คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ โรงเรียนกำแพงวิทยา เลขที่ ๑๔๕ หมู่ ๑ ถนนละงู– ทุ่งหว้า ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ๙๑๑๑๐ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล โทรศัพท์/ โทรสาร ๐-๗๔๗๐-๑๒๐๔
คำนำ ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของ นักเรียนทุกคน โดยมุ่งหวังว่านักเรียนทุกคนจะเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพทุกด้านทั้งด้านสติปัญญา ความสามารถ ด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านการดำรงชีวิตอย่างเป็นสุขในสังคมพร้อมด้วยสุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดีความมุ่งหวัง และบรรลุความสำเร็จได้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและความพร้อมของบุคลากรทุกคนในโรงเรียน อีกทั้งมีการ ประสานงานกับพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างใกล้ชิดและด้วยสภาพที่สังคมปัจุบันที่ประประสบกับปัญหาต่าง ๆ ส่งผลกระทบ วิถีการดำรงชีวิต และจิตใจของนักเรียนอย่างมาก ปัญหานักเรียน ผลกระทบที่เกิดกับเด็กนักเรียนต้องอาศัยการดูแล เอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ต้องการคำแนะนำปรึกษาอย่างถูกวิธีโดยพ่อแม่เป็นบุคคลสำคัญที่สุดของสถาบันครอบครัว คู่มือนักเรียน ผู้ปกครอง ครู โรงเรียนกำแพงวิทยาเป็นเอกสารสำคัญของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูได้จัดทำ ขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ในฐานะนักเรียนและผู้ปกครองได้ถูกต้อง โรงเรียนหวังเป็น อย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือ ดูแลนักเรียนร่วมกัน เพื่อรักษามาตรฐานของโรงเรียน กำแพงวิทยา และพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนให้ประสบความสำเร็จบรรลุผลตามเจตนารมณ์ของหลักสูตรการศึกษา ตลอดไป (นางสาวจารี วุฒิมานพ) ผู้อำนวยการโรงเรียนกำแพงวิทยา
ทำเนียบผู้บริหารโรงเรียนกำแพงวิทยา (ใส่รูป) นางสาวจารี วุฒิมานพ ผู้อำนวยการโรงเรียนกำแพงวิทยา (ใส่รูป) (ใส่รูป) นางปณิตา สฤษฎีพีรพันธุ์ นายพิงค์พันธุ์ แพงพุทธ รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงบประมาณ รองผู้อำนวยการกลุ่มงานกิจการนักเรียน และกลุ่มบริหารทั่วไป (ใส่รูป) (ใส่รูป) นางสาวสิริวิภา รอดเสวก นายคอลิฟ เส็นทุ่ย รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
กลุ่มงานกิจการนักเรียน โรงเรียนกำแพงวิทยา กลุ่มงานกิจการนักเรียนเป็นงานที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับนักเรียน ผู้ปกครอง และครูอย่างใกล้ชิด ลักษณะงานที่สำคัญของกลุ่มงานกิจการนักเรียน คือ มุ่งพัฒนาจิตใจ แก้ไขปรับปรุงพฤติกรรม และการควบคุม ความประพฤติของนักเรียนใอยู่ในกรอบแห่งข้อบังคับ ระเบียบวินัยอันดีงาม งานนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจาก บุคคลหลายฝ่าย ทั้งภายใน ภายนอกโรงเรียนจึงจะบรรลุผลตามเป้าหมาย ขอให้นักเรียนและผู้เกี่ยวข้องได้โปรดทำความเข้าใจกฎระเบียบข้อบังคับเพื่อสังคมในโรงเรียนได้อยู่ ร่วมกันอย่างมีความสุข โรงเรียนกำแพงวิทยาเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ มีนักเรียนเกือบสองพันคน ในการอยู่ร่วมกันเป็น สังคมใหญ่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแนวปฏิบัติเป็นแนวเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย โรงเรียนได้นำเอา ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการและแนวอื่น ๆ ที่เห็นว่าเหมาะสมและเป็นประโยชน์มาเป็นเครื่องมือชี้แนะ แนวทางปฏิบัติให้แก่นักเรียนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย คือ “มุ่งพัฒนานักเรียนให้ทุกคนเป็นคนดีใช้ชีวิตใน สังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข” กลุ่มงานกิจการนักเรียนโรงเรียนกำแพงวิทยาได้ดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด โดยจำลองชีวิตจริงใน ครอบครัวมาใช้กับระบบการปกครองของโรงเรียน กล่าวคือ โรงเรียนจัดให้มีครูที่ปรึกษาจำนวน ๒ ท่าน ดูแล นักเรียน ๓๐ – ๔๐ คน ซึ่งทำให้ครูสามารถดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น สามารถทราบและติดตาม พฤติกรรมของนักเรียนได้ตลอดเวลา กลุ่มงานกิจการนักเรียนได้จัดให้นักเรียนสังกัดเป็นระดับสายชั้นเรียน เพื่อปลูกฝังให้นักเรียน รู้จักรัก ใคร่สามัคคีในหมู่คณะของระดับสายชั้นเรียนเดียวกัน และประสานสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกับทุกระดับสายชั้น เรียน โดยแบ่งเป็น ๖ ระดับสายชั้นเรียน คือ ๑. ระดับสายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒. ระดับสายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ๓. ระดับสายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ๔. ระดับสายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ๕. ระดับสายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ๖. ระดับสายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ นอกจากนี้โรงเรียนยังได้นำนักเรียนร่วมกิจกรรมกับชุมชนในท้องถิ่นเพื่อให้นักเรียนเกิดความรัก ความ ภาคภูมิใจ การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกของสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ระเบียบว่าด้วยแนวปฏิบัติของนักเรียน ๑. การมีผู้ปกครอง ๑.๑ นักเรียนทุกคนต้องมีผู้ปกครองตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องผู้ปกครองนักเรียน นักศึกษา พ.ศ. ๒๕๒๒ ๑.๒ โรงเรียนกำหนดให้นักเรียนมีผู้ปกครองได้๑ หรือ ๒ คน ๑.