สินค้าทางการเกษตร 1.4) การขนส่งสินค้า โดยต้นน้ำนี้เป็นการให้การ สนับสนุน ความรู้ ทักษะ แหล่งน้ำ ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ มาตรฐาน การตรวจสอบคุณภาพ ความปลอดภัย หลักการ ปฏิบัติที่ดี(PGS, GHP, GAP, Primary GMP) /การรับรองที่เชื่อถือได้/เงินทุกรายได้2) กลางน้ำ เป็นส่วนของการ กระจายผลผลิต ได้แก่ 2.1) ตลาดกลาง/ตลาดชุมชน/ตลาดในสถาบัน 2.2) ร้านค้าปลีก/ร้านชำชุมชน 2.3) รถพุ่ม พวงจำหน่าย/ส่ง 2.4) ผู้ประกอบกิจการอาหาร และ 2.5) ผู้รับจ้างเหมาอาหารในโรงเรียน โดยมีสิ่งสนับสนุน คือ 1) พื้นที่การมีส่วนร่วม นำไปสู่แผนงานงบประมาณ 2) กระจายการมีส่วนได้เสียไปยังชุมชน ส่วนเสริมฯ และ 3) โครงสร้างพื้นฐาน ขอบเขตพื้นที่ และ 3) ปลายน้ำ เป็นส่วนของผู้บริโภค ได้แก่ 1) โรงเรียน/ศูนย์เด็กเล็ก 2) โรงพยาบาล/ร้านอาหารของหน่วยงาน 3) ผู้บริโภคทั่วไป/นักท่องเที่ยว และ 4) โรงแรม รีสอร์ท โดยในส่วนของ ผู้บริโภคนี้ได้มีการดำเนินการขับเคลื่อนที่เกี่ยวข้องกับระบบอาหารในชุมชน โดยการเสริมสร้าง 1) ความรู้ ความ เข้าใจ ความตระหนัก ความร่วมมือ 2) กำหนดเกณฑ์มาตรฐานและตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง 3) กำหนดเกณฑ์การพัฒนา จัดทำคู่มือปฏิบัติงาน 4) สร้างกระบวนการตรวจสอบ และ 5) จัดสรร เครื่องมือ งบประมาณ รางวัล ระบบอาหารในชุมชนได้มีการเชื่อมโยงระบบระบบอาหารในโรงเรียนได้หลากหลายรูปแบบ โดยใช้ระบบ และกลไกชุมชนท้องถิ่น เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างองค์กรเกษตรกรและองค์กรโรงเรียนและภาคประชาชนโดย
4 4 ดำเนินการร่วมกับ องค์กรภาคีสำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน คือ องค์กรท้องที่ (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) องค์กรภาครัฐในตำบล (รพสต./ รพช. โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นต้น) ภาคประชาชน ได้แก่ อสม ผู้ปกครอง เด็ก (ขนิษฐา นันทบุตร, 2556; อมาวสี อัมพันศิริรัตน์, 2559,2560,2561, 2562, 2563) โดยหัวใจสำคัญในการ ขับเคลื่อนสู่ระบบอาหารยั่งยืนในท้องถิ่น คือ มีสร้างแผนการขับเคลื่อนด้านอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพใน ท้องถิ่น หรือการบรรจุเรื่องอาหารและโภชนการเข้าไปในธรรมนูญสุขภาพท้องถิ่นและการมีสภาอาหารและ โภชนาการท้องถิ่นเป็นโครงการในการขับเคลื่อนที่สร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งในชุมชนและองค์กรภาคี เครือข่ายภายนอก รวมถึงสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ และมีการเชื่อมโยงสู่ระบบบริหารจัดการโรงเรียน โดยการมี สร้างโครงสร้างการจัดการที่มีจุดเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นเครือข่ายชุมชนเข้าไปส่งเสริมเกื้อหนุนให้ระบบจัดการ บริหารจัดการโรงเรียนมีความสามารถในการบริหารจัดการอาหารและโภชนาการของเด็กนักเรียนนอกจากนี้ โรงเรียนยังเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างชุมชนไปสู่ผู้ปกครองซึ่งโรงเรียนจะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ปกครองมีความใส่ใจใน ภาวะโภชนาการของลูกหลานนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิด family meal หรือการบริโภคอาหารเช้าในครัวเรือน ระบบอาหารในโรงเรียน คือการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียน (ศพด โรงเรียน) เพื่อส่งมอบอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับเด็กนักเรียนทุกคน โดยมีการ ดำเนินการตามมาตรฐานอย่างน้อย 5 ด้าน ได้แก่ 1) มาตรฐานด้านนโยบายและบริหารจัดการ 2) ด้านการจัดการ ด้านความปลอดภัย 