สัทอักษรภาษาจีน : พนิ อนิ จิระชยั แซต่ ้ัง
บทเรียนท่ี 5
พยัญชนะ z c s zh ch sh r
1. วธิ กี ารออกเสยี ง
z “จือ” เทียบได้กับเสียงพยัญชนะ “จ” ในภาษาไทย เป็นเสียงกึ่งเสียดแทรก
เสียงที่เกิดจากปลายลิ้น ไม่พ่นลม เส้นเสียงไม่สั่น วิธีการออกเสียง ขณะออกเสียงปลายลิ้น
ราบเรียบและแตะหลังฟันบน (ภาพท่ี1) หลังจากนั้นปลายลิ้นเคลื่อนไปหลังเล็กน้อยให้ลม
เสียดแทรกระหว่างชอ่ งปากและรอ่ งฟนั (ภาพที่2)
c “ชอื ” เทียบได้กับเสียงพยญั ชนะ “ช/ฉ” ในภาษาไทย เปน็ เสียงกง่ึ เสียดแทรก
เสียงท่ีเกิดจากปลายลิ้น พ่นลม เส้นเสียงไม่ส่ัน ตาแหน่งการออกเสียงและวิธีการออกเสียง
เหมอื น z แตเ่ สียง c เปน็ เสยี งพน่ ลม
1
จิระชัย แซต่ งั้ สทั อักษรภาษาจีน : พินอนิ
s “ซือ” เทียบได้กับเสียงพยัญชนะ “ซ/ส” ในภาษาไทย เป็นเสียงเสียดแทรก
เสียงที่เกิดจากปลายล้ิน ไม่พ่นลม เส้นเสียงไม่สั่น วิธีการออกเสียง ปลายลิ้นให้วางใกล้หลัง
ฟันล่าง หลังจากนนั้ ใหล้ มเสยี ดแทรกระหวา่ งกลางล้ินและฟันบน
zh “จือ1” เทียบได้กับเสียงพยัญชนะ “จ” ในภาษาไทยแต่เป็นเสียงยกล้ิน
เป็นเสียงกึ่งเสียดแทรก เสียงท่ีเกิดจากหลังปลายลิ้น ไม่พ่นลม เส้นเสียงไม่ส่ัน วิธีการออก
เสียง ปลายลิ้นม้วนข้ึนให้แตะเพดานแข็ง (ภาพที่1) หลังจากน้ันเลื่อนลิ้นลงเล็กน้อยให้ลม
เสยี ดแทรกผ่านปลายล้นิ กับเพดานแขง็ (ภาพท่ี2)
1 zh ch sh ใช้วธิ เี ทียบเคียงเสียงโดยขดี เส้นใต้ไว้ทีพ่ ยัญชนะ จือ ชอื ซอื หมายถึงเสยี งยกล้นิ ขณะออกเสยี ง
2
สทั อกั ษรภาษาจนี : พนิ อิน จริ ะชัย แซ่ต้ัง
ch “ชือ” เทียบได้กับเสียงพยัญชนะ “ช/ฉ” ในภาษาไทยแต่เป็นเสียงยกลิ้น
เป็นเสยี งก่ึงเสยี ดแทรก เสยี งที่เกดิ จากหลังปลายลนิ้ พ่นลม เสน้ เสยี งไม่สัน่ ตาแหน่งการออก
เสียงและวธิ กี ารออกเสยี งเหมอื น zh แตเ่ สียง ch เปน็ เสียงพน่ ลม
sh “ซือ” เทียบได้กับเสียงพยัญชนะ “ซ/ส” ในภาษาไทยแต่เป็นเสียงยกล้ิน
เป็นเสียงเสียดแทรก เสียงที่เกิดจากหลังปลายลิ้น ไม่พ่นลม เส้นเสียงไม่สั่น วิธีการออกเสียง
ปลายล้ินม้วนข้ึนให้เข้าใกล้เพดานแข็ง หลังจากน้ันให้ลมเสียดแทรกระหว่างปลายลิ้นและ
เพดานแขง็
r “รือ” เทียบไดก้ ับเสียงพยัญชนะ “ร” ในภาษาไทย เสยี งเสียดแทรก เป็นเสยี ง
ท่ีเกิดจากหลังปลายล้ิน ไม่พ่นลม เส้นเสียงส่ัน ตาแหน่งการออกเสียงและวิธีการออกเสียง
