ก
คำนำ
การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้นับเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ครูผู้สอนได้มีการเตรียมการสอน
ลว่ งหนา้ ก่อนทจี่ ะทำการสอนจรงิ โดยมีการเตรียมเน้อื หาเตรยี มกจิ กรรม เตรยี มสือ่ การเรยี นการสอน
รวมทั้งวิธีการวัดผลประเมินผลซึ่งการเตรียมการสอนจะช่วยให้ครูผู้สอนมีความพร้อมที่จะสอนให้
ผ้เู รียนบรรลตุ ามจดุ มงุ่ หมายของหลกั สูตร
การจัดทำแผนการจดั การเรียนรู้ฉบบั น้ี ผู้จดั ทำไดศ้ กึ ษาคน้ คว้าหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา
ขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560) เอกสารอ่ืนๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง วิเคราะห์
หลักสูตร จัดทำกำหนดการสอน โครงสร้างรายวิชา และหารูปแบบการทำแผนการจดั การเรียนรู้โดย
เน้นให้ผ้เู รียนได้เรยี นผ่านกระบวนการคิดด้วยตนเอง โดยคำนงึ ถงึ สภาพแวดล้อมของผู้เรยี น โรงเรียน
และชุมชนเปน็ หลกั
แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ เป็นแผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 รูปเรขาคณิต เพื่อพัฒนาความเข้าใจเกีย่ วกบั สัญลกั ษณ์
และการดำเนินการต่อวิชาคณิตศาสตร์ โดยเน้นขั้นตอนหรือวิธีการทางคณิตศาสตร์ จัดทำไว้เพ่ือ
สะดวกต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทุกปีการศึกษา ผู้ที่จะ
นำไปใช้ควรอา่ นคำช้แี จงการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ให้เข้าใจก่อนนำไปใชจ้ รงิ
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้จะช่วยให้การเรียนการสอน
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ดำเนินไปด้วยดี และทำให้ผู้เรียนมีความรู้
ความสามารถ มที กั ษะกระบวนการและมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ตรงตามจุดมุง่ หมายของหลักสูตร
ตอ่ ไป
นางสาวพรรกั ษา เมืองน้อย
สารบัญ ข
เรื่อง หน้า
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 1
ตวั ชี้วดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง 2
คำอธบิ ายรายวชิ า 7
โครงสร้างเวลาเรียน 9
โครงสรา้ งรายวิชา 10
กำหนดแผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 รูปเรขาคณติ 11
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1 12
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 2 17
1
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณติ
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และการ
นำไปใช้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำดับและอนุกรม และ
นำไปใช้
มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสัมพันธ์หรือช่วยแก้ปัญหาท่ี
กำหนดให้
สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณติ
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการวัดและ
นำไปใช้
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่าง
รูปเรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้
สาระที่ 3 สถิตแิ ละความนา่ จะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามร้ทู างสถิติในการแก้ปญั หา
มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลักการนับเบ้ืองตน้ ความนา่ จะเป็น และนำไปใช้
2
ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นร้แู กนกลาง
สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณติ
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และการ
นำไปใช้
ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป. 3 จำนวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0
1. อา่ นและเขยี น ตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ - การอ่าน การเขียนตวั เลขฮินดอู ารบกิ
ตวั เลขไทย และตวั หนงั สอื แสดง ตวั เลขไทย และตวั หนังสอื แสดงจำนวน
จำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 และ 0 - หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลักและ
2. เปรยี บเทยี บและเรียงลำดบั จำนวนนบั การเขยี นตัวเลขแสดงจำนวนในรปู
ไมเ่ กิน 100,000 จากสถานการณต์ ่างๆ กระจาย
- การเปรียบเทยี บและเรียงลำดับจำนวน
เศษสว่ น
3. บอก อ่าน และเขยี นเศษสว่ นแสดง - เศษสว่ นท่มี ตี วั เศษนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กับ
ปรมิ าณสิ่งตา่ งๆ และแสดงสงิ่ ต่างๆ ตวั ส่วน
ตามเศษส่วนทก่ี ำหนด - การเปรียบเทียบและเรียงลำดับ
4. เปรียบเทียบเศษสว่ นทีต่ ัวเศษเท่ากัน เศษสว่ น
โดยทต่ี ัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากบั ตวั
สว่ น
