คู่มือ ประเมินพฒั นาการเด็กปฐมวยั
ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 2 (อายุ 4-5 ปี)
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
สานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาอบุ ลราชธานี เขต 4
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
คำชีแ้ จง
ชุดกิจกรรมการจัดประสบการณน์ ้ีใชเ้ พื่อประเมนิ พัฒนาการนกั เรยี นปฐมวยั (อายุ 4-5 ป)ี ภาคเรียนที่
1 ปกี ารศึกษา 2565 ซึง่ เป็นกจิ กรรมทส่ี อดคล้องกับการจัดกจิ กรรมประจาวนั ตามหลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั
พุทธศกั ราช 2560 โดยสานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอบุ ลราชธานี เขต 4 ใหโ้ รงเรียนดาเนินการ
ดงั นี้
1. ศึกษาชุดกิจกรรมท้ัง 7 ชุด ให้เข้าใจอย่างชัดเจน และประสานงานเพ่ือเตรียมสื่ออุปกรณ์ ไว้
ล่วงหน้า
2. ปรับตารางการจัดประสบการณ์ประจาวันของโรงเรียน โดยใช้ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
ประมาณ 2 วัน เพอื่ การวางแผนการประเมินพัฒนาการวันละ 3 – 4 ชุดกิจกรรม (อาจปรับรายละเอียดใน
กจิ กรรมได้บา้ งเลก็ นอ้ ยตามความเหมาะสม)
3. กาหนดวันดาเนินการประเมินพัฒนาการ โดยครูประจาชั้นท่ีทาหน้าท่ีจัดประสบการณ์ตามชุด
กิจกรรม
4. ครูประจาชนั้ เตรยี มกจิ กรรมและสอ่ื ตามทีร่ ะบใุ นรายการสอื่ /อปุ กรณ์ ของแต่ละชุดกจิ กรรมการจัด
ประสบการณ์
5. ครปู ระจาชน้ั อาจมอบหมายบุคคลอน่ื เขา้ มาร่วมจดั กิจกรรมได้ เชน่ กจิ กรรมการเลน่ กลางแจ้ง อาจ
ใหค้ รพู ลศึกษาเตรยี มสนามและจดั กจิ กรรม
6. ระหว่างดาเนินกิจกรรม ครูประจาชั้นต้องบันทึกผลการประเมินพัฒนาการนักเรียนลงในแบบ
บันทึกเพอื่ สรปุ ผลเม่ือสน้ิ สุดการประเมนิ ในแตล่ ะวัน และสรปุ ผลการประเมินพฒั นาการนกั เรยี นท้งั หมด
ท้ังน้ี ผลการประเมินพัฒนาการนักเรียนปฐมวยั (อายุ 4-5 ขวบ) ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
มีผลตอ่ การใช้เปน็ ฐานข้อมูลในการวางแผนการจัดการศึกษาระดบั ปฐมวัยในภาพรวมระดับเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา
ข้อมูลตา่ ง ๆ จะนาเสนอในภาพรวม จงึ ไมม่ ีผลกระทบต่อครปู ระจาชนั้ แตอ่ ย่างใด ดงั นนั้ จงึ ควรดาเนินการดว้ ย
ความบรสิ ุทธิ์ ยุตธิ รรม เพ่อื ใหไ้ ดข้ ้อมูลพัฒนาการของนกั เรียนอยา่ งแทจ้ ริง
ขอขอบคุณทกุ ท่านทีใ่ หค้ วามรว่ มมอื เปน็ อย่างดี
สานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอบุ ลราชธานี เขต 4
ชุดท่ี 1 การปฏิบัตกิ ิจวตั รประจาวัน สำรบญั
ชุดท่ี 2 กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ หนา้
ชดุ ที่ 3 กิจกรรมเสริมประสบการณ์
ชดุ ท่ี 4 กจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ 1
4
ชุดที่ 5 กิจกรรมการเลน่ ตามมมุ 7
ชุดท่ี 6 กิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง 10
ชุดท่ี 7 กจิ กรรมเกมการศกึ ษา 14
17
23
11
ชดุ ที่ 1 การปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจาวัน
พฤตกิ รรมของเด็กตลอดเวลาท่ีอยู่ในโรงเรียน นอกเหนือจากช่วงเวลาท่ีจัดกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม
สามารถบง่ บอกพัฒนาการด้านร่างกาย ในดา้ นสขุ ภาพอนามัยและสขุ นสิ ยั ที่ดี พัฒนาการด้านอารมณ์ - จิตใจ
ของเดก็ ในด้านความซื่อสัตย์สุจริต พฤติกรรมทางสังคมของเด็กในด้านประหยัดและพอเพียง การช่วยเหลือ
ตนเองในการปฏบิ ัติกิจวตั รประจาวัน การมีวินัยในตนเอง การปฏิบตั ติ นตามมารยาทและวัฒนธรรมไทย และ
แสดงออกซง่ึ ความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ได้ตามวยั ดงั น้ัน ในการประเมินพัฒนาการของเด็กคร้ังน้ี
จึงไดน้ าผลการสังเกตพฤติกรรมเดก็ ในช่วงเวลาดงั กลา่ วมาใช้เป็นข้อมูลส่วนหน่ึงของการประเมินพัฒนาการ
ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ และด้านสงั คม ดงั น้ี
วตั ถุประสงค์
1. เพื่อประเมนิ พฒั นาการด้านรา่ งกาย
1.1 นา้ หนกั และสว่ นสงู ตามเกณฑ์
1) นา้ หนักตามเกณฑ์ของกรมอนามยั
2) ส่วนสูงตามเกณฑ์ของกรมอนามัย
3) น้าหนกั ตามเกณฑส์ ่วนสงู
หมายเหตุ *เกณฑ์อ้างองิ การเจริญเติบโตของเดก็ ไทย ปี พ.ศ.2563 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ
1.2 มสี ุขภาพอนามัย สุขนสิ ัยทด่ี ี
1.2.1 สุขภาพอนามัย ความสะอาดของอวยั วะต่างๆ และสว่ นทเี่ กย่ี วข้องกบั รา่ งกาย ไดแ้ ก่
1) ผมและศรี ษะ
2) หแู ละใบหู
3) มอื และเลบ็ มือ
4) เทา้ และเลบ็ เท้า
5) ปาก ล้ิน และฟัน
6) จมกู
7) ตา
8) ผิวหนงั และใบหน้า
9) เส้อื ผา้
1.2.2 สุขนสิ ัยดี
1) รับประทานอาหารทม่ี ปี ระโยชน์และดืม่ น้าสะอาดไดด้ ว้ ยตนเอง
2) ลา้ งมอื กอ่ นรบั ประทานอาหารและหลงั จากใชห้ อ้ งน้าหอ้ งส้วมดว้ ยตนเอง
3) นอนพกั ผอ่ นเป็นเวลา
2. เพอ่ื ประเมนิ พฒั นาการดา้ นอารมณ-์ จติ ใจ
2.1 ซ่ือสัตยส์ ุจรติ
1) ขออนญุ าตหรอื รอคอยเมอื่ ตอ้ งการสง่ิ ของของผอู้ น่ื เมอ่ื มผี ูช้ ้แี นะ
22
3. เพอื่ ประเมนิ พฒั นาการด้านสังคม
3.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจาวัน
1) รับประทานอาหารดว้ ยตนเอง
2) ใช้ห้องนา้ ห้องสว้ มด้วยตนเอง
3.2 มวี ินัยในตนเอง
1) เข้าแถวตามลาดับกอ่ นหลงั ได้ด้วยตนเอง
3.3 ประหยดั และพอเพยี ง
1) ใช้สง่ิ ของเคร่ืองใช้อย่างประหยดั และพอเพียงเมื่อมผี ชู้ ้ีแนะ
3.4 ดแู ลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม
1) มสี ว่ นรว่ มดูแลรกั ษาธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มเม่อื มผี ู้ชีแ้ นะ
3.5 มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย และรกั ความเปน็ ไทย
1) ปฏบิ ตั ติ นตามมารยาทไทยได้ด้วยตนเอง
2) กล่าวคาขอบคณุ และขอโทษด้วยตนเอง
3) ยืนตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาตไิ ทยและเพลงสรรเสรญิ พระบารมี
3.6 มีปฏิสมั พนั ธท์ ีด่ กี บั ผู้อ่ืน
1) ยิม้ ทักทาย หรือพดู คุยกับผใู้ หญแ่ ละบุคคลทีค่ ุ้นเคยไดด้ ว้ ยตนเอง
ขอบขา่ ย/ขั้นตอนการจัดกจิ กรรม
1.การประเมนิ ภาวะการเจริญเตบิ โตและสุขภาพอนามยั
