The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เปเปอร์-การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบจำลองเป็นฐาน-Model-Based-Learning

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 115ศศิประภา เอกตา, 2024-01-23 02:37:19

เปเปอร์-การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบจำลองเป็นฐาน-Model-Based-Learning

เปเปอร์-การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบจำลองเป็นฐาน-Model-Based-Learning

การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบจ าลองเป็นฐาน Model Based Learning เรื่อง โครโมโซมและÿารพันธุกรรม เพื่อพัฒนาทักþะการÿร้างแบบจ าลอง รายüิชาชีüüิทยา 2 กลุ่มÿาระการเรียนรู้üิทยาýาÿตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมýึกþาปีที่ 4 Develop model-based learning management. Model Based Learning. About chromosomes and genetic material to promote modeling skills Biology subject 2 Science and Technology learning group Mathayom 4 ýýิประภา เอกตา จันทร์จิรา จูมพลĀล้า บทคัดย่อ งćนüิจĆยนี้เป็นüิจĆยเชิงปฏิบĆติกćรโดยมีüĆตถุปรąÿงค์เพื่ĂพĆฒนćทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง เรื่Ăง โครโมโซมแลąÿćรพĆนธุกรรม ขĂงนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4/5 ที่เรียนด้üยกćรจĆดกćรเรียนรู้ โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 โดยกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน มี กลุ่มเป้ćĀมćยเป็นนĆกเรียนที่มีปัญĀćคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงจ ćนüน 40 คน เครื่ĂงมืĂที่ ใช้ในกćรüิจĆยได้แก่ แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน จ ćนüน 4 แผน 8 ชĆ่üโมง แบบทดÿĂบüĆดคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง แบบปรąเมินกรąบüนกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง ท ć กćรüิเครćąĀ์ข้Ăมูลโดยใช้ÿถิติพื้นฐćนได้แก่ ค่ćเฉลี่ยเลขคณิต ร้Ăยลą ÿ่üนเบี่ยงเบนมćตรฐćน ผลกćรüิจĆยพบü่ć ĀลĆงจćกที่นĆกเรียนได้รĆบกćรจĆดกćรเรียนรู้มีนĆกเรียนที่มีคąแนนคüćมÿćมćรถในกćร ÿร้ćงแบบจ ćลĂงผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 ในüงจรปฏิบĆติที่ 1 2 แลą 3 คืĂ 8 40 แลą 40 คน แลąมี ค่ćเฉลี่ยขĂงคąแนนคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงในแต่ลąüงจรปฏิบĆติเท่ćกĆบ 24.04 25.2 แลą 27.43 คิดเป็นร้Ăยลą 74.85 78.75 แลą 85.70 ตćมล ćดĆบ ซึ่งจąเĀ็นได้ü่ćนĆกเรียนทุกคนผ่ćน เกณฑ์ร้Ăยลą 70 แลąคąแนนเพิ่มขึ้นเมื่Ăผ่ćนไปแต่ลąüงจรปฏิบĆติ เมื่ĂพิจćรณćแยกĂĂกเป็น 1) คąแนนจćกแบบทดÿĂบคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงมีคąแนนเฉลี่ยในüงจรปฏิบĆติที่ 1 2 แลą 3 เท่ćกĆบ 11.3812.25แลą 13.7 คิดเป็นร้Ăยลą 71.1376.56แลą 85.63ตćมล ćดĆบ แลą 2) คąแนนจćกกćรปรąเมินกรąบüนกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงโดยมีคąแนนเฉลี่ยในüงจรปฏิบĆติที่ 1 2 แลą 3 เท่ćกĆบ 12.612.95แลą 13.73คิดเป็นร้Ăยลą 78.7580.92แลą 85.81ตćมล ćดĆบ


บทน า üิทยćýćÿตร์แลąเทคโนโลยีมีคüćมÿ ćคĆญต่ĂกćรพĆฒนćปรąเทýในด้ćนเýรþฐกิจกćรคมนćคม กćรแพทย์ แลąĂุตÿćĀกรรม ĂีกทĆ้งยĆงเป็นเครื่ĂงมืĂที่ÿ ćคĆญที่ช่üยยกรąดĆบคüćมเป็นĂยู่ขĂงปรąชćกร ขĂงปรąเทýใĀ้ÿูงขึ้น (ÿ ćนĆกงćนคณąกรรมกćรกćรýึกþćแĀ่งชćติ, 2545)โดยกćรýึกþćüิทยćýćÿตร์ มีüĆตถุปรąÿงค์เพื่ĂกćรพĆฒนćบุคคลใĀ้มีคüćมรู้คüćมเข้ćใจในüิทยćýćÿตร์มีจิตüิทยćýćÿตร์ ÿćมćรถ คิด ด ćเนินชีüิต แลąปกป้ĂงÿĆงคมใĀ้ดีงćม(American Association forthe Advancement of Science (AAAS), 1990) แลąมุ่งพĆฒนćปรąชćกรใĀ้เกิดกćรรู้üิทยćýćÿตร์ซึ่งจąก่ĂใĀ้เกิดกćรท ćงćน ใĀ้มีปรąÿิทธิภćพ ซึ่งüิทยćýćÿตร์เป็นกćรเรียนรู้ถึงธรรมชćติขĂงÿิ่งต่ćง ๆดĆงนĆ้นแล้üกćรýึกþćเรียนรู้ üิทยćýćÿตร์ คืĂกćรเรียนรู้ กćรท ćคüćมเข้ćใจปรćกฏกćรณ์ทćงธรรมชćติ(Schweingruber et al., 2012) แต่Ăย่ćงไรก็ตćมบćงปรćกฏกćรณ์ทćงธรรมชćติไม่ÿćมćรถÿĆงเกตได้โดยตรง ĀรืĂมีคüćม ซĆบซ้Ăน ซึ่งยćกต่Ăกćรท ćคüćมเข้ćใจ (Bryce et al., 2016) ดĆงนĆ้นแล้üกćรĂธิบćยปรćกฏกćรณ์จึง ต้ĂงĂćýĆยแบบจ ćลĂงเข้ćมćช่üยในกćรĂธิบćยกćรýึกþć ĀรืĂข้Ăค้นพบที่นĆกüิทยćýćÿตร์ได้จćกกćร ทดลĂง ýึกþćÿิ่งต่ćง ๆ (ภรทิพย์ ÿุภĆทรชĆยüงý์ แลąคณą, 2558) แบบจ ćลĂงเป็นÿิ่งที่ÿร้ćงขึ้นมćเพื่Ăเป็นตĆüแทนขĂงปรćกฏกćรณ์ โดยแบบจ ćลĂงในรูปแบบ ต่ćงมีจุดปรąÿงค์ในกćรใช้ที่แตกต่ćงกĆน ทĆ้งในกćรÿื่ĂÿćรคüćมคิดขĂงตĆüเĂง เพื่ĂบรรยćยแลąĂธิบćย ปรćกฏกćรณ์ทćงธรรมชćติ เพื่Ăพยćกรณ์ปรćกฏกćรณ์ที่จąเกิดขึ้นในĂนćคต ĀรืĂเป็นกรĂบในกćร ÿืบเÿćąทćงüิทยćýćÿตร์ ด้üยเĀตุนี้ แบบจ ćลĂงที่มีกćรใช้ในทćงüิทยćýćÿตร์จึงได้มีรูปแบบที่ ĀลćกĀลćยทĆ้งเป็น โครงÿร้ćงทćงกćยภćพ ภćพüćด แผนผĆง กรćฟ ÿมกćร ข้Ăคüćม แลąโปรแกรม คĂมพิüเตĂร์ (Harrison and Treagust, 2000) แบบจ ćลĂงได้เข้ćมćมีบทบćทในทćงด้ćนกćรýึกþć ในรูปขĂงเป็นÿื่Ăทćงกćรýึกþćที่ใช้ในกćรĂธิบćยคüćมรู้ ทฤþฎี ที่เป็นนćมธรรม เพื่Ăที่จąใĀ้นĆกเรียน เกิดคüćมรู้คüćมเข้ćใจในเนื้ĂĀćนĆ้นๆ ได้ โดยเฉพćąในรćยüิชćüิทยćýćÿตร์ซึ่งเป็นรćยüิชćที่มีกćรน ć แบบจ ćลĂงมćใช้ในกćรเรียนกćรÿĂนเป็นĂย่ćงมćกเนื่Ăงจćกในบćงเนื้ĂĀćขĂงบทเรียนมีเนื้ĂĀćที่มี ลĆกþณąที่เป็นปรćกฏกćรณ์ แลąÿิ่งที่ไม่ÿćมćรถÿĆงเกตได้ทĆนที ในรćยüิชćชีüüิทยćก็ได้มีกćรน ć แบบจ ćลĂงในรูปแบบต่ćงๆ มćใช้ Ăย่ćงเช่น แบบจ ćลĂงÿćยใยĂćĀćร ตćรćงพĆนเนตต์ ซึ่งเป็น แผนภćพตćรćงที่ใช้ช่üยในกćรท ćนćยผลที่ได้จćก กćรทดÿĂบกćรผÿมพĆนธุ์ แบบจ ćลĂงลĆกþณąขĂง ดีเĂ็นเĂที่ที่มีลĆกþณąเป็นเกลียüคู่เüียนขüć (Schwarz et al., 2009) จąเĀ็นได้ü่ćแบบจ ćลĂงมี คüćมÿ ćคĆญทĆ้งทćงด้ćนüิทยćýćÿตร์ แลąทćงด้ćนกćรýึกþćüิทยćýćÿตร์ ดĆงจąเĀ็นได้จćกรąบุใĀ้ “กćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง” เป็นĀนึ่งในĂงค์ปรąกĂบขĂงกćรใช้กรąบüนกćรทćงüิทยćýćÿตร์ในกćรÿืบ เÿćąĀćคüćมรู้ ดĆงที่ปรćกฏในตĆüชี้üĆดแลąÿćรąกćรเรียนรู้แกนกลćงกลุ่มÿćรąกćรเรียนรู้üิทยćýćÿตร์ ที่ü่ćกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง ĀรืĂรูปแบบที่ĂธิบćยผลĀรืĂแÿดงผลขĂงกćรÿ ćรüจตรüจÿĂบ ÿ ćĀรĆบ นĆกเรียนรąดĆบมĆธยมýึกþćตĂนต้น แลąกćรÿร้ćงÿมมติฐćนที่มี ทฤþฎีรĂงรĆบĀรืĂคćดกćรณ์ÿิ่งที่จą ค้นพบĀรืĂÿร้ćงแบบจ ćลĂง เพื่Ăน ćไปÿู่กćรตรüจÿĂบ ÿ ćĀรĆบนĆกเรียนรąดĆบมĆธยมýึกþćตĂนปลćย (ÿ ćนĆกüิชćกćรแลąมćตรฐćนกćรýึกþć, 2552)


