The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิจัยในชั้นเรียน ๑

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thitinmn123, 2022-09-02 08:53:48

วิจัยในชั้นเรียน ๑

วิจัยในชั้นเรียน ๑

ชือ่ วจิ ัย วิจยั ในช้นั เรยี น

ผวู้ ิจัย การใช้แอปพลิเคชนั Class Dojo เพื่อเสริมสร้างเจตคติตอ่ รายวิชาภาษาไทยของนักเรยี น
โรงเรยี น ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย อำเภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่
ปกี ารศกึ ษา พระธิติ วจิ ิตฺตาจาโร (ตาเขียว)
โรงเรียนเทศบาลวดั ทา่ สะต๋อย อำเภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่
๒๕๖๔

ความเปน็ มาและความสำคัญ
ในศตวรรษที่๒๑ มีการสื่อสารอย่างไร้พรมแดนในยุคสังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ในด้าน

การจดั การเรยี นการสอน จึงตอ้ งมกี ารพัฒนากจิ กรรมการเรียนการสอนเพื่อให้สอดคลอ้ งกับสภาพแวดล้อม
สังคม และยคุ สมัยของผู้เรยี นทีเ่ ปล่ียนแปลงไป เดก็ รุน่ ใหม่เกดิ มาพรอ้ มกบั ความสามารถในการสบื ค้นข้อมูล
ได้อย่างรวดเร็วโดยการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเด็ก“Generation Z”ที่มีความเป็น
ตัวของตัวเอง คิดเร็ว ทำเร็ว มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง ชอบความท้าทาย นิยมการสือ่ สารผา่ นเทคโนโลยี
ที่ทันสมัย

แต่ดว้ ยความทนั สมยั น้ีกลบั ทำใหน้ กั เรียนเกดิ การเปลย่ี นแปลงด้านเจตคติท่ดี ีต่อการเรยี นการสอน
ลดลง เจตคตขิ องนักเรยี นจงึ เปน็ สง่ิ ที่มีความสำคัญมาก เพราะถ้านักเรยี นมีความรู้สกึ นึกคิดอย่างไรก็จะทำ
ตามความรูส้ ึกนกึ คิดนนั้ เน่ืองจากเจตคติมอี ิทธพิ ลตอ่ การแสดงออกของความรู้สกึ นกึ คิด และการแสดงออก
ของพฤติกรรม ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เจตคติเป็นสิ่งที่สนับสนุนให้บุคคลแสดงออกซึ่งพฤติกรรมต่าง ๆ
หากนักเรียนมีเจตคติทีด่ ีต่อการเรียน ต่อครูผู้สอนและต่อกระบวนการวิชาที่เรียน ย่อมส่งผลให้นักเรียนมี
ความขยนั ตงั้ ใจเรียนและประสบความสำเรจ็ ทางการเรียน

เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับยุคสมัยที่เปล่ียนแปลงไปครูจึงควรใช้เทคโนโลยีทางการ
เรียนเข้ามาใชใ้ นการสอน ซง่ึ แอปพลิเคชนั Class Dojo เป็นแอปพลิเคชันที่ใชใ้ นการบรหิ ารจดั การชั้นเรียน
ที่มีประสิทธิภาพวิธีการหนึ่ง เนื่องจากตัวแอปพลิเคชันมีแนวคิดหลักในการช่วยจัดกิจกรรมการเรียน
การสอน โดยมีการผสมผสานวิธกี ารสอนและวิธีการประเมินที่หลากหลายได้เป็นอยา่ งดีและยังสามารถใช้
บนอุปกรณ์ต่างๆได้ทุกชนิดจึงถือได้ว่าเป็นเครื่องมือในการจัดการชั้นเรียนที่ช่วยผู้สอนสามารถติดตาม
พฤติกรรมของผู้เรียนในชั้นเรียนได้อย่างรวดเร็ว และง่ายในรูปแบบเรียลไทม์อีกทั้งยังส่งเสริมให้ผู้เรียน
มสี ่วนรว่ มในชั้นเรียน จดจอ่ อยูก่ บั กจิ กรรมการเรยี นรู้

จากความสำคญั ทีต่ ้องการให้ผู้เรยี นมีเจตคติท่ดี ีต่อการเรียนวชิ าภาษาไทยในยุคสมัยที่เทคโนโลยี
และนวตั กรรมพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเรว็ จึงจำเปน็ ตอ้ งใช้เคร่ืองมอื ในการจัดการชั้นเรียนรูปแบบใหม่
ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของนักเรียนรุ่นใหม่ ผู้วิจัยในฐานะที่เป็นครูสอนวิชาภาษาไทยจึงมี
ความสนใจใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo เพื่อเสริมสร้างเจตคติต่อรายวิชาภาษาไทยของนักเรียน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ โรงเรยี นเทศบาลวดั ท่าสะตอ๋ ย อำเภอเมือง จงั หวัดเชียงใหม่ใหด้ ียิง่ ข้ึนไป

ปญั หาการวจิ ัย
การใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo เพื่อเสริมสร้างเจตคติต่อรายวิชาภาษาไทยของนักเรียน

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ โรงเรยี นเทศบาลวดั ทา่ สะต๋อย อำเภอเมอื ง จังหวัดเชียงใหม่ เปน็ อยา่ งไร
วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ัย

เพื่อศึกษาการใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo ในการเสริมสร้างเจตคติต่อรายวิชาภาษาไทยของ
นักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ โรงเรียนเทศบาลวดั ท่าสะตอ๋ ย อำเภอเมอื ง จังหวัดเชยี งใหม่
ขอบเขตการวจิ ยั

การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาการใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo เพื่อเสริมสร้างเจตคติต่อรายวิชา
ภาษาไทยของนักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรยี นเทศบาลวัดท่าสะตอ๋ ย อำเภอเมอื ง จงั หวัดเชยี งใหม่
ซึง่ กำหนดขอบเขตการวิจยั ดงั นี้

