Vol.1 No.3

VOL.1 NO.3

JULY- SEPTEMBER 2021

TEXT BOOK PRODUCTION UNIT
FACULTY OF MEDICINE
PRINCE OF SONGKLA UNIVERSITY

สารบัญ

หนงั สอื ทมี่ ากกวา่ "หนงั สอื "

สว่ นท่ปี ระกอบรวมเรียกกันวา่ ...หนังสือ 3

Recommend new books 9

Bookshelves 11

หนังสอื กับยคุ สมยั ท่ีเปล่ยี น

กระบวนการสร้างสรรค์งานออกแบบ 13

VOL.1 NO.2 APRIL- JUNE 2021 เคลด็ ลับทีไ่ ม่ลับ 15

BOOK การใช้งาน Google Drive
ในโหมด Offline
CORNER
it's a book 17
BOOK UNIT / FACULTY OF MEDICINE
ทําไมต้องเขียนเอกสารอ้างอิง
PRINCE OF SONGKLA UNIVERSITY แบบ Vancouver

บทบรรณาธิการ

สวสั ดีคะ่ ผู้อา่ นทุกท่าน วารสาร Book corner
โดยหน่วยผลติ ตํารา คณะแพทยศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ ฉบับนีเ้ ป็นฉบบั ที่ 3
ของปนี ้ี มบี ทความท่ีน่าสนใจดงั นีค้ ะ่

หนังสอื ที่มากกวา่ หนังสอื ฉบับนเ้ี ป็นบทความ
เรือ่ ง ส่วนที่ประกอบรวมเรยี กกนั วา่ …หนังสอื โดย
คุณพัชรินทร์ โพธท์ิ อง กลา่ วถึงส่วนประกอบและ
รายละเอยี ดตา่ งๆ ทรี่ วมเป็นหนงั สือ ทาํ ใหห้ นังสือ
แตล่ ะเล่มมีความครบถว้ นสมบรู ณ์

แนะนาํ หนังสือท่ีจะออกในเร็วๆ นี้ หนังสือออกใหม่และหนงั สอื ขายดที ี่เขยี นโดยคณาจารย์
คณะแพทยศาสตรแ์ ละหนว่ ยผลิตตํารามีสว่ นรว่ มในการผลิตผลงานอันทรงคณุ ค่า

หนังสือกับยคุ สมัยท่ีเปล่ียน ฉบบั นเ้ี ปน็ บทความเรื่องกระบวนการสร้างสรรคง์ านออกแบบ
โดยคณุ ชนาพร ลคั นทินพร กล่าวถงึ นยิ ามของการออกแบบ หวั ใจหลกั ของการออกแบบ และ
กระบวนการสรา้ งสรรคง์ านออกแบบ

เคล็บลบั ทีไ่ มล่ บั การใชง้ าน Google drive ในโหมด offline โดยคุณวสิ ธวัช แตงออ่ น กลา่ ว
ถึงวิธีตั้งค่า Google drive เพ่ือเปดิ ไฟลง์ านในโหมดออฟไลน์

It’s a book บทความเรือ่ ง ทําไมตอ้ งเขยี นเอกสารอา้ งองิ แบบ Vancouver โดยคุณวรรณศร
สกุ การ กลา่ วถึงรูปแบบการเขยี นเอกสารอา้ งองิ แบบ Vancouver ทน่ี ยิ มใช้ในสาขาวชิ าทีเ่ ก่ียวขอ้ ง
กับแพทยศาสตร์

กองบรรณาธิการวารสาร Book corner หวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ ว่าวารสารฉบับนี้จะเปน็ ประโยชน์
สาํ หรบั ผอู้ า่ นทุกท่าน และขอขอบคณุ ทา่ นผอู้ า่ นไดใ้ หค้ วามสนใจตดิ ตามวารสารและผลงานของ
หน่วยผลติ ตาํ รามาอย่างต่อเนอื่ ง พบกนั ใหม่ฉบับหน้าค่ะ

แพทย์หญิงดวงกมล เอย่ี วเรืองสรุ ตั ิ
บรรณาธิการ

2

หนังสอื ทมี ากกวา่
"หนังสอื "

TOPIC

ส่วนทปี ระกอบรวม

เรยี กกนั วา่ ...หนั งสือ

พัชรนิ ทร์ โพธทิ อง: เขียน

หนังสือแตล่ ะเลม่ ท่ีจัดพิมพ์ขึ้นควรประกอบด้วยอะไรบา้ ง จึงจะทาํ ให้หนังสือเลม่
น้ันมคี วามสมบรู ณ์ยง่ิ ขึ้น ทางหนว่ ยผลติ ตาํ ราขอสรุปรวมรวมสว่ นต่างๆ ทป่ี ระกอบ
รวมเป็นหนงั สือ มีดงั นี้

1. ปก 9. ตัวย่อและสัญลกั ษณ์ (ถา้ ม)ี
2. ปกใน 10. เนือ้ หา
3. หน้าลิขสิทธ์ิ 11. ภาคผนวก (ถ้ามี)
4. คํานาํ 12. อภธิ านศพั ท์ (ถา้ มี)
5. กติ ตกิ รรมประกาศ (ถ้ามี) 13. เอกสารอ้างอิง / บรรณานกุ รม
6. คาํ นยิ ม (ถ้าม)ี 14. ดัชนี หรอื ดรรชนี
7. ประวตั ผิ ู้นพิ นธ์ / ผู้เขยี น 15. ปกหลงั
8. สารบัญ 16. สันหนังสอื

