ใ บ ค ว า ม รู้
เรื่อง โครงสร้างทางสังคม
social structure สังคมศึกษา ม.4
ความหมายของ
โครงสร้างทางสังคม
การจัดระบบของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เชื่อมโยงให้เกิดกลุ่ม
สังคมที่มีรูปแบบต่างกันตามระบบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่
จะทำให้สังคมเป็ นระเบียบ
เกร็ดความรู้
สิ่ งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์อื่นๆ
1. มนุษย์มีลักษณะทางกายภาพแตกต่างจากสัตว์ชนิ ดอื่น (มีความละเอียดอ่อน และการเคลื่อนไหวร่างกาย)
2. มันสมองที่ใหญ่กว่าสัตว์ชนิ ดอื่น จึงสร้างระบบความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนได้
3. มนุษย์เท่านั้ นที่ สร้าง และ ใช้สัญลักษณ์ ได้
4. มนุษย์เท่านั้ น ที่มีวัฒนธรรม
ความจำเป็นที่มนุษย์ต้องอยู่ร่วมกัน 2. มนุษย์มีความต้องการทางด้านร่างกายและจิตใจ
1. มนุษย์มีสภาพเป็นทารกอยู่นาน 4. มนุษย์มีมันสมองที่มีคุณภาพ
3. ความสามารถของแต่ละบุคคลไม่เท่าเทียมกัน
ลักษณะของโครงสร้างทางสั งคม
1. มีการรวมกลุ่มของคนในสังคม ซึ่งแต่ละกลุ่มที่รวมกันต่างมีหน้ าที่ ความรับผิดชอบและ
ประสิ ทธิภาพในการทำงานตามที่กลุ่มได้กำหนดเป้าหมายไว้
2. มีแนวทางในการปฏิบัติอย่างเหมาะสม หรือ มีกฎเกณฑ์ระเบียบแบบแผนเป็นแนวทางให้
ยึดถือร่วมกัน
3. มีจุดมุ่งหมายในการปฏิบัติกิจกรรม คือ มีจุดมุ่งหมายที่ดี และมีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้
กับสังคมนั้ น
4. มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงได้ คือ มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ทั้งในแง่ของการเพิ่มขึ้นหรือลดลงใน
หลายรูปแบบ เช่น จำนวนคนอาจมีการเคลื่อนย้ายหรือภาวะเจริญพันธ์ุของประชากรในสังคม หรือรูปแบบ
ความสัมพันธ์ของบุคคลในสังคม อาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมภายในสังคม
เรื่อง โครงสร้างทางสังคม
สังคมศึกษา ม.4
โครงสร้างทางสังคม
กลุ่มสั งคม สถาบัน การจัดระเบียบ
ทางสั งคม ทางสั งคม
กลุ่มปฐมภูมิ
กลุ่มทุติยภูมิ สถาบัน สถานภาพ
ครอบครัว บทบาท
ค่านิยม
สถาบัน บรรทัดฐาน
การศึกษา การควบคุมทางสังคม
การขัดเกลาทางสังคม
สถาบัน
เศรษฐกิจ
สถาบัน
การเมืองการปกครอง
สถาบัน
ศาสนา
สถาบัน
นันทนาการ
สถาบัน
สื่อสารมวลชน
เรื่อง โครงสร้างทางสังคม
สังคมศึกษา ม.4
มารู้จักความหมาย
กลุ่มสั งคม สถาบัน การจัดระเบียบ
ทางสั งคม ทางสั งคม
หมายถึง กลุ่มบุคคลที่อยู่ร่วมกัน หมายถึง รูปแบบ หมายถึง การทำให้
เป็นสมาชิก อย่างมีระบบระเบียบ พฤติกรรมของสมาชิกใน สั งคมเกิดความมี
มีกฎข้อตกลงร่วมกันของกลุ่ม มี สังคม เพื่อสนองความ ระเบียบเรียบร้อย มี
เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ร่วม ต้องการที่จำเป็นร่วมกัน ความมั่นคง และสมาชิก
