The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่มแผนป้องกันภัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมเล่มแผนป้องกันภัย

รวมเล่มแผนป้องกันภัย

สารบญั หน้า

บทที่ 1 ข้อมลู ท่ัวไปและข้อมลู ดา้ นการเกษตรท่สี ำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1
1. ข้อมลู ทั่วไปของจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา 1
1
1.1 ข้อมูลดา้ นกายภาพของจงั หวัดพระนครศรีอยุธยา 2
1.2 ขอ้ มูลดา้ นเกษตรท่สี ำคัญของจังหวดั พระนครศรีอยุธยา 2
2. สนิ ค้าเกษตรเศรษฐกจิ ที่สำคัญ 3
2.1 พืชเศรษฐกจิ 4
2.2 สัตวเ์ ศรษฐกิจทส่ี ำคญั 4
2.3 สัตว์นำ้ เศรษฐกจิ ทีส่ ำคญั 4
3. ครัวเรือนเกษตรกร 5
4. แหล่งน้ำเพ่ือการเกษตร 7
บทที่ 2 กรอบการดำเนินงานตามแผนปอ้ งกันและเผชิญเหตภุ ัยแล้ง ปี 2565/66 7
2.1 การประเมนิ ความเสยี่ ง (Risk Assessment) 7
2.2 กรอบการจดั การความเสยี่ งจากสาธารณภัย 10
บทที่ 3 กระบวนการแจ้งเตือน 10
3.1 การเฝา้ ระวงั และติดตามสถานการณ์ (Monitoring) 11
3.2 การปฏิบัตใิ นการแจ้งเตอื นภยั ของกรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย 11
3.3 กลไกการบริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 13
3.4 การติดตามและรายงาน 13
3.5 การติดต่อ ประสาน ช่องทางการสอื่ สาร 15
บทท่ี 4 สถานการณ์ความเส่ียงและแผนการจดั สรรนำ้ ในชว่ งฤดแู ล้ง ปี 2565/66 15
4.1 สถานการณค์ วามเส่ียงภยั แลง้ ปี 2565/66 16
4.2 แผนการจดั สรรน้ำในช่วงฤดแู ลง้ ปี 2565/66 ทงั้ ประเทศ ในเขตชลประทาน 18
บทที่ 5 แผนป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ด้านการเกษตรในชว่ งฤดูแล้ง ปี 2565/66
จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา 18
5.1 การปอ้ งกนั และลดผลกระทบ (prevention & Mitigation) ตลอดจนการเตรยี มความ
พรอ้ ม (Preparedness) 21
5.2 การจัดการในภาวะฉุกเฉนิ (Emergency Management) 22
5.3 การฟน้ื ฟทู ีด่ กี ว่าเดิม (Recovery be back better)
ภาคผนวก 25
1. ขอ้ มูลปฏทิ ินสนิ คา้ เกษตรจงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา 28
2. สถานีสบู นำ้ และประตูระบายน้ำ โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา 29
3. บัญชีรายการเครื่องจกั รกลกอ่ สรา้ ง โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา

บทที่ 1
ขอ้ มูลท่วั ไปและขอ้ มูลด้านการเกษตรท่สี ำคัญของจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา

1. ขอ้ มูลท่วั ไปของจงั หวัดพระนครศรอี ยุธยา

1.1 ขอ้ มลู ด้านกายภาพของจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา

1.1.1 ลักษณะทางภูมิศาสตร์

1) ท่ตี ั้งและขนาดพ้นื ท่ี

จังหวัดพระนครศรีอยุธยาตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่างของประเทศห่างจาก

กรุงเทพมหานคร ทางถนนสายเอเชีย 75 กิโลเมตร ทางรถไฟ 72 กิโลเมตร และทางเรือ 103 กิโลเมตร

มีเนื้อท่ปี ระมาณ 2,556.64 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,597,900 ไร่ นบั วา่ เป็นจังหวดั ท่มี ขี นาดใหญ่เป็นอันดับ

ท่ี 63 ของประเทศไทย และเป็นอนั ดับท่ี 11 ของจังหวดั ในภาคกลาง

2) อาณาเขต

จังหวดั พระนครศรีอยุธยามอี าณาเขตติดตอ่ กับจังหวดั ใกล้เคียง ดงั นี้

- ทิศเหนอื ตดิ ต่อกบั จงั หวดั อ่างทองและ จังหวดั ลพบุรี

- ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กบั จังหวดั นครปฐม จงั หวัดนนทบุรี จงั หวดั ปทมุ ธานี

- ทศิ ตะวันออก ติดต่อกบั จงั หวัดสระบุรี

- ทิศตะวันตก ตดิ ตอ่ กบั จงั หวัดสุพรรณบรุ ี

3) สภาพพืน้ ท่ี
เปน็ ที่ราบล่มุ น้ำทว่ มถึง พนื้ ท่สี ว่ นใหญเ่ ป็นทุง่ นา ไมม่ ีภเู ขา ไมม่ ีปา่ ไม้ มแี มน่ ้ำไหลผ่าน ๔ สาย ได้แก่
แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย รวมความยาวประมาณ ๒๐๐ กิโลเมตร มีลำคลอง
ใหญน่ ้อยประมาณ ๑,๒๕๔ คลอง เช่อื มตอ่ กบั แม่น้ำเกอื บทวั่ บริเวณพ้นื ท่ี

-2-

4) ลกั ษณะดิน
ลักษณะดินแยกเป็น 6 ประเภท คือ ดินเหนียว 1,054,080 ไร่ ดินเหนียวปนดินร่วน 207,716 ไร่
ดินเหนียวปนดินทราย 47,942 ไร่ ดินร่วนปนดินทราย 12,300 ไร่ ดินทราย 8,500 ไร่ และเป็นดินร่วน
300 ไร่ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ มีดินร่วนปนดินทรายสีเทาอมเหลืองที่อำเภอบางบาล และ
อำเภอบางประหัน เหมาะในการทำอิฐมอญไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
นอกจากนี้ ยังมีทรายมากตามบริเวณลุ่มแม่น้ำลำคลอง ได้แก่ เขตอำเภอบางบาล อำเภอบางปะหัน
อำเภอพระนครศรอี ยธุ ยาส่วนใหญ่เป็นทรายท่ีใช้ถมทเี่ พ่ือการก่อสร้าง
๑.1.๒ ลกั ษณะภูมอิ ากาศ (ท่ีมา : สถานอี ุตุนิยมวิทยา)
จงั หวดั พระนครศรีอยุธยา มีลกั ษณะภูมิอากาศเป็นแบบร้อนชนื้ อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุม ๒ ชนิด
คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในฤดูหนาว ซึ่งอากาศจะเย็นและแห้งแล้ง และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ใน
ฤดูฝน ทำให้ฝนตกติดตอ่ กันเป็นเวลานาน มฤี ดแู บง่ เปน็ 3 ฤดู ดังนี้
(1) ฤดูฝน จะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายน จนถึงเดือนตุลาคม ตั้งแต่เดือน
พฤษภาคม หรอื ตน้ เดอื นมิถุนายน ฝนเร่มิ ตกและจะตกถี่ขึ้นในเดือนสิงหาคมหรือเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเดือนท่ี
มฝี นตกชกุ ที่สดุ ของจังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา ฝนทีต่ กในระยะนี้ไดร้ บั อิทธิพลมาจาก ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
สว่ นหนึง่ อีกสว่ นหน่ึงเปน็ อทิ ธิพลของพายุดีเปรสชน่ั จากทะเลจีนใต้ ในช่วงกลางเดือนตลุ าคม ฝนจะเร่ิมน้อยลง
รวมระยะเวลาของฤดฝู นประมาณ 5 เดอื น
(2) ฤดูหนาว เริ่มประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจะเป็นระยะ
เปลี่ยนฤดูจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว คือลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มอ่อนลง ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเข้า
มาแทนที่ จึงนับว่าย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งอุณหภูมิจะไม่ลดต่ำมากนักเพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอยู่ปลาย
ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและอยู่ใกล้อ่าวไทย ไออุ่นจากทะเลทำให้หนาวน้อยลง รวมระยะเวลาของฤดู
หนาวประมาณ 3 เดอื น
(3) ฤดูร้อน เริ่มประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์อิทธิพลของลม
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มอ่อนลง ทำให้อากาศเริ่มร้อน และจะร้อนอบอ้าวที่สุดในเดือนเมษายน สาเหตุ
เพราะการแผ่รังสขี องดวงอาทิตย์และการปกคลมุ ด้วยความกดอากาศสูงจากทะเลจีนใตแ้ ละมหาสมุทรแปซิฟิก
ซง่ึ เปน็ ต้นกำเนิดกระแสลมตะวันออกเฉียงใต้ทพ่ี ัดเข้าสู่อ่าวไทย ทำให้อากาศรอ้ นมากขึน้ รวมระยะเวลาของฤดู
ร้อนประมาณ 4 เดือน

- ปี พ.ศ.2561 อณุ หภูมิเฉลีย่ ทง้ั ปี 29 องศาเซลเซยี ส อุณหภมู สิ ูงสุด 42.10 องศาเซลเซียส
และต่ำสุด 10 องศาเซลเซียส ฤดูรอ้ นประมาณเดือนกุมภาพนั ธ์ถงึ เดือนเมษายน อากาศร้อนอบอ้าว ฤดูฝนเริ่ม
ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งจังหวัดประมาณ 1,009.40 มิลลิเมตรต่อปี
น้ำที่หลากมาตามแม่น้ำลำคลองจะท่วมตามที่ลุ่มต่างๆ ดังนั้น บ้านเรือนของชุมชนริมนํ้าในอยุธยา จึงมักจะสร้าง
เป็นเรือนไม้ใตถ้ ุนสูง สำหรบั ฤดูหนาวเรม่ิ ประมาณเดอื นพฤศจกิ ายนถึงเดอื นมกราคม อากาศไมห่ นาวมากนัก

1.1.3 แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ คลอง บึง (ที่มา : ที่ทำการปกครองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา/
สำนักงานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มจงั หวดั พระนครศรีอยุธยา)

1) แม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มจากปากน้ำโพจังหวัดนครสวรรค์ ผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาท
ไหลผ่านจังหวัดสิงห์บรุ ี จังหวัดอ่างทอง เข้าเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือถึงอำเภอ
บางบาล แยกเป็น 2 สาย สายที่ 1 ผ่านอำเภอบางบาลและอำเภอบางไทร ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร
สายที่ 2 ผ่านอำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา และอำเภอบางปะอิน รวมความยาวของแม่น้ำสายนี้
ที่ไหลผา่ นจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา ระยะทางประมาณ 55 กโิ ลเมตร มีความกวา่ งประมาณ 150 – 350 เมตร

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ติดตามและแกไ้ ขปญั หาภัยพบิ ัติด้านการเกษตรจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา

-3-

2) แม่น้ำป่าสัก มีต้นกำเนิดจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ไหลผ่านอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี อำเภอ

แก่งคอย และอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เข้าเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง

แล้วไหลไปบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยาที่หน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัด

พระนครศรีอยุธยา รวมความยาวที่ไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาประมาณ 52 กิโลเมตร มีความกว้าง

ประมาณ 100 – 200 เมตร

3) แม่น้ำลพบุรี เป็นลำน้ำธรรมชาติ เริ่มต้นที่ตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี ไหลผ่าน

จังหวัดลพบุรี เข้าเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อำเภอบ้านแพรก อำเภอมหาราช อำเภอบางปะหัน และ

อำเภอพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 62.5 กโิ ลเมตร มีความกวา้ งประมาณ 50 – 150 เมตร

4) แมน่ ำ้ นอ้ ย เปน็ ลำนำ้ ธรรมชาติ รบั นำ้ จากแม่น้ำเจ้าพระยา เหนือเข่อื นเจ้าพระยา ท่ีประตูระบาย

น้ำบรมธาตุ ไหลผ่านจังหวัดชัยนาท จังหวัดสงิ หบ์ ุรี จังหวัดอ่างทอง เข้าเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยาท่ีอำเภอ

ผักไห่ อำเภอเสนา และอำเภอบางไทร ไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่อำเภอบางไทร ความยาวที่ไหลผ่าน

จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ประมาณ 30 กโิ ลเมตร มคี วามกว้างประมาณ 50 – 150 เมตร

1.2 ขอ้ มูลด้านเกษตรทีส่ ำคัญของจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา

จังหวดั พระนครศรอี ยุธยามพี ืน้ ท่ที ้งั หมด ๑,๕๙๗,๙๐๐ ไร่ เป็นพ้ืนท่ีเกษตรกรรม 883,025 ไร่ ดงั น้ี

1. พ้ืนที่ปลูกข้าว 852,842 ไร่

2. พ้ืนทีป่ ลกู พชื ไร่ 1,675 ไร่

3. พ้ืนที่ปลูกไม้ผล 13,276 ไร่

4. พื้นที่ปลูกไม้ยืนต้น 6,613 ไร่

5. พ้ืนที่ปลูกพืชผัก 6,752 ไร่

6. พ้ืนท่ีปลูกไม้ดอกไม้ประดับ 1,719 ไร่

7. พ้ืนที่ปลูกสมุนไพร/เคร่ืองเทศ 148 ไร่

2. สนิ ค้าเกษตรเศรษฐกจิ ทีส่ ำคญั
2.1 พืชเศรษฐกจิ
1) ขา้ ว
(1) ข้าวนาปี พื้นทเ่ี พาะปลูก 811,024.29 ไร่ เกษตรกร 34,407 ราย ผลผลติ เฉลยี่ 808.10

กก./ไร่ ผลผลติ ทงั้ หมด 616,566 ตนั (ข้อมูลปี 64/65)
(2) ข้าวนาปรัง พื้นที่เพาะปลูก 642,012 ไร่ เกษตรกร 30,755 ราย ผลผลิตเฉลี่ย 801.47

กก./ไร่ (ขอ้ มูล ปี 64/65)
2) เมล่อนญ่ีปุน่ พืน้ ท่เี พาะปลกู 186.75 ไร่ เกษตรกร 49 ราย ผลผลิต 476.50 ตัน
3) ผกั บงุ้ จนี พน้ื ทีเ่ พาะปลูก 1,825.25 ไร่ เกษตรกร 167 ราย ผลผลติ 1,826.60 ตนั

ทีม่ า : สำนกั งานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอ้ มลู : ณ วันที่ 3 เมษายน 2565

การปลูกพชื เศรษฐกจิ ของจังหวดั พระนครศรีอยุธยา ปีการผลิต 2565

ชนดิ พชื จำนวน เน้ือที่ เน้ือทเ่ี ก็บ ผลผลิตทีเ่ กบ็ ผลผลิตเฉลย่ี /เนอื้ ราคาท่ีเกษตรกร
เกษตรกร เพาะปลูก เกีย่ ว
(ราย) (ไร่) (ไร่) เก่ยี วได้ ทเี่ ก็บเกย่ี ว ขายได้เฉลี่ย

(ไร)่ (กิโลกรัม) (บาท/กก.)

1. ขา้ ว 32,657 1,458,119 1,388,701 1,117,296 804.56 7.14
2. ผักบุ้งจีน 1,233.42 18.89
3. เมลอ่ น 175 5,052 3,909 4,821 2,173.43 77.65

57 523 576 1,251

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนยต์ ิดตามและแกไ้ ขปญั หาภยั พบิ ัตดิ ้านการเกษตรจังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

-4-

2.2 สตั วเ์ ศรษฐกิจท่ีสำคญั
1) ไก่ไข่ 3,032,579 ตัว เกษตรกร 1,878 ราย
2) ไกเ่ นื้อ 2,771,757 ตวั เกษตรกร 127 ราย
3) สกุ ร 18,798 ตัว เกษตรกร 33 ราย

ที่มา : สำนักงานปศสุ ตั ว์จังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา ขอ้ มลู : ณ วันท่ี 3 เมษายน 2565

สัตวเ์ ศรษฐกิจของจังหวดั พระนครศรอี ยุธยา ปกี ารผลติ 2565

ชนดิ สตั ว์ จำนวน จำนวนสัตว์ ขอ้ มูลผลผลิต ราคาเฉล่ยี มลู ค่าผลผลติ
เกษตรกร (ตัว) จำนวน หน่วยนบั (บาท/ (บาท)
1. ไกไ่ ข่ (ราย) หนว่ ย)
2. ไกเ่ นือ้ 3,033,307 885,725,644 ฟอง/ปี 2,657,176,932
3. สุกร 1,920 ตวั /ปี 3/ฟอง 767,087,901
126 2,771,772 12,472,974 ตัว/ปี 41/กก. 384,824,000
33 100/กก.
17,492 38,482

2.3 สัตวน์ ้ำเศรษฐกจิ ท่ีสำคัญ
1) ปลานิล 5,670,500 กิโลกรมั /ปี เกษตรกร 2,686 ราย
2) กุ้งกา้ มกราม 225,061 กิโลกรัม/ปี เกษตรกร 93 ราย
3) กุ้งขาว 1,724,344 กิโลกรัม/ปี เกษตรกร 146 ราย

ท่ีมา : สำนักงานประมงจังหวดั พระนครศรอี ยุธยา ขอ้ มูล : ณ วนั ท่ี 3 เมษายน 2565

สตั วน์ ำ้ เศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรอี ยุธยา ปกี ารผลิต 2565

ชนดิ สตั ว์ จำนวน พ้ืนที่การเลี้ยง ผลผลติ ราคาเฉลี่ย มลู ค่าผลผลิต
เกษตรกร (ไร)่ (กก./ป)ี (บาท/กก.) (บาท)
1. กงุ้ กา้ มกราม (ราย)
2. กงุ้ ขาว 803.79 225,061 196.50 50,652,453,721
3. ปลานลิ 93 2,024.64 1,724,344 90.23 155,587,599,120
5,670,500
146 11,341 35 198,467,500

2,686

3. ครวั เรือนเกษตรกร
จำนวนครัวเรือนเกษตรกรของจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา (ท่มี า : สำนกั งานเกษตรจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา)

ท่ี อำเภอ จำนวนครัวเรอื น จำนวนครัวเรือน รอ้ ยละจำนวน
เกษตรกร ครัวเรอื นเกษตร/ครัวเรอื นทั้งหมด
1 พระนครศรีอยธุ ยา 53,233 1,418
2 ท่าเรือ 18,504 2,489 2.66
3 นครหลวง 14,020 2,440 13.45
4 บางไทร 16,236 4,305 17.40
5 บางปะหัน 15,091 1,972 26.52
6 บางปะอิน 64,425 2,198 13.07
7 ผกั ไห่ 10,954 3,516 3.41
8 ภาชี 13,499 1,902 32.10
9 ลาดบัวหลวง 12,662 4,853 14.09
10 วังน้อย 31,339 2,214 38.33
7.06

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ยต์ ดิ ตามและแกไ้ ขปญั หาภัยพบิ ัติดา้ นการเกษตรจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา

-5-

ที่ อำเภอ จำนวนครวั เรือน จำนวนครัวเรอื น รอ้ ยละจำนวน
เกษตรกร ครวั เรอื นเกษตร/ครวั เรอื นทงั้ หมด
11 เสนา 66,499 4,968
12 บางซา้ ย 6,344 2,723 7.47
13 อุทัย 21,727 2,850 42.92
14 มหาราช 8,924 2,381 13.12
15 บางบาล 11,903 3,676 26.68
16 บ้านแพรก 2,698 829 30.88
368,058 44,734 30.73
รวมท้ังหมด 12.15

4. แหล่งนำ้ เพื่อการเกษตร

พ้ืนทช่ี ลประทานและระบบชลประทาน (ท่ีมา : โครงการชลประทานพระนครศรอี ยธุ ยา)
แหล่งน้ำชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา มีศกั ยภาพสงู มากในการใช้น้ำทำการเกษตร และน้ำใช้ใน
โรงงานอุตสาหกรรมแต่ก็มีบางครั้งที่เกิดการขาดแคลนน้ำในบางพื้นที่ เพราะไม่มีแหล่งน้ำต้นทุนต้องอาศัย
แหล่งน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิตติ์ เนื่องจากพื้นที่ชลประทานมีเพียง 1,421,615 ไร่ แต่พื้นที่ส่งน้ำ
มีถึง 1,472,723 ไร่ มีโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา จำนวน 13 โครงการ นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนา
แหล่งนำ้ ขนาดเลก็ เพือ่ สนับสนุนการดำเนนิ การด้านการเกษตร และดา้ นอตุ สาหกรรม

ที่ ชอื่ โครงการชลประทาน เขตทร่ี บั ประโยชน์ (อำเภอ) พืน้ ท่ีรบั นำ้
(ไร)่
1 โครงการชลประทานพระนครศรอี ยธุ ยา พระนครศรีอยธุ ยา บางไทร -
บางปะอนิ
2 โครงการสง่ นำ้ และบำรุงรักษาเจา้ เจ็ดบางยีห่ น 204,415
บางบาล เสนา บางไทร
3 โครงการสง่ น้ำและบำรงุ รักษาผกั ไห่ บางซ้าย ลาดบวั หลวง 115,705
4 โครงการส่งน้ำและบำรงุ รักษาเริงราง 34,296
ผักไห่ บางบาล เสนา บางซา้ ย
5 โครงการส่งนำ้ และบำรงุ รักษาบางบาล 32,986
บางปะหัน มหาราช ทา่ เรือ
6 โครงการส่งน้ำและบำรงุ รกั ษามหาราช พระนครศรีอยธุ ยา นครหลวง 17,000

7 โครงการส่งนำ้ และบำรงุ รกั ษาโคกกระเทียม บางบาล เสนา บางไทร 16,776
8 โครงการส่งน้ำและบำรงุ รกั ษาคลองเพรียว-เสาไห้ พระนครศรีอยธุ ยา บางปะอนิ -
9 โครงการสง่ น้ำและบำรุงรกั ษาปา่ สักใต้ -
10 โครงการสง่ น้ำและบำรงุ รักษานครหลวง บ้านแพรก มหาราช บางบาล -
พระนครศรอี ยุธยา บางปะหัน
11 โครงการสง่ น้ำและบำรุงรกั ษาพระยาบนั ลือ -
12 โครงการสง่ นำ้ และบำรุงรกั ษารงั สิตเหนือ บา้ นแพรก มหาราช บางปะหัน -

ทา่ เรือ ภาชี

ทา่ เรือ ภาชี อทุ ยั วังนอ้ ย

พระนครศรีอยุธยา บางปะอนิ
ท่าเรอื นครหลวง ภาชี
อทุ ยั วังนอ้ ย

บางไทร ลาดบวั หลวง

วังน้อย

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนยต์ ดิ ตามและแก้ไขปญั หาภัยพบิ ตั ิดา้ นการเกษตรจงั หวัดพระนครศรีอยุธยา

-6-

ที่ ชอื่ โครงการชลประทาน เขตที่รบั ประโยชน์ (อำเภอ) พืน้ ทร่ี บั นำ้
(ไร่)
13 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชัณสูตร ผักไห่
14 โครงการสง่ นำ้ และบำรงุ รกั ษายางมณี ผกั ไห่ -

-

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ย์ตดิ ตามและแก้ไขปญั หาภัยพบิ ัตดิ า้ นการเกษตรจงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา

-7-

บทท่ี 2
กรอบการดำเนินงานตามแผนป้องกนั และเผชญิ เหตุภัยแล้ง ปี 2565/66

2.1 การประเมนิ ความเส่ียง (Risk Assessment)
ความเสี่ยงจากสาธารณภัย (Disaster Risk) หมายถึง โอกาสที่จะเกิดการสูญเสียจากสาธารณภัยต่อชีวิต

ร่างกาย ทรพั ย์สนิ ความเปน็ อยู่ และภาคบริการต่างๆ ในชมุ ชนใดชุมชนหนึ่ง ณ ห้วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต

ความเสย่ี งจากสาธารณภัย = ภยั x ความล่อแหลม x ความเปราะบาง

ศกั ยภาพ

ภัย (Hazard) คอื เหตกุ ารณห์ รืออันตรายทเ่ี กดิ ข้ึนจากธรรมชาตหิ รือจากการกระทำของมนุษย์ท่ีอาจ
นำมาซงึ่ ความสูญเสียตอ่ ทรัพยส์ นิ ตลอดจนทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกจิ สังคม และส่งิ แวดลอ้ ม

ความล่อแหลม (Exposure) คือ การที่สิ่งใด ๆ ก็ตามที่สถานที่ตั้งอยู่ภายในอาณาบริเวณพื้นที่เสี่ยงท่ี
อาจจะเกิดภยั และมโี อกาสได้รบั ความเสียหายจากภัยนัน้ ๆ

ความเปราะปราง (Vulnerability) คือ ปัจจัยหรือสภาวะใด ๆ ที่ทำให้ชุมชนหรือสังคมขาด
ความสามารถในการป้องกันตนเอง ทำให้ไม่สามารถรับมือกับภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หรือไม่สามารถฟื้นฟู
ได้อย่างรวดเรว็ จากความเสยี หายอนั เกิดจากภยั

