The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลดำเนินการโครงงาน-ถ่านจากกากกาแฟ-สมบูรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by New Nakharin, 2022-08-24 07:58:42

รายงานผลดำเนินการโครงงาน-ถ่านจากกากกาแฟ-สมบูรณ์

รายงานผลดำเนินการโครงงาน-ถ่านจากกากกาแฟ-สมบูรณ์



รายงานผลดำเนินการโครงงาน ถา่ นจากกากกาแฟ
การพัฒนาผลติ ภัณฑ์: กรณศี ึกษาผลติ ภณั ฑ์ถ่านจากกากกาแฟ

นางสาวกุลนันท์ จัดทำโดย 64302020003
นายณฆรินทร์ 64302020007
นายภูวดล ประมะสขุ 64302020018
นางสาววรารตั น์ ประเสรฐิ สุข 64302020020
นางสาวอรจิรา วงคท์ า 64302020025
จนั ทรแ์ จง้
ฟองทา

รายงานนเ้ี ปน็ สว่ นหนงึ่ ของการบูรณาการการเรียนในรายวิชาโครงงาน(รหัสวิชา)
ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้นั สงู (ปวส.)ชัน้ ปที ่ี2 แผนกวชิ าการตลาด
วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาลำปาง
ปีการศกึ ษา 2565



ใบรับรองโครงงาน
ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้นั สงู (ปวส.) ช้ันปีที่2

วิทยาลยั อาชีวศึกษาลำปาง
..................................................................................

โครงงานถ่านจากกากกาแฟ
การพฒั นาผลิตภัณฑ:์ กรณีศึกษาผลิตภณั ฑ์ถ่านจากกากกาแฟ

นางสาวกลุ นันท์ โดย 64302020003
นายณฆรนิ ทร์ 64302020007
นายภวู ดล ประมะสขุ 64302020018
นางสาววรารตั น์ ประเสรฐิ สุข 64302020020
นางสาวอรจิรา วงค์ทา 64302020025
จันทรแ์ จง้
ฟองทา

ระดับชน้ั ปวส.2 แผนกวิชาการตลาด

พิจารณาเหน็ ชอบโดย

.....................................................
(นางอุทมุ พร โชควัฒนาพรชยั )
อาจารย์ทปี่ รึกษาโครงงานฯ
แผนกวิชาการตลาด ประเภทวิชาบริหารธุรกจิ



โครงงาน ถ่านจากกากกาแฟ

โดย นางสาวกุลนนั ท์ ประมะสุข

นายณฆรนิ ทร์ ประเสริฐสขุ

นายภูวดล วงค์ทา

นางสาววรารตั น์ จันทรแ์ จ้ง

นางสาวอรจริ า ฟองทา

หลักสูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชน้ั สูง(ปวส.)แผนกวิชาการตลาด

อาจารย์ทปี่ รึกษา อาจารย์อุทมุ พร โชควฒั นาพรชยั

บทคัดยอ่

ปัญหากากกาแฟที่เหลือทิ้งจำนวนมากส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจาก ของเสียเหล่านี้มี

องค์ประกอบของสารอินทรีย์อยู่เป็นจำนวนมากจึงไม่สามารถทิ้งได้ โดยต้องผ่านการบำบัด ก่อน งานวิจัยนี้จึงได้

ศกึ ษาการนำกากกาแฟและกากชามาผลิตเป็นแทง่ เช้ือเพลิงโดยใช้แป้งมันสำปะหลัง เปน็ ตัวประสาน จากน้ันนำมา

วเิ คราะหค์ า่ ความร้อน คณุ สมบตั ดิ า้ นเชื้อเพลงิ (Proximate Analysis) ตามมาตรฐาน ASTM (American Society

for Testing and Materials) ไดแ้ ก่ ความช้ืน สารระเหย คาร์บอนคงท่ี และเถา้ การกำหนดสภาวะอุณหภมู ิในการ

คาร์บอไนเซชัน ผลของการคาร์บอไนซ์ กากกาแฟและกากชาและการวิเคราะห์หาปริมาณธาตุ (Ultimate

Analysis) ที่เป็นองค์ประกอบของเชื้อเพลิง รวมถึงการศึกษาสมบัติทางกายภาพของเชื้อเพลิงอัดแท่ง ได้แก่ การ

ติดไฟ ปริมาณควันไฟ ซึ่งพบว่า แท่งเชื้อเพลิงที่ผ่านการคาร์บอไนซ์กากกาแฟและกากชา มีค่าความร้อนเพิ่มขึ้น

จาก 5,517 แคลอรี่/กรัม ไปเป็น 7,460 แคลอรี่/กรัม และกากชาเพิ่มขึ้นจาก 4,482 แคลอรี่/กรัม ไปเป็น 5,600

แคลอร/่ี กรัม ตามลำดบั จากการวเิ คราะห์หาค่าความชืน้ ปริมาณเถา้ และปริมาณธาตุที่มีอยู่ในแทง่ เชือ้ เพลิง พบว่า

อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานชีวมวลที่กำหนด และสมบตั ิทางกายภาพของแท่งเช้ือเพลงิ ทีผ่ ลิตจาก กากกาแฟ สามารถขึ้น

รปู งา่ ยไม่แตกร่วน ไมเ่ ปื้อนมอื ตดิ ไฟง่าย ในขณะเผาไหม้ไมพ่ บการแตกปะทุ และไมม่ คี วัน สว่ นแทง่ เชอื้ เพลงิ ที่ผลิต

จากกากชาเม่ือหยิบใช้ไม่เปือ้ นติดมือเชน่ กนั ติดไฟได้ดี ไม่มีการแตกปะทุ แต่ยังมีควัน เนื่องจากยังมีสารระเหยอยู่

ในปริมาณสงู กว่ากากกาแฟ

คำสำคัญ: แทง่ เชือ้ เพลงิ ถา่ นอัดแท่ง วัสดเุ หลอื ใช้ กากกาแฟ



กติ ติกรรมประกาศ
การดำเนนิ โครงการถ่านจากกากกาแฟ สำเรจ็ ลงได้ดว้ นความกรุณาจากหลายท่านทีไ่ ดใ้ ห้ความชว่ ยเหลอื
อยา่ งยง่ิ โดยเฉพาะ อาจารย์อุทุมพร โชควฒั นาพรชัย อาจารยท์ ีป่ รึกษาโครงงาน ซง่ึ ให้คำปรกึ ษา และคำแนะนำใน
การจดั ทำโครงการครั้งน้ดี ว้ ยดี สง่ ผลให้โครงการสำเร็จลงดว้ ยดี คณะผจู้ ัดทำขอกราบขอบพระคณุ เป็นอย่างสงู มา
ณ ที่นี้
ตลอดระยะเวลาในการดำเนินการโครงการ คณะผูจ้ ัดทำไดร้ ับความช่วยเหลือ ในเรือ่ งต่างๆจงึ ได้
ขอขอบคุณทุกท่านมาในโอกาสนี้ดว้ ย ทา้ ยที่สุดน้ี คณะผู้จัดทำขอมอบคณุ ค่าและประโยชน์ของรายงานผลการ
ดำเนินโครงการฉบับน้ีใหเ้ ป็นท่ีศกึ ษาเรียนร้แู กผ่ ู้ที่สนใจ ตอ่ ไป

คณะผู้จดั ทำ
สงิ หาคม 2565

สารบัญ จ
ใบรับรองโครงการ
บทคัดยอ่ ข
กติ ติกรรมประกาศ ค
สารบัญ ง
สารบญั ตาราง จ,ฉ,ช
สารบญั ภาพ ซ
บทที่ 1 บทนำ ฌ
1-2
หลกั การและเหตผุ ล
วัตถุประสงค์ของการรายงานผล 3-9
ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ บั
ขอบเขตในการดำเนินโครงการ
นิยามศพั ท์เฉพาะ
บทท่ี 2 การตรวจเอกสาร
ส่วนประกอบของวัตถดุ ิบที่ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
แนวคิดในการพฒั นาผลิตภัณฑ์
ทฤษฎีส่วนประสมทางการตลาด
กระบวนการคดิ เชิงออกแบบ (Design Thinking Process)
แนวคดิ ในการบูรณาการรายวิชาโครงการ

