สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
6หน่วยการเรยี นรู้ที่ แนวทางป้องกนั และแก้ปัญหา
พลงั งาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม
สาระสำ�คัญ จากปัญหาและผลกระทบจากการใช้พลังงานต่างๆ สามารถส่งผล
กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อันเกิดจากกิจกรรมต่างๆ
ของมนษุ ย์ ยงิ่ มนษุ ยท์ �ำ กจิ กรรมและมกี ารใชพ้ ลงั งานจ�ำ นวนมากเทา่ ใด ยอ่ ม
ส่งผลกระทบต่อปัญหาการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติและส่ิง
แวดล้อมมากเทา่ นัน้ เมื่อปัญหาพลังงาน ทรัพยกรและสงิ่ แวดลอ้ มไดส้ ่งผลกระทบตอ่ มนุษยใ์ นสังคม
และสิ่งมีชวี ิตต่างๆ ในระบบนิเวศ ทุกคนตอ้ งศึกษาและเรยี นรูว้ ธิ กี ารแก้ไขปญั หา
ดงั นนั้ การปอ้ งกนั และการแกป้ ญั หาถอื วา่ เปน็ แนวทางหนง่ึ ในการจดั การพลงั งานและ
การจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมท่ีสามารถนำ�มาใช้ควบคู่กันไป เพื่อจะให้ปัญหา
พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมไมเ่ กดิ ข้นึ อีกและไม่สง่ ผลกระทบตอ่ มนุษย์และส่ิงมีชีวติ
ในระบบนิเวศต่างๆ ที่มแี นวโน้มเพิ่มจำ�นวนมากขึ้นในอนาคต
สาระการเรียนรู้ 1. การปอ้ งกนั และการแกป้ ัญหาพลังงาน
2. การป้องกนั และการแกป้ ัญหาทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม
122 พลงั งาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม
สมรรถนะ 1. แสดงความรู้เก่ียวกับแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาพลังงาน ทรัพยากร
ประจำ�หนว่ ย และสง่ิ แวดลอ้ ม
2. วางแผนป้องกัน แก้ไขปัญหาทรัพยากรและผลกระทบที่เกิดจากการใช้
พลงั งาน ทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ ม
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
จดุ ประสงค์ 1. อธบิ ายการป้องกนั และแกป้ ัญหาพลงั งานได้
การเรยี นรู้ 2. อธิบายการปอ้ งกนั และแกป้ ัญหาทรพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ มได้
ผังสาระ การปอ้ งกนั และการแกป้ ัญหาพลังงาน
การเรยี นรู้ การป้องกันและการแกป้ ัญหาทรัพยากร
และสิ่งแวดลอ้ ม
แนวทางปอ้ งกนั และ
แกป้ ัญหา
พลังงาน ทรัพยากร
และสงิ่ แวดล้อม
ส�ำ หรบั
ผู้สอน
148 พลงั งาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อม แนวทางการตอบอยู่ในภาคผนวก
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6
กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
คำ�ชแี้ จง กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเป็นกิจกรรมฝึกทักษะเฉพาะด้านความร-ู้ ความจ�ำ
เพ่อื ใช้ในการตรวจสอบความเขา้ ใจตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ตอนท่ี 1
ค�ำ สง่ั จงจับค่คู ำ�ถามและคำ�ตอบท่ีมีความถกู ต้องมากที่สดุ
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
ค�ำ ถาม คำ�ตอบ
1. ปญั หาการใชพ้ ลงั งานของไทย ก. เปลยี่ นนิสยั การใชพ้ ลงั งานในทุกๆ วัน
2. การป้องกันและแกป้ ัญหาพลังงาน ข. ควบคุมการปลอ่ ยและการปรับเปลี่ยน
3. ปญั หาสภาพภมู ิอากาศเปล่ยี นแปลง ค. ประเทศลาวและประเทศเมียนมาร์
4. การแก้ไขปัญหาภาวะโลกรอ้ น ง. การขาดแคลนพลังงานในประเทศ
5. การนำ�เขา้ พลังงานไฟฟ้าของไทย จ. รณรงคก์ ารใช้พลงั งานให้มีประสทิ ธภิ าพ
ตอนที่ 2
คำ�ส่ัง คำ�กลา่ วในประโยคใดตอ่ ไปน้ี (✓) หรือ (✗)
____ 1. แนวทางป้องกันและแก้ปัญหาการใช้พลังงานท่ีมีผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมโดยต้องมีการ
ปกป้องการฟน้ื ฟู และการอนุรักษ์
____ 2. การแก้ปัญหาสิ่งแวดลอ้ มท่ีสำ�คญั ต้องเพ่มิ การใชพ้ ลังงานใหม้ ากข้ึน
____ 3. การปอ้ งกันและแกป้ ญั หาสิ่งแวดล้อมด้านดนิ ต้องสร้างความอดุ มสมบูรณ์ใหก้ ับดิน
____ 4. การปอ้ งกนั และแกป้ ญั หาส่ิงแวดล้อมดา้ นน้าํ ตอ้ งไมท่ ิง้ สง่ิ ปฏิกลู และบำ�บดั นํา้ เสียกอ่ นทงิ้
____ 5..การป้องกันและแก้ปัญหาส่ิงแวดล้อมด้านอากาศและเสียง ต้องควบคุมแหล่งกำ�เนิด
เปน็ สำ�คญั
สำ�หรับ
ผ้สู อน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักดแนวทางปอ้ งกันและแกป้ ญั หาพลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม 149
กิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้
คำ�ช้ีแจง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายท่ีฝึกทักษะทุกด้านตาม
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพ่ือให้เกิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรม
ท้ังในและนอกสถานท่ีตามความเหมาะสมของผ้เู รียนและสิง่ แวดล้อมของสถานศึกษา
ค�ำ สง่ั ใหผ้ เู้ รียนคน้ หาปัญหาและผลกระทบจากการใชพ้ ลังงานและทรัพยากรต่อส่งิ แวดลอ้ ม
จากแหล่งขอ้ มลู ทางอนิ เทอร์เน็ต
1. แนวทางป้องกันและแก้ปัญหาการใช้พลังงานตา่ งๆ
1.1 พลังงานไฟฟา้ (Electricity Energy) (แนวทางการตอบหรืออ่ืนๆ ข้นึ อยกู่ ับดลุ ยพนิ ิจของผสู้ อน)
แหล่งข้อมูลจาก www วนั ทค่ี น้ ข้อมลู
1.2 นา้ํ มันเชอ้ื เพลงิ (Fuels Energy) (แนวทางการตอบหรืออนื่ ๆ ขึ้นอยกู่ บั ดุลยพนิ จิ ของผู้สอน)
แหล่งขอ้ มูลจาก www วนั ทคี่ ้นขอ้ มูล
2. แนวทางป้องกันและแกป้ ัญหาทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มตา่ งๆ
2.1 ป่าไมถ้ ูกทำ�ลาย (Deforestation) (แนวทางการตอบหรอื อ่ืนๆ ขึ้นอยกู่ บั ดุลยพนิ จิ ของผ้สู อน)
แหลง่ ขอ้ มลู จาก www วนั ที่ค้นข้อมลู
2.2 ของเสียอนั ตราย (Hazardous Waste) (แนวทางการตอบหรืออน่ื ๆ ขน้ึ อยกู่ บั ดลุ ยพินิจของผู้สอน)
แหล่งขอ้ มลู จาก www วันท่ีค้นขอ้ มลู
กิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้เป็นกจิ กรรมที่ผูส้ อนใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ทิ ุกขอ้ หรือเลือกปฏบิ ตั เิ ป็นบางขอ้ ตาม
ความเหมาะสม โดยผู้สอนให้คะแนนการทำ�กิจกรรมตามเกณฑ์ของใบสรุปผลการทำ�กิจกรรม และ
สามารถนำ�ผลการทำ�กิจกรรมไปเทียบกับการให้คะแนนกับตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเนื้อหา
กับจุดประสงคร์ ายวชิ าสมรรถนะรายวชิ าและจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมได้
สำ�หรบั
ผู้สอน
150 พลงั งาน ทรพั ยากรและสิ่งแวดล้อม
สรุปผลการท�ำกิจกรรม
ค�ำช้แี จง ให้ผู้เรียนประเมินผลการท�ำกิจกรรม โดยเขียนเครอ่ื งหมาย ✓ลงในชอ่ ง ตามความเป็นจรงิ
ความรู้ (K) ทกั ษะ (P) คณุ ลักษณะ (A) เกณฑก์ ารประเมนิ
ความรู้ ความเขา้ ใจ การปฏิบัตงิ านทไี่ ดร้ ับ การมีมนุษยสัมพนั ธใ์ น ท�ำ เครื่องหมาย ✓
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด การนำ�ไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสรจ็ ตามเวลา การปฏิบตั กิ จิ กรรม ในแต่ละตอน 3 ขอ้
การสังเคราะห์ ทกี่ ำ�หนด ความมีวินัย ตรงต่อเวลา คอื ผา่ นการประเมนิ
การประเมินคา่ การปฏิบตั งิ านด้วยความ ความซ่ือสัตยส์ ุจรติ
ละเอียด รอบคอบ ปลอดภัย ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K)
การศึกษาคน้ คว้า เรียบร้อย สวยงาม ประพฤตติ นด้วยความ ผา่ น ไม่ผ่าน
การแสวงหาแหล่งขอ้ มูล
และการรวบรวมขอ้ มลู ความสมบูรณข์ องงาน ถูกตอ้ งตามศีลธรรม 2. ทักษะ (P)
การแสดงความคิดเห็น การปฏบิ ัติงานทท่ี ำ�ใหเ้ กิด อนั ดงี าม
อยา่ งมเี หตผุ ล หรือแสดง สมรรถนะแกผ่ ูเ้ รยี น เจตคติทดี่ ใี นการปฏิบตั ิ ผา่ น ไมผ่ ่าน
กิจกรรม
ขั้นตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคิด ความพอเพียงและความ 3. คุณลกั ษณะ (A)
ทำ�กจิ กรรม สร้างสรรค์ การออกแบบ ผ่าน ไม่ผา่ น
การหาประสบการณ์ การผลติ พอประมาณ
ความรู้ใหม่ การตดั สินใจในการแกป้ ัญหา
หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการทำ�กิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบริบทต่างๆ หรือไม่ โดยแบง่ เป็นเปน็ 3 ดา้ น คอื ความรู้หรือพุทธิพสิ ยั = Knowledge (K)
ทกั ษะหรือทักษะพสิ ยั = Practice (P) คณุ ลักษณะหรือจิตพิสัย = Attitude (A)
ส�ำ หรับ
ผสู้ อน
ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นท�ำ แบบทดสอบ แนวทางป้องกันและแกป้ ัญหาพลังงาน ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อม 151
จากน้นั ให้ผ้เู รยี นแลกกันตรวจค�ำ ตอบ
โดยผสู้ อนเปน็ ผู้เฉลย แบบทดสอบ
ค�ำ สั่ง จงเลอื กคำ�ตอบทถี่ ูกต้องท่ีสดุ เพยี งคำ�ตอบเดยี ว
1. ปัญหาการขาดแคลนพลงั งานของประเทศไทยเกดิ จากสาเหตอุ ะไร
1. มีความตอ้ งการใช้เพิ่มสงู ขนึ้
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
2. มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ 1. ตอบ 5. ทุกข้อเป็นสาเหตุของการขาดแคลนพลังงานของ
3. ปริมาณพลังงานภายในประเทศมไี มพ่ อเพยี ง ประเทศไทย
4. มกี ารพฒั นาด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
5. ถูกทกุ ขอ้
2. แนวทางปอ้ งกันและแกป้ ญั หาพลังงานที่เกดิ ขึ้นในประเทศไทยทำ�ได้อย่างไร
1. การนำ�เขา้ พลังงานจากตา่ งประเทศ
2. รณรงคก์ ารใชพ้ ลงั งานอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและประหยดั
3. เพิม่ การใช้และเพ่ิมจำ�นวนพลังงานใหม้ ากขึน้ 2. ตอบ 4. แนวทางป้องกันและแก้ปัญหาพลังงานท่ีเกิดข้ึนใน
4. ถกู ทั้งขอ้ 1. และข้อ 2. ประเทศไทย คือการนำ�เข้าพลังงานจากต่างประเทศและรณรงค์
การใชพ้ ลังงานอย่างมีประสทิ ธภิ าพและประหยัด
5. ถกู ทงั้ ขอ้ 2. และขอ้ 3.
