The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์

หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์

B C - G P 1 / 1 หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ พิมพิพ์ชพ์นก เสือสืชัอชัย


1. เอกภาพ ความเป็น ป็ อันหนึ่งนึ่อันเดียดีวกันขององค์ ประกอบศิลป์ทั้ป์ ทั้งทั้ด้าด้นรูปรูลักษณะและด้าด้น เนื้อนื้หาเรื่อรื่งราว เป็น ป็ การประสานหรือรืจัดจั ระเบียบีบของส่วส่นต่าง ๆให้เห้กิดความเป็น ป็ หนึ่งนึ่ เดียดีว เพื่อพื่ผลรวมอันไม่อม่าจแบ่งบ่แยกส่วส่นใด ส่วส่นหนึ่งนึ่ออกไป 02


1. ดุลดุยภาพแบบสมมาตร (Symmetry Balance) หรือรืความสมดุลดุแบบซ้าซ้ยขวา เหมือมืนกัน คือ การวางรูปรูทั้งทั้ สองข้าข้งของแกนสมดุลดุ เป็นป็การสมดุลดุแบบธรรมชาติ ลักษณะแบบนี้ในี้ นทางศิลปะมี ใช้น้ช้อน้ย ส่วส่นมากจะใช้ใช้น ลวดลายตกแต่ง ในงาน สถาปัตยกรรมบางแบบ หรือรื ในงานที่ต้องการดุลดุยภาพที่ นิ่งนิ่และมั่นมั่คงจริงริๆ 2. ดุลดุยภาพแบบอสมมาตร (Asymmetry Balance) หรือรืความสมดุลดุแบบซ้าซ้ยขวา ไม่เม่หมือมืนกัน มักมัเป็นการ สมดุลดุที่เกิดจาการจัดจั ใหม่ขม่อง มนุษนุย์ ซึ่งซึ่มีลัมี ลักษณะที่ทาง ซ้าซ้ยและขวาจะไม่เม่หมือมืนกัน ใช้ องค์ประกอบที่ไม่เม่หมือมืนกัน แต่มีคมีวามสมดุลดุกัน อาจเป็น ความสมดุลดุด้วด้ย น้ำ หนักนัของ องค์ประกอบ หรือรืสมดุลดุด้วด้ย ความรู้สึรู้กสึก็ได้ การจัดจัองค์ ประกอบให้เห้กิดความสมดุลดุ แบบอสมมาตรอาจทำ ได้โด้ดย ความสมดุล ดุ


จุดสนใจหรือรืการเน้น (EMPHASIS) จุดใดจุดหนึ่งที่มีคมีวามสำ คัญกว่าว่ส่วส่นอื่น ๆ เป็นประธานอยู่ ถ้าส่วส่นนั้นนั้ๆ อยู่ปยู่ะปนกับส่วส่น อื่น ๆ และมีลัมี ลักษณะเหมือมืนๆกันก็อาจถูกถูกลืนหรือรื ถูกถูส่วส่นอื่นๆที่มีคมีวามสำ คัญน้อยกว่าว่บดบังบั หรือรืแย่งย่ความสำ คัญความน่าสนใจไปเสียสี งานที่ไม่มีม่จุมีจุดสนใจ หรือรืประธาน จะทำ ให้ดูห้น่ดูน่า เบื่อบื่เหมือมืนกับลวดลายที่ถูกถูจัดจัวางซ้ำ กัน โดยปราศจากความหมายหรือรืเรื่อรื่งราวที่น่า สนใจ


เป็นสิ่งสิ่ที่สำ คัญที่สุดสุของการจัดจัองค์ประกอบทาง ทัศนศิลป์ เพราะความกลมกลืนจะทำ ให้ภห้าพ งดงาม และนำ ไปสู่เสู่ นื้อหาเรื่อรื่งราวที่นำ เสนอ ความกลมกลืนมี 2 แบบ คือ ความกลมกลืน (HARMONY) 4.1 ความกลมกลืนแบบคล้อยตามกัน หมายถึงการนำ รูปรูร่าร่ง รูปรูทรง เส้นส้หรือรืสี ที่มีลัมี ลักษณะเดียดีวกันมาจัดจัเช่นช่วงกลมทั้งทั้หมด สี่เ สี่ หลี่ยมทั้งทั้หมด ซึ่งซึ่แม้ว่ม้าว่อาจจะมีขมีนาดที่แตกต่างกัน แเมื่อมื่นำ มาจัดจัเป็นป็ภาพขึ้นขึ้มาแล้วก็จะทำ ให้คห้วามรู้สึรู้กสึกลมกลืนกัน 4.2 ความกลมกลืนแบบขัดขัแย้งย้หมายถึง การนำ เอาองค์ประกอบต่างชนิดนิต่างรูปรูร่าร่ง รูปรู ทรง ต่างสี มาจัดจัวางในภาพเดียดีวกัน เช่นช่รูปรู วงกลมกับรูปรูสามเหลี่ยม เส้นส้ตรงกับเส้นส้ โค้ง ซึ่งซึ่ จะทำ ให้เห้กิดความขัดขัแย้งย้กันขึ้นขึ้แต่ก็ยังยัให้คห้วาม รู้สึรู้กสึกลมกลืนกัน


