The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Yatawee Chukong, 2023-11-04 15:55:47

สมบูรณ์

สมบูรณ์

REPORT TITLE | 51 รูปที่ 34 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านวงจรอนุกรม รูปที่ 35 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านวงจรอนุกรม ตารางผลการทดลองที่ 1 ตารางผลการทดลองที่ 2 ขั้นตอนการทดสอบ วงจรขนาน ค่าที่ได้จากทฤษฎี /การคำนวณ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด แอนาลอกมัลติมิเตอร์ ข้อสังเกต กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทานที่ 1 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทานที่ 2 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทานที่ 3 ตารางผลการทดลองที่ 3 ขั้นตอนการทดสอบ วงจรผสม ค่าที่ได้จากทฤษฎี /การคำนวณ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด แอนาลอกมัลติมิเตอร์ ข้อสังเกต ขั้นตอนการทดสอบ วงจรอนุกรม ค่าที่ได้จากทฤษฎี /การคำนวณ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด แอนาลอกมัลติมิเตอร์ ข้อสังเกต กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจร **เราอ่านค่าในเส้นแถบสีดำที่มีค่าพิสัย สูงสุดเท่ากับ 250 แอมป์ โดยสเกลแต่ ละขีดจะมีค่าเท่ากับ 5 ในที่นี่ สเกล อ่านค่าได้ประมาณ 98 หรือ9.8 mA ** **เราอ่านค่าในเส้นแถบสีดำที่มีค่าพิสัย สูงสุดเท่ากับ 250 แอมป์ โดยสเกลแต่ ละขีดจะมีค่าเท่ากับ 5 ในที่นี่ สเกลอ่าน ค่าได้ประมาณ 95 หรือ95 mA **


REPORT TITLE | 52 กระแสไฟฟ้าที่ไหลภายในวงจรอนุกรม กระแสไฟฟ้าที่ไหลภายในวงจรขนาน วิเคราะห์ผลการทดลอง วิเคราะห์ผล เท่ากัน/ไม่เท่ากัน ข้อสังเกต การวัดค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลภายในวงจร ของเครื่องวัดดิจิทัลมัลติมิเตอร์ และแอนาลอกมัลติมิเตอร์ วัดได้ค่า เท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใด วิเคราะห์ผล แอนลอกมัลติมิเตอร์ /ดิจิทัลมัลติมิเตอร์/ทั้งสองเครื่องวัดมี ความแม่นยำเท่ากัน ข้อสังเกต ระหว่างเครื่องวัดแบบดิจิทัลมัลติมิเตอร์ และแบบแอนาลอกมัลติมิเตอร์ เครื่องวัด แบบไหนวัดได้มีความแม่นยำมากกว่ากัน รู้ได้อย่างไร มีข้อสังเกตุใดเป็นอันดับแรก ที่ทำให้ทราบว่าเครื่องวัดชนิดนี้มีความ แม่นยำมากกกว่ากัน สรุปผลการทดลอง


REPORT TITLE | 53 เอกสารอ้างอิง 1. INC-CIUB KMUTT เรื่อง BM.08-BM.09 DC Voltage Measurement ( https://youtu.be/QgsPUt7l8Zg) : 23 กรกฎาคม 2566 2. เอกสารประกอบการเรียน วิชา ELRCTICAL MEASUREMENT : 30 มิถุนายน 2566 3. เว็บไซต์ easyeda.com : 23 กรกฏาคม 2566


REPORT TITLE | 54 ปฏิบัติการที่6 การวัดค่ากำลังไฟฟากระแสตรง (DC Electric Power) วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเพิ่มทักษะการคำนวณหาค่า กำลังไฟฟ้าจากกฎของโอห์ม 2. เพื่อเพิ่มความชำนาญในพื้นฐานการใช้มัลติมิเตอร์ทั้งสอบแบบ เพื่อใช้วัดค่าแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และค่าตัวต้านทาน ความรู้เบื้องต้น อ้างอิงจาก YouTube ช่อง INC–CLUB KMUTT เรื่อง BM13 DC Power Measurement ( https://youtu.be/RmxaETEanpU ) ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปมีดังนี้ 1. กำลัง (Power) คือพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในเวลา 1 หน่วยเวลา ซึ่งมีหน่วยเป็น วัตต์(W) ตามความสัมพันธ์ที่ว่า P = (1) ในส่วนของวงจรไฟฟ้ากระแสตรง กำลังไฟฟ้าสามารถคำนวณได้จากผลคูณของแรงดันไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้า P = (2) แต่ถ้าหาก วงจรเป็น Resistive circuit ก็จะสามารถใช้กฎของโอห์ม ในการแปลงสูตร จาก V = IR ให้เป็น P = IV (3) P = (4) P = (5) 2. วีธีการวัดกำลังไฟฟ้า มี 2 วิธี วิธีที่ 1 ใช้มัลติมิเตอร์ 1 ตัว วิธีการ คือ การวัดค่า V และ I แยกกันรวมถึงวัดค่าความต้านด้วย แล้วนำค่าที่ได้มา คำนวณหา กำลังไฟฟ้า วิธีที่ 2 ใช้มัลติมิเตอร์ 2 ตัว วิธีการ คือ การวัดค่า V และ I ในเวลาเดียวกันแล้วนำค่าที่วัดได้มาคำนวณหากำลังไฟฟ้า


REPORT TITLE | 55 เครื่องมือและอุปกรณ์ 7. ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ 1 เครื่อง 8. แอนาลอกมัลติมิเตอร์ 1 เครื่อง 9. สายไฟ 1 ม้วน 10. ตัวต้านทาน (1000 , 200 โอห์ม) 2 ตัว 11. บอร์ดทดลองแบบ bread board 1 บอร์ด 12. ชุดแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงแบบปรับค่าได้ 1 ตัว รูปที่ 1 ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ รูปที่ 2 แอนาลอกมัลติมิเตอร์ รูปที่ 3 ตัวต้านทาน รูปที่ 4 บอร์ดทดลองแบบ bread board รูปที่ 5 สายไฟ รูปที่ 6 ชุดแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงแบบปรับค่าได้ ลำดับและขั้นตอนการทดลอง 1. ให้ทำการคำนวณค่ากระแสไฟฟ้าในวงจรอนุกรม จากค่าทฤษฎีก่อน จากค่าที่ได้คือ V=5 โวล์ต , R1=1000 โอห์ม , R2=200 โอห์ม ** Note วงจรอนุกรม กระแสที่ไหลผ่านโหลดเท่ากัน รูปที่ 7 รูปวงจรอนุกรม I


REPORT TITLE | 56 2. ให้ท าการวัดค่าตัวต้านทาน ทั้ง 2 ตัว **สามารถดูการปรับค่าพิธีได้ที่ ปฏิบัติการที่ 2 การใช้เครื่อมือวัด** รูปที่ 8 วัดค่าตัวต้านทาน 1000 โอห์ม รูปที่ 9 วัดค่าตัวต้านทาน 200 โอห์ม 3. ให้นำตัวต้านทาน 1000 โอห์ม และ 200 โอห์ม มาต่อนุกรมกันตามรูปที่ 10 และ 11 จากนั้นทำการเข้าสู้วิธีการวัด กำลังไฟฟ้าต่อไป รูปที่ 10 วงจรอนุกรม รูปที่ 11 การต่อวงจรอนุกรม 3.1.วิธีการวัดกำลังไฟฟ้าด้วยวิธีที่ 1 คือ ใช้มัลติมิเตอร์ 1 ตัว วิธีการวัดค่า V และ I แยกกันรวมถึงวัดค่าความต้าน ด้วย แล้วนำค่าที่ได้มาคำนวณหากำลังไฟฟ้าทั้ง 3 สูตร 3.1.1. ให้นำดิจิทัลมัลติมิเตอร์มาทำการวัดค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจร **สามารถศึกษากับตัดวงจร เพื่อทำการวัดกระแสไฟฟ้าได้ที่ ปฏิบัติการที่ 5 การวัดกระแสไฟฟ้ากระแสตรง** รูปที่ 12 การตัดวงจรเพื่อท าการวัดกระแสไฟฟ้า รูปที่13 การวัดกระแสไฟฟ้าด้วยดิจิทัลมัลติมิเตอร์


REPORT TITLE | 57 3.1.2. ให้นำดิจิทัลมัลติมิเตอร์มาทำการวัดแรงดันตกคร่อม ตัวต้านทานแต่ละตัว โดยเริ่มจากตัวต้านทาน 1000 โอห์ม และ200 โอห์ม ตามลำดับ ดังรูปที่ 14 และ 15 ตามลำดับ รูปที่ 14 การวัดแรงดันที่ตกคร่อง R ตัวที่1 รูปที่15 การวัดแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อง R ตัวที่2 3.1.3. ให้นำค่าความต้านทาน กระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าที่วัดได้ จากรูปที่ 8 9 13 14 และ15 ตามลำดับมา คำนวณเพื่อค่ากำลังไฟฟ้า จากทั้ง 3 สูตรที่ถูกแปลงจากกฎของโอห์ม จากค่าที่ได้ R1=1019 โอห์ม, R2=199.4 โอห์ม, I=0.0041 แอมป์, V1=4.183 โวล์ต, V2=0.818 โวล์ต


REPORT TITLE | 58 3.2.วิธีการวัดกำลังไฟฟ้าด้วยวิธีที่ 2 คือ การใช้มัลติมิเตอร์ 2 ตัว ในการวัดค่า V และ I ในเวลาเดียวกันแล้วนำ ค่าที่วัดได้มาคำนวณหากำลังไฟฟ้า 3.2.1. ให้ทำการตัดวงจรเพื่อทำการวัดค่ากระแสไฟฟ้า และให้นำแอนนาลอกมัลติมิเตอร์มาทำการวัดค่า กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจร และนำดิจิทัลมัลติมิเตอร์วัดค่าแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมตัวต้านทานแต่ ละตัว ตามรูปที่ 16 17 และรูปที่ 18จากนั้นให้ทำการบันทึกค่าที่วัดได้ลงในตารางบันทึกผลการ ทดลองที่ 1 **สามารถศึกษาการปรับย่านและวิการวัดด้วยเครื่องวัดแบบแอนาลอกมันติมิเตอร์ ได้ที่ปฏิบัติการที่ 5 การวัดค่ากระแสไฟฟ้ากระแสตรง** รูปที่ 16 การตัดวงจรเพื่อทำการวัดกระแสไฟฟ้า และแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมตัวต้านทาน รูปที่ 17 วัดค่ากระแสไฟฟ้าและแรงดันตกคร่อม R ตัวที่ 1 รูปที่ 18 วัดค่ากระแสไฟฟ้าและแรงดันตกคร่อม R ตัวที่ 2


REPORT TITLE | 59 3.2.2. ให้ผู้ทำการทดลองนำค่าที่วัดได้ จากข้อที่ 3.2.1 รูปที่ 8 และ 9 มาแสดงวิธีการคำนวณด้วยวิธีทำทั้ง สามสูตรจากการแปลงกฎของโอห์ม ดังข้อที่ 3.1.3 และบันทึกค่าที่คำนวณได้ลงในตารางบันทึกผล การทดลองที่ 2 ตารางผลการทดลองที่ 1 ขั้นตอนการทดสอบ การหาค่ากำลังไฟฟ้าด้วยวิธีที่ 2 ค่ากระแสไฟฟ้าที่วัดได้ (A) ค่าแรงดันไฟฟ้าที่วัดได้ (V) ข้อสังเกต แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 1 แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 2 ตารางผลการทดลองที่ 2 ขั้นตอนการทดสอบ การคำนวณหาค่ากำลังไฟฟ้า ค่ากำลังไฟฟ้าที่ ตกคร่อม R ตัวที่ 1 (W) ค่ากำลังไฟฟ้าที่ ตกคร่อม R ตัวที่ 2 (W) ข้อสังเกต วิธีการคำนวณสูตรที่ 1 (P=IV) วิธีการคำนวณสูตรที่ 2 (P=I 2R) วิธีการคำนวณสูตรที่ 3 (P= V 2 R ) วิเคราะห์ผลการทดลอง วิเคราะห์ผล เท่ากัน/ไม่เท่ากัน ข้อสังเกต ค่ากำลังไฟฟ้าที่ได้จากการคำนวณของ แต่ละสูตร ได้ค่าออกมาเท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใดจงให้ข้อสังเกตในตาราง วิเคราะห์ผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง


REPORT TITLE | 60 เอกสารอ้างอิง 1. INC – CLUB KMUTT (BM13 DC Power Measurement ( https://youtu.be/WUF9mGP7OWk ) : 26 กรกฎาคม 2566 2. เอกสารประกอบการเรียน วิชา ELRCTICAL MEASUREMENT : 30 มิถุนายน 2566 3. เว็บไซต์easyeda.com : 26 กรกฎาคม 2566


REPORT TITLE | 61 ปฏิบัติการที่7 การวัดไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Voltage Measurement) วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้มัลติมิเตอร์เพื่อวัดค่าแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ 2. เพื่อให้มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับค่า RMS และค่า Average ความรู้เบื้องต้น อ้างอิงจาก YouTube ช่อง INC–CLUB KMUTT เรื่อง BM06 และBM07 AC Voltage Measurement ( https://youtu.be/80iKTuLaFYA ) ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปมีดังนี้ 1. ไฟฟ้ากระแสสลับ คือ แรงดันไฟฟ้ากระแสสลับมีทิศกลับไปกลับมาตลอดเวลา ตามรูปที่ 1 และรูปที่ 2 ตามลำดับ รูปที่ 1 กราฟสัญญาณไฟฟ้ากระแสสลับ รูปที่ 2 กราฟสัญญาณไฟฟ้ากระแสตร 2. Root mean square (RMS) และ ค่าAverage คือ ค่าที่วัดได้จากจากมัลติมิเตอร์ หรือเป็นรากที่สองของ ค่าเฉลี่ย กำลังสอง และ ค่าAverage คือค่าเฉลี่ยเลขคณิต โดยค่า RMS และค่า Average ต่างจากค่าเฉลี่ยปกติ คือ เราจะเห็นว่า แรงดันกระแสสลับมีทิศกลับไปกลับมาตลอดเวลา ซึ่งค่าเฉลี่ยจะคิดได้ว่า = 1 ∫ sin 2 1 (1) ซึ่งจากสูตรที่ 1 ทางด้านบนจะเห็นว่า ค่า Average มีค่าเท่ากับ 0 เนื่องจากค่าที่ได้มทั้งค่า บวก และค่า ลบ แต่ถ้าหากคำนวณ ด้วยสูตรที่ 2 = √ 1 ∫ ( sin ) 2 2 1 (2) รูปที่ 3 กราฟสัญญาณไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งจากสูตรที่ 2 ทางด้านบนจะเห็นว่ามีการนำค่าไปยกกำลังสองแล้วจึงค่อยนำมาหาค่าเฉลี่ย เลยทำให้ค่าที่ได้ก็จะไม่มีค่าติดลบ ซึ่งค่าที่ได้จะสัมพันธ์กับค่าสูงสุด ซึ่งค่า RMS มีความสัมพันธ์กับค่าสูตรสุดตามสูตรที่ 3 ค่าสูงสุด ( V peak )


REPORT TITLE | 62 = √2 (3) 3. ความสัมพันธ์กฎของโอห์มที่ว่าด้วย V = IR เครื่องมือและอุปกรณ์ 1. ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ 1 เครื่อง 2. แอนาลอกมัลติมิเตอร์ 1 เครื่อง 3. สายไฟ 1 ม้วน 4. ตัวต้านทาน (1000 , 200 , 120 โอห์ม) 3 ตัว 5. บอร์ดทดลองแบบ bread board 1 บอร์ด 6. ชุดหม้อแปลงจ่ายแรงดัน AC 1 ตัว รูปที่ 4 ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ รูปที่ 5 แอนาลอกมัลติมิเตอร์ รูปที่ 6 สายไฟ รูปที่ 7 ตัวต้านทาน รูปที่ 8 บอร์ดทดลองแบบ bread board รูปที่9 ชุดหม้อแปลงจ่ายแรงดัน AC


REPORT TITLE | 63 ลำดับและขั้นตอนการทดลอง การวัดค่าแรงดันไฟฟ้าวงจรอนุกรม คำนวณค่าแรงตกคร่อมตัวต้านทานแต่ละตัว รูปที่ 10 วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม วัดค่าแรงดันไฟฟ้า – ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ 1. ให้ปรับพิสัยเพื่อวัดแรงดันไฟฟ้า ตามรูปที่ 11 รูปที่ 11 ขั้นตอนการปรับพิสัยย่านการวัดต่าแรงดันกระแสสลับ 2. นำสายขั้วโพรบ ( PROBE ) ต่อเข้ากับขั้วของแหล่งจ่าย โดยสีแดงเข้ากับขั้วบวก( + ) และสีดำเข้ากับขั้วลบ( - )ทั้งขั้นตอนของการวัดแรงดันไฟฟ้ากระสลับ จากนั้นทำการอ่านค่าและ บันทึกผลลงในตารางการทดลองที่ 1 ตามรูปที่ 12 13 14 และรูปที่ 15 ตามลำดับ รูปที่ 12 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 1 รูปที่ 13 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 2 ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้


REPORT TITLE | 64 รูปที่ 14 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 3 รูปที่ 15 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ทั้งสามตัว วัดค่าแรงดันไฟฟ้า – แอนาลอกมัลติมิเตอร์ 1. ให้ปรับพิสัยเพื่อวัดแรงดันไฟฟ้า ตามรูปที่ 16 **หากไม่ทราบว่ามีแหลางจ่ายมีแรงดันเท่าไหร่ให้ปรับไปที่พิสัยสูงสุดก่อนเสมอ** รูปที่ 16 ขั้นตอนการปรับพิสัยย่านการวัดต่าแรงดันกระแสสลับ 2. นำสายขั้วโพรบ ( PROBE ) ต่อเข้ากับขั้วของแหล่งจ่าย โดยสีแดงเข้ากับขั้วบวก( + ) และสีดำเข้ากับขั้วลบ( - ) ทั้งขั้นตอนของการวัดแรงดันไฟฟ้ากระสลับ ตามรูปที่ 17 18 19 และรูปที่ 20 ตามลำดับ จากนั้นทำการอ่าน ค่าและบันทึกผลการทดลองลงในตารางบันทึกผลการทดลองที่ 1 รูปที่17 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่1 รูปที่18 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่2 ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้


REPORT TITLE | 65 รูปที่ 19 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 3 รูปที่ 20 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ทั้งสามตัว การวัดค่าแรงดันไฟฟ้าวงจรขนาน คำนวนค่าแรงตกคร่อมตัวต้านทานแต่ละตัว รูปที่ 21 วงจรไฟฟ้าแบบขนาน วัดค่าแรงดันไฟฟ้า – ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ 1. ให้ปรับพิสัยเพื่อวัดแรงดันไฟฟ้า ตามรูปที่ 22 รูปที่ 22 ขั้นตอนการปรับพิสัยย่านการวัดต่าแรงดันกระแสสลับ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้


REPORT TITLE | 66 2. นำสายขั้วโพรบ ( PROBE ) ต่อเข้ากับขั้วของแหล่งจ่าย โดยสีแดงเข้ากับขั้วบวก( + ) และสีดำเข้ากับขั้วลบ( - ) ทั้งขั้นตอนของการวัดแรงดันไฟฟ้ากระสลับ ตามรูปที่ 23 24 และรูปที่ 25 จากนั้นทำการอ่านค่าและบันทึกผลลงในตารางการทดลองที่ 2 รูปที่ 23 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 1 รูปที่ 24 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 2 รูปที่ 25 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 3 วัดค่าแรงดันไฟฟ้า – แอนาลอกมัลติมิเตอร์ 1. ให้ปรับพิสัยเพื่อวัดแรงดันไฟฟ้า ตามรูปที่ 26 รูปที่ 26 ขั้นตอนการปรับพิสัยย่านการวัดต่าแรงดันกระแสสลับ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้


REPORT TITLE | 67 2. นำสายขั้วโพรบ ( PROBE ) ต่อเข้ากับขั้วของแหล่งจ่าย โดยสีแดงเข้ากับขั้วบวก( + ) และสีดำเข้ากับขั้วลบ( - )ทั้งขั้นตอนของการวัดแรงดันไฟฟ้ากระสลับ ตามรูปที่ 27 28 29 และรูปที่ 30 ตามลำดับ จากนั้นทำการอ่านค่าและบันทึกผลการทดลองลงในตารางบันทึกผลการทดลองที่ 2 รูปที่ 27 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 1 รูปที่ 28 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 1 รูปที่ 29 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 1 รูปที่ 30 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ทั้งสามตัว การวัดค่าแรงดันไฟฟ้าวงจรแบบผสม คำนวนค่าแรงตกคร่อมตัวต้านทานแต่ละตัว รูปที่ 31 วงจรไฟฟ้าแบบผสม วัดค่าแรงดันไฟฟ้า – ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้


REPORT TITLE | 68 1. ให้ปรับพิสัยเพื่อวัดแรงดันไฟฟ้า ตามรูปที่ 32 รูปที่ 32 ขั้นตอนการปรับพิสัยย่านการวัดต่าแรงดันกระแสสลับ 2. นำสายขั้วโพรบ ( PROBE ) ต่อเข้ากับขั้วของแหล่งจ่าย โดยสีแดงเข้ากับขั้วบวก( + ) และสีดำเข้ากับขั้วลบ( - ) ทั้งขั้นตอนของการวัดแรงดันไฟฟ้ากระสลับ ตามรูปที่ 33 34 35 36 และรูปที่ 37 ตามลำดับ จากนั้นทำการอ่านค่าและบันทึกผลลงในตารางการทดลองที่ 3 รูปที่ 33 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 1 รูปที่ 34 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 2 รูปที่ 35 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 3 รูปที่ 36 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมวงจร อนุกรม รูปที่ 37 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมวงจร ขนาน ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้


REPORT TITLE | 69 วัดค่าแรงดันไฟฟ้า – แอนาลอกมัลติมิเตอร์ 1. ให้ปรับพิสัยเพื่อวัดแรงดันไฟฟ้า ตามรูปที่ 38 รูปที่ 38 ขั้นตอนการปรับพิสัยย่านการวัดต่าแรงดันกระแสสลับ 2. นำสายขั้วโพรบ ( PROBE ) ต่อเข้ากับขั้วของแหล่งจ่าย โดยสีแดงเข้ากับขั้วบวก( + ) และสีดำเข้ากับขั้วลบ( - ) ทั้งขั้นตอนของการวัดแรงดันไฟฟ้ากระสลับ ตามรูปที่ 39 40 41 42 และ รูปที่ 43 ตามลำดับ จากนั้นทำการอ่านค่าและบันทึกผลการทดลองลงในตารางบันทึกผลการทดลอง ที่ 3 รูปที่ 39 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 1 รูปที่ 40 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่ 2 รูปที่ 41 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อม R ตัวที่3 รูปที่42แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมวงจรอนุกรม รูปที่43แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมวงจร ขนาน ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้ ค่า VRMS หรือค่าที่วัดได้


REPORT TITLE | 70 ตารางผลการทดลองที่ 1 ขั้นตอนการทดสอบ วงจรอนุกรม ค่าที่ได้จากเครื่องวัด ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด แอนาลอกมัลติมิเตอร์ ข้อสังเกต แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 1 แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 2 แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 3 แรงดันตกคร่อมแรงดันทั้งสามตัว ตารางผลการทดลองที่ 2 ขั้นตอนการทดสอบ วงจรขนาน ค่าที่ได้จากเครื่องวัด ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด แอนาลอกมัลติมิเตอร์ ข้อสังเกต แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 1 แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 2 แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 3 ตารางผลการทดลองที่ 3 ขั้นตอนการทดสอบ วงจรผสม ค่าที่ได้จากเครื่องวัด ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด แอนาลอกมัลติมิเตอร์ ข้อสังเกต แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 1 แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 2 แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 3 แรงดันทั้งหมดของวงจรอนุกรม แรงดันทั้งหมดของวงจรขนาน


REPORT TITLE | 71 วิเคราะห์ผลการทดลอง วิเคราะห์ผล เท่ากัน/ไม่เท่ากัน ข้อสังเกต การวัดค่าแรงดันตกคร่อมตัวต้านทาน ของเครื่องวัดดิจิทัลมัลติมิเตอร์ และแอนาลอกมัลติมิเตอร์ วัดได้ค่า เท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใด วิเคราะห์ผล แอนลอกมัลติมิเตอร์/ดิจิทัลมัลติ มิเตอร์/ทั้งสองเครื่องวัดมีความแม่นยำ เท่ากัน ข้อสังเกต ระหว่างเครื่องวัดแบบดิจิทัลมัลติมิเตอร์ และแบบแอนาลอกมัลติมิเตอร์ เครื่องวัด แบบไหนวัดได้มีความแม่นยำมากกว่ากัน รู้ได้อย่างไร มีข้อสังเกตุใดเป็นอันดับแรก ที่ทำให้ทราบว่าเครื่องวัดชนิดนี้มีความ แม่นยำมากกกว่ากัน สรุปผลการทดลอง เอกสารอ้างอิง 1. INC – CLUB KMUTT (BM06 และBM07 AC Voltage Measurement ( https://youtu.be/80iKTuLaFYA ) : 30 มิถุนายน 2566 2. เอกสารประกอบการเรียน วิชา ELRCTICAL MEASUREMENT : 30 มิถุนายน 2566 3. เว็บไซต์ icelectronic.com: 4 มิถุนายน 2566


REPORT TITLE | 72 ปฏิบัติการที่8 การวัดกระแสไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Current Measurement) วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้มัลติมิเตอร์เพื่อวัดค่ากระแสไฟฟ้ากระแสสลับ 2. เพื่อเพิ่มทักษะการคำนวณค่ากระแสไฟฟ้าด้วยการให้กฎของ โอห์ม ความรู้เบื้องต้น อ้างอิงจาก YouTube ช่อง INC–CLUB KMUTT เรื่อง BM.10 AC Current Measurement ( https://youtu.be/X75YOvlfu_w) ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปมีดังนี้ 1. สัญลักษณ์ของพิสัยของเครื่องวัดแบบดิจิทัลมัลติมิเตอร์ รูปที่ 1 พิสัยย่านการวัดกระแสไฟฟ้าด้วยดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ** เพิ่มเติม เนื่องด้วยการทดลองนี้เป็นทดลองวัดค่ากระแสไฟฟ้ากระแสสลับ จึงใช้ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ได้เพียงชนิดเดียว เนื่องจากเครื่องวัดแบบแอนนาลอกมิเตอร์ไม่สามารถวัดค่ากระแสไฟฟ้ากระแสสลับได้** 2. กฎของโอห์ม คือ ความสัมพันธ์กฎของโอห์มที่ว่าด้วย V=IR เครื่องมือและอุปกรณ์ 1. ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ 1 เครื่อง 2. สายไฟ 1 ม้วน 3. ตัวต้านทาน (1000 , 200 , 120 โอห์ม) 3 ตัว 4. บอร์ดทดลองแบบ bread board 1 บอร์ด 5. ชุดหม้อแปลงจ่ายแรงดัน AC 1 ตัว สัญลักษณ์ พิสัยที่ใช้วัดกระแสไฟฟ้า พิสัยย่านการวัด กระแสไฟฟ้ากระแสสลับ • 60 • 600 • 20


REPORT TITLE | 73 รูปที่ 2 ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ รูปที่ 3 ตัวต้านทาน รูปที่ 4 บอร์ดทดลองแบบ bread board รูปที่ 5 สายไฟ รูปที่6 ชุดแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงแบบปรับค่าได้ ลำดับและขั้นตอนการทดลอง การวัดค่ากระแสไฟฟ้ากระแสตรงวงจรอนุกรม ** กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านโหลดที่ต่อแบบอนุกรมจะมีค่าเท่ากันเพราะ “เป็นกระแสไฟฟ้าเส้นเดียวกัน” คำนวณค่าแรงตกคร่อมตัวต้านทานแต่ละตัว รูปที่ 7 วงจรไฟฟ้าแบบต่ออนุกรม


REPORT TITLE | 74 วัดค่ากระแสไฟฟ้า – ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ 1. ปรับพิสัยเพื่อวัดค่ากระแสไฟฟ้า ตามรูปที่ 10 รูปที่ 8 ขั้นตอนการปรับพิสัยย่านการวัดค่ากระแสไฟฟ้ากระแสสลับ 2. นำมัลติมิเตอร์มาวัดค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านโหลด ดังนั้นเราจึงทำให้มัลติมิเตอร์ไปแทรกในวงจรให้ เปรียบเสมือนโหลดตัวหนึ่ง โดยการเปิดวงจรและต่ออนุกรมเข้าวงจร จากนั้นให้ทำการอ่านค่าและ บันทึกผลการทดลองลงในตารางบันทึกผลการทดลองที่ 1 รูปที่ 9 การตัดวงจรเพื่อทำการวัดกระแสไฟฟ้า รูปที่ 10 กระแสไฟฟ้าที่ไหลภายในวงจรอนุกรม ** มัลติมิเตอร์ทำหน้าที่เป็น แอมป์มิเตอร์ ซึ่งจะมีค่าความ ต้านทานน้อยมากๆ ** เปิดวงจร เพื่อต่ออนุกรมเข้ากับวงจร ค่ากระแสไฟฟ้าที่วัดได้


REPORT TITLE | 75 คำนวณค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทาน รูปที่ 11 วงจรไฟฟ้าแบบต่อขนาน วัดค่ากระแสไฟฟ้า – ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ 1. ปรับพิสัยเพื่อวัดค่ากระแสไฟฟ้า ตามรูปที่ 10 รูปที่ 12 ขั้นตอนการปรับพิสัยย่านการวัดค่ากระแสไฟฟ้ากระแสสลับ 2. นำมัลติมิเตอร์มาวัดค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านโหลด ดังนั้นเราจึงทำให้มัลติมิเตอร์ไปแทรกในวงจรให้ เปรียบเสมือนโหลดตัวหนึ่ง โดยการเปิดวงจรและต่ออนุกรมเข้าวงจร ตามรูปที่ 13 14 15 16 และ รูปที่17 จากนั้นให้ทำการอ่านค่าและบันทึกผลการทดลองลงในตารางบันทึกผลการทดลองที่ 2 รูปที่ 13 การตัดวงจรเพื่อทำการวัดกระแสไฟฟ้า รูปที่ 14 การตัดวงจรเพื่อทำการวัดกระแสไฟฟ้า I1 I2 I3 เปิดวงจร เพื่อต่ออนุกรมเข้ากับวงจร I1 I2 I3 I1 ** มัลติมิเตอร์ทำหน้าที่เป็น แอมป์มิเตอร์ ซึ่งจะมีค่าความ ต้านทานน้อยมากๆ **


REPORT TITLE | 76 รูปที่ 15 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน R ตัวที่ 1 รูปที่ 16 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน R ตัวที่2 รูปที่ 17 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน R ตัวที่3 คำนวณค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทาน รูปที่ 18 วงจรไฟฟ้าแบบต่อผสม ค่ากระแสไฟฟ้าที่วัดได้ ค่ากระแสไฟฟ้าที่วัดได้ ค่ากระแสไฟฟ้าที่วัดได้


REPORT TITLE | 77 วัดค่ากระแสไฟฟ้า – ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ 1. ปรับพิสัยเพื่อวัดค่ากระแสไฟฟ้า ตามรูปที่ 19 รูปที่ 19 ขั้นตอนการปรับพิสัยย่านการวัดค่ากระแสไฟฟ้ากระแสสลับ 2. นำมัลติมิเตอร์มาวัดค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านโหลด ดังนั้นเราจึงทำให้มัลติมิเตอร์ไปแทรกในวงจรให้ เปรียบเสมือนโหลดตัวหนึ่ง โดยการเปิดวงจรและต่ออนุกรมเข้าวงจร ตามรูปที่20 21 และรูปที่ 22 จากนั้นให้ทำการอ่านค่าและบันทึกผลการทดลองลงในตารางบันทึกผลการทดลองที่ 3 รูปที่ 20 การตัดวงจรเพื่อทำการวัดกระแสไฟฟ้า รูปที่ 21 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านวงจรอนุกรม รูปที่ 22 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านวงจรขนาน เปิดวงจร เพื่อต่ออนุกรมเข้ากับวงจร ** มัลติมิเตอร์ทำหน้าที่ เป็น แอมป์มิเตอร์ ซึ่งจะมี ค่าความต้านทานน้อย


REPORT TITLE | 78 ตารางผลการทดลองที่ 1 ตารางผลการทดลองที่ 2 ตารางผลการทดลองที่ 3 ขั้นตอนการทดสอบ วงจรผสม ค่าที่ได้จากทฤษฎี /การคำนวณ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด แอนาลอกมัลติมิเตอร์ ข้อสังเกต กระแสไฟฟ้าที่ไหลภายในวงจรอนุกรม กระแสไฟฟ้าที่ไหลภายในวงจรขนาน วิเคราะห์ผลการทดลอง วิเคราะห์ผล เท่ากัน/ไม่เท่ากัน ข้อสังเกต การวัดค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลภายในวงจร ของเครื่องวัดดิจิทัลมัลติมิเตอร์ และแอนาลอกมัลติมิเตอร์ วัดได้ค่า เท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใด ขั้นตอนการทดสอบ วงจรอนุกรม ค่าที่ได้จากทฤษฎี /การคำนวณ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด แอนาลอกมัลติมิเตอร์ ข้อสังเกต กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจร ขั้นตอนการทดสอบ วงจรขนาน ค่าที่ได้จากทฤษฎี /การคำนวณ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ ค่าที่ได้จากเครื่องวัด แอนาลอกมัลติมิเตอร์ ข้อสังเกต กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทานที่ 1 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทานที่ 2 กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวต้านทานที่ 3


REPORT TITLE | 79 วิเคราะห์ผล แอนลอกมัลติมิเตอร์ /ดิจิทัลมัลติมิเตอร์/ทั้งสองเครื่องวัดมี ความแม่นยำเท่ากัน ข้อสังเกต ระหว่างเครื่องวัดแบบดิจิทัลมัลติมิเตอร์ และแบบแอนาลอกมัลติมิเตอร์ เครื่องวัด แบบไหนวัดได้มีความแม่นยำมากกว่ากัน รู้ได้อย่างไร มีข้อสังเกตุใดเป็นอันดับแรก ที่ทำให้ทราบว่าเครื่องวัดชนิดนี้มีความ แม่นยำมากกกว่ากัน สรุปผลการทดลอง เอกสารอ้างอิง 1. INC-CIUB KMUTT เรื่อง BM.10 AC Current Measurement ( https://youtu.be/X75YOvlfu_w ) : 1 สิงหาคม 2566 2. เอกสารประกอบการเรียน วิชา ELRCTICAL MEASUREMENT : 30 มิถุนายน 2566 3. เว็บไซต์ easyeda.com : 1 สิงหาคม 2566