จćกกćรÿĆงเกตกćรจĆดกćรเรียนกćรÿĂนüิทยćýćÿตร์ในโรงเรียน แลąÿĂบถćมครูผู้ÿĂนใน รćยüิชćชีüüิทยć ในภćคกćรเรียนที่ 1 ปีกćรýึกþć 2566 พบü่ćÿüนใĀญ่ครูผู้ÿĂนในรćยüิชćชีüüิทยć แลąผู้üิจĆยได้ใĀ้นĆกเรียนÿร้ćงแบบจ ćลĂงเพื่ĂĂธิบćยกćรท ćงćนขĂงเĂนไซม์ แลąพบü่ćนĆกเรียนมี ปัญĀćเกี่ยüกĆบกćรÿร้ćงมโนภćพ (Visualization) ในเนื้ĂĀćชีüüิทยćเรื่Ăง กćรท ćงćนขĂงเĂนไซม์แลą เนื้ĂĀćĂื่น ๆ ที่มีกรąบüนกćรซĆบซ้Ăน โดยมโนภćพแลąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงเป็นกรąบüนกćรที่เกิดขึ้น คüบคู่กĆน ซึ่งมีคüćมÿĆมพĆนธ์กĆบแบบจ ćลĂงทćงคüćมคิดที่เป็นกćรน ćเÿนĂภćพที่เกิดจćกกćรแปล คüćมĀมćยขĂงข้ĂมูลขĂงÿมĂง (Martínez Solano, 2016) รüมไปถึงกćร เรียนกćรÿĂนÿ่üนใĀญ่เป็นกćรบรรยćย จึงÿ่งผลใĀ้นĆกเรียนไม่ได้รĆบกćรพĆฒนćทĆกþąกćรÿร้ćง แบบจ ćลĂง ทĆ้งนี้กćรÿĂบทุกปรąเภทได้ใĀ้คüćมÿ ćคĆญกĆบÿćรąเนื้ĂĀćüิชćมćกกü่ćทĆกþąในกćร ทดลĂงแลąปฏิบĆติ นĆกเรียนต้ĂงĀćüิธีกćรทุกĂย่ćงที่จąท ćใĀ้ได้คąแนนÿูงในกćรÿĂบจึงท ćใĀ้นĆกเรียน ไม่ÿนใจกćรเรียนรู้ภćคปฏิบĆติ แต่เน้นกćรเรียนที่จąทรćบเนื้ĂĀć ซึ่งท ćใĀ้กćรพĆฒนćทĆกþąกćรÿร้ćง แบบจ ćลĂง จćกÿภćพปัญĀćข้ćงต้น จึงแÿดงใĀ้เĀ็นü่ćกćรจĆดกćรเรียนกćรÿĂนทćงด้ćนüิทยćýćÿตร์ จึงคüรÿ่งเÿริมแลąพĆฒนćคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียน เพื่ĂใĀ้นĆกเรียนเกิดกćร เรียนรู้กćรท ćงćนขĂงนĆกüิทยćýćÿตร์ ตลĂดจนเกิดคüćมÿนในในรćยüิชćชีüüิทยć แลąเกิดทĆกþąต่ćง ๆ ที่เป็นผลมćจćกกรąบüนกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง (Ladachart and Ladachart, 2017) ดĆงนĆ้นผู้üิจĆยต้Ăงกćรที่จąÿ่งเÿริมทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4/5 ด้üยกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนในรćยüิชćชีüüิทยćเรื่Ăง โครโมโซมแลąÿćร พĆนธุกรรม ซึ่งกćรüิจĆยครĆ้งนี้ได้ใช้รูปแบบกćรüิจĆยปฏิบĆติกćร (action research) เป็นกćรüิจĆยที่มุ่ง แก้ปัญĀćเฉพćąĀน้ćที่ขĂงผู้ที่ปฏิบĆติงćน เพื่Ăที่จąปรĆบปรุงกćรปฏิบĆติงćนแลąงćนที่ก ćลĆงด ćเนินกćร Ăยู่ใĀ้มีคุณภćพ แลąปรąÿิทธิภćพมćกยิ่งขึ้น (บุญชม ýรีÿąĂćด, 2543) โดยกćรüิจĆยปฏิบĆติกćร มี 4 ขĆ้นตĂน ปรąกĂบด้üย ขĆ้นที่üćงแผน เป็นขĆ้นที่มีกćรýึกþćÿภćพปัญĀćขĂงนĆกเรียน เลืĂก กลุ่มเป้ćĀมćย ýึกþćนüĆตกรรม ĀลĆกÿูตร เนื้ĂĀćที่จąท ćกćรÿĂน Ăงค์ปรąกĂบขĂงคüćมÿćมćรถใน กćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง แล้üท ćกćรÿร้ćงเครื่ĂงมืĂที่ใช้ในกćรท ćüิจĆยปรąกĂบด้üยแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้ โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน แบบทดÿĂบคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงแบบปรąเมิน คüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงด้ćนกรąบüนกćร แบบÿĆมภćþณ์นĆกเรียน ขĆ้นกćรปฏิบĆติ เป็นขĆ้น ที่ผู้üิจĆยน ćเครื่ĂงมืĂที่ใช้ในกćรท ćüิจĆยที่ÿร้ćงขึ้นคืĂ แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน ไปใช้กĆบกลุ่มเป้ćĀมćยที่จąท ćกćรพĆฒนćคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĆ้นÿĆงเกตเป็นขĆ้นที่น ć แบบปรąเมินคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง แบบปรąเมินคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćง แบบจ ćลĂงด้ćนกรąบüนกćร แลąแบบÿĆมภćþณ์นĆกเรียน เพื่Ăเก็บข้ĂมูลขĂงนĆกเรียนĀลĆงจćกที่ได้ เรียนด้üยแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน ขĆ้นกćรÿąท้Ăนผลเป็นขĆ้นที่น ćข้Ăมูลที่ได้ จćกขĆ้นกćรÿĆงเกตมćüิเครćąĀ์ü่ćนĆกเรียนมีคüćมÿćมćรถĂยู่ในรąดĆบใด พบปัญĀćใดในกćรจĆดกćร เรียนรู้ เพื่Ăที่จąได้น ćข้ĂมูลเĀล่ćนี้ไปท ćกćรแก้ไขในขĆ้นกćรüćงแผนขĂงüงรĂบถĆดไป ซึ่งกćรüิจĆยครĆ้งนี้


จąเป็นพื้นฐćนในกćรพĆฒนćกิจกรรมกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนใĀ้ครูผู้ÿĂน üิทยćýćÿตร์ แลąผู้ที่เกี่ยüข้Ăงเพื่Ăใช้เป็นแนüทćงในกćรจĆดกćรเรียนรู้ใĀ้แก่นĆกเรียนต่Ăไป üัตถุประÿงค์การüิจัย เพื่ĂพĆฒนćทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง เรื่Ăง โครโมโซมแลąÿćรพĆนธุกรรม ขĂงนĆกเรียนชĆ้น มĆธยมýึกþćปีที่ 4/5 ที่เรียนด้üยกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 ÿมมติฐานการüิจัย นĆกเรียนที่เรียนด้üยกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน เรื่Ăง โครโมโซมแลąÿćร พĆนธุกรรม มีทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 เอกÿารและงานüิจัยที่เกี่ยüข้อง เĂกÿćรแลąงćนüิจĆยที่เกี่ยüข้Ăงเรื่Ăง พĆฒนćกćรจĆดกćรเรียนรู้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน Model Based Learning เรื่Ăง โครโมโซม เพื่Ăÿ่งเÿริมทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง รćยüิชćชีüüิทยć 2 กลุ่ม ÿćรąกćรเรียนรู้üิทยćýćÿตร์แลąเทคโนโลยีชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 Ăćรยć คüĆฒน์กุล แลąคณą (2558) ได้ท ćกćรýึกþćเปรียบเทียบมโนทĆýน์ เรื่Ăง ÿćร ชีüโมเลกุล แลąคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงทćงüิทยćýćÿตร์ขĂงนĆกเรียนในรąดĆบชĆ้น มĆธยมýึกþćปีที่ 4 โดยใช้กćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน กĆบกćรจĆดกćรเรียนรู้แบบปกติ เครื่ĂงมืĂที่ใช้ในกćรท ćüิจĆยปรąกĂบด้üย แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน แผนกćร จĆดกćรเรียนรู้แบบปกติ แบบüĆดมโนทĆýน์ เรื่Ăง ÿćรชีüโมเลกุล แบบüĆดคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบ จ ćลĂงทćงüิทยćýćÿตร์ ÿถิติที่ใช้ในกćรüิเครćąĀ์ข้ĂมูลคืĂ โดยใช้กćรทดÿĂบค่ćที (t-test fordependent samples) ผลกćรýึกþćพบü่ć นĆกเรียนที่ได้รĆบกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้โมเดลเป็น ฐćนมีมโนทĆýน์ เรื่Ăง ÿćรชีüโมเลกุล แลąคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงทćงüิทยćýćÿตร์ ÿูง กü่ćนĆกเรียนที่ได้รĆบกćรจĆดกćรเรียนรู้แบบปกติ Ăย่ćงมีนĆยÿ ćคĆญทćงÿถิติที่ .05 แลąมีมโนทĆýน์ เรื่Ăง ÿćรชีüโมเลกุล แลąคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงทćงüิทยćýćÿตร์ ĀลĆงเรียนÿูงกü่ćนĆกเรียนที่ ได้รĆบกćรจĆดกćรเรียนรู้แบบปกติ Ăย่ćงมีนĆยÿ ćคĆญทćงÿถิติที่ .05 นิภćภรณ์ จĆนทąโยธć (2558) ได้ท ćกćรýึกþćผลขĂงกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้ แบบจ ćลĂงเป็นฐćน เรื่Ăง ขĂงแข็ง ขĂงเĀลü แลąแก๊ÿ ต่ĂกćรพĆฒนćมโนมติทćงüิทยćýćÿตร์ แลą คüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง กลุ่มเป้ćĀมćยคืĂนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 จ ćนüน 34 คน เครื่ĂงมืĂที่ใช้ในกćรท ćüิจĆยปรąกĂบด้üย แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน เรื่Ăง ขĂงแข็ง ขĂงเĀลü แลąแก๊ÿ แบบทดÿĂบüĆดมโนมติทćงüิทยćýćÿตร์ แลąแบบทดÿĂบüĆด คüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง โดยปรąเมินมโนมติทćงüิทยćýćÿตร์ท ćกćรüิเครćąĀ์โดย เปรียบเทียบกĆบเกณฑ์รąดĆบมโนมติทćงüิทยćýćÿตร์ แลąคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงโดย


เปรียบเทียบกĆบรąดĆบขĂงคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง 5 รąดĆบผลกćรüิจĆยพบü่ćนĆกเรียนมี มโนมติ แลąคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงĀลĆงเรียนÿูงกü่ćก่Ăนเรียน ภรทิพย์ ÿุภĆทรชĆยüงý์ แลąชćตรี ฝ่ćยค ćตć (2558) ได้ýึกþćผลขĂงกćรจĆดกćร เรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน เรื่Ăง โครงÿร้ćงขĂงĂąตĂม แลąแลąคüćมเข้ćใจธรรมชćติขĂง แบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 จ ćนüน 44 คน เครื่ĂงมืĂที่ใช้ในกćรท ćüิจĆยปรąกĂบด้üย แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน แบบüĆดแบบจ ćลĂงทćงคüćมคิด เรื่Ăงโครงÿร้ćงขĂง ĂąตĂม แลąแบบüĆดคüćมเข้ćใจธรรมชćติขĂงแบบจ ćลĂง ผลกćรüิจĆยพบü่ćนĆกเรียนที่ได้รĆบกćร จĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนนĆกเรียนÿ่üนใĀญ่มีแบบจ ćลĂงทćงคüćมคิดที่ÿĂดคล้ĂงกĆบ แบบจ ćลĂงทćงüิทยćýćÿตร์ แลąมีคüćมเข้ćใจเกี่ยüกĆบธรรมชćติขĂงแบบจ ćลĂงĂยู่ในกลุ่มที่ ÿĂดคล้ĂงกĆบแนüคิดที่ นĆกüิทยćýćÿตร์ยĂมรĆบเพิ่มขึ้น ธนĆฏฐć คงทน แลąบุญนćค ÿุขุมเมฆ (2559) ได้ýึกþćผลขĂงกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้ แบบจ ćลĂงเป็นฐćน เพื่ĂพĆฒนćแนüคิดเรื่Ăง เคมีĂินทรีย์ ขĂงนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 5 จ ćนüน35 คน โดยงćนüิจĆยชิ้นนี้มีจุดปรąÿงค์เพื่ĂýึกþćแนüทćงกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนแลą พĆฒนćแนüคิดขĂงนĆกเรียน เรื่Ăง เคมีĂินทรีย์เครื่ĂงมืĂที่ใช้ในกćรýึกþćปรąกĂบด้üย แผนกćรจĆดกćร เรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน แบบüĆดแนüคิด เรื่Ăง เคมีĂินทรีย์ แลąผู้üิจĆยได้ท ćกćรทดÿĂบ นĆกเรียนแล้üจĆดกลุ่มขĂงนĆกเรียนĂĂกเป็น 5 กลุ่ม คืĂ มีแนüคิดที่ถูกต้Ăง (SU) มีแนüคิดถูกต้Ăง บćงÿ่üน (PU) มีแนüคิดถูกต้Ăงบćงÿ่üน (PU) คลćดเคลื่Ăนบćงÿ่üน (SM) แลąมีแนüคิดคลćดเคลื่Ăน (SM) ซึ่งผลจćกกćรýึกþćพบü่ć กćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนÿćมćรถ พĆฒนćแนüคิด เรื่Ăง เคมีĂินทรีย์ ขĂงนĆกเรียนได้ร้Ăยลą 45.5 ใĀ้มีแนüคิดที่ถูกต้Ăง (SU) รĂงลงมć ร้Ăยลą 29.5 มีแนüคิดถูกต้Ăง บćงÿ่üน (PU) ร้Ăยลą 15.8 มีแนüคิดถูกต้Ăงบćงÿ่üนแลąคลćดเคลื่Ăน บćงÿ่üน (PU/SM) แลąร้Ăยลą 8.9 มีแนüคิดคลćดเคลื่Ăน (SM) โดยĀĆüข้Ăที่นĆกเรียนมีแนüคิดที่ ถูกต้Ăงมćกที่ÿุด คืĂ ÿćรปรąกĂบ ไăโดรคćร์บĂน แลąĀĆüข้Ăที่มีแนüคิดคลćดเคลื่Ăนมćกที่ÿุด คืĂไĂ โซเมĂร์ ชนćธิป โĀตรภüćนนท์ แลąคณą (2562) ได้ýึกþćผลขĂงกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂง เป็นฐćน เพื่ĂพĆฒนćกćรคิดĂย่ćงเป็นรąบบÿ ćĀรĆบนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 เรื่Ăงรąบบปรąÿćท แลąĂüĆยüąรĆบคüćมรู้ÿึก กลุ่มเป้ćĀมćยคืĂนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 จ ćนüน 27คน เครื่ĂงมืĂที่ใช้ ในกćรท ćüิจĆยปรąกĂบด้üยแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้ เรื่Ăง รąบบปรąÿćทแลąĂüĆยüąรĆบคüćมรู้ÿึก ผู้üิจĆย ได้ท ćüิจĆยปฏิบĆติกćร จ ćนüน 4 üงรĂบ ÿถิติที่ใĀ้ในกćรüิเครćąĀ์ข้ĂมูลคืĂ ค่ćเฉลี่ยเลขคณิต ÿ่üน เบี่ยงเบนมćตรฐćน แล้üน ćไปเทียบกĆบเกณฑ์กćรปรąเมินเป็นขĆ้นรąดĆบ ผลกćรýึกþćพบü่ćนĆกเรียนที่ ได้รĆบกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนมีกćรคิดĂย่ćงเป็นรąบบ นĆกเรียนมีพĆฒนćกćรในที่ ÿูงขึ้นในแต่ลąüงรĂบตĆ้งแต่üงรĂบที่ 1 ที่คąแนน 7.19 üงรĂบที่ 2 ที่คąแนน 8.67 üงรĂบที่ 3 ด้üย คąแนน 9.41 แลąüงรĂบที่ 4 ด้üยคąแนนที่ 10.0


