The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ความเรียงขั้นสูงเรื่องวิธีการใช้งานถุงเครื่องราง

รายงานความเรียงขั้นสูง

รายงานความเรียงขั้นสูง เรื่อง เครื่องราง (omamori) : วิธีการใช้งานถุงเครื่องราง โดย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 7 เสนอ คุณครูรัตนาภรณ์ รังสิยานนท์ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการสื่อสารและการนำเสนอ รหัสวิชา I32201 โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ฯ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 นางสาวสมิตา อุ่นเรือน เลขที่ 6 นางสาวปุณยาพร เกิดพา เลขที่ 17 นางสาวข้าวขวัญ ปัดนาวาส เลขที่ 19 นางสาวปฏิมาภรณ์ สวัสดี เลขที่ 20 นางสาวพราวชมพู พฤกษาชัยพร เลขที่ 26 นางสาวมนัสนันท์ อุษณาสุวรรณกุล เลขที่ 27 นางสาวชนิตา บุญฟู เลขที่ 28 นางสาวพลอยลดา ทับกุล เลขที่ 35


รายงานความเรียงขั้นสูง เรื่อง เครื่องราง (omamori) : วิธีการใช้งานถุงเครื่องราง โดย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 7 เสนอ คุณครูรัตนาภรณ์ รังสิยานนท์ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการสื่อสารและการนำเสนอ รหัสวิชา I32201 โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ฯ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 นางสาวสมิตา อุ่นเรือน เลขที่ 6 นางสาวปุณยาพร เกิดพา เลขที่ 17 นางสาวข้าวขวัญ ปัดนาวาส เลขที่ 19 นางสาวปฏิมาภรณ์ สวัสดี เลขที่ 20 นางสาวพราวชมพู พฤกษาชัยพร เลขที่ 26 นางสาวมนัสนันท์ อุษณาสุวรรณกุล เลขที่ 27 นางสาวชนิตา บุญฟู เลขที่ 28 นางสาวพลอยลดา ทับกุล เลขที่ 35


ก. ชื่อเรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้าประกอบการเขียนความเรียงขั้นสูง เรื่อง วิธีการใช้งานถุงเครื่องราง ชื่อผู้จัดทำ นางสาวสมิตา อุ่นเรือน เลขที่ 6 นางสาวปุณยาพร เกิดพา เลขที่ 17 นางสาวข้าวขวัญ ปัดนาวาส เลขที่ 19 นางสาวปฏิมาภรณ์ สวัสดี เลขที่ 20 นางสาวพราวชมพู พฤกษาชัยพร เลขที่ 26 นางสาวมนัสนันท์ อุษณาสุวรรณกุล เลขที่ 27 นางสาวชนิตา บุญฟู เลขที่ 28 นางสาวพลอยลดา ทับกุล เลขที่ 35 บทคัดย่อ รายงานการศึกษาค้นคว้าประกอบการเขียนความเรียงขั้นสูง เรื่อง วิธีการใช้งานถุงเครื่องราง เครื่องรางนั้น ถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับยึดเหนี่ยวจิตใจของมนุษย์เมื่อไม่สบายใจหรือเจอกับปัญหา ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเล่มนี้ก็เพื่อที่จะทำให้ผู้คนที่กำลังสนใจหรือต้องการที่จะใช้งานเครื่องรางรู้ว่าควรจะ ใช้เครื่องรางหรือถุงเครื่องรางอย่างไรจึงจะถูกวิธี เเละเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับประเภทของเครื่องราง ข้อห้าม อายุการใช้งาน อีกทั้งการเลือกสีของเครื่องรางให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ก็เป็นส่วนหนึ่งในวิธีการใช้เครื่องรางโอมา โมริเช่นเดียวกัน ทำให้ได้ประโยชน์ทั้งในเรื่องของความสวยงามเเละถูกต้องตามวัตถุประสงค์ทั้งนี้ผลการศึกษาค้น พบว่า การบูชาเครื่องรางโอมาโมริได้อย่างถูกวิธี จะทำให้เครื่องรางสามารถทำหน้าที่ได้อย่างดีในฐานะที่พึ่งทางใจ ของเรา เราจึงรู้สึกมีกำลังใจมีความหวัง เเละดึงดูดพลังงานที่ดีเข้ามาในชีวิตของเรา ทำให้เมื่อใดที่เจอปัญหาก็จะ ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคนั้นไปได้


ข. กิตติกรรมประกาศ รายงานการศึกษาค้นคว้าประกอบการเขียนความเรียงขั้นสูง เรื่อง วิธีการใช้งานถุงเครื่องราง ในครั้งนี้ สำเร็จเรียบร้อยเนื่องจากได้รับคำปรึกษาจาก คุณครู รัตนาภรณ์ รังสิยานนท์ ในการตรวจสอบเนื้อหา และแก้ไข รูปแบบที่ถูกต้องของการจัดทำรายงานการศึกษาค้นคว้าประกอบการเขียนความเรียงขั้นสูง และขอขอบคุณเพื่อน ๆ สมาชิกในกลุ่มที่ให้ความร่วมมือในการเขียนความเรียงขั้นสูงฉบับนี้ คณะผู้จัดทำรายงานการศึกษาค้นคว้าประกอบการเขียนความเรียงขั้นสูง เรื่อง วิธีการใช้งานถุงเครื่องราง ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำ จนทำให้การเขียนความเรียงขั้นสูงนี้ประสบความสำเร็จ และบรรลุตาม วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เป็นอย่างดี


