๑ แบบรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร สายงานสอน ๑. ข้อมูลผู้ขอเข้ารับการประเมิน ชื่อ-สกุล นางสาวเมธาวรินทร์ แตนต่อ อายุ ๔๒ ปี อายุราชการ ๑๗ ปี คุณวุฒิสูงสุด การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชา จิตวิทยาการศึกษา จากสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตำแหน่ง ครู ตำแหน่งเลขที่ ขบข.ปภ. ๑๗ (ป) สถานศึกษา โรงเรียนประชาภิบาล สังกัด กรุงเทพมหานคร วิทยาฐานะ ครูชำนาญการ รับเงินเดือนอันดับ คศ.๒ ขั้น ๓๖,๘๔๐ บาท วิทยฐานะที่ขอรับการประเมิน ครูชำนาญการพิเศษ ๒. การปฏิบัติงานในปีที่ขอรับการประเมิน (สายงานสอน) ๒.๑ ปฏิบัติงานสายงานสอน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระที่ ๓ นาฏศิลป์ ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๒ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๙ ชั่วโมง /สัปดาห์ วิชาวิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๖ ชั่วโมง /สัปดาห์ วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ วิชาประวัติศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์วิชายุวกาชาดชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์ ชมรมนาฏศิลป์ ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์รวมปฏิบัติการสอน ๒๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ ๒.๒ ปฏิบัติหน้าครูพิเศษชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ๒.๓ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายพิเศษ คือ ๒.๓.๑ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ๒.๓.๒ คณะกรรมฝ่ายวิชาการ ๒.๓.๓ คณะกรรมการการจัดทำหลักสูตร ตรวจสอบและพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษาและหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ๒.๓.๔ ผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ดนตรีและ นาฏศิลป์ ๒.๓.๕ ผู้รับผิดชอบโครงการวิจัยในชั้นเรียน ๒.๓.๖ ผู้รับผิดชอบโครงการกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ– ยุวกาชาด) ๒.๓.๗ คณะกรรมการโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ๒.๓.๘ คณะกรรมการโครงการรักการอ่าน ๒.๓.๙ หัวหน้าเวรประจำวันศุกร์ ๒.๓.๑๐ เป็นผู้รับผิดชอบฝึกซ้อมผู้เรียนเพื่อไปแข่งขันในโครงการแลกเปลี่ยน โครงการวัฒนธรรมระหว่างกรุงเทพมหานครและเมืองยาชิโย ๒.๓.๑๑ เป็นหัวหน้ามาตรฐานที่ ๑ ของการประเมินคุณภาพการศึกษา(ควร ใช้ภายใน) วก.๖
๒ ๒.๓.๑๒ เป็นหัวหน้ากิจกรรมการแสดงนาฏศิลป์ในโรงเรียน ๓. การรายงานผลที่เกิดจาการปฏิบัติหน้าที่ ข้าพเจ้าได้ยื่นขอรับการประเมินเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะเป็นครูชำนาญการพิเศษ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ขอรายงานผลที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ย้อนหลัง ๒ ปีคือ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ดังนี้ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่การสอนวิชานาฏศิลป์ ระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๒ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๙ ชั่วโมง /สัปดาห์ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๖ ชั่วโมง / สัปดาห์ วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปี ที่ ๕ จำนวน ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ วิชาประวัติศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ วิชายุวกาชาด ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์ ชมรมนาฏศิลป์ ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์รวม ปฏิบัติการสอน ๒๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่การสอนวิชานาฏศิลป์ ระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๓ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๙ ชั่วโมง /สัปดาห์ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๖ ชั่วโมง/สัปดาห์ วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๓ ชั่วโมง/ สัปดาห์ วิชายุวกาชาดชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์ ชมรมนาฏศิลป์ ๑ ชั่วโมง/ สัปดาห์รวมปฏิบัติการสอน ๒๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ ๓.๑ ผลงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามมาตรฐานตำแหน่ง ๓.๑.๑ ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเรียนการสอน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและจัดการเรียน การสอนสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นตามกรอบที่กรุงเทพมหานครกำหนด ข้าพเจ้าได้จัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักการจัดการศึกษาของพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๒๒ ซึ่งได้กล่าวไว้ ว่าการจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่า ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด สอดคล้องกับหลักการของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ที่ส่งเสริมให้ ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ข้าพเจ้าได้ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อให้เกิดความเข้าใจในหลักการ จุดมุ่งหมายและโครงสร้างของเนื้อหา/เวลาเรียน คำอธิบายรายวิชา และ ทำการกำหนดการสอนที่สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของ หลักสูตรและนำมาจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีเนื้อหาตรงตามหลักสูตร ครอบคลุมทุกเนื้อหาของ วิชานาฏศิลป์มีการปรับปรุงและทบทวนหลักสูตรสถานศึกษาทุกสิ้นปีการศึกษา วิชานาฏศิลป์เป็นวิชาที่ มีจุดมุ่งหมายเพื่อผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข พัฒนาผู้เรียนให้มีความมั่นใจในศักยภาพของ ตนเองและส่งเสริมให้เกิดทักษะความคิดสร้างสรรค์ ข้าพเจ้าจึงออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นให้ ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในทุกๆกิจกรรม โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็นในการทำกิจกรรมและ เลือกทำในสิ่งที่ตนเองสนใจให้สอดคล้องกับ สาระการเรียนรู้ สาระสำคัญ ตัวชี้วัด และเนื้อหาการเรียนรู้ ในบทเรียนนั้นๆ หน่วยการเรียนรู้เรื่อง ท่วงทีลีลา ของชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ ผู้เรียนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ประกอบบทเพลงอย่างอิสระ ข้าพเจ้าจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้น
๓ การฝึกทักษะการปฏิบัติจริงตามธรรมชาติของวิชา โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ข้าพเจ้าได้ ศึกษาหลักและวิธีการสอนนาฏศิลป์ของอาจารย์อมรา กล่ำเจริญ อาจารย์เรณู โกศินานนท์ประยุกต์ใช้ โดยสอนปฏิบัติจากง่ายไปหายาก ใช้เทคนิควิธีการที่หลากหลายสอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียน แต่ละบุคคล และเป็นต้นแบบที่ดีให้กับผู้เรียนและใช้รูปแบบการสอนที่มีความหลากหลาย เช่น การจัดการเรียนรู้ เรื่องการปฏิบัติท่ารำเพลงรำวงมาตรฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ข้าพเจ้าใช้หลักการ การเป็นแม่แบบที่ดีให้กับผู้เรียนในการปฏิบัติท่ารำควบคู่ไปกับการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดี ทำไปสู่การเรียนรู้อย่างมีความสุข ผ่านกระบวนการทางนาฏศิลป์ ซึ่งเป็นกิจกรรมการสอน ที่มีทั้งการ บรรยาย การสาธิตปฏิบัติท่ารำที่ถูกต้องที่ละท่า เน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติท่ารำซ้ำๆโดยครูเป็นผู้คอยแนะนำ เสริมแรงให้ผู้เรียนจนผู้เรียนเกิดทักษะการรำที่ดี และจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิด สร้างสรรค์เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความคิด เนื้อหา และใช้ทักษะประสบการณ์เกิดองค์ความรู้ได้ ด้วยตนเองพร้อมทั้งชี้แนะแนวทางในการสืบค้นหาความรู้ทางด้านนาฏศิลป์ ทั้งในโรงเรียนและนอก โรงเรียน จัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ผลิตสื่อและสร้างนวัตกรรมอย่าง ต่อเนื่อง เช่น วีดีทัศน์ประกอบการเรียนเรื่อง ระบำเชิญพระขวัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ สมุดภาพ สามมิติ เรื่องเพลง รำวงมาตรฐาน PowerPoint ประกอบการเรียนเรื่อง นาฏยศัพท์ และภาษาท่าทาง นาฏศิลป์ร่วมกับผู้เรียนจัดทำเกมการศึกษา เรื่อง บันไดงูรำไทย และนาฏยศัพท์ฉบับบิงโก เพื่อให้ ผู้เรียนเกิดการมีส่วนร่วมและสร้างแรงจูงใจในการเรียนวิชานาฏศิลป์ และเอกสารประกอบการเรียนการ สอน เรื่องการแสดงนาฏศิลป์และลีลารำวงมาตรฐาน (เพลงคืนเดือนหงายและเพลงหญิงไทยใจงาม) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ข้าพเจ้าได้จัดการเรียนการสอนตามสาระท้องถิ่นตามกรอบที่กรุงเทพมหานคร กำหนด โดยทำการวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ที่มีตัวชี้วัดระบุการเรียนรู้ท้องถิ่นตามที่กรุงเทพมหานคร กำหนด ข้าพเจ้าได้จัดหน่วยการเรียนรู้เรื่องการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านในท้องถิ่นลงในหน่วยที่ ๘ เรื่อง ความบันเทิงในท้องถิ่นของเรา ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เนื่องจากในอดีตชาวบ้านในเขตบางเขน มีอาชีพเป็นเกษตรกรเพาะปลูกข้าวเป็นส่วนใหญ่ โดยข้าพเจ้าสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการแสดง เต้นกำรำเคียว ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเกี่ยวข้าว และให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์ในการแสดงจริง ให้กับผู้เรียนโรงเรียนประชาภิบาลชมเพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับท้องถิ่นบางเขนอีกทางหนึ่ง ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น มีกระบวนการทักษะที่เกิดจากการได้ เรียนรู้โดยการลงมือปฏิบัติจริง มีความกล้าแสดงออก มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และสามารถทำงาน ร่วมกับผู้อื่น รู้จักบทบาทผู้นำผู้ตามและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข (ภาพประกอบ หมายเลข ๑ หน้า ๓๑) ๓.๑.๒ ปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ข้าพเจ้าได้จัดกระบวนการเรียนการสอนที่หลากหลายให้กับผู้เรียนและจัดให้มีกิจกรรมที่ ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนดังนี้ กิจกรรมพัฒนาศักยภาพทางด้านนาฏศิลป์ เป็นการสอนวิชานาฏศิลป์ให้กับผู้เรียนทุกคน ทุกระดับชั้นที่มีความสนใจเพิ่มเติมจากการเรียนในชั่วโมงนาฏศิลป์ ในช่วงเวลาเช้าก่อนเข้าเรียน ช่วงเวลาพักกลางวัน และช่วงเวลาหลังเลิกเรียน โดยใช้วิธีสอนด้วยการสาธิต (Demonstration Method) เพื่อเป็นการเสริมทักษะความสามารถทางด้านนาฏศิลป์ เสริมสร้างความมั่นใจ การกล้า แสดงออก ปลูกฝังให้ผู้เรียนได้อนุรักษ์การแสดงนาฏศิลป์ไทย ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดสร้างสรรค์และ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
๔ ส่งผลให้ผู้เรียนมีทักษะการในการแสดงนาฏศิลป์เพิ่มขึ้นมีความมั่นใจในการกล้าแสดงออก ทั้งในโรงเรียนและชุมชนภายนอกจนสามารถไปแข่งขันเพื่อเพิ่มประสบการณ์ได้ เช่นการเข้าร่วมการ แข่งขันศิลปหัตถกรรมผู้เรียน ครั้งที่ ๖๖ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร ทั้ง ยังสามารถนำเอาทักษะทางนาฏศิลป์มาบูรณาการณ์กับวิชาอื่นๆได้อีก เช่นการประกวดกิจกรรม science show ของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ทำให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจและพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมการสอนซ่อมเสริม เป็นการสอนซ่อมเสริมให้กับผู้เรียนที่ยังไม่ผ่านจุดประสงค์ที่ กำหนดไว้ในหน่วยการเรียนรู้ โดยผู้สอนนัดหมายให้ผู้เรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์มาเรียนรู้เพิ่มเติมใน ช่วงเวลาพักกลางวัน ผู้สอนจะทำการสอบถามและวิเคราะห์ปัญหาของผู้เรียนก่อนว่าเพราะสาเหตุใด ผู้เรียนจึงไม่สามารถปฏิบัติได้และเลือกวิธีการสอนซ่อมเสริมให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละบุคคล เช่น การ ซ่อมเสริมผู้เรียนที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มีผู้เรียนจำนวน ๒ คน โดยข้าพเจ้าได้ จัดทำแบบฝึกการอ่านและให้ผู้เรียนมาฝึกอ่านในตอนพักกลางวัน จนผู้เรียนสามารถอ่านได้คล่องขึ้น และผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๕ คนที่ยังปฏิบัตินาฏยศัพท์ไม่ถูกต้อง ผู้สอนได้พูดคุยและ วิเคราะห์ถึงปัญหาของผู้เรียนแล้วจึงเลือกใช้ทฤษฎีการเลียนแบบพฤติกรรมของแบนดูรา (Albert Bandura) มาใช้โดยข้าพเจ้าปฏิบัติ ท่านาฏยศัพท์เป็นลำดับขั้นอย่างช้าๆเป็นตัวแบบให้ผู้เรียนสังเกต และปฏิบัติตาม ในขณะที่ผู้เรียนปฏิบัติตาม ข้าพเจ้าจะใช้คำพูดเพื่อเป็นการเสริมแรงให้เกิดแรงจูงใจใน การปฏิบัติ ทำซ้ำจนผู้เรียนเกิดความชำนาญและสามารถปฏิบัติได้เอง ส่งผลให้ผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๕ คน สามารถปฏิบัตินาฏยศัพท์ได้ถูกต้อง สวยงาม ผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด กิจกรรมการเกมการศึกษา เป็นกิจกรรมที่ผู้สอนออกแบบเพื่อให้ผู้เรียนได้ค้นคว้าจากแหล่ง เรียนรู้ที่หลากหลาย ท้าทายความสามารถของผู้เรียน