The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประติมากรรมที่พบในประเทศไทย
รายวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะในประเทศไทย (0107321)
นางสาวชุติกาญน์ วงค์นิ่ม รหัสนิสิต 621011308
คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chutikran.2004, 2022-02-01 05:45:59

ประติมากรรมในประเทศไทย

ประติมากรรมที่พบในประเทศไทย
รายวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะในประเทศไทย (0107321)
นางสาวชุติกาญน์ วงค์นิ่ม รหัสนิสิต 621011308
คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์

ประติมากรรมในประเทศไทย

พระวาสุเทว-กฤษณะ พระวิษณุสก่ี ร พระวษิ ณุจตรุ ภชุ

นางสาวชตุ ิกาญจน์ วงค์นิม่ 621011308

พระวาสเุ ทว-กฤษณะ สวมกริ ีฏมกุ ุฏ (หมวกทรงกระบอก)
เป็นลกั ษณะสาคญั ทเ่ี ห็นไดช้ ดั ของพระวษิ ณรุ ุ่นแรก ๆ ในดินแดนไทย
พบทว่ี ัดศาลาทงึ อาเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธ์ านี
มีอายุประมาณพทุ ธศตวรรษท่ี 9-10 มลี วดลายประดับกณุ ฑลยาวเปน็ พิเศษ
ทาจากศิลา
สูง 67 เซนตเิ มตร พระวรกายช่วงบนเปล่าเปลือย
ปัจจบุ ันจัดแสดงอยูท่ ่พี พิ ิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
มีชายผา้ คาดพระโสณี
แสดงอิทธิพลศิลปะอนิ เดียใต้
ศลิ ปะอมราวดีตอนปลาย ผ้าคาดเอวมปี ้ันเหน่งทบั
นับว่ามีอายุมากท่ีสุดเท่าที่เคยพบใน
ดนิ แดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รูปวงโคง้ พาดผา่ นเหนือพระอุรุ

มีสี่กร ชายผ้าคาดเอวท้งั สองขา้ งสลกั ให้ยาวลงไปจรดฐาน
พระหัตถ์ขวาล่างประทานอภัย ชว่ ยยดึ ใหป้ ระตมิ ากรรมมีความแขง็ แรงมากย่งิ ขนึ้
พระหัตถ์ขวาบนหากคงอยู่จะถือคทา (แต่ได้หักชารุดไปแล้ว)
พระหตั ถซ์ า้ ยบนถือจักร
พระหัตถซ์ า้ ยลา่ งถอื สงั ข์ พระวาสุเทว-กฤษณะ เป็นพระนามท่ีเรียกพระวิษณุในช่วงเวลาท่ีพระองค์ทรงเป็น
เทพสงู สุดในนิกายภาควตั คือ ประมาณปลายพทุ ธศตวรรษที่ 4 – กลาง 10
ยนื ตรง
แสดงอานาจตามคติทางศาสนาฮนิ ดู ประติมากรรมพระวาสุเทว-กฤษณะที่เก่าที่สุดในเอเชียอาคเนย์พบท่ีอาเภอไชยา
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซ่ึงมีลักษณะใกล้เคียงกันมากับประติมากรรมที่พบท่ีเมือง
ทรงผ้านุง่ ยาว (โธตี) นาคารชุนโกณฑะ ภาคตะวนั ออกเฉยี งใต้ของประเทศอินเดีย
บางแนบพระวรกายจนเหน็ สรรี ะภายใน
ส่ิงเหลา่ นี้ลว้ นชใ้ี หเ้ หน็ ว่าในชว่ งพทุ ธศตวรรษท่ี 9 - 10 พ้ืนที่บริเวณเมืองไชยาได้มี
การรบั เอาวฒั นธรรมอนิ เดีย โดยเฉพาะอิทธิพลของศิลปะอินเดียสมัยมถุราและอมราวดี
ตอนปลาย โดยเฉพาะการถือสงั ขใ์ นหตั ถซ์ า้ ยล่าง และหตั ถข์ วาแสดงปางประทานอภัย ใน
สมยั ต่อมาพระหตั ถ์ขวาลา่ งไดเ้ ปลยี่ นเปน็ ถอื ดอกบัวหรอื กอ้ นดินแทน ท้งั ยังแสดงลกั ษณะ
กายวิภาคแบบมนุษย์ เห็นกล้ามเนื้อชัดเจน นุ่งผ้ายาวแบบโสร่งอินเดีย นับเป็นเทวรูปที่
แสดงให้เห็นถึงคตคิ วามเชื่อในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดูยคุ แรก ๆ ในประเทศไทย