ศกั ยภาพ (Capacity) คือ ความรู้ ทักษะ และทรพั ยากรต่าง ๆ ท่มี ีอยู่ในชมุ ชน สงั คม หรือหนว่ ยงาน
ใด ๆ ทีส่ ามารถนำมาใช้เพอ่ื ใหบ้ รรลุเป้าหมายทตี่ ้งั ไว้

การประเมินความเส่ียง (Risk Assessment) เป็นกระบวนการท่ีช่วยตรวจสอบระดับของความเสี่ยง
ทีช่ มุ ชนหรือสังคมมีต่อสาธารณภัย ประกอบด้วย การระบุความเสี่ยง (Risk Identification) การวิเคราะหค์ วาม
เสย่ี ง (Risk Analysis) และการประเมินผลความเสยี่ ง (Risk Evaluation)

2.2 กรอบการจดั การความเสีย่ งจากสาธารณภัย

คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้นำกรอบแนวคิดการจัดการความเสี่ยงจาก
สาธารณภัยแบบอัจฉริยะ “Smart DRM for 3s : SEP – SDGs – SFDRR” โดยได้น้อมนำหลักปรัญชา
เศรษฐกิจพอเพียง (Suffciency Economy Philisophy : SEP) เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายการ
พัฒนาที่ยั่งยืน (Susstainable Development Goals : SDGs) และกรอบการดำเนินงานเซนได เพื่อการลด
ความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พ.ศ. 2558 – 2573 (SFDRR) เพื่อลดความเสี่ยงเดิมและป้องกันความเสี่ยงใหม่
(Sendai Framework on Disaster Risk Reduction : SFDRR) มาเป็นแนวทางการดำเนินงาน เพื่อจัดการ
ความเสย่ี งจากสาธารณภัยแบบองค์รวม

การจดั การความเสีย่ งจากสาธารณภัย (Disaster Risk Management)
การจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยเป็นการจัดการสาธารณภัยแบบองค์รวม (Holistic Approach)
ตั้งแต่กิจกรรมการป้องกันและลดผลกระทบ การเตรียมความพร้อม การเผชิญเหตุ และบรรเทาทุกข์ ตลอดจน
การฟื้นฟู ซึ่งในบางกิจกรรมการดำเนินการในแต่ละห้วงเวลาการเกิดสาธารณภัยอาจมีความ
คาบเกี่ยวกนั (Over lap) ขณะที่บางกิจกรรมอาจเป็นการดำเนินการเฉพาะของการเกดิ ภัยในห้วงนัน้ ๆ รวมทั้ง
ระยะเวลาในการดำเนินการของแต่ละกิจกรรมขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภัยเป็นสำคัญ ซึ่งวงจร
การจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยถูกมองในมุมมองของทั้งกรอบแนวคิดในกาดำเนินการ/การป ฏิบัติ
(Discipline) และมมุ มองของกิจกรรม หรอื วธิ ปี ฏบิ ตั ิ (Activities and Procedures) ดังแผนภาพน้ี

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ย์ติดตามและแก้ไขปญั หาภยั พบิ ตั ิดา้ นการเกษตรจงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา

-8-

โดยมีแนวทางดำเนินการจดั การความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิ ดังน้ี
ก่อนเกิดภัย : การลดความเส่ียงจากภยั พิบัติ (Disaster Risk Reduction)
การป้องกันและลดผลกระทบ (Prevention & Mitigation)
1) มาตรการที่ใชโ้ ครงสร้าง ได้แก่ การพฒั นาแหล่งน้ำ ระบบชลประทานเพ่ือป้องกันอุทกภัย/ภัยแล้ง

การอนุรักษ์ดินและนำ้ เพือ่ ป้องกนั ดินโคลนถล่ม
2) มาตรการที่ไม่ใช้โครงสร้าง ได้แก่ วางแผนการจัดสรรน้ำ วิเคราะห์ประเมินความเสี่ยง

เพอ่ื กำหนดพื้นทีเ่ สี่ยงด้านพืช ดา้ นประมง ดา้ นปศุสัตว์ รวมทง้ั พืน้ ทช่ี มุ ชนพร้อมแผนบรหิ ารจดั การเพื่อลดความ
เสี่ยงดังกลา่ ว แผนปฏิบตั ิการฝนหลวงเพือ่ ชว่ ยเหลือพ้ืนทป่ี ระสบภัยแล้งและเติมน้ำในแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้อย

การเตรยี มความพร้อม (Preparedness)
1) การปรับตัว ได้แก่ การให้คำแนะนำการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้ง การส่งเสริมอาชีพเสริมหรือ

วิสาหกิจชุมชนให้แก่เกษตรกรเพื่อเป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพ การปรับเปลี่ยนวิธีการทำการเกษตรให้
เหมาะสมกับสภาพพน้ื ท่ี

2) การเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ ได้แก่ การแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ การเตรียมพร้อมด้าน
เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักร ยานพาหนะ การสำรองเสบียงสัตว์ การปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรด้านพืช ด้าน
ประมง ด้านปศุสัตว์ ให้เป็นปัจจุบัน การจัดทำแผนปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภยั ด้านการเกษตร
เช่น แผนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เพื่อป้องกันโรคระบาดพืชและสัตว์ แผนการจัดหน่วยเฉพาะกิจ
ลงพ้นื ท่ีเพ่ือให้คำแนะนำและความชว่ ยเหลือเกษตรกรในพืน้ ทปี่ ระสบภยั การดูแลสขุ ภาพสัตว์ แผนการสำรวจ
และประเมินความเสียหาย วธิ กี ารชว่ ยเหลือเพ่ือบรรเทาความเดอื ดรอ้ นของเกษตรกร และแผนสร้างการรับรู้ให้
เกษตรกรรูจ้ กั เตรียมความพรอ้ มรบั สถานการณภ์ ยั พิบตั ิ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ติดตามและแก้ไขปญั หาภยั พบิ ตั ิดา้ นการเกษตรจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา

-9-
ขณะเกดิ ภัย : การจัดการภาวะฉกุ เฉิน (Emergency Management)

การเผชิญเหตุ (Response) ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำ การติดตั้งเครื่องสูบน้ำ การแจ้งเตือน
เกษตรกร

การบรรเทาทุกข์ (Relief) ได้แก่ แจกจ่ายเสบียงสัตว์และดูแลสุขภาพสัตว์ จัดหน่วยเฉพาะกิจลง
พื้นที่ประสบภัยเพื่อให้คำแนะนำและความช่วยเหลือเกษตรกร สำรวจและประเมินความเสียหายเบื้องต้น
รายงานสถานการณ์

หลงั เกิดภัย : การฟื้นฟู (Recovery) และสร้างใหมใ่ หด้ ีกว่าเดิม (Build Back Better)
การซอ่ มสร้าง (Reconstruction) ไดแ้ ก่ การประเมนิ ความเสียหายและซอ่ มสรา้ งระบบโครงสร้าง

พ้ืนฐานดา้ นชลประทาน การป้องกนั รักษา และกำจดั โรคระบาดหรอื ศตั รพู ชื ระบาด การฟ้นื ฟูพ้นื ทก่ี ารเกษตร
การฟื้นสภาพ (Rehabilitation) ไดแ้ ก่ การวเิ คราะหค์ วามเสยี หาย (Damages) และความสญู เสีย

(Losses) ด้านการเกษตรที่เกิดจาภัย การประเมินความต้องการ/จำเปน็ ในการฟื้นฟูหลังเกิดภัย การช่วยเหลอื
เยยี วยาตามระเบยี บทีเ่ กี่ยวข้อง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ยต์ ิดตามและแกไ้ ขปญั หาภัยพบิ ตั ดิ ้านการเกษตรจังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

- 10 -

บทที่ 3
กระบวนการแจง้ เตอื น

3.1 การเฝ้าระวังและตดิ ตามสถานการณ์ (Monitoring)
3.1.1 ให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการแจ้งเตือนภัย แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่เขต

ที่คาดว่าจะเกิดภัย เพื่อแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า แก่ผู้ที่อาจจะได้รับผลกระทบ เพื่อให้เฝ้าระวังและเตรียมรับ
สถานการณ์ และพิจารณาเคลือ่ นยา้ ยไปสทู่ ป่ี ลอดภัยได้

3.1.2 หนว่ ยงานทร่ี บั ผิดชอบในการเตอื นภยั ไดแ้ ก่
1) กรมอุตุนยิ มวิทยา ทำหนา้ ทเี่ ฝ้าระวังและแจง้ เตอื นภัย
2) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รับข้อมูลการแจ้งเตือนจากสถานีอุตุนิยมวิทยา

เพอ่ื แจง้ เตอื นไปสู่พ้ืนท่ี
3) กรมชลประทาน เฝ้าระวัง ติดตามสภาพน้ำท่าในแม่น้ำสายหลัก อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ รวมท้ัง

การบรหิ ารจัดการน้ำในลุ่มน้ำ
4) กรมพฒั นาทดี่ นิ ติดตามสถานการณด์ ินโคลนถล่ม

3.1.3 การจัดวางระบบแจง้ เตอื นภัย
การจัดวางระบบแจง้ เตือนภยั ไว้ตั้งแต่ยามปกติ จะทำให้การแจง้ เตือนภัยกระทำได้อย่างรวดเร็ว และมี
ประสิทธิภาพตามแนวทาง ดังน้ี

1) ทำความตกลงรว่ มกนั ระหวา่ งหนว่ ยงานว่าจะใช้วธิ ีการแจ้งเตือนภัยแบบใด
2) จัดเตรยี มสญั ญาณเตอื นภัยรปู แบบต่าง ๆ
3) การเฝา้ ระวัง ให้มีการติดตามสถานการณ์ รวบรวมข้อมลู และประเมินสถานการณ์ทอ่ี าจเกิดข้ึน
ตลอด 24 ช่ัวโมง เพอ่ื เป็นข้อมูลในการแจ้งเตอื น
3.1.4 การประกาศแจ้งเตือนภัย
จัดทำวิธีการแจ้งเตือนภัยที่เป็นมาตรฐาน เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ข้อความแจ้งเตือนมีความชัดเจนและมีความละเอียดมากพอ เช่น สถานการณ์ที่เกิดหรือพื้นที่เสี่ยงภัย และต้อง
เปน็ ภาษาทเี่ ข้าใจง่ายตามแนวทาง
1) ระดับการแจง้ เตือน

1.1) การแจ้งเตือนภัยระดับประเทศ แจ้งเตือนภัยระบบเครือข่าย และระบบสื่อสาร และสื่อ
ประชาสัมพันธ์ทางราชการและเอกชน เช่น โทรทัศน์ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย สถานี
วทิ ยกุ ระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เปน็ ต้น

1.2) การแจ้งเตือนภัยระดับจังหวัด แจ้งเตือนภัยระบบเครือข่าย และระบบสื่อสาร และส่ือ
ประชาสมั พันธ์ทางราชการและเอกชน เชน่ วิทยุกระจายเสียง วิทยสุ ือ่ สาร โทรสาร ประชาสมั พันธ์จงั หวัด

1.3) การแจ้งเตือนภัยระดับอำเภอ แจ้งเตือนภัยระบบเครือข่าย ระบบสื่อสาร และส่ือ
ประชาสมั พนั ธท์ างราชการและเอกชน เชน่ วทิ ยชุ มุ ชน วิทยุส่ือสาร โทรสาร เป็นตน้

1.4) การแจ้งภัยระดับตำบล/หมู่บ้าน แจ้งเตือนโดยอาสาสมัครและเครือข่ายเฝ้าระวังและ
แจ้งเตือนภัยระดับชุมชน โดยใช้ระบบสื่อสารหรือเครื่องมือแจ้งเตือนภัยของชุมชน เช่น เสียงตามสาย วิทยุ
หอกระจายข่าง ไซเรนเตอื นภัยแบบมือหมนุ โทรโขง นกหวดี หรือสญั ญาณเสียง ท่กี ำหนดใหเ้ ป็นสญั ญาณเตือน
ภัยประจำหมบู่ ้านหรือตำบล

2) วธิ กี ารแจ้งเตือนภัย ทำไดโ้ ดย

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ตดิ ตามและแกไ้ ขปญั หาภยั พบิ ัติด้านการเกษตรจังหวัดพระนครศรอี ยุธยา