๓ ผู้ปกครองต้องมีอายุ๒๐ ปีขั้นไป ไม่เป็นนักเรียน นักศึกษา ประกอบอาชีพเป็นหลักฐาน นักเรียน และผู้ปกครองต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่อาศัยอยู่ด้วย ๒. การมาโรงเรียน ๒.๑ นักเรียนต้องมาถึงโรงเรียนก่อนเวลา ๐๗.๔๕ น. และเข้าร่วมพิธีเชิญธงชาติสวดมนต์กล่าวดุอาร์ ในเวลา ๐๘.๐๐ น. ถ้าไม่ทันร่วมพิธีเชิญธงชาติเกินเวลา ๐๘.๐๐ น.ถือว่ามาโรงเรียนสาย ต้องรายงานตัวและ ลงชื่อมาสายที่ครูผู้ปฏิบัติหน้าที่เวรใต้ต้นประดู่ ๒.๒ กรณีที่มาโรงเรียนสาย ๕ ครั้ง จะเชิญผู้ปกครองมารับทราบ ๒.๓ โรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนนำรถยนต์ส่วนตัวมาโรงเรียน ๒.๔ นักเรียนที่ผู้ปกครองนำรถมาส่ง ต้องลงที่หน้าประตูโรงเรียน เพื่อพบครูเวรประจำวัน และ นักเรียนที่ผู้ปกครองมารับตอนเลิกเรียนให้รอรับนอกบริเวณโรงเรียน (กรณีเจ็บป่วย หรืออนุญาตนักเรียนออก นอกบริเวณโรงเรียน ให้ขออนุญาตกลุ่มงานกิจการนักเรียน) ๒.๕ การเข้า-ออก โรงเรียนให้ใช้ประตูทางเข้า ๑ เพียงประตูเดียว ๒.๖ อนุญาตให้นักเรียนสวมชุดพลศึกษาและเสื้อประจำสีมาจากบ้านเฉพาะวันที่มีการเรียนวิชาพล ศึกษาและวันศุกร์เท่านั้น ๓. การมาเรียน ๓.๑ นักเรียนทุกคนต้องเข้าเรียนทุกคาบตามตารางเรียน และไม่เข้าห้องเรียนสาย ๓.๒ กรณีที่เจ็บป่วยไม่สามารถเข้าเรียนได้ในคาบใด ให้แจ้งและขออนุญาตต่อครูประจำวิชานั้น และ ต้องได้รับคำอนุญาตจากครูประจำวิชาก่อน ๓.๓ นักเรียนต้องมีอุปกรณ์การเรียนครบทุกวิชา และต้องเตรียมอุปกรณ์การเรียนให้พร้อมก่อนครู ประจำวิชาเข้าห้องสอน ๓.๔ นักเรียนต้องตั้งใจเรียน ปฏิบัติงานคามครูสั่ง ไม่ส่งเสียงรบกวนหรือมีพฤติกรรมอื่นใดที่มี ผลกระทบต่อบรรยากาศการเรียนการสอน
๓.๕ ในคาบเรียนใดที่ครูประจำวิชาไม่เข้าห้องสอนหลังเลยคาบเรียนนั้นไปแล้ว ๕ นาทีให้หัวหน้าชั้น รายงานต่อหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มบริหารงานวิชาการ เพื่อจัดครูดูแล หรือสอนแทน ๓.๖ ในคาบว่าง นักเรียนควรใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เช่น อ่านหนังสือ ทำการบ้าน เล่นกีฬา หรือ ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อื่นใดที่ไม่ก่อให้เกิดการรบกวนต่อการเรียนการสอนของครูและเพื่อนนักเรียน ๓.๗ ไม่อนุญาตให้นักเรียนสวมเสื้อคลุมทับเครื่องแบบนักเรียน หากมีความจำเป็นต้องขออนุญาตเป็น พิเศษ ๔. การมาโรงเรียนในวันหยุด นักเรียนที่ได้รับการนัดหมายให้มาโรงเรียนในวันหยุดหรือนอกเวลาเรียนปกติเช่น การเรียนเสริม การ ซ้อมกีฬา ดนตรีนาฏศิลป์ หรือกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับทางโรงเรียนให้ปฏิบัติดังนี้ ๔.๑ ครูผู้รับผิดชอบต้องบันทึกเสนอผู้อำนวยการ เพื่อขออนุญาต และควบคุมนักเรียนตลอดเวลา ๔.๒ นักเรียนต้องนำหนังสือขออนุญาตจากทางโรงเรียนให้ผู้ปกครองลงลายมือชื่อ และนำหนังสือขอ อนุญาตจากผู้ปกครองมาให้ครูผู้รับผิดชอบ ๔.๓ นักเรียนต้องแต่งเครื่องแบบโรงเรียนกำแพงวิทยา ๔.๔ นักเรียนต้องประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียนเหมือนเช่นวันเรียนปกติ ๔.๕ นักเรียนต้องกลับถึงบ้านตามเวลากำหนด ๔.๖ ในกรณีที่นักเรียนติดต่อราชการกับทางโรงเรียนเป็นการส่วนจัว ต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียนและ ปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียนเหมือนเช่นวันเรียนปกติ ๕. การมาโรงเรียนสาย ๕.๑ นักเรียนที่มาถึงโรงเรียนหลังเวลา ๐๘.๐๐ น. ถือว่ามาโรงเรียนสาย ต้องรายงานตัวและลงชื่อมา สายที่ครูผู้ปฏิบัติหน้าที่เวร ที่ใต้ต้นประดู่ทุกครั้ง ๕.๒ นักเรียนที่มาโรงเรียนสายจะต้องทำกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทดแทนการมาสาย โดยกลุ่ม งานกิจการนักเรียนเป็นผู้กำหนดกิจกรรม ๕.๓ นักเรียนที่มีความจำเป็นต้องมาสาย เช่น ช่วยงานผู้ปกครอง ต้องให้ผู้ปกครองขออนุญาตจากกลุ่ม งานกิจการนักเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร และนักเรียนต้องแสดงหลักฐานอนุญาตจากกลุ่มงานกิจการนักเรียน ต่อครูเวรประจำวันทุกครั้งที่มาสาย และอนุญาตให้มาสายได้ไม่เกิน ๐๘.๓๐ น. ๕.๔ กรณีทราบล่วงหน้าว่ามีกิจธุระจำเป็นต้องเข้าโรงเรียนช้ากว่าปกติต้องบันทึกขออนุญาตจากกลุ่ม งานกิจการนักเรียน
๕.๕ นักเรียนที่มาสายบ่อยครั้งต้องได้รับโทษตามระเบียบว่าด้วยความประพฤติการตัดคะแนนความ ประพฤติการลงโทษ และการเชิดชูเกียรตินักเรียน พ.ศ. ๒๕๖๖ ๖. การลาโรงเรียน ๖.๑ นักเรียนที่มีความจำเป็นไม่สามารถไปโรงเรียน ต้องส่งใบลาต่อครูที่ปรึกษาทุกครั้ง โดยผู้ปกครอง รับรองลงชื่อกำกับ นักเรียนคนใดปลอมลายมือชื่อผู้ปกครองต้องได้รับโทษตามระเบียบว่าด้วยความประพฤติ การตัดคะแนนความประพฤติการลงโทษ และการเชิดชูเกียรตินักเรียน พ.ศ. ๒๕๖๖ ๖.๒ นักเรียนที่ลากิจต้องส่งใบลาต่อครูที่ปรึกษาก่อนวันลาไม่น้อยกว่า ๑ วัน ๖.๓ นักเรียนที่ลาป่วย ถ้าเป็นไปได้ควรได้ส่งใบลาต่อครูที่ปรึกษาในวันลา หรือในวันมาเรียนวันถัดไป หากเจ็บป่วยติดต่อกันหลายวันหรือต้องเข้าโรงพยาบาล ผู้ปกครองต้องแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบโดยเร็วและส่ง ใบลาต่อครูที่ปรึกษาพร้อมใบรับรองแพทย์ในวันแรกที่มาเรียน ๗. การออกนอกบริเวณโรงเรียน ๗.๑ การออกนอกบริเวณโรงเรียนทุกกรณีต้องขออนุญาตจากกลุ่มงานกิจการนักเรียน และผู้ปกครอง ต้องมาแสดงตัวตนในการขออนุญาตทุกครั้ง ๗.๒ เมื่อได้รับอนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียนแล้ว ต้องบันทึกการขออนุญาตออกนอกบริเวณ โรงเรียนในสมุดบันทึกในห้องกิจการนักเรียน พร้อมทำใบอนุญาตไปแสดงต่อยามหน้าประตูโรงเรียน เมื่อกลับ เข้าโรงเรียนให้นำใบอนุญาตส่งคืนที่ห้องกิจการนักเรียน พร้อมรายงานตัวต่อครูที่ปรึกษา ๗.๓ การออกนอกบริเวณโรงเรียนเป็นหมู่คณะต้องมีครูควบคุมดูแล และครูผู้ควบคุมต้องบันทึกเสนอ ผู้อำนวยการเพื่อขออนุญาต ๗.๔ โรงเรียนไม่อนุญาตให้ออกนอกบริเวณโรงเรียน หากพิจารณาเห็นว่าไม่เหมาะสมหรือไม่มีเหตุที่ สมควร ๘. การนำรถจักรยานยนต์มาโรงเรียน ๘.๑ ต้องมีใบอนุญาตขับรถจากทางราชการ ๘.๒ ต้องทำบัตรประจำตัวผู้ใช้รถที่ห้องกิจการนักเรียน โดยมีผู้ปกครองขออนุญาตการใช้รถ หากบัตร ประจำตัวผู้ใช้รถสูญหายให้แจ้งกลุ่มงานกิจการนักเรียนเพื่อขอทำบัตรใหม่ ๘.๓ นักเรียนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้โดยสารซ้อนท้ายต้องสวมหมวกนิรภัยทุกคน
