1 แผนนิเทศการพัฒนาครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ด้วยกระบวนการนิเทศแบบชี้แนะและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) เครือข่ายกลุ่มโรงเรียนยมจอมพระ ************************************* ส่วนที่ 1 บทนำ วิสัยทัศน์ การนิเทศและรูปแบบการนิเทศแบบร่วมคิด พาทำ เป็นผู้นำทางวิชาการ แบบ กัลยาณมิตร พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการศึกษาและการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาเพื่อพัฒนา คุณภาพผู้เรียนให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการและมีคุณลักษณะตามมาตรฐานการศึกษา สู่ศตวรรษที่ 21 พันธกิจ 1. ดำเนินการนิเทศที่เน้นการร่วมคิด พาทำ ความเป็นผู้นำทางวิชาการของศึกษานิเทศก์ เพื่อให้มีสมรรถนะตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพศึกษานิเทศก์ 2. การนิเทศแบบกัลยาณมิตรเพื่อพัฒนาการศึกษาและการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสำหรับครู 3. ส่งเสริมและพัฒนาครูที่จะส่งผลให้นักเรียนมีความรู้คู่คุณธรรม และมีคุณลักษณะตาม มาตรฐานการศึกษาสู่ศตวรรษที่ 21 ปณิธาน มุ่งมั่นพัฒนาการนิเทศ ร่วมพัฒนาครู สู่คุณภาพของผู้เรียน หลักการและเหตุผล ปัจจุบัน การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมีความสำคัญและมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน เป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสาร การศึกษา และการแสวงหาความรู้ ภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งใน รายวิชาหลักที่กำหนดให้นักเรียนทุกคนผ่านเกณฑ์การวัดผลประเมินผล เป็นสาระการเรียนรู้พื้นฐานซึ่ง กำหนดให้เรียนตลอดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและ เสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ประเด็นหนึ่งได้กล่าวถึงการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนอง ต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ มุ่งเน้นผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้และมีใจใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา ที่ สำคัญเป็นการสร้างระบบการศึกษาเพื่อเป็นเลิศทางวิชาการระดับนานาชาติ ดังนั้นภาษาอังกฤษจึงยังคง เป็นเครื่องมือสำคัญทั้งในปัจจุบันและอนาคตสำหรับนักเรียน ทั้งนี้เพื่อพัฒนาความรู้ทางภาษาของตนให้ ดียิ่งขึ้น อีกทั้งบุคลากรในทุกภาคส่วนควรมีส่วนร่วมสนับสนุนในทิศทางที่ดี บทบาทของครูและบุคลกร ทางศึกษาควรจะเติมเต็มให้นักเรียนใช้ภาษาอังกฤษได้ตามศักยภาพและพัฒนาสู่การเปลี่ยนแปลงใน ศตวรรษที่ ๒๑ บริบทของการเรียนภาษาอังกฤษควรตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลง ภาษาควรเรียนให้สนุก
2 เสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และใช้ภาษาได้สวยงามสละสลวยตามบริบท ครูควร เปลี่ยนรูปแบบการสอนและศึกษานิเทศก์ควรเติมเต็ม ส่งเสริมและชี้แนะเพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะทาง ภาษาที่ยั่งยืน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาวิธีการนิเทศ การพัฒนาครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษในการจัดการเรียนรู้ เชิงรุก (Active Learning) ด้วยกระบวนการนิเทศแบบชี้แนะและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) เครือข่ายกลุ่มโรงเรียนยมจอมพระ 2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในเครือข่าย กลุ่มโรงเรียนยมจอมพระ โดยใช้การนิเทศแบบ Coaching & Mentoring ส่วนที่ 2 วิธีดำเนินการนิเทศ ผู้นิเทศ นางสาวรัศมี มงคล ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ ผู้รับผิดชอบงานภาษาอังกฤษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 ผู้รับการนิเทศ ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ เครือข่ายกลุ่มโรงเรียนยมจอมพระ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาน่านเขต 2 กลุ่มเป้าหมายในการนิเทศ ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ เครือข่ายกลุ่มโรงเรียนยมจอมพระ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาน่านเขต 2 จำนวน 7 