การเป็ นแบบอย่างทด่ี ี มีคุณธรรม จริยธรรม และเป็ นพลเมืองทเ่ี ข้มแขง็
ดารงตนให้เป็ นทเ่ี คารพศรัทธาของผู้เรียนและสมาชิกในชุมชน
การปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดี หมายถึง การแสดงออก การประพฤติและปฏิบตั ิในดา้ นบุคลิกภาพ
ทว่ั ไป การแต่งกาย กิริยา วาจา และจริยธรรมที่เหมาะสมกบั ความเป็นครูอยา่ งสม่าเสมอ ท่ีทาใหผ้ เู้ รียนเลื่อมใส
ศรัทธา และถือเป็นแบบอยา่ ง
ระดบั คุณภาพ
ระดบั 1 ปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยา่ งที่ดีในดา้ นต่างๆ อยา่ งสม่าเสมอ โดยพจิ ารณาจาก
1) การแต่งกายสุภาพเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ
2) การใชว้ าจาสุภาพ
3) มีความประพฤติเรียบร้อย
4) มีความเมตตากรุณาต่อผเู้ รียน
5) รับผดิ ชอบปฏิบตั ิงานอยา่ งขยนั ขนั แขง็
แหล่งอ้างองิ : เกณฑ์มาตรฐานวชิ าชีพครูของคุรุสภา พ.ศ. 2537
ระดบั 2 ปฏบิ ตั ติ นเป็ นแบบอย่างท่ดี อี ย่างสมา่ เสมอ ให้คาแนะนาและแก้ไขข้อบกพร่องในลกั ษณะสร้างสรรค์ ตลอดจนสอดแทรก
ในกระบวนการเรียนการสอน โดยพจิ ารณาจาก
1) การใหค้ าแนะนา
2) การเชิญชวนใหป้ ฏิบตั ิ
3) การแกไ้ ขขอ้ บกพร่อง
4) การสอดแทรกในกระบวนการเรียนการสอน
ระดบั 3 ปฏิบตั ติ นเป็ นแบบอย่างที่ดจี นผู้เรียนเกดิ ศรัทธา และปฏบิ ตั ติ นตามแบบอย่างท่ีเลือกสรรแล้วเป็ นปกตินิสัย โดยพจิ ารณา
จาก
1) เป็นโอกาสใหผ้ เู้ รียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั พฤติกรรมของครูในสถานศึกษา
2) เปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียนตดั สินใจเลือกพฤติกรรมของตนเอง
3) เสริมแรงทางบวกแก่ผเู้ รียน
4) เผยแพร่วิธีการท่ีถกู ตอ้ งในการสร้างคุณธรรม
แหล่งอ้างองิ : เกณฑ์มาตรฐานวชิ าชีพครูของคุรุสภา พ.ศ. 2537
คุณลกั ษณะสาคญั 7 ประการ ของครูใน ศตวรรษที่ 21
1. สร้างและบูรณาการความรู้ได้ ครูจะตอ้ งสามารถบรู ณาการความรู้ต่างๆที่มี มาใชใ้ นการสร้างสรรคแ์ ละพฒั นาองคค์ วามรู้ใหม่ๆ
2. มีความคิดวเิ คราะห์และสร้างสรรค์ ครูจะตอ้ งสอนใหเ้ ดก็ มีทกั ษะกระบวนการคิด โดยสามารถคิดวเิ คราะห์ในเรื่องต่างๆ และมี
ความคิดสร้างสรรคท์ ่ีเป็นประโยชน์
3. มีวสิ ยั ทศั น์และตกผลึกทางความคิดเพอื่ แลกเปล่ียนความคิดเห็นกบั ผเู้ รียน ครูจะตอ้ งเป็นคนมีวสิ ยั ทศั น์ เนน้ ใหเ้ ดก็ เกิดการเรียนรู้
โดยการส่งเสริมการเรียนรู้แบบผเู้ รียนเป็นสาคญั เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ตกผลึกทางความคิดไดด้ ว้ ยตวั เอง และมีโอกาสแลกเปล่ียนความคิดเห็น
ระหวา่ งกนั
4. ครูตอ้ งรู้และเขา้ ใจเทคโนโลยใี หม่ มีทกั ษะใหม่ๆ พร้อมท้งั ช้ีแนะขอ้ ดีขอ้ เสียใหผ้ เู้ รียนได้ ครูจะตอ้ งสามารถใชเ้ ทคโนโลยี
ส่งเสริมการศึกษาไดห้ ลากหลาย และสามารถช้ีใหเ้ ดก็ เห็นถึงขอ้ ดีขอ้ เสีย และการใชเ้ ทคโนโลยตี า่ งๆอยา่ งเหมาะสม
ท่ีมา : ไพฑูรย์ สินลารัตน์ (2557). ครูในศตวรรษที่ 21. เอกสารประชุมวชิ าการ “อภิวฒั น์การเรียนรู้สู่จุดเปลี่ยนประเทศไทย”.
กรุงเทพมหานคร: สานกั งานส่งเสริมสงั คมแห่งการเรียนรู้และพฒั นาคุณภาพเยาวชน
คุณลกั ษณะสาคญั 7 ประการ ของครูใน ศตวรรษที่ 21
5. มีทกั ษะการสอนเดก็ ใหเ้ ติบโตเตม็ ศกั ยภาพและสร้างผลงานใหม่ๆ ครูจะตอ้ งส่งเสริมการเรียนรู้ใหเ้ ดก็ ตามวยั
และใหเ้ ดก็ พฒั นาอยา่ งเตม็ ที่ตามศกั ยภาพของเดก็ และเนน้ ใหเ้ ดก็ เปล่ียนจากเป็นผรู้ ับ กลายเป็นผพู้ ฒั นาและ
สร้างสรรคส์ ิ่งใหม่
6. ตอ้ งเขม้ แขง็ ในจรรยาบรรณ คุณธรรม จริยธรรม และชกั ชวนใหค้ นอื่นๆทาเพอ่ื สังคม ครูจะตอ้ งยดึ มนั่ ใน
จรรยาบรรณวชิ าชีพ รักษาคุณธรรมจริยธรรมและเป็นบุคคลหน่ึงในสังคมท่ีช่วยใหส้ มาชิกในสังคมน้นั ๆมี
แนวทางในการปฏิบตั ิตนตอ่ ตนเองแปละสังคมท่ีเหมาะสม
7. มีบทบาทนาดา้ นการสอนและวชิ าชีพ พฒั นาคุณภาพของโรงเรียนและในวชิ าชีพร่วมกบั ผบู้ ริหารมากข้ึน ครู
จะตอ้ งมีบทบาทต่อการส่งเสริม พฒั นา และประเมินผลการเรียนรู้และวชิ าชีพในโรงเรียนร่วมกบั บุคลากร
ผบู้ ริหารและชุมชน
ท่ีมา : ไพฑูรย์ สินลารัตน์ (2557). ครูในศตวรรษที่ 21. เอกสารประชุมวชิ าการ “อภิวฒั น์การเรียนรู้สู่จุดเปลี่ยนประเทศไทย”.