ค. คำนำ ในการเขียนเรียงความขั้นสูงเรื่อง วิธีการใช้เครื่องรางโอมาโมริ เป็นส่วนหนึ่งในวิชาการศึกษาเเละนำเสนอ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 เเผนการเรียนญี่ปุ่น จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการฝึกการเขียนความ เรียงขั้นสูง ในชั่วโมงเรียน เรื่อง การเขียนความเรียงขั้นสูง เเละจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับออนไลน์ รวมไปถึงการเพย เเพร่ความรู้ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้านความเชื่อในเรื่อง "เครื่องรางโอมาโมริ" ให้ผู้ที่มีความสนใจได้เข้ามาศึกษาเเละ สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม จากจุดประสงค์ที่ได้กล่าวไปข้างต้น คณะผู้จัดทำจึงเลือกหัวข้อวิธีใช้งานเครื่องรางโอมาโมริขึ้นมาจัดทำ รายงาน เเละหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เเก่ผู้อ่านทุกท่าน


ง. สารบัญ เรื่อง หน้า 1. บทคัดย่อ ก. 2. กิตติกรรมประกาศ ข. 3. คำนำ ค. 4. สารบัญ ง. 5. สารบัญตาราง จ. 6. สารบัญภาพ ฉ. 7. บทที่ 1 บทนำ 1 1. ที่มาและความสำคัญ 1 2. วัตถุประสงค์ 2 3. สมมุติฐาน 2 4. ขอบเขตการศึกษา 2 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 8. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3 1. ประวัติความเป็นมา เรื่อง สี 3-4 2. สีมงคล 5 3. ประเภทของเครื่องราง 6 4. วิธีใช้งานเครื่องราง 6 9. บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ 7 1. วัสดุ อุปกรณ์ เเละเครื่องมือการศึกษา 7 2. วิธีการดำเนินการ 7 10. บทที่ 4 ผลการดำเนินการ 8 11. บทที่ 5 สรุปผลและอภิปรายผล 9 1. สรุปผล 9 2. อภิปรายผล 9 12. บรรณานุกรม ช


จ. สารบัญตาราง ตาราง หน้า ตารางที่ 1 ตารางวิธีการดำเนินการ 7


ฉ. สารบัญรูปภาพ รูปภาพ หน้า รูปภาพที่ 1 ภาพกิโมโนหลายสี 4 รูปภาพที่ 2 ภาพสีakaneiro และ สีazukiiro 4 รูปภาพที่ 3 ภาพอดีตธงชาติของประเทศญี่ปุ่น 5


1 บทที่ 1 บทนำ 1. ที่มาและความสำคัญ เครื่องรางญี่ปุ่นเป็นเครื่องรางที่เริ่มเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ในกลุ่มของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็น ชาวยุโรป ชาวอเมริกัน หรือเเม้เเต่นักท่องเที่ยวชาวเอเชียเองก็เริ่มเรียกหันมาสนใจวัฒนธรรมเครื่องรางญี่ปุ่น เเละ ผู้คนส่วนมากยังไม่ทราบถึงวิธีการใช้เครื่องรางอย่างถูกต้อง ทั้งวัตถุประสงค์ในการใช้เครื่องรางเเต่ละประเภท หรือ สีมงคลต่างๆที่ควรเลือกใช้ ผู้คนมักเลือกสีของเครื่องรางตามความชอบส่วนบุคคลเเละลืมคิดถึงจุดประสงค์ที่สำคัญ ของเครื่องรางไป เครื่องรางจึงถูกใช้โดยไม่เกิดประโยชน์ที่ถูกต้องตามวัถตุประสงค์มากเท่าที่ควร เเละเเม้เเต่ชาว ญี่ปุ่นบางส่วนก็ยังเกิดความสับสนเเละเข้าใจผิดได้ กลุ่มผู้ศึกษาจึงเลือกศึกษาวิธีการใช้เครื่องรางโอมาโมริเพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลและความรู้ที่เกี่ยวกับ วิธีการใช้เครื่องรางโอมาโมริได้อย่างถูกต้องเพราะโอมาโมริมีหลายประเภท ควรใช้ตามวัตถุประสงค์ของผู้ซื้อที่ ต้องการนำไปใช้ในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะนำไปใช้เกี่ยวกับความรัก การเรียน หรือการทำงาน เป็นต้นฯ และ ยังได้รับ ข้อมูลที่เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องสีมงคลประจำวัน เดือน และปี ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถนำข้อมูลที่ได้กล่าวมา ในข้างต้นนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและสามารถเป็นความรู้ในการเลือกซื้อโอมาโมริหรือนำสีมงคลไป ประยุกต์ใช้กับการเลือกใช้สี เพื่อความโชคดี ให้สอดคล้องกับความต้องการที่จะนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องหรือถูก วัตถุประสงค์ของโอมาโมริ และยังสามารถเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจหรือมีกำลังใจในการทำความ ปราถนาของผู้ซื้อได้เช่นกัน จากกการเขียนเรียงความขั้นสูงฉบับนี้เกิดประโยชน์กับผู้คนที่ยังไม่ทราบวิธีการใช้งานอย่างแน่ชัด ผู้ที่อ่าน เอกสารฉบับนี้จะได้รับความรู้เพื่อใช้เครื่องรางได้ตรงตามวัตถุประสงค์และเครื่องรางจะทำหน้าที่ได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพในฐานะเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของมนุษย์ เพื่อใช้เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัย รู้สึกสบายใจต่อการ ดำรงชีวิตในปัจจุบัน มีเครื่องรางหลากหลายเประเภทแล้วแต่ที่จะนับถือ และต้องการที่จะบูชา ไม่ว่าจะเรื่อง การเงิน การเรียน การทำงานหรืออะไรก็ตามแต่ เมื่อต้องเจอกับปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่แก้ไขได้ และแก้ไขไม่ได้ หรือเป็น ปัญหาที่รุนแรง หลายคนอาจรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่มีกำลังใจ แต่ “หากเรามีสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจหรือที่พึ่งทางใจ จะช่วยให้เรามีกำลังใจ มีความหวัง ความกล้า สามารถเผชิญและผ่านพ้นปัญหาต่าง ๆ” ไปได


