โครงการส�ำ คัญ แนวทางการดำ�เนนิ งาน เป้าหมาย หนว่ ยงาน
โครงการยกระดับการบรกิ าร การพฒั นาฐานข้อมลู จดั เก็บทะเบียนประวัติ ศูนยก์ ลางการให้บริการขอ้ มูล หนว่ ยงาน
ด้านการศกึ ษา ผูเ้ รียน เช่อื มโยงข้อมูลระหวา่ งหน่วยงาน และบริการด้านการศกึ ษา ขบั เคลอ่ื นหลกั
ด้านการศึกษา จุดเดยี ว (e-Education Hub)
ของประเทศ ศธ.
โครงการยกระดบั การบรู ณาการ เชอื่ มโยงขอ้ มลู ดา้ นสุขภาพ และน�ำเทคโนโลยี หนว่ ยงาน
ฐานขอ้ มลู สาธารณสขุ ดิจิทลั มาใชป้ ระโยชนใ์ นการพัฒนาบริการ – การแลกเปลย่ี นข้อมูล ขบั เคล่อื นรอง
ด้านสขุ ภาพให้แก่ประชาชน
สขุ ภาพระหว่างหนว่ ยงาน ดศ.
Health Information หน่วยงาน
Exchange (HIE) ส�ำ หรบั ขับเคลื่อนหลัก
หน่วยงานผูใ้ หบ้ ริการสุขภาพ
ภาครัฐ สธ.
– ระบบฐานขอ้ มูลสุขภาพ หนว่ ยงาน
ขบั เคล่อื นหลัก
ประชาชน (Personal
Health Record) ระหวา่ ง มท. กทม.
ประชาชนและหน่วยงาน
ผใู้ ห้บรกิ ารสุขภาพ
โครงการพฒั นาระบบอำ�นวย พฒั นาระบบกลางในการขอเริ่มต้นธรุ กจิ ระบบกลางในการขอเร่ิมตน้ หน่วยงาน
ความสะดวกในการประกอบ ในประเทศไทย ธุรกจิ ทผ่ี ปู้ ระกอบการ ขบั เคลอ่ื นหลกั
ธรุ กจิ แบบครบวงจร นกั ลงทุนสามารถติดต่อ ก.พ.ร. สพร.
(Biz portal) ขอเรม่ิ ต้นธุรกจิ ผา่ นระบบ
ออนไลน์ กรอกแบบฟอร์ม
ย่นื เอกสารหลกั ฐานผา่ นระบบ
คอมพวิ เตอรไ์ ดท้ กุ ที่ทกุ เวลา
โครงการระบบฐานข้อมูล บูรณาการและวิเคราะหข์ ้อมูลทะเบยี นเกษตรกร ระบฐานข้อมูลเกษตรกรกลาง หนว่ ยงาน
เกษตรกลาง (Farmer One) (Farmer One) ท่สี ามารถเปิด ขบั เคล่อื นหลัก
ให้บรกิ ารแก่ภาคธรุ กจิ น�ำ ไป กษ. อว. ดศ.
ใช้ประโยชน์ สพร.
โครงการระบบ National รวบรวมข้อมูลธุรกรรมด้านการลงทนุ จากการ ระบบบูรณาการใบอนุญาต หนว่ ยงาน
Single Window (NSW) เชอ่ื มโยงข้อมูลระหว่างหนว่ ยงานภาครฐั เพื่อน�ำ เขา้ ส่งออกระหวา่ ง ขบั เคลอ่ื นหลัก
เพ่อื อ�ำนวยความสะดวกแกผ่ ้ปู ระกอบการในการ หน่วยงานภาครัฐ
ตดิ ตอ่ ราชการเพื่อเร่ิมธรุ กจิ หรอื ขอใบอนุญาต/ (Regulatory Single Window) ก.พ.ร.
อนมุ ตั ิ หรอื การยน่ื ค�ำขอหรือเอกสารต่างๆ ทคี่ รอบคลุมทุกใบอนุญาต
โดยด�ำเนินการผ่านจุดเดียว (ปี พ.ศ. ๒๕๖๓) หน่วยงาน
บูรณาการครอบคลุม ขบั เคลอ่ื นรอง
โครงการ Tourism Intelligence บรู ณาการข้อมลู การทอ่ งเท่ียวจากหน่วยงานต่างๆ อตุ สาหกรรมทอ่ งเที่ยวของ
Center เชน่ ขอ้ มลู สถานทท่ี ่องเที่ยว ขอ้ มูลท่พี กั ขอ้ มูล ประเทศ (ปี พ.ศ. ๒๕๖๒) สพร. BOI
รา้ นอาหาร ขอ้ มูลการเดินทาง รวมถึงระบบ สศอ.
วิเคราะหข์ อ้ มลู และแสดงผลเพอ่ื สนับสนุนการ
หนว่ ยงาน
ขับเคล่อื นหลัก
กก. ททท.
บรหิ ารจัดการท้งั ในภาครฐั และภาคเอกชน หน่วยงาน
ขบั เคลอ่ื นรอง
ดศ.
50 แผนปฏบิ ตั ิการด้านดจิ ิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
โครงการสำ�คัญ แนวทางการด�ำ เนนิ งาน เปา้ หมาย หนว่ ยงาน
โครงการระบบศนู ย์รวม สสว. เป็นหนว่ ยงานหลกั ในการจดั ทำ�ระบบ ระบบศูนยร์ วมและเผยแพร่ หนว่ ยงาน
ขอ้ มลู เพ่ือสง่ เสริมศักยภาพ ศนู ยร์ วมและเผยแพรข่ อ้ มลู เพื่อเพมิ่ ศักยภาพ ขอ้ มูลเพื่อเพิม่ ศักยภาพ ขบั เคลอ่ื นหลกั
SMEs (SMEs Information ของผูป้ ระกอบการ SMEs โดยขอ้ มูลที่เกย่ี วข้อง ของผปู้ ระกอบการ SMEs
Portal) ได้แก่ ข้อมูลโครงสรา้ ง SMEs สถานการณ์ SMEs (ปี พ.ศ. ๒๕๖๒) สสว.
การคา้ ระหว่างประเทศของ SMEs ดชั นีชี้วัด หนว่ ยงาน
ทางเศรษฐกจิ ต่างๆ ของ SMEs ข้อมลู ทางการเงิน ขบั เคล่ือนรอง
ของ SMEs และการวิเคราะหศ์ กั ยภาพของ SMEs
ดศ.
ตวั อย่างโครงการส�ำคัญระยะ ๑ ปี ๖ เดือน หนว่ ยงาน
ก.พ.ร. สพร.
โครงการส�ำ คญั ก.พ.ร. สพร.
๑. โปรแกรมการเปลย่ี นผ่านบริการภาครฐั สยู่ คุ ดจิ ิทัล (Digital Transformation Program: DTP) ดศ.
๒. โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศเพ่ือรองรับงานบริการภาครฐั (พัฒนาระบบสารสนเทศสำ�หรับ
พรบ. อำ�นวยความสะดวกในการพจิ ารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ ระยะที่ ๒)
๓. โครงการเตรยี มความพรอ้ มระบบขอ้ มูลศูนยส์ ารสนเทศแหง่ ชาติ
๔. โครงการระบบศูนย์รวมขอ้ มูลเพอื่ ส่งเสริมศกั ยภาพ SMEs (SMEs Information Portal) อก.
ผลผลิต
๑) จ�ำนวนระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐที่มีการเช่ือมโยงและบูรณาการข้อมูลข้ามหน่วยงานไม่น้อยกว่า
๑๒ ระบบบริการ และมีการเปิดเผยชดุ ขอ้ มูล (Open Data) เพมิ่ ขนึ้
๒) Biz Portal ศนู ยก์ ลางบรกิ ารภาครฐั ในการขอเริ่มต้นธุรกจิ
51
๓.๒ ปฏิรูปการบริหารจัดการของภาครัฐ (Government Transformation For Government Management)
การพัฒนาประเทศไทยสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลจะต้องพึ่งพาภาครัฐในฐานะท่ีเป็นผู้อำ�นวย
ความสะดวก (Facilitators) และผู้กำ�กับดูแล (Regulator) ในการพัฒนาประเทศ การนำ�เทคโนโลยีดิจิทัล
มาใช้ในกระบวนการทำ�งานและบริหารจัดการของภาครัฐเพื่อพัฒนาไปสู่รัฐบาลดิจิทัล จะสร้างผลกระทบ
ทางเศรษฐกิจ และผลประโยชน์แก่ผู้รับบริการ ท่ีผ่านมาภาครัฐไทยให้ความสำ�คัญกับการพัฒนาและการนำ�
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการพัฒนาประเทศมาโดยตลอด เห็นได้จาก
การบรรจุมาตรการนำ�เทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับปรุงบทบาทภาครัฐมาต้ังแต่กรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศ
แ ล ะ ก า ร ส่ื อ ส า ร ฉ บั บ แร ก เ มื่ อ ปี พ . ศ . ๒ ๕ ๓ ๙ อ ย่ า ง ไร ก็ ต า ม ภ า ค รั ฐ ยั ง ไ ม่ ส า ม า ร ถ เ ป็ น รั ฐ บ า ล อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์
ได้อย่างสมบูรณ์ตามท่ีกำ�หนดไว้ในกรอบนโยบาย/แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ความท้าทาย
ของการพัฒนาภาครัฐไทย คือการพัฒนาท่เี กิดผลอย่างเป็นรูปธรรมยังคงจำ�กัดอย่ใู นวงแคบ ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ไม่หลากหลายไม่ครอบคลุม ไม่ทันกับการเปล่ียนแปลง และยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน
และผู้ใช้บริการท้ังภายในและภายนอกหน่วยงาน จากผลการจัดอันดับดัชนี E-Government Development
Index (EGDI) ซ่ึงจัดทำ�โดยองค์การสหประชาชาติ (United Nations) ล่าสุดในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ท่ีศึกษาและจัด
อันดับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ๑๙๓ ประเทศทั่วโลก พบว่าอันดับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (อันดับดัชนี EGDI)
ของประเทศไทยอยู่ในอันดับท่ี ๗๗ ของโลก โดยอันดับดังกล่าวขยับขึ้นจากอันดับที่ ๑๐๒ ของโลกในผลการจัดอันดับ
ก่อนหน้า (ปี พ.ศ. ๒๕๕๗) และอยู่ในอันดับที่ ๔ ของกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีอันดับเป็นรองประเทศสิงคโปร์
ซงึ่ เปน็ ประเทศผนู้ ำ�การพฒั นารฐั บาลดจิ ทิ ลั ของภมู ภิ าค และอยใู่ นอนั ดบั ท ่ี ๒ ของโลก มาเลเซยี ซงึ่ อยใู่ นอนั ดบั ท ่ี ๖๐ ของโลก
และฟลิ ปิ ปนิ ส์ ซ่งึ อยใู่ นอนั ดบั ที ่ ๗๗ ของโลก
ปัจจุบันโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีเกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ได้ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงบริบทของโลกในทุกๆ ด้านแม้กระท่ังกระบวนการท�ำงานของภาครัฐ หน่วยงานภาครัฐ
สามารถน�ำเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นมาปรับใช้กับการให้บริการประชาชน การบริหารจัดการภาครัฐ การก�ำหนดนโยบาย
ต่างๆ รวมไปถึงการแก้ไขปัญหา อุปสรรค หรือความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะท�ำให้รูปแบบการท�ำงาน การให้
บริการ และการด�ำเนินการต่างๆ ของภาครัฐเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีความทันสมัย รวดเร็ว น่าเช่ือถือ และโปร่งใส มุ่งสู่
การเปน็ รัฐบาลดิจทิ ลั อย่างสมบรู ณ์
แนวทางการขบั เคลอ่ื น
มงุ่ เนน้ การขบั เคลอื่ นสรู่ ฐั บาลดจิ ทิ ลั โดยแกป้ ญั หากระบวนการท�ำงานทปี่ จั จบุ นั ยงั มปี ระสทิ ธภิ าพตำ�่ การเชอื่ มโยง
ข้อมูลยังมีน้อย มีระบบงานที่ลงทุนซ้�ำซ้อน และยังไม่สามารถอ�ำนวยความสะดวกประชาชนท่ีมารับบริการของรัฐ
ได้เต็มท่ี ไปสู่การเร่งน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานรัฐท้ังส่วนกลาง
และส่วนภูมิภาคอย่างมีแบบแผนและเป็นระบบ มีการบูรณาการข้อมูลและระบบงานระหว่างหน่วยงาน มีการท�ำงาน
แบบอัจฉรยิ ะ ให้บริการโดยมปี ระชาชนเป็นศูนยก์ ลาง และขบั เคล่อื นใหเ้ กดิ การเปลีย่ นแปลงไดอ้ ย่างแท้จรงิ
๑. บูรณาการและยกระดับประสิทธิภาพการด�ำเนินงานภาครัฐ ผ่านการเช่ือมโยงระบบ
จากหลายหน่วยงาน ในการบริหารจัดการ ด้านการเงินและการใช้จ่าย ด้านการจัดซื้อ
จัดจ้าง ดา้ นการบริหารสินทรัพย ์ และดา้ นทรพั ยากรมนษุ ยแ์ ละการจา่ ยเงนิ เดือน
๒. พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานการให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ ควบคู่ไปกับการยกระดับ
ขีดความสามารถและทักษะเชิงดิจิทัลให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐทุกระดับและทุกหน่วยงาน
เพอ่ื เปน็ รากฐานของการพัฒนารฐั บาลดจิ ทิ ลั โดยสมบูรณ์
52 แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นดจิ ทิ ัลเพื่อเศรษฐกจิ และสงั คม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
ตัวอยา่ งโครงการขับเคลื่อนระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕)
โครงการสำ�คญั แนวทางการดำ�เนินงาน เปา้ หมาย หน่วยงาน
โครงการระบบ New GFMIS พฒั นาระบบ GFMIS เดมิ ใหเ้ ป็นระบบ ระบบ GFMIS ให้เปน็ ระบบ หน่วยงาน
Thai การบรหิ ารการเงินการคลงั ภาครฐั อยา่ งสมบูรณ์ การบรหิ ารการเงินการคลัง ขบั เคลอ่ื นหลกั
แบบ โดยเป็นฐานขอ้ มูลกลางแบบ Matrix ภาครัฐอยา่ งสมบรู ณ์แบบ
และ Online real-time เพอ่ื ให้การบรหิ าร โดยเป็นฐานข้อมลู กลาง สป.กค.
การเงินการคลังของหน่วยงานภาครฐั แบบ Matrix และ Online กรมบญั ชกี ลาง
เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ real-time
หน่วยงาน
โครงการจัดท�ำร่างกฎหมาย พฒั นากฎหมายรัฐบาลดจิ ิทลั เพื่อสรา้ งกลไก กฎหมายรัฐบาลดจิ ิทัล ขบั เคลือ่ นรอง
การบรหิ ารงาน ทางกฎหมายเพ่ือผลักดนั ให้เกิดการพฒั นา
และการใหบ้ รกิ ารภาครัฐ รฐั บาลอเิ ล็กทรอนิกสท์ ีม่ กี ารเชือ่ มโยง ดศ.
ผา่ นระบบดจิ ิทัล การท�ำงาน และบรู ณาการขอ้ มลู ภายใตเ้ ครอื ขา่ ย หน่วยงาน
โครงสร้างพ้ืนฐานเทคโนโลยีดจิ ิทัลเกิดเปน็ ขบั เคลอื่ นหลกั
Connected Government
สพร.