สารบญั (ต่อ) ฉ
บทที่ 3 วิธกี ารดำเนินโครงการ
10-13
วสั ดุ อปุ กรณ์ที่ใช้ในการพัฒนาผลติ ภัณฑ์
ข้ันตอนการผลิต 14-16
ขนั้ ตอนการพัฒนาผลิตภณั ฑ์ 17-18
การพฒั นาผลิตภัณฑ์ ญ
การพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์
การพัฒนาตราผลติ ภณั ฑ์
เครอ่ื งมอื บนั ทึกผลการพัฒนาผลิตภณั ฑ์
วิธีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล
คณะกรรมการ/ครผู ้สู อน/ครูทป่ี รกึ ษา/ผู้ทรงคุณวุฒิ
บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งานโครงการ
สว่ นที่ 1 ผลการพัฒนาผลติ ภัณฑท์ ้องถ่นิ
สว่ นที่ 2 ผลการพฒั นาตราสินค้า
สว่ นที่ 3 ผลการพฒั นาบรรจุภัณฑ์
บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินโครงการ และข้อเสนอแนะ
สรปุ ผลการดำเนนิ โครงการ
ปัญหาและอปุ สรรคในการดำเนินโครงการ
ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพฒั นาผลติ ภัณฑ์
บรรณานุกรม

สารบัญ(ต่อ) ช
ภาคผนวก

ภาคผนวก ก ภาพขัน้ ตอนการพัฒนาผลติ ภณั ฑ์
ภาคผนวก ข ภาพข้นั ตอนการประชมุ กลมุ่ เพื่อออกแบบตราสนิ ค้า และ บรรจภุ ณั ฑ์
ภาคผนวก ค ภาพรา่ งบรรจุภัณฑ์
ภาคผนวก ง ประวัติผดู้ ำเนินโครงการ

สารบัญตาราง ซ

ตารางท2ี่ .1แสดงแนวคิดการบรู ณาการ หน้า
ตารางท3่ี .1แสดงการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ 8
ตารางท4่ี .1แสดงผลการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกากกาแฟ 11
15

สารบญั รูปภาพ ฌ

ภาพท2่ี .1แสดงลักษณะของกากกาแฟ หน้า
ภาพท2ี่ .2แสดงลักษณะของสาหรา่ ยสไปโรไจรา 3
ภาพท2่ี .3แสดงลักษณะของแป้งมนั สำปะหลัง 4
ภาพท3ี่ .1การออกแบบบรรจุภัณฑ์ 4
ภาพท3ี่ .2การออกแบบตราผลิตภณั ฑ์ครั้งท่ี1 12
ภาพท3่ี .3การออกแบบตราผลติ ภณั ฑ์คร้ังท่ี2 12
ภาพท4ี่ .1ภาพรา่ งบรรจุภัณฑ์ 12
ภาพท4่ี .2การพฒั นาผลติ ภัณฑ์คร้งั ที่1 16
ภาพท4่ี .3การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ครง้ั ท่ี2 16
16



1

บทที่ 1
บทนำ
ความเปน็ มาและความสำคัญ
เนื่องจากผู้ดำเนินโครงการและบุคคลส่วนใหญช่ ่ืนชอบในการดื่มกาแฟจึงทำให้เกิดกากกาแฟในปริมาณที่
มาก ทางผ้ดู ำเนินโครงการจึงได้นำมาพฒั นาเป็นถา่ นอัดจากกากกาแฟยังเป็นการสร้างมูลค่าเพ่มิ ซึ่งสามารถนำมา
ไปใช้แทนถา่ นไม้ เพอื่ ทจี่ ะลดการทำลายสิง่ แวดล้อม
ในปัจจุบันมีการใช้พลังงานจำนวนมาก พลังงานถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการตอบสนองความ
ต้องการขั้นพื้นของมนุษย์ พลังงานที่เราใช้อยู่ในปัจจุบนั แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือพลังงานสิ้นเปลือง เชน่
ถ่านหนิ กา๊ ซธรรมชาติ หนิ นำ้ มนั ทรายน้ำมัน เป็นตน้ และพลงั งานหมนุ เวยี น เชน่ พลงั งานท่ไี ด้จากไม้ ฟืน แกลบ
พลังงานชีวมวล เป็นต้น พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานที่ได้จากไม้ คือนำไม้มาทำถ่านเพื่อใช้ประโยชน์ในการ
ทำอาหารจะ สังเกตเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีการนำถ่านมาใช้อย่างมาก เช่น ตามร้านเนื้อย่าง ตามร้านขายอาหาร
ท่ัวไป แม้กระทัง่ ตามบา้ นของเราก็นำถ่านท่ีทำจากไมม้ าใช้ เมอ่ื ใชถ้ า่ นไมม้ ากกจ็ ะทำใหเ้ กิดการตัดไม้เพิ่มมากข้ึนจึง
ทำ ให้ต้นไม้ซึ่งเป็นทรัพยากรหลักของประเทศลงลด เพราะต้นไม้ใช้เวลาปลูกหลายปีกว่าจะเติบโตพอที่จะนำทำ
ถ่าน ได้ ดังนั้นพลังงานทดแทนเช่นพลังงานชีวมวลที่สามารถจะนำมาใช้แทนพลังงานที่ทำจากไม้ในงานวิจัยจึง
สนใจ จะศึกษากากกาแฟมาทำเช้ือเพลิงอัดเมด็ เพื่อใชแ้ ทนถ่านไมท้ วั่ ไป
ดังนั้นคณะผู้วิจัยจึงมีแนวคิดที่จะใช้คุณประโยชน์จากกากกาแฟ โดยนำกากกาแฟเป็นวัตถุดิบหลักใน
พฒั นาผลติ ภัณฑ์ถ่านจากกากกาแฟขึ้นมา ผสานผลิตภัณฑ์กบั การตลาดเข้าดว้ ยกัน เพือ่ ให้กลุ่มผู้บริโภคท่ีมีการลด
โลกร้อนและมองหาทางใช้ทรัพยากรอย่างมีค่าไปจนถึงวัยรุ่นท่ีชอบและหลงใหลในการป้งิ ย่างปิคนิคและช่ืนชอบใน
กาแฟได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์นี้ที่มีคุณประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อม มีคุณค่าทางทรัพยากร ให้พลังงาน มีกลิ่นกาแฟ
อ่อนๆ และมีคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาองค์ความรู้และต่อ
ยอดภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ใหเ้ กดิ ประโยชน์เชิงพาณิชยแ์ ละสาธารณะ
วตั ถปุ ระสงคข์ องการรายงานผล
1. เพอื่ ลดการตดั ไมท้ ำลายสง่ิ แวดลอ้ ม
2. เพอื่ พัฒนาสตู รใหย้ กระดับของถ่านใหม้ ีมลู คา่ เพ่ิมข้ึน
3. เพอ่ื ตอ้ งการสรา้ งมูลคา่ เพมิ่ ใหแ้ ก่กากกาแฟ
ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รบั
1. มีการเพ่มิ มูลคา่ ใหก้ ับกากกาแฟ
2. เพ่ือเปน็ การชว่ ยรกั ษาสภาพแวดลอ้ ม
3. มีการใชป้ ระโยชน์อยา่ งมีคณุ คา่ ของกากกาแฟมากข้นึ
4. มีผูค้ นเร่มิ รักสง่ิ แวดลอ้ มมากขึ้น

2

ขอบเขตในการดำเนินโครงงาน
การดำเนนิ โครงงานครั้งนี้มีขอบเขตการดำเนินงาน ดังนี้
ขอบเขตด้านเนื้อหา
1. การศึกษากรรมวิธีที่เหมาะสมในการผลิตส่วนในการทำถา่ นจากกากกาแฟ เป็นการศึกษาระยะเวลาใน

