ข่าวสารเศรษฐกจิ
เงนิ เฟ้อ ราคานํา้ มนั และการปรับตวั ของผู้บริโภค
ในชว่ งนผ้ี มเชื่อวา่ ทกุ ทา่ นกำลงั ปวดหวั ในด้านค่าครองชีพ ท่ขี า้ วของทุกอย่างกำลังมรี าคาเพ่มิ ขน้ึ เรอ่ื ยๆ
อยา่ งรู้สกึ ได้ และท่ีเห็นไดช้ ดั ที่สดุ คือ ราคานาํ้ มัน และราคาอาหารสด ผมจะขอเนน้ ไปที่การเพ่ิมข้ึนของราคาสินค้า
ต่างๆ ทเี่ กี่ยวโยงกับราคาพลงั งาน โดยเฉพาะราคานํ้ามนั และราคาก๊าซธรรมชาติ
เราตอ้ งเข้าใจกนั ก่อนว่า ราคาสนิ ค้า รวมถงึ ราคาน้าํ มันน้ัน มีการขน้ึ ลงไปตามกลไกตลาด หรือก็คอื ข้นึ กับอุป
สงค์และอุปทาน ซงึ่ หมายถงึ ปรมิ าณสินคา้ ที่มีคนต้องการ และปรมิ าณที่มกี ารผลติ ทนี ้สี ำหรบั ประเทศไทย ในด้านการ
ผลิตนํ้ามัน เราเป็นผู้นำเข้าสุทธิ หรือแปลว่า เราผลิตนํ้ามันดิบเองได้น้อยกว่าที่มคี วามต้องการใช้งานภายในประเทศ
ทำให้เราต้องนำเข้านํ้ามันดิบและพลังงานทั้งน้ีในตลาดโลก การซื้อขายพลังงานใช้ เงินสกุล ดอลลาร์สหรัฐ เป็นหลัก
โดยในช่วงตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา เงินบาท
มีค่าเงินที่อ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยอัตรา
แลกเปลี่ยนเงนิ บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มีการปรับตัวในทศิ ทาง
สูงขึ้นกว่าในช่วงก่อนโควิด 19 หรือสูงกว่า 33 บาทต่อหนึ่ง
ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยที่ 34.33 บาท
ตอ่ หนงึ่ ดอลลาร์สหรฐั ในวนั ท่ี 6 พฤษภาคม 2565 ในส่วนของ
อัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลงนี้มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายส่วน
เช่น ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยในสองประเทศ (ประเทศไทย
และประเทศสหรฐั อเมริกา)
เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ทางธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาต้อง
ประกาศขนึ้ ดอกเบยี้ นโยบาย และมีแผนท่จี ะปรับขน้ึ อีกในอนาคต เพื่อควบคุมเงนิ เฟอ้ ในขณะทป่ี ระเทศไทย เศรษฐกิจ
ยงั ไม่ฟืน้ ตวั จากการระบาดของโรคโควดิ 19 ทำใหแ้ มเ้ ราเห็นไดว้ ่าระดับราคาสินคา้ จะเริ่มสงู ขึน้ อย่างสงั เกตได้ ธนาคาร
แหง่ ประเทศไทยยงั ไมม่ กี ารปรับอัตราดอกเบยี้ นโยบาย ผลตา่ งของอตั ราดอกเบี้ยทีเ่ พิม่ มากขึน้ ทำใหม้ ีความต้องการเงิน
ดอลลาร์สหรฐั สูงขนึ้ เม่ือเทยี บกับความต้องการเงนิ บาท และทำใหค้ ่าเงนิ ของเราอ่อนคา่ ลง เปน็ ตน้
เมื่อประเทศไทยเป็นประเทศผู้ที่ต้องนำเขา้ นํา้ มันจากต่างประเทศ ราคานํ้ามันที่ใช้ในการผลิตจึงมีการขึ้นลง
สอดคล้องกับราคานํ้ามันในตลาดโลก เมื่อเรามองทิศทางราคานํ้ามันดิบในตลาดโลก เราจะพบว่าในช่ว งปลายปีค.ศ.