3. ประเทศไทยมกี ารนำ�เขา้ พลงั งานชนิดใดจากประเทศเมียนมาร์
1. แก๊สปโิ ตรเลียมเหลว หรือ LPG 3. ตอบ 2. ไทยนำ�เขา้ พลังงานก๊าซธรรมชาติ
หรอื CNG จากประเทศเมยี นมาร์
2. แกส๊ ธรรมชาติ หรือ CNG
3. น้าํ มันเชอื้ เพลงิ ต่างๆ
4. พลังงานไฟฟา้
5. ถกู ทุกขอ้ 4. ตอบ 3. วิธีที่สามารถลดการใช้พลังงานต่างๆ ทำ�ได้โดยรณรงค์
4. การลดการใช้พลงั งานตา่ งๆ ท�ำ ได้อยา่ งไรบ้าง และส่งเสรมิ การประหยดั พลังงาน
1. ลดการน�ำ เขา้ พลงั งานต่างๆ 2. เพ่มิ แหล่งขดุ เจาะน้าํ มนั ใหม่ๆ
3. รณรงคแ์ ละสง่ เสริมการประหยดั พลงั งาน 4. น�ำ เขา้ พลังงานไฟฟ้าจากประเทศลาว
5. ถูกทกุ ข้อ
5. การป้องกันและแกป้ ัญหาภาวะโลกรอ้ นเป็นหนา้ ทแ่ี ละความรบั ผิดชอบของใคร
1. ของประชาชนคนไทยทกุ คน 5. ตอบ 5. การป้องกันและแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นหน้าที่และ
ความรบั ผดิ ชอบของทุกคน
2. ผทู้ ำ�กิจกรรมในชวี ิตประจ�ำ วนั
3. การรณรงค์และสง่ เสริมการประหยดั พลงั งานของภาครฐั
4. ทกุ ภาคส่วนของสังคมไทย สำ�หรบั
5. ถกู ทุกขอ้ ผู้สอน
152 พลงั งาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ ม
6. หลกั การป้องกนั และแกป้ ัญหาทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม มีอะไรบา้ ง
1. การเพ่ิมการใช้พลังงานและส่งิ แวดล้อม
2. การปอ้ งกนั การฟืน้ ฟู และการอนุรกั ษส์ ่ิงแวดลอ้ ม
543... กกกาาารรรไอปมน้อ่ใงุรชกกั ้ แนัษล์สแะิ่งลกแะาวกรดปาลร้อน้องมำ�กมโันดาเใยพชไอ่ื้เมพไ่ใม่อื หใ่ใน้หหำ�น้้มมำ�ีจามำ�ในาชใว้เชลน้ไยทดเ่ี้งพา่ ยม่ิ ๆมา 6ก. ขกตแน้ึลาอระบอสน2่งิ .แรุ หกัวดลษักล์สก้อ่ิงแมารวปคดอ้ือลงก้อกามรนั ปแอ้ลงะกแนัก้ปกัญารหฟานื้ทฟรัพู แยลาะกร
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
7. การป้องกนั และแกป้ ัญหาทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อมด้านมลพิษทางดิน ท�ำ ไดอ้ ย่างไรบา้ ง
1. น�ำ ที่ดนิ มาใชป้ ระโยชน์ด้านทอ่ี ยู่อาศัยแทนการเกษตร
2. ลดจ�ำ นวนการใช้ดนิ ลงเพือ่ ใหด้ ินได้พกั การใช้ประโยชน์
3. สรา้ งความอุดมสมบูรณใ์ หก้ บั ดินดว้ ยวิธกี ารต่างๆ 7. ตอบ3.การปอ้ งกนั และแกป้ ญั หาทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มดา้ น
มลพิษทางดิน คอื การสรา้ งความอุดม สมบรู ณใ์ ห้กบั ดินด้วย
45.. ปปล้องกู กพนั ืชไโมดใ่ยหก้ดานิรใไชด้สร้ าับรมเคลมพีกิษำ�ดจว้ดั ยศกตั ารรพูไมชื ่ปแลลูกะสพตั ืชวต์ า่ ง ๆ วธิ ีการตา่ งๆ
8. การปอ้ งกันและแก้ปัญหาทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อมดา้ นขยะมลู ฝอย ทำ�ไดอ้ ยา่ งไรบ้าง
1. เพิม่ จ�ำ นวนขยะเพือ่ ไปใช้ประโยชน์ในการทำ�พลงั งานขยะ
2. ลดจ�ำ นวนขยะก่อนทง้ิ และนำ�ขยะอนิ ทรียไ์ ปทำ�ปุย๋ พืชสด
3. น�ำ หลักการลดจำ�นวนขยะมาใช้ เช่น นำ�กลบั มาใชใ้ หม่ หรือหมุนเวียนใหม่
4. ท้งั ข้อ 1. และข้อ 2. 8. ตอบ 5. การป้องกันและแก้ปัญหาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมด้านขยะมูลฝอย คือลดจำ�นวนขยะก่อนท้ิง
5. ทงั้ ข้อ 2. และขอ้ 3. นำ�ขยะอนิ ทรียไ์ ปท�ำ ปุย๋ พชื สดน�ำ หลกั การลดจำ�นวนขยะมาใช้ เชน่ น�ำ กลบั มาใช้ใหม่ หรือหมุนเวียนใหม่
9. การป้องกันและแกป้ ญั หาทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มด้านมลพิษทางอากาศ ทำ�ได้อย่างไรบา้ ง
1. ลดการใช้รถยนต์ หนั มาใชร้ ถโดยสารสาธารณะ
2. ตรวจสภาพรถยนตใ์ ห้มีการใช้เชือ้ เพลิงอย่างมปี ระสิทธิภาพ
3. เพิม่ พืน้ ที่สีเขียวดว้ ยการปลูกต้นไมใ้ หม้ ากขนึ้ 9. ตอบ 5. ทุกข้อเป็นการป้องกันและแก้ปัญหา
4. ทำ�งานในสถานทใี่ กลบ้ ้าน เดนิ หรือใชจ้ ักรยานให้มากขึน้ ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมดา้ นมลพิษทางอากาศ
5. ถกู ทุกขอ้
10. ควรน�ำ แนวทางปอ้ งกนั และแกป้ ญั หาทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อมต่างๆ มาประยกุ ตใ์ ชห้ รอื ไม่
1. ไม่ควร เพราะปัญหาสงิ่ แวดล้อมเกิดข้นึ มากกวา่ แนวทางการแกไ้ ข
2. ไม่ควร เพราะปัญหาสิง่ แวดลอ้ มเกิดขน้ึ ได้เสมอ
3. ควร เพราะปัญหาสิง่ แวดลอ้ มที่เกดิ ขน้ึ จะไดไ้ มเ่ ลวรา้ ยไปมากกวา่ น้ี
4. ควร เพราะปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มทเี่ กดิ ข้นึ มีไว้เพ่ือแกไ้ ข
สำ�หรับ 5. ไม่ควร เพราะปญั หาสิง่ แวดลอ้ มเป็นปญั หาใหญ่เกินกวา่ จะแกไ้ ขได้
ผสู้ อน
10. ตอบ 3. ควรน�ำ แนวทางปอ้ งกนั และแก้ปัญหาทรัพยกรและส่ิงแวดล้อมตา่ งๆ
มาประยุกต์ใช้ เนื่องจาก ปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มท่ีเกดิ ขึน้ จะไดไ้ มเ่ ลวรา้ ยไปกวา่ นี้
แนวทางป้องกันและแก้ปญั หาพลังงาน ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อม 153
แบบประเมนิ ตนเอง
ค�ำชี้แจง ตอนที่ 1 ให้ผู้เรยี นประเมนิ ผลการเรยี นรู้ โดยเขียนเครอื่ งหมาย ✓ ลงในช่องระดบั คะแนน
และเตมิ ขอ้ มลู ตามความเป็นจริง
ระดบั คะแนนตอนที่ 1 5 : มากท่ีสดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : ควรปรบั ปรุง
ตอนที่ 2 ให้ผู้เรียนน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในช่องว่าง และเขียนเคร่ืองหมาย ✓
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด ลงในชอ่ งสรุปผล
ตอนที่ 1 (ผลการเรยี นรู)้ ตอนท่ี 2 (แบบทดสอบ)
รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ
1. ผู้เรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในเนอ้ื หา คะแนน
2. ผู้เรียนได้ท�ำกจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกบั เน้ือหา (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
และจดุ ประสงค์การเรียนรู้
สรปุ ผล
3. ผู้เรียนไดเ้ รียนและท�ำกิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นรูท้ ่สี ่งเสริม 9-10 (ดมี าก)
กระบวนการคดิ เกดิ การคน้ พบความรู้ 7-8 (ดี)
5-6 (พอใช้)
4. ผู้เรียนสามารถประยกุ ตค์ วามรู้เพือ่ี ใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจ�ำวันได้ ตาํ่ กว่า 5
5. ผ้เู รยี นไดเ้ รียนร้อู ะไรจากการเรียน (ควรปรบั ปรงุ )
6. ผู้เรยี นตอ้ งการท�ำส่งิ ใดเพอ่ื พฒั นาตนเอง
7. ความสามารถทีถ่ ือว่าผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ของผูเ้ รียน คือ
สำ�หรับ
ผูส้ อน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
7หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี หลักการและวธิ ีการอนุรกั ษ์
พลงั งาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม
การอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม คือการนำ�พลังงาน
สาระสำ�คญั ทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ มมาใชอ้ ยา่ งชาญฉลาด เพอื่ ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสดุ
โดยคำ�นึงถึงระยะเวลาในการใช้ให้ยาวนานที่สุด และก่อให้เกิดผลเสียต่อ
ส่ิงแวดล้อมน้อยทส่ี ุด พลงั งาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมยังมีความสำ�คญั
ต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกรวมถึงมนุษย์ ดังนั้นการอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมให้คงอยู่ได้
ยาวนานทีส่ ดุ จงึ มคี วามจ�ำ เป็นอย่างยงิ่ เพ่ือให้โลกดำ�รงอยู่ไดอ้ ยา่ งผาสุก
สาระการเรยี นรู้ 1. การอนุรักษพ์ ลังงาน
2. การอนรุ ักษ์ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม
หลักการและวิธีการอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม 155
สมรรถนะ 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การและวธิ กี ารอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน ทรพั ยากรและ
ประจำ�หนว่ ย สิง่ แวดลอ้ ม
2. วางแผนการอนรุ กั ษ์พลังงาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อมในงานอาชพี
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักดจกดุ าปรเรระยี สนงรคู้์1. อธบิ ายการอนุรกั ษ์พลังงานได้
2. อธิบายการอนุรักษท์ รัพยากรและส่ิงแวดล้อมได้
ผังสาระ การอนรุ ักษพ์ ลังงาน
การเรยี นรู้ การอนรุ ักษ์ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม
หลักการและวธิ ีการ
อนรุ ักษพ์ ลังงาน
ทรัพยากรและ
สิง่ แวดลอ้ ม
ส�ำ หรับ
ผู้สอน
แนวทางการตอบอยู่ในภาคผนวก หลกั การและวธิ กี ารอนุรกั ษพ์ ลงั งาน ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม 165