2 2. วัตถุประสงค์ 2.1. เพื่อให้ความรู้เเก่ผู้ที่มีความสนใจในเครื่องรางโอมาโมริของประเทศญี่ปุ่น 2.3. เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถใช้เครื่องรางได้อย่างถูกต้อง 3. สมมุติฐาน 3.1. ผู้คนที่สนใจสามารถรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องรางโอมาโมริได้มากยิ่งขึ้น 3.2. ผู้คนสามารถใช้เครื่องรางได้อย่างถูกต้อง 4. ขอบเขตการศึกษา 4.1 ประวัติความเป็นมา เรื่อง สี 4.2 สีมงคล 4.2.1 ความหมายของสี 4.2.2 สีมงคลประจำวัน 4.3 ประเภทของเครื่องราง 4.4 วิธีการใช้งานเครื่องราง 4.4.1 การนำไปใช้ 4.4.2 อายุการใช้งาน 4.4.3 ข้อห้าม 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เป็นวิทยาทานให้เเก่ผู้ที่ได้อ่านรายงานเล่มนี้ ที่เกี่ยวกับความเชื่อและวิธีการใช้ของเครื่องราง


3 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 1. ประวัติความเป็นมาเรื่องสีของญี่ปุ่น 伝統色(dentoushoku) สีดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ตามประวัติศาสตร์ที่ได้มีการบันทึกไว้ในช่วงยุคแรกสุดของ ญี่ปุ่นซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างข้อเท็จจริงและตำนานความเชื่อได้กล่าวถึงคำศัพท์เกี่ยวกับสีที่เก่าแก่ที่สุด 4 คำในภาษาญี่ปุ่น ได้แก่ 真 /あか(aka) หรือสีแดง , 黒/くろ(kuro)หรือสีดำ , 白/しろ(shiro) หรือสีขาว และ 青/ あお (ao) หรือสีฟ้า เมื่อเวลาผ่านไป คำศัพท์เกี่ยวกับสีแบบโบราณเหล่านี้ได้มีการพัฒนาให้มีความหมายถึง สีแดง สีดำ สีขาว สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นคำที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ร่องรอยของ 4 สีดั้งเดิมก็ยังคงสอดแทรกอยู่ใน ภาษาญี่ปุ่นสมัยใหม่ ทั้งสุภาษิตและนามสกุลส่วนใหญ่ของชาวญี่ปุ่นที่กล่าวถึงสี ก็มักจะมีคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ 4 สีนี้ ภูมิศาสตร์ก็มีความเกี่ยวข้องกับสีเช่นกัน เนื่องจากชื่อของสีดั้งเดิมในประเทศญี่ปุ่นมักเกี่ยวข้องกับพืชและสัตว์ พื้นเมือง โดยเฉพาะสีที่ใช้ทำสีและสีย้อม เช่นคำว่า 茜色 /あかねいろ (akaneiro) ซึ่งเป็นสีย้อมที่ได้จากรากของ พืชที่มีชื่อว่า Akane หรืออีกตัวอย่างหนึ่งที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินหรือใช้ก็คือ 小豆色/あずきいろ (azukiiro) หรือสีของถั่วอะซูกิ นอกจากเรื่องของภูมิศาสตร์แล้ว วัฒนธรรมภายในก็ถือเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสีของญี่ปุ่นได้ เช่นเดียวกัน โดยจุดเริ่มต้นระบบสีแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นย้อนไปถึงปี 603 เมื่อเจ้าชายโชโตโกะได้มีการจัดระบบทาง สังคม โดยกำหนดยศตามความดีความชอบ และมีการใช้สีบางสีเป็นสัญลักษณ์แสดงยศในสังคม นอกจากเรื่องของ สีที่เป็นสิ่งบ่งชี้ระดับของชนชั้นทางสังคมในยุคหนึ่งแล้ว สีต่างๆยังมีความเกี่ยวข้องเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับเรื่อง ของวัฒนธรรม และประเพณีด้วย เช่น หลายประเทศมักจะให้สีดำเป็นสีแห่งความมืดมด ความเศร้าโศก ในส่วน ของประเทศญี่ปุ่นก็เช่นกัน สีหลายๆสีมักเป็นตัวแทนและเกี่ยวข้องกับความเชื่อ อย่างสีแดงนั้นจะมีความเกี่ยวข้อง กับเรื่องของอำนาจและความมั่งคั่ง เช่น ดาบของซามูไรที่มีฝักสีแดง หวีประดับสีแดง หรือเกี่ยวกับเรื่องของศาสนา เสาโทริอิสีแดงของศาลเจ้าชินโต หรือตามธรรมเนียมเก่าแก่ ที่หญิงสาวของศาลเจ้าจะสวมชุดฮากามะสีแดง อีก หนึ่งสิ่งที่สีได้เข้ามามีอิทธิพลนั่นก็คือเครื่องแต่งกายประจำชาติที่ใครๆ ก็รู้จักอย่างกิโมโน สีที่แสดงบนชุดกิโมโน ไม่ใช่การเลือกใช้สีแบบสุ่ม แต่ละชิ้นที่นำมาประกอบเป็นกิโมโนล้วนผ่านการคิดและพิจารณาอย่างรอบคอบ แม้ทุก วันนี้เราจะสามารถเลือกซื้อเลือกใส่กิโมโนได้หลากหลายสีสันตามต้องการ แต่ในอดีต เกอิชาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่สวม ใส่ชุดกิโมโนเป็นประจำนั้นก็มีขนบในการแต่งกายตามสีแต่ละเดือนเช่นเดียวกัน