2019 ก่อนสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด 19 ราคานํ้ามันดิบเบรนทใ์ นตลาดโลกอยู่ที่ประมาณ 68 เหรียญดอลลาร์
สหรฐั ตอ่ หนง่ึ บาร์เรล โดยทห่ี นงึ่ บารเ์ รลท่ปี รมิ าตรเทา่ กับประมาณ 159 ลิตร
ในช่วงปีค.ศ. 2020 ราคานํ้ามันดบิ ได้ตกลง เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจของโลกเกิดการหยดุ ชะงักไปทั้งโลก
เพราะโรคระบาด ทั้งนี้ราคาได้เริ่มมีการปรับขึ้นในช่วงปลายปี 2020 และเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
จากการที่เศรษฐกิจโลกค่อย ๆ ดีขึ้นในหลายประเทศจากการเริ่มผ่อนคลายมาตรการในการจัดการกับไวรัสโควิด 19
ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ตา่ ง ๆ ทยอยฟ้ืนตัว โดยราคาน้ํามนั ดบิ เบรนท์ ณ วันท่ี 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เทา่ กบั
112.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อหนง่ึ บาร์เรล ซ่ึงสงู กว่าราคากอ่ นหน้าการระบาดของไวรัสโควดิ 19 ถงึ เกอื บสองเทา่
ราคานา้ํ มนั ทีเ่ พม่ิ สูงขนึ้ นี้ สว่ นหนงึ่ เป็นผลมาจากสงครามในประเทศยูเครนโดยเม่ือประเทศรัสเซียเปิดสู้รบกับ
ประเทศยูเครนในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ราคา นํ้ามันดิบเบรนท์ มีราคาที่ผันผวนค่อนข้างมาก แต่มีราคาสูงกว่า
97 ดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งบาร์เรลมาโดยตลอด และมีราคาขึ้นไปสูงที่สุดที่ เกือบ 128 ดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งบาร์เรล
ในวันท่ี 8 มนี าคม 2565
สงครามในยูเครนส่งผลกระทบต่อราคานั้นมัน
ทั้งในด้านความไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจโลก และใน
ดา้ นอปุ ทานของพลังงาน เพราะประเทศรัสเซียมีสินค้า
ส่งออกท่สี ำคัญคือนํา้ มนั และกา๊ ซธรรมชาติโดยประเทศ
คู่ค้าก๊าซธรรมชาติทีส่ ำคัญคือประเทศในสหภาพยโุ รป
โดยส่งกา๊ ซผา่ นท่อส่ง ที่วางแนวทอ่ ผา่ นประเทศยูเครน
ทำใหใ้ นทางสงคราม การดำเนินนโยบายกดดันประเทศ
รัสเซียให้ยุติสงครามทำได้ลำบากสำหรับสหภาพยโุ รป
และราคาก๊าซธรรมชาตขิ องโลกมรี าคาสงู ข้นึ
ในส่วนของน้ํามันดิบและนํ้ามันสำเร็จรูปนั้น ประเทศรัสเซีย เป็นประเทศผู้ผลิตนํ้ามันดิบที่มีขนาดใหญ่
เปน็ อนั ดับท่สี องของโลก ตามหลงั ประเทศซาอุดอิ ารเบยี ดังน้ัน ในช่วงสงครามที่ประเทศโลกตะวันตกมีความพยายาม
กดดนั ประเทศรัสเซีย ด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจท่ีหลากหลายและส่งผลต่อการทำธุรกรรมคา้ ขายระหว่างประเทศน้ัน
ทำให้ปรมิ าณอุปทานของน้าํ มนั ดิบในตลาดโลกไดร้ บั ผลกระทบไปด้วย
ในช่วงสองเดือนทีผ่ ่านมาราคานํ้ามันในประเทศ ไทยที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ เป็นผลมาจากสงคราม
ในยูเครนโดยตรง นอกจากเรื่องนํ้ามันดิบแล้ว ประเทศรัสเซียยังส่งออกถ่านหินเป็นลำดับที่สามของโลกอีกด้วย
โดยในแต่ละปีประเทศรัสเซียส่งออกสินแร่ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานรวมกันนับได้ประมาณร้อยละ 61 ของปริมาณ
การสง่ ออกสนิ คา้ ทง้ั หมดของประเทศ ทำใหส้ งครามคร้งั นี้กดดันราคาพลังงานของโลกเป็นอย่างมาก และสง่ ผลต่อระดับ
ราคาสินค้าต่างๆ ด้วยเพราะทำให้ตน้ ทุนในการผลติ และขนส่ง
สนิ ค้าตา่ งๆ สงู ข้นึ
ในสว่ นของประเทศไทยเองนนั้ ต้นทนุ ด้านพลงั งานสง่ ผล
อย่างมากต่อต้นทุนทุกอย่างในประเทศ ในปีพ.ศ. 2562
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ได้ประมาณสัดส่วนต้นทุนโลจิสติกส์ต่อ GDP ของประเทศไทย
