The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebookcha, 2021-01-27 04:35:03

ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว

ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว

Keywords: ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว

คำนำ

เอกสารฉบับนจ้ี ัดทำขนึ้ เพ่ือใหผ้ ทู้ ีส่ นใจศกึ ษาเก่ียวกบั ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพรา้ ว จากเป็นพชื ท่คี นไทย
รู้จักมานาน และใชป้ ระโยชน์ของจากได้เปน็ อยา่ งดี ต้งั แตใ่ บจนถึงผล ใบจากมีลกั ษณะคล้ายใบมะพร้าว แตม่ ีความ
เหนียว และกว้างกวา่ ทำให้สามารถใชน้ ำมาเยบ็ เปน็ ตบั เรยี กว่า "ตับจาก" แลว้ นำไปมุงหลงั คา กันแดดกนั ฝนได้
เปน็ อย่างดี แม้วา่ จะใช้งานไปนาน ใบจากกรอบ เปล่ียนจากสเี ขียวเข้ม เป็นสีเหลือง สีนำ้ ตาล กระทัง่ เกือบเป็นสีดำ
แต่กย็ งั คงกันฝนและแดดได้ จนกวา่ จะแหง้ กรอบและผไุ ป ใชท้ ำหมวกท่ีเรยี ก "เปย้ี ว" พอนจากใช้ทำเชื้อเพลิง ใบ
จากอ่อนตากแห้งใช้มวนยาสูบ ห่อขนมต้ม ทำทตี่ ักนำ้ เรียก "หมาจาก" ตอกบิด เสวียนหม้อ ใช้ห่อขนมจาก ซง่ึ เป็น
ขนมทท่ี ำจากแป้ง น้ำตาล และมะพรา้ ว ผสมกนั จนเหลวไดท้ ่ี แลว้ นำหอ่ ด้วยใบจาก ปงิ้ บนไฟ จนมีกลน่ิ หอม แม้
อาจมีการใช้ใบมะพร้าวมาห่อ แตก่ ไ็ มอ่ ร่อยเทา่ ใชใ้ บจาก ใบจากใชต้ ้มน้ำดม่ื แก้อาการทอ้ งร่วงได้ ในหมเู่ กาะโรตี
และซาวใู ชใ้ บจากเปน็ อาหารหมเู พ่อื ให้เนอ้ื หมูมรี สหวาน

ช่อดอกนำมาทำแกงหรือกนิ กบั น้ำพริก ก้านชอ่ ดอกปาดเอานำ้ หวานมาทำเปน็ นำ้ ตาลได้ เรียก "โซมหรือ
นำไปหมกั เป็นเหลา้ และน้ำส้มสายชู กลีบดอกนั้นนำไปเปน็ สว่ นผสมของชาสมนุ ไพรได้ผลจากท่ีสุกแล้ว จะมีเน้อื ใน
เมล็ดเป็นเย่ือสีขาว ใส นุ่ม มีรสหวาน นยิ มรับประทานเป็นของหวาน เรยี กลกู จาก ผลออ่ นที่แตกหน่อ จะมีจาวอยู่
ขา้ งใน นำมารบั ประทานได้เช่นเดียวกบั จาวตาล หรือจาวมะพรา้ ว

ผลติ ภณั ฑ์จากกะลามะพรา้ ว จึงเปน็ ผลติ ภณั ฑท์ ่สี ะท้อนถึงภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ตำนานของปราชญท์ ้องถิ่น
วถิ ีชีวิตชาวบ้าน เป็นสนิ คา้ ทม่ี ีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทส่ี ามารถพฒั นาสงั คมแห่งการเรยี นสงั คมเอ้ืออาทร สังคมภมู ิ
ปัญญาความรู้ต่าง ๆ ได้



สารบัญ

คำนำ...................................................................................................................................................................... ก
สำรบญั ................................................................................................................................................................... ข
ผลติ ภณั ฑจ์ ำกกะลำมะพรำ้ ว....................................................................................................................................... 1

ตน้ มะพรำ้ ว.......................................................................................................................................................... 1
มะพรำ้ ว ช่ือสำมญั Coconut................................................................................................................................. 1
ลกั ษณะท่วั ไป....................................................................................................................................................... 2
พนื้ ท่ปี ลกู ............................................................................................................................................................ 2
สมนุ ไพรมะพรำ้ ว .................................................................................................................................................. 2
ลกั ษณะทำงพฤกษศำสตร์...................................................................................................................................... 4
สรรพคณุ ของมะพรำ้ ว............................................................................................................................................ 6
ประโยชนข์ องมะพรำ้ ว...........................................................................................................................................10
กำรเพำะปลกู ......................................................................................................................................................13
ประโยชนข์ องมะพรำ้ ว...........................................................................................................................................18
ผลติ ภณั ฑจ์ ำกมะพรำ้ ว .............................................................................................................................................22
โคมไฟ จำกกะลำมะพรำ้ ว .....................................................................................................................................22
วธิ ีกำรคดั เลือกมะพรำ้ ว.........................................................................................................................................22
โคมไฟจำกกะลำมะพรำ้ ว ..........................................................................................................................................24
วสั ดทุ ่ใี ช้ เครือ่ งมือและอปุ กรณ์...............................................................................................................................24
ขน้ั ตอนในกำรทำ .................................................................................................................................................24
บรรณำนกุ รม ..........................................................................................................................................................27

ผลิตภณั ฑ์จากกะลามะพรา้ ว

ต้นมะพร้าว
มะพร้าว ชื่อสามัญ Coconut

มะพร้าว ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Cocos nucifera L. จดั อย่ใู นวงศ์ปาล์ม (ARECACEAE) ซ่ึงแตเ่ ดิมใช้ชื่อวงศ์
ว่า PALMAE หรือ PALMACEAE

มะพรา้ ว เปน็ พชื ท่ีมีความสำคญั ทางเศรษฐกจิ พชื หน่ึงของประเทศไทย เนื่องจากคนไทยร้จู ักใช้เน้ือมะพร้าวใน
การบริโภคเปน็ อาหารทั้งคาวและหวานในชวี ติ ประจำวนั
สำนกั งานสถิติแห่งชาตไิ ด้เคยสำรวจพบวา่ ประชากรไทย 1 คน จะบรโิ ภคเน้ือมะพร้าวประมาณปีละ 8,273.2 กรัม
หรือประมาณ 18 ผล/คน/ปี ซง่ึ ปัจจุบันประเทศไทยมีพลเมอื งประมาณ 55 ล้านคน จะใช้ผลมะพรา้ วประมาณ 990
ล้านผล หรือประมาณ 65% ของผลผลิตท้งั หมด สว่ นท่ีเหลือประมาณ 35% ของผลผลิตทัง้ หมด หรอื 489 ลา้ นผล ใช้
ในรูปของอุตสาหกรรมหรือส่งออกต่อไป

2

ลักษณะท่ัวไป

มะพร้าว เปน็ พชื ยืนต้น ใบมีลกั ษณะเป็นใบประกอบแบบขนนก ผลประกอบด้วยเอพิคารป์ (epicarp)
คือเปลอื กนอก ถดั ไปข้างในจะเปน็ มีโซคาร์ป (mesocarp) หรอื ใยมะพรา้ ว ถดั ไปขา้ งในเปน็ ส่วนเอนโด
คาร์ป (endocarp) หรือกะลามะพรา้ ว ซง่ึ จะมีรูสคี ลำ้ อยู่ 3 รู สำหรบั งอก ถัดจากส่วนเอนโดคารป์ เข้าไปจะเป็น
ส่วนเอนโดสเปิรม์ หรือที่เรยี กวา่ เนอื้ มะพรา้ ว ภายในมะพร้าวจะมีน้ำมะพร้าวซึง่ นำ้ มะพร้าวเกิดจากเอนโดสเปริ ม์
ของมะพร้าวซึ่งจะมีเอนโดสเปริ ์มทั้งของแขง็ และของเหลว คือ เอนโดสเปิร์มของแข็งจะเป็นเนอื้ มะพรา้ ว และเอน
โดสเปริ ม์ ทงั้ ของเหลวจะเป็นนำ้ มะพรา้ ว ซงึ่ เม่ือมะพร้าวแก่ เอนโดสเปริ ม์ กจ็ ะดูดเอาน้ำมะพร้าวไปหมด ขณะท่ี
มะพรา้ วยังออ่ น ช้ันเอนโดสเปิร์ม (เนือ้ มะพร้าว) ภายในผลมลี ักษณะบางและอ่อนน่มุ ภายในมีน้ำมะพรา้ ว ซ่ึงใน
ระยะน้เี รามักสอยเอามะพร้าวลงมารับประทานน้ำและเนอ้ื เมื่อมะพรา้ วแก่ ซึ่งสังเกตได้จากการทเ่ี ปลอื กนอกเรม่ิ
เปลย่ี นเป็นสีน้ำตาล ชั้นเอนโดสเปิร์มกจ็ ะหนาและแขง็ ข้นึ จนในท่สี ดุ มะพรา้ วกห็ ลน่ ลงจากตน้ ภาคทม่ี กี ารปลูก
มะพรา้ วมากและปลูกเปน็ อาชพี คอื ภาคใต้ ภาคตะวนั ออก และภาคตะวนั ตก

พ้ืนที่ปลูก

ภาคใต้ ไดแ้ ก่ ชมุ พร สุราษฎร์ธานี นครศรธี รรมราช กระบ่ี ตรัง
ภาคกลาง ไดแ้ กป่ ระจวบครี ขี ันธ์ สมทุ รสงคราม นครปฐม เพชรบุรี ราชบุรี สมทุ รสาคร
ภาคตะวันออก ไดแ้ ก่ ชลบรุ ี จนั ทบรุ ี ระยอง ตราด ฉะเชงิ เทรา

สมุนไพรมะพร้าว

มีชื่อทอ้ งถ่ินอ่นื ๆ วา่ ดุง (จันทบรุ )ี , โพล (กาญจนบรุ ี), คอส่า (แม่ฮ่องสอน), เอ่ียจ้ี (จนี ), หมากอ๋นุ
หมากอูน (ท่ัวไป) เปน็ ตน้ มะพร้าวเป็นพชื ยนื ต้นทีจ่ ัดอยู่ในตระกูลปาลม์ ใบมีลักษณะเป็นใบประกอบเหมือนขน
นก ผลประกอบไปดว้ ยเปลือกนอก ใยมะพรา้ ว กะลามะพร้าว และช้ันสดุ ท้ายคอื เน้ือมะพรา้ ว ซึง่ ภายในจะมีนำ้
มะพร้าว ถ้าลกู มะพรา้ วแก่มาก เนอื้ มะพร้าวจะดูดเอาน้ำมะพร้าวไปหมด สำหรับสถิติการผลิตมะพร้าว ประเทศ
อนิ โดนเี ซยี คอื อันดับ 1 ของโลกทผ่ี ลิตมะพรา้ วไดม้ ากที่สุด สว่ นประเทศไทยจะอยูท่ ่ีอันดับ 6 ของโลก และรายชอ่ื
พันธ์มุ ะพร้าวตา่ ง ๆ กไ็ ด้แก่ มะพรา้ วนำ้ หอม มะพรา้ วทะเล มะพร้าวไฟ มะพรา้ วซอ มะพร้าวกะทิ มะพร้าวพวง
ร้อย มะพรา้ วมลายสู ีเหลืองต้นเตีย้

มะพรา้ ว เปน็ ผลไม้ทน่ี ยิ มกนั อย่างมากในบา้ นเรา คณุ สมบัติเดน่ ๆ ของมะพรา้ วก็คือ ส่วนตา่ ง ๆ สามารถนำมาใช้ทำ
เป็นประโยชน์ได้หมด ไมว่ ่าจะทำเป็นอาหารคาวหวานเพ่ือบำรงุ สขุ ภาพและรกั ษาอาการหรือโรคต่าง ๆ รวมไปถงึ การ
ผลิตนำ้ มนั มะพร้าว กะทิ นำ้ ตาล และยงั รวมไปถงึ การทำสงิ่ ประดิษฐ์ต่าง ๆ ขึน้ มาใช้สอย (มปี ระโยชน์ชนิดที่วา่ ติดเกาะ
แล้วไม่อดตาย ฮา่ ๆ)

3

นำ้ มะพร้าว ถ้าจะใหด้ ีควรกนิ สด ๆ เปดิ ลูกแลว้ ควรดืม่ เลย ไมค่ วรทง้ิ ไว้หรือเกบ็ ไว้ในตูเ้ ย็นนานเกนิ คร่ึงช่วั โมง
หากดื่มทนั ทีจะทำใหร้ ่างกายได้รบั ประโยชน์อยา่ งสูงสุด แต่ควรระวังเรือ่ งสารฟอกขาวไวด้ ว้ ย ซ้ือมาจากสวนโดยตรงก็
จะดแี ละปลอดภัยมาก และสำหรบั ผ้ทู เี่ ปน็ โรคเบาหวานหรือเป็นโรคไตควรหลีกเลยี่ งการดม่ื น้ำมะพร้าว

มะพรา้ วกับความเชื่อ มคี วามเช่อื วา่ การปลกู ตน้ มะพรา้ วทางทศิ ตะวันออกของบา้ นจะอยู่เย็นเป็น
สขุ ไมม่ ีการเจ็บไขไ้ ด้ป่วย และยังเป็นม่ิงขวญั สำหรบั คนเกิดปีชวดและปีเถาะอีกด้วย สว่ นในพิธีกรรมทางศาสนาจะจัด
ใหม้ ีเคร่ืองสังเวยเปน็ มะพร้าวอ่อน เพราะเช่ือว่าเปน็ ตวั แทนแห่งความอดุ มสมบรู ณ์ การดื่มน้ำมะพรา้ วกเ็ พื่อความเปน็
สริ ิมงคล นอกจากนี้ยงั ใช้นำ้ มะพร้าวล้างหน้าศพอีกดว้ ย เพราะมคี วามเชอื่ วา่ นำ้ มะพรา้ วเป็นน้ำทบี่ ริสุทธ์ิ ทำใหผ้ ตู้ าย
เกิดความผ่องใส สงบจติ ใจลงได้ และเดินทางไปยงั ภพภมู ิหน้าไดอ้ ย่างเป็นสขุ (ออ้ มะพร้าวยิง่ ต้นสงู เท่าไหร่ น้ำก็ยิง่
สะอาดมากขึ้นเท่านนั้ ) (ทมี่ า : ตำราพรหมชาตฉิ บบั หลวง)