4


5 2. สีมงคล เป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่อดีตกาล ตามหลักของโหราศาสตร์ คล้ายกับการทำนายเพื่อหาฤกษ์ในการ เริ่มต้นทำสิ่งต่างๆ มีสีมากมายหลากหลาย แต่ละสีจะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่ผู้คนที่มีความเชื่อ เรื่องสีมงคล จะเน้นการแต่งกายตามสีมงคลประจำวันหรือแม้แต่การเลือกสีรถ สีกระเป๋า สีข้าวของเครื่องใช้ที่จะนำ ติดตัวไปด้วย รวมถึงสีเครื่องราง สามารถใช้สีที่มีโทนใกล้เคียงกันกับสีหลักได้ เชื่อกันว่าสีมงคลแต่ละสีแต่ละสีจะมี ความสัมพันธ์กับดวงดาวแต่ละดวง จนกลายเป็นดาวประจำวันเกิดตามที่ถือเป็นความเชื่อความเป็นสิริมงคลของแต่ ละบุคคลที่ยึดถือมาถึงปัจจุบัน สีแดงและสีขาว เป็นสีที่ใช้ในงานมงคลตามประเพณีของญี่ปุ่น และยังสามารถใช้ เพื่อแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่มที่ตรงข้ามกัน โดยสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ไร้ราคี และสีแดงเป็น สัญลักษณ์ของความหลงใหล ความมุ่งมั่น เด็ดขาด มีทฤษฎีกล่าวว่าความเชื่อเรื่องสีมงคลประจำประเทศญี่ปุ่น กำเนิดมาจากเซกิฮัง ตั้งแต่สมัยโบราณของญี่ปุ่นเมื่อมีการเฉลิมฉลองจะนิยมทำโมจิและหุงข้าวเซกิฮัง (ข้าวเหนียว ขาวที่ถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยถั่วแดง) โดยสีแดงมาจากสีของเซกิฮัง และสีขาวมาจากสีของโมจิ จึงอาจเป็นที่มาของสี แห่งความเป็นมงคลนี้ และยังมีอีกทฤษฎีคือ ในสมัยมุโรมาจิ กล่องสินค้าทั้งหมดที่นำเข้ามาจากจีนจะผูกด้วยเชือก ขาวแดง ซึ่งทางฝั่งประเทศจีนใช้เชือกนี้เพื่อแยกสินค้าส่งออกจากสินค้าอื่น ๆ แต่ฝั่งประเทศญี่ปุ่นเข้าใจผิดว่าการใช้ เชือกนี้เป็นธรรมเนียมในการส่งของขวัญ คนญี่ปุ่นจึงเริ่มนำเชือกขาวแดงมาใช้ในการส่งของขวัญจนกลายเป็นต้น กำเนิดของมิซุฮิกิ (เชือกขาวแดงสไตล์ญี่ปุ่น) และเชื่อมโยงสีขาวแดงให้เกี่ยวข้องกับความโชคดี และชาวญี่ปุ่นก็ คุ้นเคยกัน เนื่องจากไม่ได้เป็นเพียงสีมงคลเท่านั้น แต่ยังเป็นสีของธงชาติด้วยอีกด้วย