- 11 -

2.1) แจ้งเตือนประชาชนโดยตรง โดยผ่านทางสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ วิทยุสมัครเล่น
โทรสาร โทรศพั ทม์ อื ถือ หอกระจายข่าว เสียงตามสาย ไซเรนเตอื นภยั แบบมอื หมุน และหอเตอื นภยั

2.2) แจ้งเตือนผ่านหน่วยงาน โดยใช้กลไกระบบการบริหารราชการตั้งแต่ระดับส่วนกลาง
ระดับภูมิภาค ระดับท้องถิ่น หน่วยงานช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย กลุ่มผู้ได้รับกระทบ และประชาชนทั่วไป
ผา่ นหนว่ ยงานระดับตา่ ง ๆ ไปสู่ระดบั พ้ืนทตี่ ามวิธกี ารแจ้งเตือนภัยผา่ นหนว่ ยงาน
3.2 การปฏิบตั ใิ นการแจง้ เตอื นภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ปัจจุบันมีหน่วยงานที่ประสานการแจ้งเตือนภัยอยู่หลายหน่วยงาน ซึ่งหน่วยงานหลัก มี 4 หน่วยงาน
ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน มีการแบ่ง
ข้ันตอนการเตรยี มความพร้อม 4 ข้ันตอน คอื

1) การเฝ้าระวังและตดิ ตามสถานการณ์ (Monitoring)
2) การแจ้งเตือนล่วงหนา้ (Early Warning)
3) การแจง้ เตือน (Warning)
4) การอพยพประชาชน (Evacuation)

3.3 กลไกการบริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดโครงสร้างการบริหารจัดการภัยพิบัติด้านการเกษตร

เพื่อทำหนา้ ท่ีในการบรหิ ารจดั การเกีย่ วกับภัยพิบตั ิดา้ นการเกษตรในภาพรวมของประเทศอย่างเป็นระบบ ดงั น้ี
3.3.1 สว่ นกลาง
1) คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร โดยมีรัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ผ้ชู ว่ ยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปน็ เลขานกุ าร
2) คณะอนุกรรมการวางแผนและติดตามการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร โดยมี

ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ผู้อำนวยการสำนักแผนงานและโครงการพิเศษ สำนักงาน
ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปน็ เลขานกุ าร

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนยต์ ิดตามและแก้ไขปญั หาภยั พบิ ตั ิดา้ นการเกษตรจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา

- 12 -

3) ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีรอง
ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทไ่ี ด้รับมอบหมาย เป็นผอู้ ำนวยการศนู ย์ ผู้อำนวยการ สำนักงานแผนงานและ
โครงการพเิ ศษ เป็นเลขานกุ ารศูนย์

3.3.2 สว่ นภูมภิ าค
ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัด โดยมีเกษตรและสหกรณ์จังหวัด

เปน็ ผอู้ ำนวยการศนู ย์ หวั หน้ากลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรและโครงการพิเศษ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด
เปน็ เลขานุการ

ทั้งนี้ คณะกรรมการป้องกนั และแก้ไขปญั หาภัยพบิ ัติด้านการเกษตร คณะอนกุ รรมการวางแผน
และติดตามการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร และศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้าน
การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานข้อมูลและการปฏบิ ัตกิ ับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัยกลาง (ปภ.) และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ/คณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตาม
สถานการณ์และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สำหรับส่วนภูมิภาคให้ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ
ด้านการเกษตรจังหวัด ประสานข้อมูลและการปฏิบัติกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
จงั หวัด/อำเภอ เพ่ือใหก้ ารช่วยเหลอื เกษตรกรและพ้ืนที่ทไี่ ดร้ ับผลกระทบจากปญั หาภยั แลง้

ภาพกลไกการบริหารจัดการสถานการณ์ภยั แล้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ติดตามและแกไ้ ขปญั หาภยั พบิ ัติด้านการเกษตรจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา

- 13 -

3.4 การติดตามและรายงาน

ขอ้ มูล หน่วยงาน ระยะเวลา
1. สถานการณน์ ้ำ
โครงการชลประทานพระนครศรอี ยุธยา ทุกวัน ภายในเวลา 11.00 น.
1.1 ในเขตชลประทาน โครงการสง่ น้ำและบำรงุ รักษา 13 แหง่
สถานีพฒั นาที่ดนิ พระนครศรีอยธุ ยา ทุกวันศกุ ร์ ภายในเวลา
1.2 นอกเขตชลประทาน 11.00 น.
สำนักงานเกษตรจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา ทุกวนั พธุ
2. สถานการณก์ ารเพาะปลกู โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา
พชื ฤดแู ลง้ โครงการสง่ น้ำและบำรุงรกั ษา 13 แหง่ ทกุ วนั ภายในเวลา 11.00 น.
กรมฝนหลวงและการบนิ เกษตร เมื่อมีการแจง้ เตือน
3. การปฏบิ ัตกิ ารฝนหลวง ทุกสว่ นราชการ
4. การแจง้ เตือน ภายใน 24 ชวั่ โมง เมอ่ื เกดิ ภัย
5. ผลกระทบดา้ นการเกษตร สำนกั งานเกษตรจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา และปรับปรุงข้อมูลทุกวนั ศุกร์
ศูนยว์ ิจยั ขา้ วพระนครศรีอยุธยา ภายในเวลา 15.00 น.
5.1 ดา้ นพชื สำนกั งานประมงจังหวดั พระนครศรอี ยุธยา
สำนกั งานปศสุ ัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใน 24 ชวั่ โมง เมอ่ื เกดิ ภัย
5.2 ดา้ นประมง สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จงั หวดั
5.3 ด้านปศสุ ตั ว์ พระนครศรอี ยธุ ยา ทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดอื น
6. ขอ้ พพิ าท ทกุ สว่ นราชการ

7. ผลการดำเนินงานตาม
แผนงาน/โครงการ

3.5 การติดตอ่ ประสาน ชอ่ งทางการสื่อสาร หมายเลขโทรศพั ท์

ท่ี หน่วยงาน สำนักงาน มือถือ

1 ศูนย์ติดตามและแกไ้ ขปัญหาภัยพิบัตดิ ้านการเกษตร 035 336 655 081 851 3653
จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา
สำนกั งานเกษตรและสหกรณ์จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา 035 345 044 063 529 3915
035 795 801 081 886 6606
2 โครงการชลประทานพระนครศรอี ยธุ ยา 035 272 351 092 161 5555
3 โครงการสง่ น้ำและบำรุงรักษาบางบาล 035 486 360 084 874 6133
4 โครงการสง่ น้ำและบำรงุ รักษานครหลวง 036 511 592 081 379 1791
5 โครงการสง่ นำ้ และบำรงุ รกั ษาโคกกระเทยี ม 035 802 555 081 945 9236
6 โครงการสง่ นำ้ และบำรุงรกั ษามหาราช 036 261 945 084 628 2288
7 โครงการส่งนำ้ และบำรงุ รักษาปา่ สกั ใต้ 036 211 164
8 โครงการส่งน้ำและบำรุงรกั ษาเรงิ ราง 035 361244 087 554 3353
9 โครงการส่งน้ำและบำรงุ รกั ษาคลองเพรยี ว - เสาไห้
10 โครงการสง่ น้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ติดตามและแกไ้ ขปญั หาภัยพบิ ตั ดิ ้านการเกษตรจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา

- 14 -

ท่ี หนว่ ยงาน หมายเลขโทรศพั ท์

11 โครงการสง่ น้ำและบำรงุ รักษาเจา้ เจ็ด - บางยห่ี น สำนักงาน มอื ถือ
12 โครงการส่งน้ำและบำรงุ รักษาพระยาบนั ลือ
13 โครงการส่งน้ำและบำรงุ รักษาผกั ไห่ 035 741 188
14 โครงการสง่ น้ำและบำรุงรกั ษายางมณี
15 โครงการส่งน้ำและบำรงุ รักษาชณั สตู ร 02 571 7837 084 874 6210
16 สำนักงานเกษตรจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา
17 สำนกั งานประมงจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา 035 391 378 085 821 2000
18 สำนักงานปศสุ ัตว์จงั หวดั พระนครศรีอยุธยา
19 สำนกั งานสหกรณจ์ ังหวัดพระนครศรีอยุธยา 035 610 572 086 789 3896
20 สำนกั งานการปฏิรูปท่ีดนิ จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา
21 สถานพี ฒั นาที่ดนิ พระนครศรีอยุธยา 036 814 780 081 354 6477
22 ศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา
23 ศูนยว์ ิจัยและพัฒนาการเพาะเลยี้ งสตั ว์นำ้ จดื 035 336 560 081 948 9977

พระนครศรีอยุธยา 035 335 085 081 466 3640
24 ศนู ยป์ ้องกนั และปราบปรามประมงน้ำจดื ภาคกลาง
035 335 592 085 660 9809
(พระนครศรีอยุธยา)
035 243 702 089 856 1046

035 336 629 061 216 5789

035 930 659 081 884 7548

035 709 051 081 934 0051

035 704 171 081 649 3777

035 951 575 063 217 2701

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนยต์ ิดตามและแก้ไขปญั หาภัยพบิ ตั ิดา้ นการเกษตรจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา

- 15 -

บทที่ 4
สถานการณ์ความเสีย่ งและแผนการจัดสรรน้ำในช่วงฤดแู ลง้ ปี 2565/66

4.1 สถานการณค์ วามเส่ยี งภัยแลง้ ปี 2565/66
4.1.1 พื้นท่ขี ้าวนาปรงั (รอบท่ี 2) เส่ียงขาดน้ำ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565)
กรมทรัพยากรน้ำร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตรคาดการณ์พน้ื ท่ีเฝ้าระวังเสี่ยงภาวะน้ำแล้ง ช่วงฤดูแล้ง

ปี 2565/66 จากการวิเคราะห์สมดุลน้ำรายตำบล (นอกเขตชลประทาน) ทั้งประเทศ พบว่า มีพื้นที่เฝ้าระวัง
เสีย่ งภาวะนำ้ แลง้ เพอ่ื การเพาะปลูกข้าวนาปรัง (รอบที่ 2) จำนวน 14 จงั หวดั 40 อำเภอ 91 ตำบล เส่ยี งขาด
แคลนนำ้ มากกวา่ 5 ล้านลูกบาศกเ์ มตร/ตำบล ดังน้ี

- ภาคเหนอื จำนวน 9 จงั หวัด 34 อำเภอ 84 ตำบล ได้แก่ เชยี งราย (6 อำเภอ 10 ตำบล)
เพชรบูรณ์ (1 อำเภอ 1 ตำบล) กำแพงเพชร (1 อำเภอ 1 ตำบล) นครสวรรค์ (6 อำเภอ 13 ตำบล) พะเยา
(1 อำเภอ 1 ตำบล) พิจิตร (7 อำเภอ 22 ตำบล) พิษณุโลก (4 อำเภอ 10 ตำบล) สุโขทัย (3 อำเภอ 9
ตำบล) อตุ รดติ ถ์ (5 อำเภอ 17 ตำบล)

- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 3 จังหวัด 4 อำเภอ 4 ตำบล ได้แก่ มหาสารคาม (2
อำเภอ 2 ตำบล) รอ้ ยเอด็ (1 อำเภอ 1 ตำบล) หนองคาย (1 อำเภอ 1 ตำบล)

