The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชิ้นงาน E-book ขุนช้างขุนเเผน 6/8

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 6/8, 2022-08-30 10:33:33

ชิ้นงาน E-book ขุนช้างขุนเเผน 6/8

ชิ้นงาน E-book ขุนช้างขุนเเผน 6/8

ชิ้นงาน E-BOOK
เรอื่ ง ขนุ ช้างขนุ แผน ตอน ขุนช้างถวายฎกี า

นางสาวกลั ยฐ์ ติ า จดั ทำโดย เลขท่ี ๗
นางสาวกุลชาพร เลขที่ ๘
นางสาวชญาภา ธรี วดี ม.๖/๘ เลขท่ี ๑๑
นางสาวณิชชาวีณ์ พุทธจักรศรี ม.๖/๘ เลขที่ ๑๖
นางสาวนาตาชา ศรีมว่ ง ม.๖/๘ เลขท่ี ๑๙
นางสาวพัชรไมย ฉายอรณุ ม.๖/๘ เลขท่ี ๒๓
นางสาวพิณรภทั ร์ ดาอี ม.๖/๘ เลขที่ ๒๕
นางสาวภทั ร์นรินท์ เจริญศิลป์ ม.๖/๘ เลขท่ี ๒๖
นางสาวภทั ราพร มะลอิ ่อง ม.๖/๘ เลขที่ ๒๗
นางสาวศวิตา สว่างศรี ม.๖/๘ เลขท่ี ๓๒
นางสาวศริ ิอาภา ศิลป์ชยั ม.๖/๘ เลขที่ ๓๓
นางสาวพิชามญช์ุ กิ่งพุทธพงษ์ ม.๖/๘ เลขท่ี ๔๐
มน่ั คงดี ม.๖/๘
บตุ รดาวงษ์ ม.๖/๘

คณุ ครทู ี่ปรกึ ษา

คุณครู ชมยั พร แกว้ ปานกนั

ชิ้นงานฉบับนี้เปน็ สว่ นหนึ่งของวิชาภาษาไทย ๖ ( ท๓๓๑o๒ )
ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕
โรงเรยี นสงวนหญิง จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี

สำนักเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศกึ ษาเขต ๙



กิตติกรรมประกาศ

ชิ้นงาน E-BOOK เล่มนี้สำเร็จลุล่วงได้เพราะได้รับความกรุณาจากครูที่ปรึกษาโครงงานและผู้ปกครอง
นักเรียน สมาชิกภายในกลุ่มท่ีไดใ้ ห้ขอ้ เสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่องตา่ งๆ มาโดยตลอด จนชน้ิ
เล่ม E-BOOK เล่มนี้เสร็จสมบรู ณ์ พวกเราจงึ ขอกราบขอบพระคณุ เปน็ อย่างสงู

คณะผจู้ ัดทำ
๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๕



คำนำ

หนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Book) เล่มนี้เป็นส่วนหน่ึงของวิชาภาษาไทย (ท๓๓๑๐๑) ระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ ๖ จัดทำขน้ึ เพอื่ เป็นสื่อประกอบการเรียนการสอนสำหรับคุณครูและนักเรียน เรือ่ งขุนช้างขนุ แผน เพ่ือให้เข้าใจ
เกีย่ วกบั เรือ่ งขนุ ช้างขนุ แผนมากข้ึนเช่น ประวัตคิ วามเป็นมา ประวตั ิผ้แู ตง่ เนอื้ เร่ือง การใช้คำประพันธ์ และคุณค่า
ในดา้ นต่างๆ โดยนำเสนอในรูปแบบที่นา่ สนใจ มีภาพประกอบเพอ่ื เหน็ ภาพได้จรงิ และสะดวกตอ่ การเปิดอ่าน

คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ( E-Book) จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของ
นักเรียนและการเรียนการสอนของคุณครูในเรื่องขุนช้างขุนแผนไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด คณะ
ผจู้ ดั ทำตอ้ งขออภยั ไว้ ณ ที่น้ีด้วย

คณะผจู้ ัดทำ
๑๕ สงิ หาคม ๒๕๖๕

สารบญั ค

เรอ่ื ง หน้า
กติ ติกรรมประกาศ ก
คำนำ ข
สารบัญ ค
ความเปน็ มาของขนุ ช้างขุนแผน ๑
ประวัติผูแ้ ต่ง ๒
ลักษณะคำประพนั ธ์ ๓
เน้ือเรอ่ื งเตม็ ( แบบย่อ ) ๔
เนอื้ เรอื่ งย่อขุนชา้ งขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎกี า ๘
เสภาเรอ่ื งขนุ ช้างขนุ แผน ตอน ขนุ ชา้ งถวายฎกี า ๙
คุณคา่ ด้านเน้ือหา ๒๖
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๓๑
คณุ ค่าด้านสังคม ๓๓
บรรณานุกรม ๓๗
ภาคผนวก ๓๘



ความเป็นมาของขนุ ช้างขนุ แผน

เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนเป็นนิทานมหากาพย์พื้นบ้านของไทย เรื่องขุนช้างขุนแผนนี้สันนิษฐานว่าเคย
เกิดขึ้นจริงในสมัยกรุงศรีอยุธยานับเป็นเรื่องในพระราชพงศาวดารเป็นวรรณกรรมอมตะเป็นนิทานพื้นบ้านของ
สุพรรณบุรีมผี ู้จดจำเล่าสืบตอ่ กันมา เนื่องจากเรื่องราวของขุนชา้ งขุนแผนมีปรากฏในหนังสือคำให้การชาวกรงุ เกา่
แต่มีการดดั แปลงเพ่ิมเติมจนมีลักษณะคล้ายนิทานเพื่อให้เน้ือเรือ่ งสนุกสนานชวนตดิ ตามย่ิงข้ึน รายละเอียดในการ
ดำเนินเรื่องยังสะท้อนภาพการดำเนินชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชาวสยามในครั้งอดีตได้
อย่างชัดเจนย่งิ

เรอื่ งขุนช้างขุนแผนนี้ถูกสันนิษฐานวา่ เปน็ การแต่งขึ้นรอ้ งแบบมุขปาฐะ ( ปากตอ่ ปาก ) เพือ่ ความบันเทิง
ในลักษณะเดียวกับมหากาพย์ของยุโรปอย่างเช่นของโฮเมอร์โดยคงจะเริ่มแต่งตั้งแต่ราวอยุธยาตอนกลาง ( ราว
พ.ศ. ๒๔๑๓ ) และมีการเพิ่มเติมหรอื ตัดทอนเรื่อยมา จนมีรายละเอียดและความยาวอยา่ งที่สืบทอดกันอยูใ่ นสมยั
อยธุ ยาตอนปลายแต่ไม่ได้ถูกบนั ทึกลงไว้เปน็ กิจจะลักษณะ เนื่องจากบุคคลชน้ั สูงสมัยน้ันเห็นว่าเป็นกลอนชาวบ้าน
ที่มีเนื้อหาบางตอนหยาบโลนและไม่มีการใช้ฉันทลักษณ์อย่างวิจิตร ดังนั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาถูกทำลายในปี พ.ศ.
๒๓๑๐ จึงไม่มีต้นฉบับเรื่องขุนช้างขุนแผนเหลอื อยูแ่ ต่เนื่องจากเป็นเรื่องท่ีมีความนยิ มสูงในหมูช่ าวไทย จึงมีผู้ทีจ่ ำ
เนื้อหาได้อยู่มากและทำให้ถูกฟื้นฟูกลับมาได้ไม่ยาก มีทั้งหมด ๔๓ ตอน แต่มี ๘ ตอนที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรม
พระยาดำรงราชานุภาพทรงเป็นประธานไดล้ งมติไวใ้ น พ.ศ.๒๔๗๔ ว่าแตง่ ดีเปน็ ยอดเย่ียม ไดแ้ ก่

๑.ตอนพลายแกว้ เป็นชูน้ างพิม

๒.ตอนขุนชา้ งขอนางพมิ

๓.ตอนขนุ แผนขน้ึ เรอื นขุนช้าง

๔.ตอนขุนแผนพาวันทองหนี

๕.ตอนกำเนดิ พลายงาม

๖.ตอนขุนชา้ งถวายฎกี า

๗.ตอนฆ่าวันทอง

๘.ตอนพระไวยถกู เสน่ห์



พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั โปรดการฟังขบั เสภามากโปรดเกล้าฯให้กวใี นราชสำนักช่วยกัน
รวบรวมเรือ่ งขุนช้างขุนแผนและช่วยกันแตง่ เสภาตอนทขี่ าดไปตามที่กวีแตล่ ะคนถนัด ๔ ตอน คอื

ตอนท่ี ๔ พลายแกว้ เป็นชกู้ ับนางพมิ
ตอนท่ี ๑๓ วันทองหึงลาวทอง
ตอนท่ี ๑๗ ขุนแผนข้นึ เรอื่ งขุนชา้ งไดน้ างแกว้ กริ ยิ า
ตอนที่ ๑๘ ขุนแผนพาวันทองหนี

ประวัติผแู้ ต่ง

ผู้แต่งเรื่องขุนช้างขุนแผน คือ พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สุนทรภู่ เกิดในรัช
สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙ ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ.
๒๓๙๘ ใน พ.ศ. ๒๓๕๙ ในรัชกาลที่ ๒ สุนทรภู่เข้ารับราชการ ในรัชกาลที่ ๓ สุนทรภู่ออกจากราชการและออก
บวชเมื่อลาสิกขาแล้วถวายตัวอยู่กับพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ พ.ศ. ๒๓๙๔ สุนทรภู่ได้เป็นเจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่าย
พระราชวังบวร มบี รรดาศักดิ์ เป็น พระสุนทรโวหาร



ลักษณะคำประพนั ธ์

เรื่องขุนชา้ งขุนแผนเป็นคำประพนั ธ์ ประเภทกลอนเสภา ๔๓ ตอน ซึง่ มอี ยู่ ๘ ตอนที่ได้รบั การยก
ยอ่ งวา่ แต่งดียอดเยีย่ มจากวรรณคดสี มาคมอนั มสี มเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ ทรงเปน็
ประธานโดยลงมติเมื่อพ.ศ.๒๔๗ และตอนขุนช้างถวายฎีกาเป็นหนง่ึ ในแปดตอนท่ไี ด้รับการยกย่อง

ลักษณะคำประพันธก์ ลอนเสภาเปน็ กลอนสภุ าพเสภาเปน็ กลอนขัน้ เลา่ เรอ่ื งอย่างเล่านิทานจงึ ใชค้ ำ
มากเพ่อื บรรจุขอ้ ความให้ชัดเจนแกผ่ ้ฟู งั และม่งุ เอาการขบั ได้ไพเราะเป็นสำคัญ สัมผัสของคำประพนั ธ์ คือคำ
สดุ ท้ายของวรรคตน้ ส่งสมั ผสั ไปยังคำใดคำหนง่ึ ใน ๕ คำแรกของวรรคหลังสมั ผสั วรรคอน่ื และสมั ผสั ระหวา่ ง
บทเหมอื นกลอนสุภาพ



เนือ้ เรอื่ งเตม็ (แบบย่อ)

ณ เมอื งสพุ รรณบุรี กลา่ วถงึ ครอบครวั สามครอบครัว คอื ครอบครัวของขุนไกรพลพ่ายรับราชการทหาร มี
ภรรยาชื่อ นางทองประศรี มีลูกชายดว้ ยกนั ช่อื พลายแกว้ ครอบครัวของขุนศรีวชิ ยั เศรษฐีใหญ่ของเมืองสุพรรณบุรี
รับราชการเป็นนายกองกรมช้างนอก ภรรยาชื่อนางเทพทองมีลูกชายชื่อขุนช้่าง ซึ่งหัวล้านมาแต่กำเนิดและ
ครอบครวั ของพันศร โยธาเปน็ พอ่ ค้า ภรรยาชือ่ ศรปี ระจัน มีลกู สาวรูปร่างหนา้ ตางดงามช่อื พิมพลิ าไลย

วันหนึ่งสมเดจ็ พระพันวษา มีความประสงคจ์ ะล่าควายป่าจึงสัง่ ให้ขนุ ไกรปลกู พลบั พลาและตอ้ นควาย
เตรียมไว้ แตค่ วายปา่ เหล่าน้ันแตกตนื่ ไมย่ อมเขา้ คอก ขนุ ไกรจึงใช้หอกแทงควายตายไปมากมายท่รี อชวี ิตก็หนีเขา้
ปา่ ไป สมเดจ็ พระพนั วษาโกรธมากสั่งให้ประหารชีวิตขนุ ไกรเสยี นางทองประศรีรู้ข่าวรีบพาพลายแก้วหนีไปอยู่
เมอื งกาญจนบุรี ทางเมอื งสพุ รรณบรุ ี มพี วกโจรจันศรขึ้นปล้นบ้านของขนุ ศรวี ิชยั และฆ่าขุนศรวี ิชัยตายสว่ นพนั ศร
โยธาเดินทางไปคา้ ขายต่างเมืองพอกลบั มาถึงบา้ นก็เปน็ ไข้ปา่ ตาย

เมื่อพลายแก้วอายุได้ ๑๕ ปี ก็บวชเณรเรยี นวิชาอยทู่ ่ีวัดส้มใหญแ่ ล้วย้ายไปเรียนตอ่ ทีว่ ัดป่าเลไลย ต่อมาท่ี
วัดป่าเลไลยจดั ให้มเี ทศน์มหาชาติ เณรพลายแกว้ เทศนก์ ัณฑ์มทั รซี ง่ึ นางพิมพิลาไลยเป็นเจา้ ของกณั ฑ์เทศน์ นาง
พิมพิลาไลยเลอื่ มใสมากจนเปล้ืองผ้าสไบบชู ากัณฑเ์ ทศ์ ขุนชา้ งเห็นเช่นน้ันกเ็ ปล้ืองผ้าห่มของตนวางเคียงกับผา้ สไบ
ของนางพมิ พลิ าไลย อธิฐานขอใหไ้ ดน้ างเป็นภรรยาทำให้นางพิมพิลาไลยโกรธมากต่อมาเณรพลพลายแก้วก็สึกแล้ว
ให้นางทองประศรีมาสขู่ อนางพิมพิลาไลยและแต่งงาน

ทางกรุงศรีอยุธยาได้ขา่ ววา่ กองทัพเชียงใหม่ตีไดเ้ มอื งเชยี งทอง ซ่ึงเปน็ เมืองข้นึ ของกรุงศรีอยธุ ยา สมเดจ็
พระพันวษาจึงถามหาเชอ้ื สายของขนุ ไกร ขุนช้างซ่ึงเข้าไปรับราชการอยู่จึงเลา่ เร่ืองราวความเก่งกลา้ สามารถของ
พลายแกว้ เพื่อหวงั จะพรากพลายแกว้ ไปใหไ้ กลนางพิมพลิ าไลย สมเด็จพระพนั วษาจงึ ให้ไปตามตัวมาแล้วแต่งตัง้
ให้เปน็ แม่ทัพไปรบกับเมืองเชียงใหมแ่ ละไดร้ บั ชัยชนะ นายบ้านแสนคำแมนแห่งหมบู่ ้านจอมทองเหน็ ว่าพลายแก้ว
กับพวกทหารไม่ได้เบยี ดเบียนใหช้ าวบา้ นเดือดรอ้ นจึงยกนางลาวทองลกู สาวของตนให้เป็นภรรยาของพลายแกว้