ขอบเขตดา้ นประชากร
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๔๗ คน
โรงเรยี นเทศบาลวัดทา่ สะต๋อย ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จงั หวดั เชยี งใหม่
ขอบเขตด้านเวลา
การทำวจิ ัยครง้ั นด้ี ำเนนิ การในภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔
ตัวแปรในการวจิ ัย
๑. ตวั แปรอสิ ระ (ตน้ ) ได้แก่ แอปพลิเคชนั Class Dojo
๒. ตัวแปรตาม ได้แก่ เจตคติตอ่ รายวชิ าภาษาไทย
สมมุติฐานการวิจัย
เจตคติต่อรายวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หลังการใช้แอปพลิเคชัน
Class Dojo อยใู่ นระดับมาก
นิยามศพั ท์เฉพาะ
เจตคตติ ่อการเรยี นภาษาไทย หมายถึง แนวคดิ ความคิดเห็น ความรสู้ ึกนึกคิด ท้ังด้านชอบและ
ไม่ชอบ ของนักเรียนที่มีต่อประสบการณ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ซึ่งวัดได้จากการตอบแบบสอบถาม
วดั เจตคตติ ่อการเรยี นภาษาไทย จำนวน ๑๕ ข้อ
แอปพลิเคชัน Class Dojo หมายถึงแอปพลิเคชันที่ใช้ในการบริหารจัดการชั้นเรียนที่ครูใช้ใน
กจิ กรรมการเรยี น เพื่อให้นกั เรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย มีส่วนร่วมในการ
เรียนการสอน
ประโยชน์ทีไ่ ดร้ ับจากการวจิ ยั
๑. ทำให้ครูผู้สอนทราบเจตคติของนกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนเทศบาลวดั ท่าสะตอ๋ ย
ที่มีตอ่ รายวิชาภาษาไทย
๒. เพื่อนำผลที่ได้มาใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอนในรายวิชา
ภาษาไทย

เอกสารและงานวจิ ยั ท่เี กย่ี วข้อง
การใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo เพื่อเสริมสร้างเจตคติต่อรายวิชาภาษาไทยของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษา
เอกสารและงานวิจัยที่เกย่ี วข้องมดี งั ต่อไปน้ี

๑. ความหมายของเจตคติ (Attitude)
๒. องค์ประกอบของเจตคติ
๓. แอปพลิเคชนั Class Dojo
๔. งานวจิ ยั ท่เี กย่ี วข้อง
๑. ความหมายของเจตคติ (Attitude)
เจตคติ มีความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน (๒๕๒๕:๓๙๓) เป็นคำนาม หมายถงึ
ทา่ ทหี รือความรู้สึกของบุคคลท่ีมีต่อส่งิ ใดสง่ิ หน่งึ หรอื ในภาษาองั กฤษตรงกับคำว่า Attitude ซ่ึงมีรากศัพท์
มาจากภาษาลาตินว่า Aptus แปลว่า โน้มเอียง เหมาะสม สำหรับความหมายที่นักจิตวิทยาหรือกลุ่ม
ผทู้ ีส่ นใจศึกษาเก่ยี วกับเจตคตไิ ด้ให้ความหมายไว้อย่างหลากหลาย แต่มีสิ่งทีต่ รงกนั พอสรปุ ไดว้ า่ เจตคตเิ ป็น
เรื่องของอารมณ์ความรู้สึกภายในตัวบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เมื่อมีข้อมูลของสิ่งใดสิ่งหน่ึงส่งไปยังสมอง
บุคคลจะแสดงออกเป็นพฤติกรรมสนองตอบ จึงไม่สามารถสังเกตได้โดยตรง โดยพฤติกรรมที่แสดงออก
จะมลี ักษณะเปน็ ไปในทางบวก ลบ หรือเป็นกลาง และเจตคติมีความคงทนแต่ก็ยงั สามารถเปล่ียนแปลงได้
บุญเรือง ศรีเหรัญ (๒๕๕๔ : ๕๖) กล่าวว่า เจตคติ หมายถึง ความรู้สึกของบุคคลอันเป็นผล
เนื่องมาจากการเรยี นรู้ ประสบการณ์ และจะเป็นตัวกระตุ้นใหบ้ คุ คลแสดงพฤติกรรมตา่ ง ๆ ไปในทิศทางใด
ทิศทางหน่ึงท่ีอาจเปน็ การสนับสนุนหรอื ตอ่ ตา้ นก็ได้
บุญญลักษม์ ตำนานจิตร (๒๕๕๒ : ๓๕) กล่าวว่าเจตคติ หมายถึง ความรู้สึกที่แสดงออกมาใน
ทางบวกหรือทางลบหรือที่เป็นกลาง เช่น พอใจ ไม่พอใจ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ชอบหรือไม่ชอบต่อบุคคล
หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือไม่มีความรู้สึกใด ๆ และบุคคลซึ่งแสดงความรู้สึกทางด้านพฤติกรรม ทั้งพฤติกรรม
ภายนอก ที่สังเกตได้ด้วยท่าทางหน้าตาบ่งบอกถึงความพึงพอใจ และพฤติกรรมภายใน เป็นพฤติกรรม
ท่ีสงั เกตไมไ่ ด้ชอบหรือไมช่ อบก็ไมแ่ สดงออก
๒. องคป์ ระกอบของเจตคติ
ประภาเพ็ญ สวุ รรณ (๒๕๒๖ : ๓๔) ไดแ้ บ่งองค์ประกอบของเจตคติ ๓ ประการ คอื
๑. องค์ประกอบดา้ นความรู้ความเข้าใจ (Cognitive Component) ความรู้ความเข้าใจของบุคคล
ที่มตี ่อสง่ิ เรา้ น้นั ๆ เพื่อเป็นเหตุผลที่จะสรปุ ความและรวมเป็นความเชอ่ื
๒. องค์ประกอบด้านความรู้สึกและอารมณ์ (Affective Component) ความร้สู กึ หรอื อารมณข์ อง
บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับสิ่งเร้าต่างเป็นผลต่อเนื่องมาจากที่บุคคลประเมินค่าสิ่งเร้านั้นแล้วพบว่าพอใจ
หรอื ไม่พอใจ ต้องการหรอื ไม่ต้องการ เช่น เจตคติทมี่ ตี อ่ งานทที่ ำ

๓. องค์ประกอบด้านพฤติกรรม (Behavioral Component) ความพร้อมหรือความโน้มเอียง
ที่บุคคลประพฤติปฏิบัติหรือตอบสนองตอ่ ส่งิ เรา้ ในทศิ ทางท่ีจะสนับสนุนหรอื คดั ค้าน ทง้ั นี้ขึ้นอยู่กับความเชอ่ื
หรือความรู้สึกของบุคคลทไี่ ด้รับจากการประเมินคา่ ใหส้ อดคล้องกบั ความรสู้ ึกท่ีมอี ยู่

