The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สัทอักษรภาษาจีน 1-2 (วชช)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jirachai.st, 2021-03-11 01:55:05

สัทอักษรภาษาจีน 1-2 (วชช)

สัทอักษรภาษาจีน 1-2 (วชช)

สทั อักษรภาษาจีน : พินอิน จิระชัย แซ่ตงั้

บทนา

ความรู้เบอื้ งต้นเกี่ยวกบั สทั อักษรภาษาจีน : พนิ อิน

ภาษาจีนเป็นภาษาที่ไม่สามารถสะกดเสียงได้ ดังนั้นต้ังแต่ในอดีตจึงมีวิธีการใช้
สัญลักษณ์ในการบันทึกเสียงอ่านของอักษรจีนโดยเริ่มแรกได้ใช้วิธีการ จื๋ออินฝ่า1(zhí
yīnfǎ -直音法)และ ฝ่านเชี่ยฟ่า(fǎnqiēfǎ-反切法)แต่วิธีการทั้งสองนี้
ล้วนแต่มีจดุ ด้อยคือผู้ใช้จะต้องรู้จกั อักษรจีนเปน็ จานวนมาก มเิ ช่นนั้นจะไม่สามารถอ่านเสยี ง
อักษรจีนที่มเี สียงเหมือนกนั หรือใกล้เคียงกันได้ ต่อมาได้มกี ารพัฒนาโดยใช้ระบบ จู้อินจื้อหมู่
(zhùyīn zìmǔ-注音字母)และประกาศใช้ข้ึนในปี 1918 แม้ว่าวิธีการน้ีจะดีกว่า
วธิ ีการก่อนหนา้ ก็ตาม แต่วธิ ีการสะกดและออกเสียงก็ไม่ถูกต้องเพียงพอ อีกทั้งวธิ ีการเขียนก็
ยากต่อการจดจาอีกด้วย จนกระท้ังในปี 1958 ได้มีการประกาศใช้ระบบ ฮ่ันอี่ว์พินอินฟังอั้น
(hànyǔ pīnyīn fānɡàn -《汉语拼音方案》)ซ่ึงเป็นวิธีการสะกดเสียง
ภาษาจีนท่ีนิยมใช้กันในปัจจุบัน ฮ่ันอ่ีว์พินอินฟังอั้นหรือเรียกส้ัน ๆ ว่า “พินอิน” เป็นวิธีการ
สะกดเสียงท่ีแก้ไขจุดบกพร่องของวิธีการท้ังหมดข้างต้น โดยใช้อักษรโรมันท่ีมีความเป็น
สากล และงา่ ยตอ่ ผเู้ รียน

ตามการแบ่งของระบบเสียงของ Huɑnɡ Boronɡ ɑnd Liɑo Xudonɡ
(2013: 32) ในภาษาจีนพยัญชนะมี 22 เสียง แบ่งเป็นพยัญชนะต้น 21 เสียงและพยัญชนะ
ท้าย 1 เสียง สระมี 39 เสียง แบ่งเป็นสระเด่ียว 10 เสยี งและสระประสม 29 เสียง (ดูตาราง
ที่ 1, 2, 3, 4)

1 การเทยี บเสียงในหนังสือเล่มนี้ประยุกต์โดยเลือกใช้เสยี งจากหลักเกณฑ์การทบั ศัพท์ 3 ฉบับ ได้แก่ 1. หลักเกณฑก์ าร

ทบั ศัพท์ภาษาจีน ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2550 2. เกณฑ์การถา่ ยถอดเสียงภาษาจีนแมนดารนิ ด้วยอกั ขรวิธีไทย
โดยคณะกรรมการสืบค้นประวัติศาสตร์ไทยในเอกสารจีน สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 3.หลักเกณฑ์การทับศัพท์
ภาษาจีนกลาง ฉบับทางเลอื ก ของชมรมความรูไ้ รพ้ รมแดน www. All-CHINESE.com ส่วนเสยี งพยญั ชนะท้าย nɡ ใช้
วธิ ีเทียบเสียงจากพจนานกุ รมจีน – ไทย ฉบบั ใหม่ (ฉบับพิมพ์หนังสอื ตัวย่อ) เธียรชัย เอ่ยี มวรเมธ เนอ่ื งจากหลกั เกณฑ์
การทับศพั ทข์ อง 3 ฉบบั ข้างต้นไม่ปรากฏการเทยี บเคยี งเสยี งพยัญชนะท้าย nɡ