๙. การขอใบรับรองความประพฤติ ๙.๑ นักเรียนที่ต้องขอใบรับรองความประพฤติต้องแจ้งสำนักงานกลุ่มงานกิจการนักเรียนพร้อมยื่นคำ ร้องตามแบบฟอร์มที่กำหนดล่วงหน้าอย่างน้อย ๓ วัน ๙.๒ การออกใบรับรองความประพฤติกลุ่มงานกิจการนักเรียนจะพิจารณาพฤติกรรมอันเป็นความผิด หากถูกลงโทษถึงขั้นทำทัณฑ์บนหรือมีหลักฐานว่าได้ประพฤติฝ่าฝืนระเบียบยวินัยของโรงเรียนบ่อยครั้ง กลุ่ม งานกิจการนักเรียนอาจไม่ออกใบรับรองความประพฤติให้และต้องมีคะแนนความประพฤติมากกว่า 70 คะแนน ๑๐. คาบจริยธรรมนำชีวิต ในวันศุกร์คาบเรียนที่ 6 ของทุกสัปดาห์จะจัดกิจกรรมจริยธรรมนำชีวิตโดยแบ่งเป็นฝ่าย พระพุทธศาสนา และศาสนาอิสลามซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1๐.1 ฝ่ายพระพุทธศาสนา ทำการสวดมนต์ที่โรงเรียนโดยจัดนักเรียนเป็นกลุ่มตามระดับชั้นและมีครูผู้ นับถือศาสนาพุทธทุกคนเป็นผู้ควบคุมตลอดการปฏิบัติกิจกรรม 1๐.2 ฝ่ายศาสนาอิสลามแบ่งออกได้ดังนี้ 1๐.2.1 นักเรียนมุสลิมชาย ระดับชั้น ม.4 - ม. 6 ไปละหมาดวันศุกร์ณ มัสยิดบ้านควนไสนโดย มีครูมุสลิมชายทุกคนเป็นผู้ควบคุมตลอดการปฏิบัติกิจกรรม 1๐.2.2 นักเรียนมุสลิมชาย ระดับชั้น ม.1 - ม.3 และนักเรียนมุสลิมหญิงระดับชั้น ม.1 – ม.6 ละหมาดซุฮ์รีพร้อมกันที่โรงเรียนโดยมีครูมุสลิมหญิงเป็นผู้ควบคุมตลอดการปฏิบัติกิจกรรม 1๐.2.3 นักเรียนมุสลิมหญิงระดับชั้น ม.1 - ม.6 ที่มีรอบเดือนเข้าอบรมจริยธรรมที่โรงเรียนโดย มีครูมุสลิมหญิงตามคำสั่ง เป็นวิยากรให้การอบรม ๑๑. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และบำเพ็ญประโยชน์ ๑๑.๑ นักเรียนระดับชั้น ม.1 - ม.6 ที่ตรวจความเรียบร้อยไม่ผ่าน/ไม่ตรวจความเรียบร้อยจะจัด กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในสัปดาห์ที่ 3 ของทุกเดือนในวันอังคารและวันพฤหัสหลังเลิกเรียน เวลา 1 ชั่วโมง โดยมีคณะกรรมการตามคำสั่งและครูที่ปรึกษาเป็นผู้ควบคุมตลอดการปฏิบัติกิจกรรม ๑๑.๒ นักเรียนระดับชั้น ม.1 - ม.6 ที่ถูกตัดคะแนนความประพฤติใน 1 ภาคเรียนตั้งแต่ 50 คะแนน ขึ้นไป จะมีกิจกรรมเข้าค่ายบำเพ็ญประโยชน์และอบรมจริยธรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมภาคเรียนละ 1 ครั้ง
ระเบียบโรงเรียนกำแพงวิทยา ว่าด้วยความประพฤติการตัดคะแนนความประพฤติการลงโทษ และการเชิดชูเกียรตินักเรียน พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อเป็นการส่งเสริมความประพฤตินักเรียนที่ถูกต้องเหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนโรงเรียนกำแพงวิทยา อาศัยกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ กฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2557 ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผม นักเรียน พ.ศ.2563 พ.ศ.2566 ผู้อำนวยการโรงเรียนกำแพงวิทยา จึงวางระเบียบว่าด้วยความประพฤติ การตัดคะแนนความประพฤติการลงโทษ และการเชิดชูเกียรตินักเรียน ไว้ดังต่อไปนี้ บททั่วไป ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนกำแพงวิทยา ว่าด้วยความประพฤติการตัดคะแนนความ ประพฤติการลงโทษ และการเชิดชูเกียรตินักเรียน พ.ศ. ๒๕๖6” ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันเปิดภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖6 เป็นต้นไป ข้อ ๓ ในระเบียบนี้ “โรงเรียน” หมายความว่า โรงเรียนกำแพงวิทยา “นักเรียน” หมายความว่า นักเรียนปัจจุบันของโรงเรียนกำแพงวิทยา “ครูที่ปรึกษาประจำชั้น” หมายความว่า ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากโรงเรียนกำแพงวิทยาให้เป็น ครูที่ปรึกษาประจำชั้น “คณะกรรมการดูแลนักเรียน” หมายความว่า คณะกรรมการที่โรงเรียนแต่งตั้งขึ้นเพื่อให้ทำ หน้าที่พิจารณาการกระทำของนักเรียนทั้งพฤติกรรมที่พึงประสงค์และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ “ผู้อำนวยการ” หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนกำแพงวิทยา “คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน” หมายความว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนกำแพงวิทยา “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดา มารดา ผู้อนุบาล ผู้รับบุตรบุญธรรม และผู้ปกครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิช และให้หมายความรวมถึง พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง ผู้ปกครอง สวัสดิภาพ นายจ้าง ตลอดจนบุคคลอื่น ซึ่งรับเด็กไว้ในความอุปการะเลี้ยงดูหรือเด็กอาศัยอยู่ด้วย
