The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานสำรวจเรื่องการสำรวจการใช้ภาษาวัยรุ่นในสื่อออนไลน์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 8731, 2020-10-20 11:17:55

โครงงานสำรวจเรื่องการสำรวจการใช้ภาษาวัยรุ่นในสื่อออนไลน์

โครงงานสำรวจเรื่องการสำรวจการใช้ภาษาวัยรุ่นในสื่อออนไลน์

โครงงานการสารวจ
เรื่อง การสารวจการใชภ้ าษาวยั รุ่นในสื่อออนไลน์

จดั ทาโดย
นางสาวศภุ สุตา จริยามา
นางสาวอลิชา เรือนวนั
ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4/2

เสนอ
คุณครูดลฤดี บุญยะรัตน์

โรงเรียนป่ าแดดวทิ ยาคม
สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศึกษาเขต 36



หวั ขอ้ โครงงาน :โครงงานสารวจการใชภ้ าษาวยั รุ่นในสื่อออนไลน์
ประเภทของโครงงาน :การสารวจ
ผเู้ สนอโครงงาน :1.นางสาวศภุ สุตา จริยามา

ครูทป่ี รึกษาโครงงาน 2.นางสาวอลิชา เรือนวนั
ปี การศึกษา
ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4/2
:คุณครูดลฤดี บญุ ยะรัตน์
: 2563

บทคดั ย่อ

โครงงานเร่ือง การสารวจการใชภ้ าษาวยั รุ่นในส่ือออนไลน์ มีจดุ มุ่งหมายเพอื่ เป็ นการรวบรวมและ
เผยแพร่คาศพั ทท์ ว่ี ยั รุ่นใชก้ นั ในปัจจุบนั และเป็ นการสรา้ งความตระหนกั ในการใชภ้ าษาไทยใหถ้ ูกตอ้ งตาม
ราชบณั ฑิตยสถาน ซ่ึงข้นั ตอนการดาเนินโครงงานมีดงั น้ี คณะผจู้ ดั ทาเสนอหวั ขอ้ โครงงานตอ่ อาจารยท์ ี่ปรึกษา
โครงงานเพอื่ ขอคาแนะนาและกาหนดขอบเขตในการทาโครงงาน ผศู้ กึ ษาโครงงานวิเคราะหห์ วั ขอ้ โครงงานเพอื่
กาหนดวตั ถุประสงคข์ อง กาหนดกลุ่มประชากร ซ่ึงไดก้ าหนดกลุ่มประชากร คอื นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี
ที่ 1/1 3/1 และ4/1 โรงเรียนป่ าแดดวทิ ยาคม จานวน 30 คน กลุ่มตวั อยา่ งคือ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1 3
และ 4 โรงเรียนป่ าแดดวทิ ยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา2563 จานวน 30 คน สร้างเครื่องมือการวจิ ยั การสร้าง
เคร่ืองมือการวจิ ยั ผวู้ ิจยั ศึกษาจากหลกั การ ทฤษฎี แนวคดิ วตั ถุประสงค์ เพอ่ื จาแนกวา่ ควรสรา้ งเครื่องมือวดั ดา้ น
ใดบา้ ง ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพของนกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 3 และ 4 โรงเรียนป่ าแดดวทิ ยาคมภาคเรียน
ที่ 1 ปี การศกึ ษา2563 จานวน 30 คน ท่ตี อ้ งการศกึ ษา การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล คณะผจู้ ดั ทาโครงงานนาเครื่องมือที่
สรา้ งข้ึน ใหน้ กั เรียนกลุ่มตวั อยา่ งไดต้ อบแบบสอบถามและเกบ็ ขอ้ มูลดว้ ยตนเอง เพอ่ื วเิ คราะห์และนามาจดั ทา
โครงงาน สรุปผลการศึกษา และนาเสนอผลการศึกษา โดยนาขอ้ มูลทไ่ี ดม้ าวเิ คราะหข์ อ้ มลู และเขยี นสรุปผลการ
วเิ คราะห์ขอ้ มูล นาเสนอเป็ นรูปเล่ม และนาเสนอผลงานต่ออาจารยท์ ่ีปรึกษาเพอื่ รายงานผลการดาเนินงาน และ
การสรุปผลจากการศึกษาเร่ือง การสารวจการใชภ้ าษาวยั รุ่นในสื่อออนไลน์ จากการตอบแบบสอบถามที่ปรากฏ
การใชค้ าของวยั รุ่นคอื คาสแลงหรือคาคะนองทพี่ บในอินเตอร์เน็ตหรือสื่อสิ่งพมิ พต์ า่ งๆ โดยมีวตั ถุประสงค์ เพอ่ื
ศึกษาการเปลี่ยนแปลงภาษาของวยั รุ่นที่ใชใ้ นปัจจุบนั รวบรวมและเผยแพร่ คาศพั ทท์ วี่ ยั รุ่นใชก้ นั ในปัจจบุ นั
และเป็นการสรา้ งความตระหนกั ในการใชภ้ าษาไทยใหถ้ ูกตอ้ งตามราชบณั ฑติ ยสถาน

สารบญั ข

เร่ือง หน้า

บทคดั ย่อ ข
สารบญั
บทท่ี 1 บทนา 4
ทมี่ าและความสาคญั 4
วตั ถุประสงค์ 4
สมมตฐิ าน 5
ขอบเขตการศึกษาคน้ ควา้ 5
ประโยชนท์ ่ีท่ีคลาดวา่ จะไดร้ บั 6
นิยามศพั ท์ 7
บทที่ 2 เอกสารทเี่ กี่ยวข้อง
บทท่ี 3 วิธีการดาเนินงานโครงงาน 12
วสั ดุอุปกรณ์ 12
วธิ ีการดาเนินงาน
บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน 13
ผลการดาเนินงาน 15
การนาไปใช้
บทที่ 5 สรุปอภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 16
สรุปผลการดาเนินงาน 19
อภปิ รายผล 20
ปัญหาและอุปสรรค 20
ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา 21
บรรณานุกรม 22
ภาคผนวก