นำ้ มันพรา้ วกบั ประจำเดือน ด้วยความเชื่อทว่ี ่า "ในขณะท่ีมีประจำเดือนไม่ควรดื่มนำ้ มะพร้าวเป็น
อันขาด" แต่ความจรงิ ก็คอื นำ้ มะพรา้ วก็เหมือนน้ำหวานทว่ั ๆ ไป จึงไม่มีผลกระทบต่อการมีประจำเดือนแต่อย่างใด แต่ก็
มีข้อยกเวน้ สำหรบั บางรายท่ีอาจมีอาการแพ้น้ำมะพรา้ วได้ ดังนน้ั คุณสามารถดืม่ น้ำมะพร้าวแสนโปรดของคุณได้
ตามปกติแม้จะมปี ระจำเดอื นก็ตาม แต่อยา่ งไรก็ตาม เพ่ือป้องกันความเสีย่ ง ผเู้ ชีย่ วชาญไม่แนะนำให้เสยี่ งทดลอง เพราะ
ประจำเดือนอาจจะเปลีย่ นสแี ละหดหายไปได้ ซ่งึ มสี ่วนทำใหเ้ กิดมะเร็งมดลูกไดใ้ นระยะยาว (แหล่งอ้างอิง : ดาราเดลี)่
ประกอบกบั ตำรายาไทยโบราณบอกว่า "น้ำมะพร้าวแสลงกับหญิงท่ีกำลังมีประจำเดอื น" (ทีม่ า : "สารานุกรมสมนุ ไพร"
(วฒุ ิ วฒุ ธิ รรมเวช), "สมุนไพรร้านเจา้ กรมเป๋อ" (อุทัย สนิ ธสุ าร))

นาํ้ มะพร้าวกบั คนท้อง ด้วยความเช่อื ทว่ี า่ "ดื่มนำ้ มะพร้าวมาก ๆ จะทำใหล้ กู ที่คลอดออกมามผี ิว
ขาว ผิวเกลี้ยง และช่วยลา้ งไขตามตวั " ความจรงิ ก็คือในนำ้ มะพรา้ วมสี ารอาหารหลากหลายอย่างและกรดไขมนั ท่มี ี
ประโยชนต์ อ่ ร่างกาย เม่ือด่ืมนำ้ มะพร้าวจะทำใหส้ รา้ งไขท่ีตัวเดก็ ใหม้ ีสีค่อนข้างขาว เลยดูว่าเด็กตวั สะอาด เพราะตาม
ธรรมชาตเิ ดก็ ทกุ คนต้องมีไขมันห่อหุ้มตวั อย่แู ลว้ แเพ่ือรองรับการเปลีย่ นแปลงจากอุณหภูมภิ ายนอกและยังช่วยให้เด็ก
คลอดง่ายขน้ึ ดว้ ย (ทม่ี า : หนังสอื พิมพบ์ ้านเมือง)

4

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

มะพร้าว มชี ือ่ วิทยาศาสตรว์ ่า Cocos nucifera L. อย่ใู นตระกูล Palmae มีระบบรากเปน็ รากฝอยมีขนาดเท่าๆ
กัน แผ่กระจายออกรอบต้น

ลำต้น มลี ำต้นเดยี ว ไมแ่ ตกแขนง มรี อยแผลจากการหลุดร่วงของใบตลอดลำต้น สามารถคำนวณอายขุ องต้น
มะพรา้ วได้จากรอยแผลนี้ คือ ในปีหนง่ึ มะพรา้ วจะสรา้ งใบประมาณ 12- 14 ใบ ดงั น้ันใน 1 ปี จะมรี อยแผลท่ีลำตน้ 12
– 14 รอยแผล

ใบ เป็นใบประกอบ ออกอยตู่ ามสว่ นของลำต้น ประกอบดว้ ยกา้ นทาง ( rechis ) มีขนาดใหญแ่ ละยาว และมีใบ
ย่อย ( leaflet ) บนกา้ นทางประมาณ 200 – 250 ใบ

ดอก ออกเป็นช่อชนิดพานเิ คิล มีทัง้ ดอกตวั ผู้และดอกตัวเมีย อยใู่ นชอ่ เดียวกัน ดอกมกี ลีบดอก 6 กลบี สคี รีม
หรือสเี หลอื งนวล ไมม่ ีก้านดอกยอ่ ยดอกตวั เมียจะมีกลีบดอกหนาและแข็งกว่ากลบี ดอกตัวผู้

ผล มะพรา้ วเปน็ ชนิดไฟบรัสดรุป ( fibrous drupe ) เรียกว่า นัท ( nut ) มเี ปลือก 3 ช้นั คอื

1. เปลือกช้ันนอก ( exocarp ) เปน็ เสน้ ใยท่ีเหนียวและแข็ง เม่อื แกอ่ าจมีสีเขียว แดง เหลืองหรือน้ำตาล

2. เปลือกชั้นกลาง ( mesocarp ) มลี กั ษณะเป็นเส้นใย มคี วามหนาพอประมาณ

3. เปลอื กชัน้ ใน ( endocarp ) มีลกั ษณะแขง็ หรอื ทเี่ รียกกันว่า กะลา ( shell )

เมล็ด ( seed of kernel ) คือ เนอ้ื มะพรา้ ว ภายในเมล็ดเป็นช่อกลวงขณะผลอ่อนจะมีนำ้ อยู่เต็ม ผลแก่น้ำ
มะพร้าวจะแห้งไปบางสว่ น

พันธุ์ มะพรา้ วเป็นพชื ผสมข้ามพันธ์ุ แต่ละตน้ จึงไมเ่ ป็นพนั ธ์แุ ท้ อาศยั หลกั ทางการผสมพนั ธ์ทุ เ่ี ป็นไปโดย
ธรรมชาติ อาจแบ่งมะพรา้ วออกเปน็ 2 ประเภท คือ ประเภทตน้ เตี้ยและประเภทตน้ สูง

ประเภทตน้ เตีย้ มะพรา้ วประเภทน้ี มีการผสมตวั เองค่อนข้างสงู จงึ มกั ใหผ้ ลดกและไมค่ ่อยกลายพันธ์ุ ส่วนใหญ่
นยิ มปลกู ไว้เพอ่ื รบั ประทานผลอ่อน เพราะในขณะทผ่ี ลยังไม่แก่ อายปุ ระมาณ 4 เดือน เนื้อมีลักษณะอ่อนนุม่ และนำ้ มี
รสหวาน บางพันธุน์ ้ำมคี ุณสมบตั พิ เิ ศษ คอื มีกลิ่นหอม

ลกั ษณะทั่วไปของประเภทต้นเต้ยี ลำตน้ เล็ก โคนตน้ ไมม่ สี ะโพก ต้นเตยี้ โตเต็มทีส่ งู ประมาณ 12 เมตร ทางใบ
สัน้ ถา้ มีการดูแลปานกลางจะเรม่ิ ให้ผลเมื่ออายุ 3-4 ปี ให้ผลผลติ ประมาณ 35-40 ปี มะพรา้ วประเภทตน้ เตี้ยมหี ลาย
พันธุ์ แตล่ ะพนั ธุ์มลี กั ษณะแตกตา่ งกัน เชน่ เปลือกสเี ขยี วเหลือง นวล (สีงาช้าง) น้ำตาลแดง หรอื สสี ้ม น้ำมีรสหวาน มี
กลิ่นหอม มะพร้าวตน้ เตีย้ ทกุ พันธ์จุ ะมผี ลขนาดเลก็ เม่ือผลแกม่ เี นื้อบางและนอ้ ย ซ่ึงได้แกพ่ ันธ์ุ นกคุ่ม หมสู เี ขยี ว หมสู่ ี
เหลอื ง หรอื นาฬิกา มะพรา้ วเตีย้ น้ำหอม และมะพร้าวไฟ แต่ปัจจบุ ันมะพร้าวน้ำหอมกำลงั เปน็ พชื เศรษฐกจิ อีกชนดิ
หนง่ึ ทนี่ ิยมใชใ้ นการบรโิ ภคสดและส่งออกไปยังตลาดตา่ งประเทศ ตลอดจนใชเ้ ปน็ วตั ถดุ ิบในอตุ สาหกรรมเคร่ืองดืม่

ประเภทตน้ สงู ตามปกตมิ ะพรา้ วต้นสงู จะผสมข้ามพันธุ์ คอื ในแต่ละช่อดอก (จนั่ ) หน่ึง ๆ ดอกตวั ผ้จู ะคอ่ ย ๆ
ทยอยบาน และร่วงหล่นไปหมดก่อนทด่ี อกตัวเมียในจน่ั นน้ั จะเรมิ่ บาน จงึ ไม่มีโอกาสผสมตวั เอง มะพรา้ วประเภทน้ีเป็น

5

มะพร้าวเศรษฐกิจส่วนใหญป่ ลกู เป็นสวนอาชพี เพื่อใชเ้ นื้อจากผลแก่ไปประกอบอาหาร หรอื เพ่ือทำมะพรา้ วแหง้ ใช้ใน
อตุ สาหกรรมน้ำมนั พืช

ลกั ษณะทั่วไปของประเภทตน้ สงู ลำต้นใหญ่ โคนต้นมสี ะโพกใหญ่ ตน้ สูง โตเต็มทสี่ งู ประมาณ 18 เมตร ทางใบ
ใหญแ่ ละยาว ถ้ามีการดูแลปานกลางจะเริ่มให้ผลเมือ่ อายุ 5-6 ปี อายุยืนให้ผลผลติ นานประมาณ 80 ปี มะพรา้ วตน้ สงู มี
ผลโตเนอื้ หนาปริมาณเนื้อมาก มลี ักษณะภายนอกหลายอยา่ งทแ่ี ตกตา่ งกัน เชน่ ผลขนาดกลาง ขนาดใหญ่ รูปผลกลม
ผลรี บางพนั ธุ์เปลอื กมีลักษณะพิเศษ คือ ในขณะท่ผี ลยังไม่แก่ เปลอื กตอนสว่ นหวั จะมรี สหวานใช้รับประทานได้ จงึ มีชอื่
เรียกตา่ ง ๆ กนั ได้แก่พนั ธ์ุกะโหลก มะพรา้ วใหญ่ มะพรา้ วกลาง ปากจก ทะลายร้อย เปลือกหวานและมะแพร้ว
มะพรา้ วพนั ธล์ุ กู ผสมแมว้ า่ มะพรา้ วพ้ืนเมืองท่ีเกษตรกรปลูกกันมาแต่ดั้งเดิม จะมลี ักษณะดหี ลายอยา่ ง เช่น มีขนาดผล
ค่อนข้างโต และทนทานต่อสภาพอากาศแล้งไดด้ ี แต่ในวงการอตุ สาหกรรมมะพรา้ วในปัจจบุ นั ไดพ้ ัฒนาทางด้าน
คุณภาพมะพร้าวมากมาย โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ปริมาณเปอร์เซน็ ต์นำ้ มนั ศูนย์วจิ ัยพืชสวนชมุ พร กรมวชิ าการเกษตรมี
หน้าที่รับผิดชอบดา้ นวจิ ยั และพฒั นามะพร้าวไดผ้ ลิตมะพร้าวพันธลุ์ กู ผสม ซงึ่ ไดผ้ า่ นการรบั รองพนั ธ์ุออกมาแลว้ 2 พันธุ์
ดงั น้ี

พนั ธ์สุ วลี ูกผสม 1 (Sawi Hybrid No.1) เปน็ มะพรา้ วพนั ธุล์ ูกผสมทเี่ กิดจากการผสมระหว่างมะพร้าวพันธุ์
มลายูสีเหลอื งตน้ เตีย้ x เวสท์อัฟริกนั ต้นสูง (MYD x WAT) ลกั ษณะเด่นของมะพร้าวพันธุ์นค้ี ือมีอายุการตกผลเร็ว
สามารถเกบ็ ผลผลติ ได้ในปที ่ี 5 ผลผลิตเฉลี่ย 2,781 ผลต่อไร่ หรอื คิดเป็นนำ้ หนกั แหง้ 566 กก.ตอ่ ไร่ จากจำนวน
มะพรา้ ว 22 ต้นต่อไร่ เน้ือมะพร้าวแห้งมเี ปอร์เซ็นต์นำ้ มันสูงถึง 64 เปอรเ์ ซน็ ต์ จงึ เป็นมะพร้าวทีเ่ หมาะสำหรบั
อตุ สาหกรรมนำ้ มนั มะพรา้ วมาก

พนั ธช์ุ มุ พรลูกผสม 60-1 (Chumphon Hybrid 60-1) เป็นมะพรา้ วลูกผสมที่เกดิ จากการผสมระหว่างพนั ธ์ุ
เวสท์อฟั ริกันต้นสงู x ไทยต้นสงู สามารถเกบ็ ผลผลิตไดใ้ นปีที่ 5 หลงั จากปลูก ขนาดผลมีตง้ั แตข่ นาดกลางถึงขนาดใหญ่
ผลผลติ เฉลี่ย 2,257 ผลตอ่ ไร่ หรือคดิ เปน็ น้ำหนักมะพร้าวแหง้ สูงถึง 628 กก.ต่อไร่ เนื้อมะพร้าวแหง้ มีเปอร์เซ็นตน์ ำ้ มัน
สูง 63 เปอร์เซน็ ต์ เน่ืองจากขนาดผลของมะพร้าวพันธนุ์ ้คี ่อนข้างโตกวา่ พันธ์ุสวลี ูกผสม 1 จึงสามารถจำหนา่ ยได้ท้งั ผล
สดและในรปู มะพร้าวแหง้ สง่ โรงงานสกดั น้ำมนั มะพร้าวลูกผสมทั้ง 2 พันธุ์ ใหผ้ ลผลิตสงู กวา่ พันธ์ุพ้นื เมอื งเกือบ 2 เท่า
กลา่ วคือ พนั ธ์ุไทยใหผ้ ลผลติ 1,084 ผลต่อไร่ คิดเปน็ ผลผลติ เนื้อมะพร้าวแห้ง 374 กก.ต่อไร่ และมปี รมิ าณเปอร์เซน็ ต์
น้ำมนั 59-60 เปอร์เซ็นต์