“เครื่องแบบปกติ” หมายความว่า การแต่งกายด้วยเครื่องแบบชุดนักเรียนของโรงเรียนกำแพง วิทยา “กระทำความผิด” หมายความว่า การที่นักเรียนประพฤติฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับของ โรงเรียน หรือของกระทรวงศึกษาธิการ หรือกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา “การลงโทษ” หมายความว่า การลงโทษนักเรียนที่กระทำความผิดโดยมีความมุ่งหมายเพื่อ การอบรมสั่งสอน “การเชิดชูเกียรติ” หมายความว่า การยกย่องเชิดชูเกียรติจากการกระทำความดีต่าง ๆ เพื่อให้มีความภาคภูมิใจต่อตนเอง และผู้อื่น หมวดที่ 1 ความประพฤติด้านร่างกาย ข้อ 4 นักเรียนต้องปฏิบัติตนเกี่ยวกับการไว้ทรงผมดังนี้ 4.๑ นักเรียนชายมัธยมศึกษาตอนต้น จะไว้ผมสั้น หรือยาวก็ได้กรณีไว้ผมยาวให้ไว้ผมรอง ทรงสูง กำหนดรอบศีรษะทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านซ้าย ด้านขวาและท้ายทอย ให้ตัดรองทรงเบอร์1 ส่วนด้านบน ศีรษะความยาวไม่เกิน 3 นิ้ว และด้านหน้าสไลด์ระดับเหนือคิ้วขึ้นไป 4.2 นักเรียนชายมัธยมศึกษาตอนปลาย จะไว้ผมสั้น หรือยาวก็ได้กรณีไว้ผมยาวให้ไว้ผมรอง ทรงต่ำ ความยาวจากกลางศีรษะลงมาจะต้องไม่เกินระยะขอบรองทรง และด้านหน้าสไลด์ระดับเหนือคิ้วขึ้นไป 4.3 นักเรียนหญิง ให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้กรณีผมสั้นปลายผมต้องอยู่ในระดับคาง กรณีไว้ ผมยาวให้ยาวไม่เกิน 3๐ เซนติเมตร นับจากจุดรวบผม และต้องติดโบว์สำเร็จรูปสีขาวตราโรงเรียนเท่านั้น กรณี ถักเปียสามารถถักได้ไม่เกิน 2 เส้น และต้องติดโบว์สำเร็จรูปสีขาวทั้ง 2 เส้น ให้เรียบร้อย สามารถไว้ปอยผม หรือผมหน้าม้าความยาวระดับคิ้ว และใช้ยางรัดผมสีดำ ไม่อนุญาตให้ใช้ยางรัดผมแบบเกลียว 4.4 กรณีนักเรียนมีความจำเป็นด้วยเหตุอื่น ความเชื่อตามหลักปฏิบัติของศาสนาของตน หรือการดำเนินกิจกรรมของโรงเรียน ให้ขออนุญาตเป็นรายกรณีและการพิจารณาของโรงเรียนถือเป็นข้อยุติ ข้อ 5 ห้ามนักเรียนปฏิบัติตนดังนี้ 5.๑ ดัดผม 5.๒ ย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม 5.๓ ไว้หนวด เครา หรือจอน 5.๔ การกระทำอื่นใดซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพการเรียนของนักเรียน เช่น การตัดทรงผมเป็น รูปสัญลักษณ์หรือเป็นลวดลาย หมวดที่ ๒ ความประพฤติทางด้านจิตใจ ข้อ 6 คุณความดีที่ว่าด้วยเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ความมีจิตสำนึกในสิ่งที่ดีงาม ตามคุณธรรม อัตลักษณ์ของโรงเรียนกำแพงวิทยา 9 ประการ ดังนี้ 6.1 กตัญญู 6.1.1 เป็นคนดีของพ่อแม่/ ผู้ปกครอง/ ครูบาอาจารย์และสังคม 6.1.2 มีจิตสาธารณะ และบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม
6.2 ขยัน 6.2.1 การเอาใจใส่ตั้งใจ และมุ่งมันต่อการเรียน 6.2.2 มีความรับผิดชอบ 6.2.3 มีเป้าหมายในการใช้ชีวิต 6.3 ประหยัด 6.3.1 ปิดน้ำปิดไฟก่อนออกจากห้องปฏิบัติการเรียนการสอนทุกครั้ง 6.3.2 ดูแลรักษาทรัพย์สินของโรงเรียน 6.3.3 รู้จักอดออม 6.4 ซื่อสัตย์ 6.4.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง 6.4.2 ปฏิบัติตนโดยคำนึงถึงความถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัว ต่อการกระทำผิด 6.4.3 ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา 6.4.4 ไม่ถือเอาสิ่งของหรือผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง 6.4.5 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง 6.4.6 ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง 6.5 มีวินัย 6.5.1 เข้าแถวเคารพธงชาติทุกเช้า 6.5.2 มาเรียนตามเวลาที่โรงเรียนกำหนดอย่างสม่ำเสมอและเข้าเรียนตามตาราง เรียน 6.5.3 แต่งกายถูกต้องตามระเบียบของทางโรงเรียนและแต่งเครื่องแบบนักเรียนทุก ครั้งที่มาโรงเรียน 6.5.4 ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ และรับผิดชอบในงานทำงาน 6.5.5 ปฏิบัติตามคำสั่งของโรงเรียนและครูอาจารย์ซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการโดยชอบ ด้วยกฎหมายและระเบียบทางราชการห้ามมิให้ขัดขืนหรือหลีกเลี่ยง 6.5.6 นักเรียนต้องรักษาระเบียบวินัยในห้องเรียนไม่กระทำการใดๆ ซึ่งเป็นการ รบกวนหรือก่อความรำคาญแก่ผู้อื่น 6.6 สุภาพ 6.6.1 นักเรียนมีความอ่อนน้อมถ่อมตน แสดงออกด้วยความเหมาะสม 6.6.2 นักเรียนใช้กริยาวาจาสุภาพ ถูกกาลเทศะ ไม่ใช้วาจาที่หยาบคาย 6.6.3 นักเรียนไม่แสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าว รุนแรงต่อผู้อื่น 6.6.4 นักเรียนเป็นผู้มีสัมมาคารวะ 6.7 สะอาด 6.7.1 สะอาดกาย ผู้ที่รักษาร่างกาย ที่อยู่อาศัย สิ่งแวดล้อมถูกต้องตามสุขลักษณะ 6.7.2 สะอาดใจ ผู้ที่คิดดีต่อผู้อื่น ไม่มุ่งร้าย ไม่อิจฉาริษยา ฝึกฝนจิตใจมิให้ขุ่นมัวจึง มีความแจ่มใสอยู่เสมอ 6.8 สามัคคี 6.8.1 ผู้ที่เปิดใจกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ยอมรับความแตกต่าง ระหว่างบุคคลรักช่วยเหลือเกื้อกูล เสียสละ ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน 6.8.2 ผู้ที่รู้บทบาทของตน ทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตามที่ดี
6.8.3 มีความมุ่งมั่นต่อการรวมพลัง ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน เพื่อให้การงานสำเร็จ ลุล่วง 6.8.4 เป็นผู้มีเหตุผล ยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรมความคิด ความเชื่อ พร้อมที่จะปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ 6.8.5 เป็นผู้ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา และไม่สร้างความแตกแยก 6.9 มีน้ำใจ 6.9.1 การแสดงความเอื้ออาทรต่อเพื่อนนักเรียน 6.9.2 แบ่งปันความรู้ให้แก่ผู้อื่น 6.9.3 มีจิตอาสา บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ 6.9.4 ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น 6.9.5 มีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นที่ด้อยโอกาสกว่า/ อ่อนแอกว่า ข้อ 7 นักเรียนต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน ดังนี้ ๗.