โรงเรียน ออกแบบการนิเทศ การนิเทศแบบชี้แนะและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) กระบวนการชี้แนะเป็นกระบวนการที่ช่วยให้บุคคลได้รู้จักช่วยเหลือตนเอง (Coaching is a process of helping people to help themselves) มีนักการศึกษานําเสนอกระบวนการชี้แนะที่ หลากหลาย เนื่องจากการชี้แนะมีกระบวนเฉพาะได้แก่ การชี้แนะทางปัญญา (Cognitive Coaching) การชี้แนะ การสอน (Instructional Coaching) เพื่อนชี้แนะ (Peer Coaching) กระบวนการชี้แนะ โดยทั่วไปมีขั้นตอนของ กระบวนการดังนี้ 1) ขั้นก่อนการชี้แนะ (Pre-Coaching) ก่อนดำเนินการชี้แนะ มีการตกลงร่วมกันเกี่ยวกับ ประเด็นหรือจุดเน้นที่ต้องการชี้แนะร่วมกัน เนื่องจากการดำเนินการชี้แนะเน้นไปที่การเชื่อมโยงความรู้ ไปสู่การปฏิบัติจริง เป็นการทำงานเชิงลึก (Deep Approach) ดังนั้นประเด็นที่ชี้แนะจึงเป็นจุดเล็ก ๆ แต่เข้มข้น ช่วยให้ เข้าใจอย่างลึกซึ้งแจ่มแจ้ง ช่วยคลี่ปมบางประการให้เกิดผลในการปฏิบัติได้จริง ใน กรณีการสอนกระบวนการ คิด มีประเด็นมากมายที่ต้องช่วยกันขยับขับเคลื่อนไปที่ละประเด็น เช่น การ
3 ใช้คําถามกระตุ้นคิดการใช้ กิจกรรมที่ช่วยให้คิดได้อย่างหลากหลาย การใช้ผังกราฟิก (Graphic Organizer) มาใช้ในการนําเสนอความคิด การช่วยให้นักเรียนอธิบายกระบวนการคิดกระบวนการ ทำงานของตนเอง ซึ่งในประเด็นเหล่านี้ก็ยังมีประเด็น ย่อย ๆ ที่ซ่อนอยู่มากมาย ทั้งผู้ชี้แนะและคุณครู แต่ละคนก็ต้องวางแผนร่วมกันว่าในแต่ละครั้งที่ดำเนินการ ชี้แนะนั้น จะชี้แนะลงลึกเฉพาะในเรื่องใด เรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ 2) ขั้นการชี้แนะ (Coaching) ในขั้นของการชี้แนะประกอบด้วยขั้นตอนย่อย 3 ขั้น คือ 2.1) การศึกษาต้นทุนเดิม เป็นขั้นที่ผู้ชี้แนะพยายามทาความเข้าใจวิธีคิดวิธีการทำงาน และ ผลที่เกิดขึ้นจากการทำงานของคุณครูว่าอยู่ในระดับใด เพื่อเป็นข้อมูลในการต่อยอดประสบการณ์ ในระดับที่เหมาะสมกับครูแต่ละคน ซึ่งในขั้นนี้อาจใช้วิธีการต่าง ๆ กันไปตามสถานการณ์ 2.2) การให้คุณครูประเมินการทำงานของตนเอง เป็นขั้นที่ช่วยให้ครูได้ทบทวนการทำงานที่ ผ่านมาของตนเอง โดยใช้ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่ผ่านมา ได้แก่ การสอนที่เพิ่งสอนจบไปแล้ว ชิ้นงานที่ นักเรียนเพิ่งทำเสร็จเมื่อสักครู่ มาใช้ประกอบการประเมิน ขั้นตอนนี้เป็นขั้นสำคัญขั้นหนึ่งที่พบว่า ครู ไม่ได้ตระหนักรู้ในสิ่งที่ตนเองสอนหรือกระทำลงไปนัก แต่ การที่จัดให้มีโอกาสได้ “นึกย้อนและสะท้อน ผล การทำงาน” ช่วยให้ครูได้ทบทวนและไตร่ตรองว่าตนเองได้ใช้ความรู้ความเข้าใจไปสู่การปฏิบัติ อย่างไร มีอุปสรรคปัญหาใดเกิดขึ้นบ้าง คําถามที่มักใช้กันในขั้นนี้มี 2 คําถามหลัก คือ อะไรที่ทำได้ดี จะ ให้ดีกว่านี้ถ้า 2.3) ขั้นต่อยอดประสบการณ์ เป็นขั้นที่ผู้ชี้แนะมีข้อมูลจากการสังเกตการณ์ ทำงานและฟัง ครูอธิบายความคิดของตนเอง แล้วจึงลงมือต่อยอดประสบการณ์ในเรื่องเฉพาะนั้นเพิ่มเติม ซึ่งผู้ชี้แนะ ต้องอาศัยปฏิภาณในการวินิจฉัยให้ได้ว่าคุณครูต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด หากไม่แน่ใจก็อาจใช้ วิธีการสอบถามขอข้อมูลเพิ่มเติม ในขั้นต่อยอดประสบการณ์มักมีการดำเนินการใน 2 ลักษณะ คือ 2.3.1) เมื่อพบว่าคุณครูมีความเข้าใจที่ผิดพลาดบางประการ หรือมีปัญหา ก็จำเป็นต้อง แก้ไข ปรับความรู้ความเข้าใจให้ถูกต้องและช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา 2.3.2) เมื่อพบว่าคุณครูเข้าใจหลักการสอนดี แต่ยังขาดประสบการณ์ในการ ออกแบบ การเรียนการสอน ก็จําเป็นเพิ่มเติมความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ 3) ขั้นสรุปผลการชี้แนะ (Post-Coaching) เป็นขั้นตอนที่ผู้ชี้แนะเปิดโอกาสให้ คุณครูได้ สรุปผลการชี้แนะเพื่อให้ได้หลักการสำคัญไปปรับการเรียนการสอนของตนเองต่อไป มีการวางแผนที่จะ กลับมาชี้แนะร่วมกันอีกครั้งว่าความรู้ความเข้าใจอันใหม่ที่ได้รับการการชี้แนะครั้งนี้จะเกิดผลในทาง ปฏิบัติ เพียงใด รวมไปถึงการตกลงร่วมกันเรื่องให้ความช่วยเหลืออื่นๆ เช่น หาเอกสารมาให้ศึกษา ประสานงานกับ บุคคลอื่นๆแนะนําแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม เป็นต้น เนื้อหา/ขอบข่ายการนิเทศ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน (Active Learning) ครอบคลุมวิธี การจัดการเรียนรู้หลากหลายวิธี เช่น - การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) - การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ (Experiential Learning) - การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) - การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)