7

จิระชยั แซต่ ั้ง สทั อกั ษรภาษาจนี : พินอิน

b ตารางที่ 1 พยญั ชนะตน้ 21 เสียง

ปัว พยัญชนะ f ลกั ษณะการออกเสียง
รมิ ฝปี าก
d pm ฟวั
(ริมฝีปากบน รมิ ฝปี ากล่าง)
เตอ พัว มวั l ริมฝปี าก

ɡ tn เลอ (ฟนั บน ริมฝปี ากลา่ ง)
ปลายลน้ิ
เกอ เทอ เนอ r
(ปลายลน้ิ เหงือกด้านบน)
j kh รอื โคนล้นิ

จี เคอ เฮอ (โคนลิ้น เพดานออ่ น)
หนา้ ลนิ้
zh qx
(ลน้ิ ส่วนหน้า เพดานแขง็ )
จอื ชี ซี หลังปลายลิ้น

z ch sh (ปลายลิน้ หลงั เหงือกฟัน)
หนา้ ปลายล้นิ
จือ ชือ ซอื
(ปลายล้นิ หลงั ฟันบน)
cz

ชือ ซอื

ตารางที่ 2 พยญั ชนะทา้ ย 1 เสียง
nɡ โคนลิน้
องึ (โคนลน้ิ เพดานอ่อน)

ตารางท่ี 3 สระเด่ียว 10 เสียง

ɑ o e i u ü -i1 -i2 ê er

อา ออ เออ อี อู อีว์ ออื ออื เอ เออร์

(หนา้ (หลงั

8 ลนิ้ ) ลิน้ )

สทั อกั ษรภาษาจีน : พินอนิ จริ ะชยั แซต่ ้งั

ตารางที่ 4 สระประสม 29 เสียง

สระเดย่ี ว สระผสม สระผสม สระผสมเสยี งนาสิก
เสยี งนาสิก เสยี งแมก่ ง
เสยี งแมก่ น

ขน้ึ ตน้ ดว้ ย ɑi ei ɑo ou ɑn en ɑnɡ enɡ onɡ
สระ ไอ เอย อาว โอว อาน เอิน อัง เอิง อง

ɑoe
ขน้ึ ต้นดว้ ย iɑ ie iɑo iou iɑn in iɑnɡ inɡ ionɡ
สระ i เอยี เอยี เอียว (iu) เอยี น อนิ เอียง องิ โอง

อิว

ขึ้นตน้ ด้วย uɑ uo uɑi uei uɑn uen uɑnɡ uenɡ
สระ u วา อัว อวย (ui) อวน (un) อวง เวิง

อุย อนุ

ขน้ึ ตน้ ด้วย üe üɑn ün
สระ ü เยว์ เอวียน อวนิ

ในภาษาจนี นอกจากระบบการสะกดด้วยพินอินท่ีนิยมใชก้ ันในปัจจุบันแล้ว ยงั มกี าร
สะกดด้วยสัทอักษรสากล นอกจากน้ีการสะกดด้วยจู้อินก็ยังคงมีชาวจีนบางส่วนนิยมใช้
โดยเฉพาะในไต้หวนั (ดูตารางที่ 5) ซึง่ ในบทเรยี นจะกล่าวถึงเฉพาะพนิ อินเท่านน้ั

1 -i อือ (หน้าล้ิน) หมายถึง เสียงที่เกิดจากหน้าล้ิน ได้แก่เสียง -i อือ ท่ีประสมกับ z c s ดูวิธีการออกเสียง
เพมิ่ เตมิ ในบทท่ี 6
2 -i ออื (หลงั ลิน้ ) หมายถงึ เสียงที่เกดิ จากหลงั ล้นิ ได้แกเ่ สียง -i อือ ทปี่ ระสมกับ zh ch sh r ดูวิธีการออกเสียง
เพม่ิ เติมในบทท่ี 6