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7
กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
ค�ำ ชี้แจง กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเป็นกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะเฉพาะด้านความรู-้ ความจำ�
เพอ่ื ใชใ้ นการตรวจสอบความเข้าใจตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ตอนท่ี 1
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
ค�ำ สง่ั ค�ำ กล่าวในประโยคใดต่อไปนี้ถกู (✓) หรอื ผดิ (✗)
1. การอนุรกั ษพ์ ลังงาน หมายถึงการผลติ และการใช้พลังงานอยา่ งมีประสิทธภิ าพและประหยัด
2. การอนุรักษ์พลังงานในครัวเรือนมี 2 ส่วน คือการประหยัดการใช้พลังงาน และการอนุรักษ์
พลงั งาน
3. การอนุรักษ์พลงั งานในองคก์ รภาครัฐมี 2 หลกั การ คอื การอนรุ กั ษจ์ ากการใช้อุปกรณ์และเครือ่ งใช้
ไฟฟ้าในส�ำ นกั งาน และการประหยดั เชอ้ื เพลงิ ในรถยนตต์ ่างๆ
4. การอนุรักษ์พลังงานในองค์กรภาคเอกชนมีความแตกต่างจากภาครัฐ ซึ่งเน้นการลดต้นทุน
และเพมิ่ ก�ำ ไรเปน็ สำ�คญั
5. การอนรุ ักษ์พลังงานในองคก์ รภาคเอกชนสามารถทำ�ได้ เชน่ เปลย่ี นเครือ่ งจกั รใหม่ เพ่ิมการใช้
พลังงาน แสงอาทิตย์ ปิดไฟตอนพักเทยี่ ง และรณรงค์การใชไ้ ฟฟา้ ให้ลดลง
ตอนท่ี 2
คำ�สั่ง จงเตมิ คำ�ลงในช่องว่างในบทความตอ่ ไปน้ีให้สมบูรณ์
การอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม หมายถึง .....1..... การใช้วัสดุต่างๆ ที่เป็นของเสียและก่อให้เกิดการ
เสอื่ มโทรมตอ่ .....2...... การอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มเกย่ี วขอ้ งกบั ....3....ทรพั ยากรธรรมชาตติ า่ งๆ โดยเฉพาะ
ทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปควรต้องมีการอนุรักษ์เน่ืองจากไม่สามารถจัดหามาทดแทนได้ หรือน้ํามัน
เช้ือเพลิงฟอสซิลท่ีมีอยู่อย่างจำ�กัดต่อการใช้ แต่กลับมีความต้องการเพิ่มสูงข้ึนทุกวัน ดังนั้นการใช้
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มดว้ ย.....4......และกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ มวลมนษุ ยม์ ากทสี่ ดุ และ
มรี ะยะเวลาในการใช.้ .....5...... จงึ เปน็ สงิ่ จ�ำ เปน็ ทคี่ วรกระท�ำ ไมว่ า่ จะเปน็ องคก์ รภาครฐั ทตี่ อ้ งสรา้ ง.....6......
เพอ่ื ปกปอ้ งทรพั ยากรธรรมชาติ หรอื ภาคเอกชนทตี่ อ้ งมกี จิ กรรมท.่ี .....7......เพอื่ ใหส้ งั คมเกดิ การพฒั นา
ทีย่ ่งั ยนื ต่อไป
คำ�ตอบ 5. ยาวนานที่สุด ส�ำ หรับ
1. การหลีกเลี่ยง 6. กฎระเบยี บ ผูส้ อน
2. ส่งิ แวดล้อม 7. เป็นมิตรกับสง่ิ แวดลอ้ ม
3. การอนุรักษ์
4. ความชาญฉลาด
166 พลังงาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดล้อม กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรเู้ ปน็ กจิ กรรมทผ่ี สู้ อนใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ทิ กุ ขอ้ หรอื เลอื ก
ปฏิบัติเป็นบางข้อตามความเหมาะสม โดยผู้สอนให้คะแนนการทำ�กิจกรรมตาม
เกณฑ์ของใบสรุปผลการทำ�กิจกรรม และสามารถนำ�ผลการทำ�กิจกรรมไปเทียบ
กับการให้คะแนนกับตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเน้ือหากับจุดประสงค์
รายวชิ าสมรรถนะรายวชิ าและจดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมได้
กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้
ค�ำ ชีแ้ จง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายที่ฝึกทักษะทุกด้านตาม
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพื่อให้เกิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรม
ทง้ั ในและนอกสถานทตี่ ามความเหมาะสมของผ้เู รยี นและสิ่งแวดลอ้ มของสถานศกึ ษา
เรอ่ื ง ความสำ�คญั ของการอนุรกั ษท์ รัพยากรและส่งิ แวดลอ้ ม
คำ�สัง่ ใหผ้ ้เู รียนขดี / ลงในช่องว่างของการอนุรักษ์ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมในประเทศไทย และเขยี น
ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
ปญั หาสิ่งแวดลอ้ มของไทย มากท่สี ดุ ระดับความสำ�คญั นอ้ ยท่ีสุด
(5) มาก ปานกลาง นอ้ ย (1)
(4) (3) (2)
1. พชื ปา่ สูญหาย
2. สตั ว์ปา่ หายาก
3. ปา่ ไมถ้ กู ท�ำ ลาย
4. ดินพังทลาย
5. ดินเคม็
6. นาํ้ เสีย
7. นา้ํ ทว่ ม
8. มลพษิ ทางอากาศ
9. ฝุ่นละอองในอากาศ
10. เสยี งดังในเมอื ง
11. ขยะจำ�นวนมาก
12. ท่ฝี ่งั กลบขยะขาดแคลน
13. พลงั งานขาดแคลนมาก
14. พลังงานทดแทนมีน้อย
ส�ำ หรบั 15. ภาวะโลกร้อน
ผสู้ อน
หลกั การและวธิ กี ารอนรุ กั ษพ์ ลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม 167
ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ (แนวทางการตอบหรอื อนื่ ๆ ข้นึ อย่กู บั ดุลยพินจิ ของผู้สอน)
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
สรุปผลการทำ� กิจกรรม
ค�ำชี้แจง ให้ประเมินผลการท�ำกจิ กรรม โดยเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่อง ตามความเป็นจริง
ความรู้ (K) ทักษะ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) เกณฑ์การประเมนิ
ความร้ ู ความเขา้ ใจ การปฏิบตั งิ านที่ได้รบั การมีมนุษยสัมพันธใ์ น ทำ�เครอื่ งหมาย ✓
การนำ�ไปใช้ การวเิ คราะห์ มอบหมายเสรจ็ ตามเวลา การปฏิบัตกิ จิ กรรม ในแตล่ ะตอน 3 ข้อ
การสังเคราะห์ ทีก่ ำ�หนด ความมวี นิ ยั ตรงตอ่ เวลา
การประเมนิ คา่ การปฏิบตั งิ านดว้ ยความ ความซอื่ สัตยส์ จุ รติ คอื ผา่ นการประเมนิ
การศกึ ษาค้นคว้า ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K)
การแสวงหาแหลง่ ข้อมลู เรียบร้อย สวยงาม ประพฤตติ นด้วยความ ผา่ น ไม่ผา่ น
และการรวบรวมขอ้ มลู ความสมบรู ณ์ของงาน ถกู ตอ้ งตามศีลธรรม
การแสดงความคิดเหน็ การปฏิบัตงิ านทท่ี ำ�ใหเ้ กิด อันดีงาม 2. ทักษะ (P) ไมผ่ ่าน
ผา่ น
อย่างมเี หตผุ ล หรอื แสดง สมรรถนะแก่ผเู้ รียน เจตคติท่ีดใี นการปฏิบัติ
ขนั้ ตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคดิ กิจกรรม 3. คณุ ลกั ษณะ (A)
ทำ�กิจกรรม สร้างสรรค์ การออกแบบ ความพอเพียงและความ ผา่ น ไมผ่ ่าน
การหาประสบการณ์ การผลิต พอประมาณ
ความร้ใู หม่ การตัดสนิ ใจในการแก้ปัญหา
หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการท�ำกิจกรรมมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบริบทต่างๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็นเป็น 3 ด้าน คือ ความรู้หรือพุทธิพิสัย = Knowledge (K) ทักษะ ส�ำ หรับ
หรือทักษะพสิ ยั = Practice (P) คณุ ลกั ษณะหรือจิตพิสยั = Attitude (A) ผู้สอน
168 พลงั งาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ผู้สอนให้ผู้เรียนทำ�แบบทดสอบ จากนั้นให้ผู้เรียน
แลกกันตรวจค�ำ ตอบ โดยผู้สอนเป็นผูเ้ ฉลย
แบบทดสอบ
คำ�สัง่ จงเลอื กค�ำ ตอบทถ่ี กู ตอ้ งท่สี ดุ เพียงคำ�ตอบเดียว 1. ตอบ 5. ถกู ทุกขอ้
1. ผู้ใดมีส่วนเก่ียวข้องกับการอนรุ ักษพ์ ลังงานดา้ นต่างๆ
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
1. ภาคครัวเรือน 2. ภาคธรุ กิจ
3. ภาคราชการ 4. ภาคประชาชน
5. ถูกทุกข้อ
2. กฎของการอนุรักษพ์ ลังงานคอื ข้อใด
1. พลงั งานที่ไดร้ ับ = พลังงานทไ่ี ม่ไดป้ ระโยชน์ + พลงั งานทส่ี ูญเสีย 2. ตอบ 2. กฎของการอนุรักษ์พลังงานคือ
2. พลังงานท่ไี ดร้ ับ = พลงั งานท่ไี ดป้ ระโยชน์ + พลังงานทสี่ ญู เสีย พลงั งานท่ไี ด้รับ = พลงั งานท่ไี ดป้ ระโยชน์
3. พลงั งานท่ีได้รบั = พลงั งานทไ่ี ดป้ ระโยชน์ + พลังงานท่ีไมส่ ญู เสีย + พลงั งานท่ีสญู เสีย
4. พลงั งานทไ่ี มไ่ ด้รบั = พลงั งานท่ไี ด้ประโยชน์ + พลงั งานท่ีสญู เสยี
5. เปน็ ไปไดท้ กุ กรณี
3. จดุ มุง่ หมายของการอนรุ กั ษ์พลงั งานคือข้อใด 3. ตอบ 5. จุดมุ่งหมายของการอนุรักษ์พลังงาน คือการใช้
1. การใชพ้ ลงั งานอย่างประหยัดและคุม้ ค่า พลังงานอยา่ งประหยดั และคมุ้ ค่าการนำ�ผลติ ภณั ฑ์
2. การใชพ้ ลังงานทีใ่ ช้แล้วหมดไป
เพื่อสงิ่ แวดล้อมดา้ นพลงั งานตา่ งๆ มาใช้
3. การน�ำ ผลิตภัณฑเ์ พ่ือสง่ิ แวดล้อมด้านพลงั งานมาใช้
4. ถูกทั้งข้อ 1. และข้อ 2. 4. ตอบ 3. การอนรุ ักษพ์ ลงั งานในครัวเรือนมีพลังงานดา้ นพลงั งานไฟฟ้า
และน้ํามันเช้ือเพลงิ มีสำ�คัญในชวี ิตประจ�ำ วนั มากที่สุด
5. ถูกทงั้ ขอ้ 1. และขอ้ 3.
