1
ก
คํานํา
พืชผักถือวาเปนอาหารที่มีความสําคัญ และมีประโยชนตอการดํารงชวี ิตใหอยูรอดของมนุษย เนื่องจากผัก
เปนอาหารที่มคี วามสําคัญตอรางกาย ซงึ่ ประกอบดว ยเซลลโู ลสจํานวนมาก มีประโยชนใ นการชวยการระบายทําให
ไมเปนโรคทองผูก รดิ สดี วงทวาร และมะเร็งลาํ ไสนอกจากน้ีสารอาหารทีส่ ําคัญที่มีในพชื ผกั ประกอบดวย วิตามินเอ
ท่ีชวยบํารุงสายตา วิตามินซีชวยบํารุงเหงือก ฟน และสรางภูมิคานทานโรคใหแกรางกาย เหล็กชวยสรางเม็ดเลือด
แดง และแคลเซยี่ มชวยบํารงุ กระดูกและฟน (กรมสง เสริมการเกษตร, 2540) จากประโยชนของผักท่ีกลาวมา ทาํ ให
คนเราหันมาบริโภคผักกันเปนจํานวนมากข้ึน เชน ผักบุง หนอไมฝรั่ง ถ่ัวฝกยาว แตงกวา เปนตน โดยเฉพาะผัก
ตระกูล กะหล่ํา เชน ผักคะนา กวางตุง ผักกาดกะหล่ําปลี ผักกาดขาว กะหลํ่าดอก บร็อคโคลี่ เปนตน เมื่อมีความ
ตองการ บริโภคผักมากข้ึน จําเปนที่เกษตรกรจะตอ งเพิ่มปริมาณการผลติ ใหเ พียงพอกับความตองการของผูบรโิ ภค
ทําใหเกิดเปนการผลิตเกษตรสมัยใหมข้ึน โดยท่ีเกษตรกรนําเทคโนโลยีใหมๆ เขามาใช เชน การใชพืชพันธุใหมที่
ปรับปรุงใหไดผลผลิตท่ีสูง ตามดวยการใชปุยเคมี สารปองกันกําจัดศัตรูพืชฮอรโมนเรงการผลิตตางๆ ขึ้น นับวัน
เกษตรกรตองใชสารเคมีเหลานี้เพิ่มมากขึ้นท้ังปริมาณและความเขมขน ทําใหโรคและแมลงศัตรูพืชดื้อยามีจํานวน
เพิ่มขึ้น
ข
สารบญั
ชนิดพชื ผกั สวนครัว .................................................................................................................................................1
พืชผัก......................................................................................................................................................................3
ผักพนื้ บา นหรือผักปามีอะไรบาง..............................................................................................................................3
ผักสมนุ ไพร และเคร่ืองเทศมีอะไรบาง.....................................................................................................................4
ผกั สวนครวั มอี ะไรบาง.............................................................................................................................................5
พชื ผกั สวนครวั ร้ัวกนิ ได 9 ชนดิ ................................................................................................................................6
วิธีการปลูกใบกะเพรา .......................................................................................................................................... 11
การปลูกมะนาวในบอซีเมนต................................................................................................................................ 11
ข้ันตอนการปลูก (ผกั สวนครัว) ............................................................................................................................. 16
ผกั สวนครวั 13 ชนิด ที่นํากลับมาปลูกเปน อาหารไดอีก ....................................................................................... 18
1
พชื ผกั สวนครัว
ชนิดพชื ผกั สวนครวั