4 - การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) - การเรียนรู้การบริการ (Service Learning) - การเรียนรู้จากการสืบค้น (Inquiry-Based Learning) - การเรียนรู้ด้วยการค้นพบ (Discovery Learning) ฯลฯ อย่างไรก็ตาม รูปแบบ วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เหล่านี้ มีพื้นฐานมาจากแนวคิดเดียวกัน คือให้ผู้เรียนเป็นผู้มีบทบาทหลักในการเรียนรู้ของตนเอง กลยุทธ์/รูปแบบการนิเทศ/เทคนิค/กิจกรรม ขั้นตอนการนิเทศ รายละเอียด รายละเอียดกิจกรรม ขั้นที่ 1 การวางแผนและ กำหนดเป้าหมาย (Planning) เป็นขั้นตอนที่ผู้ชี้แนะร่วมกับครู ในการวางแผน ร่วมกันกำหนด วัตถุประสงค์ ระบุตัวชี้วัด ความสำเร็จ และการให้ความรู้แก่ ผู้รับการชี้แนะ การอบรมให้ความรู้แก่ครู ขั้นที่ 2 การสังเกตและ ติดตามการปฏิบัติงาน (Observe and Mentoring) เป็นขั้นตอนที่ผู้ชี้แนะได้สังเกต และเก็บรวบรวมข้อมูลการปฏิบัติ ติดตามดูแลการใช้ยุทธวิธีและ การตัดสินใจ การนิเทศการปฏิบัติการสอนของ ครู ขั้นที่ 3 การวิเคราะห์และ ตรวจสอบ (Analyzing) ผู้ชี้แนะช่วยให้ผู้รับการชี้แนะได้ สรุปเหตุการณ์ต่าง ๆ ทบทวน ข้อมูล สนับสนุน เปรียบเทียบ วิเคราะห์ สรุปอนุมานและ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ สรุปความ ประทับใจ เปรียบเทียบวิเคราะห์ พิจารณาเหตุ-ผลของผลลัพธ์ที่ เกิดขึ้นกับที่คาดหวังไว้ ผู้นิเทศให้ครูได้สรุปความ ประทับใจ และตรวจสอบผลที่ คาดหวังกับผลที่เกิดขึ้นจริง ขั้นที่ 4 การถอดบทเรียน และสะท้อนคิด (Reflecting) เป็นการทบทวนกระบวนการ และผลของการเรียนรู้ว่ามี ประสิทธิภาพเพียงใด มีปัจจัย ใดบ้างที่ส่งผลต่อความสำเร็จ ปัจจัยใดบ้างที่เป็นอุปสรรคคือ อะไร ได้เรียนรู้อะไรบ้าง และมี ประเด็นที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขใน การเรียนรู้ครั้งต่อไปอย่างไร การสรุปและถอดบทเรียน
5 ขั้นที่ 5 การประยุกต์ใช้ (Applying) ผู้ชี้แนะได้ให้ผู้รับการชี้แนะสร้าง ความรู้ใหม่และการนำความรู้ไป ใช้ต่อ รวมถึงมีการกำหนดวิธีนำ การเรียนรู้ของตนไปประยุกต์ใช้ ผู้นิเทศให้ครูได้สร้างความรู้ใหม่ จากวิธีการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล (ตัวชี้วัดความสำเร็จ/วิธีการ/เครื่องมือ) จุดประสงค์ วิธีการ เครื่องมือ ตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPI) 1. เพื่อพัฒนาวิธีการนิเทศ ในการนิเทศการจัดการ เรียนรู้ การนิเทศการ จัดการเรียนรู้ แบบนิเทศติดตาม ครูผู้สอนใช้วิธีการ จัดการเรียนรู้ 2. เพื่อศึกษาผลการพัฒนา ทดสอบ แบบทดสอบทักษะ นักเรียนมีผลการ ทดสอบทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ หลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจ ของครูผู้สอน สอบถาม แบบสอบถาม ความพึงพอใจ ผลการสอบถามความ พึงพอใจอยู่ในระดับ มากขึ้นไป
6 เครื่องมือสำหรับการนิเทศ (สื่อ/นวัตกรรม/เทคโนโลยี) แบบนิเทศการพัฒนาครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้มีความรู้และทักษะ ในการจัดการ เรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในวิชาภาษาอังกฤษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 ------------------------------------------------------- ตอนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 1. ชื่อโรงเรียน.........................................อำเภอ.............................จังหวัด……………………………. 2. ชื่อ-สกุล ผู้อำนวยการโรงเรียน................................................................................................ 3. ชื่อ-สกุล ครูผู้สอน.......................................................................................................... ตำแหน่ง........................................ วิทยฐานะ......................................................................... ตอนที่ 2 รายการนิเทศติดตาม คำชี้แจง ผู้นิเทศประเมินคุณภาพครู โดยการศึกษาจากร่องรอยหลักฐาน สัมภาษณ์เด็ก สัมภาษณ์ครู และผู้อำนวยการโรงเรียน และสังเกตพฤติกรรมครูขณะปฏิบัติกิจกรรม เกณฑ์ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ 5 หมายถึง ครูสามารถจัดกิจกรรมได้มากที่สุด ระดับคุณภาพ 4 หมายถึง ครูสามารถจัดกิจกรรมได้มาก ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ครูสามารถจัดกิจกรรมได้ปานกลาง ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ครูสามารถจัดกิจกรรมได้น้อย ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ครูสามารถจัดกิจกรรมได้น้อยที่สุด ที่ รายการนิเทศ ติดตาม ระดับคุณภาพ ข้อมูล 5 4 3 2 1 เพิ่มเติม 1. การเตรียมความพร้อมก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.1 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีองค์ประกอบถูกต้องครบถ้วน 1.2 จัดสื่ออุปกรณ์การสอนครบถ้วน สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียน การสอน 1.3 จัดทำแบบประเมินผลการจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้ 1.4 มีการเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมของผู้เรียนกับความรู้ใหม่ 2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.1 จัดกิจกรรมสอดคล้องกับตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ 2.2 จัดกิจกรรมตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ 2.3 เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างทั่วถึง 2.4 จัดกิจกรรมให้นักเรียนฝึกปฏิบัติจนเกิดทักษะต่างๆ 2.5 ใช้เทคนิคการตั้งคำถาม นักเรียนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ที่ รายการนิเทศ ติดตาม ระดับคุณภาพ
7 5 4 3 2 1 ข้อมูล เพิ่มเติม 2.6 เลือกใช้เทคนิคการสอนที่ตอบสนองกับความต้องการของ นักเรียน 2.7 จัดกิจกรรมส่งเสริมนักเรียนที่เป็นกลุ่มเก่ง 2.8 เลือกใช้กิจกรรมซ่อมเสริมนักเรียนที่เป็นกลุ่มอ่อนเพื่อทันเพื่อน 2.9 ใช้การเสริมแรงตลอดการจัดการเรียนรู้ 2.10 ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนระหว่างเรียนอย่างต่อเนื่อง 3. การใช้สื่อเทคโนโลยี 3.1 สื่อเทคโนโลยีสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 3.2 สื่อเร้าใจและกระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้ 3.3 ครูใช้สื่อการสอนเหมาะสมถูกต้อง คุ้มค่า 4. การจัดบรรยากาศให้เอื้อต่อการเรียนการสอน 4.1 การจัดบรรยากาศให้เอื้อต่อการเรียนการสอน 4.2 กระตุ้นให้เกิดความสนใจในการเรียนรู้ผ่านสื่อเทคโนโลยี สารสนเทศ 4.3 ครูให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาแก่ผู้เรียน 4.4 ใช้เทคนิคหลากหลายในการควบคุมชั้นเรียน 5. การประเมินผล 5.1 ประเมินศักยภาพนักเรียนก่อนเรียน 5.2 ประเมินศักยภาพนักเรียนระหว่างเรียน 5.3 ประเมินศักยภาพนักเรียนหลังเรียน 5.4 ใช้เทคนิคการประเมินผลตามสภาพจริง 5.5 ผลการเรียนทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ ทักษะ และ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ตอนที่ 3 ปัญหา อุปสรรค ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ปัญหาและอุปสรรคของโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ข้อเสนอแนะ/ข้อคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………......................................................
8 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ข้อเสนอแนะ/ข้อคิดเห็นของครูผู้สอน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... การบันทึกผลการสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้และการบันทึกสภาพการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………...................................................... ลงชื่อ..........................................................ผู้นิเทศ (นางสาวรัศมี มงคล) วันที่...............................................
