Belgium
ราชอาณาจักรเบลเยียม คำว่าเบลเยียม มีที่มาจาก Gallia Belgica ซึ่งเป็นจังหวัดในยุคโรมัน
มีกลุ่มชาว Belgae อยู่อาศัย และยังมีรากศัพท์มาจากภาษาละติน โดยมีที่มาจากเหตุการณ์ สง
ครามกอล ซึ่งนำโดย จูเลียส ซีซาร์ เพื่อใช้เรียกพื้นที่ในละแวกนี้ในช่วง ค.ศ. 55
สภาพภูมิประเทศ
ทิศเหนือ ติดเนเธอร์แลนด์และทะเลเหนือ
ทิศตะวันออก ติดเยอรมนีและลักเซมเบอร์ก
ทิศตะวันตก ติดทะเลเหนือ
ทิศใต้ ติดฝรั่งเศส
พื้นที่
30,528 ตารางกิโลเมตร (พื้นดิน 30,278 ตารางกิโลเมตร น้ำ 250 ตารางกิโลเมตร) มี
ขนาดพื้นที่เล็กกว่าประเทศไทย 17 เท่า (ประเทศไทย 5.13 แสนตารางกิโลเมตร) มีส่วน
กว้างที่สุดของประเทศ 280 กิโลเมตร มีระดับความสูงประมาณ 100 เมตรจากระดับน้ำ
ทะเลปานกลาง
สภาพภูมิอากาศ
1) ลักษณะโดยทั่วไป ความชื้นสูง อากาศค่อนข้างเย็น มีฝนตกตลอดปี อุณหภูมิโดยเฉลี่ย
ประมาณ 9 – 15 องศาเซลเซียส ต่อเดือน
2) ฤดูใบไม้ผลิ มีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 6 – 14 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน
มิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 16 – 18 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ร่วง กันยายน -
พฤศจิกายน อุณหภูมิเฉลี่ย 5 – 15 องศาเซลเซียส ฤดูหนาว ตุลาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิ
เฉลี่ย 2 – 5 องศาเซลเซียส
3) อุณหภูมิสูงสุด ในเดือนกรกฎาคม และเย็นสุด ในเดือน มกราคมและกุมภาพันธ์
เมืองสำคัญ
เมืองหลวง กรุงบรัสเซลส์(Brussels)
เมืองสำคัญ กรุงบรัสเซลล์ เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า เป็นที่ตั้งของ
องค์การ สนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) เป็นที่ตั้งสำนักงาน ใหญ่และหน่วย
งานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (European Commission) และ รัฐสภายุโรป
(European Parliament)
เมือง แอนท์เวิร์ป (Antwerp) เขต Flanders
เป็นเมืองท่าส้าคัญ และเป็นศูนย์กลางสายรถไฟที่ส้าคัญแห่งหนึ่ง ของสหภาพยุโรป เป็น
ศูนย์กลางการค้าอัญมณี และมีอุตสาหกรรม ประกอบรถยนต์
(Ghent) เป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และสถาปัตยกรรมในยุค
กลางได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ อนุสาวรีย์ และพิพิธภัณฑ์ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็น
อย่างดีตั้งแต่สมัยก่อน
(Bruges) เป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ฟลานเดอร์ มีความสำคัญทางประวัติศาตร์และ
ศิลปะมากมาย นอกจากนี้ยังโดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคแบบดั้งเดิมอีกด้วย เมือง
บรูจส์ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงทางด้านการค้าและวัฒนธรรมของยุโรป ถ้ามาเที่ยวเมืองนี้ เราจะ
ได้พบกับความสวยงามของลำคลองมากมาย ซึ่งลำคลองพวกนี้ถูกใช้ในการคมนาคมขนส่ง
