The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thamonwan2112524, 2022-09-06 23:18:28

ประเมิน PA ธมนวรรณ

รวมไฟล์ PA

- กิจกรรมเพิ่มเวลารู้ จานวน 4 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจดั การเรยี นรู้ จานวน 7 ชั่วโมง/สัปดาห์
จานวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์
- การจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์
- การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จานวน 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
- การสร้างและพฒั นาสอ่ื การเรียนการสอน จานวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์
- การมีสว่ นร่วมในชุมชนการเรียนรทู้ างวิชาชพี (PLC) จานวน 6 ชั่วโมง/สปั ดาห์
1.3 งานพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา กลมุ่ บริหารงานวิชาการ
- เจ้าหน้าทีร่ ายงานนกั เรียนรายบุคคล (DMC) กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
- เจ้าหน้าท่งี านสารสนเทศ กล่มุ บรหิ ารงานท่วั ไป
- เจ้าหนา้ ทีส่ หกรณ์ในโรงเรยี น จานวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเนน้
- โครงการพัฒนาระบบดูและชว่ ยเหลือนกั เรยี น
- โรงเรยี นวถิ ีพุทธ

47

รายงานผลการปฏบิ ัตงิ านตามข้อตกลงผลการพัฒนางาน ( Performance Agreement : PA )
ตาแหนง่ ครู (ไมม่ ีวทิ ยฐานะ ) ประจาปงี บประมาณ 2565 โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ สังกดั สพป.อด 4

2. งานท่ีจะปฏิบตั ิตามมาตรฐานตาแหน่งครู (ใหร้ ะบรุ ำยละเอยี ดของงำนทจ่ี ะปฏบิ ตั ใิ นแต่
ละดำ้ นว่ำจะดำเนินกำรอยำ่ งไร โดยอำจระบรุ ะยะเวลำทใ่ี ชใ้ นกำรดำเนนิ กำรดว้ ยกไ็ ด)้

ลกั ษณะงานที่ปฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตวั ชี้วดั (Indicators)

ตามมาตรฐานตาแหน่ง ทจ่ี ะดำเนินกำรพฒั นำตำม ของงำนตำมขอ้ ตกลงท่ี ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั ผเู้ รยี น

ขอ้ ตกลง ใน 1 รอบกำรประเมนิ คำดหวงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ กำร

เร่อื ง กำรแกป้ ัญหำ กำรเหน็ ผเู้ รยี น เปลย่ี นแปลงไปในทำงทด่ี ี

คุณคำ่ ควำมสำคญั ของหลกั ธรรม ผเู้ รยี นชนั้ ป.3/1 เร่อื ง กำร ขน้ึ หรอื มกี ำรพฒั นำ มำก

น้อมนำจติ ใจ เร่อื ง โอวำท 3 ของ แกป้ ัญหำ กำรเหน็ คณุ ค่ำ ขน้ึ หรอื ผลสมั ฤทธสิ์ งู ขน้ึ

นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1 ควำมสำคญั ของหลกั ธรรม (โปรดระบ)ุ

น้อมนำจติ ใจ เรอ่ื ง โอวำท 3 ผเู้ รยี นชนั้ ป.3/1 รอ้ ยละ

กำรไมท่ ำชวั่ ของนกั เรยี น 80 ไดร้ บั กำรแกป้ ัญหำ

ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1 กำรเหน็ คุณคำ่

ควำมสำคญั ของ

หลกั ธรรมน้อมนำจติ ใจ

เรอ่ื ง โอวำท 3 กำรไม่ทำ

ชวั่ ของนกั เรยี นชนั้

ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1

1. ดา้ นการจดั การเรยี นรู้ 1. วเิ คราะห์หลกั สูตรและจดั ทา 1. ผเู้ รยี นชนั้ ป.3/1 ไดร้ บั 1. ผเู้ รยี นชนั้ ป.3/1

ลกั ษณะงำนทเ่ี สนอใหค้ รอบคลมุ หน่วยการเรียนรูจ้ ากมาตรฐานการ กำรแกป้ ัญหำกำรกำรคดิ รอ้ ยละ 80 ไดร้ บั กำร
ถงึ กำรสรำ้ งและหรอื พฒั นำหลกั สตู ร เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั นาไปจดั ทาหน่วย วเิ ครำะห์ เร่อื ง โอวำท 3 แกป้ ัญหำกำรกำรคดิ
กำรออกแบบกำรจดั กำรเรยี นรกู้ ำร การเรียนรู้ท่ีสอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน ของนกั เรยี นชนั้ วเิ ครำะห์ เร่อื ง โอวำท3

