The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานข้อมูลเพื่อการวางแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ รายสินค้า (ไก่พื้นเมือง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ฉบับปรับปรุง)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รายงานข้อมูลเพื่อการวางแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ รายสินค้า (ไก่พื้นเมือง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ฉบับปรับปรุง)

รายงานข้อมูลเพื่อการวางแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ รายสินค้า (ไก่พื้นเมือง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ฉบับปรับปรุง)

ไก่ก่ ก่ก่ พื้พื้ พื้พื้ นเมืมื มืมื อง ข้อมูลเพื่อการวางแผนพัฒนา การเกษตรและสหกรณ์รายสินค้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี ๒๕๖๖ ข้อมูลเพื่อการวางแผนพัฒนา การเกษตรและสหกรณ์รายสินค้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี ๒๕๖๖ กลุ่มสารสนเทศการเกษตร สำ นักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เอกสารสำ นักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เล่มที่ ๔/๒๕๖๖ กลุ่มสารสนเทศการเกษตร สำ นักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เอกสารสำ นักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เล่มที่ ๔/๒๕๖๖


ความเป็นมา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอดีตราชธานีของไทย มีหลักฐานของการเป็นเมืองในลุ่มแม่น ้า เจ้าพระยาตั งแต่ประมาณ พุทธศตวรรษที่ ๑๖ – ๑๘ โดยมีร่องรอยของที่ตั งเมือง โบราณสถาน โบราณวัตถุ และเรื่องราวเหตุการณ์ในลักษณะต้านานพงศาวดาร ไปจนถึงหลักศิลาจารึก ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานร่วมสมัย ที่ใกล้เคียงเหตุการณ์มากที่สุด ซึ่งเมืองอโยธยาหรืออโยธยาศรีรามเทพนคร หรือเมืองพระราม มีที่ตั งอยู่ บริเวณด้านตะวันออกของเกาะเมืองอยุธยา มีบ้านเมืองที่มีความเจริญทางการเมือง การปกครอง และมี วัฒนธรรมที่รุ่งเรืองแห่งหนึ่ง มีการใช้กฎหมายในการปกครองบ้านเมือง ๓ ฉบับ คือ พระอัยการลักษณะ เบ็ดเสร็จพระอัยการลักษณะทาส และพระอัยการลักษณะกู้หนี สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ หรือ พระเจ้า อู่ทอง ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๓ กรุงศรีอยุธยา เป็นศูนย์กลางของประเทศสยามสืบต่อมายาวนานถึง ๔๑๗ ปี มีพระมหากษัตริย์ ปกครอง ๓๓ พระองค์ จาก ๕ ราชวงศ์ คือ ๑. ราชวงศ์อู่ทอง ๒. ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ๓. ราชวงศ์สุโขทัย ๔. ราชวงศ์ปราสาททองและ ๕. ราชวงศ์บ้านพลูหลวงได้สูญเสียเอกราชแก่พม่า ๒ ครั ง ครั งแรกใน พ.ศ. ๒๑๑๒ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกู้เอกราชคืนมาได้ใน พ.ศ. ๒๑๒๗ และเสียกรุงศรีอยุธยาครั งที่ ๒ ใน พ.ศ. ๒๓๑๐ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกอบกู้เอกราชได้ในปลายปีเดียวกันแล้วทรงสถาปนา กรุงธนบุรีเป็นราชธานีแห่งใหม่ โดยกวาดต้อนผู้คนจากกรุงศรีอยุธยาไปยังกรุงธนบุรีเพื่อสร้างเมืองใหม่ แต่ กรุงศรีอยุธยาไม่ได้กลายเป็นเมืองร้าง ยังคงมีคนรักถิ่นฐานบ้านเดิมอาศัยอยู่และราษฎรที่หลบหนีไปได้กลับ เข้ามาอยู่รวมกัน ต่อมาได้รับการยกย่องเป็นเมืองจัตวาเรียก “เมืองกรุงเก่า” ดวงตราประจ าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รูปหอยสังข์ประดิษฐานอยู่บน พานแว่นฟ้าภายในปราสาทใต้ต้นหมัน ดวงตราประจ้าจังหวัดนี มาจากต้านานการสร้างเมืองพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเล่ากันว่าในปี พ.ศ. ๑๘๙๐ โรคห่าระบาดจนผู้คนล้มตายเป็นจ้านวนมาก พระเจ้าอู่ทองจึงอพยพย้ายผู้คนออกจากเมืองเดิมมา ตั งเมืองใหม่ที่ต้าบลหนองโสน ซึ่งมีแม่น ้าล้อมรอบ ระหว่างที่ปักเขตราชวัติฉัตรธง ตั งศาลเพียงตา กระท้าพิธี กลบบัตรสุมเพลิง ปรับสภาพพื นที่เพื่อตั งพระราชวังอยู่นั น ปรากฏว่าเมื่อขุดมาถึงใต้ต้นหมันได้พบหอยสังข์ ทักษิณาวัตรบริสุทธิ์ พระเจ้าอู่ทอง ทรงโสมนัสในศุภนิมิตนั นจึงสร้างปราสาทน้อยขึ นเป็นที่ประดิษฐานหอย สังข์ดังกล่าว


-2- ค าขวัญประจ าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ธงประจ าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งออกเป็น ๓ แถบเท่า ๆ กัน มี ๒ สี โดยมีสี ฟ้าอยู่ตรงกลางขนาบด้วยสีน ้าเงินซึ่งเป็นสีประจ้าภาค ๑ ทั งสองข้าง กลางธง แถบสีฟ้ามีตราประจ้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นรูปปราสาทสังข์ทักษิณาวัตร ใต้ต้นหมัน ใต้รูปปราสาทมีค้าว่า “อยุธยา” คันธงมีแถบสีเหลืองและ สีฟ้า ๒ แถบ ต้นไม้ประจ าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้นหมันเป็นพืชในวงศ์หญ้างวงช้าง (Boraginaceae) กระจายพันธุ์ในอิน โดจีนและคาบสมุทรมลายู หมันเป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงกลาง สูง ๑๐ – ๑๕ เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกต้นสีเทาเข้มปนด้า ดอกออกเป็นช่อแบบแยกแขนงตามซอกใบ สีขาว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ผลเป็นแบบผลสดมีเนื อ ทรงกลม เมื่อสุกมีสีชมพูอมส้ม เนื อผลเป็นยาง เหนียวใส ผลรับประทานได้ ยางเหนียวจากผลบางครั งใช้เป็นกาว ต้น หมันเป็นต้นไม้ประจ้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพราะในประวัติศาสตร์ เมื่อพระเจ้าอู่ทองย้ายเมืองมาตั งที่ต้าบลหนองโสน ได้ขุดพบสังข์ทักษิณา วัตร ๑ ขอน อยู่ใต้ต้นหมัน จึงก้าหนดให้ต้นหมันเป็นต้นไม้ประจ้า จังหวัด ดอกไม้ประจ าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โสน (อ่าน สะ-โหน) เป็นพืชประจ้าถิ่นในทวีปเอเชียและแอฟริกา เป็นไม้ในตระกูล ปาปิโอนีอี เป็นพืชที่ขึ นเองตามธรรมชาติทั่วไปในที่ชื นแฉะ โดยเฉพาะตามริมคลอง และริมคันนา มีดอกสีเหลืองคล้ายดอกแคหรือดอกถั่ว เมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๓ พระเจ้าอู่ทอง ทรงตั งเมืองขึ นใหม่ที่ต้าบลเวียงเหล็กทรงเลือกชัยภูมิที่จะตั งพระราชวังทรงเห็นว่า ที่ต้าบลหนองโสนเหมาะสมเพราะมีต้นโสนมากดอกโสนออกดอกเหลืองอร่ามคล้าย ทองค้าสะพรั่งตาดังนั นดอกโสนจึงถือได้ว่าเป็นดอกไม้ประจ้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ราชธานีเก่า อ่ขู้ าวอ่นู ้าเลิศลา ้กานท ์ กวี คนดีศรีอยธุยาเลอคณุค่ามรดกโลก