6

สรรพคุณของมะพร้าว

1. น้ำมะพร้าวช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลัง่ ขาวนวลข้นึ อย่างเปน็ ธรรมชาติ เพราะมีฮอรโ์ มนเอสโตรเจนอยู่
(นำ้ มะพร้าว)

ยอดอ่อนมะพรา้ ว

2. น้ำมะพรา้ วมสี ่วนสำคัญอย่างมากต่อการสรา้ งคอลลาเจนและอลิ าสติน ซงึ่ ทำให้ผิวมคี วามยดื หยนุ่ กระชบั ช่วย
ชะลอการเกดิ ร้ิวรอยแหง่ วยั ได้เปน็ อยา่ งดี (น้ำมะพรา้ ว)

3. ประโยชนข์ องนำ้ มะพร้าว มีสว่ นช่วยกระต้นุ การเจริญเตบิ โตและการแบง่ เซลลไ์ ด้เปน็ อย่างดี (น้ำมะพรา้ ว)
4. ในเน้ือและนำ้ มนั มะพรา้ วอ่อนมีวติ ามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกายอย่างครบถ้วนไมว่ า่ จะเป็นวิตามินซี

วิตามินบี กรดอะมิโน ธาตุแคลเซยี ม ธาตุแมกนเี ซยี ม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตโุ พแทสเซยี ม ธาตเุ หล็ก และยงั มี
ไขมันทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อรา่ งกายอกี ด้วย ซึ่งรา่ งกายสามารถดดู ซึมไดภ้ ายใน 5 นาที (น้ำมะพร้าว)
5. นำ้ มะพร้าวมปี ระโยชน์ใช้เป็นเคร่ืองดื่มจากธรรมชาตทิ ี่ทำใหร้ า่ งกายรูส้ กึ สดชนื่ และไม่มีอันตรายใด ๆ ตอ่
รา่ งกาย (ยกเวน้ ผ้ทู ี่เปน็ โรคเบาหวานและโรคไต)
6. นำ้ มะพร้าวเป็นผลไมท้ ่ีมฤี ทธิเ์ ย็นจงึ ช่วยดบั ร้อนในร่างกายไดเ้ ปน็ อย่างดี (น้ำมะพร้าว)
7. น้ำมะพร้าวอ่อนมคี ุณสมบัตเิ ป็นธาตุเยน็ ช่วยลา้ งพิษ ขบั พิษของเสียออกจากร่างกาย หรือช่วยดที ็อกซ์น่นั เอง
(นำ้ มะพร้าว)
8. ช่วยบำรงุ รา่ งกาย (เนือ้ มะพร้าว)
9. ชว่ ยปรับสมดลุ ของรา่ งกายในช่วงท่รี า่ งกายมีความเปน็ กรดสงู เพราะน้ำมะพร้าวมคี วามเป็นด่าง ทำใหก้ ลไก
การทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายเป็นปกติแสง่ ผลให้มีสขุ ภาพดีและแข็งแรง (นำ้ มะพร้าว)
10. ช่วยบำรงุ โลหิต (ดอก)
11. ใชเ้ ป็นเครอ่ื งด่ืมธรรมชาตทิ ่ใี ห้เกลอื แร่ได้เปน็ อยา่ งดี จงึ เหมาะสำหรับนกั กฬี า เนื่องจากอุดมไปดว้ ยธาตุ
โพแทสเซียม (น้ำมะพรา้ ว)
12. ช่วยแกก้ ระหายน้ำ (น้ำมะพร้าว, เน้อื มะพร้าว, ดอก)
13. นำ้ มะพร้าวลดบวม ชว่ ยแก้อาการบวมนำ้ (น้ำมะพรา้ ว)

7

14. นำ้ มะพร้าวมคี ุณสมบัตปิ ลอดเช้ือโรค จึงนำไปใชฉ้ ดี เข้าเส้นเลอื ดได้ สำหรับผปู้ ว่ ยทม่ี ีอาการขาดนำ้ หรือปริมาณ
เลอื ดลดแบบผดิ ปกติ (น้ำมะพร้าว)

15. ชว่ ยปอ้ งกันหรือชะลอการเกดิ โรคอลั ไซเมอร์ ภาวะความจำเสอื่ มในสตรีวยั ทอง เนือ่ งจากมปี ริมาณของฮอร์โมน
เอสโตรเจนสงู (น้ำมะพรา้ วอ่อน)

16. ชว่ ยปอ้ งกนั การเกดิ โรคหวั ใจและชว่ ยรักษาผู้ป่วยโรคหวั ใจ (น้ำมะพรา้ วอ่อน)
17. ชว่ ยรักษาโรคเบาหวาน ดว้ ยการใช้มะพรา้ วแก่ขูดเอาเนื้อมาควั่ ให้เหลอื ง โรยเกลอื เล็กนอ้ ย ใส่ภาชนะปดิ ให้

แน่น แล้วนำมารับประทานคร้ังละ 1 ช้อนแกง เชา้ กลางวัน เย็น ประมาณ 10 วนั จะชว่ ยทำใหร้ ะดับน้ำตาล
ลดลงเรอ่ื ย ๆ ชว่ ยบรรเทาอาการปวดหวั ปวดศีรษะได้ (น้ำมะพร้าวอ่อน)
18. นำมาใช้รกั ษาโรคคอตบี ได้ (เปลือกหุม้ รากของมะพร้าว )
19. ชว่ ยแก้อาการตาอักเสบ ดว้ ยการใช้นำ้ มะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย นำมาผสมกบั นำ้ ตาลทรายแดงไว้ด่ืมเชา้ และเยน็
อาการอักเสบกจ็ ะคอ่ ย ๆ หายไปเอง (นำ้ มะพร้าวอ่อน)
20. ช่วยแกอ้ าการระคายเคืองตา ดว้ ยการใช้เนอื้ มะพรา้ วออ่ นสด ๆ แปะท่ีดวงตา อาการจะค่อย ๆ ทุเลาลง (เน้ือ
มะพรา้ ว)
21. ชว่ ยลดอาการไข้สูง ตวั รอ้ น เพราะมฤี ทธิเ์ ปน็ ยาเย็นจึงชว่ ยทุเลาอาการไข้ได้ (น้ำมะพรา้ วออ่ น, เน้อื มะพรา้ ว)
22. ใชร้ ักษาคนไข้ท่ีมภี าวะความเป็นกรดในเลือดสูง (น้ำมะพรา้ วอ่อน)

กาบมะพร้าว

23. ชว่ ยแกไ้ ขท้ ับระดู ด้วยการเอาจั่นมะพร้าว ทย่ี งั มีกาบหุ้มอยู่นำมาต้มนำ้ ด่ืม เช้า กลางวัน เย็น อาการจะค่อยดี
ข้นึ (บางคนใชร้ ากก็ไดผ้ ลเหมือนกนั )

24. ชว่ ยแก้อาการร้อนใน ดว้ ยการดื่มนำ้ มะพรา้ วอ่อนในชว่ งเช้าและชว่ งบา่ ย (รบั ประทานเน้ือดว้ ย)
25. ชว่ ยแกอ้ าการไอ ด้วยการด่มื น้ำมะพร้าวหา้ ว (นำ้ มะพร้าวห้าว)
26. ชว่ ยแกอ้ าการปากเปื่อย ปากเป็นแผล ดว้ ยการอมนำ้ กะทิสด ๆ จากมะพร้าวแก่ประมาณ 5-10 นาที ประมาณ

3 วันแผลจะหายเร็วข้ึน (นำ้ กะทสิ ด)
27. ใช้แกอ้ าการเจ็บฟัน ด้วยการใชเ้ ปลือกต้นสดนำไปเผาไฟใหเ้ ป็นเถา้ แล้วนำมาสฟี นั (เปลือกต้นสดมะพร้าว)
28. ใช้เปน็ ยาแก้อาการเจ็บปากเจ็บคอ (ดอก)

8

29. รากใช้อมบว้ นปากแกอ้ าการเจ็บคอ (ราก)
30. ชว่ ยแกอ้ าการคลื่นไส้อาเจียน ด้วยการใช้มะนาว 1 ซกี บีบผสมกบั นำ้ มะพรา้ วอ่อนแลว้ ดม่ื (นำ้ มะพรา้ วอ่อน

ผสมมะนาว)
31. สำหรบั ผทู้ ีอ่ าเจียนและท้องรว่ งในเวลาเดียวกันให้ดืม่ น้ำมะพร้าว จะช่วยทำใหร้ า่ งกายดดู ซมึ กลโู คสไปใช้ไดเ้ ร็ว

ทำให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติได้ (น้ำมะพร้าว)
32. ชว่ ยแก้อาการปวดฟัน ดว้ ยการใช้กะลามะพรา้ วแกจ่ ัดท่ีมีรู ขดู เอาเนื้อออกใหม่ ๆ ใส่ถา่ นไฟแดงลงไป แลว้ รอง

เอาน้ำมนั มะพร้าวที่ไหลออกมาเกบ็ ใสภ่ าชนะปิดใหม้ ิดชดิ แล้วใชส้ ำลพี ันปลายไมช้ ุบนำ้ มันท่ีได้อุดรูฟันที่ปวด
แตอ่ ยา่ ใหส้ มั ผสั กบั เหงอื กหรือเนอื้ เย่ือบรเิ วณรอบ ๆโดยตรง เพราะจะทำใหช้ าได้ (นำ้ มันจากกะลามะพรา้ ว)
33. ชว่ ยกลอ่ มเสมหะ (ดอก)
34. ช่วยแกอ้ าการอาเจยี นเป็นเลือด (น้ำมะพรา้ ว)
35. ชว่ ยรกั ษาโรคกระเพาะ (นำ้ มะพร้าวออ่ น)
36. ใชแ้ กอ้ าการท้องเสยี ดว้ ยการใชร้ ากล้างสะอาดประมาณ 3 กำมือ ทบุ พอแตก ตม้ นำ้ 5 แก้ว เคย่ี วเอา 2 แกว้
แบง่ รับประทานครั้งละคร่งึ แก้ว เชา้ กลางวนั เยน็ (ดอก, ราก, กะลา)
37. ชว่ ยแก้โรคบิด ดว้ ยการดื่มน้ำมะพรา้ วออ่ น เช้า กลางวนั เยน็ อาการจะดขี น้ึ (น้ำมะพร้าวออ่ น)
38. ชว่ ยรักษาโรคลำไส้อักเสบ ดว้ ยการใช้เปลือกมะพร้าวมาสับเปน็ ชิน้ เล็ก ๆ แล้วนำมาต้มน้ำดืม่ อาการจะค่อย ๆ
ดีขึ้น (ควรใชเ้ ปลือกมะพรา้ วห้าวหรือมะพร้าวแก่)
39. ชว่ ยแกอ้ าการท้องอดื ท้องเฟ้อ จกุ เสยี ดแนน่ ท้อง ด้วยการใชก้ ะลามะพรา้ วสะอาดมาเผาไฟจนแดง แล้วคบี เก็บ
ไวใ้ นปี๊บสะอาด ปิดฝาให้เรยี บร้อย จะได้ถ่านกะลาสดี ำ นำมาบดเปน็ ผงรับประทานคร้ังละ 1-2 ชอ้ นโตะ๊
(กะลา)
40. ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียจากอาการท้องเสยี ท้องร่วงได้ ชว่ ยเตมิ พลังหลงั การเสียเหง่ือ เสยี นำ้ และเกลอื แร่
ในร่างกาย (น้ำมะพร้าวอ่อน)
41. ช่วยขับปสั สาวะ (น้ำมะพรา้ วออ่ น, เนือ้ มะพรา้ ว, ราก)

จาวมะพรา้ ว

9

42. นำ้ มะพรา้ ว สรรพคุณช่วยรักษาโรคทางเดนิ ปสั สาวะอักเสบ (น้ำมะพร้าวอ่อน)
43. ช่วยแกน้ ่ิว ด้วยการดมื่ นำ้ มะพรา้ วอ่อน เช้า กลางวัน เยน็ อาการจะดขี ้ึนมาก (น้ำมะพร้าวอ่อน)
44. ชว่ ยรักษาโรคตับและไต (ยงั ไม่ยนื ยัน)
45. ช่วยรักษาโรคดซี ่าน ดว้ ยการดม่ื น้ำมะพร้าวอ่อน เช้า กลางวัน เยน็ เพยี ง 2 วนั อาการกจ็ ะดีข้ึนมาก (น้ำ

มะพรา้ ว)
46. ใช้ถา่ ยพยาธไิ ด้ (น้ำมะพรา้ ว, เน้อื มะพร้าว)
47. ช่วยบำรงุ และแก้อาการปวดกระดูกและเอน็ (นำ้ มนั จากกะลามะพร้าว)
48. ชว่ ยแกอ้ าการปวดเม่ือยตามกลา้ มเนื้อ อักเสบ ช้ำบวม ดว้ ยการใช้นำ้ กะทเิ คี่ยวใหร้ ้อน แล้วนำผักเส้ียนผลี า้ งให้