Ogan-Bekiroğlu and Arslan (2014) ได้ýึกþćผลขĂงกćรÿĂนโดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนต่Ă ทĆกþąกรąบüนกćรทćงüิทยćýćÿตร์แลąคüćมเข้ćใจแนüคิดทćงüิทยćýćÿตร์ กลุ่มตĆüĂย่ćง คืĂ นĆกýึกþćครูฟิÿิกÿ์ชĆ้นปีที่ 4 ขĂงมĀćüิทยćลĆย State Ăćยุปรąมćณ 23 ปี จ ćนüน 25 คน แบ่งเป็น กลุ่มทดลĂง 13 คน แลąกลุ่มคüบคุม 12 คน โดยกลุ่มคüบคุมจąได้รĆบกćรจĆดกćรเรียนรู้แบบÿืบÿĂบ แต่ไม่มีกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง แลąกลุ่มทดลĂงจąได้รĆบกćรจĆดกćรเรียนรู้แบบÿืบÿĂบโดยใช้แบบจ ćลĂง เป็นฐćนเป็นเüลć 10 ÿĆปดćĀ์ เครื่ĂงมืĂที่ใช้ในกćรüิจĆย ได้แก่ แบบทดÿĂบทĆกþąกรąบüนกćรทćง üิทยćýćÿตร์ขĆ้นบูรณćกćร (the Integrated Process Skill Tests) เป็นแบบปรนĆย จ ćนüน 36 ข้Ăซึ่ง üĆด 5 ทĆกþą ได้แก่ กćรก ćĀนดตĆüแปร กćรก ćĀนดนิยćมเชิงปฏิบĆติกćร กćรตĆ้งÿมมติฐćน กćรแปล คüćมĀมćยข้Ăมูล กćรĂĂกแบบกćรทดลĂง แลąแบบทดÿĂบแนüคิด เรื่Ăง แรง เป็นแบบปรนĆย จ ćนüน 30 ÿถิติที่ใช้ในกćรüิจĆยท ćกćรüิเครćąĀ์โดยใช้ t-test แมน-üิทนีย์ยู ข้ĂผลกćรüิจĆยพบü่ć กลุ่ม ที่ได้รĆบกćรÿĂนแบบÿืบเÿćąโดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนมีคąแนนทĆกþąกรąบüนกćรทćงüิทยćýćÿตร์ ขĆ้นบูรณćกćรÿูงขึ้นกü่ćก่ĂนเรียนĂย่ćงมีนĆยÿ ćคĆญ ซึ่งนĆกýึกþćÿร้ćงทดÿĂบ แลąปรĆบปรุงแบบจ ćลĂง ก ćĀนดตĆüแปร ตĆ้งÿมมติฐćน ก ćĀนดนิยćมเชิงปฏิบĆติกćร แลąแปลคüćมĀมćยข้Ăมูล แลąกรćฟได้ ดีกü่ćก่Ăนเรียน ÿ่üนคąแนนคüćมเข้ćใจแนüคิดทćงüิทยćýćÿตร์ขĂงนĆกเรียนก่ĂนแลąĀลĆงเรียนไม่มี คüćมแตกต่ćงกĆนĂย่ćงมีนĆยÿ ćคĆญทćงÿถิติ Mierdel and Bogner (2019) ได้ท ćกćรเปรียบเทียบโดยใช้แบบจ ćลĂง 2 รูปแบบที่มีคüćม คล้ćยคลึงกĆน คืĂ กćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง กĆบกćรดูแบบจ ćลĂง ต่Ăคüćมเข้ćใจโครงÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂง ดีเĂ็นเĂ (DNA) ซึ่งจąท ćกćรทดÿĂบนĆกเรียน 3 ÿ่üน คืĂ 1) กćรใĀ้เĀตุผลที่เกี่ยüข้ĂงกĆบแบบจ ćลĂง ทćงüิทยćýćÿตร์ที่ĀลćกĀลćยขĂงนĆกเรียน 2) คüćมเข้ćใจแบบจ ćลĂงที่เป็นแบบจ ćลĂงที่แท้จริง 3) คüćมเข้ćใจในธรรมชćติขĂงกćรเปลี่ยนแปลงขĂงแบบจ ćลĂง โดยมีกลุ่มตĆüĂย่ćงเป็นนĆกเรียนเกรด 9 จ ćนüน 293 คน üิธีกćรýึกþćขĆ้นที่ 1นĆกเรียนจąýึกþćค้นคü้ćข้Ăมูลจćกค ćถćมที่นĆกเรียนÿนใจ ขĆ้นที่ 2 แบ่งĂĂกเป็น 2 รูปแบบคืĂ 1) ÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂงดีเĂ็นเĂ แลą 2)ýึกþćแบบจ ćลĂงดีเĂ็นเĂจćก กćรดูโครงÿร้ćงดีเĂ็นเĂที่มีĂยู่แล้ü ขĆ้นที่ 3 ปรąเมินแบบจ ćลĂงขĂงตนเĂง โดยกćรใช้ค ćถćมปลćยเปิด แลąกćรชี้บĂกชื่ĂขĂงÿ่üนปรąกĂบขĂงโครงÿร้ćง ขĆ้นที่ 4 ท ćกćรเปรียบเทียบแบบจ ćลĂงกĆบข้Ăมูลใน ĀนĆงÿืĂ ผลกćรýึกþćพบü่ćนĆกเรียนมีกćรโต้แย้งจนน ćไปÿู่คüćมĀลćกĀลćยขĂงโครงÿร้ćงขĂงดีเĂ็นเĂ (ในกลุ่มที่ÿร้ćง ร้Ăยลą 36.3 แลąกลุ่มที่ดูโครงÿร้ćงดีเĂ็นเĂร้Ăยลą 41.1) แลąคüćมเข้ćใจแบบจ ćลĂง ที่แท้จริงขĂงนĆกเรียนลดลง แลąคüćมเข้ćใจธรรมชćติในกćรเปลี่ยนแปลงขĂงแบบจ ćลĂงมีกćรเพิ่มขึ้น ระเบียบüิธีüิจัย ประชากรและกลุ่มตัüอย่าง 1.1 ปรąชćกร ปรąชćกรที่ใช้ในกćรüิจĆยครĆ้งนี้ เป็นนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 โรงเรียนแĀ่งĀนึ่ง ในจĆงĀüĆดบึงกćā Ă ćเภĂพรเจริญ จĆงĀüĆดบึงกćā ปีกćรýึกþć 2566 จ ćนüน 372 คน


1.2 กลุ่มเป้ćĀมćย กลุ่มเป้ćĀมćยที่ใช้ในกćรüิจĆยครĆ้งนี้ เป็นนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4/5 โรงเรียน แĀ่งĀนึ่งในจĆงĀüĆดบึงกćā Ă ćเภĂพรเจริญ จĆงĀüĆดบึงกćā ภćคเรียนที่ 2 ปีกćรýึกþć 2566 จ ćนüน 1 Ā้Ăงเรียน จ ćนüนนĆกเรียน 40 คน ซึ่งได้มćจćกกćรÿุ่มตĆüĂย่ćงแบบเจćąจง (Purposive Sampling) แบบแผนการüิจัย กćรüิจĆยในชĆ้นเรียนครĆ้งนี้เป็นüิจĆยเชิงปฏิบĆติกćรในชĆ้นเรียน (Classroom Action research) ผู้üิจĆยน ćĀลĆกกćรแลąขĆ้นตĂนกćรüิจĆยตćมแนüคิดขĂง Kemmis and McTaggart (1988 ; ปรąÿćท เนืĂงเฉลิม, 2561) ซึ่งปรąกĂบด้üย 4 ขĆ้นตĂน คืĂ กćรüćงแผน (Plan) ขĆ้นปฏิบĆติ (Act) ขĆ้นÿĆงเกต (Observe) แลąขĆ้นÿąท้ĂนผลกćรปฏิบĆติ (Reflect) โดยรćยลąเĂียดในกćร ด ćเนินกćรüิจĆย ดĆงนี้ 1. ขĆ้นüćงแผน (Plan) 1.1 ชĆ้นüćงแผน (Plan) 1) ผู้üิจĆยได้ท ćกćรüćงแผน โดยเริ่มจćกกćรýึกþćปัญĀćที่เกิดขึ้นในĀ้Ăงเรียน ทĆ้ง จćกกćรÿĆงเกต กćรÿĂบถćมข้Ăมูลจćกครูผู้ÿĂน ÿ ćรüจĀćปัญĀćÿ ćคĆญที่ต้Ăงแก้ไข ÿืบค้นĀć ÿćเĀตุ ขĂงปัญĀć 2) ค้นĀćüิธีกćรแก้ปัญĀćโดยกćรýึกþćค้นคü้ćเĂกÿćร งćนüิจĆย ĀลĆกกćรแลąÿร้ćง แบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียนโดยนĆกเรียนที่มีคąแนนÿĂบไม่ผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 จąเป็นกลุ่มเป้ćĀมćยใน กćรüิจĆยทฤþฎีเกี่ยüกĆบกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนร่üมกĆบเทคโนโลยีเÿมืĂนจริง แลą กćร พĆฒนćทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงแลąมโนทĆýน์ขĂงนĆกเรียน เพื่Ăน ćข้Ăมูลมćüćงแผนกćรเพื่Ă ĂĂกแบบกิจกรรมกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนร่üมกĆบเทคโนโลยีเÿมืĂนจริง รüมไป ถึง รูปแบบกćรüิจĆยเชิงปฏิบĆติกćร เพื่Ăน ćมćเป็นแนüทćงในกćรด ćเนินกćรในขĆ้นต่Ăไป 3) ýึกþćแลąด ćเนินกćรÿร้ćงเครื่ĂงมืĂที่ใช้ในกćรด ćเนินกćรüิจĆย ปรąกĂบด้üย 1. เครื่ĂงมืĂที่ใช้ในกćรüิจĆย คืĂ แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้ด้üยรูปแบบกćรจĆด กิจกรรมกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน จ ćนüน 4 แผน 2. เครื่ĂงมืĂที่ใช้ในกćรÿąท้ĂนผลกćรüิจĆย ได้แก่ แบบÿąท้ĂนกćรจĆดกćร เรียนรู้ 3. เครื่ĂงมืĂในกćรปรąเมินผลกćรüิจĆย ได้แก่ แบบแบบปรąเมินทĆกþąกćร ÿร้ćงแบบจ ćลĂง แบบทดÿĂบĂĆตนĆย เรื่ĂงโครโมโซมแลąÿćรพĆนธุกรรม 2. ขĆ้นปฏิบĆติกćร (Act) ในขĆ้นนี้ผู้üิจĆยได้ลงมืĂปฏิบĆติตćมแผนที่üćงไü้ในขĆ้นที่ 1 โดยน ćแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้ ที่ ÿร้ćงขึ้นจ ćนüน 4 แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้ที่ได้พĆฒนćแล้üในขĆ้นที่ 1 มćด ćเนินกćรจĆดกิจกรรมกćร เรียนรู้จริงในĀ้ĂงเรียนกĆบนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 ซึ่งเป็นนĆกเรียนกลุ่มเป้ćĀมćย จ ćนüน 40 คน ในเüลćเรียนปกติ ÿĆปดćĀ์ลą 2 ชĆ่üโมง โดยแบ่งกćรจĆดกิจกรรมกćรเรียนรู้เป็น 6 ขĆ้นตĂน ดĆงนี้