การบวก การลบ การคูณ การหารจำนวน
5. หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยค นับไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
สัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยค - การบวกและการลบ
สญั ลักษณ์แสดงการลบของจำนวนไม่ - การคูณ การหารยาวและการหารสน้ั
เกิน 100,000 และ 0 - การบวก ลบ คณู หารระคน
6. หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยค - การแก้โจทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์
สญั ลกั ษณ์ แสดงการคณู ของจำนวน 1 ปัญหา พรอ้ มทง้ั หาคำตอบ
3
หลกั กับจำนวนไม่เกนิ 4 หลัก และ
จำนวน 2 หลักกบั จำนวน 2 หลัก
7. หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยค
สญั ลักษณ์ แสดงการหารท่ีตวั ตง้ั ไมเ่ กิน
4 หลัก ตัวหาร 1 หลัก
ชน้ั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ป. 3 8. หาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน
ของจำนวนนบั ไม่เกนิ 100,000 และ 0
9. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา 2
ขัน้ ตอน ของจำนวนนับไมเ่ กนิ
100,000 และ 0
การบวก การลบเศษส่วน
10. หาผลบวกของเศษส่วนท่ีมตี ัวสว่ น - การบวกและการลบเศษสว่ น
เท่ากนั และผลบวกไมเ่ กนิ 1 และหาผล - การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์
ลบของเศษส่วนทม่ี ตี วั ส่วนเทา่ กนั ปัญหาการลบเศษส่วน
11. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการ
บวกเศษส่วนทม่ี ีตวั ส่วนเทา่ กันและ
ผลบวกไมเ่ กิน 1 และโจทย์ปญั หาการ
ลบเศษสว่ นที่มตี ัวสว่ นเท่ากัน
สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ
มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหแ์ บบรูป ความสมั พันธ์ ฟังก์ชัน ลำดับและอนุกรม และ
นำไปใช้
ชั้น ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป. 3 แบบรปู
- แบบรูปของจำนวนที่เพิม่ ขน้ึ หรอื ลดลง
1. ระบจุ ำนวนท่ีหายไปในแบบรปู ของ
จำนวนท่เี พิม่ ขึน้ หรอื ลดลงทลี ะเท่าๆ ทีละเทา่ ๆ กัน
กนั
4
สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณิต
มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสมั พันธ์หรือช่วยแกป้ ญั หาที่
กำหนดให้
ช้ัน ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป. 3 - -
สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพืน้ ฐานเกีย่ วกบั การวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ท่ตี อ้ งการวัดและ
นำไปใช้
ช้นั ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป. 3 เงิน
- การบอกจำนวนเงนิ และเขยี นแสดง
1. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา
เกี่ยวกับเงิน จำนวนเงิน แบบใชจ้ ุด
- การเปรยี บเทยี บจำนวนเงนิ และการ
2. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา
เกยี่ วกบั เวลา และระยะเวลา แลกเงิน
- การอ่านและเขยี นบนั ทกึ รายรบั
รายจ่าย
- การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกี่ยวกับเงิน
เวลา
- การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที
- การเขียนบอกเวลาโดยใชม้ หพั ภาค (.)
หรอื ทวิภาค (:) และการอ่าน
- การบอกระยะเวลาเป็นชว่ั โมงและนาที
- การเปรียบเทยี บระยะเวลาโดยใช้
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างชวั่ โมงกับนาที
5
3. เลอื กใช้เครอ่ื งมอื วัดความยาวท่ี - การอา่ นและการเขยี นบนั ทกึ กจิ กรรมที่
เหมาะสมวัดและบอกความยาวของสง่ิ ระบเุ วลา
ตา่ งๆ เป็นเซนตเิ มตรและมลิ ลิเมตร
เมตรและเซนติเมตร - การแก้โจทยป์ ญั หาเก่ียวกับเวลาและ
ระยะเวลา
4. คาดคะเนความยาวเปน็ เมตรและเปน็
เซนตเิ มตร ความยาว
- การวัดความยาวเปน็ เซนตเิ มตรและ
5. เปรียบเทียบความยาวระหว่าง
เซนติเมตรกบั มิลลิเมตร เมตรกบั มลิ ลิเมตร เมตรและเซนตเิ มตร
เซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตร จาก กิโลเมตรและเมตร
สถานการณต์ ่างๆ - การเลือกเครอ่ื งมอื วดั ความยาวที่
เหมาะสม
- การคาดคะเนความยาวเปน็ เมตรและ
เป็นเซนตเิ มตร
- การเปรยี บเทยี บความยาวโดยใช้
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งหนว่ ยความยาว
- การแก้โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกับความยาว
ชนั้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ป. 3 6. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา
เกย่ี วกบั ความยาวทมี่ ีหน่วยเปน็
เซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและ
เซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร
นำ้ หนกั
7. เลอื กใช้เครื่องชัง่ ท่ีเหมาะสม วัดและ - การเลือกเคร่อื งชั่งที่เหมาะสม