ที่ร้อยละ 13.4 โดยเป็นต้นทุนการขนส่งถึงร้อยละ 6.7
ทำให้ราคาพลงั งานโดยเฉพาะราคาน้ํามัน
นอกจากจะกระทบต่อค่าใช้จ่ายของผู้ใช้รถใช้ถนน
โดยตรงแล้ว ยังส่งผลต่อต้นทุนในการผลิตสินค้าและบริการต่างๆ ด้วยทำให้ถ้าสถานการณ์ราคานํ้ามันดิบยังอยู่
ในทศิ ทางขาข้ึนเช่นน้ี ราคาสินคา้ ตา่ งๆ ในประเทศไทยจะตอ้ งปรบั ตัวขน้ึ ตามไปด้วยอย่างแนน่ อน
ดงั ทเี่ ราไดเ้ รมิ่ เห็นแล้วจากการปรบั ข้ึนราคาของสนิ คา้ บางชนิด หรอื แม้แต่การที่ผใู้ ห้บรกิ ารการขนสง่ หลาย
ราย แบกรับต้นทุนไม่ไหว มีการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลให้จดั การดูแลราคานํ้ามัน ก่อนที่จะส่งผลกระทบ
ต่อราคาค่าบรกิ าร
ในด้านราคานํ้ามันน้ันโดยปกติการขึ้นลงของราคานํา้ มันในตลาดโลก ราคานํ้ามันดีเซลซึ่งเป็นนํา้ มันเชื้อเพลงิ
หลักทใ่ี ช้ในภาคขนส่งของประเทศไทย จะไดร้ บั การชว่ ยเหลือจากกองทุนนาํ้ มันเชื้อเพลงิ ในปัจจุบันที่ราคาน้ํามันเพ่ิม
สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลต้องประกาศยกเลิกการพยุงราคานํ้ามันดีเซลไว้ไม่ให้เกินสามสิบบาทต่อลิตร ในเดือน
พฤษภาคมนี้ เพื่อไม่ให้กองทุนนํ้ามันฯ ติดลบมากเกินไปจนก่อหนี้ระยะยาว ทำให้กลไกในการช่วยเหลือเบื้องต้น
ของรัฐบาลไมส่ ามารถทำงานไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่
รฐั บาลอาจจะสามารถช่วยเหลือผบู้ ริโภคได้ในดา้ นอ่นื ๆ เชน่ การใชม้ าตรการทางภาษีอนื่ ๆเพอ่ื ลดภาระค่าใช้จ่าย
ในภาพรวม ซึ่งต้องแลกกับการที่รัฐอาจจัดเก็บรายได้ไม่เข้าเป้าในระยะสั้น และอาจมีผลต่อสภาพคล่องของรัฐบาล
ในระยะสั้นได้ ทว่าการไม่ช่วยเหลือใดๆ จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจไทยและประชาชนจะประสบภาวะที่ลำบากมากข้ึน
เพราะสนิ ค้าแพงข้ึน
แต่ผู้บริโภคมีกำลังการจับจ่ายใช้สอยลดลง จะทำให้เศรษฐกิจเกิดการหดตัว ผู้ที่มีสินทรัพย์และรายได้สูง
อาจได้รับผลกระทบไม่มาก แต่คนรายได้ปานกลางและต่ํา ที่มีหนี้สิน จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงควร
เขา้ ไปชว่ ยเหลือประชาชนกลุ่มน้ี การไม่ชว่ ยเหลือใดๆ เลยจะทำใหก้ ำลังซ้ือในเศรษฐกิจไทยลดลงและส่งผลต่อสภาวะ
เศรษฐกจิ ในภาพรวมเป็นอย่างมาก
ภาคประชาชนเองก็ตอ้ งปรับตัว ปรบั พฤตกิ รรมในการใช้พลงั งาน การคงการทำงานทบ่ี า้ นต่อไปในหลายองค์กร
อาจช่วยลดการใชพ้ ลงั งานในเมอื งใหญ่ได้พอควร การทยอยเปลี่ยนผ่านไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าอาจเป็นทางเลือกในระยะยาว
ทมี่ าถึงเรว็ ขึ้น รฐั เองตอ้ งเตรียมการสนบั สนนุ โครงสร้างพนื้ ฐานให้ดพี อ
แมเ้ ราจะเนน้ ในเรอ่ื งนํ้ามันเชอ้ื เพลงิ และพลงั งาน แต่ปญั หาราคาสินคา้ จะเกิดกับสนิ ค้าและบรกิ ารอน่ื ๆ เช่นกัน
พวกเราคงต้องปรับตัว ใช้สอยอย่างประหยัด ใช้อย่างฉลาด แต่การไม่ใช้เงินเลย คงไม่ใช่คำตอบ ถ้าท่านไม่ลำบาก
การลดการบรโิ ภคของท่านอาจจะยิง่ ซํ้าเติมเศรษฐกจิ ในภาพรวม
สุดท้าย การใช้สอยอย่างพอเพียง อาจจะเป็นคำตอบในมุมของผู้บริโภค เราใช้สอยตามที่เราต้องการ
โดยที่ไม่ทำให้ตัวเราเองต้องลำบากและประสบปัญหาในระยะยาว ลดการก่อหนี้ที่ไม่จำเป็น ใครมีมาก ก็ใช้มากได้
ใครมีน้อย ก็ใช้เท่าที่จำเป็น ใช้จ่ายอย่างประหยัด รัฐบาลเองต้องสามารถเข้าช่วยเหลือกลุ่มคนที่ขัดสนและลำบาก
ในการดำรงชพี ไดโ้ ดยตรง ขอใหท้ กุ คนมสี ติในการบรโิ ภคกนั ครบั
ทม่ี า : หนงั สอื พมิ พ์ฐานเศรษฐกจิ