2 0 2 3 เพื่อ พื่ นพาร์กิ ร์ กิ นสัน สั 11 เมษายน วันวัพาร์กิร์ กินสันสั โลก ปีที่ 13 ฉบับที่ 16 วารสารจดหมายข่าว
02 03 บทบรรณาธิการ เขียนโดย พญ.ปรียา จาโกต้า สารบัญบั 05 สารจากคุณหมอ เขียนโดย ศ.นพ. รุ่งโรจน์ พิทยศิริ 06 ทำ ความรู้จัก "โรคพาร์กินสันเทียม" เขียนโดย ผศ.พญ.พัทธมน ปัญญาแก้ว 09 ชีวิตหลังยุคโควิด เผื่อใจได้...สบายใจจริง... เขียนโดย อ.นพ.ลัญฉน์ศักดิ์ อรรฆยากร 12 นวัตกรรมภูมิปัญญาผู้สูงอายุ เขียนโดย คุณไพลิน กฤษณเทวินทร์ 15 เสริมความรู้ ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยวิธีการทางกายภาพบำ บัด เขียนโดย กภ.วีระชัย จิตภักดี 21 ทดแทนปริมาณยาด้วยการขยับร่างกาย เขียนโดย คุณวิมล วรรณะพาหุณ 22 ตอบปัญหาพาร์กินสัน "ทำ อย่างไร เมื่อเซ็กซ์มีปัญหา" เขียนโดย คุณมาริษา โชคพัชรเวสน์ 25 พาร์กี้ พากิน พาเที่ยว "เที่ยวเขาใหญ่กับพาร์กี้ก๊กี้ก๊วน" เขียนโดย คุณรัชนีวรรณ เปล่งศรี
บทบรรณาธิการ แพทย์ประจำ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พญ.ปรียา จาโกต้า ขอกล่าวสวัสดีวันพาร์กินสันโลก กับทุกๆท่านนะคะ กองบรรณาธิการจดหมายข่าว เพื่อนพาร์กินสันรู้สึกยินดี ที่ได้กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งรั้ ในฉบับที่ 16 นี้ เรากลับมาคราว นี้พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในหลายๆ ด้านการเว้นระยะห่างทางสังคมจากวิกฤต โควิดทำ ให้มิติการใช้ชีวิตของเราทุกคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในช่วงแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด-19 การทำ งานในรูปแบบ online เข้ามามีบทบาทมากขึ้น และหลัง จากช่วงโควิดโลกของเรากำ ลังก้าวเข้าสู่ยุคจักรวาลนฤมิตร (Metaverse) ซึ่งต่อไปใน อนาคตภาพของการเชื่อมต่อของโลกเสมือน และโลกแห่งความเป็นจริงอย่างไร้รอยต่อ คงจะพบเห็น ได้มากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อสังคมทุกด้าน และแน่นอนย่อมไม่ เว้นในวงการแพทย์ และการรักษาพยาบาล ซึ่งก็ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนใน สังคมด้วยเหตุนี้จึงทำ ให้เราคุ้นเคยกับแอพริเคชั่นชั่ต่างๆอาทิเช่น Teleclinic, Telemedicine, Online prescription ฯลฯ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไร เราก็จะก้าวต่อไปด้วยกัน กองบรรณาธิการไม่ลังเลที่ จะนำ เสนอข้อมูลใหม่ๆ กิจกรรม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของ สมาชิกชมรมฯไปในทิศทางที่ดีขึ้นหวังว่าทุกท่านจะสนุกกับการโต้คลื่นในทะเลตัวอักษรไป กับเราและได้รับประโยชน์จากเรื่องราวที่น่าสนใจในฉบับนี้นะคะ หากมีเรื่องใดที่อยู่ในความ สนใจ หรือคำ ถามเกี่ยวกับพาร์กินสันที่ยังหาคำ ตอบไม่ได้ แจ้งมาให้กองบรรณาธิการของเรา ทราบได้นะคะ ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพ พบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ พญ.ปรียา จาโกต้า บรรณาธิการ 03
04 เพื่อเป็นสื่อกลาง ระหว่างผู้ป่วย ผู้ดูแล บุคลากรทางการแพทย์ และคนทั่วทั่ ไป ที่สนใจ ร่วมแบ่งปันข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรม ที่เป็น ประโยชน์ สร้างสรรค์ เพื่อเป็นขวัญและกำ ลังใจ ให้กับผู้ป่วยพาร์กินสัน ชมรมเพื่อนพาร์กินสัน ศาสตราจารย์นายแพทย์ รุ่งโรจน์ พิทยศิริศิริ นายชนวัฒน์ อนันต์ พว.นิธินันท์ คันธชาติวนิช พญ.ปรียา จาโกต้า คุณมาริษา โชคพัชรเวสน์ คุณรัชนีวรรณ เปล่งศรี คุณชนัญพร จิระวิชิตชัย คุณเกียรติ็ศัติ็ศักดิ์ อมรกูุุล คุณชิดชนก บัวขาว คุณชิดชนก บัวขาว คุณมาริษา โชคพัชรเวสน์ ชมรมเพื่อนพาร์กินสัน ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสัน และกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อาคาร ส.ธ. ชั้นชั้12 เลขที่ 1873 ถนนพระราม 4 แขวงและเขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 จันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00 -15.00 น. 081-107-9999 เพื่อนพาร์กินสัน [email protected] pdclub วัตถุประสงค์ เจ้าของ ที่ปรึกษา บรรณาธิการ กองบรรณาธิการ พิสูจน์อักษร กราฟิก & เลย์เอาท์ ข้อมูลการติดต่อ เวลาทำ การ LINE ID ข้อข้มูลวารสาร ข้อข้มูลการบริจริาค ขอเชิญร่วมบริจาคเงินสมทบกองทุน เพื่อกิจกรรมของ ชมรมเพื่อนพาร์กินสัน ชื่่อบัญชี : เพื่อนพาร์กินสันจุฬาฯ ธนาคาร : ไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี : 045-580-085-1 รายชื่อผู้บริจาค บริษัทษัเอ็มพี กรุป (ประเทศไทย) จำ กัด บริจาค 273,880.88 บาท คุณสงวน จันทรานุกุล บริจาค 60,000 บาท คุณวรรณพ คุณอรอุไร โกเมน บริจาค 5,000 บาท คุณอนุพงศ พรณาปิติ บริจาค 2,000 บาท คุณสุวิทย์ สุติญญามณี บริจาค 1,500 บาท คุณสุวรรณา จาวโกนันท์ บริจาค 500 บาท คุณชนัญพร จิระวิชิตชัย บริจาค 1,000 บาท คุณเพ็ญพิชชา พันธุ์สุวรรณ บริจาค 1,000 บาท คุณอัปสร โกระวิโยธิน บริจาค 800 บาท คุณวิมล ไชยตระกูลทรัพย์ บริจาค 2,300 บาท คุณชัชวาล สนิทวรพจน์ บริจาค 1,000 บาท คุณพริ้มริ้เพรา สาครชัยพิทักษ์ บริจาค 800 บาท คุณเอกชัย โปร่งปัญญาสกุล บริจาค 1,000 บาท คุณไพลิน กฤษณเทวินทร์ บริจาค 500 บาท คุณมนูญ สุพจน์งามกุล บริจาค 500 บาท คุณจิตรกร วิจิตรถาวร บริจาค 500 บาท
สารจากคุณหมอ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ศาสตราจารย์นายแพทย์รุ่งโรจน์ พิทยศิริ 05 วารสารฉบับนี้นับได้ว่าเป็นโอกาสพิเศษหลังจากที่เราอยู่ห่างกันจากสถานการณ์การแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด19 แต่เรายังสามารถชิดใกล้กันด้วยการติดต่อสื่อสารผ่านเทคโนโลยี สื่อสารทางไกล ช่วยให้การจัดกิจกรรมของชมรมเพื่อนพาร์กินสันยังสามารถดำ เนินการได้ เพียงแค่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำ เนินการเป็นระบบออนไลน์ทดแทนอีกทั้งทั้ทางศูนย์ ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันฯ และชมรมเพื่อนพาร์กินสันมีความมุ่งเน้นการ ดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ด้วยทีมสหสาขาวิชาชีพ และให้ความสำ คัญต่อ Voice of Patient หรือเสียงสะท้อนจากผู้ป่วยและญาติ ผู้ดูแล ซึ่งเป็นสิ่งสำ คัญที่จะเป็นสื่อกลางช่วยให้ทีมสห สาขาวิชาชีพผู้ดูแลรักษาผู้ป่วย มีความเข้าใจต่อสิ่งต่างๆที่ผู้ป่วยและผู้ดูแลต้องเผชิญ ช่วย ให้สามารถดูแลแบบองค์รวมได้ตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพ จาก New normal ในปัจจุบันซึ่งเน้นการดูแลตนเองที่เป็นกุญแจสำ คัญอันจะนำ ไปสู่ สุขภาพที่ดี วารสารฉบับนี้จึงมีจุดมุ่งหมายของบทความต่างๆที่จะเน้นสาระความรู้ และ เทคนิคการดูแลตนเอง มอบให้แก่ผู้ป่วย และญาติ ผู้ดูแล สามารถดูแลหรือสังเกตอาการได้ โดยบทความมีความหลากหลายสามารถเลือกนำ ไปประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับการดำ เนิน กิจวัตรประจำ วันได้ ร่วมไปกับการดูแลจากทีมสหสาขาวิชาชีพ การดูแลรักษาโรคพาร์กินสันที่ดีมีประสิทธิภาพ ย่อมมาจากการเริ่มต้นในการดูแลตนเอง ที่ดีของผู้ป่วย ร่วมกับการเอาใจใส่จากบุคคลรอบข้างทั้งทั้จากทีมสหสาขาวิชาชีพ และญาติ ผู้ดูแล เมื่อมีความสมดุลทั้งทั้จากภายในและภายนอก ในท้ายที่สุดประโยชน์จากการดูแลที่ดี จะก่อให้เกิดสุขภาพที่แข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย พบกันในฉบับถัดไป ศาสตราจารย์นายแพทย์ รุ่งโรจน์ พิทยศิริ