9 แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อการนิเทศ การพัฒนาครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้มีความรู้และทักษะ ในการจัดการเรียนรู้ เชิงรุก (Active Learning) ในวิชาภาษาอังกฤษ ข้อ รายการ ระดับความพึงพอใจ 5 4 3 2 1 1 ขั้นตอนการนิเทศไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย 2 การนิเทศ มีความถูกต้องและรวดเร็ว 3 ระยะเวลาในการนิเทศเหมาะสมกับสภาพงาน 4 ความชัดเจนในการอธิบาย ชี้แจง ในการดำเนินงานของครู 5 การนิเทศเป็นไปตามแผนการนิเทศและตามลำดับก่อน – หลังอย่างยุติธรรม 6 ศึกษานิเทศก์มีความสุภาพ เป็นมิตร 7 ศึกษานิเทศก์ดูแลเอาใจใส่ กระตือรือร้น เต็มใจให้บริการ 8 ศึกษานิเทศก์ให้คำแนะนำหรือตอบข้อซักถามเป็นอย่างดี 9 ศึกษานิเทศก์ให้คำอธิบายและตอบข้อสงสัยได้ตรงประเด็น 10 ศึกษานิเทศก์ดำเนินการนิเทศอย่างเป็นกลางไม่เลือกปฏิบัติ 11 มีสื่อและอุปกรณ์ เอกสารประกอบการนิเทศอย่างเพียงพอ 12 มีช่องทางเลือกการติดต่อสื่อสารหลายรูปแบบ 13 ได้รับการนิเทศที่ตรงตามความต้องการ 14 ได้รับการนิเทศครบถ้วน ถูกต้อง 15 มีความชัดเจนในการนิเทศ และให้คำแนะนำที่เป็น ประโยชน์ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ........................ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ............ ................................................................................................ ................................................................... ................................................................................................ ...................................................................
10 โครงการที่เกี่ยวข้องกับการนิเทศงาน การพัฒนาครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้มี ความรู้และทักษะ ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในวิชาภาษาอังกฤษ โครงการ “พัฒนาทักษะภาษาเพื่อการสื่อสาร (ภาษาอังกฤษ-จีน)” ผู้ติดต่อประสานงาน (contact person) ชื่อ – นามสกุล นางสาวสุพรรณิการ์ สุทธหลวง โทรศัพท์ 087-1838069 นางสาวรัศมี มงคล โทรศัพท์ 081-4482228 นางสาวปณิสรา วงสุยะ โทรศัพท์ 087-2090612 E-mail: [email protected] ส่วนที่ 1 ความเชื่อมโยง ความสอดคล้องกับแผน 3 ระดับ ตามนัยยะของมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 1.1 ยุทธศาสตร์ชาติ (แผนระดับที่ 1) ยุทธศาสตร์ที่ 3 : ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ (1) เป้าหมาย คนไทยเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิตใน ศตวรรษที่ 21 (2) ประเด็น การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต (3) การบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ การพัฒนาคุณภาพศึกษาให้เกิด คุณภาพนั้น คุณภาพของผู้เรียน เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดในการพัฒนาโดยมุ่งหวังและเชื่อมั่นว่าคุณภาพ ผู้เรียนจะเกิดขึ้นได้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการ เรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ศตวรรษที่ 21 และภาษาอังกฤษยังเป็นการเพิ่มขีด ความสามารถหรือเพิ่มคุณสมบัติของประชากรในประเทศไทย ให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของ ตลาดแรงงานมากขึ้นภาษาอังกฤษกับความสัมพันธ์ในการพัฒนาประเทศมีผลทั้งทางตรง และทางอ้อม กับด้านอื่นๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด เพราะฉะนั้นถ้าประชากรไทยรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นจะทำให้ประเทศไทย ของเราพัฒนาไปได้ดีในทุกๆ ด้านในอนาคต สภาพปัจจุบันของการจัดการศึกษาในสังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 2 ได้มีการพัฒนาด้านการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ตามแนวทาง BOOT CAMP และให้มีคุณภาพตามระดับความสามารถทางภาษา CEFR 1.2 แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (แผนระดับที่ 2) 1) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต (1) เป้าหมายระดับประเด็นของแผนแม่บทฯ เป้าหมาย คนไทยทุกช่วงวัยมีคุณภาพเพิ่มขึ้น ได้รับการพัฒนาอย่างสมดุล ทางด้านร่างกาย สติปัญญา และคุณธรรมจริยธรรม เป็นผู้ที่มีความรู้และทักษะในศตวรรษที่ 21 รักการ เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