1) ชั่งนา้ หนัก วดั ส่วนสงู และบนั ทกึ การเจรญิ เตบิ โต
2) ตรวจสขุ ภาพ (ความสะอาดของอวัยวะตา่ งๆ และสว่ นทเี่ กย่ี วขอ้ งกับรา่ งกาย)
เกณฑก์ ารประเมิน
1.1 นา้ หนกั และส่วนสงู ตามเกณฑ์อ้างองิ การเจรญิ เติบโตของเด็กไทย ปี พ.ศ.2563 กรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข
รายการ เกณฑ์การประเมนิ 1 หมายเหตุ
32
น้าหนักตามเกณฑ์อายุ นา้ หนกั ตามเกณฑ์, น้าหนกั ค่อนขาง นา้ หนัก แบบบันทึกผล 2/1
น้อย นอ้ ย
น้าหนักค่อนขา้ งมาก,
นา้ หนกั มาก
สว่ นสูงตามเกณฑอ์ ายุ สงู ตามเกณฑ์, คอ่ นขา้ งเตย้ี เต้ีย
ค่อนข้างสูง,สงู
น้าหนกั ตามเกณฑ์ สมสว่ น,ทว่ ม, คอ่ นข้างผอม ผอม
ส่วนสูง เรม่ิ อว้ น,อ้วน
ระดับคณุ ภาพ 3 หมายถึง ดี , 2 หมายถงึ พอใช้, 1 หมายถึง ปรบั ปรุง
*** ในการสรปุ ผลการประเมนิ ภาวะการเจริญเตบิ โต น้าหนัก ส่วนสูง ตามเกณฑอ์ ายุ และ นา้ หนกั ตาม
เกณฑ์สว่ นสูง ใหค้ รูผู้ประเมนิ นาข้อมลู จากระบบสนับสนุนการบรหิ ารจดั สถานศึกษา SMSS มาสรปุ
33
1.2 ตรวจสขุ ภาพ ผมและศรี ษะ, หูและใบห,ู มือและเลบ็ มอื , เท้าและเลบ็ เท้า, ปาก ลิ้นและฟนั , จมกู
, ตา,ผวิ หนังและใบหน้ และเสอื้ ผ้า (แบบบนั ทกึ ผล 2/1)
ระดับคณุ ภาพ 3 หมายถงึ สะอาด, 2 หมายถงึ พอใช,้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
2. การประเมนิ การปฏิบัติกจิ วตั รประจาวนั ประกอบดว้ ย
1) กจิ วตั รประจาวันในชีวติ ประจาวัน
2) กิจวัตรประจาวันในสถานการณ์ทจ่ี ดั ข้ึน
แผนการจัดกิจกรรมการปฏิบัติกิจวตั รประจาวัน
เวลา กจิ กรรม พฤติกรรมที่ประเมนิ หมายเหตุ
07.30 - - - รบั เดก็ ทักทาย สนทนา - ปฏิบัตติ นตามมารยาทไทย แสดงความ แบบบนั ทึกผล 2/2
08.45 น. พดู คุยกบั เดก็ เคารพเมอ่ื พบผใู้ หญ่
- - เคารพธงชาติ สวดมนต์ - ยมิ้ หรือทกั ทายผู้ใหญแ่ ละบุคคลทคี่ ุน้ เคย
- ตรวจสุขภาพ - ยนื ตรงเม่ือได้ยินเสียงเพลงชาติ
- สุขภาพอนามัย
- ชั่งน้าหนัก วดั ส่วนสงู
- นา้ หนกั และส่วนสงู ตามเกณฑข์ องกรม
อนามยั
- ทาความสะอาดเขต - มีสว่ นรว่ มดูแลรักษาธรรมชาติและ
รบั ผดิ ชอบร่วมกัน ส่ิงแวดล้อม
10.10 - - พกั รับประทานอาหาร - รบั ประทานอาหารทมี่ ปี ระโยชน์และดม่ื นา้
10.30 น. วา่ งหรืออาหารเสรมิ สะอาด
- คณุ ครแู จกของวา่ งใหเ้ ด็ก - กลา่ วคาขอบคณุ เมอ่ื ไดร้ บั ของจากผู้ใหญ่
11.30 - - พกั รบั ประทานอาหาร - ล้างมอื กอ่ นรบั ประทานอาหาร
12.30 น. - เขา้ แถวตามลาดบั กอ่ นหลงั เพ่ือรับอาหาร
- รับประทานอาหารดว้ ยตนเอง
- การใช้หอ้ งนา้ ห้องส้วม
- ล้างหน้าแปรงฟัน - ลา้ งมือหลงั จากใช้ห้องนา้ ห้องส้วม
ไปห้องนา้ /ห้องส้วม - แปรงฟนั หลงั รบั ประทานอาหาร บอกหรือ
ชีไ้ ด้วา่ สงิ่ ใด (อปุ กรณใ์ นการแปรงฟัน) เปน็
ของตนเองและส่ิงใดเป็นของผู้อ่นื
- ครผู ูป้ ระเมนิ ใหเ้ ด็กบบี ยา - ใชส้ ่งิ ของเครื่องใชอ้ ย่างประหยดั และ
สฟี ันเอง พอเพยี ง
12.30-14.30 - นอนพกั กลางวนั - นอนพกั ผอ่ นเปน็ เวลา
น.
ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง ปฏิบตั ิไดด้ ้วยตนเอง , 2 หมายถงึ ปฏบิ ตั ิเมอ่ื มีผู้ชี้แนะ, 1 หมายถงึ ไมป่ ฏิบตั ิ
44
ชุดท่ี 2 กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ
กิจกรรมเคล่ือนไหวและจังหวะเป็นกิจกรรมท่ีเด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างอิสระ
ตามจังหวะ โดยใช้เพลง เครื่องเคาะจังหวะ มาประกอบการเคลื่อนไหวในลักษณะและทิศทางต่างๆ เด็กได้
แสดงออกอย่างสนุกสนาน ร่าเริง และมีความสุข กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะมุ่งจัดประสบการณ์
ทส่ี ่งเสรมิ การเคล่ือนไหวท่าทางอย่างสร้างสรรค์ตามจินตนาการ การเป็นผู้นา ผู้ตามที่ดี โดยมีวัตถุประสงค์
เพือ่ ประเมินพฒั นาการ ดา้ นอารมณ์-จิตใจ ดา้ นสังคม และด้านสติปัญญา ดงั นี้
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพอ่ื ประเมนิ พฒั นาการด้านอารมณ์ – จิตใจ
1.1 สนใจ มีความสขุ และแสดงออกผ่านงานศลิ ปะ ดนตรี และการเคลอ่ื นไหว
1) สนใจ มีความสขุ และแสดงออกผา่ นเสยี งเพลง ดนตรี
2) สนใจ มีความสขุ และแสดงทา่ ทาง/เคลือ่ นไหวประกอบเพลง จงั หวะ และดนตรี
2. เพื่อประเมนิ พฒั นาการด้านสังคม
2.1 ปฏบิ ตั ติ นเบ้ืองตน้ ในการเป็นสมาชกิ ที่ดีของสงั คม
1) มสี ว่ นรว่ มสร้างขอ้ ตกลงและปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลงเมอื่ มผี ้ชู แ้ี นะ
2) ปฏบิ ัตติ นเป็นผนู้ าและผ้ตู ามได้ดว้ ยตนเอง
3. เพ่อื ประเมินพฒั นาการด้านสติปญั ญา
3.1 แสดงทา่ ทางเคลือ่ นไหวตามจนิ ตนาการอยา่ งสร้างสรรค์
1) เคลอ่ื นไหวทา่ ทางเพอ่ื สอ่ื สารความคิด ความรู้สกึ ของตนเอง
อย่างหลากหลายหรือแปลกใหม่
ขอบขา่ ย/ข้นั ตอนการจัดกจิ กรรม
1. การเตรียมความพรอ้ ม
2. การเคล่ือนไหวพื้นฐาน
3. การเคล่อื นไหวประกอบเพลงตามจนิ ตนาการอย่างสรา้ งสรรค์
4. การเคลอ่ื นไหวอย่างอสิ ระโดยเปลยี่ นกนั เป็นผูน้ า ผู้ตาม
5. การผอ่ นคลายกล้ามเนอื้
แผนการจัดกิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ
ขัน้ ตอน พฤติกรรมที่ประเมนิ หมายเหตุ
แบบบันทกึ ผล 2/3
1.กจิ กรรมการเคลอ่ื นไหวพ้นื ฐาน
1.1 เด็กและครสู รา้ งข้อตกลงรว่ มกัน ดังนี้ - การปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง
1) เมือ่ ไดย้ นิ สญั ญาณเคาะจงั หวะชา้ ให้เดก็ ๆ
เคลื่อนไหวตามจงั หวะช้า
2) เม่ือไดย้ ินสัญญาณเคาะจงั หวะเร็ว ใหเ้ ด็กๆ
เคลือ่ นไหวตามจงั หวะเร็ว
3) เมอ่ื ไดย้ นิ สญั ญาณเคาะจังหวะ 2 ครั้งติดกนั ให้
เดก็ หยดุ เคล่ือนไหวในทา่ นัน้ ทนั ที
5
5
ขั้นตอน พฤติกรรมท่ปี ระเมนิ หมายเหตุ
1.2 ให้เดก็ หาพน้ื ทใ่ี ห้กบั ตนเอง เคลอื่ นไหวอยูก่ บั ที่
ตามจงั หวะ เคาะชา้ – เร็ว
1.3 ใหเ้ ด็กเคลือ่ นไหวเคล่ือนทีอ่ ยา่ งอสิ ระตามจังหวะ
ชา้ – เร็ว ไปรอบๆ บรเิ วณทก่ี าหนด โดยไมช่ นกนั เมอ่ื ได้ - สนใจ มคี วามสขุ และ
ยินสัญญาณ “หยุด” ใหห้ ยุดเคลอื่ นไหวในท่านน้ั ทนั ที
2. กิจกรรมการเคลอ่ื นไหวประกอบเพลงอย่างมี แสดงทา่ ทาง/เคล่อื นไหว
จินตนาการและสร้างสรรค์ ประกอบเพลง จังหวะ