๓. แอปพลเิ คชัน Class Dojo
สรุ พล บุญลอื (ออนไลน)์ กล่าววา่ แอปพลเิ คชนั Class Dojo เป็นแอปพลิเคชันท่ีใช้ในการบริหาร
จัดการชั้นเรียนที่มีประสิทธภิ าพวิธีการจดั การเรียนการสอนท่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นศูนยก์ ลาง ที่มีการผสมผสาน
วิธีการสอนและวิธีการประเมินที่หลายหลายได้เป็นอย่างดีรวมถึงยังสามารถเพิ่มผู้มีส่วนร่วมได้มากมาย
และยังสามารถใช้บนอปุ กรณต์ า่ งๆได้ทุกชนดิ
ผู้ใชง้ านโปรแกรม จะมีอยดู่ ้วยกนั ๓ ประเภท คอื
๑. ผ้สู อน ซงึ่ จะมผี ูส้ อนหลักและเพม่ิ ผ้สู อนร่วมได้
๒. นักเรียน นักศึกษา จะต้องเข้ามาทำกิจกรรมการเรียนรู้และสามารถรับรู้ผลการประเมินในทกุ
ส่วนได้
๓. ผู้ปกครอง เนื่องจากแอปพลิเคชันนี้เป็นการใช้งานได้ตั้งแต่ระดับประถมเป็นต้นไปดังน้ัน
ผู้ปกครองจะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการรับรู้การประเมิน และความก้าวหน้าของนักเรียนในปกครอง
ของตนเองได้ จะเห็นไดว้ า่ การใช้งานที่หลากหลายจึงไม่เปน็ การแปลกเลยที่แอปพลิเคขันนี้จะไดร้ บั ความ
นยิ มอยา่ งรวดเร็ว และมกี ารใช้งานท่หี ลากหลาย กิจกรรมตา่ งๆ
แอปพลิเคชัน Class Dojo เป็นระบบที่สนับสนุนการเรียนการสอนที่ออกแบบโดยใช้แนวคิด
ของเกมมิฟิเคชัน แอปพลิเคชัน Class Dojo เป็นเครื่องมือในการจัดการชั้นเรียนที่ช่วยครูผู้สอนควบคุม
พฤตกิ รรมของนกั เรยี นในชนั้ เรยี นได้อยา่ งรวดเรว็ และงา่ ยดายในรปู แบบเรียลไทม์สง่ เสริมใหน้ กั เรียนมีส่วน
ร่วมในช้ันเรยี น จดจ่ออยกู่ ับกิจกรรมการเรยี นรู้
ระบบการจดั การของแอปพลเิ คชันคลาส โดโจท่สี ำคัญมี ๔ ดา้ น ดังน้ี
๑. ระบบการสรา้ งตวั ละครของนักเรียน โดยนกั เรยี นจะมตี ัวละครประจําตัวของตนเองในชั้นเรียน
นักเรียนสามารถเลือกและปรับเปลีย่ นตวั ละครด้วยตนเองได้
๒. ระบบการเสรมิ แรง ครผู ูส้ อนสามารถให้รางวัลเพม่ิ สำหรับนักเรียนทม่ี ีพฤตกิ รรมในช้ันเรียนท่ีดี
และสามารถลดคะแนนนกั เรียนในกรณีทน่ี ักเรยี นมพี ฤตกิ รรมท่ีไมพ่ ึงประสงคไ์ ด้ทันที
๓. ระบบรายงานพฤติกรรมของนักเรียน ครูผู้สอนสามารถแจ้งพฤติกรรมของนักเรียนให้แก่
ผปู้ กครอง และผู้บริหารโรงเรียนทราบได้
๔. นอกจากนี้แล้ว ยังมีระบบการวิเคราะห์คะแนนเบื้องต้น ซึ่งจะประเมินทักษะในด้านต่าง ๆ
ออกมาเป็นกราฟ เพื่อให้เห็นคะแนนในด้านต่าง ๆ ทั้งบวกและลบได้ในทันทีอีกทั้งยังสามารถนําข้อมูล
ออกมาอยใู่ นรูปแบบของ Excel ได้อีกดว้ ย

๔. งานวจิ ัยทีเ่ กยี่ วขอ้ ง
รวีวรรณ อนิ จุ้ย (๒๕๖๒ : บทคดั ยอ่ ) วจิ ัยเรอื่ ง ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคเกม
มิฟิเคชันต่อแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์และความพึงพอใจของนักเรียนพยาบาลกองทัพบก ผลการวิจัยพบว่า
นักเรียนพยาบาลมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์หลังได้รับกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคเกมมิฟิเคชันในรายวิชา
ปฏิบัติการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชสูงกว่ากว่าก่อนได้รับกิจกรรมการเรียนรู้นักเรียนพยาบาล
มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคเกมมิฟิเคชันแตกต่างกัน
อยา่ งมีนัยสำคญั ทางสถติ ทิ ่รี ะดับ .๐๕ ความพงึ พอใจของนกั เรยี นพยาบาลตอ่ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดย
ใช้เทคนิคเกมมิฟิเคชัน ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช มีระดับความพึงพอใจโดย
รวมอยใู่ นระดบั ปานกลาง (= ๓.๘๐, SD = ๐.๘๓)
นิธินันท์ ธนปรีชานันท์ (๒๕๖๐ : บทคัดย่อ) วิจัยเรื่อง การใช้การจัดอันดบั แต้มขยัน Class Dojo
ในการพัฒนาอุปนิสัยด้านการพัฒนาตนเองอยู่เสมอของนักเรียนชั้น ป.๕/๔ โรงเรียนปรินส์รอยเยลส์
วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ผลการวิจัยพบวา่ การนำแต้มขยันในห้องเรยี น (ClassDojo) และการจัดอันดับ
แต้มขยันมาใชค้ วบคู่ไปกับการเรียนการสอน ทำให้นักเรยี นมีความรบั ผิดชอบต่อการศึกษาเพิ่มขึ้น และยัง
กระตนุ้ ใหน้ ักเรียนมคี วามคดิ ริเรม่ิ ท่จี ะเปลย่ี นแปลงตวั เอง ส่งผลให้คะแนนเฉลย่ี ของนกั เรียนกว่ารอ้ ยละ ๘๐
เป็นไปในทิศทางท่ีดขี ้นึ จากการสรุปคะแนนผลสมั ฤทธทิ์ ง้ั สองภาคเรียน
กรอมุ า แจ่มวิญญู (๒๕๕๘ : บทคัดย่อ) วจิ ยั เรอ่ื ง การใช้เวบ็ ไซต์ Classdojo.com เพือ่ การจัดการ
ในชั้นเรยี นเชิงบวก และพัฒนาผลสมั ฤทธิ์วิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ผลการวิจัย
พบว่า ผลสัมฤทธิ์วิชาภาษาอังกฤษในปลายภาคเรียนที่ ๑ และกลางภาคเรียนที่ ๒ เพิ่มมากขึ้นในทั้งสาม
ห้อง โดยเพิ่มขึ้น ๒.๒๖, ๓.๔๓ และ ๒.๕๒ ตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงความต้ังใจในการเรียนที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้คะแนนจากแบบสังเกตพฤติกรรมในชั้นเรียนพบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยรวมเท่ากับ ๑๘.๒๖
เทยี บเกณฑอ์ ยูใ่ นระดับดีมาก
วิจิตร หลานวงค์ (๒๕๖๒ : บทคัดย่อ) วิจัยเรื่องกระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาเจตคติของ
นักเรียน ที่มีตอ่ การเรียนวิชาภาษาไทย : กรณีศึกษาโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก ผลการวิจัยพบวา่ นักเรียน
ทุกคนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาไทยสูงทุกด้าน ซึ่งด้านที่สูงมากที่สุดได้แก่ ด้านครูผู้สอนวิชา
ภาษาไทย ด้านเจตคตทิ ม่ี ตี ่อกจิ กรรมการเรยี นการสอนวชิ าภาษาไทย และด้านเน้อื หาวชิ าภาษาไทย
วิธดี ำเนินการวจิ ัย

การวิจัยเรื่อง “การใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo เพื่อเสริมสร้างเจตคติต่อรายวิชาภาษาไทย
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะตอ๋ ย อำเภอเมือง จงั หวัดเชียงใหม่”น้ี ผู้วิจัย
ได้ศึกษา เอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวขอ้ งมาประกอบการวิจัยตามวตั ถุประสงคข์ องการวิจัย คือ เพื่อศึกษา
การใช้แอปพลเิ คชัน Class Dojo ในการเสริมสรา้ งเจตคตติ ่อรายวิชาภาษาไทยของนักเรยี นช้ันประถมศึกษา
ปีที่ ๖ โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ
(Quantitative Research) ผู้วจิ ยั มีแนวทางและมวี ธิ ีการดำเนนิ การวิจยั ดงั ตอ่ ไปน้ี

๑. ประชากรในการวจิ ัย
๒. ขอ้ มูลและแหลง่ ข้อมูล
๓. เครือ่ งมือที่ใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล
๔. วิธีสรา้ งเครอ่ื งมอื ในการวจิ ยั
๕. วิธีเกบ็ รวบรวมข้อมูล
๖. การวเิ คราะห์ข้อมลู
๑. ประชากรในการวจิ ยั
การวิจัยนีเ้ ปน็ การวจิ ยั เชิงปรมิ าณ จึงกำหนดกลมุ่ ประชากรไว้ ดังนี้
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๔๗ คน โรงเรียน
เทศบาลวดั ทา่ สะตอ๋ ย ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่
๒. ข้อมูลและแหล่งข้อมลู
ในการศกึ ษา ครั้งน้ีผ้วู จิ ยั ได้เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากแหล่งข้อมูล ๒ แหลง่ ได้แก่

๑. ขอ้ มลู ปฐมภูมิ เป็นข้อมูลทีผ่ วู้ จิ ัยได้จดั เกบ็ ขอ้ มลู โดยการใช้แบบแบบสอบถาม
๒. ข้อมูลทุติยภูมิ เป็นข้อมูลที่ได้จากรวบรวมเอกสาร การทบทวน แนวคิดเกี่ยวกับการ
ปฏิบตั ิงาน ทฤษฎี เอกสาร และงานวิจัยท่เี กี่ยวขอ้ ง ได้แก่ สง่ิ พิมพ์ ข้อมูลทเี่ ผยแพรท่ างอนิ เตอรเ์ น็ต
๓. เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูล
เครือ่ งมอื ท่ใี ชใ้ นการวจิ ัยเรือ่ งนี้ ได้แก่
แบบสอบถาม(Queastionair) เพื่อใช้เป็นแนวทางในการถามผู้เรยี น โดยผู้วิจัยจะต้องใช้วิธีการ
เก็บรวบรวมขอ้ มลู ซ่ึงแบง่ แนวคำถามออกเปน็ ๒ ตอน ดังนี้
ตอนที่ ๑ ข้อมลู ปัจจยั ส่วนบคุ คล
ตอนที่ ๒ ข้อมูลเก่ียวกับเจตคติต่อรายวิชาภาษาไทยของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียน
เทศบาลวดั ทา่ สะต๋อย จำนวน ๑๕ ขอ้
๔. การสรา้ งเครอ่ื งมือในการวิจัย
ผู้วจิ ัยไดส้ รา้ งแบบสอบถามเจตคตเิ พ่ือใชใ้ นการวิจัยครงั้ น้ี
๑. การสร้างแบบสอบถามที่เป็นเชิงปริมาณ ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี เอกสาร
และงานวจิ ัยที่เกย่ี วข้อง
๒. นำเครื่องมอื ไปทดลองใช้(Try-Out) กบั นกั เรียนโรงเรยี นเทศบาลวดั ท่าสะต๋อย
๓. นำเคร่ืองมือท่ีไดร้ ับการปรบั ปรุงแกไ้ ขแลว้ ไปเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลในสถานศึกษาจริงกับ
นักเรยี นทุกคน
… ๕. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู
๑. เก็บข้อมูลเชิงปริมาณ จากนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ รวม
๒ หอ้ ง โดยเกบ็ ข้อมลู ดว้ ยตนเอง จนไดข้ อ้ มลู ตามทต่ี ้องการ