ต่างๆ จนทำให้เมืองบรูจส์ได้รับการขนานนามว่า “The Venice of north
การแบ่งเขตการปกครอง
รัฐธรรมนูญเบลเยี่ยมเป็น สหพันธ์รัฐ (Federal State) ประกอบไปด้วย กลุ่มคนจากการ
พูดภาษา (Linguistic Community) และ กลุ่มทางด้านพื้นฐานทาง เศรษฐกิจ
(Region)
- กลุ่ม Linguistic Community: คือกลุ่มที่มีภาษาและ วัฒนธรรมเหมือนกัน ประกอบ
ไปด้วย 3 กลุ่ม คือ กลุ่มภาษาดัชช์ (Flemish Community) กลุ่มภาษาฝรั่งเศส
(French Community) และ กลุ่มภาษาเยอรมัน (German Speaking Community)
- กลุ่ม Rigion: แบ่งออกเป็น 3 เขต (Regions) ได้แก่ เขตบรัส เซลล์(Brussels) ใช้
ภาษาฝรั่งเศส เขตวัลลูนหรือวัลโลเนีย (Wallonne) ใช้ภาษาฝรั่งเศส และเยอรมนี
บริเวณชายแดนด้านที่ ติดเยอรมนีและเขตเฟลมมิส หรือ ฟลานเดอร์ (Flemish,
Flanders) ใช้ภาษาดัชช์
ประชากร
11.1 ล้านคน
การเมืองการปกครอง
เบลเยียมปกครองแบบ สหพันธ์รัฐ (Federal States) ก้าหนดให้มีการบริหารแบ่ง ออก
เป็น 3 ระดับได้แก่ ระดับส่วนกลาง (Federal level) ระดับเขต (Regional Level) และ
ระดับกลุ่มทางภาษา (Linguistic community Level) และรัฐสภายุโรป รัฐธรรมนูญ
แบ่งแยกอำนาจการปกครองในเบลเยียมออกเป็น 3 ฝ่าย คือ อำนาจบริหาร อำนาจ
นิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ
ภาษา
เบลเยี่ยมมีภาษาทางราชการ 3 ภาษาคือ ภาษาดัชท์ (60%) ภาษาฝรั่งเศส (40%) และ
ภาษาเยอรมัน (น้อยกว่า 1 %)
ศาสนา
ศาสนาคริสต์นิกาย Roman Catholic 75%, โปรแตสแตนท์, ออโธด๊อกซ์, ยิว และ
อิสลาม และอื่นๆ 25%
สกุลเงิน
ยูโร (EURO)
วัฒนธรรม
ชุมชนเบลเยียมมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นกลุ่มภาษา การพัฒนาวัฒนธรรมร่วม
กันยังคงมีอุปสรรคอยู่มาก สถานศึกษาเกือบทั้งหมดมักพูดภาษาฝรั่งเศสหรือภาษาดัตช์อย่างใด
อย่างหนึ่ง ไม่มีสื่อร่วมกัน ไม่มีองค์กรวัฒนธรรมหรือวิทยาศาสตร์ใดที่ทั้งสองกลุ่มตั้งร่วมกัน
ด้านศิลปะ
ฟลานเดอส์เป็นแหล่งกำเนิดของจิตรกรที่มีชื่อเสียงหลายยุคสมัย ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 และ
16 บริเวณยุโรปเหนือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา จิตรกรชาวเฟลมิช
คนสำคัญของยุคนี้ประกอบไปด้วย ยัน ฟัน ไอก์, โรเคียร์ ฟัน เดอร์ไวเดิน และปีเตอร์ เบรอเคิล
(ผู้พ่อ) ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ฟลานเดอส์มีจิตรกรที่มีชื่อเสียงมากของยุคคือ เปเตอร์
เปาล์ รือเบินส์ และอันโตนี ฟัน ไดก์
ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20 เบลเยียมเกิดรูปแบบและสำนักแตกต่างกันมากมาย มีจิตรกร
ที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติเช่น เจมส์ เอนซอร์ และเรเน มากริตต์ นอกจากนี้ เบลเยียมยังมี
สถาปนิกชื่อดังสองคน ซึ่งเป็นศิลปินอาร์ตนูโวคนแรก ๆ คือวิกตอร์ ฮอร์ตา และอ็องรี ฟัน
เดอแฟ็ลเดอเบลเยียมยังเป็นต้นกำเนิดของแซกโซโฟน ประดิษฐ์โดยอดอล์ฟ แซกซ์ ในปีพ.ศ.