๑ มาเข้าแถวเคารพธงชาติให้ทันเวลาทุกวัน ๗.๒ มาเรียนตามเวลาที่โรงเรียนกำหนดอย่างสม่ำเสมอ ๗.๓ เข้าเรียนทันเวลาตามตารางเรียน ๗.๔ แต่งกายถูกต้องตามระเบียบทั้งชุดปกติ ชุดพลศึกษา และชุดเครื่องแบบอื่น ๗.๕ ปฏิบัติตามคำสั่งของโรงเรียน ครูซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการ และเคารพเชื่อฟังไม่แสดงกิริยา ไม่เหมาะสม หรือกระด้างกระเดื่อง ๗.๖ พูดจาสุภาพ ไม่กล่าวเท็จ ๗.๗ ไม่ขโมยสิ่งของหรือทรัพย์สินของคนอื่น ๗.๘ นักเรียนต้องรักษาระเบียบวินัยในห้องเรียน ห้องประชุม ไม่กระทำการใดๆ ที่อาจ ก่อให้เกิดความรำคาญผู้อื่น ๗.๙ เข้าร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนกำหนด ๗.๑๐ ไม่ก่อการทะเลาะวิวาททั้งในและนอกสถานศึกษา ๗.๑๑ ไม่ดื่มของมึนเมา หรือสารเสพติดทุกชนิด ๗.๑๒ ไม่ยั่วยุ หรือกล่าววาจาที่ไม่สุภาพ หรือยั่วยุให้เกิดการทะเลาะ เกลียดชัง เช่น กล่าวคำ หยาบคายไม่สุภาพต่อผู้อื่น กล่าวประชด เสียดสีล้อเลียนผู้อื่น กล่าวท้าทาย หรือแสดงความก้าวร้าวชวนวิวาท กล่าวดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาท ๗.๑๓ ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น หมวดที่ ๓ การแต่งกาย เครื่องแบบนักเรียน ข้อ 8 การแต่งกายของนักเรียนด้วยเครื่องแบบปกติชาย มัธยมศึกษาตอนต้น/ตอนปลาย ๘.๑ เสื้อเป็นแบบเชิ้ต คอตั้ง ผ้าขาวเกลี้ยง เนื้อหนา ผ่าอกตลอด มีสาบที่อก เสื้อกว้าง ๓.๕ - ๔.๐ เซนติเมตร กระดุมเสื้อมีสีขาวแบบศูนย์กลาง ๑ เซนติเมตร จำนวน ๕ เม็ด แขนยาวเพียงข้อศอก มีกระเป๋าติดแนวราวนมเบื้องซ้าย ๑ กระเป๋า ขนาดกว้างตั้งแต่ ๘ - ๑๒ เซนติเมตร ลึก ๑๐ เซนติเมตร พอเหมาะกับขนาดของเสื้อ เมื่อสวมใส่ให้ชายเสื้ออยู่ภายในกางเกง มองเห็นเข็มขัดชัดโดยรอบ ให้ปักอักษรย่อ ก.พ. ที่อกเสื้อเบื้องขวาด้วยด้ายสีน้ำเงินปักทึบกว้าง ๑ เซนติเมตร สูง ๑.๕ เซนติเมตร การปักชื่อ และสกุลของ
นักเรียน ให้ปักทึบหรือเดินตัวเส้นพิมพ์ธรรมดา สูง ๑ เซนติเมตร ที่อกเบื้องขวาด้านล่างอักษรย่อก.พ. ให้ปัก เลขประจำตัวนักเรียนด้านล่าง ชื่อ สกุล และเครื่องหมายบอกระดับชั้นเรียนหน้าอกเสื้อด้านขวาใต้เลข ประจำตัวนักเรียน ตามระดับชั้น ดังนี้ - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน ๑ จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๑ ดาว - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๒ ดาว - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๓ ดาว ๘.๒ กางเกง เป็นกางเกงใช้ผ้าสีกรมท่า ชนิดผ้าโทเร หรือผ้ามัน มีจีบหน้า ๒ จีบ มีหูเข็มขัด ๖ - ๗ หูขาสั้นเหนือสะบ้าหัวเข่าไม่เกิน ๕ เซนติเมตร ความกว้างของปลายขาพับเข้าในกว้าง ๕ เซนติเมตร ผ่ากลางส่วนหน้าติดซิป มีกระเป๋าตามแนวตะเข็บข้าง ข้างละ ๑ กระเป๋า ไม่มีกระเป๋าหลัง กางเกงต้องสวมทับ ชายเสื้อไว้ให้เรียบร้อย ห้ามเปลี่ยนแปลงสีของกางเกง ๘.๓ เข็มขัด อนุญาตให้ใช้เข็มขัดหนังสีดำ ขนาดกว้างตั้งแต่ ๒.๕ - ๔ เซนติเมตร ตามลักษณะ รูปร่างของนักเรียน หัวเข็มขัดเป็นโลหะสีเงิน รูปสี่เหลี่ยม ชนิดหัวกลัดรูเดียวมีปลอกสีน้ำดำ ๑ ปลอก สำหรับ สอดปลายเข็มขัด ห้ามเสริมแต่งเข็มขัดในลักษณะอื่นใด ส่วนนักเรียนที่เป็นลูกเสือให้ใช้เข็มขัดของลูกเสือ ๘.๔ รองเท้า ให้ใช้รองเท้าหุ้มส้นชนิดผูกเชือก ผ้าใบและเชือกสีดำ ไม่มีลวดลายหรือสีอื่นปน โดยสอดเชือกผูกรองเท้าทุกรูของรองเท้า ๘.๕ ถุงเท้า ให้ใช้ถุงเท้าสั้นสีขาว ยาวเหนือตาตุ่มตั้งแต่ ๑๐ เซนติเมตร ขึ้นไปแต่ไม่เกินกลาง หน้าแข้งไม่พับหรือไม่ม้วนถุงเท้า ถุงเท้าไม่มีลวดลายหรือสีอื่นปน ข้อ 9 การแต่งกายของนักเรียนด้วยเครื่องแบบปกติหญิง มัธยมศึกษาตอนต้น ๙.๑ ให้ใช้ผ้าขาวเกลี้ยง ไม่บางเกินไป แขนเสื้อให้ใช้แบบกะลาสีแขนสั้นปลายแขนย่น และต้องสวมเสื้อซับในสีขาวก่อนสวมเครื่องแบบ ห้ามใส่เสื้อยืดคอกลมชนิดติดคอ กระเป๋าเสื้อให้ติดริมขอบเสื้อ ด้านล่างขวา ขนาดกว้าง ๘ เซนติเมตร ยาว ๑๐ เซนติเมตร ขอบชายเสื้อด้านล่างพับเข้าด้านใน เข้า ๑ นิ้ว ความยาวของชายเสื้อติดตรงบริเวณข้อมือเมื่อยืดตรง ให้ใช้หูกระต่ายสีกรมท่า ชายสามเหลี่ยมผูกเงื่อนกะลาสี แยกชายออกข้างประมาณ ๒.๕ นิ้ว ให้ปักอักษรย่อ ก.พ. ที่อกเสื้อเบื้องขวาด้วยด้ายสีน้ำเงินปักทึบกว้าง ๑ เซนติเมตร สูง ๑.๕ เซนติเมตร การปักชื่อ และสกุลของนักเรียน ให้ปักทึบหรือเดินตัวเส้นพิมพ์ธรรมดา สูง ๑ เซนติเมตร ที่อกเบื้องขวาด้านล่างอักษรย่อ ก.พ. ให้ปักเลขประจำตัวนักเรียนด้านล่าง ชื่อ สกุล และ เครื่องหมายบอกระดับชั้นเรียนหน้าอกเสื้อด้านขวาใต้เลขประจำตัวนักเรียน ตามระดับชั้น ดังนี้ - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน ๑ จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๑ ดาว - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๒ ดาว - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๓ ดาว ๙.๒ กระโปรง ใช้ผ้าสีกรมท่าเนื้อเกลี้ยงไม่ลวดลายและไม่บาง เอวกระโปรงมีขอบกว้าง ๓ - ๔ เซนติเมตร แบบกระโปรงใช้แบบธรรมดา ด้านหน้าและด้านหลังพับเป็นจีบข้างละ ๓ จีบ จีบกระโปรงหันออก ด้านนอกเย็บทับจีบกระโปรง จากขอบเอวลงมาไม่เกิน ๑๐ เซนติเมตร แต่ไม่เกินครึ่งน่อง ชายกระโปรงหน้าล่าง พับเข้าด้านใน กว้าง ๔ เซนติเมตร เมื่อสวมแล้วชายกระโปรงคลุมเข่า