4

บทที่ 1

ทม่ี าและความสาคญั

ที่มาและความสาคญั
สภาพสงั คมปัจจุบนั ที่เปลี่ยนแปลงไปมากน้นั นอกจากจะส่งผลต่อการใชใ้ นดา้ นตา่ งๆแลว้ ยงั ส่งผลต่อการ
สื่อสารที่ใชภ้ าษาเป็นเครื่องมือดว้ ยปัญหาในการใชภ้ าษาไทยทเ่ี กิดจากการใชใ้ นอินเทอร์เน็ตน้นั เร่ิมลุกลามมา
จากโปรแกรมสนทนา (chat) และเกมออนไลน์ การสนทนาอนั ไม่มีขีดจากดั ประกอบกบั ความตอ้ งการใหก้ าร
สนทนาส้นั และกระชบั จึงทาใหเ้ กิดปัญหา การกร่อนคาและการสรา้ งคาใหม่ ในการใชภ้ าษาไทยดว้ ย เช่น คาวา่
“สวสั ดี” ถูกกร่อนคาเหลือ “ดีคบั ” “นะคะ” เป็น “นะคะ่ ” เป็ นตน้ คาเหล่าน้ีถูกคดิ ข้นึ และใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย
ในอินเทอร์เน็ต ดว้ ยเหตุผลเพอื่ ใหด้ ูเป็ นคาทีน่ ่ารัก และพมิ พง์ ่ายข้นึ โดยไม่คานึงถึงวา่ นน่ั คือการทาลาย
ภาษาไทยโดยทางออ้ ม เน่ืองจากมีการนาคาเหล่าน้นั มาใชพ้ ดู และเขยี นในชีวติ ประจาวนั ดว้ ย จงึ ไดจ้ ดั ทา
โครงงานน้ีข้ึน

วตั ถุประสงค์
1 เพอื่ ศกึ ษาการเปล่ียนแปลงภาษาของวยั รุ่นทใ่ี ชใ้ นอินเตอร์เน็ต
2 เพอ่ื เป็นการรวบรวมและเผยแพร่ภาษาท่ีวยั รุ่นท่ีใชใ้ นปัจจุบนั
3 เพอ่ื เป็นการสรา้ งความตระหนกั ในการใชภ้ าษาไทยให้ถูกตอ้ ง
4 ฝึกทกั ษะกระบวนการทางานเป็นกลุ่ม

สมมติฐาน
ถา้ วยั รุ่นใชภ้ าษาไทยในส่ือออนไลนผ์ ดิ ดงั น้นั เราจึงตอ้ งรีบทาให้เกิดความตระหนกั ในการใชภ้ าษาไทย

5

ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า
1. ศึกษาคาศพั ทว์ ยั รุ่นท่ีใชก้ นั เฉพาะกลุ่มในยคุ ปัจจบุ นั ไดแ้ ก่คาทีใ่ ชใ้ นกลุ่มเพอื่ น กลุ่มคาทใี่ ชบ้ อ่ ย
2. คาศพั ทท์ ีว่ ยั รุ่นใชใ้ นท่ีน้ีคือคาสะแลงหรือคาคะนองท่ใี ชใ้ นปัจจุบนั น้ีเทา่ น้นั
3. ประชากร ในการศึกษาคน้ ควา้ เป็นนกั เรียนระดบั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1/1 3/1 และ4/1 โรงเรียนป่ าแดดวทิ ยาคม
4. กลุ่มตวั อยา่ งในการศกึ ษาคร้งั น้ี เป็ นนกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1/1 3/1 และ4/1 โรงเรียนป่ าแดด
วทิ ยาคม ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศกึ ษา2563 จานวน 30 คน
5. ระยะเวลาในการสารวจ วนั ท่ี 2-11 ตลุ าคม 2563

ประโยชน์ที่ท่ีคลาดว่าจะได้รับ
1. มีความรู้ความเขา้ ใจในการเปล่ียนแปลงภาษาที่วยั รุ่นใชใ้ นสื่อออนไลนม์ ากยง่ิ ข้นึ
2. เขา้ ใจภาษาของวยั รุ่นที่ใชก้ นั ในปัจจบุ นั มากข้ึน
3. ตระหนกั ถึงความสาคญั ของการใชภ้ าษาไทยใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม

6

นิยามศัพท์

ภาษา หมายถึง กริยาอาการท่ีแสดงออกมาแลว้ สามารถทาความเขา้ ใจกนั ได้ ไม่วา่ จะเป็ นระหวา่ งมนุษยก์ บั
มนุษย์ มนุษยก์ บั สตั ว์ หรือสตั วก์ บั สตั ว์ ส่วนภาษาในความหมายอยา่ งแคบน้นั หมายถึง เสียงพดู ท่ีมนุษยใ์ ช้
สื่อสารกนั เท่าน้นั

การใชภ้ าษา หมายถึง การตดิ ต่อสื่อความหมายในสงั คมใหเ้ ป็ นทเี่ ขา้ ใจกนั ดว้ ยการฟังผอู้ ่ืนพดู บา้ งผอู้ ่ืนฟังบา้ ง
อ่านสิ่งท่ีผเู้ ขียนและเขียนบางส่ิงบางอยา่ งใหผ้ อู้ ่ืนอ่านบา้ ง

ส่ือสงั คมออนไลน์ คือ ส่ือสงั คมออนไลนท์ ่ีมีการตอบสนองทางสงั คมไดห้ ลายทิศทาง โดยผา่ นเครือขา่ ย
อินเตอร์เน็ต พดู ง่ายๆ กค็ อื เวบ็ ไซตท์ บ่ี ุคคลบนโลกน้ีสามารถมีปฏสิ มั พนั ธโ์ ตต้ อบกนั ไดน้ นั่ เอง

วยั รุ่น หมายถึง วยั ท่มี ีการเปลี่ยนแปลงเขา้ สู่วฒุ ิภาวะท้งั ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ และสงั คม ภาษาของวยั รุ่น
ในปัจจบุ นั หมายถึง คาสแลงหรือคาคะนองท่ีใชใ้ นปัจจุบนั