สะอาดสับเคีย่ วเข้าด้วยกัน ใส่เมนทอลเล็กน้อยเพือ่ ให้มีกล่ินหอมและช่วยใหต้ ัวยาแทรกซึมได้ดีขึ้น เสร็จแลว้
นำมานวดบรเิ วณท่ีมีอาการ (น้ำกะทิเค่ยี ว)
49. ชว่ ยแก้อาการเม็ดผดผนื่ คนั ตามตัว ดว้ ยการด่มื นำ้ มะพร้าวอ่อนเป็นประจำ (น้ำมะพร้าวอ่อน)
50. สามารถใช้รกั ษาโรคผิวหนงั ได้ (น้ำมันจากกะลามะพร้าว)
51. ช่วยสมานแผลใหห้ ายเรว็ ขน้ึ และปอ้ งกนั การเกดิ แผลเปน็ ด้วยการใชน้ ้ำมนั มะพรา้ วที่ได้จากกะลาเผาไฟถา่ น
นำมาทาที่แผล จะทำให้แผลหายเรว็ ภายในไม่ก่ีวนั และจะไมเ่ กิดรอยแผลเปน็ (นำ้ มนั จากกะลามะพร้าว)
52. ใชร้ กั ษาแผลเรอ้ื รัง ดว้ ยการเอากะลามะพร้าวมาถตู ะไบเอาผง นำมาผสมกับน้ำมันมะพรา้ ว ใส่พมิ เสนเล็กน้อย
แล้วนำมาทาบรเิ วณแผลเช้า กลางวนั เยน็
53. ใชท้ าแกผ้ วิ หนังแตกลาย (นำ้ มนั จากกะลามะพร้าว)
54. ใช้เปน็ ยาทาแก้กลากเกลอ้ื นได้ ดว้ ยการใช้กะลามะพร้าวแก่จัดที่ขดู แลว้ มรี ู มาใสถ่ า่ นไฟแดง ๆ นำ้ มันมะพรา้ ว
จะไหลออกมา แลว้ นำมาทาบริเวณท่ีเปน็ ท้งิ ไวป้ ระมาณหนึ่งสปั ดาห์ ยางจะตดิ อยู่ เกล้ือนจะค่อย ๆ หายไป
(น้ำมันจากกะลามะพรา้ ว)
55. ชว่ ยรกั ษาเล็บขบ ฝา่ มือแตกลาย ดว้ ยการใชน้ ำ้ มันมะพรา้ วทไี่ ด้จากการเผากะลามาทาเช้า กลางวนั เย็น หรือ
หยอดบรเิ วณทเี่ ปน็ เล็บขบ จะหายเรว็ ขน้ึ และไม่มีอาการปวด (นำ้ มนั จากกะลามะพรา้ ว)
56. ช่วยรักษาโรคอีสุกอีใส ด้วยการใชใ้ บมะพรา้ วตม้ นำ้ ดื่ม (ใบมะพร้าว)
57. ใช้ทาแก้หดิ (เปลือกต้นสดมะพรา้ ว)
58. ใช้รกั ษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ดว้ ยการใช้มะพร้าวกะทิปิดบริเวณแผล (มะพร้าวกะทิ)
59. ในไต้หวนั และจนี นิยมด่ืมนำ้ มะพร้าวเพื่อชว่ ยลดอาการเมา แกอ้ าเจยี นหลงั การด่ืมแอลกอฮอล์ (นำ้ มะพรา้ ว)
60. ช่วยแกพ้ ษิ เบื่อเมา ดว้ ยการดื่มนำ้ มะพรา้ วซง่ึ จะชว่ ยล้างพิษทเ่ี กดิ ขึ้นได้เปน็ อยา่ งดี (นำ้ มะพร้าวอ่อน)

10

ประโยชน์ของมะพร้าว

1. ช่วยกำจัดรว้ิ รอยของครกหนิ ทซี่ อ้ื มาใหม่ ดว้ ยการใชเ้ น้อื มะพร้าวที่ใชค้ ั้นกะทิตัดเป็นชน้ิ เล็ก ๆ 4-5 ชนิ้ ใสล่ งไป
ในครกแลว้ ตำเนื้อมะพร้าวจนละเอยี ด ให้น้ำมันจากเน้ือมะพรา้ วออกมาสัมผสั กบั ผวิ ครกไปเรื่อย ๆ ประมาณ
สิบนาที แลว้ ท้ิงไวอ้ ยา่ งนน้ั ประมาณ 1 คืนเพ่ือให้น้ำมะพรา้ วซึมเขา้ ตามรว้ิ รอยของเนือ้ ครก ก้นครกก็จะล่ืนเปน็
มันดูสดใสใช้งานได้อยา่ งคลอ่ งมือ (หนงั สือพิมพ์กรงุ เทพธุรกิจ)

2. มารดาท่เี พิง่ คลอดบตุ รแต่ไม่มีน้ำนมเพียงพอ ก็สามารถให้บุตรกนิ น้ำมะพร้าวแทนน้ำนมแม่ได้ช่วั คราวได้
เพราะน้ำมะพร้าวมีกรดลอรกิ ทม่ี ีอยู่มากในน้ำนมแม่น่นั เอง แถมยงั มคี วามบริสุทธไ์ิ ม่มสี ารเคมเี จอื ปน จงึ ไม่เปน็
อนั ตรายต่อเดก็ ทารก (น้ำมะพร้าว)

3. ผู้ท่ีเป็นสิวหรอื มปี ระจำเดือนตดิ ตอ่ กนั ไม่หยุดให้ด่ืมน้ำมะพร้าว จะชว่ ยทำใหร้ ่างกายขบั ของเสียออกมาได้มาก
ยิง่ ขึ้น (น้ำมะพร้าว)

4. มะพรา้ ว ประโยชนใ์ ช้ทำเป็นน้ำสม้ สายชไู ด้ (น้ำมะพร้าว)

ก้าน และ ใบมะพรา้ ว

5. ยอดอ่อนมะพร้าว หรือ "หวั ใจมะพรา้ ว" (Coconut’s heart) ซง่ึ มีราคาแพงมาก เพราะการเก็บยอดออ่ นจะทำ
ใหต้ น้ มะพรา้ วตายทง้ั ตน้ (ตอ้ งโค่นกนั เลยทเี ดียว) โดยนำไปใชท้ ำอาหารได้หลายอยา่ ง เช่น ผัด แกงส้ม แกงค่ัว
รวมไปถึงยำยอดอ่อนมะพร้าว หรอื "สลัดเจ้าสัว" (Millionaire's salad)

6. นำ้ มะพรา้ วนำไปแปรรูปเป็นวนุ้ มะพรา้ วได้ ด้วยการเจือกรดอ่อนเล็กนอ้ ยลงในน้ำมะพร้าว (น้ำมะพรา้ ว)
7. มะพร้าวอ่อน นอกจากรับประทานสดแล้ว ยังนำมาทำเปน็ วุ้นมะพร้าว มะพร้าวเผา สว่ นประกอบในอาหารคาว

หวาน เปน็ ต้น
8. มะพร้าวแก่ นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเปน็ คน้ั กะทิสด กะทิกล่อง มะพรา้ วอบ

น้ำผึง้ น้ำมนั มะพร้าว รวมไปถงึ นำ้ มันไบโอดีเซลด้วย เป็นต้น
9. เนื้อในของมะพร้าวแก่ ใช้ทำเป็นกะทิ ดว้ ยการขดู เน้ือเป็นเศษ ๆ แล้วบบี คั้นเอาน้ำกะทิออก (เน้ือมะพรา้ ว)
10. กากทเ่ี หลือจากการคนั้ นำ้ กะทิ สามารถนำไปใช้ทำเป็นอาหารสตั ว์ไดอ้ ีกดว้ ย (กากมะพรา้ ว)
11. กาบมะพรา้ วหรอื เปลอื กมะพร้าว คุณสมบตั แิ ข็งแรง คงทน ยดื หย่นุ มีสปริง นำมาใช้ทำเชอื ก พรม กระสอบ

แปรง อวน ไม้กวาด และเส้นใบส้นั ใชอ้ ดั ไส้ของท่ีนอน เบาะรถยนต์ เป็นต้น
12. ใยมะพรา้ วนำไปใชย้ ัดฟูกเพ่ือทำเป็นเส่ือได้ หรอื จะนำไปใชใ้ นการเกษตรก็ไดเ้ ช่นกัน (ใยมะพร้าว)
13. จั่นมะพร้าวหรือช่อดอกมะพร้าว อุดมไปด้วยฟรุกโตส ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของผ้งึ และแมลงนานาชนดิ จงึ ได้มี

การนำนำ้ หวานสว่ นนี้มาทำเป็นน้ำตาลเพ่ือใช้ปรงุ อาหารคาวหวาน หรือทำเป็นน้ำตาลสดไว้เป็นเครอ่ื งดมื่ เพิ่ม
พลงั ก็ได้

11

14. จาวมะพรา้ วนำมาใช้ทำเป็นอาหารได้
15. จาวมะพร้าวชว่ ยกระตุน้ การเจรญิ เติบของพชื ทปี่ ลูกได้ เพราะมีฮอร์โมนออกซนิ ซึ่งเมือ่ นำไปคนั้ กจ็ ะได้นำ้ ไว้

สำหรับรดตน้ พืชทปี่ ลูก
16. ใบมะพร้าวนิยมนำมาใช้สานเปน็ ภาชนะใสข่ อง ห่อขนม สานหมวกกนั แดดหรือเคร่ืองเลน่ เดก็ กระจาด กระเช้า

ตะกรา้ ทำของทร่ี ะลกึ รูปสัตว์ตา่ ง ๆ เป็นต้น

กะลามะพร้าวประดษิ ฐ์

17. ก้านใบมะพร้าวหรือทางมะพร้าว นำมาใช้ทำเปน็ ไมก้ วาดทางมะพรา้ ว เสวยี นหมอ้ หรอื ก้นหมอ้ เคร่ืองประดบั
ขา้ งฝา พดั ภาชนะปักดอกไม้ กระเปา๋ กระจาด เปน็ ต้น

18. รกมะพรา้ วหรอื เย่ือหุ้มคอมะพร้าว ลักษณะเป็นแผน่ ใยหยาบ ๆ บาง ๆ มีความยืดหยนุ่ (แต่ขาดงา่ ย) นยิ ม
นำมาทำเปน็ กระเป๋า หมวก รองเทา้ แตะ ดอกไม้ประดษิ ฐ์ กล่องใสข่ อง สิ่งประดิษฐใ์ ชต้ กแต่งงานศิลปะตา่ ง ๆ
เปน็ ตน้

19. กะลามะพร้าวนยิ มนำไปใช้ทำส่ิงประดษิ ฐต์ ่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็น กระบวย กระดุม ซออู้ โคมไฟ เครื่องประดับ
เครือ่ งดนตรี ท่ีวางแกว้ นำ้ ที่เข่ยี บุหร่ี รวมไปถงึ ทำเป็นถา่ นหุงต้ม ถ่านกัมมนั ต์ นำ้ ควนั และถา่ นสำหรบั ป้องกัน
มอดแมลงก็ไดเ้ ช่นกนั และอีกสารพัด (ท่ีอาจารยส์ งั่ ใหท้ ำสง่ เพ่อื แลกกับคะแนน)

20. รากมะพรา้ วมีเส้นยาว เหนยี วเปน็ พเิ ศษ ใชส้ านเปน็ ตะกรา้ ถาด ภาชนะตา่ ง ๆ และส่ิงประดิษฐ์ทัว่ ๆไป
21. ลำตน้ เมือ่ ถูกโค่นทงิ้ แล้วสามารถนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอ้ี ทำรัว้ ฝาผนัง กระถางต้นไม้ ตกแตง่ สวน

เปน็ ต้น

คุณคา่ ทางโภชนาการของเน้ือมะพรา้ วตอ่ 100กรมั

• พลังงาน 1,480 กิโลแคลอรี
• คารโ์ บไฮเดรต 24.23 กรัม
• น้ำตาล 6.23 กรัม
• เสน้ ใย 9 กรมั
• ไขมัน 33.49 กรัม
• โปรตนี 3.33 กรัม

12

• วิตามินบี 1 0.66 มลิ ลกิ รมั 6%
• วติ ามนิ บี 2 0.02 มิลลิกรัม 2%
• วติ ามินบี 3 0.54 มลิ ลิกรมั 4%
• วิตามินบี 5 1.014 มิลลิกรมั 20%
• วติ ามินบี 6 0.05 มิลลกิ รมั 4%
• วิตามินซี 3.3 มลิ ลกิ รัม 4%
• ธาตุแคลเซียม 14 มิลลกิ รมั 1%
• ธาตุเหล็ก 2.43 มลิ ลกิ รัม 19%
• ธาตุแมกนเี ซียม 32 มลิ ลกิ รัม 9%
• ธาตฟุ อสฟอรสั 113 มลิ ลิกรัม 16%
• ธาตโุ พแทสเซียม 356 มิลลกิ รัม 8%
• ธาตุสงั กะสี 1.1 มลิ ลกิ รัม 12%

% ร้อยละของปริมาณแนะนำทีร่ า่ งกายต้องการในแตล่ ะวันสำหรบั ผ้ใู หญ่ (ข้อมลู จาก : USDA Nutrient database)
คุณค่าทางโภชนาการของน้ำมะพร้าวต่อ 100 กรมั

• พลงั งาน 79 กิโลแคลอรี
• คารโ์ บไฮเดรต 3.71 กรมั
• น้ำตาล 2.61 กรมั
• เสน้ ใย 1.1 กรมั
• ไขมัน 0.2 กรัม
• โปรตนี 0.72 กรัม
• วติ ามินบี 1 0.03 มิลลิกรมั 3%
• วติ ามินบี 2 0.057 มลิ ลกิ รัม 5%
• วิตามินบี 3 0.08 มิลลกิ รมั 1%
• วติ ามินบี 6 0.032 มิลลกิ รัม 2%
• วติ ามินซี 2.4 มลิ ลิกรมั 3%
• ธาตุแคลเซียม 24 มิลลกิ รัม 2%
• ธาตุเหลก็ 0.29 มิลลิกรัม 2%
• ธาตแุ มกนีเซียม 25 มิลลิกรมั 7%
• ธาตฟุ อสฟอรัส 20 มิลลกิ รัม 3%
• ธาตโุ พแทสเซยี ม 250 มิลลกิ รัม 5%
• ธาตุสงั กะสี 0.1 มลิ ลิกรมั 1%