3) ด้านคุณค่าทางโภชนาการสารอาหารที่เด็กได้รับตามวัย 4) การบูรณาการจัดการเรียนรู้และ ปัจจัยแวดล้อมเชิงสร้างสรรค์ และ 5) การเฝ้าระวังภาวะโภชนาการโดยครอบครัว ชุมชนมีส่วนร่วม (จงกลนี วิทยา รุ่งเรืองศรี และไพโรจน์ กระโจมทอง, 2551) จะเห็นได้ว่า ระบบและกลไกของท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับระบบอาหารในโรงเรียน และระบบและกลไกของ ระบบอาหารในโรงเรียน โดยจะมีลักษณะเป็นการขับเคลื่อนงานส่งเสริมภาวะโภชนาการและการเจริญเติบโต ผ่าน กลไกตำบล โดยการบูรณาการความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ทั้งภายในและ ภายนอก เชื่อมโยงระบบการดำเนินงานจัดการโภชนาการ ของเด็กปฐมวัย วัยเรียน วัยรุ่นในพื้นที่ให้เป็นรูปธรรม ชัดเจน พัฒนาและขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่องตลอดโซ่อุปทาน พัฒนาศักยภาพบุคลากร ภาคีเครือข่าย กำลังคนที่สนับสนุนการดำเนินงานด้านโภชนาการระดับพื้นที่ และบุคลากรระดับปฏิบัติงาน รวมถึง ครูให้องค์ ความรู้ และทักษะในการดูแลสุขภาพเด็กปฐมวัย วัยเรียน วัยรุ่น แบบองค์รวม สร้างความรอบรู้สุขภาพด้านการ ส่งเสริมภาวะโภชนาการและการเฝ้าระวังการเจริญเติบโต ให้แก่พ่อแม่ และผู้เลี้ยงดูเด็ก สร้างความรอบรู้สุขภาพ ด้านการส่งเสริมภาวะโภชนาการและการเฝ้าระวังการเจริญเติบโต ให้แก่ พ่อแม่และผู้เลี้ยงดูเด็ก จัดคุณภาพอาหาร สำหรับวัยเรียน และสร้างความตระหนักเรื่องการจัดการด้านโภชนาการสำหรับตนเองให้กับเด็กวัยเรียน พัฒนา
5 5 ระบบคัดกรอง ระบบส่งต่อเด็กที่มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน รวมทั้งกลไกการกำกับติดตามเด็ก ที่มีปัญหาภาวะทุพ โภชนาการ อย่างต่อเนื่อง พัฒนาหลักสูตรด้านการจัดการอาหารและโภชนาการในสถานศึกษาต่อยอดองค์ความรู้ ด้านการจัดการอาหารและโภชนาการ จากการทบทวนวรรณกรรมดังกล่าวข้างต้นเกี่ยวกับ ระบบอาหารในชุมชนที่เชื่อมโยงไปสู่ระบบอาหารใน โรงเรียนนั้น พบว่า องค์ความรู้ดังกล่าวยังมีลักษณะแยกส่วน เป็นไปตามบริบทพื้นที่การศึกษานั้น และจาก การศึกษาเหล่านั้น ยังพบช่องว่างของความรู้(gap of knowledge) ในการขยายผลลัพธ์ที่ได้จากการดำเนินงาน นั้นไปสู่การใช้ประโยชน์ในการขยายต่อยอดทั้งเชิงพื้นที่ และยังคงประสบปัญหาในการดำเนินส่งเสริมโภชนาการใน เด็กวัยก่อนเรียนและเด็กวัยเรียน ทั้งในประเด็น 1) Thai School lunch ที่เหมาะสำหรับศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน ที่เหมาะสมกับบริบทสินค้าเกษตรและอาหารในบริบทชุมชนนั้น 2) เครื่องมือประเมินภาวะโภชนาการและตรวจ เยี่ยมบ้าน ซึ่งปัจจุบันยังคงใช้สมุดบันทึกสุขภาพแมและเด็กของโรงพยาบาล (สมุดสีชมพู) ซึ่งประสบปญหาในเรื่อง การอ่านและความเข้าใจในเรื่องอาหารและสารอาหาร การประเมินภาวะโภชนาการที่ง่าย และเข้าถึงได้ง่าย ไม่ ยุ่งยาก สำหรับประชาชนทั่วไป 3) การพัฒนาหลักสูตรในการเสริมสร้างสมรรถนะครูศูนย์เด็กเล็กและครูโรงเรียนใน การส่งเสริมภาวะโภชนาการของเด็กก่อนวัยเรียนและเด็กวัยเรียน ที่สามารถต่อยอดในการเลื่อนระดับหรือ ค่าตอบแทนพิเศษ 4) การบริหารจัดการงานของครูศูนย์เด็กและครูโรงเรียนในการส่งเสริมภาวะโภชนาการของเด็ก ก่อนวัยเรียนและเด็กวัยเรียน ที่มีขอบเขตและหน้าที่ความผิดชอบไม่ชัดเจน รวมทั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและ ฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงภาวะโภชนาการและการส่งเสริมภาวะโภชนาการและการติดตาม ดังนั้นผู้วิจัยจึงต้องการ พัฒนาการจัดการระบบอาหารในศูนย์เด็กเล็กสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และระบบอาหาร ในโรงเรียนสำหรับเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) อันจะเกิดประโยชน์ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติในการส่งเสริมภาวะโภชนาการสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนและวัยเรียน
6 6 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อออกแบบและพัฒนาการจัดการระบบอาหารในศูนย์เด็กเล็กสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิด ถึงก่อน 4 ปี) และระบบอาหารในโรงเรียนสำหรับเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) ภายใต้แนวคิด การมีส่วนร่วม (participation action research) การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) และแนวคิด Ottawa Charter ใน 4 ประเด็นหลักภายใต้บริบทชุมชนใน 5 ตำบลเป้าหมายของ 5 จังหวัด ดังนี้ 1.1 การพัฒนา Thai School lunch ที่เหมาะสำหรับศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนที่เหมาะสมกับบริบท สินค้าเกษตรและอาหารในชุมชนในการส่งเสริมภาวะโภชนาการของเด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) 1.2 การพัฒนาเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีในการประเมินภาวะโภชนาการและตรวจเยี่ยมบ้าน เพื่อ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาภาวะโภชนาการอย่างเป็นรูปธรรม 1.3 การพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับครูศูนย์เด็กเล็กและครูโรงเรียนในการส่งเสริมภาวะ โภชนาการของเด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) 1.4 การพัฒนาการบริหารจัดการงานของครูศูนย์เด็กและครูโรงเรียนในการส่งเสริมภาวะโภชนาการของ เด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) 2. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการพัฒนาการจัดการระบบอาหารในศูนย์เด็กเล็กสำหรับ เด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และระบบอาหารในโรงเรียนสำหรับเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป จนถึงก่อน 7 ปี) ภายใต้บริบทชุมชนใน 5 ตำบลเป้าหมายของ 5 จังหวัด
7 7 กรอบแนวคิดการวิจัย แผนการดำเนินงานในโครงการวิจัย ระยะที่ 1 ทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับนโยบายด้านอาหารและโภชนาการ คู่มือพันวัน สู่ 3000 วัน ของ กรมอนามัย ถอดบทเรียนแการปฏิบัติการเชิงพื้นที่เกี่ยวกับการจัดการอาหารและโภชนาการในการดูแลเด็กกลุ่ม เด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) รวมถึงเครื่องมือ ประเมินระบบบริหารจัดการด้านอาหารและโภชนาการที่ดีเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีที่จำเป็น ตลอดจนองค์ความรู้ที่ จำเป็นในการนำมาใช้ดำเนินงาน ระยะที่ 2 ออกแบบเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาภาวะโภชนาการ พฤติกรรม สุขภาพด้านอาหารของเด็กวัยก่อนเรียนและวัยเรียน การจัดการระบบอาหารในศูนย์เด็กเล็กสำหรับเด็กก่อนวัย เรียน และระบบอาหารในโรงเรียนสำหรับเด็กวัยเรียน โดยใช้กระบวนการวิจัยชุมชนด้วยการวิจัยเชิงชาติพันธุ์ วรรณนาแบบเร่งด่วน (Rapid Ethnographic Community Assessment Process : RECAP) รวมทั้งออกแบบ เครื่องมือวัดความรอบรู้ด้านอาหารและโภชนาการของครูศูนย์เด็กเล็กและผู้ปกครอง สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนและ ครูอนุบาลในโรงเรียนและผู้ปกครอง สำหรับเด็กวัยเรียน ในการจัดการระบบอาหารในโรงเรียนและชุมชน เพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการเด็กก่อนวัยเรียนและวัยเรียน เก ตร ระบบอาหาร โภชนาการ สุขภาพ การจัดการระบบอาหารเพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการเด็กก่อนวัยเรียนและวัยเรียนในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน + Design thinking + Design thinking