ชนิดพืชผัก
1. ผักสวนครัว เปนกลุมของพืชผักลมลุกท่ีมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น มักปลูกตามครัวเรือนหรือแปลงปลูกขนาดใหญ
เพ่อื การคา โดยมกี ารพฒั นาสายพนั ธุใหมีผลผลิตตามตองการ มักพบการผลติ เมล็ดพันธุออกจําหนายในเชงิ พาณิชย
ทั้งนี้ ไมรวมพชื ผักทองถิ่นหรอื ผกั ปา พชื สมนุ ไพร และเครือ่ งเทศ รวมถงึ ไมผ ลบางชนดิ ที่ปจจุบนั อาจพบการพัฒนา
และปลกู เพอื่ การคา
2
2. ผกั สมนุ ไพร และเครือ่ งเทศ เปน กลมุ ของพชื ผักทสี่ ามารถใชทง้ั ในการประกอบอาหาร เพอ่ื ใหอาหารมีสี รสชาติ
กลิ่นตามตอ งการ รวมถงึ การเพม่ิ สรรพคณุ ทางยาของอาหาร มักเปนพชื ที่ให กลิ่นแรง มีรสเผ็ดรอ น โดยสวนมากจะ
ใชส ว นผล หัว และรากมาใชป ระโยชน และเปนพืชในทอ งถ่ิน
3. ผักพน้ื บา นหรือผักปา เปนกลุมของพชื ผักทข่ี ึน้ และเติบโตไดเองตามธรรมชาตหิ รอื นํามาปลูกในครัวเรือน มกี าร
เก็บผลผลติ ตามฤดูกาล มกั เปนพืชผักประจําทองถิ่นท่ีเปน ทั้งไมยนื ตนั และพชื ลมลกุ
3
พืชผัก หมายถงึ พชื ที่สามารถนาํ สวนใดสว นหนงึ่ ของตนมาประกอบอาหารท้ังผล ดอก ลาํ ตน ใบ ราก และหวั เปน
ท้งั ไมยนื ตน และไมล ม ลกุ ทม่ี ีถนิ่ กําเนดิ ในประเทศ และตางประเทศ
ผักสามารถปลูกไดในทุกครัวเรือน แตผักที่มีการปลูกเพ่ือการจําหนายมักมาจากแปลงปลูกขนาดใหญ
สวนมากพบในพ้ืนท่ีภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณใกลแหลงน้ํา แมนํ้า หรือพื้นท่ีที่
ชลประทานเขา ถงึ
การสงจําหนายผัก มักสง จําหนา ยในพืน้ ท่ีตวั เมืองของจังหวดั บางสว นท่เี ปน แปลงขนาดใหญม ักมีพอคาคน
กลางเขารับถึงพ้ืนที่ เพื่อสงจําหนายยังตัวเมืองในจังหวัดตางๆ รวมถึงกรุงเทพฯ และภาคใต ซึ่งมีพื้นที่นอยในการ
ปลกู ผัก
ผกั พนื้ บา นหรอื ผักปา มีอะไรบาง
4
ผกั พืน้ บานหรอื ผักปามีดังน้ี
– ผกั หวานปา
– หนอไม
– สะเดา
– ขเี้ หลก็
– แคปา
– แคบา น
– กระถนิ
– ผักโขมเลก็ ผกั โขมหนาม
– ตาํ ลงึ
– ผักแพว
– ยอดเหลยี ง
– ใบเสย้ี ว
– ผกั กูด (ยอดเฟรนิ )
– ผกั ขาเขยี ด
– ผกั กระโดน
– เหด็ เผาะ เหด็ แดง เห็ดโคน และเหด็ ปา ตางๆ
– ฯลฯ
ผักสมุนไพร และเครือ่ งเทศมีอะไรบาง
5
ผักสมุนไพร และเครอ่ื งเทศ
– ขิง
– พริกไท
– ดปี ลี
– กระชาย
– ขา
– ตะไคร
– ขมิ้น
– ฯลฯ
ผกั สวนครวั มอี ะไรบาง
ผกั สวนครัว
– ผักกาดขาว
– กะหลํ่าปลี
– กะหล่ําดอก
– ผักชี
– ผักบุง
– ผักคะนา
– พรกิ
6
– กระเพรา
– โหระพา
– แมงลกั
– ผักกวางตงุ
– กระเทียม
– ผักหอม
– หอมหวั ใหญ
– หอมแดง
– แตงกวา
– ถ่วั ฝก ยาว
– มะเขือ ไดแก มะเขือเปราะ มะเขือพวง มะเขือเทศ มะเขือเคื่อน
– หนอ ไมฝร่ัง
– ฯลฯ
พชื ผกั แบงตามสวนที่นํามาใชป ระโยชน คอื
1. ประเภทกินใบ เชน คะนา ผักชี กะหลา่ํ ปลี ผกั กวางตุง เปน ตน
2. ประเภทกนิ ดอก เชน กะหลํ่าดอก และดอกผกั ชนิดตางๆ
3. ประเภทกนิ ผลหรือฝก เชน พริก มะเขือ ฟก แตงกวา ถัว่ ฝกยาว เปน ตน
4. ประเภทกินหัวหรอื ราก เชน ขงิ ขา ตะไคร กระเทียม เปนตน
พืชผกั สวนครัวรวั้ กนิ ได 9 ชนดิ
7
1. กะเพรา ยอดฮิตของการปลูกริมร้ัวเพราะข้ึนงาย สามารถปลูกไดในดินเกือบทุกประเภท นิยมปลูกตามขางทาง
ริมรั้ว มีกล่ินหอม ไมเปนตนเตี้ย สามารถปลูกไดทั้ง กะเพราขาว และ กะเพราแดง มีสรรพคุณมากมายตั้งแต ราก
ใบ เมล็ด เลยทเี ดียว
2. พริกข้ีหนู การปลูกพริกขี้หนูในลักษณะผักสวนครัวน้ันนิยมการหวานเมล็ดลงในแปลงปลูก ไมเหมือนกับการ