บอกนำ้ หนักเป็นกโิ ลกรัมและขดี - การคาดคะเนนำ้ หนักเปน็ กิโลกรมั และ
กิโลกรมั และกรัม เป็นขีด
8. คาดคะเนน้ำหนักเป็นกโิ ลกรมั และเปน็ - การเปรียบเทียบน้ำหนักโดยใช้
ขีด ความสัมพนั ธ์ระหว่างกโิ ลกรมั กับกรัม
9. เปรยี บเทียบน้ำหนกั ระหว่างกิโลกรมั เมตริกตนั กบั กโิ ลกรัม
และกรมั เมตรกิ ตนั กบั กิโลกรมั จาก - การแก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับนำ้ หนัก
สถานการณ์ต่างๆ
6
10. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา นำ้ หนกั
เกี่ยวกับนำ้ หนกั ทมี่ หี นว่ ยเปน็ กโิ ลกรมั - การวดั ปรมิ าตรและความจุเป็นลติ ร
กับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม
และมิลลิลติ ร
11. เลอื กใช้เครอ่ื งตวงที่เหมาะสม วัดและ - การเลอื กเคร่ืองตวงทเ่ี หมาะสม
เปรยี บเทียบปรมิ าตร ความจุเป็นลิตร - การคาดคะเนปรมิ าตรและความจเุ ปน็
และมิลลิลิตร
ลิตร
12. คาดคะเนปรมิ าตรและความจุเปน็ ลติ ร - การเปรยี บเทยี บปริมาตรและความจุ
13. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หา
โดยใชค้ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งลิตรกบั
เก่ยี วกับปรมิ าตรและความจุท่มี หี น่วย มิลลลิ ิตร ชอ้ นชา ชอ้ นโตะ๊ ถว้ ยตวงกบั
เปน็ ลิตรและมิลลลิ ิตร มิลลลิ ิตร
- การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ปริมาตร
และความจุทม่ี ีหน่วยเป็นลติ รและ
มิลลิลิตร
สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัตขิ องรูปเรขาคณิต ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง
รูปเรขาคณิต และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และนำไปใช้
ชั้น ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป. 3 รูปเรขาคณิตสองมติ ิ
- รูปทม่ี แี กนสมมาตร
1. ระบุรูปเรขาคณติ สองมติ ทิ ี่มแี กน
สมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร
7
สาระที่ 3 สถติ ิและความน่าจะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรทู้ างสถิติในการแก้ปัญหา
ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป. 3 การเก็บรวบรวมข้อมลู และการนำเสนอ
1. เขยี นแผนภูมริ ูปภาพ และใช้ข้อมลู จาก ขอ้ มูล
แผนภูมริ ปู ภาพในการหาคำตอบของ - การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและจำแนก
โจทย์ปญั หา ขอ้ มลู
2. เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลท่ีเปน็ - การอา่ นและการเขียนแผนภมู ริ ปู ภาพ
จำนวนนบั และใชข้ ้อมลู จากตารางทาง - การอา่ นและการเขยี นตารางทางเดียว
เดียวในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา (one – way table)
สาระที่ 3 สถิติและความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลักการนับเบือ้ งต้น ความนา่ จะเป็น และนำไปใช้
ชัน้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป. 3 - -
8
คำอธิบายรายวิชา
รายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 200 ช่วั โมง/ปี
ศกึ ษาการอ่านและการเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย ตวั หนังสอื แสดงจำนวนนับ หลัก
คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลกั และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจำนวน
การเรียงลำดับจำนวน แบบรูปของจำนวนที่เพิ่มขึ้นและลดลง การบวกจำนวนนับที่มีผลบวกไม่เกิน
100,000 การบวกจำนวนสามจำนวนที่มีผลบวกไม่เกิน 100,000 โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์
ปญั หาการบวก การลบจำนวนท่มี ีตัวตงั้ ไม่เกนิ 100,000 การลบจำนวนสามจำนวน การหาตัวไม่ทราบ
ค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการลบ
การคณู จำนวนหนึ่งหลกั กบั จำนวนไมเ่ กินส่ีหลัก การคณู กบั จำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลัก โจทย์
ปญั หาและการสรา้ งโจทย์ปัญหาการลบ การหารที่มตี ัวตั้งไม่เกินส่ีหลักและตัวหารมีหน่ึงหลัก การหา
ตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณและการหาร โจทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา
การหาร การวัดความยาวเป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร
การเลือกเครอ่ื งมอื วดั ความยาวทเ่ี หมาะสม การคาดคะเนความยาวเปน็ เมตรและ เปน็ เซนติเมตร การ
เปรียบเทียบความยาวโดยใช้ความสัมพันธร์ ะหว่างหนว่ ยความยาว โจทย์ปญั หาเก่ียวกบั ความยาว รูป
ที่มีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร การบอก อ่านและเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือ
เท่ากับตัวสว่ น การเปรียบเทยี บเศษส่วน การเรียงลำดับเศษส่วน การบวกเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน
การลบเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน โจทย์ปัญหาการบวกและการลบเศษส่วน การวัดและบอกน้ำหนัก
เป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรัม การเลือกเครื่องชั่งที่เหมาะสม การคาดคะเนน้ำหนักเป็น
กิโลกรัมและเป็นขดี การเปรียบเทียบน้ำหนักโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตนั
กบั กโิ ลกรัม โจทย์ปญั หาเกยี่ วกับนำ้ หนกั การวดั ปริมาตรและความจุเปน็ ลิตรและมิลลลิ ิตร การเลือก
เครื่องตวงที่เหมาะสม การคาดคะเนปริมาตรและความจุเป็นลิตร การเปรียบเทียบปริมาตรและ
ความจุโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างลิตรกับมิลลิลิตร ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวงกับมิลลิลิตร โจทย์
ปญั หาเกี่ยวกบั ปริมาตรและความจุท่มี ีหนว่ ยเป็นลิตรและมิลลิลติ ร การเก็บรวบรวมขอ้ มลู และจำแนก
ขอ้ มลู การอ่านและเขยี นแผนภมู ิรูปภาพ การอ่านและเขียนตารางทางเดียว การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา
และนาที การเขียนบอกเวลาและการอ่าน การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที การเปรียบเทียบ
ระยะเวลาโดยใชค้ วามสัมพันธร์ ะหวา่ งชว่ั โมงกบั นาที การอ่านและการเขียนบันทึกกิจกรรมทรี่ ะบุเวลา
โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา เงินเหรียญและธนบัตรชนิดต่างๆ การบอกจำนวนเงินและ
9
เขียนแสดงจำนวนเงินแบบใช้จุดและการอา่ น การเปรียบเทียบจำนวนเงินและการแลกเงิน การอ่าน
และการเขียนบันทึกรายรับ รายจ่าย โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์
ปัญหาและการสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน
โดยการจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณ์ทใ่ี กลต้ วั ผเู้ รยี นได้ศกึ ษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดย
การปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ
การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การเชื่อมโยง การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์
ดา้ นความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการทีไ่ ด้ไปใชใ้ นการเรียนร้สู ิ่งตา่ ง ๆ และใช้ในชีวติ ประจำวัน
อยา่ งสร้างสรรค์
เพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มี
ระเบียบ รอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ มีความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์และมีความเช่ือมั่นใน
ตนเอง
ตัวช้วี ัด
ค 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10,
ป.3/11
ค 1.2 ป.3/1
ค 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10,
ป.3/11, ป.3/12, ป.3/13
ค 2.2 ป.3/1
ค 3.1 ป.3/1, ป.3/2
รวม 28 ตวั ชี้วดั
10
โครงสร้างเวลาเรยี น
กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3
บทท/่ี เร่ือง เวลา (ช่วั โมง)
ภาคเรียนที่ 1
บทท่ี 1 จำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 18
บทที่ 2 การบวกและการลบจำนวนนบั ไม่เกิน 100,000 28
บทที่ 3 เวลา 16
บทท่ี 4 รูปเรขาคณติ 2
บทที่ 5 แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว 7
บทท่ี 6 เศษสว่ น 16
บทท่ี 7 การคณู 18
105
รวมภาคเรยี นที่ 1
11
โครงสร้างรายวชิ า
หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา
รปู เรขาคณิต เรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด (ชม.)
ค 2.2 เมื่อพับกระดาษรูปเรขาคณิตสองมิติตามแนว 2
ป.3/1 เส้นประแล้ว ทั้งสองส่วนทับกันสนิทพอดี เรียก
รอยพบั นี้ว่า แกนสมมาตร และเรยี กรปู เรขาคณิต
สองมิติที่มีแกนสมมาตรว่า รูปสมมาตร ซึ่งรูป
เรขาคณิตสองมิติบางรูปมีแกนสมมาตรมากกว่า
1 แกน
12
กำหนดแผนการจดั การเรียนรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 รูปเรขาคณติ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี เร่อื ง จำนวน
(ชั่วโมง)
1 รปู ท่ีมแี กนสมมาตร
2 การประยกุ ต์ใชร้ ูปที่มแี กนสมมาตร 1
1
รวม 2
12
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1
รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 รูปเรขาคณติ เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง
เรอ่ื ง รปู ที่มแี กนสมมาตร เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง
................................................................................................................................................................