-3- สัตว์น าประจ าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กุ้งก้ามกราม (กุ้งหลวง กุ้งนาง กุ้งแม่น ้า กุ้งน ้าจืด) ชื่อสามัญ : Giant Fershwater Prawn (กรมประมง, 2555 : ออนไลน์) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั งศูนย์ ศิลปาชีพบางไทรขึ นริมฝั่งแม่น ้าเจ้าพระยา ณ ต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสด็จพระราชด้าเนินเปิดศูนย์ฯ นี เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๒๗ และทรงปล่อยลูกกุ้งชุดแรกที่หน้าศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร และได้มีการปล่อยอย่าง ต่อเนื่องมาทุกปีจนถึงทุกวันนี ในบางปีที่เสด็จพระราชด้าเนินมายังพระต้าหนักสิริยาลัย ก็ได้น้าลูกกุ้งก้ามกรามนับ ล้านตัวมาปล่อยในบริเวณหน้าพระต้าหนัก สภาพทางภูมิศาสตร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาตั งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่างของประเทศห่างจาก กรุงเทพมหานคร ทางถนนสายเอเซีย ๗๖ กิโลเมตร ทางรถไฟ ๗๒ กิโลเมตร และทางเรือ ๑๐๓ กิโลเมตร มีเนื อที่ประมาณ ๒,๕๕๖.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือ ๑,๕๙๗,๙๐๐ ไร่ นับว่าเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ เป็นอันดับที่ ๖๓ ของประเทศไทย และเป็นอันดับที่ ๑๑ ของจังหวัดในภาคกลาง ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่มน ้าท่วมถึง พื นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งนา ไม่มีภูเขา ไม่มีป่าไม้ มีแม่น ้าไหลผ่าน ๔ สาย ได้แก่ แม่น ้าเจ้าพระยา แม่น ้าป่าสัก แม่น ้าลพบุรี และแม่น ้าน้อย รวมความยาวประมาณ ๒๐๐ กิโลเมตร มีล้า คลองใหญ่น้อย ๑,๒๕๔ คลอง เชื่อมต่อกับแม่น ้าเกือบทั่วบริเวณพื นที่ สถานที่ตั ง อาณาเขต จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี 16 อ้าเภอ มีอาณาเขตติดต่อกับ จังหวัดใกล้เคียง ดังนี - ทิศเหนือ ติดต่อกับ จังหวัดอ่างทองและ จังหวัดลพบุรี - ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดปทุมธานี - ทิศตะวันออก ติดต่อกับ จังหวัดสระบุรี - ทิศตะวันตก ติดต่อกับ จังหวัดสุพรรณบุรี


-4- ลักษณะภูมิอากาศ พระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่ตั งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ พื นที่เป็นที่ราบลุ่มถูกขนาบด้วย พื นที่สูง ๓ ด้าน คือ ทิวเขาทางด้านตะวันตกของประเทศ และเขตเทือกเขาและที่สูงทางภาคเหนือกับภาค ตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นเขตที่ราบสูง จึงมีอุณหภูมิค่อนข้างสูงและมีอากาศร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน ส่วนใน ฤดูหนาวไม่หนาวจัด อุณหภูมิเฉลี่ยทั งปี ๒๘.๔ องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่้าสุด ๑๓.๖ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด ๓๙.๐ องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยสูงที่สุด ๓๖.๓ องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยต่้าสุด ๒๒.๓ องศาเซลเซียส ข้อมูลภูมิอากาศของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี2564 ข้อมูลภูมิอากาศ วัดได้ อุณหภูมิเฉลี่ย ๒๘.๔ อุณหภูมิสูงสุด ๓๙.๐ อุณหภูมิต่ าสุด ๑๓.๖ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด ๓๖.๓ อุณหภูมิเฉลี่ยต่ าสุด ๒๒.๓ ความชื นสัมพัทธ์ในอากาศเฉลี่ย ๗๔.๓ ความกดอากาศเฉลี่ย ๑๐๐๘.๓ ที่มา สถานีอุตุนิยมวิทยาพระนครศรีอยุธยา ข้อมูล : ณ เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕ การแบ่งเขตการปกครอง ที่ อ้าเภอ ต้าบล หมู่บ้าน อบจ. ทน. ทม. ทต. อบต. ๑ พระนครศรีอยุธยา ๒๑ ๑๒๑ ๑ ๑ ๑ - ๑๓ ๒ ท่าเรือ ๑๐ ๘๔ - - - ๒ ๙ ๓ นครหลวง ๑๒ ๗๔ - - - ๒ ๖ ๔ บางไทร ๒๓ ๑๓๖ - - - ๒ ๙ ๕ บางบาล ๑๖ ๑๑๑ - - - ๒ ๔ ๖ บางปะอิน ๑๘ ๑๔๙ - - ๑ ๘ ๙ ๗ บางปะหัน ๑๗ ๙๔ - - - ๑ ๑๐ ๘ ผักไห่ ๑๖ ๑๒๘ - - ๑ ๑ ๘ ๙ ภาชี ๘ ๗๒ - - - ๑ ๗ ๑๐ ลาดบัวหลวง ๗ ๕๘ - - - ๒ ๖ ๑๑ วังน้อย ๑๐ ๖๘ - - ๑ - ๙ ๑๒ เสนา ๑๗ ๑๑๔ - - ๑ ๔ ๙ ๑๓ บางซ้าย ๖ ๕๓ - - - ๑ ๔ ๑๔ อุทัย ๑๑ ๑๐๗ - - - ๑ ๑๑ ๑๕ มหาราช ๑๒ ๕๘ - - - ๒ ๕ ๑๖ บ้านแพรก ๕ ๒๗ - - - ๑ ๒รวมทั งสิ น ๒๐๙ ๑,๔๕๙ ๑ ๑ ๕ ๓๐ ๑๒๑ ที่มา ส้านักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อมูล : ณ เดือนเมษายน 2565


-5- อบจ. หมายถึง องค์การบริหารส่วนจังหวัด ทน. หมายถึง เทศบาลนคร ทม. หมายถึง เทศบาลเมือง ทต. หมายถึง เทศบาลต้าบล อบต. หมายถึง องค์การบริหารส่วนต้าบล ประชากร ประชากรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๖๔ รวม 820,512 คน (342,753 ครัวเรือน) เป็น ชาย 394,024 คน เป็นหญิง 426,488 คน อ้าเภอที่มีประชากรมากที่สุดได้แก่ อ้าเภอพระนครศรีอยุธยา จ้านวน 139,688 คน และอ้าเภอที่มีประชากรน้อยที่สุด ได้แก่ อ้าเภอบ้านแพรก จ้านวน 8,796 คน ลักษณะข้อมูล ชาย หญิง รวม แยกตามลักษณะสถานะของบุคคล - ผู้ที่มีสัญชาติไทย 392,898 425,497 818,395 - ผู้ที่ไม่ได้สัญชาติไทย 1,126 991 2,117 ที่มา ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รวบรวมโดย ที่ท้าการปกครองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อมูล : 31 ธันวาคม ๒๕๖๔ สถิติประชากร แยกรายอ าเภอ พ.ศ.2564 อ าเภอ ชาย หญิง รวม ครัวเรือน พระนครศรีอยุธยา 66,300 73,388 139,688 56,282 ท่าเรือ 21,726 24,131 45,857 18,845 นครหลวง 17,524 19,092 36,616 17,356 บางไทร 23,554 24,580 48,134 16,396 บางบาล 16,150 17,602 33,752 12,518 บางปะอิน 55,612 61,468 117,080 61,861 บางปะหัน 20,016 21,537 41,553 14,904 ผักไห่ 18,996 20,300 39,296 14,519 ภาชี 15,000 16,088 31,088 10,915 ลาดบัวหลวง 19,686 20,173 39,859 14,027 วังน้อย 37,624 39,736 77,360 36,469 เสนา 31,783 34,152 65,935 23,510 บางซ้าย 9,425 9,700 19,125 6,355 อุทัย 25,534 27,874 53,408 26,192 มหาราช 10,972 11,993 22,965 9,042 บ้านแพรก 4,122 4,674 8,796 3,562 รวม 394,024 426,488 820,512 342,753 ที่มา ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รวบรวมโดย ที่ท้าการปกครองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อมูล : 31 ธันวาคม ๒๕๖๔


-6- ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (GPP=GROSS PROVINCIAL PRODUCT) ปี 2564 โครงสร้างเศรษฐกิจจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประจ้าปี 2564 พิจารณาจากสัดส่วนมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาประจ้าปี ประกอบด้วย ภาคอุตสาหกรรม ร้อยละ 75 ภาคบริการ ร้อยละ 23 ภาคเกษตร ร้อยละ 2 อัตราการขยายตัวของ GPP ปี 2563 = -2.4 ปี 2564 = 7.8 ปี 2564 มีอัตราการขยายตัว ของ GPP ดีกว่า ปี2563 ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) ในปี 2564 ค่าเฉลี่ยต่อหัวของประชากร มีค่าเท่ากับ 428,548 บาท เพิ่มขึ นจากปีก่อน เป็นล้าดับที่ 5 ของประเทศ จ้านวนประชากร 915,000 คน ที่มา : ผลิตภัณฑ์ภาคและจังหวัด แบบปริมาณลูกโซ่ฉบับ พ.ศ. 2564/สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ


-7- ที่มา : ข้อมูลพื นฐานจังหวัด ที่ใช้สนับสนุนการตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และครม.สัญจร เดือนตุลาคม 2565


-8- ที่มา : ข้อมูลพื นฐานจังหวัด ที่ใช้สนับสนุนการตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และครม.สัญจร เดือนตุลาคม 2565


-9- ที่มา : ข้อมูลพื นฐานจังหวัด ที่ใช้สนับสนุนการตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และครม.สัญจร เดือนตุลาคม 2565


-10- ที่มา : ข้อมูลพื นฐานจังหวัด ที่ใช้สนับสนุนการตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และครม.สัญจร เดือนตุลาคม 2565