การตากกากกาแฟ และอตั ราส่วนที่เหมาะสมของปริมาณกากกาแฟ ขี้เลอื่ ย และแป้งต่อปรมิ าณนำ้
2. การพัฒนาสูตรที่เหมาะสมของถ่านจากกากกาแฟ เป็นการศึกษาปริมาณ อัตราส่วนระหว่างปริมาณ

กากกาแฟ ขีเ้ ลอ่ื ย และแป้งต่อปรมิ าณนำ้ ทเ่ี หมาะสมในการผลติ ถ่านจากกากกาแฟ
3. การศกึ ษาคุณภาพทางเคมี คุณภาพทางจลุ ินทรีย์ และเกดิ ประโยชน์ทางสภาพแวดล้อมมากย่ิงข้นึ
ขอบเขตดา้ นสถานท่ี
วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง ตั้งอยู่เลขที่ 272 ถนนพหลโยธิน ตำบลหัวเวียง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัด

ลำปาง 52000
ขอบเขตดา้ นเวลา
การวิจัยในครัง้ นี้ เริม่ ตั้งแต่เดอื นมกราคม 2561 ถึง เดือนตุลาคม 2561 รวมระยะเวลาทัง้ ส้ิน 10 เดือน

นยิ ามศพั ท์เฉพาะ
1.กากกาแฟ คำว่า กากกาแฟ เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง กากกาแฟมาจากเศษของกาแฟคั่วบดที่เรา

เอาไปชงเป็นกาแฟดื่มมาแล้ว เม็ดกาแฟเหล่านั้นจะถูกบดเป็นผง มองในแง่ของกาแฟผงเหล่านั้นไม่สามารถคั้น
ออกมาเป็นน้ำกาแฟที่ดีได้แล้ว(คั้นได้แต่รสชาติไม่ได้) อาจจะมองว่าหมดประโยชน์แล้วเอาทิ้งไป แต่ไม่เลย กาก
กาแฟเหล่าน้เี รายงั สามารถเอาไปทำใหเ้ กดิ ประโยชน์ได้

2. ข้เี ลื่อย (Wood Sawdust) ถอื วา่ เปน็ เศษวัสดุท่เี หลอื ใชจ้ ากโรงเลอ่ื ยไมห้ รือโรงเฟอรน์ ิเจอร์ ซง่ึ มีจำนวน
มาก เช่นขี้เลื่อยจากไม้ยางพารา ไม้ยูคาลิปตัส ไม้กระถินณรงค์ ไม้กระถินเทพา ไม้กระถินยักษ์ สะเดาเทียม สน
ทะเล สนปฏิพัทธ์ มะพร้าว มะขาม มะปรางบ้าน มะไฟบ้าน จามจุรี ไม้ตาล เป็นต้น ทางบริษัทฯ ได้ส่งเสริมให้มี
ผู้ผลิตขี้เลื่อยภายในประเทศทั้งรายย่อยและรายใหญ่เพิ่มมากขึ้น ขี้เลื่อยสามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงทดแท นและ
นำมาแปรรูปเป็นขี้เลื่อยอัดแท่งได้อีกด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้มากขึ้น ขี้เลื่อยจะถูกนำมาคัดขนาดให้ได้
ขนาดขีเ้ ล่ือย วัดปริมาณความชืน้ ในข้ีเลือ่ ย เพ่ือให้ไดข้ ีเ้ ลอ่ื ยท่มี คี ณุ ภาพตามมาตรฐานอตุ สาหกรรม

3. ถ่านจากกากกาแฟนี้สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับหม้อไอน้ำอุตสาหกรรม ให้ความร้อนแก่เรือน
กระจก หรือการอบแห้งธัญพืช อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับใหค้ วามร้อนในเตาเผาได้ดว้ ย ทั้งนี้ กาแฟ
ถือเป็นพืชที่มีค่าความร้อนสูง และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็นเชื้อเพลิง โดยถ่านจากกากกาแฟเมื่อเผาแล้ว
สามารถให้ความรอ้ นได้มากกว่าถา่ นไมธ้ รรมดาถึง 20% และเผาไหม้ได้นานกว่า 20%

3

บทที่ 2
การตรวจเอกสาร
การดำเนินโครงการครัง้ นี้ ผู้ดำเนนิ โครงการได้แนวคิด ทฤษฎี เอกสาร และงานวจิ ัยทเี่ ก่ียวข้องเพ่ือใชเ้ ป็น
แนวทางในการกำหนดโครงการ โดยมรี ายละเอยี ดดงั นี้
1. สว่ นประกอบของวตั ถุดิบที่ใช้ในการพัฒนาผลติ ภณั ฑ์
2. แนวคดิ ในการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์
3. ทฤษฎีส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix)
4. การบูรณาการ
ส่วนประกอบของวตั ถดุ บิ ที่ใชใ้ นการพัฒนาผลิตภณั ฑ์
กากกาแฟ
เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเหลือทิ้งประเภทหนึ่งที่ได้มาจากอุตสาหกรรมผลิตกาแฟ สำเร็จรูปและจากร้าน
กาแฟ กากกาแฟมีสารสำคัญหลายชนดิ ไดแ้ ก่ โพลีแซคคาไรด์ กรดไขมนั โปรตนี คาเฟอนี สารประกอบฟนี อล และ
แร่ธาตุตา่ งๆ ซง่ึ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางในการพัฒนาด้าน อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์
สง่ เสรมิ สขุ ภาพ

ภาพที่ 2.1 แสดงลักษณะของกากกาแฟ
ที่มา: https://capheny.com/articles
ขเี้ ล่อื ย
เป็นผลพลอยได้จากการเลื่อยไม้ มีลักษณะเป็นผงไม้ละเอียด เป็นของเสียในโรงงานที่เป็นพิษ โดยเฉพาะ
การทำใหเ้ กิดอาการอกั เสบ แต่ก็สามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้อีกหลายประการ

4

ภาพที่ 2.2 แสดงลักษณะของสาหรา่ ยสไปโรไจรา
ทม่ี า: http://www.tyme.in.th/blog/blog-01.html
แปง้ มนั สำปะหลงั
แป้งมันสำปะหลงั เป็นแป้งที่ได้จากมันสำปะหลัง ลักษณะของแป้งมีสีขาว เนื้อเนียน ลื่นเป็นมันเมือ่ ทำให้
สุกด้วยการกวนกับน้ำไฟอ่อนปานกลาง แป้งจะละลายง่าย สุกง่าย แป้งเหนียวติดภาชนะ หนืดข้นขึ้นเรื่อยๆ ไม่มี
การรวมตัวเป็นก้อน เหนยี วเปน็ ใย ตดิ กันหมด เน้ือแป้งใสเป็นเงา พอเย็นแล้วจะตดิ กันเป็นก้อนเหนียว ติดภาชนะ
ใช้ทำลอดช่องสิงคโปร์ ครองแครงแก้ว เป็นต้น และยังถูกใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆเช่น อุตสาหกรรมกระดาษ
อุตสาหกรรมกาว

ภาพที่ 2.3 แสดงลักษณะแป้งมันสำปะหลงั
ท่มี า: http://www.allkaset.com/plant/

5

แนวคดิ ในการพฒั นาผลิตภณั ฑ์
การพัฒนาสินค้า (product development) เป็นกระบวนการที่ครอบคลุมท้ังหมดในการนำเสนอสินค้าสู่