เหมือน sh แต่เสยี ง r เปน็ เสียงสั่นสะเทอื นขณะออกเสยี ง
3
จริ ะชัย แซต่ งั้ สัทอกั ษรภาษาจีน : พนิ อนิ
2. ตารางที่ 9 การประสมเสยี งพยัญชนะและสระ
พยญั ชนะ สระเดีย่ ว u ü
ɑ o e er -i(ออื )
zu -
z zɑ - ze - zi cu -
c cɑ - ce - ci su -
s sɑ - se - si zhu -
zh zhɑ - zhe - zhi chu -
ch chɑ - che - chi shu -
sh shɑ - she - shi ru -
r - - re - ri
3. หลกั เกณฑพ์ นิ อนิ
3.1 สระ i (อ)ี และ-i (อือ) มีรูปเขียนทเ่ี หมือนกันแต่มีการแบ่งหนา้ ที่ในการประสม
กับพยัญชนะ คือ สระ i (อี) ประสมกับพยัญชนะ j q x ส่วนสระ-i (อือ) จะประสมกับ
พยญั ชนะ z c s zh ch sh r
3.2 ข้อสังเกต พยัญชนะ j q x และ z c s zh ch sh เป็นเสียงที่เทียบกับ
ภาษาไทยแล้วจะได้กลุม่ เสยี งทีเ่ หมอื นกันดังนี้
j /z zh = จ
q /c ch = ช/ฉ
x /s sh = ซ/ส
ดังนั้นจึงทาให้ผู้เรียนชาวไทยมักจะสับสนคือ ไม่สามารถแยกได้ว่าพยัญชนะ j q x
และ z c s zh ch sh ทาหน้าท่ีประสมกับสระตัวไหนได้บ้าง หลักการจดจาง่าย ๆ คือ ใน
กลุ่มพยัญชนะ j q x จะประสมกับสระในกลุ่ม i (อี) และ ü เทา่ น้ัน (ดตู ารางท่ี 8 หน้า 28)
ส่วนในกลุ่มพยัญชนะ z c s zh ch sh รวมท้ัง r จะไม่ประสมกับสระในกลุ่ม i (อี) และ
ü แตจ่ ะประสมกบั สระ –i (อือ) u และสระอนื่ ๆ (ดตู ารางที่ 9 หน้า 38)
*ข้อควรระวัง z ในภาษาจีนคือเสียง “จ” ส่วน z ในภาษาอังกฤษคือเสียง “ซ”
ซ่ึงผู้เรียนภาษาจีนเริ่มแรกมักจะสับสนระหว่างเสียงในภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ทาให้
ออกเสียงผดิ อยู่บอ่ ยคร้ัง
4
สัทอกั ษรภาษาจนี : พนิ อิน จริ ะชัย แซต่ ง้ั
4. แบบฝกึ การออกเสียง zh
b
4.1 ฝกึ ออกเสียงพยัญชนะดังต่อไปน้ี csz t
sh ch r
□A z c s pfm
□B zh ch sh r ndl
□C b p m f khɡ
□D d t n l xqj
□E ɡ k h
□F j q x
4.2 ฝกึ ออกเสียงพยางค์เสียงดังตอ่ ไปนี้
□A zɑ ze zi zu
□B zhɑ chɑ shɑ cɑ
□C ce se zhe che
□D ci si chi shi
□E zhu chu shu ru
4.3 ฝกึ ออกเสียงพยางค์เสียงพร้อมวรรณยุกตด์ ังต่อไปนี้
□A sā sá sǎ sà
□B cē cé cě cè
□C zū cú sǔ rù
□D zhī chí shǐ rì
□E zě shā sī zhù
5
จริ ะชยั แซ่ตัง้ สทั อักษรภาษาจนี : พนิ อิน
4.4 ฝึกอ่านคาศพั ท์ดงั ต่อไปนี้
□A zájì èrshí sìshí
shùmù 杂技 二十 四十
树木
กายกรรม เลขยส่ี ิบ เลขส่สี บิ
ตน้ ไม้
□B zhīzhū shāfā chúshī
mǎchē 蜘蛛 沙发 厨师
马车