4. การอนรุ กั ษ์พลงั งานในครัวเรอื นมีพลังงานด้านใดบ้างที่มีสำ�คัญต่อชวี ิตประจำ�วนั มากที่สดุ
1. พลังงานไฟฟ้าและพลงั งานแสงอาทติ ย์ 2. พลงั งานลมและพลังงานแสงอาทติ ย์
3. พลงั งานไฟฟา้ และนํา้ มันเชือ้ เพลงิ 4. พลังงานไฟฟา้ และ
5. แก๊สหุงต้มและนา้ํ มนั เช้ือเพลิง
5. เคร่ืองใช้ไฟฟ้าภายในครวั เรือนข้อใดทีค่ วรมีการอนุรักษโ์ ดยตง้ั อุณหภูมกิ ารใช้งานที่ 25 องศาเซลเซยี ส
1. ตเู้ ยน็
2. เครอื่ งปรบั อากาศ 5. ตอบ 2. มกี ารอนรุ ักษ์โดยตั้งอุณหภูมิการใชง้ านที่ 25 องศาเซลเซยี ส
3. หม้อหงุ ข้าว
เครือ่ งปรบั อากาศ
4. เตารีด
5. เตาไมโครเวฟ
สำ�หรับ
ผู้สอน
หลักการและวิธีการอนรุ ักษพ์ ลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม 169
6. การอนุรักษพ์ ลังงานในองคก์ รภาครัฐจะเนน้ การอนรุ กั ษ์พลงั งานใดเปน็ สำ�คัญ
1. พลังงานจากอุปกรณแ์ ละเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ 6. ตอบ 4. การอนุรักษ์พลังงานในองค์กรภาครัฐบาลจะเน้น
2. พลงั งานจากนํา้ มนั เช้ือเพลงิ สำ�หรับยานยนต์ การอนุรักษ์พลังงานพลังงานจากอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
3. เครื่องจักรที่ใชใ้ นการผลติ และบริการ พลังงานจากนํ้ามนั เชือ้ เพลิงสำ�หรับยานยนต์
4. ถูกทัง้ ข้อ 1. และขอ้ 2.
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
5. ถูกท้งั ข้อ 2. และขอ้ 3.
7. การประหยัดการใช้นาํ้ มนั เช้อื เพลิงของรถยนต์ในครวั เรือนสามารถกระท�ำ ได้อยา่ งไร
1. เปลย่ี นนาํ้ มันเบนซนิ มาเปน็ แก๊สโซฮอล ์ 7. ตอบ 5. ถกู ทกุ ข้อ
2. เปลย่ี นน้ํามันเบนซินมาเป็นไบโอดีเซล
3. เปลย่ี นนา้ํ มนั เบนซนิ มาเปน็ แก๊สธรรมชาติหรอื NGV
4. เปลยี่ นนํา้ มันเบนซินมาเป็นแกส๊ ปิโตรเลียมเหลวหรอื LPG
5. ถกู ทกุ ขอ้
8. การประหยดั การใช้พลงั งานไฟฟ้าภายในครวั เรอื นสามารถกระทำ�ได้อย่างไร
1. ใช้อปุ กรณป์ ระหยัดไฟเบอร์ 5
2. ใชพ้ ลงั งานทางเลอื ก เชน่ เซลลแ์ สงอาทติ ย์ 8. ตอบ 5. ถกู ทุกข้อ
3. ใชห้ ลอดผอมประหยดั พลังงานไฟฟ้า
4. ใชแ้ กส๊ ชวี ภาพในการหุงต้มอาหาร
5. ถูกทกุ ข้อ
9. ภาคเอกชนสามารถอนุรักษ์การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าภายในหนว่ ยงานไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
1. ปรับเปล่ยี นพฤติกรรมพนกั งานใหร้ วู้ ิธีการใช้อปุ กรณ์ต่างๆ
2. น�ำ เทคโนโลยมี าใชก้ บั เครื่องจักรและอุปกรณไ์ ฟฟ้าต่างๆ
3. ควบคุมและเปิด-ปดิ การใชอ้ ปุ กรณ์ทางไฟฟา้ ต่างๆ
4. ถูกทุกข้อ 9. ตอบ 4. ถกู ทุกข้อ
5. ไมม่ ขี อ้ ใดถกู ต้อง
10. การอนรุ ักษ์ส่ิงแวดล้อมด้านต่างๆ สามารถกระทำ�ได้อยา่ งไร
1. หลกี เล่ียงการใช้วัสดุต่างๆ ท่เี ป็นของเสยี ท่กี ่อให้เกดิ อันตรายต่อสง่ิ แวดล้อม
2. หลีกเลย่ี งการใช้วัสดุต่างๆ ท่เี ป็นของเสยี ทกี่ ่อใหเ้ กดิ การเสอ่ื มโทรมตอ่ สิง่ แวดล้อม
3. เปน็ การอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตติ ่างๆ โดยเฉพาะทรัพยากรท่ใี ช้แล้วหมดไป
4. ควรมีการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรท่ีไมส่ ามารถจดั หามาทดแทนได้
5. ถกู ทุกขอ้ 10. ตอบ 5. ถกู ทุกข้อ สำ�หรับ
ผู้สอน
170 พลงั งาน ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อม
แบบประเมินตนเอง
ค�ำชี้แจง ตอนท่ี 1 ให้ผูเ้ รียนประเมนิ ผลการเรยี นรู้ โดยเขียนเครอื่ งหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนน
และเติมข้อมลู ตามความเปน็ จริง
ระดับคะแนนตอนที่ 1 5 : มากทีส่ ุด 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : ควรปรบั ปรุง
ตอนท่ี 2 ใหผ้ ้เู รียนน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเติมลงในช่องว่าง และเขียนเครื่องหมาย ✓
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด ลงในชอ่ งสรปุ ผล
ตอนท่ี 1 (ผลการเรยี นร้)ู ตอนที่ 2 (แบบทดสอบ)
รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ
1. ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในเนอื้ หา คะแนน
2. ผเู้ รยี นได้ท�ำกิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้ท่ีสอดคล้องกบั เน้อื หา สรปุ ผล
และจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 9-10 (ดมี าก)
3. ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นและท�ำกิจกรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ทีส่ ่งเสรมิ 7-8 (ดี)
กระบวนการคดิ เกดิ การค้นพบความรู้ 5-6 (พอใช)้
ต่ํากว่า 5
4. ผเู้ รียนสามารถประยุกต์ความรู้เพอืี่ ใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจ�ำวันได้ (ควรปรบั ปรุง)
5. ผเู้ รยี นได้เรยี นรู้อะไรจากการเรียน
6. ผูเ้ รยี นตอ้ งการท�ำสงิ่ ใดเพ่อื พัฒนาตนเอง
7. ความสามารถทถ่ี ือวา่ ผ่านเกณฑป์ ระเมินของผูเ้ รียน คอื
ส�ำ หรบั
ผู้สอน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
8หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ กฎหมายและนโยบายด้านพลงั งาน
ทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อม
สาระสำ�คญั การใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อม ไดส้ ง่ ผลกระทบตอ่ ปัญหา
ตา่ งๆ ดา้ นพลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาตติ า่ งๆ ของมนษุ ย์
และสังคม จึงทำ�ให้องค์กรภาครัฐต้องมีการบริหารจัดการและควบคุมด้วย
การออกกฎหมาย กฎระเบยี บ และขอ้ บงั คบั ตา่ งๆ ซงึ่ เปน็ เครอ่ื งมอื ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
กบั พลังงาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพือ่ ใช้แก้ไขปญั หาและผลกระทบตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขนึ้
การเปลี่ยนแปลงแนวทางและนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อม
เพอ่ื ใหเ้ กิดการพัฒนาท่ยี ่งั ยนื ของสงั คมและประเทศชาติ รวมท้ังองค์กรภาครฐั และภาคเอกชน ซ่ึงต้อง
ดำ�เนินชีวิตและดำ�เนินกิจกรรมของตนให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและนโยบายด้านพลังงาน
ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อมดว้ ยเช่นเดยี วกนั
สาระการเรยี นรู้ 1. กฎหมายด้านพลังงาน ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อม
2. นโยบายดา้ นพลังงาน ทรพั ยากรและสิ่งแวดล้อม
172 พลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม
สมรรถนะ 1. แสดงความรู้เกย่ี วกบั กฎหมายและนโยบายดา้ นพลังงาน ทรัพยากรและ
ประจำ�หน่วย ส่งิ แวดล้อม
2. วางแผนการอนุรักษแ์ ละนโยบายพลงั งาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อม
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
จุดประสงค์ 1. อธิบายกฎหมายดา้ นพลงั งาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อมได้
การเรยี นรู้ 2. บอกนโยบายดา้ นพลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มได้
ผงั สาระ กฎหมายด้านพลังงาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อม
การเรียนรู้ นโยบายด้านพลงั งาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม
กฎหมายและ
นโยบายด้าน
พลังงาน ทรัพยากร
และสง่ิ แวดลอ้ ม
สำ�หรับ
ผู้สอน
186 พลงั งาน ทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม แนวทางการตอบอยู่ในภาคผนวก
หน่วยการเรียนรู้ที่ 8
กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
ค�ำ ช้แี จง กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเป็นกจิ กรรมฝกึ ทักษะเฉพาะดา้ นความรู้-ความจำ�
เพอื่ ใชใ้ นการตรวจสอบความเข้าใจตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
ตอนท่ี 1
ค�ำ ส่งั จงทำ�เครือ่ งหมายถูก (✓) หน้าขอ้ ความท่ีถกู และเครอื่ งหมาย (✗) หนา้ ข้อความท่ีผดิ
_______1. กฎหมายพลังงานคือ พ.ร.บ. ส่งเสริมการอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน พ.ศ. 2535 เปน็ ต้นมา
_______2. การอนรุ กั ษ์พลังงานตาม พ.ร.บ. จะเนน้ พลงั งานในโรงงาน อาคาร และอุปกรณ์ใช้งาน
_______3. หนว่ ยงานทีก่ �ำ กบั ดูแลงานกฎหมายด้านพลังงาน คอื สำ�นกั งานนโยบายและแผนสง่ิ แวดล้อม
_______4. การประชาสัมพนั ธด์ ้วยการรณรงคจ์ ะชว่ ยกระตุ้นให้เกดิ จติ สำ�นกึ ของประชาชนดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม
_______ 5 . กฎหมายดา้ นสิ่งแวดลอ้ มคือ พ.ร.บ. ส่งเสรมิ และรักษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. 2535
ตอนที่ 2
ค�ำ ส่งั จงจับคู่คำ�ถามและค�ำ ตอบให้มีความถูกตอ้ งมากท่สี ดุ
คำ�ถาม คำ�ตอบ
1. นโยบายด้านพลังงาน ก. กรมอุทยานแห่งชาตสิ ัตวป์ ่ าและพนั ธพุ์ ืช
2. นโยบายดา้ นสงิ่ แวดล้อม ข. สำ�นกั งานนโยบายและแผนพลงั งาน
3. หนว่ ยงานด้านสิ่งแวดลอ้ ม ค. นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาตดิ า้ นต่างๆ
4. หน่วยงานดา้ นพลังงาน ง. นโยบายการประหยัดพลังงานภาคครัวเรือน
5. นโยบายดา้ นทรพั ยากรธรณี จ. การอนรุ ักษแ์ ละการฟ้นื ฟซู ากดกึ ด�ำ บรรพ์
1. ตอบ ง. 2. ตอบ ค. 3. ตอบ ก. 4. ตอบ ข. 5. ตอบ จ.