3

โดยองค์ประกอบทัง้ 16 ส่วนมหี นา้ ท่ที แี่ ตกตา่ งกนั ไป ในบางสว่ นประกอบก็ไม่ใชส่ ิ่งท่จี าํ เป็น
หนงั สอื เเต่ละเล่มจะมหี รือไมม่ กี ็ได้ มิไดท้ าํ ให้คณุ ค่าในหนงั สือลดลงน้อยลง จะขอขยายความเขา้ ใจ
และบทบาทหน้า สว่ นประกอบของหนงั สอื ดงั นี้

1. หน้าปก เป็นสว่ นแรกท่ีเราพบเจอ ในหน้าปก
หนังสือจะไปประกอบดว้ ย 1. ช่อื หนงั สอื 2. ชอ่ื ผู้
เขียน 3. ภาพประกอบปก (เพ่อื สื่อภาพรวมของ
เนื้อหาทัง้ หมดของหนงั สือเลม่ นนั้ ) 4. ตราสัญลกั ษณ์
หนว่ ยงาน หรอื สํานักพมิ พ์

2. ปกใน จะมีองคป์ ระกอบที่คล้ายๆ กับหนา้ ปก
คือประกอบดว้ ย 1. ช่อื หนงั สอื 2. ชื่อผเู้ ขียน ประกอบปก
4. ตราสญั ลักษณห์ นว่ ยงาน หรอื สํานกั พิมพ์ (ขอ้ 3. และ
4. ใสห่ รือไม่ใช่ก็ได)้ ในหน้าปกในโดยปกติแลว้ จะ
ออกแบบใหด้ ูสบายไม่ใชก้ ราฟฟกิ ทมี่ ากเกินไป

3. หนา้ ลขิ สทิ ธ์ิ จะอยู่หลังปกใน ในหนา้ ลิขสิทธ์จิ ะประกอบไปดว้ ยข้อมูลทางบรรณานกุ รมของ
หอสมุดแห่งชาติ ทที่ างนกั เขียนหรอื สาํ นักพิมพ์จะต้องแจง้ ความประสงคข์ อ เพื่อไดเ้ ลขประจําหนงั สือ
ISBN ซึง่ จะเปน็ เลขสาํ หรบั บารโ์ ค้ดในการจาํ หนา่ ยและการคน้ หาหนงั สอื เล่มนั้นๆ นอกจากนีย้ ังมกี าร
ระบุการจัดทาํ ขอ้ มลู บรรณานุกรรมสง่ิ พมิ พ์ (Cataloging in publication) หรือเรียกแบบย่อว่า
CIP คอื การกาํ หนดข้อมลู รายละเอียดรายการทาง
บรรณานุกรม ตามหลเั กณฑ์ในการทํารายการเลข
หมู่หนังสอื หวั เรือ่ ง ให้แก่สํานักพมิ พ์หรอื ผจู้ ัดทาํ
พิมพห์ นงั สอื กอ่ นท่ีจะจดั พมิ พ์หนังสอื เพื่อสํานัก
พมิ พห์ รอื ผู้จดั พิมพ์จะได้นําข้อมลู ที่กาํ หนดให้
นอกจากข้อมูลในสว่ นท่ีได้จากหอสมดุ แห่งชาติ
ในหน้าลิขสทิ ธคิ์ วรมขี อ้ มลู ผู้รบั ผิดชอบในการจดั
ทาํ จาํ นวนทีจ่ ัดพมิ พ์ ปที ี่และครง้ั ทใ่ี นการพิมพ์
สถานที่ พิมพ์ ราคาจดั จาํ หน่าย (ถา้ ม)ี รวมถงึ ผู้ท่ี
ทําหน้าท่จี ดั จาํ หนา่ ย (ถ้าม)ี

4

4. คาํ นํา เป็นส่วนเร่มิ ต้นทผ่ี ู้เขียนจะได้ส่ือสารกบั ผู้อา่ น ส่วนใหญจ่ ะเปน็ การอธิบายภาพ
รวมเนือ้ หาในคํานําของหนังสอื ตํารา วา่ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พือ่ อะไร เนอ้ื หาในหนังสอื เก่ยี วกับเรอื่ ง
อะไร หนงั สือเลม่ ท่เี ขยี นเหมาะกับผอู้ า่ นแบบไหน คํานาํ จงึ เหมอื นการโหมโรง สาํ หรบั การเรมิ่
ตน้ การแสดงของเนอื้ หาในหนงั สอื

5. กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี) ในสว่ นของกติ ตกิ รรมประกาศ คอื สว่ นที่ผูเ้ ขียนจะไดก้ ลา่ ว
คาํ ขอบคณุ หรือใหเ้ ครดิตตา่ งๆ สาํ หรับผู้ที่อปุ การคณุ กบั หนังสือ ตาํ ราเล่มน้ัน ในสว่ นของ
กติ ติกรรมประกาศนี้ผูเ้ ขียนจะมีหรอื ไมม่ กี ็ได้

6. คํานยิ ม (ถ้าม)ี คาํ นยิ มเปน็ ส่วนประกอบหนึ่งในหนงั สือ ตําราทผี่ ้เู ขยี นหรอื สํานกั พิมพ์
ขอความกรณุ าจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชีย่ วชาญหรือเป็นทผี่ ูเ้ ขยี นเคารพนบั ถอื ได้ให้ความกรณุ า
เขยี นคํานยิ ม เพอ่ื สรุปประเด็นของหนงั สอื หรือกล่าวแนะนําหนังสอื เล่มนนั้ ตลอดจนการใหก้ าร
ชืน่ ชมกบั ผ้เู ขยี นทไ่ี ด้เขียนหนงั สือเลม่ นีข้ น้ึ มา ในส่วนของของคํานิยมน้ผี ู้เขยี นจะมีหรือไม่มีกไ็ ด้