REPORT TITLE | 80 ปฏิบัติการที่9 การวัดค่ากำลังไฟฟากระแสสลับ (AC Electric Power) วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเพิ่มทักษะการคำนวณหาค่า กำลังไฟฟ้าจากกฎของโอห์ม 2. เพื่อเพิ่มความชำนาญในพื้นฐานการใช้มัลติมิเตอร์ทั้งสอบแบบ เพื่อใช้วัดค่าแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และค่าตัวต้านทาน ความรู้เบื้องต้น อ้างอิงจาก YouTube ช่อง INC–CLUB KMUTT เรื่อง BM.14 AC Power Measurement ( https://youtu.be/WUF9mGP7OWk ) ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปมีดังนี้ 1. กำลังไฟฟ้าสลับ คือ พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไปใน 1 หน่วยเวลา โดยในวงจรกระแสสลับจะแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้ 1.1. Real power คือ กำลังไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจริงที่ตัวต้านทานเท่านั้น 1.1.1.สัญลักษณ์ คือ Real power (P) มีหน่วยเป็น วัตต์(W) 1.1.2.สูตรความสัมพันธ์ที่ใช้ได้ในการคำนวณ คือ การแปลงสูตรจากกฎของโอห์มที่ว่า V=IR ได้ดังนี้ P = IV (3) P = (4) P = (5) 1.2. Reactive power คือ กำลังไฟฟ้าที่เกิดขึ้นที่โหลดชนิดตัวเก็บประจุ และตัวเหนี่ยมนำ 1.2.1.สัญลักษณ์ คือ Reactive power (Q) มีหน่วยเป็น วา (var) 1.2.2.สูตรความสัมพันธ์ที่ใช้ได้ในการคำนวณ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างแรงดันกับกระแส Q = IVSIN (6) โดยที่เซต้า คือมุมระหว่างแรงดันกับกระแส ซึ่งมุมแรงดันกับกระแสนั้นจะเกิดจากการที่วงจรมีตัวเหนี่ยวนำ หรือตัวเก็บประจุ ซึ่งทั้งสองชนิดนี้จะมีความต้านทานเชิงซ้อนทำให้แรงดันกับกระแสมีความต่างเฟส ทำให้ เกิดกำลังไฟฟ้าที่ไม่ก่อให้เกิดพลังงานขึ้น 1.3. Apparent power คือ กำลังไฟฟ้าปรากฏ เกิดจากาการรวมกันของ P กับ Q ตามสามเหลี่ยมพลังงาน ตามรูป ที่ 1


REPORT TITLE | 81 รูปที่ 1 สามเหลี่ยมพลังงาน 1.3.1.สัญลักษณ์ คือ Apparent power (S) มีหน่วยเป็น VOLT-AMP (VA) 1.3.2.สูตรความสัมพันธ์ที่ใช้ได้ในการคำนวณ คือ กำลังไฟฟ้าปรากฏ เกิดจากการรวมกันของ P กับ Q ตาม สามเหลี่ยม ตามสูตรดังนี้ S = IVCOS (7) หรือ = + (8) โดยค่า COS คือค่าตัวประกอบกำลัง หรือที่เรียกว่า Power factor ซึ่งเป็นที่บ่งบอกถึงอุปกรณ์รูปแบบ ของวงจรว่าเป็นรูปแบบ Leabing หรือ Lagging ซึ่งรูปแบบ Leabing หรือ Lagging ซึ่งรูปแบบโหลดของ วงจร ที่ทำให้แรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้ามีความต่างเฟสกันอย่างไร หรือหาได้จากสูตร สามเหลี่ยมพีทาโกลัส ตามรูปที่ 2 รูปที่ 2 สามเหลี่ยมพลังงาน 2. วีธีการวัดกำลังไฟฟ้า มี 2 วิธี วิธีที่ 1 ใช้มัลติมิเตอร์ 1 ตัว วิธีการ คือ การวัดค่า V และ I แยกกันรวมถึงวัดค่าความต้านด้วย แล้วนำค่าที่ได้มา คำนวณหา กำลังไฟฟ้า วิธีที่ 2 ใช้มัลติมิเตอร์ 2 ตัว วิธีการ คือ การวัดค่า V และ I ในเวลาเดียวกันแล้วนำค่าที่วัดได้มาคำนวณหากำลังไฟฟ้า เพิ่มเติม ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ : วัดกระแสไฟฟ้า แอนนาลอกมลัติมิเตอร์: วัดแรงดันตกคร่อม เนื่องจากแอนาลอกมัลติมิเตอร์ไม่สามารถอ่านค่า กระแสสลับได้ เครื่องมือและอุปกรณ์


REPORT TITLE | 82 1. ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ 1 เครื่อง 2. แอนาลอกมัลติมิเตอร์ 1 เครื่อง 3. สายไฟ 1 ม้วน 4. ตัวต้านทาน (1000 , 200 โอห์ม) 2 ตัว 5. บอร์ดทดลองแบบ bread board 1 บอร์ด 6. ชุดแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงแบบปรับค่าได้ 1 ตัว รูปที่ 3 ดิจิทัลมัลติมิเตอร์ รูปที่ 4 แอนาลอกมัลติมิเตอร์ รูปที่ 5ตัวต้านทาน รูปที่ 6 บอร์ดทดลองแบบ bread board รูปที่ 7 สายไฟ รูปที่8 ชุดแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงแบบปรับค่าได้ ลำดับและขั้นตอนการทดลอง 1. ให้ทำการคำนวณค่ากระแสไฟฟ้าในวงจรอนุกรม จากค่าทฤษฎีก่อน จากค่าที่ได้คือ V=12 โวล์ต , R1=1000 โอห์ม , R2=200 โอห์ม ** Note วงจรอนุกรม กระแสไฟฟ้าเท่ากัน รูปที่ 9 รูปวงจรอนุกรม