ส�ำ หรับ
ผู้สอน
กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรเู้ ปน็ กจิ กรรมทผ่ี สู้ อนใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ทิ กุ ขอ้ หรอื เลอื ก
ปฏิบัติเป็นบางข้อตามความเหมาะสม โดยผู้สอนให้คะแนนการทำ�กิจกรรมตาม
เกณฑ์ของใบสรุปผลการทำ�กิจกรรม และสามารถนำ�ผลการทำ�กิจกรรมไปเทียบ กฎหมายและนโยบายดา้ นพลังงาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดล้อม 187
กับการให้คะแนนกับตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเน้ือหากับจุดประสงค์
รายวชิ าสมรรถนะรายวชิ าและจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมได้
กิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้
ค�ำ ช้แี จง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายท่ีฝึกทักษะทุกด้านตาม
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพื่อให้เกิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรม
ท้ังในและนอกสถานท่ตี ามความเหมาะสมของผเู้ รียนและสิง่ แวดลอ้ มของสถานศกึ ษา
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
คำ�ส่งั ให้ผ้เู รียนเขียนนโยบายพลงั งาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม จากแหล่งขอ้ มลู ทางอินเทอร์เน็ต
1. นโยบายด้านพลงั งาน
1.1 นโยบายการประหยดั พลังงานไฟฟา้ ภาคครวั เรือน (Home Electricity Energy Saving Policy)
1.2 นโยบายการประหยดั พลงั งานน้ํามันเชอื้ เพลิงภาคครวั เรือน (Home’ Fuels Saving Policy)
2. นโยบายด้านทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม
2.1 นโยบายบริหารจัดการนา้ํ และอทุ กภยั (Water and Flood Management Policy)
2.2 นโยบายด้านที่ดิน (Land Policy) แนวทางการตอบเปน็ ไปตามนโยบายพลังงาน ทรัพยากร
2.3 นโยบายการป้องกันไฟปา่ (Forest Fire Policy) และส่งิ แวดลอ้ มหรืออื่นๆ ข้นึ อยกู่ ับดุลยพนิ ลิ ของผสู้ อน
สรุปผลการทำ� กิจกรรม
ค�ำช้ีแจง ให้ประเมินผลการท�ำกิจกรรม โดยเขยี นเครอื่ งหมาย ✓ ลงในช่อง ตามความเปน็ จรงิ
ความรู้ (K) ทกั ษะ (P) คุณลกั ษณะ (A) เกณฑ์การประเมิน
ความร ู้ ความเขา้ ใจ การปฏิบตั ิงานท่ีไดร้ ับ การมีมนุษยสมั พันธใ์ น ท�ำ เครือ่ งหมาย ✓
การนำ�ไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสรจ็ ตามเวลา การปฏบิ ตั ิกิจกรรม ในแตล่ ะตอน 3 ขอ้
การสังเคราะห์ ทก่ี ำ�หนด ความมีวินัย ตรงตอ่ เวลา
การประเมนิ คา่ การปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความ ความซ่ือสัตยส์ ุจรติ คือ ผ่านการประเมิน
การศกึ ษาค้นควา้ ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K)
การแสวงหาแหลง่ ข้อมลู เรียบร้อย สวยงาม ประพฤตติ นดว้ ยความ ผ่าน ไม่ผา่ น
และการรวบรวมข้อมลู ความสมบรู ณ์ของงาน ถูกต้องตามศลี ธรรม
การแสดงความคิดเห็น การปฏิบัติงานท่ที ำ�ให้เกิด อันดีงาม 2. ทกั ษะ (P)
ผ่าน ไมผ่ า่ น
อยา่ งมีเหตุผล หรือแสดง สมรรถนะแกผ่ ูเ้ รียน เจตคติที่ดใี นการปฏิบตั ิ
ขน้ั ตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคิด กิจกรรม 3. คณุ ลักษณะ (A)
ทำ�กิจกรรม สร้างสรรค์ การออกแบบ ความพอเพยี งและความ ผ่าน ไมผ่ า่ น
การหาประสบการณ์ การผลิต พอประมาณ
ความรู้ใหม ่ การตัดสนิ ใจในการแก้ปญั หา
หมายเหต ุ เกณฑ์การประเมินผลการท�ำกิจกรรมมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้ สำ�หรบั
ตามบริบทต่างๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็นเป็น 3 ด้าน คือ ความรู้หรือพุทธิพิสัย = Knowledge (K) ทักษะ ผู้สอน
หรอื ทักษะพสิ ัย = Practice (P) คุณลกั ษณะหรอื จิตพิสัย = Attitude (A)
188 พลังงาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อม ผู้สอนให้ผู้เรียนทำ�แบบทดสอบ จากนั้นให้ผู้เรียน
แลกกันตรวจค�ำ ตอบ โดยผูส้ อนเป็นผเู้ ฉลย
แบบทดสอบ
คำ�สัง่ จงเลือกค�ำ ตอบท่ีถกู ต้องท่ีสุดเพียงคำ�ตอบเดยี ว
1. กฎหมายด้านสง่ิ แวดลอ้ มคือ ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ี
1. พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 1. ตอบ 5. ถูกทุกขอ้
2. พ.ร.บ. วัตถอุ นั ตราย พ.ศ. 2535
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
3. พ.ร.บ. สง่ เสริมและรักษาคณุ ภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535
4. พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
5. ถกู ทกุ ข้อ
2. หนว่ ยงานด้านสงิ่ แวดล้อมต่างๆ ส่วนใหญจ่ ะสงั กัดอยูก่ บั กระทรวงใด
1. กระทรวงกลาโหม 2. ตอบ 3. หน่วยงานด้านส่ิงแวดล้อมต่างๆ โดยส่วนใหญ่
2. กระทรวงมหาดไทย จะสังกัดอยู่กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
3. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม สิ่งแวดล้อม
4. กระทรวงพลังงาน
5. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
3. มาตรการจูงใจด้านสิง่ แวดล้อมสามารถกระทำ�ไดด้ ้วยวิธกี ารใดบา้ ง
1. การลดภาษีรายได้สว่ นบุคคลและภาษีนำ�เขา้ อปุ กรณด์ ้านพลงั งานตา่ งๆ
5. การลดภาษรี ายได้สว่ นบคุ คลในการบริจาคเพอ่ื ทำ�บญุ การกุศลหรือให้แกว่ ดั ต่างๆ
3. การลดการใชพ้ ลังงานในครวั เรือนของบ้านเรอื นตา่ งๆ
3. ตอบ 1. มาตรการจงู ใจด้านส่ิงแวดลอ้ ม สามารถจะกระท�ำ ได้ดว้ ยวิธีการลดภาษี
4. ถกู ท้งั ขอ้ 1. และข้อ 2. รายไดส้ ว่ นบุคคลและภาษีนำ�เข้าอุปกรณ์ด้านพลงั งานต่างๆ
5. ถกู ทัง้ ข้อ 2. และขอ้ 3.
4. ขอ้ ใดเป็นการประชาสัมพันธ์เพอ่ื รณรงคก์ ระตุน้ ให้เกิดจติ สำ�นกึ ของประชาชนด้านสงิ่ แวดล้อม
1. ปญั หาภาวะโลกร้อนเกดิ จากการใช้พลงั งานไฟฟ้าตา่ งๆ 4. ตอบ 5. ถูกทกุ ข้อ
2. การแก้ปญั หาภาวะโลกร้อนดว้ ยการลดการใชพ้ ลงั งานตา่ งๆ ลง
3. นาํ้ แข็งขั้วโลกละลายเพ่มิ ข้นึ ทกุ ๆ ปี ส่งผลกระทบต่อการอย่อู าศัยของเพนกวนิ
4. การปล่อยมลพิษทางอากาศเปน็ การเพิม่ เรอื นกระจกท่ีสำ�คัญ
5. ถกู ทกุ ข้อ
5. กฎหมายดา้ นพลงั งานคอื ขอ้ ใดต่อไปนี้
1. พ.ร.บ. ส่งเสริมการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน พ.ศ. 2535 5. ตอบ 1. กฏหมายดา้ นพลงั งาน คอื พ.ร.บ. สง่ เสรมิ
2. พ.ร.บ. วัตถอุ นั ตราย พ.ศ. 2535 การอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535
สำ�หรับ 3. พ.ร.บ. แร่ พ.ศ. 2510
ผูส้ อน 4. พ.ร.บ. น้ําบาดาล พ.ศ. 2520
5. พ.ร.บ. สงวนและคุม้ ครองสตั วป์ ่า พ.ศ. 2503
กฎหมายและนโยบายดา้ นพลงั งาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อม 189
6. การอนุรกั ษพ์ ลงั งานตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการอนรุ กั ษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 จะเนน้ พลงั งานในส่วนใด
1. พลงั งานในโรงงาน
2. พลังงานในอาคาร 6. ตอบ 4. ถกู ทุกข้อ
3. พลังงานจากการใช้อุปกรณ์ตา่ งๆ
4. ถูกทกุ ขอ้
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
5. ไม่มขี อ้ ใดถูก
7. มาตรการจูงใจในการอนุรกั ษพ์ ลังงานที่สำ�คัญคอื ขอ้ ใด 7. ตอบ3.มาตรการจงู ใจในการอนรุ กั ษพ์ ลงั งานทส่ี �ำ คญั
1. การลดภาษีในการนำ�เข้าวัตถดุ บิ และวัสดกุ ารผลติ คือการลดภาษีในการเครื่องจักรหรืออุปกรณ์
การประหยัดพลังงานตา่ งๆ
2. การลดภาษีในการนำ�เข้าสินคา้ จากต่างประเทศ
3. การลดภาษใี นการเครอ่ื งจกั รหรืออุปกรณ์การประหยดั พลงั งานต่างๆ
4. การลดภาษใี นการนำ�เขา้ วัตถอุ นั ตรายและสารมลพษิ ดา้ นตา่ งๆ
5. ถกู ทุกขอ้
8. หนว่ ยงานทกี่ �ำ กบั ดูแลงานด้านพลังงานของไทยคือหนว่ ยงานใด
1. ส�ำ นักงานนโยบายและแผนพลงั งาน 8. ตอบ 1. หนว่ ยงานที่กำ�กบั ดแู ลงานพลงั งานของไทย
คือสำ�นกั งานนโยบายและแผนพลงั งาน
2. สำ�นักงานเลขานุการนายกรฐั มนตรี
3. ส�ำ นกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม
4. ส�ำ นกั งานนโยบายและแผนกระทรวงการคลงั
5. สำ�นกั งานปรมาณเู พ่อื สนั ติ
9. การป้องกนั และการแกไ้ ขปญั หาพลงั งานและสิง่ แวดล้อมควรมกี ารออกกฎหมายมาบงั คับใช้หรือไม่
1. ควร เพราะกฎหมายช่วยทำ�ใหก้ ารบริหารจดั การบรรลุเปา้ หมายได้