กัน เพื่อตอบสนองความต้องการ ในด้านต่างๆ และเพ่ื่อ ในสั งคมสามารถใชัชีวิต
ของสมาชิกใน กลุ่มสังคมนั้ น ๆ ความคงอยู่ของสั งคมโดย ของตนเอยู่ในสั งคมได้
โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ร่วมรวม ประกอบไปด้วย อย่างสงบสุข
ได้แก่ กลุ่มปฐมภูมิ กลุ่มทุติยภูมิ 7 สถาบันทางสังคม
กลุ่มปฐมภูมิ กลุ่มทุติยภูมิ
Primary Group Secondary Group
เป็นกลุ่มที่มีขนาดเล็ก สมาชิก เป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ สมาชิก
ของกลุ่มมีความสั มพันธ์กัน มีการติดต่อสั มพันธ์กันตาม
อย่างสนิ ทสนมและมีลักษณะ บทบาทหน้าที่การงาน ไม่รู้จัก
ที่ไม่เป็นทางการ รวมทั้งมีการ มักคุ้นกันเป็นการส่วนตัว การ
ร่วมมือและช่วยเหลือกันเป็น ร่วมมือหรือช่วยเหลือระหว่าง
อย่างดี เช่น ครอบครัว กันจะเป็นไปตามสถานภาพและ
กลุ่มเพื่อนเล่น กลุ่มเพื่อนบ้าน บทบาทที่กำหนดไว้อย่างเป็น
ทางการ เช่น ลูกจ้างนายจ้าง
กลุ่มสั
งคม บริษัท กลุ่มชาติพันธ์ุ
Social Group
สถาบัน เรื่อง โครงสร้างทางสังคม
ครอบครัว
สังคมศึกษา ม.4
เป็นสถาบันพื้นฐานของสังคมไทย ซึ่งเกิด
จากความสัมพันธ์กันทางการสมรส ทาง สถาบัน
สายโลหิต หรือการรับเป็นบุตรบุญธรรม การศึกษา
ร่วมทั้งการรับบุคคลอื่น เช่น ญาติมาอาศัย
อยู่ร่วมกัน เป็นสถาบันที่ใกล้ชิดและมี เป็นสถาบันที่จำเป็นสำหรับการพัฒนา
อิทธิพลโดยตรงในการอบรมขัดเกลาให้
สมาชิกมีบุคลิกภาพดี และมีการปรับตัว มนุษย์ต่อจากสถาบันครอบครัว โดยให้การ
ที่เหมาะสมเพื่อเป็นสมาชิกที่ดีในสังคมนั้ น ศึกษาอบรมแก่สมาชิก ในสังคม มีจุดมุ่งหมาย
เพื่อให้สมาชิกในสั งคมเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ
สถาบัน มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมและจริยธรรม
เศรษฐกิจ สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและ
ครอบครัว และทำประโยชน์ ให้กับสังคม
เป็นสถาบันที่ตอบสนองความต้องการของ ตลอดจนสามารถดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่น
สมาชิกในด้านปัจจัย 4 และการบริการใน ได้อย่างมีความสุข
ด้านสิ่ งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการ
ดำเนิ นชีวิต สถาบันทางเศรษฐกิจจึงเป็น
แบบแผนพฤติกรรมทางสั งคมที่เกี่ยวข้องกับ
การผลิต การจำหน่ ายจ่ายแจก การแลก สถาบัน
เปลี่ยน และการบริโภคสินค้าและบริการ การเมืองการปกครอง
เป็นสถาบันที่กำหนดบทบาทในการจัดการ
ทางสังคม ประกอบด้วยกลุ่มคนหรือองค์กร
ทางสังคมที่มีหน้ าที่รักษาความสงบสุขและ
ความมั่นคงของชาติ เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆ
ป้องกัน ปราบปราม แบบวางแผนกำหนด
นโยบายของส่วนรวม ให้หลักประกัน
คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคล และ
