The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) 2567

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebookcha, 2023-12-11 08:17:04

แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) 2567

แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) 2567

PA 1/ส


PA 1/ส แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครู(ยังไม่มีวิทยฐานะ) (ทุกสังกัด) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ระหว่างวันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2567 ผู้จัดทำข้อตกลง ชื่อ นางสาวลาวัลย์ นามสกุล พุดขุนทด ตำแหน่ง ครู บ สถานศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพนมสารคาม . สังกัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดฉะเชิงเทรา . รับเงินเดือนในอันดับ คศ. 1 อัตราเงินเดือน 18,150 บาท ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้(สามารถระบุได้มากกว่า 1 ประเภทห้องเรียน ตามสภาพการจัดการ เรียนรู้จริง) ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน ห้องเรียนปฐมวัย ห้องเรียนการศึกษาพิเศษ ห้องเรียนสายวิชาชีพ ✓ ห้องเรียนการศึกษานอกระบบ / ตามอัธยาศัย ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน ตำแหน่ง ครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ซึ่งเป็น ตำแหน่ง ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้ ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง 1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 13 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้ 1) สาระการเรียนรู้/รายวิชา - สาระความรู้พื้นฐาน รายวิชาวิทยาศาสตร์(พว21001) จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์ - สาระความรู้พื้นฐาน รายวิชาวิทยาศาสตร์(พว31001) จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์ - กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์


PA 1/ส 1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ รวมจำนวน 6 ชั่วโมง /สัปดาห์ ดังนี้ 1) โฮมรูม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 2) การดำเนินการสอบวัดผล จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ - การจัดทำข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ระหว่างภาคเรียน - ดำเนินการสอบวัดผลสัมฤทธิ์กลางภาคเรียน วิชาบังคับและวิชาเลือกบังคับ - ดำเนินการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ปลายภาคเรียน วิชาบังคับและวิชาเลือกบังคับ - ดำเนินการทดสอบการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N -NET) 3) การนิเทศภายใน จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1) งานบริหารสถานศึกษา จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 2) หัวหน้ากลุ่มอำนวยการ จำนวน 1ชั่วโมง/สัปดาห์ 3) หัวหน้างานพัสดุ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 4) หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และแผน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 5 ชั่วโมง /สัปดาห์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้ 1) สาระการเรียนรู้/รายวิชา - สาระความรู้พื้นฐาน รายวิชาสังคมศึกษา (สค21001) จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ - สาระความรู้พื้นฐาน รายวิชาศิลปศึกษา (ทช21003) จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ - กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ รวมจำนวน 5 ชั่วโมง /สัปดาห์ ดังนี้ 1) การดำเนินการสอบวัดผล จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ - การจัดทำข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ระหว่างภาคเรียน


PA 1/ส - ดำเนินการสอบวัดผลสัมฤทธิ์กลางภาคเรียน วิชาบังคับและวิชาเลือกบังคับ - ดำเนินการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ปลายภาคเรียน วิชาบังคับและวิชาเลือกบังคับ - ดำเนินการทดสอบการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N -NET) 2) การนิเทศภายใน จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1) หัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ 2) หัวหน้างานธุรการ - สารบรรณ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 3) หัวหน้างานบุคลากร จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 4) หัวหน้าเจ้าหน้าที่งานพัสดุ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 5) หัวหน้างานบุคลากร จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 6) ห้วหน้างานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 7) หัวหน้างานนิเทศติดตามและประเมินผล จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 8) หัวหน้างานพัฒนาสื่อ หลักสูตร นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 5 ชั่วโมง /สัปดาห์


PA 1/ส 2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่งครู(ให้ระบุรายละเอียดของงานที่จะปฏิบัติในแต่ละด้าน ว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยอาจระบุระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการด้วยก็ได้) ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ขึ้นหรือมีการพัฒนามาก ขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น (โปรดระบุ) 1. ด้านการจัดการเรียนรู้ ลักษณะงานที่เสนอให้ ครอบคลุมถึงการสร้างและหรือ พัฒนาหลักสูตร การออกแบบการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่ง เรียนรู้ การวัดและประเมินผลการจัดการ เรียนรู้ การศึกษาวิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการ เรียนรู้ การจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและ พัฒนา ผู้เรียน และการอบรมและ พัฒนา คุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน 1.1 สร้างและหรือการ พัฒนาหลักสูตร 1.1.1 วิเคราะห์หลักสูตร และจัดทำแผนการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน การเรียนรู้และตัวชี้วัด ตามหลักสูตร โดยการ ประยุกต์ให้สอดคล้องกับ บริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน และชุมชน 1.1.2 ศึกษาวิเคราะห์ พัฒนาวิชาการตาม หลักสูตรสถานศึกษา เพื่อแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของผู้เรียน และพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย ของหลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1.1.1 ผู้เรียนได้รับการ จัดการเรียนรู้ที่สอดคล้อง กับหลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1.1.2 ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีสติปัญญา มี คุณภาพชีวิตที่ดี มี ศักยภาพในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและ การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง 1.1.1 ร้อยละ 85 ของ ผู้เรียน มีความรู้ผ่าน เกณฑ์การประเมินตาม โครงสร้างหลักสูตร การศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1.1.2 ร้อยละ 85 ของ ผู้เรียน มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูงขึ้น เป็นไปตามค่าเป้าหมาย ที่สถานศึกษากำหนดไว้