จดั กจิ กรรมกำรเรยี นรกู้ ำรสรำ้ งและ การเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ที่ 4 ( ตอ้ งรู้ ) ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1
หรอื พฒั นำสอ่ื นวตั กรรม 2. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80
เทคโนโลยี และแหล่งเรยี นรู้ กำรวดั ส ๑.๑ ป.๓/๑ อธิบายความสาคญั 2. ผเู้ รยี นเกดิ ทกั ษะกำร สำมำรถกำรคดิ วเิ ครำะห์
และประเมนิ ผลกำรจดั กำรเรยี นรู้ ของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ คดิ วเิ ครำะห์ เรอ่ื ง โอวำท 3 เรอ่ื ง โอวำท 3 และ
กำรศกึ ษำ วเิ ครำะห์ สงั เครำะห์ ตนนบั ถือ ในฐานะท่ีเป็นรากฐาน และสำมำรถนำหลกั ธรรมไป สำมำรถนำหลกั ธรรมไป
เพ่อื แกป้ ัญหำหรอื พฒั นำกำรเรยี นรู้ สาคญั ของวฒั นธรรมไทย ใชใ้ นกำรดำเนินชวี ติ ได้ ใชใ้ นกำรดำเนนิ ชวี ติ ได้

กำรจดั บรรยำกำศทส่ี ง่ เสรมิ และ 2. จดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้โดย
ใชก้ ระบวนการเรียนรู้หน่วยท่ี 9
พฒั นำผเู้ รยี น และกำรอบรมและ 3. ผเู้ รยี นไดร้ บั กำร 3. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80ไดร้ บั
พฒั นำคณุ ลกั ษณะทด่ี ขี องผเู้ รยี น กำรแกป้ ัญหำ กำรเหน็ คณุ คำ่ แกป้ ัญหำกำรคดิ วเิ ครำะห์ กำรแกป้ ัญหำกำรคดิ
ควำมสำคญั ของหลกั ธรรมน้อมนำ เร่อื ง โอวำท 3 ของนกั เรยี น วเิ ครำะห์ เร่อื ง โอวำท 3
จติ ใจ เร่อื ง โอวำท 3กำรไม่ทำชวั่ ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1 ของนกั เรยี นชนั้
และจดั การเรียนการสอนตาม โดยเกดิ จำกใชบ้ ทเรยี น ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1
สำเรจ็ รปู ทค่ี รจู ดั ทำขน้ึ โดยเกดิ จำกใชบ้ ทเรยี น
มาตรฐานตวั ช้ีวดั ท่ี 4 ( ตอ้ งรู้ ) ส สำเรจ็ รปู ทค่ี รจู ดั ทำขน้ึ
๑.๑ ป.๓/๑ อธิบายวนั สาคญั ทาง 4. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80 เกดิ

พระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตน

ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

48

รายงานผลการปฏิบตั ิงานตามขอ้ ตกลงผลการพฒั นางาน ( Performance Agreement : PA )
ตาแหน่ง ครู (ไมม่ ีวทิ ยฐานะ ) ประจาปงี บประมาณ 2565 โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ สังกดั สพป.อด 4

นบั ถือ ในฐานะที่เป็ นรากฐาน 4. ผเู้ รยี นเกดิ ทกั ษะกำรคดิ เรอ่ื ง โอวำท3 ของ

สาคญั ของวฒั นธรรมไทย วเิ ครำะห์ เร่อื ง โอวำท 3 นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษำ

ของนกั เรยี นชนั้ ปีท่ี 3/1 โดยกำรจดุ

3. จดั ทาบทเรียนสาเร็จรูป/สื่อการ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1 ซง่ึ ประกำยควำมคดิ กำร
สอน เรื่อง ความสาคญั ของ ประกอบดว้ ย สะกดิ ใหค้ น้ ควำ้ กำร
พระพทุ ธศาสนา ซ่ึงเกิดจากปัญหา 1) จุดประกำยควำมคดิ นำพำใหป้ ฏบิ ตั ิ กำรจดั
การเรียนรู้ของผเู้ รียนที่ตรงกบั ความ (Sparking) องคค์ วำมรู้ และ กำร
ตอ้ งการตามความแตกต่างระหวา่ ง 2) สะกดิ ใหค้ น้ ควำ้ นำเสนอควบค่กู ำร
บุคคลที่สอดคลอ้ งกบั การวดั ผล (Searching) ประเมนิ ได้
ประเมินผลและแกป้ ัญหาผเู้ รียน 3) นำพำใหป้ ฏบิ ตั ิ
(Studying) 5. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80

4) จดั องคค์ วำมรู้ ควำมพงึ พอใจต่อกำร
4. จดั บรรยากาศ โดยผเู้ รียนมีส่วน (Summarizing) เรยี นวชิ ำสงั คมศกึ ษำ

ร่วมเพ่ือใหน้ ่าสนใจท่ีเอ้ือตอ่ การ 5) นำเสนอควบคกู่ ำร ศำสนำและวฒั นธรรม

เรียนรู้ของผเู้ รียนและออกแบบการ ประเมนิ (Show and มำกยงิ่ ขน้ึ มคี วำมเป็น

จดั การเรียนการสอน Sharing) ระเบยี บวนิ ยั มคี ณุ ธรรม
ประกอบดว้ ย จรยิ ธรรมจำกกำรใช้
1) จุดประกายความคิด (Sparking) 5. ผเู้ รยี นเกดิ ควำมพงึ พอใจ ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
คือ ครูใชก้ ิจกรรม วธิ ีการ หรือสื่อ ต่อกำรเรยี นวชิ ำสงั คมศกึ ษำ และแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ บั
กระตุน้ ใหน้ กั เรียนเกิดความอยากรู้ ศำสนำและวฒั นธรรม มำก เพ่อื นในหอ้ งได้