คาสแลง หมายถึง “คาคะนอง” และกล่าววา่ คาสแลงเป็ นภาษาปาก เป็ นภาษาไม่เป็ นแบบแผน แตไ่ ม่ใช่คา
ต่า หรือ คาหยาบ เป็นคาพเิ ศษเฉพาะกลุ่มที่สร้างข้ึนเพอ่ื ใหม้ ีคาแปลกๆ สรา้ งความสนุกสนาน ระดบั คามีการ
เปล่ียนแปลงตามกาลสมยั

7

บทท่ี 2
เอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง

ในการศกึ ษาโครงงานเรื่อง การสารวจการใชภ้ าษาวยั รุ่นในสื่อออนไลน์ ผจู้ ดั ทาไดร้ วบรวมแนวคิด
ตา่ งๆ จากเอกสารทเี่ กี่ยวขอ้ งดงั ตอ่ ไปน้ี

1.ความหมายของภาษา

คาวา่ “ภาษา” อาจแบ่ง ความหมายออกไดเ้ ป็ น ๒ ประเภท คอื “ภาษาในความหมายกวา้ ง” หมายถึง
ภาษาที่ใชค้ าพดู (วจั นภาษา)และภาษาที่ไมไ่ ดใ้ ชค้ าพดู หรือภาษาท่า ทาง (อวจั นภาษา) ท้งั น้ีภาษาในความหมาย
น้ี อาจนบั รวมไปถึงภาษาของสตั วด์ ว้ ย แต่เร่ืองภาษาของสตั วน์ ้ียงั มีขอ้ มูลไม่มากนกั จึงไม่คอ่ ยมีใครนา มากล่าว
รวมกบั ภาษาของมนุษย์
“ภาษาในความหมายแคบ” หมายถึงภาษาที่ใชค้ าพดู จะเป็นคาพดู หรือลายลกั ษณ์อกั ษรซ่ึงเป็นเครื่องหมายใช้
แทนคาพดู กไ็ ด้ ดงั น้นั ความหมายของภาษาทเ่ี ขยี นเพอ่ื การสื่อสารในชีวติ ประจาวนั กค็ ือความหมาย
ประการหลงั ซ่ึงหมายถึง ถอ้ ยคาทีม่ นุษยใ์ ชส้ ื่อสารเพอ่ื ความเขา้ ใจกนั น้นั เอง นกั ภาษาจงึ เรียก ความหมายของ
ภาษาในแง่น้ีวา่ “ความหมายแคบ” เพราะจากดั อยเู่ พยี งคาพดู ของมนุษยเ์ ท่าน้นั อยา่ งไรก็ตามเมื่อมนุษยพ์ ฒนา
ข้ึนกม็ ีวธิ ีถ่ายทอดเสียงพดู เป็นส่ิงอื่นในการสื่อสารสิ่งทใ่ี ชแ้ ทนเสียงในการสื่อสารกค็ อื ตวั อกั ษร เช่นเดียวกบั ท่ี
เราถ่ายทอดเสียงภาษาไทยเป็นตวั อกั ษรไทย

ภาษาไทยเป็นขมุ คลงั แห่งภูมิปัญญาของคนไทยท้งั ชาตเิ ป็นเอกลกั ษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของอารยธรรม
ไทยท่ีโดเด่นมาอยา่ งยาวนานแตท่ กุ วนั น้ีดูเหมือนภาษาไทยกาลงั จะถูกลืม จากคนรุ่นใหม่ดชั นีช้ีวดั ที่สาคญั
ประการหน่ึงกค็ อื ผลสมั ฤทธ์ิดา้ นการใชภ้ าษาไทยของเด็กเยาวชน และนกั ศึกษาในมหาวทิ ยาลยั ลว้ นตกต่าลง
มากอยา่ งทีไ่ ม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นการตกต่าลงอยา่ งต่อเน่ืองจนน่าสงั เกตเป็ นพเิ ศษ ดว้ ยในรอบหลายปี ทผ่ี า่ น
มา นอกจากน้นั แลว้ การใชภ้ าษาไทยทีผ่ ดิ ๆกม็ กั ใหเ้ ห็นอยอู่ ยา่ งมากมายท้งั ในสื่อมวลชน ในเพลง ในละคร
โทรทศั น์ และในการแชทผา่ นอินเทอร์เน็ต รวมท้งั ในชีวติ ประจาวนั เราเองทไ่ี ม่คอ่ ยจะใหค้ วามสาคญั กบั การ
เขยี น การพดู การสื่อสารใหถ้ ูกตอ้ ง รวมท้งั ไม่มคี า่ นิยมในการศึกษาหาความรู้ทถี่ ูกตอ้ งดว้ ย

8

“ทกุ ส่ิงในโลกลว้ นเป็นอนิจจงั ” วฏจั กั รของชีวติ มีเกิด แก่ เจบ็ ตาย ภาษากม็ ฏั จั กั รชีวติ เช่นเดียวกนั
ภาษามีเกิด คอื มีการสร้างคาใหม่ ภาษามีแก่ คือ คาที่คิดวา่ เก๋เทใ่ นยคุ หน่ึงกก็ ลบั กลายเป็นคาท่ลี า้ สมยั ในปัจจบุ นั
ภาษามีเจบ็ คือ ความบกพร่องในการใชภ้ าษา ตอ้ งอาศยั การเยยี วยา ภาษามีการตาย คือ คาบางคาไม่มีการนา
กลบั มาใชอ้ ีก

คาวา่ “ภาษา” เป็ นคาสนั สกฤตท่มี าจากรากศพั ทเ์ ดิมวา่ “ภาษ” เป็ นคากริยา แปลวา่ กล่าว พดู หรือบอก
เม่ือนามาใชจ้ ึงเปลี่ยนรูปเป็น “ภาษา” ซ่ึงมีความหมายตามรูปศพั ทว์ า่ คาพดู หรือถอ้ ยคา เป็ นส่ิงท่ีมีมนุษยใ์ ชท้ า
ความเขา้ ใจระหวา่ งคนกบั คนเป็นวธิ ีทมี่ นุษยใ์ ชแ้ สดงความในใจเพอื่ ใหอ้ ีกฝ่ ายหน่ึงไดร้ ู้ โดยใชเ้ สียงพดู ทมี่ ี
ระเบยี บและมีความหมาย พดู ออกมาเพอื่ สื่อความหมายใหเขา้ ใจตรงกนั อาจกล่าวโดยสรุปวา่ ภาษา คอื
เคร่ืองมือในการส่ือความหมายโดยผา่ นทางเสียงพดู ถอ้ ยคา กริยาอาการ หรือสญั ลกั ษณ์ตา่ งๆ เพอื่ ใชถ้ ่ายทอด
ความรู้สึก ความตอ้ งการของตนใหผ้ อู้ ่ืนทราบในการประกอบกิจการร่วมกนั (หมวดภาษาไทย