และดนตรี
2.1 ครูอธบิ ายและสร้างข้อตกลง “เมอื่ ครเู ปิดเพลง
บรรเลงใหเ้ ดก็ ๆ เคล่ือนไหวทา่ ทางอยา่ งอิสระตาม
จินตนาการและสร้างสรรค์ ตามทว่ งทานองของเพลง”
2.2 ครเู ปดิ เพลงบรรเลง ใหเ้ ดก็ ฟงั พรอ้ มเคลือ่ นไหว
เพ่อื สรา้ งความคนุ้ เคยกบั จงั หวะและทว่ งทานองของเพลง - สนใจ มคี วามสุข และ
2.3 ครใู หเ้ ด็กเคลอ่ื นไหวประกอบเพลงบรรเลงตาม แสดงออกผ่านเสียงเพลง
ความคดิ ของเด็กอย่างอสิ ระตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ ดนตรี
3. กจิ กรรมการเคล่ือนไหวอย่างอสิ ระโดยเปลย่ี นกนั เป็น
ผู้นา ผู้ตาม
3.1 ครชู ีแ้ จงขอ้ ตกลง ดงั นี้
1) ใหอ้ าสาสมัครของแตล่ ะกลมุ่ สี ออกมายืน
ด้านหนา้ กลมุ่ ทาทา่ ทางประกอบตามชื่อสัตว์
(กระตา่ ย,แมว,สนุ ัข,เสอื เป็นตน้ )
2) เมื่อเสยี งเพลงดังขน้ึ ให้เด็กท่ยี นื หน้ากลุม่ ทาท่า
ทาง ตามช่อื สตั ว์ของตนใหเ้ ขา้ กบั จังหวะเพลง ไปรอบๆ - การปฏบิ ตั ิตนเป็นผูน้ า
และผตู้ าม
บริเวณ โดยเด็กที่เหลอื แตล่ ะกลมุ่ สปี ฏบิ ตั ิตามผนู้ าของตน
3) เมอื่ ไดย้ ินสัญญาณใหจ้ งั หวะ(กรบั กลอง ฉิ่ง ฯลฯ)
ดงั ข้นึ 1 คร้งั ใหเ้ ปล่ียนกนั เป็นผู้นาผ้ตู าม
ผ้นู าคนใหม่ ทาทา่ ทางให้ต่างไปจากผูน้ าคนเดมิ ปฏบิ ัติ
กิจกรรมตาม ลกั ษณะน้ีไปเรือ่ ยๆ จนครบทุกคนในกลุ่ม
4. ใหเ้ ด็กน่งั พกั ผ่อนเพอื่ ผอ่ นคลายกล้ามเนื้อ
ข้อเสนอแนะในการจัดกิจกรรม
1. ผู้ประเมินควรสงั เกตเด็กตัง้ แตเ่ ริ่มต้นกิจกรรมจนเสรจ็ ส้ิน
2. เกณฑ์การคดั เลอื กเพลงเพือ่ การประเมนิ คือ เลอื กเพลงบรรเลงไมม่ เี นื้อเพลงและเป็นเพลงทม่ี ี
ท่วงทานองช้า - เร็ว ชัดเจน
3. ความยาวของเพลงประมาณ 5 – 7 นาที
สอ่ื /อปุ กรณ์ 1. เพลงบรรเลง ความยาวประมาณ 7 นาที
2. เครื่องเลน่ ซีีดี (CD PLAYER) /คอมพิวเตอร์ + ลาโพง
6
6
3. เครอื่ งให้สญั ญาณจงั หวะชนดิ ใดชนิดหนึง่ เช่น กรบั กลอง ฉิ่ง ฯลฯ
ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม ประมาณ 20 นาที
เคร่ืองมอื การประเมนิ แบบบันทกึ ผล 2/3
7
7
ชุดท่ี 3 กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้เด็กได้พัฒนาทักษะการเรียนรู้ โดยให้เด็กได้
มโี อกาสฟงั พดู อ่าน สังเกต คิดแก้ปัญหา ใช้เหตุผล และฝึกปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความคิดรวบยอด เกี่ยวกับ
เรือ่ งทีเ่ รียน ฝึกการทางานและอยู่ร่วมกันเปน็ กล่มุ ทั้งกลมุ่ ยอ่ ยและกลุ่มใหญ่ สาหรับการจัดกิจกรรมเสริม
ประสบการณ์ในครั้งน้ี มุ่งประเมินพัฒนาการของเด็กด้านอารมณ์จิตใจ และด้านสติปัญญา โดยมี
วตั ถปุ ระสงค์ ดังนี้
วัตถปุ ระสงค์
1. เพ่อื ประเมินพฒั นาการดา้ นอารมณ์จติ ใจ
1.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้อย่างเหมาะสม
1) แสดงอารมณ์ความรสู้ ึกไดต้ ามสถานการณ์
1.2 มคี วามรสู้ ึกท่ดี ีต่อตนเองและผ้อู น่ื
1) กล้าพดู กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสมบางสถานการณ์
1.3 มีความเมตตากรุณา มีน้าใจและช่วยเหลือแบง่ ปัน
1) แสดงความรักเพือ่ นและมเี มตตาต่อสตั ว์เลีย้ ง
1.4 มคี วามเห็นอกเหน็ ใจผู้อ่นื
1) แสดงสหี นา้ หรือท่าทางรบั รคู้ วามรสู้ ึกผอู้ น่ื
2. เพ่ือประเมินพัฒนาการด้านสตปิ ัญญา
2.1 สนทนาโต้ตอบและเล่าเรอ่ื งใหผ้ ูอ้ ่นื เขา้ ใจ
1) ฟังผอู้ น่ื พดู จนจบและสนทนาโตต้ อบสอดคลอ้ งกับเรื่องท่ฟี ัง
2) เลา่ เร่อื งเป็นประโยคอยา่ งต่อเนือ่ ง
3) อ่านภาพ สญั ลักษณ์ คา พรอ้ มท้งั ช้ี หรอื กวาดตามองข้อความตามบรรทดั
2.2 มเี จตคติทีด่ ีต่อการเรยี นรู้
1) สนใจซกั ถามเกี่ยวกับสัญลกั ษณห์ รือตัวหนงั สือทพี่ บเห็น
2) กระตอื รอื ร้นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2.3 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้
1) คน้ หาคาตอบของข้อสงสยั ตา่ งๆ ตามวธิ กี ารของตนเอง
2) ใช้ประโยคคาถามว่า “ท่ีไหน” “ทาไม” ในการค้นหาคาตอบ
ขอบขา่ ย/ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม
1. ครแู นะนาหนังสอื นทิ านให้เด็กดูภาพทห่ี นา้ ปกหนงั สอื
2. เดก็ ทายชื่อนทิ านและเรือ่ งราวของนิทานตามความคิดอสิ ระจากภาพทปี่ ก
3. ครอู ่านช่อื นทิ านพร้อมช้ที ต่ี วั หนังสอื ช้าๆ
4. ครูอา่ นนิทานใหเ้ ด็กฟงั จนจบเร่อื ง
5. เดก็ ตอบคาถาม / แสดงความคดิ เห็น / ตั้งคาถามเกยี่ วกบั เรอ่ื งราวในนทิ าน
8
8
แผนการจัดกจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์
ข้นั ตอน พฤตกิ รรมท่ีประเมิน หมายเหตุ
นิทานเร่ือง เอ๊ะ! หายไปไหน แบบบันทึกผล
1.ครแู นะนาหนงั สือนทิ าน “เอะ๊ ! หายไปไหน” 2/4
1.1 ครใู หเ้ ด็กดูภาพปกหนงั สอื นิทานเร่ือง “เอ๊ะ! หายไป - กระตอื รอื รน้ ในการเขา้ ร่วม
ไหน” กจิ กรรม
1.2 ครูต้งั คาถามใหเ้ ด็กจนิ ตนาการเรื่องราวของนิทานจาก
ภาพปก เพอื่ ใหเ้ ดก็ พดู แสดงความคิดเหน็ เชน่
- นทิ านเรอ่ื งนน้ี า่ จะเปน็ เรอ่ื งเกย่ี วกับอะไร
- เด็กๆ คิดว่าเร่อื งราวจะเป็นอยา่ งไร - การอ่านภาพและพูดข้อความ
- เดก็ ๆ คิดว่านา่ จะตั้งชอื่ นิทานเร่อื งน้วี า่ อย่างไร ฯลฯ ด้วยภาษาของตน
- การสนใจฟังหรอื อา่ นหนงั สือ
1.3 ครูให้เด็กทายช่อื นทิ านและเรอื่ งราวของนทิ านตาม ด้วยตนเอง
- การฟงั ผ้อู ื่นพูดจนจบและพดู
ความคดิ อิสระจากภาพท่ปี ก
2. ครูอ่านนิทานใหเ้ ด็กฟัง
2.1 ครชู ้ีชื่อนิทานบนปกหนงั สอื พรอ้ มอ่านใหเ้ ดก็ ฟงั
2.2 ครูอา่ นนิทานใหเ้ ด็กฟงั โดยช้นี ิว้ ไล่ไปตามคาขณะท่ี โต้ตอบเกี่ยวกบั เรือ่ งที่ฟัง
อ่านและ อา่ นออกเสียง โดยมลี ลี า ทว่ งทานอง และนา้ เสียงท่ี - การแสดงสหี นา้ หรือทา่ ทางรบั รู้
เหมาะสมกับ เร่ืองราวในนทิ านตัง้ แตต่ น้ จนจบเรอื่ ง
3.เด็กตอบคาถามและต้ังคาถามเกยี่ วกบั เรอ่ื งราวในนิทาน ความรสู้ กึ ผู้อ่ืน
- กล้าพดู กล้าแสดงออกอยา่ ง
3.1 ครูตงั้ คาถามเพอ่ื ทบทวนเนอื้ เรอื่ ง และใหเ้ ดก็ แสดง เหมาะสมบางสถานการณ์
ความคดิ เห็น (ตวั อยา่ งคาถาม)
- การแสดงอารมณค์ วามรสู้ กึ ได้
- ครูเปดิ หน้าปกหนงั สอื นทิ าน ชท้ี ีภ่ าพเอะ๊ ! หายไปไหน
ครถู ามเด็กๆ ว่า สง่ิ ทเ่ี ดก็ ๆ เหน็ นเี้ รียกว่าอะไร เดก็ ๆ เคยเหน็ เหมาะสมกบั บางสถานการณ์