แมงมุม โซฟา พอ่ ครวั
รถม้า
□C
làzhú zázhì èyú sùshè
蜡烛 杂志 鳄鱼 宿舍
เทียนไข นติ ยสาร จระเข้ หอพัก
6
สทั อักษรภาษาจนี : พนิ อนิ จริ ะชยั แซ่ตง้ั
□D
lǜsè rìjì shālā shízhǐ
绿色 日记 沙拉 食指
สเี ขยี ว บนั ทกึ ประจาวนั สลัด นวิ้ ชี้
□E zǔmǔ zǐnǚ rìlì
mǔzhǐ 祖母 子女 日历
拇指
ย่า ลูกชายลกู สาว ปฏทิ ิน
นวิ้ หัวแมม่ อื
7
จริ ะชัย แซต่ งั้ สัทอกั ษรภาษาจีน : พนิ อิน
บทเรียนที่ 6
สระประสม ɑi ei ɑo ou iɑ ie uɑ uo üe
สระประสมในบทนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มสระประสมเน้นเสียง
หน้า เป็นกลุ่มท่ีออกเสียงสระหน้าชัดและยาวกว่าเสียงสระหลัง ได้แก่สระประสม ɑi ei
ɑo ou 2. กลุ่มสระประสมเน้นเสียงหลัง เป็นกลุ่มท่ีออกเสียงสระหลังชัดและยาวกว่าเสียง
สระหน้า ไดแ้ กส่ ระประสม iɑ ie uɑ uo üe
1. วธิ ีการออกเสยี ง
ɑi “ไอ” เทียบได้กับเสียงสระ “ไ-” ในภาษาไทย เปน็ สระเน้นเสียงหน้า ไม่พ่น
ลม เส้นเสยี งสั่น ออกเสยี งสระ ɑ ให้ชดั และยาวกวา่ สระ i วธิ ีการออกเสยี ง ออกเสียงสระ ɑ
แตป่ ากจะเปดิ น้อยกว่า (ภาพท่ี1) จากนน้ั ออกเสียงสระ i โดยล้นิ สว่ นหนา้ จะเคล่ือนจากลา่ ง
ขน้ึ บนคอ่ นหนา้ ใกล้เพดานแขง็ (ภาพท2ี่ )
ei “เอย” เทียบได้กับเสียง “เ-ย” ในภาษาไทย เป็นสระเน้นเสียงหน้า ไม่พ่น
ลม เสน้ เสียงส่ัน ออกเสียงสระ e ให้ชัดและยาวกวา่ สระ i วิธกี ารออกเสียง ออกเสยี งสระ e
โดยอา้ ปากกว้างเพียงครง่ึ หนึ่งของเสียงสระ ɑ ตาแหน่งล้ินอยู่ค่อนสูง (ภาพที่1) จากนั้นค่อย
ๆ ยกลิ้นสว่ นหน้าขน้ึ ใหใ้ กล้กบั เพดานแขง็ พร้อมกบั ออกเสียงสระ i ใหส้ ้นั และเบา (ภาพท่ี2)
8
สทั อกั ษรภาษาจีน : พนิ อนิ จิระชัย แซต่ ้ัง
ɑo “อาว” เทียบได้กบั เสียงสระ “เ-า” ในภาษาไทย เป็นสระเน้นเสียงหน้า ไม่
พ่นลม เสียงเสียงสั่น ออกเสียงสระ ɑ ให้ชัดและยาวกว่าสระ o วิธีการออกเสียง ตาแหน่ง
การออกเสียงสระ ɑ อยู่ที่บริเวณโคนล้ิน ออกเสียงสระ ɑ แต่ปากจะเปิดน้อยกว่า (ภาพท่ี1)
หลังจากน้ันยกโคนลิ้นขึ้นให้สูงใกล้เพดานอ่อนพร้อมออกเสียงสระ o ให้ส้ันและเบา โดยห่อ
ปากกลมขณะออกเสียงสระ o (ภาพท2ี่ )
ou “โอว” เป็นสระเน้นเสียงหน้า ไม่พ่นลม เส้นเสียงส่ัน ออกเสียงสระ o ให้
ชัดและยาวกว่าสระ u วิธีการออกเสียง ปลายลิ้นวางใกล้บริเวณหลังฟันล่าง ห่อปากกลม
ขณะออกเสียงสระ o (ภาพท่ี1) จากนั้นให้โคนล้ินยกสูงข้ึนใกล้เพดานอ่อนพร้อมกับค่อย ๆ
