Art
History
ประวัติศาสตร์ศิลป์สากล
คำนำ
หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book)
เรื่องประวัติศาสตร์ศิลป์เพื่อนำไปใช้ในการเรียนรู้ส่วนนักเรียนจะได้ทราบ
ประวัติความเป็นมาการเรียนรู้การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ศิลป์
การจัดทำหนังสือเล่มนี้ขึ้นเพื่อศึกษาในเรื่องของประวัติศาสตร์ในยุคต่างๆ
ของศิลปะ เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจสามารถนำไปประยุกต์
ใช้ได้ในการจัดการเรียนการสอนต่อไปหากมีข้อผิดพลาดประการใดทาง
กลุ่มผู้จัดทำต้องขอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
คณะผู้จัดทำ
สารบัญ 1
2
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ 3
ศิลปะอียิปต์ 4
ศิลปะเมโสโปเตเมีย 5
ศิลปะกรีก 6
ศิลปะโรมัน 7
ศิลปะคริสเตียนยุคแรกและศิลปะไบเซนไทน์ 8
ศิลปะโรมาเนสก์ 9
ศิลปะโกธิค 11
ศิลปะเรเนซองส์ 13
ศิลปะบาโรก 14
ศิลปะโรโกโก 15
ศิลปะสมัยใหม่-ปัจจุบัน 16
อ้างอิง
ผู้จัดทำ
ศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์
แบ่งได้ออกเป็น 2 ยุค อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 30,000-10,000 ปี
1.ยุคหินเก่า
มนุษย์ได้เขียนภาพสีเเละขูดขีดบนผนังถ้ำเเละเพิงผาเป็นภาพสัตว์ การล่าสัตว์ การล่าสัตว์ เเละภาพ
ลวดลายเรขาคณิต มีจุดมุ่งหมายเพื่อเเสดงออกเกี่ยวกับวิธีชีวิตประจำวัน เเละเเสดงความสามารถในการ
ล่าสัตว์
ถ้ำลาสโกซ์ในฝรั่งเศษ ถ้ำอัลตามิราในสเปน
ภาพเหล่านี้มักระบายด้วยถ่านไม้เเละสีที่ผสมกับไขมันสัตว์ที่พบได้ทั่วไปในประเทศ
ฝรั่งเศสเเละภาคเหนือของสเปนที่มีชื่อเสียงมาก ได้เเก่ ถ้ำลาสโกในฝรั่งเศส ถ้ำอัลตามิราจ
ในสเปนยังมีการปั้นรูปด้วยดินเหนียว หรือเเกะสลักบนกระดูก เขาสัตว์ เเละงาช้าง เรื่องราว
ที่นิยมทำกัน ได้เเก่ เรื่องการล่าสัตว์ รูปสตรี ซึ่งอาจมีความหมายถึงการให้กำเนิดเป็นการ
เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับชนเผ่า
ประติมากรรมวีนัสเเห่งวิลเลนดอร์ฟ
2.ยุคหินใหม่
เริ่มรู้จักการเลี้ยงชีพโดยวิธีอื่นนอกจากการล่าสัตว์ นั่นคือการเกษตรกรรม มีการเลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช เริ่มอยู่รวม
กันเป็นกลุ่มก้อนมากขึ้น
เกษตรกรรมในยุคหินใหม่ Stonehenge
มีความเชื่อในเรื่องพระเจ้าและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง น้ำท่วม
นั้นเป็นเพราะพระเจ้าเป็นผู้กระทำ ซึ่งมีหลักฐานที่สำคัญ เช่น Stonehenge ในประเทศอังกฤษ
ศิลปะยุคอียิปต์
(2,650 ปีก่อนพ.ศ. - พ.ศ.510)
ชาวอียิปต์นับถือเทพเจ้า งานประติมากรรม สถาปัตยกรรมต่าง ๆ
จึงเกี่ยวข้องกับศาสนาและพิธีกรรมเป็นส่วนใหญ่
จารึกกระดาษปาปิรุส
สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมของอียิปต์จะมีลักษณะเป็นเสาและคาน เรียบง่ายและแข็งทื่อ สถาปัตยกรรม
