The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สำเนา ep.1 หวนคืนอีกครา จันทรานิรันดร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Aunnada Thumporn, 2023-08-03 09:28:50

สำเนา ep.1 หวนคืนอีกครา จันทรานิรันดร์

สำเนา ep.1 หวนคืนอีกครา จันทรานิรันดร์

“ จากนี้ตราบชั่วนิจนิรันดร์ ต่อให้วิญญาณแหลกมลาย ก็ขอครองรักเคียงข้างมิแยกจาก ขอทุ่มเททั้งชีวิตและจิตวิญญาณ ชดใช้หนี้รักในอดีตชาติที่ติดค้างไว้ ”


๑ ภูตดอกท้อ ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากตายแล้ว วิญญาณจะไปไหน บางคนบอกว่าชดใช้กรรมในนรก บางคนบอกว่าได้ขึ้นสวรรค์ บางคนบอกว่าตายไปก็เป็นแค่ความว่างเปล่า… หรือบางคนบอกว่าแค่เข้าไปอยู่ในความฝัน ความฝันที่ใจเราถวิลหา โลกนี้มีหลายอย่างนักที่วิทยาศาสตร์ต่างพิสูจน์ไม่ได้อย่างเช่นตอนนี้ นั่นสินะ..ฉันอ้าปากค้างมองดูเหล่าหญิงสาวในชุดจีนโบราณพริ้วไหว เริงระบำกลางงานเลี้ยงในศาลาริมแม่น้ำใหญ่ ชายอาวุโสนั่งถัดจากฉันไป เล็กน้อย มีไม้เท้่าวางอยู่ข้างกาย กำลังยกแก้วน้ำชาเป็นการคารวะชายสูงวัย ตรงแท่นเก้าอี้สูง


“เป็นเกียรติยิ่งนักที่ท่านเซียนเดินทางมาเยี่ยมเยียนหมู่บ้านภูต เล็กๆของพวกข้า” “จะเป็นไรไปเล่า สหายเก่าทั้งนั้น” ชายอาวุโสอีกคนลูบหนวดเครา พลางหัวเราะเล็กๆ ฉันกระพริบตาปริบๆฟังประโยคสนทนาของคนแปลกหน้า ชาย อาวุโสบนแท่นหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะผายมือขึ้น พริบตาก็มีแสงสีม่วงอม ทองแผ่รอบฝ่ามือก่อนจะปรากฏสิ่งของบางอย่างบนฝ่ามือนั้น ..จากที่แค่อ้าปากค้าง ตอนนี้ฉันจะน้ำลายฟูมปากแล้ว .. “นั่นคือ….” “เสี้ยวของกระบี่หย่าหานที่แตกหักเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ” รายละเอียดจากนั้นก็มิอาจทราบได้เพราะหัวสมองของฉันโล่งไป หมด เหลือบมองไปด้านนอกศาลา ท้องฟ้าสีครามเต็มไปด้วยฝูงนกโบราณ บินว่อน ปลายหางมีแสงประกายม่วงอ่อนสวยงามฟุ้งละลานตา ใช่ ทั้งหมดนี้ ไร้ซึ่งซีจี.. นี่มันไม่ใช่รายการซ่อนกล้อง หรือกองละครแล้ว ฉันยกมือปิดปาก ‘ว้อทเดอะฟั*..’ นี่เป็นความฝันเหรอ.. ความฝันหลังจากการตาย… ภาพสุดท้ายที่จำได้ก่อนมาโผล่ที่นี่ คือการตกหน้าผาในระหว่างการ ทำรายงานวิชาประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ณ ป่าเทียนไป๋ ถึงแม้ฉันจะ ชื่นชอบแนวโบราณ กระทั่งดูซีรีส์หรืออ่านนิยายแนวประวัติศาสตร์ เทพ เซียน แต่นึกไม่ถึงเลยว่า…