๙.๓ ถุงเท้า ให้ใช้ถุงเท้าสีขาวไม่มีลวดลาย เวลาสวมใส่ให้พับขอบลงมาแล้ววัดจากกึ่งกลางขึ้น ไปสูงไม่น้อยกว่า ๓ นิ้ว แต่ไม่เกินกึ่งกลางของหน้าแข้งตัวเอง ๙.๔ รองเท้า ให้ใช้รองเท้าหนังสีดำ ไม่มีลวดลายหรือสีอื่นปน แบบรองเท้าใช้แบบหุ้มส้นสีดำ ส้นสูงไม่เกิน ๓ เซนติเมตร หัวมน มีสายรัดหลังเท้า รองเท้าผ้าใบให้ใช้สีขาวล้วน ไม่มีลวดลายหรือสีอื่นปน ๙.๕ ห้ามใช้เครื่องสำอางใด ๆ แต่งบริเวณใบหน้าหรือส่วนอื่นใดของร่างกายที่ไม่เหมาะสมกับ สภาพนักเรียน ให้ใช้สบู่ แป้งฝุ่นทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ในบางกรณีเช่น หลังจากเรียนพละ ศึกษาหรือทำกิจกรรมของโรงเรียน ห้ามแต่งใบหน้า ข้อ 10 การแต่งกายของนักเรียนด้วยเครื่องแบบปกติหญิง มัธยมศึกษาตอนปลาย ๑๐.๑ เสื้อให้ใช้ผ้าขาวเกลี้ยงไม่บางเกินไป แบบเสื้อเป็นแบบคอเชิ้ตแขนสั้นปลายแขนรัดที่อก อกเสื้อทำสาบตลบข้างในกว้าง ๓ เซนติเมตร ติดกระดุมสีขาว ๕ เม็ด ตัวเสื้อไม่รัดรูปและสวมเสื้อซับในสีขาว อีกชั้นหนึ่ง ให้ชายเสื้ออยู่ในกระโปรง เมื่อมองดูให้เห็นเข็มขัดโดยรอบ ให้ปักอักษรย่อ ก.พ. ที่อกเสื้อเบื้องขวา ด้วยด้ายสีน้ำเงินปักทึบกว้าง ๑ เซนติเมตร สูง ๑.๕ เซนติเมตร การปักชื่อและสกุลของนักเรียน ให้ปักทึบหรือ เดินตัวเส้นพิมพ์ธรรมดา สูง ๑ เซนติเมตร ที่อกเบื้องขวาด้านล่างอักษรย่อ ก.พ. ให้ปักเลขประจำตัวนักเรียน ด้านล่าง ชื่อ สกุล และเครื่องหมายบอกระดับชั้นเรียนหน้าอกเสื้อด้านขวาใต้เลขประจำตัวนักเรียน ตาม ระดับชั้น ดังนี้ - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน ๑ จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๑ ดาว - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๒ ดาว - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๓ ดาว ๑๐.๒ กระโปรงให้ใช้แบบเดียวกับนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ๑๐.๓ ถุงเท้า และรองเท้าให้ใช้แบบเดียวกันกับนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ๑๐.๔ เข็มขัด ให้ใช้เข็มขัดหนังสีดำกว้างประมาณ ๓ - ๔ เซนติเมตร หัวเข็มขัดรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้าชนิดหัวกลัดเดียวกันกับสายเข็มขัด มีปลอกละตัวหนีบเข็มขัด ซึ่งต้องเป็นสีเดียวกับเข็มขัดต้องไม่ มีลวดลายหรือการตกแต่งใด ๆ ๑๐.๕ การแต่งหน้า ห้ามใช้เครื่องสำอางใดๆ แต่งบริเวณใบหน้าหรือส่วนอื่นใดของร่างกายที่ ไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน ให้ใช้สบู่ แป้งฝุ่นทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ในบางกรณีเช่น หลังจากเรียนพละศึกษาหรือทำกิจกรรมของโรงเรียน และห้ามแต่งใบหน้าโดยวิธีการต่าง ๆ ทำให้ดูผิดไปจาก ธรรมชาติ ข้อ ๑1 การแต่งกายของนักเรียนมุสลิมชายตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม ๑๑.๑ เสื้อนักเรียนใช้แบบเดียวกับเครื่องแบบปกติชายมัธยมศึกษาตอนต้น/ตอนปลาย ๑๑.๒ เข็มขัด ใช้แบบเดียวกับนักเรียนที่แต่งเครื่องแบบนักเรียนปกติ ๑๑.๓ รองเท้า ใช้แบบเดียวกับนักเรียนที่แต่งเครื่องแบบนักเรียนปกติ ๑๑.๔ ถุงเท้า ใช้แบบเดียวกับนักเรียนที่แต่งเครื่องแบบนักเรียนปกติ ๑๑.๕ ชุดลูกเสือ ใช้แบบเดียวกับเครื่องแบบลูกเสือนักเรียนแต่งชุดปกติยกเว้นกางเกงต้อง เป็นขายาวทรงกระบอกมีจีบด้านหน้า ไม่มีกระเป๋าหลัง ๑๑.๖ นักเรียนจะต้องแต่งกายตามระเบียบอย่างเคร่งครัด จนจบหลักสูตร
ข้อ ๑2 การแต่งกายของนักเรียนมุสลิมหญิงตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม ๑๒.๑ ผ้าคลุมผม ให้ใช้ผ้าขาวเกลี้ยงไม่มีลวดลาย สี่หลี่ยมจัตุรัส ความยาว ๑๐๐ - ๒๐๐ เซนติเมตร เย็บติดตลอดใต้คางถึงมุมผ้า ให้ปักอักษรย่อ ก.พ. ที่อกเบื้องขวาด้วยด้ายสีน้ำเงินปักทึบกว้าง ๑ เซนติเมตร สูง ๑.๕ เซนติเมตร การปักชื่อและสกุลของนักเรียน ให้ปักทึบหรือเดินตัวเส้นพิมพ์ธรรมดา สูง ๑ เซนติเมตร ที่อกเบื้องขวาด้านล่างอักษรย่อ ก.พ. ให้ปักเลขประจำตัวนักเรียนด้านล่าง ชื่อ สกุล และ เครื่องหมายบอกระดับชั้นเรียนหน้าอกผ้าด้านขวาใต้เลขประจำตัวนักเรียน ตามระดับชั้น ดังนี้ - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน ๑ จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 จุด - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๑ ดาว - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๒ ดาว - ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๓ ดาว ๑๒.๒ เสื้อนักเรียน แขนยาว ผ้าโทเรสีขาวเกลี้ยงไม่มีลวดลาย คอปกบัว ผ่าด้านหน้าตลอด ปลายแขนจีบรูด มีสาบกว้างไม่เกิน ๕ เซนติเมตร ตัวเสื้อยาว คลุมสะโพกไม่รัดรูป ๑๒.๓ กระโปรง ผ้าโทเรสีกรมท่า ไม่มีลวดลาย พับจีบด้านข้างสามจีบ ทั้งด้านหน้าหลังความ ยาวระดับข้อเท้า ชายกระโปรงไม่สอย ๑๒.๔ ถุงเท้าและรองเท้า ใช้แบบเดียวกับนักเรียนที่แต่งเครื่องแบบปกติ ๑๒.๕ ชุดเนตรนารีเหมือนชุดเนตรนารีของนักเรียนที่แต่งชุดปกติยกเว้นเสื้อต้องเป็นแขน ยาว และกระโปรงยาวถึงตาตุ่ม ผ้าคลุมสีเขียว (สีเดียวกับชุด) ๑๒.๖ นักเรียนจะต้องแต่งกายตามระเบียบอย่างเคร่งครัด จนจบหลักสูตร ข้อ ๑3 เครื่องแบบพละศึกษา/เครื่องแบบลูกเสือ – เนตรนารี/เครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหาร/ เครื่องแบบกิจกรรม ๑๓.๑ เครื่องแบบพลศึกษา ๑๓.๑.๑ เสื้อพละ ผ้าวอร์มสีชมพูปกเสื้อสีกรมท่า พิมพ์ชื่อโรงเรียนกำแพงวิทยาเป็น ภาษาอังกฤษด้วยสีขาว ให้ปักชื่อ และสกุลที่อกเสื้อด้านขวาเป็นภาษาไทยด้วยสีขาว ตัวพิมพ์ขนาดธรรมดา สูง ๑ เซนติเมตร ให้ปักเลขประจำตัวนักเรียนด้านล่าง ชื่อ สกุล เช่นเดียวกับเครื่องแบบปกติปักตราโรงเรียน กำแพงวิทยาบนกระเป๋าหน้าอกด้านซ้ายด้วยสีขาว สวม ๑๓.๑.๒ กางเกงพละ ผ้าวอร์มสีกรมท่า แถบริ้วด้านข้างสีชมพูด้านซ้ายของแถบริ้ว พิมพ์ชื่อโรงเรียนกำแพงวิทยาเป็นภาษาอังกฤษสีขาว ๑๓.๑.๓ นักเรียนหญิง ใช้รองเท้าผ้าใบสีขาว ๑๓.๑.๔ นักเรียนชาย ใช้รองเท้าผ้าใบสีขาว หรือรองเท้าเหมือนนักเรียนที่แต่ง เครื่องแบบปกติ ๑๓.๒ เครื่องแบบลูกเสือ – เนตรนารีให้ใช้ระเบียบการเครื่องแบบลูกเสือแห่งชาติ ๑๓.๓ เครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหาร ให้ใช้ระเบียบการแต่งเครื่องแบบนักศึกษาวิชาทหาร กรมการรักษาแผ่นดิน ๑๓.4 เครื่องแบบกิจกรรม เสื้อแผนการเรียน เสื้อกีฬาสีให้สวมกับกางเกงพละ และรองเท้า ตามเครื่องแบบพลศึกษาเท่านั้น