สำคัญแห่งยุคคือการสร้างสุสาน มี 3 แบบ
พีระมิดของฟาโรห์โจเซอร์ 1) มัสบาตา
แห่งเมืองซัคคาร่า
เป็นที่เก็บศพของขุนนางและสามัญชน ทำด้วยอิฐหรือหิน
ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผนังด้านนอกทำมุม 75 องศา หลังคาแบนราบ
สร้างอยู่บนห้องเก็บศพใต้ดิน มีปล่องจากหลังคาลงสู่ห้องเก็บศพ รูปแบบ
อาจพัฒนามาจากมูลดินเหนือหลุมศพของสุสานในช่วงแรกๆ มาสตาบา
ถูกสร้างรวมกลุ่มอยู่รอบๆ พีระมิดของฟาโรห์
2) พีระมิด
สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่มีจุดยอดรวมอยู่ที่เดียวกัน โดยแต่ละด้านจะมี
ลักษณะเป็นสามเหลี่ยมประกอบ สร้างขึ้นเพื่อทำเป็นสุสานของฟาโรห์
ภายหลังถูกจัดเป็นเทวสถานเสียส่วนใหญ่
พีระมิดไอยคุปต์
3) หุบผากษัตริย์และหุบผาราชินี
เป็นสุสานฝังศพที่เจาะเข้าไปในผา
หุบผากษัตริย์ สุสานฟาโรห์
ศิลปะเมโสโปเตเมีย Zigurat
สวนลอยแห่งบาบิโลน
แบ่งออกได้เป็น 4 ยุค (ประมาณ50ปี ก่อนพ.ศ.-พ.ศ.510) สิงโตกำลังกัดเด็กหนุ่ม
1) ศิลปะยุคสุเมเรียน เสาหินวัวคู่
ประดับพระราชวังที่เมืองเปอร์เซโปลิส
มีความแตกต่างจากศิลปกรรมอียิปต์ คือ อียิปต์ใช้หินเป็นวัสดุ
ก่อสร้าง สุเมเรียนใช้อิฐเผาก้อนใหญ่ๆมาเรียงกันสถาปัตยกรรมส่วน
ใหญ่มีอิฐเป็นโครงสร้างหลัก สถาปัตยกรรมที่รู้จักกันมากที่สุดเรียก
ซิกูรัต เป็นหอสูงแบบตึกระฟ้า มีทางเดินบันไดวน เป็นสถานที่
สำหรับพิธีการทางศาสนา
2) ศิลปะยุคบาบิโลน
มีสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมาก คือสวนลอยแบ่งบาบิโลน โดยสร้าง
สวนให้สูงจากพื้นดิน ใช้อิฐซ้อนกันขึ้นไป วางผังลดหลั่นกัน มีความ
สลับซับซ้อน ตามซุ้มประตูต่างๆประดับด้วยภาพสลักมหึมา
ปัจจุบันสวนแห่งนี้ถูกทับถมปรักหักพังไปหมดแล้ว เหลือเฉพาะ
รากฐานบางส่วน
3) ศิลปะยุคอัสซิเรียน
ศิลปกรรมงานแกะสลักที่มีชื่อเสียง เป็นรูปสิงโตกำลังกัดเด็ก
หนุ่มพบในพระราชวังเมืองนิมรุดใสอัสเซีย ปัจจุบันงานชิ้นนี้ปัจจุบัน
ในพิพิธภัณฑ์บริติช กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประติมากรรม
ลอยตัวชิ้นสำคัญที่ติดตั้งตามทางเข้าพระราชวัง ขนาดใหญ่ เป็นรูป
สิงโตมีปีก สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ มีอาคารก่ออิฐเป็นโครงสร้าง
หลักเป็นรูปโค้งรับน้ำหนัก ใช้อิฐและหินก่อกำแพง ตกแต่งภายใน
ด้วยจิตรกรรมฝาผนังและกระเบื้องเคลือบรูปสิงโต
4) ศิลปะยุคเปอร์เซีย
โดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมที่มีการตกแต่งภายในอย่าง
สวยงาม มีงานประติมากรรมตกแต่งสถาปัตยกรรม ได้แก่
เสาหินวัวคู่ ประดับพระราชวังที่เมืองเปอร์เซโปลิส
ศิลปะยุคกรีก (500ปีก่อนพ.ศ. - พ.ศ.400)
ประติมากรรม
“ มนุษย์เป็นมาตรวัดสรรพสิ่ง “ เป็นความเชื่อเป็นรากฐานทาง
Winged Victory of Samothrace วัฒนธรรม ศิลปะส่วนมากเกี่ยวกับศาสนา สร้างเพื่อถวายเทพเจ้า
หรือ อนุสาวรีย์เทพีไนกี้แห่งซาโมเทรซ รูปปั้นในสมัยแรกๆ มีทรงคล้ายเรขาคณิต ต่อมาสมัยอาร์คาอิกมีการ
สร้างคล้ายมนุษย์มากขึ้น มีการแสดงท่าทางการเคลื่อนไหวที่สง่า
งาม มีการขัดถูพื้นผิวหินให้คล้ายมนุษย์จัดเป็นยุคคลาสสิคให้ความ
รู้สึกในความงามตามธรรมชาติ
สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมกรีกแบบพื้นฐาน2ใน3 เกิดในสมัย
อาร์คาอิกคือแบบดอริกและแบบไอโอนิกเสาแต่ละต้นมีคาน
พาดเสาถึงกันหมดในสมัยต่อมา เกิดสถาปัตยกรรมแบบ
โครินเธียนหัวเสามีรูปใบไม้ชาวกรีกนิยมสร้างอาคารใช้เสาสามชนิด
ผสมผสาน
ใช้โครงสร้างเสาและคาน มีแผนผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฐานอาคารยกเป็นชั้นๆ ฝาผนังไม่มีหน้าต่างเป็นที่
กั้นห้อง1-3ห้อง มีการสร้างเสาสลับช่วงกันอย่างมีจังหวะ ทำให้พื้นที่รอบๆมีความสว่างและรูปทรงเปิด
ขนาดไม่ใหญ่เกิน มีรูปทรงเรียบง่าย
The Parthenon Leaning Tower of Pisa
หรือ วิหารพาร์เธนอน หรือ หอเอนเมืองปิซา
วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ 447 ปีก่อคริสตกาล สร้างเสร็จในปีค.ศ. 1372
เพื่อบูชาเทพีอธีนา(Athena)เทพีแห่งสติปัญญา ใช้ระยะเวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี
โดยสร้างเป็นหอระฆังของศาสนาคริสต์
นิกายโรมันคาทอลิก
ศิลปะยุคโรมัน (พ.ศ.340-พ.ศ.870)
ปรากฏชัดเจนในช่วงพ.ศ.4 จนถึงพ.ศ.1040 ช่วงเวลาหลังได้เปลี่ยนสาระเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ
ศาสนาคริสต์ จนกรุงคอนสแตนติโนเปิลได้เป็นเมืองหลวงใหม่ของจักรวรรดิโรมันในปีพ.ศ.870 ทำให้สมัย
โรมันแห่งโรมันต้องสิ้นสุด
ประติมากรรม โรมันรับอิทธิพลมาจากชาวอีทรัสกันและกรีกแสดงลักษณะที่
ถูกต้องตามกายภาพ เป็นแบบอุดมคติที่เรียบง่ายแต่ดูเข้มแข็ง
ประติมากรรมที่นิยมคือประติมากรรม
รูปนูนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
ฉากกล่าวหาจาก Augustan Ara Pacis ส่วนมากเป็นรูปทรงพื้น โรมันเป็นชาติแรกที่ใช้คอนกรีตอย่าง
กว้างขวาง พัฒนาระบบเสาและคานสู่ระบบโครงสร้างวงโค้ง
สถาปัตยกรรม หลังคาทรงโค้ง หลังคาทรงกลมและหลังคาทรงกากบาท
เสาจะตั้งเป็นท่อนเดียวตลอด
Arco di Costantino
หรือประตูชัยของคอนสแตนติน อนุสาวรีย์ที่พบมากคือ ประตูชัย สิ่งก่อสร้างประดับตกแต่งด้วย
คำจารึกและรูปนูนที่อธิบายเหตุการ์ณอนุสรณ์
Pont du Gard หรือ สะพานส่งน้ำ Colosseum หรือ โคลอสเซียม
ใช้ส่งน้ำจากภูเขามาเมือง สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่
ใจกลางกรุงโรม
สถาปัตยกรรมช่วงพ.ศ.600-873 แสดงถึงความมั่นคั่งและอำนาจของจักรวรรดิโรมัน มีการตกแต่ง
ฟุ่มเฟือย มีการสร้างลานชุมนุมชาวเมือง โรงมหรสพ สนามกีฬา BASILICA
ศิลปะคริสเตียนยุคแรกและไบเซนไทน์
ศิลปะคริสเตียนยุคแรก
(พ.ศ.640-1040)
ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะโรมันสถาปัตยกรรมสมัยแรกเกี่ยวกับผู้ถูกฆ่าเรื่องศาสนา