8 8 ระยะที่ 3 ศึกษาสถานการณ์ปัญหาภาวะโภชนาการ พฤติกรรมสุขภาพด้านอาหารของเด็กวัยก่อนเรียน และวัยเรียน การจัดการระบบอาหารในศูนย์เด็กเล็กสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน และระบบอาหารในโรงเรียนสำหรับ เด็กวัยเรียน โดยดำเนินการ ดังนี้ 3.1 การประชุม Focus Group เก็บข้อมูลทุนทางสังคมโดยใช้เครื่องมือ RECAP เพื่อวิเคราะห์ทุนทาง สังคมตามบริบทของชุมชนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาภาวะโภชนาการ พฤติกรรมสุขภาพด้านอาหารของเด็กวัยก่อน เรียนและวัยเรียน การจัดการระบบอาหารในศูนย์เด็กเล็กสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน และระบบอาหารในโรงเรียน สำหรับเด็กวัยเรียน กับแกนนำทุกภาคส่วนและผู้เกี่ยวข้อง 3.2 สำรวจความรอบรู้ด้านอาหารและโภชนาการของครูศูนย์เด็กเล็กและผู้ปกครอง สำหรับเด็กก่อนวัย เรียนและครูอนุบาลในโรงเรียนและผู้ปกครอง สำหรับเด็กวัยเรียน โดยใช้เครื่องมือที่ออกแบบ 3.3. จัดประชุมคืนข้อมูลให้แกนนำทุกภาคส่วนและผู้เกี่ยวข้องสะท้อนผลการประชุม RECAP เพื่อให้ ผู้เข้าร่วมทราบทุนทางสังคม ช่องว่าง และเห็นภาพร่วมกันในการปัญหาและจัดลำดับความสำคัญ หาแนวทางการ แก้ปัญหาร่วมกัน และจัดทำเป็นแผนแก้ปัญหาและพัฒนาระยะสั้น กลาง ยาว ระยะที่ 4 ประชุมเพื่อออกแบบกิจกรรมหรือโครงการในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยใช้ กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติแบบมีส่วนร่วม (Participatory action research; PAR) และการคิดเชิง ออกแบบ (Design Thinking) 5 ขั้นตอน (Empathize, Define , Ideate, Prototype, Test) ภายใต้แนวคิด Ottawa Charter ประกอบด้วย 5 ข้อ (Create Healthy Public Policy : กำหนดนโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อ สุขภาพ Creative Supportive Environment : สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ Develop Personal Skill : พัฒนาทักษะส่วนบุคคลให้มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ Strengthen Community Action : สร้างความเข้มแข็ง ให้กับชุมชน Reoriented Health Service System : ปรับระบบบริการสุขภาพที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพ) พร้อมกำหนดเครื่องมือประเมินผลการแก้ปัญหาเพื่อพัฒนา (Development evaluation; DE) และดำเนิน โครงการนำร่อง โดยทดลองนำโมเดลรูปแบบต้นแบบไปทดลองใช้ในพื้นที่ และจัดทำฐานข้อมูล ใน 4 ประเด็นหลัก ในพื้นที่นำร่องของตำบลต้นแบบ ดังนี้ 4.1 การพัฒนา Thai School lunch ที่เหมาะสำหรับศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนที่เหมาะสมกับบริบท สินค้าเกษตรและอาหารในชุมชนในการส่งเสริมภาวะโภชนาการของเด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) 4.2 การพัฒนาเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีในการประเมินภาวะโภชนาการและตรวจเยี่ยมบ้าน เพื่อ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาภาวะโภชนาการอย่างเป็นรูปธรรม