- ภาคกลาง จำนวน 1 จังหวดั 1 อำเภอ 1 ตำบล คือ นครนายก (1 อำเภอ 1 ตำบล)
- ภาคตะวนั ออก 1 จงั หวดั 1 อำเภอ 2 ตำบล คือ ปราจีนบุรี (1 อำเภอ 2 ตำบล)
4.1.2 พืน้ ที่ไมผ้ ล ไม้ยนื ต้นเสี่ยงขาดแคลนน้ำ (ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 1 พฤศจิกายน 2565)
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติประเมินพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำสำหรับการปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น
ปี 2565/66 จำนวน 47 จงั หวดั 123 อำเภอ 320 ตำบล พื้นทรี่ วม 146,361 ไร่
- ภาคเหนือ 13 จังหวัด 26 อำเภอ 58 ตำบล พื้นที่รวม 52,323 ไร่ ได้แก่ เชียงใหม่
(3 อำเภอ 6 ตำบล) เชยี งราย (3 อำเภอ 5 ตำบล) เพชรบรู ณ์ (2 อำเภอ 12 ตำบล) แพร่ (1 อำเภอ 2 ตำบล)
แม่ฮ่องสอน (2 อำเภอ 4 ตำบล) ตาก (2 อำเภอ 6 ตำบล) นครสวรรค์ (2 อำเภอ 4 ตำบล) น่าน (3 อำเภอ
8 ตำบล) พิจิตร (2 อำเภอ 2 ตำบล) พิษณุโลก (1 อำเภอ 1 ตำบล) ลำปาง (2 อำเภอ 2 ตำบล) ลำพูน
(1 อำเภอ 1 ตำบล) สุโขทัย (2 อำเภอ 5 ตำบล)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด 69 อำเภอ 201 ตำบล พื้นที่รวม 37,496 ไร่ ได้แก่
เลย (2 อำเภอ 4 ตำบล) กาฬสินธุ์ (2 อำเภอ 4 ตำบล) ขอนแก่น (3 อำเภอ 9 ตำบล) ชัยภูมิ (1 อำเภอ
1 ตำบล) นครพนม (8 อำเภอ 42 ตำบล) บึงกาฬ (2 อำเภอ 7 ตำบล) บุรีรัมย์ (4 อำเภอ 7 ตำบล)
มหาสารคาม (1 อำเภอ 2 ตำบล) มุกดาหาร (5 อำเภอ 18 ตำบล) ยโสธร (3 อำเภอ 6 ตำบล) ร้อยเอ็ด
(1 อำเภอ 1 ตำบล) ศรีสะเกษ (1 อำเภอ 1 ตำบล) สกลนคร (12 อำเภอ 40 ตำบล) สุรินทร์ (3 อำเภอ
7 ตำบล) หนองคาย (4 อำเภอ 6 ตำบล) หนองบัวลำภู (2 อำเภอ 4 ตำบล) อำนาจเจริญ (1 อำเภอ 1 ตำบล)
อุดรธานี (13 อำเภอ 39 ตำบล) อุบลราชธานี (1 อำเภอ 2 ตำบล)
- ภาคกลาง 2 จังหวัด 3 อำเภอ 6 ตำบล พื้นที่รวม 492 ไร่ ได้แก่ สมุทรสาคร (1 อำเภอ
1 ตำบล) สระบรุ ี (2 อำเภอ 5 ตำบล)
- ภาคตะวันออก 6 จังหวัด 7 อำเภอ 14 ตำบล พื้นที่รวม 18,522 ไร่ ได้แก่ จันทบุรี
(1 อำเภอ 2 ตำบล) ชลบุรี (1 อำเภอ 1 ตำบล) ตราด (1 อำเภอ 3 ตำบล) ปราจีนบุรี (1 อำเภอ 1 ตำบล)
ระยอง (2 อำเภอ 3 ตำบล) สระแกว้ (1 อำเภอ 4 ตำบล)
- ภาคตะวันตก 3 จังหวัด 7 อำเภอ 11 ตำบล พื้นที่รวม 17,390 ไร่ ได้แก่ เพชรบุรี
(2 อำเภอ 3 ตำบล) กาญจนบุรี (4 อำเภอ 7 ตำบล) ราชบุรี (1 อำเภอ 1 ตำบล)

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ย์ติดตามและแกไ้ ขปญั หาภยั พบิ ัตดิ า้ นการเกษตรจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

- 16 -

- ภาคใต้ 4 จังหวัด 11 อำเภอ 30 ตำบล พื้นที่รวม 20,138 ไร่ ได้แก่ กระบี่ (3 อำเภอ
6 ตำบล) ตรัง (3 อำเภอ 6 ตำบล) พังงา (2 อำเภอ 6 ตำบล) ระนอง (3 อำเภอ 12 ตำบล)

4.2 แผนการจัดสรรน้ำในชว่ งฤดแู ลง้ ปี 2565/66 ท้งั ประเทศ ในเขตชลประทาน
4.2.1 ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง แหล่งน้ำขนาดใหญ่อื่น ๆ และการ

กำหนดพ้นื ทีเ่ พาะปลกู
ปริมาตรน้ำใช้การได้ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และแหล่งน้ำขนาดใหญ่อื่น ๆ จากท้ัง

ประเทศ ณ วันท่ี 1 พฤศจิกายน 2565 มจี ำนวนรวมกนั ทง้ั สิ้น 43,740 ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร แยกเปน็
- ปรมิ าตรนำ้ ใช้การได้ อา่ งเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35,862 ล้านลกู บาศก์เมตร
- ปรมิ าตรน้ำใช้การได้ อ่างเกบ็ น้ำขนาดกลาง 4,315 ลา้ นลกู บาศก์เมตร
- ปรมิ าตรนำ้ ใชก้ ารได้ อา่ งเกบ็ นำ้ ขนาดใหญอ่ น่ื ๆ 3,563 ลา้ นลูกบาศก์เมตร

วางแผนจัดสรรน้ำไว้ทั้งหมด 27,685 ล้านลูกบาศก์เมตร แยกเป็น เพื่อการเกษตร 16,330 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร เพื่อการอุปโภค - บริโภค 2,535 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อการรักษาระบบนิเวศและอื่น ๆ
8,820 ล้านลกู บาศกเ์ มตร นอกจากนี้ ยังมีปริมาณนำ้ สำรองไว้สำหรบั ตน้ ฤดูฝน 16,055 ล้านลูกบาศกเ์ มตร

4.2.2 แผนการจัดสรรนำ้ และการปลกู พืชฤดูแลง้ ในลมุ่ น้ำต่าง ๆ

กรมชลประทาน และหน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้องไดก้ ำหนดหลักเกณฑ์ช่วงนบั ระยะเวลาการเพาะปลูกพืชฤดู

แล้งในแต่ละปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 30 เมษายน ของปีถัดไป ยกเว้น 6 จังหวัด ได้แก่

นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส นับช่วงระยะเวลาเพาะปลูกพืชฤดูแ ล้ง ตั้งแต่

วันที่ 1 มีนาคม ถึง 15 มิถุนายน ของปีถัดไป สำหรับแผนการจัดสรรน้ำและการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี

2565/66 ในลมุ่ น้ำต่าง ๆ มีดังน้ี

1) ลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาตรน้ำใช้การได้รวมกัน

จำนวน 12,187 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าปี 2564 ที่ผ่านมาจำนวน 6,342 ล้านลูกบาศก์เมตร

เขื่อนแควนอ้ ยบำรงุ แดน มปี ริมาตรน้ำใช้การได้ 914 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกวา่ ปี 2564 ที่ผา่ นมา ประมาณ

13 ลา้ นลกู บาศก์เมตร เข่อื นป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาตรนำ้ ใช้การได้ 973 ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร น้อยกว่าปี 2564

ทผี่ า่ นมาประมาณ 25 ลา้ นลูกบาศก์เมตร

ดังนั้น ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2565/66 จึงกำหนดแผนการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อน

สิริกิติ์ รวมจำนวน 7,450 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จำนวน 550 ล้านลูกบาศก์เมตร

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จำนวน 600 ล้านลูกบาศก์เมตร และรักษาระบบนิเวศแม่น้ำท่าจีน - แม่น้ำเจ้าพระยา

500 ล้านลูกบาศก์เมตร

สำหรับการพิจารณาจัดสรรน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และ

เขอ่ื นป่าสักชลสทิ ธ์ิ ใหแ้ กก่ จิ กรรมการใชน้ ำ้ ต่าง ๆ ตามรายละเอียด ดังนี้

- การใชน้ ้ำพื้นทเี่ หนือเขื่อนเจ้าพระยา 2,710 ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร

- การใชน้ ำ้ ทงุ่ ฝงั่ ตะวันตกตอนบน 1,625 ล้านลูกบาศก์เมตร

- การใช้น้ำทงุ่ ฝงั่ ตะวนั ออกตอนบน 1,400 ล้านลกู บาศก์เมตร

- การใชน้ ้ำทุ่งฝง่ั ตะวันออกและตะวันตกตอนล่าง 1,365 ล้านลูกบาศก์เมตร

- การประปานครหลวง 900 ล้านลกู บาศกเ์ มตร

- รักษาระบบนิเวศและผลกั ดนั น้ำเค็มปากแมน่ ำ้ 1,100 ล้านลกู บาศก์เมตร

เจ้าพระยาตอนลา่ ง และปากแมน่ ำ้ ทา่ จีน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ย์ตดิ ตามและแกไ้ ขปญั หาภยั พบิ ตั ดิ ้านการเกษตรจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา

- 17 -

สำหรับแผนการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งในเขตชลประทาน ปี 2565/66 พื้นที่ลุ่มน้ำ
เจ้าพระยามีปริมาตรน้ำใช้การได้ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 จำนวนประมาณ 14,074 ล้านลูกบาศก์
เมตร (เขื่อนภูมิพล 8,174 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ 4,013 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุง
แดน 914 ลา้ นลูกบาศก์เมตร และเขอ่ื นป่าสักชลสิทธิ์ 973 ล้านลกู บาศก์เมตร) ไดก้ ำหนดแผนการระบายน้ำ
จากเขื่อนทั้ง 4 แห่ง และรักษาระบบนิเวศแม่น้ำท่าจีน - แม่น้ำเจ้าพระยา 500 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับ
กจิ กรรมการใชน้ ้ำต่าง ๆ ท่ีกำหนดไวร้ วมทั้งส้นิ 9,100 ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร แยกเปน็ เพ่อื การอุปโภค – บริโภค
1,150 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อการรักษาระบบนิเวศและอื่น ๆ 2,020 ล้านลูกบาศก์เมตร จัดสรรน้ำในพื้นท่ี
คาดการณ์ข้าวนาปรัง 5,425 ล้านลูกบาศก์เมตร และด้านการเกษตรอื่นในช่วงฤดูแล้ง 370 ล้านลูกบาศก์
เมตร นอกจากนี้ ปริมาณน้ำใชก้ ารได้ทเี่ หลือจากการจดั สรรอีกจำนวน 5,474 ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร จะสำรองไว้
ใชใ้ นต้นฤดูฝนชว่ งเดอื นพฤษภาคม ถงึ เดอื นกรกฎาคม 2566

พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา วางแผนด้านการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ปี 2565/66 จำนวน 7.80
ลา้ นไร่ ประกอบดว้ ย ขา้ วนาปรงั 6.64 ลา้ นไร่ พชื ไร่ - พชื ผัก 0.10 ลา้ นไร่ ออ้ ย 0.40 ลา้ นไร่ ไม้ผล - ไม้ยืนต้น
0.26 ลา้ นไร่ บอ่ ปลา - บ่อกุง้ และอ่นื ๆ 0.40 ลา้ นไร่

2) ลุ่มนำ้ แมก่ ลอง
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาตรน้ำใช้การได้
รวมกันประมาณ 8,964 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้อยกว่าวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จำนวน 1,349 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร วางแผนจัดสรรน้ำไว้ทั้งหมด 5,500 ล้านลูกบาศก์เมตร แยกเป็นเพื่อการอุปโภค - บริโภค
460 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อการรักษาระบบนิเวศและผลักดันน้ำเค็มปากแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำท่าจีน
1,860 ล้านลูกบาศกเ์ มตร เพ่อื การเกษตร 3,180 ลา้ นลกู บาศก์เมตร จดั สรรเป็นพน้ื ที่ดา้ นการเกษตร จำนวน
2.07 ล้านไร่ ประกอบด้วย ข้าวนาปรัง 0.84 ล้านไร่ พืชไร่ - พืชผัก 0.17 ล้านไร่ และอื่น ๆ 1.06 ล้านไร่
(อ้อย 0.46 ล้านไร่ ไม้ผล - ไม้ยืนต้น 0.33 ล้านไร่ บ่อปลา - บ่อกุ้ง และอื่น ๆ 0.27 ล้านไร่) นอกจากน้ี
ปริมาณน้ำใช้การได้ที่เหลือจากการจัดสรรอีกจำนวน 4,813 ล้านลูกบาศก์เมตร จะสำรองไว้ใช้ในต้นฤดูฝน
ชว่ งเดือนกรกฎาคม ถึง เดอื นสิงหาคม 2566
3) ลุ่มนำ้ ภาคกลาง

(1) ณ วันท่ี 1 พฤศจิกายน 2565 เขอื่ นกระเสยี ว มปี รมิ าตรนำ้ ใชก้ ารได้ 259 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 87 ของความจุที่ระดับเก็บกัก โดยมีแผนการระบายน้ำในช่วงฤดูแล้ง
ปี 2565/66 ทั้งสิ้นประมาณ 170 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อสนับสนุนการเกษตรในชว่ งฤดแู ลง้ ได้แก่ ข้าวนาปรงั
81,439 ไร่ อ้อย 25,247 ไร่ ไมผ้ ล - ไมย้ ืนต้น 1,277 ไร่ บอ่ ปลา บอ่ กงุ้ และอ่ืน ๆ 84 ไร่