เป็นอุโมงค์แบบที่หลบซ่อน ใน Catacombs บริเวณ และแต่ละอุโมงค์จะมีห้องเล็ก
เรียกว่าCatacombs ข้างกำแพงเจาะรูเป็นช่องเพื่อ ๆ ทำศาสนกิจโดยเฉพาะ เรียกว่า
เพื่อทำพิธีกรรมและฝังศพ บรรจุศพ เรียกว่า Loculi Cibicula
ศิลปะไบเซนไทน์
(พ.ศ.1040-1996)
คำว่า 'ไบเซนไทน์' เรียกตามชื่อจักรวรรดิไบเซนไทน์ที่มีกรุงสแตนติโนเปิลเป็นเมืองหลวง
ศิลปะไบแซนไทน์มีรากฐานจากศิลปะโรมันและคาบเกี่ยวกับคริสเตียนอยู่มาก
โบสถ์เซนต์มาร์ค ที่เวนิส สถาปัตยกรรม
อาคารในสมัยแรกนั้นจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ
ผู้ถูกฆ่าเรื่องศาสนาวิหารพิธีเจิมน้ำมนต์ผนังภายนอกอาคารจะถูก
ปล่อยไว้เรียบๆทื่อๆ
ผนังภายในอาคารจะประดับด้วยเศษหินสีแวววาว
กฎหมายจัสติเนียน จิตรกรรม
ทำบนฝาผนังและแผงไม้ ตลอดจน
ทำเป็นภาพประกอบเรื่องในหนังสือเขียนด้วยสีฝุ่น
สีขี้ผึ้งร้อนและสีปูนเปียกอย่างแห้งแสดงรูปคนกำลังสวดมนต์และภาพ
ปาฏิหารย์ตอนสำคัญของพระผู้เป็นเจ้าที่นำมาจากพระคัมภีร์เก่าและ
ใหม่
ศิลปะโรมาเนสก์ (พ.ศ.1540-พ.ศ.1740)
ศิลปะโรมาเนสก์หรือศิลปะนอร์มัน ในสมัยนั้นระบบอารามหรือสำนักสงฆ์ มีความนิยมมาก
จึงทำให้ศิลปะโรมาเนสก์เผยแพร่รวดเร็ว
สถาปัตยกรรม
มีการสร้างอารามขึ้นมาใหม่ทั่วยุโรป โรมาเนสก์เป็นศิลปะที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับคริสศาสนาให้
ศาสนาสนิกชนได้เห็นถึงแก่นของความเชื่อทางศาสนา
สถาปัตยกรรมโรมันเนสก์เป็นการก่อก่ออิฐฉาบปูน
มีหลังคาทรงโค้งกากบาทและมีลักษณะสำคัญคือ
1.มีความหนักแน่น ทึบคล้ายป้อมโบราณ
2. มีโครงสร้างวงโค้งอย่างโรมัน
3.มีหอสูง 2 หอหรือมากกว่านั้น
4.มีช่องเปิด ตาหน้าต่างหรือประตูทำเป็นโครงสร้างวงโค้งวางชิดๆกัน
5. มีหัวคานยื่นออกนอกผนังเป็นคิ้วตามนอนนอกอาคาร
มหาวิหารแซงต์ปิแยร์ 6.มีหน้าต่างแบบวงล้อ เป็นรูปวงกลมที่ถูกแบ่งออกเป็นซี่
แห่งอองกูเล็ม
ประติมากรรม
ส่วนใหญ่เป็นงานแกะสลักหินตามฝาผนังเหนือประตูหน้าต่าง
สถาปัตยกรรมเป็นเรื่องราว เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล เกี่ยวกับคริสต์ศาสนา
ใช้ลวดลายแบบเรขาคณิตแบบชนเผ่าเยอรมันโบราณ รูปแกะสลักมัก
ยาวไม่เหมือนจริง ซึ่งแตกต่างจากศิลปะกรีกและโรมันที่เน้นรูปทรง
สัดส่วนเหมือนจริง
จิตรกรรม รูปพระเยซูบนประตูทางเข้าโบสถ์แซงฟัง
ประเทศฝรั่งเศส
งานจิตรกรรมฝาผนังที่แสดงถึงเรื่องราวทางศาสนา
เขียนด้วยสีปูนเปียกตกแต่งผนัง ซึ่งปัจจุบันได้ถูกทำลายโดยดินฟ้า อากาศ
เสียหายเป็นส่วใหญ่ และได้รับการเขียนทับใหม่โดยศิลปินในสมัยต่อมา
ปรากฏอย่างชัดเจนในส่วนของเสื้อผ้า
ที่เป็นรอย ยับจีบคล้ายรูปเรขาคณิต การจัดวางท่าทางรูปคน
ให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ศิลปะโกธิค (พ.ศ. 1690 - 1940)
เริ่มต้นจากฝรั่งเศสปลายพุทธศตวรรษที่ 17 และแพร่หลาย