-11- \ ไก่พื้นเมืองเป็นสัตว์ปีกชนิดหนึ่งที่เลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในชนบทของประเทศไทย เนื่องจากการ เลี้ยงไก่พื้นมืองใช้เงินลงทุนน้อย เกษตรกรไม่ต้องดูแลมาก ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และ ทนต่อการเป็นโรคได้ดี ประโยชน์ของการเลี้ยงไก่พื้นเมือง 1) เป็นแหล่งอาหารโปรตีนของชาวบ้านในชนบทที่มีราคาถูกหาง่าย 2) เป็นรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคราวที่ต้องการเงินสดเพื่อมาใช้จ่าย ในครัวเรือน 3) เนื้อไก่พื้นเมืองมีรสชาติดี เนื้อแน่น และมีไขมันน้อย ทำให้ไก่พื้นเมืองมีราคาสูงกว่าไก่ทั่วไป ที่ขายตามท้องตลาด จึงเป็นอาชีพทางเลือก/อาชีพเสริมของเกษตรกร มีความเสี่ยงน้อยในด้านการตลาด มีเท่าไหร่หรือจะขายเมื่อไหร่สามารถขายได้ตลอด 4) สอดคล้องกับระบบการเกษตรแบบ ผสมผสาน ซึ่งจะมีการทำการเกษตรหลายอย่าง พร้อม ๆ กัน เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกไม้ผล เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ไก่พื้นเมืองที่พบในชนบทจำแนกเป็น 4 พันธุ์คือ 1) ไก่อู หรือไก่ชน 2) ไก่แจ้ 3) ไก่ตะเภา 4) ไก่กลายพันธุ์ ลักษณะ ไก่อูเป็นไก่พันธุ์หนัก ลําตัวใหญ่ เนื้อมาก นํ้าหนักมาก ตัวเมียขนสีดําปกคลุมทั้งตัว ส่วนตัวผู้มีลักษณะเป็นไก่ชนมีขนาดใหญ่ แข็งแรง ลักษณะคล้ายไก่ฝรั่ง พันธุ์คอร์นิช หน้าอกใหญ่ หงอนมีหลายชนิด เช่น หงอนกุหลาบ (ไก่ชนสวนใหญ่มีหงอนชนิดนี) หงอนจักร เนื้อดํา เนื้อแดง ขน ขาว ขนลาย ขนเขียว เป็นต้น ไก่ชน เป็นไก่พันธุ์พื้นเมืองที่ชาวบานเลี้ยงไว้เพื่อเกมกีฬา แต่น่าจะถือได้ว่า เป็นสายพันธุ์แท้ของไก่พื้นเมืองของคนไทยเราได้ดีพันธุ์หนึ่ง เพราะได้ผ่านการผสม พันธุ์และคัดเลือกพันธุ์ มาเป็นเวลาช้านาน ควรที่จะใช้เป็นพันธุ์พื้นฐานในการขยาย พันธุ์และปรับปรุงพันธุ์เพื่อผลทางด้าน เศรษฐกิจต่อไป อีกพันธุ์หนึ่งเป็นไก่พันธุ์พื้นบ้านของไทยเหมือนกัน คือ ไก่แจ้ เป็นไก่พันธุ์เล็ก นิยม เลี้ยงไวดูเล่น แต่ให้ไข่ดก ถ้ามีการปรับปรุงพันธุ์ใหดีอาจกลายเป็นไก่พื้นเมืองพันธุ์ ไข่ไปก็ได้นอกจากนี้ไก่ พันธุ์พื้นเมืองที่นิยมเลี้ยงไว้ตามท้องถิ่นต่างๆ ในประเทศไทยยังมีอีกหลายพันธุ์อาทิ ไก่ตะเภา ไก่เบตง เป็นต้น


-12- วัตถุประสงค์ของการเลี้ยงไก่พื้นเมืองของเกษตรกร 1) เพื่อเป็นอาหารในครอบครัว 2) เพื่อเสริมรายได้ ถ้าหากมีจำนวนมากและเหลือจากการบริโภค 3) เพื่อความเพลิดเพลิน หรือความสวยงาม 4) เพื่อเป็นเกมส์กีฬา การเลี้ยงไก่พื้นเมือง สําหรับเกษตรกรรายย่อยมักเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม ดังนั้น เกษตรกรราย ย่อยจึงมีการเลี้ยงไก่ ในระบบการเลี้ยงแบบปล่อยให้ไก่หากินตามธรรมชาติ (Free range) ในสวน ลาน โล่งภายในบริเวณบ้าน ใต้ถุนบ้าน เป็นต้น การให้อาหารส่วนใหญ่จะเป็นข้าวเปลือก อาหารเสริมส่วนใหญ่ จะใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นหรือเศษเหลือทางการเกษตร เช่น ต้นกล้วยหมัก มันสําปะหลัง หมัก ข้าวโพด ปลายข้าว รําละเอียด ฯลฯ ซึ่งอาจจะทําให้ไก่โตช้าไปบ้าง แต่ไก่มีสุขภาพดี แข็งแรง มีภูมิ ต้านทานโรค โดยไม่จําเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ เนื้อไก่ที่ได้จึงมีคุณภาพดีและมีคุณค่าทางอาหารที่แตกต่าง จากไก่ที่เลี้ยงแบบขังคอกตลอดเวลา รูปแบบของการเลี้ยงไก่ การเลี้ยงไก่มีหลายลักษณะด้วยกัน ไก่พื้นเมือง ประเภทไก่ชนตัวผู้อาจเลี้ยงไก่ไว้ในกรง ตลอดเวลา เลี้ยงบนพื้นคอกหรือขังเล้า เลี้ยงแบบขังกรงเดี่ยว เลี้ยงแบบปล่อย หรือกึ่งกักกึ่งปล่อย แต่ละ อย่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณ์พื้นที่ สภาพแวดล้อม ตลอดจนประสบการณ์ในการเลี้ยง ของแต่ละคน โรงเรือนสําหรับเลี้ยงไก่พื้นเมืองนั้นไม่มีรูปแบบที่ตายตัวแน่นอน ขึ้นอยู่กับรูปแบบและ วัตถุประสงค์ของการเลี้ยง วัสดุอุปกรณ์ ต้นทุน อย่างไรก็ตาม โรงเรือนเลี้ยงไก่พื้นเมืองที่ดีนั้นควรมี ลักษณะ ดังนี้ 1) สามารถป้องกันแดด กันลมและกันฝนได้ดี 2) ภายในโรงเรือนควรโปร่ง ไม่อับทึบ ไม่ชื้น และมีการระบายอากาศดี แต่ไม่ถึงกับมีลมโกรก 3) ควรสร้างโรงเรือนแบบประหยัด ใช้วัสดุสิ่งก่อสร้างที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น รักษาความสะอาดง่าย 4) สามารถพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและยากําจัดเชื้อโรคได้ง่ายและทั่วถึง 5) ป้องกันศัตรูต่าง ๆ ได้ดี เช่น สุนัข แมว นกและหนู ฯลฯ 6) ห่างจากที่พักอาศัยพอสมควร 7) ขนาด/รูปแบบต้องสะดวกต่อผู้เลี้ยงเข้าดูแล การผสมพันธุ์ไก่ ไก่ทุกเพศทุกรุ่น จะถูกปล่อยรวมกันในบริเวณบ้าน การผสมพันธุ์เป็นไปตามธรรมชาติ แม่ไก่ จะได้รับการผสมพันธุ์จากตัวผู้ที่คุมฝูง จำนวนไก่พ่อพันธุ์ต่อแม่พันธุ์ อยู่ประมาณ 1 ตัว ต่อแม่พันธุ์ 7 ตัว แม่ไก่จะวางไข่ชุดละ 10-15 ฟอง ปีละประมาณ 3 ชุดเมื่อแม่ไก่วางไข่จนหมดชุดแล้วก็จะหยุดไข่และเริ่ม ฟักไข่เมื่อลูกออกเป็นตัวแม่ไก่ จะเลี้ยงดูลูกไก่ไประยะหนึ่ง จนลูกไก่หากินเองได้ แม่ไก่จะเริ่มวางไข่อีกครั้ง