ส่วนนางพิมพลิ าไลยเม่ือสามไี ปทพั ไดไ้ ม่นานกป็ ว่ ยหนกั รักษาเทา่ ไรกไ็ มห่ าย ขรวั ตาจูวัดปา่ เลไลยแนะนำ
ใหเ้ ปลีย่ นชื่อเปน็ วันทองอาการไขจ้ ึงหายขนุ ชา้ งทำอุบายนำหมอ้ ใส่กระดูกไปใหน้ างศรปี ระจันกับนางวันทองดูวา่
พลายแกว้ ตายแลว้ และขวู่ ่านางวันทองจะตอ้ งถกู คมุ ตวั ไวเ้ ป็นม่ายหลวงตามกฏหมาย นางวันทองไมเ่ ชอ่ื แต่นางศรี



ประจันคดิ ว่าจรงิ ประกอบกับเห็นวา่ ขุนชา้ งเป็นเศรษฐจี ึงบังคับให้นางวนั ทองแต่งงานกบั ขุนช้าง นางวันทองจำต้อง
ตามใจแม่แต่นางไม่ยอมเข้าหอ ขณะน้ันพลายแกว้ กลบั มาถึงกรุงศรีอยธุ ยาและไดบ้ รรดาศกั ดิเ์ ปน็ ขนุ แผนแสน
สะท้าน

จากนั้นก็พานางลาวทองกลับสุพรรณบุรี นางวันทองเห็นขุนแผนพาภรรยาใหม่มาด้วยกโ็ กรธดา่ ทอโต้ตอบ
กบั นางลาวทองและลมื ตวั พูดกา้ วร้าวขนุ แผน ทำใหข้ นุ แผนโมโหพานางลาวทองไปอยู่ทก่ี าญจนบุรี สว่ นนางวันทอง
ก็ตกเปน็ ภรรยาของขุนชา้ งอย่างจำใจ ตอ่ มาขุนช้างและขนุ แผนเข้าไปรบั การอบรมในวังและไดเ้ ป็นมหาดเล็กเวรทั้ง
๒ คน วันหนงึ่ นางทองประศรีให้คนมาสง่ ข่าวว่านางลาวทองปว่ ยหนกั ขนุ แผนจงึ ฝากเวรไว้กบั ขุนช้างแล้วไปดู
อาการของนางลาวทอง ตอนเชา้ สมเดจ็ พระพนั วษาถามถึงขุนแผนขุนช้างบอกวา่ ขนุ แผนปีนกำแพงวังหนีไปหา
ภรรยา สมเดจ็ พระพันวษาโกรธตรสั ใหข้ นุ แผนตระเวนดา่ นทก่ี าญจนบรุ ี หา้ มเข้าเฝ้าและริบนางลาวทองเข้าเป็น
ม่ายหลวง

ขนุ แผนได้ทราบเร่อื งกโ็ กรธขุนชา้ ง คดิ จะแกแ้ ค้นแตย่ ังมีกำลังไม่พอ จงึ ออกตระเวนป่าไปโดยลำพัง คิดจะ
หาอาวุธ มา้ และกุมารทอง สำหรับปอ้ งกันตวั ได้ตระเวนไปจนถึงถ่ินของหม่ืนหาญนักเลงใหญไ่ ดเ้ ข้าสมัครเข้าไปอยู่
ดว้ ยเพราะหวังจะไดบ้ ัวคลี่ลูกสาวของหมน่ื หาญ ได้ทำตัวนอบน้อมและตั้งใจทำงานเป็นอยา่ งดจี นเป็นที่รกั ใคร่ของ
หมน่ื หาญถงึ กับออกปากยกลูกสาวใหแ้ ตง่ งานด้วย พอไดแ้ ต่งงานกบั บวั คลแี่ ล้วขนุ แผนก็ไม่ยอมทำงานรว่ มกบั หมนื่
หาญ ทำให้หมนื่ หาญโกรธคิดฆ่าขนุ แผนเพราะขนุ แผนอยู่ยงคงกระพันจึงให้บัวคลใี่ ส่ยาพิษลงในอาหารให้ขุนแผน
กิน แตผ่ ีพรายมาบอกใหร้ ตู้ ัว

ขนุ แผนจึงทำอุบายเป็นไข้ไมย่ อมกินอาหารแล้วออกปากขอลกู จากบัวคลี่ นางไม่ร้คู วามหมายก็ออกปาก
ยกลูกใหข้ นุ แผนพอกลางคืนขณะทีบ่ ัวคลี่นอนหลับขนุ แผนกผ็ ่าทอ้ งนางแล้วนำลูกไปทำพิธตี อนเช้าหมน่ื หาญและ
ภรรยารู้ว่าลกู สาวถูกผ่าท้องตายกต็ ิดตามขนุ แผนไป แตก่ ส็ ู้ขุนแผนไม่ได้ ขนุ แผนเสกกุมารทองสำเร็จ จึงออก
เดนิ ทางต่อไปแล้วไปหาช่างตีดาบ หาเหล็ก และเครื่องใช้ต่าง ๆเตรียมไวต้ ัง้ พธิ ีตดี าบจนสำเร็จ ดาบนใ้ี หช้ ่ือวา่ ดาบ
ฟ้าฟ้นื ใช้เป็นอาวธุ ตอ่ ไป หลงั จากนนั้ เดนิ ทางไปหาม้า ได้ไปพบคณะจดั ซ้ือม้าหลวง ไดเ้ ห็นลกู ม้าลูกม้าตัวหน่งึ มี
ลักษณะถูกต้องตามตำรากช็ อบใจ ได้ออกปากซ้ือ เจา้ หนา้ ที่ก็ขายใหใ้ นราคาถูกขุนแผนจึงเสกหญ้าใหม้ ้ากนิ และ
นำมาฝกึ จนเปน็ ม้าแสนรใู้ หช้ อื่ ว่า “มา้ สีหมอก”



เม่ือไดก้ ุมารทอง ดาบฟ้าฟน้ื และมา้ สหี มอกครบตามความต้ังใจแล้วกเ็ ดนิ ทางกลบั บา้ น คิดจะไปแกแ้ ค้นขนุ
ชา้ ง นางทองประศรีมารดาหา้ มปรามก็ไม่ฟัง ไดเ้ ดินทางออกจากกาญจนบรุ ไี ปยังสพุ รรณบรุ ีขึน้ เรือนขนุ ช้าง ได้นาง
แกว้ กิริยาลูกสาวพระยาสุโขทัยทน่ี ำมาเป็นตัวจำนำไวใ้ นบา้ นขนุ ชา้ งเปน็ ภรรยาแลว้ พาวันทองหนีออกจากบ้าน

ขุนชา้ งต่ืนได้ออกติดตามแต่ตามไม่ทนั ได้ไปทูลฟ้องสมเดจ็ พระพันวษาให้กองทัพออกติดตามขุนแผน
ขนุ แผนไม่ยอมกลบั ได้ต่อสู้กบั กองทพั ทำใหข้ ุนเพชร ขนุ รามถงึ แก่ความตายกองทพั ต้องถอยกลบั กรุง ขุนแผนจงึ
กลายเปน็ กบฏต้องเท่ียวเร่รอ่ นอยู่ในป่า จนนางวันทองตง้ั ท้องแกใ่ กลค้ ลอด ขนุ แผนสงสารกลวั นางจะเปน็ อนั ตราย
จึงยอมเขา้ มอบตัวกบั พระพจิ ิตร พระพิจิตรได้ส่งตวั เข้าส้คู ดีในกรุง ขนุ แผนชนะคดีและได้นางวันทองคนื ขนุ แผนมี
ความคิดถึงลาวทอง ได้ขอให้จม่นื ศรชี ่วยขอให้ ขนุ แผนถกู กรว้ิ และถูกจำคุก แกว้ กิริยาจงึ ตามไปปรนนบิ ัติในคุก

วันหนงึ่ ขณะทีน่ างวนั ทองมาเยย่ี มขนุ แผน ขุนช้างได้มาฉุดนางวนั ทองไปจนนางวนั ทองคลอดลกู ใหช้ ือ่ ว่า
พลายงาม เม่ือขุนช้างรูว้ ่าไมใ่ ช่ลูกของตวั เองจึงหลอกพลายงามไปฆ่าในป่าแตผ่ ีพรายของขนุ แผนชว่ ยไว้ นางวันทอง
บอกความจริงและไดใ้ ห้พลายงามเดนิ ทางไปอยกู่ ับย่าทองประศรที ่ีกาญจนบรุ ีพลายงามอยูก่ บั ย่าจนโต ได้บวชเป็น
เณรและเลา่ เรียนวิชาความรเู้ ก่งกล้าท้ังเวทมนตร์ คาถา และการสงคราม เม่ือมีโอกาสขนุ แผนได้ใหห้ มืน่ ศรนี ำ
พลายงามเข้าถวายตัวเปน็ มหาดเลก็

เม่ือมีศึกเชียงใหม่ พลายงามได้อาสาออกรบและทูลขอประทานอภยั โทษให้พ่อเพ่ือไปรบ ขนุ แผนและนาง
ลาวทองจงึ พ้นโทษ ขณะท่ีเดินทางไปทำสงครามนน้ั ผ่านเมืองพจิ ิตรขนุ แผนจึงแวะเยีย่ มพระพิจิตร เมื่อพลายงามได้
พบนางศรีมาลาลูกสาวพระพิจติ รกห็ ลงรกั จงึ ได้ลอบเขา้ หานาง ขุนแผนจึงทำการหมน้ั หมายไว้ เม่อื ชนะศึก พระเจ้า
เชยี งใหมไ่ ด้ส่งสร้อยทองและสร้อยฟ้ามาถวาย พระพันวษาไดแ้ ต่งตั้งขนุ แผนเปน็ พระสรุ ินทรลือไชยมไหสูรย์ภักดไี ป
รัง้ เมอื งกาญจนบรุ ี และได้แต่งตง้ั พลายงามเปน็ “หม่นื ไวยวรนาถ” และประทานสร้อยฟ้าให้แก่พลายงาม จากนั้น
กท็ รงจดั งานแตง่ งานให้กับพลายงาม

ขณะที่ทำพธิ ีแตง่ งานขุนช้างไดว้ วิ าทกบั พลายงาม ขุนช้างไดท้ ลู ฟอ้ งจงึ โปรดใหม้ ีการชำระความโดนการดำ
น้ำพสิ จู น์ ขนุ ชา้ งแพค้ วาม พระพนั วษาโปรดให้ประหารชวี ติ แตพ่ ระไวยขอชีวติ ไว้ ต่อมาพระไวยมคี วามคดิ ถงึ แมจ่ ึง
ไปรบั นางวนั ทองมาอย่ดู ้วยขุนช้างติดตามไปแต่พระไวยไม่ยอมให้ขุนชา้ งจงึ ถวายฎกี า พระพันวษาจึงตรสั ให้นางวนั
ทองเลือกว่าจะอยู่กบั ใครนางมีความลังเลเลือกไม่ไดว้ ่าจะอยู่กบั ใครพระพันวษาทรงโกรธจงึ รบั สั่งใหป้ ระหารชีวิต
แม้พระไวยจะขออภยั โทษได้แลว้ แตด่ ้วยเคราะหข์ องนางวันทอง ทำใหเ้ พชฌฆาตเข้าใจผิดจงึ ประหารนางเสยี ก่อน



เม่อื จดั งานศพนางวนั ทองแลว้ ขุนแผนได้เล่ือนเป็นพระกาญจนบรุ ีนางสร้อยฟา้ ไดใ้ หเ้ ถรขวาดทำเสนห่ ์ให้
พระไวยหลงใหลนางและเกลียดชงั นางศรีมาลา พระกาญจนบรุ มี าเตอื น พระไวยโกรธลำเลิกบุญคณุ กบั พอ่ ทำให้
พระกาญจนบรุ ีโกรธคบคิดกบั พลายชุมพลลกู ชายซึ่งเกดิ จากนางแกว้ กิริยาปลอมเปน็ มอญยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา
หวังจะให้พระไวยออกตอ่ สู้จะไดแ้ ก้แค้นได้สำเรจ็ พระไวยรู้ตวั เพราะผีเปรตนางวันทองมาบอกพระพันวษาทรง
ทราบเรอ่ื งโปรดให้มีการไตส่ วนพลายชุมพลพิสูจนไ์ ด้ว่านางสร้อยฟ้ากบั เถรขวาดไดท้ ำเสน่ห์จริงแต่นางสร้อยฟ้าไม่
รบั จงึ มีการพสิ ูจนโ์ ดยการลยุ ไฟสร้อยฟา้ แพ้พระพนั วษาส่ังให้ประหาร แต่นางศรีมาลาทูลขอไวน้ างสร้อยฟา้ จึงถูก
เนรเทศกลับไปเชยี งใหม่และคลอดลกู ชื่อ พลายยง

ต่อมานางศรีมาลาก็คลอดลูกชาย ขุนแผนจึงตั้งชื่อให้ว่า พลายเพชร เถรขวาดมีความแค้นพลายชุมพล
จึงปลอมเป็นจระเข้ไล่กัดกินคนมาจากทางเหนือหวังจะแก้แค้นพลายชุมพล พระพันวษาโปรดให้พลายชุมพลไป
ปราบ จระเข้เถรขวาดสู้ไม่ได้ถูกจับตัวมาถวายพระพันวษาและถูกประหารในที่สุด พลายชุมพลได้รับแต่งตั้งเป็น
หลวงนาฤทธิ์ เหตกุ ารณร์ า้ ยแรงผ่านไปทุกคนก็อยูก่ นั อยา่ งมีความสุข



เนื้อเร่อื งย่อขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา

ฝา่ ยพลายงามเมื่อชนะความขุนชา้ งแล้วก็อยูม่ าด้วยความสขุ แตม่ าคดิ วา่ ยังขาดแตม่ ารดาเหน็ วา่ ไม่ควรคู่กับ
ขนุ ชา้ งแล้วคิดว่าจะรบั แม่กลับมาอยู่กับขนุ แผน พอตกค่ำจึงออกเดินทางไปบ้านขุนช้างสะกดผู้คน ภตู พรายและแก้
อาถรรพณ์แล้วสะเดาะกลอนเข้าไปถึงชัน้ สามหอ้ งนอนถอนสะกดนางวนั ทองแลว้ เจรจากัน พระไวยแจ้งวา่ จะมารับ
นางวนั ทองกลับไปบา้ น นางวันทองแนะนำใหน้ ำเร่ืองข้ึนกราบทลู พระพันวษา

พลายงามไม่เห็นดว้ ยและจะพาไปให้ได้นางวนั ทองจนใจจึงยอมไปกบั พระไวย ขนุ ชา้ งตนื่ ขึน้ ไมพ่ บนางวนั
ทองให้บ่าวไพร่คน้ หาไม่พบฝา่ ยพลายงามไดค้ ดิ วา่ ถา้ ขนุ ช้างรู้ว่าลักนางวนั ทองมาก็คงจะนำความขน้ึ กราบทลู สมเดจ็
พระพันวษามารดาก็จะต้องโทษคิดแลว้ จงึ ให้หมื่นวิเศษผลไปหาขุนชา้ งทีบ่ ้านชว่ ยไกลเ่ กลย่ี เร่ืองราว อยา่ ใหข้ ุนชา้ ง
โกรธด้วยเป็นคนที่เคยชอบพอกัน โดยให้บอกขนุ ชา้ งวา่ ตนจับไข้อยูห่ ลายวันเกรงว่าแม่ไม่ทันจะเห็นหนา้ จึงให้คนไป
พาแม่มา พอใหต้ นหายไข้แล้วจะส่งมารดาคืนกลับไปหมืน่ วิเศษรับคำแลว้ กร็ บี ไปบา้ นขุนช้าง แจง้ เรื่องตามท่ีพระ
ไวยส่ังมาทกุ ประการขุนชา้ งได้ฟงั ก็ทงั้ โกรธและแค้น เม่ือข่มความโกรธแลว้ กต็ อบไปวา่ ไมเ่ ปน็ ไรเรื่องการเจ็บไข้ ถ้า
ขัดสนสิ่งไรก็ขอให้มาเอาทต่ี นได้วา่ แลว้ กป็ ิดหนา้ ต่างใส่ด้วยความเดือดดาลและแค้นใจ



