The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนาระบบการขออนุญาตจัดกิจกรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by drseesmor, 2024-07-02 00:24:27

การพัฒนาระบบการขออนุญาตจัดกิจกรรม

การพัฒนาระบบการขออนุญาตจัดกิจกรรม

การพัฒนาระบบการขออนุญาตจัดกิจกรรมหรือพิ ธีการทางสังคมตาม ประเพณีนิยมในสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 แบบออนไลน์ ด้วย e-Signature นําเสนอโดยนายดํารงค์ สีระสูงเนิน ผู้อํานวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล(นักวิชาการ สาธารณสุขชํานาญการ)


ความเป็นมา และความสําคัญ จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม จังหวัดบุรีรัมย์ได้ออกคําสั่ง เรื่องการขออนุญาตจัดกิจกรรมหรือพิธีการทางสังคมตาม ประเพณีนิยม โดยให้งดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลรวมกันมากกว่าห้าสิบคน เว้น แต่การจัดกิจจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจํานวนไม่เกินห้าสิบคน ทําหนังสือแจ้งแผนการจัด กิจกรรม ยื่นต่อนายอําเภอในท้องที่ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด (ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์, 2564) พบว่า จากเดิมกระบวนขออนุญาต มี 4 ขั้นตอน คือ 1.) ผู้ขอจัดกิจกรรมเขียนแบบคําขอที่ สสอ./โรงพยาบาล/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล 2.) ขอความเห็นชอบจากผู้นําชุมชน 3.) รับคําแนะนําจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ 4.) เดินทางเพื่อไปขออนุญาตจากนายอําเภอ โดยต้องเดินทางมาติดต่อราชการด้วยตนเอง ใช้เวลาอนุมัติ 2-3วัน และเสียค่าใช้จ่าย 500-700บาท/ครั้ ง วัตถุประสงค์ พัฒนาระบบ การขออนุญาตจัดกิจกรรมหรือพิธีการทางสังคมตามประเพณีนิยมในสถานการณ์ การระบาดโรคโควิด-19 แบบออนไลน์ ด้วย e-Signature เพื่อลดระยะเวลารอคอย และอํานวยความ สะดวกแก่ประชาชนตามแนวทางการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี โดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ


ความเป็นมา และความสําคัญ(ต่อ)


ความเป็นมา และความสําคัญ(ต่อ)


Research Design : วิจัยและพัฒนา (Research and Development) ประชากร คือ - ผู้ประสงค์ขอจัดกิจกรรม 776 ราย - บุคลากรสาธารณสุข 20 ราย - เจ้าหน้าที่ปกครอง 4 ราย รวมทั้งสิ้น 790 ราย กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้ขอจัดกิจกรรมทุกราย บุคลากรสาธารณสุขทุกราย และเจ้าหน้าที่ปกครองที่ ให้บริการออกใบอนุญาตทุกราย ระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ถึง 31 พฤษภาคม 2565 ECโดยได้รับการรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ เลขที่ BRO 2020R-014 ผู้ประสงค์ขอจัดกิจกรรม, 776 บุคลากร สาธารณสุข, 20เจ้าหน้าที่ปกครอง, 4


เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลที่เกียวข้องกับการวิจัย ่ (Research Instruments for Data Collection) : 1. App. Google (Form, Sheets and Data Studio) 2. Web Site https://brm.moph.go.th/nongchaisri_pcu/index.html 3. App. Line Group 4. แบบสอบถามความพึงพอใจ และ ข้อเสนอแนะ ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงานการพัฒนา ระบบ e-Signatur 6. แบบบันทึกการประชุมกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน และผู้เกี่ยวข้อง 7. แบบบันทึกเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงาน 8. แบบสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงาน 9. กล้องถ่ายรูป


ดําเนินงานวิจัย 4 ขั้นตอน 1. วิเคราะห์และกําหนเความต้องการ (need assessment) วิเคราะห์ข้อมูลการขออนุญาตจัดงาน ปี 2563 จํานวน 117 ราย ด้านจํานวนเอกสาร ขั้นตอนการขออนุญาต การยื่นคําขอ และรับใบอนุญาต ระยะเวลาที่ใช้ ค่าใช้จ่ายในการ เดินทางและอาหาร และความพึงพอใจ ระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม 2563 (5 เดือน) 2. ออกแบบและพัฒนาระบบ e-Signature(design and development) เพื่อลดขั้นตอนบริการ เน้น บริการใกล้บ้าน หรือใช้บริการได้ทุกที่ ไม่ต้องเดินทางเข้าอําเภอ โดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาช่วยอํานวยความ สะดวก และลดระยะเวลารอคอย โดยพัฒนาระบบ ดังนี้ 1) การบันทึกข้อมูลใน Google Form