ปลกู ในลักษณะเปน การคาท่ีตองมีการเพาะกลากอ นแลว จึงยาย ลงแปลงปลูก การดแู ลรกั ษาพริกนัน้ มเี ทคนิคที่ควร
จําเล็กนอยคือ พริกเปนพืชที่ไมตองการนํ้ามาก ถามีความชื้นสูงไป ควรพรวนดินใหนํ้าระเหยออกจากดิน สวนใน
กรณที ดี่ นิ แหงไป และไมอ าจใหน ํา้ ไดอยา งสมํ่าเสมอ ควรใชวสั ดุคลุมดนิ เพื่อชวยรักษาความชื้นในดิน
8
3. คะนา การปลกู นไี้ มต องขุดลกึ เนอื่ งจากระบบรากของคะนาไมลึกมาก ขดุ พลิกดนิ ตากแดดไว 7-10 วนั แลวยอ ย
พรวนเปนกอ นเลก็ ๆ การปลกู คะนา ใชวธิ หี วา นเมลด็ ลงในแปลงไดเลย โดยวิธกี ารหวา นเมล็ดแบงออกเปน สองวิธีคือ
การหวานเมล็ดใหกระจายทั่วทั้งแปลง และวิธีโรยเมล็ดแบบเรียงแถว ซ่ึงการเลือกปลูกวิธีใดข้ึนอยูกับความสะดวก
และความถนัด ยกรองแทนสวนดอกไม
4. มะระ เปนพืชผักลม ลกุ ลําตน เปนเถา ชอบดินรว นซุย นํา้ ไมข ัง นับวา เปนพชื ผกั ท่ีอายุสน้ั ซง่ึ ถา หากนับจากวนั เร่ิม
ปลูกถึงวันเก็บผลผลิตไดประมาณ 45-55 วันข้ึนอยูกับพันธุที่ปลูก แตกอนที่จะปลูกตองทําความเขาใจวาการปลูก
มะระน้ัน ตองเอาใจใสดูแลเปนพิเศษโดยเฉพาะในเร่ืองการดูแลกําจัดแมลง เนื่องจากเม่ือแมลงเขาทําลาย จะทํา
ใหผลรวงหรือแคระแกรน็ ได
9
5. ตะไคร พันธุไมบานไหนไมมีตะไคร ถือวาเชยมากเพราะมีประโยชนในการปองกันหนาดินดวย ปลูกไวขางๆ บอ
กันการกัดเซาะของนํ้าไดดีมากทีเดียวอีกทั้งไมตองมีการดูแลมากแคเพียง ดินมีความชุมช้ืนก็จะแตกหนอออกมา
มากมาย
6.มะเขือเทศ ตองการนํ้าอยางสมํ่าเสมอ ดังนั้นตองมีการใหน้ําต้ังแตเริ่มปลูกไปจนถึงเริ่มแกคือ ผลเริ่มเปล่ียนสี
หลังจากนั้นจึงลดการใหน้ําเพื่อปองกันผลแตก และการปลูกมะเขือเทศเพ่ือรับประทาน ผลสดน้ันนิยมแบบข้ึนคาง
ควรตัดแตงก่ิงใหเหลือเพียง 1-2 ก่ิงตอตน เพ่ือใหมะเขือเทศท่ีไดมีผลใหญ การเก็บผลผลติ เร่ิมเม่ือมะเขือเทศมีอายุ
ประมาณ 70-90 วนั ท้ังนข้ี ้ึนอยกู ับพนั ธุอ ายุตงั้ แตเริม่ ปลกู ถงึ เก็บเกย่ี ว ผลผลติ ท้ังหมดประมาณ 4-5 เดอื น
7. ตาํ ลงึ โดยมากมกั เหน็ ขึน้ เองตามธรรมชาติ แนนอนวาสามารถปลกู ไดง ายมากเพียงแคด นิ มีความชมุ ช้นื เปน อยาง
ดี เหมาะแกการปลูกริมร้ัวเปน ไมเล้ือยตามรั้วบานไดเปนอยางดี ตําลึงเองยังเปนสญั ลักษณของผกั สวนครัวร้ัวกินได
อกี ดว ย
10
8.โหระพา และ แมงลัก ลักษณะของตนโหระพาและแมงลักมีลักษณะคลายคลงึ กับตนกะเพรา โดยขนาดของทรง
พุมก็ใกลเคียงกันคือ มีความสูงไมเกิน 60 เซนติเมตร ลักษณะตนและใบคลายกัน จะตางกันตรงกล่ิน และสีไม
เหมือนกันใบของโหระพาน้ันใบเปนมัน และหนากวา กานใบและลําตน มีสีมวงแดง สวนใบของแมงลกั มีสเี ขียวออน
กา นใบและลําตน กม็ ีสีเขยี วออนเชนกนั และมีขนออ นอยูต ามใบและกานดอก
11
9. บวบ ลักษณะพิเศษของบวบ คือ ทนแลง ทนฝน ไมคอยมีโรคและแมลงรบกวน แตมีขอควรระวังคือ เม่ือแรก
ปลูกจนถึงขึ้นคางจะมีแมลงชอบกัดยอด แตพอทอดยอดข้ึนคางแลวก็ไมตองกังวลเรื่องแมลงอีกตอไป ปลูกงายไม
ตองมีการดูแลมาก ใหขึ้นเลอื้ ยตามตนไมไ ดเปน อยา งดี
วธิ กี ารปลกู ใบกะเพรา
วิธีการปลูกใบกะเพราก็ไมยากเลย เพียงแคเริ่มจากเตรียมแปลงปลูก กอนหวานเมล็ดลงไป แตคุณ
อาจจะเริ่มจากการปก ชาํ กา นทเี่ หลอื จากการซื้อมาทาํ กับขาวกไ็ ดนะคะ พอตน โตออกดอก เมลด็ ทีห่ ลน ก็งอกตนใหม
อีกหลายตน หลังเพาะประมาณ 7 - 10 วัน เมล็ดเร่ิมงอก พอผานไป 15 - 30 วัน จึงเร่ิมใสปุยยูเรีย หรือ