เสภาเร่อื งขุนชา้ งขุนแผน ตอน ขนุ ช้างถวายฎกี า

จะกล่าวถึงโฉมเจ้าพลายงาม เม่อื เปน็ ความชนะขุนชา้ งนั่น
กลบั มาอยบู่ ้านสำราญครัน เกษมสนั ต์สองสมภริ มยย์ วน
พรอ้ มญาตขิ าดอยู่แตม่ ารดา นึกนกึ ตรึกตราละห้อยหวน
โอว้ ่าแม่วันทองชา่ งหมองนวล ไมส่ มควรเคียงคู่กบั ขุนช้าง
เออนีเ่ นื้อเคราะห์กรรมมานำผดิ น่าอายมติ รหมองใจไมห่ ายหมาง
ฝ่ายพอ่ มีบุญเปน็ ขนุ นาง แต่แม่ไปแนบข้างคนจัญไร
รปู รา่ งวิปรติ ผิดกว่าคน ทรพลอปั รีย์ไม่ดีได้
ทง้ั ใจคอช่ัวโฉดโหดไร้ ชา่ งไปหลงรักใครได้เป็นดี
วนั นนั้ แพก้ ูเมื่อดำนำ้ ก็กริ้วซ้ำจะฆา่ ใหเ้ ป็นผี
แสนแคน้ ด้วยมารดายงั ปรานี ให้ไปขอซีวขี ุนชา้ งไว้
แค้นแม่จำจะแก้ใหห้ ายแค้น ไม่ทดแทนอ้ายขนุ ช้างบ้างไม่ได้
หมายจิตคดิ จะใหม้ ันบรรลัย ไมส่ มใจจำเพาะเคราะห์มันดี
อยา่ เลยจะรบั แมก่ ลบั มา ให้อยดู่ ว้ ยบดิ าเกษมศรี
พรากให้พันคนอุบาทว์ชาตอิ ปั รยี ์ ยง่ิ คิดก็ย่ิงมีความโกรธา
อัดอึดฮึดฮดั ดว้ ยขัดใจ เม่อื ไรตะวันจะลับหลา้
เข้าหอ้ งหวนละห้อยคอยเวลา จนสุรยิ าเลย้ี วลับเมรไุ กร
เงียบสัตว์จัตบุ ททวิบาท ดาวดาษเดือนสว่างกระจ่างไข
น้ำคา้ งตกกระเซ็นเยน็ เยือกใจ สงัดเสยี งคนใครไม่พูดจา
ไดย้ นิ เสยี งฆ้องยำ่ ประจำวงั ลอยลมลอ่ งดงั ถงึ เคหา
คะเนนับยำ่ ยามได้สามครา ดูเวลาปลอดหว่ งทกั ทนิ
ฟ้าขาวดาวเดน่ ดวงสว่าง จันทรก์ ระจ่างทรงกลดหมดเมฆส้นิ
จึงเช่นเหลา้ ข้าวปลาให้พรายกิน เลกขมิ้นว่านยาเขา้ ทาตัว
ลงยันตร์ าชะเอาปะอก หยิบยกมงคลขึน้ ใส่หัว
เปา๋ มนตร์เบื้องบนชอุ่มมวั พรายยวั่ ยวนใจให้ไคลคลา
จบั ดาบเคยปราบณรงคร์ บ เสร็จครบบรกิ รรมพระคาถา
ลงจากเรอื นไปมิไดช้ า้ รบี มาถึงบา้ นขุนชา้ งพลัน

๑๐

เหน็ คนนอนล้อมอ้อมเป็นวง ประตูลัน่ มนั่ คงขอบรั้วกัน
กองไฟสว่างดังกลางวนั หมายสำคญั ตรงมาหนา้ ประดู
จงึ รา่ ยมนตรามหาละกด เส่ือมหมดอาถรรพณ์ท่ฝี งั อยู่
ภูดพรายนายขุนข้างวางวงิ่ พรู คนผู้ในบ้านก็ซานเซอะ
ทั้งชายหญิงงว่ งงมล้มหลับ นอนทบั คว่ำหงายก่ายกันเปรอะ
จี่ปลาคาไฟมันไหลเลอะ โงกเงอะงยุ งมไม่สมประดี
ใชพ้ รายถอดกลอนถอนล่มิ รอยท่มิ ถอดหลุดไปจากที่
ย่างเทา้ ก้าวไปในทันที มไิ ดม้ ีใครทักแตส่ ักคน
มีแตห่ ลบั เพ้อมะเมอฝนั ทง้ั ไฟกองป้องกันทุกแห่งหน
ผู้คนเงยี บสำเนียงเสยี งแต่กรน มาจนถงึ เรือนเจ้าขุนชา้ ง
จุดเทียนสะกดขา้ วสารปราย ภตู พรายโดดเรือนสะเทือนผาง
ละเดาะดาลบานเปดิ หนา้ ดา่ งกาง ยา่ งเท้าก้าวข้นึ ร้านดอกไม้
หอมหวนอวลอบบปุ ผชาติ เบิกบานกา้ นกลาดก่ิงไสว
เรณูฟูร่อนขจรใจ ยา่ งเทา้ ก้าวไปไม่โครมคราม
ข้าไทนอนหลับลงทบั กัน สะเดาะกลอนถอนล่ันถึงช้ันสาม
กระจกฉากหลากสลบั วับแวมวาม อรา่ มแสงโคมแก้วแววจับตา
มา่ นมลู่ ่มี ฉี ากประจำกัน้ อฒั จนั ทร์เคร่ืองแก้วก็หนักหนา
ชมพลางย่างเย้ืองชำเลืองมา เปิดมุง้ เหน็ หนา้ แมว่ ันทอง
น่ิงนอนอยู่บนเตยี งเคียงขนุ ชา้ ง มนั แนบขา้ งกอดกลมประสมสอง
เจบ็ ใจดังหวั ใจจะพังพอง ขยบั จ้องดาบงา่ อยากฆ่าฟัน
จะใคร่ถีบขนุ ชา้ งท่ีกลางตัว นกึ กลัวจะถูกแม่วันทองน่ัน
พลางน่งั ลงนอบนบอภิวันทน์ สะอ้นื อ้นั อกแคน้ น้ำตาคลอ
โอ้แม่เจ้าประคณุ ของลกู เอย๋ ไม่ควรเลยจะพรากจากคุณพ่อ
เวรกรรมนำไปไมร่ งั้ รอ มพิ อที่จะตอ้ งพรากกจ็ ากมา
มันไปฉดุ มารดาเอามาไว้ อ้ายหวั ใสข่มเหงไมเ่ กรงหนา้
ทท่ี ำแคน้ กจู ะแทนให้ทันตา ขอษมาแม่แล้วกข็ บั พราย
เปา่ ลงดว้ ยพระเวทวทิ ยา มารดาก็ฟนื้ ต่ืนโดยง่าย
ดาบใสฝ่ กั ไว้ไม่เคลื่อนคลาย วนั ทองรสู้ กึ กลายก็ลมื ตา

๑๑

ครานัน้ จึงโฉมเจา้ วนั ทอง ตอ้ งมนตร์มวั หมองเป็นหนักหนา
ต่นื พลางทางชำเลอื งนัยนต์ ามา เห็นลูกยานน้ั ยนื อย่รู มิ เตยี ง
สำคัญคิดวา่ ผู้ร้ายใหน้ ึกกลัว ทอดผัวร้องด้ินจนสน้ิ เสียง
ชวนซบหลบลงมาหมอบเมยี ง พระหมนื่ ไวยเข้าเคียงหา้ มมารดา
อะไรแม่แช่ร้องท้ังห้องนอน ลกู รอ้ นรำคาญใจจึงมาหา
จะร้องไยใช่โจรผูร้ า้ ยมา สนทนาด้วยลกู อยา่ ตกใจ
คร้ันรวู้ า่ ลกู ยาหากลัวไม่
คราน้นั วันทองผ่องโสภา พระหมี่นไวยเข้ากอดเอาบาทา
ลุกออกมาพลนั ด้วยทนั ใด ชบพักตรร์ อ้ งไห้ไม่เงยหนา้
วันทองประดองสอดกอดลกู รัก เขารักษาอย่ทู ุกแห่งตำแหน่งใน
เจ้ามาไยป่านน้นี ล่ี ูกอา พอ่ ชา่ งลอบเข้ามากระไรได้
ใสด่ าลบา้ นช่องกองไฟรอบ นพี่ อ่ ใช้ฤๅว่าเจา้ มาเอง
อาจองทะนงตัวไม่กลัวภัย เขาจะรุกรานพาลข่มเหง
ขุนช้างตน่ื ขึ้นมิเปน็ การ ฉวยสบเพลงพลาดพล้ำมิเปน็ การ
จะเกดิ ผดิ แมค่ ิดคะนึงเกรง พ่อจงเลา่ แกแ่ มแ่ ลว้ กลบั บ้าน
มธี ุระสง่ิ ไรในใจเจา้ อยา่ หาญเหมือนพอ่ นักคะนองใจ
มิควรทำเจ้าอยา่ ทำใหร้ ำคาญ ลกู มาผดิ จรงิ หาเถยี งไม่
ก็หักใจเพราะรักแมว่ ันทอง
จม่นื ไวยสารภาพกราบบาทา พรอ้ มหมดเมียมงิ่ ก็มสี อง
รักตวั กลัวผดิ แตค่ ิดไป พีน่ ้องข้างพอ่ ก็บรบิ ูรณ์
ทุกวนั น้ีลกู ชายสบายยศ เปน็ อยู่ก็เหมอื นตายไปหายสูญ
มีบ่าวไพร่ใช้สอยทั้งเงินทอง ถ้าพร้อมมูลแมด่ ว้ ยจะสำราญ
ยังขาดแต่แมค่ ุณไมแ่ ลเห็น เชิญแมว่ นั ทองกลับคืนไปบ้าน
ข้อนี้ท่ีทกุ ข์ยังเพิ่มพูน ประการใดกต็ ามแตเ่ วรา
ลูกมาหมายว่าจะมารับ แสนอุบาทว์ใจจติ ริษยา
แมน้ จะบงั เกิดเหตุเภทพาล หน้าตาดำเหมือนมนิ หม้อมอม
มาอยู่ไยกบั อ้ายหินชาติ มาเกลอื กกลัว้ ปทุมมาลย์ท่ีหวานหอม
ดงั ทองคำทำเลีย่ มปากกะลา วา่ นักแมจ่ ะตรอมระกำใจ
เหมอื นแมลงวนั วอ่ นเคล้าท่ีเน่าชัว่
ดอกมะเดื่อฤๅจะเจือดอกพะยอม

๑๒

แมเ่ ลี้ยงลูกมาถงึ เจด็ ขวบ เคราะห์ประจวบจากแมห่ าเห็นไม่
จะคิดถึงลกู บา้ งฤๅอยา่ งไร ฤๅหาไมใ่ จแม่ไม่คิดเลย
ถ้าคิดเหน็ เอ็นดูว่าลูกเตา้ แม่ทูนเกลา้ ไปเรือนอยา่ เชือนเฉย
ใหล้ ูกคลายอารมณ์ไดช้ มเชย เหมือนเมื่อครัง้ แม่เคยเลีย้ งลกู มา
เศร้าหมองด้วยลูกเปน็ หนกั หนา
คราน้ันจึงโฉมเจ้าวันทอง แมโ่ ศกาเกือบเจยี นจะบรรลัย
พ่อพลายงามทรามสวาติของแมอ่ า มใิ ชข่ องตวั ทำมาแตไ่ หน
ใชจ่ ะอิ่มเอบิ อาบดว้ ยเงนิ ทอง ไม่รกั ใครเ่ หมือนกบั พ่อพลายงาม
ท้งั ผ้คู นข้างม้าแลข้าไท มแี ตท่ ุกขใ์ จเจบ็ ดังเหน็บหนาม
ทกุ วันน้ใี ชแ่ ม่จะผาสุก จะขนื ความคดิ ไปกใ็ ชท่ ี
ต้องจำจนทนกรรมทต่ี ิดตาม เขาฉุดแม่ใชจ่ ะแกลงั แหนงหนี
เม่ือพอ่ เจา้ เขา้ คุกแม่ทอ้ งแก่ เปน็ หลายปแี ม่มาอยูก่ บั ขุนช้าง
ถงึ พ่อเจา้ เล่าไม่ร้วู า่ รา้ ยดี ไม่เพด็ ทลู ส่ิงไรแตส่ กั อยา่ ง
เมื่อพ่อเจา้ กลับมาแต่เชยี งใหม่ ท่านกว็ างบทคืนให้บดิ า
เมื่อคราวตัวแมเ่ ป็นคนกลาง มิใช่เด็กดอกจงฟงั คำแมว่ ่า
เจา้ เปน็ ถึงหัวหมื่นมหาดเล็ก ฟอ้ งหากราบทูลพระทรงธรรม์
จงเร่งกลับไปคดิ กับบิดา จะปรากฎยศไกรเฉิดฉัน
พระองค์คงจะโปรดประทานให้ เชน่ น้นั ใจแม่มิเต็มใจ
อนั จะมาลักพาไม่วา่ กนั ฟังความเห็นวา่ แม่หาไปไม่
เพราะรักอ้ายขุนชา้ งกวา่ บดิ า
ครานน้ั จงึ โฉมเจา้ พลายงาม แมย่ ังกลบั ทัดทานเป็นหนักหนา
คิดบ่ายเบยี่ งเลี่ยงเล้ียวเบยี้ วบิดไป อตุ สา่ ห์มารบั แล้วยังมิไป
จงึ วา่ อนิจจาลกู มารบั จะพาแมไ่ ปเรอื นให้จงได้
เหมือนไมม่ รี ักใคร่ในลูกยา จะบาปกรรมอยา่ งไรก็ตามที
เสียแรงเป็นลูกผชู้ ายไม่อายเพื่อน ท้งิ แต่ตัวไว้ให้อยูน่ ่ี
แม้นมิไปใหง้ ามก็ตามใจ จวนแจ้งแสงศรีจะรีบไป
จะตดั เอาศรี ษะของแมไ่ ป
แมอ่ ย่าเจรจาใหช้ ้าที