9 9 4.3 การพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับครูศูนย์เด็กเล็กและครูโรงเรียนในการส่งเสริมภาวะ โภชนาการของเด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) 4.4 การพัฒนาการบริหารจัดการงานของครูศูนย์เด็กและครูโรงเรียนในการส่งเสริมภาวะโภชนาการของ เด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) ระยะที่ 5 ประชุมถอดบทเรียนสรุปรูปแบบการแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาเป็นโครงการต้นแบบและกิจกรรมการ แก้ปัญหาเพื่อนำไปทดลองพร้อมใช้เครื่องมือการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินโครงการและ กิจกรรมดังกล่าว โดยแบ่งเป็นกิจกรรมและโครงการระยะสั้นระยะกลางและระยะยาว ภายใต้การดำเนินงาน 4 ประเด็นหลักตามการดำเนินงานระยะที่ 4 ระยะที่ 6 นำโครงการต้นแบบและกิจกรรมการแก้ปัญหาไปใช้ในตำบลต้นแบบของพื้นที่ 5 จังหวัด 4 ภาค ของประเทศ พร้อมใช้เครื่องมือการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินโครงการและกิจกรรม ดังกล่าว และติดตามประเมินผลตามตัวชี้วัด ดังนี้ 6.1 ผลลัพธ์ภาวะสุขภาพ ได้แก่ 1) ภาวะโภชนาการ 2) พฤติกรรมสุขภาพด้านอาหารของเด็กวัยก่อนเรียน และวัยเรียน และ 3) ความรอบรู้ด้านอาหารและโภชนาการของครูศูนย์เด็กเล็กและผู้ปกครอง สำหรับเด็กก่อนวัย เรียนและครูอนุบาลในโรงเรียนและผู้ปกครอง สำหรับเด็กวัยเรียน 6.2 ผลลัพธ์เชิงกระบวนการ การจัดการระบบอาหารเพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการเด็กก่อนวัยเรียนและวัย เรียนในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน ได้แก่ 1) Thai School lunch ที่เหมาะสำหรับศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนที่เหมาะสมกับบริบทสินค้าเกษตรและ อาหารในชุมชนในการส่งเสริมภาวะโภชนาการของเด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) 2) เครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีในการประเมินภาวะโภชนาการและตรวจเยี่ยมบ้าน เพื่อนำไปสู่การแก้ไข ปัญหาภาวะโภชนาการอย่างเป็นรูปธรรม 3) หลักสูตรการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับครูศูนย์เด็กเล็กและครูโรงเรียนในการส่งเสริมภาวะโภชนาการ ของเด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) 4) รูปแบบบริหารจัดการงานของครูศูนย์เด็กและครูโรงเรียนในการส่งเสริมภาวะโภชนาการของเด็กก่อน วัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี)
10 10 ขอบเขตตามพื้นที่ศึก า 1) ตำบลต้นแบบในการศึกษานำร่อง 1.1) การจัดการระบบอาหารเพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการเด็กก่อนวัยเรียนในศูนย์เด็กเล็ก ตำบลต้นแบบในการศึกษานำร่อง คือ............................................................. 1.2) การจัดการระบบอาหารเพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการเด็กวัยเรียนในโรงเรียน ตำบลต้นแบบในการศึกษานำร่อง คือ............................................................. 2) ตำบลต้นแบบของพื้นที่ 5 จังหวัด 4 ภาคของประเทศ 2.1) ตำบลสมอแข อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 2.2) ตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี 2.3) ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 2.4) ตำบลวังแสง อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม 2.5) ตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่เป้าหมายดำเนินการ 1) เป็นพื้นที่ที่มีจุดเด่นด้านการจัดการอาหารในโรงเรียนและชุมชน เช่น มีการจัดการของ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น หรือการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายแก้ปัญหาภาวะโภชนาการในเด็ก 2) เป็นพื้นที่ที่มีสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพเป็นพี่เลี้ยง และสร้างเครือข่ายการจัดการ ความรู้ของแกน นำผู้ปฏิบัติงานด้านอาหารในโรงเรียนและชุมชนอย่างต่อเนื่อง 3) เป็นพื้นที่แม่ข่ายที่มีความพร้อมในการนำต้นแบบที่พัฒนาไปขยายผลในเขตสุขภาพ ขอบเขตตามประชากรที่ศึก า 1) เด็กก่อนวัยเรียน (อายุแรกเกิดถึงก่อน 4 ปี) และเด็กวัยเรียน (อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงก่อน 7 ปี) ใน พื้นที่ 2) แกนนำดำเนินการด้านโภชนาการ ของตำบลต้นแบบในพื้นที่ 5 จังหวัด 4 ภาคของประเทศ (5 ตำบล ของ 5 จังหวัด (รวม 150 คน ใน 5 ตำบลๆ ละ 30 คน) ตามขอบเขตพื้นที่ศึกษา โดยแกนนำมาจาก 5 กลุ่ม ดังต่อไปนี้ 1. ภาครัฐในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้ากองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม หรือผู้ที่ รับผิดชอบงานเกี่ยวกับอาหารและโภชนาการในชุมชน
11 11 2. ภาครัฐด้านสุขภาพ ได้แก่ ตัวแทนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล/สถานีอนามัย เฉลิมพระเกียรติที่รับผิดชอบด้านอาหารและโภชนาการของชุมชน 3. ภาครัฐ ด้านการศึกษา ได้แก่ ครูประจำชั้นและแม่ครัวโรงเรียนประถมศึกษา ครูพี่เลี้ยง/พี่เลี้ยง และแม่ครัว ประจำศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน 4. ภาคประชาชน ได้แก่ ตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน 5. กลุ่มเปราะบาง ได้แก่ มารดาหรือผู้ปกครองของเด็กก่อนวัยเรียน และเด็กวัยเรียน 3) แกนนำผู้มีอิทธิพลในการตัดสินใจ สำหรับการศึกษาการจัดการระบบอาหารเพื่อส่งเสริมภาวะ โภชนาการเด็กก่อนวัยเรียนและวัยเรียนในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน ในพื้นที่เป้าหมาย 5 ตำบล ของ 5 จังหวัด ดังกล่าวข้างต้น (เข้าร่วมกิจกรรมสนทนากลุ่ม 7-8 คน/กลุ่ม) 1. ผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ นายก อบต./เทศบาล ปลัด อบต./เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 2. ผู้บริหารภาครัฐด้านสุขภาพ ได้แก่ ตัวแทนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชุมชนที่รับผิดชอบด้านอาหาร และโภชนาการของชุมชน นักโภชนาการของโรงพยาบาลชุมชน ผู้บริหารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล/สถานี อนามัยเฉลิมพระเกียรติ 3. ผู้บริหารภาครัฐ ด้านการศึกษา ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา และผู้บริหารศูนย์เด็ก เล็ก 4. ผู้แทนภาคประชาชน ได้แก่ ผู้แทน อสม. แกนนำแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร โภชนาการ ในชุมชน 5. ผู้แทนกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้แทนมารดาหรือผู้ปกครองของเด็กก่อนวัยเรียน และเด็กวัยเรียน
12 12 ผู้ดำเนินการโครงการ 1. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชนนี จังหวัดนครราชสีมา ผศ. ดร.นิสากร วิบูลชัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาล หัวหน้าโครงการและคณะ 2 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี ผศ. ดร. พเยาว์ พง ์ศักดิ์ชาติ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลและคณะ 3. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พุทธชินราช ผศ.ดร.อัศนี วันชัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลและคณะ 4. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา ดร. มาริสา สุวรรณราช ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลและคณะ 5. วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม ดร. ศิราณี อิ่มน้ำขาว ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลและคณะ ที่ปรึก าโครงการ 1. ดร.ทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ 2. ดร.พรรณทิพา แก้วมาตย์