PA 1/ส ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐาน ตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) 1.2 ออกแบบ การจัดการเรียนรู้ 1.2.1 ออกแบบการจัดการเรียนรู้โดย เน้นผลที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตจริง โดยเปิดโอกาสให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผน กำหนด วิธีการเรียนรู้ของตนเอง วางเผนในเรื่อง ของเวลาการสอนอย่างชัดเจน ทั้งใน ประเด็นเนื้อหา และกิจกรรมในการเรียน (ทั้งนี้เนื่องจากการเรียนรู้แบบ Active Learning ใช้เวลาในการจัดกิจกรรม) ใจ กว้าง ยอมรับในความสามารถในการ แสดงออก และความคิดเห็นที่ผู้เรียน นำเสนอ 1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.3.1 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมที่สนใจ รวมทั้งกระตุ้นให้ผู้เรียนประสบ ความสำเร็จในการเรียน จัดสภาพ แวดล้อมการเรียนรู้แบบ ร่วมมือ (Collaboratory Learning) ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือใน กลุ่มผู้เรียน จัดกิจกรรมการเรียนการ สอน 1.2.1 ผู้เรียนเห็น คุณค่าในตนเอง ทำให้ เกิดการแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ แสดงออกถึงความรู้ ความสามารถ เกิด ความรับผิดชอบ และ ทุ่มเทเพื่อมุ่งสู่ ความสำเร็จ 1.3.1 ผู้เรียนได้รับการ ส่งเสริมให้มีความ สามารถในการคิด วิเคราะห์ คิดอย่างมี วิจารณญาณ และ แลกเปลี่ยนความ คิดเห็นร่วมกับผู้อื่น 1.2.1 ร้อยละ 85 ของ ผู้เรียนมีความรู้ทักษะ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามโครงสร้างหลักสูตร การศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1.3.1 ร้อยละ 85 ของ ผู้เรียนมีความ สามารถในการคิด วิเคราะห์ คิดอย่างมี วิจารณญาณ และ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับผู้อื่นเป็นไปตามค่า เป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด


PA 1/ส ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐาน ตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่ คาดหวังให้เกิดขึ้น กับ ผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) แบบบูรณาการ ทั้งเนื้อหาสาระ วิธีการ และฝึกให้ผู้เรียนได้มีการบูร ณาการเนื้อหาสู่การประยุกต์ใช้ใน สถานการณ์จริง จัดกิจกรรมการ เรียนการสอนให้ท้าทายและ หลากหลายบรรยายหลักการ และ ทฤษฎี แม้เป็นรายวิชาที่เน้นการ สามารถจัดกิจกรรมเสริมอาทิ การ อภิปราย การแก้ไขสถานการณ์ที่ กำหนดเสริมเข้ากับกิจกรรมการ บรรยาย 1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่ง เรียนรู้ 1.4.1 ปรับประยุกต์สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี รูปแบบการสอน ออนไลน์โดยใช้การเรียนรู้แบบ On Line On Hand On Demand ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อใช้ใน การจัดการเรียนการสอน 1.4.2 ร่วมพัฒนาแหล่งเรียนรู้ กศน.ตำบล ให้เป็น กศน.ตำบล 5 ดี พรีเมี่ยม พลัส เพื่อให้ผู้เรียนได้ เข้าถึงแหล่ง 1.4.1 ผู้เรียนได้รับความรู้ จากการใช้สื่อ เทคโนโลยี สอดคล้องกับกิจกรรมการ เรียนรู้และทันสมัย 1.4.2 ผู้เรียนได้รับความรู้ จากการใช้แหล่งเรียนรู้ที่ หลากหลายและสอดคล้อง กับการเรียนรู้ 1.4.1 ร้อยละ 85 ของ ผู้เรียนมีทักษะการคิด มีความสามารถในการ สร้างสรรค์งาน ชิ้นงาน นวัตกรรม และสามารถ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ที่ทันสมัย 1.4.2 ผู้เรียนร้อยละ 85 มีทักษะการคิด สามารถ นำความรู้ไปใช้ให้เกิด ประโยชน์