ดําเนินงานวิจัย 4 ขั้นตอน 2.) จัดเก็บข้อมูลด้วย Google Sheet


ดําเนินงานวิจัย 4 ขั้นตอน 3.) พิมพ์แบบคําขอ และหนังสือราชการ ด้วย Google Data Studio


ดําเนินงานวิจัย 4 ขั้นตอน 3.) พิมพ์แบบคําขอ และหนังสือราชการ ด้วย Google Data Studio


ดําเนินงานวิจัย 4 ขั้นตอน 3.) พิมพ์แบบคําขอ และหนังสือราชการ ด้วย Google Data Studio


ดําเนินงานวิจัย 4 ขั้นตอน(ต่อ) 4.) แชร์การใช้งานร่วมกันผ่าน web site 5.) เสนอเอกสารแบบ PDF file ผ่าน Group Line และ 6.) ลงนามด้วยระบบ e-Signature


ดําเนินงานวิจัย 4 ขั้นตอน(ต่อ) โดยมีการบูรณาการข้อมูลร่วมกันระหว่าง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และหน่วยบริการกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2563 (3 เดือน)


ดําเนินงานวิจัย 4 ขั้นตอน(ต่อ) 3. ทดลองใช้และขยายผล (try out and implementation) แบ่งการพัฒนาเป็น 2 ระยะ คือ 3.1) ระยะทดลองใช้ ที่ตําบลหนองชัยศรี เพื่อประเมินความสะดวก การเข้าถึงง่าย ลดขั้นตอนการเดินทาง ในการ ขอรับใบอนุญาต และความพึงพอใจ มีการปรับปรุงเป็นระยะ ๆ ระหว่างเดือนมกราคม -กันยายน 2564 (9 เดือน) 3.2) ขยายผลใช้ทั้งอําเภอหนองหงส์ ทําการประเมินความสะดวก ใช้งานง่าย และความพึงพอใจ ระหว่างเดือน ตุลาคม 2564-พฤษภาคม 2565 (8 เดือน) 4. ขยายผลและประเมินผลการพัฒนา (evaluation) โดยขยายผลการใช้ระบบทั้งอําเภอหนองหงส์เป็นปีที่ 2 และประเมินผลการพัฒนา โดยเก็บรวบรวมข้อมูล ถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาระบบ ร่วมกันระหว่าง ผู้แทนผู้ขออนุญาต เจ้าหน้าที่ปกครอง บุคลากรสาธารณสุข และคณะผู้วิจัย สรุปผลการพัฒนาระบบ เปรียบเทียบก่อนและ หลังการพัฒนา ด้านการลดระยะเวลารอคอย ด้านความพึงพอใจของผู้ขอใบอนุญาต บุคลากรสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ ปกครองผู้ออกใบอนุญาต เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสัมภาษณ์ โดยคณะผู้วิจัยเป็นผู้เก็บข้อมูลทั้งหมด วิเคราะห์ข้อมูลใช้ สถิติเชิงพรรณนา และ Chi-square ที่ α = 0.05 สระแก้ว ห้วยหิน ไทยสามัคคี เมืองฝ้าย หนองชัยศรี เสาเดียวสระทอง


ขั้นตอน และ วิธีการพัฒนาระบบ ระบบที่พัฒนาขึน้ Flow Chart รูปแบบใหม่การขออนุญาตจัดกิจกรรมหรือพิธีการทางสังคมตามประเพณีนิยม


ผลการศึกษา  df p-value ความพึงก่อน (2563)หลัง (2565)รวม พอใจจํานวนร้อยละจํานวนร้อยละจํานวนร้อยละ พึงพอใจ 71 60.68 649 98.48 720 92.78 211.742 1 <0.001 ไม่พึงพอใจ 46 39.32 10 1.52 56 7.22 รวม 117 39.00 659 61.00 776 100.00 0 200 400 600 พ.ศ. 117 257 402 2563 2564 2565 050 100 19 17 18 53 23 46 81 60 38 50 73 49 69 63 2564 2565 หลังการพัฒนา พบว่า ขั้นตอนการทํางานของเจ้าหน้าที่รับเรื่อง การขอเลขหนังสือราชการ ลดลงจากเดิม ประมาณ 30 นาที เหลือไม่เกิน 10 นาที สามารถลดระยะเวลาการรอคอยการอนุญาตจากนายอําเภอลดลงจากเดิม 2-3 วัน เหลือไม่เกิน 1 วัน ผู้ขอจัดกิจกรรม/ประชาชน มีความพึงพอใจ เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 60.68 เป็นร้อยละ 98.48 และแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ที่ p-value<0.001