โครงการพัฒนาโครงสรา้ ง พฒั นาเครอื ขา่ ยปดิ ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู ของภาครฐั – GIN เป็นเครือขา่ ยสอ่ื สาร หน่วยงาน
พ้ืนฐานดิจทิ ลั ภาครัฐ รองรบั การใชง้ านที่ตอ้ งการความปลอดภัยช้นั สงู ข้อมลู หลักของภาครัฐ ขบั เคลอื่ นหลกั
ทม่ี คี วามมนั่ คงปลอดภยั บนความความรว่ มมอื โครงขา่ ยบรอดแบนดแ์ หง่ ชาติ รอ้ ยละ ๑๐๐ ของการด�ำเนนิ งาน
(Government Secure (National Broadband) ตามแผน DG (๒๖ Domain) ดศ. สพร.
Intranet: GSI) สามารถเช่ือมโยงผา่ นเครอื ขา่ ย
โครงการ Government GIN ได้
Data Center and Cloud – ครอบคลมุ เครือขา่ ย GSI
Service (GDCC) ส�ำหรบั ภาครฐั ส่วนประชาชน
แบบ Smart Security
ให้บริการระบบคลาวด์แก่หน่วยงานภาครฐั ให้บรกิ ารระบบคลาวด์กลาง หน่วยงาน
ใหส้ ามารถเขา้ ถึงทรพั ยากรทางคอมพวิ เตอร์ ภาครัฐแก่หนว่ ยงานภาครัฐ ขบั เคลอ่ื นหลกั
ที่มีมาตรฐานและปลอดภยั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
ทนั ตอ่ การใชง้ าน และสามารถตอบสนองตอ่ ดศ.
ความตอ้ งการปรบั กระบวนการท�ำงาน
และการใหบ้ ริการประชาชนเพ่ือมงุ่ สู่รัฐบาล
ดจิ ทิ ลั
53
โครงการสำ�คญั แนวทางการด�ำ เนนิ งาน เป้าหมาย หน่วยงาน
โครงการสง่ เสรมิ การวเิ คราะห์ จดั ให้มีหน่วยงานหลักในการวิเคราะหข์ ้อมูล มีหนว่ ยงานใหบ้ รกิ ารวิเคราะห์ หนว่ ยงาน
ข้อมลู ภาครฐั ขนาดใหญ่ และใหค้ �ำ ปรกึ ษาทางเทคโนโลยแี ละเทคนิค ขอ้ มลู สนบั สนนุ การตดั สนิ ใจ ขบั เคลอ่ื นหลกั
(Government Data การวเิ คราะห์แกห่ น่วยงานของรัฐ รวมทง้ั ตามโจทยข์ องรัฐบาล
Analytics Centre) การบรกิ ารวิชาการดา้ นการวเิ คราะห์ข้อมลู และคณะกรรมการอ่ืนๆ ดศ.
ขนาดใหญ เพอ่ื ใหห้ นว่ ยงานและบคุ ลากรของรฐั ที่เกีย่ วข้อง
มคี วามสามารถเชิงวิเคราะห์ โดยนำ�ผลลพั ธท์ ่ีได้
จาการวเิ คราะหม์ าใช้เป็นขอ้ มลู ในการก�ำ หนด
ทิศทางการด�ำ เนินงานตามภารกจิ
หน่วยงาน
ตวั อย่างโครงการส�ำคญั ระยะ ๑ ปี ๖ เดือน
สพร.
โครงการส�ำ คญั ดศ.
ก.พ.ร.
๑. โครงการพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานและยกระดบั บรกิ ารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (พฒั นาเครอื ขา่ ยสอ่ื สารขอ้ มลู เชอ่ื มโยง ดศ.
หนว่ ยงานภาครฐั Government Information Network : GIN)
๒. โครงการ Government Data Center and Cloud Service (GDCC)
๓. โครงการเพมิ่ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารจดั การภาครฐั
๔. โครงการ Government Data Analytics Centre
ผลผลติ
๑) ระบบเช่ือมโยงฐานขอ้ มลู ภายหนว่ ยงาน
๒) แผนการบรู ณาการศนู ย์ข้อมลู (Data Center) และแผน Government Shared Services
54 แผนปฏิบตั ิการด้านดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
๔. ยุทธศาสตรพ์ ฒั นาโครงสร้างพน้ื ฐานดิจิทัลประสทิ ธภิ าพสูง ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ: ๒ ประเดน็ ขบั เคลือ่ น
๔.๑ การพัฒนาโครงสรา้ งพน้ื ฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure)
โลกได้เข้าสู่โลกยุคดิจิทัล โดยท่ีในช่วงกว่าทศวรรษท่ีผ่านมาประเทศไทยมีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น
อย่างรวดเร็ว ทั้งในเชิงจ�ำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ในปี ๒๕๕๙ มีผู้ใช้งานสูงถึง ๔๓ ล้านคน13 หรือประมาณร้อยละ ๖๖.๕
ของประชากรทั่วประเทศ และเชิงปริมาณแบนด์วิดท์ทั้งในประเทศและออกต่างประเทศท่ีเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปัจจุบัน
มีปริมาณแบนด์วิดท์ในประเทศท่ี ๔.๒ Gbps และออกต่างประเทศ ๓.๗ Gpbs14 และเติบโตข้ึนเร่ือยๆ สะท้อนให้เห็นถึง
ความตอ้ งการใช้งานดา้ นดิจิทัลในรปู แบบใหม่ๆ ท่เี พ่ิมขึน้ อยา่ งตอ่ เนือ่ ง
อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังคงเผชิญความท้าทายในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลหลายประการ
ตัวอย่างเช่น
๑. อัตราการเข้าถึงบรอดแบนด์ของประชากรไทยยังต่�ำ หรือเพียงประมาณร้อยละ ๑๐.๗๐
ของประชากรท้งั หมด ในป ี ๒๕๕๙
๒. โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในระดับ Core Network และ Middle Miles ยังไม่ครอบคลุม
ทวั่ ประเทศจากจ�ำนวน ๗๔,๙๖๕ หมู่บา้ นทวั่ ประเทศ
๓. ค่าบริการบรอดแบนด์ของไทยยังคงสูงอยู่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพ โดยค่าบริการ
บรอดแบนด์ประจ�ำบ้านของไทยคิดเป็นประมาณ ร้อยละ ๓.๘๙ ของรายได้มวลรวม
ประชาชาติ (GNI) (เทียบกับสิงคโปร์ท่ี ๐.๖๓ และมาเลเซียท่ี ๐.๙๐) และบรอดแบนด์
ผ่านโทรศพั ทม์ อื ถอื คดิ เปน็ ประมาณรอ้ ยละ ๕.๘๑ (เทยี บกบั สงิ คโปรท์ ่ี ๐.๓๑ และมาเลเซยี
ท ี่ ๑.๓๒)
๔. ประเทศไทยมีโครงข่ายสื่อสารระหว่างประเทศเช่ือมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน
ผ่านเคเบิลภาคพ้ืนดินและเช่ือมโยงกับประเทศอ่ืนๆ ผา่ นเคเบลิ ใต้น�ำ้ นอ้ ยกวา่ ประเทศอนื่
ในภูมิภาค โดย สิงคโปร์และมาเลเซียถือเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูล
อนิ เทอรเ์ น็ตในภูมภิ าคอาเซยี น
ดังน้ัน ประเทศไทยจ�ำเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานดิจิทัลหรือโครงสร้างพ้ืนฐานเทคโนโลยี
สารสนเทศ โทรคมนาคม และการแพร่ภาพกระจายเสียง ท่ีมีความทันสมัย มีคุณภาพ ขนาดเพียงพอ ครอบคลุม
ทุกพ้ืนท่ี และสามารถให้บริการได้อย่างต่อเน่ือง รองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจเชิงเศรษฐกิจเพ่ือให้ภาคธุรกิจสามารถ
แข่งขันได้ในระดับโลก ไปจนถึงการเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลในอนาคต และรองรับกิจกรรมทางสังคมเพ่ือพัฒนาคุณภาพ
ชวี ติ ของประชาชนอยา่ งทวั่ ถึงและเท่าเทยี มในโลกยุคดจิ ิทลั
๑๓ ส�ำ นักงาน กสทช. ศูนยเ์ ทคโนโลยอี เิ ล็กทรอนกิ สแ์ ละคอมพิวเตอรแ์ หง่ ชาติ 55
๑๔ สำ�นักงาน กสทช. ศนู ยเ์ ทคโนโลยีอเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละคอมพวิ เตอรแ์ ห่งชาติ
แนวทางการขับเคล่ือน
ขับเคล่ือนการเปลี่ยนแปลงด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทยจากปัจจุบันที่อัตราการเข้าถึง
บรอดแบนด์ของประชากรไทยท่ียังต่�ำและโครงข่ายสื่อสารระหว่างประเทศท่ีเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านท่ียังมีจ�ำกัด
ไปสู่การวางรากฐานดา้ นโครงสรา้ งพน้ื ฐานดจิ ิทัลของประเทศไทยทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศให้มคี วามทันสมยั
มีคณุ ภาพ ขนาดเพียงพอ ครอบคลมุ ทกุ พื้นที่
๑. ปรบั ปรงุ และขยายโครงสรา้ งพืน้ ฐานดิจิทลั (เนน้ ระบบเคเบลิ ใยแก้วน�ำแสง) ใหค้ รอบคลมุ
ทั่วประเทศระดับหม่บู า้ น
๒. ปรับปรุงและขยายโครงข่ายการสื่อสารระหว่างประเทศเพื่อเป็นศูนย์กลางการเช่ือมต่อ
และแลกเปล่ียนข้อมลู ภมู ิภาค
๓. นโยบาย กฎหมาย กฎระเบยี บเพ่อื สนบั สนนุ การบรหิ ารจัดการการใช้ทรพั ยากรโครงสรา้ ง
พ้นื ฐานดิจทิ ัลอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
๔. ปฏิรูปรัฐวิสาหกิจโทรคมนาคมให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความก้าวหน้า
ของอตุ สาหกรรมดจิ ิทลั
ตวั อยา่ งโครงการขับเคลื่อนระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
โครงการส�ำ คญั แนวทางการดำ�เนินงาน เป้าหมาย หน่วยงาน
– บรอดแบนด์เขา้ ถงึ หม่บู า้ น
โครงการยกระดับโครงสร้าง ปรับปรุงและขยายโครงสร้างพนื้ ฐาน หน่วยงาน
พ้ืนฐานโทรคมนาคม โทรคมนาคม (บรอดแบนดค์ วามเร็วสงู ทั่วประเทศ (๒๔,๗๐๐ แห่ง) ขบั เคลอ่ื นหลกั
เพ่ือขบั เคลื่อนเศรษฐกิจ ซง่ึ เกอื บทัง้ หมด เว้นพ้ืนทีห่ ่างไกลท่สี ุด ดศ. กสทช.
ของประเทศ (เนต็ ประชารัฐ) จะใช้ระบบเคเบิลใยแก้วนำ�แสง) เขา้ สู่หมู่บา้ น – จดุ กระจายสญั ญาณ Wi-Fi
ทั่วประเทศรวมถงึ Free WiFi หมูบ่ า้ นละ ๑ จดุ
หมู่บ้านละ ๑ แห่ง
ทว่ั ประเทศ
56 แผนปฏิบัตกิ ารดา้ นดจิ ทิ ลั เพือ่ เศรษฐกจิ และสงั คม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
โครงการสำ�คญั แนวทางการดำ�เนนิ งาน เป้าหมาย หนว่ ยงาน
– เขตส่งเสริมอุตสาหรรม
โครงการการจัดตั้ง จัดตัง้ เขตสง่ เสริมอตุ สาหกรรมและนวตั กรรม หน่วยงาน
เขตสง่ เสริมอตุ สาหกรรม ดจิ ิทัล หรือ Digital Park Thailand ภายใต้ และนวตั กรรมดจิ ิทัล ขบั เคลอ่ื นหลกั
และนวตั กรรมดจิ ิทัล โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวนั ออก (Digital Park) ๑ แหง่ ดศ. และ อก.
(Digital Park Thailand) (EEC) ของรฐั บาล โดย DPT มพี ้นื ที่ ๘๓๑ ไร่
ในศรีราชา ชลบรุ ี และออกแบบใหเ้ ป็นศูนยก์ ลาง – พัฒนาก�ำลังคนดิจทิ ัล หนว่ ยงาน
การเชอื่ มต่ออินเทอรเ์ นต็ ของภมู ิภาคอาเซยี น ขบั เคลอ่ื นรอง
ด้วยสทิ ธปิ ระโยชน์จาก BOI (tax, non-tax ๒๐,๐๐๐ คนตอ่ ปี นร. และ มท.
measures) และการผ่อนผนั ด้านการกำ�กบั หรอื ๑๐๐,๐๐๐ คน
ดูแล (regulatorysandbox) DPT จะเปน็ แหลง่
รวมบริษัทดจิ ทิ ลั ระดับโลกในประเทศไทย – บริษทั ในประเทศ
และเครอื ขา่ ยการลงทนุ ของนักลงทุน (Venture และตา่ งประเทศมาลงทนุ
Capital & Angel Funding) รวมถึงเป็นทีต่ ั้ง ในเขตส่งเสรมิ อตุ สาหกรรม
ของ Digital Tech Startups ทีจ่ ะจบั คู่ธุรกจิ และนวตั กรรมดิจิทลั
กบั ภาคอตุ สาหกรรมการผลติ และอตุ สาหกรรม (Digital Park) ไมน่ ้อยกว่า
เป้าหมาย S-Curve และ New S-Curve ๕๐,๐๐๐ ลา้ นบาทต่อปี
๙ อตุ สาหกรรม นอกจากน้จี ะเกิดการพฒั นา
กำ�ลงั คนดิจทิ ลั ๑๐๐,๐๐๐ คน ภายในปี ๕ ปี
โครงการเพ่ิมประสิทธิภาพ ปรบั ปรุงและขยายความจโุ ครงขา่ ยเพ่ือเช่อื มต่อ – ปรบั ปรุงและขยายความจุ หนว่ ยงาน
โครงขา่ ยอินเทอร์เนต็ อนิ เทอร์เนต็ ระหว่างประเทศโดยโครงข่ายเคเบลิ ขบั เคลอ่ื นหลกั
ระหวา่ งประเทศสู่การเปน็ ภาคพนื้ ดนิ ใหเ้ ชอื่ มกบั CLMV และจนี (ตามนโยบาย โครงขา่ ยภายในประเทศ
ศนู ยก์ ลางการเชอื่ มต่อ One-Belt, One-Road ของจนี ) เพอ่ื สรา้ ง ไปยังชายแดน ดศ.
อนิ เทอรเ์ น็ตของภูมิภาค ความเขม้ แข็งในภูมภิ าค และปรบั ปรุงและขยาย หนว่ ยงาน
อาเซยี น ความจุโครงข่ายเคเบลิ ใต้น�้ำให้เชื่อมเอเชยี แปซฟิ ิก – ร่วมลงทุนกอ่ สรา้ งโครง ขบั เคลอ่ื นรอง
(ASEAN Digital Hub) เพือ่ เพิ่มความจแุ ละจ�ำนวนเส้นทางการเชื่อมตอ่
ของไทยสู่โลก รวมท้ังส่งเสรมิ ใหภ้ าคเอกชนลงทุน ข่ายเคเบลิ ใตน้ ำ�้ ระบบใหม่ นร.