13 13 เอกสารอ้างอิง คณะทำงานพัฒนามาตรฐานระบบการจัดการอาหารและโภชนาการในสถานศึกษา. (2551). คู่มือมาตรฐานระบบ การจัดการอาหารและโภชนาการในสถานศึกษา สำหรับสถานศึกษานำร่อง. จงกลนี วิทยารุ่งเรืองศรี และ ไพโรจน์ กระโจมทอง. (บรรณาธิการ). กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิสร้างเสริมวิถีบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ. ทัศนีย์ อรรถารส และเต็มดวง บุญเปี่ยมศักดิ์. (2556). การพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสุขภาพเด็กวัยก่อนเรียน โดยครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วม.วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ. ปีที่ 36 ฉบับที่ 3 (กรกฎาคม – กันยายน), 15-26. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2564). รายงานความก้าวหน้า เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ของประเทศไทย พ.ศ. 2559 – 2563. กรุงเทพมหานคร. ผาสุข แก้วเจริญตา วิรัช เล่ายี สนั่น อ่ำเมือง ราตรี เพ็งใจ อารีย์รัตน์ อยู่ยิ่ง และสำเริง สว่างใจ. (2557). บทบาทของโรงพยาบาลชุมชนและตำบลในการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพ. การประชุมวิชาการ โภชนาการแห่งชาติครั้งที่ 8: โภชนาการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ, 72-74.วันที่ 6 - 8ตุลาคม ณ ศูนย์ นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา กรุงเทพมหานคร. ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ. (2565). (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการจัดการด้านอาหารของ ประเทศไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ.2566 – 2570). พนัสยา วรรณวิไล ทรงฤทธิ์ ทองมีขวัญ อมาวสี อัมพันศิริรัตน์ และคณะ. ( 2557). ศึกษาการประเมินตนเอง เบื้องต้นของชุมชน ด้านความมั่นคงทางอาหาร อาหารปลอดภัย และโภชนาการสมวัย ตำบลควนรู อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา. รายงานการวิจัย. อัดสำเนา. พรบ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. ราชกิจจานุเบกขา เล่ม 124/ ตอนที่ 16 ก/ หน้า 1/19 มีนาคม 2550. ระบบอาหารยั่งยืน. Enabling Sustainable Food Systems. https://www.greennet.or.th/tag/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E 0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B 1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%99/
14 14 สำนักโภชนาการ กรมอนามัย. (2562). แผนปฏิบัติการด้านโภชนาการระดับชาติ 5 ปี พ.ศ. 2562 - 2566 ภายใต้ ยุทธศาสตร์ที่ 3 อาหารศึกษา กรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2561 – 2580). สำนักโภชนาการ กรมอนามัย. (2565). รายงานประจำปี 2565 เฝ้าระวังทางโภชนาการ สำนักโภชนาการ กรม อนามัย กระทรวงสาธารณสุข. สินศักดิ์ชนม์ อุ่นพรมมี. (2556). พัฒนาการสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพ: รายงานการประชุมระดับโลกเรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ (1st ed.). กรุงเทพมหานคร: โครงการสวัสดิการวิชาการ สถาบันพระบรมราช ชนก กระทรวงสาธารณสุข. สุรศักดิ์ สิงห์สาร. (2557). การจัดการปัญหาโภชนาการ โดยอปท. เทศบาลตำบลเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัด สุรินทร์.ในการประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติครั้งที่ 8: โภชนาการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ, 80-84.