อภิปราย สรุป และข้อเสนอแนะ รูปแบบที่พัฒนาขึ้นและได้ผ่านการทดลองใช้จริงแล้ว 2 ปี ประกอบด้วย หลักการ/หลัก วิชาการ มีโครงสร้างที่ชัดเจน มีเอกสารของระบบงานชัดเจนถึงวิธีปฏิบัติ มีคู่มือ และคําแนะนําการ ใช้งาน ที่ใช้ประชาชนเป็นศูนย์กลางตามแนวทางการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี ทําให้เจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบ บุคลากรสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ปกครองใช้เวลาในการทํางานลดลง เนื่องจากการบันทึกในระบบออนไลน์ สามารถพิมพ์แบบคําขอ และหนังสือนําส่งผู้เกี่ยวข้องได้ทันที สอดคล้องกับ อร่าม สกุลแก้ว(2) กล่าวว่าบุคคลคือปัจจัยหลักของความสําเร็จที่สําคัญในการ พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ค่าใช้จ่ายไปติดต่อราชการลดลง เนื่องจากไม่ต้องเดินทางเข้าอําเภอ เวลาในการอนุญาตจากนายอําเภอลดลง เนื่องจากการเสนอ แบบคําขอแบบออนไลน์ด้วยไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ลงนามด้วย e-Signature ความพึงพอใจ ของประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ เนื่องจากการดําเนินการให้บริการของเจ้าหน้าที่ รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปสถานที่เสี่ยงต่อการระบาดโรคโควิด -19 จึงเสนอให้มีการพัฒนาและ ขยายผลสู่การขออนุญาตกรณีอื่น ๆ เพื่อใช้กับประชาชนที่อยู่ห่างไกล ทุรกันดาร ให้เข้าถึงบริการ ที่สะดวก รวดเร็วขึ้ น เอกสารอ้างอิง 1.ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ บร 0032/ว 2931 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 เรื่อง ซักซ้อมความเข้าใจการจัดกิจกรรมหรือพิธีการทาง สังคมตามประเพณีนิยม 2.อร่าม สกุลแก้ว.แนวทางการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณ ของกองทัพอากาศ [หลักสูตรการ ป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 60], กรุงเทพฯ: วิทยาลัยป้องกัน ราชอาณาจักร; 2561.


ข้อเสนอแนะทั่วไป ในการนําสิ่งที่ได้จากการวิจัยครั้งนี้ไปใช้ประโยชน์ ควรนําแนวคิด แนวทาง และ วิธีการที่ได้ดําเนินการในการวิจัยครั้งนี้ * ไปเป็นบทเรียนตัวอย่างของการพัฒนาที่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ * สามารถนําไปใช้ในการวางแผนและการดําเนินการพัฒนาบุคลากร งาน หน่วยงาน องค์การ ต่าง ๆ ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ นําไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ของหน่วยงาน/ องค์การ อย่างมั่นคง และ ยั่งยืน ยิ่งๆขึ้น


ในการทําวิจัยเรืองใหม่ ่ ควรนําหลักการ และ วิธีการของการวิจัยและพัฒนา นี้ ไปใช้ในการเพิ่มคุณค่าจากสิ่งที่ได้จากการดําเนินงาน ในทุก ๆ กิจกรรม โดยใช้แนวคิด หลักการ และ วิธีการ ของ 1. การจัดการความรู้ (Knowledge Management: KM) 2. การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน (Sustainable Community Development) 3. การพัฒนาด้วย Public-Private-Partnership: PPP เน้นการใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการบูรณาการจากทุกภาคส่วนอย่างกลมกลืน


กิตติกรรมประกาศ งานวิจัยนี้สําเร็จลุล่วงได้ ด้วยความกรุณาของ นายแพทย์พิ เชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ นายอนุชา เรืองอมรวิวัฒน์ นายอําเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา นายประเสริฐ เก็มประโคน หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข สสจ.บุรีรัมย์ นายสราวุธ จําปาพันธุ์ สาธารณสุขอําเภอหนองหงส์ ผู้รับบริการทุกท่าน ที่เป็นผู้ให้ข้อมูล ที่ได้ให้โอกาส และ ให้การสนับสนุน ในการทําวิจัยในครั้งนี้


Click to View FlipBook Version