ตลาด การพัฒนาสินค้าถูกนิยามว่า เป็นการใช้โอกาสทางการตลาดที่มีอยู่สร้างสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการ
ของลูกค้า ซึ่งสินค้าแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ สินค้าที่เป็นรูปธรรม เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ทางกายภาพ และ
สินค้านามธรรมเป็น การบริการ ประสบการณ์ และความเชื่อต่าง ๆ ความเข้าใจถึงความจำเป็นและความต้องการ
ของลกู ค้า ความเข้าใจในสภาพแวดลอ้ มของการแข่งขัน และธรรมชาตขิ องตลาดเปน็ สิง่ ทจ่ี ำเป็นสำหรับความสำเร็จ
ในการพัฒนาสินค้า ต้นทุน เวลา และคุณภาพ เป็นตัวแปรหลักที่ขับเคลื่อนความต้องการของลูกค้า เพื่อให้บรรลุ
เป้าหมายนี้ผู้ประกอบการควรพัฒนากลยทุ ธอ์ ย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีขึ้น และเพ่ือ
เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (Kahn, 2012)

การพัฒนาสินค้าประกอบไปด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย โดยผู้ประกอบการจะใช้กระบวนการต่าง ๆ มา
ปรับใช้เพื่อนำเสนอสินค้าสู่ตลาด ผู้ประกอบการควรปรับโครงสร้างขององค์กรให้สามารถพัฒนาสินค้าอย่าง
ต่อเนื่อง สินค้าใหม่ทุกชิ้นจะผ่านข้ันตอนการออกแบบการผลติ และการวิเคราะหต์ ลาดเปน็ อย่างดี ส่วนสนิ ค้าท่ใี ช้
เทคโนโลยีชั้นสูง เช่น เครื่องบิน ยานยนต์ และเครื่องจักร จะมีกระบวนการพัฒนาสนิ ค้าทีซ่ ับซอ้ นกวา่ สินค้าทั่วไป
อีกทั้งการส่งมอบต้องใช้ระบบขององค์กรที่ซับซ้อนเพื่อจัดการกับกระบวนต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จ (Kahn,
2012)

Koen (2004) ได้อธิบายช่วงวางแผน หรือเริ่มต้นอันสับสนว่า ประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนที่สำคัญ คือ (1)
ขั้นตอนการสำรวจโอกาสในการสร้างนวัตกรรม (2) ขั้นตอนการสังเคราะห์ความคิดนวัตกรรม (3) ขั้นตอนการคัด
สรรความคิดนวัตกรรม (4) ขั้นตอนการพัฒนาและทดสอบแนวคิด (5) ขั้นตอนการวิเคราะห์ทางธุรกิจ (Business
Analysis) ซ่งึ มีรายละเอยี ดดังน้ี

1) ขน้ั ตอนการสำรวจโอกาสในการสรา้ งนวัตกรรม ในส่วนนผี้ ูป้ ระกอบบการต้องระบุหนทางต่าง ๆ ทใี่ ช้
ในการจัดสรรทรัพยากรไปยังโครงการใหม่ กำหนดกลยุทธ์ของผลิตภัณฑ์ใหม่และกำหนดรายละเอียดของ
กระบวนการตา่ ง ๆ ในการพัฒนาสนิ คา้

2) ขั้นตอนการสังเคราะห์ความคิดนวัตกรรม ขั้นตอนนี้คือการวิเคราะห์โอกาสการนำไปใช้และเพ่ือ
กำหนดบริบทและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้ความพยายามอย่างมากทั้ง
ทำการศกึ ษาตลาด และการคน้ คว้าวิจยั

3) ขัน้ ตอนการคดั สรรความคดิ นวตั กรรม มีเป้าหมายเพอื่ ลดปรมิ าณตวั เลือกลงในขณะทท่ี ำใหค้ วามคิดมี
คุณภาพสูงขึ้น จึงต้องอาศัยการคิดสร้างสรรค์แบบเอกนัยไปพร้อม ๆ กับการประเมินทางเลือกโดยทีมงานภายใน
องค์กรเพื่อพิจารณาผสมผสานส่วนที่ดีของทางเลือกต่าง ๆ เข้าด้วยกันให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ที่มีศักยภาพ และมีความ
เป็นไปได้สูงที่สุดว่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งการคัดสรรความคิดนวัตกรรมนี้อาจได้มาจากภายในบริษัทหรือ
ภายนอกบรษิ ัทก็ไดท้ งั้ จากการระดมความคดิ หรอื มาจากความต้องการของลกู ค้า

6

4) ขั้นตอนการพัฒนาและทดสอบแนวคิด การทดสอบแนวความคิดมีความคล้ายคลึงกับการคัดสรร
ความคิดในแง่ที่เป็นขั้นตอนลดจำนวนทางเลือกลง การทดสอบแนวคิดเป็นการประเมินผลตามความเห็นของผู้ใช้
โดยมเี ป้าหมายเพ่อื 1. ระบตุ ำแหนง่ แนวคิด (concept positioning) เม่อื เปรยี บเทยี บกบั คู่แขง่ หรอื ทางเลอื กอ่ืน ๆ
ในตลาด ศึกษาตลาดเป้าหมายอย่างชัดเจน และคาดคะเนการตอบรับผลิตภัณฑ์ และ 2 ประเมินแนวคิด
(concept evaluation) เพื่อระบุจุดแข็งและจุดอ่อนของแนวคิดที่ควรได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับความ
ตอ้ งการของตลาดเป้าหมาย

5) การวิเคราะหท์ างธุรกิจ เป็นชว่ งท่ีพฒั นาแนวคิดตา่ ง ๆ บนพื้นฐานของการประเมนิ สภาพตลาด ความ
ต้องการของลูกค้า ความต้องการในการลงทุน การวิเคราะห์การแข่งขันทางธุรกิจ และความไม่แน่นอน การ
วิเคราะห์ทางธุรกิจเป็นการศึกษาความเป็นไปได้ และประเมินศักยภาพของโครงการโดยการคาดการณ์ยอดขาย
ความคุ้มทุน และผลกำไร เทียบกับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ การวิเคราะห์ทางธุรกิจมีความสัมพันธก์ ับกล
ยทุ ธ์ทางการตลาดมาก จึงทำใหอ้ งค์กรส่วนใหญ่ทำท้ัง 2 ขั้นตอนไปพร้อม ๆ กนั ผลของการวิเคราะห์ทางธุรกิจทำ
ให้สามารถตั้งราคาผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งการตั้งราคาถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาด โดยทั่วไปการวิเคราะห์ทาง
ธุรกิจประกอบไปด้วยการประมาณการณ์ด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ได้แก่ วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ค่าใช้จ่ายในการ
พฒั นา การผลิตและการกระจายผลิตภัณฑ์สู่ตลาด การลงทนุ ด้านครภุ ัณฑ์ เคร่อื งมอื อุปกรณ์ และการพัฒนาตลาด
ราคาขาย ยอดขาย ผลกำไร และผลตอบแทนจากการลงทนุ

จากขัน้ ตอนทงั้ 5 ท่กี ล่าวมาขา้ งต้น ข้นั ตอนการสำรวจโอกาสในการสร้างนวัตกรรมเปน็ ข้ันตอนที่ยากท่ีสุด
ของกระบวนการการพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื่องจากช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งเหยิงไม่สามารถคาดการณ์ได้ และไม่มีความเป็น
ระเบียบ (Yan-mei, 2009) และช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นกระบวนการที่องค์กรพัฒนา
กรอบความคิดของผลิตภัณฑ์ และเพื่อการตัดสินใจว่าจะลงทุนดีหรือไม่ เป็นขั้นตอนที่อยู่ระหว่างการพิจารณา
โอกาสและการตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการในการพัฒนาโครงสร้าง (Kim and Wilemon, 2007) Koen et al.,
(2001) อธิบายว่าช่วงวางแผน หรือเริ่มต้นอันสับสน (Fuzzy Front End) จะครอบคลุมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่
การหาโอกาสใหม่ ๆ ตลอดจนการพัฒนากรอบความคิดในช่วงแรก และช่วงนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อองค์กรอนุมัติ
โครงการและเรมิ่ การพฒั นากรอบความคิดอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ช่วงนจี้ ะไม่ไดเ้ ป็นข้ันตอนท่มี ีค่าใช้จา่ ยสูงมากนัก
แต่เปน็ ท่ตี ้องใชเ้ วลาถึง 50% ของการพฒั นา ซ่ึงต้องทำความเข้าใจกบั ธรรมชาติของผลิตภัณฑ์และแนวทางปฏิบัติ
ของโครงการทง้ั หมดจนถงึ การผลิตภัณฑ์ข้นั สดุ ทา้ ย ดว้ ยเหตนุ ชี้ ว่ งน้ีถูกพิจารณาวา่ เป็นช่วงทม่ี ีสำคญั อย่างยิ่งในการ
พัฒนามากกว่าช่วงอื่น ๆ ทั้งหมด อีกทั้งเป็นเหมือนช่วงเริ่มต้นของนวัตกรรม ( front end of innovation)
“Phase 0”, “Stage 0” หรือกอ่ นเริ่มต้นโครงการ (Husig and Kohn 2003)