ไหม เห็นทไี่ หน - การแสดงความรักเพื่อนและมี
- เนือ้ เรอ่ื งในเลม่ น้ี เด็กๆ ชอบตอนไหนมากทสี่ ุด เพราะ
อะไร เมตตาต่อสัตวเ์ ล้ยี ง
- เด็กๆ ตอบครไู ด้ไหมว่าในนิทานมสี ตั ว์ชนดิ ใดบ้าง - การเลา่ เร่อื งด้วยประโยคสนั้ ๆ
- การใชป้ ระโยคคาถามวา่ “ที่
- เดก็ ๆ รสู้ กึ รไู้ หมว่านางฟา้ หมาจอู าศยั อยทู่ ่ีไหน
- เด็ก ๆตอบครูได้ไหมวา่ ทาไมหหู มูตุย้ จงึ หาย ไหน” “ทาไม” ในการคน้ หา
- เด็กๆ สามารถทาความดอี ะไรได้บา้ ง คาตอบ
3.2 ให้เดก็ ตั้งคาถามเก่ียวกบั เรอ่ื งราวในนิทานท่ีเดก็ - การค้นหาคาตอบของข้อสงสัย
ตา่ งๆ
ตอ้ งการรู้ เพ่มิ เตมิ โดยครถู ามว่า “เด็กๆ อยากร้อู ะไรเกี่ยวกบั
เรอื่ งราวในนทิ าน เร่ืองนีอ้ กี บา้ ง” เมือ่ เดก็ ถามคาถามครูควร
ใหเ้ ดก็ คนอนื่ ๆ ชว่ ยกนั ตอบคาถาม
หมายเหตุ
การอา่ นหนงั สอื ใหเ้ ดก็ ฟัง ควรอ่านอย่างต่อเนื่อง หากเด็กถามคาถามจากเรื่องครูควรตอบคาถาม
สัน้ ๆ เพอ่ื ใหเ้ ดก็ เข้าใจ ไม่ควรหยดุ หรอื ปรบั เปลี่ยนการดาเนินกจิ กรรมเพราะทาให้เสียอรรถรสของเรือ่ ง
9
9
* 1. คาถามหาความสัมพันธ์ หาเหตผุ ล หรอื การคาดคะเน เช่น ทไี่ หน ทาไม อยา่ งไร เพราะเหตุใด
เป็นตน้ 1 ถามคาถาม/แสดงความคดิ เห็นท่ไี ม่เกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองราวในนทิ านหรอื ไม่ถามคาถาม
** 2. คาถามที่มคี าตอบเดยี ว เชน่ ใชห่ รอื ไม่ ถูกหรือผิด เป็นต้น
*** 3. คาถามเฉพาะเจาะจง เชน่ ท่ไี หน ทาไม ท่ไี หน เมอ่ื ไหร่ เปน็ ต้น
สอื่ /อุปกรณ์ หนงั สือนิทานเรอื่ ง “เอะ๊ ! หายไปไหน”
https://youtu.be/SPXH_TPuhBs
เครอ่ื งมอื การประเมนิ แบบบนั ทึกผล 2/4
ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรม ประมาณ 35 นาที
10 10
ชดุ ที่ 4 กจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์
กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์เปน็ กจิ กรรมทจี่ ัดใหเ้ ดก็ ได้ใช้กลา้ มเนือ้ เล็กและการประสานสมั พันธร์ ะหว่าง
มอื และตา การสังเกต การคดิ ความคิดสรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ และพฒั นาการทาง ภาษา การจัดกจิ กรรม
คร้ังน้จี ัดข้ึนสาหรับใชป้ ระเมินพฒั นาการเด็กปฐมวยั ในด้านร่างกาย ดา้ นอารมณ์จิตใจ ด้านสงั คม และ
ดา้ นสติปญั ญา ให้สอดคล้องกบั การจดั ประสบการณ์ในชัน้ เรียนปกติ ดังนี้
วัตถุประสงค์
1. เพอ่ื ประเมินพฒั นาการดา้ นร่างกาย
1.1 ใช้มอื -ตาประสานสมั พนั ธก์ ัน
1) ใชก้ รรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นตรงได้
2) เขียนรูปสเี่ หล่ียมตามแบบไดอ้ ยา่ งมีมมุ ชัดเจน
2. เพอ่ื ประเมินพฒั นาการดา้ นอารมณ์จติ ใจ
2.1 มีความรู้สึกท่ีดตี ่อตนเองและผู้อืน่
1) แสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของตนเอง
2.2 สนใจ มีความสขุ และแสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว
1) สนใจ มีความสขุ และแสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ
2.3 มีความรบั ผดิ ชอบ
1) ทางานทีไ่ ด้รบั มอบหมายจนสาเรจ็ เม่ือมผี ชู้ ้แี นะ
3. เพอ่ื ประเมนิ พัฒนาการดา้ นสงั คม
3.1 ดแู ลรักษาธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม
1) ทง้ิ ขยะไดถ้ กู ท่ี
4. เพอื่ ประเมินพฒั นาการดา้ นสตปิ ญั ญา
4.1 อา่ น เขยี นภาพและสัญลกั ษณไ์ ด้
1) เขียนคล้ายตัวอกั ษร
4.2 ทางานศลิ ปะตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
1) สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สกึ ของตนเองโดยมีการดดั แปลงและแปลก
ใหมจ่ ากเดมิ หรือมรี ายละเอียดเพมิ่ ขึ้น
ขอบข่าย / ขนั้ ตอนการจัดกิจกรรม
กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคท์ จี่ ดั ใหก้ บั เดก็ มี 2 กิจกรรม ได้แก่
กิจกรรมท่ี 1 การสรา้ งผลงานศลิ ปะ (กจิ กรรมแบบเดยี่ ว) จดั กิจกรรมน้ใี นวันที่ 1 ของการประเมิน
กิจกรรมท่ี 2 การสร้างผลงานศลิ ปะ (กจิ กรรมแบบกลุ่ม) จดั กิจกรรมน้ีในวนั ที่ 2 ของการประเมิน
11
11
แผนการจัดกจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์
ขน้ั ตอน พฤติกรรมท่ีประเมิน หมายเหตุ
แบบบนั ทกึ ผล
วันที่ 1 กิจกรรมท่ี 1 การสรา้ งผลงานศลิ ปะ
2/5
(กจิ กรรมแบบเด่ยี ว) - การใช้กรรไกรตดั กระดาษขาด
1. ครูเตรียมภาพลายเสน้ (ตามแบบ) ขนาด 6 x 6 นว้ิ ตามแนวเส้นตรงได้
สาหรบั เด็กทุกคน คนละ 1 แผน่
2. ครสู นทนาแนะนาขัน้ ตอนการทากจิ กรรมและให้เดก็ ลงมอื - การแสดงความพอใจในผลงาน
ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ดังน้ี และความสามารถของตนเอง
-เขยี นชือ่ คลา้ ยตัวอักษร
2.1 ให้เดก็ แตล่ ะคนใชก้ รรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นที่ - ท้งิ ขยะได้ถกู ที่
กาหนดใหข้ าดจากกนั - สร้างผลงานศลิ ปะเพอื่ สอ่ื สาร
2.2 เดก็ นากระดาษท่ตี ัดแล้วปะติดลงบนกระดาษ A4 แล้ว
ตอ่ เติมผลงานจากกระดาษท่ตี ัดเปน็ ภาพตามจินตนาการ
2.3 ให้เดก็ เขยี นช่อื ตนเองทีช่ ิ้นงาน โดยคัดลอกจากบัตรช่ือ ความคิด ความรู้สกึ ของตนเอง
ท่ีครเู ตรียมให้ โดยมกี ารดดั แปลงและแปลกใหม่
2.4 ใหเ้ ดก็ ตั้งชอ่ื ผลงานของตนเองพร้อมเล่าเรอ่ื งจากผลงาน จากเดมิ หรือมรี ายละเอียดเพิม่ ขน้ึ
และครูเขยี นชอื่ ผลงานพรอ้ มบนั ทึกการเล่าเรอื่ งของเดก็
3. เดก็ เกบ็ ของและทาความสะอาดโตะ๊ /พื้นห้อง โดยครูไมต่ อ้ ง
เตอื น
4. นาผลงานของเด็กทกุ คนมาจัดแสดง และใหเ้ ด็กเลอื กผลงาน
ของเพื่อนทช่ี อบ พรอ้ มแสดงความคดิ เห็น
12 12
วนั ท่ี 2 กจิ กรรมที่ 2 การสร้างผลงานศิลปะ แบบบันทึกผล
2/5
(กจิ กรรมแบบกลุ่ม)
1. แบ่งเด็กเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4 - 5 คน
2. ครูแจกกระดาษรปู วงกลม 1 รปู และรูปสามเหลย่ี ม 1 - การใช้กรรไกรตดั กระดาษขาด
รปู ให้เดก็ ทุกคน (ครูให้เดก็ ตัดกระดาษรปู วงกลมและรูป ตามแนวเสน้ ตรงได้
- การแสดงความพอใจในผลงาน
สามเหล่ียมเตรยี มไว้ให้เดก็ ก่อนทากิจกรรมโดยไมใ่ หม้ เี สน้ รอบ และความสามารถของตนเอง
รูป)
3. แนะนาข้ันตอนการทากจิ กรรมและใหเ้ ดก็ ลงมอื ปฏิบตั ิ