โรคพาร์กินสันเทียม เป็นโรคที่มีอาการคล้ายโรคพาร์กินสัน แต่มักมีอาการเดินลำ บาก หรือทรงตัวผิดปกติ หรือความจำ เสื่อม เป็นอาการเด่นตั้งตั้แต่ระยะแรกของโรค หรือมีอาการ กลอกตาลำ บาก อาการความดันต่ำ ระหว่างเปลี่ยนท่าทาง กลั้นลั้ปัสสาวะลำ บากร่วมด้วยซึ่ง จำ เป็นต้องแยกออกจากโรคพาร์กินสัน เนื่องจากอาการของผู้ป่วยมักจะตอบสนองได้ไม่ดีต่อ ยาลีโวโดปา และมีการดำ เนินโรคที่แย่กว่าโรคพาร์กินสัน ทำ ความรู้จัก โรคพาร์กินสันเทียม แพทย์ประจำ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผศ.พญ. พัทธมน ปัญญาแก้ว 06 อาการของโรคพาร์กินสันประกอบด้วย อาการเคลื่อนไหวช้า ร่วมกับอาการสั่นสั่ขณะอยู่ เฉย อาการเกร็ง อาการเดินลำ บาก เดินติด ก้าวไม่ออก และลำ ตัวโค้งงอ โดยผู้ป่วยที่มี อาการเหล่านี้อาจเป็นโรคพาร์กินสัน หรือ เป็นโรคพาร์กินสันเทียมก็ได้ ขึ้นกับลักษณะอาการ ว่าอาการไหนเป็นอาการเด่น และมีอาการทางระบบประสาทอื่นๆนอกเหนือจากอาการที่กล่าว มาร่วมด้วยหรือไม่ การดำ เนินโรคเป็นอย่างไร โรคพาร์กินสันเป็นโรคความเสื่อมของเซลล์สมองส่วนลึกบริเวณก้านสมองทำ ให้สารสื่อ ประสาทที่เรียกว่า “โดปามีน” ลดลง ทำ ให้ผู้ป่วยเกิดอาการของโรคพาร์กินสัน ซึ่งมักเริ่มต้น เป็นอาการสั่นสั่ขณะอยู่เฉย เคลื่อนไหวช้า และอาการเกร็งที่ด้านใดด้านหนึ่งก่อน หลังจากนั้นนั้ เมื่อโรคดำ เนินไป ผู้ป่วยจะมีอาการทั้งทั้สองด้าน และมีอาการเดินลำ บากและทรงตัวผิดปกติ ตามมาที่ 5-8 ปีหลังจากเริ่มมีอาการส่วนอาการความจำ เสื่อมมักจะเกิดหลังจากเริ่มมีอาการ ของโรคพาร์กินสันเป็น 10 ปี นอกจากนี้ยังมีอาการนอกเหนือการเคลื่อนไหวที่พบได้บ่อยใน โรคพาร์กินสันก่อนเกิดอาการของโรคพาร์กินสันได้ 5-10 ปี ได้แก่ อาการท้องผูก อาการ นอนละเมอออกท่าทาง อาการซึมเศร้า และจมูกไม่ได้กลิ่น ทั้งทั้นี้อาการของโรคพาร์กินสันมัก ตอบสนองได้ดีต่อยาลีโวโดปา ซึ่งเป็นยาหลักที่ใช้รักษาโรคพาร์กินสัน ส่วนโรคพาร์กินสันเทียม หรือโรคที่มีอาการคล้ายพาร์กินสันนั้นนั้จะมีอาการคล้ายอาการ ของโรคพาร์กินสัน แต่มีอาการเดินลำ บาก เดินเซ และทรงตัวผิดปกติเป็นอาการเด่นตั้งตั้แต่ ระยะแรกของโรค โดยที่อาจไม่มีอาการสั่นสั่ขณะอยู่เฉยๆ เลย หรืออาจมีอาการของโรคพาร์ กินสันเท่าๆกันทั้งทั้สองข้างตั้งตั้แต่ระยะแรกของโรค รวมทั้งทั้อาจมีอาการอื่นๆ ของระบบ ประสาท เช่น อ่านต่อหน้า 7
ทำ ความรู้จัก "โรคพาร์กินสันเทียม" โรคความเสื่อมของสมองหลายๆส่วน หรือ atypical parkinsonian syndromes ทำ ให้ เกิดอาการผิดปกติอื่นๆ ของระบบประสาทได้หลากหลาย รวมทั้งทั้มีอาการความจำ เสื่อมตั้งตั้แต่ระยะแรกของโรคได้ เกิดจากยาที่ใช้ โดยเฉพาะยารักษาโรคทางจิตเวช ทำ ให้เกิดอาการคล้ายพาร์กินสัน เท่าๆกันทั้งทั้สองข้าง โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีประวัติได้รับยารักษาโรคทางจิตเวชมาก่อน ที่มีอาการคล้ายพาร์กินสัน โรคโพรงน้ำ สมองโต หรือ normal pressure hydrocephalus โดยมีอาการคล้าย อาการของโรคพาร์กินสัน แต่มักมีอาการเดินลำ บาก เดินเซ และทรงตัวผิดปกติเป็น อาการเด่น รวมถึงกลั้นลั้ปัสสาวะลำ บาก โดยไม่มีอาการสั่นสั่หรืออาการเคลื่อนไหวช้าที่ แขนทั้งทั้2 ข้าง ซึ่งโรคนี้สามารถเห็นได้จากการตรวจเอกซเรย์สมองด้วยแม่เหล็ก ไฟฟ้า (magnetic resonance imaging: MRI) และสามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้ โรคสมองขาดเลือดหลายๆจุด ที่ทำ ให้เกิดอาการคล้ายอาการของโรคพาร์กินสัน แต่มัก มีอาการอาการเดินลำ บาก และทรงตัวผิดปกติเป็นอาการเด่นเช่นกัน และมักมีประวัติ โรคหลอดเลือดสมองมาก่อน นอกจากนี้โรคกลุ่มพาร์กินสันเทียมมักจะไม่มีอาการ นอกเหนือการเคลื่อนไหวเป็นอาการนำ เหมือนโรคพาร์กินสัน 1 อาการกลอกตาผิดปกติ โดยเฉพาะแนวตั้งตั้ทำ ให้ก้มกินข้าวลำ บาก 2. อาการของระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น อาการความดันต่ำ ระหว่างเปลี่ยนท่าทางจาก นอนเป็นนั่งนั่หรือยืน ทำ ให้มีอาการเหมือนจะเป็นลม หรือหมดสติเวลาเปลี่ยนท่าทาง 3. อาการกลั้นลั้ปัสสาวะไม่ได้ 4. อาการความจำ เสื่อมตั้งตั้แต่ระยะแรกของโรค บางครั้งรั้มีอาการภาพหลอน หรือหลงผิด ร่วมด้วย 5. อาการกลืนลำ บาก เสียงแหบ หรือมีอาการกรนเสียงดังตลอดเวลา ตั้งตั้แต่ระยะแรก ของโรค อาการทั้งทั้หมดนี้เกิดได้จากหลายๆ โรค ทั้งทั้จาก 1. 2. 3. 4. โรคพาร์กินสันเทียม มีความสำ คัญที่ต้องแยกออกจากโรคพาร์กินสัน เนื่องจากโรคกลุ่ม นี้มักมีอาการคล้ายกับโรคพาร์กินสัน แต่การดำ เนินโรคมักจะเร็วกว่าโรคพาร์กินสันอย่าง มาก และมักตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาลีโวโดปาไม่ดีเท่าโรคพาร์กินสัน โดยการ วินิจฉัยโรคเหล่านี้ออกจากโรคพาร์กินสัน ต้องอาศัยประวัติที่ถูกต้องจากผู้ป่วย ประวัติยา ที่ใช้ต่อเนื่อง การตรวจร่างกายอย่างละเอียดโดยแพทย์ รวมทั้งทั้ โรคที่มีอาการคล้ายโรค พาร์กินสันบางโรค การตรวจเอกซเรย์สมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะช่วยในการวินิจฉัย แยกโรค ส่วนการรักษานั้นนั้เน้นรักษาตามอาการผิดปกติทางระบบประสาทที่มี ส่วนอาการ เดินลำ บาก และทรงตัวผิดปกติ มักจะต้องรักษาด้วยการกายภาพเป็นหลัก 07 ต่อจากหน้า 6 อ่านต่อหน้า 8
โรคพาร์กินสัน โรคพาร์กินสันเทียม อาการสั่นสั่ เคลื่อนไหวช้า อาการเคลื่อนไหวช้าร่วมกับอาการสั่นสั่ ขณะอยู่เฉย อาการเกร็ง เป็นด้านใด ด้านหนึ่งก่อน แล้วค่อยเป็นสองข้าง อาการเคลื่อนไหวช้าร่วมกับอาการสั่นสั่ขณะอยู่ เฉยอาการเกร็งมักเป็นทั้งทั้สองข้างพร้อมๆกัน หรืออาจไม่มีอาการสั่นสั่เลยก็ได้ อาการเดินและ ทรงตัวผิดปกติ อาการเดินติดขัด และทรงตัวผิดปกติ ตามมาหลังจากเริ่มมีอาการ 8-10 ปี อาการเดินลำ บาก และทรงตัวผิดปกติเป็น อาการเด่นตั้งตั้แต่ระยะแรกของโรค อาการทางระบบ ประสาทอื่นๆ อาการความจำ เสื่อม อาการทางระบบ ประสาทอัตโนมัติมักเป็นระยะหลัง ของโรค อาการกลอกตาผิดปกติ กลืนลำ บาก เสียงแหบ อาการกรน หรือมีอาการของระบบ ประสาทอัตโนมัติ ความจำ เสื่อมตั้งตั้แต่ระยะ แรกของโรค อาการนำ นอกเหนือ การเคลื่อนไหว อาการท้องผูก อาการนอนละเมอ ออกท่าทาง อาการซึมเศร้า และจมูก ไม่ได้กลิ่น มักไม่มีอาการนำ นอกเหนือการเคลื่อนไหว การดำ เนินโรค ค่อนข้างช้า เร็วกว่าโรคพาร์กินสัน การตอบสนองต่อ ยาลีโวโดปา ดีมากในช่วงแรก และมีอาการตอบ สนองต่อยาไม่สม่ำ เสมอในช่วง 5 ปี หลังจากเริ่มรักษา ไม่ดีต้องอาศัยการรักษาตามอาการและการ กายภาพบำ บัดเป็นหลัก ตารางแสดงอาการของโรคพาร์กินสัน และโรคพาร์กินสันเทียม ที่มีอาการคล้ายโรคพาร์กินสัน ทำ ความรู้จัก "โรคพาร์กินสันเทียม" 08 ทั้งทั้นี้การวินิจฉัยแยกโรคทำ โดยแพทย์ผู้รักษาเป็นหลัก การที่ผู้ป่วยให้ประวัติที่ถูกต้อง ประวัติยาที่ใช้ อาการร่วมอื่นๆ จะสามารถช่วยแพทย์ให้วินิจฉัยได้ถูกต้อง และนำ ไปสู่การรักษาที่ตรงจุดต่อไป ผศ.พญ.พัทธมน ปัญญาแก้ว ต่อจากหน้า 7
ชีวิตหลังยุคโควิด เผื่อใจได้..สบายใจจริง.... จิตแพทย์ประจำ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อ.นพ.ลัญฉน์ศักดิ์ อรรฆยากร 09 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามนุษย์ในโลกทุกคนไม่เพียงเฉพาะคนไทย มีความจำ เป็นจะต้อง ปรับตัว ปรับใจและปรับการดำ เนินชีวิตอย่างต่อเนื่องและพยายามฝึกฝนตนเองให้มีความ หวังเสมอมา บางคนก็จมอยู่ในความทรงจำ เก่าๆ วิ่งตามหาและพยายามเรียกร้องความ สะดวกสบายในชีวิตของตนเองกลับมาดังเดิม บางคนก็ได้ปรับใจยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลง ในด้านต่างๆ ได้มากน้อยต่างกันไปขึ้นกับประสบการณ์ที่ตนได้เผชิญอยู่นั้นนั้ โดยเฉพาะที่มี ผลกระทบต่อตนเองทางบวกหรือทางลบต่อเนื่อง บางคนก็เปลี่ยนบทบาทตนเองจากผู้นำ กลับกลายเป็นผู้ตามหรือตรงกันข้ามก็สามารถพบเห็นได้ไม่น้อยในช่วงวิกฤตนี้ โดยรวมการ ปรับตัวปรับใจและปรับการดำ เนินชีวิตของคนถือเป็นสิ่งสำ คัญอย่างยิ่งต่อการดำ รงเผ่าพันธุ์ มนุษยชาติเอาไว้ บทความนี้จะขอกล่าวถึงการปรับตัวที่สำ คัญในด้านต่างๆที่เกิดขึ้นแล้ว หรือกำ ลังจะเกิดขึ้นกับเราทุกคน และมันยังคงต้องการความเพียรพยายามต่อเนื่องในการ ประคับประคองใจของเราให้สามารถคงความเชื่อมโยงตนเองกับการโลกในนี้อยู่ได้ ไม่ว่าจะ มีการระบาดของเชื้อไวรัสลักษณะนี้หรือผลพวงของมันอีกกี่ครั้งรั้ก็ตาม จนเรามีความมั่นมั่ ใจใน การดำ รงชีวิตได้อย่างปกติสุขขึ้นมาได้ในสักวันหนึ่งและตลอดไป ขอแบ่งการปรับตัวได้ที่สำ คัญและสามารถสังเกตเห็นได้ชัดในสังคม และอาจจะเป็นเหตุ ให้บุคคลเกิดปัญหาทางสุขภาพกายและสุขภาพจิตจนกระทั่งทั่ต้องเข้ามาปรึกษาบุคลากรทาง สุขภาพตลอดจนจิตแพทย์ในที่สุด ซึ่งเมื่อให้คำ ปรึกษาไปอย่างต่อเนื่อง บุคคลก็สามารถปรับ ตัวได้จนสามารถกลับเข้าสู่สมดุลชีวิตใหม่ได้ในเวลาต่อมา สิ่งต่อไปนี้จะเป็นลักษณะของการ ปรับตัวได้ที่อาจจะถือเป็นนิมิตเป้าหมายของผู้อ่านในอนาคตได้ อ่านต่อหน้า 10