7. ประวัตผิ ูน้ พิ นธ์/ผู้เขียน ประกอบไปด้วย ช่อื ผ้เู ขียน ภาพถา่ ยผู้เขียน (ถา้ ม)ี สถานที่
ทาํ งาน การศึกษา และสาขาวชิ าท่มี คี วามเชยี่ วชาญ โดยส่วนใหญ่จะพบในหนงั สอื ทางวิชาการ
เพอ่ื จะทําให้ ผู้อ่านทราบถงึ ประสบการณ์และความเชย่ี วชาญของผู้เขยี น หรืออาจจะเคยไปพบ
ผลงานของนักเขียนในงานต่างๆ ซงึ่ จะเป็นขอ้ มูลทีป่ ระกอบในการตัดสนิ ใจซ้อื ของผู้อา่ น

8. สารบญั ถอื เปน็ ส่วนทมี่ ีสําคญั มากของหนังสือ ตํารา จะขาดไปไมไ่ ด้ เพราะเป็นส่วนที่
ทําให้ผู้อ่านเลือกอา่ นตามเรื่องที่ตอ้ งการได้ และยังเป็นสว่ นชว่ ยใหผ้ ูอ้ ่านหนงั สือสามารถตดั สิน
ใจได้รวดเร็วยงิ่ ขึน้ มนการซือ้ หนังสอื ตาํ รา โดยสารบญั จะประกอบไปด้วยชอื่ บทตา่ งๆ ควรใส่
รายละเอยี ดหวั ขอ้ ยอ่ ยในแตล่ ะบทลงไป และไมค่ วรเกนิ 2 หัวข้อย่อย เพ่ือให้สารบญั มีความ
ละเอียดและชว่ ยดึงดูดความสนใจของผู้อ่านยงิ่ ข้ึน

9. ตวั ยอ่ และสญั ลกั ษณ/์ อภิธานศัพท์ (ถ้ามี) ตวั ยอ่ และสัญลักษณ์สว่ นใหญเ่ ราจะพบใน
หนงั สือตาํ ราเฉพาะทาง ทจี่ ะมีตวั ย่อและสัญลกั ษณ์ที่ใช้เรยี กกนั เปน็ ประจําในสาขานัน้ ๆ เพ่ือ
สรา้ งความเข้าใจใหก้ ับผู้อ่านหรือผูเ้ รยี น

5

10. เนอ้ื หา เปน็ สว่ นสาํ คญั ของหนังสอื ตํารา เรยี กวา่ เปน็ หวั ใจหลกั ของหนงั สอื ที่จะใช้
สือ่ สาร องค์ความร้ตู า่ งๆ จากผู้เขยี นผ่านตวั อักษรไปยงั ผอู้ า่ นหรือผูเ้ รยี น ทจี่ ะไดน้ าํ ใชใ้ นการสร้าง
การการเรยี นรู้และทบทวนความรู้ตา่ งๆ โดยองคป์ ระกอบย่อยๆ ของ หนังสอื ตาํ รา ถ้าในเชงิ
วชิ าการก็จะประกอบไปด้วย

- ตาํ รา การอธบิ ายหรือการวิเคราะห์ การสรุป ท้ังน้คี วรมีการอ้างองิ แหลง่ ขอ้ มูลทีท่ นั สมยั
และครบถ้วนสมบรู ณ์ การอธิบายสาระสาํ คญั มีความชดั เจนโดยอาจใชข้ ้อมูล แผนภาพ ตวั อยา่ ง
หรือกรณศี กึ ษา จนผู้อา่ นสามารถทําความเขา้ ใจในสาระสาํ คัญนน้ั ได้โดยเบด็ เสร็จ

- หนังสอื การอธบิ ายหรือการวิเคราะห์ การสรปุ มเี นอ้ื หามีความทนั สมยั และครบถว้ น
สมบรู ณ์ โดยอาจมขี ้อมูล แผนภาพ ตัวอย่าง หรือกรณศี กึ ษาประกอบดว้ ยกไ็ ด้ ตามรปู แบบอย่าง
ใดอย่างหน่ึงตอ่ ไปน้ี

1) เปน็ งานทนี่ กั วชิ าการเขยี นท้ังเลม่ (authored book) คือ เอกสารที่ผู้เขียน
เรียบเรยี งอย่างมีเอกภาพ มรี ากฐานทางวิชาการท่มี นั่ คง และให้ทศั นะของผเู้ ขยี น
ที่สร้างเสริมปัญญาความคิด และสรา้ งความแข็งแกร่งทางวิชาการ

2) เป็นงานวชิ าการบางบทหรอื สว่ นหนง่ึ ในหนังสือทม่ี ผี เู้ ขียนหลายคน (book
chapter) โดยจะตอ้ งมีความเป็นเอกภาพของเนอ้ื หาวิชาการซ่ึงผอู้ ่านสามารถ
ทําความเข้าใจในสาระสาํ คญั นัน้ ได้ โดยเบด็ เสรจ็ ในแตล่ ะบท และเปน็ งานศกึ ษา
ค้นคว้าอยา่ งมีระบบ มีการวิเคราะหแ์ ละสงั เคราะห์ข้อมูลดว้ ยวิธีวิทยาอนั เปน็ ที่ยอมรับ
จนได้ขอ้ สรุปท่ที าํ ให้เกดิ ความก้าวหน้าทางวิชาการ หรือนําไปประยุกต์ใช้ได้ กรณีท่ใี น
แตล่ ะบทมีผู้เขยี นหลายคนจะตอ้ งระบบุ ทบาทหน้าที่ของอย่างชดั เจน