กรุงเทพมหานคร: สานกั งานส่งเสริมสงั คมแห่งการเรียนรู้และพฒั นาคุณภาพเยาวชน
ลกั ษณะของครูทด่ี ตี ามแนวคดิ ในวงการการศึกษาตะวนั ตก
1.เป็นผมู้ ีความรอบรู้
2.เป็นผมู้ ีอารมณ์ขนั
3.เป็นผมู้ ีความยดื หยนุ่ ผอ่ นปรน
4.เป็นผมู้ ีความต้งั ใจในการทางาน
5.เป็นผมู้ ีความซ่ือสตั ย์
6.เป็นผมู้ ีความสามารถสร้างความชดั เจน
ที่มา : เฮลซองและวคี ส์ อา้ งใน ไพพรรณ เกียรติโชติชยั 2536:52-58
ลกั ษณะของครูทด่ี ตี ามแนวคดิ ในวงการการศึกษาตะวนั ตก
7.เป็นคนเปิ ดเผย
8.เป็นผมู้ ีความอดทน
9.เป็นแบบอยา่ งท่ีดี
10.เป็นผสู้ ามารถประยกุ ตท์ ฤษฎีไปปฏิบตั ิได้
11.เป็นผมู้ ีความเช่ือมน่ั ในตนเองสูง
12.เป็นผมู้ ีความสามารถในศิลปะวทิ ยาการหลายๆดา้ น
13.เป็นผแู้ ต่งกายเหมาะสมและมีสุขอนามยั ส่วนบุคคลดี
ท่ีมา : เฮลซองและวีคส์ อา้ งใน ไพพรรณ เกียรติโชติชยั 2536:52-58
ลกั ษณะของครูทด่ี จี ากผลการวจิ ยั ต่างๆ
1. ดา้ นคุณธรรมและความประพฤติ ไดแ้ ก่ ความเท่ียงธรรม ความซ่ือสตั ยส์ ุจริต
การตรงตอ่ เวลา ร่าเริงแจ่มใส รู้จกั เสียสละ วาจาสุภาพเรียบร้อย เป็นกนั เองกบั เดก็ และเขา้
กบั เดก็ ได้ เป็นตวั อยา่ งในการประพฤติดี มีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ แต่งกายเรียบร้อยมี
บุคลิกลกั ษณะที่ดีมีวาจาสุภาพออ่ นโยนเวน้ จากอบายมุขต่างๆ ไม่ทาตวั เสเพล มีระเบียบ
วนิ ยั อารมณ์มนั่ คง มีความปรานีรู้จกั ปกครองแบบประชาธิปไตย เป็นคนมีเหตุผล รู้จกั
สิทธิและหนา้ ท่ี
2 ดา้ นความยดึ มน่ั ในสัญชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ อนั เป็นหลกั สาคญั และ
ความจาเป็นอยา่ งยง่ิ สาหรับบุคคลที่ทาหนา้ ท่ีเป็นครูที่ ใหก้ ารศึกษาแก่อนุชนของชาติ ให้
มีความรักและห่วงแหนในส่ิงท่ีเป็นองคป์ ระกอบสาคญั ของความเป็นไทย
ท่ีมา : กรมการฝึกหดั ครู 2520 : 363 – 371
ลกั ษณะของครูทดี่ จี ากผลการวจิ ยั ต่างๆ
3. ความรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่การงาน รู้จกั เตรียมการสอนเพอ่ื ใหก้ ารสอนและการเรียน
ของนกั เรียนบรรลุเป้าหมายที่ ตอ้ งการเอาใจใส่การสอน อบรมความประพฤติและปลูกฝ่ังค่านิยมดี
งามใหแ้ ก่นกั เรียน มีความขยนั ขนั แขง็ มีความกระตือรือร้นในการทางาน มีความศรัทธาต่ออาชีพ
ครู อุทิศตวั เพ่ือราชการ มีสุขภาพทางกายและจิตใจท่ีดี รู้จกั ติดต่อกบั ผปู้ กครอง และพยายามเขา้ ใจ
เดก็
4. ความสามารถในการใชภ้ าษาสื่อสาร รู้จกั หลกั การพดู การอภิปรายบทเรียนแจ่มชดั
รู้จกั ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง
5. เอาใจใส่คน้ ควา้ ความรู้อยเู่ สมอ รู้และตามความเคลื่อนไหวทางการศึกษาอยเู่ สมอ
โดยเฉพาะแผนการศึกษาแห่งชาติและ หลกั สูตร รู้จกั ปรับวธิ ีการสอนแบบใหม่และเหมาะสมอยู่
ตลอดเวลา
ท่ีมา : กรมการฝึกหดั ครู 2520 : 363 – 371
คุณธรรม จริยธรรม
คุณธรรม คือ ความดีงามท่ีถูกปลูกฝังข้ึนในจิตใจ มีความกตญั ญู ขยนั ประหยดั
ซ่ือสตั ย์ สามคั คี มีวนิ ยั มีน้าใจ และ เป็นสุภาพชน เป็นตน้ จนเกิดจิตสานึกท่ีดี รู้สึกรับผดิ ชอบ
ชวั่ ดี เกรงกลวั ต่อการกระทาความชวั่ โดยประการตา่ งๆ เมื่อจิตเกิดคุณธรรมข้ึนแลว้ จะทาให้
เป็นผมู้ ีจิตใจดี และคิดแต่สิ่งที่ดี จึงไดช้ ่ือวา่ “เป็นผมู้ ีคุณธรรม”
จริยธรรม คือ การประพฤติปฏิบตั ิ การกระทาดี ตามคุณธรรมที่มีอยใู่ นจิตใจ ปรากฏ
เป็นความดีงาม ท้งั ทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ เมื่อความดีงาม มีความกตญั ญู ขยนั ประหยดั
ซื่อสตั ย์ สามคั คี มีวนิ ยั มีน้าใจ และ เป็นสุภาพชน เป็นตน้ ถูกแสดงออกทางจรรยา มารยาท การ
ประพฤติปฏิบตั ิ และการกระทาที่ดี ตามคุณธรรมท่ีมีในจิตใจน้นั จึงไดช้ ่ือวา่ “เป็นผมู้ ี
จริยธรรม"
คุณธรรม
ซามูเอล สตัมพ์ (Samul E.Stumpf 1977 : 3) อธิบายความหมายของคุณธรรมในเชิงวิชาปรัชญาว่า
คุณธรรมเป็ นการประพฤติปฏิบตั ิเก่ียวขอ้ งกบั ส่ิงท่ีเรียกว่าถูกหรือผิด ดีหรือเลว พึงประสงคห์ รือไม่พึงประสงค์ มี
คุณคา่ หรือไร้ค่า นอกจากน้ีคุณธรรมยงั เกี่ยวขอ้ งกบั ความรับผดิ ชอบ หนา้ ท่ี พฤติกรรมท่ียอมรับนบั ถือต่างๆของแต่
ละบุคคลอีกดว้ ย อยา่ งไรก็ดี สตมั พอ์ ธิบายวา่ ในเร่ืองทฤษฏีคุณธรรมของลทั ธิปรัชญาน้นั จะไม่ใชต้ อบคาถามวา่
คุณธรรมใดดีกวา่ หรือถูกตอ้ งกวา่
เบอร์ตัน พอร์ตเตอร์ (Burton F.Porter 1980 : 233) ช้ีแจงวา่ คุณธรรมเป็นปัจจยั การดารงชีวติ ของบุคคล