-13- อุปกรณ์ที่จําเป็นในการเลี้ยงไก่ ได้แก่ 1) อุปกรณ์ให้อาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารหกหล่นและปลอดภัยจากเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อยู่บน พื้นดิน อาจทําจากวัสดุในท้องถิ่นที่ทําได้ง่าย ทนทานและรักษาความสะอาดได้ง่าย เช่น ไม้ไผ่ผ่าซีก ยาง รถยนต์ผ่าซีก หรือใช้ถังอาหารไก่แบบแขวนถังแขวน จะต้องจัดเตรียมไว้ให้เพียงพอกับจํานวนไก่ที่เลี้ยง เพราะตามธรรมชาติ แล้วไก่พื้นเมืองจะกินอาหารพร้อม ๆ กัน 2) อุปกรณ์ให้น้ำ ควรจัดหาน้ำให้ไก่ได้มีน้ำกินตลอดเวลา อุปกรณ์ให้น้ำอาจใช้ไม้ไผ่ผ่าซีก ถ้วย จานอ่างดินหรือกระปุกน้ำพลาสติกก็ได้ 3) คอนนอน ตามธรรมชาติไก่พื้นเมืองจะไม่นอนบนพื้นดิน แต่ ชอบนอนบนกิ่งไม้ บนต้นไม้หรือคอน ไม้ ดังนั้น ควรจัดให้มีคอนนอนไว้ มุมใดมุมหนึ่งเพื่อให้ไก่ใช้เป็นที่นอนในเวลากลางคืน 4) รังฟักไข่ ปกติไก่พื้นเมืองจะเริ่มไข่เมื่ออายุประมาณ 6-8 เดือน ดังนั้นผู้เลี้ยงจะต้องจัดหารังไข่ไว้ให้ไก่ก่อนที่ไก่จะเริ่มวางไข่ถ้าหากต้องการให้แม่ไก่ฟักไข่เองจะต้อง จัดหารังให้มีจํานวนครบตามจํานวนหรือมาก กว่าแม่ไก่ที่เลี้ยงเพื่อให้แม่ไก่เลือกรังที่เหมาะสม มิฉะนั้นจะ เกิดปัญหาแม่ไก่แย่งรังไข่กัน อาหารสําหรับการเลี้ยงไก่แบบปล่อยอิสระ การเลี้ยงไก่พื้นเมืองโดยทั่วไปเกษตรกรมักจะปล่อยให้ไก่หากินเองตามธรรมชาติและอาจจะให้ อาหาร เพิ่มเติมบ้างในช่วงเช้าหรือเย็น อาหารที่ให้ส่วนใหญ่เป็นข้าวเปลือก ปลายข้าวหรืออาจจะเป็นเศษ อาหารจาก ครัวเรือน ทําให้ไก่มักจะประสบปัญหาการขาดสารอาหารและเจริญเติบโตช้า การจัดการ อาหารที่เหมาะสมจะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ช่วยให้ไก่มีอัตราการเจริญเติบโตดีขึ้น อัตราการตาย ลดลง ฯลฯ การสุขาภิบาลและการป้องกันโรค ถึงแม้ว่าไก่พื้นเมืองจะแข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อมก็ตาม แต่การป้องกันไว้ย่อมดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคระบาดเพราะปัญหาโรคเป็นปัญหาสําคัญที่จะทําให้ผู้ที่เลี้ยงไก่ไม่ประสบผลสําเร็จ ดังนั้น เพื่อลดการสูญเสียจึงต้องมีการสุขาภิบาลที่ดีและมีการให้วัคซีนป้องกันโรคที่ถูกต้อง ข้อปฏิบัติในการสุขาภิบาล มีดังนี้ 1. ต้องดูแลทําความสะอาดโรงเรือนและภาชนะให้น้ำและอาหารให้สะอาดอยู่เสมอและอย่า ปล่อยให้โรงเรือนชื้นแฉะและสกปรก 2. กําจัดแหล่งน้ำสกปรกรอบ ๆ บริเวณโรงเรือนและบริเวณใกล้เคียงเพื่อไม่ให้ไก่กินน้ำสกปรกนั้น 3. ถ้าหากพบไก่ป่วยให้คัดแยกไก่ป่วยนั้นออกมาทันทีแล้วกําจัดด้วยการเผาหรือฝังเพื่อป้องกัน ไม่ให้เชื้อโรคระบาดได้ 4. อย่าทิ้งซากไก่ตายให้สัตว์อื่นกินหรือทิ้งลงแหล่งน้ำเป็นอันขาดเพราะจะทําให้เชื้อโรคจะแพร่ ระบาดได้ 5. หากซื้อไก่มาใหม่จากแหล่งอื่นก่อนที่จะนําเข้ามาเลี้ยงในฝูง ควรแยกเลี้ยงไว้ต่างหากเพื่อกัก โรคอย่างน้อย 15 วัน หากไก่ไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ จึงนํามาเลี้ยงในบริเวณเดียวกันได้ 6..ถ้าหากพบว่าไก่ที่กําลังเลี้ยงอยู่ป่วย ผู้เลี้ยงจะต้องรีบปรึกษาสัตวแพทย์หรือผู้รู้ทันทีเพื่อหาทาง รักษาและป้องกันไม่ให้โรคระบาดต่อไป


การให้วัคซีนป้องกันโรค ถึงแม้ว่าจะมีการสุขาภิบาลที่ดีแล้วก็ตาม แต่ไก่ที่เลี้ยงอาจจะเกิดโรคขึ้นได้ตลอดเวลาโดยเฉพาะ อย่างยิ่งการเลี้ยงแบบปล่อยให้หาอาหารกินเองตามธรรมชาติ ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงต้องสร้างความต้านทานโรค โดยการ ให้วัคซีนป้องกันโรค หลักในการให้วัคซีนไก่มีดังนี้ 1) จะต้องทําวัคซีนกับไก่ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยเป็นโรค 2) วัคซีนที่ใช้จะต้องมีคุณภาพดี(เก็บในที่เย็นและไม่ถูกแสงแดด) 3) เครื่องมือที่ใช้ทําวัคซีนจะต้องสะอาด และผ่านการต้มฆ่าเชื้อโรคที่ถูกวิธี (ต้มในน้ำเดือด) จะต้องให้วัคซีนครบตามขนาดที่กําหนดและตามโปรแกรมที่กําหนด การป้องกันและกําจัดพยาธิภายนอก พยาธิภายนอกที่พบเห็นได้บ่อยสําหรับไก่พื้นเมืองได้แก่ เหา ไร หมัดและเห็บ การเกิดพยาธิ ภายนอก จะไม่ทําให้ไก่ตายทันทีแต่จะทําให้การให้ผลผลิตและการเจริญเติบโตลดลง เนื่องจากไก่จะใช้ เวลาส่วนใหญ่ไป กับการไซ้ขน แต่ถ้ารุนแรงมากอาจทําให้ตายได้เนื่องจากเกิดโรคโลหิตจาง การกําจัด พยาธิภายนอกทําได้โดย การจุ่มไก่ลงในน้ำผสมยาฆ่าแมลงหรือน้ำสมุนไพร เช่น น้อยหน่า หางไหลหรือ โล่ติ๊น หนอนตายหยาก สะเดา การป้องกันรักษา โรคระบาดที่ร้ายแรงและสำคัญ ได้แก่ 1. โรคนิวคาสเซิล เป็นโรคระบาดไก่ที่ร้ายแรงที่สุด อาการ หายใจลำบาก น้ำมูกไหล คอบิด ขาและปีกเป็นอัมพาต อุจจาระร่วงเป็นสีเขียว การป้องกัน ฉีดวัคซีนให้ไก่ตั้งแต่อายุ 3 เดือนขึ้นไป 2. โรคฝีดาษไก่ อาการ มีตุ่มคล้ายหูดเกิดขึ้นตามผิวหนังบริเวณที่ไม่มีขน ที่หัวของฝีเป็นแผลมีสะเก็ดสีน้ำตาลปิด อยู่ ต่อมาจะแห้ง และหลุดไป หรืออีกอาการหนึ่ง คือ เป็นแผลในลำคอ น้ำลายไหลยืด มีกลิ่นเหม็นมาก การป้องกัน ระวังอย่าให้ยุงกัดไก่เล็ก ใช้ทิงเจอร์ไอโอดีนทาตามตุ่มฝีและให้ยากิน ฉีดวัคซีนให้ไก่ อายุ 1 อาทิตย์ขึ้นไป 3. โรคอหิวาต์ อาการ ถ้าเป็นอย่างร้ายแรง ไก่จะตายโดยไม่แสดงอาการให้เห็น ถ้าเป็นอย่างอ่อน ไก่อาจป่วย เป็นเดือน อาการหงอยซึม เบื่ออาหาร ท้องร่วง อุจจาระเป็นสีเหลืองหรือเขียว การป้องกัน ต้องรักษาความสะอาดในเล้าไก่ฉีดวัคซีนให้ไก่อายุ 1 เดือนขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีโรคอื่น ๆ อีกหลายโรค เช่น โรคหลอดลมอักเสบโรคพยาธิเป็นต้น ซึ่งสิ่งสำคัญ ที่สุดในการป้องกันโรคต่าง ๆ คือ การรักษาความสะอาดเล้าไก่และภาชนะต่าง ๆ ในเล้า ปัญหาในการเลี้ยงไก่พื้นเมือง 1. ปัญหาที่เกิดจากโรคระบาดไก่ที่สำคัญๆ เช่น นิวคาสเซิล อหิวาต์ไก่ โรคหวัด โรคฝีดาษ ฯลฯ ทำให้ไก่ตายปีละมากๆ หรือเรียกว่าไก่ตายยกเล้า ซึ่งสามารถสรุปหาสาเหตุที่สำคัญได้ คือ - เกษตรกรให้ความสนใจต่อไก่น้อย ไม่มีการทำวัคซีนป้องกันโรค - ไก่พื้นเมืองประเปรียว จับได้ยากเพราะระบบการเลี้ยงแบบปล่อย - วัคซีนป้องกันโรค หาได้ยากในท้องถิ่นและไม่สะดวกในทางปฏิบัติระดับท้องถิ่น 2. ปัญหาที่เกิดจากไก่พื้นเมืองให้ผลผลิตต่ำ เมื่อเทียบกับการเลี้ยงไก่เพื่อการค้าต้องใช้เวลานาน แต่ประการสำคัญที่สุดคือ แม้ไก่พื้นเมืองจะให้ผลผลิตต่ำ แต่กำไรที่ได้นั้นนับเป็นกำไรที่แท้จริง --------------------------------------------------------------------------- -๑๔-