“ศิษย์พี่เป็นอะไรหรือ” เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นข้างหลัง เนื่องจากสภาพตอนนี้ฉันยืนจังกาท่าทางตื่นตระหนกท่ามกลางงานเลี้ยงโดย ไม่รู้ตัว “หนิงเอ๋อร์เจ้าเป็นอะไร ว้อดเด้อฟ* อะไรของเจ้า ” สายตาคนในศาลาต่างจับจ้องมาที่ฉันด้วยความฉงนเพราะเสียง อุทานอันแรงกล้าคำนั้น ฉันเหลือบมองชายฝั่งตรงข้ามร่างกายเป็นคน ส่วนล่างเป็นหางปลา หรือแม้แต่หญิงรูปงามแต่ส่วนล่างเป็นงูก่อนจะเดิน ถอยหลังไปจนชิดขอบระเบียง “ระวัง!” เป็นเสียงเล็กเสียงเดิมร้องเรียกพลางจะคว้ามือไว้ฉันไว้ แต่ ทว่าสายไปแล้ว ตูมม! ให้ตาย… ความเย็นแผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายหลังสะดุดขอบพื้นไม้ ก่อนจะหงายหลังตกแม่น้ำลึก หลี่เซียวหนิงนะหลี่เซียวหนิง เธอว่ายน้ำเป็น ซะที่ไหนกัน!! ฉันกลั้นหายใจหลับตาปี๋ แอบภาวนานิดหน่อยว่าสักพักคงฉันคงจะ ตื่นแล้วอยู่ในโรงพยาบาลสักแห่ง ใช่ อาจจะโคม่าแทนที่จะตายก็ได้ ร่างกายเริ่มผ่อนคลายภายใต้น้ำ แค่ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไป เดี๋ยวก็ตื่นแล้ว.. นั่นคือความคิดสุดท้ายของฉัน ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบ


เสียงสะอื้นไห้ปนเสียงหัวเราะแหลมดังคิกคัก.. แม่น้ำมรกตกว้างใหญ่ มองทอดไปไม่เห็นจุดสิ้นสุด… บุปผาแห้งเฉา ไร้ดวงดาว ไร้จันทรา.. นางนั่งอยู่บนโขดหิน ใบหน้าถูกปิดด้วยหน้ากากไม้ แววตาเศร้าจ้อง มองแม่น้ำไม่ลดละ สองมือกำปิ่นปักผมรูปพระจันทร์เสี้ยวแนบอก ไร้เสียงพูดจาใดๆ ก่อนเท้าเล็กที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนคู่นั้น.. …เริ่มหยัดตัวจากโขดหินลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ…. เช้าวันใหม่ แสงแดดอ่อนลอดผ่านหน้าต่างกระทบใบหน้าเล็กที่นอน อยู่บนเตียงไม้ใน ‘เรือนหมิงอัน’ หญิงสาวในชุดฮั่นฝูชมพูเจ็ดส่วนปนเหลือง สามส่วนเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ พยายามปรับรูม่านตาให้เข้าที่สิ่งแรกที่พบ คือใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มกำลังจ้องมองใบหน้าเธอโดยระยะห่างเพียงแค่คืบ “ศิษย์พี่ ฟื้นแล้ว” “……” อ่า…. ไม่ได้กลับไปสินะ


“ทำไมท่านหน้าซีด ไม่สบายหรือ ดื่มน้ำสักหน่อยดีหรือไม่” เจ้าของ ใบหน้าเล็กถามด้วยความเป็นห่วง พลางจะลุกไปรินน้ำ แต่กลับถูกคว้าข้อมือ ไว้ “ไม่เป็นไร ว่าแต่-” “หืม” เด็กสาวแสดงท่าทางตั้งใจฟัง “เจ้าชื่ออะไรหรือ” ตัดสินใจถามออกไปเพราะตอนนี้ยังไม่รู้อะไรสักอย่าง เธอเป็นใคร ชื่ออะไร อย่างน้อยเล่นตามน้ำไปสักหน่อยก็ไม่ได้เสียหาย แต่นั่นก็เป็น คำถามที่ทำให้คนตรงหน้าเบิกตากว้าง “ข้าไป๋ซิงไงเจ้าคะ ไป๋ซิงศิษย์น้องเพียงคนเดียวของศิษย์พี่หนิงฮวา ภูตแห่งดอกเถาฮวา ศิษย์พี่เป็นอะไร จำข้าไม่ได้หรือ ท่านไม่สบายแน่ๆ ” ท่าทางตื่นตกใจกำลังจะวิ่งออกไปตามหมอด้านนอก แต่กลับโดนฉุดไว้ทันอีก ครั้ง จาก หลี่เซียวหนิง กลายเป็น หนิงฮวา สินะ อย่างน้อยก็ชื่อคล้ายเดิมหน่อย เป็นภูตเหรอ หา ภูต!! ภูตเถาฮวา(ดอกท้อ) “ท่านตื่นตกใจอะไรหรือ” “ภะ ภูต ที่หมายถึงปีศาจน่ะเหรอ”