13

การเพาะปลูก

การคดั เลอื กสวนพนั ธ์ุ เปน็ สวนทปี่ ลกู มะพร้าวพนั ธเ์ุ ดยี วกัน ขนาดสวนไมน่ ้อยกว่า 10 ไร่ อยใู่ นแหล่งท่ีมีการ
ปลกู มะพร้าวเป็นอาชีพ ตน้ มะพร้าวมีขนาดอายไุ ล่เลยี่ กนั และควรจะมีอายุไมต่ ่ำกว่า 15 ปี เป็นสวนทมี่ กี ารดแู ลปาน
กลาง และมีต้นทีม่ ผี ลดกอยู่เปน็ ส่วนมาก ไม่มีโรคหรอื แมลงระบาด ในกรณีที่อยู่ไกลแหล่งปลูกมะพรา้ วเปน็ อาชีพ ไมม่ ี
สวนขนาดใหญ่อาจคดั เลือกเพยี งบาง หลักการเท่าที่จะทำได้ หรือคัดเลือกเปน็ ต้น ๆ ก็ได้ การคดั เลอื กตน้ พันธ์ุควรเป็น
ตน้ ทีอ่ ยใู่ นบริเวณกลาง ๆ สวน ให้ผลดกไม่น้อยกวา่ 60 ผล/ตน้ /ปี ควรมกี ารจดบันทึกการให้ผลของต้นที่คดิ วา่ จะใช้
เป็นต้นพนั ธกุ์ ่อนสัก 3-4 ปี เพื่อให้แน่ใจวา่ ให้ผลดกจริง โดยทาสีไวท้ ่ตี ้นเปน็ ทสี่ ังเกตหรืออาจทำเคร่ืองหมายอยา่ งอื่นก็
ได้ เปน็ ต้นท่ีไม่อย่ใู กล้บา้ น คอกสตั ว์หรือในทท่ี ี่ดีกว่าตน้ อื่น ลำต้นตรง แข็งแรง อวบ ปล้องถ่ี พ่มุ ใบเป็นรูปวงกลม หรือ
ครึง่ วงกลม มจี ำนวนทาง (ใบ) มาก โคนทางส้ันและใหญ่ มีจนั่ อยา่ งน้อย 10 จน่ั กระจายอยรู่ อบต้น และทุกจ่นั มีผล
ขนาดต่าง ๆ กนั ตดิ อยู่ ทะลายควรน่ังทางก้านทะลายสน้ั และใหญ่ เป็นตน้ ที่มอี ายุไมน่ ้อยกวา่ 15 ปี ให้ผลมลี ักษณะกลม
ขนาดใหญ่ เส้นรอบของกะลาไมต่ ่ำกวา่ 45 ซม. เนอ้ื หนาเปลอื กไม่หนาหรือบางเกินไป

การคัดเลอื กผลพันธ์ุ ผลมะพรา้ วแม้จะเกบ็ จากต้นแมพ่ นั ธุ์ที่ได้รับการคดั เลือกแลว้ ก็ตาม อาจมบี างผลที่มี
ลักษณะ ไมเ่ หมาะจะนำไปเพาะทำพนั ธ์ุ เชน่ ผลแตกระหว่างเกบ็ เก่ียว มีโรคแมลงทำลาย จึงควรคดั เลือกผลกอ่ นนำไป
เพาะ ซ่ึงมลี กั ษณะการพจิ ารณาดังนี้ เปน็ ผลท่ไี ด้รับความกระทบกระเทือนน้อย จึงควรเก็บโดยใช้เชือกโยงลงมา หรือ
โยนลงน้ำ ผลโตได้ขนาด รปู ผลค่อนขา้ งกลม หรอื มลี ักษณะตรงตามพันธ์ุ ผลแกจ่ ดั เปลือกมีสีกา้ มปู หรอื สีนำ้ ตาล มี
ลกั ษณะคลอนน้ำไมม่ ีโรคแมลงทำลาย

การเตรยี มผลพนั ธุ์กอ่ นเพาะ ปาดเปลือกทางด้านหัวออกขนาดประมาณเท่าผลส้มเขียวหวานเพอื่ ให้นำ้ ซึมเข้าได้
สะดวกใน ระหวา่ งเพาะ และชว่ ยใหห้ น่องอกแทงออกมาได้ง่าย ถ้าเปน็ ผลที่ยังไม่แก่จัด เปลอื กมสี เี ขียวปนเหลอื ง ให้
นำไปผงึ่ ไว้ในท่ีร่มโดยวางเรียงให้ รอยปาดอยู่ด้านบน ผ่งึ ไว้ประมาณ 15-30 วนั จนเปลอื กเปลี่ยนเปน็ สีน้ำตาล เตรยี ม
ผลพันธ์ุไว้ประมาณ 2 เทา่ ของจำนวนหนอ่ ท่ตี ้องการเพราะในขณะเพาะจะมีพันธุท์ ่ีไม่ งอกและเมื่องอกแล้วกต็ อ้ งคัด
หน่อที่ไม่แข็งแรงออก

การเตรยี มแปลงเพาะ แปลงเพาะควรอย่กู ลางแจง้ ใกล้แหล่งน้ำและมีการระบายน้ำดี ไม่เป็นแหลง่ ทเ่ี คยมโี รค
และแมลงระบาดมาก่อน พื้นแปลงควรเปน็ ทรายหยาบ เพ่ือสะดวกในการเพาะและย้ายกล้า ปราบวัชพืชออกให้หมด
ถา้ พืน้ ดินเป็นดินแข็งควรไถดินลกึ 15-20 ซม. ถ้าแปลงกวา้ งมาก ควรแบง่ เป็นแปลงย่อย ขนาดกว้างประมาณ 2.50
เมตร ยาวตามความต้องการ เวน้ ทางเดนิ ระหว่างแปลง 50 ซม. ในแต่ละแปลงย่อยขุดเป็นร่องลึกประมาณ 10 ซม.
กว้างเทา่ ขนาดของผลมะพร้าว ยาวตลอด พ้ืนท่ี แต่ละแปลงจะเพาะมะพรา้ วได้ 10 แถว

วิธีการเพาะ วางผลมะพร้าวตามแนวนอนลงในร่องท่เี ตรียมไว้ หนั ด้านท่ปี าดขนึ้ ข้างบนเรียงไปตามทศิ ทาง
เดยี วกนั ให้แตล่ ะผลตดิ กันหรือหา่ งกนั ไมเ่ กิน 5 ซม. กลบทรายหรอื ดนิ ให้สว่ นของผลมะพรา้ วโผล่พน้ ผิวดินประมาณ
1/3 ของผล

ถ้าฝนไมต่ ก รดน้ำใหช้ มุ่ อยูเ่ สมอ โดยสงั เกตจากความชน้ื ตรงบรเิ วณรอยปาด
คอยดแู ลกำจดั วัชพืช โรค-แมลงตา่ ง ๆ

14

หลงั จากเพาะแล้วประมาณ 2-3 สปั ดาห์หนอ่ จะเรม่ิ งอก ในระยะแรก ๆ จะงอกน้อย เมื่อเลย 4 สปั ดาห์ไปแล้ว
หน่อจะงอกมากขึน้ มะพร้าวท่ไี ม่งอกภายใน 10 สัปดาห์ หรือ 70 วัน ควรคดั ทิ้ง หรือนำไปทำมะพรา้ วแห้ง เพราะถ้า
ปล่อยทิ้งไวใ้ หง้ อกกจ็ ะได้หน่อทไี่ มด่ ี ตามปกติมะพรา้ วจะ งอกประมาณรอ้ ยละ 60 ภายใน 10 สัปดาห์ เมอ่ื หน่อยาว
ประมาณ 1-3 นวิ้ ควรย้ายลงแปลงชำ ในการค้าจะไมย่ ้ายลงแปลงชำทลี ะน้อย แต่จะรอย้ายพร้อมกนั ในคราวเดียว

ในกรณีท่ีทำการเพาะมะพร้าวเปน็ จำนวนไมม่ ากนักอาจทำการเพาะโดยไม่ต้องนำลงแปลงชำ กไ็ ด้ แตใ่ นการ
เพาะจะต้องขยายระยะใหก้ ว้างข้ึน โดยวางผลห่างกันประมาณ 45-50 ซม. เพ่ือใหห้ นอ่ เจริญได้ดี จะไดห้ น่อที่อ้วนและ
แขง็ แรง เม่ือหน่อมีใบประมาณ 4-6 ใบ กค็ ัดไป ปลกู ได้

วธิ ีการชำ เตรียมแปลงชำเชน่ เดียวกบั แปลงเพาะ แปลงชำควรอยูใ่ กล้กับแปลงเพาะ เพ่ือสะดวกในการขนย้าย
หน่อ ถา้ ดินไมด่ ใี ห้ใสป่ ุย๋ คอกไร่ละ 24 ปบ๊ี (240 กก.) หวา่ นให้ท่ัวแปลงแลว้ ไถกลบ ขุดหลุมขนาดเท่าผลมะพรา้ ว ระยะ
ระหวา่ งหลุม 60 ซม. อาจวางผงั การทำแบบสามเหลย่ี มดา้ นเท่า หรอื แบบสี่เหลยี่ มจตรุ ัสก็ได้ ยา้ ยหน่อมะพร้าวจาก
แปลงเพาะลงชำในหลมุ ให้หน่อต้งั ตรง กลบดนิ หนาประมาณ 2/3ของผล เพื่อไม่ใหด้ นิ ทับสว่ นคอของหนอ่ พันธุ์ ใช้
ทางมะพร้าวหรอื หญ้าแหง้ คลุมแปลง (อาจใช้วสั ดอุ ืน่ ก็ได้) เพือ่ รักษาความชุม่ ชน้ื ถา้ ฝนไม่ตก รดนำ้ ใหช้ ุ่มอยู่เสมอ

สภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมสภาพพืน้ ดิน พ้นื ทปี่ ลกู มะพรา้ วในประเทศไทยไม่ควรสูงกวา่ ระดบั นำ้ ทะเลเกนิ 100
เมตร ปลกู ได้ต้ังแตด่ นิ ทรายจนถึงดินเหนียวจดั แตใ่ นดนิ รว่ นจะมกี ารระบายน้ำดีทำให้รากเจรญิ เติบโตเรว็ หนา้ ดนิ ควร
ลกึ ไม่น้อยกว่า 1 เมตร และน้ำใต้ดินไมส่ งู เพราะอาจทำให้เหีย่ วเฉาและผลอ่อนรว่ งหล่นได้ ความเป็นกรดเปน็ ด่างของ
ดินควรอยูร่ ะหว่าง 6.4 – 7.0 และมีความอุดมสมบรณู ์ปานกลาง

ดนิ ทีเ่ หมาะกับการปลกู มะพร้าวมี 6 ชนิดคอื
1. ดินใกลฝ้ งั่ แมน่ ้ำ
2. ดนิ ใกล้ปากนำ้ ตดิ ทะเลเปน็ ทรี่ าบล่มุ นำ้ ท่วมในฤดฝู น
3. ดินตามเกาะต่างๆ
4. ดินชายทะเลซ่งึ ส่วนมากหน้าดินเปน็ ดนิ ทราย
5. ดินเลนทข่ี ุดลอกจากสันดอน
6. ดินบนคนั นา

สภาพอากาศ ถึงแม้มะพร้าวจะสามารถเจริญเติบโตและใหผ้ ลในสภาพลมฟา้ อากาศแทบทกุ ประเภท แตห่ ากจะ
ปลูกเป็นการค้าก็ควรจะเลือกปลูกในสภาพท่ีมะพรา้ วจะให้ผลผลติ สงู ซึง่ สภาพลมฟา้ อากาศที่เหมาะแก่การปลกู
มะพรา้ วเปน็ ดังน้ี

ฝน มะพรา้ วเจรญิ เตบิ โตใหผ้ ลผลติ ดีเมื่อได้รับน้ำฝนอย่างสมำ่ เสมอ 1500 – 2000 มิลลเิ มตรต่อปีและไม่ควร
ได้รับน้ำนอ้ ยกวา่ 50 มลิ ลเิ มตรติดต่อกันนาน 3 เดอื น ผปู้ ลูกมะพรา้ วในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาค
ตะวันออกเฉยี งเหนือ จงึ นิยมขุดร่องสวนเพื่อให้มะพร้าวมนี ้ำหล่อเล้ียงเพยี งพอตลอดปี ทั้งยังชว่ ยปอ้ งกนั น้ำทว่ มราก
หากฝนตกชกุ เปน็ เวลานาน

15

ลม ลมพัดอ่อนๆ จะช่วยให้มะพร้าวเติบโตไดด้ เี พราะเพิ่มการคายนำ้ และเร่งการดูดธาตุอาหารและน้ำจากดิน ท้ัง
ยังช่วยในการผสมเกสร แต่ถ้าลมแรงเกินไปอาจทำให้ยอดบิดหักและตายได้ มะพร้าวทป่ี ลกู ใหมจ่ ะชะงักการเจรญิ
เนอื่ งจากรากยังไม่ยึดดินแนน่ เท่าทค่ี วร

แสง มะพรา้ วตอ้ งการแสงแดดสมำ่ เสมอประมาณ 2000 ชวั่ โมงตอ่ ปี หรอื ไมน่ ้อยกวา่ 5 ชั่วโมงตอ่ วนั หากไดร้ บั
แสงแดดน้อยมะพร้าวจะไม่ค่อยออกดอกตดิ ผล หรือตดิ ผลแต่เน้ือบาง อณุ หภูมิ มะพรา้ วเจรญิ ได้ดีในอุณหภมู ิเฉล่ีย 27
องศาเซลเซียส จะสงู หรือต่ำกว่ากไ็ ม่ควรเกนิ 7 – 8 องศา และอุณหภูมิไม่ควรเปล่ยี นแปลงอย่างกระทันหัน อุณหภมู ิที่
ต่ำมากจะกระทบกระเทือนการเจริญและผลผลิต

การเลอื กท่ปี ลกู มะพร้าว หลกั ทัว่ ไปในการคดั เลือกทปี่ ลูกมะพรา้ วควรคำนึงถงึ สงิ่ ต่อไปนี้ดนิ เปน็ ดนิ ร่วน หรอื
รว่ นปนทราย อุ้มน้ำได้ดี ถ้าเป็นดินเหนยี วต้องมีการระบายน้ำดี สภาพดนิ เปน็ กลาง หรือเป็นกรดเพียงเลก็ น้อย pH
ระหว่าง 6-7 หน้าดนิ มคี วามลึกไมน่ ้อยกว่า 1 เมตร ระดับน้ำใต้ดินไม่ควรต้ืนกวา่ 2 เมตร

ปรมิ าณนำ้ ควรมฝี นตกไมน่ ้อยกวา่ 1,300 มม./ปี และตกกระจายสมำ่ เสมอแทบทุกเดือน ถา้ มีฝนตกน้อยกว่า
50 มม./เดอื น เป็นเวลานานติดต่อกนั เกินกว่า 3 เดือน ผลผลติ จะลดลง หรือไม่ให้ผลเลย