๑๓

ครานนั้ วันทองผ่องโสภา เหน็ ลูกยากัดฟันมนั ไส้
ถือดาบฟา้ ฟื้นยืนแกวง่ ไกว ตกใจกลัววา่ จะฆ่าฟัน
จงึ ปลอบว่าพลายงามพ่อทรามรกั อย่าฮึกฮักว่าวุ่นทำหนุ หนั
จงครวญใครใ่ หเ้ ห็นขอ้ สำคญั แมน่ ีพ้ ร่ันกลวั แตจ่ ะเกดิ ความ
ด้วยเปน็ ขา้ ลักไปไทลักมา เห็นเบื้องหนา้ จะองึ แม่จงึ ห้าม
ถา้ เจา้ เห็นเปน็ สขุ ไม่ลกุ ลาม กต็ ามเถิดมารดาจะคลาไคล
วา่ พลางนางลกุ ออกจากห้อง เศรา้ หมองโศกาน้ำตาไหล
พระหมน่ื ไวยก็พามารดาไป พอรุง่ แจง้ แสงใสก็ถึงเรือน
นอนครางหลบั กรนอยปู่ ันเปื้อน
จะกล่าวถึงเจ้าจอมหมอ่ มขุนช้าง วา่ ขเี้ รอ้ื นขึน้ ตวั ทว่ั ทั้งนั้น
อัศจรรยฝ์ นั แปรแชเชือน มนั กนิ ปอดตับไตออกไหลลั่น
หาหมอมารักษายาเข้าปรอท ฟันฟางก็หกั จากปากตัว
ทงั้ ไส้น้อยไส้ใหญ่แลไส้ตัน รอ้ งว่าแม่คุณแมช่ ่วยผัว
ตกใจตืน่ ผวาคว้าวันทอง ให้นึกกลัวปรอทจะตอดตาย
ลุกขึน้ งกงนั ตวั สั่นรวั ไม่เห็นน้องหอ้ งสวา่ งตะวันสาย
ลืมตาเหลยี วหาเจา้ วันทอง เหน็ มา่ นขาดเร่ยี รายประหลาดใจ
ผ้าผอ่ นล่อนแกน่ ไม่ตดิ กาย หาขานรับเช่นเคยสกั คำไม่
ตะโกนเรยี กในหอ้ งวันทองเอ๋ย ปากประตเู ปิดไวไ้ ม่ใส่กลอน
ทง้ั ข้าวของมากมายก็หายไป อีอุ่นอีอ่ิมอีฉิมอสี อน
พลางเรียกหาขา้ ไทอยวู่ า้ วนุ่ นิ่งนอนไยหวามาหากู
อีมีอมี าอีสาคร เห็นนายน้ันแก้ผ้ากางขาอยู่
บา่ วผหู้ ญงิ ว่งิ ไปอยู่งกงัน ตกตะลงึ แลดไู ม่เขา้ มา
ต่างคนทรดุ นง่ั บังประตู ขดั ใจลุกข้ึนทั้งแก้ผา้
ขนุ ช้างเห็นขา้ ไม่มาใกล้ ย่างเท้าก้าวมาไม่รู้ตัว
แหงนเถอ่ เป้อปงั ยืนจังกา นน่ั พ่อจะไปไหนพ่อทนู หวั
ยายจนั งนั งกยกมอื ไหว้ ขุนชา้ งมองดตู ัวกต็ กใจ
ไม่นุ่งผ่อนนุ่งผ้าดนู า่ กลวั

๑๔

สองมือปิดขาเหมอื นทา่ เปรต ใครมาเทศน์เอาผา้ กูไปไหน
ให้นกึ อดสูหมู่ข้าไท ยายจนั ไปเอาผ้าให้ขา้ ที
ยายจันตกใจเตม็ ประดา เขา้ ไปฉวยผ้าเอามาคลี
หยิบย่ืนสง่ ไปให้ทันที เมินหนีอดสไู่ มด่ ูนาย
ขนุ ขา้ งตัวส่นั เทาบอกบา่ วไพร่ เจา้ วันทองไปไหนอย่างไรหาย
เอ็งไปดูใหร้ ซู้ ่งึ แยบคาย พบแล้วอยา่ วนุ่ วายให้เชญิ มา
ตา่ งเท่ียวตน้ ดันไปจะเอาหน้า
ข้าไทได้ฟังขนุ ชา้ งใช้ ท่วั เคหาแล้วไปคน้ จนแผน่ ดนิ
ท้ังห้องนอกห้องในไม่พบพา ผู้คนนอนสล้างไมต่ ่ืนลิน้
เหน็ ประตูรว้ั บา้ นบานเปิดกวา้ ง กนิ ใจกลบั มาหาขนุ ช้าง
เสาแรกแตกต้นเป็นมลทิน แลว้ เล่าแจง้ เหตุไปสิ้นทุกอยา่ ง
บอกวา่ ได้ค้นควา้ หาพบไม่ ท่ีนวลนางวนั ทองนั้นหายไป
ข้าเหน็ วิปรติ ผดิ ท่าทาง เหงื่อออกโซมลา้ นกระบาลใส
ชา่ งทำได้ตา่ งต่างทุกอยา่ งจริง
ครานนั้ ขนุ ข้างฟงั บา่ วบอก พลง้ั ทีลงไม่รอดนางยอดหญิง
คิดคดิ ให้แคน้ แสนเจ็บใจ นคี่ ราวนหี้ นีวิ่งไปตามใคร
สองหนสามหนกน่ แต่หนี ยังสาระแนหลบล้ีหนีไปไหน
คราวนนั้ อ้ายขนุ แผนมนั แง้นชิง ไมเ่ อากลับมาไดม้ ิใช่กู
ไม่คดิ วา่ จะเป็นเห็นวา่ แก่ เกรงเนื้อความนงั่ นึกตรกึ ตรองอยู่
เอาเถิดเป็นไรก็เปน็ ไป ถา้ มนั รู้วา่ ลักเอาแม่มา
ไปกราบทลู สมเด็จพระพนั วษา
จะกลา่ วถงึ โฉมเจ้าพลายงาม มารดาก็จะต้องซงึ่ โทษภัย
อ้ายขนุ ช้างสารพดั เปน็ ศตั รู เอ็งเป็นคนเคยชอบอชั ฌาสัย
มันกจ็ ะสอดแนมแกมเท็จ ไกลเ่ กล่ียเสยี อยา่ ใหม้ นั โกรธา
ดูจะระแวงผิดในกิจจา เกรงแม่จะไม่ทันมาเห็นหนา้
คิดแล้วเรยี กหม่ืนวเิ ศษผล เราใชค้ นไปหาแม่วันทอง
จงไปบา้ นขุนชา้ งดว้ ยทนั ใด
บอกว่าเราจับไข้มาหลายวนั
เม่อื คืนน้ีซำ้ มีอนั เปน็ มา

๑๕

พอขณะมารดามาสง่ ทุกข์ รอ้ งปลุกเขา้ ไปถึงในห้อง
จงึ รบี มาเรว็ ไวดงั ใจปอง รักษาจนแสงทองสว่างฟ้า
ไม่ตายคลายคนื ฟนื้ ข้นึ ได้ กูขอแม่ไว้พอเห็นหน้า
แตพ่ อใหเ้ คล่ือนคลายหลายเวลา จงึ จะสง่ มารดานน้ั คนื ไป
รีบมาบา้ นขุนชา้ งหาขา้ ไม่
หมื่นวเิ ศษรับคำแล้วอำลา เห็นผูค้ นขวกั ไขวท่ ้งั เรือนชาน
ครั้นถึงแอบดูอยแู่ ต่ไกล ดหู นา้ เฝอื นทีโ่ กรธอยู่งนุ่ ง่าน
ขุนช้างนง่ั เยีย่ มหน้าต่างเรือน คดิ แล้วลงคลานเขา้ ประตู
จะดือ้ เดินเข้าไปไม่เป็นการ นัง่ คาหนา้ ตา่ งเยีย่ มหน้าอยู่
นม่ี าล้อหลอกกูหรืออย่างไร
ครานั้นเจ้าจอมหมอ่ มขุนช้าง เด็กหวาจบั ถองให้จงได้
เห็นคนคลานเขา้ มาเหลอื บตาดู ทุดอา้ ยไพร่ขค้ี รอกหลอกผดู้ ี
อะไรพอสวา่ งวางเข้ามา ยกมือข้ึนไหวไ้ ม่วงิ่ หนี
ลุกข้ึนถกเขมรร้องเกนไป คนดดี อกข้าไหว้ใชค่ นพาล
เปน็ ขนุ หม่ืนรบั ใชอ้ ยู่ในบ้าน
ครานั้นวเิ ศษผลคนว่องไว ขอประทานคืนน้ีพระหมืน่ ไวย
ร้องตอบไปพลันในทนั ที แกไ้ ขกเ็ หน็ หาหายไม่
ขา้ พเจ้าเป็นบ่าวพระหมน่ื ไวย จงึ ใชใ้ ห้ตวั ขา้ มาแจ้งการ
ท่านใช้ให้กระผมมากราบกราน ข้าพเจา้ ร้องปลุกไปในบ้าน
เจบ็ จกุ ประจบุ ันมีอันเป็น ทา่ นจึงรีบไปในกลางคนื
รอ้ งโอดโดดดนิ้ เพยี งสนิ้ ใจ คณุ อย่าสงสัยว่าไปอื่น
พอพบทา่ นมารดามาส่งทุกข์ พอหายเจบ็ แลว้ จะคืนไม่นอนใจ
จะกลบั ขึน้ เคหาเหน็ ช้านาน แค้นดงั เลือดตาจะหลง่ั ไหล
พยาบาลคุณพระนายพอคลายไข้ เรากไ็ มว่ ่าไรสุดแตด่ ี
ให้คำมนั่ สั่งมาวา่ ยั่งยืน ประจบุ นั อันเป็นทัง้ กรุงศรี
ก็มาเอาทีน่ ่ีอยา่ เกรงใจ
คราน้นั ขนุ ช้างได้ฟงั วา่
ดบั โมโหโกรธาทำว่าไป
การไข้เจบ็ ลม้ ตายไมว่ ายเว้น
ถา้ ขดั สนสงิ่ ไรทไ่ี มม่ ี

๑๖

ว่าแล้วปดิ บานหน้าตา่ งผาง ขนุ ชา้ งเดือดดาลทะยานไส้
ทอดตัวลงกับหมอนถอนฤทยั ดดู ู๋เปน็ ไดเ้ จียววันทอง
เพราะกูแพค้ วามจมืน่ ไวย มนั จงึ เหิมใจทำจองหอง
พ่อลกู แม่ลูกถกู ท่านอง ถึงสองครงั้ แล้วเปน็ แตเ่ ช่นน้ี
อ้ายพ่อไปเชยี งใหมม่ ชี ัยมา ตง้ั ตัวดังพญาราชสหี ์
อ้ายลกู เป็นหม่นื ไวยทำไมมี เหน็ กนู ค้ี นผิดตดิ โทษทัณฑ์
มันจึงขม่ เหงไมเ่ กรงใจ จะพง่ึ พาใครได้ทไี่ หนนัน่
ขนุ นางนอ้ ยใหญเ่ กรงใจกัน ถึงฟ้องมนั ก็จะปิดใหม้ ดิ ไป
ตามบญุ ตามกรรมไดท้ ำมา จะเฆ่ียนฆ่าหาคิดชีวิตไม่
ยิง่ คิดเดือดดาลทะยานใจ ฉวยได้กระดานชนวนมา
รา่ งฟ้องท่องเทยี บให้เรียบร้อย ถ้อยคำถี่ถว้ นเปน็ หนักหนา
ลงกระดาษพับไวม้ ไิ ดช้ า้ อาบน้ำผลัดผ้าแล้วคลาไคล
วันน้นั พอพระป่นิ นรนิ ทรร์ าช เสด็จประพาสบวั ยงั หากลบั ไม่
ขุนขา้ งมาถงึ ซ่ึงวงั ใน ก็คอยจ้องที่ใตต้ ำหนักนำ้
เสด็จคนื นิเวศนพ์ อจวนคำ่
จะกล่าวถงึ พระองค์ผ้ทู รงเดช เรือประจำแหนแหเ่ ซง็ แซม่ า
ฝีพายรายเลม่ มาเตม็ ลำ ขุนช้างก็รลี่ งตนี ทา่
พอเรือพระท่ีนัง่ ประทับท่ี ผดุ โผล่โงหน้ายึดแคมเรอื
ลอยดอชหู นงั สอื ดือ้ เขา้ มา เพ่อื นโขกลงด้วยกะลาวา่ ผีเสื้อ
เข้าตรงบโทนอันต้นกญั ญา ร้องว่าเสือตวั ใหญ่วา่ ยน้ำมา
มหาดเล็กอยู่งานพัดพลัดตกเรือ มใิ ช่เสือกระหม่อมฉานลา้ นเกศา
ขุนช้างดงึ ดอื้ มือยึดเรอื แคน้ เหลือปัญญาจะทานทน
สตู้ ายขอถวายซ่ึงฎีกา ทรงพระโกรธาโกลาหล
บนบกบนฝง่ั ดงั ไมม่ ี
คราน้ันสมเด็จพระพนั วษา ฤๅอา้ ยชา้ งเปน็ บ้ากระมงั น่ี
ทดุ อา้ ยจัญไรมิใช่คน ตเี สียสามสบิ จงึ ปล่อยไป
ใชท่ ี่ใชท่ างวางเข้ามา
เฮ้ยใครรับฟ้องของมนั ที

๑๗

มหาดเล็กกร็ ับเอาฟอ้ งมา ตำรวจควา้ ขุนช้างหาวางไม่
ลงพระราชอาญาตามว่าไว้ พระจงึ ใหต้ ้ังกฤษฎีกา
วา่ ตงั้ แต่วันนส้ี ืบต่อไป หนา้ ทขี่ องผ้ใู ดให้รกั ษา
ถ้าประมาทราชการไมน่ ำพา ปลอ่ ยใหใ้ ครเข้ามาในลอ้ มวง
ระวางโทษเบ๊ดเสร็จเจ็ดสถาน ถงึ ประหารชีวิตเปน็ ผยุ ผง
ตามกฤษฎกี ารักษาพระองค์ แลว้ ลงจากพระทน่ี ่ังเข้าวงั ใน
เรืองฤทธ์ิลอื จบพิภพไหว
จะกลา่ วถงึ ขุนแผนแสนสนิท สมสนทิ พสิ มัยดว้ ยสองนาง
อยูบ่ ้านสุขเกษมเปรมใจ ปรนนบิ ัติวัตถาไมห่ ่างขา้ ง
ลาวทองกบั เจา้ แกว้ กริ ิยา คนื นั้นในกลางซ่ึงราตรี
เพลิดเพลนิ จำเรญิ ใจไม่เว้นวาง ขุนแผนกลับผวาตน่ื ฟืน้ จากท่ี
นางแก้วลาวทองทง้ั สองหลับ พระพายพัดมาลดี รลบไป
พระจันทรจรแจ่มกระจ่างดี นิจจาเจา้ เหนิ ห่างร้างพิสมัย
คิดคะนึงถงึ มติ รแต่กอ่ นเกา่ ดงั เดด็ ใจจากร่างกร็ าวกนั
ถงึ สองคร้งั ตง้ั แต่พรากจากพไ่ี ป ละวางใหว้ ันทองน้องโศกศลั ย์
กกู ็ช่วั มัวรกั แตส่ องนาง จะเพด็ ทลู คราวนัน้ ก็คลอ่ งใจ
เมอื่ ดีไดเ้ ชียงใหม่กโ็ ปรดครนั อา้ ยขุนชา้ งไหนจะโตจ้ ะตอบได้
สารพัดท่จี ะว่าไดท้ ุกอย่าง บัดนี้เล่าเจ้าไวยไปรับมา
ไมค่ วรเลยเฉยมาไม่อาลัย เจา้ วันทองจะคอยละหอ้ ยหา
จำกูจะไปสสู่ วาทน้อง น้ำอบทาหอมฟ้งุ จรงุ ใจ
คิดพลางจัดแจงแต่งกายา ถงึ เรือนลูกยาหาช้าไม่
ออกจากห้องย่องเดินดำเนินมา เห็นนางหลบั ใหลนิ่งนทิ รา
เข้าหอ้ งวันทองในทนั ใด เตือนต้องด้วยความเสน่หา
ลดตวั ลงนง่ั ข้างวนั ทอง พี่มาหาแล้วอย่านอนเลย
ส่ันปลุกลกุ ขนึ้ เถิดน้องอา หมายใจวา่ ผัวกท็ ำเฉย
จะรักจรงิ ฤๅจะเปรยเป็นจำใจ
นางวันทองต่ืนอยรู่ สู้ ึกตัว หาวา่ ขานตอบโต้อย่างไรไม่
น่งิ ดอู ารมณท์ ี่ชมเชย ความอาลยั ป่นั ป่วนยวนวิญญา
แตน่ ่งิ ดกู ริ ยิ าเปน็ ชา้ นาน
ทั้งรักทง้ั แคน้ แน่นฤทัย