ชีวิตหลังยุคโควิด เผื่อใจได้..สบายใจจริง... 10 -การปรับตัวด้านสุขภาพพื้นฐาน - คนในสังคมจะมีความรักสะอาดเพิ่มขึ้น โดยการลด การสัมผัสสิ่งแวดล้อม หรือเพิ่มการทำ ความสะอาดมือและจุดสัมผัสมากขึ้นเป็นผลโดยตรง จากการตระหนักรู้บ้างและเคยชินบ้างจากโควิด 19 มีการเลือกบริโภคในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ต่อร่างกายเพิ่มขึ้น ภาพรวมของบุคลิกภาพคนเราจะเน้นการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บมากกว่า รอให้เจ็บป่วยแล้วค่อยรักษา การใช้การรักษาทางเลือกต่างๆ เช่น อาหารเป็นยา การใช้ สมุนไพรพื้นบ้านและ การพยายามเป็นหมอของตนเองก็พบมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ไม่ค่อย เข้ารับบริการทางการแพทย์ถ้าไม่จำ เป็น นอกจากนี้การปรับตัวด้าน Telemedicine ก็เป็นสิ่ง ที่พบมากขึ้นได้ในอนาคตจากผลของค่านิยมที่ลดการสัมผัส ลดพบเจอบุคลากรทางการ แพทย์โดยตรง -การปรับตัวด้านการติดต่อสื่อสารและสังคม - แน่นอนว่าการใช้ชีวิตจะมีการใช้เทคโนโลยี อินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลายและตลอดเวลาในทุกเพศทุกวัยและทุกชนชั้นชั้ทางสังคมเกิดขึ้น อย่างแน่นอนดังนั้นนั้คนเราก็จำ เป็นต้องมีความสามารถในการใช้ระบบสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต เบื้องต้นได้ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการสื่อสารของตนเอง และเนื่องด้วยเทคโนโลยีเหล่า นี้มีอิทธิพลต่อการสานสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นอันมากไม่ว่าจะเป็น คู่รัก ครอบครัว เพื่อน ฝูง เพื่อนร่วมงาน องค์กร ตลอดจนระบบการศึกษาของไทยเป็นอันมากทั้งทั้ ในปัจจุบันและ อนาคต จึงส่งผลต่อความก้าวหน้าและเป้าหมายในชีวิตของคนในยุคอนาคตทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตามในทางกลับกันความเชื่อมั่นมั่และความน่าเชื่อถือระหว่างการสื่อสารข้อมูลส่วน บุคคลจากการใช้เทคโนโลยีนี้ก็ยังสามารถก่อให้เกิดอคติและอุปสรรคต่างๆ ซึ่งเป็นความ ท้าทายในการตีค่าและประเมินผลระหว่างกันเพิ่มขึ้นในสังคมได้เป็นเงาตามตัว สิ่งเหล่านี้จะ มีผลแสดงออกซึ่งความหยาบและความละเอียดของบุคลิกคน เช่น ความรวดเร็วในการ ตัดสินใจของคนในสังคมนั่นนั่เอง - การปรับตัวด้านธุรกิจ เศรษฐกิจและความเป็นอยู่ - ทุกคนคงสังเกตได้ไม่ยากว่าธุรกิจ online มีพบเห็นได้เพิ่มสูงขึ้นในการดำ เนินชีวิตทุกวันนี้ เช่น เครื่องดื่มและอาหาร หรือ บริการที่สามารถซื้อขายได้ผ่านตู้อัตโนมัติ เป็นต้น สืบเนื่องมาจากความนิยมในความสะดวก รวดเร็ว ไม่สามารถรอคอยได้ หรือเป็นการประหยัดเวลาก็ว่าได้ จึงทำ ให้เกิดการปรับตัวลด จำ นวนลงของธุรกิจ onsite ต่างๆที่จำ เป็นต้องพบเจอหน้ากันระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคได้ อย่างไรก็ตามก็พบว่ามีการแข่งขันเชิงธุรกิจมากมายระหว่างธุรกิจ Online และ Onsite โดย เกิดจากการที่ผู้ผลิตจำ นวนหนึ่งจะพยายามหาข้อดีข้อได้เปรียบของการทำ ธุรกิจ onsite การ ส่งเสริมประสบการณ์ตรงได้ดีกว่า ทำ ให้หลายธุรกิจสามารถปรับตัวจนทำ ควบคู่กับธุรกิจ Online ได้ในที่สุด หรือสามารถรวบรวมธุรกิจ เช่นการ จับมือกันเป็นเครือข่ายที่แข็งแรงต่อ เนื่องระหว่างประเภทของธุรกิจ เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว/การเดินทางเชื่อมโยงกับธุรกิจการ ศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้การออมและการลงทุนน่าจะเป็นสิ่งที่ต้องการไหวพริบและการ สังเกตที่ดีและต้องรวดเร็วให้เป็นปัจจุบันให้มากขึ้น ต่อจากหน้า 9 อ่านต่อหน้า 11
ชีวิตหลังยุคโควิด เผื่อใจได้..สบายใจจริง... 11 เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงของผลตอบ แทนสามารถเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้รวดเร็วจาก หน้ามือเป็นหลังมือได้นั่นนั่เอง ในขณะเดียวกันการตัดสินคุณค่าของมนุษย์ต่อสิ่งต่างๆรอบตัว ที่รวดเร็วมากขึ้นจากโลกของการสื่อสารที่เร็วขึ้นก็พบได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่านิยมแฟชั่นชั่ ดั้งดั้เดิมและค่านิยมใหม่ การบริโภคอาหาร งานศิลปะ การใช้ชีวิตที่พักอาศัย การใช้พลังงาน ทดแทน สุขภาพ และการเมือง ที่ล้วนแล้วแต่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เศรษฐกิจและความ เป็นอยู่ให้เปลี่ยนแปลงบ่อยๆได้ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจการเดินทางและที่อยู่อาศัย อาจจะส่งผลให้คนเราเปลี่ยนที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่การทำ งานได้จากหลายที่ทั่วทั่ทุกมุมโลกใน เวลาทำ งาน และสามารถเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆตลอดเวลาไม่เป็นหลักแหล่งได้ในทุกๆวันโดย ไม่ต้องเป็นเจ้าของถาวร - การปรับตัวด้านจิตใจและจิตวิญญาณ - ความกลัวยังคงมีอยู่เนื่องจาก พิษของโรค ระบาดโควิดนี้ รวมถึงพิษของเศรษฐกิจที่เป็นผลพวงที่เกิดขึ้นจริงจากการระบาด และภัย ธรรมชาติ การไม่สามารถทำ นายได้ทำ ให้หลายๆคนเกิดความเครียดสูงขึ้น และง่ายขึ้น มี การผ่อนคลายได้ยากขึ้น นอกจากนี้ความเร็วและความกว้างขวางของเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต ก็ส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของมนุษยชาติมากขึ้นด้วย ส่งผลทำ ให้กิเลสต่างๆ ในใจของคนเราเผยตัวออกมาได้รวดเร็ว และแข็งแรงขึ้นด้วย ส่งผลให้งานดูแลสุขภาพจิต นั้นนั้สำ คัญมากทั้งทั้ต่อตนเองและคนที่ตนรัก นอกจากนี้ความสงบสุขทางจิตใจจะมีคุณค่าเพิ่ม ขึ้นมากและมีราคาสูงเนื่องจากหาได้ยากขึ้น มนุษย์จึงควรให้เวลากับการพัฒนาตนเองเพื่อ เข้าถึงความสงบในใจตนเองบ่อยๆ จนเป็นอัตโนมัติและเป็นภูมิคุ้มกันต่อความเครียดจาก การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วให้ได้จะเป็นทางออกที่ดียิ่ง - การปรับตัวด้านความมั่นมั่คงระดับชาติ - ในที่นี้อาจจะดูไกลตัวในคนส่วนใหญ่ที่อาจ จะได้รับผลกระทบโดยตรง จากการเปลี่ยนแปลงระดับที่ควบคุมได้ยากเช่นภัยธรรมชาติ ภัย จากสงคราม ภัยจากนโยบายเศษฐกิจ และภัยจากสังคมที่ห่างเหินกันและมีการพิทักษ์สิ ษ์ สิทธิ์ที่ ธิ์ ที่ เกินพอดี เป็นต้น ดังนั้นนั้สิ่งที่ทำ ได้ดีที่สุดคือการสังเกตให้รวดเร็วในอุบัติภัยต่างๆรอบตัว โดยการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์ มีสติสัมปชัญญะในการสรุปและตัดสินใจ ในการจัดการชีวิตในขณะนั้นนั้ โดยไม่เสียกำ ลังใจไปก่อน และไม่เสียเวลาในขณะเดียวกัน โดยภาพรวมการปรับตัวปรับใจและปรับการดำ เนินชีวิตที่เกิดขึ้น ล้วนจะเชื่อมโยงกับปัจจัย ไม่กี่ปัจจัยที่สำ คัญมากๆหลังช่วงโควิดเป็นต้นไป ดังนี้คือ การเพิ่มพฤติกรรมความรักสุขภาพ ให้ดีอยู่เสมอ การใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต และการมีสติสัมปชัญญะในการตัดสินข้อมูลขอ ให้ทุกชีวิตใช้ชีวิตได้อย่างรอบคอบ และปกติสุขได้ในยุคหลังโควิดระบาดไปด้วยกันอย่าง สบายใจ อ.นพ.ลัญฉน์ศักดิ์ อรรฆยากร ต่อจากหน้า 10