อุณหภูมิ ถา้ มอี ุณหภมู ิตำ่ กว่า 15 องศาเซลเซยี ส ติดต่อกันหลาย ๆ วนั มะพร้าวจะใหผ้ ลนอ้ ย อณุ หภมู ิที่
เหมาะสมคือ ระหวา่ ง 27 + 7 องศาเซลเซยี ส ระดบั ความสงู ของพ้ืนท่ี ถ้าปลกู มะพร้าวในที่ทส่ี งู กว่าระดบั น้ำทะเลมาก
ๆ มะพรา้ วจะไมค่ ่อย ออกผล การทำสวนเพ่ือการค้าควรเป็นทีส่ งู กว่าระดับน้ำทะเลไม่เกิน 100 เมตร

แสงแดด มะพรา้ วต้องการแสงแดดประมาณวนั ละ 7 ช่วั โมง ถ้าปลกู มะพรา้ วในท่ีแสงแดดส่อง ไม่ถึง ต้นจะสงู
เรว็ และไมค่ ่อยออกผลเนอ้ื ในผลก็จะบาง จงึ ไมค่ วรปลกู มะพรา้ วในท่รี ่มหรือ ปลูกถีเ่ กินไป

ระยะปลกู ระยะปลูกเปน็ ปจั จัยสำคัญอย่างหนึ่งท่มี ผี ลต่อจำนวนผลผลติ ทจ่ี ะไดร้ บั ถา้ ปลกู ถี่เกนิ ไปต้นมะพร้าวจะ
บังร่มกัน ไม่สามารถจะปรงุ อาหารไดอ้ ย่างเต็มท่ี ตน้ สงู ชะลูด ออกผลไม่ดก แต่ถ้าปลูกห่างกันมาก จะไดจ้ ำนวนตน้ นอ้ ย
ผลผลติ ก็น้อย

หมายเหตุ มะพร้าวตน้ เตยี้ ควรปลกู ไรล่ ะประมาณ 40-45 ต้น สำหรับพืน้ ที่ลุม่ หรอื ดินเป็นดนิ หนยี ว การระบาย
น้ำไมด่ ี ควรยกร่องใหส้ ูงกวา่ ระดบั นำ้ ทว่ มสูงสุดไม่น้อยกว่า 50 ซม. ขุดร่องตามความยาวของพนื้ ที่ สันรอ่ งกวา้ ง 5 เมตร
สำหรับพันธ์ุต้นเต้ยี 8 เมตร สำหรบั พันธตุ์ น้ สูง คูรอ่ งกว้าง 2 เมตร

การเตรียมหลุมปลูก ควรเตรียมหลมุ ในฤดแู ล้ง ขดุ หลมุ ขนาด 50 X 50 X 50 ซม. แยกดนิ สว่ นบนไว้ต่างหาก
ตากหลมุ อย่างนอ้ ย 1 สปั ดาห์ ถา้ มปี ลวกให้เผาเศษไมใ้ บใม้แหง้ หรอื ขยะในหลุม อาจจะใช้ยากนั ปลวกโรยก้นหลุมแทน
การเผาก็ได้ ถ้าปลูกมะพร้าวในพนื้ ท่แี ห้งแลง้ หรือดนิ ทปี่ ลูกเป็นทรายจัดให้ใชก้ าบมะพร้าวรองกน้ หลมุ โดยวางกาบ
มะพรา้ วให้ด้านท่มี ีเสน้ ใยหงายข้ึนด้านบน วางซ้อนกัน 2-3 ช้ัน เพ่ือชว่ ยเกบ็ ความช้ืนในดิน ถา้ ไม่มกี าบมะพร้าวจะใช้
วัสดุอืน่ ๆ เชน่ ฟางข้าว ใบไม้แหง้ หญา้ แห้ง ฯลฯ แทนก็ได้ใสด่ นิ บนทีผ่ สมปยุ๋ คอกหรือปุ๋ยหมักในอตั รา 1:7 รองกน้ หลุม
ส่วนดินลา่ งผสมด้วยปยุ๋ ร็อคฟอสเฟตหลมุ ละครึง่ กิโลกรัม (ประมาณ 2 กระป๋องนม) และใสฟ่ รู าดาน 1 กระป๋องนม เพื่อ
ปอ้ งกนั ปลวกกินผลพันธมุ์ ะพรา้ ว เอาดนิ ใสล่ งในหลุมให้เต็ม ท้ิงไว้จนถึงฤดูปลูก

16

วิธีการปลูก ควรปลกู ในฤดูฝน ขดุ ดนิ บนหลุมปลูกที่เตรยี มไว้ ให้เป็นหลุมเล็กๆ ขนาดเท่าผลมะพรา้ ว เอาหน่อท่ี
คัดเลือกแลว้ มาตดั รากทีห่ กั ช้ำออก ใชป้ ูนขาวหรือยากนั ราทาตรงรอยตัดวางหนอ่ ลงในหลมุ ใหห้ น่อตัง้ ตรง ตดั หน่อไป
ในทศิ ทางเดยี วกัน เอาดินกลบอย่างน้อย 2/3 ของผล เพื่อใหพ้ อดมี ดิ ผลมะพรา้ ว แตร่ ะวงั อย่าให้ดินทบั โคนหนอ่ เพราะ
จะทำให้หน่อถูกรดั ตน้ จะโตช้า แต่เม่ือมะพร้าวโตขนึ้ ก็ควรจะกลบดนิ ให้สงู ขนึ้ เพ่ือป้องกันโคนลอย เอาไมป้ กั เป็นหลกั
ผกู ยึดกบั ตน้ ให้แน่น เพ่ือป้องกันลมโยก เหยียบดนิ รอบโคนหนอ่ ใหแ้ นน่ ควรทำร่มให้ในระยะแรก เพ่ือลดอตั ราการตาย
เนือ่ งจากถูกแดดจัดเกนิ ไป ในบริเวณท่ีปลกู ถา้ มีสัตว์เล้ยี ง ให้ทำร้วั ปอ้ งกนั สตั ว์มาทำลาย ปลกู มะพร้าวใหต้ น้ ต้งั ตรง มัด
หลักยึดตน้ กันลมโยก ทำร่มบังแดดใหใ้ นระยะแรกหลังปลกู

การใส่ปุ๋ย แม้ว่ามะพร้าวเปน็ พชื ท่ีสามารถปลูกได้ในสภาพดนิ แทบทุกชนดิ แต่ปริมาณผลผลิตน้ันขน้ึ อยกู่ ับ
ปรมิ าณธาตุอาหารในดิน และสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดนิ สภาพความเปน็ กรดเปน็ ด่างของดนิ ที่เหมาะแกก่ ารปลูก
มะพร้าวควรอยใู่ นชว่ งระหวา่ ง pH 6-7 การใสป่ ยุ๋ ให้พอเหมาะแก่ความต้องการของมะพรา้ วน้นั ควรไดน้ ำตวั อยา่ งดินไป
เขา้ วิเคราะห์ในหอ้ งปฏบิ ัติการด้วย พบวา่ ในปีหนึง่ ๆ มะพร้าวจะดูดธาตอุ าหารไปใช้ ดงั นี้

ไนโตรเจน 9.44-14.56 กก.ต่อไร่
ฟอสฟอรสั 4.32-6.40 กก.ตอ่ ไร่
โปแตสเซียม 13.60-20.96 กก.ต่อไร่

ในบรรดาธาตุดงั กล่าว โปแตสเซยี มมะพร้าวจะดูดไปใชม้ ากท่สี ดุ ประมาณ 62 % ของโปแตสเซยี ม ถกู นำไปใช้
ในการเพ่ิมจำนวนผลผลติ ของมะพร้าว

ชนดิ ของปยุ๋ ที่ใช้ไดผ้ ลและเพิ่มผลผลติ ของมะพร้าวไดส้ ูงสุด คอื ปุ๋ยเกรด 13-13-21 และปุย๋ เกรด 12-12-17-2
แมกนเี ซยี มซัลเฟต และปุ๋ยหินปนู โดโลไมท์ ในการใช้ปยุ๋ แมกนีเซียมซลั เฟต หรือ โดโลไมท์ น้นั ใหพ้ จิ ารณาถึงสภาพ
ความเป็นกรดเปน็ ดา่ งของดนิ ด้วย กลา่ วคือ ในสภาพดนิ ท่ีมีแนวโนม้ การเปน็ กรดเปน็ ด่างสูงใหใ้ ช้ปุย๋ แมกนเี ซียมซัลเฟต
และในสภาพดนิ ที่มีความเป็นกรดเป็นดา่ งต่ำให้ใชป้ ยุ๋ โดโลไมท์ ในการใชป้ ยุ๋ โดโลไมท์น้นั ควรใหก้ อ่ นหรือหลงั ใสป่ ุ๋ยเคมี
ประมาณ 1 เดือน เพอ่ื ป้องกันการดูดตรึงธาตุอาหารไว้ในดินทำให้มะพรา้ วไมส่ ามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ได้ การใส่ปุ๋ย
ควรใสใ่ หส้ มั พันธ์กบั อายมุ ะพรา้ ว

วิธกี ารใส่ปุ๋ยฤดูท่ีเหมาะที่สุดท่ีจะใสป่ ุ๋ยให้มะพร้าว คือ ในชว่ งต้นและปลายฤดูฝน ในช่วงนม้ี ีความชน้ื เพียง
พอทจ่ี ะชว่ ยละลายปยุ๋ และรากของมะพรา้ วกำลังเจริญเตบิ โตเตม็ ทสี่ ามารถดดู ปุ๋ยไปใชไ้ ด้ดี การหวา่ นปยุ๋ จากการศกึ ษา
พบวา่ รากมะพร้าวทสี่ ามารถดดู ปุ๋ยไดด้ ีอยบู่ รเิ วณตดิ กบั ลำตน้ และอย่หู า่ งจากลำต้นภายในรัศมี 2 เมตร ดงั น้นั การใสป่ ุ๋ย
จึงควรโรยหรือหวา่ นป๋ยุ ตง้ั แต่โคนต้นไปจนถงึ 2 เมตร โดยรอบแต่ถ้าเปน็ มะพรา้ วทย่ี ังเลก็ อย่คู วรหวา่ นปยุ๋ ใกล้โคน
มะพรา้ วเพราะรากยังน้อย หลังจากหว่านป๋ยุ แลว้ ควรพรวนดนิ ต้นื ๆ ลึกประมาณ 10-15 ซม. เพอื่ ให้ปยุ๋ ไดค้ ลุกเคลา้ กับ
ดนิ และปอ้ งกนั การชะล้างน่นั เอง

การเพ่ิมปยุ๋ อินทรีย์และปยุ๋ พืชสด ประเทศที่อยูใ่ นเขตร้อนเช่น ประเทศไทย อนิ ทรียวตั ถุในดนิ ส่วนมากมีน้อย
และมีการสลายตัวเรว็ เพราะมีฝนตกชกุ และอุณหภมู สิ งู พวกแบคทีเรยี ในดนิ จะเจรญิ เตบิ โตได้ดคี อยย่อยและทำลาย
พวกอนิ ทรยี วตั ถุไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว อินทรียวัตถุจะเป็นตัวช่วยให้ดนิ มีความอุดมสมบรู ณแ์ ละสภาพทางฟิสกิ ส์ของดินดีข้นึ

17

ทำใหด้ ินรว่ นซยุ การระบายน้ำ ระบายอากาศไดด้ ี รากของมะพรา้ วสามารถชอนไชไปหาอาหารได้อยา่ งกว้างขวาง การ
เพิม่ อินทรยี วัตถใุ ห้แกด่ นิ สามารถกระทำได้หลายแบบ เชน่ การใส่ปุย๋ คอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยพืชสด เช่น ปอเทอื ง แลว้ ทำ
การไถกลบ หรือใช้วิธีการเลย้ี งสตั ว์ในสวนมะพรา้ วก็ได้

การกำจดั วชั พชื ใชแ้ รงคน โดยการถากดว้ ยจอบ หรอื ดายดว้ ยมดี
ใชเ้ ครื่องทนุ่ แรง เชน่ รถไถหญา้ รถไถนาขนาดเล็ก
ปลูกพืชคลุม ใช้พืชตระกูลถ่วั เช่น คาโลโปโกเนยี ม เพอร์ราเรยี หรือ เซ็นโตรมา โดยการปลกู ให้หา่ งโคนตน้ เกิน
รัศมี 1 วา
ใช้สารเคมี เชน่ ไกลโฟเซ็ท(ช่ือการค้าวา่ ราวด์-อพั หรือ คาวบอย) หรือดาลาพอน (ชือ่ การค้าว่า คาลาลา่ หรอื
ดาวพอน ฯลฯ) กำจัดวัชพืชข้ามปี เชน่ หญา้ คา ใช้พาราควอท (ช่ือการค้าวา่ กรัมม้อกโซน กลา๊ สโซน เพลนโซน น้อก
โซน ฯลฯ)กำจัดวัชพชื ล้มลกุ ต่างๆ เช่น ตีนนก ตีนกา สาบแรง้ สาบกา (อัตราและวธิ ใี ช้ตามฉลากยา เวลาใช้ต้องระวงั
อย่าให้ละอองสารเคมีถกู ตน้ หรอื ใบมะพร้าว)

โรคและแมลงในมะพรา้ ว

แมลงที่เปน็ ศัตรูพืชกับมะพรา้ วคอื ดว้ งแรด เปน็ แมลงปีกแข็งตัวใหญ่มสี นี ้ำตาลเขม้ บนหัวมนี อ เหมือนแรด ตวั
แก่กัดกินยอดและใบอ่อนทำใหด้ ้วงงวงมาวางไข่

สามารถจะป้องกันและกำจดั ได้ท้ังในระยะที่เป็นตวั หนอนและตัวเต็มวัย โดยปฏิบัติดงั น้ี

