1 | หน้ า
2 | หน ้า
3 | หน ้า
4 | หน ้า
5 | หน ้ า กรมการสารวัตรทหารบกมีการจัดแบ่งส่วนราชการออกเป็น ๘ หน่วยงาน ประกอบด้วย มีหน้าที่ดังนี้ ๑. ดำเนินการการ เบิกรับ จ่าย เก็บรักษาเงิน และการบัญชีของหน่วยให้เป็นไปตามระเบียบแบบ แผนของทางราชการ ๒. ให้ข้อเสนอแนะ และให้คำปรึกษาด้านการเงินและการบัญชี แก่ผู้บังคับบัญชา ๓. บันทึกและรายงานสถิติผลงานตามหน้าที่ (อ่านต่อจากฉบับที่แล้ว) แผนกธุรการ กองแผนและฝึก กองควบคุมและรักษาความปลอดภัย กองวิทยาการ กองบริการ กองสืบสวนสอบสวน โรงเรียนทหารสารวัตร กรมการสารวัตรทหารบก แผนกการเงิน
6 | หน ้า มีหน้าที่ดังนี้ ๑. ดำเนินการเกี่ยวกับงานด้านสารบรรณ การธุรการ การดำเนินการกำลังพล โดยประสานการ ปฏิบัติกับแผนกกำลังพล ๒. การบริการทั้งปวงของกรมการสารวัตรทหารบก ๓. ปฏิบัติตามระเบียบแบบธรรมเนียมที่เหล่าสายวิทยาการกำหนด ตลอดจนบันทึกและรายงาน สถิติผลงานตามหน้าที่ มีหน้าที่ดังนี้ ๑. อำนวยการวางแผนในการใช้หน่วยทหารสารวัตรเพื่อสนับสนุนแผนและคำสั่งของ ทบ. ๒. อำนวยการประสานงานและกำกับดูแล การจัดทำอัตราการจัดและยุทโธปกรณ์ของหน่วย ทหารสารวัตร ๓. อำนวยการวางแผน ประสานงาน และกำกับดูแลในเรื ่องเกี่ยวกับกิจการกำลังพลของเหล่า ทหารสารวัตร การฝึกศึกษาของเหล่าทหารสารวัตรทั้งภายในและต่างประเทศ ๔. วางแผน ประสานงาน และกำกับดูแลการดำเนินการเกี่ยวกับโครงการ และงบประมาณทั้งปวง ที่รับผิดชอบ ๕. ปฏิบัติงานตามระเบียบแบบธรรมเนียมที่เหล่าและสายวิทยาการกำหนด ๖. ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และงานกิจการพลเรือน ๗. ปฏิบัติงานธุรการที่เกี่ยวข้อง บันทึกและรายงานสถิติผลงานตามหน้าที่ แผนกเทคโนโลยี สารสนเทศ แผนกแผนและโครงการ แผนกก าลังพล แผนกฝึกและศึกษา
7 | ห น้ า มีหน้าที่ดังนี้ ๑. กำกับการและดำเนินการสอบสวนอาชญากรรม การสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และการ สอบสวน คดีอาญาซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหาร ๒. ตรวจสอบสำนวนการสอบสวน กำกับการคดี และวางโครงการสืบสวน และการทะเบียน ประวัติผู้ต้องหาคดีอาญา ๓. วางแผน เสนอแนะ และดำเนินการเกี่ยวกับวิทยาการสืบสวนสอบสวน และการทะเบียนประวัติ ผู้ต้องหาคดีอาญา ๔. ตรวจสอบและเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง กฎหมาย กฎข้อบังคับ ระเบียบ และคำสั่งเกี่ยวกับกิจการทหารสารวัตร และกิจการสารวัตรทหาร ๕. ดำเนินการติดต่อประสานงานกับหน่วยต่าง ๆ ในหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมฝ่าย พลเรือน ฝ่ายตำรวจ และฝ่ายทหาร และองค์กรอิสระต่าง ๆ ในหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ๖. บันทึกและรายงานสถิติผลงานตามหน้าที่ แผนกนิติธรรม แผนกคดี แผนกทะเบียนประวัติอาชญากร แผนกสืบสวนสอบสวน แผนกพิสูจน์หลักฐาน
8 | หน ้า มีหน้าที่ดังนี้ ๑. วางแผน ดำเนินงาน สำรวจ และตรวจตรา การรักษาความปลอดภัยทางวัตถุ และการอารักขา บุคคลสำคัญของกองทัพบก ๒. วางแผน การรักษาความปลอดภัย เกี ่ยวกับบุคคล และสถานที ่ตามนโยบายที ่กองทัพบก กำหนด ๓. วางแผน ประสานงาน และกำกับการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทาง อาชญากรรมของบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ๔. วางแผน ประสานงาน และกำกับการเชลยศึก ทหารพลัดหน่วย ๕. เสนอแนะ กำหนดวิธีการกำกับดูแล การปกครองบังคับบัญชาเรือนจำทหาร และที่ควบคุม รวมทั้งการฝึกอาชีพ การอบรม และการสวัสดิการผู้ต้องขัง ๖. กำกับดูแลเกี่ยวกับการรักษาระเบียบวินัย และจับกุมทหารที่กระทำผิดภายนอกกรมกอง ๗. กำกับดูแลเกี่ยวกับการดำเนินการจราจรในกิจการทหาร ๘. กำกับดูแลการปฏิบัติของเหล่าทหารสารวัตรของหน่วยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในกองทัพบก ๙. บันทึกและรายงานสถิติผลงานตามหน้าที่ แผนกเชลยศึกและ แผนกควบคุมระเบียบวินัย ควบคุมบุคคลในสนาม แผนกรักษาความปลอดภัย แผนกเรือนจำ แผนกป้องกัน และปราบปราม อาชญากรรม