๑๘

โอ้เจ้าแกว้ แววตาของพ่ีเอ๋ย เจา้ หลบั ใหลกระไรเลยเปน็ หนกั หนา
ดังนิม่ น้องหมองใจไมน่ ำพา ฤๅขัดเคืองคิดว่าพี่ทอดทง้ิ
ความรักหนกั หนว่ งทรวงสวาท พไี่ ม่คลาดคลายรักแต่สักสงิ่
เผอิญเปน็ วิปริตพ่ผี ิดจรงิ จะนอนน่งิ ถอื โทษโกรธอยู่ไย
ว่าพลางเอนแอบลงแนบขา้ ง จูบพลางชวนชิดพสิ มัย
ลบู ไส้พไิ รปลอบใหช้ อบใจ เปน็ ไรจงึ ไม่ฟนื้ ต่ืนนิทรา
โอนอ่อนวอนไหว้พิไรว่า
เจ้าวันทองน้องตน่ื จากทนี่ อน ใช่ตวั ขา้ นีจ้ ะงอนค่อนพิไร
หม่อมน้อยใจฤๅท่ีไม่เจรจา อนั ตัวน้องมลทนิ หาส้ินไม่
ชอบผิดพอ่ จงคดิ คะนงึ ตรอง พบไหนก็เป็นแตเ่ ช่นนนั้
ประหนงึ่ ว่าวันทองนส้ี องใจ คงคิดคนื ที่หม่อมเป็นแมน่ ม่นั
ทจี่ ริงใจถงึ ไปอย่เู รือนอนื่ คราวน้นั ก็ไปอยู่เพราะจำใจ
ดว้ ยรกั ลูกรักผวั ยังพัวพนั ยามมที ่ีเชยเฉยเสยี ได้
แคน้ คดิ ดว้ ยมิตรไม่รักเลย กินผลไมต้ า่ งข้าวทกุ เพรางาย
เสียแรงรว่ มทกุ ข์ยากกันกลางไพร ก็เพราะหากหม่อมมซี ่งึ ทหี่ มาย
พอไดด้ มี ีสุขลมื ทุกขย์ าก เอ็นดูนอ้ งอย่าใหอ้ ายเขาอกี เลย
วา่ นักก็เคร่ืองเคืองระดาย เหมือนลืมน้องหลงเลอื นทำเชือนเฉย
เงยหน้าเถิดจะเล่าอย่าเฝา้ แค้น
พีผ่ ิดจรงิ แล้วเจา้ วนั ทอง ต้องกลืนกลำ้ โศกเศรา้ นัน้ เหลอื แสน
ใชจ่ ะเพลิดเพลินช่นื เพราะอ่นื เชย มันดูแคลนวา่ พี่นี้ยากยบั
เมอ่ื ติดคุกทุกข์ถงึ เจา้ ทุกเข้าค่ำ คดิ จะหนีไปตามเอาเจ้ากลับ
ซ้ำขุนชา้ งคิดคดทำทดแทน แตข่ ยับอยูจ่ นได้ไปเชยี งอนิ ทร์
อาลยั เจา้ เท่ากับดวงชีวิตพ่ี พอเจ้าไวยเปน็ ความก็คา้ งสิ้น
เกรงจะพากันผดิ เขา้ ตดิ ทับ ไมเ่ ดือดดิ้นเท่าพ่ีกับวนั ทอง
กลับมาหมายวา่ จะไปตาม เหน็ ช้ากว่าจะได้มารว่ มหอ้ ง
หัวอกใครไดแ้ ค้นในแผ่นดนิ จงึ ใหล้ กู รบั นอ้ งมาร่วมเรอื น
คดิ อยูว่ า่ จะทลู พระพนั วษา
จะเป็นความอีกกต็ ามแตท่ ำนอง

๑๙

จะเปน็ ตายง่ายยากไมจ่ ากรัก จะฟูมฟักเหมือนเมื่ออยู่ในกลางเถ่ือน
ขอโทษทพี่ ีผ่ ิดอยา่ บดิ เบือน เจ้าเพอ่ื นเสนหาจงอาลัย
พ่ีผดิ พ่ีก็มาลแุ ก่โทษ จะคมุ โกรธคุมแค้นไปถึงไหน
ความรักพย่ี งั รกั ระงมใจ อย่าตดั ไมตรีตรงึ ให้ตรอมตาย
ว่าพลางทางแอบเขา้ แนบอก ประคองยกของสำคญั ม่นั หมาย
เจ้าเน้ือทิพย์หยบิ ช่ืนอารมณ์ชาย ขอสบายสกั หน่อยอย่าโกรธา
ไม่ตดั ใจใหต้ รอมเสนหา
ใจน้องมิใหห้ มองอารมณห์ ม่อม หมอ่ มอยา่ ว่าเลยว่าฉนั ไม่คืนคิด
ถ้าตดั รกั หักใจแล้วไม่มา นอ้ งนี้กลัวบาปทับเมอ่ื ดับจติ
ถึงตัวไปใจยังนับอยวู่ า่ ผวั ถ้ามิปลดิ เสียใหเ้ ปลื้องไม่ตามใจ
หญงิ เดยี วชายครองเป็นสองมิตร หน้าดำเหมือนหน่ึงทามินหม้อไหม้
คราวนนั้ เมือ่ ตามไปกลางปา่ เขาฉดุ ไปเหมือนลงทะเลลกึ
ชนะความงามหน้าดงั เทยี นชยั ทนี ห้ี นา้ จะดำเปน็ น้ำหมกึ
เจ้าพลายงามตามรับเอากลบั มา จะพาแมต่ กลึกใหจ้ ำตาย
กำเรบิ ใจดว้ ยเจา้ ไวยกำลังฮึก เอาความผดิ คดิ หกั ให้เหอื ดหาย
มใิ ชห่ นมุ่ ดอกอย่ากลุม้ กำเริบรัก ฉันกลับกลายแล้วหม่อมจงฟาดฟนั
ถา้ รักน้องปอ้ งปดิ ให้มิคอาย นอ้ งจะแตง่ บายศรีไวเ้ ชิญขวญั
ไปเพ็ดทลู เสยี ใหท้ ูลกระหม่อมแจง้ ไม่เช่นนนั้ ฉนั ไม่เลยจะเคยตัว
ไม่พักวอนดอกจะนอนอย่ดู ้วยกัน
ใบไม้แห้งแกร่งเกรียบระรุบร่อน
ฯลฯ พระจนั ทรแจ่มแจง้ กระจ่างดวง
ระฆังฆ้องขานแข่งในวงั หลวง
ครน้ั เวลาดกึ กำคดั สงดั เงียบ จติ ง่วงระงบั สภู่ วังค์
พระพายโชยเสาวรสขจายขจร เลือ่ นเป้อื นไม่รทู้ ่จี ะกลับหลงั
ดุเหว่าเรา้ เสียงสำเนียงก้อง ยังมีพยัคฆ์ร้ายมาราวี
วนั ทองน้องนอนสนทิ ทรวง
ฝนั วา่ พลัดไปในไพรเถ่ือน
ลดเล้ยี วเทย่ี วหลงในดงรัง

๒๐

ทั้งสองมองหมอบอยรู่ ิมทาง พอนางดน้ั ป้ามาถงึ ที่
โดดตะครบุ คาบคนั้ ในทนั ที แลว้ ฉดุ คร่าพารี่ไปในไพร
สน้ิ ฝนั ครนั้ ดีนตกประหม่า หวดี ผวากอดผวั สะอื้นไห้
เลา่ ความบอกผวั ด้วยกลัวภัย ประหลาดใจน้องฝนั พร่ันอรุ า
ใต้เตยี งเสยี งหนกู ็กกุ กก แมงมุมทมุ่ อกท่ีริมฝา
ยิ่งหวาดหวัน่ พรั่นตัวกลวั มรณา ดงั วิญญานางจะพรากไปจากกาย
ฟังความตามนิมดิ กใ็ จหาย
ครานั้นขนุ แผนแสนสนทิ ฝนั ร้ายลาหัสตัดตำรา
คร้งั นีน้ า่ จะมีอันตราย กบ็ ันดาลฤกษแ์ รงเป็นหนักหนา
พเิ คราะห์ดูทง้ั ยามอฐั กาล กอดเมยี เมนิ หน้านำ้ ตากระเด็น
มริ ้ทู ่ีจะแถลงแจง้ กิจจา ฝนั อย่างนีม้ ใิ ช่จะเกดิ เข็ญ
จงึ แกลังเพทบฺ ายทำนายไป เนื้อเย็นอยู่กับผัวอยา่ กลวั ทกุ ข์
เพราะวิตกหมกไหมจ้ งึ ไดเ้ ปน็ แล้วทำมง่ิ สง่ิ ขวัญให้เป็นสุข
พรุ่งน้ีพ่จี ะแก้เสนียดฝัน อยา่ เป็นทุกขเ์ ลยเจ้าจงเบาใจ
มิใหเ้ กิดราดีกลียุค สุริยาแยม้ เย่ยี มเหลย่ี มไศล
เนาในพระทน่ี ั่งบลั ลังก์รัตน์
คร้ันว่ารุ่งสางสวา่ งฟ้า หมอบประนมเฝา้ แหนแนน่ ขนดั
จะกล่าวถึงพระองคผ์ ู้ทรงชยั ทรงเคืองขัดขุนช้างแต่กลางคืน
พร้อมด้วยพระกำนัลนกั สนม ทกุ อย่างทจี่ ะช่วั อา้ ยหวั ล่ืน
ประจำตัง้ เครื่องอานอยงู่ านพัด นำ้ ยนื หยงั่ ไม่ถึงยังดึงมา
แสนถ่อยใครจะถ่อยเหมอื นมันบ้าง นี่มนั ฟ้องใครอกี อ้ายชาติข้า
เวียนแตเ่ ปน็ ถ้อยความไมข่ ้ามคืน ออกมาพระท่นี ่งั จกั รพรรดิ
คราวน้นั ฟอ้ งกนั ด้วยวันทอง ขุนนางกราบลงเปน็ ขนดั
ดำริพลางทางเสดจ็ ยาตรา หมอบอดั ถัดกันเปน็ หลั่นไป
พระสตู รรูดกรา่ งกระจา่ งองค์ เออใครเอาฟ้องมันไปไว้ไหน
ทงั้ หนา้ หลังเบียดเสยี ดเยียดยัด รบั ไวค้ ล่ีทอดพระเนตรพลัน
ทอดพระเนตรมาเหน็ ขนุ ชา้ งเฝ้า
พระหม่นื ศรีถวายพลันในทนั ใด

๒๑

พอทรงจบแจง้ พระทยั ในข้อหา ก็โกรธาเคอื งขนุ่ หนุ หนั
มันเคีย่ วเขญ็ ทำเป็นอย่างไรกัน อีวนั ทองคนเดยี วไม่ร้แู ล้ว
ราวกับไมม่ ีหญิงเฝ้าชิงกนั หรืออวี นั ทองน้ันมันมีแก้ว
รูปอา้ ยช้างช่ัวช้าตาบอ้ งแบว ไมเ่ หน็ แววทวี่ ่ามนั จะรกั
ใครจะเอาเป็นผัวเขากลวั อาย หวั หดู ูเหมือนควายทีต่ กปลัก
คราวนั้นเปน็ ความกูถามซัก ตกหนักอยกู่ บั เฒ่าศรปี ระจนั
วนั ทองกสู ใิ ห้กบั ไอ้แผน ไยแล่นมาอยกู่ บั อ้ายช้างน่ัน
จมื่นศรีไปเอาตวั มนั มาพลัน ทัง้ วันทองขุนแผนอ้ายหมน่ื ไวย
ถอยหลังออกมาไม่ชไ้ ด้
ฝ่ายพระหมน่ื ศรไี ดร้ บั สง่ั ตำรวจในวิง่ ตะบึงมาถึงพลนั
สัง่ เวรกรมวังในทันใด แจง้ ขอ้ รับสง่ั ไปขมีขมนั
ขึ้นไปบนเรือนพระหม่ืนไวย ใหห้ าท้งั สามท่านนั้นเขา้ ไป
ขุนช้างฟ้องร้องฎกี าพระทรงธรรม์ ไดฟ้ ังความครา้ มคร่ันหว่นั ไหว
ไม่ไว้ใจจึงเสกดว้ ยเวทมนตร์
ครานน้ั วนั ทองเจ้าพลายงาม ซ่งึ วิเศษสารพัดแก้ขดั สน
ขนุ แผนเรียกวนั ทองเขา้ ห้องใน เคยคุม้ ขังบงั ตนแต่ไรมา
สขี ้ผี งึ้ สปี ากกนิ หมากเวทย์ คนเห็นคนทักรกั ทุกหนา้
นำ้ มนั พรายน้ำมันจนั ทน์สรรเสกปน เสร็จแลว้ ก็พาวนั ทองไป
แลว้ ทำผงอิทธิเจเขา้ เจิมพักตร์ คร้ันไดแ้ จงั กจิ จาไมน่ ิ่งได้
เสกกระแจะจวงจันทนน์ ้ำมันทา ลงบันไดงันงกตกนอกชาน
กูมิใชช่ ้างขดี่ อกลูกหลาน
คราน้ันทองประศรีผู้มารดา ซมซานโฮกฮากอ้าปากไป
เดก็ เอย๋ ว่งิ ตามมาไวไว ผรู้ บั สั่งเร่งรุดไม่หยุดได้
พลายชุมพลกอดกันทองประศรี เขา้ ไปเฝา้ องค์พระภมู ี
ลุกขนึ้ โขย่งโก้งโค้งคลาน
ครั้นถงึ ยั้งอย่ปู ระตูวงั
ขนุ แผนวันทองพระหมื่นไวย