และเห็นแนวทางในการแสวงหา ยงิ่ ขน้ึ มคี วำมเป็นระเบยี บ
ความรู้ นาไปสู่ความรู้ ความเขา้ ใจ วนิ ยั มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม
ในเน้ือหาสาระ จำกกำรใชท้ กั ษะกำรคดิ
2) สะกิดใหค้ น้ ควา้ (Searching) วเิ ครำะห์ และแลกเปลย่ี น
คือ ใชก้ ิจกรรมหรือ หวั ขอ้ เรื่องราว เรยี นรกู้ บั เพ่อื นในหอ้ งได้

ท่ีน่าสนใจชวนใหศ้ ึกษาคน้ ควา้ จาก

สื่อ แหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ สืบคน้ จาก

คอมพิวเตอร์เพื่อหาขอ้ มูลเพมิ่ เติม

หรือหาคาตอบดว้ ยตนเอง

3) นาพาใหป้ ฏิบตั ิ (Studying) คอื

ฝึ กใหน้ กั เรียนไดป้ ฏิบตั ิ เรียนรูด้ ว้ ย

ตนเองในลกั ษณะเป็ นกลุ่ม เป็ น

รายบุคคล จนเกิดทกั ษะและเรียนรู้

การแกป้ ัญหาดว้ ยตนเอง

4) จดั องคค์ วามรู้ (Summarizing)

คือ มุ่งเนน้ ใหน้ กั เรียนนาความรู้

ความเขา้ ใจจากการเรียนรู้ และฝึ ก

49

รายงานผลการปฏิบัตงิ านตามข้อตกลงผลการพฒั นางาน ( Performance Agreement : PA )
ตาแหนง่ ครู (ไมม่ ีวทิ ยฐานะ ) ประจาปีงบประมาณ 2565 โรงเรยี นบา้ นสร้างก่อ สังกัด สพป.อด 4

ปฏิบตั ิ การแกป้ ัญหาหรือ
ประยกุ ตใ์ ช้ จนสามารถสรุปเป็ น
องคค์ วามรู้ของตนเองไดอ้ ยา่ งเป็น
ระบบ
5) นาเสนอควบคูก่ ารประเมิน
(Show and Sharing) คือ ฝึ ก
นกั เรียนใหร้ ู้จกั วางแผนในการ
นาเสนอความรู้ ผลงานของตนเอง
อยา่ งมีความคิดสร้างสรรคด์ ว้ ย
เทคนิควธิ ีต่าง ๆ เช่น การแสดง
ละคร บทบาทสมมุติ นิทรรศการ
เกม การใชค้ อมพิวเตอร์ และมีการ
และเปล่ียนเรียนรูใ้ นดา้ นผลงาน
ความคิด วธิ ีการและขอ้ เสนอแนะ
นาไปสู่การพฒั นาผลงานและ
พฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เน่ือง

5. ฝึ กฝนความเป็ นระเบียบวนิ ยั /การ
อบรมคุณธรรม จริยธรรมจากการ
ใชท้ กั ษะชีวติ โดยการแลกเปลี่ยน
เรียนรู้

50

รายงานผลการปฏิบัตงิ านตามขอ้ ตกลงผลการพฒั นางาน ( Performance Agreement : PA )
ตาแหน่ง ครู (ไมม่ วี ทิ ยฐานะ ) ประจาปงี บประมาณ 2565 โรงเรยี นบ้านสรา้ งกอ่ สังกดั สพป.อด 4