9

จริ ะชยั แซต่ ง้ั สทั อกั ษรภาษาจีน : พนิ อนิ

ตารางท่ี 5 เปรียบเทียบ พินอนิ จอู้ นิ และสัทอกั ษรสากล

พินอิน จู้อิน สัทอักษร พนิ อิน จอู้ นิ สทั อักษร พินอิน จู้อิน สัทอักษร
拼音 注音 สากล 拼音 注音 สากล 拼音 注音 สากล
字母 符号 字母 符号 字母 符号
国际 国际 国际
音标 音标 音标

b ㄅ [b] z ㄗ [ts] iɑ ㄧㄚ [iɑ]

p ㄆ [bʻ] c ㄘ [tsʻ] ie ㄧㄝ [iɛ]

m ㄇ [m] s ㄙ [s] iɑo ㄧㄠ [iɑu]

f ㄈ [fʻ] ɑ ㄚ [A] iou ㄧㄡ [iou]

v 万 [v] o ㄛ [o] iɑn ㄧㄢ [iæn]

d ㄉ [t] e ㄜ [ɣ] in ㄧㄣ [in]

t ㄊ [tʻ] ê ㄝ [] iɑnɡ ㄧㄤ [iɑŋ]
n ㄋ [n] i ㄧ [i] inɡ ㄧㄥ [iŋ]

l ㄌ [l] -iหนา้ 币 [ɿ] uɑ ㄨㄚ [uɑ]

ɡ ㄍ [k] -iหลงั 币 [ʅ] uo ㄨㄛ [uo]

k ㄎ [kʻ] u ㄨ [u] uɑi ㄨㄞ [uɑi]

nɡ 兀 [ŋ] ü ㄩ [y] uei ㄨㄟ [uei]

h ㄏ [x] er ㄦ [ɚ] uɑn ㄨㄢ [uan]

j ㄐ [tɕ] ɑi ㄞ [ɑi] uen ㄨㄣ [uən]

q ㄑ [tɕʻ] ei ㄟ [ei] uɑnɡ ㄨㄤ [uɑŋ]

/ 广 [ȵ] ɑo ㄠ [ɑu] uenɡ ㄨㄥ [uəŋ]

x ㄒ [ɕ] ou ㄡ [ou] onɡ ㄨㄥ [uŋ]

zh ㄓ [tʂ] ɑn ㄢ [an] üe ㄩㄝ [yɛ]

ch ㄔ [tʂ] en ㄣ [ən] üɑn ㄩㄢ [yæn]

sh ㄕ [ʂʻ] ɑnɡ ㄤ [ɑŋ] ün ㄩㄣ [yn]

r ㄖ [ʐ] enɡ ㄥ [əŋ] ionɡ ㄩㄥ [yŋ]

สัทอักษรสากลในตารางน้ีโดยรวมเป็นเครื่องหมายการออกเสียงแบบค่อนข้าง
เคร่งครัด หากใช้เคร่ืองหมายการออกเสียงท่ีไม่เคร่งครัด ɑ A a และ ɛที่อยู่ระหว่าง i กับ
n สามารถใช้เครอ่ื งหมาย a (Huɑnɡ Boronɡ ɑnd Liɑo Xudonɡ, 2013: 29)

10

สทั อกั ษรภาษาจีน : พนิ อนิ จริ ะชยั แซ่ตงั้

ภาพอธบิ ายอวยั วะในการออกเสยี ง

คาอธิบายสญั ลกั ษณภ์ าพ
หมายถึง เส้นเสียงสัน่

หมายถึง ชอ่ งเสียงปิด,เสน้ เสียงไมส่ ่ัน

หมายถงึ ชอ่ งเสียงเปิด,เสน้ เสยี งไมส่ นั่

หมายถงึ มลี มออก

หมายถึงพน่ ลม(อย่างแรง)

1. ริมฝีปากบน 7. ลิ้นสว่ นหนา้ 13. ล้ินไก่
2. ริมฝีปากลา่ ง 8. กลางล้ิน 14. เพดานอ่อน
3. ฟันบน 9. โคนลิน้ 15. เพดานแข็ง
4. ฟันลา่ ง 10. หลอดลม 16. โพรงจมูก
5. เหงอื กฟัน 11. เสน้ เสียง 17. ช่องปาก
6. ปลายลิ้น 12. คอหอย
11