กิจกรรม ดังนี้ - ทง้ิ ขยะได้ถกู ที่
3.1 ใหเ้ ด็กแตล่ ะคนพับกระดาษรปู วงกลมและกระดาษ
รูปสามเหลี่ยมใหท้ บั กันสนทิ ทง้ั 2 รปู
3.2 เดก็ แต่ละกลมุ่ วางแผนการทางานรว่ มกนั โดยนา - สร้างผลงานศลิ ปะเพ่ือสอ่ื สาร
กระดาษที่พบั แล้วมาสร้างภาพหรอื ประดิษฐ์ตามจินตนาการบน ความคดิ ความรู้สกึ ของตนเอง
กระดาษ 80 ปอนด์ ขนาด 27.5x 39.5 เซนตเิ มตร ตกแต่ง โดยมีการดดั แปลงและแปลกใหม่
ใหส้ มบรู ณ์ด้วย วัสดุ อปุ กรณท์ ีค่ รจู ัดเตรยี มให้ จากเดมิ หรือมรี ายละเอยี ดเพมิ่ ขนึ้
3.3 เมื่อทางานเสรจ็ แล้วเด็กต้ังชือ่ ผลงานกลมุ่ พร้อมเล่า -เขยี นชือ่ คลา้ ยตัวอักษร
เร่อื งจากผลงานใหเ้ พือ่ นฟงั
- สนใจ มีความสุข และแสดงออก
3.4 เด็กเก็บของและทาความสะอาดโตะ๊ /พ้ืนหอ้ ง
4. เมือ่ เดก็ ทางานเสรจ็ แลว้ ให้นาผลงานของเด็กทกุ กลุ่มมา ผ่านงานศลิ ปะ
จัดแสดงร่วมกัน ทงั้ นี้ ใหเ้ ด็กชมผลงาน และแสดงความคิดเห็น - การทางานที่ไดร้ บั มอบหมาย
เกยี่ วกบั ผลงานของกล่มุ อน่ื
สื่อ/อปุ กรณ์
กิจกรรมที่ 1 การสร้างงานศลิ ปะแบบเดี่ยว
1. กระดาษ A4
2. กระดาษภาพลายเสน้ ขนาด 6x6 นวิ้ คนละ 1 แผ่น
3. ดนิ สอดา ดินสอสี สเี มจิก สีเทยี น
4. กาวลาเท็กซ์/แปง้ เปยี ก
5. กรรไกรปลายมนขนาดเลก็ จานวนเพียงพอกบั เดก็ ทกุ คน
6. ผา้ เชด็ มอื
7. ใบกจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์ วันที่ 1
13
13
กจิ กรรมที่ 2 การสร้างผลงานศลิ ปะแบบกลุ่ม
1. กระดาษรปู วงกลม ขนาดเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง 3 นว้ิ 2 วง คนละ 1 แผน่
2. กระดาษรปู สามเหลยี่ มขนาด 3 x 3 นิว้ คนละ 1 แผน่
3. กระดาษ 80 ปอนด์ ขนาด 27.5 x 39.5 เซนติเมตร
4. ดินสอดา ดนิ สอสี สเี มจิก สเี ทยี น หรือวสั ดอุ นื่ ๆ ทใี่ ชใ้ นการตกแตง่ ได้
5. กาวลาเท็กซ์/แปง้ เปียก กลุ่มละ 1 ขวด
6. ผา้ เช็ดมอื
7. ใบกจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ วันที่ 2
ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม
กจิ กรรมที่ 1 ใชเ้ วลาประมาณ 40 นาที (ประเมนิ วนั ที่ 1)
กจิ กรรมที่ 2 ใช้เวลาประมาณ 40 นาที (ประเมนิ วนั ที่ 2)
เครอ่ื งมือการประเมนิ
แบบบันทกึ ผล 2/5
ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม ประมาณ 30 นาที
14
14
ชดุ ที่ 5 กิจกรรมการเลน่ ตามมุม
กจิ กรรมการเลน่ ตามมุม เปน็ กิจกรรมทจ่ี ัดใหเ้ ดก็ ได้เลน่ อิสระตามมุมเล่นหรือมุมประสบการณ์เด็กมี
โอกาสเลือกเล่นตามความสนใจและความต้องการของตนเอง ท้ังในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ซึ่งเป็น
ประโยชน์ในการพฒั นาเดก็ แบบองคร์ วม การจดั กจิ กรรมการเล่นตามมุมครงั้ น้ี มงุ่ เน้นการประเมินพฒั นาการ
ดา้ นร่างกาย ดา้ นอารมณ์จิตใจ และด้านสงั คม ดังนี้
วัตถปุ ระสงค์
1. เพื่อประเมนิ พฒั นาการดา้ นรา่ งกาย
1.1 ใชม้ ือ - ตาประสานสมั พันธก์ นั
1) ร้อยวัสดทุ มี่ รี ขู นาดเสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง 0.5 เซนติเมตรได้
2. เพื่อประเมินพฒั นาการด้านอารมณ์ จติ ใจ
2.1 มคี วามเมตตากรณุ า มีนา้ ใจและช่วยเหลือแบ่งปนั
1) ช่วยเหลือและแบง่ ปนั ผู้อ่ืนได้เมอ่ื มผี ชู้ แี้ นะ
3. เพอ่ื ประเมินพฒั นาการด้านสังคม
3.1 มวี นิ ัยในตนเอง
1) เก็บของเล่นของใช้เขา้ ท่ีด้วยตนเอง
3.2 ยอมรบั ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบคุ คล
1) เล่นและทากจิ กรรมร่วมกบั เดก็ ท่แี ตกต่างไปจากตน
3.3 มปี ฏสิ มั พันธ์ท่ดี ีกับผอู้ ืน่
1) เล่นหรอื ทางานรว่ มกบั เพอื่ นเปน็ กลุ่ม
ขอบขา่ ย / ข้ันตอนการจัดกจิ กรรม
1. เตรยี มสอ่ื / อุปกรณต์ า่ งๆ ในมุมประสบการณ์
2. ให้เดก็ เข้าเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ ตามความสนใจของแตล่ ะบคุ คล หลงั จากเด็กทากจิ กรรม
สร้างสรรคเ์ สรจ็ เรียบรอ้ ย
15 15
แผนการจดั กิจกรรมการเล่นตามมมุ
ข้นั ตอน พฤติกรรมท่ีประเมิน หมายเหตุ
แบบบันทกึ ผล
แผนการจดั กิจกรรมการเลน่ ตามมมุ
2/6
1. ครเู ตรยี มส่อื และเครอ่ื งเลน่ ตามมุมประสบการณ์ เช่น
มุมบลอ็ ก มุมบทบาทสมมติ (มุมบ้าน มุมรา้ นค้า มุมหมอ) - การรอ้ ยวสั ดุทีม่ รี ูขนาดเส้นผ่าน
มมุ หนงั สือ มมุ ธรรมชาติ มุมศลิ ปะ และมมุ อ่นื ๆ หรอื ตามสภาพ ศูนย์กลาง0.5 เซนติเมตร
ทีม่ ีอยใู่ นหอ้ งเรียน อยา่ งนอ้ ย 4 มมุ - เลน่ ร่วมกับเพื่อน
2. แนะนาของเล่นใหมแ่ ละวิธกี ารเลน่ (รอ้ ยลกู ปัด)
3. เมอ่ื เดก็ ทากจิ กรรมสรา้ งสรรคเ์ สรจ็ เรียบรอ้ ยแล้วใหเ้ ดก็ - การเลน่ และทากจิ กรรมร่วมกบั
เข้าเล่นรอ้ ยลกู ปดั กอ่ น แล้วจงึ เล่นต่อในมุมอน่ื ๆ ตามความ เด็กทแี่ ตกตา่ งไปจากตน
- การแบ่งปันผูอ้ ่นื
สนใจ ครคู อยสงั เกตการณ์เลน่ ของเดก็
4. ให้สญั ญาณเตือนก่อนหมดเวลา 5 นาที
5. ใหส้ ญั ญาณหมดเวลาเลน่ ครสู งั เกตพฤตกิ รรมการเก็บ - การเกบ็ ของเล่นของใช้
ของเลน่ ของใชเ้ ข้าที่ของเด็ก
ข้อเสนอแนะในการจดั กจิ กรรม
ครเู ตรียมสือ่ และของเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เชน่ มมุ หนงั สือ มมุ บล็อก มุมบทบาทสมมติ
มุมวทิ ยาศาสตร์ มมุ ศิลปะสรา้ งสรรค์ และมมุ อน่ื ๆ ทม่ี ีอยใู่ นหอ้ งเรยี น อย่างนอ้ ย 4 มุม
สอื่ / อปุ กรณ์
1. มุมบล็อก มีสือ่ / อปุ กรณ์ เชน่ บลอ็ กไม้ / บล็อกพลาสตกิ ประมาณ 30 ช้ิน มรี ูปทรง
หลากหลายและหลากสสี นั ฯลฯ
2. มมุ บทบาทสมมติ เชน่
2.1 มมุ บ้าน มีสื่อ/อปุ กรณ์ เชน่
- เครือ่ งใชใ้ นหอ้ งครวั เช่น ถ้วยจาน หมอ้ กระทะ ตะหลวิ ทพั พี ช้อนสอ้ ม
- เครอ่ื งแต่งกายอาชีพต่างๆ
- เครือ่ งใช้ในบา้ น เชน่ โทรศพั ท์ เตารดี ทีวี ฯลฯ
2.2 มมุ ร้านค้า มีสอ่ื /อุปกรณ์ เชน่
- กล่องเปลา่ และขวดเปลา่ ผลิตภัณฑส์ ินคา้ ตา่ งๆ เชน่ กลอ่ งยาสฟี ัน ขวดนา้
- วัสดุ ส่ิงของ สนิ ค้าของจริง / ของจาลอง
- เหรียญและธนบตั รจาลอง
- ภาชนะ (ตะกร้า กระจาด) ถุงพลาสตกิ
- กลอ่ งใส่เงนิ ฯลฯ
2.3 มมุ หมอ มีสอื่ /อปุ กรณ์ เชน่
- เตียงนอน - ชุดหมอ พยาบาล
- หูฟัง ปรอทวัดไข้ ฯลฯ
16 16
3. มุมหนังสอื มีสอ่ื /อปุ กรณ์ เชน่
- หนังสอื ภาพ หรือหนงั สือนทิ านอื่น ๆ