ลกั ษณะงานที่ปฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตวั ชี้วดั (Indicators)
ตามมาตรฐานตาแหน่ง ทจ่ี ะดำเนินกำรพฒั นำ ของงำนตำมขอ้ ตกลงท่ี ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั ผเู้ รยี น
ตำมขอ้ ตกลง ใน 1 รอบกำร คำดหวงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ กำร
2. ดา้ นการส่งเสริมและสนับสนุน เปลย่ี นแปลงไปในทำงท่ี
การจดั การเรียนรู้ ประเมนิ ผเู้ รยี น ดขี น้ึ หรอื มกี ำรพฒั นำ
มำกขน้ึ หรอื ผลสมั ฤทธิ์
ลกั ษณะงำนทเ่ี สนอใหค้ รอบคลุม 1. จดั ทำรำยงำนขอ้ มลู สำรสนเทศ 1. ผเู้ รยี นไดร้ บั จดั ทำ
ถงึ กำรจดั ทำขอ้ มลู สำรสนเทศของ ผเู้ รยี นรำยบคุ คลและขอ้ มลู รำยงำนขอ้ มลู สำรสนเทศ สงู ขน้ึ
ผเู้ รยี นและรำยวชิ ำกำรดำเนินกำร นกั เรยี น ในรำยวชิ ำสงั คมศกึ ษำ ผเู้ รยี นรำยบคุ คลและขอ้ มลู 1. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 100
ตำมระบบดแู ลชว่ ยเหลอื ผเู้ รยี น กำร ศำสนำและวฒั นธรรม นกั เรยี น ในรำยวชิ ำสงั คม ไดร้ บั ประโยชน์จำกกำร
ปฏบิ ตั งิ ำนวชิ ำกำร และงำนอน่ื ๆ เพ่อื สำรวจนกั เรยี นทม่ี คี วำม ศกึ ษำศำสนำและวฒั นธรรม จดั ทำรำยงำนขอ้ มลู
ของสถำนศกึ ษำและกำรประสำน บกพรอ่ งดำ้ นทกั ษะกำรคดิ เพอ่ื สำรวจนกั เรยี นทม่ี คี วำม สำรสนเทศผเู้ รยี น
ควำมรว่ มมอื กบั ผปู้ กครองภำคี วเิ ครำะห์ เรอ่ื ง โอวำท 3 บกพรอ่ งดำ้ นทกั ษะกำรคดิ รำยบุคคลและขอ้ มลู
เครอื ขำ่ ย และหรอื สถำน วเิ ครำะห์ เร่อื ง โอวำท3 นกั เรยี น ในรำยวชิ ำ
ประกอบกำร 2. ออกเยย่ี มบำ้ น คดั กรองรวมไป สงั คมศกึ ษำศำสนำและ
ถงึ ขอควำมรว่ มมอื ผปู้ กครองเขำ้ 2. ผปู้ กครองมสี ว่ นร่วมกบั วฒั นธรรม
มำมสี ว่ นรว่ มในกำรใหค้ วำม ครผู สู้ อนในกำรแกไ้ ขปัญหำ เพอ่ื สำรวจนกั เรยี นทม่ี ี
ช่วยเหลอื ตำมระบบดแู ลช่วยเหลอื ผเู้ รยี นในดำ้ นทกั ษะกำรคดิ ควำมบกพรอ่ งดำ้ น
นกั เรยี น เพอ่ื นำไปสกู่ ำรแกไ้ ข วเิ ครำะห์ และระบบดแู ล ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
ปัญหำดำ้ นทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์ ชว่ ยเหลอื นกั เรยี นเรยี น เร่อื ง โอวำท 3
เรอ่ื ง โอวำท3 รำยบคุ คล
2. ผปู้ กครอง/ผทู้ ่ี
3. ปฏบิ ตั หิ น้ำทห่ี วั หน้ำกลุ่มสำระ 3. ผเู้ รยี นไดร้ บั กำร เกย่ี วขอ้ งรอ้ ยละ 100
กำรเรยี นสงั คมศกึ ษำศำสนำและ ชว่ ยเหลอื และแกไ้ ขปัญหำ มสี ว่ นร่วมกบั ครผู สู้ อนใน
วฒั นธรรม ตดิ ตำม กำกบั ดแู ล เม่อื เกดิ ปัญหำในดำ้ นทกั ษะ กำรแกไ้ ขปัญหำผเู้ รยี น
ประสำนงำนกบั ผปู้ กครองในกำร กำรคดิ วเิ ครำะห์ เรอ่ื ง ในดำ้ นดำ้ นทกั ษะกำรคดิ
แกป้ ัญหำดำ้ นทกั ษะกำรคดิ โอวำท3 วเิ ครำะหแ์ ละระบบดแู ล
วเิ ครำะห์ เร่อื ง โอวำท 3 โดยไดร้ บั ควำมร่วมมอื จำก ชว่ ยเหลอื นกั เรยี นเรยี น
ใหก้ บั นกั เรยี นทไ่ี ดร้ บั กำรคดั กรอง ผปู้ กครอง รำยบุคคลสำมำรถรบั รู้
แลว้ ควำมกำ้ วหน้ำพฒั นำกำร
ของผเู้ รยี นได้

3.ผเู้ รยี นไดร้ บั กำร
แกป้ ัญหำและไดร้ บั กำร
ช่วยเหลอื เมอ่ื เกดิ ปัญหำ
ในกำรคดิ วเิ ครำะห์ เรอ่ื ง
โอวำท 3 เป็นไปอย่ำง
ต่อเน่อื ง

51

รายงานผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงผลการพฒั นางาน ( Performance Agreement : PA )
ตาแหนง่ ครู (ไมม่ วี ิทยฐานะ ) ประจาปงี บประมาณ 2565 โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ สังกดั สพป.อด 4

ลกั ษณะงานที่ปฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตวั ชี้วดั (Indicators)

ตามมาตรฐานตาแหน่ง ทจ่ี ะดำเนินกำรพฒั นำ ของงำนตำมขอ้ ตกลงท่ี ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั ผเู้ รยี น