๒๒

ครานัน้ พระองคผ์ ้ทู รงเดช ป่นิ ปักนัดเรศเรืองศรี
เห็นสามราเขา้ มาอัญชลี พระปรานีเหมือนลูกในอุทร
ดว้ ยเดชะพระเวทวเิ ศษประสทิ ธ์ิ เผอญิ คดิ รักใคร่พระทยั อ่อน
ตรัสถามอยา่ งความราษฎร ฮ้าเฮ้ยดกู ่อนอีวนั ทอง
เมื่อมึงกลับมาแตบ่ ำใหญ่ กสู ใิ ห้อา้ ยแผนประสมสอง
ครน้ั กูขดั ใจใหจ้ ำจอง ตัวของมึงไปอยแู่ หง่ ไร
ทำไมไม่อยกู่ บั อา้ ยแผน แลน่ ไปอยู่กับอ้ายช้างใหม่
เดมิ มงึ รกั อา้ ยแผนแลน่ ตามไป ครั้นยกให้สเิ ตน้ กลับเลน่ ตวั
อยกู่ ับอา้ ยช้างไมอ่ ยู่ได้ เกดิ รังเกียจเกลียดใจดว้ ยชงั หัว
ดยู กั ใหมย่ า้ ยเก่าเฝา้ เปลี่ยนตวั ตกว่าชัว่ แลว้ มึงไมไ่ ยดี
ละล้าละลงั ประนมกัมเกศ
ครานั้นวนั ทองได้รับสงั่ ทูลคดีพระองค์ผู้ทรงธรรม์
หวั สยองพองพรั่นทนั ที องคห์ ริรักษร์ าชรงั สรรค์
ขอเดชะละอองธุลบี าท คร้งั นั้นโปรดประทานขุนแผนไป
เมอื่ กระหม่อมฉันมาแต่อารญั กระหม่อมฉันมีท้องนนั้ เดบิ ใหญ่
ครั้นอยมู่ าขุนแผนต้องจำจอง ขุนช้างไปบอกว่าพระโองการ
อยูท่ ี่เคหาหน้าวดั ตะไกร กระหม่อมฉันไม่ไปก็หักหาญ
มีรบั สง่ั โปรดปรานประทานให้ เพือ่ นบา้ นจะชว่ ยกส็ ุดคิด
ย้ือยุดฉดุ คว่าทำสามานย์ ใครจะขัดขืนไว้ก็กลัวผิด
ด้วยขนุ ช้างอ้างวา่ รับสงั่ ให้ ชีวติ อย่ใู ต้พระบาทา
จนใจจะมิไปกส็ ุดฤทธ์ิ ฟังจบกรวิ้ ขนุ ชา้ งเป็นหนักหนา
อา้ ยบ้าเย่อหยิ่งอ้ายลงิ โลน
ครานั้นพระองค์ผ้ทู รงภพ มงึ ถือใจว่าเปน็ เจ้าทโี่ รงโขน
มพี ระสิงหนาทตวาดมา เทีย่ วทำโจรใจคะนองจองหองคร้ัน
ตกว่ากหู าเป็นเจ้าชวี ิตไม่ ชอบแตเ่ ฆี่ยนสองหวายตลอดสัน้
เปน็ ไม่มีอาญาสิทธิ์คดิ ดงึ โดน เออเมอ่ื มันฉดุ คร่าพามึงไป
เลี้ยงมงึ ไม่ได้อา้ ยใจร้าย
แลว้ กลับความถามข้างวันทองพลัน

๒๓

กช็ ้านานประมาณได้สิบแปดปี ครัง้ นีท้ ำไมมงึ จึงมาได้
นม่ี ึงหนมี ันมาฤๅวา่ ไร ฤๅวา่ ใครไปรบั เอามงึ มา
บังคมคลั ประนมกัมเกศา
วันทองฟังถามให้คร้ามครั่น พระอาญาเปน็ พนั ลันเกล้าไป
ขอเดชะพระองคท์ รงศกั ดา กระหม่อมฉนั จึงกลบั คนื มาได้
คร้งั น้จี ม่นื ไวยน้นั ไปรับ ขุนแผนก็มิไดป้ ระเวณี
มิใชย่ อ้ นยอกทำนอกใจ ขนุ ช้างจึงหาความว่าหลบหนี
แตม่ าน้นั เวลาสักสองยาม ชีวีอยู่ใตพ้ ระบาทา
ขอพระองค์จงทรงพระปรานี ฟังเหตขุ นุ่ เคืองเป็นหนกั หนา
ตกวา่ บ้านเมืองไมม่ นี าย
ครานน้ั พระองคผ์ ูท้ รงเดช จึงทำตามน้ำใจเอางา่ ยง่าย
อ้ายหมื่นไวยทำใจอหังการ์ อันตรายไพรเ่ มืองก็เคืองกู
จะปรึกษาตราสนิ ใหไ้ มไ่ ด้ อ้ายช้างบงั อาจใจทำจสู่ ู่
ถ้าฉวยเกดิ ฆา่ ฟนั กันล้มตาย ตะคอกขู่อวี นั ทองใหต้ กใจ
อีวันทองกใู ห้อา้ ยแผนไป เฆย่ี นดีเสยี ใหย้ ับไมน่ บั ได้
ฉดุ มนั ข้ึนช้างอ้างถึงกู อ้ายหมน่ื ไวยกโ็ ทษถึงฉกรรจ์
ชอบตบใหส้ ลบลงกบั ท่ี ไมเ่ กรงกลวั เวโ้ วท้ ำโมหันธ์
มะพร้าวหา้ วยัดปากใหส้ าใจ อา้ ยแผนพ่อนน้ั กเ็ ป็นใจ
มงึ ถือว่าอีวันทองเป็นแมต่ ัว ถงึ บอกกูวา่ ดหี าเช่ือไม่
ไปรับไยไม่ไปในกลางวนั วา่ อ้ายไวยลกั แม่ใหบ้ ดิ า
มนั เหมือนววั เคยขามา้ เคยขี่ หมองมวั มลทนิ อยหู่ นักหนา
อ้ายช้างมนั กฟ็ ้องเป็นสองนัย ชวนพ่อฟ้องหาเอาเปน็ ไร
เปน็ ราดขี ้อผิดมีติดตวั ฤๅว่ากตู ดั สนิ ให้ไม่ได้
ถ้าอ้ายไวยอยากจะใครได้แม่มา ปรับไหมให้เท่ากบั ขายชู้
อยั การศาลโรงก็มีอยู่ จึงหึงหวงช่วงชิงยงุ่ ยงิ่ อยู่
ชอบทวนด้วยลวดให้ปวดไป ใหล้ กู ดอกตกอยแู่ ต่กง่ิ เดียว
มันเกดิ เหตทุ ั้งน้ีกเ็ พราะหญิง
จำจะตดั รากใหญใ่ ห้หล่นพรู

๒๔

อวี นั ทองตัวมนั เหมือนรากแก้ว ถา้ ตัดโคนขาดแลว้ ก็ใบเหย่ี ว
ใครจะควรสสู่ มอยู่กลมเกลียว ใหเ้ ดด็ เด่ยี วรกู้ ันแต่วันน้ี
เฮย้ อีวนั ทองว่ากระไร มงึ ตง้ั ใจปลดปลงให้ตรงที่
อย่าพะวังกังขาเปน็ ราคื เพราะมงึ มผี วั สองกตู ้องแคน้
ถ้ารกั ใหม่ก็ไปอยู่กับอ้ายขา้ ง ถา้ รักเก่าเข้าขา้ งอ้ายขนุ แผน
อย่าเวยี นวนไปให้คนมนั หมน่ิ แคลน ถ้าแม้นมึงรกั ไหนใหว้ า่ มา
ให้ละลา้ ละลงั เปน็ หนักหนา
ครานั้นวันทองฟังรบั สั่ง ขุนช้างแลดตู ายักค้ิวลน
ครน้ั จะทลู กลวั พระราชอาญา บ้ยุ ปากตรงบิดาเปน็ หลายหน
พระหมน่ื ไวยใชใ้ บใ้ ห้แม่ว่า เปน็ จนใจนงิ่ อยู่ไม่ทลู ไป
วันทองหมองจิตคิดเวยี นวน หาไดย้ นิ วนั ทองทลู ขนึ้ ไม่
ฤๅมงึ ไม่รกั ใครให้ว่ามา
คราน้นั พระองคท์ รงธรณนิ ทร์ จะอยู่ด้วยลกู ชายก็ไมว่ ่า
พระตรัสความถามชักไปทนั ใด แตน่ ี้เบื้องหน้าขาดเดด็ ไป
จะรกั ชูช้ งั ผวั มงึ กลวั อาย ใหบ้ ันดาลบงั จิตหาคดิ ไม่
ตามใจกจู ะให้ดงั วาจา ด้วยสนิ้ ในอายทุ ่ีเกดิ มา
ดังตัวตกพระสุเมรุภูผา
นางวันทองรบั พระราชโองการ เกรงผดิ ภายหนา้ ก็สดุ คดิ
อกุศลดลมัวใหช้ ั่วใจ ที่จรงิ ใจมิได้รกั แตส่ ักหนิด
คดิ คะนึงตะลึงตะลานอก แม้นทูลผิดจะพิโรธไม่โปรคปราน
ให้อุธัจอัดอั้นตันอรุ า ตามพระทัยท้าวจะแยกให้แตกฉาน
จะวา่ รกั ขุนช้างกระไรได้ นางกัมกรานแลว้ ก็ทูลไปฉับพลัน
รกั พ่อลูกห่วงดงั ดวงชีวติ ด้วยรว่ มยากมานกั ไม่เดยี ดฉนั ท์
อย่าเลยจะทูลเป็นกลางไว้ สารพนั อดออมถนอมใจ
คดิ แล้วเท่านัน้ มิทนั นาน คำหนักหาไดว้ ่าใหเ้ คืองไม่
ความรกั ขนุ แผนก็แสนรกั ข้าไทใช้สอยเหมือนของตัว
สู้ลำบากบุกป้มาด้วยกนั
ขนุ ช้างแตอ่ ยู่ดว้ ยกันมา
เงนิ ทองกองไว้มใิ ห้ใคร

๒๕

จมื่นไวยเลา่ ก็เลอื ดท่ใี นอก ก็หยบิ ยกรักเท่ากนั กับผัว
ทลู พลางตวั นางเร่มิ ระรวั ความกลวั อาญาเป็นพนั ไป
ฟังจบแคน้ ด่ังดังเพลิงไหมั
ครานน้ั พระองค์ผทู้ รงภพ ดูดเู๋ ป็นได้อีวันทอง
เหมอื นดนิ ประสวิ ปลิวติดกับเปลวไฟ น้ำใจจะประดังเข้าทงั้ สอง
จะว่ารักข้างไหนไม่ว่าได้ ยิ่งกว่าท้องทะเลอันล้ำลึก
ออกนน่ั เขา้ นี่มสี ำรอง จะทอดถมเทา่ ไรไม่ร้สู กึ
จอกแหนแพเลาสำเภาใหญ่ นำ้ ลกึ เหลอื จะหย่ังกระทง่ั ดนิ
เหมอื นมหาสมุทรสดุ ซงึ้ ซึก กจ็ อมจมสูญหายไปหมดส้นิ
อิฐผาหาหาบมาทุ่มถม ดังเพชรนลิ เกิดข้ึนในอาจม
อีแสนถ่อยจัญไรใจทมิพ ใจไม่ซื่อสมศักด์เิ ท่าเส้นผม
รปู งามนามเพราะนอ้ ยไปหรอื สมาคมก็แตถ่ ึงฤดูมนั
แตใ่ จสตั วม์ ันยงั มีทีน่ ิยม จะเอาเรื่องไม่ได้สกั สง่ิ สรรพ์
มงึ นถ้ี ่อยยง่ิ กว่าถ่อยอีท้ายเมอื ง สักร้อยพนั ให้มึงไมถ่ ึงใจ
ละโมบมากตัณหาตาเป็นมนั หาตามตอมกันเกรยี วเหมอื นมึงไม่
ว่าหญงิ ชวั่ ผัวยงั คราวละคนเดยี ว อา้ ยไวยมึงอยา่ นบั ว่ามารดา
หนกั แผน่ ดินกจู ะอยู่ไย คนอ่นื รู้วา่ แม่กข็ ายหนา้
กเู ล้ยี งมึงถึงให้เป็นหัวหมน่ื กจู ะหาเมยี ใหอ้ ย่าอาลัย
อ้ายขนุ ช้างขุนแผนทัง้ สองรา มันไม่น่าเชยชิดพสิ มัย
หญงิ กาลกิณอี แี พศยา มึงตัดใจเสียเถดิ อีคนนี้
ที่รูปรวยสวยสมมถี มไป ไปฟันฟาดเสียให้มันเป็นผี
เรง่ เรว็ เหวยพระยายมราช อย่าใหม้ โี ลหติ ตดิ ดินกู
อกเอาขวานผ่าอย่าปรานี ตกดนิ จะอัปรยี ์กาลอี ยู่
เอาใบตองรองไวใ้ ห้หมากิน สั่งเสรจ็ เสดจ็ สูป่ ราสาทชยั
ฟนั ใหห้ ญงิ ชายท้ังหลายดู

๒๖

คณุ ค่าด้านเนอื้ หา

๑. รปู แบบการประพันธ์
ลกั ษณะคำประพนั ธก์ ลอนเสภาเปน็ กลอนสุภาพ เสภาเปน็ กลอนขน้ั เล่าเร่ืองอย่างเล่านิทานจึงใช้คำมาก

เพื่อบรรจุข้อความให้ชดั เจนแกผ่ ้ฟู ังและมุ่งเอาการขับไดไ้ พเราะเปน็ สำคญั สมั ผัสของคำประพันธ์ คือ คำสดุ ทา้ ย
ของวรรคต้นส่งสัมผัสไปยงั คำใดคำหนึ่งใน ๕ คำแรกของวรรคหลงั สัมผัสวรรคอน่ื และสัมผสั ระหว่างบทเหมือน
กลอนสภุ าพ

๒. องคป์ ระกอบของเรื่อง
๒.๑ สาระ
เสภาเร่ืองขุนชา้ งขุนแผน ตอน “ขนุ ช้างถวายฎกี า” เสนอข้อคิดวา่ การตกเปน็ ทาสของอารมณต์ า่ งๆ ไม่ว่า

จะเป็นความรัก ความโกรธ ความหลง ย่อมทำใหม้ นุษยข์ าดสตกิ ระทำสิ่งต่างๆโดยไมค่ ำนึงถงึ ผลทต่ี ามมาวา่ ดหี รอื
ร้ายแกต่ นเองหรแื ก่ผู้อนื่ เม่ือเกิดหลงั จากที่พลายงามลอบขึ้นเรอื นของขนุ ชา้ งแลว้ พามารดามาอยดู่ ว้ ยกเ็ กิดเกรงขุน
ช้างจะเอาผิดวนั รุ่งขึน้ จงึ ใหบ้ ่าวใช้ไปบอกวา่ ตนป่วยอยากดูหนา้ แมจ่ ะขอให้แม่อย่ดู ว้ ยสักพักแลว้ จึงจะพาไปสง่ กลับ
แต่ขุนชา้ งโกรธถวายฎกี าต่อพระพันวษาพระองค์กลา่ วโทษพลายงามที่ลอบขน้ึ เรอื นของผอู้ ืน่ โดยไมเ่ กรงกลวั
กฎหมายทรงสัง่ ใหน้ างวันทองเข้าเฝา้ แลว้ ตรัสถามนางวันทองว่าจะเลือกอยูก่ บั ใครนางวันทองตกประหมา่ ไมม่ ิอาจ
ตัดสินใจได้เลยยกเร่ืองให้พระพันวษาตัดสินใจแทนพระพนั วษาเขา้ ใจวา่ นางวันทองเลือกไม่ได้เพราะหลายใจจึงทรง
รับส่งั ประหารชีวติ นางวนั ทอง

๒.๒ โครงเรอื่ ง
เนอื้ เร่อื งเปน็ เรอื่ งราวความรักของชายสองคนกับหญงิ หนึ่งคนชายคนหน่ึงเปน็ คนรปู งามมีวชิ าอาคมแต่
เจา้ ชู้ ชายอีกคนหนึ่งเปน็ คนหนา้ ตาอปั ลักษณ์แตม่ ฐี านะร่ำรวยทั้งสองคนปรารถนาผู้หญิงคนเดยี วกนั จงึ เกิดการแย่ง
ชิงเพราะความรกั ความใครจ่ ึงสรา้ งความทุกขใ์ จให้กับท้ังสามคนปมปัญหาของเรือ่ งนี้คือนางผ้นู ั้นจะตกเป็นของชาย
ใด