จิระชัย แซต่ ง้ั สัทอักษรภาษาจนี : พนิ อนิ

ภาพตาแหนง่ ล้ินในการออกเสยี งสระ

ภาพตาแหน่งลิน้ ในการออกเสียงนน้ั จะใช้ประกอบการอธิบายตาแหน่งการออก

เสยี งของสระประสมต้ังแตบ่ ทท่ี 6-9

ตาแหน่งสูงตา่ ของลนิ้ ตาแหน่งหน้าหลังของลิน้
หน้า กลาง หลงั

สงู

สูงกลาง

ต่ากลาง

ตา่

คาอธบิ ายเพ่มิ เตมิ
1. สัญลักษณ์ ⃝ หมายถงึ เสียงสระทีร่ ิมฝีปากกลมขณะออกเสยี ง
2. สัญลกั ษณ์ใน [ ] คือสัทอักษรสากล
3. สระ e ɑ มีตาแหน่งในการออกเสียงได้หลายตาแหน่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออก
เสยี งของสระประสมนั้น ๆ (ดูในบทที่ 6-9)

12

สทั อักษรภาษาจีน : พนิ อิน จิระชัย แซต่ ั้ง

บทเรยี นท่ี 1

สระเดี่ยว ɑ o e er ê i u ü
และพยัญชนะ b p m f

1. วิธีการออกเสียง1

ɑ “อา2” เทียบได้กับเสียงสระ “-า” ในภาษาไทย ไม่พ่นลม เส้นเสียงสนั่ วิธีการ

ออกเสยี ง อา้ ปากกว้าง ตาแหน่งลน้ิ อยใู่ นระดับตา่ สดุ ริมฝีปากไม่ห่อกลม

o “ออ” เทียบได้กับเสียงสระ “-อ” ในภาษาไทย ไม่พ่นลม เส้นเสียงส่ัน วิธีการ

ออกเสียง อ้าปากกว้างระดับปานกลาง ตาแหน่งล้ินอยใู่ นระดับสงู กลาง โคนล้ินค่อนหลัง ริม
ฝีปากห่อกลม

1 หวั ข้อท่มี ีสัญลกั ษณ์ สามารถฟังเสยี งและดูคลปิ วิดโี อประกอบการเรยี นรู้
2 เสียงสัทอักษรภาษาจีนทีเ่ ขียนกากับดว้ ยภาษาไทยในหนงั สอื เล่มน้ีเป็นการเทียบเคียงเสียงท่เี หมือนหรือใกล้เคยี งกับ
ภาษาจนี ดงั นัน้ ขอให้ผ้เู รียนฟังเสยี งและดูคลิปจากซีดีเปน็ หลกั ควบคกู่ ับการเรียนหนังสือสทั อักษรภาษาจีน : พนิ อิน

13

จริ ะชัย แซ่ตงั้ สัทอกั ษรภาษาจีน : พินอิน

e “เออ” เทยี บไดก้ ับเสียงสระ “เ-อ” ในภาษาไทย ไมพ่ น่ ลม เส้นเสยี งส่ัน วิธีการ

ออกเสียง อ้าปากกว้างระดับปานกลาง ตาแหน่งลิ้นอยู่ในระดับสงู กลาง โคนลิ้นค่อนหลัง ริม
ฝีปากแบนราบฉกี ออกข้าง

er “เออร์” วิธีการออกเสียง ไม่พ่นลม เส้นเสียงส่ัน ริมฝีปากและตาแหน่งลิ้น

เหมือนการออกเสียงสระ e แต่ต้องยกกลางล้ินข้ึนเล็กน้อย (ภาพที่1) จากนั้นให้ปลายล้ิน
ม้วนข้นึ บนตดิ เพดานแข็ง (ภาพท2่ี )

ê “เอ” เทียบได้กับเสียงสระ “เ-” ในภาษาไทย ไม่พ่นลม เส้นเสียงสั่น วิธีการ

ออกเสียง อ้าปากกว้างระดับปานกลาง ปลายลิ้นสัมผัสกับหลังฟันหน้า กลางลิ้นยกสูง
เล็กนอ้ ย ริมฝปี ากแบนราบฉีกออกขา้ ง

14

สัทอักษรภาษาจนี : พินอิน จิระชัย แซ่ตั้ง

i “อี” เทียบได้กับเสียงสระ “ -ี” ในภาษาไทย ไม่พ่นลม เส้นเสียงส่ัน วิธีการ

ออกเสียง ริมฝีปากแบนราบฉีกออกข้าง กลางล้ินอยู่ในระดับสูงค่อนหน้าใกล้เพดานแข็ง
ปลายลิ้นสมั ผัสหลงั ฟนั ล่าง

u “อู” เทียบได้กบั เสียงสระ “-ู” ในภาษาไทย ไม่พ่นลม เสน้ เสยี งส่ัน วธิ กี ารออก

เสียง ริมฝีปากห่อกลมให้เหลือเพียงรูขนาดเล็ก โคนลิ้นอยู่ในระดับสูงค่อนหลังใกล้เพดาน
ออ่ น

