จรรยาบรรณ และกฎหมาย
เกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์
สื่อการนำเสนอ
จรรยาบรรณ และกฎหมายเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์
เสนอ
ครูปรียา ปันธิยะ
จัดทำโดย
นางสาวชนนิกานต์ ม่วงศรีจันทร์
เลขที่ 24 สาขาการจัดการสำนักงาน
เป็นส่วนหนึ่งของวิชา เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการจัดการอาชีพ
รหัสวิชา 30001-2003
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565
วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง
1. ความหมายของจรรยาบรรณ
1.1 จรรยาบรรณ หมายถึง ประมวลความประพฤติ ที่ผู้ประกอบวิชาชีพ
การงานแต่ละอย่าง กำหนดขึ้น เพื่อรักษา และสร้างเสริมเกียรติคุณ ชื่อเสียง
และฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็น ลายลักษณ์อักษร หรือไม่ก็ได้
1.2 จรรยาบรรณ หมายถึง จริยาวิชาชีพ หรือจรรยาวิชาชีพ
หรือจริยธรรมวิชาชีพ ซึ่งครอบคลุมในทุกเรื่องทุกประการ
ที่เป็นข้อควรปฏิบัติ สำหรับกลุ่มวิชาชีพ
1.3 จรรยาบรรณ หมายถึง มาตรฐานของคุณค่า
แห่งความดีงามของการกระทำ หนึ่ง ๆ หรือพฤติกรรมโดยรวม
ของผู้ประกอบวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่ง
2. ความหมายของจรรยาบรรณวิชาชีพ
จรรยาบรรณในวิชาชีพ หมายถึง ประมวลมาตรฐาน
ความประพฤติที่ผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องประพฤติปฏิบัติ
เป็นแนวทางให้ผู้ประกอบวิชาชีพปฏิบัติอย่างถูกต้อง
เพื่อผดุงเกียรติและสถานะ ของวิชาชีพนั้นก็ได้ผู้กระทำผิด
จรรยาบรรณจะต้องได้รับโทษโดยว่ากล่าว ตักเตือน
ถูกพักงาน หรือถูกยกเลิกใบประกอบวิชาชีพได้
3. ความหมายของจรรยาบรรณของสื่อมวลชน
จรรยาบรรณของสื่อสารมวลชน หมายถึง
หลักคุณธรรมของผู้ประกอบอาชีพ
นักสื่อสารมวลชนมารวมตัวกันเป็นสมาคมวิชาชีพสร้างขึ้น
เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบอาชีพ
นักสื่อสารมวลชนให้มีความรับผิดชอบ
4. ความหมายของจรรยาบรรณสื่อสากล 13 ข้อ
1. ประพฤติ ปฏิบัติหน้าที่ให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
2. ไม่สร้างข่าว หรือเขียนข้อมูลขึ้นมาเอง
3. ข่าว และข้อมูลที่นำเสนอทั้งหมดต้องเป็นความจริง
4. ไม่นำเสนอข้อมูล แล้วไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น
5. นำเสนอข่าว ข้อมูลโดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
6. ไม่ปิดบังอำพรางข่าวที่ควรนำเสนอ
7. ไม่ขายข่าว เพื่อเอาไปใช้หาเงินในทางไม่ชอบ
8. ไม่เข้าร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง
4. ความหมายของจรรยาบรรณสื่อสากล 13 ข้อ (ต่อ)
9. แก้ไขข้อผิดพลาดที่พบในทันที
10. นำเสนอข่าว และข้อมูลสำหรับคนทุกภาคส่วนในสังคม
ไม่ใช่แค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ
11. ไม่เหยียดเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ของบุคคล
12. พร้อมที่จะแก้ไขความผิดพลาดเสมอ
13. การเสนอข่าว และข้อมูลต้องคำนึงถึงว่ายังมีเยาวชน
ที่จะไดรับรู้เรื่องราวเหล่านั้นอยู่ด้วย
5. จรรยาบรรณการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์
- ให้ระมัดระวังการละเมิด หรือสร้างความเสียหาย
ใหผู้อื่น
- ให้แหล่งที่มาของข้อความ ควรอ้างอิงแหล่งข่าวได้
- ไม่กระทำการรบกวนผู้อื่นด้วยการโฆษณา
เกินความจำเป็น
- ดูแล และแก้ไขหากตกเป็นเหยื่อจากโปรแกรม
อันไม่พึงประสงค์ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นเป็นเหยื่อ
6.มารยาทที่พึงปฏิ บัติร่วมกันใน
การใช้ สื่อสังคมออนไลน์
การใช้สติในการรับฟังและแสดงความคิด
ก่อนจะโพสต์ หรือเผยแพร่ข้อความ ภาพ หรือเสียง ทุกครั้ง
ด้วยการลองตั้งคำถามกับ ตัวเองดูว่าสิ่งต่าง ๆ
ที่ทำนั้น ตรงกับคำถาม เหล่านี้หรือไม่
- ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือไม่
-ละเมิดความคิดทางปัญญาหรือ ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นหรือไม่
-ข้อความ ภาพ และเสียง ผิดศีลธรรม หรือผิดกฎหมายหรือไม่
-ก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมหรือไม่
-ละเมิดสิทธิ ความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น หรือไม่
-เป็นการหลอกลวง ล่อลวง ฉ้อโกง หรือไม่
7.จริยธรรมที่ดีในการใช้ สื่อสังคมออน ไลน์
- ไม่ใช้สังคมออนไลน์ทำร้ายผู้อื่น
- ไม่ใช้สังคมออนไลน์รบกวนผู้อื่น
- ไม่ใช้สังคมออนไลน์เพื่อการลักขโมย
- ไม่ใช้สังคมออนไลน์เพื่อเป็นการเท็จ
หรือพยานเท็จ
8. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อสังคมออนไลน์
8.1 ความหมายของกฎหมาย
หมายถึง ระเบียบ ข้อบังคับ บทบัญญัติซึ่งผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐ
หรือประเทศ ได้กำหนดมาเพื่อใช้ในการบริหารกิจการบ้านเมือง
หรือบังคับความประพฤติของประชาชนในรัฐ หรือประเทศนั้น
8.2 ที่มาของกฎหมาย
- จารีตประเพณี เป็นแนวปฏิบัติที่ใช้ในการควบคุม
ประพฤติของมนุษย์
- การออกกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติในการ
ปกครองระบอบราชาธิปไตย
- คำสั่ง และกฤษฎีกาที่ออกโดยฝ่าบบริการ
8.3 จุดประสงค์ และความสำคัญของกฎหมาย
จุดประสงค์ของการบัญญัติกฎหมายเกิดขึ้นมาก็
เพื่อจัดระเบียบให้กับสังคม ทั้งยังช่วยรักษาความมั้น
คงให้รัฐ ระงับข้อพิพาก ประสานผลประโยชน์ทั้งส่วน
บุคคล และส่วนรวม ช่วยพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้า
8.4 กฎหมายสื่อ และควบคุมสื่อ
กฎหมายกำหนดเงื่อนไขการปิดกั้นสื่อแต่ละประเภทไว้ไม่เหมือนกัน
โดยรวมอาจมีหลักการหลายอย่างที่สอดคล้องกันแต่หากเปรียบเทียบ
กฎหมายหลายฉบับจะพบว่า มีเนื้อหาบางประเภท
ที่สามารถเผยแพร่ในสื่อบางประเภทได้
8.5 บุคคลสาธารณะกับสื่อสังคมออนไลน์
บุคคลสาธารณะ คือ บุคคลที่อยู่ในความสนใจของสาธารณะ
ชนทั่วไป ซึ่งบุคคลประเภทนี้ถือว่า ได้สละสิทธิที่จะดำเนินชีวิต
โดยปราศจากการสังเกตจับตามองของสื่อมวลชน และจะได้รับ
ความคุ้มครองทางกฎหมายในความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าบุคคล
ทั่วไป เช่น ดารา นักร้อง นักแสดง
แหล่งอ้างอิง
https://anyflip.com/qcfzz/vasz/basic