REPORT TITLE | 83 2. ให้ท าการวัดค่าตัวต้านทาน ทั้ง 2 ตัว ตามรูปที่ 10 และ11 **สามารถดูการปรับค่าพิธีได้ที่ ปฏิบัติการที่ 2 การใช้ เครื่องมือวัด** รูปที่ 10 วัดค่าตัวต้านทาน 1000 โอห์ม รูปที่ 11 วัดค่าตัวต้านทาน 200 โอห์ม 3. ให้นำตัวต้านทาน 1000 โอห์ม และ 200 โอห์ม มาต่อนุกรมกันตามรูปที่ 12 และ 13 จากนั้นทำการเข้าสู้วิธีการวัด กำลังไฟฟ้าต่อไป รูปที่ 12 วงจรอนุกรม รูปที่ 13 การต่อวงจรอนุกรม 3.1.วิธีการวัดกำลังไฟฟ้าด้วยวิธีที่ 1 คือ ใช้มัลติมิเตอร์ 1 ตัว วิธีการวัดค่า V และ I แยกกันรวมถึงวัดค่าความต้าน ด้วย แล้วนำค่าที่ได้มาคำนวณหากำลังไฟฟ้าทั้ง 3 สูตร 3.1.1. ให้นำดิจิทัลมัลติมิเตอร์มาทำการวัดค่ากระไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจร ตามรูปที่ 14 และ15 **สามารถ ศึกษากับตัดวงจรเพื่อทำการวัดกระแสไฟฟ้าได้ที่ ปฏิบัติการที่ 8 การวัดกระแสไฟฟ้ากระแสสลับ** รูปที่ 14 การตัดวงจรเพื่อทำการวัดกระแสไฟฟ้า รูปที่ 15 การวัดกระแสไฟฟ้าด้วยดิจิทัลมัลติมิเตอร์


REPORT TITLE | 84 3.1.2. ให้นำดิจิทัลมัลติมิเตอร์มาทำการวัดแรงดันตกคร่อม ตัวต้านทานแต่ละตัว โดยเริ่มจากตัวต้านทาน 1000 โอห์ม และ200 โอห์ม ตามล าดับ ดังรูปที่16 และ 17 ตามล าดับ รูปที่ 16 การวัดแรงดันที่ตกคร่อง R ตัวที่ 1 รูปที่ 17 การวัดแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อง R ตัวที่ 2 3.1.3. ให้นำค่าความต้านทาน กระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าที่วัดได้ จากรูปที่ 10 11 14 15 16 และ17 ตามลำดับมาคำนวณเพื่อค่ากำลังไฟฟ้า จากทั้ง 3 สูตรที่ถูกแปลงจากกฎของโอห์ม จากค่าที่ได้ R1=1019 โอห์ม, R2=199.4 โอห์ม, I=0.0106 แอมป์, V1=10.68 โวล์ต, V2=2.09 โวล์ต


REPORT TITLE | 85 3.2.วิธีการวัดกำลังไฟฟ้าด้วยวิธีที่ 2 คือ การใช้มัลติมิเตอร์ 2 ตัว ในการวัดค่า V และ I ในเวลาเดียวกันแล้วนำ ค่าที่วัดได้มาคำนวณหากำลังไฟฟ้า 3.2.1. ให้ทำการตัดวงจรเพื่อทำการวัดค่ากระแสไฟฟ้า และให้นำแอนนาลอกมัลติมิเตอร์มาทำการวัดค่า แรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมตัวต้านทานแต่ละตัวในวงจร และนำดิจิทัลมัลติมิเตอร์วัดค่ากระแสไฟฟ้าที่ ไหลผ่านในวงจร จากนั้นให้ทำการบันทึกค่าที่วัดได้ลงในตารางบันทึกผลการทดลองที่ 1 **สามารถศึกษาการปรับย่านและวิการวัดด้วยเครื่องวัดแบบแอนาลอกมันติมิเตอร์ ได้ที่ปฏิบัติการที่ 7 การวัดค่าแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ** รูปที่ 16 การตัดวงจรเพื่อทำการวัดกระแสไฟฟ้า และแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมตัวต้านทาน


REPORT TITLE | 86 รูปที่ 17 การวัดค่ากระแสไฟฟ้าและแรงดันตกคร่อม R ตัวที่ 1 รูปที่ 18 การวัดค่ากระแสไฟฟ้าและแรงดันตกคร่อม R ตัวที่ 2 3.2.2. ให้ผู้ทำการทดลองนำค่าที่วัดได้ จากข้อที่ 3.2.1 รูปที่ 10 และ 11 มาแสดงวิธีการคำนวณด้วยวิธีทำ ทั้งสามสูตรจากการแปลงกฎของโอห์ม ดังข้อที่ 3.1.3 และบันทึกค่าที่คำนวณได้ลงในตารางบันทึกผล การทดลองที่ 2 ตารางผลการทดลองที่ 1 ขั้นตอนการทดสอบ การหาค่ากำลังไฟฟ้าด้วยวิธีที่ 2 ค่ากระแสไฟฟ้าที่วัดได้ (A) ค่าแรงดันไฟฟ้าที่วัดได้ (V) ข้อสังเกต แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 1 แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานที่ 2 ตารางผลการทดลองที่ 2 ขั้นตอนการทดสอบ การคำนวณหาค่ากำลังไฟฟ้า ค่ากำลังไฟฟ้าที่ ตกคร่อม R ตัวที่ 1 (W) ค่ากำลังไฟฟ้าที่ ตกคร่อม R ตัวที่ 2 (W) ข้อสังเกต วิธีการคำนวณสูตรที่ 1 (P=IV) วิธีการคำนวณสูตรที่ 2 (P=I 2R) วิธีการคำนวณสูตรที่ 3 (P= V 2 R ) วิเคราะห์ผลการทดลอง วิเคราะห์ผล เท่ากัน/ไม่เท่ากัน ข้อสังเกต


REPORT TITLE | 87 ค่ากำลังไฟฟ้าที่ได้จากการคำนวณของ แต่ละสูตร ได้ค่าออกมาเท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใดจงให้ข้อสังเกตในตาราง วิเคราะห์ผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง เอกสารอ้างอิง 1. INC – CLUB KMUTT (BM.14 AC Power Measurement( https://youtu.be/WUF9mGP7OWk ) : 1 กรกฎาคม 2566 2. เอกสารประกอบการเรียน วิชา ELRCTICAL MEASUREMENT : 30 มิถุนายน 2566 3. เว็บไซต์easyeda.com : 1 กรกฎาคม 2566


Click to View FlipBook Version