มหาวทิ ยาศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตรภาษาเป็ นส่ิงแสดงภูมิปัญญาอนั ยอดของมนุษยท์ ส่ี ามารถ
พฒั นาเสียงซ่ึงเปล่งออกไดด้ ว้ ยอาการตามธรรมชาติ ใหก้ ลายเป็ นเครื่องมือใชส้ ่ือสารความคิด ความรูส้ ึก ความ
ตอ้ งการของตนใหผ้ อู้ ่ืนรูแ้ ละส่ือสารกนั ไดจ้ นเกิดเป็นภาษา มนุษยใ์ ชภ้ าษาเป็ นเครื่องมือในการติดตอ่ สื่อสาร
และทาความเขา้ ใจกนั ในหมู่คณะท่ีใชภ้ าษาเดียวกนั ภาษาทาใหม้ นุษยส์ ามารถพฒั นาชีวติ ความเป็ นอยคู่ วามรู้
ความสามารถในการหาเล้ียงชีพ และความสามารถอ่ืนๆ อกี มากมาย มนุษยส์ ามารถพฒั นาความรู้ ความคดิ
จิตใจ คุณธรรม ความเชื่อ ศิลปะ ฯลฯ จนแตกต่างจากสตั วท์ กุ ชนิดและเป็ นผคู้ รองโลกไดด้ ว้ ยภาษาของมนุษยน์ ้ี
เอง ภาษาจึงเป็นส่วนสาคญั ของความเป็ นมนุษย์ ไม่วา่ จะเป็ นกลุ่มชนทเ่ี จริญกา้ วหนา้ จนเป็ นมหาอานาจหรือ
กลุ่มชนที่ลา้ หลงั ทส่ี ุด ต่างกม็ ีภาษาใชส้ ื่อสารกนั ในกลุ่มของตน และทกุ ภาษาจะมีความสมบรูณ์เพยี งพอทจ่ี ะใช้
สื่อสารกนั ไดใ้ นกลมุ่ เมื่อมนุษยไ์ ดต้ ดิ ตอ่ กบั คนตา่ งกลุ่ม ติดต่อกบั คนทใี่ ชภ้ าษาตา่ งกนั การหยบิ ยมื ทางภาษาก็อาจ
เกิดข้ึนไดใ้ นทกุ กลุ่มชน การยมื จะมีมากหรือนอ้ ยข้ึนอยกู่ บั ความจาเป็ นและความตอ้ งการของคนในสงั คมน้นั ๆ

9

2. คาและคาสแลง

คา อาจเปรียบไดก้ บั สิ่งมีชีวติ ท้งั หลาย คอื มีเกิด ดารงอยแู่ ลว้ ก็ตายไป คาจานวนไม่นอ้ ยที่เคยใชก้ นั มา
แตโ่ บราณ ปัจจบุ นั ไดส้ ูญไปจากภาษา มีคาใหม่เกิดข้ึน คาใหม่ทเี่ กิดข้นึ น้ีบางคา เพยี งแต่ใชพ้ ดู กนั เฉพาะกลุ่ม
เฉพาะโอกาส และอาจเส่ือมความนิยมไป มีผเู้ รียกคา เช่นน้ีวา่ คาคะนอง บางคาใชเ้ รียกส่ิงใหม่ทเี่ กิดข้นึ ใน
สงั คม สิ่งใหม่เหล่าน้ีอาจเป็ นวตั ถุสิ่งของ ความคดิ กิจกรรมหรือเหตกุ ารณ์ต่างๆ คา เช่นน้ีเกิดข้นึ ดว้ ยความจาเป็น
และตดิ อยใู่ นภาษามกั ไม่เสื่อมความนิยม

บญุ ยงคเ์ กศเทศ กล่าววา่ คาสแลงเกิดข้นึ ชว่ั คร้งั ชวั่ คราว เป็ นภาษาพดู ท่ีนิยมกนั ในบางหมู่คณะ บาง
กรณีกต็ อ้ งพดู เพอื่ ใหอ้ อกรส จงึ พยายามสร้างรูปภาษาใหแ้ ปลกออกไป คาสแลงมกั ไม่ตดิ อยใู่ นภาษานานนกั
เมื่อคาหน่ึงหาย ตายไปก็มกั นิยมคาใหม่ข้นึ แทน คาสแลงน้นั มีใชก้ นั มาทุก ยคุ ทุก สมยั เช่น มนั สเ์ ต้ิลหยอ่ ย สะ
เหล่อ ยากสซ์ ่าสฟ์ ฟ่ ู เก่ากกึ๊ กเ์ ซ็งระเบิดสมโรจนส์ วสั ดิกลุ ณ อยธุยา เรียกคาสแลงวา่ “คาคะนอง” และกล่าววา่ คา
สแลงเป็นภาษาปาก เป็นภาษาไม่เป็ นแบบแผน แตไ่ ม่ใช่คาต่า หรือ คาหยาม เป็ นคาพเิ ศษเฉพาะกลุ่มทสี่ รา้ งข้นึ
เพอ่ื ใหม้ ีคาแปลกๆสรา้ งความสนุกสนาน ระดบั คามีการเปล่ียนแปลงตามกาลสมยั