ไป๋ซิงสายหน้า “ไม่ใช่ๆ …แต่จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง” แล้ว เปลี่ยนเป็นพยักหน้าทีหลัง หนิงฮวาเห็นท่าทางนั้น ใบหน้าฉงนหนักกว่าเก่า “ข้าว่าท่านไม่สบาย ให้อาจารย์มาดูท่านดีหรือไม่” “ไม่ต้องหรอก” หนิงฮวาปฏิเสธพร้อมรอยยิ้มแห้ง แสร้งทำท่าทาง กุมหัว “อาจเพราะตอนตกน้ำ หัวข้าเหมือนจะกระแทกกับโขดหิน ช่วงนี้ข้า อาจจะเบลอนิดหน่อย เจ้าช่วยแนะนำข้าหน่อยแล้วกัน เรื่องหมอเรื่องยานั้น ไม่ต้องยุ่งยาก” ไป๋ซิงพยักหน้าด้วยความเต็มใจ “ยังดีที่คุณชายลงไปช่วยท่านได้ทัน มิเช่นนั้นท่านอาจจะเป็นหนักกว่านี้ก็ได้เอ้ะ แต่น่าแปลก ท่านเคยว่ายน้ำเก่ง นี่” หนิงฮวายิ้มแห้ง ท่าทางเลิ่กลั่ก ในโลกนี้ถ้าเป็นภูตแสดงว่าเธอต้อง ใช้อาคมได้แต่ใช้อย่างไรนี่สิก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปถามไถ่เรื่องสัพเพเหระ ฉวยโอกาสนี้เข้าใจโลกใบใหม่ด้วยก็ดีเหมือนกัน ระหว่างวัน ไป๋ซิงคอยดูแล และตอบคำถามของหนิงฮวา ก่อนจะขอ ตัวไปทำธุระข้างนอก ทางสะดวก.. หนิงฮวาใช้ช่วงเวลาส่วนตัวลองใช้อาคมง่ายๆอย่างปิดประตู หน้าต่าง เลื่อนเก้าอี้ หรือแม้แต่กระทั่งเสกของตรงหน้าให้กลายเป็นสิ่งที่ ปรารถนา ..เป็นไปตามคาด ใช้ไม่ได้เลยสักนิด


พระอาทิตย์เริ่มคล้อย ใกล้ได้เวลาของอาหารค่ำ ไป๋ซิงพาหนิงฮวา ไปอีกเรือนที่อยู่ไม่ไกลมาก ระหว่างทางผ่านมีต้นเถาฮวาบานสะพรั่งเต็มไป หมด เรือนหมิงอันตั้งอยู่ท่ามกลางต้นเถาฮวามากมาย หากเดินลึกผ่าหมู่ ต้นไม้เข้าไปอีกหน่อย จะเห็นต้นเถาฮวาขนาดใหญ่ยักษ์อายุหลายพันปี ไป๋ซิงบอกว่า นี่คือต้นที่ให้กำเนิดหนิงฮวา ส่วนรายละเอียดถ้าอยาก รื้อฟื้นให้ไปถามท่านอาจารย์เอาเองแล้วกัน ‘เรือนหรงหลิน’ของท่านอาจารย์ไม่ได้ใหญ่กว่าเรือนหมิงอัน หนิงฮ วาขมวดคิ้วเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าเรือนท่านอาวุโสควรจะใหญ่กว่าเรือนลูก ศิษย์ธรรมดานี่ “มาแล้วหรือ” “เจ้าค่ะ” ไป๋ซิงตอบรับก่อนจะวิ่งอ้อมไปนั่งโต๊ะไม้ฝั่งตรงข้ามรอ สำรับอาหาร หนิงฮวาเองก็ค่อยๆเดินตามไป๋ซิงไปนั่งบ้าง เหลือบมองคนที่มีศักดิ์ เป็นอาจารย์เล็กน้อย นี่คือชายอาวุโสที่นั่งข้างเธอในงานเลี้ยง.. เธอจำได้ ไม่นานก็มีแม่ครัวเดินมาวางสำรับไว้บนโต๊ะ สำรับมีสี่ห้าอย่างพร้อม น้ำแกงคนละชาม กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอคลุ้งมาแตะจมูก อยากรู้นัก ว่าแม่ครัวสมัยโบราณใช้สิ่งใดในการปรุงอาหาร ทั้งที่ ไม่ได้มีผงปรุงรสอย่างสมัยใหม่เลยด้วยซ้ำ “หนิงเอ๋อร์” คนถูกเรียกชื่อชะงักก่อนตะเกียบจะเข้าปาก


