การแบง่ ปนั ความรู้
(Knowledge Sharing)
การแบ่งปันความรู้
(Knowledge Sharing)
Knowledge Sharing คือ การท่ีกลุ่มคนท่ีมีความสนใจในเร่ืองใดเรื่องหนึ่ง
ร่วมกัน มารวมตัวกันและ แลกเปล่ียนเรียนรู้ ด้วยความสมคั รใจ เพ่ือร่วมสรา้ งความเข้าใจ
หรือพัฒนาแนวปฏบิ ตั ิในเรือ่ งนั้น ๆ องค์ประกอบหลักท่ีสาคัญ ๆ ของการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้
(Knowledge Sharing) มี 3 องค์ประกอบ
1. คน (People) - ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สาคัญที่สุด เพราะเป็นแหล่งศูนย์
รวมของความรู้ท่ี สมควรนาออกมาแบ่งปันเป็นอย่างยิ่ง โดยก็ควรจะเป็นคนที่มีความรู้
จากการปฏบิ ัติจรงิ และอยากจะ มาแบ่งปันและแลกเปลยี่ นความรู้น้ัน ดว้ ยความเต็มใจ
2. สถานท่ี และบรรยากาศ (Place) เป็นองค์ประกอบท่ีสาคัญอีกประการหน่ึงที่
จะทาให้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้มีชีวิตชีวาและน่าสนใจ เพราะสถานที่และบรรยากาศท่ีดี
(สบายๆผ่อนคลาย) มี ความเหมาะสมกบั แต่ละกลุม่ คน จะทาให้คนเหล่านน้ั มาเจอกันพดู คยุ
ปรกึ ษา วเิ คราะห์ปญั หา แบง่ ปัน และแลกเปล่ียนเรียนรูซ้ งึ่ กันและกันอย่างสบายใจ
3. สิ่งอานวยความสะดวกต่าง ๆ (Infrastructure) – เป็นองค์ประกอบท่ีสาคัญที่
ช่วยให้ การแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกิดได้ง่ายและสะดวกข้ึน เช่น กระดานสาหรับเขยี น
คอมพิวเตอร์ สาหรับการสรุปและจัดเก็บความรู้รวมถงึ การแบ่งปัน (Share) หรือการส่งตอ่
ข้อมลู
การแบง่ ปันความรู้
(Knowledge Sharing)
ปจั จยั หลกั ของการแบง่ ปนั และแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 6 ประการ ไดแ้ ก่
1. กาหนดเปา้ หมายการแบ่งปันและแลกเปลีย่ นเรยี นรใู้ หช้ ัดเจนและสัมพันธก์ ับ
เปา้ หมายทางธรุ กจิ
2. สรา้ งผนู้ าที่เปน็ แบบอยา่ ง
3. สรา้ งเครือขา่ ยของผมู้ ีความรจู้ ากการปฏบิ ตั ิ (Human Networks)
4. กาหนดวธิ กี ารแบ่งปนั และแลกเปล่ยี นเรยี นร้ใู ห้เหมาะกับวัฒนธรรมองคก์ ร
5. แบ่งปันและแลกเปลยี่ นเรยี นรทู้ ่นี าไปใชใ้ นงานประจาวันได้
6. สรา้ งแรงจงู ใจทส่ี นบั สนุนการแบง่ ปันและแลกเปลยี่ นเรียนรู้
การแบง่ ปันความรู้
(Knowledge Sharing)
แนวทางประยกุ ตส์ กู่ ารปฏบิ ตั ใิ นการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษา
กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management) เปน็ กระบวนการทจ่ี ะ
ช่วยให้เกดิ พฒั นาการของความรู้ หรอื การจัดการความรทู้ ่ีจะเกิดขึน้ ภายในองค์กร มี
ท้ังหมด 7 ขนั้ ตอน
1. บ่งชีค้ วามรู้ (Knowledge Identification) การพิจารณาว่าองค์กรมีวิสัยทศั น์
พันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าหมายคืออะไร เพ่ือให้บรรลุเป้าหมาย ต้องใช้อะไร ปัจจุบันมคี วามรู้
อะไรบา้ ง อยูใ่ นรูปแบบใด และอยู่ทใี่ คร
2. สร้างและแสวงหาความรู้ (Knowledge Creation and Acquisition) เป็นการ
สร้าง แสวงหา รวบรวมความรู้ท้ังภายใน/ภายนอก รักษาความรู้เดิม แยกความรู้ท่ีใช้ไม่ได้
แล้วออกไป
3. จดั ความรใู้ ห้เปน็ ระบบ (Knowledge Organization)
เป็นการกาหนดโครงสร้างความรู้ แบ่งชนิด ประเภท เพื่อใหส้ ืบค้น เรยี กคนื และ
ใช้งานไดง้ ่าย
4. ประมวลและกล่ันกรองความรู้ (Knowledge Codification and Refinement)
เป็นการปรับปรุงรูปแบบเอกสารให้เป็นมาตรฐาน ใช้ภาษาเดียวกัน ปรับปรุงเนื้อหาให้
ครบถ้วนสมบรู ณ์
การแบ่งปันความรู้
(Knowledge Sharing)
แนวทางประยกุ ตส์ กู่ ารปฏบิ ตั ใิ นการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษา
5. เข้าถึงความรู้ (Knowledge Access)เป็นการทาให้ผู้ใช้ความรู้เข้าถึงความรู้ที่
ต้องการได้ง่ายและสะดวก เช่น ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT) Web board บอร์ด
ประชาสัมพันธ์ เป็นตน้
6. การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ (Knowledge Sharing) เป็นการแบ่งปัน
สามารถทาได้หลายวิธีการ โดยกรณีที่เป็นความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) อาจจัดทา
เป็นเอกสาร ฐานความรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือกรณีที่เป็นความรู้ฝังลึก (Tacit
Knowledge) จัดทาเป็นระบบทีมข้ามสายงาน กิจกรรมกลุ่มคุณภาพและนวัตกรรม ชุมชน
แห่งการเรยี นรู้ ระบบพีเ่ ล้ยี ง การสบั เปลย่ี นงาน การยืมตวั เวทแี ลกเปลี่ยนความรู้ เปน็ ต้น
7. การเรยี นรู้ (Learning)นาความรู้มาใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจ แก้ปัญหา และ
ทาให้เป็นส่วนหนึ่งของงาน เช่น เกิดระบบการเรยี นรู้จากสร้างองคค์ วามรู้ การนาความรู้ใน
ไปใช้ เกดิ การเรียนรู้ และประสบการณ์ใหม่ และหมุนเวียนต่อไปอยา่ งตอ่ เน่อื ง