หมวดที่ ๔ ลักษณะความผิดและการตัดคะแนนความประพฤติ ข้อ ๑4 นักเรียนต้องไม่กระทำความผิดตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ หรือตามที่โรงเรียนกำหนด ถ้านักเรียนเกิดกระทำผิดดังกล่าว จะต้องถูกตัดคะแนนความประพฤติดังนี้ ๑. ความผิดสถานเบา ที่ ลักษณะความผิด ตัดคะแนน ๑ ส่งเสียงดัง รบกวนผู้เรียน ไม่ว่าบนอาคาร หรือนอกอาคาร ๓ ๒ ไม่รักษาความสะอาดห้องเรียน และบริเวณที่รับผิดชอบ ๓ ๓ ปกปิดความลับของนักเรียนที่กระทำความผิด ๓ ๔ ใส่รองเท้าขึ้นบนอาคารเรียน ๓ ๕ นำอาหาร ขนม ของขบเคี้ยว น้ำขวด และเครื่องดื่มขึ้นไปรับประทานบนอาคารเรียน ๓ ๖ แต่งกายผิดระเบียบของโรงเรียน ๕ ๗ หนีเข้าแถวหน้าเสาธงโดยจงใจ เช่น อยู่บนห้อง, ห้องน้ำ ๑๐ ๘ หนีเรียนไม่เข้าเรียน (วิชาละ) ๕ ๙ มาโรงเรียนสาย - มาสายอยู่ในคาบที่ ๑ - มาสายหลังคาบที่ ๑ - ลงแถวสาย ๕ ๑๐ ๓ ๑๐ บิ๊กอายหรือคอนเทคเลนส์หลากสีใช้เครื่องสำอางเพื่อการเสริมสวย ๕ ๑๑ สวมใส่เครื่องประดับ ต่างหูแฟชั่น เจาะใบหูเกินข้างละ ๑ รู ๕ ๑๒ ใช้โทรศัพท์ไม่ถูกกาลเทศะ - ในคาบเรียน (ครั้งแรก) ครูประจำวิชานำส่งกิจการนักเรียน ให้ผู้ปกครองมารับคืน - ในคาบเรียน (ครั้งที่ ๒) ครูประจำวิชานำส่งกิจการนักเรียน ให้ผู้ปกครองมารับคืน จำกัดการนำโทรศัพท์มาโรงเรียน ๑ เดือน ๕ ๕ ๑๐ ๑๓ นำอาหารจากข้างนอกหรือสั่งซื้ออาหารจากข้างนอกมาในโรงเรียน ๕ ๑๔ นำภาชนะใส่อาหาร รับประทานอาหารออกนอกบริเวณโรงอาหาร 5 ๑๕ จอดรถในที่ห้ามจอดของโรงเรียนหรือไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ๕ 16 ระเบิดหูเจาะลิ้น และสักตามร่างกาย ๑๐ 17 เล่นกีฬาใต้อาคารเรียน ห้องเรียน หรือบริเวณที่ห้ามเล่น 5 ๒. ความผิดปานกลาง ที่ ลักษณะความผิด ตัดคะแนน ๑ ไม่ไปตรวจเครื่องแต่งกาย ทรงผมตามที่กำหนด/ตรวจไม่ผ่าน ครั้งที่ ๑ ๕ ไม่ไปตรวจเครื่องแต่งกาย ทรงผมตามที่กำหนด/ตรวจไม่ผ่าน ครั้งที่ ๒ ๑๕ ไม่ไปตรวจเครื่องแต่งกาย ทรงผมตามที่กำหนด/ตรวจไม่ผ่าน ครั้งที่ ๓ ๒๕ ไม่ไปตรวจเครื่องแต่งกาย ทรงผมตามที่กำหนด/ตรวจไม่ผ่าน ครั้งที่ ๔ ๓๕
ที่ ลักษณะความผิด ตัดคะแนน ๒ ทิ้งขยะ สร้างความสกปรก ไม่ทำความสะอาดบริเวณ ทั้งในห้องเรียน นอกห้องเรียน ๕ ๓ เปิดไฟ เปิดน้ำ เปิดพัดลมทิ้งไว้ไม่ปิด ไม่รักษาสมบัติส่วนรวม ๕ ๔ ขัดคำสั่งครูในเรื่องที่เกี่ยวกับการเรียนการสอน ๑๐ ๕ หนีออกนอกบริเวณโรงเรียน โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ ๑๐ ๖ ขีดเขียนข้อความที่ไม่สุภาพ หรือข้อความใด ๆ ลงเสื้อ กางเกงและตามฝาผนังห้องน้ำ ๑๐ ๗ นำอุปกรณ์เป่าผม/หนีบผม/ม้วนผมมาโรงเรียน ๑๕ ๘ ใช้เครื่องมือสื่อสารขณะครูสอน โดยไม่ได้รับอนุญาต ๑๕ ๙ ไม่เข้ากิจกรรมสำคัญที่โรงเรียนจัดขึ้น ๒๐ ๑๐ ใช้สื่อออนไลน์ในการละเมิดสิทธิของผู้อื่น ๒๐ ๑๑ เข้าร่วมกิจกรรมกีฬาสีภายในไม่ถึงร้อยละ 80 ๒๐ ๑๒ โรงเรียนเชิญผู้ปกครองมาพบ แต่ไม่มาตามกำหนด ๒๐ ๑๓ แสดงกิริยาวาจาหยาบคาย ก้าวร้าวต่อครูหรือผู้อื่น ๒๐ ๑๔ เที่ยวกลางคืนดึกดื่น และอยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม ๒๐ ๑๕ กลั่นแกล้ง รังแก บังคับขู่เข็ญ หรือการกระทำอื่นใดทั้งวาจา หรือการกระทำต่อผู้อื่น ที่อ่อนแอกว่า ๒๐ ๑๖ มีสื่อลามกไว้ครอบครอง เช่น ซีดีภาพ คลิปลามก โพสต์ภาพไม่เหมาะสมในสื่อ ออนไลน์ ๒๐ ๑๗ ดัดแปลงรถขับขี่รถเสียงดัง ก่อให้เกิดความรำคาญ ไม่สวมหมวกนิรภัย จอดรถนอก โรงเรียน ตามบ้าน ร้านค้า ป่า ฯลฯ เนื่องจากมาสาย หรือเจตนาหนีเรียน ๒๕ 3. ความผิดร้ายแรง ที่ ลักษณะความผิด ตัดคะแนน ๑ นักเรียนแจ้งความเท็จต่อครูปลอมลายเซ็นผู้ปกครอง ๓๐ ๒ ชักชวนบุคคลภายนอกเข้ามาในโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต ๓๐ ๓ ยุยงให้เกิดความแตกแยก ความสามัคคีหรือต่อต้านระเบียบของโรงเรียน ๓๐ ๔ มีพฤติกรรม หรือการกระทำที่ส่งผลให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง เช่นการลงข้อความ โพสต์ประจานโรงเรียน หรือลงภาพที่ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง ๓๐ ๕ ใช้ภาษาด่าทอตัวต่อตัว เป็นหมู่คณะ หรือด่าทอทางสื่อออนไลน์ ๓๐ ๖ ทะเลาะวิวาท (ครั้งแรก) ไม่รุนแรง โดยไม่ใช้อาวุธ ๓๐ ๗ ทะเลาะวิวาท (ไม่ใช่ครั้งแรก) แต่ไม่รุนแรง โดยไม่ใช้อาวุธ ๔๐ ๘ ประพฤติตัวไม่เหมาะสมในกรณีส่อไปในทางชู้สาว เช่นจับมือ นอนหนุนตัก การโอบ กอด ๔๐ ๙ เล่นการพนันทุกชนิด ๔๐ ๑๐ ทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน หรือของผู้อื่น ๔๐ 12 พกพาอาวุธ มีด ปืน วัตถุระเบิด สนับมือ จุดประทัด ๕๐ 13 ทะเลาะวิวาท(ขั้นรุนแรง) กับเพื่อนในโรงเรียน โดยการชกต่อย อาจเป็นกลุ่ม เป็น พวก และมีการใช้อาวุธ 6๐