3. ปัจจยั ทม่ี ีผลกระทบตอ่ การใชภ้ าษาไทยของวยั รุ่น

ปัญหาการใชภ้ าษาไทยไดเ้ กิดข้นึ มาเป็นระยะเวลาอนั ยาวนานหลายสิบปี แต่ในยคุ ปัจจุบนั น้ีปัญหายงิ่ วกิ ฤติ
ความรุนแรงมากข้นึ เรื่อย ๆ ซ่ึงมีปัจจยั หนุนนาทีส่ าคญั นนั่ คือความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยที ก่ี า้ วลา้ ไปอยา่ ง
รวดเร็ว เราจงึ พบการใชภ้ าษาไทยแบบผดิ ๆ มากมายจนเกือบจะกลายเป็ นความคุน้ ชิน โดยเฉพาะในกลุ่มวยั รุ่น
ยงิ่ น่าเป็นห่วงมากทสี่ ุด เป็นกลุ่มท่ีนิยมใชภ้ าษาท่ีมีววิ ฒั นาการทางภาษาทเี่ ฉพาะกลุ่ม ซ่ึงเป็ นภาษาทีเ่ กือบจะไมม่ ี
ไวยากรณ์ ไม่วา่ จะจากการรับส่งขอ้ ความส้นั (SMS) การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การสนทนา
ออนไลน์ (MSN) หรือแมแ้ ต่การแสดงความคดิ เห็นในโลก

10

อินเทอร์เน็ต

การใชภ้ าษาไทยที่เกิดจากอินเทอร์เน็ตน้นั เริ่มลุกลามมาจากโปรแกรมแช็ทรูมและเกมออนไลน์ ซ่ึงดู
คลา้ ยเป็ นการสนทนากนั ธรรมดา แต่เมื่อไดเ้ ขา้ ไปสมั ผสั แลว้ มิใช่เลย การสนทนาอนั ไม่มีขีดจากดั ของภาษาทา
ใหเ้ กิดปัญหาข้นึ มากมาย ดงั เช่นทพ่ี บตามหนา้ หนงั สือพมิ พใ์ นปัจจบุ นั และในขณะเดียวกนั กส็ รา้ งปัญหาใหแ้ ก่
วงการภาษาไทยดว้ ย นนั่ คือการกร่อนคา และการสร้างคาใหม่ใหม้ ีความหมายแปลกไปจากเดิม หรืออยา่ งท่ี
เรียกวา่ ภาษาเดก็ แนวนน่ั เองวยั รุ่น เป็นช่วงวยั ที่มีการสื่อสารกนั มากและมีรูปแบบการสื่อสารดว้ ยคาทที่ นั สมยั มี
ความหมายเฉพาะสาหรับกลุ่มและช่วงวยั วยั รุ่นจึงขาดความคานึงถึงความถูกตอ้ งเหมาะสมของภาษาทใี่ ชใ้ ห้
เหมาะสม มีหลายสาเหตุที่ทาใหว้ ยั รุ่นใชภ้ าษาที่ผดิ ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยเี ขา้ มาเก่ียวขอ้ งอยา่ งมาก ทาใหม้ ี
ความสะดวกในการใชช้ ีวติ ประจาวนั รวมท้งั การส่ือสาร วยั รุ่นในประเทศไทยยคุ ใหม่บางกลุ่มไดส้ รา้ งคา่ นิยมที่
ผดิ ๆ มาใช้ คอื การใชภ้ าษาไทยทผ่ี ดิ จากคาเดิม จึงทาใหภ้ าษาไทยของเราเปล่ียนแปลงไป เยาวชนยคุ หลงั ๆ จงึ
ใชภ้ าษาไทยไม่ถูกตอ้ งสื่อมวลชน ก็เป็นปัจจยั หน่ึงทที่ าใหเ้ กิดการใชภ้ าษาไทยแบบผดิ ๆของประชาชนเพราะ
ส่ือมวลชนเป็นผทู้ ่ีใหข้ อ้ มูล ขา่ วสารกบั ประชาชนทกุ วนั ส่ือมวลชนตอ้ งเป็ นผนู้ าทดี่ ีท่ีสุดของการใชภ้ าษาและ
ตอ้ งใหข้ อ้ คดิ อยเู่ สมอวา่ ภาษาน้นั สะทอ้ นความเป็ นตวั ของเราเอง ถา้ ใชภ้ าษาดี ภาษาทถ่ี ูกตอ้ ง ภาษาท่ีนาสงั คม
ไปในทางสรา้ งสรรค์ สรา้ งความสามคั คี สร้างความรกั สรา้ งความภูมิใจในชาตจิ ะทาใหท้ กุ คนเห็นคลอ้ ยตาม แต่
ถา้ หากวา่ สื่อมวลชนนาภาษาท่ปี ระหลาด ภาษาทไ่ี ม่ถูกตอ้ งเอามาเผยแพร่บอ่ ยๆ คนจะคิดวา่ สิ่งทส่ี ่ือมวลขนมา
เผยแพร่น้นั ถูกตอ้ ง เป็นส่ิงทด่ี ี มนั จะทาลายภาษาไทย โดยเฉพาะการใชภ้ าษาในขา่ วพาดหวั หนงั สือพมิ พห์ รือ
โทรทศั น์ตา่ งๆ เป็ นตน้

ปัจจยั อีกอยา่ งหน่ึงในการใชภ้ าษาไทย ก็คอื ปัญหาการใชภ้ าษาไทยของครูและนกั เรียน เกิดจาก ครู

เนื่องจากครู คือ ผปู้ ระสาทวชิ า เป็นผใู้ หค้ วามรู้แก่ศษิ ย์ ดงั น้นั ความรูใ้ นดา้ นต่างๆ เด็กๆจึงมกั จะไดร้ ับมาจากครู
เป็นส่วนใหญ่ ในขณะท่ีครูบางคนน้นั มีความรูแ้ ต่ไม่แตกฉาน โดยเฉพาะวชิ าภาษาไทยเป็ นวิชาท่ีมีความ

ละเอียดอ่อน และมีส่วนประกอบแยกยอ่ ยอยา่ งละเอียดลออ เมื่อครูไม่เขา้ ใจภาษาไทยอยา่ งกระจา่ ง จึงทาให้

นกั เรียนไม่เขา้ ใจตามไปดว้ ย จนพานเกลียดภาษาไทยไปในทสี่ ุด ซ่ึงเป็ นปัญหาที่ปรากฏให้เห็นอยมู่ ากมายใน
ปัจจุบนั