ในสังคม คนส่วนใหญ่ดารงชีวิตในสังคมน้นั ไม่ใช่แต่การมีชีวิตอยเู่ พียงเท่าน้นั แต่ตอ้ งประเมินและเลือกวิถีชีวิตที่
แต่ละคนคิดวา่ น่าจะดีกวา่ หรือควรดีกวา่ ปัจจยั ในการเลือกน้นั ยอ่ มเกี่ยวขอ้ งกบั ระบบคุณธรรมท้งั ระบบคุณธรรม
ของสังคมและส่วนบุคคล คุณธรรมของสังคมยอ่ มส่งผลกระทบต่อบุคคลดว้ ย อยา่ งไรกด็ ีคุณธรรมของคนในสังคม
หน่ึงไม่จาเป็นวา่ จะตอ้ งดีหรือเป็นส่ิงท่ีถูกตอ้ งในอีกสังคมหน่ึงกไ็ ด้
ความสาคญั ของคุณธรรมต่อผู้ประกอบวชิ าชีพครูไว้ 4 ด้าน
1. ด้านตัวครู คุณธรรมมีบทบาทต่อผปู้ ฏิบตั ิดงั น้ี
1.1 ทาใหค้ รูมีความเจริญกา้ วหนา้ และมีความมน่ั คงในงานอาชีพ
1.2 ไดร้ ับคายกยอ่ งสรรเสริญจากบุคคลทว่ั ไป เป็นท่ีเคารพเช่ือฟังของศิษย์
1.3 มีชีวติ อยใู่ นสงั คมอยา่ งมีความสุข ไร้ภยั อนั ตรายใดๆ เพราะแวดลอ้ มดว้ ยความรักนบั ถือจากศิษยแ์ ละ
ประชาชนทวั่ ไป
1.4 ครอบครัวมีความอบอุ่นมนั่ คง ฐานะทางเศรษฐกิจไม่ฝืดเคือง
2. ด้านสถาบันวชิ าชีพครู คุณธรรมมีบทบาทดงั น้ี
2.1 ทาใหช้ ่ือเสียงของคณะครูเป็นท่ีศรัทธาเล่ือมใสของประชาชน
2.2 งานวชิ าชีพครูมีความเจริญกา้ วหนา้ เพราะครูอาจารยท์ างานเตม็ กาลงั ความสามารถ มีความคิดริเร่ิม
สร้างสรรคส์ ่ิงที่เป็นประโยชน์ใหม่ๆ
2.3 สถานศึกษาไดร้ ับการพฒั นาอยา่ งเตม็ ท่ี เพราะไดร้ ับความช่วยเหลือจากประชาชนเตม็ ที่
ที่มา : ไพพรรณ เกียรติโชคชยั (2526 :141-142)
3. ด้านสังคมและชุมชน คุณธรรมมีบทบาทดงั น้ี
3.1 สมาชิกของสงั คมเป็นคนดีมีคุณธรรมสูง รู้จกั สิทธิและหนา้ ที่อยา่ งถูกตอ้ ง
3.2 สงั คมมีสนั ติสุข เพราะสมาชิกของสังคมไดร้ ับการส่ังสอนจากผมู้ ีคุณธรรม
3.3 สงั คมไดร้ ับการพฒั นาใหเ้ จริญกา้ วหนา้ ในทุกๆดา้ นเพราะสมาชิกมีคุณธรรม
4 .ด้านความมั่นคงของชาติ คุณธรรมมีบทบาทตอ่ ความมน่ั คงของชาติดงั น้ี
4.1 สถาบนั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มีความมนั่ คง เพราะประชาชนมีความรักความเขา้ ใจและเห็น
ความสาคญั อยา่ งแทจ้ ริง
4.2 ขนบธรรมเนียมประเพณีและวฒั นธรรมของชาติ มีความมน่ั คงถาวร เพราะครูอาจารยไ์ ด้
อบรมส่งั สอนศิษยใ์ หม้ ีความรู้ความเขา้ ใจ และปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม
ท่ีมา : ไพพรรณ เกียรติโชคชยั (2526 :141-142)
คุณธรรมของครูตามข้อเสนอของคุรุสภา
1. มีความเมตตากรุณา พฤติกรรมหลกั คือ มีความเอ้ือเฟ้ื อเผ่อื แผช่ ่วยเหลือเพ่ือนร่วมงานและสังคม มีความสนใจ
และห่วงใยเร่ืองการเรียน และความประพฤติของนกั เรียน ส่วนพฤติกรรมบ่งช้ีคือ ไม่น่ิงดูดายและเตม็ ใจช่วยเหลือผูอ้ ื่นตาม
กาลงั ความสามารถ ใหค้ วามรักความเอาใจใส่ช่วยเหลือดูแลเดก็ ใหไ้ ดร้ ับความสุขและพน้ ทุกข์ เป็นกนั เองกบั นกั เรียน เพ่ือให้
นกั เรียนมีความรู้สึกเปิ ดเผยไวว้ างใจและเป็นที่พ่ึงของนกั เรียนได้
2 .มีความยตุ ิธรรม พฤติกรรมหลกั คือ มีความเป็นธรรมต่อนกั เรียน และมีความเป็ นกลาง ส่วนพฤติกรรมบ่งช้ีคือ
เอาใจใส่ต่อนักเรียนทุกคนอย่างเสมอภาคและไม่ลาเอียง ตดั สินปัญหาของนักเรียนด้วยความเป็ นธรรม ยินดีช่วยเหลือ
นกั เรียน ผรู้ ่วมงานและบริหารโดยไม่เลือกที่รักมกั ที่ชงั
3. มีความรับผิดชอบ พฤติกรรมหลกั คือ มุ่งมน่ั ในผลงาน ใชเ้ วลาอยา่ งมีคุณค่าและปฏิบตั ิหน้าที่ครบถว้ น ส่วน
พฤติกรรมบ่งช้ีคือ มีวธิ ีการที่จะปฏิบตั ิงานใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ วางแผนการใชเ้ วลาใหเ้ หมาะสมและปฏิบตั ิงานไดท้ นั เวลา
ใชเ้ วลาคุม้ ค่าและมีประสิทธิภาพ มีความรอบคอบระมดั ระวงั ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ทุกดา้ น ปฏิบตั ิภารกิจทุกดา้ นไดค้ รบตาม
ความสามารถ และประเมินผลการปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ที่มา : สานกั งานเลขาธิการคุรุสภา 2534 : 6-9)
คุณธรรมของครูตามข้อเสนอของคุรุสภา
4. มีวนิ ยั พฤติกรรมหลกั คือ มีวนิ ยั ในตนเอง และปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ส่วนพฤติกรรมบ่งช้ีคือ ควบคุม
ตนเองใหป้ ฏิบตั ิตนอยา่ งถูกตอ้ งตามทานองครองธรรม มีวธิ ีทางานที่เป็นแบบอยา่ งที่ดีต่อผอู้ ื่น ปฏิบตั ิตาม
กฎระเบียบของหน่วยงานสถานศึกษา ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีอยา่ งเป็นข้นั ตอน
5. มีความขยนั พฤติกรรมหลกั คือ มีความต้งั ใจและมีความพยายาม ส่วนพฤติกรรมบ่งช้ีคือ กระตือรือร้น
และปฏิบตั ิงานอยา่ งเตม็ ความสามารถอยา่ งสม่าเสมอ ไม่ทอ้ ถอยต่ออุปสรรคในการทางาน และมีความพยายามท่ีจะ