หากนําผลงานไปขอตาํ แหนง่ ทางวิชาการ จํานวนบททีจ่ ะนาํ มาแทนหนังสือ 1 เลม่ ตอ้ งมี
จํานวนบทอยา่ งนอ้ ย 5 บท และมีจํานวนหนา้ รวมกนั แลว้ ไมน่ ้อยกว่า 80 หนา้ โดยเนือ้ หาสาระของ
บทในหนงั สือทัง้ 5 บท จะต้องไม่ซ้าํ ซอ้ นกันและอยใู่ นขอบข่ายสาขาวิชาทีเ่ สนอขอกําหนดตําแหน่ง
ทางวชิ าการ ท้ังน้ี อาจจะอยู่ในหนังสอื เล่มเดียวกันหรือหลายเล่มก็ได้และสําหรับการประเมนิ
คณุ ภาพจะตอ้ งประเมินคุณภาพโดยรวมท้งั หมด (หลกั เกณฑ์และวธิ ีการพจิ ารณาแต่งตง้ั บุคคลให้
ดาํ รงตําแหนง่ ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ 2563)

6

11. ภาคผนวก เปน็ สว่ นทา้ ยท่เี พม่ิ เตมิ เข้ามานอกจากเนอ้ื หาท่จี ะเขียนในกรณีการ
ยกตวั อย่างกรณศี ึกษา หรอื ส่วนขยายท่อี าจจะมเี น้อื หามากเกนิ กว่าท่ีจะเอาไปไว้ในเน้ือหา
โดยส่วนมากอาจจะพบในหนงั สือ ที่มกี ารยกตวั อยา่ งกรณศี ึกษา ผลการทดลอง สถติ ิ หรอื
หลกั ฐานตา่ งๆ ในส่วนของภาคผนวกนี้จึงไมจ่ ําเปน็ ตอ้ งหนงั สอื ทกุ เลม่

12. อภธิ านศัพท์ เป็นการอธิบายความหมายของคําทเี่ รยี งตามตัวอักษร มกั พบ
อภิธานศัพท์ ในหนังสอื เฉพาะทางทผี่ ู้เขียนจะต้องอธิบายขยายความหมายของคํา ศัพทน์ นั้
เพิ่มเติม ในสว่ นของอภิธานศพั ท์นจี้ งึ ไมจ่ าํ เป็นตอ้ งปรากฎในหนังสือทุกเล่ม

13. เอกสารอ้างอิง ถือเป็นส่วนสําคัญของการเขียนงานตา่ งๆ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร
ทางวิชาการ หนงั สือ ตาํ รา รายงานการวจิ ยั ซง่ึ จะปรากฏอยู่ท้ายเลม่ ของผลงานทีเ่ ป็นแหล่ง
รวบรวมรายการข้อมูลทง่ี านเขียนนน้ั ๆ ได้อ้างองิ ถงึ ยังเปน็ สว่ นเชื่อมโยงไปยังต้นทางของ
แหลง่ ขอ้ มูลทีใ่ ห้ผูอ้ า่ นสามารถคน้ หาและสบื คน้ เพมิ่ เตมิ ได้

ในการเขยี นเอกสารทางวิชาการแพทย์และวิทยาศาสตรก์ ารแพทยน์ ิยมเขยี นเอกสาร
อา้ งองิ แบบแวนคูเวอร์ (Vancouver Style) ซึ่งเปน็ การนาํ รายชอื่ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ หรือ
บุคคลท่ีผเู้ ขียนนํามาถึง ในการเขียนมารวบรวมไว้อย่างมีแบบแผนทสี่ ว่ นท้ายของแตล่ ะบท

ส่วนกลุ่มเนอ้ื หาสงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ย์ นยิ มใชก้ ารเขยี นบรรณานกุ รม หรือเอกสาร
อ้างองิ ระบบ APA หรือ (American Psychological Association)

14. ดัชนี หรอื ดรรชนี ในภาษาองั กฤษเราจะใช้คาํ วา่ Index ส่วนนจี้ ะประกอบไปด้วย
คําสําคญั ทจี่ ะใช้เป็น ดชั นีคําค้นภายในหนังสอื โดยโครงสร้างพนื้ ฐานของดชั นีคําคน้ นั้นจะมี
การระบุหน้าของคาํ ๆ นัน้ วา่ อยู่หนา้ ไหน ซงึ่ จะทําใหผ้ ู้อา่ นน้นั สามารถหาคําสําคญั หรอื หวั ข้อ
สาํ คัญในหนงั สือเลม่ นีไ้ ด้

15. ปกหลงั จะประกอบด้วยทช่ี อื่ หนงั สือ ชือ่ ผู้เขียน สงั กดั หรอื สถานที่ทาํ งานของ
ผู้เขียน หมายเลข ISBN (ทางหน่วยจะใสไ่ ว้ที่ปกหลงั หนังสือทมี่ กี ารจดั จาํ หน่าย) คําโปรย คือ
คําอธบิ ายแบบส้ันๆ หลงั ปกหนงั สือ ตํารา ที่เราจะส่อื สารได้อยา่ งชดั เจนกบั ผทู้ พี่ บเหน็ และ
กําลังจะตัดสินใจซ้อื ซึ่งจะต้องระบสุ าระสําคญั ของหนงั สอื ตํารา สรปุ ประเด็น และสดุ ท้าย
หนังสอื เหมาะกบั ใคร อา่ นแล้วได้อะไร แต่จะต่างไปจากคํานาํ ท่อี าจจะมปี ระเดน็ ทีข่ ยายสาระ
สําคญั ออกไปได้อกี แต่คํา โปรยนั้นจะต้องสือ่ สารแบบกระชับและเขา้ ใจได้งา่ ยท่สี ดุ (มหี รอื
ไมม่ กี ไ็ ด)้