ตำมขอ้ ตกลง ใน 1 รอบกำร คำดหวงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ กำร

ประเมนิ ผเู้ รยี น เปลย่ี นแปลงไปในทำงท่ี

ดขี น้ึ หรอื มกี ำรพฒั นำ

มำกขน้ึ หรอื ผลสมั ฤทธิ์

สงู ขน้ึ

3. ด้านการพฒั นาตนเองและ 1. กำรเขำ้ รว่ มกำรอบรม/กำร 1. ใชท้ กั ษะ/องคค์ วำมรมู้ ำ 1. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80 มี

วิชาชีพ ประชุมในหลกั สตู รสำระกำรเรยี นรู้ บรู ณำกำร/สอดแทรกใน ผลกำรประเมนิ ดำ้ น

ลกั ษณะงำนทเ่ี สนอใหค้ รอบคลุม สงั คมศกึ ษำศำสนำและวฒั นธรรม เน้อื หำสำระวชิ ำในกำร ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
ถงึ กำรพฒั นำตนเองอยำ่ งเป็นระบบ กบั วทิ ยำกรหรอื หน่วยงำนทม่ี สี ว่ น จดั กำรเรยี นรหู้ รอื พฒั นำ ในระดบั คณุ ภำพ 3 ขน้ึ
และต่อเน่อื ง กำรมสี ว่ นร่วมในกำร เกย่ี วขอ้ ง โดยเฉพำะกำรแกไ้ ข นวตั กรรมกำรเรยี นรทู้ ่ี ไป จำก 5 ระดบั
แลกเปลย่ี นเรยี นรทู้ ำงวชิ ำชพี เพอ่ื ปัญหำดำ้ นทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์ สอดคลอ้ งกบั ควำมแตกต่ำง
พฒั นำกำรจดั กำรเรยี นรแู้ ละกำรนำ ทส่ี ำมำรถนำมำพฒั นำกำรจดั ระหว่ำงบุคคล
ควำมรคู้ วำมสำมำรถทกั ษะทไ่ี ดจ้ ำก กำรศกึ ษำในหอ้ งเรยี นทต่ี น
กำรพฒั นำตนเองและวชิ ำชพี มำใช้ รบั ผดิ ชอบ

ในกำรพฒั นำกำรจดั กำรเรยี นรู้ กำร 2. กำรทำกจิ กรรมชมุ ชนแห่งกำร 2. ร่วมกจิ กรรมชมุ ชนกำร 2. ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 80
พฒั นำคุณภำพผเู้ รยี น และกำร เรยี นรทู้ ำงวชิ ำชพี ( PLC ) กบั เรยี นรทู้ ำงวชิ ำชพี ไดร้ บั กำรแกไ้ ขปัญหำ
พฒั นำนวตั กรรมกำรจดั กำรเรยี นรู้ กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำ ( PLC ) แลกเปลย่ี นปัญหำ ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
ศำสนำและวฒั นธรรม และกลุ่ม ในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน จำกนวตั กรรมทค่ี รผู สู้ อน
สำระอ่นื ๆ เพ่อื แลกเปลย่ี นปัญหำ ของผเู้ รยี นทห่ี ลำกหลำย ประยุกตใ์ ช้ คอื แบบฝึก
กำรเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น สำเรจ็ รปู และกำรจดั กำร

เรยี นกำรสอน

หมายเหตุ

1. รปู แบบกำรจดั ทำขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำนตำมแบบ PA1 ใหเ้ ป็นไปตำมบรบิ ทและสภำพ

กำรจดั กำรเรยี นรขู้ องแต่ละสถำนศกึ ษำ โดยควำมเหน็ ชอบร่วมกนั ระหว่ำงผอู้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำและ

ขำ้ รำชกำรครผู จู้ ดั ทำขอ้ ตกลง

2. งำน (Tasks) ทเ่ี สนอเป็นขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำน ต้องเป็นงำนในหน้ำทค่ี วำมรบั ผดิ ชอบ

หลกั ทส่ี ง่ ผลโดยตรงต่อผลลพั ธก์ ำรเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น และใหน้ ำเสนอรำยวชิ ำหลกั ทท่ี ำกำรสอน โดยเสนอ

ในภำพรวมของรำยวิชำหลกั ท่ีทำกำรสอนทุกระดบั ชนั้ ในกรณีท่สี อนหลำยรำยวิชำ สำมำรถเลือก

รำยวิชำใดวิชำหน่ึงได้โดยจะต้องแสดงให้เห็นถึงกำรปฏิบัติงำนตำมมำตรฐำนตำแหน่ง และ

คณะกรรมกำรประเมนิ ผลกำรพฒั นำงำนตำมขอ้ ตกลงสำมำรถประเมนิ ไดต้ ำมแบบกำรประเมนิ PA 2