ขĆ้นที่ 1 ÿร้ćงแบบจ ćลĂงทćงคüćมคิด ขĆ้นที่ 2 ปรąเมินแลąทบทüนคüćมคิด ขĆ้นที่ 3 ÿร้ćงแบบจ ćลĂง ขĆ้นที่ 4 กćรใช้ แลąปรąเมินแบบจ ćลĂง ขĆ้นที่ 5 ปรĆบปรุงแก้ไขแบบจ ćลĂง ขĆ้นที่ 6 ขĆ้นขยćยแบบจ ćลĂง 3. ชĆ้นÿĆงเกต (Observe) ÿĆงเกตกรąบüนกćรในขĆ้นตĂนที่ 2 โดยใช้เครื่ĂงมืĂที่ผู้üิจĆยได้เตรียมไü้ เพื่ĂÿĆงเกตกćรเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทĆ้งผู้üิจĆยแลąนĆกเรียนขĂงแต่ลąแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้ในแต่ลą üงจร ในด้ćน กรąบüนกćรปฏิบĆติ ผลขĂงกćรüิจĆยแลąÿภćพแüดล้ĂมตลĂดจนข้Ăจ ćกĆดขĂงกćรüิจĆย ซึ่งจąÿĆงเกตทĆ้งปัญĀćแลąĀćแนüทćงกćรแก้ไข 4. ขĆ้นÿąท้Ăนผล (Reflect) ผู้üิจĆยน ćข้Ăมูลที่รüบรüมมćได้จćกชĆ้นที่ 3 มćüิเครćąĀ์ตรüจÿĂบ แลąปรąเมิน เพื่ĂĀć ปัญĀć ข้Ăจ ćกĆด แลąจุดที่ต้ĂงพĆฒนćปรĆบปรุง แลąน ćไปปรĆบปรุงในกćรüćงแผน พĆฒนćกิจกรรมในüงจรปฏิบĆติกćรต่Ăไป เครื่องมือที่ใช้ในการüิจัย 3.1 แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน รćยüิชćชีüüิทยć 2 ชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 จ ćนüน 4 แผน เüลć 8 ชĆ่üโมง 3.2 แบบทดÿĂบüĆดทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง เรื่Ăง โครโมโซมแลąÿćรพĆนธุกรรม 3.3 แบบปรąเมินทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง เรื่Ăง โครโมโซมแลąÿćรพĆนธุกรรม การเก็บรüบรüมข้อมูล กćรüิจĆยนี้เป็นรูปแบบกćรüิจĆยเชิงปฏิบĆติกćร (Action Research) ผู้üิจĆยได้ด ćเนินกćรüิจĆย ตćมแนüคิดขĂง Kemmis and McTaggart (1988 ; ปรąÿćท เนืĂงเฉลิม, 2561) ซึ่งปรąกĂบด้üย 4 ขĆ้นตĂน คืĂ กćรüćงแผน (Plan) ขĆ้นปฏิบĆติ (Act) ขĆ้นÿĆงเกต (Observe) แลąขĆ้นÿąท้ĂนผลกćรปฏิบĆติ (Reflect) โดยรćยลąเĂียดในกćรด ćเนินกćรüิจĆย ดĆงนี้ 1. กćรด ćเนินกćรในüงจรปฏิบĆติกćรที่ 1 1.1 ขĆ้นüćงแผน (Plan) 1) ĀลĆงจćกÿ ćรüจÿภćพปัญĀćขĂงนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 โรงเรียน แĀ่งĀนึ่งในĂ ćเภĂพรเจริญ จĆงĀüĆดบึงกćāที่ก ćลĆงýึกþćในภćคเรียนที่ 1 ปีกćรýึกþć 2566 โดยกćร ÿĆงเกตในขณąจĆดกิจกรรมกćรเรียนรู้แลąÿĆมภćþณ์ครูผู้ÿĂนแล้üพบü่ć นĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4/5 ยĆงขćดทĆกþąขĂงคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงแลąผู้üิจĆยได้ท ćกćรทดÿĂบคüćมÿćมćรถ ในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียนโดยนĆกเรียนที่มีคąแนนÿĂบไม่ผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 จąเป็น กลุ่มเป้ćĀมćยในกćรüิจĆย 2) ýึกþćแนüคิด ทฤþฎี กćรจĆดกćรเรียนรู้เพื่Ăที่จąน ćมćแก้ปัญĀć ซึ่ง ผู้üิจĆยได้เลืĂกกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนเรื่Ăง โครโมโซมแลąÿćรพĆนธุกรรม แล้üท ć


กćรÿร้ćงแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้üิชćชีüüิทยćที่จąพĆฒนćคüćมÿćมćรถในกćÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂง นĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 ในภćคกćรเรียนที่ 2 ปีกćรýึกþć 2566 โดยüิธีกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้ แบบจ ćลĂงเป็นฐćน 3) ýึกþćแนüคิด ทฤþฎี ที่เกี่ยüข้ĂงกĆบทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง แลąท ć กćรÿร้ćงแบบทดÿĂบüĆดทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง 1.2 ขĆ้นปฏิบĆติ (Act) น ćแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน ที่พĆฒนćแล้üน ćไปใช้ กĆบนĆกเรียนกลุ่มเป้ćĀมćย โดยแผนที่ÿร้ćงในüงจรปฏิบĆติกćรที่ 1 ได้แก่ แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้ที่ 1 โครโมโซม 1.3 ขĆ้นÿĆงเกต (Observe) น ćเครื่ĂงมืĂüิจĆย ได้แก่ แบบüĆดทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงไปปรąเมินกĆบ กลุ่มเป้ćĀมćย เพื่ĂทดÿĂบü่ćกćรจĆดกćรเรียนรู้เป็นไปตćมเกณฑ์ที่ก ćĀนดไü้ĀรืĂไม่ แลąท ć แบบทดÿĂบคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงĀลĆงกćรจĆดกćรเรียนรู้จ ćนüน 1 ข้Ă 1.4 ขĆ้นÿąท้ĂนผลกćรปฏิบĆติ (Reflect) 1. ผู้üิจĆยปรąเมินผลกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนจćกกćร üิเครćąĀ์ แบบทดÿĂบทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงĀลĆงจćกÿิ้นÿุดüงจรปฏิบĆติกćรแต่ลąüงจร เพื่Ăน ć ข้Ăมูลที่ได้มćĂĂกแบบกćรจĆดกćรเรียนรู้ในüงจรปฏิบĆติกćรต่Ăไป 2. กćรด ćเนินกćรในüงจรปฏิบĆติกćรที่ 2 2.1 ขĆ้นüćงแผน (Plan) ĀลĆงจćกกćรÿąท้ĂนผลในüงจรปฏิบĆติที่ 1 แล้üน ćมćปรĆบปรุงแผนกćร จĆดกćรเรียนรู้ 2.2 ขĆ้นปฏิบĆติ (Act) น ćแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน ที่พĆฒนćแล้üน ćไปใช้ กĆบนĆกเรียนกลุ่มเป้ćĀมćย โดยแผนที่ÿร้ćงในüงจรปฏิบĆติกćรที่ 2 ได้แก่ แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้ที่ 2 ÿćรพĆนธุกรรม แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้ที่ 3 ÿมบĆติขĂงÿćรพĆนธุกรรม 2.3 ขĆ้นÿĆงเกต (Observe) น ćเครื่ĂงมืĂüิจĆย ได้แก่ üĆดทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงไปปรąเมินกĆบ กลุ่มเป้ćĀมćยในขณąที่มีกćรจĆดกิจกรรมกćรเรียนกćรÿĂน เพื่ĂทดÿĂบü่ćกćรจĆดกćรเรียนรู้เป็นไป ตćมเกณฑ์ที่ก ćĀนดไü้ĀรืĂไม่ 2.4 ขĆ้นÿąท้ĂนผลกćรปฏิบĆติ (Reflect)


ผู้üิจĆยปรąเมินผลกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนจćกกćร üิเครćąĀ์ แบบทดÿĂบคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง ĀลĆงจćกÿิ้นÿุดüงจรปฏิบĆติกćรแต่ลą üงจร เพื่Ăน ćข้Ăมูลที่ได้ มćĂĂกแบบกćรจĆดกćรเรียนรู้ในüงจรปฏิบĆติกćรต่ĂไปใĀ้มีคุณภćพยิ่งขึ้น 3. กćรด ćเนินกćรในüงจรปฏิบĆติกćรที่ 3 3.1 ขĆ้นüćงแผน (Plan) ĀลĆงจćกกćรÿąท้ĂนผลในüงจรปฏิบĆติที่ 2 แล้üน ćมćปรĆบปรุงแผนกćร จĆดกćรเรียนรู้ 3.2 ขĆ้นปฏิบĆติ (Act) น ćแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน ที่พĆฒนćแล้üน ćไปใช้ กĆบนĆกเรียนกลุ่มเป้ćĀมćย โดยแผนที่ÿร้ćงในüงจรปฏิบĆติกćรที่ 3 ได้แก่ แผนกćรจĆดกćรเรียนรู้ที่ 4 มิüเทชĆน 3.3 ขĆ้นÿĆงเกต (Observe) น ćเครื่ĂงมืĂüิจĆย ได้แก่ แบบüĆดทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงไปปรąเมินกĆบ กลุ่มเป้ćĀมćยในขณąที่มีกćรจĆดกิจกรรมกćรเรียนกćรÿĂน เพื่ĂทดÿĂบü่ćกćรจĆดกćรเรียนรู้เป็นไป ตćมเกณฑ์ที่ก ćĀนดไü้ĀรืĂไม่ 3.4 ขĆ้นÿąท้ĂนผลกćรปฏิบĆติ (Reflect) ผู้üิจĆยปรąเมินผลกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนจćกกćร üิเครćąĀ์แบบ แบบทดÿĂบüĆดทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงĀลĆงจćกÿิ้นÿุดüงจรปฏิบĆติกćรแต่ลąüงจร การüิเคราะĀ์ข้อมูล üĆดทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง คąแนนแบบüĆดทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียนที่ น ćมćพิจćรณćü่ćนĆกเรียนผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 โดยน ćเĂćคąแนนจćกแบบทดÿĂบüĆดทĆกþąกćรÿร้ćง แบบจ ćลĂง คิดเป็นร้ĂยลąขĂงคąแนนเต็ม น ćคąแนน มćคิดคąแนนเป็นร้Ăยลą ค่ćเฉลี่ย แลąÿ่üน เบี่ยงเบนมćตรฐćน แล้üน ćคąแนนทĆ้งÿĂงมćเปรียบเทียบโดยใช้ÿถิติ One Sample t-test ผลการüิจัย/ÿรุปผลการüิจัย üĆดทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง คąแนนแบบüĆดทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียนที่ น ćมćพิจćรณćü่ćนĆกเรียนผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 โดยน ćเĂćคąแนนจćกแบบทดÿĂบüĆดทĆกþąกćรÿร้ćง แบบจ ćลĂง คิดเป็นร้ĂยลąขĂงคąแนนเต็ม น ćคąแนน มćคิดคąแนนเป็นร้Ăยลą ค่ćเฉลี่ย แลąÿ่üน เบี่ยงเบนมćตรฐćน แล้üน ćคąแนนทĆ้งÿĂงมćเปรียบเทียบโดยใช้ÿถิติ One Sample t-test ผลกćรüิเครćąĀ์ข้ĂมูลกćรเปรียบเทียบผลจĆดกćรเรียนรู้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน Model Based Learning เรื่Ăง โครโมโซมแลąÿćรพĆนธุกรรม เพื่Ăÿ่งเÿริมทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง รćยüิชć ชีüüิทยć 2 กลุ่มÿćรąกćรเรียนรู้üิทยćýćÿตร์แลąเทคโนโลยีชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 เทียบกĆบเกณฑ์