- รปู ภาพ / แผ่นภาพ ฯลฯ
4. มมุ ธรรมชาติ /มุมวทิ ยาศาสตร์ มสี ือ่ /อปุ กรณ์ เชน่
- ก้อนหิน กรวด ทราย - กลอ่ งจาแนกกล่ิน เสยี ง
- ตาชง่ั เมลด็ พชื ต่างๆ - แวน่ ขยาย ฯลฯ
5. มมุ ประสาทสมั ผสั มสี ่อื /อปุ กรณ์ เช่น
- ลกู ปัดขนาดเส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง 0.5 เซนติเมตรหลากสี พรอ้ มเชอื กรอ้ ย
- ของเล่นฝึกการผูกโบว์ รอ้ ยเชือกรองเทา้ ฯลฯ
เครอ่ื งมือการประเมิน
แบบบันทกึ ผล 2/6
ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม ประมาณ 20 นาที
17
17
ชุดท่ี 6 กิจกรรมการเลน่ กลางแจง้
กิจกรรมการเล่นกลางแจง้ เปน็ กจิ กรรมทีม่ ุ่งส่งเสรมิ พฒั นาการด้านรา่ งกาย เพอื่ ใหเ้ ด็ก มที กั ษะ
การเคลื่อนไหวพื้นฐาน เชน่ การเดนิ การวิ่ง การกระโดด การเคลอื่ นไหวพรอ้ มอปุ กรณก์ ารเลน่ อสิ ระ และ
ความสามารถในการควบคุมการเคล่ือนไหวของรา่ งกาย เปน็ ตน้ ซึง่ เปน็ พ้ืนฐานของการเคลอื่ นไหวท่ีสาคญั
สาหรบั เด็กปฐมวัยในการนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน การจัดกจิ กรรมการเลน่ กลางแจ้งครง้ั น้ี มวี ัตถปุ ระสงค์
เพ่ือประเมนิ พฒั นาการเด็ก โดยมงุ่ เน้นพฒั นาการดา้ นร่างกาย และดา้ นสงั คม ดังนี้
วัตถปุ ระสงค์
1. เพือ่ ประเมนิ พฒั นาการด้านรา่ งกาย
1.1 มสี ขุ ภาพอนามัย สขุ นสิ ยั ท่ดี ี
1) ออกกาลงั กายเปน็ เวลา
1.2 รักษาความปลอดภยั ของตนเองและผู้อื่น
1) เล่นและทากจิ กรรมอยา่ งปลอดภยั ด้วยตนเอง
1.3 เคล่ือนไหวร่างกายอยา่ งคลอ่ งแคลว่ ประสานสมั พันธ์และทรงตวั ได้
1) เดนิ ตอ่ เทา้ ไปขา้ งหน้าเป็นเสน้ ตรงไดโ้ ดยไม่ต้องกางแขน
2) กระโดดขาเดยี วอยู่กบั ท่ีได้โดยไมเ่ สยี การทรงตวั
3) วิ่งหลบหลีกสง่ิ กีดขวางได้
4) รบั ลกู บอลไดด้ ว้ ยมอื ทงั้ สองขา้ ง
2. เพือ่ ประเมนิ พฒั นาการด้านสังคม
2.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการปฏิบัตกิ ิจวัตรประจาวนั
1) แต่งตัวโดยตนเอง
2.2 ปฏิบัติตนเบอ้ื งต้นในการเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องสงั คม
1) ประนปี ระนอมแกไ้ ขปญั หาโดยปราศจากการใช้ความรุนแรงเม่ือมผี ้ชู ี้แนะ
ขอบข่าย/ข้ันตอนการจัดกจิ กรรม
กจิ กรรมการเลน่ กลางแจ้งทจี่ ดั ใหก้ บั เดก็ มี 2 กจิ กรรม ไดแ้ ก่
กิจกรรมท่ี 1 ผจญภัยไปกบั หนู จัดกจิ กรรมนีใ้ นวันท่ี 1 ของการประเมนิ
กจิ กรรมที่ 2 ขวดนา้ แสนสนุก จัดกจิ กรรมนี้ในวันท่ี 2 ของการประเมนิ
1. เตรยี มสนาม/สถานที่ในการจดั กจิ กรรม
2. เตรียมความพร้อมเด็ก : ตรวจเครือ่ งแตง่ กาย ตรวจสุขภาพ
3. เตรียมความพร้อมดา้ นร่างกาย : บรหิ ารอบอนุ่ ร่างกาย
4. อธบิ ายและสาธติ การเล่นแต่ละกจิ กรรมให้เด็กดู
5. เดก็ ทดลองการเลน่ ตามกจิ กรรม
6. เด็กปฏิบตั จิ ริงและเลน่ อสิ ระ
7. เดก็ ผอ่ นคลายกลา้ มเน้ือ
8. สรปุ ผลการจัดกิจกรรม
9. เด็กสารวจร่างกาย ทาความสะอาดรา่ งกาย กลับห้องเรยี นอยา่ งเป็นระเบยี บ
18
18
แผนการจดั กจิ กรรมการเล่นกลางแจ้ง
ขนั้ ตอน พฤติกรรมที่ประเมนิ หมายเหตุ
แบบบันทึกผล 2/7
1. พาเด็กไปสนามอย่างเป็นระเบียบ
2. เด็กเข้าแถวตอนลกึ ระยะหา่ งไมน่ อ้ ยกวา่ 1 ชว่ งแขน (แถวหนึง่ ไม่ - ออกกาลังกายเปน็ เวลา
ควรเกนิ 10 คน) ครูสารวจเคร่ืองแต่งกายและตรวจสขุ ภาพร่างกาย
ของเดก็
3. เดก็ บรหิ ารร่างกาย 3 - 5 นาที โดยใหเ้ ดก็ ปฏิบัตติ ามรายการ
ต่อไปนี้
3.1 การยดื กลา้ มเนอ้ื ส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยการยนื ทรงตัว
เขยง่ ปลายเท้ายกแขนสองขา้ งแนบใบหปู ระสานมือไวเ้ หนือศรี ษะ ยดื
ลาตวั ใหส้ งู สุดประมาณ 1 นาที แลว้ ให้เดก็ เอามอื ลงและยนื ตรง
3.2 ยืนแยกเท้าเท่ากบั ชว่ งไหล่ กางแขนออกไปข้างลาตัวระดบั
ไหล่ (ทาทา่ กางปกี นก) ก้มลาตัวเอาปลายนิว้ มอื ขวาแตะเทา้ ซ้ายคา้ ง
ไว้ นบั 1-10 และสลบั ขา้ ง ค้างไว้ นบั 1-10 เชน่ กัน
3.3 วงิ่ อยู่กับท่ี ช้า เร็ว ตามลาดบั
3.4 กระโดดเท้าคู่อยกู่ บั ที่ 5 คร้ัง
ขั้นตอนการจดั กิจกรรมแตล่ ะกิจกรรม (2 กิจกรรม)
กิจกรรมท่ี 1 ผจญภยั ไปกับหนู (ว่งิ หลบหลีกสิ่งกดี ขวางได้ กระโดด - การวง่ิ หลบหลีกสิ่งกดี แบบบนั ทกึ ผล 2/7
ขาเดียวอยูก่ บั ท่ีไดโ้ ดยไม่เสียการทรงตวั เดนิ ต่อเท้าไปขา้ งหนา้ เป็น ขวางได้
เสน้ ตรงได้โดยไม่ต้องกางแขน รับลูกบอลไดด้ ้วยมอื ทัง้ สองขา้ ง)
4. ครูสาธิตและอธิบายวิธกี ารเลน่ และข้อตกลงในการเล่น ดงั นี้ - การกระโดดขาเดยี วอยู่
4.1 ครูใหส้ ญั ญาณนกหวดี เด็กว่งิ ออกจากจดุ เรมิ่ ตน้ ระยะทาง กบั ท่ีไดโ้ ดยไม่เสียการทรง
4 เมตร. ตวั
4.2 เดก็ หยดุ ยนื ในจดุ ทกี่ าหนด แล้วกระโดดขาเดยี วอยกู่ บั ทโ่ี ดย
ไมเ่ สยี การทรงตัว 5 ครง้ั - การเดนิ ตอ่ เทา้ ไป
4.3 เดก็ เดินตอ่ เท้าไปขา้ งหนา้ เป็นเสน้ ตรงโดยไม่ตอ้ งกางแขน ขา้ งหนา้ เป็นเสน้ ตรงไดโ้ ดย
ระยะทาง 3 เมตร ไมต่ อ้ งกางแขน
4.4 ยืนในจุดทีก่ าหนด ครสู ่งลูกบอลแบบหงายมอื ใหเ้ ดก็ เด็กใช้
มือท้ัง 2 ข้าง คนที่ 2 และคนตอ่ ๆ ไป ปฏบิ ตั ิเชน่ เดยี วกบั คนที่ 1 จน - การรบั ลกู บอลโดยใช้มือ
หมดแถว ถอื ว่าจบการเลน่ 1 คร้ัง (ในการอธบิ ายและสาธติ ควรให้ มือท้ังสองข้าง
เด็กทกุ คนไดเ้ ห็นการสาธิตการเลน่ )
4.5 ให้เดก็ ทกุ คนทดลองเลน่ 1 หรอื 2 ครั้ง ตามทคี่ รสู าธติ ให้
ครบทกุ ขน้ั ตอนอยา่ งตอ่ เนื่อง
19 19
(ตอ่ ) แผนการจัดกิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง
ขนั้ ตอน พฤตกิ รรมทปี่ ระเมิน หมายเหตุ
4.6 ใหเ้ ดก็ เลน่ เม่ือได้ยินสญั ญาณเริ่ม (ใหเ้ ด็กปฏบิ ัติ 3 ครง้ั เพอ่ื เหน็
ความสามารถที่แทจ้ รงิ ของเดก็ และใหผ้ ู้ประเมนิ เลือกประเมนิ ที่ดที ่สี ดุ
เพยี งครงั้ เดียว)
4.7 เมื่อจบการเล่น นักเรยี นเลน่ อสิ ระ ครูใหส้ ญั ญาณรวม
เดก็ ผอ่ นคลายกลา้ มเนอ้ื ส่วนต่างๆ ของรา่ งกาย
กิจกรรมท่ี 2 ขวดน้าแสนสนกุ (ฝกึ การทรงตัว) (กระโดดขาคู่และ - การเลน่ และทากจิ กรรม แบบบนั ทกึ ผล 2/7
กระโดดขาเดียวไปขา้ งหนา้ ไดโ้ ดยไม่เสยี การทรงตวั ) อยา่ งปลอดภยั ด้วยตนเอง
5. ดาเนนิ การตามข้อ 1-3