ปัจจุบันประเทศไทย เป็นสังคมผู้สูงอายุ คือมีจำ นวนผู้สูงอายุเกิน 18% และผลจากงานวิจัย ทราบว่าในปีพ.ศ. 2576ประเทศไทย จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด คือมีสัดส่วนผู้มีอายุ ตั้งตั้แต่ 60 ปีขึ้นไป 28 %ของประชากรทั้งทั้หมด จะทำ ให้สัดส่วนกำ ลังแรงงานต่อผู้สูงอายุและเด็ก อยู่ที่ 2 :1 :1 ซึ่งจะสร้างผลกระทบ ให้กับประชากรกลุ่มวัยแรงงาน ต้องมีภาระในการดูแล ประชากรกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำ พังโดยที่ไม่มีคนดูแล ต้องหา เลี้ยลี้งชีพด้วยตัวเองจะมีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้คุณภาพชีวิต แย่ลงไปพร้อมๆกับอายุที่มากขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นมั่คงของมนุษย์ โดยกรม กิจการผู้สูงอายุ ได้จัดงาน นวัตกรรมภูมิปัญญาผู้สูงอายุ สร้างงานสร้างอาชีพ ระหว่างวันที่ 22-23 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ ลานอเนกประสงค์ชั้นชั้2 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาๆ ภายในงานได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ความรูั ความเข้าใจในการนำ นวัตกรรมที่เกิดจาก ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในชีวิตประจำ วัน ทำ ให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้สูงอายุ เนื่องจาก ผู้สูงอายุเป็นจำ นวนมากยังสามารถทำ งาน เพื่อหารายได้ไม่เป็นภาระต่อครอบครัวและสังคมรวมทั้งทั้ ยังสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ของผู้สูงอายุไปสู่เด็กและเยาวชนรุ่นหลังเกิดประโยชน์กับสังคมและ ประเทศชาติในอนาคต ทำ ให้ผู้สูงอายุได้รับการยอมรับในสังคมไม่ถูกมองว่าเป็นภาระแต่ช่วยเป็น พลังสำ คัญในการพัฒนาประเทศ นวัตกรรมภูมิปัญญา ผู้สูงอายุ คุณไพลิน กฤษณเทวินทร์ 12 อ่านต่อหน้า13 ผู้สูงอายุและผู้ป่วยพาร์กินสัน ได้ประโยชน์อย่างไรจากงาน นวัตกรรมภูมิปัญญาผู้สูงอายุ
ไม้เท้าเลเซอร์พระราชทานที่พัฒนามาจากผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ใช้ไม้วางไว้กับพื้นเพื่อช่วยใน การก้าวเดิน แก้อาการเดินติดขัด ภาชนะในการรับประทานอาหาร จาน ที่ออกแบบให้พื้นภายในของจานลึกไม่เท่ากัน เมื่อเวลา ตักจะได้ตักง่าย ช้อน ส้อม มียางจับกันลื่น ลดการพึ่งพาผู้ดูแลในการป้อน จาน ช้อน ที่เหมาะใช้กับผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือผู้สูงวัย แก้วน้ำ ป้องกันการสำ ลัก ออกแบบภายในก้นแก้วไม่ให้ลึกเท่ากัน การจัดงานประกอบด้วย 1. พิธีเปิดโดยปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นมั่คงของมนุษย์ ทำ ให้เราทราบหลักการและ เหตุผลของการจัดงานรวมทั้งทั้วัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็นพลังในการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ คือมีงานทำ หลังเกษียษีณผ่านกิจกรรมเสริมสร้างทักษะในการดำ รง ชีวิตอย่างมีคุณภาพ เกิดทักษะในอาชีพเพื่อหารายได้และได้ทำ งานที่เหมาะสมกับศักยภาพของ ตนเอง 2.. การเสวนาในหัวข้อ "สานต่อภูมิปัญญาพัฒนาสร้างสรรค์เสริมสร้างสังคมผู้สูงอายุ" โดยมี ศาสตราจารย์นายแพทย์รุ่งโรจน์ พิทยศิริ ประธานคณะทำ งาน ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสิ่ง อำ นวยความสะดวกในชีวิตประจำ วันสำ หรับผู้สูงอายุ เป็นผู้ดำ เนินรายการเสวนา มีผู้แทนจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนบริษัทษัเอกชน เข้าร่วม เสวนาซึ่งมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับกระบวนการที่นำ เอาภูมิปัญญาจากผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่คิด ประดิษฐ์สิ่งของ เครื่องใช้ แล้วนำ มาช่วยเหลือตนเองให้มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำ วัน เช่น 3. นิทรรศการองค์ความรู้ภูมิปัญญาต่างๆ ที่ได้รวบรวมมาจากทั่วทั่ประเทศ 23 สาขา รวมทั้งทั้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆที่เกี่ยวกับสิ่งอำ นวยความสะดวกในชีวิตประจำ วันสำ หรับผู้สูงอายุ นวัตกรรมภูมิปัญญา ผู้สูงอายุ 13 ต่อจากหน้า 12 อ่านต่อหน้า 14
บูธจำ หน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์และผลงานนวัตกรรม ซึ่งพัฒนามาจากภูมิปัญญาและจากความ ต้องการใช้ ผลิตภัณฑ์ของผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ในราคาที่ไม่สูงไม่ต้อง พึ่งพาของต่างประเทศ จำ นวนมากกว่า 50 บูธ จากเครือข่ายผู้สูงอายุทั่วทั่ประเทศ รวมทั้งทั้บูธของ - ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จัด แสดงนวัตกรรมสิ่งอำ นวยความสะดวกสำ หรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน เช่น ไม้เท้า เลเซอร์พระราชทาน (ช่วยแก้ปัญหาการเดินติดขัด) ถุงมือพาร์กินสันลดอาการสั่นสั่จาน ช้อน ส้อม มียางป้องกันลื่น จาน ช้อน สำ หรับผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง แก้วน้ำ ป้องกันหรือลดการสำ ลัก *หากมีข้อสงสัย ติดต่อ ศูนย์พาร์กินสันฯ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ฯ 02 256 4000 ต่อ 70702 ถึง 4 - ชมรมเพื่อนพาร์กินสัน จัดแสดงและจำ หน่ายผลงานของผู้ป่วย ที่มีทักษะสาขาประเภทงานฝีมือ เช่นภาพวาด กระเป๋าถุงผ้า และของใช้ต่างๆ ที่เกิดมูลค่าเพิ่มจากงานฝีมือ นวัตกรรมภูมิปัญญา ผู้สูงอายุ 14 ต่อจาหหน้า 13 อ่านต่อหน้า 15
ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดงานในครั้งรั้นี้ของผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน(ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นผู้สูงอายุด้วย) เช่น 1 ได้รับรู้ว่า ภาครัฐได้จัดตั้งตั้หน่วยงาน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในภาพรวม 2 สามารถเข้าถึงข้อมูล การบริการต่างๆจากภาครัฐ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง 3 สำ หรับผู้สูงอายุที่มีภูมิปัญญา มีภูมิธรรม มีประสบการณ์และองค์ความรู้ต่างๆ สามารถนำ ภูมิปัญญา และองค์ความรู้เหล่านั้นนั้มาทำ ให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพทำ ให้มีรายได้เพิ่ม รวมทั้งทั้ ได้มีโอกาส ถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้เยาวชนรุ่นหลังได้พัฒนาและสานต่ออย่างยั่งยั่ยืน 4 สามารถซื้อหาผลิตภัณฑ์หรือสิ่งของ และการบริการต่างๆ ที่จะทำ ให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นตั้งตั้แต่ตื่นเช้า ทำ กิจวัตรประจำ วัน ดื่มน้ำ รับประทานอาหาร เดิน ออกกำ ลังกาย จนกระทั่งทั่เข้านอน ในราคาที่เหมาะ สม ลดการพึ่งพาผลิตภัณฑ์นำ เข้าจากต่างประเทศที่มีราคาแพง 5 เป็นกลุ่มประชากรที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสบการณ์มีคุณค่าของสังคม หมายเหตุ คณะทำ งานด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี สิ่งอำ นวยความสะดวกในชีวิตประจำ วันสำ หรับผู้สูงอายุ ได้รับการแต่งตั้งตั้จากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นมั่คงของมนุษย์ เป็นกลไก ที่สำ คัญอันหนึ่งในการส่งเสริม พัฒนา นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำ หรับผู้สูงอายุและผู้ป่วย เช่น สามารถใช้เพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำ วันทดแทนความเสื่อมของร่างกายจากอายุหรือ ความเจ็บป่วย เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี มีการสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไพลิน กฤษณเทวินทร์ นวัตกรรมภูมิปัญญา ผู้สูงอายุ 15 ต่อจาหหน้า 14