โครงขา่ ยระหว่างประเทศในเส้นทางทีห่ ลากหลาย เช่ือมไทยและต่างประเทศ
ให้ระบบมคี วามจเุ พม่ิ
ไมต่ ำ�่ กวา่ ๒๐๐ Gbps
– ขยายความจุโครงข่าย
เคเบิลใตน้ ้ำ� ระหวา่ งประเทศ
ของระบบทีม่ ีอยู่ ไมต่ �่ำกวา่
๘๐๐ Gbps
– ภาคเอกชนลงทนุ ปรับปรุง
และขยายความจุ หรอื เพิ่ม
เส้นทาง
57
โครงการสำ�คัญ แนวทางการด�ำ เนินงาน เป้าหมาย หนว่ ยงาน
โครงการจดั ตั้งบริษัท ให้บรษิ ทั กสท โทรคมนาคม จำ�กดั (มหาชน) เพ่อื เพ่ิมความสามารถ หน่วยงาน
โครงข่ายบรอดแบนด์ และ บริษทั ทีโอที จำ�กัด (มหาชน) จัดตัง้ บรษิ ัท ในการแขง่ ขนั และลด ขบั เคลอ่ื นหลกั
แห่งชาติ จำ�กัด (NBN Co.) โดยคณะกรรมการนโยบายรฐั วสิ าหกจิ (คนร.) ความซำ�้ ซอ้ นในการลงทนุ
และโครงการจดั ตง้ั บริษทั ได้มีมติเหน็ ชอบการจดั ตง้ั บริษทั โครงขา่ ย ระยะยาว ดศ.
โครงขา่ ยระหวา่ งประเทศ บรอดแบนด์แห่งชาติ จ�ำ กดั (NBN Co.)
และศูนย์ขอ้ มลู อินเทอรเ์ นต็ และบรษิ ทั โครงขา่ ยระหว่างประเทศ
จ�ำ กดั (NGDC Co.) และศูนย์ข้อมลู อินเทอรเ์ นต็ จ�ำ กดั (NGDC Co.)
ตามทีก่ ระทรวงดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม
เสนอเมื่อวนั ที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๐
โดยให้บรษิ ัทใหมท่ จ่ี ดั ต้งั มีประสิทธภิ าพ
ในการบรหิ ารงานเทียบเท่าบรษิ ัทเอกชน
เพ่ือสรา้ งความยั่งยนื ในการประกอบธุรกจิ
โครงการติดตั้งระบบ ตดิ ต้งั ระบบโครงข่ายโทรคมนาคมของ รฟท. ติดต้ังโครงข่ายโทรคมนาคม หน่วยงาน
โครงขา่ ยโทรคมนาคม เพอ่ื ชว่ ยสนบั สนนุ การพฒั นาระบบอาณตั สิ ญั ญาณ ให้ครอบคลุมสถานรี ถไฟ ขบั เคลอ่ื นหลกั
ของการรถไฟ และโทรคมนาคมเพ่อื การเดนิ รถไฟให้มี ทว่ั ประเทศ จ�ำ นวน ๔๔๒ สถานี
แห่งประเทศไทย ความปลอดภยั และมีประสทิ ธภิ าพ และสนับสนุน และศนู ยโ์ ทรคมนาคม ๒ แหง่ ดศ. คค.
ระบบสือ่ สารโทรคมนาคมภายในหน่วยงาน รวมพื้นที่ความยาวของ
ของ รฟท. รวมทัง้ เปน็ การพฒั นาระบบโครงข่าย เสน้ ทางรถไฟประมาณ
โทรคมนาคมใหส้ ามารถรองรบั การเช่ือมตอ่ กับ ๔,๓๐๐ กโิ ลเมตร เพอื่ รองรับ
การประยุกต์ใช้งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การใชง้ านในกจิ การของ รฟท.
(IT) ที่สะดวกและงา่ ยตอ่ การใชง้ าน ซ่งึ ใชใ้ นการ
บรหิ ารจัดการรถจกั ร รถโดยสาร รถสนิ คา้
เพอื่ เพ่ิมประสิทธภิ าพในการสง่ ขอ้ มลู สัญญาณ
ตา่ ง ๆ ระหว่างสถานรี ถไฟและท่ที �ำ การทกุ แห่ง
ท่ัวประเทศ
58 แผนปฏิบตั กิ ารดา้ นดจิ ทิ ัลเพ่อื เศรษฐกิจและสังคม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
ตวั อยา่ งโครงการส�ำคญั ระยะ ๑ ปี ๖ เดอื น หนว่ ยงาน
ดศ.
โครงการส�ำ คัญ ระยะ ๑ ปี ๖ เดือน
ดศ.
๑. โครงการยกระดับโครงสรา้ งพ้ืนฐานโทรคมนาคมเพอื่ ขบั เคลอื่ นเศรษฐกิจของประเทศ
๑.๑ ยกระดบั โครงสรา้ งพ้นื ฐานโทรคมนาคม หรอื โครงการเน็ตประชารฐั
๑.๒ โครงการเพิม่ ประสิทธภิ าพโครงข่ายอินเทอรเ์ น็ตระหวา่ งประเทศสู่การเปน็
ASEAN Digital Hub
๒. โครงการ Digital Park Thailand
ผลผลิต
๑) มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเคเบิลใยแก้วน�ำแสงครอบคลุมทั่วประเทศท้ัง ๒๔,๗๐๐ หมู่บ้าน
และจุดกระจายสญั ญาณ WiFi หมบู่ า้ นละจุด
๒) เพิ่มความจุโครงข่ายเชื่อมโยงไปยังชายแดนเชื่อมต่อกับประเทศกัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา
และจัดหาอุปกรณ์เพิ่มความจุโครงข่ายเช่ือมโยงไปยังสถานีเคเบิลใต้น�้ำจังหวัดชลบุรี เพชรบุรี สงขลา สตูล
ขนาดความจ ุ ๒,๓๐๐ Gbps
๓) ขยายความจโุ ครงข่ายเคเบล้ิ ใต้นำ�้ ระหวา่ งประเทศของระบบที่มีเปน็ ๑,๗๗๐ Gbps
๔) สร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น�้ำระหว่างประเทศระบบใหม่ท่ีเช่ือมต่อประเทศไทยกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค
แปซฟิ กิ เพ่อื ใหไ้ ดใ้ ชส้ ิทธก์ิ ารใชง้ านวงจร ขนาดความจุ ๒๐๐ Gbps
๕) จัดต้งั Digital Park Thailand
๔.๒ การพฒั นาเมืองอจั ฉรยิ ะ (Smart City)
การพฒั นาเมอื งอจั ฉรยิ ะ (Smart City) ในบรบิ ทของการพฒั นาดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม หมายถงึ เมอื งทไ่ี ด้
รบั การพัฒนาเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมืองให้ประชาชนในเมืองอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน
ด้วยเทคโนโลยีดจิ ิทัล ประกอบด้วย
- เมืองน่าอยู่ (Livability) เป็นเมืองที่ประชาชนทุกกลุ่ม สามารถเข้าถึงระบบสวัสดิการ
การศึกษา สาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม มีรูปแบบการด�ำรงชีวิตที่สะดวกสบาย
และม่นั คงปลอดภัย
- เมืองท่ีมีประสิทธิภาพ (Efficiency) ในการบริหารจัดการ ทุกบริการท่ีเกิดข้ึน
เป็นการแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง ตลอดจนมีการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อมอย่างเห็นคุณค่า เกิดประโยชน์สูงสุด มีการใช้
อย่างสมดุลทั้งด้านพลังงาน อาหาร และน้�ำ ซึ่งมีการผลิตขยะ และของเสียน้อยที่สุด
สามารถท�ำให้เกิดระบบนิเวศเมืองและสภาพแวดล้อมที่ดีมีคุณภาพได้ ช่วยลดความสูญเสีย
จากภยั ธรรมชาติท่ีเกดิ ข้ึน
- พัฒนาเมืองให้มีความย่ังยืน (Sustainable Development) มีระบบเศรษฐกิจที่สามารถ
อยไู่ ดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งยงั่ ยนื โดยเฉพาะจากทรพั ยากรทม่ี อี ยใู่ นพนื้ ท ่ี หรอื ทอ้ งถนิ่ สนับสนุน
ให้เกิดระบบการผลิตและระบบเศรษฐกิจที่มีความรับผิดชอบต่อเมือง ใช้เทคโนโลยีที่หาได้
หรอื ผลิตไดเ้ องในทอ้ งถิ่น หรือในประเทศ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
59
โดยไดก้ �ำหนดกรอบการพัฒนาเมอื ง ๖ ดา้ น ดงั ต่อไปน้ี
๑. พลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) พัฒนาผู้บริหารเมืองหรือผู้น�ำท้องถิ่นท่ีสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
ดิจิทัลในการพัฒนาเมือง และเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ ให้ประชาชนในท้องถิ่นสามารถประยุกต์ใช้
เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลให้เกิดประโยชน์แกต่ นเองและทอ้ งถ่ินได้
๒. ด้านเศรษฐกจิ อัจฉริยะ (Smart Economy) มีการผลักดนั เมืองให้เป็นศนู ย์กลางธรุ กิจดา้ นใดด้านหน่ึงบนฐาน
นวตั กรรมดจิ ทิ ลั เชน่ Smart Agriculture And Farm, Mice City, E-Culture City, E-Tourism City เปน็ ตน้
๓. การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) เป็นการพฒั นาระบบบริการภาครฐั ผา่ น Smart Portal
ให้ประชาชนสามารถเข้าถงึ ได้ และเพิม่ ช่องทางการมสี ่วนรว่ มและเขา้ ถงึ ขอ้ มูล และบรกิ ารสาธารณะของรัฐ
๔. ระบบขนสง่ และการสอื่ สารอจั ฉรยิ ะ (Smart Mobility) เปน็ การพฒั นาระบบการขนสง่ ทป่ี ลอดภยั ปลอดมลพษิ
และประหยัดพลังงาน พร้อมท้ังจดั ให้มีระบบบริการแนะน�ำ และใหข้ ้อมลู เกีย่ วกับเสน้ ทางจราจร
๕. สงิ่ แวดล้อมอจั ฉริยะ (Smart Environment) เป็นการพัฒนาระบบบริหารจดั การสง่ิ แวดล้อม และพลังงาน
ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับพื้นท่ีเป้าหมายการพัฒนา ตลอดจนเพ่ิมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการ
อนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ
๖. การด�ำรงชวี ติ อจั ฉรยิ ะ (Smart Living) เพอื่ สนบั สนนุ ใหม้ รี ะบบบรกิ ารทอ่ี �ำนวยความสะดวกตอ่ การด�ำรงชวี ติ
อาทิ ดา้ นสขุ ภาพ การศึกษา และพฒั นาระบบ เฝา้ ระวังภยั จากอาชญากรรมชว่ ยพฒั นาพ้ืนท่อี ยอู่ าศยั
ของประชาชน ใหม้ คี วามเหมาะสมไมแ่ ออัด
แนวทางการขบั เคลอื่ น
มงุ่ เนน้ ปรบั เปลยี่ นเมอื งธรรมดาสกู่ ารพฒั นาใหม้ คี วามเจรญิ มากยง่ิ ขนึ้ ลดความเหลอ่ื มลำ้� และเพมิ่ โอกาสการเขา้ ถงึ
ใหค้ รอบคลุมทง้ั ประเทศ
๑. สปรร้าะงเนดัก็นพคัฒวานมาตเม้อืองงกอาัจรฉใรนิยบะร ิบพทร้อขมอกงับเมใืหอ้งคทวี่าตม้อรงู้ กคาวราพมเัฒข้านใาจ ใรนววมงทกั้วงส้างร ้าดง้วคยวกาามรรจู้ ัดคกวิจากมรเรขม้าเใพจ่ือกใับหท้เขุก้าคถนึง
ท่ีเก่ยี วขอ้ งกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
๒. แจลดั ะใหเมม้ อื ีหงเนป่วา้ ยหงมาานย/ทคจี่ ณะะพขฒั บั นเาคเลพอ่ือื่ นใหกม้ าเีรจพา้ ขฒั อนงกาเามรือพงฒั อนัจาฉใรนิยพะน้ื ทใจี่นรรงิ ะแดลบั ะปมรโี คะรเทงสศรแา้ลงะขรอะงดกบัาเรมบอื รงหิ าโรดจยดั รกว่ ามรกทบั ชี่ ชดั มุเจชนน
๓. เสนอแนะการปฏิรปู กฎหมาย กฎ ระเบียบและมาตรการ ที่เกย่ี วข้องกบั การพัฒนาเมืองอัจฉริยะผา่ นกลไก
กลดารอหปุ าสรรอื รจคาแกลหะนภ่วายรงะานเส/รคิมณสะรขา้ ับงคเควลามอ่ื เนชก่ือามร่นั พใัฒนกนาารเมใชอื ง้ งาอนจั พฉรรอ้ ิยมะทโงั้ดกยาจรัดจใัดหทม้ �ำีกมฎาหตมรฐาายนกกฎารรเชะ่อืเบมียโบยงทข่สี อ้ ่งมเสลู รมิ
๔. จดั เกบ็ ขอ้ มลู ทด่ี ี มกี ารเชอื่ มโยงขอ้ มลู และเปดิ ขอ้ มลู (Platform, Service, Open Data) ทพ่ี รอ้ มตอ่ การน�ำไป
พฒั นาต่อยอดและแบ่งปันสกู่ ารใช้ประโยชน์ท้ังในเชิงเศรษฐกจิ และสงั คม
๕. RผDลักI)ดดันว้เมยอืกงาตรส้นนแับบสบนดนุ้วยใหก้เากรดิวกิจาัยรทพดัฒลนอาง ทแดลสะนอบวตัผกลรงรามนใน(RสeนsาeมaทrcดhสอDบeจvรeงิ lo(pTmesetnbtedAnแdละInSnaonvdabtioonx):
เพ่ือสร้างผลิตภณั ฑน์ วตั กรรมการพัฒนาเมอื งอจั ฉริยะสญั ชาติไทย
๖. ใสนรพ้าื้นงกทาี่เปร้ามหีสม่วานยรก่วามรพในัฒกนาารไพดั้รฒ่วนมาแเสมดืองงคอวัจามฉคริิดยเะห ็นโด รย่วจมัดอใอหก้ชแ่อบงบท รา่วงมกบารริหมาีสร่ว รน่วรม่วตมรขวอจปงประรเะมชินาผชลน
(Citizen Engagement) เพ่อื สร้างความยัง่ ยืน
๗. ขยายผลการพัฒนาเมืองอัจฉริยะสู่พ้ืนท่ีเป้าหมาย ด้วยการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั้งในรูปแบบ
กายภาพ และในรูปแบบเทคโนโลยีดิจิทัล (IoT Platform, CCTV Platfrom เป็นต้น) สร้างเครือข่าย
ความร่วมมือในการพัฒนาเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ การจับคู่การพัฒนาระหว่างรัฐกับเอกชน
หรือเอกชนกบั เอกชน หรือรฐั เอกชนและประชาชนในพื้นทเี่ ป้าหมาย
60 แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกิจและสังคม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
ตวั อยา่ งโครงการขับเคลอ่ื นระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕)
โครงการสำ�คัญ แนวทางการดำ�เนนิ งาน เป้าหมาย หน่วยงาน
– ๗๗ เมอื งอจั ฉรยิ ะ
โครงการพัฒนาเมอื ง - วางแผนแมบ่ ทการพัฒนาเมอื ง: เร่ิมต้ังแต่ หนว่ ยงานหลกั
อจั ฉรยิ ะ ระยะ ๕ ปี การเลอื กเมอื ง ซง่ึ จะตอ้ งมคี ณะกรรมการรว่ ม ปี ๒๕๖๐ เริม่ พัฒนา ดศ. มท. พน.
(พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕) ระหวา่ งเมอื งและกระทรวงดิจิทัลฯ เพอ่ื คดั เลือก Smart EEC ใน ฉะเชิงเทรา คค. อก. วธ.
พืน้ ที่ และวางแผนแมบ่ ทการพฒั นาเมอื งอัจฉรยิ ะ ชลบรุ ี ระยอง ขยายผล
ของพน้ื ทน่ี น้ั ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของประชาชน การพัฒนาใน ภูเก็ต อว. พม.