อาจารย์ผายมือก่อนจะมีสิ่งของบางอย่างปรากฏขึ้นบนฝ่ามือนั้น “นี่คือส่วนหนึ่งของกระบี่หย่าหาน ท่านเซียนได้มอบสิ่งนี้ให้เพื่อเป็นเกราะ คุ้มครองหมู่บ้านแห่งนี้” หนิงฮวากับไป๋ซิงพยักหน้ารับทราบ เคี้ยวข้าวตุ้ยๆฟังชายชรากล่าว “เศษก้อนเล็กเพียงนี้จะดูแลหมู่บ้านทั้งเกาะได้หรือเจ้าคะ” ไป๋ซิง เอ่ยถาม สายตาดูแคลน “ถึงจะเป็นเพียงเศษแค่นี้ แต่พลังเวทย์แก่กล้ากว่าเจ้าเป็นพันเท่า เสียอีก” ไม้เท้าเคาะลงไปที่หน้าผาก ไป๋ซิงลูบหัวปอยๆ “รับไปสิ มันเป็นของเจ้า” ท่านอาจารย์ยื่นเสี้ยวกระบี่หย่าหานให้ห นิงฮวา “…..” เอ่อ เดี๋ยว “ของข้าหรือ..” หนิงฮวากระพริบตาปริบๆ “อยู่กับเจ้า จะได้ใช้มันเพื่อปกป้องหมู่บ้านเราจากปีศาจรุกรานได้” หนิงฮวาเหลือบมองไป๋ซิง ต้องการจะให้อธิบายสักหน่อย ทำไมของ สำคัญขนาดนี้ต้องมอบให้เธอ และใช่ นอกจากสำรับตรงหน้า ไป๋ซิงไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิด “ข้ารับไม่ได้หรอก ของสำคัญขนาดนี้ต้องให้ท่านเก็บไว้ถึงจะถูก” ถ้าจะให้ถูกกว่า ตอนนี้ หนิงฮวา ไม่รู้วิธใช้อาคมเจ้าค่ะ


“ของสิ่งนี้เคยเป็นอาวุธของเทพ กระบี่หย่าหานจะทำการเลือกผู้ เป็นนายของมันเอง แม้จะเหลือเศษเพียงเสี้ยวเดียว ซึ่งมันได้เลือกเจ้าแล้ว” ย้อนกลับไปเมื่อครั้งหนิงฮวาตกน้ำภายในงานเลี้ยงครั้งก่อน ชิ้นส่วน กระบี่หย่าหานที่อยู่ในมือท่านเซียนสั่นไหว ไอสวรรค์แผ่ออกจากชิ้นส่วนแม้ จะขนาดเล็ก มันลอยไปหยุดบริเวณที่หนิงฮวาตกน้ำ ก่อนจะเปล่งประกายสี ทองอร่ามทะลุลงไปยังร่างกายของหญิงสาว นั่นหมายถึง มันเลือกเจ้าของแล้วนั่นเอง.. “สมกับเป็นท่านหนิงฮวาผู้เก่งกาจ” ไป๋ซิงยกนิ้ว แต่หนิงฮวากลับ ผุดรอยยิ้มแห้ง รีบใช้ตะเกียบตักข้าวเข้าปาก “รับไปสิ” ชายชรายื่นเสี้ยววัตถุโบราณที่ถูกเรียกว่า ‘หย่าหาน’เข้า มาใกล้หญิงสาว เธอพยักหน้า ถึงขนาดนี้แล้วจะปฏิเสธก็คงไม่ได้ หากของสิ่ง นี้กลายเป็นของหนิงฮวาแล้ว ถ้าอย่างนั้นเธอรับไว้รอหนิงฮวาตัวจริงกลับมา สู่ร่างเดิมแทนก็แล้วกัน มือเล็กเอื้อมไปรับและยัดมันไว้ที่สายรัดเอวหลวมๆ ก่อนจะเหลือบไปเห็นสายตาของไป๋ซิงและอาจารย์จ้องกลับมา “มีอะไรหรือ มองข้าทำไม” “เหตุใดท่านถึงเก็บของล้ำค่าไว้เช่นนี้เล่า” ไป๋ซิงเอ่ยถาม ปกติแล้วเหล่าผู้ใช้อาคม เพียงแค่สะบัดมือก็สามารถเรียกหรือเก็บ สิ่งของได้ตามใจนึก โดยเฉพาะภูตหนิงฮวาแห่งดอกเถาฮวาคนนี้หากเป็น สิ่งของล้ำค่าเช่นนี้แล้ว โดยอุปนิสัยนางจะเก็บไว้อย่างดีที่สุด


ชายอาวุโสมองหญิงสาวตรงหน้าราวกับกำลังวิเคราะห์ก่อนจะรีบ ใช้อาคมตรวจดูระดับพลังปราณ ปราณบำเพ็ญของหนิงฮวาเหลือเพียงระดับหยวนอิง (ปราณก่อกำเนิด) นี่มันเกิดเหตุอันใดขึ้นกันแน่…


Click to View FlipBook Version