ü “อวี ์” ไมพ่ น่ ลม เส้นเสยี งสน่ั วธิ กี ารออกเสยี งและตาแหนง่ ลิ้นเหมือนเสยี งสระ

i แต่ห่อริมฝีปากห่อกลมเหมือนการออกเสียง u สระเสียงนี้เป็นสระท่ีไม่มีในภาษาไทย ทา
ให้ผู้เรยี นชาวไทยมกั จะออกเสยี งผิดเป็นเสียง อู ยู

15

จิระชยั แซ่ต้งั สัทอกั ษรภาษาจีน : พินอิน

เทคนิคท่ี 1 การออกเสียงสระ ü ให้ห่อปากกลมเหมือนสระ u จากน้ันออกเสียง

สระ i (เหมือนเสียง อี ในภาษาไทย) โดยขณะออกเสียงใหค้ งปากเปน็ วงกลมไว้

เทคนิคที่ 2 การออกเสียงสระ ü ให้ออกเสียงสระ i โดยค้างเสียงสระ i ไว้

หลงั จากน้นั ค่อย ๆ เปลีย่ นรปู ปากจากแบนราบฉีกออกขา้ งเปน็ ห่อปากกลมเหมือนสระ u

b “ปัว” เทียบได้กับเสียงพยัญชนะ “ป” ในภาษาไทย ไม่พ่นลม เส้นเสียงไมส่ นั่

วิธีการออกเสียง ริมฝีปากปิดสนิท กักลมไว้บริเวณช่องปาก (ภาพที่1) จากน้ันเปิดริมฝีปาก
เพือ่ ปลอ่ ยลมออกมาอย่างรวดเร็ว (ภาพที่2)

p “พัว” เทียบได้กับเสียงพยัญชนะ “พ/ผ” ในภาษาไทย พ่นลม เส้นเสียงไม่ส่นั

วธิ ีการออกเสยี งเหมือน b แต่เสยี ง p เป็นเสียงพน่ ลม

16

สัทอักษรภาษาจนี : พินอนิ จริ ะชัย แซต่ ั้ง

m “มวั ” เทียบได้กับเสียงพยญั ชนะ “ม” ในภาษาไทย เสยี งนาสกิ ไมพ่ ่นลม เสน้

เสียงส่ัน วิธีการออกเสียง ริมฝีปากปิดสนิท เพดานอ่อนและล้ินไก่ลู่ต่าลง ลมออกจากทาง
โพรงจมูก

f “ฟัว” เทียบได้กับเสียงพยัญชนะ “ฟ/ฝ” ในภาษาไทย เสียงเสียดแทรก ไม่

พ่นลม เสน้ เสียงไมส่ น่ั วธิ ีการออกเสียง ฟันบนแตะริมฝีปากล่าง จากน้ันปลอ่ ยลมเสียดแทรก
ระหว่างฟนั กบั ริมฝปี ากโดยให้โคนล้ินยกสงู ข้ึน

2. ตารางท่ี 6 การประสมเสยี งพยญั ชนะและสระ

พยัญชนะ สระ

ɑ o e er ê iuü

b bɑ bo -3 - - bi bu -
pi pu -
p pɑ po - - - mi mu -
- fu -
m mɑ mo me - -

f fɑ fo - - -

3. หลักเกณฑพ์ ินอนิ

3.1 ในบทที่ 1 จะเรียนรู้เฉพาะการประสมของพยัญชนะและสระ ในส่วนของ
วรรณยุกต์จะเร่ิมเรยี นในบทท่ี 2 การประสมพยัญชนะและสระเบ้ืองต้น = พยัญชนะ + สระ
เชน่ bo fu

3 เครอ่ื งหมาย “-” ในตาราง หมายถงึ ไม่มกี ารประสมเสยี งระหวา่ งพยญั ชนะและสระในช่องนนั้

17

จิระชัย แซต่ ัง้ สทั อักษรภาษาจีน : พนิ อิน

3.2 สระ o เมื่อเป็นพยางค์เสียงโดยลาพัง อ่านออกเสียง “ออ” เม่ือประสมกับ

พยัญชนะ b p m f จะมีเสียง u แทรกอยู่ระหว่างกลางของเสียง bo po mo fo (Liu

Guɑnɡhui ɑnd Jin Xiɑodɑ, 2011: 9) ทาให้เม่ืออ่านเสียง o ใน bo po mo fo

จะออกเสียงเหมือนสระประสม อวั (uo)