แอมโมเนียมซัลเฟต 1- 2 ชอนชาตอน้ํา 10 ลิตร รดทุก 5 - 7 วันได สําหรับการรดน้ํา ใหรดนํ้าอยางเพียงพอและ
สม่ําเสมอทุกวัน หลังปลูกไปประมาณ 30 - 35 วันก็เก็บกินไดแลวคะ สวนเคล็ดลับท่ีจะทําใหต นกะเพราเก็บกินใบ
ไดนาน ๆ กค็ อื อยาใหออกดอก พอออกดอกแลว ตนจะโทรม อายสุ ั้น ถา ออกดอกก็ใหหมนั่ ตัดทิ้งเปนระยะ
การปลูกมะนาวในบอ ซเี มนต
12
การปลูกมะนาวในบอซีเมนต เปนอีกแนวทางเลือกหน่ึงของเกษตรกรท่ีตองการใหมะนาวสามารถ
ออกลูกนอกฤดู และงายตอการจัดการ เนื่องจากการปลูกในบอซีเมนตสามารถปลูกใหมีขนาดทรงพุมเทากับการ
ปลูกใน แปลงดินได และงายตอการงดนํ้าเพื่อบังคับใหออกลูกนอกฤดู พันธุมะนาวท่ีแนะนําใหปลูก ไดแก มะนาว
แปน มะนาวแปนพนั ธุพจิ ติ ร และพันธอุ ่ืนๆ
ขอ ดีการปลูกมะนาวในบอซีเมนต
1. สามารถบงั คับใหมะนาวออกลูกนอกฤดูหรือตลอดทงั้ ปไดงาย
2. ไมเ ปลืองแรงงานหรือเกิดคาใชจายในการเตรียมแปลงหรือปรับพืน้ ท่ี
3. งายตอการดูแล และการใหนํ้ามปี ระสิทธิภาพ
4. ปองกนั โรคบางชนิดไดงา ยจากสภาพดนิ ท่ีไมเหมาะสม
5. เหมาะสาํ หรบั การปลูกไวรับประทานเองหรือเพ่ือสงจาํ หนาย
6. สามารถใชเปนไมป ระดบั ไดอกี ทาง
ขอเสยี
1. มคี าใชจ า ยเพิม่ ขึน้ ในสวนของบอซีเมนต
2. อายุของตนมะนาวส้นั กวาการปลูกในแปลงดินแตไมแตกตา งกันมาก
วัสดุอุปกรณ
1. บอ ซีเมนต
บอซีเมนตที่ขายในทองตลาดมีหลายขนาด ต้ังแตเสนผาศูนยก ลาง 80-120 เซนติเมตร สูง 40-60 เซนติเมตร แตที่
นิยมคอื ขนาดเสน ผา ศนู ยกลาง 80 เซนตเิ มตร สงู 40-50 เซนตเิ มตร พรอมฝาปด บอ ทง้ั นี้ อาจไมต อ งใชฝ าปดบอก็
ไดห ากพนื้ ที่มสี ภาพหนาดินแนน และแหง สามารถระบายนํา้ ดี
13
2. ดนิ
เนื่องจากดินท่ีใชมีปริมาณมากกวาการปลูกมะนาวในกระถาง อัตราสวนการผสมจึงอาจแตกตางกันได
ตามงบประมาณการลงทุน โดยใชดินรวนหรือดินรวนปนทรายผสมกับมูลสัตว แกลบหรือผสมวัสดุอื่น เชน ขี้เถา
กากมะพราว เปนตน ในอัตราสวนดินตอวัสดุอื่น 2:1 หรือ 3:1 พรอมผสมดวยปุยเคมีสูตร 15-15-15 ปริมาณ 10
กโิ ลกรมั /ดิน 1 คิว
3. กิง่ พันธุม ะนาวตอน
4. ไมไผ และเชือกฟาง
การปลกู
1. จัดวางฝาปดบอซีเมนตในระยะหางระหวางแถว และระหวางตนในระยะ 2-4 x 2-4 เมตร พรอมนําบอซีเมนต
วางทับดานบน 1 ไร จะไดป ระมาณ 100-400 ตน ตามระยะท่ีใช
2. นําดินท่ีผสมแลวใสในกระถาง ใหระดับดินตํ่ากวาขอบบอประมาณ 10 เซนติเมตร ใหใสดินประมาณ 2 ใน 3
ของบอ แลวนําตนมะนาวลงบอ แลวจึงใสดินกลบทีหลังหรืออาจใสดินใหไ ดระดับกอนคอยขุดหลุมปลูกทีหลัง ก็ได
โดยนําถุงพลาสติกหรือกระถางออกกอนปลูกทุกครั้ง หลังจากนั้นกลบหนาดินใหแนนพอประมาณ พรอมนําวัสดุ
อินทรียโรยกลบปากบอ เชน แกลบ ข้ีเถา ขุยมะพราว เศษใบไม ปุยหมัก และมูลโค เปนตน ทั้งน้ี ใหหลีกเล่ียงการ
ใสขี้เถาจํานวนมาก เน่ืองจากขี้เถามีสารอนินทรียที่เปนแรมาก เมื่อละลายนํ้าจะใหกรด อาจทําใหรากมะนาว และ
ตนมะนาวเหีย่ วตายได หรอื ดนิ มสี ภาพเปน กรดมาก
3. สําหรับตนมะนาวขนาดเล็กใหใชไมไผปกขางลําตน พรอมผูกเชือกรั้งใหลําตนตรง สวนตนมะนาวขนาดใหญไม
ตองรัง้ ตน ดว ยไมก ไ็ ด หากแตตนมกี ิง่ สาขาแผก วา งใหใชไมไ ผป ก คํา้ ทง้ั 4 ดาน
4. เมื่อปลูกเสร็จใหรดน้ําใหชุม โดยสังเกตนํ้าที่ซึมออกบนฝารองดานลาง และนําฟางขาว แกลบหรือเศษใบไมมา
กลบบริเวณโคนตน และปากบอ ทงั้ หมด เพื่อรกั ษาความชมุ ชน้ื หนาดิน
14
การดูแล
การใหนํา้ หากปลูกไมก่ตี นก็สามารถใหนา้ํ ดวยการตักรดก็ได แตห ากปลูกหลายตนหรือเพื่อการคาอาจ