พระวษิ ณสุ ่กี ร พระพักตอ์ ิม่

พบที่เขาศรีวชิ ัย อาเภอพนุ พิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสี่กร
มีอายปุ ระมาณพุทธศตวรรษท่ี 12-14 พระกรขวาหน้าทอดลงจรดผ้าภูษาคาดพระโสณี เดิมเช่ือว่า
ทาจากศลิ า
สงู 169 เซนตเิ มตร เคยถือสัญลกั ษณ์กอ้ นดินแตไ่ ดช้ ารดุ หักไปแลว้
ปัจจบุ ันจัดแสดงอย่ทู ี่พพิ ิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติ พระนคร พระกรซ้ายหน้าทอดลงและถือตะบอง แต่ปัจจุบันตะบองได้

สวมกริ ีฏมุกุฏ ทรงสงู ชารุด เหลือแต่เพียงส่วนปลายที่ติดกับฐานหน้ากระดานและโคนท่ี
ติดกับพระหัตถ์
พระองั สากว้าง
พระกรขวาหลังและพระกรซา้ ยหลังหักหายไปหมด เช่ือว่าท้ัง 2
พระอุระเตม็ ข้างยกข้นึ ข้างขวาถอื จกั ร ขา้ งซา้ ยถอื สงั ข์

พระวรกายชว่ งบนเปลา่ เปลอื ย พระวิษณุอยู่ในอิริยาบถยืนตรงบนฐานหน้ากระดาน สวมมงกุฎทรงกระบอกหรือ
กิรีฏมุกุฏเกลี้ยง ซึ่งเป็นลักษณะสาคัญท่ีเห็นได้ชัดของพระวิษณุรุ่นแรก ๆ ในดินแดนไทย
ทรงพระภูษายาวกรอมขอ้ พระบาท ทั้งสัมพันธ์กับพระวิษณุในศิลปะอินเดียแบบปัลลวะ การถือสิ่งของท้ัง 4 ชนิดในตาแหน่งพระ
หตั ถ์ข้างต้นเปน็ แบบแผนของศิลปะอนิ เดียแบบปัลลวะ
คาดด้วยรัดประคด
ขมวดเป็นปมอยู่ทหี่ น้าพระอทุ ร ประติมากรผู้สลักพระวิษณุองค์น้ีคงมีกังวลว่าจะชารุดแตกหักได้ง่าย พระกรปกติข้าง
หนึ่งจึงยึดติดกับชายผ้าคาดพระโสณี และอีกข้างหน่ึงจึงยึดติดกับตะบองซ่ึงเช่ือมต่อกับ
ผ้าคาดพระโสณคี าดเฉยี งและผูกเปน็ ปมอยู่เหนือ พระโสณแี ละฐานอกี ทอดหนง่ึ นอกจากน้ีแถบหนา้ นางที่พาดผ่านตรงกลางผา้ นงุ่ แทนทจ่ี ะมสี ว่ น
ตน้ พระเพลาขวา ปลายสิน้ สุดเพยี งตาแหน่งชายผ้าน่งุ แตก่ ลบั ตงั้ ใจใหย้ าวจรดฐาน ทาให้พระวษิ ณุองค์น้มี ีจดุ รับ
น้าหนกั 4 จดุ ได้แก่ พระบาท 2 ข้าง แถบหนา้ นาง และตะบอง

มีการวิวัฒนาการเป็นของท้องถิ่น และแพร่หลายไปทั่วบริเวณพ้ืนท่ีรอบอ่าวไทย แต่
ยงั คงดารงไวซ้ ่งึ ลักษณะเฉพาะของพระวิษณุ คอื สวมกิรีฏมุกุฏ (หมวกทรงกระบอก) มี 4 กร
ทรงถอื ก้อนดิน จักร สังข์ และคฑาในพระหัตถ์

พระวษิ ณจุ ตรุ ภชุ ด้านหลงั พระหัตถแ์ ละพระเศียรเชื่อมด้วยแผ่นศิลา

พบทว่ี ดั เวยี งสระ อาเภอเวยี งสระ จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี ศิลปะอนิ เดียแบบโจฬะ
มีอายปุ ระมาณพทุ ธศตวรรษท่ี 16
ทาจากศลิ า พระวรกายลา่ สันบึกบนึ
สงู 53 เซนติเมตร
ปจั จุบันจดั แสดงอย่ทู พี่ พิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ พระนคร พระอรุ ะกลมแนน่ นนู