ไปยังประเทศอื่นๆ มีลักษณะตามภูมิภาคนั้นๆด้วยลักษณะสำคัญ
ของสถาปัตยกรรมแบบโกธิค คือมีผนังเปิดกว้างมีส่วนสูงเด่น
เป็นพิเศษและมีแบบที่เป็นลายเส้นอันซับซ้อนทุกส่วนล้วน
ประกอบเข้าด้วยกันคือเป็นสัญลักษณ์นิยมทางศาสนา
ศิลปะบนกระจกแก้ว
จิตรกรรม จิตรกรรมสมัยโกธิค มีพื้นที่เขียนภาพ
บนฝาผนังน้อยลง เพราะสถาปัตยกรรม มี
ช่องเปิดมากดังนั้นจึงมักเน้นไปที่การ
ออกแบบกระจกสีบานหน้าต่าง
ศิลปะที่เด่นแทนรูปเขียน ของศิลปะโกธิค คือ การประดับกระจกสีตามช่องประตู และหน้าต่างทำเป็น
ลวดลายต่างๆ รวมกันอยู่ภายในกรอบ เมื่อดูภาพจากช่องที่มีแสงสว่างผ่านก็จะคล้ายกับรูปภาพนั้นเขียนด้วย
แก้วสีทั้งหมด
สถาปัตยกรรม
ลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบโกธิค คือ มีผนังเปิดกว้าง มี
ส่วนสูงเด่นเป็นพิเศษและมีแบบที่ออกมา เป็นลายเส้นอันซับซ้อนทุกส่วน
ล้วนประกอบเข้าด้วยกันเป็นสัญลักษณ์นิยมทางศาสนา โครงสร้างหลังคา
เป็นโค้งแหลม ลักษณะต่างๆ เหล่านี้ จะหาดูได้จากมหาวิหารในฝรั่งเศส
เช่น คือ มหาวิหารนอเตรอดาม เดอ ปารีส
มหาวิหารนอเตรอดาม เดอ ปารีส
ศิลปะเรเนซองส์ (พ.ศ. 1940 - 2140)
คำว่า ''เรอเนซองส์'' หมายถึง การเกิดใหม่ ซึ่งเป็นการรำลึกถึงศิลปะ กรีกและโรมันที่เคยรุ่งเรืองให้
กลับมาอีก ศิลปะเรอเนซองส์ ไม่ใช่การลอกเลียนแบบจากอดีต แต่เป็นยุคสมัยแห่งการเน้นความสำคัญ
ลักษณะภายนอกของมนุษย์ และธรรมชาติแบบที่มีเหตุผลตวามรู้ทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการแขนง
ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็น ''ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ'' โดยมีรากฐานมาจากประเทศอิตาลี และแผ่ขยายไปยัง
ดินแดนต่างๆในยุโรป
สถาปัตยกรรม งานสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ในสมัยเรอเนซองส์ ได้แก่
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter) ในกรุงโรม เป็น
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ศูนย์กลางของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก วิหารนี้มีศิลปิน
ผู้ออกแบบควบคุมงานก่อสร้างและลงมือตกแต่งด้วย
ตนเอง ต่อเนื่องกันหลายคน
ได้แก่
คโด.ศน. า1โ4ต4บ0ร–าม1ัน5โ1ต4 ค.ศ.รา1ฟ48าเ3อล– 1520 คไ.ศม.เค1ิล47แ5อง–เจ1ล5โ6ล4 ค.โศจ.วั1น5นิ98เบ–อร1์น6ิน8ี0
จิตรกรรมและประติมากรรม
งานจิตรกรรมและประติมากรรมในสมัยเรอเนซองส์ ศิลปินสร้างสรรค์ใน
รูปความงามตามธรรมชาติ และความงามที่เป็นศิลปะแบบคลาสสิกที่เจริญ
สูงสุด ซึ่งพัฒนาแบบใหม่จากศิลปะกรีกและโรมัน การแสดงออกทางศิลปะมี
ความสำคัญในการพัฒนาชีวิต สังคม ศาสนาและวัฒนธรรม จัดองค์ประกอบ
ภาพให้มีความงาม มีความเป็นมิติ มีความสัมพันธ์กับการมองเห็นใช้เทคนิคการ
เน้นแสงเงาให้เกิดดุลยภาพ มีระยะตื้นลึก ตัดกันและความกลมกลืน
โมนาลิซ่า