ติดตั้งระบบน้ําหยดเพ่ือใหนํ้างาย และสะดวกกวา โดยระยะแรกจะใหทุกวัน และเมื่อตนมะนาวตั้งตัวไดแลวจะให
วนั เวน วนั กไ็ ดข ้ึนอยกู บั สภาพหนาดิน และสภาพอากาศ นอกจากนน้ั หากมกี ารใหนาํ้ แบบสปรงิ เกอรแลว เกษตรกร
มักนิยมปลกู ผกั แซมบริเวณรอบตน มะนาวรว มดวย
การใสปุย ใหใสปุยสูตร 15-15-15 ประมาณ 1-2 กํามือ ทุกๆ 3-4 เดือน/คร้ัง หรืออาจผสมกับนํ้ารด
บริเวณโคนตน ก็ได ท้งั น้ี แนะนาํ ใหห ลีกเลีย่ งการใสปุยเคมี ใหใ สเฉพาะในชวงบงั คบั การออกดอกหรือระยะออกดอก
ติดผลเทา น้ัน สว นปุยคอกใหใส 1 ถังเลก็ ทกุ ๆ 3 เดือน และใหดคี วรรดน้ํารวมกบั การละลายปยุ คอกรว มดวย
การตัดแตงกิ่ง ควรตัดแตงกิ่งใหมีทรงพุมเสมอกันในทุกดาน โดยใหตัดแตงก่ิงที่ยาวหรือยื่นออกนอก
ทรงพุมมากเกินไป หรอื กิง่ ท่ีเปน โรคไมเจรญิ เตบิ โตท้ิงเสยี
การบังคบั ใหอ อกลกู นอกฤดู
โดยปกติมะนาวจะตดิ ดอกในชวงเดือน มีนาคม-เมษายน และจะเก็บผลผลิตในชวงเดือนพฤษภาคมเปนตนไปจนถึง
เดือนตุลาคม ตามขนาดท่ีตองการในชวงนี้จะทําใหมะนาวมีราคาถูกมาก แตจะแพงมากในชวงเดือนพฤศจิกายน-
เมษายน ดังนัน้ การบังคบั ใหม ะนาวออกลกู ในชวงพฤศจิกายน-เมษายน จะขายมะนาวไดใ นราคาทีส่ งู ขึ้นมาก
สําหรับการทําใหมะนาวออกลูกนอกฤดู สามารถทําไดโดยงดการใหน้ํา และการตัดแตงกิ่ง โดยมะนาวจะออกดอก
เมื่อมกี ารแดกกิง่ ใหม และออกใบใหม ซึ่งมขี ั้นตอนดงั นี้
1. เลือกตนมะนาวท่ีมีอายุต้ังแต 8-12 เดือน (ตนที่ปลูกจากตนตอนอายุต้ังแต 1 ป และหลังจากปลูกในทอซีเมนต
แลว 8 เดือนข้นึ ไป)
2. ใหเลอื กกิง่ แกหรอื กิ่งทีม่ ใี บแกแลว และทําการตดั แตงกง่ิ
3. งดการใหน้ํามะนาวเปนเวลา 7-10 วัน จนใบเห่ียวหรือเริ่มรวง หากในชวงดังกลาวมีแนวโนมท่ีฝนจะตกใหใช
ผาใบพลาสติกคลมุ คอบปากทอท้ัง หมด
4. หลังจากงดใหน้ําประมาณ เวลา 7-10 วนั จะสงั เกตุใบแกจ ะเร่ิมเหีย่ วหรือมีใบรวง ท้ังน้ี ขึ้นอยูกับสภาพความชุม
ชน้ื ของดินดวย
5. ทําการใหน้าํ รว มกับปยุ สูตร 12-12-24 ประมาณ 1-2 กํามือ/ตน
6. มะนาวจะแตกกิ่ง และออกใบใหมประมาณ 15-20 วนั พรอมแตกดอก โดยในระยะแตกใบใหม และออกดอกให
ฉดี ดว ยน้ําหมักหรือนา้ํ ตม สมุนไพรเพ่อื ปองกนั หนอนหรือแมลงกินใบ ออ นหรือฉีดพนดวยยากาํ จัดแมลง
7. ใหน ้ําปกติ วนั ละครงั้ หรอื วนั เวน วนั จนถงึ การเกบ็ เกยี่ วผลติ
15
การปลูกมะนาวใหลกู ดกอยา งตอ เนอื่ ง และมีอายุหลายป
1. การคดั เลอื กก่ิงพันธุ
กิ่งพันธุมะนาวที่ใชปลูกในกระถาง หากตองการยนระยะเวลาการเก็บผลใหเร็วข้ึนควรใชกิ่งพันธุขนาด
ใหญทมี่ ี การอนุบาลนาน 8 เดอื น – 1 ป ขน้ึ ไปแตห ากใชก่ิงพนั ธุท่ีไดจ ากการตอนอาจตองใชระยะเวลานานขึ้นกวา
จะ ใหผลผลิต ท้ังน้ี กิ่งพันธุท่ีเลือกควรเปนก่ิงพันธุท่ีมีความสมบุรณ ไมมีรอยโรค กิ่ง และใบดก ซ่ึงการคัดเลือกกิ่ง
พนั ธทุ ี่ดีจะชวยใหต นมะนาวเตบิ โตใหผ ลอยา งตอ เน่ือง และมีอายุนานหลายป
2. การผสมวัสดุปลูก
วสั ดสุ าํ หรับการปลกู มะนาวในบอซเี มนตควรมกี ารผสมระหวา งดินกับวัสดุทางการ เกษตร เชน ปุยคอก
และมูลสัตวตางๆ ปุยหมัก แกลบ ข้ีเถา ขี้เล่ือย เปนตน ซึ่งจะเปนการเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ทําใหดินรวนซุย ดิน
เก็บความชน้ื ไดด ี และเปนการเพ่มิ ธาตอุ าหารใหแกตน มะนาวอยา งตอเนื่อง
3. การคลุมหนาดิน และการปลอยไสเ ดอื นดนิ