(2) ณ วนั ที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เขื่อนทับเสลา มปี รมิ าตรนำ้ ใช้การได้ 144 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 90 ของความจุที่ระดับเก็บกัก โดยมีแผนการระบายน้ำในช่วงฤดูแล้ง
ปี 2565/66 ทั้งสิ้นประมาณ 62 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการใช้น้ำต่าง ๆ ในเขตโครงการ
ชลประทาน ได้แก่ ข้าวนาปรงั 40,000 ไร่ อ้อย 9,000 ไร่ ไมผ้ ล - ไมย้ นื ต้น 700 ไร่

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ยต์ ดิ ตามและแก้ไขปญั หาภัยพบิ ตั ิดา้ นการเกษตรจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา

- 18 -

บทท่ี 5
แผนป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยดา้ นการเกษตรในช่วงฤดแู ลง้ ปี 2565/66

จงั หวดั พระนครศรีอยุธยา

5.1 การป้องกันและลดผลกระทบ (Prevention & Mitigation) ตลอดจนการเตรียมความพร้อม
(Preparedness)

1) สำนกั งานเกษตรและสหกรณ์จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา
(1) การจัดทำแผนเตรียมรับสถานการณ์ในช่วงฤดูแล้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนเตรียมรับ

สถานการณ์ในชว่ งฤดแู ลง้ ประกอบดว้ ย การดำเนินการกอ่ นเกิดภัย ขณะเกดิ ภัย และหลงั เกิดภยั
(2) เป็นหน่วยงานกลางในระดับจังหวัดเพื่อประสานการแจ้งเตือนภัย การติดตามสถานการณ์

การรายงานผลการให้ความชว่ ยเหลือเกษตรกรใหส้ ่วนกลางทราบ
2) โครงการชลประทานพระนครศรอี ยธุ ยา
(1) วางแผนบริหารการจัดการน้ำเพื่อการปลูกพืชฤดูแล้งในเขตชลประทาน กำหนดแผนการ

ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ตามมาตรการบริหารจัดการน้ำแบบยั่งยืน พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้ งเตือนให้
เกษตรกรใช้นำ้ อย่างประหยัด

(2) การเตรยี มความพร้อมเครื่องจักรกล เครื่องสบู นำ้ รถบรรทุกนำ้ อากาศยาน ยานพาหนะ และ
อปุ กรณต์ ่าง ๆ

3) สำนักงานเกษตรจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา
(1) จดั ทำแผนการชว่ ยเหลอื เกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งอยา่ งเร่งดว่ น
(2) ประสานงานกับโครงการชลประทานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่และติดตามประกาศของกระทรวง

เกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องการใช้น้ำเพื่อการเกษตร และแจ้งเตือนเกษตรกรให้ทราบเป็นการล่วงหน้า
เพื่อเตรยี มรับภัยไดท้ นั

(2) แจ้งเตือนเกษตรกรและกำหนดพื้นที่ในการทำนาปรังของเกษตรกร โดยลดพื้นที่ทำนาปรัง
และใหป้ ลูกพชื ท่ใี ช้นำ้ นอ้ ยแทน

(3) เตรียมการป้องกันด้านศัตรูพืช โดยให้คำแนะนำด้านวิชาการในการดูแลรักษาพืชที่ปลูกแล้ว
ซงึ่ จะกระทบกับภัยแล้งมิใหเ้ กิดความเสยี หาย เช่น การคลุมโคนต้น การใหน้ ำ้ อยา่ งประหยดั และตอ่ เนอื่ ง

(4) การตดิ ตอ่ ประสานงานระหวา่ งอำเภอและจังหวดั อยา่ งรวดเร็ว และมีประสทิ ธภิ าพในข้ันตอน
การรายงานสถานการณภ์ ัยแลง้ จนกวา่ สถานการณ์ภยั แล้งส่ภู าวะปกติ

(5) ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำใ นการ
ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพบิ ตั ิ

4) สำนักงานประมงจังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา
เกษตรกรที่จะได้รับการช่วยเหลือต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนด้านประมงกับหน่วยงานของกรม
ประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนเกดิ ภัยพบิ ตั ิแลว้ เท่าน้ัน

4.1 การประชาสัมพันธแ์ จง้ เตอื นภยั กับเกษตรกร
(1) ดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยกับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้ทราบถึงช่วง

ระยะเวลา หรือภาวะภยั ทจี่ ะมาถงึ เพอ่ื สามารถเตรยี มตวั รบั สถานการณ์ หาวธิ ีการปอ้ งกนั แก้ไขหลีกเล่ียงความ
เสียหายทีจ่ ะเกดิ ข้ึนให้มากที่สุด โดยดำเนนิ การในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แจ้งผ่านทางผูน้ ำชุมชน หอกระจายเสยี ง
ทางสถานีวิทยุ กลุ่มไลน์ เฟสบุค เป็นตน้

(2) ให้เกษตรกรติดตามขา่ วสารพยากรณอ์ ากาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ติดตามและแกไ้ ขปญั หาภยั พบิ ตั ิด้านการเกษตรจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา

- 19 -

(3) ให้เกษตรกรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และต้องมีความระมัดระวังโรคระบาด
สัตว์นำ้ ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวดว้ ย

4.2 ใหค้ ำแนะนำทางด้านวิชาการ
(1) ควบคุมการใช้น้ำและรักษาปริมาณน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำให้มีการสูญเสียน้อยที่สุด

ปอ้ งกันการร่ัวซมึ หรอื จัดทำรม่ เงาให้กับบอ่ เล้ยี งสัตวน์ ้ำ
(2) จดั เตรยี มหาแหลง่ น้ำสำรองไว้ใชเ้ พมิ่ เติม
(3) จับสัตวน์ ้ำทไ่ี ดข้ นาดขึ้นมาจำหน่ายหรอื บริโภค เพือ่ ลดปริมาณสตั ว์น้ำภายในบ่อ
(4) ลดปรมิ าณอาหารสัตวน์ ้ำลง โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ท่ีเปน็ อาหารสดเพื่อป้องกนั น้ำ เน่าเสีย
(5) ควรปลอ่ ยสตั วน์ ำ้ ลงเลีย้ งในปริมาณหนาแน่นน้อยกว่าปกติ และควรปลอ่ ยพันธ์ุสัตว์น้ำที่

มีขนาดใหญ่ เพื่อลดระยะเวลาการเลี้ยงให้น้อยลง
(6) ควรงดเว้นการขนถ่ายสัตว์น้ำ ถ้าจำเป็นต้องระมัดระวังให้มาก เนื่องจากจะมีผลกระทบ

กับการกนิ อาหารและการเจรญิ เตบิ โตของสตั วน์ ้ำโดยตรง
(7) ต้องเพิม่ ความสนใจ สงั เกตอาการต่าง ๆ ของสัตว์น้ำท่ีเกิดข้ึนอย่างใกล้ชิด หากมีอาการ

ผิดปกตจิ ะไดแ้ กไ้ ขและใหก้ ารรักษาได้ทันทว่ งที
(8) ควรมีการวางแผนการเลี้ยง หรืองดเว้นการเลี้ยงใช่วงดังกล่าว โดยทำการตากบ่อและ

ตกแต่งบอ่ เลี้ยงในชว่ งดังกล่าวแทน เพ่ือเตรยี มไวเ้ ลีย้ งสตั ว์น้ำในรอบต่อไป
5) สำนกั งานปศุสัตวจ์ ังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดความสูญเสียด้านปศุสัตว์จากภัยแล้ง จำเป็นต้อง

เตรียมส่งิ ตา่ ง ๆ ดังนี้
5.1 การเฝ้าระวังก่อนเกดิ ภยั
(1) การจัดทำฐานข้อมูลประชากรสัตว์ แปลงหญ้า เป็นรายครัวเรือนและแหล่งเลี้ยงสัตว์

สาธารณะ โดยข้อมูลจะต้องเป็นปัจจุบัน และควรแจ้งข้อมลู ให้ท้องถ่ิน เชน่ องคก์ ารบริหารส่วนตำบลและศูนย์
ถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบลทราบด้วย ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการวางแผนช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยและการ
สำรวจความเสียหายหลังจากภัยสงบ

(2) การสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัย โดยให้ประสานกับหน่วยงานของกรมการป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย กรมพัฒนาทีด่ นิ กรมชลประทาน หรือหนว่ ยงานอนื่ ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง เพอื่ ประโยชน์ในการแจ้งเตือนภัย

(3) หน่วยประชาสัมพันธ์ มีภารกิจในการประชาสัมพันธ์ แนะนำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์
เตรียมป้องกันภัย โดยการสำรวจเสบียงสัตว์ เวชภัณฑ์ การนำสัตว์ไปฉีดวัคซนี ล่วงหน้า เพื่อเป็นการเสรมิ สร้าง
ภูมิคุ้มกันโรคให้กบั สตั ว์ การชะลอนำสัตว์เข้าเลี้ยง หรือการจำหน่ายสัตว์ ก่อนฤดูที่มีความเสี่ยงสำหรับภยั แลง้
จะต้องมีการกักเก็บน้ำสะอาดสำหรับสัตว์ รวมทั้งให้ความรู้กับเกษตรกรในการสำรวจเสบียงสัตว์ เช่น การทำ
หญ้าแห้ง หญ้าหมัก ฟางปรุงแต่ง หรือวิธีการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอื่น ๆ มาใช้ในการเลี้ยงสัตว์ อีกท้ัง
ส่งเสรมิ ใหเ้ กษตรกรเลีย้ งสัตว์สำหรับการเกษตรอื่น ๆ ในลกั ษณะเกษตรผสมผสานแทนเกษตรเชิงเดย่ี ว

(4) หน่วยให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพสัตว์และรักษาสัตว์ป่วย สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด
พระนครศรีอยธุ ยาได้มีการจัดหนว่ ยสัตวแพทยเ์ คลือ่ นท่ีออกใหบ้ ริการชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั แลง้ ดังนี้

- ให้คำแนะนำการดแู ลสุขภาพสตั วเ์ บือ้ งตน้ รวมทั้งภาวะเครียดทางจิตใจ
- ทำการฉีดวัคซีนป้องกันภาวะโรคระบาดสัตว์ เช่น โรคปากและเท้าเปื่อย
โรคเฮโมรายกิ เซพติซเี มยี ร์ เปน็ ต้น
- ใหก้ ารดูแลรักษาสตั ว์ปว่ ย หรือบาดเจบ็ จากการอพยพเคล่ือนยา้ ย
- ช่วยแนะนำกำจดั สตั วท์ ี่เปน็ พาหะนำโรคจากสตั ว์สคู่ น เชน่ หนู สุนขั แมว ฯลฯ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ย์ตดิ ตามและแกไ้ ขปญั หาภัยพบิ ตั ดิ ้านการเกษตรจังหวัดพระนครศรอี ยุธยา

- 20 -

5.2 การเตรียมบคุ ลากร
(1) จัดประชุมบุคลากรทกุ กลุ่มงานตามภารกจิ เพื่อชี้แจงและมอบหมายหนา้ ที่ท่ีตอ้ งปฏิบัติ

เม่อื เกดิ ภัยพบิ ัติ พร้อมท้ังแนะนำ หรืออบรมใหค้ วามรทู้ ่คี วรทราบตามความเหมาะสม
(2) การจัดแบบจำลองการเกิดภัยพิบัติ เพื่อทดสอบความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิด

ความพร้อมในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แต่ละคนได้เข้าใจบทบาทของตนเอง จึงให้มีการจำลองภัยพิบัติท่ี
เกิดขึ้นในพื้นที่ใด ๆ จนถึงขั้นมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ และวัสดุอุปกรณ์ตา่ ง ๆ เข้ามาในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลอื
ผู้ประสบภัย โดยให้ปฏิบัติเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การได้รับแจ้งเตือนภัยจากกรม
อุตุนิยมวิทยา หรือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จนกระทั้งมีภัยเกิดขึ้น และมีการระดมกำลังอย่างเต็ม
รูปแบบ การจัดทำแบบจำลองการเกดิ ภยั พิบัติน้ีมีจุดประสงคเ์ พือ่ ศึกษาปญั หาและอุปสรรคของการปฏิบัติงาน
การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อจะได้ปรับปรุงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้สามารถ
ทำงานได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพสงู สุด โดยใชเ้ วลาสนั้ ท่สี ดุ และมีการสญู เสยี น้อยทีส่ ุด