ร้Ăยลą 70 พบü่ćนĆกเรียนมีคąแนนเฉลี่ยĀลĆงเรียน เท่ćกĆบ 25.56 คิดเป็นร้Ăยลą 79.88 ซึ่งไม่น้Ăย กü่ćเกณฑ์ร้Ăยลą 70 เป็นไปตćมÿมมติฐćนที่ก ćĀนดไü้ โดยมีทĆกþąกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงĀลĆงเรียนÿูง กü่ćเกณฑ์ร้Ăยลą 70 อภิปรายผลการüิจัย กćรพĆฒนćคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง ขĂงนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4 ที่ได้รĆบ กćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน มีคąแนนไม่น้Ăยกü่ćร้Ăยลą 70 ขĂงคąแนนเต็ม โดยแบ่ง ĂĂกเป็น 3 üงจรปฏิบĆติ ดĆงนี้ üงจรปฏิบĆติที่ 1 นĆกเรียนมีคąแนนคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง โดยนĆกเรียนมี คąแนนเฉลี่ย 24.04 คąแนน เมื่ĂพิจćรณćคąแนนนĆกเรียนรćยบุคคล พบü่ćมีนĆกเรียนจ ćนüน 32 คน จćก 40 คน ที่ผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 เนื่ĂงจćกกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนเป็นกćร เรียนรู้ที่Ăยู่บนพื้นฐćนขĂงทฤþฎีคĂนÿตรĆคติüิÿต์ที่ÿ่งเÿริมใĀ้นĆกเรียนมีÿ่üนร่üมแลąกรąตืĂรืĂร้นใน กćรเรียนรู้ ĀรืĂกćรที่นĆกเรียนเป็นผู้ลงมืĂในกćรปฏิบĆติ (Krause et al., 2003) แลąนĆกเรียนเรียนรู้ ผ่ćนกรąบüนกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง ซึ่งปรąกĂบไปด้üย กćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง กćรใช้แบบจ ćลĂง กćร ปรąเมินแบบจ ćลĂง แลąกćรปรĆบปรุงแบบจ ćลĂง ซึ่งท ćใĀ้นĆกเรียนมีกćรแÿüงĀćคüćมรู้Ăย่ćง นĆกüิทยćýćÿตร์ นĆกเรียนได้ท ćกćรÿืบค้นข้Ăมูลแล้üน ćคüćมรู้นĆ้นมćใช้ในกćรปรĆบปรุงแบบจ ćลĂงขĂง ตนเĂงแลąท ćใĀ้นĆกเรียนมีคüćมรู้คüćมเข้ćใจเกี่ยüกĆบแบบจ ćลĂงที่ตĆüเĂงÿร้ćงเพิ่มมćกยิ่งขึ้น (Schwarz et al., 2009) แลąมีนĆกเรียนจ ćนüน 8 คน ยĆงไม่ผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 แต่เมื่ĂÿĆงเกต คąแนนขĂงนĆกเรียนที่ไม่ผ่ćนเกณฑ์นĆกเรียนกลุ่มดĆงกล่ćüมีคąแนนที่เกืĂบจąผ่ćนเกณฑ์ที่ตĆ้งไü้ทĆ้งนี้ที่ นĆกเรียนไม่ผ่ćนเกณฑ์นĆ้นมีปัญĀćในกćรท ćคüćมเข้ćใจเนื้ĂĀćĂยู่บ้ćงเนื่Ăงจćกกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงมี คüćมÿĆมพĆนธ์กĆบกćรÿร้ćงมโนภćพขĂงนĆกเรียน (Martínez Solano, 2016) โดยคąแนนกรąบüนกćร ÿร้ćงแบบจ ćลĂง โดยแบ่งĂĂกเป็น 4 ด้ćน คืĂ 1) กćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง 2) กćรใช้แบบจ ćลĂง 3) กćร ปรąเมินแบบจ ćลĂง 4) กćรปรĆบปรุงแบบจ ćลĂง ซึ่งมีคąแนนในแต่ลąด้ćน คืĂ 3.71 3.43 2.71 แลą 2.29 ตćมล ćดĆบ จćกข้ĂมูลดĆงกล่ćüจąÿĆงเกตได้ü่ć ด้ćนกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงมีคąแนนเฉลี่ยมćกที่ÿุด คิดเป็นร้Ăยลą 92.75 ทĆ้งนี้Ăćจเนื่ĂงมćจćกกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน เป็นกćร จĆดกćรเรียนรู้ที่มีขĆ้นกćรÿĂนที่ÿ่งเÿริมใĀ้นĆกเรียนมีกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง โดยเริ่มจćกกćรที่นĆกเรียนได้ ýึกþćเนื้ĂĀć ข้Ăมูลที่ผู้ÿĂนใĀ้ แล้üนĆกเรียนได้เขียนแบบจ ćลĂงทćงคüćมคิดขĂงนĆกเรียนĂĂกมć ซึ่ง ขĆ้นนี้ก็เÿมืĂนกĆบที่นĆกเรียนแต่ลąคนจąได้ĂĂกแบบแบบจ ćลĂงก่Ăนที่จąได้ลงมืĂÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂง กลุ่มĂีกครĆ้ง จึงท ćใĀ้นĆกเรียนมีคąแนนกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงในüงจรปฏิบĆติที่ 1 ที่มćกที่ÿุด แต่ในทćง ตรงกĆนข้ćมคąแนนกćรปรąเมินแลąปรĆบปรุงแบบจ ćลĂงยĆงน้ĂยĂยู่ ทĆ้งนี้พบü่ćนĆกเรียนมีคüćมÿćมćรถ ในกćรปรąเมินแลąปรĆบปรุงแบบจ ćลĂงได้น้ĂยนĆ้นเนื่ĂงจćกนĆกเรียนÿĆงเกตไม่เĀ็นü่ćแบบจ ćลĂงขĂง นĆกเรียนแตกต่ćงจćกขĂงเพื่ĂนĂย่ćงไร แลąนĆกเรียนจąต้ĂงปรĆบปรุงในÿ่üนใดบ้ćงขĂงแบบจ ćลĂง โดยผู้üิจĆยท ćกćรปรĆบแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยกćรใช้ค ćถćมชี้แนąนĆกเรียนเพื่Ăที่จąใĀ้นĆกเรียน