หลังจากปลูกมะนาวเสร็จจําเปนตองหาวัสดุสําหรับการคลุมหนาดิน เชน แกลบ ฟางขาว เศษใบไม
เปน ตน ซ่ึงจะเปน การชว ยใหความชน้ื ดินในบอซีเมนตไมสูญเสยี งาย สว นการปลอ ยไสเ ดือนดนิ ถือเปน การเพมิ่ อัตรา
การยอยสลายอินทรียวัตถุจาก การยอยกินอินทรียวัตถุในดิน ทั้งนี้ การที่ดินมีอินทรียวัตถุ และมีอัตราการปลอย
สารอาหารในดนิ ทเี่ หมาะสมจะชว ยสง เสริมการเติบโต และยดื อายุของตนมะนาวไดด ี
16
4. การใหนํา้ ใหป ยุ และการดแู ลอื่นๆ
การใหนํ้านิยมใหโดยระบบนํ้าหยด ความถี่ 1-2 คร้ัง/วัน ในปริมาณที่หนาดินในระยะ 10-15
เซนติเมตร มีความชุมชื้นเทานั้น สวนการใสปุย แนะนําใหเลือกใชปุยคอกเปนหลัก และใหปุยเคมีเฉพาะในระยะ
การเรงออกผลนอกฤดูเทาน้ัน โดยกาใหปุยคอกแนะนําใหโรยหนาบอซีเมนตทุก 2-3 เดือนในปริมาณท่ีไมตองมาก
นัก รว มกบั การนําปยุ คอกแชน ํ้า และใหนาํ้ แกตน มะนาวอกี ทางซึง่ เปน การใหปุย และนํา้ รว มกนั อีกครงั้
5. การตัดแตง กิ่ง
การตัดแตงก่ิงถือเปนข้ันตอนหน่ึงที่สําคัญในการบังคับมะนาวใหออกลูกนอกฤดู และเปนการจํากัด
ขนาดจํานวนกิ่ง และขนาดทรงพุมใหเหมาะสม เพราะหากจํานวนกิ่งมากจะมีผลตอการขยายจํานวนรากตาม
จํานวนก่ิง และขนาดของลําตน ทําใหตนมะนาวดึงธาตุอาหารจากดินไปใชในอัตราท่ีเร็วข้ึน ดินขาดธาตุอาหารเร็ว
สงผลตออายขุ องตนมะนาวตามมา
ขนั้ ตอนการปลกู (ผกั สวนครวั )
ขนั้ ตอนการปลูก (ผกั สวนครัว)
1. การเลือกพนื้ ท่ี
พ้ืนที่ท่ีสามารถปลูกผักไดดีควรเปนพื้นท่ีที่อยูใกลแหลงนํ้า เชน บอนํ้าขุด บอนํ้าธรรมชาติ แมน้ํา คลอง
อางเก็บน้ํา คลองชลประทานหรือแนวสงน้ําชลประทาน เน่ืองจากพืชผักสวนใหญมีความตอ งการน้ําสูง โดยเฉพาะ
หนาแลงที่อากาศ แหง และอัตราการระเหยนํ้าสูงกวาฤดูอื่นๆ จึงจําเปนตองมีน้ําเพียงพอเพ่ือใหผักสามารถเติบโต
จนถึงฤดกู ารเกบ็ เกี่ยวได
17
2. การเตรียมแปลง
– แปลงปลูกผักมักเตรียมดวยการยกแปลงสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร หรือขุดรกรองลึก เนื่องจาก
พชื ผกั สว นมากมีระบบรากทต่ี องการซอนไซในดินที่รวนซุย หนาดินลึก
– ทําการไถพรวนแปลงทิ้งไวประมาณ 1 อาทติ ย เพื่อตากแดด และฆา เชอ้ื โรค
– หวา นปยุ หมกั หรือปยุ คอก รวมดวยปุย เคมี พรอ มไถกลบแปลง
– อัตราการใสปุยในแปลงควรใหมีปุยหมักหรือปุยคอกมากกวาปุยเคมี เชน 10:1 เนื่องจากการใสปุยเคมี
มากจะทําใหดินเปน กรด หนา ดินแนน
3. การเตรียมเมล็ดพนั ธุ
– เมล็ดพันธผุ ักท่ีใชควรมลี กั ษณะเปนเมลด็ พันธุใหม อายุเมลด็ พนั ธไุ มถงึ 1 ป
– เมล็ดพันธทุ ่ใี ชตองเปนเมลด็ พันธุท ่ีตรงตามชนดิ พืชทปี่ ลูก และไมมเี มลด็ พันธุอ่นื ปลอมปน
– ทําความสะอาดเมล็ดพันธุ รวมถึงคัดแยกเมล็ดพันธุที่ไมสมบูรณออกดวยวิธีนําไปแชน้ํา และนําเมล็ดที่
ลอยน้าํ ออก
– เมลด็ พนั ธุส วนมาก กอ นปลูกจะทาํ การแชน ้าํ เสียกอ น ซึง่ ระยะเวลาในการแชจ ะแตกตา งกนั ในแตล ะชนิด
ผัก หากเมล็ดพันธุท่ีมีเปลือกหนา แข็ง อาจใชเลาแชนาน 2-3 วัน เมล็ดพันธุผักสวนมากเปนเมล็ดที่มีเปลือก
คอ นขา งบาง ไมห นา แขง็ สว นใหญใชเ วลาแชป ระมาณ 12 ชัว่ โมง – 1 วนั เทานน้ั
4. การปลูก
สามารถปลูกไดหลายวิธีตามความเหมาะสมของแตล ะชนิดพชื ไดแก
การหวา นเมล็ด เปน วิธที ี่งาย สะดวก รวดเร็ว และนยิ มทส่ี ุด ซงึ่ จะหวา นเมล็ดหลังการแชน ํ้าแลว หรือหวาน
เมล็ดแหง ไดท ันที ผักทีนิยมการหวานเมลด็ มักเปนพืชที่มีลําตนขนาดเล็ก ขนาดทรงพุมนอย ไดแก ผักชี ผักบงุ เปน