วันที่ 6 - 8ตุลาคม ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา กรุงเทพมหานคร. อมาวสี อัมพันศิริรัตน์ มาริสา สุวรรณราช ทรงฤทธิ์ ทองมีขวัญ และพนัสยา วรรณวิไล. (2559). ทุนทางสังคมกับ ความมั่นคงทางอาหารในชุมชนชนบท ภาคใต้ของประเทศไทย. วารสารมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 35(2), 324-335. อมาวสี อัมพันศิริรัตน์ ทรงฤทธิ์ ทองมีขวัญ เกษศิรินทร์ ภู่เพชร และวิกานดา หมัดอะดั้ม. (2559). ศักยภาพและ รูปแบบการจัดการด้านความมั่นคงทางอาหารและอาหารปลอดภัยในชุมชน ตำบล ควนรู อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา. วารสารพยาบาลและการดูแลสุขภาพ ปีที่ 34 (3), 147-156. อมาวสี อัมพันศิริรัตน์ ทรงฤทธิ์ ทองมีขวัญ มาริสา สุวรรณราช พนัสยา วรรณวิไล เกษศิรินทร์ ภู่เพชร และวิ กานดา หมัดอะดั้ม. (2560). การประเมินแบบเสริมพลังการจัดการด้านอาหารและโภชนาการในชุมชน. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปีที่ 11(3), 219-228. อมาวสี อัมพันศิริรัตน์. (2560). การประเมินแบบเสริมพลังอำนาจ. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการ สาธารณสุข ภาคใต้, 4(1), 280-291. อมาวสี อัมพันศิริรัตน์, และพิมพิมล วงศ์ไชยา. (2560). การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม : ลักษณะสำคัญและ การประยุกต์ใช้ในชุมชน. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 36(6), 192- 202. อมาวสี อัมพันศิริรัตน์. (2560). อาหารรักจากแม่ บทเรียนการขับเคลื่อนโครงการอาหารของแม่เพื่อส่งเสริม โภชนาการของครอบครัวและชุมชน จังหวัดสงขลา. (2560). สงขลา : โฟ- บาร์ด.
15 15 อมาวสี อัมพันศิริรัตน์. (2561). พัฒนาแนวทางการดำเนินงานระบบอาหารในกองทุนสุขภาพตำบล ภายใต้ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทำแผนและโครงการด้านระบบอาหารและโภชนาการในระดับองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการจัดการระบบสุขภาพ ภาคใต้ (สจ.รส.มอ.) (เอกสารอัดสำเนา) อมาวสี อัมพันศิริรัตน์, และพิมพิมล วงศ์ไชยา. (2562). บทบาทพยาบาลวิชาชีพกับการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ของชุมชน สู่ตำบลสุขภาวะ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทอร์น เอเชีย, 13(1), 38-47. อมาวสี อัมพันศิริรัตน์ มาริสา สุวรรณราช เกษศิรินทร์ ภู่เพชร. (2563). วิจัยประเมินแบบเสริมพลัง: โครงการอาหารของแม่เพื่อส่งเสริมโภชนาการของครอบครัวและชุมชน จังหวัดสงขลา. วารสารวิทยาลัย พยาบาลอุตรดิตถ์ ปีที่ 12 ฉบับที่ 1, 1 - 15. Ampansirirat, A & Suwanraj, M. (2016). Promotion of family and community nutrition using the mother's food guideline. Songkhla: Boromarajonani College of Nursing, Songkhla. (in Thai) Amavasee Ampansirirat, Siriwan Chukumnird, Prapaipis Singhasem, Marisa Suwanraj, Kornwika Promjuang. (2022). Mothers’ Cooking: Perspectives of Givers and Takers. TRENDS in SCIENCES 2022; 19(6): 1-12. Benito, C.G and Lozano, C. (2014). Constructing Food Citizenship: Theoretical Premises and Social Practices. Italian Sociological Review, 4 (2), 135-156. Retrieved from http://www.italiansociologicalreview.org/attachments/article/174/2%20Constructing%2 0Food%20Citizenship_Gomez-Benito_Lozano.pdf The United Nations.(2023) . Action Framework for Developing and Implementing Public Food Procurement and Service Policies for a Healthy Diet. Retrieved from https:// www. sdgmove.com/2021/01/27/who-healthy-food/ World Health Organization. (2023). Malnutrition in children. Retrieved from https://www.who. int/data/nutrition/nlis/info/malnutrition-in-children
16 16