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 2.2 : เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต
ความสัมพันธ์ระหว่างรปู เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และ
นำไปใช้
ตวั ชีว้ ัด
ค 2.2 ป.3/1 : ระบรุ ปู เรขาคณิตสองมิตทิ ่มี ีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร
สาระสำคญั
รูปทีเ่ ม่อื พบั แล้ว แตล่ ะขา้ งของรอยพบั ทับกนั สนิทเปน็ รปู ทม่ี ีแกนสมมาตร รอยดับนเี้ ป็นแกน
สมมาตร
รูปท่มี แี กนสมมาตรบางรปู ทีม่ ีแกนสมมาตรมากกว่า 1 แกน
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายลกั ษณะของรูปเรขาคณติ ทม่ี แี กนสมมาตรได้ (K)
2. สรา้ งรูปสมมาตรและระบุจำนวนแกนสมมาตรของรปู สมมาตรได้ (P)
3. นำความรู้เกี่ยวกับรูปที่มีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตรไปใช้แก้ปัญหาทาง
คณิตศาสตร์ (A)
สาระการเรยี นรู้
รปู ท่ีมีแกนสมมาตร
ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการสือ่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
2. ความสามารถในการเชอื่ มโยง
13
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครแู จกกระดาษให้นกั เรยี นคนละ 1 แผ่น แล้วพบั กระดาษ ดงั น้ี
พับจากดา้ นบนมาด้านลา่ ง พับจากมมุ ซ้ายบนมาทับมุมขวาล่าง
พบั จากด้านขวามาดา้ นซ้าย พบั จากมมุ ซา้ ยล่างมาทบั มมุ ขวาบน
2. ให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรายร่วมกันว่าวิธีการพับกระดาษแบบใดเรียกว่าทับกันสนิท
พอดี และเกิดรอยพบั กร่ี อย มวี ิธีพับดา้ นอืน่ ๆ อีกหรือไม่
ข้ันสอน
1. ครูพับกระดาษ แล้วตัดตามรอยที่ขีดไว้ ให้นักเรียนทายว่า เมื่อคลี่ออกมาแล้วจะได้
เปน็ รูปอะไร ครคู ลี่รูปทไ่ี ด้จากการตัดกระดาษให้นกั เรยี นดแู ล้วใหต้ อบวา่ เปน็ รปู อะไรและให้สังเกตว่า
ทง้ั สองขา้ งของรอยพับมลี กั ษณะเหมอื นกนั หรือไม่ มขี นาดเท่ากันหรือไม่ และเมือ่ พับกลบั ตามรอยเดิม
ทัง้ สองข้างทับกนั สนิทหรอื ไม่ จากน้ันแนะนำวา่ รูปที่ตัดได้น้ี มีลกั ษณะเป็นรูปที่มแี กนสมมาตร โดยมี
รอยพับเป็นแกนสมมาตร
2. ครนู ำกระดาษท่ีตดั เป็นรูปทไ่ี มม่ ีแกนสมมาตร เช่น บัวรดน้ำ ให้นักเรยี นสงั เกตวา่ ท้ัง
สองข้างของรูปมลี ักษณะเหมือนกันหรือไม่ (ไม่เหมือนกนั ) และนักเรยี นคดิ วา่ จะสามารถพับรปู แล้ว
14
ทำให้ทั้งสองข้างของรูปทับกันสนิทได้หรือไม่ จากนั้นให้ตัวแทนนักเรียนออกมาพับรูปบัวรดน้ำ
ดังกล่าวให้เพื่อนๆ ดู แล้วบอกผลการพับ ครูถามนักเรียนว่า รูปบัวรดน้ำนี้เป็นรูปที่มีแกนสมมาตร
หรือไม่ (ไมม่ ี) เพราะเหตใุ ด (ไม่สามารถพบั รูปแลว้ ทำให้ท้ังสองข้างของรอยพับทับกันสนิท)
3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน โดยคละความสามารถ ครูจัดกิจกรรม
พับกระดาษโดยแจกกระดาษรปู สามเหลีย่ มหน้าจ่วั รูปสเ่ี หล่ยี มมมุ ฉาก รูปหา้ มเหล่ียมดา้ นเท่า รูปหก
เหล่ียมดา้ นเทา่ รูปแปดเหลย่ี มด้านเท่า วงกลม และวงรีทมี่ เี สน้ ประแสดงรอยพับให้นกั เรียนทุกคนใน
กลุ่ม ให้นักเรียนพับตามรอยเสน้ ประและให้สงั เกตแต่ละข้างของรอยพับของรูปเรขาคณิตสองมิติแต่
ละรปู แลว้ ให้บอกผลการสงั เกต ซ่ึงควรจะได้ว่า แต่ละขา้ งของรอยพับทบั กนั สนิทพอดี ครถู ามว่า รูป
เรขาคณิตสองมติ ิท่ีพับทัง้ หมดนีเ้ ปน็ รปู ที่มีแกนสมมาตรหรือไม่ (เป็นรูปที่มีแกนสมมาตร) เพราะเหตุ
ใด (เพราะเมื่อพับตามรอยเส้นประ ทำให้ทั้งสองข้างของรูปทับกันสนิท) ให้นักเรียนทุกคนชี้แกน
สมมาตรของรปู นั้น
4. ครูแจกกระดาษรูปส่ีเหลีย่ มด้านขนาน รปู สามเหลีย่ มด้านไมเ่ ท่า รปู สี่เหล่ียมคางหมู
(ท่ไี มใ่ ช่รปู สี่เหลยี่ มคางหมูหน้าจัว่ ) รปู หา้ เหลยี่ ม รูปหกเหลีย่ ม รปู แปดเหลยี่ ม ท่ีไม่ใช่รูปหลายเหล่ียม
ดา้ นเท่ามมุ เท่าทม่ี ีเสน้ ประแสดงรอยพับให้นักเรียนทุกคนในกลุ่ม แลว้ ใหน้ กั เรยี นพบั ตามรอยเส้นประ
และให้สงั เกตวา่ แตล่ ะข้างของรอยพับทับสนิทหรือไม่ แล้วใหบ้ อกผลการสงั เกต ซึง่ ควรจะได้ว่า แต่ละ
ข้างของรอยพับไม่ทับกันสนทิ ครูถามว่า รูปเรขาคณิตสองมิติท่ีพับท้ังหมดนี้เป็นรูปที่มีแกนสมมาตร
หรือไม่ (เปน็ รูปท่ไี ม่มแี กนสมมาตร) เพราะเหตใุ ด (เพราะเมอื่ พบั ตามรอยเสน้ ประ แลว้ ทงั้ สองข้างของ
รูปไม่ทบั กนั สนทิ ) ใหน้ กั เรยี นทุกคนชีแ้ กนสมมาตรของรูปนนั้
5. จากกิจกรรมในข้อ 3. และข้อ 4. ครูให้นักเรียนร่วมกนั อภิปรายเพื่อนำไปสูข่ ้อสรปุ
ทว่ี ่า รปู หลายเหล่ียมบางรปู เป็นรูปท่ีมีแกนสมมาตร บางรปู เปน็ รปู ท่ีไม่มีแกนสมมาตร สง่ วงกลมและ
วงรเี ป็นรปู ที่มีแกนสมมาตร
6. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 1 รูปที่มีแกนสมมาตร เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน
ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 1
ขน้ั สรุป
1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรรู้ ่วมกัน ดงั น้ี รูปสมมาตร คือ รูปที่พับคร่ึง
แล้ว รปู แต่ละขา้ งของรอยพับน้ีทบั กันสนิท รปู บางรปู อาจมีแกนสมมาตรได้มากกว่าหนึ่งแกน ซึ่งเมื่อ
พบั ตามรอยพับแล้วรูปนนั้ จะต้องทบั กนั พอดี
สื่อการเรยี นรู้
1. กระดาษ
2. กรรไกร
15
3. กระดาษรูปเรขาคณิตทีม่ ีเสน้ ประ
4. กระดาษรปู เรขาคณิตท่ีไม่มีเส้นประ
5. ใบงานท่ี 1 รูปทม่ี ีแกนสมมาตร
16
การวดั ผลและประเมินผล
สิง่ ท่ตี ้องการวดั วิธีวัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ ทำกิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 1 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
1 การประเมนิ
2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป
ทกั ษะกระบวนการ
3. ดา้ นคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ
ท่ีพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดขี ้ึนไป
คุณลักษณะ
ทพ่ี งึ ประสงค์
ความคดิ เหน็ ผบู้ ริหาร
ลงชื่อ.....................................ผตู้ รวจ
(นายจรณู จันต๊ะวงค์)
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
..../................../........