ตน ทั้งนี้ การหวา นเมลด็ อาจเปน วธิ ีการเตรียมกลา ผกั กอนยายปลูกในแปลงทเี่ ตรียมไว
การปลูกดวยตนกลา เปนวิธีการปลูกดวยตนกลาผักท่ีเตรียมไดจากแปลงเพาะกลาดวยวิธีการหวาน วิธีน้ี
เปนวิธีท่ีใชมากที่สุดสําหรับการปลูกผัก โดยมักใชกับพืชท่ีมีลําตนใหญ ทรงพุมกวาง เน่ืองจากใชวิธีการหวานเมล็ด
อาจไมเหมาะสมเพราะไมสามารถเวนชวงหางของตนใหเหมาะสมกับการเติบโตได การหวานอาจทําใหตน
เจริญเติบโตไมดี หรืออาจตองถอนตนท้ิงบางสวนซ่ึงทําใหส้ินเปลืองเมล็ดพันธุเสียเปลา ผักท่ีนิยมปลูกดวยวิธีน้ี
ไดแก กะหลํ่าปลี ผักกาดขาว คะนา มะเขือ พรกิ เปนตน
การหยอดเมล็ด เปนวิธีปลูกที่ใชสําหรับพืชผักที่ตองการระยะหางระหวางตนมาก มักเปนพืชท่ีเปนเถาว
หรือเครือ ตนกลาออกไมมีความแข็งแรง เหี่ยว และตายงายหากแยกตนกลาปลูก เชน ถ่ัวฟกยาว แตงกวา ฟกทอง
ฟก มะระ เปนตน
18
ฝงในแปลงปลูก เปนวิธีปลูกท่ีใชกับพืชผักบางชนิดที่มีการแยกหนอ แยกเหงาออกปลูกเพื่อขยายจํานวน
ตนหรือกอ โดยฝงลงหลุมหรอื แปลงปลกู ไดท ันที เชน ผกั หอม กระเทยี ม ตะไคร ขงิ ขา กระชาย เปน ตน
5. การดแู ลรกั ษา
– ในระยะแรกของการปลูกชว ง 1 อาทิตยแรก ทั้งการปลูกดวยการใชเมลด็ การปลกู ดว ยตนกลา และปลูก
ดวยการแยกหัวหรือหนอ จําเปนตองมีการใหนํ้าอยางสม่ําเสมอ อยางนอยวันละ 2 ครั้ง เชา-เย็น จนตนกลาตั้งตัว
ได
– การใหน้าํ จะยงั ใหว ันละ 2 ครง้ั ตลอดจนถงึ ระยะเก็บเกี่ยว แตอาจใหนาํ้ ในปรมิ าณท่ีนอยลง หรือผกั บาง
ชนิดที่อาจเวนชวงหางการใหน้าํ เมือ่ ถึงระยะกอ นเก็บเก่ียว
– การใสปุยควรใสในระยะหลังปลูก 1-2 อาทิตย หรือระยะที่ตนกลาตั้งตนไดแลวจนถึงระยะกอนการเก็บ
เกีย่ วประมาณ 1 เดอื น รวมถึงพชื บางชนิดทีส่ ิน้ สดุ การใหป ยุ ทรี่ ะยะกอ นการตดิ ดอก และผล
6. การเกบ็ ผลผลิต
พืชผักมักมีระยะการเก็บเกี่ยวไมเกิน 120 วัน สวนมากจะใชเวลาประมาณ 40-60 วัน ข้ึนกับชนิดของผัก
โดยผกั กินใบจะมีระยะเวลาการเกบ็ เกย่ี วส้ันกวาผักกนิ ดอก และผล
ผักสวนครวั 13 ชนิด ทน่ี าํ กลบั มาปลูกเปน อาหารไดอีก
1.ผักกาดหอม หรือผักสลัด เปนผักท่ีโตงายมาก หลังจากคุณเด็ดใบของมันใชงานแลว สามารถนําโคนตน
ไปแชในชามที่มนี ้ําอยูกนชาม แลว นําชามนั้นไปต้ังไวในทแี่ สงแดดสอ งถงึ หลังจากนัน้ 3-4 วนั คุณจะไดเห็นรากของ
มันเร่มิ งอกออกมา หลงั จากน้ันคุณก็นําผกั กาดหอม หรอื ผักสลดั นัน้ ไปปลกู ลงดิน
19
2.ผักค่ืนฉาย เปนผักประเภทหนึ่งที่เติบโตไดดีจากเศษเหลอื ท้ิง เพียงตัดทอนปลายของลําตนหลังจากการ
ใชงาน แลววางลงในชามท่ีบรรจุนํ้าไวเล็กนอย จากน้ันนําชามไปวางไวในที่ๆ แสงแดดสองถึงโดยตรง ประมาณ 1
สัปดาหผานไป คุณจะเริ่มเห็นใบออนแทงยอดออกมาจากโคนตน เม่ือเห็นใบออนเร่ิมแทงยอดออกมา คุณสามารถ
ยายตน คนื่ ฉา ยนั้นลงดนิ และดูแลใหมนั โตข้นึ เร่ือยๆ
3.ตะไคร ถาคุณตองทําอาหารท่ีมีตะไครเปนวัตถุดิบประกอบบอยครั้ง แตพอถึงเวลาจะใชก็ไมคอยมี หาก
เปน เชน น้ันหลงั จากคุณซื้อตะไครมาจากตลาดและใชประกอบอาหารแลว ใหเก็บทอ นลางของลําตนไวแลว นาํ ไปแช
น้ําในแกวทรงสูง ทีม่ ีน้าํ ประมาณหนึง่ เมื่อผา นไปสักประมาณสปั ดาห พอตนตะไครมรี ากงอก คุณกน็ าํ ตน ตะไครไป
ปลกู ลงดิน หรือในสวนผักของบา นคุณ
20
4.ถ่ัวงอก ใครๆ ก็ทราบวาเปนผักท่ีปลูกงาย โตเร็ว เพียงแคนําเมล็ดถั่วเขียวไปแชน้ํา ท้ิงไวขามคืน