ในเมอื ง เชียงใหม่ ขอนแกน่
หน่วยงาน
- พฒั นาโครงสรา้ งพ้นื ฐานดิจทิ ลั ควบคู่กบั พัฒนาคน – มูลค่าเพมิ่ จากการลงทุน ขบั เคล่ือนรอง
ร่วมกับรฐั บาลและเอกชน ได้แก ่ เครอื ข่ายความเรว็ ทกุ กระทรวง
สูง การสรา้ งเครอื ขา่ ย Internet of Things และ ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท IoT
CCTV พรอ้ มทั้งตอ่ ยอดการพัฒนาและสรา้ งให้มกี าร เพอ่ื เมอื งอัจฉรยิ ะ
ใช้พื้นท่ีทม่ี ีศักยภาพดา้ นโครงสรา้ งพ้ืนฐาน
ดจิ ทิ ลั เพ่ือใหม้ ศี ูนยน์ วตั กรรมดิจทิ ัลท่ีสนับสนุนงาน – กระตุ้น Demand สรา้ ง
ดา้ นธรุ กจิ สรา้ งสรรคแ์ ละเปน็ พน้ื ทส่ี �ำ หรบั การท�ำ งาน
รว่ มกนั ตลาดอตุ สาหกรรมดจิ ิทลั
เพอื่ เมอื งอจั ฉรยิ ะ
- การพฒั นา Service Platforms ควบคู่กับ
การพัฒนาผ้ปู ระกอบการเพ่ือให้เกิดธรุ กจิ ใหม่ – เกิด Open Data
ในดา้ นเมอื งอจั ฉรยิ ะ และสรา้ งงานสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั เมอื ง
Platform เมืองอจั ฉรยิ ะ
- ดูแลและขยายผลงานใหค้ รอบคลมุ ทั้งพน้ื ที่ ของไทย
จังหวัด และเปน็ ตน้ แบบใหจ้ ังหวดั อื่นตอ่ ไป รว่ มกบั
การพฒั นาบคุ ลากร เพอื่ ความยงั่ ยืนในการพฒั นา – ลดคา่ น้�ำมันในการเดิน
เมอื งอัจฉรยิ ะทนี่ กั พฒั นาเมืองจะสามารถประยกุ ตใ์ ช้
เทคโนโลยดี จิ ิทัลในการแก้ปญั หา และตอ่ ยอด ทางได้ ๑๗๕ ลา้ นบาทตอ่ ปี
การพฒั นาเมอื งได้
– ลดการเกดิ อุบัตเิ หตุ
และอาชญากรรม
เพอ่ื เมอื งน่าอยู่ ปลอดภัย
- ต้ัง Smart City Operation Center
หรือ War Room ขน้ึ ทส่ี ว่ นกลางเปน็ การเชอ่ื มโยงขอ้ มลู
เพอื่ การบริหารจัดการและวางแผนการตดั สนิ ใจ
ในปีถัดไป
61
ตวั อยา่ งโครงการส�ำคัญระยะ ๑ ปี ๖ เดือน
โครงการส�ำ คญั ระยะ ๑ ปี ๖ เดือน หนว่ ยงาน
๑. โครงการพัฒนาเมืองอจั ฉรยิ ะ ใน พ้นื ท่ี ๗ จังหวัด กรุงเทพฯ ภเู ก็ต เชยี งใหม่ ขอนแก่น ดศ. คค. มท. พณ. อว.
ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
ผลผลิต
๑) พัฒนาเมอื งอัจฉริยะในพ้ืนท่ีตัวแทน ๗ จงั หวัด ได้แก่ กรงุ เทพฯ ภูเกต็ เชยี งใหม่ ขอนแกน่ ฉะเชงิ เทรา ชลบุรี
และระยอง
๒) ประชาชนในท้องถ่ินการพฒั นามากกว่า ๒,๐๐๐,๐๐๐ คน ไดร้ ับความสะดวกสบายในการเขา้ ถงึ ระบบบรกิ าร
สาธารณะพน้ื ฐาน และปลอดภัยจากอุบัติเหตุ และอาชญากรรม
๓) เกดิ เครอื ข่ายการเชอ่ื มโยงขอ้ มลู ของเมือง ในพืน้ ทต่ี วั แทนพัฒนา ๗ จงั หวดั เป้าหมาย
62 แผนปฏบิ ัติการด้านดจิ ิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
๕. ยุทธศาสตรส์ ร้างความเชอื่ มัน่ ในการใช้เทคโนโลยดี ิจทิ ัล: ๒ ประเดน็ ขบั เคล่อื น
๕.๑ การเสรมิ สรา้ งความมั่นคงปลอดภยั ทางไซเบอร์ (Cybersecurity)
แม้ว่าแนวโน้มการท�ำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้าขายผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
จะมีทั้งปริมาณและมูลค่าเพิ่มข้ึนทุกปี โดยใน พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๕๙ มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยคิดเป็น
๒.๒๔ ลา้ นลา้ นบาท และ ๒.๕๒ ลา้ นล้านบาท ตามล�ำดับ15 ประชาชนจ�ำนวนมากยงั ขาดความเชอ่ื ม่นั ในการท�ำธรุ กรรม
ผ่านทางออนไลน์ เนือ่ งจากกลวั การถูกฉ้อโกงจากการซ้ือสินคา้ และบรกิ ารผ่านทางออนไลน์ นอกจากนี้ ความก้าวหน้า
ทางเทคโนโลยีดิจิทัลยังมาควบคู่กันกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่สามารถสร้างความเสียหายแก่ระดับบุคคลและระดับ
ประเทศ โดยสถิติการรบั มือภยั คุกคามของประเทศไทยในปี ๒๕๕๙ ทรี่ วบรวมโดย ThaiCERT พบวา่ มีการรบั แจ้งเหตุ
และประสานงานรบั มอื ภัยคกุ คามไซเบอร์ทงั้ สิ้น ๓,๗๙๗ ครงั้ ซ่งึ ในรายละเอียดภยั คุกคามทีพ่ บมากทีส่ ุด ๓ อนั ดบั แรกคือ
มลั แวร์ (Malicious Code) การบกุ รุกระบบ (Intrusions) และการฉ้อโกง (Fraud)
โดยในส่วนของภาครฐั เองทไี่ ดม้ กี ารจดั เก็บข้อมูลในรปู แบบอิเลก็ ทรอนิกสม์ ากขน้ึ และเริ่มใหบ้ ริการ E-Service
และ Smart Service แกป่ ระชาชน และพระราชกฤษฎกี าก�ำหนดหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการท�ำธรุ กรรมอเิ ล็กทรอนกิ สข์ อง
ภาครฐั พ.ศ. ๒๕๔๙ ไดก้ �ำหนดใหห้ นว่ ยงานของรฐั ทม่ี กี ารท�ำธรุ กรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สต์ อ้ งจดั ท�ำแนวนโยบายและแนวปฏบิ ตั ิ
ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบสารสนเทศ และแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลของหน่วยงานภาครัฐ แต่หน่วยงานภาครัฐเองจ�ำนวนหน่ึงก็ยังมิได้ตระหนักถึงภัยและผลกระทบในประเด็น
ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบกับภาครัฐเองประสบปัญหาท่ีค่อนข้างรุนแรงในเร่ืองของ
ผ้เู ชีย่ วชาญหรือบคุ ลากรดา้ น Cybersecurity
นอกจากนี้ ในการเปรียบเทียบกบั ตา่ งประเทศ ดัชนดี า้ นความเชือ่ มนั่ ในการใช้เทคโนดจิ ิทัลทน่ี ่าสนใจอกี ตวั หนงึ่
คอื การจดั อันดบั ของ Global Cybersecurity Index & Cyberwellness Profiles โดยในปี ๒๕๕๘ สหภาพโทรคมนาคม
ระหว่างประเทศ (ITU) จดั ประเทศไทยอยูใ่ นกลมุ่ ประเทศล�ำดบั ที่ ๑๕ จากท้ังหมด ๒๙ ล�ำดับกลมุ่ ประเทศ ซง่ึ ประเทศไทย
ยงั เป็นรองสงิ คโปร์ มาเลเซีย และอินโดนเี ซยี จงึ เป็นประเด็นเรง่ ด่วนท่ตี ้องบริหารจัดการเพื่อใหป้ ระชาชนและภาคธุรกิจ
มีความเชือ่ ม่ันในการท�ำธรุ กรรมออนไลน์ มรี ะบบรองรับทีป่ ลอดภัยจากภยั คกุ คามไซเบอร์ มกี ารคมุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล
มีมาตรการคุ้มครองและเยียวยาผู้บริโภค
๑๕ ส�ำ นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส ์ (องค์การมหาชน), การสำ�รวจมูลค่าพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ในประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๙ 63
แนวทางการขบั เคลือ่ น
มงุ่ เนน้ การสรา้ งความเชอ่ื มนั่ ดว้ ยการปอ้ งกนั และปราบปราม ภยั คกุ คามทางไซเบอรท์ มี่ คี วามรนุ แรงมากขนึ้ และบางครง้ั
ถงึ ขน้ั สรา้ งความเสยี หายแกร่ ะดบั บคุ คลและระดบั ประเทศ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การดแู ลหนว่ ยงานภาครฐั ซงึ่ จ�ำนวนหนง่ึ กย็ งั มไิ ด้
ตระหนกั ถงึ ภยั และผลกระทบในประเดน็ ความมนั่ คงปลอดภยั ของขอ้ มลู และระบบคอมพวิ เตอร ์ รวมถงึ เรง่ แกป้ ญั หาทคี่ อ่ นขา้ ง
รนุ แรงของประเทศไทยในเร่อื งของการขาดแคลนผู้เชย่ี วชาญหรอื บคุ ลากรด้าน Cybersecurity ทั้งในภาครัฐและเอกชน
๑. บริหารจัดการภัยคุกคามไซเบอร์ ต้ังแต่การผลักดันกฎหมายว่าด้วยการรักษาความม่ันคง
ปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ การจัดต้ังหน่วยงานกลางด้านการรักษาความม่ันคงปลอดภัย
ไซเบอร์แห่งชาติ การพัฒนากลไกการปกป้องโครงสร้างพ้ืนฐานที่มีความจ�ำเป็นอย่าง
ยง่ิ ยวด การพัฒนา Security Framework and Standards ไปจนถึงการพฒั นาก�ำลงั คน
ผเู้ ช่ียวชาญด้าน Cybersecurity ของประเทศโดยเรง่ ดว่ น
๒. พัฒนากลไกการคุ้มครองผู้บริโภคในการท�ำธุรกรรมออนไลน์ เช่น การผลักดันกฎหมาย
วา่ ดว้ ยการคมุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล การพฒั นากลไกเฝา้ ระวงั ลดความเสย่ี งและผลกระทบ
จากการฉ้อโกงออนไลน์ การพัฒนากระบวนการระงับข้อพิพาทออนไลน์ ไปจนถึง
การสง่ เสรมิ ใหภ้ าคธรุ กจิ ก�ำกบั ดแู ลตนเองไดอ้ ยา่ งมธี รรมาภบิ าล โปรง่ ใส ตรวจสอบได้ เปน็ ตน้
64 แผนปฏบิ ตั ิการด้านดจิ ิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
ตวั อย่างโครงการขับเคล่ือนระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕)
โครงการสำ�คญั แนวทางการด�ำ เนนิ งาน เป้าหมาย หน่วยงาน
โครงการ ตดิ ตามและเฝา้ ระวงั ระบแุ ละทบทวนรายช่ือ โครงสรา้ งพนื้ ฐานทจ่ี �ำเปน็ อยา่ งยง่ิ ยวด หนว่ ยงานหลกั
ระบบโครงสรา้ งพืน้ ฐาน หน่วยงานทีอ่ ยใู่ นกลุม่ (Critical Infrastructure) มีความ ทกุ กระทรวงทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
ทจี่ �ำเปน็ อยา่ งย่งิ ยวด โครงสรา้ งพน้ื ฐานท่ี คล่องตวั ในการบรหิ ารจดั การปญั หา ในแตล่ ะภาคสว่ น ไดแ้ ก่
(Critical Infrastructure) มคี วามจ�ำเปน็ อยา่ งยงิ่ ยวด และป้องกนั ความเส่ียง ใช้เวลาลดลง ๑. ดา้ นตลาดเงนิ ตลาดทนุ
เพื่อบริหารจดั การและลด ในการระงบั เหตุ ลดปรมิ าณความเสยี หาย ๒. ดา้ นทะเบยี นราษฎร์
ความเสีย่ ง ก�ำหนดหน้าที่ หยดุ ยั้งภยั คกุ คาม และด�ำเนนิ การ ๓. ดา้ นสขุ ภาพ
ของผดู้ แู ลระบบทต่ี อ้ งเฝา้ ระวงั ทางกฎหมายกบั ผกู้ ระท�ำผดิ ๔. ดา้ นสาธารณปู โภค
และมมี าตรการด�ำเนินการ ๕. ดา้ นการขนสง่ คมนาคม
เม่ือเกิดปญั หาภยั คกุ คาม ๖. ดา้ นโทรคมนาคม
ไซเบอรอ์ ย่างทนั ท่วงที และการสอ่ื สาร
และมปี ระสิทธภิ าพ จัดให้มี ๗. ดา้ นการคา้ การลงทนุ
แนวทางการสรา้ งภมู คิ มุ้ กัน ๘. ดา้ นการบรหิ ารจดั การ
ภยั คกุ คามไซเบอรแ์ กห่ นว่ ยงาน ภยั พบิ ตั ิ
และประชาชนท่วั ไป ให้เกดิ ๙. ดา้ นความปลอดภยั
การเรยี นรแู้ ละตระหนกั ถงึ
ภยั คกุ คาม การลดความเส่ยี ง หน่วยงานร่วม
และสร้างความปลอดภยั ดศ. ท�ำหนา้ ที่ประสานงาน
เมือ่ มกี ารใชง้ านเทคโนโลยี และดูแลภาพรวม
ดิจทิ ัลด้วยการขจดั จดุ อ่อน
ทจ่ี ะชักน�ำภยั
ตวั อยา่ งโครงการส�ำคัญระยะ ๑ ปี ๖ เดือน
โครงการสำ�คญั ระยะ ๑ ปี ๖ เดอื น หน่วยงาน
๑. โครงการสนบั สนนุ การดำ�เนนิ นโยบายเศรษฐกิจดิจทิ ัลอยา่ งม่ันคงปลอดภัย (Cybersecurity ดศ.
Missions)
ดศ.
๒. โครงการส่งเสริมความเชื่อม่ันในการทำ�ธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (Thailand e-Commerce
Sustainability)
๓. โครงการพฒั นานวัตกรรมการใหบ้ ริการ Cybersecurity อว.
