The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by governortrat, 2022-08-13 04:57:57

ศูนย์ราชการุณย์ สภากาชาดไทย เขาล้าน จ.ตราด

''(1)~1

'พระตำหนักเสื่อลำแพน'

เมื่อครั้งเกิดสงครามกลางเมืองเขมรมีการ
อพยพเข้ามาในฝั่ งไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ไม่ทรงนิ่งนอนใจ แม้จะไม่ใช่คนไทยแต่เป็นเพื่อน
มนุษย์ด้วยกัน เสด็จฯ ไปยังพื้นที่อันตรายเพื่อ
สร้างศูนย์อพยพ ทรงประทับแรมที่ศูนย์
สภากาชาดเขาล้าน จังหวัดตราด

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ ออกไป

ควบคุมการก่อสร้างด้วยพระองค์เอง บางครั้งก็

ทรงค้างคืนบนสถานที่คล้ายศาลาโล่งๆ ฝาทำด้วย

เสื่อลำแพน ด้านหนึ่งเป็นพระพุทธรูปบูชา เพราะ วันที่ ๒๒ – ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๒

ทรงถือว่าพระเป็นจุดรวมจิตที่เราจะยึดเป็นที่พึ่ง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ทางใจ ทรงสอนให้ผู้ที่อยู่ศูนย์รู้จักสวดมนต์
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จ
กลางคืน โดยเปิดเทปบทสวด 'องค์ใดพระสัม
พระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบาทสมเด็จ
พุทธ' กระหึ่มกังวานไปทั่ว และทรงนำน้ำพระพุทธ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (ในขณะนั้นทรง
มนต์ไปพรมเพื่อปัดรังควาน ให้ทุกคนปลอดภัย ดำรงพระอิสิริยยศเป็นสมเด็จพระบรม
และอยู่เย็นเป็นสุข
โอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร)
พระองค์บรรทมบนเสื่อกระจูด หันพระเศียรไป ไปทรงเยี่ยมศูนย์สภากาชาดไทยแห่งใหม่
ทางที่ตั้งพระพุทธรูป พระเขนย (หมอน) ก็ไม่มี
ซึ่งสร้างเสร็จแล้ว และประทับพักแรม
ทรงใช้ฉลองพระองค์กันฝนม้วนๆ รองพระเศียร ณ ศูนย์ฯแห่งใหม่ อนึ่งจนถึงวันที่
นางสนองพระโอษฐ์ และผู้ ตามเสด็จฯ นอนเรียง ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ เวลาค่ำได้ทรง
รายรอบพระองค์ แม้จะมีอาการคันบ้าง เพราะตัว พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
ไรที่อาศัยอยู่กับเสื่อกระจูดมีโอกาสได้เข้าเฝ้า
หน่วยแทพย์เตรียมห้องผ่าตัด และรับสั่งให้
อย่างไม่เป็นทางการ แต่ทุกคนไม่บ่น เพรา ะ
หน่วยแพทย์พักแรมในศูนย์สภากาชาดไทย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มิได้ทรง

ปริพระโอษฐ์บ่นเลยสักคำเดียว

ราชการุ ณย์ .. ณ เขาล้ าน เรื่ องที่ ชาวไทยควรรั บรู้

นำมาจาก “หนังสือราชการุณย์”

ศู นย์ ราชการุ ณย์ เขาล้ าน จ.ตราด นั บเป็ น พระมหากรุ ณาธิ คุ ณ
ในสมเด็ จพระนางเจ้ าสิ ริ กิ ติ์ พระบรมราชิ นี นาถ พระบรมราชชนนี
พั นปี หลวง ไม่ เพี ยงแต่ พี่ น้ องชาวไทยเท่ านั้ น ยั งแผ่ กว้ างไปถึ งพี่ น้ อง
ชาวเขมร ผู้ ตกทุ กข์ ได้ ยาก ในคราวที่ คนเขมรนำกำลั งเวี ยดนามมา
ยึ ดประเทศตั วเอง และ เข็ นฆ่ าคนเขมรด้ วยกั นเอง….

วันที่เสด็จพระราชดำเนินไปคราวแรก ตรงกับวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๒๒

ทรงพระราชนิพนธ์ว่า
“ฉันยังจำได้ดี เดือนพฤษภาคม ๒๕๒๒ ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ประทับแรมที่หัวหิน ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดแจ้งมาว่า มีเขมรลี้ภัยหลั่งไหลเข้ามา

ในเขตไทยบริเวณเขาล้าน อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ผ่านเข้ามาทาง

แนวเทือกเขาบรรทัดจำนวนกว่าสองแสนคนอยู่ในสภาพทุกข์ทรมานแสนสาหัส

มีเด็ก ๆ เจ็บหนักเนื่องจากขาดอาหาร จำนวนคนมีกรรมหนา ที่หลั่งไหลเข้ามานี้
มากเกินความสามารถของทางจัง

วัดที่จะรับผิดชอบ
ช่วยเหลือได้”
“ฉั
นเป็นสภานายิกาข

องกาชาดจึงบินไปดู

ด้วยตนเอง พบว่าบริเวณเขาล้านไปจนชายทะเล

แน่นขนัดไปด้วยชาวเขมรลี้ภัยไม่น่าเชื่อว่าพื้นที่

ใหญ่ ๆ เช่นนั้น ซึ่งมีลมทะเลพัดอยู่ตลอดเวลา
กลิ่นอุจจาระและปัสสาวะจะคลุ้งตลบไปหมดถึง
เพียงนี้ ภาพเขมรบ้านแตกเมืองล่มที่เห็นอยู่