3.3 เสียงสระเดี่ยว ê จะใช้เป็นเสียงอุทานเท่าน้ัน ซึ่งจะไม่ประสมกับพยัญชนะโดย

ลาพัง เมื่อจะประสมกับพยัญชนะจะต้องเป็นเสียงที่มาจากสระประสม (ดูคาอธิบายเพิ่มเติม

ในสระประสม ie, üe ในบทที่ 6 หน้า 45-46)

4. แบบฝกึ หัด

4.1 ฝกึ ออกเสียงสระและพยัญชนะดงั ต่อไปน้ี

□A ɑ o e ê o e ê ɑ

□B i u ü u iü

□C b p m f m p f b e er

4.2 ฝึกออกเสียงพยางคเ์ สียงดงั ตอ่ ไปนี้

□A bɑ pɑ mɑ fɑ
□B bo po mo fo
□C bi pi mi me
□D bu pu mu fu

18

สัทอกั ษรภาษาจีน : พินอิน จิระชยั แซ่ต้ัง

บทเรยี นท่ี 2 วรรณยุกต์

1. วรรณยกุ ต์
ในภาษาจนี กลางสามารถแบง่ วรรณยกุ ต์ได้ท้ังหมด 4 เสยี งดงั น้ี

วรรณยุกต์เสียง 1 ใช้สัญลักษณ์(ˉ)[阴平 ยินผิง yīnpínɡ] เทียบเคียงได้
กับวรรณยุกตส์ ามัญ

วรรณยุกต์เสียง 2 ใช้สัญลักษณ์(ˊ)[阳平 หยางผิง yánɡpínɡ] เทียบเคียง
ได้กับวรรณยกุ ต์จัตวา

วรรณยุกต์เสียง 3 ใช้สัญลักษณ์(ˇ)[上声 ส่งั เซิง shǎnɡshēnɡ] เทียบเคียง
ได้กับวรรณยุกต์เอก

วรรณยุกต์เสียง 4 ใช้สัญลักษณ์(ˋ)[去声 ชี่วเ์ ซิง qùshēnɡ] เทียบเคียงได้
กบั วรรณยุกตโ์ ท

2. หลักการเขียนพนิ อนิ เบ้ืองตน้
พยญั ชนะตามด้วยสระ ส่วนวรรณยุกต์ให้เติมไว้เหนอื สระ เชน่

m + ɑ + ˊ = má

f + u + ˋ = fù

3. ภาพแสดงระดับเสียงวรรณยกุ ต์ท้ัง 4 เสียงในภาษาจนี

วรรณยกุ ต์เสียง 1[55] วรรณยกุ ตเ์ สยี ง 2[35] วรรณยุกต์เสียง 3[214] วรรณยกุ ตเ์ สียง 4[51]

□A mā □B má □C mǎ □D mà

5------------------------------------------------สงู
4------------------------------------------------กลางสูง
3------------------------------------------------กลาง
2------------------------------------------------กลางตา่
1------------------------------------------------ตา่

19

จริ ะชยั แซ่ต้งั สทั อักษรภาษาจนี : พินอิน

3.1 วรรณยกุ ต์เสียง 1 เทยี บเคียงได้กบั วรรณยุกตส์ ามัญในภาษาไทย เป็นเสียงที่เร่ิม