2. ควร เพราะกฎหมายชว่ ยปอ้ งกันและฟ้ืนฟูส่งิ แวดล้อมให้กลับมามีสภาพทดี่ ีขนึ้
3. ควร เพราะกฎหมายเปน็ ส่ิงบง่ ชว้ี ่ามาตรการสิ่งแวดล้อมอืน่ ไมส่ ามารถนำ�มาใชไ้ ด้ผลแล้ว
4. ถูกทง้ั ขอ้ 1. และข้อ 2. 9. ตอบ 5. ถูกทกุ ขอ้
5. ถกู ทกุ ขอ้
10. นโยบายด้านพลงั งานของกระทรวงพลังงานใหค้ วามสำ�คัญสำ�คัญกับเรอื่ งใดเป็นหลัก
1. การจดั หาพลงั งานเพอ่ื สรา้ งเสรมิ ความมน่ั คงดา้ นพลังงาน
2. การอนรุ กั ษพ์ ลงั งานและใชพ้ ลังงานอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
3. การพฒั นาพลงั งานทดแทนและพลังงานทสี่ ะอาด
4. การกำ�กบั ดูแลกจิ การพลังงานและราคาพลังงาน 10. ตอบ 5. ถกู ทุกขอ้
5. ถูกทุกข้อ ส�ำ หรบั
ผสู้ อน
190 พลังงาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม
แบบประเมินตนเอง
ค�ำชแ้ี จง ตอนที่ 1 ให้ผเู้ รียนประเมินผลการเรยี นรู้ โดยเขยี นเครอื่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดับคะแนน
และเตมิ ข้อมลู ตามความเป็นจริง
ระดับคะแนนตอนที่ 1 5 : มากทส่ี ุด 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : ควรปรบั ปรุง
ตอนที่ 2 ให้ผู้เรยี นน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในช่องวา่ ง และเขียนเคร่อื งหมาย ✓
ลงในช่องสรุปผล
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
ตอนท่ี 1 (ผลการเรียนร)ู้ ตอนที่ 2 (แบบทดสอบ)
รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ
1. ผเู้ รยี นมีความรู้ ความเข้าใจในเน้อื หา คะแนน
2. ผู้เรยี นได้ท�ำกิจกรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรูท้ ีส่ อดคล้องกบั เนอื้ หา สรุปผล
และจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 9-10 (ดมี าก)
3. ผู้เรยี นได้เรยี นและท�ำกจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรทู้ สี่ ่งเสริม 7-8 (ดี)
กระบวนการคิด เกิดการค้นพบความรู้ 5-6 (พอใช้)
ต่ํากว่า 5
4. ผู้เรียนสามารถประยกุ ตค์ วามรเู้ พอี่ื ใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจ�ำวนั ได้ (ควรปรบั ปรุง)
5. ผเู้ รยี นได้เรยี นรู้อะไรจากการเรียน
6. ผเู้ รียนตอ้ งการท�ำส่งิ ใดเพอื่ พฒั นาตนเอง
7. ความสามารถทถ่ี อื ว่าผา่ นเกณฑ์ประเมินของผ้เู รียน คือ
ส�ำ หรับ
ผู้สอน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักดบรรณานุกรม
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม.รายงานสรุปผลการประชุม “LA 21…สู่ท้องถิ่นไทยน่าอยู่อย่างยั่งยืน
ปีท่ี 5. ในโครงการส่งเสริมพหุภาคีในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนภายใต้แผนปฏิบัติการ 21
ระดับท้องถิ่น. กรุงเทพฯ
กวี วรกวิน. แผนทีร่ ฐั กิจโลก. กรุงเทพฯ: พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.), 2546.
นรินทร ์ ทองศิร.ิ “เปิดแนวคิดใหม่รบั โลกอนาคตมหาวทิ ยาลัยไทยผลติ บัณฑิตมาตรฐาน ISO 9000”
มติชน. (16 มกราคม 2540), หน้า 33.
บรรจง จนั ทมาศ. ระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9000. พิมพค์ รงั้ ที่ 3. กรงุ เทพฯ: ส.เอเชียเพรส, 2540.
พระธรรมปฎิ ก (ประยทุ ธ์ ปยตุ ฺโต) (2546). การพฒั นาทย่ี งั่ ยืน. กรงุ เทพมหานคร. สำ�นักพิมพ์ มลู นธิ โิ กมล
คมี ทอง.
มิรันดา บาวเวอร์. หนงั สือวิทยาศาสตร์ รอบรเู้ รือ่ งสภาพอากาศ. กรงุ เทพฯ: ฟารอ์ ีสตพ์ บั ลเิ กชนั่ , 2539.
ราชบณั ฑติ ยสถาน. พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2542. กรงุ เทพฯ: นานมบี คุ๊ สพ์ บั ลเิ คชน่ั ส,์
2546.
. พจนานุกรมช่อื ภูมศิ าสตรส์ ากล ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน เลม่ 1 (อักษร A-L). กรงุ เทพฯ:
ราชบัณฑติ ยสถาน, 2549.
. พจนานกุ รมช่ือภมู ศิ าสตร์สากล ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน เล่ม 2 (อกั ษร M-Z). กรงุ เทพฯ:
ราชบัณฑิตยสถาน, 2550.
. พจนานกุ รมศพั ทธ์ รณวี ทิ ยา ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน (A-M). กรงุ เทพฯ: ราชบณั ฑติ ยสถาน,
2558.
. พจนานกุ รมศพั ทธ์ รณวี ทิ ยา ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน (N-Z). กรงุ เทพฯ: ราชบณั ฑติ ยสถาน,
2558.
. พจนานกุ รมศพั ทพ์ ลงั งานนวิ เคลยี ร์ ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน. กรงุ เทพฯ: ราชบณั ฑติ ยสถาน,
2558.
. ศัพท์พลงั งาน องั กฤษ-ไทย ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ: ราชบณั ฑิตยสถาน, 2541.
เวบ็ ไซต์อา้ งองิ
กรมควบคุมมลพิษ. การประชุมท่ีสำ�คัญของสหประชาชาติด้านการพัฒนาท่ียั่งยืน. สืบค้นจาก
http://www.pcd.go.th/info_serv/en_pol_sustainable.html#s5. (วนั ทคี่ น้ ขอ้ มลู 24 มถิ นุ ายน
2559).
ภาคผนวก 193
ภาคผนวก
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1
เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
ตอนที่ 1
3 1. พลังงานมี 2 ลกั ษณะยที่สำ�คัญ คือ พลังงานจลน์ และพลังงงานศักย์
3 2. พลังงานแสง ได้แก่ เครอื่ งยนต์ เครอ่ื งปน่ั กระแสไฟฟ้า และหลอดไฟ
7 3. พลังงานท่ีใชแ้ ลว้ หมดไป ไดแ้ ก่ น้ํามันเช้ือเพลงิ ถ่านหิน และนิวเคลยี ร์
3 4. ความส�ำ คัญของพลังงานทม่ี ีต่อการผลติ ไดแ้ ก่ การเพาะปลูก และการผลติ สินคา้
3 5. ความส�ำ คญั ของพลงั งานทม่ี ตี อ่ สงิ่ มชี วี ติ ไดแ้ ก่ การอยอู่ าศยั และการรกั ษาพยาบาล
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
ตอนท่ี 2
1. ตอบ ง. ความหมายของทรัพยากรโดยทวั่ ไป
2. ตอบ จ. ความหมายของทรพั ยากรส่งิ แวดลอ้ ม
3. ตอบ ช. ความสำ�คัญของทรพั ยากรทีม่ ีตอ่ เศรษฐกิจ
4. ตอบ ก. ความส�ำ คญั ของทรพั ยากรดา้ นชีววิทยาและนเิ วศวิทยา
5. ตอบ ค. ความส�ำ คัญของทรัพยากรท่มี ตี อ่ ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม
ตอนที่ 3 ส�ำ หรับ
ผูส้ อน
1. แนวทางการตอบ ส่ิงแวดล้อม หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวมนุษย์ท้ังที่มีชีวิต
และไม่มชี วี ติ รวมท้ังท่เี ปน็ รูปธรรม และเป็นนามธรรม เชน่ วัฒนธรรม แบบแผน ประเพณี
ความเชื่อ มีอิทธิพลเกี่ยวโยงถึงกัน เป็นปัจจัยในการเกื้อหนุนซ่ึงกันและกัน ผลกระทบ
จากปัจจัยหน่ึงจะมีส่วนเสริมสร้างหรือทำ�ลายอีกส่วนหน่ึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น
สิ่งแวดล้อมจึงเป็นวงจรและวัฏจักรตามธรรมชาติท่ีเกิดขึ้นและมีการเปล่ียนแปลงอยู่
ตลอดเวลาหรืออน่ื ๆ ขนึ้ อยกู่ ับดุลยพนิ จิ ของผู้สอน
2. แนวทางการตอบ ความสำ�คญั ของสิง่ แวดลอ้ มในดา้ นตา่ งๆ มรี ายละเอียดต่อไปน้ี
1) ความสำ�คัญของสง่ิ แวดลอ้ มด้านกายภาพ มพี ืชพันธ์ุ สัตว์ปา่ ปา่ ไม้ ดิน น�้ำ อากาศ
พลังงาน และแรธ่ าตุตา่ งๆ
2) ความสำ�คัญของส่ิงแวดลอ้ มดา้ นสงิ่ มีชวี ิต เช่น สิง่ มีชวี ติ ท่อี ยรู่ อบตวั รวมถงึ ส่งิ มีชีวิต
ขนาดเลก็ ได้แก่ เชื้อราและแบคทเี รยี ต่างๆ
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด194 พลงั งาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม
3) ความสำ�คัญของส่ิงแวดล้อมด้านสังคมและวัฒนธรรม ได้แก่ ส่ิงแวดล้อมท่ีเก่ียวข้อง
กบั ศาสนา ประเพณี ความเช่ือ และความสัมพนั ธ์อืน่ ๆ หรอื อนื่ ๆ ข้ึนอยู่กบั ดลุ ยพินจิ
ของผู้สอน
3. แนวทางการตอบ ความส�ำ คญั ของสงิ่ แวดลอ้ มดา้ นกายภาพ มพี ชื พนั ธุ์ สตั วป์ า่ ปา่ ไม้ ดนิ น�้ำ
อากาศ พลงั งาน และแรธ่ าตตุ า่ งๆ สง่ิ เหลา่ นลี้ ว้ นเปน็ สง่ิ แวดลอ้ มดา้ นกายภาพและสามารถ
จบั ตอ้ งได้ สามารถสรา้ งประโยชนแ์ ละมคี วามสำ�คัญต่อการเป็นอยูข่ องผคู้ นในสังคมต่างๆ
เปน็ อยา่ งมาก เช่น การมีท่ดี ินเพ่อื อยอู่ าศัย การมบี ริโภคอาหารทไี่ ด้จากพชื และสัตว์ รวม
ถงึ การไดร้ ับอากาศบรสิ ุทธิ์จากชั้นบรรยากาศต่างๆ
สำ�หรบั
ผูส้ อน
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ภาคผนวก 195
เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
ส�ำ หรับ
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักดตอนที่ 1 ผูส้ อน
1. ตอบ ต.
2. ตอบ จ.
3. ตอบ ค.
4. ตอบ ก.