ที่ ลักษณะความผิด ตัดคะแนน 14 เสพสารเสพติดทุกชนิด หรือมีไว้ครอบครอง ๖๐ 15 ลักขโมย จะโดยเจตนาหรือไม่ยักยอก กรรโชกทรัพย์สิน ๖๐ ๑๖ ชักชวนบุคคลภายนอกเข้ามาก่อการทะเลาะวิวาทกับเพื่อนนักเรียน หรือ บุคคลภายนอก ซึ่งทำให้เสียชื่อเสียง ๘๐ 17 นักเรียนจ้างเหมารถ/เรือ ไปเที่ยวในนามโรงเรียนโดยทางโรงเรียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีเอกสารขออนุญาตจากทางโรงเรียน 80 ๑8 ชู้สาวขั้นร้ายแรงประพฤติผิดศีลธรรมอันดีงาม 10๐ ๑9 การกระทำใดๆ อันเป็นความผิดทางอาญา จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีสั่งฟ้อง ศาลแล้วมีความผิดตามกล่าวหา ๑๐๐ หมวดที่ ๕ ประเภทความผิดและการลงโทษ ข้อ ๑5 เมื่อนักเรียนกระทำความผิด และ/หรือ ถูกตัดคะแนนความประพฤติถึงกำหนดจะต้องถูก ลงโทษตามที่กำหนดดังนี้ ที่ ประเภทความผิดหรือคะแนนที่ถูกตัด บทลงโทษ ๑ ความผิดสถานเบา หรือความผิดที่ถูกตัดคะแนนไม่เกิน ๕ คะแนน - ว่ากล่าวตักเตือน - ตัดคะแนนความประพฤติ ๒ ความผิดปานกลาง - ว่ากล่าวตักเตือน - ตัดคะแนนความประพฤติ - ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ๓ ความผิดร้ายแรง - ว่ากล่าวตักเตือน - ตัดคะแนนความประพฤติ - ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม - ทำทัณฑ์บน ๔ คะแนนความประพฤติรวมถึง ๒๐ คะแนน - ว่ากล่าวตักเตือน - ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ๕ คะแนนความประพฤติรวมถึง ๓๐ คะแนน - ว่ากล่าวตักเตือน - ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ๖ คะแนนความประพฤติรวมถึง ๕๐ คะแนน - ทำทัณฑ์บน - ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ภายนอกโรงเรียน ๗ คะแนนความประพฤติรวมถึง ๗๐ คะแนน - ทำทัณฑ์บน - ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ภายนอกโรงเรียน ๘ คะแนนความประพฤติรวมถึง ๘๐ - ๑๐๐ คะแนน คณะกรรมการดูแลนักเรียนพิจารณาโทษ
หมวดที่ ๖ การเชิดชูเกียรตินักเรียน ข้อ ๑6 เมื่อนักเรียนคนใดได้ทำคุณงามความดีหรือสร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียน ให้ทำการเชิด ชูเกียรติตามที่กำหนด ดังนี้ ที่ ประเภทความดี การเชิดชูเกียรติ ๑ นักเรียนทำที่ความดีทุกประเภท ให้ครูที่ปรึกษาใช้ดุลพินิจ บันทึกความดี ลงในคู่มือที่ปรึกษาเพื่อคัดเลือกนักเรียนที่มีความประพฤติดีเด่น เกียรติบัตร ประชาสัมพันธ์ ๒ ตัวแทนโรงเรียนแข่งขันระดับประเทศ เกียรติบัตร ประชาสัมพันธ์ ๓ ตัวแทนโรงเรียนแข่งขันระดับเขตพื้นที่การศึกษาแข่งขันระดับภาค เกียรติบัตร ประชาสัมพันธ์ ๔ ตัวแทนโรงเรียนแข่งขันระดับจังหวัด เกียรติบัตร ประชาสัมพันธ์ ๕ เป็นคณะกรรมการสภานักเรียน (ปฏิบัติหน้าที่ตลอดปีการศึกษา) เกียรติบัตร ๖ เป็นสารวัตรนักเรียน (ปฏิบัติหน้าที่ตลอดปีการศึกษา) คำสั่ง/เกียรติบัตร ๗ ได้รับรางวัลนักเรียนดี เกียรติบัตร ๘ เป็นตัวแทนของโรงเรียนด้านความสามารถทุกประเภท (ปฏิบัติหน้าที่ ตลอดปีการศึกษา) เกียรติบัตร ประชาสัมพันธ์ ๙ เป็นตัวแทนโรงเรียนเข้าแข่งขันทักษะ หรือเข้าค่ายอบรมนอกโรงเรียนโดย หน่วยงานอื่นเป็นผู้จัด เกียรติบัตร ๑๐ เข้าร่วมกิจกรรมอบรมที่โรงเรียนจัดขึ้น เกียรติบัตร ๑๑ มีความมุ่งมั่นในการกระทำความดีอยู่เสมอ โดยครูที่ปรึกษาเป็นผู้รับรอง รับรองเป็นลายลักษณ์อักษร (คะแนนความดี) เกียรติบัตร ๑๒ ใช้เกียรติบัตรแข่งขันระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ภายในโรงเรียน เกียรติบัตร ข้อ ๑7 เมื่อนักเรียนกระทำความผิดให้ครูแจ้งพฤติกรรมความผิดของนักเรียนนั้น พร้อมข้อมูล หลักฐานความผิด (ถ้ามี) ถึงกลุ่มกิจการนักเรียน และกลุ่มกิจการนักเรียนพิจารณาลงโทษ และเสนอรายงาน ผู้อำนวยการตามลำดับ ข้อ ๑8 ให้ครูที่ปรึกษาประจำชั้น เป็นผู้ควบคุม ดูแล อบรม สั่งสอน ตักเตือนนักเรียนในแต่ละ ห้อง เป็นการเบื้องต้น ข้อ ๑9 ให้กลุ่มกิจการนักเรียนเป็นผู้สืบสวน สอบสวน การกระทำความผิดของนักเรียน และเป็นผู้บันทึกการตัดคะแนนความประพฤติของนักเรียนเป็นรายบุคคล และดำเนินการลงโทษนักเรียนตาม ระเบียบนี้และบันทึกข้อมูลนักเรียนลงแฟ้มข้อมูลเป็นความลับ และรายงานผลการดำเนินการต่อผู้อำนวยการ โดยตรง ข้อ 20 เมื่อนักเรียนคนใดกระทำความผิดจนถึงบทลงโทษเชิญผู้ปกครอง หรือแจ้ง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้กลุ่มกิจการนักเรียนจัดทำข้อมูลความผิดของนักเรียนนั้นอย่างละเอียด แล้วรายงานผู้อำนวยการเพื่อพิจารณาก่อนการดำเนินการ
ข้อ ๒1 เมื่อนักเรียนคนใดกระทำความผิดจนถึงขั้นต้องลงโทษทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยน พฤติกรรม โรงเรียนจะกำหนดการทำกิจกรรมนั้น และผู้ปกครองจะต้องมีส่วนในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ เกิดขึ้นจากการทำกิจกรรมนั้นของนักเรียนในความปกครอง ข้อ 22 เมื่อนักเรียนไม่มีสถานภาพโสด ทั้งจากแต่งงาน นิกะห์โดยเปิดเผย หรือจากการ ตั้งครรภ์คณะกรรมการดูแลนักเรียนมีมติพิจารณาให้ย้ายสถานศึกษา ข้อ 23 เมื่อนักเรียนกระทำความผิดบ่อยครั้ง เชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม แต่ยังคง ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คณะกรรมการดูแลนักเรียนมีมติให้ผู้ปกครองรับนักเรียนกลับไปอบรมที่บ้าน โดย ระหว่างอบรมให้เรียนด้วยรูปแบบทางไกลหรือรับงานกลับไปทำ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ คณะกรรมการดูแลนักเรียน ข้อ ๒4 เมื่อนักเรียนกระทำความผิดซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในระเบียบนี้คณะกรรมการดูแลนักเรียน อาจมีมติให้ลงโทษตามระเบียบนี้หรือลงโทษเพิ่มเติมได้ ข้อ ๒5 เมื่อนักเรียนกระทำความดีซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในระเบียบนี้คณะกรรมการดูแลนักเรียน อาจมีมติให้ยกย่องเชิดชูเกียรติตามระเบียบนี้หรือเชิดชูเกียรติเพิ่มเติมได้ ข้อ ๒6 เมื่อถึงวาระสำคัญต่างๆ คณะกรรมการดูแลนักเรียนอาจมีมติให้ลบล้างคะแนนความ ประพฤติของนักเรียนคนใดคนหนึ่งลงได้โดยหลักเกณฑ์และวิธีการให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการดูแล นักเรียน ประกาศ ณ วันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ (นางสาวจารี วุฒิมานพ) ผู้อำนวยการโรงเรียนกำแพงวิทยา