7

16. ปกหลงั จะประกอบด้วยที่ชอ่ื หนังสอื ชอ่ื ผูเ้ ขียน สังกัดหรอื สถานทีท่ าํ งานของผูเ้ ขยี น
หมายเลข ISBN (ทางหนว่ ยจะใสไ่ ว้ท่ีปกหลังหนงั สือทมี่ กี ารจดั จําหน่าย) คาํ โปรย คือ
คําอธิบาย แบบส้นั ๆ หลังปกหนังสอื ตํารา ที่เรา
จะสอื่ สารไดอ้ ยา่ งชดั เจนกับผ้ทู พี่ บเห็นและกาํ ลงั จะ
ตัดสินใจซื้อ ซ่ึงจะต้องระบสุ าระสําคัญของหนงั สือ
ตาํ รา สรุปประเด็น และสดุ ทา้ ยหนังสือเหมาะกบั
ใคร อ่านแลว้ ได้อะไร แตจ่ ะตา่ งไปจากคาํ นาํ ทีอ่ าจ
จะมีประเดน็ ทข่ี ยายสาระสาํ คัญออกไปได้อกี
แตค่ าํ โปรยนัน้ จะต้องส่ือสารแบบกระชบั และเขา้ ใจ
ไดง้ ่ายทส่ี ดุ (มหี รอื ไม่มกี ็ได)้

17. สันหนงั สือ ถือเป็นอีกสว่ นสาํ คัญของหนงั สอื เพราะ
โดยทั่วไป หนังสือท่ตี งั้ อยู่ตามร้านหนงั สือหรอื ห้องสมุด
ด้านที่หนั ออกมาไมใ่ ชห่ นา้ ปกแต่เปน็ สันของหนงั สือ เพ่ือ
การบริหารจัดการพ้ืนที่เกบ็ หนงั สือมากทสี่ ุด ดงั น้ัน
สันหนงั สอื จงึ เป็นสว่ นสาํ คญั ในการส่อื สารกบั ผู้เลอื ก
หยบิ ข้นึ มา โดยสว่ นประกอบของสันหนงั สอื นน้ั จะ
ประกอบไปด้วย ชื่อหนงั สอื ชอื่ ผู้เขยี น ตราสัญลกั ษณ์
หนว่ ยงานหรือสาํ นกั พิมพ์

จากทไ่ี ด้กลา่ วมาเบอ้ื งต้นเป็นเพยี งการยกตวั อย่างขององคป์ ระกอบของหนงั สือแตล่ ะ
เลม่ เพอื่ ให้หนงั สือที่จดั ทํามีองคป์ ระกอบครบถว้ น มขี อ้ มูลในการถ่ายทอดท่นี ่าสนใจ การ
สื่อสารระหว่างผู้เขียนและผอู้ า่ นสามารถงึ กนั ได้ดยี ่งิ ขึน้

ทม่ี า https://www.nupress.grad.nu.ac.th/components-what-is-a-textbook/

8

RECOMMEND NEW BOOKS

JULY- SEPTEMBER 2021

coming

“ในปจั จุบนั การดูแลรกั ษาภาวะการไดย้ นิ บกพร่องถอื ว่าเปน็ เรอ่ื งสาํ คญั อยา่ งยิ่ง เนือ่ งจาก
เป็นภาวะทีพ่ บไดต้ ้ังแต่เดก็ แรกเกดิ จนถงึ ผูส้ ูงอายุ ทําใหภ้ าวะนี้ส่งผลตอ่ ภาวะทางเศรษฐกจิ อย่าง
มากท้งั ในประเทศและต่างประเทศ สาํ หรับประเทศไทย ยงั ขาดแคลนทรพั ยากรทส่ี าํ คัญไมว่ า่ จะ

เปน็ บคุ ลากรหรอื เครอื่ งมือต่างๆ ที่จะช่วยสนับสนนุ
การดูแลรกั ษาผูป้ ่วยเหล่าน้ไี ดอ้ ยา่ งท่ัวถงึ การ
ขาดแคลนทรัพยากรเหล่านี้ ยังรวมถึงหนงั สอื และ
ตาํ ราเรียนภาษาไทยสําหรับใชด้ แู ลผ้ปู ว่ ยท่ีมีภาวะ
การไดย้ นิ บกพร่องอกี ดว้ ย ดงั นน้ั หนงั สือเร่อื ง "การ
ตรวจการได้ยนิ เชงิ วตั ถุวิสยั " (Objective Hearing
Tests) จึงไดถ้ กู จดั ทําขึน้ เพอื่ รวบรวมรื่องมอื ท่ีนิยม
ใช้ในปจั จบุ ันสาํ หรบั ประเมนิ การได้ยนิ และวธิ ีการ
ตรวจทีส่ าํ คญั ไวท้ ัง้ หมด เนอื้ หาครอบคลุมต้งั แต่
ความรพู้ ้นื ฐานของเครอ่ื งมอื ชนดิ ต่างๆ จนถงึ วธิ ี
การนําเครื่องมือเหล่านัน้ ไปใชใ้ นทางคลนิ ิก ผอู้ ่าน
สามารถจะเขา้ ใจการใชเ้ ครอื่ งมอื ตา่ งๆ ไดอ้ ย่างลกึ
ซึ้ง รวมทัง้ มีความมนั่ ใจในการส่งตรวจและแปลผล
ดว้ ยตนเองไดเ้ ป็นอยา่ งดี”

ราคา 240 บาท
พิทยาพล ปิตธวชั ชัย

บรรณาธกิ าร

9

g soon

หนงั สือไซนัสอกั เสบจากเช้ือรา (fungal
rhinosinusitis) เล่มนจ้ี ัดทําขึ้น เนื่องจากในปจั จุบนั
มีแนวโน้มการเพ่ิมขึ้นของผูป้ ว่ ยกลมุ่ น้ี สาเหตุจาก
ผูท้ ีม่ ปี ัญหา ภมู ติ า้ นทานบกพรอ่ งเพม่ิ มากข้ึนจาก
หลายปจั จัย เชน่ มปี ระชากรกลมุ่ คนสงู อายุเพิ่มขน้ึ
มีการใช้ยาปฏิชีวนะกันอยา่ งแพรห่ ลาย มีการพฒั นา
ใชย้ าเคมีบาํ บัดในการรกั ษาโรคมะเร็งมากข้ึน มีการ
แพรร่ ะบาดของโรคทท่ี ําให้ ภมู ิตา้ นทานบกพร่อง
ทําให้ผ้ปู ว่ ยกลมุ่ นี้มีความเส่ยี งสงู ทจ่ี ะเกดิ ปัญหาจาก
โรคไซนัสอกั เสบจากเชื้อราทร่ี นุ แรง ดงั นัน้ แพทย์-
เวชปฏิบัติท่วั ไป และแพทยเ์ ฉพาะทางโสต ศอ
นาสิกวทิ ยา จําเป็นตอ้ งมีความรู้ความเขา้ ใจ
สามารถวินิจฉยั โรคไดร้ วดเรว็ แมน่ ยาํ ให้การดแู ลท่ี
ถกู ตอ้ งเหมาะสม เพอ่ื ลดปญั หาภาวะแทรกซอ้ นที่
รนุ แรงและอตั ราการเสยี ชวี ิตจากตวั โรค

ผเู้ ขยี นในฐานะแพทยท์ ี่ให้การดูแลผปู้ ่วยในกลุ่มนี้ ได้รวบรวมเนื้อหาจากตําราวชิ าการทั้งใน
และตา่ งประเทศ จดั ทาํ หนงั สอื เลม่ น้ีขนึ้ โดยหวงั เป็นอยา่ งย่งิ วา่ จะเปน็ ประโยชนส์ ามารถนําไปใช้
เป็นแนวทางในการดูแลผปู้ ว่ ยโรคไซนัสอักเสบจากเชื้อราในทางเวชปฏบิ ัตไิ ด้จริง

ราคา 450
จักรพันธุ์ พรหมโสภา

บรรณาธกิ าร

10

BOOKSHELVES วราห์ ยนื ยงววิ ฒั นา: บรร

ณ
รา ิกธา

ราคา 1,500 บาท

รนิ ทร์ ปติ านพุ งศ:์ บรรณ
าธกิ า

).
อ.
ม

รุ าจ
ส(

ร
ราคา 240 บาท

า
มารถติดต่อซ้ือได้ที่สาขาวิชาจิตเวช

11

ราคา 60% (จากราคา 44
ด
ล 0
ทาบ

480 บาท

176 บาท

หนงั สอื
ขายดี

720 บาท

580 บาท 1,200 บาท

12

หนังสอื กบั ยคุ
สมยั ทเี ปลยี น

กระบวนการสร้างสรรค์

DESงานออกแบบ
ชนาพร ลคั นทนิ พร: เขยี น

การออกแบบ
การออกแบบ หมายถึง การถา่ ยทอดความคดิ และจินตนาการให้ออกมาเป็นผลงานไมว่ ่า
จะเป็นการออกแบบเชงิ วัตถุ การออกแบบเชิงระบบ รวมไปถงึ การออกแบบเชงิ ความคิด เป็นต้น
การออกแบบมีหลายประเภท เชน่ การออกแบบทางสถาปัตยกรรม การออกแบบผลิตภัณฑ์
การออกแบบทางวิศวกรรม การออกแบบตกแต่ง และการออกแบบสอ่ื สงิ่ พมิ พ์ ซงึ่ ทางหนว่ ย
ผลิตตําราจะเน้นไปทางการออกแบบสอื่ สิ่งพิมพเ์ ป็นหลัก

หัวใจหลกั ของการออกแบบ
ความเข้าใจผดิ ทพี่ บบอ่ ยเก่ียวกบั การออกแบบ คอื การผลิตผลงานออกมาดูสวยงาม
เทา่ นนั้ อนั ทีจ่ ริงแลว้ หวั ใจหลักของการออกแบบไม่ได้อยูท่ ค่ี วามสวยงามเพยี งอย่างเดียว
การออกแบบยงั เป็นการสร้างสรรค์ผลงานให้สามารถใชง้ านไดจ้ รงิ เพื่อนําไปสูก่ ารสอื่ ความ
หมาย ความรู้สกึ และมอบความประทับใจลงบนผลงาน ซง่ึ จะทําใหผ้ ลงานทีอ่ อกแบบมคี ุณคา่
มากข้ึน

กระบวนการสรา้ งสรรค์งานออกแบบ
งานออกแบบจําเปน็ ตอ้ งมกี ระบวนการหรอื ขนั้ ตอนการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน จุดประสงค์เพอ่ื
ถ่ายทอดความคิดและจิตนาการใหอ้ อกมาเป็นผลงานที่มปี ระสิทธภิ าพ กระบวนการสรา้ งสรรค์
งานออกแบบมี 4 ขัน้ ตอนหลักๆ คอื
1.พูดคุยเก่ียวกับรายละเอียดของงาน ขนั้ ตอนนี้จะช่วยให้ผู้ออกแบบเขา้ ใจถึงขอบเขตของ
งานและรบั รู้ถึงความตอ้ งการของผรู้ ับบริการ และเพอ่ื ไม่ให้เกดิ ความเขา้ ใจผิด
ควรแจง้ รายละเอียดของงานท่ตี อ้ งการเพ่อื ใหง้ ่ายและรวดเร็วต่อการออกแบบ
รายละเอยี ดท่ีผู้รับบริการควรแจง้ เม่อื ทําการขอรับบริการ ได้แก่ เนอ้ื หา ขนาด สี
ตวั อยา่ งของงาน และกําหนดเวลาการใช้งาน(ผู้รับบรกิ ารควรเผอ่ื เวลาในการขอรับ
13 บรกิ าร)