11 • การบรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทฯ การพัฒนาคุณภาพศึกษาให้เกิด คุณภาพนั้น คุณภาพของผู้เรียน เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดในการพัฒนาโดยมุ่งหวังและเชื่อมั่นว่าคุณภาพ ผู้เรียนจะเกิดขึ้นได้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการ เรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ศตวรรษที่ 21 และภาษาอังกฤษยังเป็นการเพิ่มขีด ความสามารถหรือเพิ่มคุณสมบัติของประชากรในประเทศไทย ให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของ ตลาดแรงงานมากขึ้นภาษาอังกฤษกับความสัมพันธ์ในการพัฒนาประเทศมีผลทั้งทางตรง และทางอ้อม กับด้านอื่นๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด เพราะฉะนั้นถ้าประชากรไทยรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นจะทำให้ประเทศไทย ของเราพัฒนาไปได้ดีในทุกๆ ด้านในอนาคต สภาพปัจจุบันของการจัดการศึกษาในสังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 2 ได้มีการพัฒนาด้านการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ตามแนวทาง BOOT CAMP และให้มีคุณภาพตามระดับความสามารถทางภาษา CEFR (2) แผนย่อยของแผนแม่บทฯ การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น • แนวทางการพัฒนา จัดให้มีการพัฒนาทักษะด้านภาษา ศิลปะ และ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัดและความสนใจ โดยเน้นเด็ก และเยาวชนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ เน้นให้เกิดองค์ความรู้ได้ด้วยตัวเองตามความสนใจและความ ถนัดของผู้เรียน โดยผ่านการออกแบบการเรียนรู้ที่มีครูคอยเป็นผู้สนับสนุนและอำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้เรียน เพื่อให้การเรียนรู้สามารถตอบสนองความต้องการได้กับเด็กทุกกลุ่ม • เป้าหมายของแผนย่อย วัยเรียน/วัยรุ่น มีความรู้และทักษะในศตวรรษที่ 21 ครบถ้วน รู้จักคิด วิเคราะห์ รักการเรียนรู้ มีสำนึกพลเมือง มีความกล้าหาญทางจริยธรรม มี ความสามารถในการแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิผลตลอดชีวิตดี ขึ้น • การบรรลุเป้าหมายตามแผนย่อยของแผนแม่บทฯ การพัฒนาคุณภาพ ศึกษาให้เกิดคุณภาพนั้น คุณภาพของผู้เรียน เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดในการพัฒนาโดยมุ่งหวังและ เชื่อมั่นว่าคุณภาพผู้เรียนจะเกิดขึ้นได้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 โดยกระบวนการสู่ความสำเร็จนั้นต้องมีองค์ประกอบและปัจจัยคือ คุณภาพของ ผู้เรียนอันเป็นหลักประกันว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาได้สร้างความเชื่อมั่นให้ ผู้ปกครองและผู้มี ส่วนได้ส่วนเสียว่า ผู้เรียนจะต้องมีคุณภาพและมาตรฐานตามหลักสูตร มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และภาษาอังกฤษยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถหรือเพิ่มคุณสมบัติของประชากรในประเทศไทย ให้มี ความสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานมากขึ้นภาษาอังกฤษกับความสัมพันธ์ในการพัฒนา ประเทศมีผลทั้งทางตรง และทางอ้อมกับด้านอื่นๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด เพราะฉะนั้นถ้าประชากรไทยรู้ ภาษาอังกฤษมากขึ้นจะทำให้ประเทศไทยของเราพัฒนาไปได้ดีในทุกๆ ด้านในอนาคต สภาพปัจจุบัน ของการจัดการศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 2 ได้มีการพัฒนาด้าน
12 การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ตามแนวทาง BOOT CAMP และให้มีคุณภาพตามระดับความสามารถ ทางภาษา CEFR 1.3 แผนระดับที่ 3 (ระบุชื่อ) (ตามมติ ครม. วันที่ 4 ธันวาคม 2560) แผนที่สอดคล้อง 1. (ร่าง) แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566 – 2570) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แผนที่สอดคล้อง 2. แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ด้านนโยบายการศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม นโยบายและจุดเน้นกระทรวงศึกษาธิการ ด้าน การยกระดับคุณภาพการศึกษา นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านคุณภาพ ส่วนที่ 2 รายละเอียดโครงการ 2.1 หลักการและเหตุผล ในสังคมโลกปัจจุบันมีการเชื่อมต่อและสื่อสารกันอย่างรวดเร็วและทั่วถึงจากทุกมุมโลกผ่าน ระบบคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ภาษามีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องมือ ติดต่อสื่อสาร ที่สำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างกัน การศึกษาและการแสวงหาความรู้ด้านทักษะการ สื่อสารระหว่างกัน ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นดีขึ้น อีกทั้งเป็นการเรียนรู้และ เข้าใจความแตกต่างของภาษา และวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีระหว่างกัน อันจะช่วยให้การ สื่อสารบรรลุเป้าหมายตามจุดประสงค์ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่มีบทบาทสำคัญ และเป็นภาษากลาง ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารในระดับโลก ผู้คนใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างประชากรในประเทศต่างๆ ทั้งในส่วน ของการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ทำให้สื่อต่างๆ ที่เผยแพร่ในระดับนานาชาติ จะใช้ ภาษาอังกฤษทั้งสิ้นจากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่สองที่มีบทบาท และ ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการเรียนรู้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการสื่อสารระดับที่กว้างขึ้น หรือในระดับ นานาชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ภาษาอังกฤษกับการศึกษา สำหรับด้านการศึกษา ถือเป็นด้านที่สำคัญ อย่างมาก ไม่แพ้ด้านการติดต่อสื่อสาร เพราะปัจจุบันสถาบันการศึกษา และมหาวิทยาลัยในประเทศ ต่างๆ รวมถึงประเทศไทยเอง ได้พยายามปรับปรุงหลักสูตรการศึกษา ให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นหลักสูตรที่เป็นภาษาไทยเองมีการนำเอาความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษเข้ามาประยุกต์ใช้มาก ขึ้น และมีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ English Program หรือ Mini English Program และ นอกจากนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทย ยังได้ส่งเสริมให้นักเรียนเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ
13 ตั้งแต่ระดับอนุบาล เพื่อเตรียมความพร้อม และให้ตัวนักเรียนได้มีความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษดีขึ้น เมื่อเข้าเรียนในระดับสูงดังนั้นภาษาอังกฤษจึงจะมีผลอย่างมากต่อการศึกษาต่อต่างประเทศ การเรียนใน สถาบันนานาชาติในประเทศไทย หรือในภาคส่วนของการศึกษาด้านการแพทย์ และด้าน STEM คือ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (Science, Technology, Engineering, and Mathematics) เพราะข้อมูล หนังสือ วารสาร และงานวิจัยทางวิชาการของสาขาเหล่านี้มักจะเป็น ภาษาอังกฤษแทบทั้งสิ้น เพื่อให้นักวิชาการในระดับนานาชาติอ่านได้ และเป็นการง่ายในการนำไปต่อ ยอดความรู้ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีภาษาจีนที่เป็นภาษาต่างประเทศที่สำคัญที่เป็นภาษาที่ใช้สื่อสาร รองจากภาษาอังกฤษ เนื่องจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประเทศจีนเริ่มเข้ามามีบทบาททางเศรษฐกิจโลกในด้านการลงทุน ซึ่ง ประเทศไทยในปัจจุบันนั้นภาษาจีนได้เข้ามามีบทบาทต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การติดต่อธุรกิจค้าขาย หรือการร่วมทุนกับนักธุรกิจชาวจีนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ความต้องการ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในภาษาจีนเพิ่มมากขึ้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 เป็นหน่วยงานทางการศึกษาที่ รับผิดชอบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดการศึกษาในระดับปฐมวัย – ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 และ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 (โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา) โดยมีบทบาทในการส่งเสริม สนับสนุน กำกับ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดให้มีคุณภาพ และอีกทั้งในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสมาคมอาเซียน และจังหวัดน่าน เป็นจังหวัดในภาคเหนือที่อยู่ติดชายแดน ไทยที่มีภูมิประเทศติดกับประเทศลาว และใกล้กับประเทศจีนซึ่งเราควรจะต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของ คน เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในด้านการศึกษาจำเป็นจะต้องเตรียมครู นักเรียนและสถานศึกษา เพื่อให้มีคุณภาพในการเข้าร่วมกับประชาคมอาเซียนต่อไป ดังนั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาน่าน เขต 2 จำเป็นจะต้องเตรียมการพัฒนาคุณภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เป็นสากล The Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) เป็นกรอบความคิดหลักในการจัดการเรียนการ สอนภาษาอังกฤษของประเทศไทย และจัดทำหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนให้มี ประสิทธิภาพและเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ทักษะภาษาจีนในการสื่อสารในชีวิตประจำวันเพื่อ เตรียมความพร้อมและสร้างความเข้มแข็งสู่การพัฒนาอาชีพของตนเองอย่างเข้มแข็งในอนาคตต่อไป สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาทักษะภาษา เพื่อการสื่อสาร (ภาษาอังกฤษ-จีน) ประจำปีงบประมาณ 2566 ขึ้น เน้นให้มีการพัฒนาบุคลากร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 2 ผู้บริหารโรงเรียน ครูผ่านเครือข่าย PEER Center จัดการเรียนรู้ตามแนว Active Learning เพื่อให้สามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการ สื่อสารได้ และจัดทำหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนเพื่อการสื่อสารเพื่อใช้ในสถานศึกษา