-15- เกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี 2565 มีจ านวน 15,329 คน แยกเป็น การเลี้ยงปศุสัตว์ ดังนี้ ชนิดปศุสัตว์ จ ำนวนผู้เลี้ยง (คน) จ ำนวนสัตว์ (ตัว) โคเนื้อ 1,112 11,018 โคนม 4 18 กระบือ 205 1,718 สุกร 32 18,179 ไก่ 13,944 6,424,172 เป็ด 2,088 605,152 แพะ 381 7,813 แกะ 21 344 ในปี 2565 จ านวนเกษตรกรเลี้ยงปศุสัตว์ ทั้งสิ้น 15,329 คน มีเกษตรกรที่เลี้ยงไก่ มากที่สุด 13,944 คน จ านวน 6,424,172 ตัว แยกเป็น ไก่พื้นเมือง 616,127 ไก่เนื้อ 2,771,672 ตัว ไก่ไข่ 3,035,127 ตัว ไก่อื่น ๆ 1,246 ตัว รองลงมาคือเลี้ยงเป็ด จ านวน 2,088 คน จ านวน 605,152 ตัว เลี้ยงโคเนื้อ 1,112 คน จ านวน 11,018 ตัว เลี้ยงกระบือ 205 คน 1,718 ตัว เลี้ยงแพะ 381 คน จ านวน 7,813 ตัว เลี้ยงสุกร 32 คน จ านวน 18,179 ตัว เลี้ยงแกะ 21 คน จ านวน 344 ตัว และเลี้ยงโคนม 4 คน จ านวน 18 ตัว สถำนกำรณ์กำรเลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ปี 2565


-16- ไก่ ไก่พื้นเมือง ไก่เนื้อ ไก่ไข่ เกษตรกร (คน) 12,958 126 2,006 จ านวน (ตัว) 616,127 2,771,672 3,035,127 ที่มา : กรมปศุสัตว์ การเลี้ยงไก่ในพื้นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมืองเป็นจ านวนมากที่สุด คือ 12958 คน จ านวนไก่ที่เลี้ยง 616,127 ตัว รองลงมาคือ ไก่ไข่ 2,006 คน จ านวน 3,035,127 ตัว และ ไก่เนื้อ 126 คน จ านวน 2,771,672 ตัว การที่เกษตรกรที่เลี้ยงไก่พื้นเมืองเป็นจ านวนที่มากกว่าการเลี้ยงไก่ไข่ และไก่เนื้อ เนื่องจากการเลี้ยงไก่พื้นเมืองจุดประสงค์หลักไม่ใช่การขายเป็นเนื้อไก่ หรือ ไข่ไก่ แต่เป็นการเลี้ยงเพื่อ การกีฬา (ไก่ชน) และเพื่อความสวยงาม เกษตรกรเลี้ยงเป็นงานอดิเรกไม่ได้เลี้ยงไว้เพื่อเป็นอาชีพหารายได้หลัก ให้กับครอบครัว ดังนั้น การเลี้ยงไก่พื้นเมืองจึงเป็นการเลี้ยงแบบง่าย ๆ ปล่อยเลี้ยงในลานโล่ง หรือให้อยู่ในสุ่ม โรงเรือนแบบง่าย ๆ ไม่ได้ลงทุนมากนัก ยกเว้นเกษตรกรที่เลี้ยงไว้เป็นการกีฬาเป็นหลัก (ไก่ชน) ที่ต้องการดูแล เป็นพิเศษ มีการให้วัคซีนตามก าหนดเวลา การหาอาหารที่มีประโยชน์ เสริมวิตามิน พาไก่ออกก าลังกาย อย่าง สม่ าเสมอ จ ำนวนเกษตรกรและกำรเลี้ยงไก่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ปี 2565


-17- ที่มา : ส านักงานปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การเลี้ยงไก่พื้นเมืองในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3 ปีย้อนหลัง โดยในปี 2563 มี เกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมือง 15,143 คน จ านวน 581,176 ปี 2564 เกษตรกร 12,703 คน จ านวน 597,936 ตัว และ ปี 2565 เกษตรกร 12,958 คน จ านวน 616,127 ตัว จากตารางจ านวนเกษตรกรที่ เลี้ยงไก่พื้นเมืองลดลง มาอยู่ประมาณที่ 12,000 คน ในปี 2564 และ 2565 แต่จ านวนไก่พื้นเมืองที่เลี้ยงมี ข้อมูลกำรเลี้ยงไก่พื้นเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ 3 ปี ย้อนหลัง ปี 2563 – 2565 ที่ อ าเภอ ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 เกษตรกร (ราย) ไก่พื้นเมือง (ตัว) เกษตรกร (ราย) ไก่พื้นเมือง (ตัว) เกษตรกร (ราย) ไก่พื้นเมือง (ตัว) 1 ท่าเรือ 2,095 45,226 1,450 48,652 1,473 66,309 2 นครหลวง 610 18,501 557 19,927 506 19,902 3 บางซ้าย 589 18,345 488 17,999 485 17,627 4 บางไทร 969 38,852 765 36,453 620 31,885 5 บางบาล 1,153 33,193 832 36,685 765 33,334 6 บางปะหัน 1,130 49,288 1,266 72,582 1,144 63,408 7 บางปะอิน 1,455 68,864 1,448 85,199 1,492 89,116 8 บ้านแพรก 356 21,066 359 22,702 352 19,580 9 ผักไห่ 1,780 68,326 951 55,272 898 52,632 10 พระนครศรีอยุธยา 528 18,673 608 28,816 622 30,209 11 ภาชี 712 17,642 677 17,792 639 16,902 12 มหาราช 965 61,156 537 37,753 885 53,408 13 ลาดบัวหลวง 884 54,414 630 25,260 628 24,877 14 วังน้อย 376 20,589 368 22,312 372 18,602 15 เสนา 1,104 33,572 698 32,115 782 32,270 16 อุทัย 1,198 29,303 1,069 38,417 1,058 33,830 รวม 15,904 597,010 12,703 597,936 12,721 603,891


-18 จ านวนที่เพิ่มขึ้นในทุกปี อาจจะกล่าวได้ว่าเกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมืองในแต่ละคนเพิ่มขึ้น และมีบางคนที่เลิกเลี้ยง ไปเลย หรือหยุดพักการเลี้ยงในระยะหนึ่งแล้วค่อยกลับมาเลี้ยงใหม่ โดยในปี 2563 อ าเภอที่มีเกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมืองมากที่สุด 3 ล าดับแรก คืออ าเภอท่าเรือ 2,095 คน รองลงมาคือ อ าเภอผักไห่ 1,780 คน และอ าเภอบางปะอิน 1,455 คน ส าหรับจ านวนไก่ที่เลี้ยง. ปี 2563 มากที่สุด 3 ล าดับแรก คือ อ าเภอบางปะอิน จ านวน 68,864 ตัว รองแลงมาคือ อ าเภอผักไห่ จ านวน 68,326 ตัว และอ าเภอมหาราช จ านวน 61,156 ตัว ปี 2564 อ าเภอที่มีเกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมืองมากที่สุด 3 ล าดับแรก คืออ าเภอท่าเรือ 1,450 คน รองลงมาคือ อ าเภอบางปะอิน 1,448 คน และอ าเภอบางปะหัน 1,266 คน ส าหรับจ านวนไก่ ที่เลี้ยง ปี 2564 มากที่สุด 3 ล าดับแรก คือ อ าเภอบางปะอิน จ านวน 68,864 ตัว รองลงมาคือ อ าเภอ บางปะหัน จ านวน 68,326 ตัว และอ าเภอผักไห่จ านวน 55,272 ตัว ปี 2565 อ าเภอที่มีเกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมืองมากที่สุด 3 ล าดับแรก คือ อ าเภอบางปะอิน 1,492 คน รองลงมา คือ อ าเภอท่าเรือ 1,473 คน และอ าเภอบางปะหัน 1,144 คน และ ส าหรับจ านวนไก่ ที่เลี้ยง ปี 2565 มากที่สุด 3 ล าดับแรก คือ อ าเภอบางปะอิน จ านวน 89,116 ตัว รองแลงมาคือ อ าเภอ ท่าเรือ จ านวน 66,309 ตัว และอ าเภอบางปะหัน จ านวน 63,408 ตัว พันธุ์ไก่พื้นเมืองที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงคิดเป็นร้อยละ จ ำนวน 10 สำยพันธุ์ 1) พันธุ์ ลูกผสมพื้นเมือง คิดเป็นร้อยละ 35 2) พันธุ์ พม่าง่อน คิดเป็นร้อยละ 22 3) พันธุ์ ประดู่หางด า คิดเป็นร้อยละ 15 4) พันธุ์ พม่าลูกผสม คิดเป็นร้อยละ 9 5) พันธุ์ พม่า คิดเป็นร้อยละ 7 6) พันธุ์ ง่อน คิดเป็นร้อยละ 5 7) พันธุ์ เหลืองหางขาว คิดเป็นร้อยละ 4 9) พันธุ์ เขียวหางด า คิดเป็นร้อยละ 2 10) พันธุ์ ไก่ชี คิดเป็นร้อยละ 1 ที่มา : ส านักงานปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส าหรับพันธุ์ไก่พื้นเมืองที่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่นิยมเลี้ยง 3 ล าดับแรก คือ ลูกผสมพื้นเมือง คิดเป็นร้อยละ 35 พันธุ์พม่าง่อน คิดเป็นร้อยละ 22 และพันธุ์ประดู่หางด า คิด เป็นร้อยละ 15 และมีพันธุ์อื่น ๆ เช่น พม่าลูกผสม พม่า ง่อน เหลืองหางขาว เขียวหางด า ไก่ชี การเลี้ยงอยู่ ระหว่างร้อยละ 1 - 9


-19- - ต้นทุนคงที่ประกอบด้วย . ค่าเสื่อมโรงเรือน-อุปกรณ์20,000 บาทต่อปี/100 ตัว - ต้นทุนผันแปรต่อการเลี้ยงไก่ 100 ตัว 1. อาหารไก่ 27,360 บาทต่อปี 2. พันธุ์ไก่ 20,000 บาทต่อปี 3. ค่ายาและเวชภัณฑ์ 2,000 บาทต่อปี 4. ค่าแรงงาน 36,000 บาทต่อปี รวมต้นทุนผันแปรในการเลี้ยงไก่พื้นเมือง .85,360 บาทต่อไก่ 100 .ตัว รวมต้นทุนในกำรเลี้ยงไก่พื้นเมืองทั้งสิ้น 05,360 บำทปี/ไก่ 100 ตัว ตลาดที่ส าคัญที่เกษตรกรน าไก่พื้นเมืองไปจ าหน่าย เรียงล าดับจากมากไปหาน้อย คิดเป็นร้อยละ 1) ขายให้พ่อค้าน าไปแปรรูปเป็นอาหาร คิดเป็นร้อยละ 80 2) .ขายเป็นสายพันธุ์เชิงกีฬา คิดเป็นร้อยละ 20 ที่มา : ส านักงานปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้นทุนกำรเลี้ยงไก่พื้นเมือง


-20- ส ำนักงำนเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ได้จะท ำข้อมูลเพื่อกำรวำงแผน กำรพัฒนำด้ำนกำรเกษตร เรื่อง กำรเลี้ยงไก่พื้นเมืองของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ โดยมี วัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษำสภำพกำรเลี้ยงไก่พื้นเมืองในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ 2) เพื่อศึกษำต้นทุนกำรผลิต กำรตลำดของกำรเลี้ยงไก่พื้นเมืองพื้นที่จังหวัด พระนครศรีอยุธยำ โดยผลจำกกำรศึกษำที่คำดว่ำจะได้รับ เพื่อได้ข้อมูลประกอบกำรพิจำรณำก ำหนด แนวทำงส่งเสริมกำรเลี้ยงไก่พื้นเมือง และเพื่อเป็นประโยชน์แก่หน่วยงำนที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจทั่วไป กำรสัมภำษณ์เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พื้นเมือง ส ำนักงำนเกษตรและสหกรณ์จังหวัด พระนครศรีอยุธยำ ได้ขอข้อมูลผู้เลี้ยงไก่พื้นเมืองของจังหวัดพระนครศรีอยุธยำ จำกส ำนักงำนปศุสัตว์จังหวัด พระนครศรีอยุธยำ เพื่อเป็นเกษตรกรกลุ่มตัวอย่ำงในกำรรวบรวมข้อมูลในระดับพื้นที่จำกผู้เลี้ยงไก่พื้นเมือง โดยตรง จ ำนวน 16 อ ำเภอ ๆ ละ 5 รำย รวม 80 รำย ซึ่งผลจำกกำรสัมภำษณ์เกษตรกรในด้ำนกำรเลี้ยง ต้นทุน ลักษณะกำรเลี้ยง กำรคัดเลือกพันธุ์กำรขำย และกำรได้รับบริกำร/สนับสนุนจำกภำคส่วนต่ำง ๆ สรุปได้ดังนี้ ข้อมูลพื้นฐาน เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พื้นเมืองร้อยละ 95 เป็นเพศชำย และร้อยละ 5 เป็นเพศหญิง ซึ่งส ำหรับ ผู้ที่เป็นเพศหญิงจะเน้นเลี้ยงไก่เพื่อกินไข่/กินเนื้อ ไม่ได้เน้นเลี้ยงไก่พื้นเมืองเพื่อไปชน หรือเป็นกำรลงทะเบียน ผู้เลี้ยงไก่แทนสำมี/บุตร อำยุอยู่ระหว่ำง 51 - 60 ปี มำกที่สุดคิดเป็น ร้อยละ 80 จ ำนวนสมำชิกในครัวเรือน 1-3 คน มำก ที่สุด คิดเป็นร้อย ละ 95 ส ำหรับจ ำนวนแรงงำนในกำรเลี้ยงไก่พื้นเมือง 1 -2 ค น ม ำ ก ที่สุด คิดเป็นร้อยละ 98 อำชีพหลักส่วนใหญ่ ค้ำขำย รับจ้ำง คิดเป็น ร้อยละ 75 ท ำนำ/ท ำกำรเกษตร คิดเป็นร้อยละ 25 พื้นที่ในกำรเลี้ยง ไก่พื้นเมืองจะใช้พื้นที่บริเวณพื้นที่ว่ำงของบ้ำน เช่น ลำนบ้ำน ใต้ถุน บ้ำน ส ำหรับประสบกำรณ์ในกำรเลี้ยงไก่พื้นเมือง ร้อยละ 100 ที่มีประสบกำรณ์กำรเลี้ยง 10 ปีขึ้นไป แม้เกษตรกรบำงคนจะอำยุยังน้อย แต่เริ่มช่วยผู้ปกครอง/ญำติเลี้ยงมำตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ อำยุต่ ำสุดที่ไป สัมภำษณ์และเลี้ยงไก่เป็นอำชีพหลักคืออำยุ 25 ปี สภาพการเลี้ยงไก่พื้นเมือง วัตถุประสงค์ในกำรเลี้ยงไก่พื้นเมืองจำกกำรที่ได้ออกไปสัมภำษณ์เกษตรกรสรุปได้ ดังนี้ เลี้ยงไว้ บริโภคในครัวเรือนคิดเป็นร้อยละ 90 โดยมี ร้อยละ 10 ที่เลี้ยงไว้โดยจะ ไม่กินไก่ที่ตัวเองเลี้ยงเลย เลี้ยงไว้ขำยเป็นไก่ชน คิดเป็น ร้อยละ 95 เลี้ยงไว้ ขำยเป็นพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์คิดเป็นร้อยละ 81 เลี้ยง เพื่อควำมสวยง ำม คิดเป็นร้อยละ 88 เลี้ยงเพื่อขำยไข่ คิดเป็นร้อยละ 2 เ ลี้ ยง ไ ว้ ข ำ ย เ พื่ อ บริโภคเนื้อ คิดเป็นร้อยละ 87 การเลี้ยงไก่พื้นเมืองพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