ต่อหน้านั้น เป็นภาพที่ประทับอยู่ในความทรงจำ
ของฉันไม่มีวันลืมเลือน พวกเขานอนบนพื้นดิน

แฉะๆ ท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยง”

“แต่ละก้าวของฉันที่เดินตรวจตราดูผู้ลี้ภัย ยังต้องคอยระวังมิให้เหยียบไปบนคนที่นั่งนอน
ระเกะระกะ และเสบียงอาหารที่เขาฉวยติดตัวมาด้วย คือปลาเล็ก ๆ ที่วางผึ่งแดดอยู่คละไปกับ
กองอุจจาระ ตลอดจนไถ้ใส่ข้าวสารที่เขาแบกสะพายมา พื้นดินบ้างก็เป็นบ่อ เวลาฝนตก น้ำจะ
ขังอยู่เป็นแอ่ง… นั้นแหละคือน้ำที่เขาใช้ดื่มกิน สภาพของผู้คนที่สุดแสนจะน่าเวทนาเหล่านี้ เป็น
ภาพที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งฉันอยากให้ผู้ที่สุขสบายอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ ได้เห็นสภาพของคน

ที่สิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน เช่นนี้เหลือเกิน..”



สภาพของเขมรอพยพในครั้งนี้เป็นภาพที่น่าสลดใจของผู้พบเห็นดังพระราชนิพนธ์ของ
สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ อีกตอนหนึ่งว่า

“…ความโง่ทำให้คนเราประมาท ครั้งญวนล่ม ลาวแตก ฉันตกใจ...ตกใจมาก แต่มันยัง
ไม่กระทบใจ ไม่ซึมทราบเท่ากับภาพที่กระทบตาฉันอยู่ขณะนี้ อย่างภาพเด็ก ๆ ที่อดอาหาร

นอนเป็นโครงกระดูกอยู่ สักแต่ว่ามีลมหายใจอยู่เท่านั้น…”

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงพระราชทานกำเนิด

ศูนย์อพยพเขาล้าน เพื่อชาวเขมรเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร จำนวนนับแสนคน

ตามพระราชดำรัส เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๒๒





"ฉันตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เหล่านี้ เท่าที่กำลังความสามารถของฉันจะมี”





โดย ศูนย์รับผู้อพยพชาวกัมพูชาณ บริเวณบ้านเขาล้าน ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

ปัจจุบันศูนย์สภากาชาดเขาล้าน จังหวัดตราด มีชื่อเรียกใหม่ว่า "ศูนย์ราช
การุณย์สภากาชาดไทย" เขาล้าน จังหวัดตราด (ชื่อเรียกเดิมว่า "ศูนย์สภากาชาดไทย
เขาล้าน") ตั้งอยู่ถนนตราด-คลองใหญ่ กิโลเมตรที่ ๔๘ ริมทางหลวงหมายเลข ๓๑๘

ในระยะแรก ผู้อพยพทำที่พักอาศัยอยู่ที่ใต้ต้นไม้โดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่เป็นเครื่อง
บังแดดบังฝน ต่อมาได้สร้างเพิงชั่วคราวเพื่อใช้เป็นที่ทำการในการให้ความช่วยเหลือ
ผู้อพยพ รวมทั้งที่พักและหน่วยพยาบาล แล้วจึงได้มีการก่อสร้างอาคารถาวร
ประกอบด้วยสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า โรงฝึกอบรม โรงเรียน และบ้านพักศูนย์
สภากาชาดไทยแห่งนี้ได้ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือชาวกัมพูชาอพยพอยู่ ๗ ปีเศษ
จึงได้ปิดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๒๙ และเมื่อปิดศูนย์ฯ ลง
สภากาชาดไทย ได้ขอให้กองทัพเรือส่งทหารเข้ามาดูแลพื้นที่ กองทัพเรือจึงได้จัดให้
ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ ๓ เข้ามาอยู่ดูแลสถานที่ แต่ถูกปล่อยให้รกร้าง
ว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่อย่างใด.

เมื่อปี ๒๕๓๕ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงมีพระราชดำริให้
สภากาชาดไทย จัดทำโครงการ พัฒนาศูนย์สภากาชาดไทยแห่งนี้ เพื่อเป็นการ
เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี
พันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา
๖๐ พรรษา ได้พระราชทานแนวทางการพัฒนา ไว้ ๓ ประการ

๑. จัดสร้างพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม
ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งพรัมหากรุณาธิคุณ
ที่พระราชทานแก่ชาวไทยชายแดน และชาวกัมพูชาอพยพ พระราชทานนามอาคาร
พิพิธภัณฑ์นี้ว่า "ศาลาราชการุณย์" สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ
รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๒๙
เมษายน ๒๕๓๕ และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี
พันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเปิดพิพิธภัณฑ์ เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๓๗

ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงความเป็นมาและสภาพความเป็นอยู่ของชาวกัมพูชา
อพยพ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือของสภากาชาดไทยที่มีต่อผู้อพยพ รวมทั้งสิ่งของ
ที่ผู้อพยพนำติดตัวมา

๒. จัดเป็นสถานที่เข้าค่ายฝึกอบรมเยาวชนทั้งยุวกาชาด ลูกเสือ เนตรนารี
นักเรียน นิสิต นักศึกษา ฯลฯ

๓. ปรับปรุงพื้นที่ชายหาดให้เป็นสถานที่พักผ่อน สำหรับบุคคลทั่วไป


Click to View FlipBook Version