ขยับปากเป็นวงกลมขนาดเล็กพร้อมออกเสียง u ให้สน้ั และเบา (ภาพท2ี่ )
9
จริ ะชัย แซต่ ง้ั สัทอักษรภาษาจนี : พินอิน
iɑ “เอีย2” เป็นสระเน้นเสียงหลัง ไม่พ่นลม เส้นเสียงสั่น ออกเสียงสระ ɑ ให้
ชัดและยาวกว่าสระ i วิธีการออกเสียง ลิ้นส่วนหน้าจะอยู่ใกล้กับเพดานแข็ง ออกเสียงสระ
i (ภาพท่ี1) จากน้ันเลื่อนล้ินส่วนหน้าจากบนลงล่าง ปากเปิดกว้างปานกลาง พร้อมออก
เสียงสระ ɑ (ภาพท่ี2)
ie “เอี ย” (ie มาจากการประสมของสระi+ê ซึ่งรูปเขียนให้ละ
เคร่ืองหมาย ^ ) เทียบได้กับเสียงสระ “เ-ีย” ในภาษาไทย เป็นสระเน้นเสียงหลัง ไม่พ่นลม
เส้นเสียงสั่น ออกเสียงสระ ê ให้ชัดและยาวกว่าสระ i วิธีการออกเสียง ล้ินส่วนหน้าอยู่ใน
ระดับสูงใกล้เพดานแข็ง ออกเสียงสระ i (ภาพที่1) จากน้ันออกเสียงสระ ê โดยเปิดปาก
เพยี งเล็กนอ้ ย ลน้ิ ส่วนหนา้ เล่อื นจากบนลงลา่ ง (ภาพท2่ี )
uɑ “วา” เป็นสระเน้นเสียงหลัง ไม่พ่นลม เส้นเสียงส่ัน ออกเสียงสระ ɑ ให้ชัด
และยาวกว่าสระ u วิธีการออกเสียง เมื่อออกเสียงสระ u ริมฝีปากห่อกลม โคนล้ินอยู่ใกล้
บริเวณเพดานออ่ น (ภาพท1ี่ ) จากนั้นออกเสียงสระ ɑ โดยปากจะเปดิ กว้างปานกลาง โคนลิ้น
เลอ่ื นจากบนลงล่าง (ภาพท2่ี )
2 สระประสม iɑ และ ie ในหนงั สอื เลม่ น้ีใชว้ ธิ มี กี ารเทยี บเสียงเหมือนกนั คอื เอีย ซงึ่ iɑ ออกเสยี งคลา้ ยกับเสียง
เอยี แต่ปากจะเปิด ในขณะท่ี ie เมอื่ ออกเสียงปากจะปิด ขอให้ผ้เู รียนดูคลปิ ประกอบการเรียนรู้
10
สทั อกั ษรภาษาจีน : พนิ อนิ จริ ะชัย แซ่ตง้ั
uo “อัว” เทียบไดก้ ับเสยี งสระ “-ัว” ในภาษาไทย เป็นสระเนน้ เสยี งหลัง ไมพ่ ่น
ลม เส้นเสียงส่ัน ออกเสียงสระ o ให้ชัดและยาวกว่าสระ u วิธีการออกเสียง เม่ือออกเสียง
สระ u ริมฝีปากห่อกลม ตาแหน่งโคนลิ้นอยู่ในระดับสูงใกล้เพดานอ่อน (ภาพที่1) จากนั้น
ออกเสยี งสระ o โดยริมฝปี ากขยายออกเลก็ นอ้ ย โคนลน้ิ เลื่อนจากบนลงลา่ ง (ภาพท2่ี )
üe “เยว์” (üe มาจากการประสมของสระü+ê ซ่ึงรูปเขียนให้ละ
เคร่ืองหมาย ^ ) เป็นสระเน้นเสียงหลัง ไม่พ่นลม เส้นเสียงส่ัน ออกเสียงสระ ê ให้ชัดและ
ยาวกว่าสระ ü วิธีการออกเสียง ออกเสียงสระ ü ริมฝีปากห่อกลม ลิ้นส่วนหน้าอยู่ใน
ระดับสูงใกล้เพดานแข็ง (ภาพที่1) จากนั้นออกเสียงสระ ê โดยริมฝีปากค่อย ๆ เปดิ ออก ลิ้น
สว่ นหน้าเลื่อนจากบนลงล่าง (ภาพท2ี่ )