3. กำรพฒั นำงำนตำมข้อตกลง ตำมแบบ PA 1 ให้ควำมสำคญั กับผลลพั ธ์กำรเรยี นรู้ของ

ผู้เรียน (Outcomes) และตัวช้ีวัด (Indicators) ท่ีเป็นรูปธรรม และกำรประเมินของคณะกรรมกำร

ประเมนิ ผลกำรพฒั นำงำนตำมขอ้ ตกลง ใหค้ ณะกรรมกำรดำเนินกำรประเมนิ ตำมแบบ PA 2 จำกกำร

52

รายงานผลการปฏิบตั ิงานตามข้อตกลงผลการพัฒนางาน ( Performance Agreement : PA )
ตาแหน่ง ครู (ไมม่ ีวทิ ยฐานะ ) ประจาปงี บประมาณ 2565 โรงเรยี นบา้ นสรา้ งก่อ สังกดั สพป.อด 4

ปฏบิ ตั งิ ำนจรงิ สภำพกำรจดั กำรเรยี นรใู้ นบรบิ ทของแต่ละสถำนศกึ ษำ และผลลพั ธก์ ำรเรยี นรขู้ องผู้เรยี น
ทเ่ี กดิ จำกกำรพฒั นำงำนตำมขอ้ ตกลงเป็นสำคญั โดยไมเ่ น้นกำรประเมนิ จำกเอกสำร
ส่วนท่ี 2 ข้อตกลงในการพฒั นางานที่เป็นประเดน็ ท้าทายในการพฒั นาผลลพั ธก์ ารเรียนร้ขู อง

ผเู้ รยี น

ประเดน็ ทท่ี ำ้ ทำยในกำรพฒั นำผลลพั ธก์ ำรเรยี นรขู้ องผู้เรยี น ของผจู้ ดั ทำขอ้ ตกลง ซง่ึ ปัจจุบนั
ดำรงตำแหน่งครู (ยงั ไม่มวี ทิ ยฐำนะ) ต้องแสดงให้เหน็ ถึงระดบั กำรปฏบิ ตั ทิ ค่ี ำดหวงั คอื การแก้ปัญหา
กำรจดั กำรเรยี นรแู้ ละกำรพฒั นำคุณภำพกำรเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น ใหเ้ กดิ กำรเปลย่ี นแปลงไปในทำงทด่ี ขี น้ึ
หรอื มกี ำรพฒั นำมำกขน้ึ (ทงั้ น้ี ประเดน็ ทำ้ ทำยอำจจะแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ระดบั กำรปฏบิ ตั ทิ ค่ี ำดหวงั ทส่ี งู กว่ำ
ได)้

ประเดน็ ท้าทาย เร่อื ง กำรแก้ปัญหำกำรกำรคดิ วเิ ครำะห์นำหลกั ธรรมน้อมนำจติ ใจ เร่อื ง

โอวำท 3 กำรไม่ทำควำมชวั่ ทำแต่ควำมดี โดยใชเ้ ทคนิคกำรสอน Active Learning และนำไปปรบั ใชใ้ น
ชวี ติ ประจำวนั ของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1 โรงเรยี นบำ้ นสรำ้ งก่อ

1. สภาพปัญหาของผเู้ รยี นและการจดั การเรยี นรู้

ในอดีตที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สาระการเรียนรู้กลุ่มสังคมศึกษาศาสนาและ
วัฒนธรรม เกิดปัญหาเพราะผู้เรียนได้รับการสอนแบบท่องจาเน้ือหา ไม่ค่อยได้ปฏิบัติจริงและเมื่อจบ
การศึกษาไปแล้วความรู้ที่ได้รับจากการท่องจาน้ัน จะไม่สามารถนาไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริงของผู้เรียนได้
และการสอนแบบการท่องจาเน้ือหา ทาให้ผู้เรียนไม่ได้รับการพัฒนาด้านการคิดวิเคราะห์ การแสดงความ
คิดเหน็ และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองทาให้ผเู้ รยี นขาดคุณสมบตั ชิ า่ งสงสัยและใฝห่ าคาตอบ อกี ทัง้ เนน้ การ
สอนหนังสือมากกว่าการสอนคน เด็กและเยาวชนไม่ได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้พากเพียร สู้งาน ยึดม่ันใน
ความสุจริตท้ังกาย วาจา ใจ การบ่มเพาะคุณภาพและสุนทรียภาพจนเกิดผลดีต่อผู้เรียน และสภาพการ
จัดการเรียนรู้ในรายวชิ าพระพุทธศาสนาในปจั จุบัน ยังไม่บรรลุจุดหมายของหลักสูตรเท่าท่ีควร การสอนวิชา
พระพุทธศาสนา และการสอนหลักธรรมในโรงเรียนประสบความล้มเหลวเพราะการสอนมุ่งเน้นบรรยาย
เน้ือหาตามหนังสือแบบเรียนและวัดผลสัมฤทธิ์ ทาให้ผลการเรียนต่าเพราะไม่สามารถจาเน้ือเร่ืองได้ท้ังหมด
ขาดการคิดและลงมอื ปฏิบตั ิด้วยตนเอง เพ่ือเข้าสงั คมแห่งการเรียนรู้ตลอดชวี ิตอย่างยั่งยนื ตามทักษะการเรียนรู้
สู่ทศวรรษท่ี 21 และจากสภาพของการจัดการเพ่ือพัฒนาทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ประกอบกับปัญหาของ
การจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนา จึงคิดทจ่ี ะจัดการเรยี นการสอนเพ่ือพัฒนาและส่งเสริมให้ผู้เรียน
มีความรู้ มีความสามารถในการคิด เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้ การตัดสินใจในการป้องกันและแก้ไข
ปัญหาเก่ียวกับตนเองและสังคม พร้อมท้ังปลูกฝังให้ผู้เรียนได้มีคุณธรรมจริยธรรม และดารงชีวิตอยู่ในสังคม
ได้อย่างมีความสุขให้บรรลุตามจุดหมายของหลักสูตร ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติหรือสรา้ ง
สิง่ ท่ีมีความหมายกับตนเอง ตอบสนองความคิดและจินตนาการของผเู้ รยี น ซ่งึ ประกอบดว้ ย 5 ขนั้ ตอนดังน้ี