-21- ลักษณะกำรเลี้ยงไก่พื้นเมืองของเกษตรกรที่ได้ไปสัมภำษณ์ โรงเรือนที่ใช้เลี้ยงไก่พื้นเมือง อยู่ใต้ ถุนบ้ำน ไม่มีตำข่ำยกันนก คิดเป็นร้อยละ 6 อยู่ใต้ถุนบ้ำน มีตำข่ำยกันนก คิดเป็นร้อยละ 32 กำรเลี้ยงแยก จำกตัวบ้ำน ไม่มีตำข่ำยกันนก คิดเป็นร้อยละ 25 เลี้ยงแยกจำก ตัวบ้ำน มีตำข่ำยกันนก คิดเป็นร้อยละ 75 รูปแบบกำรเลี้ยงไก่ของเกษตรกรมีรูปแบบ กำรเลี้ยงไก่พื้นเมือง ดังนี้กึ่งขังกึ่งปล่อย คิดเป็นร้อยละ 100 อุปกรณ์ในกำรเลี้ยงมี อุ ป ก ร ณ์ ค ร บ ทั้ ง ภำชนะให้อำหำรและ และภำชนะใส่น้ ำ คิดเป็นร้อยละ 100 แต่จะมีบำงครั้งที่จะ หว่ำนอำหำรให้ตำมพื้น/ลำนด้วย ซึ่งกำรเลี้ยงแบบปล่อยนี้ท ำ ให้สุนัขกัดไก่ตำยจน เกษตรกรเลิกเลี้ยงไปจ ำนวน 3 รำย โดยคิดว่ำจะหำมำเลี้ยงใหม่ แต่คงต้องท ำที่เลี้ยงที่ ปลอดภัยจำกสุนัข อำหำรที่ให้ไก่กินจะเป็นข้ำวเปลือกทุกคนที่สัมภำษณ์ คิดเป็นร้อยละ 100 จะมีให้ข้ำวโพด ปลำยข้ำว ร ำ และ เศษอำหำรเหลือบ้ำงบำงครั้ง หรือนำน ๆ ครั้ง น้ ำที่ให้ไก่กินเป็นน้ ำประปำ คิดเป็น ร้อยละ 100 กำรให้ยำปฏิชีวนะหรือสมุนไพรในน้ ำให้ไก่กิน เกษตรกร คิดเป็นร้อยละ 100 ท ำอยู่และมีกำร ป้องกันและรักษำโรค โดยกำรท ำวัคซีน ให้ไก่ คิดเป็นร้อยละ 100 โดยมีป้องกันโรค นิวคลำสเซิล หลอดลมอักเสบ เป็นส่วน ใหญ่ จะมีป้องกันโรคอหิวำต์ โรคฝีดำษ บ้ำงในบำงรำย กำรเจ็บป่วยของไก่ใน รอบปีที่ผ่ำนมำ ไม่เคยเจ็บป่วย คิดเป็นร้อย ละ 88 กำรตำยของไก่ในรอบปีผ่ำนมำ ไม่มีกำรตำย คิดเป็นร้อยละ 88 มีกำรตำย คิดเป็นร้อยละ 22 ส่วนใหญ่จะตำยตำม ธรรมชำติไม่ใช่ตำยเพรำะโรคระบำด หรือ โดนสุนัขกัดตำย กำรผลิต กำรพัฒนำสำยพันธุ์ และกำรตลำด เกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมือง พันธุ์ไก่ชน คิดเป็น ร้อยละ 98 ลูกผสมไก่ไข่ คิดเป็นร้อยละ 2ไก่ชนสำยพันธุ์พม่ำ คิดเป็นร้อยละ 98 พันธุ์อื่น ๆ คิดเป็น ร้อยละ 2 บำงรำยมีกำรเลี้ยงหลำยสำยพันธุ์ จ ำนวนไก่พื้นเมืองที่เกษตรกรเลี้ยง ตั้งแต่ 100 ตัวขึ้นไป คิดเป็น ร้อยละ 94 ต่ ำกว่ำ 100 ตัวลงมำคิดเป็นร้อยละ 6 จ ำนวนไก่พื้นเมืองพ่อพันธุ์ มีพ่อพันธุ์ จ ำนวน 1 - 5 ตัวมำกที่สุด คิด เป็นร้อยละ 90 มีมำกกว่ำ 5 ตัวขึ้นไป คิดเป็น ร้อยละ 10 จ ำนวนไก่พื้นเมือง แม่พันธุ์ที่มีจ ำนวน 11 ตัวขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 81 มีแม่พันธุ์จ ำนวน 6 – 10 ตัว คิดเป็น ร้อยละ 19 จ ำนวนไก่พื้นเมือง ทั้งหมด 100 ตัวขึ้นไป คิดเป็น ร้อยละ 90 แหล่งที่มำของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ซื้อมำจำกฟำร์มเพำะเลี้ยง คิดเป็นร้อยละ 88 จำกญำติพี่น้อง เพื่อนฝูงคิดเป็นร้อยละ 6 คัดจำกของตนเอง คิดเป็นร้อยละ 6 บำงรำยน ำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มำจำกหลำย แหล่ง วิธีกำรผสมพันธุ์ผสมแบบธรรมชำติ คิดเป็นร้อยละ 100 และมีกำรน ำพ่อพันธุ์มำปรับปรุงพันธุ์ คิดเป็น ร้อยละ 98 ไม่มีกำรปรับปรุงพันธุ์คิดเป็นร้อยละ 2 อัตรำส่วนพ่อพันธุ์ต่อแม่พันธุ์ 1 ตัวต่อ 2-4 ตัว คิดเป็น ร้อยละ 100


-22- ต้นทุนกำรเลี้ยงไก่พื้นเมือง ส่วนใหญ่จะเป็นค่ำอำหำรเดือนละ 2,000 – 5,000 บำท คิดเป็นร้อยละ 100 ส่วนใหญ่จะเป็นข้ำวเปลือกจะซื้อเป็น กระสอบม ำไ ว้ให้ไก่กิน จะมีบำงที่จะซื้ออำหำรส ำเร็จรูป ข้ำวโพด มำให้ไก่กิน แต่ นำน ๆ ครั้ง หรือบำง รำยไม่มีอะไรเสริมให้เลย ยกเว้นไก่เล็กจะซื้ออำหำรไก่เล็ก มำให้กิน โดยซื้อจำก ร้ำนขำยอำหำรสัตว์ในพื้นที่ กำรเลี้ยงไก่จะมีแนวทำงที่ไม่ เป็นระบบคือดั่งเดิมเคย เลี้ยงแบบไหนก็จะเลี้ยงแบบเดิม ๆ ไม่ได้ปรับปรุงให้ตำม สมัยมำกนัก กำรขำยไก่พื้นเมือง เกษตรกรร้อยละ 100 ขำย ไก่มีชีวิต เป็นไก่ตัวเมีย เพื่อน ำไปกินเนื้อโดยขำยให้เพื่อนบ้ำน แม่ค้ำในตลำดซึ่งบำงรำยมำรับซื้อถึงที่บ้ำน และบำงรำยเกษตรกร น ำไปขำยที่ตลำดเอง บำงรำยจะขำยเป็น ตัว ๆ ละ 80 - 100 บำท แต่ส่วนใหญ่จะขำยเป็นกิโลกรัม น้ ำหนักไก่ตัวละประมำณ 1.2 - 1.5 กิโลกรัม ขำยได้กิโลกรัมละ 70 - 80 บำท ขำยไก่หนุ่มเป็นไก่ชน 78 คน คิดเป็นร้อยละ 98 โดยรำคำที่ขำยได้ต่ ำสุด 500 บำท และสูงสุด 70,000 บำท ขึ้นอยู่รูปลักษณะ กำรชนชนะ ถ้ำมีรำงวัลหรือ ชนะบ่อย ๆ รำคำก็จะสูง แต่ถ้ำ เป็นไก่ที่ลักษณะดีแต่ยังไม่เคยชนรำคำก็ไม่สูง มำกนัก โดยจะขำยให้กับเพื่อนบ้ำน บุคคลทั่วไป โดยจะมีบ้ำงรำยขำยไก่ทำงสื่อ ออนไลน์ เช่น เฟสบุ๊ค ไลน์ โดยบำง รำยจะมีเครือข่ำยต่ำงอ ำเภอต่ำงจังหวัด ส ำม ำ ร ถติดต่ อด้ ำน ก ำ ร ซื้ อ ข ำ ย แลกเปลี่ยนกันได้ ส ำหรับกำรขำยเป็นไก่สำวแม่ พัน ธุ์มีจ ำน วนไม่ม ำกนัก คิดเป็น ร้อยละ 2 กำรจัดท ำบัญชีครัวเรือน บัญชีรำยรับ/รำยจ่ำยในกำรเลี้ยงไก่พื้นเมือง เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ พื้นเมืองที่สัมภำษณ์ทุกคน ร้อยละ 100 ไม่มีกำรจัดท ำบัญชีครัวเรือน ไม่มีกำรบันทึก รำยรับ-รำยจ่ำยในกำร เลี้ยงไก่ ท ำให้ไม่สำมำรถบอกต้นทุนในกำรเลี้ยง และรำยได้ร่วมที่ขำยไก่ที่แน่นอนได้ให้ข้อมูลได้แบบคร่ำว ๆ ว่ำค่ำอำหำรใช้ข้ำวเปลือกกี่กระสอบ ขำยได้ตัวละประมำณเท่ำไหร่ ขำยได้กี่ตัว โดยให้ค่ำประมำณกำรเท่ำที่ จ ำได้ กำรได้รับบริกำร กำรส่งเสริมและสนับสนุนจำกหน่วยงำนต่ำงๆ เกษตรกรได้รับกำรสนับสนุน กำรเลี้ยงไก่พื้นเมือง ส่วนใหญ่จะ เลี้ยงสืบทอดกันมำเป็นเวลำนำน ศึกษำปรับปรุงจำก เดิมบ้ำงแต่ยังยึดกำ รเลี้ยง แบบเดิม ๆ วิถีเดิม ๆ ไม่มีกำรเปลี่ยนแปลงมำกนัก โดยหำกมีปัญหำใน กำรเลี้ยง ส่วนใหญ่จะมีประสบกำรณ์ในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ อยู่ แล้วจึงดูและรักษำเลี้ยงแบบ ของตนเองเป็นหลัก โดยหำกไก่เจ็บป่วยจะไปหำซื้อ ยำรักษำที่ร้ำนขำยยำของสัตว์ ในพื้นที่ คิดเป็นร้อยละ 60 แต่ก็จะมีที่จะไปขอ วั ค ซี น / ย ำ รั ก ษ ำ โ ร ค จ ำ ก ส ำนักงำนปศุสัตว์อ ำเภอในพื้นที่ และไปขอตำมที่ ส ำนักงำนปศุสัตว์อ ำเภอออกหน่วยเคลื่อนที่ คิดเป็นร้อยละ 40 ควำมต้องกำรกำรสนับสนุนจำกภำคส่วนต่ำง ๆ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พื้นเมืองส่วนใหญ่ไม่ได้ ต้องกำรกำรสนับสนุนอะไรเป็นพิเศษเพิ่มเติม เพรำะส่วนใหญ่เลี้ยงไก่กันมำเป็นเวลำนำนแล้ว สำมำรถปรับ และเรียนรู้กำรเลี้ยงด้วยตนเอง ตลอดจนรำคำที่ขำยได้ก็พอใจของทั้งผู้ซื้อและผู้ขำย ทั้งขำยแบบเป็นพ่อพันธุ์ และแบบขำยไปเป็นกินเนื้อ กำรได้รับกำรสนับสนุนด้ำนวัคซีน ยำรักษำโรคที่ได้รับอยู่ในปัจจุบันพึงพอใจแล้ว แต่มีบำงคนอยำกให้มีเจ้ำหน้ำที่มำเยี่ยมเยียนมำให้ค ำแนะน ำในกำรเลี้ยงหรือน ำปัจจัยกำรผลิต/วัคซีนมำ ให้ด้วย