S GN
2. จัดลําดับขอ้ มูล หลงั จากท่พี ูดคยุ เกย่ี วกบั รายละเอียดและขอบเขตของงานแลว้
ผูอ้ อกแบบจะทําการรวบรวมข้อมูลเพมิ่ เตมิ เพอื่ นํามาวิเคราะหเ์ นือ้ หา กลุ่มเปา้ หมาย
และความต้องการของผรู้ บั บรกิ าร เพอื่ ให้ได้ concept และ mood and tone
ของงานออกมาในทิศทางเดยี วกัน
3. ออกแบบจัดทํา เมอื่ รวบรวมข้อมลู อยา่ งเพยี งพอแลว้ ผู้ออกแบบจะเรม่ิ ดาํ เนินการ
ออกแบบงาน การออกแบบงานในแต่ละประเภทมีรายละเอยี ดและความยากง่ายที่
แตกตา่ งกัน ผอู้ อกแบบจงึ ใชเ้ วลาในการออกแบบที่ไม่เท่ากัน หรอื เขา้ ใจง่ายๆ ก็คือ
ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการออกแบบจะขน้ึ อยูก่ บั ความยากงา่ ยของงานนั่นเอง
4. ตรวจสอบและส่งมอบงาน เมอ่ื ออกแบบงานเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว ทางผู้ออกแบบจะ
ทําการตรวจสอบรายละเอียดและความถูกตอ้ งของงานซาํ้ อกี คร้งั หากมสี ว่ นใด
ผดิ พลาด ผู้ออกแบบจะทําการแก้ไข และทําการส่งมอบงานให้แก่ผู้รบั บรกิ าร
หากผรู้ บั บริการตอ้ งการแก้ไขเพ่ิมเติมกส็ ามารถติดตอ่ และแจ้งผ้อู อกแบบเพ่อื ทําการ
แก้ไขงานในสว่ นนน้ั ๆ ตามทผี่ ู้รับบริการตอ้ งการจนกว่าจะเสรจ็ สมบรู ณ์

หากทา่ นใดสนใจหรือต้องการใชบ้ รกิ ารเกีย่ วกับงานออกแบบ สามารถตดิ ต่อทางหน่วย
ผลติ ตาํ รา เพอ่ื พูดคยุ เก่ียวกบั รายละเอียดของงาน และกรอกข้อมลู แบบขอรับบริการงาน
ออกแบบไดท้ าง QR CODE ทีแ่ นบไว้ ทัง้ นี้รบกวนใสข่ อ้ มูลอย่างละเอียดเพื่อเปน็ ประโยชน์และ
เพ่อื สร้างผลงานใหต้ รงกบั ความต้องการของท่านมากที่สุด

แบบฟอรม์ ขอรบั บรกิ ารงานออกแบบ

14

เคลด็ ลบั ที
"ไมล่ บั "

การใช้งาน GOOGLE DRIVE

ในโหมด OFFLINE

วิสธวัช เเตงออ่ น: เขียน

Google Drive เป็นบรกิ ารหนงึ่ ของ Google ทหี่ ลายคนใช้สาํ หรบั ฝากไฟลภ์ าพ
ไฟล์เอกสาร และใชส้ าํ หรบั แชรไ์ ฟล์ไปให้คนอื่น ซง่ึ สง่ิ ทีเ่ จ๋งของมันก็คือเราสามารถเปิด
ไฟลง์ านไดจ้ ากทุกที่ขอเพยี งแคม่ ีอนิ เทอรเ์ น็ตเป็นพอ

ลา่ สุด Google ได้เพ่มิ ฟเี จอรใ์ หม่ท่ีสามารถใช้งาน Google Drive ในโหมด
ออฟไลนไ์ ดแ้ ล้วครับผม

Google ไดป้ ระกาศผา่ นหน้าบล็อก G Suite ว่าผู้ใช้งาน Google Drive สามารถ
ทาํ งานแบบออฟไลนไ์ ด้แล้วโดยผ่านหน้าเวบ็ ไมว่ ่าจะเป็นไฟล์ Docs, Sheets และ Slides
ทีม่ ไี ฟล์เก็บไว้ แตม่ ีขอ้ จํากดั อยา่ งหนึ่ง นัน้ ก็คือ การใช้งาน Google Drive จะสามารถใช้
งานเฉพาะเบราว์เซอร์ Chrome ได้อยา่ งเดียวเท่าน้นั ซึง่ ถ้าหากเปดิ เป็นเบราว์เซอรอ์ นื่ ก็
จะมีหน้าตา่ งข้นึ มาใหค้ ุณเปล่ยี นไปใช้ Chrome แทน

วธิ ีต้งั คา่ Google Drive ในโหมดออฟไลน์
กอ่ นอน่ื เข้าไปท่ี Google Drive บนหน้าเว็บกอ่ น โดยใชเ้ บราว์เซอร์ Chrome
จากนั้นเลือก "ตงั้ ค่า" ทเ่ี ป็นรปู ไอคอนเฟอื งที่อยมู่ มุ ขวามือบนหลังจากนัน้ เลอื กไปที่
"ออฟไลน์" เพียงเทา่ น้ี คณุ กส็ ามารถใช้ Google Drive ในโหมดออฟไลนไ์ ด้ทนั ที