ส่วนขั้นตอนการออกแบบก็เป็นขั้นตอนที่สำคญั เช่นกัน เพราะขั้นตอนนีจ้ ะทำให้รู้ถึงต้นทนุ การผลิตสินคา้
ทั้งหมด Hargadon (1997) ได้อธิบายว่า ขั้นตอนการออกแบบผลิตภัณฑ์จะใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่งเดือนไป

7

จนถึงสามปีโดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่หนึ่งปี Adler (1995) ได้กล่าวว่า การออกผลิตภัณฑ์โดยปกติแล้วจะเกิดในช่วงแรก
เมือ่ การออกแบบเสร็จส้ิน แบบจะถูกส่งไปยังโรงงานผลติ สนิ คา้ ต้นแบบเพอื่ ทำการผลติ สนิ ค้าต่อไป
ทฤษฎสี ว่ นผสมทางการตลาด (Marketing Mix)

ส่วนประสมการตลาด Marketing( Mix) คือ องค์ประกอบที่สำคัญในการดำเนินงานการตลาด เป็นปัจจยั
ทีก่ ิจการสามารถควบคุมได้ กิจการธุรกจิ จะต้องสร้างสว่ นประสมการตลาดทเ่ี หมาะสมในการ วางกลยุทธ์ทาง
การตลาด (ศิริวรรณ เสรรี ัตน์, และคณะ2541:35-36, 337)

1. ผลิตภัณฑ์ (Product) ปัจจัยแรกที่จะแสดงว่ากิจการพร้อมจะทำธุรกิจได้ กิจการนั้น จะต้องมีสิ่งที่จะ
เสนอขาย อาจเป็นสินค้าที่มีตัวตน บริการ ความคิด (Idea) ที่จะตอบสนองความต้องการ ได้การศึกษาเกี่ยวกับ
ผลติ ภณั ฑ์น้นั นกั การตลาด มกั จะศกึ ษาผลติ ภัณฑ์ในรปู ของผลิต ภณั ฑเ์ บด็ เสรจ็ (Total Product) ซึ่งหมายถึง ตัว
สนิ คา้ บวกกับความพอใจและผลประโยชน์อ่ืนท่ผี ู้บรโิ ภคได้รบั จากการซ้ือสินคา้ น้ัน

2. การกำหนดราคา (Price) เมื่อธุรกิจได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมา รวมทั้งหาช่องทางการจัดจำหน่าย
และวิธีการแจกจ่ายตัวสินค้าได้แล้ว สิ่งสำคัญที่ธุรกิจจะต้องดำเนินการต่อไป คือ การกำหนดราคา ที่เหมาะสม
ให้กบั ผลติ ภณั ฑ์ท่ีจะนำไปเสนอขาย ก่อนท่จี ะกำหนดราคาสนิ ค้า ธุรกจิ ตอ้ งมีเป้าหมายว่าจะ ตั้งราคา เพื่อต้องการ
กำไร หรอื เพ่อื ขยายส่วนถือครองตลาด (Market Share) หรือเพื่อเปา้ หมายอย่างอ่ืน อกี ทัง้ ตอ้ งมี การใช้กลยุทธ์ใน
การตงั้ ราคาท่ีจะทำให้เกดิ การยอมรบั จากตลาดเปา้ หมายและสกู้ ับคแู่ ขง่ ขันได้

3. การจัดจำหน่าย (Place or Distribution) ผลิตภัณฑ์ที่ผู้ผลิตผลิตขึ้นมาได้นั้น ถึงแม้ว่าจะมีคุณภาพดี
เพียงใดก็ตาม ถ้าผู้บริโภคไม่ทราบแหล่งซื้อและไม่สามารถจะจัดหามาได้เมื่อเกิดความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ผลิต
ขึ้นมาก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ ดังนั้น นักการตลาดจึงจำเป็นเป็นต้อง พิจารณาว่าที่ ไหน
เมอ่ื ไร และโดยใครทีจ่ ะเสนอขายสินค้า การจัดจำหนา่ ยเปน็ เรื่องท่ซี ับซอ้ น แต่ก็เปน็ ส่งิ จำเปน็ ท่ีตอ้ งศกึ ษา

4. การส่งเสริมการตลาด (Promotion) เป็นการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการติดต่อสื่อสารไป ยังตลาด
เปา้ หมาย การส่งเสรมิ การตลาดเป็นวธิ กี ารทจี่ ะบอกให้ลกู ค้าทราบเก่ียวกับผลิตภัณฑท์ ี่เสนอขาย วตั ถุประสงค์ของ
การส่งเสริมการตลาด เพื่อบอกใหล้ ูกค้าทราบว่ามีผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายในตลาดพยายามชักชวนให้ลูกค้าซ้ือและ
เพอ่ื เตอื นความทรงจำกับตวั ผบู้ รโิ ภค

การส่งเสริมการตลาดจะต้องมีการศึกษาถึงกระบวนการติดต่อสือ่ สาร (Communication Process) เพื่อ
เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับกับผู้ส่ง การส่งเสริมการตลาดมีเครื่องมือสำคัญจะใช้อยู่ 4 ชนิดด้วยกัน ท่ี
เรียกวา่ สว่ นผสมของการสง่ เสริมการตลาด (Promotion Mix) ไดแ้ ก่

4.1 การขายโดยใช้พนักงาน (Personal Selling) เป็นการเสนอขายสินค้าแบบเผชิญหน้ากัน (Face-to-
Face) พนักงานขายต้องเข้าพบปะกับผู้ซื้อโดยตรงเพื่อเสนอขายสินค้า การส่งเสริม การตลาดโดยวิธีนี้เป็นวิธีที่ดี
ทีส่ ุด แตเ่ สียค่าใช้จ่ายสูง

8

4.2 การโฆษณา (Advertising) หมายถึงรูปแบบของการจา่ ยเงนิ เพื่อการส่งเสริม การตลาด โดยมิได้อาศัย
ตัวบุคคลในการน าเสนอหรือช่วยในการขาย แต่เป็นการใช้สื่อโฆษณาประเภทต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ
หนังสอื พมิ พ์ นติ ยสาร ป้ายโฆษณา อินเตอรเ์ นท (Internet) ส่ือโฆษณาเหลา่ น้จี ะสามารถ เข้าถงึ ผู้บริโภคเป็นกลุ่ม
ใหญ่ เหมาะสำหรับสนิ คา้ ท่ีตอ้ งการกระจายตลาดกว้าง

4.3 การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) หมายถึงกิจกรรมที่ทำหน้าที่ช่วยพนักงานขายและการ
โฆษณาในการขายสนิ ค้า การสง่ เสรมิ การขายเปน็ การกระตุน้ ผบู้ รโิ ภคให้เกดิ ความ ตอ้ งการในตัวสินค้า การสง่ เสริม
การขายจัดทำในรูปของการแสดงสินค้า การแจกของตัวอย่าง แจกคูปอง ของ แถม การใช้แสตมป์เพื่อแลกสินค้า
การชิงโชคแจกรางวัลต่างๆ ฯลฯ