สวัสดีท่านสมาชิกชมรมเพื่อนพาร์กินสันและผู้อ่านทุกท่านครับ สำ หรับช่วงสถานการณ์การแพร่ ระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่ผ่านมา หลาย ๆ ท่านอาจจะกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลานาน ทำ ให้มี กิจกรรมทางกายที่น้อยกว่าก่อนหน้านี้ วันนี้ผมจึงมีวิธีการออกกำ ลังกายและการฟื้นฟูร่างกายด้วย วิธีการทางกายภาพบำ บัดมาฝากทุกท่านครับ โดยการออกกำ ลังกายนั้นนั้เราสามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ คือ 1.การออกกำ ลังกายเพื่อเพิ่มกำ ลังกล้ามเนื้อ (Strengthening exercise) ซึ่งการออกกำ ลัง กายประเภทนี้จะต้องอาศัยแรงต้าน เช่น ดัมเบล ยางยืด ขวดน้ำ หรือแม้แต่แรงต้านของน้ำ จาก การออกกำ ลังกายในน้ำ ครับ อาจแบ่งการออกกำ ลังแขน ขา และลำ ตัว พอจะยกตัวอย่างท่าบริหาร ได้ดังนี้ เสริมความรู้ ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยวิธีการทางกายภาพบำ บัด กภ.วีระชัย จิตภักดี 16 หัวหน้าหน่วยฟื้นฟูผู้สูงอายุก้าวหน้า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อ่านต่อหน้า 17 ท่ากางแขนและหุบแขน เป็นการเพิ่มกำ ลังกล้ามเนื้อพยุง สะบักบริเวณด้านหลัง และยังช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณ หน้าอก ซึ่งมักพบว่ากล้ามเนื้อหน้าอกในผู้ป่วยพาร์กินสันหรือ แม้แต่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่นั้นนั้มีลักษณะที่ตึงตัว ทำ ให้มีบุคลิกและ ท่าทางที่ไหล่ห่อไปข้างหน้า การทำ ท่านี้อาจใช้ถุงทรายหรือขวด บรรจุน้ำ เพื่อเพิ่มแรงต้านมากขึ้น แต่สำ หรับท่านใดที่เหนื่อยง่าย สามารถบริหารด้วยมือเปล่าโดยที่ยังไม่ใช้ถึงทรายหรือขวดบรรจุ น้ำ ก่อนได้ จำ นวนครั้งรั้ ในการทำ ให้ผู้ทำ หุบและกางแขนออกช้าๆ ทำ 10-20 ครั้งรั้ ท่าเตะเท้าขึ้นขึ้ลงช้าๆ สามารถทำ ได้โดยให้นั่งนั่หลังตรง มือทั้งทั้ 2 ข้างจับขอบเก้าอี้หอี้รือวางบริเวณหน้าขา เตะเท้าขึ้นช้าๆ ค้างไว้ ประมาณ 3-5 วินาที และเอาลงช้าๆ ทำ ทีละข้าง ข้างละ 10-20 ครั้งรั้ท่านี้จะช่วยเพิ่มกำ ลังกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ซึ่งมักพบว่า ในผู้ป่วยพาร์กินสันนั้นนั้กล้ามเนื้อส่วนนี้ขาดความแข็งแรง นอกจากนี้ยังพบว่าเป็นสาเหตุที่ทำ ให้เกิดปัญหาข้อเข่าเสื่อมในผู้ สูงอายุด้วย ดังนั้นนั้สำ หรับท่านี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มกำ ลังกล้าม เนื้อต้นขาให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยป้องกันและฟื้นฟูอาการข้อเข่า เสื่อมได้อีกด้วย
เสริมความรู้ ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยวิธีการทางกายภาพบำ บัด 17 อ่านต่อหน้า 18 ต่อจากหน้า 16 สิ่งสำ คัญของการออกกำ ลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ “จะต้องทำ ช้าๆ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ และหากต้องการเห็นผลชัดเจน ควรทำ เซตละ 8-15 ครั้งรั้ท่าละ 3-5 เซต” ่ 2. การออกกำ ลังกายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ (Stretching exercise) การออกกำ ลังกายรูปแบบนี้เรามักจะเห็นในนักกีฬาที่จะทำ กันก่อนและหลังลงสนามแข่งขันนะ ครับ สำ หรับคนทั่วทั่ ไปหรือผู้ป่วยพาร์กินสันนั้นนั้เราสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นด้วยการยืดกล้ามเนื้อ เพื่อลดอาการตึงได้ทุก ๆ วัน สำ หรับท่าบริหารที่ผมจะนำ มายกตัวอย่างให้ทุกท่านนำ กลับไปลอง ทำ ได้แก่ ท่ายืดเหยียดข้อไหล่ โดยพบว่าผู้ป่วยพาร์กินสันมักมีอาการข้อไหล่ตึงและแข็งเกร็ง ท่านี้จะ ช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันอาการข้อไหล่ติดได้อีกด้วย สามารถทำ ได้ โดยมือทั้งทั้2 ข้างประสานกัน ค่อย ๆ ชูแขนขึ้นทั้งทั้สองข้างแนบใบหู ให้สุดจนรู้สึกตึงแต่ไม่เจ็บ ค้างไว้ 10 วินาที ทำ ซ้ำ 5 รอบ ท่ายืดลำ ตัวด้านข้าง ผมมักได้ยินปัญหาที่ผู้ป่วยพาร์กินสันและญาติเข้ามาปรึกษาเรื่องผู้ป่วยมักมีอาการตัวเอียงขณะ นั่งนั่และยืนจะต้องบริหารท่าไหนจึงจะช่วยได้ ผมเลยนำ ท่ายืดเหยีดกล้ามเนื้อลำ ตัวด้านข้างมาให้ ทุกท่านได้ลองทำ กันดู แต่สิ่งที่สำ คัญคือจะต้องบริหารให้ถูกด้านนะครับ สำ หรับท่านใดที่ลำ ตัวมัก จะเอียงไปทางด้านซ้าย ก็ให้ชูแขนซ้ายขึ้นและเอียงตัวไปทางด้านขวาค้างไว้ 10 วินาที ทำ ซ้ำ 5 รอบ โดยที่มือขวาอาจจะเท้าสะเอวไว้ เพื่อเป็นจุดหมุนและป้องกันการหกล้ม แต่หากท่านใดที่ลำ ตัวมักจะเอียงไปทางด้านขวาก็ให้ทำ ด้านตรงกันข้าม คือชูแขนขวาขึ้น มือซ้ายเท้าสะเอวซ้าย แล้ว จึงเอียงตัวไปทางด้านซ้ายนะครับ ทั้งทั้นี้การบริหารในท่านี้ควรเลือกทำ บนเก้าอี้ที่อี้ ที่ มีความปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นเก้าอี้ที่อี้ ที่ มีที่พักแขนเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่บริหารตกหล่นจากเก้าอี้ไอี้ด้ครับ
เสริมความรู้ ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยวิธีการทางกายภาพบำ บัด 18 อ่านต่อหน้า 19 ต่อจากหน้า 17 ท่าต่อไปเป็น ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและกล้ามเนื้อน่อง ซึ่งมักตึงมากในผู้ป่วย พาร์กินสัน อันเป็นสาเหตุที่ทำ ให้ผู้ป่วยนั้นนั้เคลื่อนไหว ยืน เดินได้ลำ บาก การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ดังกล่าวสามารถทำ ได้โดยเลื่อนตัวออกมาข้างหน้า นั่งนั่ครึ่งหนึ่งของเก้าอี้ ยืดขาเข่าขวาเหยียดตรง กระดกข้อเท้าขวา มือทั้งทั้สองประกบกันบนขาขวา ค่อย ๆ โน้นตัวไปข้างหน้าให้รู้สึกตึงต้นขาขวา ด้านหลังและน่อง โดยระวังไม่ให้เข่างอ ค้างไว้ 10 วินาที ทำ ซ้ำ 5 รอบ แล้วสลับทำ อีกข้างครับ สิ่งสำ คัญของการเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ “แต่ละท่ายืดค้างไว้ 10-30 วินาที ทำ ซ้ำ ท่าละ 3-5 รอบ” ภาพตัวอย่างเก้าอี้ ที่เหมาะสมสำ หรับผู้ป่วยพารืกินสัน 3. การออกกำ ลังกายแบบแอโรบิค (Aerobic exercise) หรือการออกกำ ลังกายเพื่อเพิ่ม ความทนทานของหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular exercise) หลายคนเมื่อได้ยินหรือเห็นคำ ว่าแอโรบิค มักจะนึกถึงการเต้น แต่การออกกำ ลังกายแบบแอโรบิคนั้นนั้ ไม่ใช่การเต้นเพียงแค่อย่าง เดียวนะครับ การเคลื่อนไหวร่างกายรูปแบบอื่น ๆ เช่น การเดิน การวิ่ง การแกว่งแขน ก็จัดเป็น แอโรบิคได้ เพียงแค่เราจะต้องทำ ต่อเนื่องโดยที่ไม่มีการหยุดพัก 30 นาทีเป็นอย่างน้อย ซึ่งสำ หรับ ผู้ป่วยพาร์กินสันผมแนะนำ เป็นการเดิน การปั่นจักรยาน หรือแม้แต่การเต้น ทั้งทั้นี้ต้องพิจารณาถึง ความสามารถและความปลอดภัยตามความเหมาะสมของแต่ละท่านด้วยนะครับ
เสริมความรู้ ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยวิธีการทางกายภาพบำ บัด 19 อ่านต่อหน้า 20 ต่อจากหน้า 18 4. การออกกำ ลังกายเพื่อเพิ่มความสามารถในการทรงตัว (Balance exercise) แน่นอนครับ ว่าผู้สูงอายุและผู้ป่วยพาร์กินสันนั้นนั้มักมีปัญหาเรื่องการทรงตัวจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่เกิดจากตัวโรคเอง หรือเกิดขึ้นได้ตามวัย ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อที่แข็ง เกร็ง ภาวะมวลกล้ามเนื้อที่ลดลง การทำ งานของระบบประสาทที่เสื่อมถอย ส่งผลให้มีความเสี่ยง ต่อการล้มได้ง่ายขึ้น การออกกำ ลังกายรูปแบบนี้จึงมีความจำ เป็นในผู้สูงอายุและผู้ป่วยพาร์กินสัน ไม่น้อย ผมจึงมีท่าบริหารเพื่อเพิ่มความสามารถในการทรงตัวและป้องกันการหกล้มมาฝากผู้อ่าน 3 ท่า คือ ท่าที่ 1 ยืนเขย่งส้นเท้า 1.) ยืนตัวตรงหลังเก้าอี้ เท้า 2 ข้างห่างกันพอสมควร มือทั้งทั้2 ข้างจับพนักพิง 2.) เขย่งส้นเท้าขึ้น หลังและลำ ตัวเหยียดตรง ค้างไว้ 2 วินาที 3.) ทำ ซ้ำ จำ นวน 10-20 ครั้งรั้ ท่าที่ 3 ยืนย่ำ เท้า 1.) ยืนตัวตรง มือขวาจับพนักพิงเก้าอี้ 2.)ย่ำ เท้าสลับซ้าย-ขวาเป็นจังหวะแขนซ้ายแกว่งอย่าง อิสระตามจังหวะการย่ำ เท้า 3.) ทำ ต่อเนื่องกัน 30 วินาที หรือ 20-40 ครั้งรั้ 4.) กลับหลังหันช้า ๆ สลับมือที่จับพนักพิงเก้าอี้ ย่ำ เท้าซ้ำ ในลักษณะเดิม ท่าที่ 2 ยืนกระดกข้อเท้า 1.) ยืนตัวตรงหลังเก้าอี้ เท้า 2 ข้างห่างกันพอสมควร มือทั้งทั้2 ข้างจับพนักพิง 2.)กระดกปลายเท้าขึ้นหลังและ ลำ ตัวเหยียดตรง ค้างไว้ 2 วินาที 3.) ทำ ซ้ำ จำ นวน 10-20 ครั้งรั้ นอกจาก 3 ท่าข้างต้นแล้ว ยังมีท่าบริหารหรือวิธีการออกกำ ลังกายแบบอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่ม ความสามารถในการทรงตัว ป้องกันการหกล้ม ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถสืบค้นในอินเทอร์เน็ต หรือเว็บไซต์ และช่อง Youtube ของศูนย์พาร์กินสันฯ รพ.จุฬาฯ ได้ โดยท่าเหล่านี้หากทำ สม่ำ เสมอ ก็จะช่วยเพิ่มกำ ลังกล้ามเนื้อรอบข้อสะโพก ข้อเข่า และข้อเท้า ทำ ให้ข้อต่อเกิด ความมั่นมั่คง ลดความเสี่ยงต่อการล้มได้ครับ