PA 1/ส ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่ คาดหวังให้เกิดขึ้น กับ ผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) เรียนรู้ที่หลากหลายต่อความ ต้องการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ 1.5 วัดและประเมินผล การเรียนรู้ 1.5.1 มีการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ด้วยวิธีการที่ หลากหลาย เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ ประเมินจาก แฟ้มสะสมงาน ประเมินการ ปฏิบัติตามมาตรฐานการเรียนรู้ (Performance Evaluation) ประเมินการปฏิบัติจริง (Authentic Assessment) ทดสอบย่อย (Quiz) ประเมิน จากกิจกรรม โครงงาน หรือ แบบฝึกหัด เป็นต้น โดยเลือกให้ สอดคล้องและเหมาะสมกับ ธรรมชาติของรายวิชา ควบคู่ ไปกับกิจกรรมการเรียนรู้ของ ผู้เรียน 1.6 ศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนาการเรียนรู้ 1.6.1 นำผลการเรียนในภาค เรียนที่มามาพัฒนาปรับปรุง พัฒนาผู้เรียนมีความรู้เพียงพอ กับการศึกษาในแต่ละระดับ 1.5.1 ผู้เรียนได้รับการ ประเมินผลการเรียนรู้อย่าง ต่อเนื่อง หลากหลาย ตาม หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1.6.1 ผู้เรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือพัฒนาใน ด้านการเรียนรู้ด้าน คุณธรรม จริยธรรม 1.5.1 ร้อยละ 85 ของผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ ผ่านเกณฑ์การ ประเมินเป็นไปตามเกณฑ์ การวัดผลและประเมินผล หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1.6.1 ร้อยละ 85 ของผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะที่ดี


PA 1/ส ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่ คาดหวังให้เกิดขึ้น กับ ผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) และพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถทางด้าน วิชาการเพิ่มมากขึ้น โดย จัดเป็นกิจกรรมพัฒนา วิชาการเสริมความรู้ โครงการ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนให้กับผู้เรียน 1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริม และพัฒนาผู้เรียน 1.7.1 สร้างบรรยากาศการมี ส่วนร่วม และการเจรจา โต้ตอบในการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ มีปฏิสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน ยอมรับฟังความคิดเห็นของ ผู้อื่น และด้านคุณลักษณะที่ดี ตามที่สถานศึกษา กำหนด 1.7.1 ผู้เรียนมี ปฏิสัมพันธ์ที่ดี แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกัน และกันระหว่างผู้สอน และเพื่อนๆ ในชั้นเรียน และมีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนสูงขึ้นเป็นไปตามค่า เป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนดไว้ 1.7.1 ร้อยละ 85 ของผู้เรียน มีความ กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วย ตนเอง สามารถใช้ ความคิดเชิงบวก ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ การคิด เชิงเหตุผล การคิดอย่างมี วิจารณญาณ การคิด เชื่อมโยง และการคิด อย่างสร้างสรรค์ มี ทัศนคติที่ดีต่อการเรียน เพราะการเรียนไม่ใช่เรื่อง ที่น่าเบื่อ แต่เป็นการเรียน แบบสนุกสนาน มีชีวิต ชีวา


PA 1/ส ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตาม ข้อตกลง ที่ คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรด ระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) 1.8 อบรมและพัฒนา คุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน 1.8.1 จัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคง การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องใน การปกครองระบอบ ประชาธิปไตยโดยการเรียนรู้ที่ ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม สร้าง วินัย จิตสาธารณะ อุดมการณ์ ความยึดมั่นในสถาบันหลักของ ชาติ การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ของชาติและท้องถิ่น เสริมสร้าง วิถีชีวิตความเป็นพลเมืองและมี ศีลธรรมที่เข้มแข็ง รวมถึง การมีจิตอาสา 1.8.1 ผู้เรียนมี ความตระหนักและ เห็นความสำคัญ มี ความรู้ คุณธรรม จริยธรรมตาม คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ มีจิต สาธารณะปลูกฝัง และสร้างจิตสำนึก ที่ดีให้กับผู้เรียนใน การบำเพ็ญตนให้ เป็นประโยชน์ต่อ สถานศึกษา สังคม และประเทศชาติ 1.8.1 ร้อยละ 85 ของผู้เรียนมีความรู้ คุณธรรมจริยธรรมตาม คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ มีจิตสาธารณะ จิตสำนึก ในการบำเพ็ญ ตนให้เป็นประโยชน์ต่อ สถานศึกษา สังคม และ ประเทศชาติ 2. ด้านการส่งเสริมและ สนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ลักษณะงานที่เสนอให้ ครอบคลุมถึงการจัดทำข้อมูล สารสนเทศของผู้เรียนและ รายวิชาการดำเนินการตามระบบ ดูแลช่วยเหลือผู้เรียน การ ปฏิบัติงานวิชาการ และงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา และการประสาน ความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคี เครือข่าย และหรือสถาน ประกอบการ 2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของ ผู้เรียนและรายวิชา 2.1.1 มีการจัดทำข้อมูล สารสนเทศของผู้เรียนและ รายวิชา เพื่อใช้ในการส่งเสริม สนับสนุนการเรียนรู้ และพัฒนา คุณภาพผู้เรียน จัดทำรายงานข้อมูลสารสนเทศ ผู้เรียนรายบุคคลและข้อมูล รายวิชาที่สอน ผ่านโปรแกรม ทะเบียนนักศึกษาสายสามัญ (ITW51) 2.1.1 ผู้เรียนใช้ ข้อมูลสารสนเทศ ตรวจสอบและ รายงานผลระบบ ดูแลช่วยเหลือ ผู้เรียนผ่าน โปรแกรมทะเบียน นักศึกษาสาย สามัญ (ITW51) 2.1.1 ร้อยละ 100 ของ ผู้เรียนได้ใช้ประโยชน์จาก สารสนเทศในระบบดูแล ช่วยเหลือผู้เรียนด้วย ระบบโปรแกรมทะเบียน นักศึกษาสายสามัญ (ITW51)