9 | หน ้ า มีหน้าที่ดังนี้ ๑. ให้คำปรึกษา ข้อเสนอแนะ และดำเนินการเกี่ยวกับวิทยาการของเหล่าทหารสารวัตร ๒. วิจัยและพัฒนา ตลอดจนเผยแพร่วิทยาการ และสถิติของเหล่าทหารสารวัตร ๓. ดำเนินการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และพิพิธภัณฑ์ของเหล่าทหารสารวัตร และจัดทำห้องสมุด ของกรมการสารวัตรทหารบก ๔. จัดทำตำรา เอกสาร คู่มือ ตลอดจนหลักสูตรการฝึก การตรวจสอบของเหล่าทหารสารวัตร ๕. บันทึกและรายงานสถิติผลงานตามหน้าที่ มีหน้าที่ดังนี้ ๑. ดำเนินการสนับสนุนหน่วยต่าง ๆ ของกรมการสารวัตรทหารบก เกี่ยวกับการสวัสดิการ การ พลาธิการ การรักษาความปลอดภัย รวมทั้งการบริการแรงงาน และการบริการอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบ ๒. ปฏิบัติงานทางธุรการที่เกี่ยวข้อง บันทึกและรายงานสถิติผลงานตามหน้าที่ แผนกวิชาการ แผนกวิจัยและพัฒนา แผนกห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ แผนกสวัสดิการ แผนกพลาธิการ กองร้อยบริการ
10 | หน ้า มีหน้าที่ดังนี้ ๑. อำนวยการและดำเนินการฝึกอบรม ให้กับกำลังพลของเหล่าทหารสารวัตรและเหล่าอื่น ๆ ตามนโยบายของกองทัพบก ๒. ปกครองบังคับบัญชาผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีหน้าที่ดังนี้ ๑. วางแผน อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ และบริหารงานให้เป็นไปตามภารกิจ ของโรงเรียนทหารสารวัตร และนโยบายที่ได้รับมอบ ๒. ปฏิบัติตามระเบียบแบบธรรมเนียมที่เหล่า และสายวิทยาการกำหนด ๓. บันทึกและรายงานสถิติผลงานตามหน้าที่ กองบัญชาการ กองการศึกษา กองพันนักเรียน แผนกธุรการและ กำลังพล แผนกประเมินผล และสถิติ แผนกเตรียมการ แผนกสนับสนุนการศึกษา
11 | หน้า มีหน้าที่ดังนี้ ๑. ดำเนินการให้การฝึกอบรมแก่นักเรียนในหลักสูตรต่าง ๆ ของโรงเรียนทหารสารวัตร ๒. จัดอาจารย์ไปทำการสอนให้กับโรงเรียนทหารอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ๓. พิจารณาเสนอความต้องการในการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาบรรยายในโรงเรียนทหารสารวัตร ๔. บันทึกและรายงานสถิติผลงานตามหน้าที่ มีหน้าที่ดังนี้ ๑. ปกครองบังคับบัญชา นายทหารนักเรียน นายสิบนักเรียน และนักเรียนนายสิบ ๒. ดำเนินกรรมวิธี และอำนวยความสะดวกแก่นายทหาร นายสิบ ที่เข้ารับการศึกษาใน โรงเรียน ทหารสารวัตร ๓. ดำเนินการทางธุรการ การสวัสดิการ การเงิน การเลี้ยงดู การบริการตลอดจนที่พักอาศัยให้กับ กำลังพลที่เข้ามารับการศึกษาในทุกหลักสูตร ๔. สนับสนุนการฝึกอบรมของโรงเรียนทหารสารวัตร ๕. ดูแล รักษา และดำเนินการระวังป้องกันอาคาร สถานที่ คลังอาวุธ คลังกระสุน ของโรงเรียน ทหารสารวัตร ๖. บันทึกและรายงานสถิติผลงานตามหน้าที่ กองบังคับการ กองร้อยนายทหารนักเรียน กองร้อยนายสิบนักเรียน กองร้อยนักเรียนนายสิบ แผนกวิชายุทธวิธี และวิชาฝ่ายอำนวยการ แผนก วิชาสืบสวนสอบสวน แผนก วิชาทหารสารวัตร แผนก วิชาฝ่ายการสารวัตร แผนกวิชายานยนต์และสื่อสาร แผนกวิชาทหารและวิชาทั่วไป