6. ครอู ธบิ ายและสรา้ งข้อตกลงในการเล่นขวดนา้ แสนสนุกรว่ มกนั - การกระโดดขาเดยี วอยกู่ บั
ทไ่ี ดโ้ ดยไม่เสียการทรงตวั
6.1 ครูใหส้ ญั ญาณนกหวดี เดก็ กระโดดขาคู่ออกจากจดุ เร่มิ ตน้ (ไป)
ข้ามขวดทวี่ า่ งในแนวนอนไวจ้ นครบ 5 ขวด แต่ละขวดหา่ งวนั 1 ก้าว
ของเด็ก
6.2 เดก็ หยุดยืนในจดุ ทกี่ าหนด แล้วกระโดดขาเดยี ว (กลับ) ข้าม - ประนีประนอมแก้ไข
ขวดทว่ี ่างในแนวนอนไวจ้ นครบ 5 ขวด แตล่ ะขวดหา่ งวัน 1 ก้าวของ ปัญหาโดยปราศจากการใช้
เดก็ โดยไมเ่ สยี การทรงตวั ความรนุ แรงเมื่อมผี ้ชู ี้แนะ
คนที่ 2 และคนต่อๆ ไป ปฏบิ ตั เิ ช่นเดียวกับคนท่ี 1 จนหมดแถว ถอื วา่ - การแต่งตวั ดว้ ยตนเอง
จบการเลน่ 1 คร้งั (ในการอธิบายและสาธิต ควรใหเ้ ดก็ ทุกคนได้เห็น
การสาธิตการเล่น)
6.3 ใหเ้ ดก็ ทกุ คนทดลองเล่น 1 หรอื 2 ครัง้ ตามที่ครสู าธิตใหค้ รบ
ทุกขน้ั ตอนอย่างตอ่ เนอ่ื ง
6.4 ให้เดก็ เลน่ เม่อื ได้ยินสญั ญาณเรมิ่ (ใหเ้ ดก็ ปฏบิ ัติ 3 ครง้ั เพอื่
เห็น ความสามารถทแ่ี ทจ้ รงิ ของเดก็ และใหผ้ ปู้ ระเมินเลอื กประเมินท่ดี ี
ที่สดุ เพียงครงั้ เดยี ว)
6.5 เมอื่ จบการเลน่ นักเรยี นเล่นอสิ ระ ครูให้สญั ญาณรวม เด็ก
ผ่อนคลายกลา้ มเน้ือส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย
20 20
ขอ้ เสนอแนะในการจดั กิจกรรม
1. เดก็ ท่ีมาเลน่ กิจกรรมกลางแจง้ ครปู ระจาชนั้ ควรตรวจสอบให้มนั่ ใจว่าเดก็ เป็นผู้ไม่มีโรคประจาตวั
เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคกระดูก เปน็ ต้น
2. ผปู้ ระเมนิ อาจจะเชญิ ครูพลศึกษาในโรงเรยี นหรอื ผมู้ ีความสามารถเชี่ยวชาญด้านการสง่ -รับลกู บอล
มาสาธิตและเปน็ ผสู้ ง่ ลกู บอลให้กบั เดก็ ได้
สื่อ/อปุ กรณ์
1.ลกู บอลหนงั เบอร์ 3
2. ตะกร้าขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ 45 - 50 เซนตเิ มตร สงู ไมเ่ กนิ 30 เซนตเิ มตร
3. ขวดน้าพลาสติกหรอื อปุ กรณอ์ น่ื ท่ีใชแ้ ทน จานวน 5 ช้นิ
4. กระดาษกาว/ปูนขาว เพื่อใช้ทาเส้นเริ่มต้นและเสน้ โยนลูกบอล
5. พ้นื เรียบที่อย่ใู นร่ม อาจเปน็ พ้นื สนามหญ้า พ้ืนดิน หรือพ้ืนซเี มนต์
6. นกหวีด
เคร่อื งมอื การประเมิน แบบบนั ทึกผล 2/7
ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม ประมาณ 30 นาที
แผนภาพการจดั กิจกรรม
(ว่งิ หลบหลีกสง่ิ กีดขวางได้ กระโดดขาเดยี วอยกู่ ับทไ่ี ด้โดยไม่เสยี กา
(รับลูกบอลได้ด้ว
เสน้ เร่ิมตน้ เดนิ ต่อเท
วิ่งหลบหลีกส่ิงกดี ขวาง
4 เมตร
1.หยุดยนื ในวงกลม
2.กระโดดขาเดียวอยกู่
โดยไมเ่ สียการทรงตัว
5 คร้ัง
21
21
มท่ี 1 ผจญภัยไปกับหนู
ารทรงตัว เดนิ ต่อเท้าไปขา้ งหน้าเป็นเสน้ ตรงไดโ้ ดยไม่ต้องกางแขน)
วยมอื ทงั้ สองข้าง)
ท้าไปข้างหนา้ เปน็ เส้นตรงไดโ้ ดยไมต่ อ้ งกางแขน 0.5 เมตร
2 เมตร
1.หยดุ ยืนในกรอบ
กบั ท่ี สามเหลี่ยม
ว 2.รับลูกบอลไดด้ ว้ ยมือทั้งสองข้าง
แผนภาพการจัดกจิ กรรมท่ี 2 ขว
(กระโดดขาคู่และกระโดดขาเดยี วไป
22 22
วดนา้ แสนสนกุ (ฝึกการทรงตัว)
ปขา้ งหน้าไดโ้ ดยไมเ่ สยี การทรงตัว)
23
23
ชดุ ท่ี 7 กจิ กรรมเกมการศึกษา
กจิ กรรมเกมการศกึ ษา เป็นกิจกรรมการเล่นที่ช่วยพฒั นาเดก็ ทกุ ดา้ นโดยเฉพาะด้านสตปิ ญั ญา
ซ่ึงมีกฎ กตกิ างา่ ย ๆ สามารถเลน่ คนเดยี วหรือเลน่ เป็นกล่มุ และสามารถตรวจสอบการเล่นไดว้ ่าถูกตอ้ งหรือไม่
โดยยดึ หลกั ความเป็นเหตเุ ปน็ ผลมุ่งเน้นพัฒนาการด้านสติปญั ญา
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพือ่ ประเมนิ พฒั นาการด้านสติปญั ญา
1.1 มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด
1) บอกลกั ษณะและสว่ นประกอบของส่งิ ของตา่ งๆจากการสังเกตโดยใชป้ ระสาทสมั ผสั
2) จับคแู่ ละเปรยี บเทยี บความแตกต่างหรือความเหมอื นของส่งิ ต่างๆโดยใชล้ กั ษณะที่สงั เกต
พบเพยี งลักษณะเดยี ว
3) จาแนกและจดั กลุ่มสง่ิ ตา่ งๆโดยใช้อย่างนอ้ ย ๑ ลกั ษณะเปน็ เกณฑ์
4) เรียงลาดับสง่ิ ของหรือเหตกุ ารณ์อย่างน้อย 4 ลาดบั
1.2 มีความสามารถในการคิดเชงิ เหตผุ ล
1) ระบสุ าเหตหุ รอื ผลที่เกิดข้ึนในเหตุการณห์ รอื การกระทาเม่อื มผี ู้ชแ้ี นะ
2) คาดเดา หรือคาดคะเนส่ิงทอ่ี าจจะเกดิ ข้ึน หรือมสี ่วนร่วมในการลงความเห็นจากข้อมลู
1.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและตัดสนิ ใจ
1) ตดั สินใจในเรื่องงา่ ยๆและเรม่ิ เรียนรู้ผลทเ่ี กิดขึน้
2) ระบปุ ัญหา และแก้ปญั หาโดยลองผิดลองถกู
ขอบขา่ ย/ขั้นตอนการจัดกจิ กรรม
1. เกมการศกึ ษา แบง่ ออกเปน็ 3 ชุด คอื
ชุดที่ 1 เกมจับคู่ภาพท่ีมคี วามสมั พันธก์ นั จัดกิจกรรมน้ใี นวันที่ 1 ของการประเมนิ
ชดุ ที่ 2 เกมเรียงลาดับเหตกุ ารณ์ จดั กจิ กรรมนใ้ี นวันที่ 2 ของการประเมนิ
ชุดท่ี 3 เกมจดั หมวดหมสู่ งิ่ ของ จดั กิจกรรมน้ีในวันท่ี 3 ของการประเมนิ
2. ขั้นตอนการจดั กิจกรรม
2.1 เตรียมสอ่ื วัสดุ อุปกรณ์ตามรายการในแผนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา
2.2 จัดกจิ กรรมตามข้ันตอนในแผนการจัดกจิ กรรมเกมการศกึ ษา โดยครตู อ้ งศึกษาข้ันตอน
การจัดกิจกรรมล่วงหนา้ ให้เขา้ ใจอยา่ งชดั เจน
3. การประเมินพัฒนาการเด็ก ใหผ้ ู้ประเมนิ ศึกษาตัวบ่งชแี้ ละเกณฑก์ ารประเมินท่ีระบไุ ว้ในคมู่ ือ
การประเมนิ และเตรียมบนั ทึกผลในแบบบนั ทึกผล 2/8 แล้วดาเนินการประเมินตามข้ันตอนในแผนการจัด
กิจกรรมเกมการศกึ ษา
24
24
แผนการจดั กจิ กรรมเกมการศกึ ษา
ข้ันตอน พฤติกรรมท่ปี ระเมนิ หมายเหตุ
กิจกรรมท่ี 1 เกม “จบั คู่ภาพทมี่ คี วามสมั พันธ์กัน”(อาชพี ) - การจับคู่และเปรียบเทียบ แบบบนั ทกึ ผล 2/8
1. ครจู ัดโตะ๊ สาหรบั ประเมนิ ไว้ 1 โตะ๊ จัดเตรยี มส่อื อุปกรณเ์ ปน็ ความแตกต่างหรือความเหมอื น
บัตรภาพ นกั ดับเพลิง – รถดับเพลงิ ,ตารวจ – รถตารวจ ,
ของสิง่ ตา่ งๆโดยใช้ลกั ษณะท่ี
หมอ - รถพยาบาล, เกษตรกร-รถไถนา, พนักงานขับรถเครน -รถ
เครน สงั เกตพบเพยี งลกั ษณะเดียว
2. ใหเ้ ดก็ มาประเมนิ ทลี ะคน (เพอ่ื ไม่ใหเ้ ดก็ เลียนแบบกนั ) - จาแนกและจัดกลมุ่ ส่งิ ตา่ งๆ
3. ครแู นะนาสอื่ อปุ กรณ์บนโตะ๊ ทเี่ ตรยี มไว้ โดยใช้อยา่ งนอ้ ยหนึ่งลกั ษณะ
4. เร่มิ การประเมิน ครูใชค้ าพดู ดงั นี้ “วนั นีค้ รมู เี กมจบั คู่ภาพที่มี เป็นเกณฑ์