รักษาสวนใหส้ ะอาด เปน็ การทำลายแหลง่ วางไข่ เพราะดว้ งแรดชอบวางไข่ในกองขยะ กองปยุ๋ หมัก กองเศษไม้
ตอไมผ้ ุ ฯลฯ ถา้ เห็นใบยอดขาดเป็นร้ิวๆแสดงว่าถูกด้วงแรดกัดใหใ้ ช้ตะขอหรือเหลก็ แหลมแทง ดงึ เอาตัวออกมาทำลาย
ใช้สารเคมี เชน่

1. ออลดริน ชนดิ นำ้ 5 ช้อนแกง ผสมน้ำ 1 ป๊บี ราดทีค่ อมะพร้าวทุก 2 เดือน
2. อโซดริน 3 ชอ้ นแกง ผสมนำ้ 1 ปีบ๊ ราดที่คอมะพรา้ วเดือนละคร้ัง
3. ออลดรนิ ชนดิ ผงคลกุ กับขี้เลื่อยในอตั รา 1 ช้อนแกง ต่อขี้เล่ือย 8 กระป๋องนม โรยทค่ี อมะพร้าวต้นละ 1
กระป๋องนม ทุก 2 เดือน
4. สำหรับตน้ มะพรา้ วท่ีมลี ำต้นสูงมาก ใชพ้ วก นูวาครอนหรอื อโซดรินฉีดเข้าลำต้น โดยเอาสว่านเจาะลำตน้ ให้
เป็นรจู ำนวน 2 รู อยู่ตรงข้ามกัน ใช้เขม็ ฉีดยาดูดสารเคมี 10 ซีซี ฉีดใสใ่ นรทู ่ีเจาะไว้ข้างละ 5 ซีซี จะมฤี ทธ์ิอยู่นาน
ประมาณ 30 วนั วิธนี ห้ี ้ามเก็บผลมะพรา้ วก่อนครบกำหนดหลังจากฉดี สารเคมีแลว้ อย่างนอ้ ย 30 วัน
ใช้วิธชี วี อินทรยี ์โดยธรรมชาตจิ ะมเี ชื้อราและเชื้อไวรัสทีส่ ามารถทำลายด้วงแรดได้ทง้ั ทีเ่ ป็นตัวหนอนและตัวเตม็
วยั คอื

(1) เชอ้ื ราเขียว Metarhizium anisophiae จะเขา้ ทำลายตัวหนอนมองเหน็ เป็นเสน้ ใยสีขาวจบั กันเปน็ ก้อน
อยทู่ ผ่ี ิวภายนอกตวั หนอนตอ่ ไปจะเปลย่ี นเปน็ สเี ขยี ว ถา้ ตัวหนอนของด้วงแรดมลี ักษณะดงั กล่าวควรนำไปใส่ใหก้ ระจาย
ตามกองขยะ กองปุย๋ หมัก ปยุ๋ คอก ตอหรือทอ่ นมะพรา้ วผๆุ ซ่งึ เปน็ แหล่งเพาะขยายพนั ธ์ุของด้วงแรด จะชว่ ยลดปรมิ าณ
ดว้ งแรดลงไดม้ าก

18

(2) เช้ือไวรัส Rhabdiomvirus oryctes หรือท่ีเรียกกันวา่ แบคคลู าไวรัส (Baculavirus) จะเข้าทำลายตัว
หนอนมลี กั ษณะทส่ี งั เกตไดง้ ่ายคอื ส่วนทา้ ยของตัวหนอน (rectum) จะพองโตยน่ื ออกมาเหน็ ได้ชัด เมื่อพบหนอนท่ีมี
ลกั ษณะน้คี วรเกบ็ ใส่ไวต้ ามแหลง่ ขยายพันธ์ุของดว้ งแรด จะทำใหด้ ้วงแรดเปน็ โรคแพรก่ ระจายมากข้ึนปริมาณของดว้ ง
แรดจะลดลง

แมลงอีกชนดิ คือ ดว้ งงวง มีขนาดเล็กกว่าด้วงแรด เขา้ ทำลายต้นมะพรา้ วโดยการวางไข่ ตามรอยแผลท่ีมอี ยู่แลว้
เชน่ แผลทีเ่ กิดจากดว้ งแรดกัดทำลายเม่ือไข่ฟักตวั แล้วหนอนก็จะกัดกนิ สว่ นที่อ่อนแลว้ เจาะไชเข้าในลำตน้ ทำให้ตน้
มะพร้าวเหีย่ วเฉาและตายได้

การป้องกนั และกำจดั ป้องกันกำจัดด้วงแรดอยา่ ให้เกดิ ระบาดทำลายต้นมะพร้าวเพราะแผลที่ด้วงแรดกดั เป็น
ช่องทางให้ด้วงงวงเข้าไปวางไข่ ระวงั อยา่ ใหต้ น้ มะพรา้ วเกิดบาดแผล เช่น การใชม้ ีดฟันต้น เพราะดว้ งงวงจะเขา้ ไป
วางไขต่ ามรอยแผล อย่าปลกู มะพร้าวตน้ื เพราะรากจะลอย ดว้ งงวงสามารถเขา้ ไปในรอยเปิดของเปลอื กตรงส่วนของ
โคนตน้ ทต่ี ดิ กบั พนื้ ดนิ ได้ ถ้าพบตน้ ท่ีถูกด้วงงวงทำลาย และต้นยงั แข็งแรงอยู่ ให้ใชย้ าคาร์โบฟูราน (ฟรู าดาน หรือ คู
ราแทร์ 3% G) โรยบริเวณโคนต้น เกลย่ี ดินกลบ รดน้ำให้ชุ่ม สารเคมีจะซมึ ผา่ นข้ึนไปจนถงึ ยอด ฆ่าหนอนที่กินอยู่
ภายในได้ และอย่าเกบ็ ผลไปรับประทานภายใน 30 วัน หลังจากใส่สารเคมีแลว้ ต้นทถ่ี กู ด้วงงวงทำลายจนตาย ควรโค่น
ท้งิ แลว้ เผาทำลาย

ประโยชน์ของมะพร้าว

มะพร้าวสามารถใช้ประโยชน์ไดห้ ลายอยา่ ง

นา้ํ มะพร้าว ใช้เป็นเคร่ืองดื่มเกลือแร่ได้ เน่อื งจากอดุ มไปด้วยโพแทสเซยี ม นอกจากน้ยี ังมีคุณสมบตั ิปลอดเช้ือ
โรค และเปน็ สารละลายไอโซโทนิก ซง่ึ ด้วยเหตนุ ้จี ึงสามารถนำนำ้ มะพร้าวไปใช้ฉีดเขา้ หลอดเลือดเวน ในผปู้ ว่ ยท่มี ี
อาการขาดนำ้ หรือปรมิ าณเลือดลดผิดปกติได้ นำ้ มะพรา้ วสามารถนำไปทำ วุน้ มะพร้าว ได้ โดยการเจือกรดอ่อนเล็ก
น้อยลงในน้ำมะพร้าว

เนือ้ มะพรา้ วแก่ นำไปทำกะทิได้ โดยการขูดเนื้อในเปน็ เศษเล็ก ๆ แล้วบีบเอานำ้ กะทิออกมาจากมะพร้าว
กากมะพร้าว ทีเ่ หลือจากการคั้นกะทิ ยงั สามารถนำไปทำเป็นอาหารสัตวไ์ ด้
ยอดอ่อนของมะพรา้ ว หรือเรยี กอีกช่ือว่า หัวใจมะพร้าว (coconut’s heart) สามารถนำไปใชท้ ำอาหารได้ ซ่ึง
ยอดอ่อนมรี าคาแพงมาก เพราะการเก็บยอดอ่อนทำให้ต้นมะพรา้ วตาย ดว้ ยเหตุนจ้ี งึ มกั เรียกยำยอดออ่ นมะพรา้ ววา่
“สลดั เจา้ สวั “ (millionaire's salad)
ใยมะพร้าว นำไปใชย้ ัดฟูก ทำเสอื่ หรือนำไปใช้ในการเกษตร
น้ำมนั มะพร้าว ได้จากการบีบหรอื ต้มกากมะพร้าวบด นำไปใช้ในการปรงุ อาหารหรือนำไปทำเคร่ืองสำอางก็ได้
และในปจั จบุ นั ยงั มีการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันมะพร้าวอีกด้วย
กะลามะพร้าว นำไปใช้ทำส่งิ ประดษิ ฐต์ า่ ง ๆ เช่น กระบวย โคมไฟ กระดุม ซออู้ ฯลฯ

19

ก้านใบ หรอื ทางมะพรา้ ว ใช้ทำไม้กวาดทางมะพร้าว ใบนําไปสารทําหมวก ฯลฯ
จาวมะพรา้ ว ใชน้ ำมาเปน็ อาหารได้ ในจาวมะพรา้ วมีฮอร์โมนออกซนิ และฮอร์โมนอื่นๆแต่ มี ฮอรโ์ มนออกซินป
รมิ าณมากท่ีสุด ซงึ่ เมอ่ื นำไปคั้น และนำนำ้ ที่ได้จากจาวมะพร้าว ไปรดต้นพชื จะชว่ ยกระต้นุ การเจรญิ เติบโตของพชื ได้

อตุ สาหกรรมมะพร้าวสามารถแบ่งไดเ้ ป็น 2 กลุ่ม คือ

1. ผลติ ภณั ฑ์แปรรูปเพือ่ การบริโภค เชน่ อุตสาหกรรมมะพรา้ วแหง้ อตุ สาหกรรมนำ้ มันมะพร้าว อุตสาหกรรม
กะทิเข้มข้น อตุ สาหกรรมมะพร้าวขดู แห้ง อตุ สาหกรรมน้ำตาลมะพร้าว

2. ผลติ ภณั ฑเ์ พือ่ อตุ สาหกรรมและอุปโภค เช่น อุตสาหกรรมเสน้ ใยมะพรา้ ว อตุ สาหกรรมแท่งเพาะชำ
อุตสาหกรรมเผาถ่านจากกะลามะพรา้ ว อตุ สาหกรรมแปรรูปมะพร้าว

ผลผลิตมะพรา้ วแตล่ ะปจี ะมีมูลค่าไม่ต่ำกวา่ ปีละ 2,700 ล้านบาท คิดแล้วมูลคา่ มหาศาล ซงึ่ เราไม่ควรท่จี ะ
ละเลยและ ควรเร่งหาทางในการสง่ เสริมและพฒั นามะพร้าวอีกต่อไป

มะพร้าวสามารถข้ึนไดใ้ นทุกจังหวัดท่ัวประเทศ แตข่ ึ้นไดด้ ีในดินทีม่ สี ภาพเปน็ กลางหรือเปน็ กรดเล็กน้อยคือ (pH
ระหวา่ ง 6-7 ) ลักษณะดนิ ร่วน หรือรว่ นปนทราย มีการระบายนำ้ ดี มีฝนตกกระจายสมำ่ เสมอแทบทุกเดือน อากาศ
อบอุ่น หรือค่อนข้างร้อน และมแี สงแดดมาก

มะพร้าวอ่อน มะพรา้ วอ่อนเปน็ ทน่ี ยิ มในตลาดฮอ่ งกง ไต้หวัน และสงิ คโปร์ กอปรกบั มีงานวจิ ยั ทส่ี นบั สนนุ
คุณประโยชนข์ องมะพร้าวทมี่ ีมากมายตอ่ พัฒนาการของเด็ก รวมทง้ั มีสารให้ความสดช่ืน (สารเหล่านมี้ มี ากในมะพร้าว
อ่อนอายุไม่เกิน 8 เดือน แต่มีอยู่น้อยในมะพรา้ วแก)่ ทำให้มะพร้าวออ่ นไทยเป็นสนิ ค้าสง่ ออกท่นี ยิ มแพรห่ ลาย
ตลอดจนใชเ้ ปน็ วตั ถุดิบในอุตสาหกรรมเครื่องดม่ื

ไทยสง่ ออกมะพร้าวอ่อนตามพิกัด 0801.190.007 ในปี 2546 รวม 266.4 ลา้ นบาท คิดเปน็ ปริมาณการส่งออก
26.55 พันตนั ขยายตัวรอ้ ยละ 7.0 จากปี 2545 โดยตลาดมะพร้าวน้ำหอมของไทยท่สี ำคัญได้แก่ สงิ คโปร์ ฮ่องกง
ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลยี แคนาดา บารเ์ รน บรูไน และซาอุดิอาระเบยี

คู่แข่งมะพร้าวอ่อนของไทยได้แก่ ฟิลปิ ปนิ ส์ มาเลเซีย โดยไทยเสียเปรียบในแงต่ น้ ทุนการขนส่งในบางตลาด เช่น
ตลาดฮอ่ งกง ไทยไกลกว่าฟิลิปปนิ ส์ ตลาดสงิ คโปร์ ไทยไกลกว่ามาเลเซยี แต่ในเร่ืองรสชาตแิ ลว้ มะพรา้ วออ่ นของไทยมา
เปน็ อันดับหน่ึง เนื่องจากมะพร้าวอ่อนของประเทศอ่นื ๆ ไม่มีพันธเ์ุ ฉพาะอย่าง เชน่ มะพร้าวนำ้ หอมของไทย แต่เป็น
มะพร้าวแกงซ่ึงเก็บผลอ่อนมาขายกัน นอกจากนี้ ไทยยงั มีการแปรรูปเปน็ มะพรา้ วน้ำหอมแช่แข็ง และนำ้ มะพร้าวบรรจุ
กระป๋องขาย

บริษัททผี่ ลติ มะพร้าวอ่อนเพื่อการสง่ ออกทง้ั มะพรา้ วออ่ นปอกเปลือกเป็นลกู มะพรา้ วอ่อนแชแ่ ขง็ และบรรจุ
กระป๋อง เช่น บริษัท เฟรช แอนด์ ชิลล์ จำกดั ราชบุรี บรษิ ทั มะพร้าวนำ้ หอมไทย จำกดั สมทุ รสาคร และบริษัท ซี
แอนด์ เอ โปรดักซ์ จำกดั ราชบรุ ี เปน็ ตน้

20

มะพร้าวแกง ในการเปรยี บเทยี บความสามารถในการแขง่ ขันมะพร้าวแกงและผลติ ภณั ฑ์ของไทย กบั ประเทศผู้
ส่งออกมะพร้าวและผลิตภัณฑ์อื่นๆ จะเนน้ ทร่ี ายการมะพร้าวและผลติ ภณั ฑท์ ี่อยู่ในข้อผูกพนั และ การนำเข้ารายการ
สนิ คา้ เกษตร 23 รายการของไทยกับ WTO ซ่งึ มี 3 รายการดงั นี้