กภ 5. การออกกำ ลังกายฝึกการหายใจ (Breathing exercise) ซึ่งการออกกำ ลังกายประเภท นี้ก็เป็นอีกประเภทหนึ่งที่สำ คัญ เพราะการออกกำ ลังกายหรือแม้แต่การทำ กิจวัตรประจำ วันต่างๆ การหายใจที่ถูกต้องจะช่วยให้มนุษย์เรานั้นนั้มีการไหลเวียนของอากาศดีที่มีออกซิเจนปริมาณสูงเข้า สู่ร่างกายและนำ อากาศเสียอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ออกนอกร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งทั้สำ หรับผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด 19 นั้นนั้การบริหารฝึกหายใจยังมีประโยชน์ในแง่ของการฟื้นฟู การทำ งานของปอดได้อีกด้วย ซึ่งสามารถทำ ได้ในท่านั่งนั่นอน หรือยืน อาจเริ่มจากการฝึกกล้าม เนื้อที่ใช้ในการหายใจก่อน คือ เริ่มจากการวางฝ่ามือข้างหนึ่งบริเวณหน้าท้อง ส่วนอีกข้างหนึ่งวาง บริเวณหน้าอก จากนั้นนั้ ให้ฝึกหายใจเข้าทางจมูก ช้าๆ ลึกๆ โดยขณะหายใจเข้าท้องป่องขยายดัน มือที่วางบนหน้าท้องออก ส่วนฝ่ามือที่วางบริเวณทรวงอกควรอยู่นิ่ง จากนั้นนั้จึงค่อยๆ หายใจออก ทางปากช้าๆ โดยขณะหายใจออกทางปากนั้นนั้ ให้ทำ ปากจู๋หรือปากเป็นรูปตัวโอ เพื่อกักเก็บ ออกซิเจนให้อยู่ในปอดได้นานขึ้น การหายใจออกท้องต้องแฟบ และหน้าอกต้องนิ่ง ให้ฝึกบริหาร การหายใจในท่าดังกล่าว 5 ครั้งรั้ ทั้งทั้นี้เราอาจยกแขนไปตามจังหวะการหายใจเข้าออกร่วมด้วย เพื่อให้มีการขยายตัวของ ทรวงอกที่เพิ่มมากขึ้น สามารถทำ ได้โดย นั่งนั่หรือยืนไขว้มือด้านหน้า จากนั้นนั้ค่อยๆ ยกแขนกาง ออกพร้อมกับหายใจเข้าทางจมูกลึกๆ วางแขนลงพร้อมหายใจออกอย่างผ่อนคลาย ทำ ซ้าๆ 5 ครั้งรั้ เสริมความรู้ ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยวิธีการทางกายภาพบำ บัด 20 ต่อจากหน้า 19 เป็นอย่างไรบ้างครับ สำ หรับท่าบริหารที่นำ มาฝากผู้อ่านในฉบับนี้ การออกกำ ลังกายแต่ละ ประเภทและแต่ละท่านั้นนั้ ไม่ยาก แต่สิ่งที่สำ คัญคือ การเลือกท่าบริหารที่มีความเหมาะสม และมี ความปลอดภัยในแต่ละบุคคล รวมทั้งทั้จะต้องอาศัยความสม่ำ เสมอและความมีวินัยเพื่อให้ร่างกาย และสุขภาพของท่านดีขึ้นอย่างเห็นผลได้ชัดเจนนะครับ โดยท่านอาจจัดตารางการออกกำ ลังกาย ให้มีความหลากหลายเปลี่ยนสลับไปในแต่ละวัน ซึ่งท่าและวิธีการออกกำ ลังกายนั้นนั้มีหลากหลาย มาก ที่ท่านสามารถสืบค้นเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตามหากท่านบริหารท่าใด หรือออกกำ ลังกายด้วยวิธีใดแล้วมีอาการผิดปกติ ให้หยุดแล้วเข้าปรึกษานักกายภาพบำ บัดหรือ แพทย์ประจำ ตัวของท่านนะครับ กภ.วีระชัย จิตภักดี
ทดแทนปริมาณยา ด้วยการขยับร่างกาย คุณวิมล วรรณะพาหุณ 21 เล็กเป็นผู้ป่วยพาร์กินสันอายุน้อย ค่ะ เล็กเริ่มมีอาการพาร์กินสันเมื่ออายุ 48 ปี ซึ่ง คุณหมอที่ให้การรักษา บอกว่าเล็กต้องระมัดระวังเรื่องการกินยาเพราะหนทางยังอีกยาว ไกล เรื่องนี้ทำ ให้เล็กต้องคิดหนัก และได้ศึกษาชีวิตผู้ป่วยพาร์กินสันที่อายุยังน้อยหลายๆ คน ทำ ให้เล็กได้รู้ว่านอกจากการรับประทานยาแล้ว ยังมีวิธีการบำ บัดรักษาอาการพาร์กิน สันให้ การดำ เนินของโรคเป็นไปอย่างช้าๆ นั้นนั้คือการออกกำ ลังกาย เล็กมีความตั้งตั้ ใจ อย่างแน่วแน่ที่จะใช้ยาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำ ได้ เล็กจึงต้องอดทนและต่อสู้กับความขี้ เกียจที่จะต้องออกกำ ลังกาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากๆ กว่าเล็กจะมาถึงจุดนี้ได้ เล็กต้องปลุก เร้าตัวเองอยู่ตลอดเวลา กว่าเล็กจะเกิดความเคยชินกับการออกกำ ลังการที่ต้องทำ เป็น ประจำ ในวันนี้ เล็กเริ่มออกกำ ลังกายด้วยการไปวิ่งที่สวนเบญจกิติ รอบสระน้ำ ระยะทาง 1.8 กม. อย่างต่อเนื่องทุกเสาร์-อาทิตย์ อาการปวด เกร็ง ที่ต้นแขนได้หายไป เล็กคิดว่าเล็กเดินมา ถูกทางแล้ว จึงเริ่มขยับไปที่สวนหลวง ร.9 วิ่งรอบหนึ่ง 5 กม. เล็กได้พัฒนาการวิ่งจน สามารถเข้าร่วมแข่งขั้นขั้และได้เข้าแข่งฟูลมาราธอน 42.195 กม. เมื่อตัวโรคพัฒนา คือเป็นหนักมากขึ้น แต่ร่างกายที่แข็งแกร่งก็ยังเคลื่อนไหวได้ ยัง เดินทางท่องเที่ยวได้ แค่นี้เล็กก็พอใจแล้วค่ะ เล็กขอเชิญชวนพี่น้องผองเพื่อนชาวพาร์กี้มกี้าออกกำ ลังกายกัน เริ่มจากขยับเดินแกว่ง แขน แรกๆ เอาเบาๆก่อน 8 นาทีก่อนถ้าเป็นระยะทางประมาณ 0.5 กม. ทำ ต่อเนื่องทุกๆ วัน ต่อจากนั้นนั้ค่อยขยับมาเป็น 20 นาที ลองดูนะคะ นอกจากนี้เล็กอยากเชิญชวนให้มร ลองออกกำ ลังกายร่วมกันกับผู้ป่วยท่านอื่นๆ ดูบ้างนะคะทุกวันพุธที่ตึก ส.ธ. ชั้นชั้12 รพ.จุฬาลงกรณ์ ปัจจุบันแม้ว่าอายุของเล็กจะมากขึ้น รวมทั้งทั้จำ นวนตัวเลขของโรคพาร์กินสันที่มากขึ้น ตามอายุที่เพิ่มขึ้น แค่เล็กยังสามารถใช้ชีวิตได้เกือบเท่าคนปกติ ยังคงเดินทางท่องเที่ยวได้ โดยไม่ต้องเพิ่มยามากจนเกินไปเท่านี้เล็กก็พอใจแล้วค่ะ วิมล วรรณะพาหุณ "ขอบคุณนะคะ...ที่ออกกำ ลังกายทุกวัน..."
ตอบปัญหาพาร์กินสัน 22 อ่านต่อหน้า 23 "ใครจะคาดคิดว่าผู้สูงวัย และยังเป็นผู้ป่วยพาร์กินสัน จะมีปัญหาเรื่องเซ็กซ์" บ่ายของวันพุธวันหนึ่ง หลังจากเสร็จจากการจัดกิจกรรมผู้ป่วย ขณะเดินออกจากห้อง กิจกรรม มีผู้หญิงคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหาและถามว่า คุณมาริษาใช่ไหมคะ เมื่อฉันบอกว่า ใช่ค่ะ เธอบอกว่ามีปัญหาจะขอคำ ปรึกษา ฉันจึงได้เชิญเธอเข้าไปในห้องและปิดประตูเพราะ คิดว่าเธอคงมีปัญหาที่ต้องการคุยเป็นการส่วนตัว เมื่อนั่งนั่เรียบร้อยแล้ว เธอได้แนะนำ ตัวว่า สามีเธอเป็นผู้ป่วยพาร์กินสัน วันนี้เธอมาคนเดียวโดยสามีของเธอไม่ทราบว่าเธอมาหาฉัน ที่เธอรู้จักฉันเพราะมีเพื่อนโทรบอกกับเธอ และแนะนำ ให้เธอมาหาฉัน เธอนิ่งเหมือนกำ ลัง คิดอะไร แล้วเธอก็ถามฉันว่า แต่งงานหรือยัง เมื่อทราบว่าฉันแต่งงานแล้วและมีลูกแล้ว 3 คน เธอจึงได้เล่าปัญหาของเธอว่า เธอและสามีอยู่กับเพียงลำ พัง 2 คน เพราะไม่มีลูกด้วย กัน ปัจจุบันสามีเธออายุ 69 ปีส่วนเธออายุ 67 ปี ปกติสามีเธอจะสนใจเรื่องเซ็กซ์ เขาจะ ชอบดูหนังโป๊และจะมีเซ็กซ์กับเธอค่อนข้างบ่อย ตัวเธอไม่มีความต้องการอีกแล้ว แต่เธอ ต้องตอบสนองสามีของเธอเพราะกลัวเขาจะไปมีหญิงอื่น ฉันยังไม่เห็นปัญหาอะไรทุกอย่างก็ดูลงตัวดี ฉันถามเธอว่าอาการพาร์กินสันของสามี เธอเป็นอย่างไรบ้าง เธอว่าสามีเธอเริ่มมีความผิดปกติคือ มีอาการสั่นสั่ที่มือ และต่อมาเริ่ม ไม่ค่อยมีแรง เขาเป็นคนที่ชอบออกกำ ลังกายมาก จึงรู้สึกแย่ที่มีอาการสั่นสั่และไม่มีแรงเธอ ได้พาสามีไปหาหมอที่โรงพยาบาลตามสิทธิที่สามีสังกัดอยู่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐ(แต่ ไม่ใช่โรงพยาบาลจุฬาฯ) คุณหมอได้วินิจฉัยว่า เขาเป็นโรคพาร์กินสัน เมื่อได้ทานยาแล้ว อาการต่างๆ ดีขึ้น อย่างมาก เขาจึงเพิ่มยาเอง โดยไม่ได้บอกหมอโดยเฉพาะเวลาที่จะออกกำ ลังกายเขาจะ ทานยาเพิ่มทุกครั้งรั้ทำ ให้เขาออกกำ ลังกายได้นาน มาริษา โชคพัชรเวสน์