ในยุคนี้มีศิลปินสำคัญเกิดขึ้นมากมาย เช่น
1.ลีโอนาร์โด ดา วินชี 2.ไมเคิล แองเจโล
3.ราฟาเอล 4.โดนาเทลโล
ผลงานลีโอนาร์โด ดา วินชี ไมเคิลแองเจโล ราฟาเอล โดนาเทลโล สถานภาพทางสังคมของ
ศิลปินเป็นที่ยอมรับกันอย่างสูงในวงสังคม และในยุคเรอเนซองส์นี้เองที่มีการพัฒนาการพิมพ์ขึ้นใน
ประเทศเยอรมันนีราวพุทธศตวรรษที่ 20 ทำให้ศิลปะการพิมพ์ได้เริ่มมีการสร้างสรรค์ขึ้นอย่าง
จริงจังนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ศิลปะบาโรก (พ.ศ. 2118- 2106)
คำว่าบาโรกมาจากภาษาโปรตุเกสที่แปลว่า รูปร่างของ
ไข่มุกที่มีสัณฐานเบี้ยว เป็นคำที่ใช้เรียกลักษณะงาน
สถาปัตยกรรม และจิตรกรรมที่มีการตกแต่งประดับประดา
และให้ความรู้สึกอ่อนไหว ศิลปะแบบบาโรคจะเน้นหนักไป
ทางธรรมชาติ แสดงความอ่อนไหว มีลวดลายประดิษฐ์มาก
ซับซ้อน
จัดได้ว่าเป็นยุคที่มีการสร้างสรรค์งานศิลปะเพื่อการแสดงออกที่เรียกร้องความสนใจมากเกินไป มุ่งหวัง
ความสะดุดตาราวกับจะกวักมือเรียกผู้คนให้มาสนใจศาสนา
การประดับตกแต่งมีลักษณะฟุ้งเฟ้อเกินความพอดี
สถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรมแบบบาโรก สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนในสมัยพระเจ้า
หลุยส์ที่14 ใช้เงินประมาณ 500 ล้านฟรังส์จุคนได้ประมาณ
10,000 คน เพื่อประกาศให้นานาประเทศเห็นถึงอำนาจและ
บารมีของพระองค์
พระราชวังแวร์ซาย(ค.ศ.1661-1691)
ศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคนี้
Peter Paul Rubens Rembrandt Van Rijn Gianlorenzo Bernini
ค.ศ.1577–1640 ค.ศ.1606 – 1669 ค.ศ.1598 – 1680
ผลงานที่มีชื่อเสียงในยุคนี้
สาวใส่ต่างหูมุก โจวันนิ เบอร์นินี
โยฮันเนิส ไรเนียส์โซน เฟอร์เมร์ GiovanniBernini, Ecstasy
of St Theresa,1647-1652
ภาพยามกลางคืน Marble, height 150 cm,
(In The Night Watch) Santa Maria della Vittoria,
โดย เรมบรานด์ท แวน ไรน์ Rome
รูเบนส์, A Garden of Love,
สีน้ำมันบนผ้าใบ ค.ศ.1632 – 34
ศิลปะโรโคโค (พ.ศ. 2243-2333 )
เป็นผลงานศิลปะที่สะท้อนความโอ่อ่า หรูหรา ประดับประดา ตกแต่งที่วิจิตร ละเอียดลออ เรื่องราวเกี่ยว
กับเทพนิยายโบราณ ความรื่นเริงยินดี ความรัก กามารมณ์
ประติมากรรม เป็นประติมากรรมหินอ่อน ที่ใช้ตกแต่งมีขนาดสูงเพียง 38
ซม.ลักษณะบ่งบอกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของกรีก-โรมันสมัยฟื้นฟูศิลปะ
และวิทยาการ จนถึงสมัยบาโรก ซึ่งนิยมแสดงออกในรูปแบบที่เลียนแบบ
จากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความกลมกลืนกับคตินิยม
ของสมัยโรโคโค โดยเฉพาะทางด้านเรื่องราวและการจัดท่าทางที่มุ่งหวัง
ทำให้เกิดความรู้สึกชื่นชมในสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้กับมนุษย์
แบจิอัส โดย Etienne Maurica Falconet
(ค.ศ.1760-1780)