5. ตอบ ฌ.
6. ตอบ ช.
7. ตอบ ญ.
8. ตอบ ข.
9. ตอบ ง.
10. ตอบ ฉ.
1 1. ตอบ ด.
12. ตอบ ซ.
ตอนที่ 2
1. ตอบ จ.
2. ตอบ ข.
3. ตอบ ฌ.
4. ตอบ ฎ.
5. ตอบ ฏ.
6. ตอบ ค.
7. ตอบ ช.
8. ตอบ ก.
9. ตอบ ฐ.
1 0. ตอบ ฉ.
1 1. ตอบ ซ.
12. ตอบ ฒ.
1 3. ตอบ ญ.
14. ตอบ ง.
196 พลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม
เฉลยกิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้
1. ประเภทและแหลง่ กำ�เนดิ พลังงาน
1.1 แนวทางการตอบ แก๊สธรรมชาติ มี 2 ชนิด คือแก๊สธรรมชาติสำ�หรับใช้หุงต้มใน
ครัวเรือนและรถยนต์ต่างๆ ได้แก่ แก๊สปิโตรเลียมเหลว และแก๊สธรรมชาติสำ�หรับ
รถยนต์ ซ่ึงพบได้ในประเทศไทย หรอื อืน่ ๆ ขน้ึ อยู่กับดุลยพนิ ิจของผู้สอน
1.2. แนวทางการตอบ พลงั งานน้ำ� เปน็ พลงั งานทางเลอื กทใี่ ช้แล้วไมห่ มดไป พลงั งานน�ำ้
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด เกิดขึ้นโดยอาศัยแรงดันและการไหลตกของน้ำ�จากที่สูงลงสู่ที่ตำ่�ตามธรรมชาติเพื่อ
การหมุนป่ันกังหันหรือใบพัดของเครื่องกำ�เนิดไฟฟ้าที่ติดต้ังไว้ จึงทำ�ให้เกิดการ
ป่ันกระแสไฟฟ้าได้ หรืออ่นื ๆ ขน้ึ อยูก่ บั ดุลยพินิจของผสู้ อน
2. ประเภทและแหล่งก�ำ เนดิ ทรพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ ม
2.1 แนวทางการตอบ สัตว์ป่าสงวนของไทยเป็นทรัพยากรที่มีชีวิต อาศัยอยู่ในป่าสงวน
หรือแหล่งอทุ ยานทางธรรมชาตติ า่ งๆ หรอื อื่นๆ ข้นึ อยู่กบั ดุลยพนิ จิ ของผ้สู อน
2.2 แนวทางการตอบ ป่าเบญจพรรณ ป่าเบญจพรรณ หรือป่าผสมผลัดใบ เป็นป่า
ที่มีพรรณไม้เด่น 5 ชนิด ได้แก่ ไม้สัก มะค่า แดง ประดู่ และชิงชัน โดยท่ัวไปเป็น
ป่าโปร่งประกอบด้วยต้นไม้ขนาดกลางเป็นส่วนมาก ป่าเบญจพรรณในประเทศไทย
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ป่าเบญจพรรณที่มีไม้สักเป็นไม้เด่น และป่าเบญจพรรณ
ที่ไม่มไี ม้สกั แต่มีพรรณไม้เดน่ ขนิดอนื่ ขึน้ แทน หรืออื่นๆ ขึ้นอยกู่ ับดุลยพนิ จิ ของผูส้ อน
2.3 แนวทางการตอบ ดินปนทราย คือดินท่ีมีเน้ือดินบนเป็นดินทรายหรือดินทราย
ปนร่วนท่ีเกิดเป็นชั้นหนามากกว่า 100 เซนติเมตรจากผิวดิน บางพ้ืนที่มีความ
หนามากกว่า 50 เซนติเมตรจากผิวดินท่ีรองรับด้วยชั้นดินเหนียวและดินร่วนหรือ
พบชั้นอินทรีย์ภายในความลึก 100 เซนติเมตรดินทรายพบทั่วไปในทุกภาคของ
ประเทศไทย หรอื อ่นื ๆ ขน้ึ อย่กู ับดุลยพินจิ ของผสู้ อน
2.4. แนวทางการตอบ น�ำ้ เสยี ทร่ี ะบายลงสู่แหลง่ น�ำ้ ธรรมชาตนิ ้ัน โดยท่ัวไปมาจากชมุ ชน
ได้แก่ นำ้�เสยี จากบา้ นเรือน โรงงานอตุ สาหกรรม โรงพยาบาล ร้านอาหารและตลาด
เป็นต้น ส่วนใหญ่มักเป็นสารอินทรีย์และสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น น้ำ�จากส้วม น้ำ�จาก
ครวั และไขมนั นอกจากนน้ั ยังมีนำ้�เสยี จากโรงพยาบาลท่ไี ม่มีการบำ�บดั กอ่ นปลอ่ ยท้งิ
ทัง้ ท่ีมเี ชอื้ โรคและพยาธิปะปนอยดู่ ว้ ย หรอื อนื่ ๆ ขน้ึ อยกู่ ับดลุ ยพนิ จิ ของผ้สู อน
2.5. แนวทางการตอบ ฝนกรดเกดิ จากการเผาไหมเ้ ชอื้ เพลงิ ในเครอ่ื งยนตแ์ ละโรงงานตา่ งๆ
แลว้ ถกู ปลอ่ ยสบู่ รรยากาศ และเกดิ การท�ำ ปฏกิ ริ ยิ ากบั น�ำ้ ออกซเิ จน และสารเคมอี นื่ ๆ
ก่อให้เกิดสารประกอบที่เป็นกรดซัลฟุริกและกรดไนตริกซึ่งมีแสงอาทิตย์เป็นตัวเร่ง
ปฏิกิริยาเหล่านี้ให้มากขึ้น เรียกว่า กระบวนการออกซิเดชัน หรืออื่นๆ ข้ึนอยู่กับ
สำ�หรบั ดุลยพนิ จิ ของผูส้ อน
ผูส้ อน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด ภาคผนวก 197
2.6 แนวทางการตอบ เพชร มีส่วนประกอบเป็นธาตุถ่านคาร์บอนบริสุทธ์ิท่ีมี
ความแข็งที่สุดในบรรดาแร่ธาตุท้ังหลายที่เกิดข้ึนตามธรรมชาติหรืออื่นๆ ข้ึนอยู่กับ
ดุลยพินิจของผู้สอน
ส�ำ หรับ
ผ้สู อน
198 พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3
เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักดตอนที่ 1
1. ตอบ ค.
2. ตอบ ง.
3. ตอบ ข.
4. ตอบ ก.
5. ตอบ ช.
ตอนที่ 2
1. ส่งิ แวดลอ้ มมอี ิทธพิ ลตอ่ มนษุ ย์ คอื จ�ำ นวน ความหนาแน่น และการกระจายตัว
ของประชากร
2. ประชากรท่ัวโลกมีประมาณ 7.3 พันล้านคน ประเทศจนี มีประชากรมากทสี่ ุด
3. ประเทศทม่ี คี วามหนาแนน่ ของประชากรมากทส่ี ดุ ใน 5 อนั ดบั ของโลก คอื ฮอ่ งกง
และสิงคโปร์
4. สังคมผู้สูงอายุจะมีจำ�นวนน้อยกว่าสังคมวัยเด็กทั้งในต่างประเทศและ
ในประเทศไทย
5. การประกอบอาชีพของมนุษยม์ ี 2 ขั้น คอื ขน้ั ปฐมภูมแิ ละข้นั ทตุ ิยภมู ิ
ตอนที่ 3
1. แนวทางการตอบ
1) สร้างช่องทางการเพ่มิ รายไดใ้ ห้คนในสงั คม
2) สนับสนนุ ชอ่ งทางการหารายไดข้ องคนในสังคม
3) กระตุ้นการบรโิ ภคและการลงทนุ ภายในประเทศ ขนึ้ อยกู่ บั ดุลยพินิจของผู้สอน
2. แนวทางการตอบ
1) การพัฒนาด้านการศกึ ษาให้คนในสงั คมมีคณุ ภาพ
2) การพัฒนาการคุ้มครองทางสังคม
3) การสง่ เสริมและพัฒนาทุนทางสังคมต่างๆ ขึ้นอย่กู บั ดลุ ยพินิจของผสู้ อน
3. แนวทางการตอบ
สำ�หรบั 1) การรู้จกั รกั ษาคุณภาพสง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ อนุรักษร์ ะบบนเิ วศ
ผูส้ อน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด ภาคผนวก 199
2) การรูจ้ ักใชท้ รัพยากรอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
3) ปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมการบรโิ ภคเพ่ือลดปริมาณขยะและของเสยี ข้ึนอยกู่ บั ดุลยพนิ จิ
ของผู้สอน
เฉลยกจิ กรรมส่งเสริมการเรยี นรู้
1. ผลกระทบจากพลงั งานและสิ่งแวดลอ้ ม แนวทางการตอบ
1) ฝนุ่ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ส่งผลให้เกดิ มลพิษทางอากาศ
2) การปลอ่ ยน�ำ้ เสยี ลงสแู่ หลง่ ธรรมชาติ ท�ำ ใหเ้ กดิ น�ำ้ เนา่ เสยี และท�ำ ลายแหลง่ ทอี่ ยอู่ าศยั
ของสัตว์น�้ำ
3) ท้ิงขยะหรือพลาสติกลงสู่แหล่งธรรมชาติ ทำ�ให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต หรืออ่ืนๆ
ขนึ้ อย่กู ับดุลยพนิ จิ ของผสู้ อน
2. ความสมั พันธข์ องพลงั งานกับการด�ำ รงชีวิต แนวทางการตอบ
1) อาศัยพลังงานแสงอาทติ ยใ์ นการตากผ้าให้แหง้
2) ใชพ้ ลังงานความร้อนในการประกอบอาหาร
3) ใช้พลงั งานนำ้�ในการดำ�รงชีวติ หรืออื่นๆ ข้นึ อยูก่ บั ดลุ ยพินิจของผ้สู อน
3. ความสัมพนั ธข์ องทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ มกับการด�ำ รงชวี ิต แนวทางการตอบ
1) ความเป็นอยู่ของมนุษย์ท่ีส่งผลต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติ เช่น การตัดไม้
การเพาะปลูก
2) การเกดิ ภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ เชน่ นำ�้ ท่วม
3) มลพษิ ทางน�ำ้ และอากาศอนั เกดิ จากการกระท�ำ ของมนษุ ย์ หรอื อนื่ ๆ ขน้ึ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ
ของผู้สอน
ส�ำ หรับ
ผ้สู อน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด200 พลังงาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4
เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
ตอนที่ 1
1. พลังงานทั่วไป ได้แก่ พลงั งานถา่ นหินและพลงั งานเชอ้ื เพลิงต่างๆ
2. พลงั งานทางเลือก ได้แก่ พลงั งานนิวเคลยี ร์ และพลงั งานแสงอาทิตย์
3. ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับจากพลงั งานน้ำ� คอื การผลิตกระแสไฟฟา้ และการคมนาคม
4. ประโยชน์ท่ีได้รับจากพลังงานลม คือการผลิตกระแสไฟฟ้าและกังหันวิดนำ้�
เขา้ แปลงนา
5. ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จากพลงั งานขยะ คือการลดจ�ำ นวนขยะและพลงั งานไฟฟ้า
ตอนท่ี 2
1. ตอบ ก.
2. ตอบ ฉ.
3. ตอบ ค.
4. ตอบ ข.