2. ตารางที่ 10 การประสมเสียงพยัญชนะและสระ
พยัญชนะ สระประสม
ɑi ei ɑo ou iɑ ie uɑ uo üe
b bɑi bei bɑo - - bie - - -
p pɑi pei pɑo pou - pie - - -
m mɑi mei mɑo mou - mie - - -
f - fei - -- - - -
d dɑi dei dɑo dou diɑ die - duo -
11
จริ ะชยั แซ่ตัง้ สัทอักษรภาษาจนี : พินอิน
พยัญชนะ สระประสม
ɑi ei ɑo ou iɑ ie uɑ uo üe
t tɑi tei tɑo tou - tie - tuo -
n nɑi nei nɑo nou - nie - nuo nüe
l lɑi lei lɑo lou liɑ lie - luo lüe
ɡ ɡɑi ɡei ɡɑo ɡou - - ɡuɑ ɡuo -
k kɑi kei kɑo kou - - kuɑ kuo -
h hɑi hei hɑo hou - - huɑ huo -
j - - - - jiɑ jie - - jue
q - - - - qiɑ qie - - que
x - - - - xiɑ xie - - xue
z zɑi zei zɑo zou - - - zuo -
c cɑi - cɑo cou - - - cuo -
s sɑi - sɑo sou - - - suo -
zh zhɑi zhei zhɑo zhou - - zhuɑ zhuo -
ch chɑi - chɑo chou - - chuɑ chuo -
sh shɑi shei shɑo shou - - shuɑ shuo -
r - - rɑo rou - - - ruo -
3. หลกั เกณฑพ์ นิ อนิ
3.1 พยางค์เสียงท้ายที่ขึ้นต้นด้วยสระ ɑ o e เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการแยก
พยางค์เสียง ให้ใช้สัญลักษณ์( ’)เก๋ออินฝูห่าว (ɡéyīnfúhào-隔音符号)ใน
การแยกเสียง เช่น nǚ’ér(女儿-ลูกสาว) pí’ǎo(皮袄-เสื้อคลุมขนสัตว์)
xī’ān (西安-ซีอาน)
3.2 สระประสม ɑi ei ɑo ou สามารถเปน็ พยางคเ์ สยี งโดยลาพงั ประเภทไมม่ กี าร
เปลีย่ นแปลงรปู เขียน
3.3 สระประสม iɑ ie uɑ uo üe สามารถเป็นพยางค์เสียงโดยลาพังประเภทมี
การเปลยี่ นแปลงรูปเขียน สระประสม iɑ ie ให้เปลยี่ น i เป็น y ส่วนสระประสม uɑ uo
ให้เปล่ียน u เป็น w สระประสม üe ให้นาจุดสองจุดได้บนออกและเติม y ไว้หน้าพยางค์
เสียง (ดตู ารางท่ี 11)
12
สทั อักษรภาษาจนี : พินอนิ จิระชัย แซต่ งั้
ตารางที่ 11 การเปลี่ยนแปลงรูปเขยี นของสระ
สระประสม iɑ ie uɑ uo üe
เอยี เอยี วา อัว เยว์
สระประสมเม่ือเปน็ พยางคเ์ สียงโดยลาพงั yɑ ye wɑ wo yue
และเสียงอ่าน ยา เย วา ววั เยว์
3.4 การเติมเคร่ืองหมายวรรณยุกต์ในสระประสมนั้นให้เรยี งลาดับก่อนหลงั ดงั น้ี
ɑ→o→e→i→u→ü
หากสระประสมใดมีสระ ɑ กใ็ หใ้ ส่วรรณยุกต์ที่สระ ɑ ก่อน เช่น bǎo shuā jiā
หากไม่มีสระ ɑ ก็ให้เรียงตามสระถัดไปคือสระ o เช่น dōu ɡuō หากไม่มีสระ ɑ o ก็ให้ใส่
วรรณยุกต์ท่ีสระถัดไปคือสระ e เชน่ lèi jiē เปน็ ตน้