5.3 การเตรยี มวัสดุอุปกรณแ์ ละยานพาหนะสำหรบั ดำเนนิ งาน
เพื่อให้การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสามารถดำเนินการได้ทันที
เม่ือเกิดภยั ผรู้ บั ผดิ ชอบในระดับจงั หวัดควรจัดเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์และยานพาหนะ สำหรับดำเนินการดงั นี้

(1) การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาสัตว์ป่วย ซึ่งจะต้องมีบัญชีแจ้ง
รายละเอียด ชนิด จำนวน และสถานที่เกบ็ ซึ่งพร้อมใช้งานได้ทนั ที ประกอบด้วย หลอดและเข็มฉีดยา สำหรับ
ใช้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค และรักษาสัตว์ป่วย ยาปฏิชีวนะ และยารักษาแผล และวัสดุที่ใช้สำหรับรักษาแผลสด
วัคซนี สำหรับป้องกันโรค วสั ดุสำหรบั เก็บตัวอย่าง เช่น ชุดเจาะเลือดและเก็บเซร่ัม นำ้ ยาฆ่าเชื้อโรค รองเท้าบูท
แบบรายงานตา่ ง ๆ ทต่ี อ้ งใช้ดำเนินการ เป็นต้น

(2) การจัดเตรียมยานพาหนะ สำหรับใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น การอพยพสัตว์
การขนส่งเสบียงสัตว์ เป็นต้น เพื่อให้มีความพร้อม โดยระบุผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน ควรมีการวางแผนการใช้
ยานพาหนะ มีบัญชีกำหนดผู้รับผิดชอบ พนักงานประจำรถ หมายเลขทะเบียนรถ และสังกัดหน่วยงาน รถทุก
คันจะต้องมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทันที และแจ้งแผนการใช้งานให้ผูเ้ กี่ยวขอ้ ง
ทราบดว้ ย

5.4 การจดั เตรยี มเสบยี งสัตว์
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดเตรียมเสบียงสัตว์สำรอง เพื่อช่วยเหลือสัตว์ท่ี
ขาดแคลนอาหารสัตว์ จำนวน 5 แห่ง คือ

จุดที่ 1 ที่ตำบลศาลาลอย อำเภอท่าเรือ สามารถสนับสนนุ เสบียงสัตว์จำนวน 5 ตัน ให้แก่
สัตวป์ ระสบภัยในพื้นที่ อำเภอท่าเรือ มหาราช บ้านแพรก ภาชี

จุดที่ 2 ที่ตำบลชายนา อำเภอเสนา สามารถสนับสนนุ เสบียงสัตว์ จำนวน 5 ตัน ให้แก่สัตว์
ประสบภัยในพ้นื ที่ อำเภอเสนา บางซา้ ย พระนครศรอี ยุธยา บางบาล

จุดที่ 3 ที่ตำบลน้ำเต้า อำเภอบางบาล สามารถสนับสนุนเสบียงสัตว์ จำนวน 5 ตัน ให้แก่
สตั วป์ ระสบภัยในพน้ื ที่ อำเภอบางบาล ผักไห่ บางปะหัน บางปะอนิ

จุดที่ 4 ที่หมู่ที่ 1 ตำบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา สามารถสนับสนุนเสบียงสัตว์
จำนวน 5 ตนั ให้แก่สัตวป์ ระสบภัยในพืน้ ที่ อำเภอพระนครศรอี ยุธยา ภาชี อุทยั นครหลวง

จดุ ท่ี 5 ท่ีศูนย์วิจัยและพฒั นาอาหารสตั ว์ จงั หวัดชัยนาท สามารถสนบั สนุนเสบยี งสัตว์ จำนวน
20 ตัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยในพื้นที่ อำเภอนครหลวง บางปะหัน บางปะอิน บ้านแพรก และ
อำเภออนื่ ๆ ของจังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ยต์ ดิ ตามและแกไ้ ขปญั หาภยั พบิ ตั ิดา้ นการเกษตรจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา

- 21 -

6) สถานพี ฒั นาท่ีดนิ พระนครศรอี ยธุ ยา
(1) แนะนำและให้ข้อมูลทางวิชาการด้านดิน ให้เกษตรกรทราบข้อมูลเขตการใช้ที่ดินและสามารถ

นำมาใช้ประโยชน์ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม และสง่ เสรมิ ให้ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยในชว่ งฤดูแล้ง และแนะนำให้ปลูก
พชื ปุย๋ สดเพือ่ ปรับปรงุ บำรุงดินก่อนการปลูกพชื หลกั

(2) ประชาสัมพันธ์ใหท้ ราบพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เพื่อเตรียมรับสถานการณ์และหลีกเลี่ยงความเส่ยี ง
ความเสียหายท่อี าจจะเกิดขนึ้ จากขอ้ มูลของกรมพัฒนาทด่ี นิ (www.ldd.go.th)

7) สำนกั งานสหกรณ์จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา
ติดตามข่าวสถานการณภ์ ัยแล้งอย่างใกล้ชดิ พร้อมที่จะแจ้งข่าวให้สหกรณ/์ กลุม่ เกษตรกร เพื่อเตรียมตัว
ก่อนเกิดภัย โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดมีการประชาสัมพันธ์ทางสื่อวิทยุอยู่เป็นประจำกั บสถานีวิทยุ สวท.
จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา
8) ศูนยว์ ิจยั ข้าวพระนครศรีอยธุ ยา
แจ้งประชาสัมพันธ์กับเกษตรกร เรื่อง สภาวะภัยแล้ง ช่วงที่เกิดภัยแล้ง และพื้นที่เสี่ยงภัย และแนะนำ
การปลูกขา้ วโดยใช้นำ้ อย่างประหยัดใหแ้ ก่เกษตรกร
9) ศนู ยป์ ฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง
จัดทำแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วงฤดูแล้ง (กุมภาพันธ์ ถึง เมษายน) เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นท่ี
เกษตรกรรมและพื้นที่ป่าไม้ เพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า เพื่อบรรเทาความรุนแรงของพายุฤดูร้อน
และลูกเหบ็

5.2 การจดั การในภาวะฉกุ เฉิน (Emergency Management)
5.2.1 การตดิ ตามและแจ้งเตือนภัย
(1) ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ระดับจังหวัด ติดตาม ประเมิน

สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัด และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
สำนักงานเกษตรอำเภอ/ตำบล สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานประมงอำเภอ เพื่อดำเนินการแจ้งเตือนภัย
และประชาสมั พันธ์ขอ้ มูลขา่ วสารใหเ้ กษตรกรทราบ

(2) สำนักงานเกษตรจังหวัด / ประมงจงั หวัด / ปศุสตั วจ์ ังหวัด และหน่วยงานที่เก่ียวข้องในพื้นท่ี
ดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัย และติดตามเฝ้าระวังแมลงศัตรูพืชระบาด โรคระบาดสัตว์ และโรค
ระบาดสตั วน์ ้ำ ที่อาจเกดิ ขน้ึ พร้อมให้คำแนะนำในการป้องกันกำจดั ที่ถกู ต้องแก่เกษตรกรในพืน้ ที่

5.2.2 การประเมินความเสยี หายและการให้ความชว่ ยเหลือเบื้องตน้
(1) เมื่อเกิดภัยพิบัติด้านการเกษตร ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบเกิดความเสียหาย

ให้เจ้าหน้าที่สำนกั งานเกษตรอำเภอ/เกษตรตำบล รายงานสถานการณ์ภัย และประเมินความเสียหายเบื้องต้น
(แบบ คชภ.1) แจ้งหน่วยงานระดับจังหวัดทราบทันที หรือภายใน 24 ชั่วโมง แล้วรายงานกรมต้นสังกัด และ
สำเนาแจง้ ศูนยต์ ิดตามและแกไ้ ขปญั หาภยั พบิ ตั ดิ ้านเกษตร ระดบั จังหวดั ทราบ

(2) จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ระดับจังหวัด
เพื่อเตรียมการช่วยเหลือเบื้องต้น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระดมดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่
เกษตรกรในพื้นท่ีประสบภัยเพ่ือบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า

5.2.3 การดำเนินงานของหน่วยงานในสงั กัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
1) สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์

ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ประสานศูนย์ปฏิบัติการ
ฝนหลวงในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อขอรับการสนับสนุนฝนหลวงในพื้นที่ประสบภัยแล้ง โดยศูนย์ปฏิบัติการ
ฝนหลวงจะทำการบินปฏิบัติการฝนหลวงตามแผนและตามที่ได้รับคำรับร้องขอ ทั้งนี้ สามารถปรับแผนปฏิบัติ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ตดิ ตามและแก้ไขปญั หาภยั พบิ ตั ิด้านการเกษตรจังหวดั พระนครศรีอยุธยา

- 22 -

การด้านสถานที่ตั้งหน่วยปฏิบตั ิการฝนหลวง การจัดสรรอากาศยาน และบุคลากรไปยังหน่วยปฏิบัติการต่าง ๆ
ตามความเรง่ ดว่ น/รนุ แรงของปัญหาภัยแล้งไดต้ ลาดเวลา

2) โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ติดตาม ประเมินสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
เพื่อปรับแผนการจัดสรรน้ำ แผนการระบายน้ำ รวมทั้งปรับรอบเวรการใช้น้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้
สอดคลอ้ งกบั ความต้องการและเหมาะสมกับสถานการณ์ นอกจากน้ไี ด้ดำเนินการติดตง้ั เคร่ืองสูบน้ำ และจัดส่ง
รถบรรทุกน้ำ เพอ่ื ใหค้ วามช่วยเหลอื เกษตรกรในพน้ื ท่ีประสบภัย

3) สำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใหร้ ายงานสถานการณเ์ มื่อเกดิ ภัยแล้งในพื้นท่ีให้
จงั หวัดทราบโดยด่วนตามแบบรายงานท่ีกำหนด พรอ้ มจัดเจ้าหน้าท่ีผูเ้ กีย่ วขอ้ งเพ่อื ประสานงานและรับแจ้งจาก
จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมแบบรายงาน (ค.ช.ภ. ๑) ที่จะรายงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง และให้
เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งระดับจังหวัดและอำเภอ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและออกเยี่ยมเยียน
ผปู้ ระสบภยั ตลอดเวลา ระหว่างท่ยี งั คงมสี ถานการณ์ภยั แล้งเกดิ ขึ้น

4) สำนักงานประมงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมประมงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรม
ประมงทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เตรียมรับสถานการณ์และให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์และติดตาม
สถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานให้กรมประมงทราบทุกสัปดาห์ และหากเกิดผลกระทบทางด้านประมง
ให้หน่วยงานในสงั กัดกรมประมงเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะ
หน้าตามความสามารถและศักยภาพของหน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมาย และประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่
เก่ยี วขอ้ งในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกร เช่น หน่วยงานของกรมชลประทาน องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น และให้สำนักงานประมงจังหวัดพิจารณาการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ตามระเบียบ
กระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 ข้อ 27
กำหนดหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณฉี ุกเฉิน พ.ศ. 2556 และ
ดำเนนิ การเป็นไปดว้ ยความถกู ต้องรวดเร็วและเปน็ ธรรม

5) สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดตามการรายงานพยากรณ์อากาศของกรม
อุตุนิยมวิทยาตลอดเวลา ประสานงานกับหน่วยงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และติดตาม
รายงานสภาพน้ำ โดยประสานกับชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบ
สถานการณ์ของภัยท่ีจะเกิดข้ึน และเมื่อมีภัยเกิดข้นึ ต้องเรง่ ดำเนนิ การ ดังน้ี

(1) ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยกับเกษตรกร เพื่อเตรียมพร้อมสถานการณ์ หาวิธีป้องกัน
และแก้ไข ลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด เช่น การเตรียมการอพยพสัตว์ การเตรียมเสบียงสัตว์ การจับสัตว์ขายก่อน
เกิดภยั เป็นตน้

(2) จัดหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการแนะนำการดูแลสุขภาพสัตว์ และรักษาสัตว์
ป่วย ให้เจา้ หนา้ ท่ปี ศสุ ัตว์อำเภอ เป็นผรู้ บั ผดิ ชอบเขา้ ไปดแู ลและใหค้ ำแนะนำโดยเรว็ ทีส่ ุด

(3) นำเสบียงสัตว์ที่สำรองไว้ ออกมาแจกจ่ายช่วยเหลือสัตว์ประสบภัย โดยให้พิจารณาจาก
จำนวนสัตว์ ความรนุ แรงของภัยพบิ ตั ิท่ีไดร้ ับ