จังจัหวะ(Rhythm) ระยะในการจัดจัภาพการวางของวัตวัถุ ว็ำ ไปซ้ำ มา อย่าย่ง สม่ำ เสมอ เช่นช่ลายไทย การปูกระเบื้อบื้ง


เป็นป็สิ่งสิ่ที่มนุษนุย์สัย์มสัผัสผัอยู่ตยู่ลอดเวลา เป็นป็ส่วส่นของการ ดำ รงชีวิชีตวิเช่นช่การทรงตัวไม่ใม่ห้ล้ห้ ล้ม การนั่งนั่ยืนยืเดินดิหรือรื ทำ กิจกรรมต่างๆ ซึ่งซึ่ธรรมชาติได้ พยายามสร้าร้งการทรงตัวให้อห้ยู่ไยู่ด้โด้ดยอัตโนมัติมั ติเช่นช่เดียดีว กับในงานออกแบบต่างๆ ที่ใช้ชีช้วิชีตวิ ประจำ วันวัต้องใช้หช้ลักดุลดุยภาพเข้าข้ช่วช่ยเช่นช่กัน เพราะสิ่งสิ่ จำ เป็นป็พื้นพื้ฐานคือดูง่ดูง่าย ใช้ง่ช้ ง่าย ดึงดึดูดดูใจ น่าน่สนใจ และมีพมีลังดึงดึดูดดูสายตา ดุลยภาพ BALANCE 07


ความขัดขัแย้งย้หรือรื CONTRAST ในทางศิลปะจะหมายถึงความไม่ปม่ระสาน สัมสัพันพัธ์กัธ์ กัน หรือรืสิ่งสิ่ที่ตรงข้าข้มกัน แตก ต่างกัน การนาความขัดขัแย้งย้มาใช้ ในงาน ศิลปะจะช่วช่ยทาให้ผห้ลงานไม่เม่กิดความน่าน่ เบื่อบื่นอกจากนั้นนั้ยังยัช่วช่ย ให้เห้กิดความตื่น เต้น ความน่าน่สนใจขึ้นขึ้อีกด้วด้ย ความขัดขั แย้งย้จะตรงข้าข้ม กับความกลมกลืน 08


พื้นพื้ที่ว่าว่ง (Visual Space) คือ อะไร? พื้นพื้ที่ว่าว่ง หมายถึงส่วส่นใดๆ ในภาพที่มีคมีวามว่าว่งเปล่า อาจจะ หมายถึงช่อช่งว่าว่งระหว่าว่งพื้นพื้ที่ผิวผิ, ส่วส่นคั่นคั่ระหว่าว่งสี หรือรือาณาบริเริวณ ทั้งทั้หมดที่ไม่เม่กี่ยวข้อข้งกับวัตวัถุใถุน ภาพนั้นนั้ ในกรณีของภาพถ่าย พื้นพื้ที่ ปรากฏในแบบ 2 มิติมิ ติแต่สามารถให้ ความรู้สึรู้กสึแบบ 3 มิติมิ ติได้ด้วย จินจิตนาการ


เส้นส้ ในงานศิลปะ ในจิตจินาการมองไม่เม่ห็นห็ด้วยสายตา เป็นเส้นส้ ใน ความรู้สึรู้กสึนึก. คิดคานึงจากภาพที่มองเห็นห็เป็น เส้นส้ภายนอกของวัตวัถุลถุากจากจุดหนึ่งไปยังยัอีก จุดหนึ่ง เป็นเส้นส้ . โครงสร้าร้งภายนอกของวัตวัถุ ร่อร่งรอยที่เกิดจากเคลื่อนที่ของจุด หรือรืถ้าเรานำ จุดมาวางเรียรีงต่อ ๆ กันไป ก็จะเกิดเป็นเส้นส้ขึ้นขึ้ เส้นส้มีมิมีติมิ ติเดียว คือ ความยาว ไม่มีม่คมีวามกว้าว้ง ทำ หน้าที่เป็นขอบเขต ของที่ว่าว่ง รูปร่าร่ง รูปทรง 10


สีกัสี กับการนำ มาใช้ใช้นงานทัศนศิลป์กป์ารนำ คุณคุค่าสีมสีาใช้ ในงานทัศนศิลป์ แบ่งบ่ออกเป็นป็ 4 ลักษณะ ใหญ่ ๆ ได้แด้ก่ 1. การนำ มาใช้เช้พื่อพื่แสดงความงามและความแตกต่าง ของรูปรู 2. การนำ มาใช้เช้พื่อพื่แสดงมิติมิ ติความตื้นลึกของผลงาน 3. การนำ มาใช้เช้พื่อพื่แสดงอารมณ์แณ์ละความรู้สึรู้กสึ 4. การนำ มาใช้เช้พื่อพื่เป็นป็สัญสัลักษณ์สื่ณ์สื่อสื่แทน


Click to View FlipBook Version