อังตวน วัตโต,การเดินทางไปเกาะไซธีรา วิลเลียม โฮการ์ธ,
(A Pilgrimage to Cythera) (The Orgy Scence 3rd
ค,.ศ. 1717 สีน้ำมันบนผ้าใบ of the Rake’s Progress), ค.ศ. 1734
ศิลปินที่สำคัญ ได้แก่
Antoine Watteau Francoise Boucher Jean Honore Fragonard
ค.ศ.1684 – 1721 ค.ศ.1703 – 1770 ค.ศ.1732 – 1806
Jean Babtiste Simeon Chardin Sir Joshua Reynolds William Hogarth
ค.ศ.1699 – 1799 ค.ศ.1723 – 1792 ค.ศ.1697 – 1764
ศิลปะสมัยใหม่-ปัจจุบัน ตั้งเเต่กลาง พ.ศ.2300 เป็นต้นมา
เป็นงานที่มีลักษณะเป็นสากลเเละเป็นเเบบอย่างของเเต่ละคน
มากกว่าที่จะเป็นเเบบอย่างศิลปะเเห่งเเคว้น วัสดุเเละเทคนิคใหม่ ๆ
ทำให้รูปเเบบของศิลปะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
ศิลปะสมัยใหม่ ผลงานของปีกัซโซ
เน้นหนักที่ความคิดริเริ่มเป็นสำคัญ ลักษณะของงานศิลปะสมัยใหม่ทำให้เกิดสถาปนิกของโลก
ขึ้นมากมาย มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม มีการนำวัสดุเเละเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ใน
สถาปัตยกรรมมากขึ้น วัสดุที่ว่าเช่น กระจก เหล็ก เเละระบบการก่อสร้าง
ที่เรียกว่าระบบสำเร็จรูป ก่อให้เกิดรูปแบบใหม่ ยุคนี้ในช่วงเเรกเเกิดความก้าวหน้าการก่อสร้าง
สรุปได้ 3 ข้อ ดังนี้
1.การคลุมเนื้อที่มหาศาล
2.การเชื่อมต่อช่องว่างอันมหึมา
3.การเอื้อมขึ้นสู่ความสูงเสียดฟ้า
Empire State Building panoramic Sydney Opera House Sails
อ้างอิง
อนวัช กล้วยไม้ ณ อยุธยา, หนังสือคู่มือเตรียมสอบความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ, พิมพ์ครั้งที่3, สำนักพิมพ์ติว' Society , หน้า89-103
WESTERNARTSTORY.//2012.//ศิลปะไบแซนไทน์.//สืบค้นเมื่อ 16 ตุลาคม 2565,/
จาก https://westernartstory.wordpress.com/ยุคสมัยของศิลปะ/ศิลปะไบแซนไทน์/
NEWAGE INFORMATION HOMEWORE//2556.//ศิลปะโรมาเนสก์.//สืบค้นเมื่อ 16 ตุลาคม 2565,/
จาก http://sayamon19745.blogspot.com/2013/02/romanesque-art-romanesque-art-
11-12-13.html
ศิรดา ขันมณี//2556.//ศิลปะโกธิค.//สืบค้นเมื่อ 16 ตุลาคม 2565,/
จาก https://sites.google.com/a/samakkhi.ac.th/historyofart/yukh-klang-middle-
age/silpa-kothikh-gothic-art
ผู้จัดทำ
นางสาวธันยพร เอี่ยมรักษา 650610246 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาศิลปศึกษา
นางสาวยมลภัทร วงศ์สิทธิชัยกุล 650610247 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาศิลปศึกษา
นางสาวสายธาร ม่วงทอง 650610252 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาศิลปศึกษา
นางสาวกิ่งกมล ชาวนา 650610567 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาศิลปศึกษา
นางสาวปวันรัตน์ กองฤทธิ์ 650610571 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาศิลปศึกษา