The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สื่อการสอน กาพย์เห่เรือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-03-12 00:48:59

สื่อการสอน กาพย์เห่เรือ

สื่อการสอน กาพย์เห่เรือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6

กาพยเ์ หเ่ รอื By คณุ ครูบบี อม

ผแู้ ต่ง

เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สรุ ยิ วงศ์

ประวตั ิ

ประวัติ : กาพยเ์ หเ่ รอื ของจา้ ฟา้ ธรรมธิเบศรนี้ เปน็ กาพยเ์ ห่เรือ
สานวนเก่าทส่ี ดุ ท่ีเหลอื อยู่จนถึงทุกวนั นี้ กาพยเ์ หเ่ รือบทนี้ไม่ได้ใชเ้ ห่
ในกระบวนเรอื หลวงมากอ่ น เพราะเดิมการเหเ่ รือหลวงไม่ใช่บทเหท่ ี่มี
เนอ้ื ความเปน็ เร่ืองราว ใช้บทเห่ทเ่ี ป็นแตพ่ ยี งทานอง กาพยเ์ หเ่ รือ
ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรและของรชั กาลที่ 2 เริม่ ใช้เป็นบทเหเ่ รอื หลวง
ในรัชกาลท่ี 5 แหง่ กรุงรตั นโกสินทร์

ลักษณะการแตง่

แตง่ เป็นกาพย์ซงึ่ ประกอบไปดว้ ยโคลงสีส่ ภุ าพ
และกาพยย์ านี 11 โคลงส่สี ภุ าพใช้เปน็ บทนา
ส่วนการพรรณนาใช้กาพยย์ านี 11

ปางเสดจ็ ประเวศดา้ ว ชลาลยั
ทรงรัตนพมิ านไชย ก่งิ แก้ว
พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่
เรือกระบวนตน้ แพร้ว เพรศิ พริ้งพายทอง ๚

พระเสดจ็ โดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กงิ่ แก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยบั จับงามงอน
นาวาแน่นเปน็ ขนดั ล้วนรปู สตั วแ์ สนยากร
เรอื ร้ิวทวิ ธงสลอน สาครล่นั คร่นั ครื้นฟอง

เน้ือเรื่อง

กาพย์เห่เรอื ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรมี 3 ตอน
ตอนที่ 1 กลา่ วชมขบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค

เรอื พระทนี่ ัง่ ก่ิง สมรรถไชย ไกรสรมขุ สวุ รรณหงส์ เรอื หัว
สตั วต์ า่ ง ๆ เช่น ครุฑ คชสีห์ นาค มงั กร เลียงผา และอนิ ทรี
เปน็ ตน้ ต่อจากนนั้ ชมปลา ชมไม้ ชมนกชนิดตา่ ง ๆ บนสอง
ฝ่งั น้า พบสงิ่ ใดกน็ าไปพัวพนั กับความรักความอาลยั ท่ีมตี ่อนาง

ตอนที่ 3 เป็นเห่สงั วาสและเห่ครวญ เพ่ือเน้นย้าความ
อาลัยอาวรณท์ ่ตี อ้ งพรากจากนาง

วเิ คราะหค์ ุณค่ากาพยเ์ ห่เรอื

กาพยเ์ ห่เรอื ของเจา้ ฟ้าธรรมธิเบศรมีคณุ คา่ 2 ประการ ไดแ้ ก่
คุณคา่ ดา้ นเนอ้ื หา คณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ป์

1. คุณค่าดา้ นเนอ้ื หา

ลกั ษณะโดด่ เดน่ ของกาพย์เห่เรือของเจา้ ฟ้าธรรมธิเบศร คอื การ
ใหค้ วามรู้ทางธรรมชาตวิ ิทยา ปรากฏอยูอ่ ย่างเด่นชดั ในบทเห่ชม
ปลา เหช่ มไม้ เหช่ มนก บทเห่แต่ละตอนให้ความรู้เรือ่ ง พนั ธปุ์ ลา
พนั ธุไ์ ม้ และพันธ์นุ ก เปน็ อย่างดี

บทเหช่ มปลา กลา่ วถึงปลา 15 ชนิด ชนิดท่สี ื่อความราลึกถงึ นาง เจ้าฟ้าธรรมธิ
เบศรใช้ชอิ ปลา ส่ือความหมายทีเ่ กยี่ วพันถึงนาง ตวั อย่างเช่น เมอ่ื กลา่ วถึงปลา
เสอื กจ็ ะพรรณนาว่ามีลกั ษณะเดน่ ทตี่ าเหมอื นตาของนางผเู้ ปน็ ท่ีรักซง่ึ คมยงิ่

ในบทเหช่ มไม้ กล่าวถึงไม้ดอกหอม 13 ชนิด ซ่ึงมีลักษณะสมั พนั ธก์ บั นาง

ผู้อันเป็นทร่ี กั ไดแ้ ก่ ความงาม ความหอม เช่นความงดงามของดอกจาปา
ที่มสี เี หลอื งนวลทาใหน้ ึกถึงผิวนอ้ งท่ีเหลืองนวลกว่าดอกจาปา

ดเุ หว่าเจ้าจบั รอ้ ง สน่ันก้องซ้องเสยี งหวาน
ไพเราะเพราะกังวาน ปานเสยี งน้องรอ้ งสงั่ ชาย

บทเห่ชมนก กล่าวถงึ นกหลากหลายชนดิ ทอี่ าศยั อยตู่ ามธรรมชาติ อนั มคี วามงาม
เสยี งและการดารงชีวิตทที่ าใหค้ ดิ ถงึ นางทีร่ กั ตัวอยา่ งเชน่ ธรรมชาตขิ องนกดุเหวา่
ทรี่ อ้ งเสียงหวานก้องไปทงั้ ปา่ ความไพเราะของเสยี งนกเหมือนความไพเราะของ
เสียงน้องเม่ือรอ้ งเรยี กพ่ี

2. คุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์

กาพยเ์ หเ่ รือ ของเจ้าฟา้ ธรรมธิเบศรเปน็ ทีย่ กยอ่ งนับถอื วา่ ไพเราะ
อย่างย่งิ มีคณุ ค่าโดด่ เด่น ด้านวรรณศิลป์ ได้แก่ การเลน่ เสียง
การเลน่ คา การพรรณนาภาพ ภาพพจน์ การเลือกสรรคาเพื่อสื่อ
อารมณค์ วามรูส้ กึ และการแนะนาภาพนางอนั เปน็ ที่รกั

การเลน่ เสยี ง การเล่นเสยี งเป็นกระบนการทางวรรณศลิ ป์ท่ี
ทาให้กาพยเ์ หเ่ รือเจา้ ฟ้าธรรมธเิ บศรมคี วามไพเราะ
เจา้ ฟา้ ธรรมธเิ บศรทรงรังสรรค์กาพยย์ านใี หไ้ พเราะสมั ผสั
ท้ังสัมผสั สระและสัมผัสพยญั ชนะ ทาให้มเี สยี งเสนาะที่ไพเราะ
ลงตัว ดงั ตัวอยา่ งตอ่ ไปนี้

พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือตน้ งามเฉิดฉาย
ถึงแก้วแพรว้ พรรณราย พายออ่ นหยบั จับงามงอน

จากตวั อยา่ งนม้ี ีการเลน่ เสียงสมั ผสั สระ ไดแ้ ก่ ซล - ต้น , ฉาย - ราย - พาย
แกว้ - แพรว้ และหยบั - จับ สัมผัสพยญั ชนะ ไดแ้ ก่ โดย - แดน , เฉดิ - ฉาย , ก่งิ - แก้ว ,
แพร้ว - พรรณราย และ งาม - งอน จะเหน็ ไดว้ ่ากาพย์ยานีเพยี ง ๑ บท แต่มีการเลน่ เสียงหลาย
ตาแหน่ง ทั้งเสยี งสระและเสยี งพยัญชนะ เม่ืออ่านออกเสียงจะไดย้ นิ เสียงเสนาะไพเราะนา่ ฟัง

การเลน่ คา คอื การนาคาท่มี ีเสยี งเหมอื นกันมาเขา้
คกู่ นั เพอื่ เน้นย้าความ หรือแสดงอารมณ์ความร้สู ึก
ของกวใี หเ้ ดน่ ชัดขึน้ เชน่ ช่ือปลาเนื้อออ่ นสัมพันธ์
กบั เนื้อของน้องทอี่ อ่ นนมิ่ ท้งั กาย เป็นต้น

เนอ้ื อ่อนออ่ นแต่ชอื่ เนอ้ื นอ้ งฤาออ่ นท้งั กาย
ใครตอ้ งข้องจติ ชาย ไมว่ ายนึกตรึกตงึ ทรวง

แกม้ ชา้ ชา้ ใครต้อง อันแก้มนอ้ งชา้ เพราะชม
ปลาทุกทุกขอ์ กกรม เหมอื นทกุ ขพ์ ท่ี ่ีจากนาง

ชอื่ ปลาแก้มช้า เหมือนแก้มน้องที่ชา้ เพราะถูกเชยชม และชอ่ื ปลาทกุ ท่ี
เหมือนความทุกข์ใจของกวที ต่ี ้องทกุ ข์เพราะพรากจากนาง

การพรรณนาภาพ เจ้าฟา้ ธรรมธิเบศรทรงพรรณนา
ภาพเรือและธรรมชาติรอบตัวไดอ้ ยา่ งดียงิ่ ตัวอย่างเชน่
การพรรณนาเรอื จะแสดงใหเ้ ห็นภาพความงดงามของ
เรือ ความสงา่ งามและความยิง่ ใหญ่ตระการตาของ
กระบวนเรอื ความเปรยี บที่ใช้แสดงใหเ้ หน็ วา่ เป็นของ
สูงส่งเป็นพาหนะของเทพ ขณะเดียวกนั ภาพของเรือท่ี
แล่นผาดโผรยงั แสดงอาการดจุ ชวี ิต ดงั ตวั อย่าง

สุวรรณหงสท์ รงพู่ห้อย งามชดชอ้ ยลอยหลงั สนิ ธ์ุ

เพียงหงส์ทรงพรมมนิ ทร์ ลินลาศเล่ือนเตือนตาชม

เร่ือยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉยี งไปทั้งหมู่

ตวั เดยี วมาพลดั คู่ เหมอื นพ่อี ยผู่ ู้เดียวดาย

ในบทชมนกมคี วามตอนหน่งึ ท่ีไพเราะและเป็นทรี่ ้จู กั กันอยา่ งดี จนกระทั้ง
มผี ู้นามาขับรอ้ งเป็นเพลงไทยสากลในปัจจุบนั เน้อื ความเป็นการ
พรรณนาภาพนกบินมาพรอ้ มกันในยามเยน็ และมีนกตวั หนงึ่ บนิ พลัดคู่มา
กวเี ปรยี บเหมอื นตนต้องพลัดพรากจากนางผ้เู ป็นท่รี กั ทาให้ยิง่ คิดถงึ นาง
มากข้นึ

การเลอื กสรรคาเพ่ือสอ่ื อารมณ์ความร้สู กึ เจ้าฟา้ ธรรมธเิ บศร ทรงเลอื กสรร
ถอ้ ยคาทอี่ ่านเขา้ ใจงา่ ยเพ่ือส่ืออารมณ์ความรสู้ กึ รักและโหยหาอาลยั นางผ้เู ป็น
ทรี่ ัก ทาใหผ้ อู้ ่านสมั ผัสไดถ้ ึงความรักที่เป็นทกุ ข์เพราะต้องพลดั พรากจากนาง
แสดงถึงความรกั ความผูกพันท่ีลกึ ซง้ึ ของกวที ่ีมตี อ่ นาง ดังตัวอย่าง

พศิ พรรณปลาวา่ ยเคล้า คิดถงึ เจา้ เศรา้ อารมณ์
มัศยายงั ร้ชู ม สมสาใจไม่พามา

การแนะนาภาพนางทรี่ ัก เจา้ ฟ้าธรรมธเิ บศรทรงแสดงภาพนางผเู้ ป็นท่รี กั
แก่ผู้อ่านโดยไมก่ ลา่ วถึงโดยตรง ผ้อู ่านรวู้ า่ นางงดงามอย่างไรจากบท
พรรณนาธรรมชาตซิ ่งึ เช่ือมโยงไปสู่ลกั ษณะและคณุ สมบัติของนาง ดงั
ตัวอยา่ ง

การกล่าวถงึ ผวิ ของนางวา่ เหลือง

จาปาหนาแนน่ เนื่อง คลี่กลีบเหลอื งเรืองอร่าม
คดิ คะนงึ ถึงนงราม ผวิ เหลอื งกวา่ จาปา