11

4. รูปแบบการใชภ้ าษาไทยของวยั รุ่น

การใชภ้ าษาเป็นเร่ืองของการส่ือสาร ซ่ึงผสู้ ่งสารจะตอ้ งทาใหผ้ รู้ ับสารเขา้ ใจความหมายของตน ใหม้ าก

ทส่ี ุด แต่การสื่อสารที่มีรูปแบบแตกตา่ งกนั จะทาใหก้ ารใชภ้ าษามีความแตกต่างกนั ไปดว้ ย เช่น การสื่อสารแบบ
เผชิญหนา้ ยอ่ มแตกต่างจากการสื่อสารแบบผา่ นเครื่องมือการสื่อสาร หรือการส่ือสารดว้ ย สื่อสิ่งพมิ พ์ ยอ่ มมี
ความแตกตา่ งการสื่อสารดว้ ยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซ่ึงมีท้งั ภาพและเสียง ในปัจจุบนั ปัญหาทพ่ี บเป็นอยา่ งมาก
เก่ียวกบั การใชภ้ าษาไทย คอื การใชภ้ าษาในทางวิบตั ิ และมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใชภ้ าษาอยหู่ ลาย
ประเภท เช่น

4.1 รูปแบบการพดู เป็นประเภทของภาษาวบิ ตั ทิ ี่ใชเ้ วลาพดู กนั ซ่ึงบางคร้งั กป็ รากฏข้ึนในการเขยี นดว้ ย แต่นอ้ ย
กวา่ กลุ่มทใ่ี ชใ้ นเวลาเขียน โดยการพดู มกั จะพดู ใหม้ ีเสียงส้นั ลง หรือยาวข้นึ หรือไม่ออกเสียงควบกล้าเลย
ประเภทน้ีเรียกไดอ้ ีกอยา่ งวา่ กลุ่มเพ้ยี นเสียง

4.2 รูปแบบการเขยี น รูปแบบของภาษาวบิ ตั ปิ ระเภทน้ี โดยท้งั หมดจะเป็ นคาพอ้ งเสียงที่นามาใชผ้ ดิ หลกั ของ
ภาษา คนที่ใชภ้ าษาวบิ ตั ิเวลาเขียนน้นั จะเขียนตามเสียงอ่าน เพราะไม่ตอ้ งการอยใู่ นกรอบหรือ ตอ้ งการทาอะไรท่ี
คดิ วา่ ใหม่ ไม่เลียนแบบของเก่า ไดแ้ ก่
4.2.1 การเขียนตามเสียงพดู
4.2.2 การสร้างรูปการเขียนใหม่

4.3 รูปแบบของการเปลี่ยนแปลงเสียงอ่าน

4.4 กลุ่มที่เปลี่ยนแปลงความหมาย

12

บทที่ 3

วธิ กี ารดาเนนิ งานโครงงาน

วสั ดุอปุ กรณ์

1. กระดาษ
2. คอมพวิ เตอร์/อินเตอร์เน็ต/เครื่องถ่ายเอกสาร
3. โปรแกรม Microsoft Word,E-BOOK
4. แบบสารวจการใชภ้ าษาวยั รุ่นในส่ือออนไลน์

วธิ ีการดาเนินการ

1. ผศู้ ึกษานา เสนอหวั ขอ้ โครงงานตอ่ อาจารยท์ ี่ปรึกษาโครงงานเพอื่ ขอคาแนะนาและกาหนดขอบเขตในการทา
โครงงาน
2. ผศู้ ึกษาโครงงานวเิ คราะหห์ วั ขอ้ โครงงานเพอ่ื กาหนดวตั ถุประสงคข์ อง
3. กาหนดกลุ่มประชากร ซ่ึงไดก้ าหนดกลมุ่ ประชากร คอื นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1/1 3/1 และ4/1
โรงเรียนป่ าแดดวทิ ยาคม จานวน 30 คน กลุ่มตวั อยา่ งคอื นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1/1 3/1 และ4/1
โรงเรียนป่ าแดดวทิ ยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา2563 จานวน 30 คน
4. สรา้ งเคร่ืองมือการวจิ ยั การสร้างเคร่ืองมือการวจิ ยั ผวู้ จิ ยั ศึกษาจากหลกั การ ทฤษฎี แนวคดิ วตั ถุประสงค์ เพอ่ื
จาแนกวา่ ควรสรา้ งเคร่ืองมือวดั ดา้ นใดบา้ ง ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพของนกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1/1 3/1
และ4/1 โรงเรียนป่ าแดดวทิ ยาคม ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศกึ ษา2563 จานวน 30 คน ที่ตอ้ งการศกึ ษา
5. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ผศู้ ึกษาโครงงานนาเครื่องมือทีส่ รา้ งข้ึน ใหน้ กั เรียนกลุ่มตวั อยา่ งไดต้ อบแบบสอบถาม
และเก็บขอ้ มูลดว้ ยตนเอง และทาการแจกใบความรูท้ ี่มีคาถกู ตอ้ งใหก้ บั ผตู้ อบแบบสอบถาม เพอ่ื วเิ คราะหแ์ ละ
นามาจดั ทาโครงงาน
7. สรุปผลการศกึ ษา และนาเสนอผลการศึกษา โดยนาขอ้ มูลทไ่ี ดม้ าวเิ คราะหข์ อ้ มูล เขียนสรุปผลการวเิ คราะห์
ขอ้ มูล และนาเสนอ

13

บทท่ี 4

ผลการดาเนินงาน

ผลการดาเนินงาน

จากการศึกษาเร่ือง การสารวจการใชภ้ าษาวยั รุ่นในส่ือออนไลน์ ซ่ึงไดด้ าเนินการสารวจจาก นักเรียนช้มั ธั ยม
ศกึ ษาปี ท่ี 1/1 3/1 และ4/1ของโรงเรียนป่ าแดดวทิ ยาคม และ อินเตอร์เน็ต ไดผ้ ลการศึกษาจานวนคนที่เขยี นคาผดิ
คดิ เป็นร้อยละจาก 30 คนไดด้ งั น้ี คือ