12 | หน ้า ๒. หน่วยทหารสารวัตร ส่วนภูมิภาค ได้แก่ ทหารสารวัตรที่ขึ้นตรงกองทัพภาค และมณฑลทหารบก กองทัพภาค ๑. แผนกสารวัตร เป็นฝ ่ายกิจการพิเศษในกองบัญชาการกองทัพภาค มีหน้าที ่และความ รับผิดชอบดังต่อไปนี้.- ๑.๑ ให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับการข่าวกรอง ในเรื่องความสงบเรียบร้อย และ การในหน้าที่อื่น ๆ ของทหารสารวัตร ๑.๒ พิจารณาให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับการใช้หน่วยทหารสารวัตร รวมทั้ง ประสานงานกับตำรวจและส่วนราชการที่มีหน้าที่รักษากฎหมายฝ่ายพลเรือนอื่น ๆ ๑.๓ กำกับดูแลให้เป็นไปตามแผนการฝึกศึกษาของหน่วยทหารสารวัตร ๑.๔ วางแผนและกำกับดูแลการปฏิบัติงานของทหารสารวัตร ๑.๕ การบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่ง ๑.๖ การจับกุมทหารขาดหนีราชการ และทหารที่กระทำความผิดในที่ตั้งหน่วยทหาร ตาม คำสั่งของผู้บังคับบัญชา ๑.๗ การคุมขัง , ดูแลรักษา , อบรมดัดนิสัย และการฝึกอาชีพผู้ต้องขังในเรือนจำ ที่ควบคุม และเรือนคนไข้นักโทษของโรงพยาบาล (ถ้ามี) ๑.๘ ควบคุมการสัญจร และตรวจพิสูจน์บุคคลที่เป็นทหารหรือพลเรือนซึ่งอยู่ในความควบคุม ของทหาร ๑.๙ การควบคุมจราจรในกิจการทหาร ๑.๑๐ การรักษาความปลอดภัยทางวัตถุ ๑.๑๑ การปฏิบัติการต่อเชลยศึก ทหารพลัดหน่วย พลเรือน ผู้ถูกกักกัน ชนชาติศัตรู ผู้ลี้ภัย แผนกสารวัตร แผนกสืบสวนสอบสวน พัน.สห.ทภ. ฝากการบังคับบัญชากับมณฑลทหารบก
13 | หน้ า ๑.๑๒ ป้องกันทรัพย์สิน สิ่งอุปกรณ์ของทางราชการมิให้ถูกโจรกรรม ๑.๑๓ วางมาตรการและประสานงานเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารหรือฝ่ายพลเรือนใน เรื่องการก่อความไม่สงบของประชาชน และการบรรเทาสาธารณภัย ๑.๑๔ การลงหลักฐานรถยนต์และอาวุธของบุคคลในหน่วยตามนโยบายผู้บังคับบัญชา ๑.๑๕ การปฏิบัติงานทางธุรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๒. แผนกสืบสวนสอบสวน เป็นฝ่ายกิจการพิเศษในกองบัญชาการกองทัพภาค มีหน้าที่และ ความรับผิดชอบดังนี้.- ๒.๑ ให้คำปรึกษาและเสนอแนะแก่ผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม ๒.๒ วางโครงการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม และดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาซึ่ง อยู่ในอำนาจศาลทหาร ๒.๓ ร่วมมือการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการ ปฏิบัติ และการประสานงานกรณีทหารถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด พ.ศ. ๒๕๔๔ ๒.๔ ดำเนินการให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินตามคำพิพากษา ๒.๕ เก็บรักษาเอกสาร พยานวัตถุ และของกลางอื่น ๆ ๒.๖ ตรวจพิสูจน์ร่องรอยหลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับอาชญากรรม ๒.๗ ถ่ายภาพวัตถุพยานและภาพอื่น ๆ ที่ต้องพิสูจน์ลักษณะจำเพาะที่มีประจำตัวบุคคล ๒.๘ บันทึกและรายงานสถิติผลงาน ๒.๙ ดำเนินการสำรวจป้องกันอาชญากรรมหรือสำรวจการรักษาความปลอดภัยทางวัตถุ ๒.๑๐ ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