สวมกิรฏี มุกุฏทรงสงู สอบเข้าด้านบน พระพกั ตร์กลม

มสี ีก่ ร พระปรางค์อมู นนู เด่น
พระหตั ถ์ขวาล่างประทานอภัย
พระหัตถ์บนขวาถือสังข์ พระเนตรกลมโต
พระหัตถ์ซ้ายบนถือจักรด้วยปลายพระดัชนี
พระนาสกิ โด่งเปน็ สัน
และปลายพระมชั ฌมิ า พระโอษฐ์หนา
พระหตั ถซ์ ้ายลา่ งวางไวท้ พ่ี ระปรศั ว์
พระวษิ ณอุ ยใู่ นอิริยาบถยืนตรง สวมกิรีฏมุกุฏทรงสูง สอบเข้าด้านบน มี 4 กร คือ พระ
สายยัชโญปวีตเป็นเส้นโค้ง 3 เส้น หตั ถข์ วาลา่ งประทานอภัย พระหัตถ์ขวาบนทรงถือสังข์ พระหัตถ์ซ้ายบนทรงถือจักร พระหัตถ์
ตามพระวรกาย ซ้ายล่างทอดท่ีพระปรัศว์ การที่ทรงถือจักรและสังข์ด้วยปลายพระดัชนีและพระมัชฌิมา การ
แสดงภาพของจกั รและสงั ขท์ างดา้ นตรงแทนด้านข้าง สายยชั โญปวีตทเ่ี ปน็ เส้นโคง้ 3 เส้นตาม
ทรงพระภษู าโจงส้ัน พระวรกาย กอปรกับลกั ษณะของประติมากรรมน้ันเป็นลักษณะของศิลปะอินเดียแบบโจฬะ ซ่ึง
กาหนดอายเุ วลาได้ในชว่ งกลางพทุ ธศตวรรษท่ี 16 – กลาง 17

ประตมิ ากรรมชิ้นนี้น่าจะเป็นประติมากรรมที่ผลิตข้ึนมาเพ่ือเป็นของตกแต่งศาสนาสถาน
แห่งหน่ึงในพ้ืนท่ีเวียงสระ เนื่องจากด้านหลังของพระหัตถ์และพระเศียรมีการเชื่อมด้วยแผ่น
ศิลาเพ่อื ใหม้ คี วามแขง็ แรงและทนทานมากย่ิงขึ้น

จึงสามารถอนุมานได้วา่ ในชว่ งพุทธศตวรรษที่ 16 บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีและพ้ืนท่ี
โดยรอบยงั คงมกี ารนบั ถือศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดอู ยู่ และยังคงมีการได้รับอิทธิทางวัฒนธรรม
โดยเฉพาะอทิ ธพิ ลทางศิลปะจากอนิ เดีย คอื ศิลปะแบบโจฬะ

ประติมากรรมในประเทศไทย

พระวาสุเทว-กฤษณะ จากงานประติมากรรมทั้ง 3 ช้ิน จะเห็นได้ว่าเป็นประติมากรรมที่มีการค้นพบภายในในพ้ืนท่ีบริเวณ
จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานที ัง้ สิ้น แตท่ ง้ั สามกล็ ้วนแล้วแตเ่ ป็นพราหมณ์ศลิ ปท์ ้งั สน้ิ ชี้ให้เห็นว่าบริเวณจังหวัดน้ี
ได้มีการติดต่อสัมพันธ์กับอินเดีย หรือ ชมพูทวีปมาก่อนท่ีจะมีการก่อต้ังอาณาจักรศรีวิชัย (ต้นพุทธ
ศตวรรษท่ี 13–18) เน่ืองมาจากสภาพทางภูมิศาสตร์ท่ีมีพ้ืนที่ติดทะเล ทาให้การเดินทางมาค้าขายยัง
ดินแดนสวุ รรณภูมขิ องพ่อค้าและนักบวชชาวอนิ เดียสามารถเขา้ มาค้าขายและต้งั ถิ่นฐานได้อย่างสะดวก
มากยิ่งข้นึ