๒. เก็บรวบรวมขอ้ มูลจากเอกสาร ทบทวน แนวคดิ ทฤษฎี เอกสาร และงานวจิ ัยที่เก่ยี วขอ้ ง ได้แก่
สง่ิ พมิ พ์ ข้อมูลทเ่ี ผยแพร่ทางอินเตอรเ์ น็ต

๖. การวิเคราะหข์ อ้ มลู และประมวลผล
ผู้วิจัยนำขอ้ มูลที่ได้มาวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลดว้ ยคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรปู
ทางสถติ ิ เพอื่ วเิ คราะหห์ าค่าสถิติตา่ ง ๆ ใชค้ า่ สถิติเชงิ พรรณนา (Descriptive Statistics) ด้วยการแจกแจง
ความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
(Standard Deviation)
ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู

การวจิ ยั เรื่อง “การใช้แอปพลิเคชนั Class Dojo เพ่ือเสรมิ สรา้ งเจตคติตอ่ รายวิชาภาษาไทยของ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่”นี้ ผู้วิจัยได้
ศึกษา เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี ก่ียวขอ้ งมาประกอบการวจิ ัยตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย คอื เพ่ือศกึ ษาการ
ใช้แอปพลเิ คชนั Class Dojo ในการเสรมิ สรา้ งเจตคติตอ่ รายวิชาภาษาไทยของนกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี
๖ โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้วิจัยได้เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยเครื่องมอื
แบบสอบถาม จำนวน ๔๗ ชุด แล้วนำมาวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลเพื่อคำนวณหาค่าสถิติต่าง ๆ
สำหรับตอบปัญหาการวิจัย และวัตถุประสงค์การวิจัย พร้อมทั้งนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยมี
รายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี

๑. สญั ลักษณ์ที่ใช้ในการเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมูล
๒. ข้ันตอนของการวเิ คราะห์ข้อมลู
๓. ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู มีรายละเอียดสำคญั ดังต่อไปนี้
สญั ลักษณ์ทใี่ ช้ในการเสนอผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู
เพื่อความเขา้ ใจท่ีตรงกนั ในการแปลความหมายขอ้ มูล จงึ กำหนดสญั ลกั ษณท์ ีใ่ ช้ในการเสนอผลการ
วิเคราะหข์ ้อมลู ดงั น้ี

 แทน คา่ เฉลี่ย (Mean)
S.D. แทน คา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
n แทน จำนวนประชากร
ข้นั ตอนของการวเิ คราะห์ขอ้ มูล
ตอนที่ ๑ ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ เพศ อายุ เกรดเฉลี่ยและสถานภาพ
ใช้การวิเคราะห์หาค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) และนำเสนอในรูปตาราง
ประกอบการบรรยาย
ตอนที่ ๒ เจตคติต่อรายวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนเทศบาล

วัดท่าสะต๋อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้การวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน (S.D.)

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ตอนที่ ๑ ปจั จยั ส่วนบุคคลของผตู้ อบแบบสอบถาม

ปจั จยั สว่ นบคุ คลของผูต้ อบแบบสอบถาม ไดแ้ ก่ เพศ อายุ เกรดเฉล่ียและสถานภาพ นำเสนอในรูป
ตารางประกอบการบรรยาย ดงั ตารางต่อไปนี้

ตารางแสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ

เพศ จำนวน รอ้ ยละ

๑.ชาย ๒๕ ๕๓.๑๙

๒.หญงิ ๒๒ ๔๖.๘๑

รวม ๔๗ ๑๐๐.๐

จากตาราง พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามจำนวนทั้งสน้ิ ๔๗ คน เป็นเพศชาย จำนวน ๒๕ ราย

คดิ เปน็ ร้อยละ ๕๓.๑๙ และเพศหญงิ จำนวน ๒๒ ราย คิดเปน็ รอ้ ยละ ๔๖.๘๑

ตารางแสดงจำนวนและรอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถามจำแนกตามอายุ

อายุ จำนวน รอ้ ยละ

๑. อายุ ๑๐ ปี ๐๐

๒. อายุ ๑๑ ปี ๑๕ ๓๑.๗๕

๓. อายุ ๑๒ ปี ๓๐ ๖๓.๔๙

๔. อายุ ๑๓ ปีขนึ้ ไป ๒ ๔.๗๖

รวม ๔๗ ๑๐๐.๐

จากตาราง พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนทั้งสิ้น ๔๗ คน มีอายุ ๑๒ ปี จำนวน ๓๐ ราย คิด

เป็นร้อยละ ๖๓.๔๙ อายุ ๑๑ ปี จำนวน ๑๕ ราย คิดเป็นร้อยละ ๓๑.๗๕ และอายุ ๑๓ ปีขึ้นไปจำนวน

๒ ราย คิดเปน็ รอ้ ยละ ๔.๗๖ ตามลำดับ

ตารางแสดงจำนวนและรอ้ ยละของผูต้ อบแบบสอบถามจำแนกตามระดบั ผลการเรยี น

ผลการเรยี น จำนวน ร้อยละ

๑. ต่ำกว่า ๒.๐๐ ๒ ๔.๗๖

๒. ๒.๐๑- ๒.๕๐ ๗ ๑๔.๒๙

๓. ๒.๕๑-๓.๐๐ ๑๓ ๒๘.๕๗

๔. ๓.๐๑ ขน้ึ ไป ๒๕ ๕๒.๓๘

รวม ๔๗ ๑๐๐.๐

จากตาราง พบว่า ผูต้ อบแบบสอบถามจำนวนทง้ั สน้ิ ๔๗ ผลการเรียน ๓.๐๑ ขน้ึ ไป จำนวน ๒๕ คน

คิดเป็นร้อยละ ๕๒.๓๘ ผลการเรียน ๒.๕๑-๓.๐๐ จำนวน ๑๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๘.๕๗ ผลการเรียน

๒.๐๑-๒.๕๐ จำนวน ๗ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๔.๒๙ และมีเกรดต่ำกวา่ ๒.๐๐ จำนวน ๒ ราย คิดเปน็ รอ้ ยละ

๔.๗๖ ตามลำดับ

ตารางแสดงจำนวนและรอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามสถานภาพ

สถานภาพ จำนวน ร้อยละ

๑. อยู่หอพกั ๒ ๔.๗๖

๒.อยกู่ บั บิดา มารดา ๓๒ ๖๘.๒๕

๓.อยูก่ ับญาติ ๘ ๑๕.๘๗

๔.อืน่ ๆ ..... ๕ ๑๑.๑๑

โดยรวม ๔๗ ๑๐๐.๐

จากตาราง พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนทั้งสิ้น ๔๗ คน อยู่กับบิดา มารดาจำนวน ๓๒ ราย
คิดเป็นร้อยละ ๖๘.๒๕ อยู่กับญาติจำนวน ๘ ราย คิดเป็นร้อยละ ๑๕.๘๗ อื่น ๆ จำนวน ๕ ราย คิดเป็นรอ้ ย
ละ ๑๑.๑๑ และอยอู่ ย่หู อพัก จำนวน ๒ ราย คิดเปน็ รอ้ ยละ ๔.๗๖ ตามลำดบั

ตอนที่ ๒ เจตคตทิ ม่ี ีตอ่ รายวิชาภาษาไทยของนักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ โรงเรยี นเทศบาลวัดท่าสะต๋อย
อำเภอเมอื ง จังหวดั เชยี งใหม่

การวิเคราะห์ “เจตคติที่มตี ่อรายวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรยี นเทศบาล

วัดท่าสะตอ๋ ย อำเภอเมอื ง จงั หวดั เชียงใหม”่ มีจำนวน ๑๕ ข้อ ใช้การวเิ คราะหห์ าค่าเฉลี่ย (  ) สว่ นเบ่ียงเบน
มาตรฐาน (S.D.) และนำเสนอในรปู ตารางประกอบการบรรยาย ปรากฏดงั ตารางตอ่ ไปน้ี

ตารางแสดงคา่ เฉลี่ย (  ) และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน (S.D.)เจตคตทิ ่ีมตี อ่ รายวชิ าภาษาไทย

หัวข้อการประเมิน N  S.D. แปลผล

๑.แอปพลิเคชนั Class Dojo ทำให้ข้าพเจา้ สนกุ และ ๔๗ ๔.๕๓ ๐.๕๓ มากท่สี ุด
ต่ืนเตน้ ที่ไดเ้ รียนวิชาภาษาไทย ๔๗ ๔.๑๔ ๐.๖๐ มาก
๒.แอปพลิเคชนั Class Dojo ทำให้ขา้ พเจา้ อยากเรยี น ๔๗ ๔.๐๙ ๐.๖๔ มาก
วิชาภาษาไทย ๔๗ ๔.๑๐ ๐.๖๒ มาก
๓.แอปพลเิ คชนั Class Dojo ทำใหข้ ้าพเจา้ เกดิ การ ๔๗ ๔.๐๒ ๐.๗๓ มาก
เรยี นรู้ตามจุดประสงคไ์ ด้จรงิ ๔๗ ๔.๕๑ ๐.๕๕ มากทส่ี ุด
๔.แอปพลิเคชัน Class Dojo ทำใหข้ า้ พเจ้ามเี จตคติทดี่ ี
ตอ่ วิชาภาษาไทย
๕.แอปพลเิ คชัน Class Dojo ทำใหข้ า้ พเจา้ มพี ัฒนาการ
ด้านการคดิ วเิ คราะห์
๖.แอปพลเิ คชนั Class Dojo ทำให้การเรยี นในวิชา
ภาษาไทยสะดวกมากยิง่ ขนึ้

๗.แอปพลเิ คชัน Class Dojo มคี วามนา่ สนใจกวา่ การ ๔๗ ๔.๕๒ ๐.๕๔ มากท่ีสดุ

เรียนในรปู แบบปกติ

๘.แอปพลเิ คชนั Class Dojo ทำใหก้ ารเรียนในวิชา ๔๗ ๔.๒๑ ๐.๕๙ มาก

ภาษาไทยมีประสิทธภิ าพ

๙.แอปพลิเคชัน Class Dojo ทำใหบ้ รรยากาศใน ๔๗ ๔.๒๘ ๐.๕๘ มาก

หอ้ งเรียนวิชาภาษาไทยนา่ สนใจ

๑๐.แต้มสะสมในแอปพลิเคชนั Class Dojo ทำให้ ๔๗ ๔.๓๕ ๐.๕๗ มาก

ขา้ พเจา้ กระตอื รือร้น ในวิชาภาษาไทย

๑๑.แตม้ สะสมในแอปพลิเคชัน Class Dojo ทำให้ ๔๗ ๔.๑๗ ๐.๖๑ มาก

ขา้ พเจา้ ประพฤติไปในทางที่เหมาะสม

๑๒.แต้มสะสมในแอปพลิเคชัน Class Dojo ทำให้ ๔๗ ๔.๑๐ ๐.๖๒ มาก

ข้าพเจา้ เขา้ เรียนในวิชาภาษาไทยเรว็ ข้ึน

๑๓.แตม้ สะสมในแอปพลิเคชนั Class Dojo ทำให้ ๔๗ ๔.๐๓ ๐.๗๒ มาก

ข้าพเจ้ากล้าแสดงออกในการเรยี นวิชาภาษาไทย

๑๔.แต้มสะสมในแอปพลิเคชนั Class Dojo ทำให้ ๔๗ ๔.๐๘ ๐.๗๐ มาก

ข้าพเจ้ามีความรบั ผิดชอบงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย

๑๕.ขา้ พเจ้าอยากใหค้ รูนำแอปพลิเคชัน Class Dojo ๔๗ ๔.๕๔ ๐.๕๓ มากทส่ี ดุ

มาใช้ในการสอนวชิ าภาษาไทยตลอดไป

โดยรวม ๔๗ ๔.๒๕ ๐.๖๑ มาก

จากตาราง พบว่า เจตคติที่มีต่อรายวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียน
เทศบาลวัดท่าสะต๋อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยรวม แปลผลอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ
๔.๒๕ และมสี ่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเทา่ กบั .๖๑

เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยจากมากที่สุดไปถึงน้อยที่สุดตามลำดับดังนี้ ข้อที่มีค่าเฉลี่ย
มากทสี่ ดุ คอื ข้อที่ ๑๕ ไดแ้ ก่ ขา้ พเจ้าอยากใหค้ รนู ำแอปพลิเคชัน Class Dojo มาใชใ้ นการสอนวชิ าภาษาไทย
ตลอดไป มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๔ และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .๕๓ ข้อที่รองลงมาคือ ข้อที่ ๑ ได้แก่
แอปพลิเคชัน Class Dojo ทำให้ข้าพเจ้าสนุกและตื่นเต้นที่ได้เรียนวิชาภาษาไทย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๓
และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .๕๓ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือข้อ ๕ ได้แก่ แอปพลิเคชัน Class
Dojo ทำให้ข้าพเจ้ามีพฒั นาการด้านการคิดวิเคราะห์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๐๒ และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
เทา่ กับ .๗๓

สรปุ อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
การศึกษาวจิ ัยเรอ่ื ง การใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo เพอ่ื เสริมสร้างเจตคติตอ่ รายวิชาภาษาไทย

ของนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ โรงเรียนเทศบาลวดั ท่าสะตอ๋ ย อำเภอเมือง จังหวัดเชยี งใหมน่ ี้ ผู้วิจัยได้
ตั้งวัตถุประสงค์ คือ เพื่อศึกษาการใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo ในการเสริมสร้างเจตคติต่อรายวิชา
ภาษาไทยของนกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ โรงเรียนเทศบาลวัดทา่ สะตอ๋ ย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ผู้วิจัยมีแนวทางและมีวิธีการดำเนินการวิจัย
โดยได้ทำการวิจยั เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากประชากรที่ศึกษาด้วยเครื่องมือ คอื แบบสอบถาม ๒ ตอน จำนวน
๔๗ ชดุ แลว้ นำมาวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลเพื่อคำนวณหาค่าสถติ ิต่าง ๆ สำหรบั ตอบปัญหาการวิจัย
วัตถุประสงค์การวิจัย และสมมติฐานการวิจัย พร้อมทั้งนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยมีรายละเอียด
ดังต่อไปนี้

๑. สรปุ ผลการวิจยั
๒. อภปิ รายผล
๓. การแสดงปัญหาและข้อเสนอแนะ
๑. สรุปผลการวิจัย
๑. ผลสรปุ ขอ้ มูลเกี่ยวกับปัจจัยสว่ นบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม
พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามจำแนกเปน็ เพศชาย มีจำนวน ๒๕ ราย รองลงมาคอื เพศหญิง มจี ำนวน
๒๒ ราย ดา้ นอายผุ ูต้ อบแบบสอบถามเฉล่ยี ระหว่าง ๑๒ ปี มจี ำนวน ๓๐ ราย รองลงมาอายุระหวา่ ง ๑๑ ปี
มีจำนวน ๑๕ ราย และและอายุ ๑๓ ปีขึ้นไป มีจำนวน ๒ ราย ด้านผลการเรียน ๓.๐๑ ขึ้นไป มีจำนวน
๒๕ ราย รองลงมาผลการเรียน ๒.๕๑-๓.๐๐ จำนวน ๑๓ ราย และลำดบั สดุ ท้ายเกรดต่ำกว่า ๒.๐๐ จำนวน
๒ ราย ด้านที่อยู่อาศัยระหว่างเรียนส่วนใหญ่อาศัยอยูก่ ับบิดา มารดา มีจำนวน ๓๒ ราย รองลงมาอยู่กับ
ญาติ มีจำนวน ๘ ราย และลำดับสุดทา้ ยอย่หู อพัก จำนวน ๒ ราย
๒. ผลสรุปข้อมูลเก่ียวกับการใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo เพื่อเสริมสร้างเจตคติต่อรายวิชา
ภาษาไทยของนกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรยี นเทศบาลวัดทา่ สะต๋อย อำเภอเมอื ง จังหวัดเชียงใหม่
โดยรวมอยใู่ นระดับมาก ซ่งึ สอดคลอ้ งกับสมมติฐานทผี่ ู้วิจัยได้กำหนดไว้ สามารถสรุปได้ดังน้ี
เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือขอ้ ที่ ๑๕ ได้แก่ ข้าพเจ้าอยากให้ครูนำ
แอปพลิเคชัน Class Dojo มาใช้ในการสอนวิชาภาษาไทยตลอดไป มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๔ และมีส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .๕๓ ข้อที่รองลงมาคือ ข้อที่ ๑ ได้แก่ แอปพลิเคชัน Class Dojo ทำให้ข้าพเจ้า
สนกุ และตน่ื เตน้ ทไี่ ด้เรียนวิชาภาษาไทย มีคา่ เฉลีย่ เท่ากับ ๔.๕๓ และมีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ .๕๓
และข้อที่มีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุดคือข้อ ๕ ได้แก่ แอปพลิเคชัน Class Dojo ทำให้ข้าพเจ้ามีพัฒนาการด้านการ
คิดวเิ คราะห์ มคี า่ เฉลย่ี เทา่ กับ ๔.๐๒ และมีสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานเทา่ กับ .๗๓ ตามลำดับ