สอนเดก็ ใหบ้ รรลุจุดมุ่งหมาย
6. มีความอดทน พฤติกรรมหลกั คือ อดทนเม่ือเกิดอุปสรรค มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ ส่วน
พฤติกรรมบ่งช้ีคือ ปฏิบตั ิงานเตม็ ที่ไม่ทิ้งขวา้ งกลางคนั ไม่โกรธง่าย และสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม และอดทนอดกล้นั ตอ่ คาวจิ ารณ์
ที่มา : สานกั งานเลขาธิการคุรุสภา 2534 : 6-9)
คุณธรรมของครูตามข้อเสนอของคุรุสภา
7. มีความประหยดั พฤติกรรมหลกั คือ รู้จกั ประหยดั และออม และใชข้ องใหค้ ุม้ คา่ ส่วนพฤติกรรมบ่งช้ีคือ ช่วยรักษา
และใชข้ องส่วนรวมอยา่ งประหยดั เกินฐานะของตน รู้จกั เกบ็ ออมทรัพย์ เพ่ือความมน่ั คงของฐานะ และรู้จกั เกบ็ รักษาของอยา่ ง
ถูกวธิ ี
8. มีความรักและศรัทธาในอาชีพครู พฤติกรรมหลกั คือ เห็นความสาคญั ของอาชีพครู และรักษาชื่อเสียงวชิ าชีพครู
ส่วนพฤติกรรมบ่งช้ีคือ สนบั สนุนการดาเนินงานขององคก์ ร วชิ าชีพครู เขา้ ร่วมกิจกรรมวชิ าชีพครู ร่วมมือและส่งเสริมใหม้ ี
การพฒั นามาตรฐานวชิ าชีพครู ต้งั ใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ีใหเ้ กิดผลดีและเกิดผลประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นสาคญั รักษาความสามคั คี
และช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั ในหนา้ ท่ีการงานปกป้องและสร้างความเขา้ ใจอนั ดีต่อสงั คมเก่ียวกบั วชิ าชีพครู
9. มีความเป็นประชาธิปไตยในการปฏิบตั ิงานและการดารงชีวติ พฤติกรรมหลกั คือ รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น
อยา่ งมีเหตุผล ส่วนพฤติกรรมบ่งช้ีคือ เปิ ดโอกาสใหผ้ อู้ ื่นไดแ้ สดงความคิดเห็น รับฟังความ
ที่มา : สานกั งานเลขาธิการคุรุสภา 2534 : 6-9)
จริยธรรม
จริยธรรมมีความหมาย 2 นยั คือ
1. โดยนยั ที่เป็นภาวะทางจิตใจ (Idea) น้นั จริยธรรมแปลวา่ ความคิดที่วา่ บางพฤติกรรมเป็นส่ิงที่
ถูกตอ้ งและควรทาและเป็นที่ยอมรับและบางพฤติกกรมเป็นส่ิงท่ีผดิ หรือเลว ท้งั น้ีเป็นไปไดโ้ ดยความคิดเห็น
ของแต่ละบุคคลและโดยความคิดเห็นของสงั คม นอกจากน้ีจริยธรรมยงั เป็นคุณภาพหรือสถานะในการดาเนิน
ชีวติ อยอู่ ยา่ งถูกตอ้ ง
2. จริยธรรมเป็นระบบของลกั ษณะการและคุณค่าท่ีเกี่ยวพนั กบั พฤติกรรมของคนส่วนใหญซ่ ่ึง
โดยทว่ั ไปแลว้ เป็นทียอมรับของสงั คมหรือเฉพาะกลุ่มคน
ท่ีมา : พจนานุกรม Collin Coluild (1987 : 937)
จริยธรรม
ดวงเดือนพันธุมนาวิน (2524 : 3) อธิบายวา่ จริยธรรม (Morality) หมายถึงลกั ษณะทางสังคม
หลายลกั ษณะของมนุษย์ และมีขอบเขตรวมถึงพฤติกรรมทางสังคมลกั ษณะต่างๆ ดว้ ยลกั ษณะและ
พฤติกรรมที่เกี่ยวขอ้ งกบั จริยธรรม จะมีคุณสมบัติสองประเภท คือ เป็ นลกั ษณะท่ีสังคมตอ้ งการกับ
ลกั ษณะสังคมไม่ตอ้ งการ ให้มีอยู่ในตวั สมาชิกของสังคมน้ันๆ พฤติกรรมที่สังคมนิยมชมชอบ ให้การ
สนับสนุน และผูก้ ระทาส่วนมากเกิดความพอใจว่าการกระทะน้ันเป็ นส่ิงท่ีถูกตอ้ งเหมาะสม ส่วนอีก
พฤติกรรมที่สังคมไม่นิยมหรือไม่ตองการใหส้ มาชิกมีอยูเ่ ป็ นการกระทาท่ีสังคมลงโทษหรือพยายามจดั
และผกู้ ระทาพฤติกรรมน้นั รู้สึกวา่ เป็นส่ิงท่ีไม่ถูกตอ้ งและสมควร
พระเทพวิสุทธิเมธี (พุทธทาสภิกขุ 2529 : 215 ) อธิบายวา่ จริยธรรมหมายถึง ตวั ของกฎที่ตอ้ ง
ปฏิบตั ิ ส่วนจริยศาสตร์ คือเหตุผลสาหรับใชอ้ ธิบายกฎท่ีตอ้ ปฏิบตั ิ มีลกั ษณ้เป็ นปรัชญา และเม่ือรวมท้งั
สองส่วนเขา้ ดว้ ยกนั จะเรียกวา่ จริยศึกษา
ความรู้เชิงจริยธรรม หมายความวา่ ในสงั คมของตนน้นั ถือวา่ การกระทาชนิดใดดีควรทา
และการกระทาชนิดใดควรงดเวน้ ลกั ษณะพฤติกรรมประเภทใดเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมเพียงใด
ปริมาณความรู้เชิงจริยธรรมหรือความรู้เกี่ยวกบั ค่านิยมทางสงั คมน้ีข้ึนอยกู่ บั อายุ ระดบั การศึกษา
และพฒั นาการทางสติปัญญาของแต่ละบุคคลดว้ ย ความรู้เก่ียวกบั กฎเกณฑท์ างสงั คมและศาสนา
ส่วนใหญ่
ทัศนคติเชิงจริยธรรม คือ ความรู้สึกของบุคคลเกี่ยวกบั ลกั ษณะหรือพฤติกรรมเชิง
จริยธรรมต่างๆ วา่ ชอบหรือไม่ชอบลกั ษณะน้นั ๆเพยี งใด ทศั นคติเชิงจริยธรรมของบุคคลส่วนมาก
จะสอดคลอ้ งกบั ค่านิยมในสงั คมน้นั แต่บุคคลบางคนในสถานการณ์ปกติอาจมีทศั นคติแตกต่างไป
จากค่านิยมของแต่ละบุคคล
ลกั ษณะเชิงจริยธรรม
เหตุผลเชิงจริยธรรม หมายถึงการท่ีบุคคลใชเ้ หตุผลในการเลือกท่ีจะกระทา หรือเลือกที่จะไม่กระทา
พฤติกรรมอย่างใดอย่างหน่ึง เหตุผลที่จะกล่าวถึงน้ีจะแสดงให้เห็นเหตุจูงใจหรือแรงจูงใจที่อยเู่ บ้ืองหลงั การ
กระทาต่างๆของบุคคล
พฤติกรรมเชิงจริยธรรม หมายความถึงการที่บุคคลแสดงพฤติกรรมที่สังคมนิยมชมชอบหรืองดเวน้
การแสดงพฤติกรรมท่ีฝ่ าฝื นกฎเกณฑห์ รือค่านิยมในสังคมน้นั ตวั อยา่ งพฤติกรรมเชิงจริยธรรมเช่น การใหท้ าน
การเสียสละเพื่อส่วนรวม และการช่วยเหลือผตู้ กทุกขไ์ ดย้ าก การโกงส่ิงของเงินทอง การลกั ขโมย การกล่าวเทจ็
เป็ นตน้ พฤติกรรมจริยธรรมเป็ นพฤติกรรมท่ีสังคมให้ความสาคญั มากกว่าด้านอื่นๆ ท้งั น้ีเพราะการกระทา
ในทางที่ดีและเลวของบุคคลน้นั ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความผาสุกและความวนุ่ วายของส่วนรวม
จริยธรรมของครู
1. จริยธรรมต่อตนเอง ปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดี
2. จริยธรรมต่อบุตรธิดา เล้ียงดูบุตรใหม้ ีความสุข เหมาะสมกบั ฐานะ
ตนเอง
3. จริยธรรมต่อภริยาหรือสามี ซ่ือสตั ย์ ใหเ้ กียรติซ่ึงกนั และกนั
4. จริยธรรมต่อบิดามารดา ตอบแทนพระคุณท่าน เล้ียงดูท่านใหส้ ุขสบาย
5. จริยธรรมต่อลูกศิษย์ ใหค้ วามรักต่อลูกศิษยเ์ หมือนกบั บุตรของตน
6. จริยธรรมต่อชุมชน สงั คม และประเทศชาติ เป็นพลเมืองดีของ
ประเทศชาติ
ความเป็ นพลเมือง
คาวา่ พลเมือง มาจากภาษาลาตินวา่ cives (พลเมือง) ซ่ึงเคยใชใ้ นยคุ โบราณซ่ึง
เก่ียวขอ้ งกบั ระบบ ประชาธิปไตยในกรีกและโรมนั ต่อมาในยคุ สมยั กลางไม่ไดน้ ามาใช้ แต่
อยา่ งไรกต็ าม คาวา่ พลเมืองกม็ ีการ นากลบั มาใชใ้ นอีกช่วงของการปฏิวตั ิในประเทศ
องั กฤษ สหรัฐอเมริกาและฝร่ังเศสในปลายศตวรรษ 18
การเป็นพลเมืองมีหลายมิติ ซ่ึงการที่จะเป็นพลเมืองไดน้ ้นั จะตอ้ งมีองคป์ ระกอบ ดงั ต่อไปน้ี
1. มีเอกลกั ษณ์ท่ีมาจากความเป็นสมาชิกของชุมชนทางการเมือง
2. ยดึ ถือค่านิยมเฉพาะและอุดมคติ
3. มีสิทธิและหนา้ ที่
4. มีส่วนร่วมทางการเมือง
5. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การเมืองการปกครอง
ท่ีมา : Abowitz Harnish, 2006
ประวตั ศิ าสตร์ของความเป็ นพลเมือง
ในยุคสมัยโบราณกาล ความเป็ นพลเมืองเป็ นเอกสิทธ์ิของชนช้นั สูงซ่ึงมีอิสระท้งั ดา้ นเศรษฐกิจ
ความคิด และเวลา เพ่ือปฏิบตั ิหน้าท่ีพลเมือง เช่น การสมคั รรับการเลือกต้งั การเป็ นทหาร เป็ นตน้ ในสมยั
น้นั ความเป็นพลเมืองเป็นสญั ลกั ษณ์ของการเป็นฐานนั ดรศกั ด์ิ เน่ืองจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีสิทธ์ิในความ
เป็นพลเมือง โดยเฉพาะ สตรี ทาส หรือ คนป่ าเถื่อน
ต่อมาในยุคสมัยกลาง ซ่ึงเป็นยคุ ของสมบูรณาญาสิทธิราชยใ์ นยโุ รป แนวคิดแบบพลเมืองก็ไดส้ ูญ
หายไป เนน้ เพยี งแค่ความจงรักภกั ดีต่อพระมหากษตั ริยเ์ ท่าน้นั พลเมืองไม่มีสิทธิเขา้ มามีบทบาททาง การเมือง
จึงไม่ตอ้ งมีจริยธรรมแบบพลเมือง ไม่มีสัญญาประชาคมระหว่างประชาชนและรัฐ มีแต่ ความสัมพนั ธ์แบบ
ความจงรักภกั ดีระหวา่ งกษตั ริยแ์ ละประชาชน
ประวตั ิศาสตร์ของความเป็ นพลเมือง
ต้ังแต่การปฏิวัติฝร่ังเศสและสหรัฐอเมริกาเป็ นต้นมา กระแสนิยมก่อให้เกิดแนวคิดว่าประมุขและรัฐไม่ได้
รวมเป็ นอนั เดียวกนั และหลกั การที่ว่าประชาชนตอ้ งนบั ถือรัฐมากกว่าตวั บุคคลที่ปกครอง จึงทาใหเ้ กิดการเป็ นความ
พลเมืองที่เนน้ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งประชาชนและรัฐแทน ด้งั น้นั ความจงรักภกั ดีต่ออุดมคติทางการเมืองจึงมาแทน
ความจงรักภกั ดีต่อพระมหากษตั ริย์ ท้งั น้ี การปฏิวตั ิของสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสไดป้ ระกาศใชห้ ลกั การเหล่าน้ีใน
รัฐธรรมนูญของท้งั สองประเทศ Declaration of Independence (1776) and Declaration of the Rights of Man and the
Citizen (1789) ซ่ึงจากการปฏิวตั ิฝร่ังเศสเป็นเหตุเร่ิมตน้ ของการผสานของความเป็นพลเมืองกบั ชาติ (Keith Faulks,
2000) ไวด้ ว้ ยกนั
ระหว่างศตวรรษท่ี 19 และ 20 อุดมการณ์แบบเสรีนิยมทาให้คานิยามของความเป็นพลเมือง กลายเป็นเร่ือง
ของสิทธิและเสรีภาพ ซ่ึงเป็นอุดมคติของความเสมอภาคและเสรีภาพ คานิยามดงั กล่าวมีขอ้ สมมุติฐานวา่ พลเมืองทุก
คนมีเหตุผลและมีทางเลือกท่ีเท่าเทียมกนั ไม่วา่ จะเป็นเรื่องของชนช้นั หรือ เพศ แต่ อยา่ งไรก็ตาม ในสมยั น้ี ความเสมอ
ภาคกย็ งั เป็นไดแ้ ค่ความเสมอภาคในประเดน็ ของกฎหมายเท่าน้นั
ประวตั ศิ าสตร์ของความเป็ นพลเมือง
แต่หลังจากสงครามโลกท่ี 2 สิทธิของพลเมืองรวมถึงสิทธิทางการเมืองและสิทธิทางสังคม