ความสัมพันธก์ ัน”(อาชีพ)มาให้เดก็ เล่น เดก็ ๆ สังเกตสิ่งของ ทีอ่ ยู่ - ตัดสนิ ใจในเรอ่ื งงา่ ยๆและเร่ิม
เรยี นรูผ้ ลทเ่ี กดิ ข้นึ
บนโตะ๊ จบั คู่ภาพทม่ี ีความสัมพนั ธก์ นั ”(อาชีพ)ที่มลี ักษณะรว่ มกัน - บอกลักษณะและ
ใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ แล้วนามาวางเรยี งกนั เป็นคๆู่ ” สว่ นประกอบของสง่ิ ของต่างๆ
5. เด็กจบั คู่ภาพทมี่ ีความสัมพันธ์กนั ”(อาชีพ)จนครบ จากการสงั เกตโดยใชป้ ระสาท
สัมผัส
จานวน 5 คู่
6. ครเู ลอื กสงิ่ ท่เี ด็กจับคู่ จานวน 1 คู่ และใชค้ าถาม ดังนี้
“ภาพทม่ี ีความสัมพันธ์กัน”(อาชพี )ทเี่ ด็กนามาจบั คู่ นี้มี
อะไรบา้ งทีเ่ หมือนกนั และมีอะไรบา้ งท่ีแตกตา่ งกนั ”
กจิ กรรมที่ 2 “เรียงลาดับเหตกุ ารณ์” -เรยี งลาดับสิ่งของหรอื แบบบนั ทกึ ผล 2/8
เหตกุ ารณ์อยา่ งนอ้ ย ๔ ลาดับ
1. ครูนาภาพเกม เรียงลาดับเหตกุ ารณ์คละกนั บนโต๊ะ - คาดเดา หรือคาดคะเนสิง่ ท่ี
2. เริม่ การประเมินครใู ชค้ าพูดดังน้ี “วนั น้เี ด็กจะได้เล่นเกม
เรยี งลาดับเหตกุ ารณ์”
ครูแนะนาการเล่นเกม ดังนี้ “ใหเ้ ด็กสังเกตภาพท่วี างอยู่ อาจจะเกดิ ขึ้น หรือมสี ่วนร่วมใน
บนโต๊ะและคิดว่าเหตกุ ารณ์ใดควรจะเกดิ ตามลาดบั ขั้น แลว้ นา การลงความเหน็ จากขอ้ มลู
ภาพมาเรยี งตั้งแตข่ นั้ ตอนแรกจนถึงขน้ั สุดท้าย” - ระบุปัญหา และแกป้ ัญหาโดย
3. ให้เดก็ เล่าการเรียงลาดบั ภาพน้ัน โดยครสู อบถามเด็กว่าทาไม ลองผิดลองถกู
จงึ เรียงภาพเชน่ น้ัน
- ระบสุ าเหตุหรือผลท่ีเกิดขึน้ ใน
เหตกุ ารณห์ รอื การกระทาเมือ่ มี
ผชู้ ้ีแนะ
25 25
แผนการจดั กจิ กรรมเกมการศึกษา
ข้นั ตอน พฤติกรรมทีป่ ระเมนิ หมายเหตุ
แบบบนั ทกึ ผล 2/8
กจิ กรรมท่ี 3 เกม “จัดหมวดหม่สู ่ิงของ”
1. ครจู ดั โต๊ะสาหรบั ประเมิน เตรียมสอื่ อปุ กรณ์ ไม้ - จาแนกและจัดกลุ่มสงิ่ ตา่ งๆ
บล็อก หนังสือ กระดาษสี ลกู บอล ลกู เทนนสิ โดยใชอ้ ยา่ งนอ้ ยหน่งึ ลกั ษณะ
ลูกเทเบ้ิลเทนนสิ ผา้ เช็ดตัว ฟองน้า ผ้าเช็ดหนา้ สเี ทยี น ดินสอ เปน็ เกณฑ์
และเทียน - ตัดสินใจในเรือ่ งง่ายๆและเร่มิ
2. เรมิ่ การประเมิน ครใู ชค้ าพูด ดงั นี้ “วันนี้ครมู เี กมจดั เรยี นรู้ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ
หมวดหมสู่ ่ิงของต่าง ๆ ใหเ้ ดก็ เล่น ใหเ้ ดก็ สงั เกต สงิ่ ของทอ่ี ยบู่ น - บอกลกั ษณะและ
โตะ๊ และคิดว่าสงิ่ ของใดเป็นพวกเดยี วกนั แล้วนามาจดั รวมไว้ ส่วนประกอบของสง่ิ ของตา่ งๆ
ดว้ ยกนั โดยมีเกณฑ์ลกั ษณะรว่ มทเ่ี หมอื นกนั ใหไ้ ด้มากทสี่ ดุ ” จากการสงั เกตโดยใชป้ ระสาท
3. เดก็ จัดหมวดหมสู่ ง่ิ ของ วางเปน็ กลมุ่ พวกเดยี วกนั บน สมั ผสั
โต๊ะจนครบ
4. ครูใช้คาถามเพอื่ ใหเ้ ดก็ บอกเหตุผลในการจัดหมวดหมู่
ในแต่ละกลมุ่ ดังนี้
“เพราะอะไรเดก็ จงึ นาส่ิงของเหล่านี้มาไว้เป็นพวกเดยี วกนั
มีลักษณะรว่ มทเ่ี หมือนกนั อะไรบ้าง บอกให้ได้มากทส่ี ดุ ”
สื่อ/อุปกรณ์
1. เกม “จับคภู่ าพทีม่ ีความสมั พันธ์กนั ”(อาชพี ) ได้แก่บัตรภาพ นักดบั เพลงิ – รถดบั เพลงิ ,
ตารวจ – รถตารวจ , หมอ - รถพยาบาล, เกษตรกร-รถไถนา, พนกั งานขับรถเครน -รถเครน
2. เกม “เรียงลาดบั เหตุการณ์” ไดแ้ ก่ ภาพตน้ แบบ “เรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์” และ
กระดาษแข็งตัดขนาดกว้าง 7 เซนติเมตร x ยาว 7 เซนตเิ มตร จานวน 4 แผ่น เพือ่ ตดิ ทาบภาพ
ต้นแบบ
3. เกม “จัดหมวดหมู่สิ่งของ” ไดแ้ ก่ ส่งิ ของทม่ี ีรปู ทรงสามเหล่ยี ม เชน่ ไมบ้ ล็อก หนงั สอื กระดาษสี
ส่ิงของทีม่ รี ปู ทรงกลม เชน่ ลูกบอล ลกู เทนนสิ ลกู เทเบลิ้ เทนนิส สิ่งของทม่ี ผี ิวสมั ผสั นมุ่ เช่น ฟองน้า
ผ้าเชด็ หนา้ ผา้ เชด็ ตวั สิง่ ของทม่ี ีลกั ษณะเป็นแทง่ เชน่ สเี ทียน ดนิ สอ เทียน
เครอ่ื งมือการประเมิน
แบบบนั ทกึ ผล 2/8
ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม
ประมาณ 30 นาที
26
26
ภาพต้นแบบกิจกรรมเกม “เรียงลาดบั เหตกุ ารณ์”
27
ภาคผนวก
เกณฑอ์ า้ งอิงการเจรญิ เติบโตของเดก็ ไทย ปี พ.ศ.2563 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ : นทิ านเรอื่ ง เอะ๊ ! หายไปไหน https://youtu.be/SPXH_TPuhBs
กจิ กรรมสรา้ งสรรค์ : ใบงานกจิ กรรมสร้างสรรค์วันที่ 1
: ใบงานกจิ กรรมสร้างสรรคว์ นั ท่ี 2
กิจกรรมเกมการศึกษา : ภาพตน้ แบบเกมการศึกษา “เรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์”
: ภาพตน้ แบบเกมการศึกษา “จับคู่”
: ภาพต้นแบบเกมการศึกษา “จดั หมวดหมสู่ ่ิงของ”
แบบบันทึกผลการประเมนิ
แบบบันทกึ ผล 2/1 การประเมินภาวะการเจรญิ เตบิ โตและสขุ ภาพอนามยั
แบบบนั ทึกผล 2/2 การประเมนิ การปฏิบัตกิ จิ วตั รประจาวัน
แบบบนั ทกึ ผล 2/3 การประเมินชดุ กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจงั หวะ
แบบบนั ทกึ ผล 2/4 การประเมินชดุ กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์
แบบบันทึกผล 2/5 การประเมนิ ชดุ กจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์
แบบบันทกึ ผล 2/6 การประเมินชดุ กจิ กรรมการเล่นตามมมุ
แบบบนั ทกึ ผล 2/7 การประเมนิ ชุดกจิ กรรมการเลน่ กลางแจ้ง
แบบบันทกึ ผล 2/8 การประเมนิ ชุดกิจกรรมเกมการศกึ ษา
28
29
30
31
32
33
นิทานเรอื่ ง เมยี้ ว เม้ียว มา มา จะพาไปหาแม่
34
นิทาน :เอ๊ะ! หายไปไหน
https://youtu.be/SPXH_TPuhBs
แต่งโดยตบุ๊ ปอง
35
กิจกรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ วนั ท่ี 1 “ตดั ปะและวาดต่อเตมิ ภาพ”(แบบเด่ยี ว) ที่สาหรับ
คาอธบิ าย : ใหเ้ ด็กตัดปะกระดาษ แลว้ วาดต่อเตมิ ภาพตามจินตนาการ ประทับตราสัญลกั ษณ์
ประจาตวั เด็ก
36
37
กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ วนั ที่ 2 “ตัดปะและวาดตอ่ เติมภาพ”(แบบกลุม่ ) ท่ีสาหรับ
คาอธบิ าย : ให้เดก็ ตดั ปะกระดาษ แล้ววาดตอ่ เตมิ ภาพตามจินตนาการ ประทับตราสัญลกั ษณ์
ประจาตวั เด็ก
38
39
40
ภาพตน้ แบบกิจกรรมเกม “เรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์”
41
ภาพตน้ แบบกจิ กรรมเกม “จดั หมวดหมสู่ ง่ิ ของ”
42
43
44
45