จากระดับเสียงสูง 5 และสิ้นสดุ ระดบั เสียงสูง 5 โดยท่ีไมม่ ีการเปล่ยี นแปลงสูงต่า

ข้อสังเกต วรรณยุกต์เสียง 1 ในภาษาจีนจะมีความใกล้เคียงกับเสียงสามัญใน

ภาษาไทย แต่ระดับเสียงในภาษาไทยอยู่ท่ี 33 ภาษาจีนอยู่ท่ี 55 ระดับเสียงในภาษาไทย

ต่ากว่าภาษาจีน ดังนั้นเม่ือออกเสียงวรรณยุกต์เสียง 1 ในภาษาจีนจะต้องออกให้สูงกว่า

เลก็ น้อย

5-----------------------สงู วรรณยกุ ต์เสยี ง 1 ในภาษาจีน

4-----------------------กลางสงู

3-----------------------กลาง วรรณยุกต์เสยี งสามัญในภาษาไทย

2-----------------------กลางตา่

1-----------------------ตา่

3.2 วรรณยุกต์เสียง 2 เทียบเคียงได้กับวรรณยกุ ต์จัตวาในภาษาไทย เป็นเสียงที่เริ่ม

จากระดับเสยี งกลาง 3 ขึน้ ไปยังระดับเสียงสูง 5

3.3 วรรณยุกต์เสียง 3 เทียบเคียงได้กับวรรณยุกต์เอกในภาษาไทย เป็นเสียงท่ีเริ่ม

จากเสียงกลางตา่ 2 ลงไปท่ีเสยี งตา่ 1 และขน้ึ ไปสน้ิ สดุ ทีเ่ สยี งกลางสงู 4

3.4 วรรณยุกต์เสียงท่ี 4 เทียบเคียงได้กับวรรณยุกต์โทในภาษาไทย เป็นเสียงท่ีเร่ิม

จากเสียงสงู 5 ลงไปทีเ่ สยี งต่า 1

4. หลักเกณฑพ์ นิ อนิ

4.1 ในภาษาจีนเคร่ืองหมายวรรณยุกต์จะเขียนไว้ด้านบนของสระ แต่เมื่อมีการเติม
วรรณยุกต์บนสระ i ให้ตัดจุดด้านบนของสระ i จากน้ันจึงเติมเครื่องหมายวรรณยุกต์
ตวั อย่างเชน่ mī bǐ เปน็ ตน้

4.2 สระในภาษาจีนเกือบท้ังหมดสามารถเป็นพยางค์เสียงโดยลาพังโดยท่ีไม่ต้อง
ประสมกบั พยญั ชนะ ซงึ่ เรียกว่า 零声母 (หลิงเซิงหม-ู่ línɡshēnɡmǔ) โดยสามารถแบ่ง
ได้ 2 ประเภทคือ 1. ประเภทไมม่ ีการเปลี่ยนแปลงรูปเขยี น 2. ประเภทมกี ารเปล่ียนแปลงรูป
เขยี น อนั จะไดก้ ล่าวต่อไปท้ังในบทนแ้ี ละบทอน่ื ๆ

4.3 สระ ɑ o e สามารถเป็นพยางค์เสียงโดยลาพังประเภทไม่มีการเปลี่ยนแปลงรปู
เขยี น

20

สทั อกั ษรภาษาจีน : พินอิน จริ ะชยั แซต่ ั้ง

4.4 สระ i u ü สามารถเป็นพยางค์เสียงโดยลาพังประเภทมีการเปลี่ยนแปลงรูป

เขยี น โดย i ü ให้เติม y ไวห้ น้าพยางค์เสยี งและใหต้ ัดจดุ ด้านบนสระ ü สว่ นสระ u ให้เติม w

ไวห้ น้าพยางคเ์ สยี ง (ดูตารางที่ 7 หน้า 22)

ตารางท่ี 7 การเปล่ียนแปลงรปู เขียนของสระ

สระเด่ียว iüu

อี อวี อู

สระเดีย่ วเม่อื เป็นพยางค์เสยี งโดยลาพัง yi yu wu

อี อวี อู

5. แบบฝกึ หดั

5.1 ฝกึ ออกเสียงสระดังต่อไปน้ี à
ò
□A ā á ǎ è
□B ō ó ǒ èr
□C ē é ě ì
□D ēr ér ěr ù
□E ī í ǐ ǜ
□F ū ú ǔ
□G ǖ ǘ ǚ

5.2 ฝกึ ออกเสียงพยางคเ์ สยี งดังตอ่ ไปนี้

□A mā má mǎ mà
□B bō bó bǒ bò
□C mì mǐ mí mī
□D fǔ fū fù fú

21

จริ ะชัย แซ่ตัง้ สทั อกั ษรภาษาจีน : พนิ อนิ

5.3 ฝึกอ่านคา่ ศพั ท์ดังต่อไปน้ี

□A

yī èr wǔ bā
一二五八

เลขหนง่ึ เลขสอง เลขหา้ เลขแปด

□B mǐ mù bù

mǎ 米 木 不

ข้าวสาร ไม้ ไม่
ม้า

□C

é è yú yǔ

鹅饿鱼雨

หา่ น หิว ปลา ฝน

22


Click to View FlipBook Version