4.4 การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ (Publicity and Public Relation) ในปัจจุบันธุรกิจมักสนใจ
ภาพพจน์ของกิจการ ธุรกิจได้ใช้เงินจำนวนมากเพื่อสร้างชื่อเสียงและภาพพจน์ของ กิจการ ปัจจุบันองค์กรธุรกิจ
ส่วนใหญ่ไม่ได้เน้นที่การแสวงหากำไร (Maximize Profit) เพียงอย่าง เดียว ต้องเน้นที่วัตถุประสงค์ของการ
ให้บรกิ ารแกส่ งั คมดว้ ย (Social Objective)
แนวคิดในการบรู ณาการรายวชิ าโครงงาน
ตารางที่ 2.1

รายวชิ า การดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม

- การพฒั นาผลิตภณั ฑ์

รายวชิ า กลยทุ ธก์ ารตลาด Coffee Charcoal
- การทาบรรจภุ ณั ฑแ์ ละโลโก้

รายวชิ าการสื่อสารการตลาด IMC
-กระบวนการคดิ การออกแบบ

รายวชิ า การพมิ พภ์ าษาไทยดว้ ยคอมพิวเตอร์
-เรอ่ื งหลกั การพมิ พภ์ าษาไทย

9

การเรียนในรายวิชาโครงงานในครั้งนี้ ผู้รายงานสามารถอธิบายลักษณะการบูรณาการของรายวชิ าตา่ ง ๆ
ไดด้ ังน้ี ในโครงงานถา่ นจากกากกาแฟไดน้ ำรายวิชาต่าง ๆ มาบุรณาการในการดำเนินโครงการ ดงั นี้

1. รายวิชาการดำเนนิ ธุรกจิ ขนาดย่อม
2. รายวชิ ากลยุทธก์ ารตลาด
3. รายวชิ าการสอ่ื สารการตลาด IMC
4. รายวชิ าการพิมพ์ภาษาไทยด้วยคอมพิวเตอร์

10

บทที่3
วธิ ีการดำเนินโครงการ
การดำเนินโครงงานถ่านจากกากกาแฟในครง้ั นี้ มวี ธิ ีการและข้ันตอนการดำเนนิ งานสามารถอธิบาย
รายละเอยี ดไดด้ งั น้ี

วัสดุอุปกรณ์ทีใ่ ช้ในการประดิษฐ์
วัสดอุ ุปกรณ์
1. พมิ พ์
2. ชามผสม
3. ไม้

วตั ถุดิบ
1. กากกาแฟ
2. แป้งมันสำปะหลัง
3. ข้เี ลือ่ ย
4. น้ำ
ขั้นตอนการผลติ
1. นำกากกาแฟไปตากแดดจนแห้งสนทิ ไมม่ ีความชืน้
2. ผสมกากกาแฟ ข้ีเลือ่ ย แปง้ คนใหเ้ ขา้ กัน
3. คอ่ ยๆเติมน้ำลงไป ผสมจนเป็นเน้ือเดยี วกัน
4. นำมายดั ใสพ่ ิมพ์ใหแ้ นน่ โดยการใชไ้ มก้ ดใหส้ ว่ นผสมแนน่
5. นำไปพึงแดดประมาณ 2-3 วัน จนส่วนผสมท่ีใสไ่ ปแหง้
6. ถอดจากแม่พมิ พ์

11

กระบวนการสรา้ งส่ิงประดิษฐ์

การพัฒนาผลติ ภณั ฑ์

รายการ ครัง้ ที่ 1 คร้งั ท2ี่ ครั้งท3ี่

วตั ถุดบิ /ส่วนประกอบ กากกาแฟ 400 กรมั กากกาแฟ 600 กรมั กากกาแฟ 300 กรัม

ขเี้ ลือ่ ย 150กรัม แป้ง 300 กรัม ขเี้ ล่ือย 100 กรัม

แป้ง 150 กรัม นำ้ 250 กรัม แป้ง 100กรัม

น้ำ 14 ออนซ์ นำ้ 77 กรมั

ขน้ั ตอนการพฒั นา ผสมกากกาแฟ ขเ้ี ลือ่ ย ผสมกากกาแฟ แป้งมนั ผสมกากกาแฟ ขีเ้ ลื่อย

และแปง้ มันใหเ้ ข้ากนั เท่ เทน้ำสะอาดผสมจนได้ และแปง้ มนั ให้เขา้ กัน เท่

นำ้ เปล่าลงไปเมื่อผสมทุก เนือ้ ที่เหนียว นำวตั ถุดบิ ที่ น้ำเปลา่ ลงไปเมื่อผสมทุก

อยา่ งจะมเี นอื้ สัมผสั ทร่ี ว่ น ผสมอดั ลงท่อ PVCขนาด อย่างจะมเี น้อื สัมผสั ท่ี

หลังจากนน้ั นำวตั ถดุ ิบท่ี 4 หุน ยาว 3 นิ้ว และ เหนยี ว หลังจากนนั้ นำ

ผสมอดั ลงท่อ PVCขนาด นำไปตากแดด วตั ถุดิบทีผ่ สมอดั ลงท่อ

4 หุน ยาว 3 น้วิ และ PVCขนาด 1นิ้ว ยาว 3.5

นำไปตากแดด น้วิ และนำไปตากแดด

ตวั แปรควบคุม อุณหภมู ิ 35 องศา อุณหภูมิ 37 องศา อุณหภมู ิ 37 องศา

(เชน่ อุณหภูมิ เวลา เวลา 48 ชัว่ โมง เวลา 50 ช่วั โมง เวลา 55 ชว่ั โมง

ปรมิ าณวตั ถุดิบ/ ปริมาณ 65กรัม ปรมิ าณ 65กรมั ปริมาณ 80 กรัม

ส่วนประกอบ ฯลฯ) วัตถดุ บิ วตั ถดุ บิ วตั ถุดบิ

กากกาแฟ 400 กรัม กากกาแฟ 600 กรัม กากกาแฟ 300 กรัม

ขี้เล่ือย 150กรมั แป้ง 300 กรัม ขี้เลื่อย 100กรมั

แป้ง 150 กรมั นำ้ 250 กรมั แปง้ 100กรัม

นำ้ 14 ออนซ์ น้ำ 77 กรัม

ตารางที่3.1 การพัฒนาผลติ ภัณฑ์

12

การพัฒนาตัวบรรจุภณั ฑ์

ภาพท่ี3.1 การออกแบบบรรจุภัณฑ์คร้ังท่ี1
ปญั หาของบรรจภุ ณั ฑ์

มีรปู แบบไมต่ รงกับทต่ี ้องการ วัสดุทใี ชไ้ มเ่ หมาะสมกับผลิตภณั ฑ์
แนวทางการพฒั นา

มีการปรบั เปล่ยี นตวั บรรจภุ ณั ฑท์ ่ีสามารถกันกระแทกไมใ่ ห้ตวั ถ่านแตกออกจากกนั และ สามารถกัน
ความชื้นได้
การพฒั นาตราผลิตภัณฑ์

ภาพที่3.2 การออกแบบตราผลติ ภัณฑ์คร้ังที่1
ปญั หาของตราผลติ ภัณฑเ์ ดิม

ดเู รียบงา่ ยเกินไปไม่มคี วามน่าจดจำ และไม่มกี ารส่ือถึงตวั ผลติ ภัณฑ์
แนวทางการพฒั นา

มีการเปลีย่ นแปลงตวั อักษรให้มีความเป็นไฟท่ีสื่อถึงการเผาไหม้ของผลติ ภัณฑ์ถ่านจากกากกาแฟ