ขั้นตอนที่ 1 จดุ ประกายความคดิ (Sparking)
ขน้ั ตอนที่ 2 สะกดิ ใหค้ ้นควา้ (Searching)
ขั้นตอนท่ี 3 นาพาสู่การปฏิบตั ิ (Studying)
ขน้ั ตอนท่ี 4 จัดองค์ความรู้ (Summarizing)
ขั้นตอนท่ี 5 นาเสนอควบคูก่ ารประเมนิ (Show and Sharing)

53

รายงานผลการปฏิบัติงานตามขอ้ ตกลงผลการพัฒนางาน ( Performance Agreement : PA )
ตาแหน่ง ครู (ไมม่ ีวทิ ยฐานะ ) ประจาปีงบประมาณ 2565 โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ สงั กัด สพป.อด 4

มาใช้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอน เพราะเป็นวิธีการสอนที่พัฒนาคุณลักษณะด้านการคิดของผู้เรียน
มงุ่ เน้นใหผ้ ู้เรยี นคิดเปน็ ทาเปน็ แก้ปญั หาได้ สง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นเป็นนกั แก้ปัญหาที่ดี มีความสามารถในการ
คดิ พจิ ารณาอยา่ งรอบคอบดว้ ยเหตุผลเพอื่ การตดั สนิ ใจและเป็นวิธสี อนเน้นใหผ้ ้เู รียนรู้จักคิด สนใจท่จี ะคดิ และ
ร่วมกิจกรรม ใส่ใจในการค้นคว้า มีความสุขในการนาเสนอและร่วมกันสร้างองค์ความรู้ ซ่ึงจะนาไปสู่การ
พัฒนาปัญญาให้เกิดคุณลักษณะของคนไทยที่พึงประสงค์ ตามหลักการและจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษา
ในปัจจุบัน

2. วิธีการดาเนินการให้บรรลผุ ล

พฒั นำบทเรยี นสำเรจ็ รปู ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะหห์ ลกั ธรรมน้อมนำจติ ใจ เรอ่ื ง โอวำท 3 กำร
ไมท่ ำควำมชวั่ ทำแต่ควำมดี ของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1 โดย ครผู สู้ อนตดิ ตำมควำมกำ้ วหน้ำ
จำกกำรทำแบบฝึกหดั จำกบทเรยี นสำเรจ็ รปู ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์ เรอ่ื ง กำรปฏบิ ตั ติ น และเหน็
ควำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำ ของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1 โดยพจิ ำรณำจำกทกั ษะคดิ
วเิ ครำะห์ ทถ่ี ูกตอ้ ง และในระหว่ำงกำรพฒั นำ ครผู สู้ อนนำปัญหำทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั ผเู้ รยี นมำแลกเปลย่ี นเรยี นรู้
กบั ผบู้ รหิ ำร ครผู สู้ อนต่ำงกล่มุ สำระกำรเรยี นรเู้ พอ่ื ทจ่ี ะหำแนวทำงในกำรพฒั นำผเู้ รยี นใหเ้ ป็นไปตำมท่ี
กำหนดไว้

ลกั ษณะของการจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นดงั นี้

1. เป็นกำรเรยี นกำรสอนทพ่ี ฒั นำศกั ยภำพทำงสมอง ไดแ้ ก่ กำรคดิ กำรแก้ปัญหำ และ
กำรนำควำมรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้