ตอบปัญหาพาร์กินสัน 23 อ่านต่อหน้า 24 ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเขาป่วยได้ประมาณ 2 ปี สามีเธอจะมีความต้องการทางเพศมาก และถี่ขึ้น แต่สภาพร่างกายมันไม่พร้อมคือไม่แข็งตัว สามีเธอจึงซื้อไวอากร้ามาทานเอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เมื่อทานไวอากร้าทำ ให้เขายิ่งหมกมุ่นในเรื่องเซ็กซ์มากขึ้น และที่ เป็นปัญหาที่ต้องมาปรึกษาคือ สามีเธอจะใช้ความรุนแรงกับเธออย่างมาก จนเธอทนไม่ไหว เมื่อเธอปฏิเสธ สามีก็จะทำ ร้ายร่างกายของเธอ ฉันแย้งไปว่าสามีคุณป่วยเป็นพาร์กินสัน และอายุมากแล้ว คงไม่มีแรงมากเท่าไหร่ คุณแค่ผลักเบาๆ เขาก็ล้มแล้ว เธอบอกว่าสามี เธอเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬา ปัจจุบันยังเล่นกีฬาเป็นประจำ และกีฬาที่เล่นคือว่ายน้ำ และดำ น้ำ จึงทำ ให้แข็งแรงมากเหมือนคนอายุ 50 ปี ได้ฟังปัญหาของเธอแล้ว รู้สึกเห็นใจเธอมาก แต่ฉันทำ ได้แค่แนะนำ เธอให้เล่าเรื่องราวทั้งทั้หมดให้คุณหมอที่รักษาสามีของเธอฟัง เผื่อว่า คุณหมอจะได้ปรับยา ซึ่งคิดว่าอาการของสามีเธอน่าจะดีขึ้น ผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายเหมือนกัน แต่อายุต่างกันมาก ผู้ป่วยชายท่านนี้อายุประมาณ 40 ปี ได้มาพบและขอคุยเป็นการส่วนตัว หลังจากเลิกกิจกรรมแล้ว เขาเล่าให้ฟังว่า เขา ป่วยเป็นพาร์กินสันมาเกือบ 10 ปีแล้ว แต่เขาไม่ค่อยกินยา คือกินบ้าง ไม่กินบ้าง เขาป่วย ได้เพียงไม่กี่ปีก็มีปัญหาเรื่องการไม่ตอบสนองต่อยา เขามีอาการก้าวเท้าไม่ออกอยู่เสมอ ทำ ให้เขาต้องมีคนดูแล เนื่องจากเวลาออฟยา จะช่วยตัวเองไม่ได้เลย ครอบครัวเขาจึงได้ จ้างคนมาดูแลเขา โดยผู้ดูแลจะอยู่กับเขาตลอดเวลาทั้งทั้เวลากลางวันและเวลากลางคืน ทำ ให้มีปัญหากับผู้ดูแลในเรื่องชู้สาวอยู่เสมอๆ ส่วนใหญ่จะขอทรัพย์สินเงินทองจากเขา แล้วก็ลาออก เขาจะเสียใจทุกครั้งรั้แต่เขาไม่เคยเข็ด เขาจะชอบผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาใกล้ ชิดเขา เรื่องต่างๆเหล่านี้เขาไม่คิดว่าเป็นปัญหา แต่ที่เขาคิดว่าเป็นปัญหาคือ เวลาเขาเห็นผู้ หญิงเขาจะมีความต้องการทางเพศขึ้นมาทันที เขาเล่าว่าหลายวันก่อนเขานั่งนั่อยู่ในรถและ มีผู้หญิงซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าเขาไป เขาบอกว่าเขามีความรู้สึกต้องการทางเพศขึ้น มาทันที หลังจากนั้นนั้เขาไปเดินเล่นในตลาดนัด มีผู้หญิง 2 คนเดินผ่านหน้าเขา เขามีความ ต้องการขึ้นมาทันทีเช่นกัน แต่สิ่งที่เขาตกใจมากคือเขามีความรู้สึกกับน้องสาวแท้ๆของ เขาเอง เขาไล่กอดและขอมีเพศสัมพันธ์กับน้องสาวของเขา ทำ ให้น้องสาวของเขาตกใจ มากและพยายามอยู่ห่างเขา เขาบอกว่าเขามีความวิตกและกังวลกับสิ่งที่เกิดขึึึ้นนี้อย่าง มาก ต้องการความช่วยเหลือ แต่เขาไม่กล้าเล่าให้คุณหมอที่รักษาเขาฟัง ต่อจากหน้า 22
ตอบปัญหาพาร์กินสัน 24 ปัญหาที่เกิดกับผู้ป่วยพาร์กินสันทั้งทั้สองรายนี้ เกิดจากอะไรและต้องแก้ไขอย่างไร ฟัง คำ ตอบจากคุณหมอปรียา จาโกต้า กันนะคะ ถาม คุณหมอคะ ขอเรียนถามคุณหมอเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยชายทั้งทั้สองท่าน เกิดจากสาเหตุอะไรคะ 1.เกิดจากพื้นฐานเดิมของผู้ป่วยเองที่เป็นคนมักมากในเรื่องกามอารมณ์ 2.เกิดจากตัวโรคพาร์กินสัน 3.เกิดจากตัวยารักษาโรคพาร์กินสัน ตอบ อาการดังกล่าว อาจเกิดได้จากยารักษาโรคพาร์กินสัน หรืออาจเกิดจากตัวโรคเองก็ได้ แต่ในกรณีนี้น่าจะเกิดจากตัวยามากกว่า เพราะอาการเพิ่มขึ้นหลังจากได้การรักษา ควรแจ้ง แพทย์เพื่อที่แพทย์จะได้ปรับยา ถาม คุณหมอคะ หากเกิดปัญหานี้ขึ้น คุณหมอมีคำ แนะนำ ให้กับครอบครัวและผู้ดูแล ในการปฏิบัติตนและปฏิบัติต่อผู้ป่วยอย่างไรบ้างคะ ตอบ อย่างแรกเลยควรทำ ความเข้าใจเรื่องโรค และเรื่องผลข้างเคียงของยา ไม่ตำ หนิผู้ ป่วย แต่ให้แสดงความเข้าใจ ผู้ป่วยจะได้ไม่รู้สึกผิด และกล้าเล่าปัญหาต่างๆให้ฟัง และเมื่อ พบแพทย์ ควรแจ้งอาการให้แพทย์ทราบและติดตามอาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิดหลัง ปรับยา ยกตัวอย่างเพียงสองรายก็คงจะทำ ให้ท่านผู้อ่านนึกภาพออกแล้วนะคะ โรคพาร์กินสัน ไม่เพียงแค่มีอาการสั่นสั่เท่านั้นนั้แต่ยังมีปัญหาอื่นๆ ที่คาดไม่ถึงอีกมากมาย ผู้เขียนจะ พยายามนำ ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยพาร์กินสัน มาลงในคอลัมน์นี้ เพื่อแบ่งปันความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน สำ หรับท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน และต้องการแบ่งปันข้อมูล หรือต้องการความช่วยเหลือ ส่งปัญหาของท่านมาได้ที่ E-mail : [email protected] ต่อจากหน้า 23 มาริษา โชคพัชรเวสน์
สิ้นสิ้สุดการรอคอย…ในที่สุดการเดินทางไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ของเราก็เริ่มต้นขึ้น วันนี้เป็น เช้าวันอาทิตย์ ยังไม่ถึงเวลาเคารพธงชาติดีเราทั้งทั้หมด 7 คน (นับรวมโชเฟอร์ผู้เจนเส้นทาง เข้าไปด้วย) ก็นั่งนั่ประจำ ที่อยู่บนรถตู้ 12 ที่นั่งนั่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สัดส่วนผู้ป่วยต่อผู้ดูแล กำ ลังดีอยู่ที่ 2:1 จุดหมายปลายทางของเรา คือ Stella Moonlight Khaoyai บ้านพักพูลวิลล่า บนถนนเขาใหญ่-วังน้ำ เขียว วัตถุประสงค์ของการเดินทางที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2565 นั้นนั้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าความต้องการท่องเที่ยว พักผ่อน เปลี่ยน บรรยากาศ หลังจากที่เราต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์โควิดมากว่า 3 ปีแล้ว และถือโอกาส ประชุมงานกิจกรรมชมรมฯนอกสถานที่ไปด้วย แม้ว่าเราจะเคยร่วมเดินทางกับเพื่อนผู้ป่วยในชมรมเพื่อนพาร์กินสันกันมาบ้างแล้ว แต่ คราวนี้แตกต่างจากทุกครั้งรั้ที่ผ่านมาเพราะจะเป็นการเดินทางครั้งรั้แรกในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) หลังจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่อนคลายลง ยิ่งไป กว่านั้นนั้สำ หรับผู้ป่วยผู้สูงวัยพาร์กินสันแล้ว การตัดสินใจเข้าร่วมทริป ย่อมหมายถึงการ ยอมรับว่าจะพาเจ้าพาร์กี้ (ที่เติบโตขึ้นกว่าทริปก่อนๆ) เข้าสะเอวไปดัวย …หลอนเสียยิ่งกว่า ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ อีก (สำ หรับคุณผู้อ่านที่สงสัย…ชัตเตอร์ฯ เป็นภาพยนตร์ไทยแนว สยองขวัญที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากในอดีตค่ะ โดย Climax ของเรื่องจะเป็นฉากที่เฉลยว่า อาการปวดคอของพระเอกนั้นนั้มาจากการที่มีวิญญาณของนางเอกขี่คออยู่ตลอดเวลา บรื๋ยยยยย) มาถึงตรงนี้…คำ ถามเดิมๆ ก้องขึ้นมาในหัวทันที…ผู้ป่วยพาร์กินสันจะเดินทางได้ ไหม???และ จะต้องเตรียมตัวเตรียมใจอย่างไร??? พาร์กี้ พากิน พาเที่ยว "เที่ยวเขาใหญ่กับพาร์กี้ก๊ กี้ ก๊ วน" คุณรัชนีวรณ เปล่งศรี 25 อ่านต่อหน้า 26
พาร์กี้ พากิน พาเที่ยว "เที่ยวเขาใหญ่กับพาร์กี้ก๊ กี้ ก๊ วน" 26 ต่อจากหน้า 25 อ่านต่อหน้า 27 ผู้ร่วมเดินทางทุกคน รวมทั้งทั้ โชเฟอร์ จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วตาม จำ นวนครั้งรั้ที่เหมาะสม มีผลตรวจ ATK เป็น negative ก่อนการเดินทาง และไม่อยู่ ระหว่างกักหรือแยกตัวเพื่อสังเกตอาการติดเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยฯที่ร่วมเดินทาง ต้องมีอาการพาร์กินสัน หรืออาการของโรคประจำ ตัวอื่นคงที่ ใน ช่วง 1-2 เดือนก่อนการเดินทาง ผู้ร่วมทริปจะต้องมีวินัยในการดูแลตนเองระหว่างเดินทาง เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เตรียมยาไปให้ครบ และเกินจำ นวนวันที่เดินทาง เผื่อกรณีฉุกเฉิน ทาน อาหารเป็นเวลา เตรียมของว่างไว้เผื่อกันหิว ดื่มน้ำ ให้เพียงพอ ไม่กลั้นลั้ปัสสาวะเป็นอัน ขาด เมื่อรู้สึกเหนื่อยก็พัก ไม่ฝืนทำ กิจกรรมต่างๆ ฯลฯ เลือกสถานที่เดินทางที่เอื้ออำ นวย ในที่นี้เขาใหญ่ถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะไม่ไกลจาก กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน เวลาและอากาศไม่แตกต่างจากที่เราเผชิญอยู่ใน ปัจจุบัน ผู้ร่วมเดินทาง ควรจะเตรียมพร้อมร่างกายอย่างน้อย 2-3 อาทิตย์ล่วงหน้า เช่นฝึกเดิน ช้าๆ ฝึกยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และอาจทำ ต่อเนื่องในระหว่างเดินทาง เพื่อไม่ให้เกิด อาการปวดเมื่อยเป็นของแถมหลังการเดินทางสิ้นสิ้สุดลง จากที่เกริ่นมาคุณผู้อ่านย่อมรู้แล้วว่าอย่างไรเสียเราก็ไม่มีทางพลาดกิจกรรมที่ดีต่อใจ เช่นนี้เป็นแน่ ดังนั้นนั้มาดูกันดีกว่าค่ะว่า เราสำ รวจประเมินความพร้อมของตนเองก่อนที่จะ เดินทางกันอย่างไรบ้าง น่าทึ่งที่ทุกคนเห็นความสำ คัญและพร้อมจะให้ความร่วมมือเต็มที่ใน เรื่องต่อไปนี้