สร้างความมั่นคงให้กับชีวิต
สถาบัน สถาบัน สถาบัน
นันทนาการ ทางสั งคม ศาสนา
การทำให้คนในสั งคมผ่อนคลาย Social Institutions เป็นส่วนหนึ่ งของวัฒนธรรม ก่อให้
ความตึงเครียดเพิ่มพูนอนามัยที่ดี เกิดแบบแผนหรือแนวทางในการ
ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ในทาง ปฏิบัติตนของสมาชิก ซึ่งประกอบไป
สร้างสรรค์ต่างๆ รวมทั้งสนองความ ด้วย ความเชื่อ ความศรัทธา
ต้องการทางสังคม ในรูปแบบความ กิจกรรมที่แสดงออกอย่างถูกต้อง
บันเทิงต่างๆ เช่น ศิลปะ การละเล่น งดงามและเหมาะสม
การกีฬา เป็นต้น สถาบัน
สื่อสารมวลชน
สื่ อสารมวลชนมีบทบาทสำคัญต่อสั งคมใน
ปัจจุบันอย่างมาก ที่เทคโนโลยีสารสนเทศและ
สื่อสารมีความเจริญก้าวหน้ าอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้
บทบาทของสื่ อสารมวลชนแพร่กระจายออกไปใน
วงกว้างและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และได้เป็นส่วน
หนึ่ งในการดำเนิ นชีวิตของประชาชน จึงกลาย
เป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในแง่ของการให้
ข้อมูลข่าวสารและการโน้ มนำสังคมในด้านต่าง ๆ
เรื่อง โครงสร้างทางสังคม
สังคมศึกษา ม.4
การจัดระเบียบ สถานภาพ
ทางสั งคม Status
Social หมายถึง ตำแหน่งของบุคคลซึ่งได้มาจากการเป็ น
Organization สมาชิกของกลุ่มสังคม ซึ่งเป็ นองค์ประกอบที่สำคัญใน
การจัดระเบียบสังคม เนื่ องจากการกระทำระหว่าง
สมาชิกในสังคมย่อมเป็ นไปตามสถานภาพที่ตนดำรงอยู่
แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท
บทบาท 1. สถานภาพทางสั งคมที่ได้มาโดยกำเนิ ด
(Ascribed Status)
Role
2. สถานภาพทางสังคมที่ได้มาโดย
หมายถึง การปฏิบัติหน้าที่และสิทธิ ความสามารถของบุคคล (Achieved Status)
ของตนตามสถานภาพของตนในสั งคม
บรรทัดฐาน
Norm
วิถีประชา หรือ วิถีชาวบ้าน (Folkways) บรรทัดฐานทางสังคม หรือ ปทัสทาน หมายถึง
จารีต หรือ กฎศีลธรรม (Mores) ระเบียบ กฎเกณฑ์ หรือแบบแผนของพฤติกรรมที่
สังคมยอมรับเป็ นแนวทางให้สมาชิกประพฤติปฏิบัติ
ในแต่ละสถานการณ์
กฎหมาย (Laws) ค่านิยม
ความคิดหรือสิ่ งที่สั งคมส่ วนใหญ่ยอมรับและเห็ นว่ามี Social Value
คุณค่าควรแก่การปฏิบัติ หรืออาจจะเรียกว่า
“กระแสทางสังคม” ก็ได้ ค่านิยมมี 2 ประเภท การควบคุมทางสังคม
คือ 1) ค่านิยมของบุคคล 2) ค่านิยมของสังคม
Social Control
การควบคุมทางสังคมโดยการจูงใจ (เชิงบวก) หรือเรียกว่า "สิทธิธานุมัติทางสังคม" คือ กระบวนการที่ใช้
เช่น การให้รางวัล การชมเชย ควบคุมให้คนในสังคมปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคม
การมอบโล่เกียรติคุณ
การควบคุมทางสังคมโดยการลงโทษ (เชิงลบ)
สังคมที่มีระเบียบ กฎเกณฑ์ หรือแบบแผนของพฤติกรรมที่สังคม