3.5 พยัญชนะ j q x จะประสมกับสระประสมท่ีขึ้นต้นด้วย i (อี) และ ü เท่านั้น
และไม่ต้องใส่จดุ สองจุดดา้ นบน ตัวอย่างเช่น jué quē xuè ส่วนในกลุ่มพยญั ชนะ z c s
zh ch sh r จะไม่ประสมกับสระประสมที่ขึ้นต้นด้วย –i (อี) และ u ซ่ึงเป็นหลักการ
เดียวกันในหลักเกณฑ์พินอินบทท่ี 3 หน้า 29 และบทที่ 5 ข้อ 3.2 หน้า 39 (ดูตารางท่ี 22-
23 หน้า 100-101)
3.6 สระประสม ie และ üe มาจากการประสมของสระ i+ê และ ü+ê ดังนน้ั e
ในสระประสมของสองพยางค์เสียงนี้จึงออกเสียง “เอ” ไม่ออกเสียง “เออ” แต่รปู เขยี นใหล้ ะ
เครือ่ งหมาย “^”
3.7 สระประสมท่ีผู้เรียนชาวไทยมักออกเสียงผิดคือเสียง iɑ ie ซ่ึงป็นเสียงที่
ใกล้เคียงกัน แต่เสียง iɑ เป็นเสียงปากเปิด ส่วนเสียง ie เป็นเสียงปากปิด (ดูภาพดา้ นล่าง
ประกอบ)
ปากเปดิ ปากปดิ
iɑ ie
13
จิระชยั แซ่ตงั้ สัทอักษรภาษาจีน : พนิ อิน
4. แบบฝกึ หัด
4.1 ฝึกออกเสียงสระและพยัญชนะดงั ต่อไปน้ี
□A ɑi ei ɑo ou ei ou ɑi ɑo
□B iɑ uɑ uo üe uo ie iɑ üe
□C b p m f mpfb
□D d t n l lndt
□E ɡ k h kɡh
□F j q x qxj
□G z c s csz
□H zh ch sh r sh r ch zh
4.2 ฝกึ ออกเสียงพยางค์เสียงดังต่อไปน้ี die
ɡou
□A bei pɑo mou fei qie
□B duo tɑi nei lie zhuɑ
□C kɑi hei hɑo jiɑ yue
□D xie zɑo cou suo
□E chuo shɑi rou lüe
4.3 ฝกึ ออกเสียงพยางค์เสียงพรอ้ มวรรณยุกต์ดังต่อไปนี้
□A bāo báo bǎo bào
□B lēi léi lěi lèi
□C zài cái sāi zǎi
14
สัทอักษรภาษาจีน : พนิ อิน จริ ะชยั แซ่ตง้ั
mǒu ɡòu
□D dōu hóu diě xiè
□E jiē qié shuǎ ruò
□F zhāo chóu xuē jué
□G lüě yuè
4.4 ฝกึ อา่ นคาศัพทด์ งั ต่อไปน้ี○CD
□A mù’ǒu bèibāo jiājù
lǎoshī 木偶 背包 家具
老师
หุ่นไม้ กระเปา๋ เป้ เครอื่ งเรือน
คร,ู อาจารย์
□B húdié fēijī huǒɡuō
lǜdòu 蝴蝶 飞机 火锅
绿豆
ผีเสอ้ื เครอื่ งบนิ สุกี้
ถ่วั เขียว
15
จริ ะชยั แซต่ ั้ง สทั อักษรภาษาจีน : พนิ อิน
□C yòushǒu tiělù báicài
shuāyá 右手 铁路 白菜
刷牙
มือขวา ทางรถไฟ ผักกาดขาว
แปรงฟัน
□D jiéjué yuèpǔ shùyè
lóutī 孑孓 乐谱 树叶
楼梯
ลกู น้า โนต๊ เพลง ใบไม้
บนั ได
□E kǎoshì zhāijiè jīròu
xuéxí 考试 斋戒 鸡肉
学习
สอบ ถอื ศีลกินเจ เน้อื ไก่
เรยี น
16
สทั อักษรภาษาจนี : พินอิน จริ ะชัย แซต่ ้ัง
□F hǎimǎ jǔshǒu tiějiǎ
lǎohǔ 海马 举手 铁甲
老虎
ม้านา้ ยกมอื เสื้อเกราะ
เสือ
17