เนื่องจากไดพ้ ิสูจน์วา่ ความเสมอภาคดา้ นกฎหมายแต่เพียงอยา่ งเดียว ไม่ไดท้ าให้เกิดความเสมอภาค
อยา่ งแทจ้ ริง ดงั น้นั รัฐมีหนา้ ที่คุมครองพลเมืองทางดา้ นสังคมดว้ ย ดว้ ยเหตุน้ี รัฐสวสั ดิการจึงเกิดข้ึน
และส่งผลกระทบต่อทศั นคติของประชาชน อาจจะทาให้ประชาชนเห็นว่าไม่จาเป็ นตอ้ งตอบแทน
อะไรแก่รัฐ จากเหตุวกิ ฤตน้ี จะเห็นไดว้ า่ ประชาชนในยโุ รปและอเมริกาไม่ค่อยไดไ้ ปเลือกต้งั หรือเขา้
ร่วมกิจกรรมในชุมชนเท่าที่ควร (Putnam, 2000) เพราะอาจคิดวา่ การเมืองในระดบั ชาติน้นั ไม่ไดเ้ กิด
ประโยชนท์ ี่แทจ้ ริงในสมยั โลกาภิวฒั น์แลว้
ดังน้ันอนาคตของความเป็ นพลเมือง อาจจะกลายเป็ น “พลเมืองโลก” ซ่ึงในยุโรปมี
สภาวการณ์ของการเป็นพลเมืองของยโุ รปแลว้ (European Citizenship)
การปฏิบตั ติ นเป็ นพลเมืองดขี องประเทศชาติและสังคมโลก
1. เคารพกฎหมายและปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของสังคม เม่ือพลเมืองทุกคนปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ
ขอ้ บงั คบั ของสังคม และบทบญั ญตั ิของกฎหมาย เช่น ไม่ล่วงละเมิดสิทธิของผอู้ ื่น หรือไม่กระทาความผิดตามที่กฎหมาย
กาหนดก็จะทาใหร้ ัฐไม่ตอ้ งเสียงบประมาณในการป้องกนั ปราบปรามและจบั กมุ ผทู้ ่ีกระทาความผดิ มาลงโทษ นอกจากน้ี
ยงั ทาใหส้ งั คมมีความเป็นระเบียบสงบสุขทุกคนอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสมานฉนั ท์ ไม่หวาดระแวงคิดร้ายต่อกนั
2. เป็ นผูม้ ีเหตุผล และรับฟังความคิดเห็นของผูอ้ ่ืนทุกคนย่อมมีอิสรเสรีภาพในการแลกเปล่ียนความคิดเห็น
ระหวา่ งกนั ซ่ึงการรู้จกั การใชเ้ หตุผลในการดาเนินงาน จะทาใหช้ ่วยประสานความสัมพนั ธ์ ทาให้เกิดความเขา้ ใจอนั ดีงาม
ต่อกนั
3. ยอมรับมติของเสียงส่วนใหญ่ เมื่อมีความขดั แยง้ กนั ในการดาเนินกิจกรรมอนั เกิดจากความคิดเห็นที่แตกต่าง
กนั และจาเป็ นตอ้ งตดั สินปัญหาดว้ ยการใชเ้ สียงขา้ งมากเขา้ ช่วย และมติส่วนใหญ่ตกลงวา่ อยา่ งไร ถึงแมว้ า่ จะไม่ตรงกบั
ความคิดของเรา เรากต็ อ้ งปฏิบตั ิตาม เพราะเป็นมติของเสียงส่วนใหญ่น้นั
ที่มา : https://www.kpi.ac.th/media_kpiacth/pdf/M10_452.pdf. (2564, 5 ธนั วาคม). Googlesites. (2559). พลเมืองดีของ
ประเทศชาติ และสงั คมโลก. [ออนไลน์], เขา้ ถึงไดจ้ าก:
การปฏบิ ัติตนเป็ นพลเมืองดขี องประเทศชาตแิ ละสังคมโลก
4. เป็ นผูน้ ามีน้าใจประชาธิปไตย และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ผูท้ ่ีมีความเป็ นประชาธิปไตยน้นั จะตอ้ งมี
ความเสียสละในเร่ืองท่ีจาเป็น เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมและรักษาไวซ้ ่ึงสังคมประชาธิปไตย เป็นการส่งผลต่อความ
มนั่ คงและความกา้ วหนา้ ขององคก์ ร ซ่ึงสุดทา้ ยแลว้ ผลประโยชน์ดงั กล่าวกย็ อ้ นกลบั มาสู่สมาชิกของสังคม เช่นการไปใช้
สิทธ์ิเลือกต้งั ถึงแมว้ ่าเราจะมีอาชีพบางอย่างท่ีมีรายไดต้ ลอดเวลา เช่นคา้ ขาย แต่ก็ยอมเสียเวลาคา้ ขายเพ่ือไปลงสิทธ์ิ
เลือกต้งั บางคร้ังเราตอ้ งมีน้าใจช่วยเหลือกิจกรรมส่วนร่วม เช่น การสมคั รเป็ นกรรมการเลือกต้งั หรือสมาคมบาเพญ็
ประโยชนส์ ่วนรวม เป็นตน้
5. เคารพในสิทธิเสรีภาพของผูอ้ ่ืน ควรรูจกั เคารพในสิทธิเสรีภาพของผูอ้ ่ืนเช่นบุคคลมีเสรีภาพในการแสดง
ความคิดเห็น การพดู แต่ตอ้ งไม่เป็นการพดู แสดงความคิดเห็นท่ีใส่ร้ายผอู้ ่ืนใหเ้ สียหาย
6. มีความรับผิดชอบต่อตนเอง สงั คม ชุมชน ประเทศชาติ ในการอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม ยอ่ มตอ้ งมีการทางานเป็น
หมู่คณะ จึงตอ้ งมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในงานน้นั ๆให้สมาชิกแต่ละคนนาไปปฏิบตั ิตามท่ีไดร้ ับหมอบหมายไว้
อยา่ งเตม็ ที่
การปฏิบตั ติ นเป็ นพลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก
7. มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเมือง การปกครอง ในสังคมประชาธิปไตยน้นั สมาชิกทุกคน
ตอ้ งมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเมืองการปกครอง เช่น การเลือกต้งั เป็นตน้
8. มีส่วนร่วมในการป้องกัน แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง ช่วย
สอดส่องพฤติกรรมมวั่ สุมของเยาวชนในสถานบนั เทิงต่าง ไม่หลงเชื่อข่าวลือคากล่าวร้ายโจมตี ไม่
มองผูท้ ี่ไม่เห็นดว้ ยกบั เราเป็ นศตั รู รวมถึงสงเสริมสนบั สนุนการแกไ้ ขปัญหาความขดั แยง้ ต่างๆดว้ ย