2483
ด้านประเพณี
ตลอดปี เบลเยียมมีงานเทศกาลท้องถิ่นจำนวนมาก ขบวนยักษ์และมังกรในหลายเมืองของ
เบลเยียมได้รับการยอมรับในประกาศผลงานชิ้นเอกมุขปาฐะและมรดกทางวัฒนธรรมที่จับ
ต้องไม่ได้ (อังกฤษ:Masterpieces of the Oral and Intangible Heritage of Humanity)
ของยูเนสโก ได้แก่ อัต, บรัสเซลส์, เดนเดอร์โมนเดอ, เมเคอเลิน และมงส์ งานเทศกาลที่
สำคัญในเบลเยียมอีกอย่างหนึ่ง คือวันนักบุญนิโคลัส 6 ธันวาคม เรียกในภาษาดัตช์ว่าซิน
เตอร์กลาส (Sinterklaas)
ด้านอาหาร
ชาวเบลเยียมเป็นที่รู้กันดีว่าชื่นชอบวัฟเฟิลและมันฝรั่งทอดเฟรนช์ฟรายส์ ซึ่งมีการสันนิษฐานว่า
มีต้นกำเนิดจากประเทศนี้ อาหารสำคัญของประเทศอีกอย่างหนึ่งคือหอยแมลงภู่ เสิร์ฟร่วมกับ
มันฝรั่งทอด เบลเยียมมีชื่อเสียงในด้านการผลิตช็อกโกแลต โดยมียี่ห้อช็อกโกแลตหลายยี่ห้อที่
มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เช่น โกไดวา, Neuheus และ Guylian นอกจากนี้ เบลเยียมยังเป็นประเทศ
ที่นิยมเบียร์ มีเบียร์มากกว่า 1,100 ชนิด เอบีอินเบฟ เครือบริษัทผู้ผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่ที่มียอด
จำหน่ายเบียร์สูงสุดในโลกมีสำนักงานอยู่ที่เมืองเลอเฟิน
Do
1.เบลเยี่ยมสามารถสมรสระหว่างเพศเดียวกันได้โดยไม่ผิดกฏหมาย
2.ถ้าหากไปเที่ยวประเทศเบลเยี่ยมสามารถสอบถามเส้นทางหรือสอบถามข้อมูลต่างๆได้โดยไม่
ถือว่าเป็นเรื่องเสียมารยาท คนเบลเยี่ยมจะช่วยทันทีที่เอ่ยถามข้อมูลสถาที่ต่างๆ
3.สามารถแต่งงานเมื่ออายุยังน้อยตำ่สุด20ปีได้ โดยที่ไม่มองว่าเป็นเรื่องที่แปลกหรือผิดปกติ
Don't
1.ห้ามล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของคนเบลเยี่ยมเด็ดขาด เพราะชาวเบลเยี่ยมเข้มงวดเรื่องการให้พื้นที่
ส่วนตัวของตนเองและผู้อื่นมาก
2.ห้ามเทของเหลวลงในถังขยะเด็ดขาด เพราะถือว่าผิดกฏหมายและมีโทษถึงขั้นปรับ
3.เมื่อนัดพบกับบุคลลอื่นต้องตรงต่อเวลาห้ามเหลทสายเด็ดขาด เพราะชาวเบลเยี่ยมให้ความสำคัญ
กับการตรงต่อเวลาอย่างมากและส่วนมากเวลามีนัดกันคนเบลเยี่ยมจะมาก่อนเวลาอย่างน้อย3นาที
4.ห้ามชาวต่างชาติและชาวเบลเยี่ยมแต่งงานกันถ้าหากไม่ไ้ด้รับการอนุมัติการสมรสเด็ดขาดจะถือว่าผิ
ดกฏหมายสำหรับประเทศเบลเยี่ยม
5.ห้ามทิ้งหรือวางขยะเรี่ยราด ถ้าหากทำถือว่าเป็นการผิดกฏหมายเช่นกันและมีโทษปรับ เพราะเบลเยี่ยมให
ความสำคัญกับเรื่องขยะเป็นอย่างมาก
6.เมื่อไปอยู่ในประเทศเบลเยี่ยมไม่สามารถนับถือศาสนาอิสลามได้
Thank you