14 2.2 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามกรอบ CEFR ให้กับบุคลากรครู และนักเรียนสังกัด สพป. น่าน เขต 2 2. เพื่อจัดทำหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนเพื่อการสื่อสารเพื่อใช้ใน สถานศึกษาและพัฒนาคุณภาพครูผู้สอนในสถานศึกษาให้มีศักยภาพในการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้เรียน ตามหลักสูตรภาษาจีน การพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล รวมทั้งเทคนิคหรือ นวัตกรรมการสอนใหม่ ๆ จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน 2.3 เป้าหมาย 2.3.1 เชิงผลผลิต(Output) - บุคลากรครูและนักเรียนได้รับการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามกรอบ CEFR - ผู้บริหารการศึกษา ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ-จีน ศึกษานิเทศก์ บุคลากรทางการ ศึกษาที่เกี่ยวข้องและวิทยากรด้านการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ-จีน 2.3.2 เชิงผลลัพธ์(Outcome) - บุคลากรครูและนักเรียนได้รับการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารตามกรอบ CEFR - ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนภาษาจีน มีการพัฒนาการบริหารจัดการ หลักสูตร และเทคนิค วิธีการจัดการการสอนภาษาอังกฤษ-จีน เพื่อการสื่อสาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ผู้บริหารการศึกษา ศึกษานิเทศก์และบุคลากรทางการศึกษา มีความตระหนัก ในการส่งเสริมพัฒนาการนิเทศและติดตามการจัดเรียนการสอนภาษาอังกฤษ-จีน เพื่อการสื่อสาร 2.4 ตัววัดความสำเร็จ(KPIs) 2.4.1 บุคลากรครูได้รับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ-จีน เพื่อการสื่อสาร 2.4.2 นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ-จีน เพื่อการสื่อสาร 2.4.3 สถานศึกษามีหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร 2.5 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 2.5.1 นโยบายการพัฒนาภาษาอังกฤษ-จีน ในโรงเรียนมีการกระตุ้นให้ส่งเสริมมากขึ้น 2.5.2 บุคลากรครูและนักเรียนมีทักษะการพัฒนาภาษาอังกฤษ-จีนเพื่อการสื่อสารมาก ขึ้น 2.5.3 สถานศึกษามีหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร 2.6 กลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับผลประโยชน์ 2.6.1 นักเรียน
15 2.6.2 ครู 2.6.3 ผู้บริหารโรงเรียน 2.7 ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตุลาคม 2565 - กันยายน 2566 2.8 แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ วงเงินงบประมาณที่ดำเนินการ 27,000 บาท แผนการปฏิบัติงาน (กิจกรรม) แผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ไตรมาสที่ รวม 1 ไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 ไตรมาสที่ 4 1. กิจกรรมพัฒนาการสอนภาษา อังกฤษเพื่อการสื่อสาร 1.ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานศูนย์ Peer ค่าอาหารและอาหารว่าง 35 คน x 120 บาท =4,200 บาท 2.กิจกรรมอบรมสร้างสื่อ ภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสาร ครูแกนนำ 50 คน ค่าอาหารและ อาหารว่าง 120x50=6,000 ค่าเอกสาร 2,000 บาท 3. การนิเทศติดตาม การพัฒนาทักษะ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เบี้ยเลี้ยงการนิเทศฯ - ออกนิเทศโรงเรียนจำนวน 6 วัน วันละ 120 บาท จำนวน 3 คน 4. การประกวดโรงเรียนส่งเสริม ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร - ค่าอาหารและอาหารว่าง คณะกรรมการตัดสิน 10 คน x 120 บาท =1,200 บาท รางวัล 4,200 บาท 5. การจัดสอบ CEFR แบบ CEPT Cambridge ผู้สมัครสอบลงทะเบียนเอง 4,200 8,000 2,160 5,400 4,200 8,000 2,160 5,400
16 แผนการปฏิบัติงาน (กิจกรรม) แผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ไตรมาสที่ รวม 1 ไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 ไตรมาสที่ 4 7.รายงานผลการดำเนินโครงการ จัดทำเอกสาร 240 บาท 240 240 รวม 4,200 10,160 5,640 20,000 แผนการปฏิบัติงาน (กิจกรรม) แผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ไตรมาส รวม ที่ 1 ไตรมาส ที่ 2 ไตรมาส ที่ 3 ไตรมาส ที่ 4 2. กิจกรรมการจัดทำหลักสูตร การจัดการ เรียนการสอนภาษาจีน เพื่อการสื่อสาร 1. ประชุมปฏิบัติการจัดทำและพัฒนาหลักสูตร การจัดเรียนการสอนภาษาจีน - ค่าอาหารและอาหารว่าง (1วันx120 x 20 คน) = 2,400 - ค่าวัสดุอุปกรณ์ 1,000 บาท - ค่าเอกสาร 500 บาท รวมทั้งหมด 3,900 บาท 2. การนิเทศติดตามโรงเรียนที่จัดการเรียนการ สอนภาษาจีน จำนวน 5 วัน - ค่าเบี้ยเลี้ยงการลงพื้นที่ 5x120x3 = 1,800 รวมทั้งหมด 1,800 บาท 3,900 1,800 3,900 1,800
17 แผนการปฏิบัติงาน (กิจกรรม) แผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ไตรมาส รวม ที่ 1 ไตรมาส ที่ 2 ไตรมาส ที่ 3 ไตรมาส ที่ 4 3. การประกวดการนำเสนอคลิปวิดีโอหัวข้อ “โรงเรียนของฉัน 我的学校” ภายในเวลา 3-5 นาที - ค่าอาหารและอาหารว่างกรรมการ (1 วัน x120 x 5 คน) รวม 600 บาท - ค่าเอกสาร 400 บาท รวมทั้งหมด 1,000 บาท 4.รายงานผลการดำเนินโครงการ จัดทำเอกสาร 300 บาท 1,000 300 1,000 300 รวม - - 5,700 1,300 7,000 รวมทั้งสิ้น 27,000 หมายเหตุ : งบประมาณประเภทงบดำเนินงาน หมวดค่าตอบแทน ค่าใช้สอยและวัสดุ (ถัวจ่ายทุก รายการ)