ด้วยการเข้ามาของพ่อค้าและนักบวชชาวอินเดียเข้ามายังพื้นที่แห่งน้ี ก่อให้เกิดการรับเอา
วัฒนธรรมอินเดียเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของตน โดยเฉพาะความเช่ือและศาสนา หาก
เราพิจารณาจากประติมากรรมท้ัง 3 ชิ้นข้างต้น เราจะได้ได้ว่าในดินแดนของจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มี
การเคารพนับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ลัทธิไวษณพนิกายมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 ซึ่งถือเป็นช่วง
กอ่ นการก่อตง้ั อาณาจกั รศรีวิชัย เรือ่ ยมาจนถึงพทุ ธศตวรรษท่ี 16

ประติมากรรมต่าง ๆ เหล่านี้ได้ปรากฏอิทธิพลทางศิลปกรรมของแต่ละยุคแต่ละสมัยต่างกัน คือ
พระวาสุเทว-กฤษณะ จะได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบอมราวดีตอนปลาย พระวิษณุสี่กร จะได้รับ
อิทธิลมาจากศลิ ปะแบบปลั ลวะ และ พระวิษณจุ ตุรภุช จะได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบโจฬะ สิ่งเหล่าน้ี
ล้วนชี้ให้เห็นว่าดินแดนบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีการติดต่อกับอินเดียมาโดยตลอด ไม่ได้มีการ
ติดต่อสมั พนั ธ์กนั เพยี งแค่ครัง้ เดียว

พระวษิ ณุสก่ี ร พระวษิ ณจุ ตรุ ภุช

เอกสารอ้างองิ

พิรยิ ะ ไกรฤกษ.์ (2553). รากเหง้าแห่งศิลปะไทย. กรงุ เทพฯ : ริเวอร์ บุค๊ ส์.

เ พ็ ญ ช ม พู . ( 2 5 5 0 ) . โ จ ฬ ะ ท มิ ฬ คื อ อ ะ ไ ร ค ะ . [อ อ น ไ ล น์ ]. สื บ ค้ น เ มื่ อ 3 0 ม ก ร า ค ม 2 5 6 5 , จ า ก
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/03/K5273269/K5273269.html

วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว. (ม.ป.ป.). หลักฐานท่ีพบเมืองโบราณเวียงสระ . [ออนไลน์]. สืบค้นเม่ือ 30 มกราคม 2565, จาก
https://inter.sru.ac.th/viangsa/หลักฐานทพี่ บ/

วิษณุ สมบญุ ปตี .ิ (2556). ประติมากรรมเทวรปู พระวษิ ณจุ ากอาเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. ด่ารงวิชาการ. 12(1), 137-152.

ศู น ย์ ม า นุ ษ ย วิ ท ย า สิ ริ น ธ ร ( อ ง ค์ ก า ร ม ห า ช น ) . ( ม . ป . ป . ) พ ร ะ วิ ษ ณุ . [อ อ น ไ ล น์ ]. สื บ ค้ น เ ม่ื อ 3 0 ม ก ร า ค ม 2 5 6 5 , จ า ก
http://sac.or.th/databases/thaiarts/artwork/231

ศู น ย์ ม า นุ ษ ย วิ ท ย า สิ ริ น ธ ร ( อ ง ค์ ก า ร ม ห า ช น ) . ( ม . ป . ป . ) พ ร ะ วิ ษ ณุ . [อ อ น ไ ล น์ ]. สื บ ค้ น เ ม่ื อ 3 0 ม ก ร า ค ม 2 5 6 5 , จ า ก
http://sac.or.th/databases/thaiarts/artwork/232

สันติ เล็กสุขุม. (2548). ประวัติศาสตร์ศิลปะไทย (ฉบับย่อ) : การเรมิ่ ตน้ และการสบื เนอ่ื งงานช่างในศาสนา. (พมิ พ์ครง้ั ท่ี 3). กรุงเทพฯ : เมอื งโบราณ.

ส า นั ก ศิ ล ป า ก ร ที่ 1 2 น ค ร ศ รี ธ ร ร ม ร า ช . ( 2 5 6 4 ) . เ มื อ ง โ บ ร า ณ เ วี ย ง ส ร ะ . [อ อ น ไ ล น์ ]. สื บ ค้ น เ ม่ื อ 3 0 ม ก ร า ค ม 2 5 6 5 , จ า ก
https://www.facebook.com/nakonsrifad14/posts/914188549180727

สภุ ัทรดศิ ดศิ กลุ , ม.จ. (2550). ศลิ ปะในประเทศไทย. (พมิ พ์คร้ังท่ี 13). กรุงเทพฯ : มติชน.


Click to View FlipBook Version