6 3. ประเภทของเครื่องราง แบ่งออกเป็น5ประเภท เสริมดวง , สมหวังในความรัก , ล้างซวย , ไล่ปีศาจ , ขจัดภัยพิบัติ และ เครื่องราง แบ่งย่อยอีกเป็น 10 ประเภท ปลอดภัยบนท้องถนน , แก้ชง , ปัดทุกข์, เสริมดวงเสริมโชคลาภ , ประสม ความสำเร็จในการศึกษา , สอบผ่าน , กิจการการค้ารุ่งเรือง , สมหวังในความรัก , คลอดบุตรปลอดภัย , ครอบครัว อยู่เย็นเป็นสุข จัดประเภทเครื่องรางเป็น 3 ประเภท พร้อมสรรพคุณกลุ่มเครื่องรางเสริม กลุ่มที่ 1 เครื่องรางเสริม กลุ่มนี้เสริมด้านต่างๆให้ไปในทางที่ดีขึ้น แบ่งคร่าวๆเป็น 4 ประเภท คือ เสริมดวง สมหวังในความรัก ประสบการ สำเร็จในการศึกษา กิจการรุ่งเรือง กลุ่มที่ 2 เครื่องรางกัน คือกลุ่มที่มีสรรพคุณต้านทานเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันต่างๆ แบ่งคร่าวๆออกเป็น 3 ประเภท ปลอดภัยบนท้องถนน คลอดบุตรปลอดภัย ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข กลุ่มที่ 3 เครื่องรางแก้กลุ่มนี้มีสรรพคุณบรรเทา ขจัดเหตุการที่เลวร้ายให้กลับมาเป็นปกติ แบ่งคร่าวๆออกเป็น 4 ประเภท คือ ล้างซวย แก้ชงปัดทุกข์ไล่ปีศาจ ขจัดภัยพิบัติ 4. วิธีการใช้ที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้รับพรอันศักสิทธิ์จากเครื่องราง ควรพกเครื่องรางโอมาโมริไว้ในกระเป๋า หรือ กระเป๋าสตางค์ ใน กรณีที่อยากตั้งไว้ที่บ้าน หรือ ชั้นวางของ ควรวางให้เห็นเครื่องรางโอมาโมริได้ชัดเจน ในตำแหน่งที่สูงที่สุดเท่าที่จะ เป็นไปได้ ไม่แนะนำให้วางไว้บนพื้นของบ้าน หรือ ห้องต่างๆ อายุการใช้งานของเครื่องรางโอมาโมริ มีหลายทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับอายุของเครื่องราง แต่แนะนำให้ เปลี่ยนทุกปีใหม่ หรือ เครื่องรางที่ซื้อมามีอายุครบ 1 ปีแล้ว สามารถนำไปเปลี่ยนที่ศาลเจ้า หรือ วัด ได้ทั่วประเทศ ญี่ปุ่น ไม่จำเป็นต้องคืนที่ศาลเจ้าเดิมที่ซื้อมา โดยจะมีกล่องใส่เครื่องรางอันเก่า หน้ากล่องจะเขียนไว้ว่า 古神符納 め所(kokamifuosame-sho) หรือ お焚き上げ希望(otakiagekibou) ซึ่งบางคนจะนำเงินที่มีมูลค่าเท่ากับ เครื่องรางที่ซื้อมา ใส่ไปพร้อมกับเครื่องรางที่จะคืนไปด้วย เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณต่อเครื่องรางที่ได้ดูแล ช่วยเหลือเรามา แต่ถ้าหากล่องใส่เครื่องรางไม่เจอ สามารถบอกเจ้าหน้าที่ว่า 古いお守りがあるのですが(furui omamori aru desuga) หากอยากคืนไปยังที่ที่เราซื้อมาแต่ไม่สามารถไปได้ สามารถส่งทางไปรษณีย์ได้ โดยระบุ หัวซองว่า お焚き上げ希望(otakiagekibou) แต่ควรสอบถามสถานที่นั้นก่อนว่าสามารถส่งคืนได้หรือไม่ ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องรางมาคือห้ามแกะดูของข้างในเครื่องรางเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าพลังของ เครื่องรางจะหายไปทันที


7 บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ 1. วัสดุ อุปกรณ์ เเละเครื่องมือการศึกษา 1.1. โทรศัพท์มือถือ 1.2. สืบค้นข้อมูลจากเเอพลิเคชั่นกูเกิ้ล 2. วิธีการดำเนินการ วัน/เดือน/ปี การดำเนินการ 10 พ.ย. 66 เลือกหัวข้อที่จะศึกษา เขียนโครงร่างความเรียงขั้นสูง 11 – 16 พ.ย. 66 สืบค้นข้อมูล 17 พ.ย. 66 ส่งโครงร่างความเรียงขั้นสูงครั้งที่ 1 20 พ.ย. – 10 ธ.ค. 66 แก้โครงร่างความเรียงขั้นสูงครั้งที่ 1 15 ธ.ค. 66 ส่งโครงร่างความเรียงขั้นสูงครั้งที่ 2 25 ธ.ค. 66 - 9 ม.ค. 67 แก้โครงร่างความเรียงขั้นสูงครั้งที่ 2 10 - 16 ม.ค. 67 ทำรูปเล่มรายงานความเรียงขั้นสูง ตรวจสอบความถูกต้อง 17 ม.ค. 67 ส่งรูปเล่มรายงานความเรียงขั้นสูง