1.มะพร้าวฝอยทำใหแ้ ห้ง มะพรา้ วฝอยทำให้แหง้ อยู่ในพิกัด 0801.110.000 ตามงานศึกษาของ สภุ าวดี ภทั ร
โกศล (2540) พบว่า ตน้ ทุนการผลิตมะพรา้ วของเกษตรกรไทยอยู่ทผ่ี ลละ 3.08 บาท และหากตั้งแตป่ ี 2546 เป็นต้นมา
ประเทศไทยเปิดเสรีในกรอบ AFTA ซ่ึงทำใหม้ ะพร้าวไมส่ ามารถตง้ั กำแพงภาษนี ำเขา้ ได้ ไทยจะเสยี เปรยี บประเทศ
คแู่ ขง่ เชน่ มาเลเซีย อินโดนีเซยี ท่ีมีราคามะพรา้ วถกู กวา่ ของไทยมาก โดยราคาขายอยู่ท่ีประมาณผลละ 1 บาท ขณะท่ี
ตามรายงานในพกิ ัดสินค้าของกรมศุลกากร ไทยเกบ็ อัตราภาษีนำเขา้ มะพรา้ วท่รี ้อยละ 5.0 ในกรอบ AFTA แต่ความจริง
แล้ว ไทยไมเ่ คยเปิดตลาดมะพร้าวตามกรอบ AFTA แต่อย่างไร โดยสำหรบั พิกดั 0801.110.000 ไทยเก็บอัตราภาษีที่
ร้อยละ 54.6 ตามกรอบ WTO

จากการสัมภาษณผ์ เู้ ชยี่ วชาญมะพรา้ วจากกรมวิชาการเกษตร กเ็ หน็ เช่นกนั ว่ามะพร้าวฝอยทำให้แห้งของไทย
ตน้ ทนุ สงู กว่าคแู่ ขง่ อย่างไรก็ตาม แมว้ ่าต้นทนุ ของไทยจะสูงกว่า แต่เชื่อว่าราคามะพร้าว ฝอยทำให้แหง้ เมื่อบวกค่า
ขนสง่ ของฟลิ ปิ ปินส์ อนิ โดนเี ซีย มาไทยจะไมถ่ กู กวา่ ของไทย แต่อาจจะมกี ารนำเขา้ มะพร้าวจากเวียดนามและพมา่ เข้า
มาได้ เน่ืองจากต้นทุนขนสง่ ไมส่ ูงนัก

2. เนอ้ื มะพร้าวแหง้ เน้ือมะพร้าวแหง้ อยู่ในพิกดั 1203.000.005 ไม่มีการนำเขา้ มาในไทย แต่มีการส่งออก โดย
ในปี 2546 มูลคา่ รวม 840.9 แสนบาท ปริมาณสง่ ออก 108.5 ตนั

จากการสัมภาษณ์ผเู้ ชย่ี วชาญมะพรา้ วชี้วา่ เนือ้ มะพร้าวแห้งในประเทศแขง่ ขนั กับเน้อื มะพร้าวแหง้ นำเขา้ ได้ แต่
การพิจารณาในเชิงตัวเลขนำเข้า เพื่อเปรยี บเทยี บราคานำเข้ากับราคาในประเทศไม่สามารถทำได้ เนอ่ื งจากไม่มีการ
นำเข้า

ขณะท่กี ารตรวจสอบตัวเลขการส่งออกเนื้อมะพร้าวแห้ง พบว่า ปริมาณการสง่ ออกมนี ้อย และตวั เลขไม่ได้แสดง
นยั การเตบิ โตทนี่ า่ สนใจ จงึ ดูไม่มคี วามสามารถ ในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ

3. นำ้ มนั มะพร้าว น้ำมันมะพร้าวอยูใ่ นพิกัด 1513.110.008 ไมม่ ีการนำเข้ามาในไทย แตม่ กี ารส่งออก โดยในปี
2546 มลู ค่ารวม 43.28 ล้านบาท ปริมาณสง่ ออก 3,646.9 ตนั

จากการสัมภาษณผ์ ูเ้ ชี่ยวชาญมะพรา้ วชว้ี า่ น้ำมันมะพร้าวในประเทศแขง่ ขันกบั น้ำมนั มะพรา้ วนำเข้าได้ แต่การ
พิจารณาในเชิงตัวเลขนำเข้า เพอื่ เปรยี บเทยี บราคานำเขา้ กับราคาในประเทศไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่มกี ารนำเข้า

เมอ่ื ตรวจดูความสามารถในการแขง่ ขันกับคู่แขง่ ในตลาดตา่ งประเทศพบว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยไทยสามารถสง่ ออก
น้ำมนั มะพร้าวได้ในมูลคา่ สงู

ส่วนของลูกมะพร้าวอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้คือ “กะลามะพร้าว” เมื่อถูกมนุษย์เอาเนื้อออกไป
รับประทานหมดแลว้ ก็เป็นเศษวัสดุท่ีไม่ค่อยมรี าคาค่างวดสักเทา่ ไรคนสมัยก่อนมักนำไปใช้ทำเชื้อเพลิง หรืออย่างดีก็คิด
เอาไปทำเครื่องใช้ในครวั เรอื น เช่น กระบวยตักน้ำ ทพั พี ถว้ ย ชาม ฯลฯ ความสำคัญของกะลามะพร้าวในสมัยก่อนมีค่า

21

ไม่มากนัก จึงมีการเปรียบเปรยคนที่ใช้ชีวิตอย่างไร้คุณค่าเหมือนกะโหลกกะลา ทางภาคใต้ผู้ที่ชอบเถลไถลไม่ทำอะไร
เลย จะถูกเรียกขานว่า “ไอพ้ ลกไอต้ อ้ ” เป็นการบ่งบอกถงึ ความไร้ค่าเสมอดว้ ยกะลาตอ่ มาภูมิปัญญาไทยหลายคนหลาย
แหล่งทั่วทุกภาคของประเทศ ได้คิดประดิษฐ์เพิ่มคุณค่าจากกะลาที่ไร้ค่ามาเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่นอกจากจะทำ
เป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนแล้ว ยังประดิษฐ์เป็นเครื่องตกแต่งบ้าน เช่น โคมไฟ ตะเกียงเจ้าพายุ ฯลฯ เครื่องประดับ
เครื่องแต่งกายสุภาพสตรี เช่น กระเป๋าถือ เข็มขัด เข็มกลัด ปิ่นปักผม สร้อย ฯลฯ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นที่นิยมของ
ชาวไทย และชาวต่างชาติสรา้ งรายได้เพิม่ พูนใหแ้ ก่คนไทยท่ียากไรใ้ นชนบท

ผลติ ภณั ฑจ์ ากมะพรา้ ว

โคมไฟ จากกะลามะพร้าว

วิธีการคัดเลือกมะพร้าว

ขนั้ ตอนที่ 1 คัดเลือกมะพร้าว
1. คัดเลือกมะพร้าวสำหรับทำดอกไม้กะลามะพร้าว ใช้กะลาแก่จัดทรงกลมเนื้อหนา ขนาดเส้นผ่า ศูนย์กลาง

ประมาณ 12 ซม.
2. คัดเลือกมะพร้าวสำหรับทำเกสรใชก้ ะลาแก่ลูกเล็ก (ซึ่งหายากพอสมควร) เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 – 6

ซม. จำนวน 5 ใบ
หมายเหตุ ใชก้ ะลาทง้ั หมดประมาณ 15 ลกู ในการทำดอกไม้โคมไฟเพ่ือปักแจกัน
ขน้ั ตอนท่ี 2 ขัดผวิ กะลา

นำกะลาที่คัดแล้ว ขูดขุยให้เกลี้ยงตัดด้านบนเพื่อนำน้ำและเนื้อมะพร้าวออกให้เหลือเฉพาะเนื้อกะลา ต่อ
จากนน้ั นำไปขัดด้วยกระดาษทราย ขนาดเบอร์ 150 และ 320 ให้ผิวกะลาเรยี บทงั้ ในและนอกตวั กะลา
ขั้นตอนที่ 3 ทำกลบี ดอกไม้

1. นำกะลาที่ขัดผิวแล้วทั้งลูกมาวาดลวดลายกลีบดอก (ดอกชบา) จัดฟอร์มดอกไม้ให้เท่ากัน และสวยงาม
ดอกไม้ 1 ดอกใชก้ ะลา 2 ลกู ขนาดลดหล่ันกนั เพ่อื ทำกลีบดอก กลบี ใน กลีบนอก

2. เจยี รกะลาตามลายกลบี ดอกทว่ี าดไว้ กรีดกลบี ดอกพรอ้ มเส้นกา้ นกลีบใหม้ ศี ิลปะ (เหมอื นดอก ไมจ้ รงิ )

23

3. นำกลบี ดอกไมท้ ว่ี าดลาย มาเจาะรลู ายดอก พรอ้ มทั้งเจาะกรีดลายกลีบดอกดว้ ยเล่ือยเล็ก เพอ่ื ความสวยงาม
และความอ่อนชอ้ ยในงานศลิ ปะ

ขั้นตอนท่ี 4 ทำฐานดอกไม้
นำไม้มะพร้าวหรือไม้เนื้อแข็งหนา ประมาณ ½ ซม. เจียรเป็นรูปทรงกลมเจาะรู้ตรงกลางกะขนาดให้พอดีกับ

ฐานหลอดไฟ ประกอบชุดหลอดไฟฟ้าได้
ขั้นตอนท่ี 5 ทำตวั ดอกไม้ (ดอกชบากะลามะพรา้ ว)

นำฐานดอกไมแ้ ละกลบี ดอกชบาแตล่ ะชุดมาประกอบเปน็ ดอกชบากลีบชัน้ ในใช้กะลาขนาด
เล็ก กลบี ชั้นนอกใช้กะลาขนาดใหญ่กวา่ สลบั กลีบดอกใหม้ ศี ลิ ปะสวยงามนำสว่ นประกอบทกุ ข้นั ตอนมาประกอบ
การใช้ประโยชนต์ ่อการดำรงชวี ติ

การดำเนินงานดังกล่าว มีประโยชน์ต่อสังคมทั้งในด้านการศึกษา มีการสร้างเครือข่าย ส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ
ด้านการชว่ ยเหลอื /สงเคราะหส์ ังคม ชมุ ชนใหด้ ีข้นึ และด้านอืน่ ๆ อีก เช่น
ด้านการศึกษา ได้นำความรู้ ความสามารถถ่ายทอดภูมิปัญญาแก่ชุมชน ให้ความรู้กับนักเรียนในระบบโรงเรียน
นักศึกษานอกระบบโรงเรียน และประชาชนทั่วไป ใช้วิธีการถ่ายทอดที่หลากหลายเหมาะสมกับผู้เรียน เช่น ใช้เอกสาร
การเรียนรู้ การบรรยาย สื่อวีดิทัศน์ ให้ผู้เรียนศึกษาจากแหล่งเรียนรู้จริง และให้ลงมือปฏิบัติจนได้ชิ้นงานเป็นของ
ตนเอง ฝึกการใชเ้ ครอื่ งมอื อย่างถกู ตอ้ งและปลอดภยั ผู้เรยี นเกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง เป็นตวั อย่างของ
ผู้มาศึกษาเรียนรู้ ทั้งส่วนของนักเรียนที่มาเรียนประจำ นักศึกษา และกลุ่มสนใจมาฝึกงาน มาศึกษาดูงาน และเชิญไป
ร่วมจดั นทิ รรศการ

24

โคมไฟจากกะลามะพร้าว

วัสดุท่ีใช้ เคร่ืองมือและอุปกรณ์

1. กะลามะพรา้ ว
2. เล่อื ยฉลุ
3. หลอดไฟ สายไฟ ปล๊ักไฟ
4. สวา่ นเจาะ
5. เทปพนั สายไฟ
6. กระดาษทรายหยาบ
7. ไมอ้ ัดเหลอื ใช้ คอโคมไฟไม่ใชแ้ ลว้
8. กระดาษทรายละเอยี ด
9. เคร่ืองยงิ กาว
10. ดนิ สอ / วงเวียน
11. สไี ม้โอ๊ก

ข้ันตอนในการทำ

1. นำกะลามะพร้าวลกู ที่ 1 ปลอกเปลือกใหห้ มด เจาะรูดา้ นล่าง 1 รขู นาดเส้นผา่ ศนู ย์ กลาง 1 ซ. ม วาดลวดลายเป็น
หยดน้ำ 3 หยดขนาดใหญ่แลว้ ขัดกะลาใหเ้ ป็นมันเงา และทาสไี มโ้ อ๊กใหเ้ รยี บรอ้ ย

2. นำกะลาลูกที่ 2 ตัดครง่ึ ลกู ทำเปน็ ฐาน เจาะรูตรงกลางขนาดเส้นผ่าศนู ย์กลาง 2 ซ.ม และเจาะรดู ้านขา้ งกะลาเพ่ือติด
สายไฟ และขดั มนั ใหเ้ รียบร้อยทาดว้ ยสีไม้โอ๊ก

3. นำชนิ้ สว่ นกะลาทัง้ 2 ส่วน ตดิ เข้าด้วยกนั ใหส้ นทิ ด้วยการยงิ และนำสายไฟตดิ ปลั๊กไฟเขา้ ที่กลางฐานกะลาและสอด
สายไฟเข้าด้านข้างของกะลาท่ีเจาะรูไวเ้ ข้าทำ เป็นฐาน

4. นำหลอดไฟตดิ เขา้ กบั หลอดไฟให้ถกู ต้องแล้วตรวจสอบให้เรยี บร้อย

บรรณานุกรม

แหลง่ อ้างองิ : วกิ ิพีเดยี สารานุกรมเสรี (EN), กูรู สนกุ , ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ประธานเครอื ขา่ ยพืชปลกู พ้นื เมืองไทย
, www.GotoKnow, สำนกั งานกองทุนสนับสนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)

28


Click to View FlipBook Version