๒. อภิปรายผล
จากผลสรุปข้อมูลเกี่ยวกับการใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo เพื่อเสริมสร้างเจตคติต่อรายวิชา
ภาษาไทยของนักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ โดยรวมอยใู่ นระดับมาก สามารถอภิปรายได้ ดงั น้ี
การบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo ทำให้ผู้เรียนมีความสนใจรู้สึกสนุก
และตื่นเต้นในการเรียน และอยากให้ครูนำแอปพลิเคชัน Class Dojo มาใช้ในการสอนวิชาภาษาไทยตลอดไป
เปน็ เพราะ แอปพลิเคชนั Class Dojo ให้ส่ิงเสรมิ แรงทางบวกแก่นกั เรยี น คอื แอปพลิเคชนั Class Dojo สามารถ
ให้นักเรียนสะสมแต้มคะแนนเพื่อแลกของรางวัลได้ ซึ่งจะสอดคลองกับทฤษฎีของสกินเนอร ที่วาการเสริมแรง
จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำใหบุคคลแสดงพฤติกรรมตามเงื่อนไขซ้ำ ๆ โดยที่นักเรียนสามารถเก็บแต้มสะสม
เป็นของตนเองเป็นการแข่งขันกับตนเองและเพื่อนร่วมชั้น นักเรียนแต่ละคนจะเก็บสะสมแต้มให้ได้จำนวน
ตามเป้าหมายท่ีตกลงรว่ มกนั เพื่อรับของรางวัล นกั เรยี นแต่ละคนจะประพฤติปฏบิ ตั ิตนตามเงอื่ นไขเพ่อื ให้ได้แต้ม
เก็บสะสม เช่น การเข้าเรียนตรงตามเวลา การตอบคำถาม การส่งงานตามกำหนด และมีผลงานดีเด่น
ซึ่งทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อการเรียนเพิ่มมากขึ้น และยังกระตุ้นให้นักเรียนมีความคิดริเริ่ม
ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ตรงตามเงื่อนไข ส่งผลให้นักเรียนนั้นมีเจตคติที่ดีต่อรายวิชาภาษาไทยเพิ่มขึ้น
โดยสอดคล้องกับงานวิจัยของสุชาติ เขียวสะอาด (๒๕๖๒ : บทคัดย่อ) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การใช้แอปพลิเคชัน
Class Dojo ในการพฒั นาคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ความใฝ่เรียนรู้ และความมงุ่ มัน่ ในการทำงาน วิชาการงาน
อาชพี ๒ ของนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรยี นศรีอยุธยา ในพระอุปถมั ภ์ฯ พบว่า ผลการประเมินความพึง
พอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แอพพลิเคชัน Class Dojo วิชาการงานอาชีพ ๒ ของนักเรียน
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ เฉลย่ี รวมท้ังสิ้นอยู่ในระดับมากท่สี ุด เช่นเดียวกับ กรอมุ า แจม่ วญิ ญู (๒๕๕๘ : บทคัดย่อ)
ได้ทำการวจิ ยั เรื่อง การใชเ้ วบ็ ไซต์ Classdojo.com เพือ่ การจดั การในชนั้ เรียนเชงิ บวก และพัฒนาผลสัมฤทธิ์วิชา
ภาษาองั กฤษ ของนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๑ พบวา่ ผลสัมฤทธว์ิ ิชาภาษาองั กฤษในปลายภาคเรียนท่ี ๑ และ
กลางภาคเรียนที่ ๒ แสดงให้เห็นว่าผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนเพิ่มมากข้ึนในทัง้ สามห้อง โดยเพิม่ ขึ้น ๒.๒๖, ๓.๔๓
และ ๒.๕๒ ตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการเรียนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้คะแนนจากแบบสังเกต
พฤตกิ รรมในชัน้ เรียนพบว่า นกั เรยี นมคี ะแนนเฉลย่ี รวมเท่ากบั ๑๘.๒๖ เทียบเกณฑอ์ ยู่ในระดับดมี าก
๓. ข้อเสนอแนะ
๑. ครูผู้สอนต้องสังเกตพฤติกรรมและเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนว่ามีความคงทนหรือไม่
หากไม่มีการแข่งขันสะสมแตม้ หรือการกระตนุ้ จากการใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo เพราะนกั เรยี นอาจแสดง
พฤติกรรมดังกล่าวออกมาเพราะมแี รงจงู ใจเป็นคะแนนและมีความสนกุ จากการใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo
๒. การพัฒนาการใช้แอปพลิเคชัน Class Dojo ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นจากหน้าที่ที่แอพลิเคชัน
บริการเช่น การส่งงาน การประสานข้อมูลระหว่างครูผู้สอนและผู้ปกครอง หรือการเข้ามาประเมินผู้สอน
โดยฝ่ายบริหาร ซง่ึ แอพลเิ คชันมีประสิทธภิ าพและประโยชน์มากต่อการจัดการเรียนการสอนในสถานศกึ ษา

บรรณานุกรม
กรอุมา แจ่มวิญญู. การใช้เว็บไซต์ Classdojo.com เพื่อการจัดการในชั้นเรียนเชิงบวก และพัฒนา

ผลสัมฤทธ์ิวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑. สืบค้นเมื่อ ๑๕ มิถุนายน
๒๕๖๔ จาก: https://academic.prc.ac.th/TeacherResearch/ResearchDetail.php?ID=1742
นิธนิ ันท์ ธนปรีชานันท.์ การใชก้ ารจัดอันดับแต้มขยนั Class Dojo ในการพัฒนาอปุ นิสยั ด้านการพฒั นา
ตนเองอยู่เสมอของนกั เรียนช้ัน ป.๕/๔. สืบคน้ เมื่อ ๑๕ มถิ ุนายน ๒๕๖๔ จาก:
https://academic.prc.ac.th/TeacherResearch/ResearchDetail.php?ID=2145
บุญญลักษม์ ตำนานจิตร. การศึกษาเจตคติของนักศึกษาหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อรายวิชา
ทักษะการสื่อสารเพื่องานธุรกิจเทคโนโลยี. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต,
ปที ี่พมิ พ์ ๒๕๕๒.
บญุ เรอื ง ศรเี หรัญ. การสรา้ งและการพัฒนาเครื่องมอื . ประทมุ ธานี: มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ใน
พระบรมราชปู ถมั ภ,์ ปีท่ีพมิ พ์ ๒๕๕๔.
ประภาเพ็ญ สุวรรณ. ทัศนคตกิ ารวัดการเปลย่ี นแปลงและพฤตกิ รรมอนามยั . กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์
โอเดยี นสโตร์, ปีที่พมิ พ์ ๒๕๒๖
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑติ สถาน. เจตคต.ิ กรุงเทพมหานคร: อักษรเจรญิ ทัศน์, ปีทีพ่ มิ พ์ ๒๕๒๕.
รวีวรรณ อินจยุ้ . ผลของการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้โดยใชเ้ ทคนิคเกมมิฟเิ คชนั ตอ่ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์และ
ความพงึ พอใจของนักเรียนพยาบาลกองทัพบก. กรุงเทพมหานคร: วทิ ยาลัยพยาบาลกองทัพบก,
ปีท่พี มิ พ์ ๒๕๖๒.
วิจิตร หลานวงค์. กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาเจตคติของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาไทย :
กรณศี ึกษาโรงเรยี นเทศบาลสวนสนุก. ขอนแก่น: มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น, ปีท่พี มิ พ์ ๒๕๖๒
สุรพล บุญลือ. การบริหารจัดการห้องเรียนด้วย Classdojo. สืบค้นเมื่อ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๔
จาก: https://www.slideshare.net/SuraponBoonlue/classdojo-78704411




Click to View FlipBook Version