สนั ติวิธี
9. มีคุณธรรม จริยธรรม และปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรม ทุกคนควรมีศีลธรรมไวเ้ ป็ นหลกั ใน
การควบคุมพฤติกรรมของบุคลใหด้ าเนินไปอยา่ งเหมาะสม ถึงแมจ้ ะไม่มีบทลงโทษใดๆกต็ าม
การเป็ นพลเมืองทเ่ี ข้มแขง็
การปฏิบตั ิตนอยา่ งรับผิดชอบในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก รู้เคารพสิทธิเสรีภาพของ
ตนเองและผูอ้ ่ืน เคารพในกฎกติกาและกฎหมาย มีส่วนร่วมทางสังคมอยา่ งมีวิจารณญาณ อยรู่ ่วมกบั
ผอู้ ื่นท่ามกลางความหลากหลาย เห็นคุณค่าของศกั ด์ิศรีความเป็ นมนุษย์ มีบทบาทในการตดั สินใจและ
สร้างการเปล่ียนแปลงทางสังคม โดยยึดมน่ั ในความเท่าเทียมเป็ นธรรม ค่านิยมประชาธิปไตย และ
สันติวิธี
ที่มา : สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่
เขม้ แขง็ . [ออนไลน์], เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://cbethailand.com. (2564, 6 ธนั วาคม).
วธิ ีการสร้างพลเมืองทเ่ี ข้มแข็ง
1. เสริมสร้างแรงบนั ดาลใจ เพ่ือให้มีชีวิตอยอู่ ยา่ งมีเป้าหมาย เปล่ียนจากการเรียนรู้แบบเฉ่ือยชา เป็ น
การเรียนรู้แบบกระตือรือร้น หรือ การเปลี่ยนจากการเรียนแบบภาคบงั คบั เป็ นการเรียนรู้ดว้ ยความอยากรู้ และ
ระบบการศึกษาแบบเดิมจะตอ้ งเปลี่ยนใหเ้ หมาะกบั เฉพาะบุคคล
2. บ่มเพราะความคิดสร้างสรรค์ หยดุ การใชแ้ นวคิดในการใชก้ รอบเขา้ มาควบคุม สนบั สนุนใหม้ ีการ
ทางานนอกหอ้ งเรียน มีสิทธิท่ีจะเห็นต่าง คิดต่าง และทาต่างจากผอู้ ่ืน
3. ปลูกฝังจิตสาธารณะ ดว้ ยการฝึ กเด็กใหร้ ู้จกั การพ่ึงพาตนเองเป็นสาคญั ใหม้ ีความซ่ือสตั ย์ มีวนิ ยั ต่อ
ตนเอง มีคุณธรรมและจริยธรรม มีความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ของตนและสงั คม
4. มุ่งเนน้ การทางานใหเ้ กิดผลสมั ฤทธ์ิ เปลี่ยนการเรียนรู้เชิงทฤษฎีใหเ้ ป็นการวิเคราะห์ เพ่ือที่จะใชใ้ น
การแกไ้ ขปัญหาไดด้ ว้ ยตนเอง เปลี่ยนแนวคิดการเรียนเพอื่ วฒุ ิการศึกษา เป็นการเรียนเพื่อนาไปประกอบอาชีพ
ที่มา : Citizens' Duty. (2562). วธิ ีการสร้างพลเมืองที่เขม้ แขง็ . [ออนไลน์], เขา้ ถึงไดจ้ าก:
https://www.rkmissiondel.org. (2564, 6 ธนั วาคม).
ดารงตนให้เป็ นทเี่ คารพศรัทธา
1. ดารงตนให้เป็ นทีเ่ คารพศรัทธาต่อครอบครัว
บทบาทหนา้ ท่ีท่ีสมาชิกในครอบครัวพงึ ปฏิบตั ิ ดงั น้ี
1. หน้าท่ขี องบิดามารดา บิดามารดา เป็นหวั หนา้ ครอบครัวที่ตอ้ งดูแลรับผดิ ชอบสมาชิกทกุ คนใน
ครอบครัว มีความสาคญั ควรปฏิบตั ิตน ดงั น้ี
1.1 เป็นแบบอยา่ งท่ีดีแก่บุตร ดา้ นการประพฤติ ปฏิบตั ิตนท่ีถูกตอ้ ง
1.2 ดูแลใหค้ วามอบอุ่น สงั เกตพฤติกรรมเป็นท่ีปรึกษาในทุกๆเร่ือง พร้อมท้งั ใหค้ าแนะนาแก่บุตร
1.3 รู้จกั หาและใชจ้ ่ายทรัพย์ ประหยดั อดออม มีการวางแผนการใชจ้ ่ายในครอบครัว
1.4 สนบั สนุนบตุ รในทุกๆดา้ นตามความถนดั และความสามารถ
1.5 รับผดิ ชอบต่อสมาชิกในครอบครัว เป็นผนู้ าและชกั จูงใหป้ ฏิบตั ิในส่ิงท่ีดีงาม
ที่มา : Plook Teacher. (2562). การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน. [ออนไลน์], เขา้ ถึงไดจ้ าก:
http://pracharathschool.go.th/lessonplan/detail/2164. (2564, 6 ธนั วาคม).
ดารงตนให้เป็ นทเี่ คารพศรัทธา
2. หน้าทขี่ องสามภี รรยา สามีภรรยามีบทบาทและหนา้ ที่ดงั น้ี
2.1 ปรับตวั เขา้ หากนั มีใจคอหนกั แน่น ขยนั อดทน
2.2 เอ้ือเฟ้ื อ เสียสละพร้อมจะช่วยเหลือเก้ือกลู
2.3 มีเหตุผล เขา้ ใจความรู้สึก เอาใจใส่ ห่วงใยกนั ศึกษาปัญหาแต่ละฝ่าย และช่วยกนั แกไ้ ข
2.4 มีความซื่อสตั ย์ ใหเ้ กียรติและยกยอ่ งกนั และกนั
2.5 เคารพบิดามารดาท้งั สองฝ่ ายและใหค้ วามช่วยเหลือตามแก่ฐานะ
3. หน้าทข่ี องบตุ ร บุตรที่ดีควรปฏิบตั ิตามน้ี
3.1 เชื่อฟังคาสง่ั สอนของบิดามารดา
3.2 ช่วยเหลือบิดามารดาทางานดว้ ยความเตม็ ใจ เช่น การทาความสะอาดบา้ น รดน้าตน้ ไม้ ฯลฯ
3.3 รู้จกั ประหยดั อดออม ใชจ้ ่ายเงินเฉพาะท่ีจาเป็น หรือช่วยหารายไดเ้ สริม ใหแ้ ก่ครอบครัว
3.4 ต้งั ใจศึกษาเล่าเรียน หมนั่ ศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติม
3.5 มีความกตญั ญู ดูแลบิดามารดา ผมู้ ีพระคุณ เมื่อเจบ็ ป่ วยและยามแก่ชรา
ท่ีมา : Plook Teacher. (2562). การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน. [ออนไลน์], เขา้ ถึงไดจ้ าก:
http://pracharathschool.go.th/lessonplan/detail/2164. (2564, 6 ธนั วาคม).