ภาพที่3.3 การออกแบบตราผลติ ภัณฑ์ครง้ั ที่2

13

เครือ่ งมือบนั ทึกผลการพฒั นาผลิตภัณฑ์
1. เครื่องมือวัดประเมินผลประสิทธิภาพลักษณะการใช้งานของถ่านจากกากกาแฟ ได้แก่ แบบบันทึกผลการ
ทดลอง
2. เครื่องวัดประเมินผล/ประโยชน์จากการใช้งานของถ่านจากกากกาแฟ ได้แก่ แบบบันทึกผลการทดลองท่ี
สร้างขึ้นเพื่อสังเกตลักษณะภายนอกและประสิทธิภาพการใช้งานของถ่านจากกากกาแฟโดยกำหนด
ลกั ษณะท่ีสงั เกตออกเป็น 5 ข้อ ได้แก่
• ทดสอบการเผาไหมข้ องถา่ น
• ลักษณะการความอยู่ทรงของถ่าน
• ปริมาณควันไฟของถา่ น
• สขี องถ่าน
• กล่นิ ของถ่าน

วิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมลู วเิ คราะหข์ ้อมลู และค่าสถิติทใ่ี ช้
1. ขอ้ มลู และแหลง่ ขอ้ มูล

1.1. ขอ้ มลู ปฐมภูมิ จัดเกบ็ ข้อมูลจากแบบบันทึกผลการทดลอง เรื่องถา่ นจากกากกาแฟ
1.2. ข้อมูลทุติยภูมิ ทำการค้นคว้าจากแหล่งความรู้ต่างๆ ได้แก่ ห้องสมุด เอกสาร อินเทอร์เน็ต งานวิจัยท่ี

เกี่ยวข้อง
2. ดำเนินการเกบ็ ข้อมลู

โดยการดวู ธิ กี ารทำถา่ นบนอินเทอร์เน็ต เกบ็ รวบรวมข้อมูลแล้วนำมาลงความเห็นในการพฒั นาดัดแปลงโดยใช้
วัสดุเหลือใช้ที่หาได้ทั่วไป จากนั้นจึงได้ดำเนินการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ วัตถุดิบ เพื่อใช้ในการจัดทำสูตรที่หน่ึง
และพฒั นาตอ่ ไปจนไดส้ ูตรท่ดี ีทสี่ ุด

คณะกรรมการ/ครผู ู้สอน/ครทู ่ปี รกึ ษา/ผ้ทู รงคณุ วุฒิ
อาจารย์ อุทุมพร โชควฒั นาพรชัย

14

บทที่ 4
ผลการดำเนินงานโครงงาน
ผลการดำเนนิ งานโครงการถา่ นจากกากกาแฟ ในครั้งน้ี ผู้รายงานไดน้ ำเสนอผลการดำเนินงานออกเปน็ 3
สว่ น ดงั น้ี

ส่วนที่ 1 ผลการพัฒนาผลิตภณั ฑ์ถ่านจากกากกาแฟ
สว่ นที่ 2 ผลการพฒั นาบรรจุภณั ฑ์
สว่ นที่ 3 ผลการพฒั นาตราผลิตภัณฑ์

ส่วนที่ 1 ผลการพฒั นาผลติ ภณั ฑถ์ ่านจากกากกาแฟ 15

รายการ คร้งั ท1ี คร้ังท2ี่ ครั้งท3ี่
กากกาแฟ 600 กรัม กากกาแฟ 300 กรัม
วตั ถุดิบ กากกาแฟ 400 กรมั - ขเ้ี ลื่อย100กรัม
แป้ง 100กรัม
ข้เี ลอื่ ย 150กรมั แป้ง 300 กรัม น้ำ 77 กรมั

แปง้ 150 กรัม นำ้ 250 กรมั

น้ำ 14 ออนซ์

ข้ันตอนการผลติ ผสมกากกาแฟ ข้ีเลอ่ื ย ผสมกากกาแฟ แปง้ มนั ผสมกากกาแฟ ข้เี ล่อื ย

ผลการพัฒนา และแป้งมนั ใหเ้ ขา้ กัน เท เทน้ำสะอาดผสมจนได้ และแป้งมันให้เขา้ กนั เท
ปัญหา/อุปสรรคใน
ขน้ั ตอนการพฒั นา น้ำเปล่าลงไปเมื่อผสมทุก เนื้อท่ีเหนยี ว นำวัตถุดิบที่ น้ำเปลา่ ลงไปเม่ือผสมทุก

อยา่ งจะมเี นื้อสัมผัสทร่ี ว่ น ผสมอดั ลงท่อ PVCขนาด อยา่ งจะมเี นอ้ื สัมผสั ท่ี

หลงั จากนั้นนำวัตถดุ ิบท่ี 4 หนุ ยาว 3 นิว้ นำออก เหนียว หลงั จากนน้ั นำ

ผสมอัดลงท่อ PVCขนาด จากทอ่ และนำไปตาก วัตถดุ บิ ทีผ่ สมอดั ลงท่อ

4 หนุ ยาว 3 นิว้ และ แดด PVCขนาด 1นิ้ว ยาว 3.5

นำไปตากแดด นิ้ว และนำไปตากแดด

เมื่อนำออกจากทอ่ ถา่ น เมื่อถ่านแห้งแลว้ ตวั ถา่ น เมอ่ื ถ่านแห้งนำออกจาก

หักเป็นทอน และมีการ แตกตัวออกจากกนั เมอ่ื ทอ่ มคี วามเกาะตวั กนั

แตกตัว เมอื่ นำไปจุดไฟ นำไปจุดไปแล้วเกิดการ เปน็ แทง่ เม่ือนำไปจุดให้

เป็นเปลวลุกแรงขึ้นและ เผาไหม้ทร่ี วดเร็ว ความร้อนนาน ไร้ควัน

ควนั เยอะ

- วตั ถุดิบไมส่ ามารถขนึ้ -ถา่ นแตกตัว ไม่เป็น -ไมส่ ามารถควบคมุ สภาพ

รูปได้ รปู ทรงตามที่ต้องการ อากาศได้

- ฟา้ มืดคร้มื ทำให้ไม่

สามารถตากถา่ นได้

วธิ กี ารแกไ้ ข -ลดปรมิ าณของนำ้ ลง -นำถ่านออกจากแม่พมิ พ์
ผลการแก้ไข เพื่อให้วัตถุดบิ ไม่ร่วน แลว้ นำไปอบไลค่ วามช้ืน

ตารางที่ 4.1 ผลการพัฒนาผลิตภณั ฑถ์ า่ นจากกากกาแฟ

16

ส่วนที่ 2 ผลการพัฒนาบรรจภุ ัณฑถ์ ่านจากกากกาแฟ

ภาพท่ี 4.1 ภาพรา่ งบรรจุภัณฑ์
ส่วนที่ 3 ผลพฒั นาตราผลิตภณั ฑ์ถา่ นจากกากกาแฟ

ภาพท่ี4.2 การพฒั นาคร้งั ที่1

ภาพที่4.3 การพฒั นาคร้งั ท่ี2

17

บทที่ 5
สรปุ ผลการดำเนินโครงงาน และขอ้ เสนอแนะ

การดำเนนิ โครงการถ่านจากกากกาแฟมวี ัตถุประสงคเ์ พ่ือสร้างกระบวนการพัฒนาผลติ ภัณฑถ์ ่านจากกาก
กาแฟภายใต้ตราสนิ คา้ Coffee charcoal สามารถสรุปผลโครงการไดด้ งั น้ี