2. เป็นกำรเรยี นกำรสอนทเ่ี ปิดโอกำสใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในกระบวนกำรเรยี นรสู้ งู สุด
3. ผเู้ รยี นสรำ้ งองคค์ วำมรแู้ ละจดั กระบวนกำรเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
4. ผเู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในกำรเรยี นกำรสอนทงั้ ในดำ้ นกำรสรำ้ งองคค์ วำมรู้ กำรสรำ้ ง
ปฏสิ มั พนั ธร์ ว่ มกนั รว่ มมอื กนั มำกกว่ำกำรแขง่ ขนั
5. ผเู้ รยี นเรยี นรคู้ วำมรบั ผดิ ชอบรว่ มกนั กำรมวี นิ ัยในกำรทำงำน และกำรแบง่ หน้ำท่ี
ควำมรบั ผดิ ชอบ
6. เป็นกระบวนกำรสรำ้ งสถำนกำรณ์ใหผ้ เู้ รยี นอ่ำน พดู ฟัง คดิ อยำ่ งลุ่มลกึ ผเู้ รยี นจะเป็น
ผจู้ ดั ระบบกำรเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
7. เป็นกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นทกั ษะกำรคดิ ขนั้ สงู
8. เป็นกจิ กรรมทเ่ี ปิดโอกำสใหผ้ เู้ รยี นบรู ณำกำรขอ้ มลู ขำ่ วสำร หรอื สำรสนเทศ และ
หลกั กำรควำมคดิ รวบยอด
9. ผสู้ อนจะเป็นผอู้ ำนวยควำมสะดวกในกำรจดั กำรเรยี นรู้ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเป็นผปู้ ฏบิ ตั ิ
ดว้ ยตนเอง
10. ควำมรเู้ กดิ จำกประสบกำรณ์ กำรสรำ้ งองคค์ วำมรู้ และกำรสรปุ ทบทวนของผเู้ รยี น

54

รายงานผลการปฏบิ ัติงานตามข้อตกลงผลการพฒั นางาน ( Performance Agreement : PA )
ตาแหนง่ ครู (ไมม่ วี ิทยฐานะ ) ประจาปงี บประมาณ 2565 โรงเรยี นบา้ นสรา้ งก่อ สงั กดั สพป.อด 4

3. ผลลพั ธก์ ารพฒั นาท่ีคาดหวงั
3.1 เชงิ ปรมิ ำณ
ผเู้ รยี นชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1 โรงเรยี นบำ้ นสรำ้ งก่อ จำนวน 24 คน รอ้ ยละ 80 ทเ่ี รยี น

ในรำยวชิ ำสงั คมศกึ ษำศำสนำและวฒั นธรรม ไดร้ บั กำรแกป้ ัญหำกำรแกป้ ัญหำ กำรเหน็ คณุ ค่ำควำมสำคญั ของ
หลกั ธรรมน้อมนำจติ ใจ เร่อื ง โอวำท 3 กำรไมท่ ำควำมชวั่ และมผี ลสมั ฤทธเิ ์พมิ่ สงู ขน้ึ

3.2 เชงิ คุณภำพ
ผเู้ รยี นชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3/1 โรงเรยี นบำ้ นสรำ้ งก่อ จำนวน 24 คน มที กั ษะกำร

แกป้ ัญหำ กำรคดิ วเิ ครำะหก์ ำรแกป้ ัญหำ กำรเหน็ คณุ คำ่ ควำมสำคญั ของหลกั ธรรมน้อมนำจติ ใจ เรอ่ื ง โอวำท 3 กำร
ไม่ทำควำมชวั่ และสำมำรถปรบั ประยกุ ตใ์ ชใ้ นกำรดำเนินชวี ติ ประจำวนั ได้ และผเู้ รยี นยงั มกี ำรเช่อื มโยง
ควำมรแู้ ละประสบกำรณ์ ในรำยวชิ ำสงั คมศกึ ษำศำสนำและวฒั นธรรม ทำใหเ้ กดิ กำรเรยี นรไู้ ดอ้ ยำ่ ง
ต่อเน่อื ง สม่ำเสมอ และประสบควำมสำเรจ็ ในกำรเรยี นรู้รำยวชิ ำสงั คมศกึ ษำศำสนำและวฒั นธรรม

ลงช่อื ................................................
(นำงสำวธมนวรรณ วรรณประเสรฐิ )
ตำแหน่ง ครู
ผจู้ ดั ทำขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำน
1 ตุลำคม 2564

ความเหน็ ของผอู้ านวยการสถานศึกษา
( ) เหน็ ชอบใหเ้ ป็นขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำน
( ) ไมเ่ หน็ ชอบใหเ้ ป็นขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำน โดยมขี อ้ เสนอแนะเพ่อื นำไปแกไ้ ข และ

เสนอเพอ่ื พจิ ำรณำอกี ครงั้ ดงั น้ี
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................

ลงช่อื .................................................
(นำงสำวดำรณุ ี อคั เทพ)

ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี นบำ้ นสรำ้ งก่อ
1 ตุลำคม 2564

55

รายงานผลการปฏบิ ตั งิ านตามขอ้ ตกลงผลการพัฒนางาน ( Performance Agreement : PA )
ตาแหน่ง ครู (ไมม่ วี ิทยฐานะ ) ประจาปีงบประมาณ 2565 โรงเรยี นบ้านสรา้ งกอ่ สังกัด สพป.อด 4


Click to View FlipBook Version