ดารงตนให้เป็ นทีเ่ คารพศรัทธา
2. ดารงตนให้เป็ นท่เี คารพศรัทธาต่อเพ่ือนร่วมอาชีพ
การปฏิบตั ิตนต่อเพื่อนร่วมอาชีพ
1) ปรับตวั ใหส้ ามารถร่วมทางานเป็นทีมกบั ผอู้ ื่นได้
2) ส่งเสริมและสนบั สนุนเพ่ือนร่วมงานโดยการให้ความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ เสียสละเพื่อ
ส่วนรวม ดว้ ยความจริงใจและเตม็ ความสามารถ ละเวน้ การกระทาในลกั ษณะของการแขง่ ขนั กนั เอง
3) ใหเ้ กียรติผอู้ ื่นโดยไม่นาผลงานของผอู้ ่ืนมาแอบอา้ งเป็นของตนเอง
4) ปฏิบตั ิต่อเพ่ือนร่วมงานทุกคนดว้ ยความสุภาพ ให้เกียรติซ่ึงกนั และกนั พร้อมรับฟังความคิดเห็น
ของ
เพื่อนร่วมงานดว้ ยความอดทนอดกล้นั รู้จกั ขม่ ใจ ไม่มีอคติและใหอ้ ภยั ซ่ึงกนั และกนั
5) ไม่นาเร่ืองส่วนตวั และขอ้ มูลของเพอื่ นร่วมงานไปวพิ ากษว์ จิ ารณ์ในทางเส่ือมเสีย
6) เคารพสิทธิของพนกั งานผอู้ ื่นในบริษทั
ท่ีมา : Plook Teacher. (2562). การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน. [ออนไลน์], เขา้ ถึงไดจ้ าก:
http://pracharathschool.go.th/lessonplan/detail/2164. (2564, 6 ธนั วาคม).
ดารงตนให้เป็ นทเี่ คารพศรัทธา
3. ดารงตนให้เป็ นทเ่ี คารพศรัทธาต่อชมชน สังคม
การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดขี องชุมชน
ชุมชนใดๆเม่ือมีชื่อเสียง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด น่าอยู่ กท็ าใหค้ นในชุมชนมีความสุข มีความรัก และความ
ภาคภูมิใจในชุมชนของตน คนในชุมชนรวมท้งั นกั เรียนเป็นบุคคลสาคญั ที่จะช่วยทาใหช้ ุมชนของเรามีความเป็นระเบียบ
เรียบร้อย
1. ต้งั ใจทาหนา้ ท่ีของตนเองใหด้ ีที่สุด นาความรู้ ความสามารถพฒั นาชุมชนใหเ้ จริญกา้ วหนา้
2. เคารพและปฏิบตั ิตามกฎ ระเบียบ และขอ้ บงั คบั ของชุมชนอยา่ งเคร่งครัด และสม่าเสมอ
3. ดูแลรักษาสาธารณสมบตั ิท่ีเป็นของส่วนรวม เช่น สนามเดก็ เล่น โรงเรียน ท่ีทาการไปรษณีย์ ฯลฯ
4. ดูแลรักษาความสะอาดภายในบา้ น หนา้ บา้ น รอบๆบริเวณบา้ น ส่ิงแวดลอ้ มชุมชน ไม่ทิ้งขยะมูลฝอยลงในแม่น้าลา
คลอง หรือสนามเดก็ เล่น
5. ปฏิบตั ิตนเป็นศาสนิกชนท่ีดี เช่น มีสมั มาคารวะ มีน้าใจ เป็นตน้
6. การอยรู่ ่วมกนั และพ่ึงพาอาศยั กนั และกนั
ท่ีมา : Plook Teacher. (2562). การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน. [ออนไลน์], เขา้ ถึงไดจ้ าก:
http://pracharathschool.go.th/lessonplan/detail/2164. (2564, 6 ธนั วาคม).
ดารงตนให้เป็ นทเี่ คารพศรัทธา
4. ดารงตนให้เป็ นทเี่ คารพศรัทธาต่อผ้เู รียน
ลกั ษณะครูที่ดี ควรมีความรักและความเมตตาต่อศิษย์ มีความเสียสละ หมน่ั เพียรศึกษา ปรับปรุงวธิ ีการสอน
เพ่อื พฒั นาตนเองอยเู่ สมอ ตอ้ งมีความเขา้ ใจและเอาใจใส่ตวั ศิษยท์ ุกคนเป็นกาลงั ใจและช่วยสร้างแรงบลั ดาลใจใหก้ บั
ศิษยเ์ พื่อใหเ้ ขาเป็นคนใฝ่ เรียนรู้ เป็นแบบอยา่ งที่ดีมีจรรยาบรรณในวชิ าชีพครู มีจิตวิญญาณของความเป็นครู สามารถ
ถ่ายทอดความรู้ไดเ้ ป็ นอยา่ งดี มีวิธีการสอนที่หลากหลาย มีวิสัยทศั น์กวา้ งไกล มีความยุติธรรม ยอมรับฟังความ
คิดเห็นของผอู้ ื่น รวมถึงยอมรับและเขา้ ใจความแตกต่างของเดก็ แตล่ ะคนดว้ ย
การเป็นครูสอนใหค้ นเป็นมนุษยท์ ี่สมบูรณ์ คือ ความรู้คู่คุณธรรมมิใช่เป็นส่ิงท่ีทาไดง้ ่าย การเป็นครูท่ีดีตอ้ ง
อาศยั ความอดทน เสียสละ มีเมตตาซ่ึงเป็นคุณสมบตั ิเพยี งส่วนหน่ึงของความเป็นครูท่ีดี คุณลกั ษณะของครูท่ีดีมีหลาย
ประการ ซ่ึงจะไดน้ ามากล่าวถึงลกั ษณะของครูที่ดีตามคาสอนในพทุ ธศาสนา
ท่ีมา : Plook Teacher. (2562). การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีของชุมชน. [ออนไลน์], เขา้ ถึงไดจ้ าก:
http://pracharathschool.go.th/lessonplan/detail/2164. (2564, 6 ธนั วาคม).
Thank
you