ผลผลิต
๑) จ�ำนวนหน่วยงานภาครัฐระดับกรมท่ีมีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและรับมือจากภัยคุกคาม
ทางไซเบอร์ ไม่น้อยกวา่ ๘๐ หน่วยงาน
๒) พัฒนาต่อยอดและกระตุ้นผู้ประกอบการให้เกิดความเชื่อมั่นในการเข้าสู่ระบบ e-Directory ที่เพิ่มข้ึน
จ�ำนวน ๑,๓๑๕ ร้านค้า โดยคิดเปน็ จ�ำนวนทงั้ หมด ๒,๗๕๐ ร้านคา้
65
๕.๒ ขับเคลอ่ื นการพฒั นากฎหมายและมาตรฐานดจิ ทิ ลั (Digital Law & Regulation)
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีท่ีมีวิวัฒนาการอย่างก้าวกระโดด ส่งผลกระทบต่อวิถีการด�ำรงชีวิตท่ีต้อง
เปล่ียนแปลงไปอย่างมาก และไม่สามารถปฏิเสธได้ ดังเช่น ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีท่ีส่งผลต่อรูปแบบการบริโภค
สินค้าและบริการที่เปลี่ยนไป ท่ีสามารถซื้อขายผ่านออนไลน์อย่างไร้ข้อจ�ำกัดทางกายภาพ ดังน้ันการพัฒนาดิจิทัล
เพ่ือเศรษฐกิจและสังคม จึงหลีกเล่ียงไม่ได้ที่จะต้องก้าวตามให้ทันกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้ามามีอิทธิพลต่อวิถีการด�ำรงชีวิต
ในปจั จบุ นั ซงึ่ กฎหมายและมาตรฐานเปน็ ปจั จยั ส�ำคญั ทจี่ ะตอ้ งปรบั ปรงุ ใหท้ นั สมยั รองรบั การเปลย่ี นแปลงทเ่ี กดิ ขน้ึ อยเู่ สมอ
โดยรัฐบาลได้เล็งเหน็ ถงึ ความส�ำคญั ในประเด็นนเี้ ช่นกัน จงึ ได้ตรากฎหมายที่เกี่ยวขอ้ ง เพอื่ ใหเ้ กดิ ความชดั เจนและถอื ปฏบิ ตั ิ
เปน็ บรรทดั ฐานเดยี วกนั 16 ดงั น้ี
๑. พระราชบัญญัติการอ�ำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นกฎหมาย
วา่ ดว้ ยการก�ำหนดใหห้ นว่ ยงานภาครฐั ตา่ งๆ ทดี่ �ำเนนิ การเกย่ี วกบั การอนญุ าต การจดทะเบยี น หรอื การแจง้ (ยกเว้น รัฐสภา
และคณะรัฐมนตรี ศาลและกระบวนการพิจารณาคดี การบังคับคดี และการวางทรัพย์ กระบวนการยุติธรรม
ทางอาญา การอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และการปฏิบัติการ
ทางทหารด้านยุทธการ การควบคุมยุทธภัณฑ์ และโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน) สามารถย่ืนค�ำขอผ่านทาง
ส่ืออิเล็กทรอนกิ สแ์ ทนการมายนื่ ค�ำขอดว้ ยตนเองเพื่อเปน็ การอ�ำนวยความสะดวกแก่ภาคประชาชน
๒. พระราชบญั ญตั กิ ารพฒั นาดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสงั คม พ.ศ. ๒๕๖๐ ถอื เปน็ กฎหมายหลกั เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความชดั เจน
ในการพัฒนาดิจิทัลเพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม และสอดคลอ้ งกบั สถานการณข์ องประเทศในปจั จบุ นั โดยก�ำหนดให้
คณะรัฐมนตรีต้องจัดให้มีนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมขึ้น
ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการในการประกาศใช้และการแก้ไขปรับปรุงนโยบายและแผนระดับชาติ
วา่ ดว้ ยการพฒั นาดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม ใหท้ าํ เปน็ ประกาศพระบรมราชโองการ และประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา
เมื่อมีการประกาศใช้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแล้ว
หนว่ ยงานของรฐั ทกุ หนว่ ยตอ้ งดาํ เนนิ การตามอาํ นาจหนา้ ทขี่ องตนใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนระดบั ชาตดิ งั กลา่ ว
และสํานักงบประมาณตั้งงบประมาณให้หน่วยงานของรัฐสอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาตินั้น
ท้ังน้ีหน่วยงานของรัฐท่ีมีหน้าที่ดําเนินการตามภารกิจที่กําหนดในนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนา
ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมต้องจัดทําหรือปรับปรุงแผนปฏิบัติการหรือแผนงานท่ีมีอยู่ให้สอดคล้องกับนโยบาย
และแผนระดับชาติดังกล่าวโดยเร็ว และส่งให้คณะกรรมการเฉพาะด้านที่คณะกรรมการมอบหมายเพ่ือทราบ
๓. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยเป็นการแก้ไขเพ่ิม
เตมิ พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการกระท�ำความผดิ เกีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ซง่ึ มีบทบัญญตั บิ างประการที่
ไม่เหมาะสมต่อการป้องกนั และปราบปรามการกระท�ำความผิดเก่ยี วกบั คอมพิวเตอรใ์ นปจั จบุ นั ซ่งึ มีรปู แบบการ
กระท�ำความผดิ ทีม่ คี วามซบั ซอ้ นมากขึน้ ตามพัฒนาการทางเทคโนโลยทีเ่ ปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
๔. พระราชบญั ญตั ริ ะบบการช�ำระเงนิ พ.ศ. ๒๕๖๐ เปน็ การตรากฎหมายเพอื่ บรู ณาการกฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ระบบ
การช�ำระเงิน เพอื่ อ�ำนวยความสะดวกใหผ้ ปู้ ระกอบการลดภาระในการปฏบิ ัติตามกฎหมายหลายฉบบั เกดิ ความ
คลอ่ งตวั สะดวก และเออื้ ตอ่ การน�ำเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมใหมๆ่ มาใชพ้ ฒั นาบรกิ ารการช�ำระเงนิ โดยมกี ารก�ำกบั
ดแู ลทเี่ หมาะสมกบั ขนาดและความเสยี่ งของธรุ กจิ รวมถงึ ยกระดบั การก�ำกบั ดแู ลระบบการช�ำระเงนิ ใหม้ คี วามมน่ั คง
ปลอดภัย มเี สถยี รภาพ สอดคลอ้ งกับมาตรฐานสากล
๕. พระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (ฉบบั ท่ี ๓) และ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยเปน็ การแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ
พระราชบญั ญัตวิ ่าด้วยธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ เพื่อให้เปน็ ไปตามมาตรฐานสากล
ปรบั ปรงุ กลไกในการก�ำกบั ดแู ลการประกอบธรุ กจิ บรกิ ารเกยี่ วกบั ธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ หช้ ดั เจนและสอดคลอ้ ง
กบั การพฒั นาดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม รวมทง้ั การก�ำหนดใหบ้ คุ คลสามารถพสิ จู นแ์ ละยนื ยนั ตวั ตนผา่ นระบบ
การพสิ จู นแ์ ละยนื ยนั ตวั ตนทางดจิ ทิ ลั ได้ โดยมกี ลไกการควบคมุ ดแู ลผปู้ ระกอบธรุ กจิ บรกิ ารทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เพอื่ นา่ เชอ่ื ถอื
และปลอดภยั
66๑๖ ปรับปรงุ ขอ้ มลู สถานะกฎหมายลา่ สดุ ณ เดอื นพฤษภาคม ๒๕๖๒
แผนปฏบิ ัติการดา้ นดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสังคม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
๖. พระราชบญั ญตั ิส�ำนกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นการตรากฎหมายเพือ่ ใหม้ หี นว่ ยงาน
ท่มี กี ารบรหิ ารงานท่คี ลอ่ งตัว และมปี ระสิทธิภาพ เพือ่ รับผดิ ชอบในการด�ำเนินการพัฒนา สง่ เสรมิ และสนบั สนุน
การท�ำธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ
๗. พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคล่ืนความถี่และก�ำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์
และกจิ การโทรคมนาคม ฉบบั ที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๖๐) และฉบบั ที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๒) แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ กฎหมายวา่ ดว้ ยองคก์ ร
จัดสรรคลื่นความถ่ีและกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม
เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ประกอบกับเทคโนโลยีการส่ือสารโดยใช้
คลน่ื ความถไี่ ดพ้ ฒั นาขน้ึ สมควรปรบั ปรงุ การอนญุ าตใหใ้ ชค้ ลน่ื ความถ่ี เพอ่ื ใหก้ ารใชค้ ลนื่ ความถเี่ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ
นอกจากนน้ั เพอ่ื ประโยชนใ์ นการแจง้ เหตฉุ กุ เฉนิ ทตี่ อ้ งการความชว่ ยเหลอื ของประชาชน สมควรก�ำหนดใหม้ เี ลขหมาย
โทรศพั ทฉ์ ุกเฉนิ แหง่ ชาติ เพอ่ื ใหก้ ารรับแจง้ เหตฉุ ุกเฉนิ มีประสทิ ธิภาพสูงสดุ
๘. พระราชบญั ญตั สิ ภาดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๒ เปน็ การตรากฎหมายเพอื่ รองรบั
การขบั เคลอ่ื นเศรษฐกจิ และสงั คมดจิ ทิ ลั โดยการรวมตวั ของภาคเอกชนในธรุ กจิ หรอื อตุ สาหกรรมดจิ ทิ ลั ซงึ่ มคี วามพรอ้ ม
ทั้งด้านก�ำลังคน ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์โดยตรง รวมท้ังมีความใกล้ชิดและความเข้าใจพฤติกรรม
ของผู้บรโิ ภค เพอื่ เปน็ องค์การส�ำคัญในการท�ำงานรว่ มกบั รัฐบาล และภาคเอกชนอ่ืนๆ ในการสนับสนุนการผลติ
และพฒั นานวตั กรรมดิจทิ ัล อันจะน�ำไปสู่การเพ่ิมขดี ความสามารถในการแข่งขนั การพฒั นาบุคลากรดา้ นดจิ ิทลั
และการน�ำนวตั กรรมดิจทิ ัลไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นประเทศไทยเพอ่ื ใหเ้ กดิ การพฒั นาประเทศอย่างย่ังยืน
๙. พระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยการคมุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล พ.ศ. ๒๕๖๒ เหตทุ ตี่ อ้ งตรากฎหมายฉบบั นเี้ นอ่ื งจากความกา้ วหนา้
ทางเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ทเ่ี ปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ และแนวโนม้ การเกดิ การละเมดิ สทิ ธใิ นขอ้ มลู สว่ นบคุ คลและสทิ ธิ
ความเปน็ สว่ นตวั มเี พม่ิ มากขนึ้ โดยเฉพาะการน�ำขอ้ มลู สว่ นบคุ คลไปแสวงหาประโยชนห์ รอื เปดิ เผยโดยมชิ อบหรอื โดยไมไ่ ด้
รบั ความยนิ ยอมจากเจา้ ของขอ้ มลู เพอ่ื ประโยชนใ์ นทางการคา้ หรอื เพอื่ ประโยชนใ์ นการน�ำขอ้ มลู สว่ นบคุ คลไปใชใ้ น
การกระท�ำความผดิ ตา่ งๆ เชน่ การฉอ้ โกง การหมน่ิ ประมาท เป็นตน้ ซึ่งปญั หาเหลา่ น้ี ย่อมส่งผลกระทบตอ่ ความ
เชื่อม่ันในการพัฒนาดิจทิ ัลเพื่อเศรษฐกจิ และสงั คม จงึ มีความจ�ำเป็นในการตรากฎหมายว่าดว้ ยการคมุ้ ครองขอ้ มลู
สว่ นบคุ คลของประเทศ เพอ่ื สรา้ งกลไกการใหค้ วามคมุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คลทเ่ี ปน็ มาตรฐานเดยี วกนั และสอดคลอ้ ง
กับมาตรฐานท่ีเป็นสากล โดยไมต่ อ้ งสรา้ งภาระหนา้ ทแี่ กผ่ เู้ กยี่ วขอ้ งจนกลายเปน็ ขอ้ จ�ำกดั หรอื อปุ สรรคในการประกอบ
ธรุ กิจการค้าหรอื การใหบ้ ริการของภาคส่วนตา่ งๆ จนเกินสมควร
๑๐. พระราชบญั ญัตวิ า่ ด้วยการรักษาความม่ันคงปลอดภยั ไซเบอร์พ.ศ.๒๕๖๒เหตทุ ีต่ ้องตรากฎหมายฉบับน้ีเน่อื งจาก
ในปัจจุบนั การใหบ้ รกิ ารหรือการประยกุ ต์ใช้เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ อนิ เทอรเ์ น็ต โครงขา่ ยโทรคมนาคม หรือการ
ให้บริการโดยปกติของดาวเทียม มีความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์อันอาจกระทบต่อความม่ันคงของรัฐ
และความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ดังนั้น เพ่ือให้สามารถป้องกัน หรือรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
ได้อย่างทันท่วงที สมควรก�ำหนดลักษณะของภารกิจหรือบริการท่ีมีความส�ำคัญเป็นโครงสร้างพ้ืนฐานส�ำคัญ
ทางสารสนเทศทั้งหน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานเอกชน ท่ีจะต้องมีการป้องกัน รับมือ และลดความเส่ียง
จากภัยคกุ คามทางไซเบอร์ มิใหเ้ กดิ ผลกระทบต่อความม่นั คงในดา้ นตา่ งๆ รวมทัง้ ใหม้ ีหนว่ ยงานเพื่อรบั ผดิ ชอบ
ในการด�ำเนนิ การประสานการปฏิบตั ิงานรว่ มกันท้ังภาครัฐและเอกชน ไมว่ ่าในสถานการณ์ท่วั ไปหรอื สถานการณ์
อันเป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างร้ายแรง ตลอดจนก�ำหนดให้มีแผนปฏิบัติการและมาตรการด้านการรักษา
ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ อย่างมีเอกภาพ และต่อเนื่อง อันจะท�ำให้การป้องกันและการรับมือกับภัยคุกคาม
ทางไซเบอรเ์ ป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
67
๑๑. พระราชบญั ญตั กิ ารบรหิ ารงานและเชอ่ื มโยงขอ้ มลู ภาครฐั ผา่ นระบบดจิ ทิ ลั พ.ศ. ๒๕๖๒ เปน็ การตรากฎหมายเพอื่ ใหเ้ กดิ
การบรู ณาการการท�ำงานและเชือ่ มโยงขอ้ มลู ภาครฐั เพม่ิ ประสทิ ธิภาพ และอ�ำนวยความสะดวกโดยก�ำหนดใหม้ ี
การจัดท�ำข้อมูลและบริการในรูปแบบดิจิทัล (Digitization) การแลกเปล่ียนและเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงาน
ของรฐั (Integration) โดยมีการจดั ตั้งศูนย์แลกเปลยี่ นข้อมูลกลางแหง่ ชาติ เพ่ือรองรับการแลกเปลีย่ นและเชอื่ มโยง
ขอ้ มลู ระหวา่ งกันและมรี ะบบบริการดจิ ิทัลแบบเบ็ดเสร็จณจดุ เดยี วเพอ่ื เช่อื มโยงขอ้ มูลไปยงั บรกิ ารดจิ ทิ ัลระหว่าง
หนว่ ยงานรฐั เขา้ ดว้ ยกนั การเปดิ เผยขอ้ มลู เปดิ ภาครฐั ในรปู แบบดจิ ทิ ลั (Open Government Data) โดยใหเ้ ปดิ เผย
ขอ้ มลู เปดิ ภาครฐั ในรปู แบบดจิ ทิ ลั ตอ่ สาธารณะผา่ นศนู ยก์ ลางขอ้ มลู เปดิ ภาครฐั (Open Government Data Center)
เพ่อื ใหป้ ระชาชนสามารถสบื คน้ และน�ำมาใชป้ ระโยชน์ได้ โดยไม่คดิ คา่ ใชจ้ ่ายใดๆ
ดังน้นั ประเดน็ ขบั เคลือ่ นการพฒั นา กฎหมายและมาตรฐานดิจทิ ลั (Digital Law & Regulation) จงึ เปน็ เรื่อง
ส�ำคญั ที่รัฐบาลตอ้ งอ�ำนวยความสะดวกให้เกิดขน้ึ เพื่อแกไ้ ข บรรเทาปญั หาอุปสรรคต่างๆ ตอ่ การขบั เคลอื่ นการพัฒนา
ดจิ ิทลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสังคมของประเทศต่อไป
68 แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นดจิ ิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสงั คม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
แนวทางการขบั เคลอื่ น
มุง่ ปรบั ปรงุ และพฒั นาให้มีกฎหมาย กฎ ระเบยี บทีท่ นั สมัยชัดเจน และมีมาตรฐานข้อมูลทีเ่ ปน็ สากลเพือ่ อ�ำนวย
ความสะดวกในการด�ำเนินธุรกจิ การด�ำรงชวี ติ ของประชาชน รองรบั การเขา้ สูย่ ุคเศรษฐกิจและสังคมดจิ ทิ ลั
๑. ก�ำหนดมาตรฐานข้อมูลที่เป็นสากล สอดคล้องกับแนวปฏิบัติท่ีได้รับการยอมรับเป็นการ
ท่ัวไป จัดให้มีระบบและข้อมูลมีความพร้อมต่อการเชื่อมโยงและใช้ประโยชน์ในการท�ำ
ธรุ กรรมระหวา่ งรฐั เอกชนและขา้ มหนว่ ยงาน มกี ารเชอ่ื มโยงและแลกเปลย่ี นขอ้ มลู แบบทนั ที
๒. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริหารจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
(Big Data Analytic) ต้องเป็นไปโดยไม่ส่งผลกระทบต่อขอ้ มลู ส่วนบุคคล อีกทง้ั มกี ารจดั ต้ัง
หน่วยงานกลางดูแลและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนก�ำหนดหลักเกณฑ์การให้
ความยินยอมและขอบเขตการใชข้ อ้ มลู ส่วนบคุ คล
๓. ภาครัฐจดั ท�ำชุดกฎหมาย กฎระเบยี บทท่ี นั สมัย ชัดเจน มกี ฎ ระเบียบทเี่ อ้อื ตอ่ การพฒั นา
ใหก้ ารท�ำ E-Business ในประเทศไทย มีความสะดวก รวดเร็ว ลดต้นทนุ และน่าเช่ือถือ
การเคลอื่ นยา้ ยสนิ คา้ มปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้ ดว้ ยระบบ e-Logistics ดา้ นระบบการช�ำระเงนิ
มีววิ ฒั นาการใหม่ๆ เพ่อื สนบั สนนุ การท�ำธุรกรรมทางการเงนิ ของประเทศที่สะดวก รวดเร็ว
มปี ระสทิ ธิภาพและนา่ เชอื่ ถือ
๔. มีกลุ่มกฎหมายท่ีเก่ียวกับการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมให้มีผลใช้
บงั คบั ซึง่ จะก่อใหเ้ กิดการเปลยี่ นแปลงทางด้านโครงสรา้ งเชิงสถาบัน การจดั ตงั้ หนว่ ยงาน
ทที่ �ำหน้าท่ีขบั เคลือ่ นอย่างเป็นรูปธรรม
ตวั อย่างโครงการขับเคล่ือนระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕)
โครงการส�ำ คญั แนวทางการดำ�เนินงาน เปา้ หมาย หน่วยงาน
ปฏิรูประบบกฎหมายที่เน้น - บรู ณาการกฎหมายทั้งระบบ - ชดุ กฎหมายท่ีได้รับ หนว่ ยงานทกุ กระทรวง
การส่งเสริมและสนับสนุน ดว้ ยการทบทวนกฎหมาย กฎ ระเบยี บ การปรบั ปรงุ เชน่ จดั ให้มี ทร่ี บั ผิดชอบดูแล
การพัฒนาดิจทิ ัล ยกเลิก ท่มี ีอยู่ในปจั จุบนั และจดั กลมุ่ กฎหมาย กฎหมายคุ้มครองพลเมอื งดี กฎหมายแตล่ ะฉบับ
กฎหมายที่เปน็ อุปสรรค ทต่ี อ้ งบัญญตั ิขนึ้ ใหม ่ ปรับปรงุ ผู้แจง้ เบาะแสจนน�ำ ไปสกู่ าร ที่เกยี่ วขอ้ ง
หรอื ยกเลิก จบั กุมผู้กระทำ�ความผดิ เป็นตน้
- ทบทวนกฎหมายทเี่ ปน็ อปุ สรรค - กฎหมายฉบบั ใหม่ท่ีเหมาะสม
และบญั ญตั กิ ฎหมายเพม่ิ เตมิ ทเ่ี ออ้ื ตอ่ ตอ่ บริบทการขับเคลอ่ื นประเทศ
การพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมดิจทิ ลั ท่ีไม่ไดจ้ �ำ กดั เฉพาะ
จากกฎหมายทม่ี อี ยู่ ณ ปจั จบุ นั เรอื่ งสารสนเทศเท่านั้น
เพอ่ื ก�ำ หนดกรอบปฏบิ ตั ทิ เ่ี หมาะสม เชน่ กฎหมายเกย่ี วกบั การรองรบั
กับบริบทของการพฒั นาดจิ ทิ ัล นวตั กรรมและเทคโนโลยดี จิ ิทลั
เพื่อเศรษฐกิจและสงั คมในภาพรวม เป็นต้น
- ตดิ ตามและปรับปรุงกฎหมาย
ให้ทันสมัยอย่างตอ่ เน่อื ง
69
โครงการสำ�คญั แนวทางการดำ�เนินงาน เป้าหมาย หน่วยงาน
การก�ำ หนดมาตรฐาน - ตรวจสอบ รวบรวม และจดั กลุ่ม ชุดมาตรฐานที่จ�ำ เปน็ ครบถว้ น หนว่ ยงานทกุ กระทรวง
เพอื่ การเชอ่ื มโยงขอ้ มลู มาตรฐานท่จี �ำ เปน็ เร่งดว่ น ซ่ึงสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพอ่ื กำ�หนดและจัด
ทงั้ นี้ ในบางกรณีจำ�เปน็ ต้อง ท�ำ มาตรฐานที่จ�ำ เป็น
- จดั ทำ�มาตรฐานต่างๆ ทจ่ี �ำ เป็น ปรบั ใชม้ าตรฐานสากลในทนั ที เพ่ือน�ำ ไปใช้ในรปู แบบ
เพมิ่ เติม ซงึ่ ตอ้ งไมส่ ง่ ผลกระทบตอ่ เช่น มาตรฐานการจราจร
การเช่อื มโยงขอ้ มลู ผา่ นระบบต่างๆ ทางอากาศ ของ ICAO เดียวกัน
ในภาพรวม มาตรฐาน Information Security
เปน็ ต้น
ตวั อยา่ งโครงการส�ำคัญระยะ ๑ ปี ๖ เดือน หน่วยงาน
โครงการสำ�คัญ ดศ.
๑. โครงการ จดั ท�ำ หรือปรับปรุงกฎหมายท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการพฒั นาดิจทิ ัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คม
๒. จัดท�ำ กจิ กรรมเผยแพร่ความร้คู วามเข้าใจในสาระสำ�คัญของกฎหมายทีม่ ีการปรับปรงุ และบัญญตั ขิ น้ึ ใหม่ ดศ.
ผลผลิต
กลมุ่ กฎหมายทม่ี ีการปรบั ปรงุ และบัญญัติขน้ึ ใหม่ท้ังสน้ิ ๘ ฉบับ
70 แผนปฏบิ ตั กิ ารด้านดิจทิ ัลเพือ่ เศรษฐกิจและสงั คม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
๖. ยุทธศาสตร์พฒั นาก�ำลงั คนให้พรอ้ มเข้าส่ยู คุ เศรษฐกจิ และสงั คมดิจิทลั : ๑ ประเดน็ ขับเคลื่อน
๖.๑ การพัฒนาก�ำลงั คนและประชาชนส่ยู ุคดิจทิ ลั (Digital Manpower And Digital Literacy)
การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัลส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั้งในด้านรูปแบบ
การใช้ชีวิตและการประกอบอาชีพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เน่ืองจากเทคโนโลยีดิจิทัลถูกน�ำมาใช้ในการอ�ำนวยความสะดวก
ในทุกมิติ ประชากรในยุคปัจจุบันจึงต้องมีความสามารถในการเรียนรู้ อัปเดตตัวเองให้เท่าทันกับเทคโนโลยีที่พัฒนา
ไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลา สามารถประมวลผลข้อมูลท่ีมีความซับซ้อน คิดอย่างเป็นระบบ และตัดสินใจจากข้อมูล
ทหี่ ลากหลายได้ และตอ้ งสามารถฉกฉวย ใชป้ ระโยชนจ์ ากโอกาสที่มากบั เทคโนโลยดี ิจิทัล เพ่อื สรา้ งนวัตกรรม สรา้ งรายได้
สรา้ งธรุ กจิ พัฒนางานในหน้าที่ หรอื พัฒนาตนเอง
ในการใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ในการท�ำงานและการด�ำรงชวี ติ OEECL ไดจ้ ดั ประเภทของทกั ษะทจี่ �ำเปน็ ไว้ ๔ ทกั ษะ ไดแ้ ก่
Digital Literacy อันเป็นทักษะพ้ืนฐานที่ทุกคนต้องมี ได้แก่ การอ่านออกเขียนได้
การคิดวิเคราะห์ และรู้ทันข้อมูลในโลกยุคดิจิทัล มีความรู้ความเข้าใจเรื่องความปลอดภัย
ความเป็นส่วนตัว เป็นทักษะที่ประชากรยุคดิจิทัลจ�ำเป็นต้องมีเพื่อการด�ำรงชีวิตในสังคม
ยคุ ดิจทิ ลั
Complimentary Skill ซ่งึ เป็นทกั ษะ Non-Digital พืน้ ฐานท่ีจ�ำเปน็ ส�ำหรบั การท�ำงาน
ในยุคดิจิทัล เช่น การท�ำงานเป็นทีม การประมวลผลข้อมูล การส่ือสาร การวางแผน
และการแกไ้ ขปญั หา
Generic Digital Skills ซ่ึงเป็นทักษะด้านดิจิทัลพ้ืนฐานส�ำหรับการท�ำงานในบริษัท
ทวั่ ไปในยุคปัจจุบัน ได้แก่ ความสามารถในการค้นหาข้อมูล การใช้ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์
ดจิ ิทัลต่างๆ
Specialist Skills คือทักษะในการท�ำงานด้านดิจิทัลระดับสูง ได้แก่ การเขียนโปรแกรม
การสร้างแอปพลเิ คชัน หรือการบริหารจดั การระบบ เป็นตน้
ปัจจุบันในประเทศไทย ยังมีความต้องการในการพัฒนาก�ำลังคนเพื่อให้พร้อมส�ำหรับเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล
ในทุกระดับ ต้ังแต่การพัฒนา Digital Literacy และทักษะพื้นฐานด้านดิจิทัลส�ำหรับประชาชนท่ัวไปในการด�ำรงชีวิต
การพัฒนาทักษะพ้ืนฐานด้านดิจิทัลส�ำหรับยกระดับความสามารถในการประกอบอาชีพท่ัวไป เพ่ือให้มีประสิทธิภาพ
ในการท�ำงานทส่ี งู ขนึ้ การพฒั นาทกั ษะระดบั สงู ดา้ นดจิ ทิ ลั ทง้ั ในดา้ นคณุ ภาพและปรมิ าณ โดยจ�ำนวนบณั ฑติ ดา้ นเทคโนโลยี
ดจิ ทิ ลั ทผี่ ลติ ได ้ มจี �ำนวนและคณุ ภาพไมเ่ พยี งพอตอ่ ความตอ้ งการของอตุ สาหกรรม โดยประเทศไทย มผี ทู้ ท่ี �ำงานดา้ นพฒั นา
ซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ คน (ที่มา TDRI) รวมไปถึงการพัฒนาทักษะก�ำลังคนเพ่ือเตรียมพร้อม
ตอ่ งานใหมๆ่ ทางดา้ นดจิ ทิ ัลท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคต เช่น งานดา้ นการสร้างเนื้อหาดจิ ทิ ัล การวิเคราะหข์ อ้ มลู เป็นตน้
71
แนวทางการขับเคล่ือน
มุ่งเน้นการพัฒนาก�ำลังคนและประชาชนเข้าสู่ยุคดิจิทัล เพื่อแก้ปัญหาก�ำลังคนของประเทศไทยท่ีขาดแคลน
บุคลากรด้านดิจิทัลในทุกระดับ และขาดแคลนเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้เช่ียวชาญ และปัญหาเรื่องการใช้ประโยชน์
จากเทคโนโลยีอย่างปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ไปสู่การพัฒนาก�ำลังคนในทุกกลุ่มทั้งกลุ่มท�ำงานด้านดิจิทัลและกลุ่ม
ท�ำงานอ่ืนๆ ให้มีทักษะดิจิทัลท่ีเหมาะสมกับการประกอบอาชีพ รวมไปถึงการพัฒนาประชาชนทั่วไปให้สามารถ
ใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทัลไดอ้ ยา่ งปลอดภัย สร้างสรรค์และรเู้ ท่าทนั ส่อื
๑. พัฒนากรอบแนวคิด (Framework) สำ�หรับ ๓ . ส่ ง เ ส ริ ม ส นั บ ส นุ น ใ ห้ ภ า ค เ อ ก ช น พั ฒ น า
ทักษะดิจิทัลแต่ละประเภทเป็นมาตรฐานกลาง กำ�ลังคนในหน่วยงาน องค์กร ให้มีทักษะดิจิทัล
เพ่อื ใช้เป็นบรรทัดฐานระหว่างนายจ้าง ผ้ทู ่ตี ้องการ ท่ีเกี่ยวข้อง ด้วยกลไกสร้างแรงจูงใจ เช่น สิทธิ
พฒั นาทักษะ และสถาบันทที่ ำ�หน้าทฝ่ี กึ อบรม ประโยชน์ทางภาษีและการสนับสนุนหรืออุดหนุน
๒ . ส่ ง เ ส ริ ม ส นั บ ส นุ น ใ ห้ บ ริ ษั ท เ อ ก ช น ที่ เ ป็ น ทางการเงิน
ผู้นำ�ในด้านเทคโนโลยี สถาบันอบรม สถาบัน ๔ . อำ�นวยความสะดวกและให้สิทธิพิเศษ
อุดมศึกษา และหน่วยงานของรัฐที่เก่ียวข้อง ในการเข้าประเทศมาทำ�งานของบุคลากรจาก
จัดการการเรียนการสอน การอบรมหรือกิจกรรม ตา่ งประเทศทม่ี คี วามเชย่ี วชาญดา้ นดจิ ทิ ลั เฉพาะทาง
ที่สร้างความเช่ียวชาญและทักษะที่จำ�เป็นสำ�หรับ ๕ . สร้างความตระหนักให้ประชาชนทุกกลุ่ม
กลุ่มเป้าหมาย (กลุ่มทำ�งานด้านดิจิทัล และกลุ่ม โ ด ย เ ฉ พ า ะ อ ย่ า ง ย่ิ ง ก ลุ่ ม เ ด็ ก แ ล ะ เ ย า ว ช น
ท�ำ งานอ่ืนๆ) ก ลุ่ม สู ง อ า ยุ แ ล ะ ก ลุ่ม ผู้ด้ อ ย โ อ ก า ส มี ค ว า ม รู้
ความเข้าใจ ในเร่ืองการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
อย่างปลอดภัย สร้างสรรค์ ร้เู ท่าทัน เกิดประโยชน์
ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
72 แผนปฏบิ ัติการดา้ นดิจทิ ลั เพอื่ เศรษฐกิจและสังคม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
ตวั อยา่ งโครงการขบั เคล่อื นระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕)
โครงการส�ำ คัญ แนวทางการดำ�เนนิ งาน เป้าหมาย หนว่ ยงาน
การเสรมิ สร้างศักยภาพ - พฒั นาก�ำ ลงั คนดา้ นดิจทิ ลั ในภาคอตุ สาหกรรม - มีผู้ได้รบั การพฒั นา หน่วยงาน
และเตรยี มความพร้อม การศึกษา และสังคม เพือ่ เตรยี มความพร้อม ศกั ยภาพดา้ นดิจทิ ัล ขบั เคลอ่ื นหลัก
กำ�ลังคนดิจิทลั ส่กู ารเป็นประเทศทข่ี บั เคล่ือนเศษฐกจิ ในอตุ สาหกรรมต่าง ๆ ดศ. ศธ. อว. นร.