ตารางแสดงผลการสารวจเร่ืองการการใช้ภาษาวยั รุ่นในส่ือออนไลน์คดิ เป็ นร้อยละ

ท่ี คาทีถ่ ูกต้อง จานวนคนทใี่ ช้คาผิด เฉลี่ย

1. นะคะ 16 53%

2. กะเพรา 14 47%

3. สบั ปะรด 17 57%

4. สงั เกตุ 10 33%

5. กะเทย 18 60%

6. ขะมกั เขมน้ 19 63%

7. ไข่มุก 23 76.6%

8. จกั จน่ั 14 47%

9. เซ็นช่ือ 17 57%

10. ตารับ 14 47%

11. ไตฝ้ ่นุ 8 26.6%

12. ทะนุถนอม 19 63%

13. ธรรมเนียม 15 50%

14. ทาอะไรอยู่ 5 16.6%

15. อยไู่ หน 3 10%

16. ไหม 9 30%

17. รู้ 5 16.6%

18. เฟซบกุ๊ 28 93%

14

19. ไลก์ 21 70%
20. โพรไฟล์ 25 83%
21. คอมเมนท์ 19 63%
22. มุขตลก 22 73%
23. กะทนั หนั 9 30%
24. ซีรีส์ 26 86%
25. เมื่อก้ี 9 30%
26. โคตร 25 83%
27. เหรอ 17 56%
28. ครับผม 5 16.6%
29. ไฟไหม้ 4 13%
30. น่ารกั 6 20%
31. โอกาส 11 36.6%
32. ผกู พนั 18 60%
33. ออฟฟิศ 11 36.6%
34. อาลยั 5 16.6%
35. ทีน่ น่ั 4 13%
36. แลว้ 4 13%
37. ธนบตั ร 10 33%
38. เกสร 17 56.6%
39. อญั ชนั 11 36.6%
40. ราคาญ 12 40%
41. น้าแขง็ ไส 18 60%
42. ลาไย 16 53%
43. เท่ 8 26.6%
44. คลินิก 2 6.6%
45. บนั ได 10 33%
46. เคก้ 3 10%
47. เกม 19 63%

15

48. วา่ ไง 1 3.3%
49. คุกก้ี 11 36.6%
50. แก๊ง 11 36.6%

การนาไปใช้

1. การนาคาทบี่ กพร่องไปปรบั ปรุงแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย
2. ผศู้ กึ ษาจะนาความรูท้ ไ่ี ดไ้ ปบอกตอ่ แก่ผทู้ ีย่ งั มีความบกพร่องในประเดน็ ปัญหาน้ีและปรับปรุงแกไ้ ขต่อไป

16

บทท่ี 5

สรุปอภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ

สรุปผลการดาเนนิ งาน

จากการศึกษาเร่ือง การสารวจการใชภ้ าษาวยั รุ่นในส่ือออนไลน์ จากการตอบแบบสอบถาม

ทป่ี รากฏการใชค้ าของวยั รุ่นคือ คาสแลงหรือคาคะนองท่พี บในอินเตอร์เน็ตหรือสื่อส่ิงพมิ พต์ ่างๆ โดยมี
วตั ถุประสงค์ เพอ่ื ศึกษาการเปลี่ยนแปลงภาษาของวยั รุ่นท่ีใชใ้ นปัจจบุ นั รวบรวมและเผยแพร่ คาศพั ทท์ ี่วยั รุ่น
ใชก้ นั ในปัจจบุ นั และเป็นการสรา้ งความตระหนกั ในการใชภ้ าษาไทยใหถ้ ูกตอ้ งตามราชบณั ฑติ ยสถาน

ผลการศึกษาเรื่องการเปลี่ยนแปลงภาษาของวยั รุ่นที่ใชใ้ นปัจจบุ นั คดิ เป็ นรอ้ ยละไดด้ งั น้ี คือ

ตารางแสดงผลการสารวจเรื่องการการใช้ภาษาวยั รุ่นในสื่อออนไลน์คดิ เป็ นร้อยละ

ที่ คาท่ีถูกต้อง จานวนคนทใ่ี ช้คาผดิ เฉล่ีย

1. นะคะ 16 53%

2. กะเพรา 14 47%

3. สบั ปะรด 17 57%

4. สงั เกตุ 10 33%

5. กะเทย 18 60%

6. ขะมกั เขมน้ 19 63%

7. ไข่มุก 23 76.6%

8. จกั จนั่ 14 47%

9. เซ็นชื่อ 17 57%

10. ตารบั 14 47%

11. ไตฝ้ ่นุ 8 26.6%

12. ทะนุถนอม 19 63%

13. ธรรมเนียม 15 50%

14. ทาอะไรอยู่ 5 16.6%

15. อยไู่ หน 3 10%

17

16. ไหม 9 30%
17. รู้ 5 16.6%
18. เฟซบกุ๊ 28 93%
19. ไลก์ 21 70%
20. โพรไฟล์ 25 83%
21. คอมเมนท์ 19 63%
22. มุขตลก 22 73%
23. กะทนั หนั 9 30%
24. ซีรีส์ 26 86%
25. เม่ือก้ี 9 30%
26. โคตร 25 83%
27. เหรอ 17 56%
28. ครับผม 5 16.6%
29. ไฟไหม้ 4 13%
30. น่ารัก 6 20%
31. โอกาส 11 36.6%
32. ผกู พนั 18 60%
33. ออฟฟิศ 11 36.6%
34. อาลยั 5 16.6%
35. ทีน่ น่ั 4 13%
36. แลว้ 4 13%
37. ธนบตั ร 10 33%
38. เกสร 17 56.6%
39. อญั ชนั 11 36.6%
40. ราคาญ 12 40%
41. น้าแขง็ ไส 18 60%
42. ลาไย 16 53%
43. เท่ 8 26.6%
44. คลินิก 2 6.6%

18

45. บนั ได 10 33%
46. เคก้ 3 10%
47. เกม 19 63%
48. วา่ ไง 1 3.3%
49. คุกก้ี 11 36.6%
50. แก๊ง 11 36.6%

19

อภปิ รายผล
สาเหตทุ สี่ าคญั ในการเปลี่ยนแปลงภาษาของวยั รุ่นท่ีใชก้ นั ในปัจจุบนั เนื่องมาจากสาเหตุหลายประการดงั น้ี

1.เมื่อการตดิ ตอ่ ผา่ นเครือข่ายคอมพวิ เตอร์กลายเป็ นช่องทางใหม่ในการสื่อสาร ภาษา
ในยคุ น้ีจงึ แปลกเปล่ียน เกิดภาษาใหม่ๆ บางคามาจากแป้นพมิ พท์ อี่ ยตู่ ดิ กนั พมิ พง์ า่ ยกวา่ จึงเกิดคาใหม่แทนคา เก่า
2.เพอ่ื ลดความรุ่นแรงในการใชภ้ าษาทไ่ี ม่สุภาพ
3.คาศพั ทใ์ หม่ๆ ท่ีวยั รุ่นหรือคนบางกลุ่มนามาใชจ้ นแพร่หลายน้นั กเ็ พราะวา่ คาไทยทีม่ ีอยเู่ ดิมอาจจะไม่สามารถ
ส่ือถึงลกั ษณะและรายละเอียดของสิ่งทต่ี อ้ งการจะสื่อสารไดม้ ากพอคน ส่งสารก็เลยตอ้ งพยายามคิดคาข้นึ มา
ใหม่ใหส้ ามารถบอกรายละเอียดและความรู้สึกของตนเองใหไ้ ดม้ ากที่สุด
4.การเขียนคาไทยในอินเตอร์เน็ต หรือนิตยสารเพอื่ ความบนั เทิง จะเขยี นตามเสียงอ่านเพราะไม่ตอ้ งการอยใู่ น
กรอบ หรือ ตอ้ งการทาอะไรท่ีคดิ วา่ ใหม่ ไม่เลียนแบบของเก่า
ทุกส่ิงในโลกลว้ นเป็นอนิจจงั วฏั จกั รของชีวติ มีเกิด แก่ เจบ็ ตาย ภาษากม็ ีวฎั จกั รชีวติ เช่นเดียวกนั

ภาษามีเกิด คอื มีการสรา้ งคาใหม่ๆ ข้ึนมา
ภาษามีแก่ คือ คาทคี่ ดิ วา่ เก๋ เท่ ในยคุ หน่ึง ก็กลบั กลายเป็ นคาทีล่ า้ สมยั ในปัจจุบนั
ภาษามีเจบ็ คอื ความบกพร่องในการใชภ้ าษา ตอ้ งอาศยั การเยยี วยารักษา
ภาษามีตาย คือ คาบางคาไม่มีการนากลบั มาใชอ้ ีก
การใชภ้ าษาในการส่ือสารของวยั รุ่นน้นั ถา้ ใชก้ นั เฉพาะกลุ่มหรือใชใ้ นระดบั กนั เองไม่เป็ นทางการก็คงไม่
ทาใหภ้ าษาไทยของชาติถึงกบั วบิ ตั ถิ า้ รูจ้ กั ใชใ้ หถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม หลงั จากทร่ี วบรวมคาท่ีวยั รุ่นมกั ใชใ้ น
ปัจจุบนั ไดแ้ ลว้ นาไปเผยแพร่โดย การติดบอร์ดใหค้ วามรูห้ นา้ หอ้ งสมุด รวมท้งั เผยแพร่ทางเวป็ ไชตข์ อง
โรงเรียน

20

ปัญหาและอปุ สรรค
1. ผตู้ อบแบบสอบถามตอบคาถามนอ้ ย
2. งบประมาณในการทาโครงงานไม่เพยี งพอ

ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา
จากการศกึ ษาการเปลี่ยนแปลงภาษาของวยั รุ่นทีใ่ ชใ้ นปัจจบุ นั ผศู้ ึกษามีขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกบั โครงงานคือ

1.รวบรวมคาทว่ี ยั รุ่นใชก้ นั ในปัจจุบนั ใหม้ ากกวา่ น้ี
2.ภาษาท่วี ยั รุ่นใชม้ ีการเปล่ียนแปลงรวดเร็วมากควรมีการศึกษาและรวบรวมใหท้ นั ตอ่ การเปลี่ยนแปลงเสมอๆ
3.ครูทุกคนควรร่วมกนั สร้างความตระหนกั ในการใชภ้ าษาไทยที่ถูกตอ้ งไม่คดิ วา่ เป็ นหนา้ ทขี่ องครูทส่ี อน
ภาษาไทยเพยี งอยา่ งเดียว
4.ธรรมชาติของภาษามีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ผใู้ หญ่หรือครูควรใหค้ าช้ีแนะในดา้ นการเลือกใชค้ าท่ีถูกตอ้ งแก่

วยั รุ่น

21

บรรณานุกรม

ความหมายของภาษา
https://sites.google.com/site/sathikawab/khwam-hmay-khxng-phasa?fbclid=IwAR06DFW-
MKWXS1g27lgP0ed4htDjvt3TaRweXuc0VtFX-vre8bnPNHO3vCs

คาและคาสแลง
https://puwan2708.blogspot.com/2016/02/blog-
post_54.html?m=1&fbclid=IwAR3wvcN787h2alyAupAvF5adnhS9pGzBLn9fPdgVXMszJoPucYOvH5fqaz4

ปัจจยั ทมี่ ีผลกระทบตอ่ การใชภ้ าษาไทยของวยั รุ่น
https://sites.google.com/site/thaivibut/paccay-thi-mi-phlk-ra-thb-tx-kar-chi-phasa-thiy-khxng-way-
run?fbclid=IwAR1HswzPp40RMtAO5VQJ4Ft1f3F3c7pXHBysl6yq56b3sBf1fnO13sQYRx4

อินเตอร์เนต
https://sites.google.com/site/kanyamono16775/xinthexrnet-khux-xari-internet

รูปแบบการใชภ้ าษาไทยของวยั รุ่น
https://sites.google.com/site/pasawayrun98/rup-baeb-kar-chi-phasa-thiy-khxng-way-
run?fbclid=IwAR0Su987H8EhaDT6JiobtgG6PK3CzR_7qtBUYg5ps1_P6j1wbcWtri-05QM

22

ภาคผนวก

23

แจกแบบสอบถามใหก้ ลุ่มเป้าหมาย

24

นกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่4ี /1ตอบแบบสอบถาม

25

แจกเฉลยเพอ่ื เป็นใบความรู้


Click to View FlipBook Version