8 บทที่ 4 ผลการดำเนินการ ผลการดำเนินการ พกเครื่องรางโอมาโมริไว้ในกระเป๋า หรือ กระเป๋าสตางค์ ในกรณีที่อยากตั้งไว้ที่บ้าน หรือ ชั้นวางของ ควร วางให้เห็นเครื่องรางโอมาโมริได้ชัดเจน ในตำแหน่งที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อายุการใช้งานของเครื่องรางที่ซื้อมา เมื่อมีอายุครบ 1 ปีแล้ว สามารถนำไปเปลี่ยนที่ศาลเจ้า หรือ วัด ได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น ไม่จำเป็นต้องคืนที่ศาลเจ้าเดิม ที่ซื้อมา โดยจะมีกล่องใส่เครื่องรางอันเก่า หน้ากล่องจะเขียนไว้ว่า 古神符納め所(kokamifuosame-sho) หรือ お 焚き上げ希望(otakiagekibou) ซึ่งบางคนจะนำเงินที่มีมูลค่าเท่ากับเครื่องรางที่ซื้อมา ใส่ไปพร้อมกับเครื่องรางที่ จะคืนไปด้วย เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณต่อเครื่องรางที่ได้ดูแลช่วยเหลือเรามา แต่ถ้าหากล่องใส่เครื่องรางไม่ เจอ สามารถบอกเจ้าหน้าที่ว่า 古いお守りがあるのですが(furui omamori aru desuga) หากอยากคืนไปยังที่ที่ เราซื้อมาแต่ไม่สามารถไปได้ สามารถส่งทางไปรษณีย์ได้ โดยระบุหัวซองว่า お焚き上げ希望(otakiagekibou) แต่ ควรสอบถามสถานที่นั้นก่อนว่าสามารถส่งคืนได้หรือไม่ ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องรางมาคือห้ามแกะดูของ ข้างในเครื่องรางเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าพลังของเครื่องรางจะหายไปทันที ชาวญี่ปุ่นได้พัฒนาสร้างสีแบบดั้งเดิมของตนเอง เรียกว่า เดนโตโชกุ ซึ่งยังคงเป็นที่รู้จักและใช้ใน ยุคปัจจุบันและโดยส่วนใหญ่การตั้งชื่อสีจะได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งที่อยู่รอบตัว เช่น เรื่องภูมิศาสตร์ วัฒนธรรมใน ญี่ปุ่นและวัฒนธรรมที่ได้รับมาจากต่างประเทศ ตามประวัติศาสตร์ที่ได้บันทึกเอาไว้ในช่วงยุคแรกของญี่ปุ่นได้เขียน ถึงคําศัพท์เกี่ยวกับสีที่เก่าแก่ที่สุด 4 คํา ในภาษาญี่ปุ่น ได้แก่ สีแดง (赤) , สีดํา(黒) , สีขาว(白) และ สีฟ้า(青) จาก ข้อความข้างต้น ภูมิศาสตร์ก็มีความเกี่ยวข้องกับสีเหมือนกัน เนื่องจากชื่อของสีดั้งเดิมในประเทศญี่ปุ่นมักเกี่ยวข้อง กับพืชและสัตว์พื้นเมือง โดยเฉพาะสีที่ใช้ทําสีและสีย้อม เช่น คําว่า อากะเนโระ ซึ่งเป็นสีย้อมที่ได้จากรากของพืช ที่ มีชื่อว่า อากะเนะหรือสีที่ตั้งตามชื่อสัตว์ เช่น หนู หรือ เนซุมิ ที่ใช้เพื่อแสดงโทนสีเทา ไม่ว่าจะเป็นสีเทาอมม่วง ( โบ โด เนะซุมิ ) หรือ สีเทาอมม่วงอ่อน (ฟุจิ เนซุมิ) วัฒนธรรมภายในประเทศก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อสีของญี่ปุ่น ได้เหมือนกัน ในปี ค.ศ. 603 เจ้าชายโชโตโกะได้มีการจัดระบบทางสังคม โดยกําหนดยศหรือตำแหน่งตามความดี ความชอบและมีการใช้สีบางสีเป็นสัญลักษณ์กำหนดชนชั้นในสังคม นอกจากเรื่องของสีที่เป็นสิ่งระบุชนชั้นทาง สังคมในยุคหนึ่งแล้ว สีต่าง ๆ ก็มีการเชื่อมโยงกับเรื่องของวัฒนธรรมและประเพณีด้วย หลาย ๆ สีเป็นตัวแทนและ เกี่ยวข้องกับความเชื่อ เช่น สีแดง จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของอํานาจและความมั่งคั่ง อย่างดาบของซามูไรที่มีฝักสีแดง , หวีประดับสีแดง หรือเกี่ยวกับเรื่องของศาสนาที่เห็นได้ชัดคือเสาโทริอิสีแดงของศาลเจ้าชินโต