ด้วยเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ไม่นอ้ ยกว่า (สถาบันคณุ วฒุ ิ
๕๕,๐๐๐ ราย
- ยกระดบั ความสามารถดา้ นดจิ ทิ ลั ของแรงงานไทย วิชาชพี )
สคู่ วามเป็นเลิศในระดับภูมิภาคและระดบั สากล - เพม่ิ ทกั ษะและการ
ใช้ประโยชน์จาก หนว่ ยงาน
- ถ่ายทอดองค์ความร้กู ารประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี เทคโนโลยีดจิ ิทลั ขับเคล่อื นรอง
ดิจทิ ลั ใหก้ ับธุรกิจและแนวทางการเปลี่ยนผา่ น อยา่ งถูกตอ้ ง
ธรุ กิจเดิมส่กู ารท�ำ ธุรกจิ ยุคดจิ ิทัล และปลอดภยั ในระดับ อก. พณ.
(Digital Transformation) ชุมชนและโรงเรียน
โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ท่วั ประเทศ ไมน่ ้อยกวา่
๒๐๐,๐๐๐ ราย
- เรง่ สร้าง Digital Tech Startup ควบคกู่ ับ
การส่งเสรมิ อตุ สาหกรรมดจิ ทิ ัลเดิมใหส้ ามารถ - ก�ำ ลงั คนดจิ ทิ ลั สามารถ
ตอบโจทยค์ วามตอ้ งการของภาคเอกชน สอบ Certification
ได้อย่างแทจ้ รงิ ระดบั Professional
ได้ ๗,๐๐๐ ราย
การพัฒนาขีดความสามารถ จดั หากลไก และมาตรการ/เครือ่ งมือชว่ ยเพิ่ม เพมิ่ ศักยภาพบคุ ลากร หนว่ ยงาน
เชงิ ดจิ ิทัลภาครัฐด้านการยก ศกั ยภาพบุคลากรของหน่วยงานภาครฐั ใหม้ ที ักษะ ของหน่วยงานภาครัฐ ขับเคลอื่ นหลกั
ระดบั ศกั ยภาพบคุ ลากรภาครฐั ความเชย่ี วชาญดา้ นระบบรฐั บาลอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ใหม้ ีทักษะ นร.(ก.พ.) ดศ.
(Digital Government Skills) ให้บรรลผุ ลส�ำ เร็จในการด�ำ เนินงานตามนโยบาย ความเชย่ี วชาญ
เศรษฐกจิ ดิจิทลั ของรัฐบาล แบ่งเป็น สำ�หรบั การทำ�งาน พนั ธมติ ร
ที่มสี ภาพแวดล้อม กับสถานศกึ ษา
๑. การพัฒนาโครงสร้างพน้ื ฐานเชงิ ดิจิทัล เปน็ ดจิ ทิ ลั และองคก์ รตา่ งๆ
ด้านศักยภาพบุคลากรภาครฐั ทง้ั ในและนอกประเทศ
๒. การบูรณาการขอ้ มลู ทุกข้นั ตอนด้าน
ศกั ยภาพบุคลากรภาครฐั กบั หนว่ ยงานทกุ ฝา่ ย
๓. การยกระดบั บริการด้านศกั ยภาพบุคลากร
ภาครัฐทั้งระบบ ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูล
ณ จุดเดยี ว
โครงการพฒั นาผูเ้ ชยี่ วชาญ พัฒนาผู้เชยี่ วชาญและกำ�ลงั คนดา้ น Big Data ก�ำ ลังคนด้าน Big Data หนว่ ยงาน
และกำ�ลงั คนดา้ นวทิ ยาการ รองรับปรมิ าณและความต้องการในอนาคต Analytics ขบั เคล่อื นหลกั
ข้อมูล (Data Science)
ดศ. ศธ.
73
โครงการส�ำ คญั แนวทางการด�ำ เนินงาน เป้าหมาย หน่วยงาน
การพฒั นาผเู้ ช่ียวชาญ จัดต้งั Cybersecurity Training Facility – Cybersecurity หน่วยงาน
และก�ำ ลงั คนด้าน (ภายใตห้ นว่ ยงานกลางดา้ นการรกั ษาความมน่ั คง Training Facility ขบั เคล่ือนหลัก
Cybersecurity ปลอดภัยไซเบอรแ์ หง่ ชาติ) และเร่งพฒั นา ๑ ศูนย์ ดศ. กห. สตช.
ของประเทศไทย ผเู้ ช่ยี วชาญและกำ�ลงั คนด้าน Cybersecurity
(Cybersecurity Specialists ทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน ให้เพยี งพอรองรับ – จำ�นวนผเู้ ชี่ยวชาญ หนว่ ยงาน
and Professionals) กับภยั คกุ คามไซเบอร์ที่มาพรอ้ มกบั ยุคดิจทิ ัล ด้าน Cybersecurity ขับเคล่อื นรอง
ให้ทดั เทยี มกับการพัฒนาด้านน้ขี องประเทศอน่ื ทงั้ ในภาครฐั และเอกชน ทุกกระทรวง
ในภมู ิภาค จ�ำ นวน ๑,๐๐๐ คน
– จ�ำ นวนกำ�ลังคน
ในสาขาดิจทิ ลั
ทั้งในภาครัฐ
และเอกชนทีม่ คี วามรู้
เรื่อง Cybersecurity
๓,๐๐๐ คน
ตัวอย่างโครงการส�ำคญั ระยะ ๑ ปี ๖ เดอื น หนว่ ยงาน
โครงการสำ�คญั ระยะ ๑ ปี ๖ เดือน ดศ. ศธ. รง.
๑. โครงการส่งเสริมศกั ยภาพการพฒั นาบคุ ลากรดิจิทัล
๒. โครงการยกระดบั ทกั ษะและศักยภาพบคุ ลากรภาครฐั นร. ดศ.
๓. โครงการพฒั นาทักษะผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะด้านดิจิทัล
ดศ. นร. ศธ. อว.
ผลผลติ
๑) เกิดทักษะแรงงานดา้ นดจิ ทิ ลั (Digital Workforce) ๒๐๐,๐๐๐ คน
๒) ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ ๕๐,๐๐๐ คน ได้รับการยกระดับและพัฒนาศกั ยภาพด้านดจิ ทิ ัล
๓) ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ น Cybersecurity ๑,๐๐๐ คน
อนึ่ง โครงการที่กล่าวถึงในแต่ละประเด็นการขับเคลื่อนต่างๆ เหล่าน้ี เป็นโครงการท่ีแสดงถึงพลังความร่วมมือ
ในการด�ำเนินงานร่วมกันจากหลายหน่วยงาน ซ่ึงเป็นโครงการท่ีส่งผลกระทบสูง สร้างคุณประโยชน์ให้เกิดขึ้น
กับประเทศอย่างเป็นผลส�ำเร็จเป็นรูปธรรม ตลอดจนยังเป็นฐานในการก�ำหนดหัวข้อการจัดท�ำแผนบูรณาการประจ�ำ
ปีงบประมาณ ตามกรอบยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณท่ีกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมเป็นเจ้าภาพรวมทั้ง
เป็นการสนับสนุนการด�ำเนินงานตามกรอบวาระนโยบายยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนของประเทศของรัฐบาล เพ่ือพัฒนา
ประเทศตามประเดน็ ส�ำคัญเรง่ ดว่ นต่อเนือ่ ง
74 แผนปฏบิ ัติการดา้ นดจิ ทิ ลั เพือ่ เศรษฐกจิ และสังคม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
75
คณะกรรมการดิจิทัลฯ
กระทรวงดจิ ิทัลเพอ่ื เศรษฐกจิ และสังคม หนวยงานของรัฐ
สำนักงานคณะกรรมการดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกจิ และสงั คมแหงชาติ
จดั ทำหรอื ปรับปรงุ
จดั ทำแผนพฒั นาดิจทิ ัล แผนปฏิบัติการหรอื
เพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คม แผนงานทีม่ ีอยใู หส อดคลอง
จัดทำแผนปฏิบัตกิ าร กองทนุ การจัดทำคำขอ
ระยะ 5 ป $ งบประมาณประจำป
5 พัฒนาดิจทิ ัลฯ
ดำเนินการตาม
สำนกั งบประมาณ แผนปฏบิ ตั ิการ
ตดิ ตามประเมนิ ผล
$ แผนบรู ณาการงบประมาณ
การพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมดจิ ทิ ลั
สำนกั งาน ก.พ.ร.
ตวั ช้วี ดั การปฏิบตั ริ าชการ
สำนกั งาน ก.พ.
จัดสรร/ พฒั นาบุคลากร
ตดิ ตามและประเมนิ ผลสำเรจ็ ของการดำเนนิ การ รายงานคณะกรรมการดิจทิ ัลฯ
กลไกการขบั เคลอื่ น
76 แผนปฏบิ ัติการดา้ นดจิ ทิ ลั เพ่อื เศรษฐกิจและสงั คม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
บทท่ ี ๕ กลไกการขบั เคลอื่ น
ก ล ไ ก ก า ร ขั บ เ ค ลื่ อ น ป ร ะ เ ท ศ ต า ม แ ผ น ป ฏิ บั ติ ก า ร ด ้ า น ดิ จิ ทั ล เ พ่ื อ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ สั ง ค ม ร ะ ย ะ ๕ ป ี
(พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕) จะให้ความส�ำคัญต่อการวางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยเพื่อเตรียมพร้อม
ต่อการปรับเปลี่ยนสู่บริบทใหม่ในยุคดิจิทัล ด้วยการน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ภายใต้นโยบายการขับเคลื่อน
ประเทศไทย ส่ิงท่ีต้องเร่งด�ำเนินการคือการขับเคล่ือนให้เห็นผลส�ำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกับการพัฒนาโครงสร้าง
เชิงสถาบันใหม่เพ่ือให้สอดรับต่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและมิติทางเศรษฐกิจ สังคมและส่ิงแวดล้อมต่างๆ
ที่เปล่ียนแปลงไปในยุคปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนการบูรณาการและการจัดสรรทรัพยากรที่เก่ียวข้องเพื่อสร้างให้เกิด
ความสมดุลในการบริหารจัดการอย่างคุ้มค่า และจัดให้มีกลไกในการท�ำงานและติดตามผลการด�ำเนินงานอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยให้เกิดสัมฤทธิผลจ�ำเป็นต้อง
อาศัยกลไกการขับเคลื่อนตาม พ.ร.บ. การพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ควบคู่กับการก�ำหนดกลไก
สนับสนุนทั้งในส่วนของกลไกการพัฒนายุทธศาสตร์ท่ีมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน กลไกการบูรณาการการน�ำ
นโยบายไปสกู่ ารปฏบิ ัติการ และกลไกการติดตามประเมินผลและติดตามสถานการณ์
๑. กลไกการขบั เคล่ือนตาม พ.ร.บ. การพัฒนาดจิ ทิ ัลเพอ่ื เศรษฐกจิ และสงั คม พ.ศ. ๒๕๖๐
พ.ร.บ. การพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้ก�ำหนดกลไกการขับเคลื่อน
ในเชงิ สถาบนั ทกี่ �ำหนดให้มีคณะกรรมการดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นคณะกรรมการระดับชาติ
ทมี่ อี �ำนาจหนา้ ทใี่ นการจดั ท�ำนโยบายและแผนระดบั ชาตวิ า่ ดว้ ยการพฒั นาดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คมเสนอแนะ
ต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือก�ำหนดนโยบายและทิศทางด้านการเงิน การคลัง การลงทุน รวมทั้งมาตรการทางภาษี
และสทิ ธปิ ระโยชนต์ า่ งๆ ตลอดจนเสนอแนะตอ่ คณะรฐั มนตรเี กย่ี วกบั การด�ำเนนิ งานตามนโยบายและแผนระดบั ชาติ
ว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการจัดให้มีหรือปรับปรุงกฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับ
การพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมและมีคณะกรรมการเฉพาะด้านท�ำหน้าท่ีสนับสนุนการปฏิบัติงาน
ของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมีส�ำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ
และสงั คมแหง่ ชาต ิ เปน็ ฝา่ ยเลขานกุ ารของคณะกรรมการ และมสี �ำนกั งานสง่ เสรมิ เศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั เปน็ หนว่ ยปฏบิ ตั กิ ารหลกั
ในการส่งเสริมและสนบั สนุนการด�ำเนนิ งานตามนโยบายและแผนการพัฒนาดจิ ิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คม
ส�ำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นหน่วยงานวิชาการมีอ�ำนาจ
หน้าที่หลักในการจัดท�ำร่างนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
และรา่ งนโยบายและแผนเฉพาะดา้ น เปน็ ศนู ยก์ ลางในการประสานงาน และสนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านตามนโยบาย
และแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งนโยบายและแผนเฉพาะด้าน ส�ำรวจ
เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ตดิ ตามความเคลอ่ื นไหวของสถานการณด์ า้ นการพฒั นาดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสงั คม แนวโนม้
การพัฒนาดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการก�ำกบั ติดตาม และประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านตามนโยบาย
และแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม แผนปฏิบัติการ แผนงานรวมท้ังมาตรการ
ท่ีเกย่ี วข้อง
ส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นหน่วยปฏิบัติการหลัก มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม และสนับสนุน
ทุกภาคส่วนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล ตลอดจนพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดการน�ำ
เทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความม่ันคงของประเทศ โดยมี
อ�ำนาจหน้าท่ีหลักในการจัดท�ำแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลให้สอดคล้องกับนโยบายและแผน
ระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมสนับสนุนการลงทุนหรือประกอบกิจการ
เกี่ยวกับอุตสาหกรรมหรือนวัตกรรมดิจิทัล ส่งเสริมสนับสนุน และด�ำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากร
ด้านอตุ สาหกรรม และนวัตกรรมดจิ ทิ ลั
77
ในด้านกลไกการก�ำหนดนโยบายและการน�ำนโยบายไปสู่การปฏิบัตินั้น พ.ร.บ. การพัฒนาดิจิทัล
เพ่ือเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้ก�ำหนดให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วย
การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมข้ึนตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ การประกาศใช้และการแก้ไขปรับปรุงนโยบายและแผนระดับชาติดังกล่าวให้ท�ำเป็นประกาศ
พระบรมราชโองการ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยเมื่อมีการประกาศใช้แล้ว ให้หน่วยงานของรัฐ
ทกุ หนว่ ยด�ำเนนิ การตามนโยบายและแผนระดบั ชาตดิ งั กลา่ วและใหส้ �ำนกั งบประมาณตงั้ งบประมาณใหห้ นว่ ยงาน
ของรัฐให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติน้ัน นอกจากนี้ยังก�ำหนดให้หน่วยงานของรัฐท่ีมีหน้าที่ด�ำเนิน
การตามภารกิจท่ีก�ำหนดในนโยบายและแผนระดับชาติ จัดท�ำหรือปรับปรุงแผนปฏิบัติการหรือแผนงานท่ีมีอยู่
ใหส้ อดคลอ้ ง และสง่ ใหค้ ณะกรรมการเฉพาะดา้ นทค่ี ณะกรรมการดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาตมิ อบหมาย
เพื่อทราบในกรณีที่คณะกรรมการเฉพาะด้านที่ได้รับมอบหมาย เห็นว่าแผนปฏิบัติการหรือแผนงานที่ได้รับ
ยังไม่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ให้แจ้งให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของแผน
ด�ำเนินการปรับปรงุ ใหส้ อดคล้อง
ภายใต้ พ.ร.บ. การพัฒนาดิจิทัลเพือ่ เศรษฐกิจและสงั คม พ.ศ. ๒๕๖๐ ยงั ไดก้ �ำหนดใหม้ ีการจดั ตั้งกองทนุ
พัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมขึ้นในส�ำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยมวี ัตถปุ ระสงค์เพอื่ ใช้จ่ายเก่ียวกบั การพฒั นาดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม เพื่อใหเ้ ปน็ ตามนโยบายและแผน
ระดับชาติวา่ ด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพ่อื เศรษฐกิจและสังคม และแผนยุทธศาสตรก์ ารส่งเสรมิ เศรษฐกจิ ดิจทิ ัล
๒. กลไกการพัฒนายทุ ธศาสตร์ทีม่ งุ่ เนน้ การมสี ่วนรว่ มจากทกุ ภาคสว่ น
ในการพัฒนายุทธศาสตร์ แผนงาน และมาตรการการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
เพ่ือรองรับการด�ำเนินงานตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
จ�ำเป็นต้องน�ำกระบวนการวิจัยเชิงนโยบาย (Policy Research) ท่ีมุ่งเน้นให้เกิดการก�ำหนดยุทธศาสตร์บนพ้ืน
ฐานของข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลสถิติเข้ามาใช้ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ผู้มีส่วนเก่ียวข้องทุกกลุ่ม ทั้งภาครัฐ
ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาควชิ าการ มสี ่วนร่วมในการออกแบบนโยบาย (Policy Design) ทงั้ การเสนอ
แนวคดิ เสนอแนะ เสนอทางเลือก และใหค้ วามเห็นในการพัฒนายุทธศาสตร์ แผนงาน และมาตรการผา่ นช่องทาง
และแพลตฟอร์มต่างๆ โดยท�ำงานในลักษณะเครือข่ายความร่วมมือร่วมกัน รวมทั้งการก�ำหนดกลไกการทดลอง
น�ำนโยบายไปสู่การปฏิบัติในสภาพแวดล้อมเฉพาะ (Regulatory Sandbox) ก่อนเสนอคณะกรรมการดิจิทัล
เพือ่ เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาตแิ ละรฐั บาล เพอื่ ก�ำหนดเป็นนโยบายสาธารณะตามกลไกของ พ.ร.บ. การพัฒนา
ดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกจิ และสงั คม พ.ศ. ๒๕๖๐ ดงั กลา่ วข้างต้น
การพฒั นายทุ ธศาสตร์ แผนงาน และมาตรการดังกล่าว จะต้องสามารถปรับเปลี่ยนใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ท
การพัฒนาของประเทศ สถานการณป์ จั จุบัน สภาพปญั หา และศักยภาพของประเทศ การพฒั นาในบรบิ ทโลก
และข้อตกลงระหว่างประเทศ ตลอดจนทิศทางและแนวโน้มการพัฒนาในอนาคต ทั้งในมิติการพัฒนาเศรษฐกิจ
และสงั คมในเชงิ องคร์ วม กฎหมาย กฎระเบยี บ และความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยแี ละนวตั กรรม โดยมคี วามมงุ่ หมาย
ให้เกดิ การพฒั นายุทธศาสตร์ แผนงาน และมาตรการท่เี ป็นนวัตกรรมทางนโยบาย (Policy Innovation)
และเปน็ การสรา้ งตน้ แบบการพัฒนาที่ย่ังยนื (Sustainable Model)
ทั้งน้ีการขับเคลื่อนการด�ำเนินงานตามกลไกการพัฒนายุทธศาสตร์ดังกล่าวจะมุ่งการใช้ประโยชน์
จากเทคโนโลยีดิจิทัลในกระบวนการท�ำงานส�ำคัญ อาทิ การน�ำเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
(Big Data Analytics) มาใชใ้ นการวิเคราะห์ และประเมนิ สถานการณก์ ารพฒั นาดจิ ทิ ลั ของประเทศ การจัดให้มี
แพลตฟอรม์ การมสี ่วนร่วมของทุกภาคส่วนผ่านระบบดิจิทลั (Crowdsourcing Platform) เป็นต้น
78 แผนปฏบิ ตั ิการด้านดจิ ทิ ัลเพื่อเศรษฐกจิ และสังคม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
๓. กลไกการบรู ณาการการน�ำนโยบายไปสกู่ ารปฏิบตั ิ
ในการน�ำนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงานและมาตรการการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม
ของประเทศไปสู่การปฏิบัตินั้น นอกเหนือจากกลไกการขับเคลื่อน ตามท่ีได้ระบุไว้ใน พ.ร.บ. การพัฒนาดิจิทัล
เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม พ.ศ. ๒๕๖๐ ดงั กลา่ วขา้ งตน้ แลว้ จ�ำเปน็ ตอ้ งมกี ารก�ำหนดกลไกการบรู ณาการการท�ำงาน
โดยการก�ำหนดบทบาทภารกิจของหน่วยงานขับเคลื่อนหลักในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ใหม้ งุ่ เนน้ การท�ำงานในลกั ษณะเชอ่ื มโยงสอดประสานกนั ทง้ั ในสว่ นของส�ำนกั งานคณะกรรมการดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ
และสงั คมแหง่ ชาต ิ และส�ำนกั งานสง่ เสรมิ เศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั โดยส�ำนกั งานคณะกรรมการดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม
แหง่ ชาตจิ ะมบี ทบาทส�ำคญั ในการเปน็ ศนู ยก์ ลางในการสอื่ สาร ประสาน และบรู ณาการความรว่ มมอื ใหท้ กุ ภาคสว่ น
น�ำนโยบายการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมไปสู่การปฏิบัติ รวมท้ังการให้เงินทุนสนับสนุน ในการด�ำเนิน
การพฒั นาดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสงั คม ผา่ นกองทนุ พฒั นาดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม และส�ำนกั งานสง่ เสรมิ
เศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั จะเปน็ หนว่ ยปฏบิ ตั กิ ารหลกั ในการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ทกุ ภาคสว่ นใหเ้ กดิ การพฒั นาอตุ สาหกรรม
และนวตั กรรมดจิ ทิ ลั ตลอดจนพฒั นาและสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การน�ำเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ เศรษฐกจิ
สงั คม วฒั นธรรม และความมนั่ คงของประเทศ โดยท�ำงานรว่ มกบั สว่ นราชการ และองคก์ ารมหาชนในสงั กดั กระทรวง
ดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสงั คม เพอื่ ผลกั ดนั การน�ำนโยบายไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ
นอกจากนี้จะร่วมมือกับส�ำนักงบประมาณ น�ำกลไกการจัดท�ำงบประมาณแผ่นดิน มาใช้ในการ
ถ่ายทอดเป้าหมาย ตัวช้ีวัดและแนวทางการด�ำเนินงาน ตามท่ีได้ก�ำหนดไว้ในนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงาน
และมาตรการการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม สู่การก�ำหนดยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ
และกรอบการจดั ท�ำงบประมาณในลกั ษณะบรู ณาการในแตล่ ะปงี บประมาณ ทง้ั ในมติ กิ ารบรู ณาการเชงิ ยทุ ธศาสตร์
(Agenda Based) และบูรณาการเชิงพ้ืนที่ (Area Based) รวมทั้งร่วมมือกับส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
ระบบราชการ (ส�ำนักงาน ก.พ.ร.) ให้มีการก�ำหนดตัวช้ีวัดการปฏิบัติราชการของหน่วยงานของรัฐให้สอดคล้อง
ท้ังในลักษณะของการก�ำหนดตัวชี้วัดเฉพาะหน่วยงานและตัวชี้วัดท่ีมีเป้าหมายร่วมกัน เพ่ือเป็นกรอบส�ำหรับ
หน่วยงานของรฐั ในการวางแผนและก�ำหนดแนวทางด�ำเนนิ งานตามอ�ำนาจหน้าท่ขี องตนให้สอดคล้องกบั นโยบาย
ยุทธศาสตร์ แผนงานและมาตรการการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งจะวางกลไกในการท�ำงาน
ในลักษณะเช่ือมโยงและบูรณาการการท�ำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐเพื่อการขับเคลื่อนการพัฒนา
ใหบ้ รรลุเป้าหมายในเชิงองค์รวม
เพื่อให้การขับเคล่ือนการด�ำเนินงานตามภารกิจการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมในหน่วยงาน
ของรัฐทุกหน่วยงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีทิศทางการด�ำเนินงานท่ีสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนา
ดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ จะก�ำหนดบทบาทของผบู้ รหิ ารระดบั สงู ในหนว่ ยงานของรฐั ทกุ หนว่ ยงาน
ให้เป็นผนู้ �ำในการวางยทุ ธศาสตรแ์ ละผลกั ดนั การพฒั นาดิจทิ ลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมตามภารกจิ ของหน่วยงาน
รวมทั้งจะร่วมมือกับส�ำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ส�ำนักงาน ก.พ.) วางกลไก
ในการวางแผนและพัฒนาก�ำลังคนดิจิทัลของรัฐให้สอดคล้องกับความต้องการตามบริบทการพัฒนาของประเทศ
เพื่อเป็นก�ำลังส�ำคัญของรัฐในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
โดยใหค้ วามส�ำคญั กบั การเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพของผบู้ รหิ ารระดบั สงู ในหนว่ ยงานของรฐั ใหเ้ ปน็ ผมู้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจ
ในศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัลและสามารถน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในงานตามภารกิจของหน่วยงาน
ให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปการยกระดับความรู้และทักษะ
ของบุคลากรภาครัฐ ท้ังในส่วนของบุคลากรผู้เช่ียวชาญเฉพาะในสายวิชาชีพด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ให้มีความรู้
ความสามารถในการสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมเพอ่ื เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการท�ำงานและการใหบ้ รกิ ารของภาครฐั และการพฒั นา
บุคลากรท่ัวไปให้มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นการสร้างวัฒนธรรมการใช้
เทคโนโลยดี ิจิทลั ในการท�ำงานของภาครัฐเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ในการปฏบิ ตั งิ าน เพอื่ เปน็ การสรา้ งวฒั นธรรมการใช้
เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ในการท�ำงานของภาครฐั
79
นอกจากการเช่ือมโยงการท�ำงานระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมกับหน่วยงานกลาง
และหน่วยงานของรัฐต่างๆ ทั้งส�ำนักงบประมาณ ส�ำนักงาน ก.พ.ร. และส�ำนักงาน ก.พ. ดังกล่าวแล้วในการ
ขับเคล่ือนการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมให้บรรลุเป้าหมาย ยังจ�ำเป็นต้อง มีกลไกการประสาน
ความร่วมมือเชื่อมโยง และบูรณาการการท�ำงานกับภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยการท�ำงานในลักษณะ
เครือข่าย หรอื พันธมติ รร่วมกนั ระหว่างกระทรวงดจิ ิทัลเพื่อเศรษฐกจิ และสงั คมกับหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน
ภาคประชาชน ภาควชิ าการ และผ้เู ชี่ยวชาญเฉพาะดา้ น
๔. กลไกการตดิ ตามและประเมนิ ผล และตดิ ตามสถานการณ์
การติดตามและประเมินผลการน�ำนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงาน และมาตรการการพัฒนาดิจิทัล
เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไปสู่การปฏิบัติน้ัน จ�ำเป็นต้องด�ำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยการก�ำหนด
ให้มีกลไก หรือเครื่องมือในการติดตามสถานะ และรายงานความก้าวหน้าการด�ำเนินงานในแต่ละมาตรการ
ให้คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาต ิ และคณะกรรมเฉพาะด้านไดร้ ับทราบเปน็ ระยะ รวมท้งั
จะก�ำหนดให้มกี ารประเมนิ ผลส�ำเร็จของการด�ำเนนิ งานท้ังในชว่ งระหว่างและในชว่ งสน้ิ สุดระยะเวลาของนโยบาย
และแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีการประเมินความพึงพอใจและการรับฟัง
ความคดิ เหน็ จากผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งทกุ กลมุ่ เพอื่ น�ำมาทบทวน ประกอบการพจิ ารณาปรบั เปลย่ี นยทุ ธศาสตร์ แผนงาน
และมาตรการตา่ งๆ ให้เหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั สถานการณ์
ส�ำหรบั การตดิ ตามการด�ำเนนิ งานของหนว่ ยงานของรฐั ในการด�ำเนินการตามภารกจิ ท่ีก�ำหนดในนโยบาย
และแผนระดบั ชาตวิ า่ ดว้ ยการพฒั นาดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คมนนั้ จะรว่ มมอื กบั ส�ำนกั งานคณะกรรมการพฒั นา
ระบบราชการ (ส�ำนกั งาน ก.พ.ร.) น�ำกลไกการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ริ าชการของสว่ นราชการ ทม่ี กี ารก�ำหนดตวั ชว้ี ดั
การปฏบิ ตั ิราชของหนว่ ยงานของรฐั ตามท่ไี ดก้ ล่าวมาแลว้ ในสว่ นของกลไกการน�ำนโยบายไปสู่การปฏบิ ัติเขา้ มาใช้
โดยมงุ่ ประเมนิ ประสทิ ธภิ าพการด�ำเนนิ งาน ทงั้ ในมติ ภิ ารกจิ เชงิ ยทุ ธศาสตร์ (Agenda Based) มติ เิ ชงิ พนื้ ที่ (Area Based)
และมติ กิ ารบรหิ ารจดั การและพฒั นานวตั กรรมการบรกิ าร (Innovation Based)
ในการติดตามความก้าวหน้าและสถานการณ์การพัฒนาดิจิทัลในภาพรวมของประเทศจะก�ำหนด
ให้มีกลไกการติดตาม จัดเก็บ วิเคราะห์ ประเมิน และคาดการณ์สถานการณ์การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ
และสังคมของประเทศ โดยการพัฒนาศูนย์ข้อมูลอัจฉริยะ (Intelligence Center) ท่ีมีการจัดเก็บข้อมูล
อย่างเป็นระบบ โดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics)
เพื่อเป็นข้อมูลพ้ืนฐานสนับสนุนการด�ำเนินงานของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และคณะกรรมการเฉพาะด้าน ในการวางยุทธศาสตร์การขับเคล่ือนการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจของประเทศ
อีกทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลเปิดส�ำหรับหน่วยงานของรัฐ ภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชาชน และภาควิชาการ
ในการติดตาม และรับทราบถึงสถานการณ์การพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมของประเทศท่ีถูกต้อง
เชื่อถือได้ และเป็นปัจจุบัน รวมทั้งจะก�ำหนดให้มีกลไกในการติดตามสถานการณ์ปัญหาและข้อจ�ำกัด
ในการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพ่ือผลักดันการก�ำหนดมาตรการ หรือแนวทาง
ในการแก้ปัญหา ลดขอ้ จ�ำกดั และสง่ เสรมิ การสร้างสภาพแวดลอ้ ม (Ecosystem) ท่เี อ้ือต่อการพัฒนาเศรษฐกจิ
และสงั คมดจิ ทิ ลั ของประเทศ
80 แผนปฏบิ ัติการดา้ นดจิ ิทัลเพือ่ เศรษฐกิจและสงั คม ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
พิมพท์ ี่ : สำ�นกั พิมพค์ ณะรฐั มนตรีและราชกจิ จานเุ บกษา
ถนนสามเสน เขตดสุ ติ กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐
โทรศพั ท์ ๐ ๒๒๔๓ ๐๖๑๓ โทรสาร ๐ ๒๒๔๓ ๑๘๒๐