ภาพพจน์ ภาพพจนเ์ ปน็ การใช้ถ้อยคาสานวนโวหาร ท่ีทาให้ผ้รู ับสาร
เกดิ มโนภาพ เกิดจินตนาการ ถ่ายทอด อารมณ์ ทาให้มคี วามรสู้ กึ
ร่วมตรงตามความปรารถนาของผู้ส่งสาร

เพียนทองงามดั่งทอง ไม่เหมือนนอ้ งห่มตาดพราย

กระแหแหห่างชาย ด่ังสายสวาทคลาดจากสม

อปุ มา -

ในบาทแรก กวีได้เปรยี บเทียบว่าปลาตะเพียนทองนั้นงามเหมือนทอง แต่ก็ไมง่ ามเหมอื นนอ้ งยามยาม
ห่มตาด

- ในบาทท่ีสอง เปรยี บเทียบปลากระแหท่ีอยู่ห่างกายเหมอื นตวั เองท่ีห่างจากนางอนั เป็นท่ีรกั
โดยปรากฎคาทีใ่ ช้อุปมาคือคาว่า ด่งั และ เหมือน

นา้ เงนิ คอื เงนิ ยวง ขาวพรายชว่ งสสี าอาง
ไม่เทียบเปรยี บโฉมนาง งามเรืองเรือ่ เน้อื สองสี

อปุ ลกั ษณ-์ กวไี ดเ้ ปรยี บปลาน้าเงินเป็นดงั่ เงินยวง คือมสี ีขาวเงินเป็นมันวาว ปรากฎคา
ที่แสดงภาพพจน์คอื คาว่า คือ

สรุปสาระสาคญั

เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงนพิ นธก์ าพย์เหเ่ รอื เมอื่ คร้ังตามเสดจ็ สมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวบรมโกศ
ไปนมสั การและสมโภชพระพุทธบาทที่สระบรุ ี แตง่ ดว้ ยคาประพนั ธป์ ระเภท "กาพยเ์ ห่เรอื "
ซงึ่ ประกอบดว้ ยโคลงสีส่ ุภาพเป็นบทนา ๑ บทแล้วพรรณนาความโดยใช้กาพย์ยานีไม่
จากดั จานวนบท เน้อื เร่ืองแบ่งเป็น ๒ ตอน ตอนท่ี ๑ เปน็ บทเห่๔ ตอน คือ เหช่ มเรือ
กระบวนเห่ชมปลา เหช่ มไม้ และเหช่ มนก ตอนท่ี ๒ เป็นบทเห่เรือ่ ง กากี บทเสังวาสและ
บทเห่ครวญกาพยเ์ หเ่ รือของเจา้ ฟ้าธรรมธิเบศรมีคุณคา่ ๒ ประการ ไดแ้ ก่ คณุ คา่ ดา้ น
เนอ้ื หา ให้ความรทู้ างธรรมชาติวทิ ยา และคณุ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ ไดแ้ ก่ การเลน่ เสียงการ
เลน่ คา การพรรณนาภาพการเลอื กสรรดาเพ่อื สอื่ อารมณ์ความร้สู กึ และการแนะภาพนาง
ทร่ี กั คุณคา่ ท้ัง ๒ ประการนีเ้ องที่ทาใหผ้ ้ศู กึ ษาวรรณคดชี ื่นชมวา่ ไพเราะจนทอ่ งจากนั ได้
กวรี ุน่ หลังใช้เปน็ แบบอยา่ งการแต่งบทเหเ่ รอื ในสมัยตอ่ มา

ใบงานท่ี ๑ การอา่ นวเิ คราะหว์ จิ ารณ์วรรณคดดี า้ นวรรณศลิ ป์

• คาสง่ั ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาวรรณคดีเรือ่ ง กาพย์เห่เรอื แลว้ ตอบคาถามดงั ต่อไปน้ี

1. กาพยเ์ ห่เรอื ใชว้ รรณศลิ ป์ด้านใดบ้าง พร้อมยกตวั อย่างใหช้ ัดเจน
.................................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................................
2. ใหน้ ักเรยี นวิเคราะหโ์ วหารภาพพจน์ในเรอื่ ง กาพย์เห่เรอื พร้อมยกตัวอยา่ งใหช้ ัดเจน
.................................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................................


Click to View FlipBook Version