17
บนั ทึกหลังการเรยี นการสอน
1. ผลการเรียนรู้
1.1 ผลการเรียนรตู้ ามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้
นกั เรียนไดค้ ะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ
1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
นกั เรยี นอยูใ่ นระดบั ดมี าก คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
นักเรยี นอยู่ในระดับดี คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ
นกั เรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ
นักเรียนอยู่ในระดับปรับปรงุ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คิดเป็นร้อยละ
นักเรียนอยใู่ นระดับดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ
นักเรียนอยใู่ นระดับพอใช้ คน คิดเปน็ ร้อยละ
นกั เรยี นอยู่ในระดับปรบั ปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ
2. ปญั หาและอปุ สรรค
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ัญหา
ลงชื่อ.....................................ผู้สอน
(นางสาวพรรกั ษา เมอื งน้อย)
..../................../........
18
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2
รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 รูปเรขาคณิต เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง
เรือ่ ง การประยุกตใ์ ช้รปู ที่มีแกนสมมาตร เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง
................................................................................................................................................................
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.2 : เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต
ความสัมพันธ์ระหว่างรปู เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และ
นำไปใช้
ตวั ช้วี ัด
ค 2.2 ป.3/1 : ระบุรปู เรขาคณิตสองมติ ทิ ี่มแี กนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร
สาระสำคัญ
รูปที่เมื่อพับแล้ว แต่ละข้างของรอยพับทับกันสนิทเป็นการประยุกต์ใช้รูปที่มีแกนสมมาตร
รอยดบั นเ้ี ปน็ แกนสมมาตร
การประยุกตใ์ ช้รปู ทมี่ ีแกนสมมาตรบางการประยกุ ตใ์ ช้รปู ทม่ี ีแกนสมมาตรมากกว่า 1 แกน
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายลักษณะของรปู เรขาคณิตทม่ี ีแกนสมมาตรได้ (K)
2. สร้างรูปสมมาตรและระบจุ ำนวนแกนสมมาตรของรูปสมมาตรได้ (P)
3. นำความรู้เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้รูปที่มีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตรไปใช้
แก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ (A)
สาระการเรียนรู้
การประยุกต์ใชร้ ูปท่มี แี กนสมมาตร
ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ความสามารถในการส่อื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
2. ความสามารถในการเช่ือมโยง
19
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครูนำภาพในชีวิตจริงที่มีลักษณะเป็นภาพที่มีแกนสมมาตร เช่น ภาพลายกระจัง
ภาพลายเหลก็ ดดั ภาพลายกระเบอื้ ง ภาพลายผ้า ฯลฯ ใหน้ กั เรียนดู แลว้ ชี้ให้นักเรียนสงั เกตว่าทั้งสอง
ข้างของแต่ละภาพมลี ักษณะเหมือนกนั ครูสนทนาเพิ่มเติมว่า เราสามารถสร้างภาพที่มีลักษณะของ
ลวดลายดงั กลา่ วได้
ขน้ั สอน
1. ครูให้ตัวแทนกลุ่ม 2 คน แสดงการพับกระดาษรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสและรูป
สี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อหาแกนสมมาตร และให้ขีดเส้นตามรอยพับเพื่อแสดงแกนสมมาตร ครูแนะนำว่า
ควรลองพับหลายๆ แนวแลว้ นำเสนอโดยระบจุ ำนวนแกนสมมาตรของแตล่ ะรปู ซงึ่ จะได้ดังนี้
มแี กนสมมาตร 2 แกน มแี กนสมมาตร 4 แกน
2. ครใู ห้แต่ละกลุม่ ทำกิจกรรมสำรวจรูปทมี่ ีแกนสมมาตร โดยแจกกระดาษที่ตัดเป็นรูป
เรขาคณิตสองมติ ิและรูปอน่ื ๆ ทีม่ ีลกั ษณะเป็นรปู ที่มแี กนสมมาตรและรปู ท่ีไมม่ ีแกนสมมาตร เช่น รูป
ดาว 5 แฉก รูปตัวอักษร H, T, O, S, Y, M, N, A, X, Z เป็นต้น ถ้าพบว่าเป็นรูปที่มีแกนสมมาตรให้
ขดี เส้นแสดงแกนสมมาตรทุกเสน้ พร้อมนำเสนอโดยแสดงวิธพี ับประกอบการอธบิ าย (แต่ละกล่มุ ได้รูป
ที่แตกตา่ งกัน กลมุ่ ละ 5 รปู ) พรอ้ มระบจุ ำนวนแกนสมมาตรของแตล่ ะรปู
3. ครูติดรูปหลายเหลี่ยมที่มีเส้นประเป็นแกนสมมาตรบนกระดาน 3 – 4 รูป แล้วให้