15

นอกจากน้ี Google Drive ยังสามารถเลือกไฟลท์ จ่ี ะทํางานออฟไลน์บางส่วนไดอ้ ีก
ดว้ ย ซงึ่ จะดูได้จากการเปิดไฟล์ของเรานั้นเอง วา่ ไฟล์ไหนทเ่ี ราแกไ้ ขหรือไฟลไ์ หนท่ีเพิ่งเปดิ
กจ็ ะสามารถใชง้ านโหมดออฟไลน์ได้ แตม่ ขี ้อควรระวังเม่ือไรทเ่ี ราใชฟ้ ีเจอรน์ ี้ แนะนาํ ควรจะ
ใชง้ านบนคอมพิวเตอรส์ ่วนตวั ของเราเทา่ น้นั ไมค่ วรใช้กับคอมพวิ เตอร์สาธารณะทใี่ ชง้ าน
ร่วมกับคนหลายคน เพราะไม่เช่นนน้ั คนอ่ืนจะสามารถเข้าถงึ ส่งิ ที่คณุ เก็บไวใ้ น Google
Drive ได้

ที่มา Venturebeat 16

it's a book

ทาํ ไมต้องเขยี นเอกสารอ้างองิ
แบบ VANCOUVER

วรรณศร สกุ การ: เขียน

การอ้างอิง คือ การนาํ รายช่อื สิ่งพมิ พแ์ ละสือ่ ทกุ ชนิดที่ใช้ค้นหาข้อมูลมารวบรวมไว้
อย่างมีแบบแผนในสว่ นทา้ ยเล่มของผลงาน ซึง่ เรียกวา่ "เอกสารอ้างอิงหรอื บรรณานุกรม"
และภาษาอังกฤษจะใช้คาํ ว่า "References หรอื Bibliography" ซึ่งการเขยี นเอกสารอ้างองิ
นั้นมีหลากหลายรปู แบบ และแต่ละรูปแบบจะมีกฎเกณฑท์ ี่กาํ หนดไวแ้ ตกต่างกนั ออกไป

และเนอื่ งจากสาขาวิชาแพทยศาสตรเ์ ป็นสาขาวิชาท่ีมีเนื้อหาเฉพาะ จงึ นยิ มใช้การ
เขียนเอกสารอ้างอิงรปู แบบ Vancouver ซง่ึ เรม่ิ จดั ทําเป็นคร้งั แรกในปี 1978 โดยกลุ่ม
บรรณาธกิ ารวารสารทางการแพทย์ในเมอื งแวนคูเวอรร์ ัฐบริทสิ โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา
โดยรูปแบบการเขียนเอกสารอา้ งองิ แบบ Vancouver ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ

1. การอา้ งอิงในเนอ้ื หา (In- text citation)
2. การอ้างองิ ท้ายเลม่ หรอื เอกสารอา้ งอิง (Reference)

17

1. การอ้างองิ ในเนือ้ หา (In-text citation) เม่อื มกี ารนําผลงานของผู้อนื่ ไมว่ ่าบางส่วน
หรือท้งั หมดมาอา้ งองิ ในผลงานวของตวั เอง ให้ใส่ตวั เลขตามลําดับของการอา้ งองิ หลงั
ข้อความที่อ้างองิ และใชเ้ ลขลําดับเดิมในกรณที ม่ี กี ารอ้างองิ ซํา้ ทุกครั้ง

2. การอ้างองิ ท้ายเลม่ หรอื เอกสารอ้างองิ เป็นการรวบรวมรายการอ้างองิ ทัง้ หมดท่ี
ผเู้ ขยี นใช้ค้นควา้ หาข้อมลู โดยจะมกี ารจดั เรยี งลําดับตัวเลขให้สอดคล้องลําดับเลขการเขยี น
อ้างอิงในเนื้อหา สาเหตทุ ี่ตอ้ งมกี ารเขยี นเอกสารอ้างอิงกเ็ พือ่ แสดงถงึ ความนา่ เชอื่ ถอื ของ
ขอ้ มูล เป็นการยกย่องผลงานทางวิชาการและแสดงถงึ จริยธรรมทางวิชาการ การเคารพ
ผลงานของผอู้ ื่น รวมถงึ ทําใหผ้ ้อู ่านสามารถคน้ คว้าหาขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ ตามความต้องการ
ตอ่ ไปได้

สว่ นสาํ คญั ทตี่ อ้ งใชใ้ นการเขยี นเอกสารอา้ งอิง มดี งั น้ี
- ช่ือผูเ้ ขียน
- ชื่อเร่ือง
- ครั้งทพ่ี มิ พ(์ ของหนังสือ)
- สถานทพี่ มิ พ์และสํานกั พมิ พ์ของหนังสือ
- ปพี ิมพ์
- เลขหนา้ (ของบทความ บทหน่งึ ของหนงั สือ และเอกสารประกอบการประชมุ )

โดยส่วนประกอบข้อมูลทางบรรณานกุ รมเหล่าน้ีสามารถดูได้จาก หนา้ ปกหนังสอื
หน้าปกใน และหน้าลขิ สทิ ธ์ิ

ทม่ี า http://lib.med.psu.ac.th/pdf/van01.pdf

18

2.ON 1.LOV

1202 ENUJ -LIRPA

USP ,ENICIDEM FO YTLUCAF ส ้รางสรร ์คเเละ ัจด ูรปเ ่ลม
้ดวยโปรเเกม CANVA
kreonorobcTINU NOITCUDORP KOOBTXET
ส ัมครสมา ิชก