๒๗

เสภาเร่อื งขุนชา้ งขนุ แผนตอนขุนช้างถวายฎกี าเป็นตอนที่สำคญั ทีส่ ุดของเรื่องเพราะเปน็ ตอนคลค่ี ลายปม
ปัญหาวา่ นางวันทองจะตกเป็นของผู้ใดระหวา่ งขุนแผนกับขุนชา้ งตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า เร่ิมจากที่พลายงามอยาก
ให้มารดามาอยู่ด้วย จงึ ได้ลอบข้ึนเรือนขุนช้างแล้วพานางวันทองไปกับตน เม่ือขนุ ชา้ งรู้ว่านางวนั ทองอย่กู ับพลาย
งามก็โกรธมากไปถวายฎีกาพระพนั วษาเร่ืองได้หักมมุ จบลงตรงทนี่ างวันทองถูกประหารชีวติ นับเปน็ เรื่องน่าสลดใจ
และสรา้ งความสะเทือนอารมณ์ใหแ้ ก่ผู้อ่านเปน็ อยา่ งยงิ่

๒.๓ ฉากและบรรยากาศ

ฉากทป่ี รากฏในเสภาเรื่องขุนชา้ งขุนแผนตอนขนุ ช้างถวายฎีกาคือสภาพสังคมไทยในสมยั อยุธยาและ
รตั นโกสินทรต์ อนต้นของชาวบ้าน ชาววัด และ ชาววงั ซึง่ ผ้แู ตง่ ได้บรรยายฉากและบรรยากาศต่างๆ ได้สมจริง
สอดคลอ้ งกับเนื้อเร่ือง เช่น เรอื นของขนุ ช้างทแี่ สดงถึงความรำ่รวย ดังบทประพันธ์

ขา้ ไทนอนหลับลงทบั กนั สะเดาะกลอนถอนลนั่ ถงึ ช้นั สา

กระจกฉากหลากสลบั วับแวมวาม อรา่ มแสงโคมแก้วแววจับตา

มา่ นมู่ลม่ี ีฉากประจำกัน้ อัฒจันทร์เครอื่ งแก้วก็หนกั หนา

ชมพลางย่างเยอื้ งชำเลืองมา เปดิ ม้งุ เห็นหนา้ แมว่ ันทอง

๒.๔ กลวธิ กี ารแตง่

กวมี ีกลวิธีในการนำเสนอเรอ่ื งราวผา่ นตัวละครโดยการเลา่ ดว้ ยถอ้ ยคคำภาษาท่ีไพเราะงดงาม ทง้ั การใชค้ ำที่
ทำใหเ้ หน็ ภาพและการใชค้ วามเปรียบสะท้อนใหเ้ หน็ วถิ ชี ีวิตของคนไทยสมัยก่อน สภาพความเปน็ อยู่ การพิพากษา
คดีรวมถึงการตัดสินประหารชีวติ กวถี า่ ยทอดเร่ืองราวไดส้ มจริงน่าประทับใจและชวนติดตาม ดงั บทประพันธ์

คราน้นั พระองค์ผู้ทรงภพ ฟังจบแคน้ คงั่ ดงั เพลงิ ไหม้

เหมือนดนิ ประสวิ ปลิวตดิ กับเปลวไฟ ดูดู๋เปน็ ได้อวี ันทอง

จะวา่ รกั ข้างไหนไม่ว่าได้ น้ำใจจะประดังเขา้ ทง้ั สอง

ออกน่นั เข้านม่ี สี ำรอง ย่งิ กวา่ ทอ้ งทะเลอันลำ้ ลึก

จอกแหนแพเสาสำเภาใหญ่ จะทอดถมเทา่ ไรไมร่ ูส้ ึก

เหมือนมหาสมทุ รสดุ ซ้ึงซกึ นำ้ ลกึ เหลอื จะหยง่ั กระทัง่ ดนิ

อฐิ ผาหาหาบมาทมุ่ ถม ก็จอ่ มจมสญู หายไปหมดส้นิ

อีแสนถ่อยจัญไรใจทมฬิ ดังเพชรนิลเกดิ ขึ้นในอาจม

รูปงามนามเพราะน้อยไป ใจไมซ่ ่ือสมศักด์ิเทา่ เส้นผม

๒๘

แต่ใจสตั วม์ นั ยงั มที น่ี ิยม สมาคมกแ็ ตถ่ ึงฤดมู นั
มงึ น้ถี อ่ ยยงิ่ กว่าถ่อยอที า้ ยเมือง จะเอาเรอื่ งไมไ่ ดส้ กั สง่ิ สรรพ
๒.๕ วิเคราะห์ตวั ละคร
๑.นางวันทอง

นางวนั ทอง
นางวันทอง หรือ นางพิมพิลาไลย เปน็ หญงิ รูปงามแตป่ ากจัด เป็นบตุ รของพันศรโยธาและ นางศรีประจัน
นางวันทองแต่งงานกบั พลายแก้ว มีลกู ชายคือพลายงาม ตอ่ มานางวนั ทองถูกแม่บังคับให้แต่งงานใหม่กับขุนช้างทำ
ให้ถูกประณามว่าเป็นหญิงสองใจ นางวันทองมีลักษณะสาวชาวบ้านเป็นคนซื่อไม่ค่อยฉลาดทำอะไรตามประสา
หญงิ ชาวบ้านแต่สงั คมไทยเนน้ ให้ผู้หญงิ อยู่ในกรอบของประเพณี จงึ ทำให้ดเู หมือนว่านางวนั ทองไม่รกั นวลสงวนตัว
แตน่ างวนั ทองก็ยงั มีภาพลกั ษณ์ด้านดีทเ่ี ห็นได้ชัด คือ มีนำ้ ใจเมตตา ให้อภัยโดยไม่เคียดแคน้ และความละเอียดอ่อน
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการรบั รู้ถงึ ความดีของผู้อื่นทีป่ ฏิบัติต่อนางจะเห็นไดว้ ่าแม้นางจะไม่ได้รักขนุ ช้างแต่ด้วยความดี
ของขุนช้างและความผูกพันที่อยู่กันมา 15 ปีทำให้นางเป็นห่วงเป็นใยความทุกข์สุขและความรู้สึกของขุนช้างไม่
น้อย นางวันทองยังเป็นแม่ที่ดีเม่ือเห็นลูกกำลังทำผิดก็ไม่เห็นดเี ห็นงามด้วยเห็นได้จากตอนที่พลายงามบุกขึ้นเรือน
ขนุ ช้างในยามวิกาลนอกจากน้ีนางวันทองยังเปน็ คนกล้าทีจ่ ะยอมรับชะตากรรมของตัวเอง
๒.สมเด็จพระพันวษา

สมเด็จพระพันวษา

๒๙
สมเดจ็ พระพนั วษา เปน็ พระมหากษตั รยิ ์แห่งกรุงศรีอยธุ ยา ยุคนนั้ เปน็ ยคุ ท่บี า้ นเมืองเจริญรุง่ เรือง มีความ
อุดมสมบูรณ์ราษฎรทั้งหลายอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขบรรดาประเทศใกล้เคียงก็อ่อนน้อมเพราะยำเกรงบารมี
สมเด็จพระพันวษาสมเด็จพระพันวษามีนิสัยโกรธง่าย แต่พระองค์นับว่าเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีความยุติธรรมต่อ
พวกทหารเสนาอำมาตย์และราษฎรพอสมควรเม่อื มคี ดีฟ้องร้องกนั ก็จะให้มีการไต่สวนและพสิ จู นค์ วามจรงิ
๓.ขุนแผน

ขุนแผน
ขุนแผน เดิมชื่อ พลายแก้ว เป็นบุตรของขุนไกรพลพ่ายและนางทองประศรี มีรูปร่างหน้าตางดงามคมสนั
สติปัญญาเฉลียวฉลาด ด้วยลักษณะนิสัยเป็นคนเจ้าชู้และมีคารมคมคาย จึงง่ายต่อการพิชิตใจหญิง พลายแก้วมี
ดาบฟา้ ฟนื้ เป็นอาวธุ ประจำตัวพาหนะคใู่ จคอื ม้าสีหมอกพลายแก้วไดบ้ วชเณรและเรียนวิชาที่วัดส้มใหญ่ แลว้ ย้ายไป
เรียนต่อที่วัดป่าเลไลยจนสุดท้ายไปเป็นศิษย์สมภารคงวัดแคมีความรูท้ างโหราศาสตร์ปลุกผี อยู่ยงคงกระพันคาถา
มหาละลวยวิชาจากตำรับพิชัยสงครามทำให้ผู้หญิงรักและยังมีความสามารถเทศนได้ไพเราะจับใจ ต่อมาสึกจาก
เณรแล้วไดแ้ ต่งงานกับนางพิมพาลาไลย แตไ่ มน่ านกถ็ ูกเรียกตวั ไปเป็นแม่ทัพรบกับเชียงใหมค่ รัน้ ได้ชยั ชนะกลับมาก็
ได้เป็นขุนแผนแสนสะท้านแต่ปรากฎว่าภรรยาแต่งงานใหม่กับขุนช้าง ภายหลังขุนแผนตอ้ งโทษถูกจำคุกถึง ๑๕ ปี
จึงจะพ้นโทษและทำสงครามกับเชียงใหม่อีกครั้งเมื่อชนะกลับมาก็ได้ตำแหน่งเป็นพระสุริน ทรฤๅไชย เจ้าเมือง
กาญจนบรุ ี

๓๐

๔.ขนุ ชา้ ง

ขุนชา้ ง

ขุนช้าง มีลักษณะรูปชั่วตัวดำหัวล้านมาแต่กำเนิด นิสัยเจ้าเล่ห์เพทุบายเป็นบุตรของขุนศรีวิชัยและนาง
เทพทองซึ่งมีฐานะร่ำรวยมาก ขุนช้างแม้จะเกิดมาเป็นลูกเศรษฐีแต่ก็อาภัพถูกแม่เกลียดชังเพราะอับอายที่มีลูก
หัวล้านจงึ มักถูกแม่ดา่ วา่ อยเู่ สมอและไม่วา่ จะเดินไปทางใดก็จะเปน็ ทขี่ บขันล้อเลียนของชาวบา้ นทัว่ ไป พอเปน็ หนุ่ม
ก็ได้นางแกน่ แกว้ เปน็ ภรรยาอยู่ดว้ ยกนั ไดป้ ีกวา่ นางกต็ ายจงึ หันมาหมายปองนางพิมพิลาไลยแต่นางไม่ยินดีด้วยและ
ได้แต่งงานกบั พลายแก้วขนุ ชา้ งก็ยงั ไม่ลดความพยายามใช้อุบายจนได้แต่งงานกับนางสมใจปรารถนาแต่ขุนช้างก็ยัง
มขี อ้ ดีคือรกั เดยี วใจเดยี วและเลีย้ งดนู างวนั ทองเป็นอย่างดที ำใหน้ างวันทองเร่ิมเหน็ ใจ

๕.พลายงาม

พลายงาม

พลายงาม มีตำแหน่งราชการเป็นจมื่นไวยวรนาถ ซึ่งเรียกสั้นๆ ว่า พระไวย หรือ หม่ืนไวย เป็นลูกของ
ขุนแผนกบั นางวันทองแต่ไปคลอดท่บี ้านของขุนช้างเพราะนางวันทองถกู ขนุ ช้างฉดุ ไปขณะที่ทอ้ งแก่ย่ิงพลายงามโต
ก็ยิ่งละหม้ายคล้ายขุนแผนมากขึ้นทำให้ขุนช้างเกลียดชังพลายงามได้เรียนวิชาจากตำราของพ่อจนเชี่ยวชาญมี
ความสามารถเชน่ เดียวกับขุนแผน ต่อมาไดอ้ าสายกทัพไปรบกบั เชียงใหม่แลว้ ถือโอกาสขออภัยโทษให้ขุนแผนออก
จากคุกไดเ้ ม่ือกลับจากสงครามก็ได้ตำแหนง่ เปน็ จมื่นไวยวรนาถและมีภรรยา ๒ คน คอื นางศรมี าลาและนางสร้อย
ฟ้า

๓๑

คณุ ค่าทางด้านวรรณศลิ ป์

๑. สะทอ้ นถงึ อารมณโ์ กรธแค้นและสะเทือนใจ (พโิ รธวาทัง)

ย่ิงคิดเดือดดาลทะยานใจ ฉวยไดก้ ระดานชนวนมา

ร่างฟอ้ งท่องเทียบให้เรียบรอ้ ย ถอ้ ยคำถีถ่ ว้ นเปน็ หนักหนา...

๒. มีการพรรณนาถึงเรื่องฝนั ร้าย

...คร้ังนน้ี ่าจะมอี นั ตราย ฝันร้ายสาหัสตัดตำรา

พิเคราะห์ดูทงั้ ยามอัฐกาล ก็บันดาลฤกษ์แรงเปน็ หนักหนา

มิรทู้ จี่ ะแถลงแจ้งกิจจา กอดเมยี เมินหนา้ นำ้ ตากระเด็น...

๓. ใชถ้ อ้ ยคำเกิดความเศร้าสะเทือนใจสงสารในชะตากรรมของตัวละคร (สัลลาปังคพิสยั )

...วันนี้แมจ่ ะลาพ่อพลายแล้ว จะจำจากลูกแกว้ ไปสูญสนิ้

พอบา่ ยกจ็ ะตายลงถมดนิ ผนิ หน้ามาแมจ่ ะขอชม

เกดิ มาไม่เหมือนกับเขาอ่ืน มไิ ดช้ ่นื เชยชดิ สนทิ สนม...