ตัวแทนนักเรยี นออกมาต่อเตมิ รูปให้สมบรู ณ์ เช่น
20
4. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 2 การประยุกต์ใช้รูปที่มีแกนสมมาตร เมื่อเสร็จแล้วให้
นกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนนั้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 2
ขั้นสรุป
1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ สงิ่ ท่ีไดเ้ รียนรรู้ ว่ มกัน ดังนี้
- รปู ที่มแี กนสมมาตรกับรปู ท่ีไมม่ ีแกนสมมาตร มีลกั ษณะแตกตา่ งกันอย่างไร (รูป
ที่มีแกนสมมาตรจะสามารถพับรูปแล้วทำให้ทั้งสองข้างของรอยพับทับกันสนิท แต่รูปที่ไม่มีแกน
สมมาตรจะไม่สามารถพบั รูปแล้วทำใหท้ ้งั สองข้างของรอยพบั ทับกันสนทิ )
- รูปที่มีแกนสมมาตรจะมีแกนสมมาตรได้น้อยที่สุดกี่แกน และมากที่สุดกี่แกน
พร้อมบอกตัวอย่างประกอบ (รูปที่มีแกนสมมาตรจะมีแกนสมมาตรได้น้อยที่สุด 1 แกน เช่น รูป
สามเหล่ยี มบางชนดิ (รูปสามเหล่ียมหนา้ จ่วั ) รปู สี่เหลยี่ มบางชนดิ (รปู สีเ่ หลีย่ มรูปวา่ ว) รูปคน รูปผีเสื้อ
เปน็ ตน้ และจะมแี กนสมมาตรได้มากที่สุด มากมายนับไม่ถ้วน เช่น วงกลม)
- คำกล่าวที่ว่า “รูปหลายเหล่ียมทุกรูปเปน็ รูปทีม่ ีแกนสมมาตร” เป็นจริงหรือไม่
เพราะเหตใุ ด (ไมจ่ รงิ เพราะมีรูปหลายเลยี่ มบางรูปท่ไี มม่ แี กนสมมาตร เชน่ รปู ห้ามเหลี่ยมบางรปู )
ส่ือการเรียนรู้
1. ภาพในชวี ิตจรงิ ทมี่ แี กนสมมาตร
2. รปู หลายเหล่ียม
3. ใบงานท่ี 2 การประยกุ ตใ์ ชร้ ปู ท่ีมีแกนสมมาตร
การวัดผลและประเมนิ ผล
สิ่งท่ีตอ้ งการวดั วธิ วี ัด เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านความรู้ ทำกิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 2 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
2 การประเมิน
2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ้ึนไป
ทกั ษะกระบวนการ
21
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
ที่พงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ พฤตกิ รรมด้าน คณุ ภาพดีขนึ้ ไป
คณุ ลักษณะ
ท่ีพึงประสงค์
ความคิดเหน็ ผู้บรหิ าร
ลงชอื่ .....................................ผตู้ รวจ
(นายจรณู จนั ตะ๊ วงค์)
ผอู้ ำนวยการโรงเรียน
..../................../........
บันทกึ หลังการเรยี นการสอน
1. ผลการเรยี นรู้
1.1 ผลการเรียนรู้ตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
นักเรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ
1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
นกั เรียนอยู่ในระดับดีมาก คน คดิ เปน็ ร้อยละ
นักเรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ
นกั เรียนอย่ใู นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ
นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรงุ คน คิดเป็นร้อยละ
1.3 ผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
นกั เรียนอยู่ในระดับดมี าก คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
นกั เรียนอยู่ในระดับดี คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
นกั เรยี นอยู่ในระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
นักเรียนอยู่ในระดับปรบั ปรงุ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
2. ปญั หาและอุปสรรค
22
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา
ลงช่อื .....................................ผู้สอน
(นางสาวพรรักษา เมอื งนอ้ ย)
..../................../........
21
ใบงาน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4
รูปเรขาคณติ
สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณติ
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.2 : เขา้ ใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบตั ขิ องรูปเรขาคณิต
ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททาง
เรขาคณติ และนำไปใช้
ตัวชี้วัด
ค 2.2 ป.3/1 : ระบุรูปเรขาคณิตสองมิติที่มีแกนสมมาตรและจำนวนแกน
สมมาตร
22
ใบงานท่ี 1 รปู ท่ีมแี กนสมมาตร
คำชแ้ี จง จงพจิ ารณารูปตอ่ ไปน้ีมีแกนสมมาตรหรือไม่
1. 2.
3. 4.
5. 6.
7. 8.
23
ใบงานที่ 2 การประยกุ ตใ์ ชร้ ูปทมี่ แี กนสมมาตร
คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นสร้างภาพที่เป็นรปู สมมาตรทม่ี เี ส้นประเปน็ เสน้ สมมาตร 4 – 5 ภาพ