ÿĆงเกตเĀ็นข้Ăแตกต่ćงแลąน ćไปปรĆบปรุงพĆฒนćแบบจ ćลĂงขĂงกลุ่มตนเĂงได้ เช่นเดียüกĆบณĆฐüรรณ ýิริธร แลąเĂกภูมิ จĆนทรขĆนตี (2562) ที่ใช้ค ćถćมชี้น ćนĆกเรียนซึ่งÿćมćรถท ćใĀ้นĆกเรียนÿćมćรถ พิจćรณćมุมมĂงต่ćง ๆ จนท ćใĀ้นĆกเรียนพบค ćตĂบได้ üงจรปฏิบĆติที่ 2 เมื่Ăท ćกćรแก้ปัญĀćแลąปรĆบปรุงกิจกรรมกćรเรียนกćรÿĂนโดยมีกćรใช้ ค ćถćมชี้น ćนĆกเรียน จćกกćรจĆดกćรเรียนรู้ในüงจรปฏิบĆติที่ 2 นĆกเรียนมีคąแนนคüćมÿćมćรถในกćร ÿร้ćงแบบจ ćลĂงผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 จ ćนüน 40 คน โดยมีคąแนนเฉลี่ยเท่ćกĆบ 25.2 แลąนĆกเรียนมี คąแนนกรąบüนกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงเฉลี่ยĂยู่ที่ 12.95 คิดเป็นร้Ăยลą 80.92 เพรćąนĆกเรียนĂćจจą เกิดคüćมคุ้นชินกĆบรูปแบบขĂงกćรจĆดกćรเรียนรู้จึงท ćใĀ้นĆกเรียนเกิดคüćมเข้ćใจü่ćจąต้Ăงท ćĂąไรใน แต่ลąคćบกćรเรียนซึ่งจĆดเป็นคüćมรู้เชิงกรąบüนกćรตćมแนüคิดเมตćคĂนิชĆน (Garofalo and Lester, 2014) เมื่Ăน ćคąแนนมćüิเครćąĀ์เป็นรćยด้ćนพบü่ćมีผลคąแนนเฉลี่ยในด้ćน กćรÿร้ćง แบบจ ćลĂง กćรใช้แบบจ ćลĂง กćรปรąเมินแบบจ ćลĂง แลąกćรปรĆบปรุงแบบจ ćลĂง เท่ćกĆบ 3.43 3.57 3.14 แลą 3.00 ตćมล ćดĆบ โดยจćกที่ปรĆบแผนกćรจĆดกćรเรียนรู้พบü่ćกćรปรąเมินแลąปรĆบปรุง แบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียนมีคąแนนที่เพิ่มมćกขึ้นจćกüงจรปฏิบĆติที่ 1 จćกกćรที่มีกćรใช้ค ćถćมชี้น ć นĆกเรียนที่ท ćใĀ้นĆกเรียนÿćมćรถพิจćรณćĀćค ćตĂบได้ ณĆฐüรรณ ýิริธร แลąเĂกภูมิ จĆนทรขĆนตี(2562) ทĆ้งนี้นĆกเรียนยĆงมีกćรท ćงćนเป็นกลุ่ม มีปฏิÿĆมพĆนธ์กĆนรąĀü่ćงนĆกเรียน แลąนĆกเรียนกĆบครูซึ่งท ćใĀ้เกิด ปรąÿบกćรณ์ที่เพิ่มขึ้นจนนĆกเรียนน ćไปปรĆบปรุงแบบจ ćลĂงได้ดียิ่งขึ้น ÿĂดคล้ĂงกĆบ Āนึ่งฤทĆย เกียรติ พิมล แลąคณą (2017) ที่น ćแนüคิดกćรÿร้ćงตĆüแทนคüćมคิดมćใช้ในกćรพĆฒนคüćมÿćมćรถในกćร ÿร้ćงแบบจ ćลĂง โดยพบü่ćกćรกćรมีปฏิÿĆมพĆนธ์พูดคุยแลกเปลี่ยนÿćมćรถที่พĆฒนćคüćมÿćมćรถใน กćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียนได้ ĀลĆงจćกćรจĆดกćรเรียนรู้ในüงจรปฏิบĆติที่ 2 พบü่ćนĆกเรียนมี ปัญĀćในกćรท ćคüćมเข้ćใจเนื้ĂĀćก่Ăนที่จąท ćกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง โดยÿĆงเกตจćกคąแนนกćรÿร้ćง แบบจ ćลĂงที่ลดลง ซึ่งนĆกเรียนบĂกü่ćเนื้ĂĀćมีคüćมเข้ćใจยćกแลąเนื้ĂĀćมีลĆกþณąที่เป็น กรąบüนกćรĀลćยขĆ้นตĂน üงจรปฏิบĆติที่ 3 เมื่Ăท ćกćรแก้ปัญĀćแลąปรĆบปรุงกิจกรรมกćรเรียนกćรÿĂนโดยกćรใĀ้ นĆกเรียนได้ท ćกćรýึกþćเนื้ĂĀćโดยใĀ้เพื่Ăนในกลุ่มช่üยในกćรĂธิบćย ครูท ćกćรตรüจÿĂบคüćมเข้ćใจ โดยกćรใช้ค ćถćมÿĂบถćมแลąมีกćรĂธิบćยเพิ่มเติมด้üย ก่Ăนที่นĆกเรียนจąท ćกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง ผลจćกกćรจĆดกćรเรียนรู้ในüงจรปฏิบĆติที่ 3 พบü่ćนĆกเรียนมีคąแนนคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćง แบบจ ćลĂงผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 จ ćนüน 40 คน ซึ่งมีคąแนนเฉลี่ยเท่ćกĆบ 27.43 นĆกเรียนมีคąแนน กรąบüนกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงเฉลี่ยĂยู่ที่ 13.73 เมื่Ăน ćคąแนนมćüิเครćąĀ์เป็นรćยด้ćนพบü่ćมีผล คąแนนเฉลี่ยในด้ćน กćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง กćรใช้แบบจ ćลĂง กćรปรąเมินแบบจ ćลĂง แลąกćร ปรĆบปรุงแบบจ ćลĂง เท่ćกĆบ 3.86 3.71 3.14 แลą 3.29 ตćมล ćดĆบ จćกข้ĂมูลดĆงกล่ćüจąแÿดงใĀ้ เĀ็นü่ćด้ćนกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงมีคąแนนเฉลี่ยÿูงที่ÿุด คืĂ 3.86 ซึ่งเพิ่มขึ้นจćกüงจรปฏิบĆติที่ 2 คืĂ ร้Ăยลą 3.43 เนื่Ăงจćกกćรที่เพื่Ăนในกลุ่มช่üยĂธิบćย แลąครูท ćกćรÿĂบถćมคüćมเข้ćใจ แลąĂธิบćย เพิ่มเติมก่Ăนที่จąใĀ้นĆกเรียนÿร้ćงแบบจ ćลĂง จąเĀ็นได้ü่ćมีกรąบüนกćรทćงÿĆงคมเข้ćมćเกี่ยüข้Ăงโดย


นĆกเรียนมีกćรĂธิบćยลąÿĂบถćมเพื่Ăร่üมชĆ้นเรียน ซึ่งเป็นไปตćมทฤþฎีีโซเชียลคĂนÿตรĆกติüิÿต์ (Social constructivism) กćรเรียนรู้เกิดขึ้นจćกกćรมีปฏิÿĆมพĆนธ์รąĀü่ćงบุคคล (Vygotsky, 1978) ดĆงนĆ้นÿćมćรถกล่ćüได้ü่ć กćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนÿćมćรถที่จąพĆฒนć คüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงขĂงผู้เรียนได้ พบü่ćĀลĆงจćกüงจรปฏิบĆติที่ 1 2 แลą 3 พบü่ćมี นĆกเรียนจ ćนüน 32 40 แลą 40 คน ตćมล ćดĆบ ที่ผ่ćนเกณฑ์ร้Ăยลą 70 แลąนĆกเรียนมีคąแนนเฉลี่ย ขĂงคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง 24.04 25.2 แลą 27.43 ตćมล ćดĆบ เนื่Ăงจćกกćรเรียนรู้ที่ จąÿร้ćงแบบจ ćลĂง ใช้แบบจ ćลĂง ปรąเมินแบบจ ćลĂง แลąกćรปรĆบปรุงแบบจ ćลĂง ซึ่งเป็นลĆกþณą ที่ÿ ćคĆญขĂงทฤþฎีคĂนÿตรĆคติüิÿต์ที่ÿ่งเÿริมใĀ้นĆกเรียนมีÿ่üนร่üมแลąกรąตืĂรืĂร้นในกćรเรียนรู้ ĀรืĂ กćรที่นĆกเรียนเป็นผู้ลงมืĂในกćรปฏิบĆติ (Krause et al., 2003) แลąงćนที่นĆกเรียนได้รĆบในแต่ลąคćบ เรียนผ่ćนกรąบüนกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง ซึ่งปรąกĂบไปด้üย กćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง กćรใช้แบบจ ćลĂง กćรปรąเมินแบบจ ćลĂง แลąกćรปรĆบปรุงแบบจ ćลĂง ซึ่งท ćใĀ้นĆกเรียนมีกćรแÿüงĀćคüćมรู้Ăย่ćง นĆกüิทยćýćÿตร์ นĆกเรียนได้ท ćกćรÿืบค้นข้Ăมูลแล้üน ćคüćมรู้นĆ้นมćใช้ในกćรปรĆบปรุงแบบจ ćลĂงขĂง ตนเĂงแลąท ćใĀ้นĆกเรียนมีคüćมรู้คüćมเข้ćใจเกี่ยüกĆบแบบจ ćลĂงที่ตĆüเĂงÿร้ćงเพิ่มมćกยิ่งขึ้น (Schwarz et al., 2009) เมื่ĂนĆกเรียนมีคüćมรู้คüćมเข้ćใจเกี่ยüกĆบแบบจ ćลĂงขĂงตนมćกยิ่งขึ้น นĆกเรียนจąÿćมćรถใช้แบบจ ćลĂงนĆ้นÿร้ćงคüćมเข้ćใจ แลąใช้ในกćรÿื่Ăÿćรคüćมรู้ได้ (Harrison and Treagust, 2000) แลąมีงćนüิจĆยขĂง Āนึ่งฤทĆย เกียรติพิมล แลąพรเทพ จĆนทรćĂุกฤþฎ์ (2017) ที่ได้ ท ćกćรจĆดกćรเรียนรู้ตćมแนüคิดกćรÿร้ćงตĆüแทนคüćมคิดเพื่Ăÿ่งเÿริมคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćง แบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียนมีคüćมÿćมćรถในด้ćนกćรปรąเมินแลąปรĆบปรุงเพิ่มขึ้น เนื่ĂงจćกนĆกเรียนมี กćรĂภิปรćยแลąÿĂบÿĂบถćมข้Ăดี แลąข้ĂเÿียขĂงแบบจ ćลĂงที่ได้น ćเÿนĂ ปัญĀćที่พบÿ่üนใĀญ่เป็น กćรท ćคüćมเข้ćในเนื้ĂĀćที่จąÿร้ćงแบบจ ćลĂงทĆ้งนี้Ăćจเนื่Ăงมćจćกกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงต้ĂงĂćýĆย กรąบüนกćรแปลคüćมĀมćยขĂงข้Ăมูล Āćกปรćกฏกćรณ์ĀรืĂเนื้ĂĀćมีคüćมยćกต่Ăกćรเข้ćใจก็จą ÿ่งผลใĀ้กćรแปลคüćมĀมćยไปเป็นแบบจ ćลĂงได้ยćกมćก Sins et al., (2009) ข้อเÿนอแนะ 1. ครูผู้ÿĂนคüรเลืĂกเนื้ĂĀćใĀ้มีคüćมเĀมćąÿมในกćรÿĂนโดยที่เนื้ĂĀćที่ใช้ÿĂนในคćบกćร เรียนนĆ้นจąต้Ăงไม่มćกจนเกินไปเนื่ĂงจćกกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนค่Ăนข้ćงใช้ รąยąเüลćในกćรจĆดกćรเรียนรู้มćกกü่ćกćรเรียนรู้แบบทĆ่üไป เนื่Ăงจćกมีกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂง 2. ในรąĀü่ćงกćรจĆดกćรเรียนกćรÿĂนครูผู้ÿĂนคüรก ćĀนดรąยąเüลćขĂงกćรท ćกิจกรรมใĀ้ ชĆดเจน เพื่Ăที่จąใĀ้นĆกเรียนทุกคนได้ด ćเนินกิจกรรมไปพร้ĂมกĆน