PA 1/ส ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐาน ตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่ คาดหวังให้เกิดขึ้น กับ ผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) 2.2 ดำเนินการตามระบบดูแล ช่วยเหลือผู้เรียน 2.2.1 การคัดกรองผู้เรียนรายบุคคล รวมไปถึงผู้ปกครองเข้ามา มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือตาม ระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน มีการใช้ ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับผู้เรียน รายบุคคล และประสานความร่วมมือกับ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาและ แก้ปัญหาผู้เรียน โดยครูจัดทำช่องทาง การเผยแพร่ผลการประเมินผู้เรียนต่อ ผู้ปกครองรายบุคคล เพื่อการวางแผน พัฒนาผู้เรียนร่วมกัน 2.3 ปฏิบัติงานวิชาการ และงานอื่นๆ ของสถานศึกษา กลุ่มงานอำนวยการ - งานนิเทศภายในสถานศึกษา - งานข้อมูลสารสนทศและการรายงาน - งานประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษา - งานอาคารสถานที่ 2.2.1 ผู้เรียนและ ผู้ปกครองมีส่วนร่วมกับ ครูผู้สอนในการแก้ไข ปัญหาผู้เรียนในด้านการ เรียนรู้และระบบดูแล ช่วยเหลือผู้เรียน รายบุคคล - ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ ตามมาตรฐานการศึกษา นอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการศึกษา ต่อเนื่อง และมาตรฐาน การศึกษาตามอัธยาศัย 2.2.1 ครูผู้ปกครองและผู้ ที่เกี่ยวข้องร้อยละ 100 สามารถรับรู้ ความก้าวหน้าพัฒนาการ ของผู้เรียนและสามารถ ช่วยเหลือผู้เรียนได้อย่าง ทั่วถึง - ร้อยละ 85 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมินตามโครงสร้าง หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551


PA 1/ส ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐาน ตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่ คาดหวังให้เกิดขึ้น กับ ผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) กลุ่มงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย - นายทะเบียนสถานศึกษา - เจ้าหน้าที่ข้อมูลนักศึกษาสายสามัญ (ITW51) - หัวหน้างานการศึกษาขั้นพื้นฐาน - หัวหน้างานวัดผลและประเมินผล - หัวหน้างานพัฒนาวิชาการ/พัฒนา หลักสูตร/สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา - งานกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน - งานศูนย์บริการให้คำปรึกษาแนะแนว (Advice Center) กลุ่มบริหารงบประมาณ - เจ้าหน้าที่การเงิน กลุ่มบริหารงานทั่วไป - งานทะเบียนนักศึกษา - งานประชาสัมพันธ์การศึกษา - งานพัฒนาสื่อนวัตกรรมและ เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา - ร้อยละ 85 ของผู้เรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงขึ้นเป็นไปตามค่า เป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนดไว้


PA 1/ส ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตาม ข้อตกลง ที่คาดหวัง ให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) 2.4 ประสานความร่วมมือกับ ผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และ หรือสถานประกอบการ - ประสานงานตามแผนการจัด และส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ นิทรรศการ งานประชาสัมพันธ์ องค์ความรู้สู่ชุมชนร่วมกับภาคี เครือข่ายทั้งภายในและภายนอก พื้นที่ เช่น ปกครองอำเภอสาธารณสุข อำเภอ อบต. โรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบล พัฒนาชุมชน เกษตรอำเภอ สถานีตำรวจ อาสาสมัคร กศน.ตำบล และ หน่วยงาน ตามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือ (MOU) เช่น สคบ. สอศ. สสวท. กกต. กระทรวง DE เป็นต้น - ประสานงานผู้ปกครองผ่านช่อง ทางการสื่อสารออนไลน์ - ผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ ทางด้าน วิชาการ ด้าน การศึกษาเพื่อพัฒนา ทักษะชีวิต ด้าน การศึกษาเพื่อพัฒนา สังคมและชุมชน กระบวนการเรียนรู้ ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจ พอเพียง ผ่านเกณฑ์ ตามเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด - ร้อยละ 85 ของผู้เรียน ได้รับความรู้ ทักษะ ทางด้านวิชาการ ด้าน การศึกษาเพื่อพัฒนา ทักษะชีวิต ด้านการศึกษา เพื่อพัฒนาสังคมและ ชุมชน กระบวนการ เรียนรู้ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านเกณฑ์ตามเป้าหมาย ที่สถานศึกษากำหนด 3. ด้านการพัฒนาตนเองและ วิชาชีพ ลักษณะงานที่เสนอให้ ครอบคลุมถึงการพัฒนาตนเอง อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง การมีส่วนร่วม ในการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ 3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็น ระบบและต่อเนื่อง 3.1.1 เข้าร่วมการประชุมเชิง ปฏิบัติการ การสัมมนา และ โครงการฝึกอบรมที่เน้นวิธีการ สอน เทคนิคการประเมิน การ จัดการชั้นเรียน 3.1.1 ผู้เรียนมี ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์การ เรียนรู้เพิ่มขึ้น เกิด แรงจูงใจและการมี ส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นใน ชั้นเรียน 3.1.1 ร้อยละ 85 ของผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ ทางด้านวิชาการ เพิ่มมากขึ้น ผ่านเกณฑ์ ตามเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด


PA 1/ส ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่ คาดหวังให้เกิดขึ้น กับ ผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ และการนำความรู้ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเอง และวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนา การจัดการเรียนรู้ การพัฒนา คุณภาพผู้เรียน และการพัฒนา นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ และการบูรณาการเทคโนโลยี ในการศึกษา การวิจัยและ แนวทางปฏิบัติการพัฒนา วิชาชีพของตนเอง 3.1.2 วางแผนบทเรียน ร่วมกัน มีส่วนร่วมในการ วางแผนบทเรียนร่วมกับเพื่อน ครู การแชร์แผนการสอน กล ยุทธ์ และแหล่งข้อมูล ช่วย เพิ่มพูนทักษะการสอนและ เรียนรู้จากความเชี่ยวชาญของ กันและกัน 3.2 การมีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทางวิชาชีพ 3.2.1 ร่วมสัมมนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แสวงหาให้ คำปรึกษา ประสบการณ์ องค์ ความรู้จากผู้บริหารทั้งภายใน และระหว่างสถานศึกษา รวมทั้งเพื่อนครู ภูมิปัญญา ท้องถิ่น ผู้รู้ เพื่อนำองค์ความรู้ เนื้อหา หลักสูตรเชิงลึกใหม่ ๆ มาพัฒนาปรับปรุง แก้ไข ปัญหาในการจัดการเรียนการ สอน หรือแนวทางวิชาชีพ 3.1.2 ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหา มากขึ้นและเก็บข้อมูล ได้ดีขึ้น 3.2.1 ผู้เรียนได้รับ ความรู้ ทักษะ ทางด้าน วิชาการ ผ่านเกณฑ์ตาม มาตรฐานการศึกษา นอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน 3.1.2 ร้อยละ 85 ของ ผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ ทางด้านวิชาการ เพิ่มมากขึ้น ผ่านเกณฑ์ ตามเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด 3.2.1 ร้อยละ 85 ของผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ ทางด้านวิชาการ ผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐาน การศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน


PA 1/ส ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐาน ตำแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่ คาดหวังให้เกิดขึ้น กับ ผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) 3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะ ที่ ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมา ใช้ 3.3.1 จัดทำแผนการเรียนรู้แบบบูรณา การเชิงรุก (Active Learning) ให้ผู้เรียน สร้างองค์ความรู้ใหม่จาการปฏิบัติ สัมพันธ์และเชื่อมโยงจากความรู้เดิมด้วย ตนเองจากการปฏิบัติจริง ซึ่งต้องจัด กิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จาการอ่าน เขียน การโต้ตอบ และการแก้ปัญหา และให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิด ชั้นสูง ได้แก่ การวิเคราะห์ การ สังเคราะห์ และการประเมินค่า 3.3.1 ผู้เรียนได้รับ ความรู้ ทักษะ ทางด้าน วิชาการ ผ่านเกณฑ์ตาม มาตรฐานการศึกษา นอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน 3.3.1 ร้อยละ 85 ของผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ ทางด้านวิชาการ ผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐาน การศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน หมายเหตุ 1. รูปแบบการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตามแบบ PA1 ให้เป็นไปตามบริบทและสภาพ การจัดการเรียนรู้ของแต่ละสถานศึกษา โดยความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการสถานศึกษา และข้าราชการครูผู้จัดทำข้อตกลง 2. งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน ต้องเป็นงานในหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก ที่ส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน และให้นำเสนอรายวิชาหลักที่ทำการสอน โดยเสนอในภาพรวม ของรายวิชาหลักที่ทำการสอนทุกระดับชั้น ในกรณีที่สอนหลายรายวิชา สามารถเลือกรายวิชาใดวิชาหนึ่งได้โดย จะต้องแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง และคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตาม ข้อตกลงสามารถประเมินได้ตามแบบการประเมิน PA 2 3. การพัฒนางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA 1 ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน (Outcomes) และตัวชี้วัด (Indicators) ที่เป็นรูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมินผล การพัฒนางานตามข้อตกลง ให้คณะกรรมการดำเนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบัติงานจริง สภาพการจัดการเรียนรู้ในบริบทของแต่ละสถานศึกษา และผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดจากการพัฒนางาน ตามข้อตกลงเป็นสำคัญ โดยไม่เน้นการประเมินจากเอกสาร