-23- 1) กำรเริ่มต้นเลี้ยง และกำรจัดหำพันธุ์อำจจะเริ่มเลี้ยงโดยกำรซื้อลูกไก่มำเลี้ยง ซื้อไก่รุ่นหรือแม่ไก่ น ำมำเลี้ยงฟักหรือซื้อไข่มำให้แม่ไก่ ฟักหรือจะใช้เครื่องช่วยฟักไข่ก็ได้ แต่วิธีนี้อำจเปลืองเงินถ้ำใช้เครื่องฟัก เองพียงจ ำนวนน้อย ทำงที่ดีควรหำซื้อลูกไก่หรือไข่ฟักจำกฟำร์ม หรือเชื่อถือได้จะประหยัดทุนกว่ำท ำกำรเลี้ยง พ่อแม่ไก่ไว้ด้วยกัน โดยให้ไข่และฟักลูกไก่เองวิธีนี้สะดวก แม่ไก่ช่วยเลี้ยงและคอยประคบประหงมลูกไก่ได้ดี จ ำนวนไก่ที่เลี้ยงรอดมีมำกกว่ำ กำร เริ่มต้นเลี้ยงไก่ สำมำรถเลี้ยงได้ทุกฤดู แต่ที่ เหมำะสมควรเป็นช่วงปลำยฤดูฝน หรือต้นฤดูหนำว เพรำะเป็นช่วงที่อำกำศเย็น สบำย ท ำให้ไก่โตเร็วแข็งแรง 2) กำรเลี้ยงไก่พื้นเมืองของเกษตรกรส่วนใหญ่เลี้ยงกันมำเป็นเวลำนำน 10 ปีขึ้นไป โดยจะเลี้ยงสืบ ต่อกันมำรุ่นปู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลำน วิธีกำรเลี้ยงก็จะได้จำกประสบกำรณ์ที่ได้เลี้ยงต่อ ๆ กันมำ กำรเลี้ยงก็จะเป็น วิถีเดิม ๆ ไม่ได้มีกำรเปลี่ยนจำกเดิมมำกนัก โดยส่วนใหญ่ไม่ใช่เป็นอำชีพหลัก อำชีพหลักจะเป็นกำรท ำ กำรเกษตร อำชีพรับจ้ำงทั่วไป ค้ำขำย ท ำงำนประจ ำ กำรเลี้ยงไก่เป็นกำรเลี้ยงแบบปล่อยตำมธรรมชำติเป็น ส่วนใหญ่ จึงไม่ต้องใช้เวลำที่มำกในกำรเลี้ยงจึงสำมำรถไปประกอบอำชีพอื่น ๆ เป็นหลักได้ 3) กำรเลี้ยงไก่พื้นเมืองมีขั้นตอนและวิธีกำรที่ไม่ยุ่งยำกกำรเลี้ยงง่ำย ใช้ สถำนที่/บริเวณที่โล่งของบ้ำน ใช้ต้นทุนในกำรเลี้ยงไม่มำก และใช้เวลำเลี้ยง/ดูแล น้อย โดยเริ่มต้นอำจเลี้ยงเป็นจ ำนวนที่น้อยๆ ก่อน 10 – 20 ตัว มุ่งเน้นไว้บริโภคใน ครัวเรือนเป็นหลัก เพื่อลดรำยจ่ำยและยังเป็นแหล่งโปรตีนที่หำได้ง่ำยอีกด้วย 4) ควรแนะน ำให้เกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมืองจัดท ำสถำนที่ในกำรเลี้ยงให้มีควำมสะอำด ปลอดภัย เพื่อป้องกันโรค และปลอดภัยจำกสัตว์ที่มำรบกวนต่ำง ๆ ส ำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงไก่เป็นในเชิงกีฬำกำรดูแลไก่ จะเป็นกำรดูแลที่เป็นพิเศษอยู่แล้ว 5) อุปกรณ์ให้อำหำรถำดส ำหรับใส่อำหำรไก่ เกษตรกรสำมำรถน ำวัสดุ-อุปกรณ์ที่มุอยู่ในครัวเรือน น ำมำใส่อำหำรใส่น้ ำให้ไก่กินได้ หรืออำจจะหำซื้อตำมร้ำนค้ำในท้องถิ่นซึ่งจะมีรำคำไม่แพง หำซื้อง่ำย 6) กำรให้อำหำรไก่ เพื่อควำมแข็งแรงและกำรเติบโตไว ควรให้อำหำรที่หลำกหลำยและมีประโยชน์มี สำรอำหำรครบถ้วน 7) ส ำหรับรำยได้ในกำร เลี้ยงไก่พื้นเมืองของเกษตรกรที่ได้ไปสัมภำษณ์ ส่วนมำกจะไม่เน้นในเรื่องของ รำยได้แต่จะเน้นไปในเรื่องของกำรเป็นอำหำรใน ครัวเรือนเมื่อมีเหลือจึงขำย แต่ ส ำหรับกำรเลี้ยงไก่เพื่อแข่งขันในเชิงกีฬำจะไม่เน้นเรื่อง กำรขำยจะเป็นกำรเลี้ยงเพื่อเชิงกีฬำ เลี้ยงเป็นไก่ชน เลี้ยงเพื่อควำมสวยงำม เป็นควำมชอบส่วนตัว ส ำหรับรำคำขำยจะเป็นกำรตกลงรำคำเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ำย แต่ส ำหรับไก่ที่ขำยไปบริโภคเนื้อ จะขำยได้ รำคำสูงขึ้นมำกในช่วงเทศกำล งำนต่ำง ๆ เช่น ตรุษจีน สำรทจีน 8) ควรแนะน ำให้เกษตรกรรจัดท ำบัญชีรำยรับรับ – รำยจ่ำยในกำรเลี้ยงไก่ เพื่อที่จะได้ทรำบถึง ต้นทุนกำรเลี้ยงที่แท้จริง ตลอดจนรำยได้ที่ขำยไก่ได้ เพื่อสำมำรถน ำมำเปรียบเทียบในกำรประกอบอำชีพ หลัก/อำชีพเสริมได้ 9) ควรมีกำรฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้ไก่ตำมระยะเวลำที่ก ำหนด เพื่อป้องกันกำรเกิดโรค กำรเกิดโรค ระบำด ในไก่ที่เลี้ยงรวมกัน และจะมีผลต่อกำรเจริญเติบโตของไก่ด้วย สรุปและข้อเสนอแนะในการเลี้ยงไก่พื้นเมือง


-24- ภาพกิจกรรมการออกพื้นที่สัมภาษณ์เกษตรกรเพื่อจัดเก็บข้อมูลในพื้นที่จริง สถานที่เลี้ยง/สภาพทั่วไปในการเลี้ยงไก่พื้นเมือง


-25- ภาชนะการให้อาหาร/น้้า การฟัก/การขยายพันธุ์


-26- เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สัมภาษณ์เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พื้นเมือง พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


สำ นักง านเกษตรและสหกร ณ์ จัง วัดพระนครศรีอยุธยา โทร. ๐ - ๓ ๕ ๓ ๓ -๖๖ ๕ ๕ -๖ E-mai l : [email protected]. th ประชาสัมพันธ์การเกษตรและสหกร ณ์ จ.อยุธยา ค ณ ะทำ ง านระดับจังหวัด เ ว็บไซต์ สนง . เกษตรและสหกร ณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สนง . เกษตรและสหกร ณ์ จังหวัด พระนครศรีอยุุธยา


Click to View FlipBook Version