เช่น การตำหนิติเตียน ยอมรับเป็ นแนวทางให้สมาชิกประพฤติปฏิบัติในแต่ละ
การจำคุก การปรับเงิน สถานการณ์นั้น โดยทั่วไปมักจะมีผู้ละเมิดฝ่าฝืน ส่งผลให้สังคม
ขาดระเบียบจะมีผลเสียต่อการดำรงชีวิตร่วมกันของสมาชิกใน
สังคม ดังนั้นสังคมจึงจำเป็นต้องกำหนดกลไกในการควบคุม
สมาชิกให้ปฏิบัติตามบรรทัดฐานทางสังคม
ซึ่งเรียกกลไกนี้ว่า การควบคุมทางสังคม
เรื่อง โครงสร้างทางสังคม
สังคมศึกษา ม.4
คือ กระบวนการที่คนเรียนรู้และซึมซับบรรทัดฐานและค่า การขัดเกลาทางสังคมทางตรง
นิยมของสังคมจาการสั่งสอนหรือการบอกกันโดยตรงและ
จากการสังเกตของตนเอง มีความสำคัญเนื่องจากจะเป็นสิ่ง บอกกล่าวสั่งสอนด้วยคำพูด ว่าสิ่งใดดี
ที่ช่วยให้คนสามารถปรับตัวและปฏิบัติตามบรรทัดฐานที่ สิ่งใดไม่ดี เช่น แม่สอนลูกเรื่องการไหว้ญาติ
สังคมกำหนด เช่น ให้ปฏิบัติตามสถานภาพ บทบาท และ
หน้าที่ของตนได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ดำรงชีวิตร่วมกันตาย การขัดเกลาทางสังคมทางอ้อม
อย่างมีความสุข
การตกตะกอนความคิดให้เกิดการเรียนรู้ด้วย
ตนเอง เช่น การดูสื่อโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต
การเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย
ด้านสังคม
1.มีความเป็ นปั จเจกบุคคลมากขึ้น คือ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม ความสัมพันธ์ รูปแบบการ
เน้นส่วนบุคคลมากกว่าส่วนรวม ดำเนินชีวิต ความเจริญก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีเป็นตัวการหลัก
2.เสมอภาคหญิงเลี้ยงตัวเองได้ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไป
3.ครอบครัวแตกแยกมากขึ้น รวมทั้งเป็ นการเปลี่ยนแปลงด้านทัศนคติต่อกันในสังคม
4.วัยรุ่นมีพฤติกรรมต่างไปจากเดิม เช่น เรื่องการยอมรับเพศทางเลือกมากขึ้น สาเหตุที่ทำให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงได้แก่ ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม ปัจจัยทางประชากร
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัจจัยทางการเมือง และความเจริญก้าวหน้า
ด้านการเมือง ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
1.มีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย
ทุกรูปแบบโดยผ่านการเลือกตั้ง ด้านเศรษฐกิจ
การแสดงออกในสื่อออนไลน์
2.ขาดแรงกระตุ้นให้สร้างผู้นำ 1.เศรษฐกิจชนบทและเมืองจะต่าง
อย่างแท้จริงประชากรไม่ค่อยสนใจ กันมากขึ้นในด้านรายได้
การเมือง 2.ใช้เครื่องจักรกลมากขึ้น แรงงาน
ลดความสำคัญลง
ที่มา หนั งสือกองบรรณาธิการอินโฟเพรส 3.สังคมเกษตรจะเปลี่ยนไปเป็ น
หนั งสือติวเตอร์แจ็ค (ดิศธร ศรีบุญ) สังคมอุตสาหกรรม เพิ่มมากขึ้น
ตำราเนื้ อหาครอบจักรวาล
WBL by KunkruPeem (Web - Based Instruction)