วันรุงขึ้นเทน้ําออกจากภาชนะท่ีคุณนําเมล็ดถ่ัวไปแช จากน้ันนําเมล็ดถ่ัวเหลานั้นไปใสไวในภาชนะที่ตองการปลูก
แลวคลุมทับดวยผาเช็ดตัวหมาดๆ เพ่ือกักเก็บความช้ืนใหมัน หลังจากน้ันเฝาดูการเจริญเติบโต และคอยสังเกต
ขนาดของลาํ ตน วา ใชสาํ หรับทําอาหารที่คุณคิดเมนเู ตรียมไวไดห รือยงั
5.มันฝร่ัง คุณแมบานคงทราบวา เราสามารถปลูกตนมันฝร่ังไดจากการหั่นหัวมันฝรั่งที่มีตาไปเพาะลงใน
ดิน ทิง้ ไวประมาณสัก 2 สปั ดาห คุณจะไดเ ห็นตน ออ นของมันฝรั่งคอยๆ โตขึน้
6.ขิง หลังจากซื้อขิงมาทําอาหารเรียบรอยแลว บางครั้งเหลือเศษแหงๆ ของแงงขิงทิ้งไว ก็จะมีลําตนออน
งอกออกมา เราสามารถนําเหงาขิงชิ้นนั้นไปฝงหรือปลูกลงในดินไดเลย เพราะพอผานไปประมาณ 1 สัปดาห ตน
ออ นก็จะคอ ยๆ งอกขึ้นมาใหม
21
7.สัปปะรด ผลไมรสชาติดีท่ีเราปลูกทานเองได ไมตองไปซื้อใหเสียดายสตางค งายๆ คะเพียงซื้อสัปปะรด
จากตลาด โดยเลือกพันธุดีๆ จากนั้นใชมีดตัดจุกสัปปะรดออก แลวนําหัวสัปปะรดไปแชในภาชนะบรรจุน้ํา ท่ีมี
ขนาดพอดีกับหัวสัปปะรด เพียงไมก่ีวัน รากของมันก็จะงอกออกมาจากสวนที่เราตัด แลวนําไปปลูกลงในดินรวน
หรือดินรวนปนทราย ดูแลสักประมาณ 1 เดือน รากจะเร่ิมแข็งแรง จากนั้นคอยบํารุง ใสปุย เพียงเทาน้ีก็ไดสัปปะ
รดพนั ธดุ ีกินสมใจ
8.กระเทียม เราสามารถปลูกกระเทียมไดจากกลีบของมัน เพียงแคคุณนํากลีบกระเทียมนั้นไปเพาะใหมี
รากเสียกอน แลวคอยนําลงดิน โดยรากตองอยูลึกลงไปในดินประมาณ 2 ใน 3 สวนของกลีบกระเทียม แลวคลุม
ดว ยฟางเพื่อกําจดั วชั พืช แลว หมั่นรดนาํ้ ใหพ อเพียง
22
9.หอมหัวใหญ เปนผกั อีกประเภทหนึ่งทปี่ ลูกงา ย โตเร็วทง้ั กลางแจงและในรม เพียงตัดสว นรากของหัวไป
ปกลงดนิ รดน้าํ สม่ําเสมอ รอใหรากงอกแลว ไปปก ลงดินอกี ครั้ง
10.ฟกทอง หลังใชฟกทองทําอาหารแลว สวนของเมล็ดฟกทอง ใหนําเมล็ดไปตากแดดใหแหง จากน้ันนํา
เมล็ดฟกทองไปหวานลงบนดิน ที่มีแสงแดดรําไรสองถึง รดน้ํา เพียงไมกี่วันกลาออนของตนฟกทองก็จะคอยๆ งอก
ออกมา
23
11.ผักชี ผักที่ใชในการทําอาหารบอยครัง้ เราสามารถนําลําตนของมันไปแชนา้ํ และยกภาชนะน้ันไปตั้งไว
บรเิ วณที่มีแสงแดด เมอื่ รากเริม่ งอก เราก็สามารถนาํ ผักชีน้ันไปลงกระถาง ผา นไปประมาณ 2 สปั ดาห จะไดเหน็ ตน
ออนของผกั ชงี อกออกมา
12.มะเขือเทศ คุณสามารถปลูกมะเขือเทศ โดยหวานเมล็ดของมันไวบริเวณไหนก็ได เมื่อตนออนของมัน
ขน้ึ มากส็ ามารถนํากลาน้ันไปเพาะลงกระถาง เมอ่ื ความสงู ของกลาประมาณ 2 น้ิว กน็ าํ ตนออกมาไวดานนอก หม่ัน
ดแู ล รดนา้ํ ประมาณอาทิตยล ะ 2 ครงั้ เพียงไมน านคุณกจ็ ะไดม ะเขือเทศผลงามๆ ไวท านสมใจ
24
13.พริก เราจะปลูกดว ยเมล็ดแกทีเ่ ก็บเอาไว แตต องมกี ารเตรียมดินใหมธี าตุอาหารท่เี พยี งพอ หลังจากนั้น
ก็รองดวยปยุ หมักในกนหลุมท่ีปลกู ถา เปนกระถางกร็ องที่กนกระถางกอนทจี่ ะเอาดินทม่ี ธี าตุอาหารมาใสในกระถาง
จากนัน้ รดใหดนิ ชุม กอนขดี เสนลงไปในดนิ เปนเสน ตรงซกั หนึง่ เสน แลวใสเ มลด็ ลงเล็กนอ ย จากน้นั เอาฟางคลุมและ
รดนํา้ ตามอีกคร้ัง
ค
อางอิง
ภีรพัฒน เขียวเมอื ง./(2559)./ผักสวนครัว./สบื คนเม่ือวนั ที่ 5 พฤษภาคม 2563,/ จากเว็บไซต
https://sites.google.com/site/vegetablefor255/home
Puechkaset./(2014)./พืชผักสวนครัว./สบื คน เม่อื วันท่ี 5 พฤษภาคม 2563,/ จากเว็บไซต
https://sites.google.com/a/nbp.ac.th/arnut/home/phuch-phak-swn-khraw
ง