๔. การบรรยายโวหาร (เสาวรจนยี )์

ฟ้าขาวดาวเด่นดวงสว่าง จนั ทรก์ ระจ่างทรงกลดหมดมฆส้นิ

จึงเซ่นเหล้าขา้ วปลาให้พรายกนิ เสกขมน้ิ ว่านยาเข้าทาตวั

๕. การพรรณนาโวหาร (นารปี ราโมทย)์

จะเปน็ ตายง่ายยากไมจ่ ากรัก จะฟมู ฟักเหมือนเม่ืออย่ใู นกลางเถ่อื น

ขอโทษที่พ่ีผดิ อย่าบิดเบือน เจ้าเพือ่ นเสน่หาจงอาลยั

๓๒

๖. เชงิ เปรยี บเทียบ (อปุ มาโวหาร) ถ้าตดั โคนขาดแลว้ กใ็ บเหีย่ ว
อีวันทองตัวมนั เหมอื นแกว้ ให้เดด็ เดี่ยวรู้กนั แต่วันนี้
ใครจะควรสสู่ มอยู่กลมเกลียว

๗. กวีแทรกอารมณ์ขนั ในการแต่ง (หาสยรส) ขดั ใจลกุ ขึ้นทง้ั แกผ้ า้
ขนุ ชา้ งเหน็ ข้าไม่มาใกล้ ย่างเท้ากา้ วมาไม่รูต้ วั
แหงนเถอ่ เปอ้ ปังยืนจังกา นน่ั พอ่ จะไปไหนพ่อทนู หัว
ยายจันงนั งกยกมือไหว้ ขุนชา้ งมองดูตวั ก็ตกใจ
ไม่นุง่ ผ่อนนงุ่ ผ้าดนู ่ากลวั

๓๓

คณุ ค่าดา้ นสังคม

๑. การสะทอ้ นสภาพสังคมในสมัยน้นั วถิ ีชวี ิต ความเป็นอยู่

๑.๑ ด้านวัฒนธรรมทางการแต่งกาย

ที่ปรากฏในเรื่องขุนช้างขุนแผนมีทั้งการแต่งกายของหญิงและชาย ในสมัยโบราณขมิ้นเป็น
เครื่องสำอางอย่างหนึ่งนิยมทาให้ผิวเหลืองนวล และเชื่อว่าใช้รักษาโรคผิวหนังได้ด้วย เวลามีคนตายก็อาบน้ำศพ
แล้วเอาขม้นิ ทาและการแต่งกายของชายกจ็ ะมีผา้ นุงผ้าลายและสาวๆก็มักจะนงุ่ ผ้าลายหม่ ผา้ สี

๑.๒ ดา้ นวฒั นธรรมทางภาษา

มีถ่อยคำสำนวน สภุ าษติ คำพงั เพย คำคมตา่ งๆ ซ่งึ จับใจผอู้ ่านแม้จะใช้ถ้อยคำท่ีธรรมดาสามัญก็
ตาม เชน่ คำว่า “ปลกู เรือนคร่อมตอ” “นอนสงู ใหน้ อนคว่ำ นอนตำ่ ใหน้ อนหงาย” “กนิ นำ้ เห็นปลงิ ” ฯลฯ

๑.๓ ด้านวัฒนธรรมทางขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วัฒนธรรม

ได้มีการกล่าวถึง ขบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทยแทรกไว้ในเนื้อเรื่อง นับตั้งแต่การเกิด
จนกระทั่งตายเลยทเี ดยี ว

๑.๓.๑ ประเพณีบวชเณร

สมยั กอ่ นน้นั ไม่มโี รงเรียนพ่อแม่จึงมักพาลูกชายไปบวชเรยี น เพอ่ื ฝากให้พระส่ังสอนวิชาการต่าง
ๆและอบรมศีลธรรม เพราะถือกันว่าวัดเป็นแหล่งรวมวิชาความรู้ โดยมีพระภิกษุเป็นผู้สอนวิชาที่เรียนก็มี วิชา
ล่องหนหายตัว อยยู่ งคงกระพนั คาถาอาคมตา่ ง ๆ ปลุกผแี ละตำรบั พชิ ัยสงคราม เปน็ ตน้

๑.๓.๒ ประเพณีการทำศพ

การแหน่ นั้ จะมีเครอ่ื งดนตรปี ระโคม คอื ปช่ี วาและกลองชนะ มีพระสวดนำหน้าศพ มกี ารโปรย
ข้าวตอกไปตลอดทาง กล่าวกันว่าการโปรยข้าวตอก คือ ปริศนาธรรม ว่าข้างตอกนั้นไม่อาจงอกเป็นต้นข้าวได้อีก
คนท่ตี ายไปแลว้ ก็ไมอ่ าจฟื้นข้ึนได้อีกเช่นเดียวกนั ส่วนพวกญาติพ่นี ้องกส็ วมเสื้อผา้ สขี าวเดินตามไป

๑.๔ ดา้ นลักษณะของสังคมไทย ความเป็นอยู่ แบบแผนของการดำเนนิ ชวี ติ
ในเรื่องนี้มีปรัชญาและความจริงของชีวิตปรากฎอยู่มากสภาพการดำเนินชีวิตของคนในเมืองหลวง

และในชนบทเป็นอย่างไร ในเรื่องขุนช้างขุนแผนกล่าวไว้อย่างละเอียด แสดงแนวความคิดของคนโบราณทั้งชาย
และหญิง ซ่งึ เราอาจยดึ ถอื เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตปจั จุบนั ได้ดี เชน่ ชายมคี วามจงรักภกั ดตี อ่ พระมหากษัตริย์
หญิงมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีและเชื่อฟังอยู่ในโอวาทของสามี การเป็นคนมีความกตัญญูรู้คุณ เห็นคุณค่าของ
การศกึ ษา การรจู้ ักกาลเทศะ ฯลฯ

๓๔

๑.๕ ด้านการศึกษาของเด็กไทยสมยั โบราณ
การศึกษาแผนโบราณของไทยนิยมให้การศึกษาทางด้านพุทธิศึกษาแก่ชาย มีวัดเป็นสถานที่เรียน

พระสงฆ์เป็นครู ค่านิยมทางการศึกษา คือ ฝึกคนเข้ารับราชการ ส่วนการศกึ ษาของผู้หญิงสมัยโบราณเนน้ ดา้ น
เคหศาสตร์ เนื่องจากไม่นิยมให้ลูกหลานที่เป็นผู้หญิงออกไปเรียนหนังสือนอกบ้าน ลูกสาวชาวบ้านจึงได้รับการ
ถ่ายทอดความรู้จากมารดาหรือญาติผู้ใหญ่ทีอ่ ยู่ในบ้าน ในเรื่องขุนช้างขุนแผนจะพรรณนาความสามารถของสตรี
ในการฝีมือและการครัวอย่างละเอียด เช่น การแกะสลักมะละกอของนางพิม การทำขนม การทำอาหาร ตัว
ละครในเรื่องขุนช้างขุนแผนอาจจะมีความสามารถในการอ่านหนังสือออกเขียนหนังสือได้ แต่ผู้แต่งไม่ได้จงใจ
บรรยายเกี่ยวกับการรู้หนังสือเลย ถ้าจะกล่าวถึงก็รวบรัดสั้นๆ ตรงกันข้างกับการศึกษาของเด็กชายซึ่งจะมีการ
พรรณนาละเอียดลออตั้งแต่วันที่พาไปฝาก ระบุชื่อสำนัก ชื่ออาจารย์และวิชาที่เรียน แสดงว่าสมัยโบราณเน้น
การศกึ ษาของเด็กชายมากกวา่

๒. แนวคดิ ความเช่อื และคา่ นิยม

๒.๑ สะทอ้ นความเชื่อเร่อื งลางบอกเหตุหรือความฝัน

เป็นความเชื่อที่มมี าเน่ินนาน จากในเรื่องทำให้เห็นว่าความฝนั สามารถเป็นลางบอกเหตุในสิ่งทีจ่ ะเกิดขนึ้
ได้ หรือเป็นการเตอื นว่าจะมีเร่อื งไมด่ เี กดิ ขึ้น เช่น

จะกลา่ วถึงเจ้าจอมหมอ่ มขุนช้าง นอนครางหลับกรนอยปู่ น่ เปอ้ื น

อัศจรรย์ฝันแปรแชเชอื น ว่าขเ้ี ร้ือนขน้ึ ตัวท่ัวทัง้ นั้น

หาหมอมารักษายาเข้าปรอท มนั กินปอดตับไตออกไหลล่ัน

ทัง้ ไส้นอ้ ยไส้ใหญแ่ ลไสด้ นั ฟนั ฟางกห็ กั จากปากตัว

ตกใจต่ืนผวาคว้าวันทอง ร้องว่าแม่คณุ แม่ช่วยผัว

ลกุ ขนึ้ งกงันตัวสน่ั รัว ให้นกึ กลวั ปรอทจะตอดตาย

๒.๒ สะท้อนเร่ืองไสยศาสตร์

เป็นสิ่งที่อยู่กับไทยมานาน โดยเฉพาะสมัยก่อนที่มีการทำไสยศาสตร์ เช่น การเสกสิ่งต่างๆ การลง
อาคม การเป่ามนตร์ เปน็ ตน้ เช่น

ฟ้าขาวดาวเด่นดวงสวา่ ง จันทร์กระจา่ งทรงกลดหมดเมฆสิ้น

จึงเซน่ เหลา้ ข้าวปลาให้พรายกิน เสกขมิน้ วา่ นยาเขา้ ทาตัว

ลงยนั ตร์ าชะเอาปะอก หยบิ ยกมงคลขนึ้ ใสห่ ัว

เป๋ามนตรเ์ บื้องบนชอุ่มมวั พรายย่วั ยวนใจให้ไคลคลา

๓๕

จับดาบเคยปราบณรงค์รบ เสรจ็ ครบบริกรรมพระคาถา

ลงจากเรอื นไปมิไดช้ ้า รบี มาถึงบ้านขนุ ชา้ งพลนั

๒.๓ สะท้อนเร่อื งกรรม พทุ ธศาสนา

เป็นความเชื่อมีทุกยุคทุกสมัยเกี่ยวกับเรื่องกรรม เชื่อเรื่องที่ว่าทำดีได้ ทำชั่วได้ชั่ว ทำชั่วย่อมมีกรรม
ตามสนองไปเอาคืน เชน่

โอ้วา่ แมว่ ันทองช่างหมองมวล ไม่สมควรเคียงคกู่ บั ขุนชา้ ง

เออนเี่ น้ือเคราะห์กรรมนำมาผดิ น่าอายทิตรหมองใจไมห่ ายหมาง

๒.๔ สะทอ้ นเร่ืองจารีต ประเพณี ขนบธรรมเนยี ม

เป็นสิ่งที่ตกทอดกันมาอย่างยาวนานสำหรับเรื่องจารีต ประเพณี และขนบธรรมเนียม สิ่งอาจจะมี
การปรับไปตามยุคสมยั นัน้ ตามความเหมาะสม เช่น

ไปเพ็ดทลู เสยี ให้ทูลกระหมอ่ มแจ้ง ไมพ่ ักวอนดอกจะนอนอยดู่ ว้ ยกัน

น้องจะแตง่ บายศรีไวเ้ ชิญขวญั ไมเ่ ช่นนนั้ ฉันไม่เลยจะเคยตัว

๒.๕ สะท้อนเร่ืองความกตญั ญู การตอบแทนบุญคณุ

เป็นเร่อื งที่ถกู สอนกนั มาอย่างยาวนานสำหรบั เรื่องความกตัญญูการตอบแทนบุญคุณผู้ที่มีพระคุณกับ
เรา ไมว่ า่ จะเป็นเรือ่ งเลก็ หรอื เรือ่ งใหญ่ ถา้ เรามีโอกาสได้ตอบแทนเรากค็ วรทจ่ี ะทำมนั เชน่

จมนื่ ไวยสารภาพกราบบาทา ลูกมาผิดจริงหาเถยี งไม่

รกั ตัวกลวั ผิดแต่คดิ ไป ก็หกั ใจเพราะรักแมว่ นั ทอง

ทุกวนั นล้ี กู ชายสบายยศ พร้อมหมดเมียมิ่งก็มีสอง

มีบา่ วไพร่ใช้สอยทง้ั เงินทอง พี่น้องข้างพอ่ กบ็ ริบูรณ์

๒.๖ สะทอ้ นอำนาจของพระมหากษตั รยิ ์

สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถึงการมีพระราชอำนาจอันล้นพ้น แต่กท็ รงใช้พระราชอำนาจอย่างมีเหตุผลใช้ในทางท่ี
ถกู ตอ้ ง มทิ รงใชด้ ว้ ยอารมณ์ เช่น

ครานั้นพระองค์ทรงธรณนิ ทร์ หาไดย้ นิ วนั ทองทูลข้นึ ไม่

พระตรสั ความถามซักไปทนั ใด ฤๅมงึ ไม่รักใครให้วา่ มา

๓๖

จะรักชู้ชงั ผัวมงึ กลัวอาย จะอยดู่ ว้ ยลูกชายกไ็ มว่ ่า

ตามใจกูจะให้ดงั วาจา แตน่ เ้ี บ้ืองหนา้ ขาดเดด็ ไป

๓. ข้อคิดท่ีไดจ้ ากเร่อื ง

๑. ความกตญั ญเู ป็นเคร่ืองหมายของคนดี เราจงึ ควรมีความกตญั ญูตอ่ บิดามารดาผูท้ ี่ให้ กำเนิดเรามา

๒. การศกึ ษาเปน็ สิ่งสำคัญสมยั ก่อนเดก็ ผ้ชู ายจะเรยี นหนังสอื ท่วี ัด

๓. วดั เป็นสถานทผ่ี กู พนั กับชีวติ ของคนไทยตั้งแตอ่ ดีต จนถงึ ปจั จุบนั

๔. ในสมยั กอ่ นจะมีการมดั จกุ โกนจุกและนุ่งโจงกระเบนผกู ขวญั รบั ขวัญ

๕. ผ้ชู ายมกี ารถวายตัวเขา้ รบั ราชการ

๖. สมัยก่อนจะใช้สมนุ ไพรรักษาแผล และมีความเชอื่ ในสงิ่ ศกั ด์ิสิทธิ์

๗. สมัยก่อนเดนิ ทางโดยเทา้ และการขีม่ า้

๘. พ่อแม่ทกุ คนรักลูกและ ยอมเสียสละทุกอยา่ งเพื่อลูกได้

๓๗

บรรณานุกรม

ข้อมลู เกยี่ วกับเน้ือเรอ่ื งย่อ ขุนช้างขุนแผน.[ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก
https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/528 ( วันสบื ค้นข้อมลู ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๖๕ )

ข้อมลู เกี่ยวกบั ความเป็นมาเร่ืองขนุ ช้างขุนแผน.[ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก
https://www.sanook.com/campus/1401323/ ( วนั สืบคน้ ขอ้ มลู ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๖๕ )

ข้อมลู เกี่ยวกบั ประวัตผิ ้แู ต่งขุนชา้ งขุนแผน.[ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก
https://khunchangkhunphaen.wordpress.com/. ( วนั สืบค้นข้อมลู ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ )

ข้อมูลเกย่ี วกับเนื้อเรอ่ื งย่อ ขนุ ช้างขุนแผน ตอนขุนชา้ งถวายฎีกา.[ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก

http://www.thaigoodview.com/node/44585 ( วนั สืบค้นข้อมลู ๒๘ สงิ หาคม ๒๕๖๕ )

ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การวเิ คราะหต์ ัวละครในเร่อื งขนุ ชา้ งขุนแผน.[ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก
https://sites.google.com/site/khunphaen2557/taw-lar ( วันสืบคน้ ขอ้ มูล ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๖๕ )

ขอ้ มูลเกี่ยวกับลักษณะคำประพันธ์ขนุ ช้างขุนแผน.[ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก
https://sites.google.com/site/jamejabike/2-1laksna-kha-praphanth-1 ( วนั สืบคน้ ขอ้ มูล ๒๗ สิงหาคม
๒๕๖๕ )

ขอ้ มลู เกย่ี วกบั คุณคา่ ทางดา้ นวรรณศิลป์ขนุ ช้างขุนแผน.[ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก
https://sites.google.com/site/khunphaen2557/khun-a-thi-di-rab/khunkha-dan-wrrnsilp ( วันสบื ค้น
ขอ้ มูล ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๖๕ )

ขอ้ มลู เกี่ยวกับคุณค่าทางด้านเนื้อหาขนุ ชา้ งขุนแผน.[ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก
http://www.thaischool.in.th/_files_school/57010007/webboard/57010007_0_20131209-
152215.doc

http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1002418_example.pdf ( วนั สืบค้นข้อมูล
๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ )

ข้อมูลเกีย่ วกับคุณค่าทางด้านสังคมขุนช้างขนุ แผน.[ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก
https://sites.google.com/site/jamejabike/home/1-1-laksna-kha-praphanth/1-2-bth-
wikheraah?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&showPrintDialog=1 ( วันสบื คน้
ขอ้ มลู ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ )

๓๘

ภาคผนวก

ขัน้ ตอนการแบง่ หนา้ ที่

๓๙
ขนั้ ตอนในการทำงาน


Click to View FlipBook Version