5. ตอบ ฉ.
เฉลยกิจกรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้
1. การใชป้ ระโยชนจ์ ากพลงั งาน แนวทางการตอบ
1) ใช้พลงั งานแสงอาทิตย์ในการตากผ้าและการดำ�รงชีวิตของพืช
2) ใชน้ ้ำ�มนั ในการประกอบอาหาร
3) ใชน้ �ำ้ มนั ปโิ ตรเลยี มในการเคลอ่ื นทข่ี องรถยนต์ หรอื อนื่ ๆ ขน้ึ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน
2. การใช้ประโยชน์จากพลงั งานทดแทน แนวทางการตอบ
1) ใช้พลงั งานนำ้�ในการปน่ั กระแสไฟฟา้
2) ใชแ้ ผงโซลา่ เซลลเ์ พ่อื ผลติ พลงั งานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์
3) ไม้ฟืน แกลบ กากอ้อย เศษไม้ เศษหญ้า เศษเหลือท้ิงจากการเกษตร หรืออื่นๆ
ขึ้นอยู่กับดุลยพนิ ิจของผูส้ อน
3. การใช้ประโยชน์จากทรพั ยากร แนวทางการตอบ
1) บรโิ ภคพืช ผกั และสัตวเ์ ปน็ อาหาร
สำ�หรบั 2) ป่าไมเ้ ปน็ แหลง่ ทอี่ ยู่อาศยั และยารักษาโรค
ผู้สอน 3) ใช้ทรัพยากรดนิ แรธ่ าตุต่างๆ เปน็ ส่วนประกอบในการสร้างอาคาร หรอื อืน่ ๆ ขึน้ อยู่
กบั ดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน
ภาคผนวก 201
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5
เฉลยกิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
ตอนที่ 1สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
1. ตอบ ก.
2. ตอบ ง.
3. ตอบ ฉ.
4. ตอบ ช.
5. ตอบ จ.
6. ตอบ ค.
7. ตอบ ข.
ตอนท่ี 2
1. ปัญหาและผลกระทบจากการใช้ทรัพยากรท่ีมีต่อส่ิงแวดล้อมประเภทดิน คือ
ดนิ เค็ม และการพงั ทลายของดิน
2. ปัญหาและผลกระทบจากการใช้ทรัพยากรท่ีมตี อ่ สง่ิ แวดล้อมประเภทนำ้� คอื น�ำ้
เปน็ ดา่ ง และน้ำ�เปน็ กรด
3. ปญั หาและผลกระทบจากการใชท้ รพั ยากรทม่ี ตี อ่ สง่ิ แวดลอ้ มประเภทอากาศ คอื
อากาศมฝี นุ่ ละออง
4. ปัญหาและผลกระทบจากการใช้ทรัพยากรท่ีมีต่อส่ิงแวดล้อมประเภทป่าไม้ คือ
การจับสัตวป์ า่ ไปขาย
5. ปญั หาและผลกระทบจากการใชท้ รพั ยากรทมี่ ตี อ่ สงิ่ แวดลอ้ ม ประเภทแรธ่ าตุ คอื
การใช้ประโยชนม์ ากเกินไป
เฉลยกิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ ส�ำ หรับ
ผ้สู อน
1. ปัญหาการใชพ้ ลังงานท่สี ่งผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดล้อมของไทย
1.1 แนวทางการตอบ
1) ปญั หาฝนุ่ ควนั จากทอ่ ไอเสยี รถยนตใ์ นกรงุ เทพมหานคร สง่ ผลตอ่ อากาศบรสิ ทุ ธ์ิ
ท่ใี ช้หายใจ
2) การท้ิงน�้ำ มนั ลงสแู่ ม่นำ้�ลำ�คลองหลงั จากประกอบอาหาร ทำ�ให้น�้ำ สกปรก
3) การใช้เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ตา่ งๆ อยา่ งสน้ิ เปลอื ง ส่งผลใหป้ ริมาณของแหลง่ พลังงาน
มจี ำ�กดั หรอื อ่ืนๆ ขนึ้ อยูก่ ับดุลยพินิจของผู้สอน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด202 พลงั งาน ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม
1.2 แนวทางการตอบ
1) ปัญหาฝุ่นควันสะสมในอากาศ ส่งผลต่อการหายใจ
2) ปญั หาการขาดแคลนพลังงาน หรอื อ่ืนๆ ขึน้ อยูก่ ับดุลยพนิ จิ ของผ้สู อน
2. ปญั หาการใชท้ รัพยากรทีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ สิ่งแวดล้อมของไทย
2.1 แนวทางการตอบ
1) ปัญหาการตดั ไม้ท�ำ ลายป่า การบกุ รุกปา่ สงวน
2) การล่าสัตวส์ งวน
3) ขาดความรใู้ นการอนรุ กั ษป์ า่ และสตั วอ์ ยา่ งถกู ตอ้ ง หรอื อนื่ ๆ ขนึ้ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ
ของผสู้ อน
2.2 แนวทางการตอบ
1) การจดั การขยะทผ่ี ดิ วิธี ท�ำ ให้ขยะมูลฝอยมีปริมาณมาก
2) การทิ้งขยะสู่แหล่งธรรมชาติ ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต หรืออ่ืนๆ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ
ของผสู้ อน
สำ�หรบั
ผู้สอน
ภาคผนวก 203
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6
เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
ตอนท่ี 1สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด
1. ตอบ ง.
2. ตอบ จ.
3. ตอบ ข.
4. ตอบ ก.
5. ตอบ ค.
6. ตอบ จ.
7. ตอบ ค.
ตอนท่ี 2
1. แนวทางป้องกันและแก้ปัญหาการใช้พลังงานท่ีมีผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมโดย
ต้องมีการปกป้องฟื้นฟู และการอนรุ กั ษ์
2. การแก้ปญั หาสิ่งแวดลอ้ มท่ีสำ�คญั ต้องเพิ่มการใชพ้ ลังงานใหม้ ากข้ึน
3. การป้องกันและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านดิน ต้องสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้
กับดิน
4. การป้องกันและแก้ปัญหาส่ิงแวดล้อมด้านนำ้� ต้องไม่ท้ิงสิ่งปฏิกูลและบำ�บัด
น้ำ�เสยี ก่อนทง้ิ
5. การป้องกันและแก้ปัญหาส่ิงแวดล้อมด้านอากาศและเสียง ต้องควบคุม
แหลง่ กำ�เนดิ เป็นส�ำ คัญ
เฉลยกจิ กรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ ส�ำ หรับ
ผูส้ อน
1. แนวทางปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาการใช้พลงั งานต่างๆ
1.1 แนวทางการตอบ
1) ควรเลือกใช้อุปกรณไ์ ฟฟ้าทมี่ กี �ำ ลงั วัตตเ์ หมาะสมกับการใช้งาน
2) ปดิ สวิตช์หรอื ถอดปลั๊กออกทกุ ครงั้ หลงั ใชง้ าน เพ่อื ปอ้ งกันไฟฟา้ ลัดวงจร
3) เลอื กใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ แบบประหยดั ไฟ หรอื อนื่ ๆ ขนึ้ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน
1.2 แนวทางการตอบ
1) เลอื กใชน้ �ำ้ มนั ท่ีเหมาะสมกบั เครอื่ งยนต์
2) ไม่บรรทกุ ของหนกั เกนิ ความจ�ำ เปน็ หรอื อืน่ ๆ ขน้ึ อยู่กับดลุ ยพินจิ ของผู้สอน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด204 พลงั งาน ทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ ม
2. แนวทางป้องกันและแก้ไขปญั หาทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มตา่ งๆ
2.1 แนวทางการตอบ
1) รณรงคแ์ ละปอ้ งกันการบกุ รุกท�ำ ลายป่า
2) ไม่เผาวชั พชื หรือบรเิ วณป่าจนอาจเกดิ ไฟลุกลามได้
3) ปลกู ปา่ ทดแทน หรืออนื่ ๆ ขึน้ อยู่กับดุลยพนิ ิจของผสู้ อน
2.2 แนวทางการตอบ
1) สร้างจิตสำ�นึกในการแยกขยะและของเน่าเสียต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการ
จดั การขยะ
2) ท้งิ ขยะและของเสยี ให้ถกู ที่ ไม่สรา้ งความสกปรก หรอื อืน่ ๆ ข้ึนอยูก่ ับดลุ ยพนิ ิจ
ของผ้สู อน
สำ�หรบั
ผู้สอน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด ภาคผนวก 205
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 7
เฉลยกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ
ตอนที่ 1
1. การอนุรักษ์พลังงาน หมายถึงการผลิตและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
และประหยัด
2. การอนรุ กั ษพ์ ลังงานในครวั เรอื นมี 2 ส่วน คอื การประหยัดการใช้พลังงาน และ
การอนุรักษพ์ ลงั งาน
3. การอนุรักษ์พลังงานในองค์กรภาครัฐบาลมี 2 หลักการ คือการอนุรักษ์จาก
การใช้อุปกรณ์และเคร่ืองใช้ไฟฟ้าในสำ�นักงาน และการประหยัดเชื้อเพลิง
ในรถยนตต์ ่างๆ
4. การอนุรักษ์พลังงานในองค์กรภาคเอกชน มีความแตกต่างจากภาครัฐ ที่เน้น
การลดตน้ ทุน และเพิ่มก�ำ ไรเป็นสำ�คัญ
5. การอนรุ กั ษ์พลงั งานในองคก์ รภาคเอกชนสามารถทำ�ได้ เช่น เปล่ียนเครือ่ งจกั ร
ใหม่ เพ่ิมการใชพ้ ลงั งาน แสงอาทิตย์ ปิดไฟตอนพกั เท่ียง และรณรงคล์ ดการใช้
ไฟฟา้
ตอนที่ 2
1. ตอบ (1)
2. ตอบ (2)
3. ตอบ (3)
4. ตอบ (4)
5. ตอบ (5)
6. ตอบ (6)
7. ตอบ (7)
เฉลยกิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้
แนวทางการตอบ ขน้ึ อย่กู ับดุลยพินจิ ของผสู้ อน
ส�ำ หรับ
ผ้สู อน
สํานัก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จํา ักด206 พลังงาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ ม
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 8
เฉลยกจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
ตอนที่ 1
3 1. กฏหมายพลังงานคือ พ.ร.บ. ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535
เป็นตน้ มา
3 2. การอนรุ ักษ์พลังงานตาม พ.ร.บ. จะเน้นพลงั งานในโรงงาน อาคาร และอปุ กรณ์
ใชง้ าน
7 3. หนว่ ยงานทก่ี �ำ กบั ดแู ลงานกฎดา้ นหมายพลงั งาน คอื ส�ำ นกั งานนโยบายและแผน
สง่ิ แวดล้อม
3 4. การประชาสัมพันธ์ด้วยการรณรงค์จะช่วยกระตุ้นให้เกิดจิตสำ�นึกของประชาชน
ดา้ นสง่ิ แวดล้อม
3 5. กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมคือ พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อม
แหง่ ชาติ พ.ศ. 2535
ตอนที่ 2
1. ตอบ ง.
2. ตอบ ค.
3. ตอบ ก.
4. ตอบ ข.
5. ตอบ จ.
เฉลยกจิ กรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้
แนวทางการตอบเป็นไปตามนโยบายพลังงาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ มหรอื อน่ื ๆ ขนึ้ อยู่
กับดลุ ยพนิ จิ ของผู้สอน
สำ�หรบั
ผูส้ อน