PA 1/ส ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ ของผู้เรียน ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ ปรับประยุกต์การจัดการ เรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้) ประเด็นท้าทาย เรื่อง การจัดการเรียนรู้ในรูปแบบ Active Learning เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนของผู้เรียน ในการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้ สภาพปัญหาของผู้เรียนด้านวิทยาศาสตร์ยังพบปัญหาอย่างมากในการคิด วิเคราะห์ และการ แก้ปัญหา โดยใช้ทักษะการคิดของนักวิทยาศาสตร์ที่นำมาใช้ในการศึกษา ค้นคว้า สืบเสาะหาความรู้ และแก้ปัญหา ต่าง ๆ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากนักศึกษา ไม่เข้าใจถึงกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทักษะ กระบวนการขั้นพื้นฐาน ได้แก่การสังเกตการวัดการคำนวณการจำแนกประเภทการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปส กับสเปส และสเปสกับเวลาการจัดกระทาและสื่อความหมายข้อมูลการลงความเห็นจากข้อมูลและการพยากรณ์ ทักษะกระบวนการขั้นบูรณาการ ได้แก่การตั้งสมมติฐานการกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการการกำหนดและการ ควบคุมตัวแปรการออกแบบและดาเนินการทดลองการตีความหมายของข้อมูล และการลงข้อสรุป ศึกษาลักษณะ ที่สำคัญและวิธีการใช้อุปกรณ์เครื่องมือและสารเคมีในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้เกิดความชำนาญและนา ความรู้ไปใช้ในการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ผ่านกระบวนการทดลองโดยดำเนินการตามวิธีการทาง วิทยาศาสตร์(Scientific Methods)ได้แก่ขั้นกำหนดปัญหา ขั้นตั้งสมมติฐาน ขั้นตรวจสอบสมมติฐาน ขั้นรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลและขั้นแปลความหมายและลงข้อสรุปได้อย่างถูกต้อง วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ( Scientific Method ) คือ การแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์อย่างมีกระบวนการที่เป็นแบบแผนมีขั้นตอนที่สามารถปฏิบัติ ตามได้ โดยขั้นตอนวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ที่เป็นเครื่องมือสำคัญของนักวิทยาศาสตร์1. ขั้นตั้งคำถาม คือ จะต้อง คำนึงว่าปัญหาเกิดขึ้นได้อย่างไร ปัญหาเกิดจากการสังเกต การสังเกตเป็น คุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ การ สังเกตอาจจะเริ่มจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา 2. ขั้นตั้งสมมติฐาน คือ สมมติฐานมีคำตอบที่อาจเป็นไปได้ และ คำตอบที่ยอมรับว่าถูกต้องเชื่อถือได้เมื่อมีการพิสูจน์ หรือตรวจสอบหลาย ๆ ครั้ง 3. ขั้นรวบรวมข้อมูล คือ เมื่อ ตั้งสมมติฐานแล้ว หรือคาดเดาคำตอบหลาย ๆ คำตอบไว้แล้วกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นต่อไป คือ ตรวจสอบสมมติฐาน ในการตรวจสอบสมมติฐานจะต้องยึดข้อกำหนดสมมติฐาน ไว้เป็นหลักสำคัญเสมอ 4. ขั้น วิเคราะห์ข้อมูล คือ เป็นขั้นที่นำข้อมูลที่ได้จากการสังเกต การค้นคว้า การทดลอง หรือการ รวบรวมข้อมูลหรือ ข้อเท็จจริง มาทำการวิเคราะห์ผล อธิบายความหมายของข้อเท็จจริง แล้วนำไปเปรียบเทียบ กับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ว่าสอดคล้องกับสมมติฐานข้อไหน 5. ขั้นสรุปผล คือ เป็นขั้นสรุปผลที่ได้จากการทดลอง การค้นคว้ารวบรวมข้อมูล สรุปข้อมูลที่ได้จากการ สังเกตหรือการทดลองว่าสมมติฐานข้อใดถูก พร้อมทั้งสร้างทฤษฎีที่จะใช้เป็นแนวทาง สำหรับอธิบาย ปรากฏการณ์อื่น ๆ ที่คล้ายกัน และนำไปใช้ปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ขอเพื่อส่งเสริมเจตคติทาง วิทยาศาสตร์(Science attitude) ให้มีลักษณะนิสัยของนักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ทักษะกระบวนการและวิธีการทาง วิทยาศาสตร์ในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้และมุ่งหวังให้มีคุณลักษณะซื่อสัตย์ ใฝ่เรียนรู้มีความเพียรพยายาม มี