9 บทที่ 5 สรุปผลและอภิปรายผล 1. สรุปผล ผู้อ่านได้รับความรู้เกี่ยวกับเครื่องรางโอมาโมริได้มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นวิธีการใช้เครื่องรางที่มีทั้งข้อห้าม วิธีการพก อายุการใช้งานของเครื่องราง , ประเภทของเครื่องราง , ประวัติความเป็นมาของสีและความหมายของสีต่างๆ และ ผู้อ่านได้รับความรู้วิธีการใช้เครื่องรางโอมาโมริที่ถูกต้องได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิธีการพก การตั้งไว้ในบ้าน ควรวาง ไว้ตำแหน่งไหนถึงจะดี หากเครื่องรางหมดอายุสามารถนำไปคืนที่ไหนได้บ้าง ข้อห้ามของเครื่องรางที่ไม่ควรทำเป็น อย่างยิ่ง ผู้อ่านสามารถนำความรู้ในรายงานนี้เพื่อใช้เครื่องรางโอมาโมริได้อย่างถูกต้องตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น 2. อภิปรายผล ปัญหาที่พบ เนื่องจากเครื่องรางโอมาโมริเป็นเครื่องรางของประเทศญี่ปุ่น ทำให้แหล่งข้อมูลที่เป็นภาษาไทยค่อนข้าง น้อยในการค้นหาข้อมูลและทำให้เรามีข้อมูลที่ไม่เพียงพอในการทำรายงานชิ้นนี้ แนวทางการแก้ไข ค้นหาแหล่งข้อมูลที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ทำให้ได้รับข้อมูลที่มีความหลากหลายและเพียงพอต่อการทำรายงาน ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ในการศึกษาเรื่อง “วิธีการใช้งานเครื่องรางโอมาโมริ” สามารถต่อยอดที่เกี่ยวข้องกับการพกเครื่องรางใน ชีวิตประจำวันและสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปให้ความรู้แก่บุคคลอื่นต่อได้


บรรณานุกรม 1.) องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น. (2559). สะสมเครื่องรางญี่ปุ่นกันเถอะ. สืบค้นเมื่อ 6 กันยายน 2566, จาก https://www.jnto.or.th 2.) อุษณีย์ ฉ่ำเฉื่อย. (2556). เครื่องราง (Omamori) : ความเชื่อนิยมของชาวอาทิตย์อุทัย (รายงาน-ผลการวิจัย). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร. 3.) TH Muzika. (2563). รู้จักเครื่องรางญี่ปุ่น โอมาโมริ ถุงเก็บโชคดีจากศาลเจ้าญี่ปุ่น (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 9 กันยายน 2566, จากhttps://travel.truid.net/detail/jlda6ldAJG0k


ญ. ผู้จัดทำ 1. ชื่อ สมิตา นามสกุล อุ่นเรือง ชื่อเล่น แพท อายุ 17 ปี วัน/เดือน/ปีเกิด 18 มีนาคม พ.ศ.2550 เบอร์โทร 0642801913 Email [email protected] ความคาดหวังในอนาคต คาดหวังให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์สูงสุดจากการอ่านความเรียงขั้นสูงฉบับนี้ และ นำไปต่อยอดได้หามีโอกาส ความรู้สึกในการทำความเรียงขั้นสูง ใช้ความอดทนสูงและต้องอาศัยความละเอียดอ่อนในทุกๆบรรทัด ความรู้สึกต่อวิชา IS เป็นวิชาที่มีประโยชน์ในการฝึกทักษะการทำรายงานต่างๆ และมีทักษะติดตัวก่อน ขึ้นมหาลัย


ญ. 2. ชื่อ ปุณยาพร นามสกุล เกิดพา ชื่อเล่น การ์ตูน อายุ17 ปี วัน/เดือน/ปีเกิด 5 ธันวาคม พ.ศ.2549 เบอร์โทร 0928129743 Email [email protected] ความคาดหวังในอนาคต หวังว่าผู้อ่านที่สนใจทุกท่านจะได้รับความรู้จากรายงานความเรียงขั้นสูงได้ดี ยิ่งขึ้น ความรู้สึกในการทำความเรียงขั้นสูง รู้จักความละเอียดอ่อนในการทำรายงานและการทำงานเป็นขึ้นตอน ความรู้สึกต่อวิชา IS เป็นวิชาที่ต้องใช้ความคิด และมีความสำคัญต่อในมหาลัยและอนาคต