14 | หน ้า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต. ) มีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้ (1) จัดหรือดาเนินการให้มีการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกสมาชิกวุฒิสภา การ เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น และการออกเสียงประชามติ (2) ควบคุมดูแลการเลือกตั้งและการเลือกตาม (1) ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และควบคุมดูแล การออกเสียงประชามติให้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อการนี้ให้มีอำนาจสืบสวนหรือไต่สวนได้ตามที่จาเป็นหรือที่ เห็นสมควร (3) เมื่อผลการสืบสวนหรือไต่สวนตาม (2) หรือเมื่อพบเห็นการกระทาที ่มีเหตุ อันควรสงสัยว่าการ เลือกตั้งหรือการเลือกตาม (1) มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือการออกเสียงประชามติเป็นไปโดยมิชอบด้วย กฎหมาย ให้มีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกตั้งหรือการเลือก หรือการออกเสียง ประชามติ และสั่งให้ดาเนินการเลือกตั้งเลือก หรือออกเสียงประชามติใหม่ในหน่วยเลือกตั้ง บางหน่วย หรือทุกหน่วย (4) สั่งระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือผู้สมัครรับเลือกตาม (1) ไว้เป็นการ ชั่วคราวเป็นระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปี เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้นั้นกระทาการหรือรู้เห็นกับการกระทาของบุคคล อื่น ที่มีลักษณะเป็นการทุจริต หรือทาให้การเลือกตั้งหรือ การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม (5) ดูแลการดาเนินงานของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามกฎหมาย (6) หน้าที ่และอำนาจอื ่นตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ในการสืบสวนหรือไต ่สวนตาม (2) คณะกรรมการการเลือกตั้งจะมอบหมายให้กรรมการการเลือกตั้งแต่ละคนดาเนินการ หรือมอบหมายให้คณะบุคคลดา เนินการภายใต้การกากับของกรรมการการเลือกตั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดก็ได้ การใช้อำนาจตาม (3) ให้กรรมการการเลือกตั้งแต่ละคนซึ่งพบเห็นการกระทาความผิด มีอำนาจกระทาได้สาหรับ หน่วยเลือกตั้งหรือเขตเลือกตั้งที่พบเห็นการกระทาความผิด ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ การเลือกตั้งกำหนด
15 | หน้ า ผู้ตรวจการแผ่นดิน ( ผผ. ) มีหน้าที่และอำนาจดังนี้ (1) เสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคาสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใด ๆ บรรดาที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน หรือเป็นภาระแก่ประชาชนโดยไม่จาเป็นหรือเกินสมควรแก่เหตุ (2) แสวงหาข้อเท็จจริงเมื่อเห็นว่ามีผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม อันเนื่องมาจากการไม่ ปฏิบัติตามกฎหมายหรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย ของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ขจัด หรือระงับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมนั้น (3) เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ทราบถึงการที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ดาเนินการตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินตาม (1) หรือ (2) โดยไม ่มีเหตุผลอันสมควร ให้ผู้ตรวจการแผ ่นดินแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบเพื ่อพิจารณาสั ่งการตามที่ เห็นสมควรต่อไป ในการดาเนินการตาม (1) หรือ (2) หากเป็นกรณีที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนให้ผู้ตรวจการ แผ่นดินส่งเรื่องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดาเนินการต่อไป คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) มีหน้าที่และอำนาจดังนี้ (1) ไต่สวนและมีความเห็นกรณีมีการกล่าวหาว่าผู้ดารงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดารงตำแหน่งในองค์กรอิสระ หรือผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ใดมีพฤติการณ์ร่ารวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจง ใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อ บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน ทางจริยธรรม อย่างร้ายแรง เพื่อดาเนินการต่อไปตามรัฐธรรมนูญหรือตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่า ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (2) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ารวยผิดปกติ กระทาความผิดฐาน ทุจริตต่อหน้าที่ หรือ กระทาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรม เพื่อดาเนินการต่อไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต (3) กำหนดให้ผู้ดารงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดารงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และเจ้าหน้าที่ของรัฐยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติ ภาวะ รวมทั้งตรวจสอบและเปิดเผย ผลการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคลดังกล ่าว ทั้งนี้ ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (4) หน้าที่และอำนาจอื่นที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ในการปฏิบัติหน้าที่ตาม (1) (2) และ (3) ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่จะต้องจัดให้มีมาตรการหรือแนวทางที่ จะทาให้การปฏิบัติหน้าที่ มีประสิทธิภาพ เกิดความรวดเร็ว สุจริต และเที่ยงธรรม ในกรณีจำเป็นจะมอบหมายให้
16 | หน ้า หน่วยงาน ของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจเกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตดาเนินการแทน ในเรื่องที่มิใช่ เป็นความผิดร้ายแรง หรือที่เป็นการกระทาของเจ้าหน้าที่ของรัฐบางระดับ หรือกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วย ธุรการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติเป็นผู้ดาเนินการสอบสวนหรือไต่สวนเบื้องต้นตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริตก็ได้ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (ค.ต.ง.) มีหน้าที่และอำนาจดังนี้ (1) วางนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน (2) กำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน (3) กำกับการตรวจเงินแผ่นดินให้เป็นไปตาม (1) และ (2) และกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ (4) ให้คำปรึกษา แนะนา หรือเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินแผ่นดินให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วย วินัยการเงินการคลังของรัฐ รวมทั้งการให้คำแนะนาแก่หน่วยงานของรัฐ ในการแก้ไขข้อบกพร ่องเกี ่ยวกับการใช้ จ่ายเงินแผ่นดิน (5) สั่งลงโทษทางปกครองกรณีมีการกระทาผิดกฎหมายว ่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ถูกสั่ง ลงโทษตาม (5) อาจอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคาสั่ง ในการพิจารณาของศาล ปกครองสูงสุดต้องคำนึงถึงนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินและหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินตาม (1) และ (2) ประกอบด้วย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีหน้าที่และอำนาจดังนี้ (1) ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทุกกรณีโดยไม่ล่าช้า และเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไข การละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเยียวยา ผู้ได้รับความเสียหายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน ต่อหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ที่เกี่ยวข้อง (2) จัดทารายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศ เสนอต ่อรัฐสภาและ คณะรัฐมนตรี และเผยแพร่ต่อประชาชน (3) เสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อรัฐสภาคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมตลอดทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคาสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับ หลักสิทธิมนุษยชน (4) ชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้าในกรณีที่มีการรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิ มนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม (5) สร้างเสริมทุกภาคส่วนของสังคมให้ตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชน (6) หน้าที่และอำนาจอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
17 | หน ้า เมื่อรับทราบรายงานตาม (1) และ (2) หรือข้อเสนอแนะตาม (3) ให้คณะรัฐมนตรีดาเนินการปรับปรุงแก้ไข ตามความเหมาะสมโดยเร็ว กรณีใดไม ่อาจดาเนินการได้หรือต้องใช้เวลา ในการดาเนินการให้แจ้งเหตุผลให้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบโดยไม่ชักช้า ในการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต้อง คำนึงถึงความผาสุกของประชาชนชาวไทยและผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นสำคัญด้วย องค์กรอัยการมีหน้าที่และอำนาจดังนี้ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และกฎหมายพนักงานอัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดีและการ ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปโดยรวดเร็ว เที่ยงธรรม และปราศจากอคติทั้งปวง และไม่ให้ถือว่าเป็นคาสั่งทางปกครอง การ บริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดาเนินการอื่นขององค์กรอัยการ ให้มีความเป็นอิสระ โดยให้มีระบบ เงินเดือนและค่าตอบแทนเป็นการเฉพาะตามความเหมาะสม และการบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับพนักงานอัยการต้อง ดำเนินการโดยคณะกรรมการอัยการ ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยประธานกรรมการซึ่งต้องไม่เป็นพนักงานอัยการ และผู้ทรงคุณวุฒิบรรดาที่ได้รับเลือกจากพนักงานอัยการ ผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าวอย่างน้อยต้องมีบุคคลซึ่งไม่เป็น หรือ เคยเป็นพนักงานอัยการมาก่อนสองคน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ กฎหมายตามวรรคสาม ต้องมีมาตรการป้องกันมิ ให้พนักงานอัยการกระทาการ หรือดารงตำแหน่งใดอันอาจมีผลให้การสั่งคดีหรือการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามวรรค สอง หรืออาจทำให้มีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวต้องกำหนดให้ชัดแจ้งและใช้เป็นการทั่วไป โดยจะมอบอำนาจให้มีการพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไปมิได้ --------------------------------
18 | หน ้า
19 | หน้ า
20 | หน ้า
21 | หน้ า
22 | หน ้า
23 | ห น้ า
24 | หน ้า
25 | ห น้ า
26 | หน ้า
27 | หน้ า
28 | หน ้า
29 | ห น้ า