PA 1/ส เหตุผล และมีความละเอียดรอบคอบ ซึ่งแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเดิมยังไม่ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการ เรียนรู้เท่าที่ควร เนื่องมาจากบริบทของสิ่งแวดล้อม การเข้าถึงสื่อ/เทคโนโลยีของผู้เรียนค่อนข้างไม่ครอบคลุม จึง ส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ต่อผู้เรียนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะกระบวนการ แนวคิดเชิงคำนวณที่ดีขึ้น ครูผู้สอนจึงใช้วิธีการประยุกต์จากเทคโนโลยีด้วยแบบการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย สอน (CAI) และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning ซึ่งนวัตกรรมที่นำมาปรับ ประยุกต์ใช้ในการพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ควรมีลักษณะเร้า ความสนใจของผู้เรียนท้าทายความสามารถ เข้าใจง่าย มีภาพ เสียง วิดีโอประกอบ วางรูปแบบสวยงามและ สามารถฝึกได้ด้วยตนเอง อันจะส่งผลให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาโดยใช้การอ่าน การเขียน แจกลูก สะกดคำภาษาไทยและประยุกต์ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) มี ความสำคัญ และมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนวิชาที่เป็นทักษะมาก เพราะเป็นสื่อการสอนที่ช่วยลดภาระของ ครู ช่วยให้นผู้เรียนได้ฝึกทักษะให้ดีขึ้น ส่งเสริมในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล ทำให้นักเรียนประสบผลสำเร็จ ในทางจิตใจมากขึ้น ช่วยเสริมทักษะแนวคิดเชิงคำนวณให้คงทน รวมทั้งเป็นเครื่องมือวัดผลการเรียนหลังจากเรียน บทเรียนแล้ว ตลอดจนผู้เรียนสามารถทบทวนได้ด้วยตนเอง ทำให้ครูมองเห็นปัญหาต่าง ๆ ของผู้เรียนได้ชัดเจน ผู้เรียนสามารถฝึกฝนได้เต็มที่นอกเหนือจากที่เรียนในเวลาเรียนซึ่งทำให้ผู้เรียนเห็นความก้าวหน้าของตนเอง เพื่อให้กิจกรรมมีความหลากหลาย ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ อีกทั้งยังเป็นการ กระตุ้นให้ผู้เรียนฝึกฝนทักษะได้ทุกเวลาจากเทคโนโลยีซึ่งทำให้กิจกรรมน่าสนใจมากยิ่งขึ้น 2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล พัฒนาบทเรี ยน ค อม พ ิว เ ต อร ์ช ่ว ยส อน ( CAI) กระบว นการ ท างว ิท ยา ศ า ส ต ร์ กับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยการให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอน ด้วยการฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 14 ทักษะ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็น ทักษะการคิดของนักวิทยาศาสตร์ที่นำมาใช้ในการศึกษา ค้นคว้า สืบเสาะหาความรู้ และแก้ปัญหาต่าง ๆ ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้แบ่งออกเป็น 14 ทักษะ 1. การสังเกต (observation) หมายถึง ความสามารถในการใช้ประสาทสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่งหรือ หลายอย่าง ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวกาย เข้าไปสัมผัสโดยตรงกับวัตถุหรือเหตุการณ์ เพื่อหาข้อมูล หรือ รายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ใส่ความเห็นของผู้สังเกตลงไป 2. การวัด (measurement) หมายถึง ความสามารถในการเลือกและการใช้เครื่องมือทำการวัดหา ปริมาณของสิ่งต่าง ๆ ออกมาเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง โดยมีหน่วยกำกับเสมอ 3. การจำแนกประเภท (classification) หมายถึง การแบ่งพวก หรือเรียงลำดับวัตถุหรือสิ่งที่อยู่ใน ปรากฏการณ์ โดยใช้เกณฑ์ความเหมือน ความแตกต่าง หรือความสัมพันธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง 4. การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปชกับสเปช และสเปชกับเวลา (space/space relationships and space/time relationships) สเปชของวัตถุ หมายถึง ที่ว่างที่วัตถุนั้นครองที่ ซึ่งจะมีรูปร่างลักษณะ เช่นเดียวกับ วัตถุนั้น โดยทั่วไปแล้วสเปชของวัตถุจะมี 3 มิติ คือ ความกว้าง ความยาว และความสูง (หรือหนา) ความสัมพันธ์