พาร์กี้ พากิน พาเที่ยว "เที่ยวเขาใหญ่กับพาร์กี้ก๊ กี้ ก๊ วน" 27 ต่อจากหน้า 26 อ่านต่อหน้า 28 เตรียมตัวกันขนาดนี้ ไม่พร้อมก็ให้มันรู้ไปนะคะ …ระหว่างทาง เครื่องดื่ม ของว่าง และ เกมที่จัดเตรียมไว้ได้ถูกทยอยนำ มาให้บริการแก่สมาชิกร่วมทาง สลับกับการแวะพักยืดเส้น ยืดสายแต่ละจังหวัดที่เป็นทางผ่าน ตั้งตั้แต่จุดแรก ร้านข้าวแกงบ้านสวน จังหวัด พระนครศรีอยุธยาศูนย์รวมของอร่อยทั้งทั้คาวและหวานตามด้วยการแวะกราบนมัสการองค์ พระพุทธรูป และมหาวิหารทรงบาตรคว่ำ ที่วัดพระพุทธแสงธรรม จังหวัดสระบุรี หลังจาก สนุกกับเกมลูกโซ่กันเต็มที่แล้ว เราก็แวะสูดอากาศบริสุทธิ์เ ธิ์ ข้าปอดกันที่ อ่างเก็บน้ำ ตอนบน โรงไฟฟ้าลำ ตะคองชลภาวัฒนา (กังหันลม เขายายเที่ยง) ที่อำ เภอสีคิ้วคิ้จังหวัดนครราชสีมา และเมื่อได้เวลาอาหารกลางวัน เราพร้อมใจกันฝากท้องที่ครัวน่านน้ำ อำ เภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะมุ่งตรงเข้าที่พัก ซึ่งอันที่จริง การเดินทางจะใช้เวลาไม่นาน ถ้า ไม่ขับไปผิดที่ พลาดเป้าไป 40-50 กิโลเมตร (เท่านั้นนั้เองค่ะ 555…สำ หรับคุณผู้อ่านที่คิดจะ ตามรอยเราไป กรุณาตั้งตั้ค่า GPS ไปที่ Stella Moonlight ไม่ใช่ Stella Pool Villa เหมือน ที่เราปักหมุดไว้ผิดในตอนแรกนะคะ) อย่างไรก็ตามเมื่อถึงที่หมาย ภาพ Stella Moonlight Khaoyai ท่ามกลางเมฆหมอก ขุนเขา ก็ทำ ให้ความเหนื่อยเมื่อยล้า (นิดหน่อย) ในการเดินทางมลายหายสิ้นสิ้ทันที บ้านพัก พูลวิลล่าแห่งนี้อยู่ในเขตอำ เภอโป่งตาลอง จังหวัดนครราชสีมา แต่ละหลังมีชื่อ ขนาด และ รูปทรงบ้านแตกต่างกัน ที่เหมือนกันคือ ตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟท์ มีสิ่งอำ นวยความสะดวก ครบครัน ได้บรรยากาศธรรมชาติของบ้านในอ้อมกอดของทิวเขา วิวพาโนรามา 360 องศา ฟ้าสวย (…ชวนให้อยากวาดรูป) กลางคืนและเช้ามืด อากาศเย็นสบาย สำ หรับพูลวิลล่า มี สระน้ำ ล้นระบบเกลือ (…ชวนให้นึกถึงวารีบำ บัด Hydro/Aquatherapy หรือ การออกกำ ลัง กายในน้ำ เป็นที่สุด) ระเบียงกว้างขวาง มีเตาปิ้งย่าง พร้อมถ่านเตรียมไว้ให้ด้วย (…ชวนให้ จัดปาร์ตี้บตี้าร์บีคิว หมูกระทะ อย่างยิ่ง)
เราเตรียมอาหารมื้อเย็นเป็นข้าวหน้าแกงกะหรี่ไก่ ราดน้ำ อาจาดครบรส ปรุงสำ เร็จมา จากครัวบ้านคุณหมู (หนึ่งในสมาชิกผู้ร่วมเดินทางครั้งรั้นี้) ที่บ้านพักเขียนข้อตกลงไว้ว่า ห้ามผู้เข้าพักออกจากบ้านพักในเวลากลางคืน ห้ามส่งเสียงดัง หลัง 22:00 น. เพื่อไม่ให้ รบกวนธรรมชาติ ที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ เนื่องจากสถานที่พักนี้ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขา ใหญ่ และใกล้พระตำ หนักทิพย์วิมาน ในสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัย ลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งนับว่าเราเป็นผู้เข้า พักที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบมาก เพราะเข้านอนกันไม่เกินสามทุ่มครึ่ง และตื่นมารวมตัวกัน อีกที 6 โมงครึ่งเช้า ตลอดการเข้าพัก ในวันที่สองของทริป หลังจากทานข้าวต้มหมู ซึ่งเป็นบริการจากที่พักแล้ว เราก็ใช้เวลา ช่วงเช้าเล่นเกมชาเย็น ปริศนาฟ้าแลบ ร้องเพลงคาราโอเกะ วาดรูป เล่นน้ำ ออกกำ ลังกาย ยืดเหยียดตามอัธยาศัย ก่อนจะพักรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ทั้งทั้ส้มตำ ผลไม้ หมี่ กรอบ หมูแดดเดียว หมูหยองกรอบอัดแท่ง…จัดไป บ่ายนั้นนั้เราใช้เวลาในการประชุมแผนงาน ชมรมฯ ตบท้ายมื้อเย็นด้วยอาหาร Room Service ไม่ต้องนั่งนั่รถออกไปข้างนอกแต่อย่างใด คุณผู้อ่านจะสังเกตว่า การเดินทางครั้งรั้นี้พวกเราได้พักผ่อนจริงจัง ไม่มีกิจกรรมบังคับ ทำ ให้นึกถึง The Art of Niksen ศิลปะของการไม่ทำ อะไรเลย ซึ่งขยายความได้ว่าเป็นการมี สติอยู่กับปัจจุบัน โดยสมองเราไม่จำ เป็นต้องคิดถึงเรื่องตรงหน้า เป็นการปล่อยจิตใจให้อิสระ แก่นแท้ของแนวคิดนี้เป็นการสร้างพลังและความสุขจากการไม่ทำ อะไร เช่นการนั่งนั่เฉยๆ มองวิวนอกหน้าต่าง นอนมองเพดาน หรือ อยู่ในอริยาบทใดอริยาบทหนึ่ง โดยไม่มีวัตถุประ สงค์ใดๆ แม้เรายังไม่ถึงขั้นขั้นั้นนั้เพราะยังมีจิตใจจดจ่อกับกิจกรรมตรงหน้า เช่น ร้องเพลง คาราโอเกะ เล่นเกมสันทนาการ แต่เราก็พบว่าการพักผ่อนเช่นนี้สร้างพลังงานความสุข และ เติมพลังบวกให้กับชีวิตได้อย่างดี พาร์กี้ พากิน พาเที่ยว "เที่ยวเขาใหญ่กับพาร์กี้ก๊ กี้ ก๊ วน" 28 ต่อจากหน้า 27 อ่านต่อหน้า 29
สองคืนผ่านไป ไวเหมือนโกหก ต้อนรับเช้าวันที่สามด้วยข้าวต้มหมู จากที่พัก แล้วเรา ก็ออกไปเดินชมวิว กินบรรยากาศ ชักภาพ ไว้ทั้งทั้ ใน SD XD และ Memory Heart ของ แต่ละคนอย่างอิสระ (ใช่ค่ะ…อ่านไม่ผิดค่ะ เราบันทึกภาพลงทั้งทั้ ใน Memory Card การ์ด หน่วยความจำ และ Memory Heart ความทรงจำ ซึ่งไม่อาจลืม จริงๆ) ระหว่างเดินเล่นรับ อากาศเช้าวันใหม่ เราอดไม่ได้ที่จะคอยเตือนกันให้ระมัดระวังก้าวการเดินบนพื้นลาดชัน ต่างระดับ เนื่องจากผู้ป่วยและผู้สูงวัยพาร์กินสันมักมีภาวะการทรงตัวที่ไม่ดีนัก และ แล้ว…เผลอแพล็บเดียวก็ถึงเวลาโบกมือลาทั้งทั้Stella Lapin และ Stella Viva บ้านพักสอง หลังที่เราได้มาพักอย่างอบอุ่นปลอดภัย ทั้งทั้ยังฝากรอยยิ้มยิ้และเสียงหัวเราะกันไว้เสียแล้ว เสียงหนึ่งในผู้ร่วมเดินทางดังขึ้นมาว่า “ขอบคุณสถานที่ ขอให้ได้กลับมาพักอีกนะ” เรา ต่างก็นิ่ง…ท่วมท้นด้วยความรู้สึกดีๆอย่างบอกไม่ถูก ระหว่างทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เราแวะเติมพลังก่อนเลยด้วยมื้อกลางวันที่ร้านอาหาร เป็นลาว เมื่ออิ่มท้องแล้วตามธรรมเนียมก็ถึงคิวของฝากเราแวะร้านข้าวโพดหวานไร่ สุวรรณ และร้านกระหรี่ปั๊บเจ๊หมวย จากนั้นนั้จึงเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ก่อนจากกันเรา สรุปค่าใช้จ่ายและหารกันอย่างลงตัว การเดินทางครั้งรั้นี้ไม่มีความคาดหวังในเรื่องอะไร เฉพาะเจาะจง แต่กลับเป็นทริปที่มีความสุข สนุกแบบเรียบง่าย ถ้อยทีถ้อยอาศัย สร้าง สัมพันธ์อันดีในหมู่คณะกรรมการและทีมงานชมรมฯด้วยกันเป็นอย่างดี ขอขอบคุณผู้ร่วม เดินทางทุกท่านที่ทำ ให้ทริปนี้มีความหมาย และจะอยู่ในความทรงจำ ของเราตลอดไป มา ถึงบรรทัดนี้ทราบแล้วใช่มั้ยมั้คะว่าผู้ป่วยพาร์กินสันก็เดินทางได้ เพียงแต่ควรเตรียมความ พร้อมในบางเรื่องที่สำ คัญนะคะ แล้วพบกันใหม่เมื่อล้อหมุนอีกครั้งรั้ค่ะ จะคอยส่งข่าว สำ หรับทริปต่อๆไปนะคะ พาร์กี้ พากิน พาเที่ยว "เที่ยวเขาใหญ่กับพาร์กี้ก๊ กี้ ก๊ วน" 29 ต่อจากหน้ 28 รัชนีวรรณ เปล่งศรี
30
ศาสตราจารรย์นายแพทย์ รุ่งโรจน์ พิทยศิริ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ชมรมเพื่อนพาร์กินสัน ส่งมอบภาพวาดสีนำ้ ผลงานผู้ป่วยพาร์กินสันให้กับ บริษัทษัเอ็มพี กรุป จำ กัด เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2023 31
ภ า พ ว า ด สี น้ำ รู ป ด อ ก ทิ ว ลิ ป ผ ล ง า น ผู้ ป่ ว ย พ า ร์ กิ น สั น ส อ นโ ด ย คุ ณ ค รู ว นิ ก ม โ น มั ย พิ บู ล ย์ วั น ที่ 1 1 เ ม ษ า ย น ข อ ง ทุ ก ปี เ ป็ น วั น พ า ร์ กิ น สั นโ ล ก แ ล ะ เ ป็ น วั น ค ล้ า ย วั น เ กิ ด ข อ ง น พ.เ จ ม ส์ พ า ร์ กิ น สั น โ ร ค พ า ร์ กิ น สั น เ ป็ นโ ร ค ที่ รู้ จั ก กั น ค รั้ งรั้ แ ร ก ใ น ว ง ก า ร แ พ ท ย์ เ มื่ อ ปี ค.ศ. 1 8 1 7 โ ด ย แ พ ท ย์ ช า ว อั ง ก ฤ ษ ชื่ อ J a m e s P a r kin s o n ซึ่ ง ชื่ อ ข อ ง โ ร ค พ า ร์ กิ น สั น นี้ ก็ ไ ด้ ม า จ า ก น า ม ส กุ ล ข อ ง น า ย แ พ ท ย์ เ จ ม ส์ ที่ เ ป็ น ค น ค้ น พ บ ค น แ ร ก นั่ นนั่เ อ ง โ ด ย ใ ช้ ด อ ก ทิ ว ลิ ป สี แ ด ง เ ป็ น สั ญ ลั ก ษ ณ์