(4) การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ขณะเกดิ ภยั โดยใชเ้ งินทดรองราชการ
(5) สำรวจความเสียหาย กรณีสัตว์ตายหรือสญู หาย แปลงหญ้าเสียหาย รายงานจังหวัด และ
กรมปศสุ ัตว์ทราบทุกระยะ

5.3 การฟื้นฟูทีด่ กี ว่าเดมิ (Recovery be back better)
ศนู ยต์ ดิ ตามและแก้ไขปัญหาภยั พบิ ัติดา้ นการเกษตร ระดับจังหวัด รวบรวมข้อมลู ผลการช่วยเหลือของ

หน่วยงานต่าง ๆ แล้ว รายงานให้ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ทราบ และประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนยต์ ดิ ตามและแกไ้ ขปญั หาภยั พบิ ตั ิด้านการเกษตรจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา

- 23 -
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด) เร่งดำเนินการสำรวจความเสียหาย และจัดเตรียมข้อมูลเพื่อนำเข้าที่ประชุม
คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงนิ
ทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒556 ข้อ 27 กำหนดหลักเกณฑ์การใ ช้
จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พิบตั กิ รณีฉุกเฉนิ พ.ศ.256 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

KkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkK

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ติดตามและแก้ไขปญั หาภยั พบิ ัติดา้ นการเกษตรจังหวดั พระนครศรอี ยุธยา

- 24 -

ภาคผนวก

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ย์ตดิ ตามและแก้ไขปญั หาภยั พบิ ัตดิ า้ นการเกษตรจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา

- 25 -

ขอ้ มลู ปฏทิ นิ สนิ คา้ เกษตรจังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

ท่ี ชอ่ื ชนิดสินค้า จำนวน เนื้อที่ เน้ือที่ ปริมาณผลผลติ คาดการณ์
เกษตรกร
1 ขา้ วนาปรัง เพาะปลกู เก็บเก่ยี ว/ รวมของปีการ ปริมาณการ
2 ข้าวนาปี (ครวั เรือน)
3 ขา้ วโพดเลย้ี งสตั ว์ 19,664 ยนื ต้น เนือ้ ที่ใหผ้ ล ผลติ 2565 ผลิตปี 2566
4 มันเทศ 35,530
5 มนั หวานญป่ี ุ่น 1 (ไร่) (ไร่) (ตัน) (ตัน)
6 ออ้ ยเค้ียว 40
7 แตงไทย 2 442,043 441,973 35,689.40 332,341
8 แตงโมเนือ้ 5
9 แตงโมอ่อน 1 823,595 60,469.73 591,828.66 551,856.33
10 แตงรา้ น 3
11 กระจบั 2 18 18 27 27
12 กระเจ๊ยี บเขยี ว 7
13 กระเฉด 5 352 352 1,053 1,053
14 กระชาย 13
15 กะเพรา 3 11 1 -
16 ข่า 8
17 ข้าวโพดฝกั อ่อน 627 16 15 54
18 ข้าวโพดฝกั สด 14
19 ขา้ วโพดหวาน 6 11 66
20 คะน้า 79
21 แค 35 12 12 28 6
22 แคตาลูป 36
23 ชะอม 10 99 7 -
24 ดอกขจร 35
25 ตะไคร้ 57 60 56 71 72
26 ตั้งโอ๋ 2
27 เตย 60 20 20 15 21
28 แตงกวา 1
29 ถว่ั เขยี วผิวมนั 1 48 48 41 59
30 ถั่วฝกั ยาว 39
31 ถวั่ พู 1 17 15 11 12
32 ถั่วอืน่ ๆ 124
5 55 44
1
769 732 1,910 1,922

19 18 63 50

13 13 27 31

171 156 234 227

96 96 536 536

96 96 537 537

88 3 35

273 241 410 393

56 55 95 86

33 56

121 121 204 226

42 33

66 5 -

89 77 83 89

12 12 2 -

185 171 454 486

22 10 12

11 11

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ยต์ ดิ ตามและแกไ้ ขปญั หาภัยพบิ ัตดิ า้ นการเกษตรจังหวดั พระนครศรอี ยุธยา

- 26 -

ที่ ช่ือชนิดสินค้า จำนวน เนอื้ ท่ี เนอื้ ท่ี ปรมิ าณผลผลติ คาดการณ์
เกษตรกร เพาะปลกู เก็บเกย่ี ว/ รวมของปกี าร ปรมิ าณการ
33 บวบ ยนื ต้น เนื้อทีใ่ ห้ผล ผลิต 2565 ผลิตปี 2566
34 บวั บก (ครัวเรือน)
35 บัวสาย 43 (ไร)่ (ไร)่ (ตัน) (ตัน)
36 ผักกวางตุ้ง 2 144 107 140 173
37 ผักกาดหอม 8 5 56 12
38 ผักโขม 16 8 87 7
39 ผักชี 17 82 67 83 108
40 ผกั บุ้งจนี 1 107 80 66 87
41 ผักบุง้ น้ำ 13 6 33 3
42 พริกขี้หนสู วน 170 26 24 61 64
43 พรกิ ขีห้ นูเม็ดใหญ่ 17 871 819 1,319
44 พรกิ ใหญ่ 198 205 205 207 1,359
45 ฟกั ทอง 305 145 127 139 251
46 ฟัก/แฟง 2 526 489 1,751 170
47 มะเขือเปราะ 28 3 34
48 มะเขือพวง 34 36 36 121 1,753
49 มะเขือยาว 3 50 50 144 4
50 มะเขืออน่ื ๆ 32 5 56
51 มะระจีน 18 25 22 29 139
52 แมงลัก 51 18 16 40 163
53 เห็ดนางฟา้ 19 23 23 94
54 เหด็ นางฟา้ ภฎู าน 2 130 130 126 1
55 เห็ดฟาง 9 1 11 32
56 เห็ดพนั ธุอ์ ืน่ ๆ 11 5 56 44
57 โหระพา 5 5 58 93
58 กระท้อน 106 4 45 149
59 กล้วยไข่ 492 253 253 19 1
60 กลว้ ยน้ำว้า 11 570 568 2,714 6
61 กล้วยเลบ็ มอื นาง 170 17 13 9 9
62 กล้วยหอม 330 204 398 6
63 แกว้ มังกร 1,641 3
64 โกโก้ 2 2,865 1,942 2,524 2,753
65 ขนนุ 2 27 10
66 ชมพู่ 1,824 422
8 3,213 2,160 2,937 2,678
2 9 5 19 8
10 2 22 3,118
12 11 8 23 20
14 10 23 2
24
24

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนยต์ ิดตามและแก้ไขปญั หาภยั พบิ ตั ิดา้ นการเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

- 27 -

ท่ี ชอื่ ชนิดสนิ ค้า จำนวน เน้ือท่ี เนอื้ ท่ี ปรมิ าณผลผลิต คาดการณ์
เกษตรกร เพาะปลกู เกบ็ เกีย่ ว/ รวมของปกี าร ปรมิ าณการ
67 นอ้ ยหน่า ยืนต้น เน้อื ทใ่ี หผ้ ล ผลิต 2565 ผลิตปี 2566
68 ฝรั่ง (ครวั เรอื น)
69 พุทรา 24 (ไร)่ (ไร)่ (ตัน) (ตนั )
70 มะกรูด 39 34 24 15 16
71 มะดนั 2 45 33 17 16
72 มะนาว 15 12 12 6 6
73 มะม่วงเขียวเสวย 4 31 30 19 22
74 มะมว่ งนำ้ ดอกไม้ 342 2 24 5
75 มะม่วงอื่น ๆ 333 390 348 325 327
76 มะยงชิด 41 550 334 257 252
77 มะละกอ 59 51 47 49
78 เมลอ่ นญ่ปี นุ่ 1,152
79 ยอบา้ น 13 2,049 1,376 1,324 1,395
80 ละมุด 391 58 30 2 3
81 ลำไย 48 671 416 307
82 ส้มเขยี วหวาน 2 208 168 1,311 304
83 ส้มโอขาวนำ้ ผึ้ง 80 30 30 60 1,346
84 ส้มโอทบั ทิมสยาม 82 104 103 50
85 สม้ โอพนั ธุ์อน่ื ๆ 162 134 133 110 18
86 ปาล์มน้ำมนั 12 237 235 160 52
87 เผือก 2 18 17 33 70
88 มะขาม 15 2 11 122
89 มะขามเทศ 16 47 12 12 55
90 มะขามปอ้ ม 25 434 417 911 2
91 มะพรา้ วแก่ 2 365 210 273 12
92 มะพรา้ วน้ำหอม 3 3 23 1,193
93 หญา้ เลี้ยงสตั ว์ 1 2 23 349
94 หน่อไม้ 241 1 11 3
95 หมาก 106 642 522 487 3
96 อนิ ทผาลัม 11 186 132 153 1
97 สมนุ ไพรอนื่ ๆ 110 100 100 60 526
5 255 211 246 183
126 9 94 57
22 364 320 309 258
62 62 22 8
323
22

ท่ีมา : สำนักงานเกษตรจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ย์ตดิ ตามและแก้ไขปญั หาภยั พบิ ัตดิ า้ นการเกษตรจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

- 28 -

สถานีสูบน้ำ และประตูระบายน้ำ
โครงการชลประทานพระนครศรอี ยุธยา

ที่ รายการ สถานทีต่ ั้ง ขนาดเครอื่ ง จำนวน พืน้ ทีร่ ับ
สบู น้ำ (เครือ่ ง) ประโยชน์
สถานสี ูบน้ำ ต.โพแตง อ.บางไทร
1 สถานีสูบนำ้ ดว้ ยไฟฟา้ คลองเป็ด ต.บ้านใหม่ (ลบ.ม./ว)ิ 1 (ไร)่
2 โรงสบู นำ้ พระศรสี ุริโยทัย อ.พระนครศรีอยธุ ยา 3
ต.ลมุ พลี อ.พระนครศรีอยธุ ยา 1.50 3,600
3 โรงสูบนำ้ สมเดจ็ พระนเรศวร 0.30 1 929
มหาราช ต.คลองตะเคียน
อ.พระนครศรีอยธุ ยา 0.50 1 500
4 โรงสูบนำ้ ปลายคลองตะเคยี น
ต.บางเด่อื อ.บางปะหนั 1.00 2 -
ประตรู ะบายน้ำ อ.ไผล่ งิ อ.พระนครศรีอยธุ ยา 3
1 ปตร.บางเดื่อ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยธุ ยา 3
2 ปตร.กระมงั ต.คลองสวนพลู 1
3 ปตร.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา
4 ปตร.ปากคลองสวนพลู ต.คลองสวนพลู 1
อ.พระนครศรีอยธุ ยา
5 ปตร.ปลายคลองสวนพลู ต.บ้านโพ อ.บางปะอนิ 3
ต.บา้ นเลน อ.บางปะอนิ 1
6 ปตร.บา้ นโพ 2 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน 1
7 ปตร.บางโทง 2 ต.บา้ นเลน อ.บางปะอนิ 1
8 ปตร.บา้ นพาส 2 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน 3
9 ปตร.บา้ นเลน 2 ต.ปากกราน 1
10 ปตร.คลองจิก 2 อ.พระนครศรีอยุธยา
11 ปตร.ปากคลองตะเคียน ต.คลองตะเคียน 1
อ.พระนครศรีอยธุ ยา
12 ปตร.ปลายคลองตะเคยี น ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน 1

13 ปตร.คลองตามา

ท่มี า : โครงการชลประทานพระนครศรอี ยุธยา

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศนู ยต์ ดิ ตามและแก้ไขปญั หาภัยพบิ ัตดิ ้านการเกษตรจังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

- 29 -

บญั ชรี ายการเครอ่ื งจักรกลกอ่ สรา้ ง
โครงการชลประทานพระนครศรอี ยธุ ยา

ท่ี รายการ จำนวน

(คนั / เครือ่ ง)

1 รถฟาร์มแทร็กเตอร์ ขนาด 90 แรงม้า ยี่ห้อแชมป์ รุ่น YTO-X904 1

พร้อมแขนยกอปุ กรณแ์ บบ 3 จดุ

2 รถกระบะหนา้ ยี่ห้อ BIG-K ร่นุ K 110 1

3 รถสูบน้ำเคลือ่ นท่ี ขนาด 150 แรงมา้ 10

ทมี่ า : โครงการชลประทานพระนครศรอี ยธุ ยา

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ติดตามและแก้ไขปญั หาภัยพบิ ัติดา้ นการเกษตรจังหวดั พระนครศรีอยุธยา


Click to View FlipBook Version