PA 1/ส ระหว่างสเปชกับเวลา ได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนตำแหน่งที่อยู่ของวัตถุกับเวลา หรือ ความสัมพันธ์ ระหว่างสเปชของวัตถุที่เปลี่ยนไปกับเวลา 5. การคำนวณ (using numbers) หมายถึง การนับจำนวนของวัตถุและการนำตัวเลข แสดงจำนวนที่ นับ ได้ มาคิดคำนวณโดยการบวก ลบ คูณ หาร หรือหาค่าเฉลี่ย 6. การจัดกระทำ และการสื่อความหมายข้อมูล (organizing data and communication) หมายถึง การ นำผลการสังเกต การวัด การทดลองจากแหล่งต่าง ๆ มาจัดกระทำเสียใหม่ โดยอาศัยวิธีการต่าง ๆ เช่น การหา ความถี่ การเรียนลำดับ การจัดแยกประเภท การคำนวณหาค่าใหม่ เป็นต้น เพื่อให้บุคคลอื่นเข้าใจ ความหมายของ ข้อมูลดียิ่งขึ้น โดยอาจนำเสนอในรูปของตาราง แผนภูมิ แผนภาพ ไดอะแกรม วงจร กราฟ สมการ หรือเขียน บรรยาย 7. การลงความเห็นจากข้อมูล (inferring) หมายถึง การเพิ่มความคิดเห็นให้กับข้อมูลที่ได้จากการสังเกต อย่างมีเหตุผล โดยอาศัยความรู้หรือประสบการณ์เดิมมาช่วย 8. การพยากรณ์ (prediction) หมายถึง การสรุปคำตอบล่วงหน้าก่อนการทดลอง โดยอาศัยข้อมูลที่ได้ จากการสังเกตหรือข้อมูลจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ หลักการ กฎ หรือทฤษฎีในเรื่องนั้นมาช่วยในการ สรุป การพยากรณ์มีสองทางคือ การพยากรณ์ภายในขอบเขตของข้อมูลที่มีอยู่ ( interpolating ) และการ พยากรณ์ ภายนอกขอบเขตข้อมูลที่มีอยู่ ( extrapolating ) 9. การตั้งสมมติฐาน (formulating hypotheses) หมายถึง การคิดหาคำตอบล่วงหน้า ก่อนจะกระทำ การทดลองโดยอาศัยการสังเกต ความรู้ ประสบการณ์เดิมเป็นพื้นฐาน คำตอบที่คิดล่วงหน้าซึ่งยังไม่ทราบหรือ ยัง ไม่เป็นหลักการ กฎ หรือทฤษฎีมาก่อน สมมติฐานหรือคำตอบที่คิดไว้ล่วงหน้ามักกล่าวไว้เป็นข้อความที่บอก ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้น (ตัวแปรอิสระ) กับตัวแปรตาม สมมติฐานที่ตั้งไว้ อาจถูกหรือผิดก็ได้ซึ่งจะ ทราบ ภายหลังการทดลองเพื่อหาคำตอบสนับสนุน หรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้ 10. การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ (defining operationally) หมายถึง การกำหนดความหมายและ ขอบเขตของตัวแปรที่อยู่ในสมติฐานที่ต้องการทดสอบให้เข้าใจตรงกัน และสามารถสังเกตหรือวัดได้ 11. การกำหนดและควบคุมตัวแปร (identifying and controlling variables) หมายถึง การบ่งชี้ตัว แปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรที่ต้องควบคุมในสมมติฐานหนึ่ง ๆ การควบคุมตัวแปรเป็นการควบคุมสิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากตัวแปรต้น ถ้าหากไม่ควบคุมให้เหมือน ๆ กัน จะทำให้ผลการทดลองคลาดเคลื่อน 12. การทดลอง (experimenting) หมายถึง การลงลงมือปฏิบัติการทดลองจริง โดยมี 3 ประเภท คือ การทดลองแบบแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบ ไม่มีกลุ่มเปรียบเทียบและลองผิดลองถูก การทดลองเป็นกระบวนการ ปฏิบัติการเพื่อหาคำตอบหรือการเพื่อทดสอบสมมติฐานที่ตั้งไว้ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ การออกแบบการ ทดลอง การปฏิบัติการทดลอง การบันทึกผลการทดลอง 13. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป (interpreting data conclusion) การตีความหมาย ข้อมูล คือ การแปลความหมายหรือการบรรยายลักษณะและสมบัติของข้อมูลที่มีอยู่ การลงข้อสรุป หมายถึง การ สรุปความสัมพันธ์ของข้อมูลทั้งหมด


PA 1/ส 14. การสร้างแบบจำลอง (Modeling Construction) หมายถึง การนำเสนอข้อมูล แนวคิด ความคิด รวบยอด เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจในรูปของแบบจำลองต่าง ๆ เช่น กราฟ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว วัสดุ สิ่งของ สิ่งประดิษฐ์หุ่น เป็นต้น ในรายวิชา วิทยาศาสตร์ ครูผู้สอนติดตามความก้าวหน้าจากการแบบฝึกหัด และ กระบวนการคิด วิเคราะห์ และนำไปสู่การแก้ปัญหา โดยใช้การใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งพิจารณาจาก ทักษะการแก้ปัญหาให้ถูกต้อง และในระหว่างการพัฒนา ครูผู้สอนนำปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนมาแลกเปลี่ยน เรียนรู้กับผู้บริหาร เพื่อนครูเพื่อที่จะหาแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ลักษณะของการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นดังนี้ 1) เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และ การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ 2) เป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด 3) ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง 4) ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้าง ปฏิสัมพันธ์ร่วมกันร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน 5) ผู้เรียนเรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทำงาน และการแบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ 6) เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะ เป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง 7) เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการคิดขั้นสูง 8) เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศ และ หลักการความคิดรวบยอด 9) ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติ ด้วยตนเอง 10) ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผู้เรียน 3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง 3.1 เชิงปริมาณ ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ศกร.ตำบลท่าถ่าน สกร.อำเภอพนมสารคาม ร้อยละ 85 ที่เรียนในรายวิชาวิทยาศาสตร์มีผลการพัฒนาทักษะการเขียนที่ถูกต้องและผลสัมฤทธิ์เพิ่มสูงขึ้น 3.2 เชิงคุณภาพ


PA 1/ส การปรับประยุกต์/เทคนิค/สื่อการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์กับเทคนิคการสอนแบบ Active Learning รายวิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน (CAI) ในการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ ลงชื่อ.............................................. (นางสาวลาวัลย์ พุดขุนทด) ตำแหน่ง ครู ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน วันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2566 ความเห็นของผู้อำนวยการสถานศึกษา ( ) เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน ( ) ไม่เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยมีข้อเสนอแนะเพื่อนำไปแก้ไข และเสนอ เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ดังนี้ ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชื่อ.............................................. (นายกรินทร์ เฉลิมวิสุตม์กุล) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอพนมสารคาม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอพนมสารคาม วันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2566


PA 1/ส


Click to View FlipBook Version