สรุปผลการดำเนนิ โครงการ
ทดสอบการเผาไหม้ของถ่าน
การทดลองสตู รท่ี1 สรุปผลได้วา่ เกดิ เปลี่ยวไฟแรงและมกี ารเผาไหม้ท่รี วดเรว็ ทำให้เกิดการนำมาพฒั นาเป็นสตู ร
ท2ี่ ซง่ึ ไมส่ ามารถอย่คู งตวั ไดน้ านเนื่องจากมีการเผาไหม้ท่ีแรงเกิดจากกากกาแฟที่มคี วามชุ่มชืน้ นอ้ ยเกินจนทำให้
เกดิ ควนั ทีม่ ากในขณะที่จุดใช้งานและเปน็ สตู รที่ไม่ใส่ขีเ้ ล่อื ย จากน้ันจึงได้ค้นหาสตู รใหม่ทีม่ ีส่วนผสมทลี่ งตัว ได้เปน็
สูตรท3่ี ที่ลดปรมิ าณขเี้ ลือ่ ย
2.ลักษณะการความอยู่ทรงของถา่ น
สตู รท1ี่ การข้ึนรูปทรงของถ่านไมค่ ่อยสมบูรณ์มกี ารแตกหักหลงั จากนำออกจากพิมพ์
สูตรท2ี่ การขน้ึ รปู ของถ่านไมป่ ระสบผลสำเรจ็ เนือ่ งจากไม่มสี ่วนผสมของข้เี ลื่อยทีท่ ำให้อย่ตู วั เกิดการแตกตัว
ออกจากกันและะละเอยี ดเปน็ เศษส่วนของกากกาแฟ
สูตรท3ี่ การขนึ้ รูปของถ่านค่อนข้างอยู่ทรงไมแ่ ตกละเอียด
3.ปรมิ าณควันไฟของถ่าน
สตู รท1่ี มปี ริมาณของควันทีม่ าก
สตู รท2่ี ปริมาณของควันยงั มีมากและมกี ล่นิ ของกากกาแฟทเี่ เรงมากจนเกนิ ไป
สูตรท3่ี ในการจดุ ประกายไฟมคี วนั เล็กน้อย หลังจากเผาไห้มสกั พัก ไม่มีควนั
4.สีของถา่ น
สูตรท1ี่ มสี สี นั ทเ่ี ขม้ ไม่อ่อนจนเกนิ ไป
สตู รท2่ี มีสสี นั ท่ีออ่ นเกิดจากระยะเวลาในการตากท่ีนานจนเกินไปทำใหส้ ีไมส่ มบูรณ์
สูตรท3ี่ สถี า่ นเปน็ สกี ากกาแฟทีไ่ ม่เขม้ มากเหน็ ได้ถงึ ส่วนผสม ข้เี ล่ือย และแป้ง
5.กล่นิ ของถ่าน
สูตรท1ี่ กล่นิ ของถ่านมีกลิ่นที่ไม่แรงจนเกินไปเน่อื งจากการตากกากกาแฟมีความชื้นทน่ี ้อย
สตู รท2ี่ กลน่ิ ของถา่ นยงั แรงกวา่ สตู รที่1 เน่ืองจากภายในกากกาแฟมีเศษของชาผสมจึงทำใหม้ ีกล่ินทเ่ี เรงกวา่
สตู รท1ี่
สูตรท3่ี ถา่ นมีกลิน่ กาแฟทีช่ ัดเจน

18

ปญั หาและอปุ สรรคในการดำเนินโครงการ
ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการ มีหลากหลายปัญหา หนึ่งในปัญหาสำคัญที่พบ คือ

สภาพแวดล้อม ในการทำถ่านจากกากกาแฟจำเป็นต้องมีแสงแดดในกระบวนการผลิต ซึ่งสภาพแวดล้อมเป็นหนึ่ง
ในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แนวทางการแก้ปัญหาคือต้องเช็คสภาพแวดล้อมก่อนการเริ่มการผลิต ปัญหาท่ีพบต่อมา คือ
หลักสูตรในกระบวนการผลิตในแต่ละครั้งมีการปรับสูตรให้ตัวถ่านมีประสิทธิภาพสูงที่สุด เนื่องจากในแต่ละครั้ง
ถา่ นก็ไมส่ ามารถขน้ึ รูปได้ จึงมกี ารปรับสูตร และ ขนาดของผลติ ภัณฑ์ เพ่อื ใหไ้ ด้ ผลิตภัณฑท์ ม่ี ีคณุ ภาพสงู สุด

ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา
แนวทางในการพัฒนาจะต้องพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานในการผลิตมากขึ้นมีประสิทธิภาพในการ

เผาไหม้มากขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาต่อไป เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ถ่านจาก
กากกาแฟเปน็ ผลิตภณั ฑท์ สี่ ร้างคุณค่าใหแ้ กก่ ากกาแฟและเป็นมิตรต่อสง่ิ แวดลอ้ มยิ่งขน้ึ นั้นเอง



บรรณานกุ รม
https://capheny.com/articles
http://www.tyme.in.th/blog/blog-01.html
http://www.allkaset.com/plant/
(ศริ ิวรรณ เสรรี ัตน์, และคณะ2541:35-36, 337) ทฤษฎสี ่วนผสมทางการตลาด (Marketing Mix) วางกลยทุ ธท์ าง
การตลาด
(Kahn, 2012) แนวคิดในการพฒั นาผลิตภณั ฑ์



ภาคผนวก

ภาพขัน้ ตอนการพฒั นาผลิตภณั ฑ์
ภาพท่ี1.1 การผสมวตั ถุดิบ

ภาพที่1.2 การอัดวิดโี อการพัฒนาการลงมือปฏบิ ตั ิ
ภาพที่1.2 ขั้นตอนการอดั ลงแม่พิมพ์

ภาพข้นั ตอนการประชุมกลมุ่ เพื่อออกแบบตราสินคา้ และบรรจภุ ณั ฑ์
ภาพท่ี1.1 วางแผนหาผลิตภณั ฑ์ทจ่ี ะพัฒนา

ภาพที่1.2 ออกสำรวจผลติ ภัณฑ์OTOPของลำปาง
ภาพที่1.3 นำเสนอผลติ ภัณฑ์

ภาพท่ี1.4 ออกแบบตราสนิ ค้าบนโปรแกรม

ภาพท่ี1.5 ตราสินค้า
ภาพรา่ งบรรจภุ ัณฑ์

ภาพที่1.1 ภาพร่างบรรจภุ ัณฑ์
ภาพท่ี1.2 ภาพร่างทเี่ ลือกสขี องบรรจภุ ณั ฑ์

ภาพที่1.3 ภาพคล่ขี องบรรจุภัณฑ์

ประวตั ิผ้รู ายงาน

ชื่อ นางสาวกลุ นันท์ สกุล ประมะสุข
เกดิ เมื่อ วันองั คารที่ 24 ธนั วาคม พ.ศ.2545
ประวัติการศึกษา ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชน้ั สูง(ปวส.)
ประวัติการฝึกงาน(ถ้ามี) ร้านข้าวแตน๋ ลำปาง

ชื่อ นายณฆรินทร์ สกลุ ประเสริฐสุข
เกิดเม่ือ วันพุธ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2545
ประวัตกิ ารศึกษา ระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชัน้ สูง(ปวส.)
ประวัตกิ ารฝึกงาน(ถา้ มี) ศูนย์บม่ เพราะ วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาลำปาง

ชือ่ นายภูวดล สกลุ วงศ์ทา
เกิดเม่ือ วันพธุ ที่ 20 พฤษจิกายน พ.ศ.2545
ประวัตกิ ารศึกษา ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชัน้ สงู (ปวส.)
ประวตั กิ ารฝกึ งาน(ถา้ มี) แพรย่ นต์การ เซลล์ แอนด์ เซอร์วสิ

ชือ่ นางสาววรารตั น์ สกลุ จนั ทร์แจ้ง
เกดิ เม่ือ วันจนั ทรท์ ่ี 17 มนี าคม พ.ศ.2546
ประวัติการศึกษา ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชั้นสูง(ปวส.)
ประวัตกิ ารฝึกงาน(ถา้ ม)ี โรงแรมลำปางเวยี งทอง

ช่ือ นางสาวอรจิรา สกลุ ฟองทา
เกิดเม่ือ วันจนั ทร์ท่ี 9 กนั ยายน พ.ศ.2545
ประวัตกิ ารศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพชั้นสูง(ปวส.)
ประวตั กิ ารฝึกงาน(ถา้ มี) ศูนย์บม่ เพราะ วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาลำปาง


Click to View FlipBook Version