รายการอ้างอิง ชนćธิป โĀตรภüćนนท์, ÿุรีย์พร ÿü่ćงเมฆ แลąüĆนดี üĆฒนชĆยยิ่งเจริญ. (2562). การพัฒนาการ คิดอย่างเป็นระบบÿ าĀรับนักเรียนชั้นมัธยมýึกþาปีที่ 4 เรื่อง ระบบประÿาทและอüัยüะรับ คüามรู้ÿึก โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบจ าลองเป็นฐาน. üćรÿćรýึกþćýćÿตร์ มĀćüิทยćลĆยนเรýüร , 21(2), 64–79. ธณĆฏฐć คงทน, บุญนćค ÿุขุมเมฆ แลąชćตรี ฝ่ćยค ćตć. (2559). กćรพĆฒนćแนüคิดเรื่Ăง เคมี Ăินทรีย์ขĂงนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 5 โดยĂćýĆยกćรจĆดกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน. üารÿารĀน่üยüิจัยüิทยาýาÿตร์ เทคโนโลยี และÿิ่งแüดล้อม, 7(1), 62-76. ณĆชธฤต เกื้Ăธćน. (2557). การพัฒนาตัüแทนคüามคิด เรื่อง พันธะเคมี ของนักเรียนชั้น มัธยมýึกþาปีที่ 4 ด้üยการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจ าลองเป็นฐาน. มĀćüิทยćลĆยเกþตรýćÿตร์. นิภćภรณ์ จĆนทąโย แลąÿุüĆตร นćนĆนท์. (2558). การพัฒนาüิถีทางมโนมติüิทยาýาÿตร์และ การÿร้างแบบจ าลองทางüิทยาýาÿตร์ด้üยการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจ าลองเป็นฐาน เรื่อง ของแข็ง ของเĀลü และแก๊ÿ ของนักเรียนชั้นมัธยมýึกþาปีที่ 4 (Āน้ć. 1977–1985). บุญชม ýรีÿąĂćด. (2552). พื้นฐานการüิจัยการýึกþา. กćāÿินธุ์: ปรąÿćนกćรพิมพ์. ภรทิพย์ ÿุภĆทรชĆยüงý์, ชćตรี ฝ่ćยค ćตć แลąพจนćรถ ÿุüรรณรุจี. (2558). กćรจĆดกćรเรียนรู้ โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćนเพื่ĂพĆฒนćแบบจ ćลĂงทćงคüćมคิดเรื่Ăง โครงÿร้ćงĂąตĂมแลąคüćมเข้ćใจ ธรรมชćติขĂงแบบจ ćลĂงขĂงนĆกเรียนชĆ้นมĆธยมýึกþćปีที่ 4. üารÿารนüัตกรรมการเรียนรู้, 1(1), 97– 124. ÿถćบĆนÿ่งเÿริมกćรÿĂนüิทยćýćÿตร์แลąเทคโนโลยี. (2561). คู่มือการใช้Āลักÿูตรรายüิชา พื้นฐานüิทยาýาÿตร์ ระดับมัธยมýึกþาตอนปลาย กลุ่มÿาระการเรียนรู้üิทยาýาÿตร์ (ฉบับ ปรับปรุง พ.ý. 2560) ตามĀลักÿูตรแกนกลางการýึกþาขั้นพื้นฐาน พุทธýักราช 2551. ÿ ćนĆกงćนคณąกรรมกćรกćรýึกþćแĀ่งชćติ. (2545). แนüทางการüัดผลประเมินผลในชั้น เรียน กลุ่มÿาระüิทยาýาÿตร์ Āลักÿูตรการýึกþาขั้นพื้นฐาน พุทธýักราช 2544. กรุงเทพมĀćนคร: โรงพิมพ์Ăงค์กćรรĆบÿ่งÿินค้ćแลąพĆÿดุภĆณฑ์ (ร.ÿ.พ.). ÿ ćนĆกüิชćกćรแลąมćตรฐćนกćรýึกþć. (2552). ตัüชี้üัดและÿาระการเรียนรู้üิทยาýาÿตร์ ตามĀลักÿูตรแกนกลางการýึกþาขั้นพื้นฐาน พุทธýักราช 2551. กรุงเทพมĀćนคร: โรงพิมพ์ชุมนุม ÿĀกรณ์กćรเกþตรแĀ่งปรąเทýไทย จ ćกĆด. ÿ ćนĆกüิชćกćรแลąมćตรฐćนกćรýึกþćแลąÿ ćนĆกงćนคณąกรรมกćรกćรýึกþćขĆ้นพื้นฐćน. (2551). ตัüชี้üัดและÿาระการเรียนรู้แกนกลา กลุ่มÿาระการเรียนรู้üิทยาýาÿตร์ ตามĀลักÿูตร แกนกลางการýึกþาขั้นพื้นฐาน พุทธýักราช 2551. กรุงเทพĄ : กรąทรüงýึกþćธิกćร. Ăćรยć คüĆฒน์กุล, จĆนทร์พร พรĀมมćý แลąภĆทรภร ชĆยปรąเÿริฐ. (2558). ผลกćรจĆดกćร เรียนรู้üิชćเคมี เรื่Ăง ÿćรชีüโมเลกุล ด้üยกćรเรียนรู้โดยใช้แบบจ ćลĂงเป็นฐćน เพื่ĂพĆฒนćมโนทĆýน์


ทćงüิทยćýćÿตร์แลąคüćมÿćมćรถในกćรÿร้ćงแบบจ ćลĂงทćงüิทยćýćÿตร์ ÿ ćĀรĆบนĆกเรียนชĆ้น มĆธยมýึกþćปีที่ 6. üารÿารýึกþาýาÿตร์, 26(2), 42–55. American Association for the Advancement of Science (AAAS). (1990). Science for AllAmericans: Project 2061. Baek, H., Schwarz, C., Chen, J., Hokayem, H. and Zhan, L. (2010). Engaging Elementary Students in Scientific Modeling. Dordrecht: Springer. Bamberger, Y. M. and Davis, E. A. (2013). Middle-School Science Students’ Scientific Modelling Performances Across Content Areas and Within a Learning Progression. International journal of science education, 35(2), 213–238. Bell, P. H. (1995). How far does light do? Individual and collaborative sensemaking ofscientific evidence. In the Annual Conference of the American Educational Research Association. San Francisco, CA. Bryce, C., Baliga, V. B., de Nesnera, K., Fiack, D., Goetz, K., Tarjan, L. M., … Gilbert, G. S. (2016). Models in the NGSS biology classroom. American biology teacher, 78(1), 35–42. Buckley, B. C., Gobert, J. D., Kindfield, A. C. H., Horwitz, P., Tinker, R. F., Gerlits, B., … Willett, J. (2004). Model-Based Teaching and Learning with BioLogicaTM: What Do They Learn? How Do They Learn? How Do We Know?. Journal of science education and technology, 13(1), 23–41. Chang, S. (2008). The learning effect of modeling ability instruction. Asiapacific forum on science learning and teaching, 9(2), 1–22. Chiu, M. H., Chou, C.-C., and Liu, C.-J. (2002). Dynamic processes of conceptual change: Analysis of constructing mental models of chemical equilibrium. Journal of Research in Science Teaching. 39(8), 688-712. Clément, P. (2007). Introducing the cell concept with both animal and plant cells: A historical and didactic approach. Science and education, 16(3–5), 423–440. Gobert, J. D. and Buckley, B. C. (2000). Introduction to model-based teachinglearning. International journal of science education, 22(9), 891–894. Grosslight, L., Unger, C., Jay, E. and Smith, C. L. (1991). Understanding models and their use in science: Conceptions of middle and high school students and experts. Journal of research in science teaching, 28(9), 799–822.


Harrison, A. G. and Treagust, D. F. (2000). Learning about atoms, molecules, and chemical bonds: A case study of multiple-model use in grade 11 chemistry. Science education, 84(3), 352–381. Hung, J. F. and Lin, J. C. (2009). The Development of the Simulation Modeling System and Modeling Ability Evaluation. International journal of U- & E-service, science & technology, 2(4), 1–16. Jackson, V. (2001). The Multidimensional Assessment of Student Performance in Middle School Science. Assessment in science, 181–196. Jong, J. P., Chiu, M. H. and Chung, S. L. (2015). The Use of Modeling-Based Text to Improve Students’ Modeling Competencies. Science education, 99(5), 986– 1018. Ladachart, L. and Ladachart, L. (2017). Science Teachers ’ Perspectives on and Understandings about Scientific Models. Journal of community development research (humanities and social science), 10(3), 149–162. Lantz, H. B. (2004). Rubrics for assessing student achievement in science, grades K-12. Maryland: Corwin Press. Martínez Solano, J. F. (2016). Wenceslao J. Gonzalez : Bas van Fraassen’s approach to representation and models in science. Journal for general philosophy of science, 47(1), 261–264. Mierdel, J. and Bogner, F. X. (2019). Comparing the Use of Two Different Model Approaches on Students’ Understanding of DNA Models. Education sciences, (9)2, 1-18. National Research Council. (2011). Appendix F- science and engineering practices in the NGSS. In Next Generation Science Standarda. Nicolaou, C. T. and Constantinou, C. P. (2014). Assessment of the modeling competence: A systematic review and synthesis of empirical research. Educational research review, 13, 52–73. Ogan-Bekiroğlu, F. and Arslan, A. (2014). Examination of the Effects of ModelbasedInquiry on Students’ Outcomes: Scientific Process Skills and ConceptualKnowledge. Procedia - social and behavioral sciences, 141, 1187–1191. Schweingruber, H. A., Keller, T. E. and Quinn, H. R. (2012). A Framework for K12 Science Education: Practices, Crosscutting Concepts, and Core Ideas K-12. Washington: The National Academies Press.


Schwarz, C. V., Reiser, B. J., Davis, E. A., Kenyon, L., Achér, A., Fortus, D., … Krajcik, J. (2009). Developing a learning progression for scientific modeling: Making scientific modeling accessible and meaningful for learners. Journal of research in science teaching, (46)6, 632-654.


Click to View FlipBook Version