3. ชื่อ ข้าวขวัญ นามสกุล ปัดนาวาส ชื่อเล่น ต้นข้าว อายุ17 ปี วัน/เดือน/ปีเกิด 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 เบอร์โทร 0958104248 Email [email protected] ความคาดหวังในอนาคต หวังว่าผู้ที่สนใจและได้อ่านรายงานความเรียงขั้นสูง ได้นำความรู้ไปศึกษาและ ต่อยอด ความรู้สึกในการทำความเรียงขั้นสูง เป็นการฝึกทักษะการเขียนความเรียงขั้นสูงเพื่อนำไปต่อยอดได้ใน อนาคต ความรู้สึกต่อวิชา IS เป็นวิชาที่ใช้ทักษะความคิดเยอะ และสามารถนำทักษะไปต่อยอดในอนาคตได้


4. ชื่อ ปฏิมาภรณ์ นามสกุล สวัสดี ชื่อเล่น คุกกี้ อายุ17 ปี วัน/เดือน/ปีเกิด 24 ตุลาคม พ.ศ.2549 เบอร์โทร 0835238560 Email [email protected] ความคาดหวังในอนาคต คาดหวังให้ผู้อ่านได้รับความรู้มากขึ้นจากการอ่านรายงานความเรียงขั้นสูงฉบับ นี้ ความรู้สึกในการทำความเรียงขั้นสูง ใช้ความรอบคอบ ละเอียดอ่อน และฝึกความอดทน ความรู้สึกต่อวิชา IS เป็นวิชาที่มีประโยชน์และให้ความรู้มากมาย


5. ชื่อ พราวชมพู นามสกุล พฤกษาชัยพร ชื่อเล่น พราว อายุ17 ปี วัน/เดือน/ปีเกิด 18 กันยายน พ.ศ.2549 เบอร์โทร 0623820407 Email [email protected] ความคาดหวังในอนาคต สำหรับผู้ที่ได้อ่านรายงานความเรียงขั้นสูงฉบับนี้จะสามารถได้รับความรู้มาก ยิ่งขึ้น และสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปต่อยอดได้ในอนาคต ความรู้สึกในการทำความเรียงขั้นสูง ช่วยฝึกฝนคิดวิเคราะห์ การใช้ภาษาทางการและการจัดหน้าให้เป็น ทางการมากขึ้น และฝึกการทำงานอย่างมีระบบ ความรู้สึกต่อวิชา IS เป็นวิชาที่มีประโยชน์มากมาย เพื่อนำความรู้ที่ได้รับมาไปใช้ต่อในมหาวิทยาลัยและ การทำงานของบริษัทต่างๆได้


6. ชื่อ มนัสนัท์ นามสกุล อุษณาสุวรรณกุล ชื่อเล่น หงส์ อายุ16 ปี วัน/เดือน/ปีเกิด 23 กรกฎาคม พ.ศ.2550 เบอร์โทร 0627042741 Email [email protected] ความคาดหวังในอนาคต คาดหวังให้ผู้ที่ได้อ่านทุกๆท่านจะสามารถใช้ความรู้ที่อยู่ในรายงานฉบับยี้ไปใช้ ประโยชน์อื่นๆได้ต่อไปในภายภาคหน้า ความรู้สึกในการทำความเรียงขั้นสูง ช่วยฝึกฝนกระบวนการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลอย่างมี ระบบ ความรู้สึกต่อวิชา IS เป็นวิชาที่เป็นประโยชน์และสามารถนำความรู้การเขียนรายงานไปต่อยอดในระดับ มหาลัยได้


7. ชื่อ ชนิตา นามสกุล บุญฟู ชื่อเล่น ปริม อายุ17 ปี วัน/เดือน/ปีเกิด 19 มกราคม พ.ศ.2550 เบอร์โทร 0649680592 Email [email protected] ความคาดหวังในอนาคต คาดหวังให้บุคคลที่กำลังศึกษาเรื่องวิธีการใช้เครื่องรางและผู้ที่อ่านรายงานความ เรียงขั้นสูงฉบับนี้ได้รับความรู้ได้อย่างเต็มที่ ความรู้สึกในการทำความเรียงขั้นสูง มีความรอบขอบ ความอดทน และความเป็นระเบียบเรียบร้อยใน การเขียนความเรียงขั้นสูง ความรู้สึกต่อวิชา IS เป็นวิชาที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานรายงานที่สามารถจดจำ และนำไปต่อยอดในวิชาอื่นๆได้ในอนาคต รวมถึงการทำรายงานในมหาลัย


8. ชื่อ พลอยลดา นามสกุล ทับกุล ชื่อเล่น ญดา อายุ17 ปี วัน/เดือน/ปีเกิด 4 ตุลาคม พ.ศ.2549 เบอร์โทร 0958104248 Email [email protected] ความคาดหวังในอนาคต คาดหวังให้ผู้ที่อ่านรายงานความเรียงขั้นสูงได้นำไปใช้ประโยชน์ ศึกษา และต่อ ยอดได้ในอนาคต ความรู้สึกในการทำความเรียงขั้นสูง ได้ฝึกความอดทน กระบวนการคิดอย่างมีขั้นตอน ความรู้สึกต่อวิชา IS จากการทำรายงานความเรียงขั้นสูงในครั้งนี้ ทำให้ได้รับความรู้มากมายจากการ เขียนรายงาน การวิเคราะห์ และการทำงานอย่างมีระบบได้มากยิ่งขึ้น


Click to View FlipBook Version