โดยผู้สอนได้ศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ ของ หน่วยการเรียนที่เหมาะกับความสามารถของผู้เรียน และร่วมกับผู้เรียนวิเคราะห์รูปแบบของเกม การศึกษาที่ผู้เรียนลงความเห็นว่ามีเนื้อหาสอดคล้องกับบทเรียน มีความท้าทายในการเรียน และส่งเสริม ให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีในการเรียนวิชานาฏศิลป์ ผู้สอนส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงและการทำงาน ร่วมกันเป็นกลุ่ม เพื่อฝึกการเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี โดยผู้สอนได้ศึกษาเทคนิคการสอนแบบการทำงานร่วมกัน (Co – operative Leaning) ที่ให้ผู้เรียนได้ลงมือทำงานร่วมกัน และช่วยเหลือกัน เช่น การสร้างเกม การศึกษาบิงโก ภาษาท่าทางนาฏศิลป์-นาฏยศัพท์, บันไดงู , สมุดภาพรำวงมาตรฐาน และทดลองใช้ เกมการศึกษาเหล่านี้จริงในชั่วโมงเรียนวิชานาฏศิลป์ ส่งผลให้ผู้เรียนมีความภาคภูมิใจในผลงานของตน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นรู้จักบทบาท ผู้นำผู้ตาม และมีเจตคติที่ดีต่อวิชานาฏศิลป์ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ มีการพัฒนาที่สูงขึ้นในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ (ภาพประกอบหมายเลข ๒ หน้า ๓๑) ๓.๑.๓ จัดการอบรมสั่งสอนและการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึง ประสงค์ ข้าพเจ้าพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรมจริยธรรมและมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์๘ ประการ ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ได้ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่ได้ กำหนดให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ และนำมาวิเคราะห์ ปลูกฝังให้ผู้เรียนได้ เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติกิจวัตประจำวัน ปลูกฝังให้ผู้เรียนเกิดความรักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์
๕ ผ่านกิจกรรมเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ ร้องเพลงเทิดพระเกียรติ และร่วมกิจกรรมเนื่องใน วันเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อให้ผู้เรียนได้ตระหนักถึงความสำคัญ ปลูกฝังให้ผู้เรียนปฏิบัติตนเป็น พุทธศาสนิกชนที่ดี ด้วยกิจกรรมสวดมนต์และการตักบาตรพระสงฆ์ในช่วงเช้า และนำผู้เรียนเข้าร่วม กิจกรรมค่ายคุณธรรมจริยธรรมร่วมกับวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีความซื่อสัตย์สุจริตโดย เมื่อผู้เรียนเก็บของหรือเงินแล้วนำมาส่งเพื่อหาเจ้าของ ผู้สอนจะทำการชื่นชมเพื่อเป็นการเสริมแรง ทางบวกให้กับผู้เรียนและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้อื่น ถ้าไม่มีผู้ใดมารับจะนำเงินส่วนนี้ใส่ตู้คุณธรรม โดยแจ้งกับผู้เรียนทุกคนว่าจะนำเงินไปทำบุญในโอกาสต่อไป ส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นคนมีวินัยจากปฏิบัติ ตามระเบียบของโรงเรียน และไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น มีความรับผิดชอบต่อตนเอง เช่น การมาฝึกซ้อม นาฏศิลป์อย่างสม่ำเสมอ การรับผิดชอบตนเองในการมาแต่งตัวให้ทันเวลาเมื่อมีโอกาสในการแสดงต่างๆ ปลูกฝังให้ผู้เรียนใฝ่รู้ผ่านกิจกรรมที่ท้าทายความสามารถของผู้เรียน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สืบค้นข้อมูล จากแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ป้ายนิเทศ และสอบถามจากบุคคล ทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน และนำมาสร้างชิ้นงานในวิชานาฏศิลป์ ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดความ ภาคภูมิใจในตนเอง และปลูกฝังให้ผู้เรียนดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงโดยส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักการเก็บ ออมเงินกับธนาคารโรงเรียน นำผู้เรียนปลูกผักสวนครัวบริเวณสวนพักพอเพียงนำผลผลิตที่ได้กลับบ้าน ให้กับครอบครัว ปลูกฝังความมุ่งมั่นในการทำงานโดยผู้สอนคอยให้คำแนะนำและกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิด ความมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ และให้คำชมเชย เมื่อผู้เรียนปฏิบัติได้สำเร็จ เพื่อเป็นการเสริมแรงให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมนี้อย่างถาวร ปลูกฝังให้ผู้เรียน รักความเป็นไทย เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ปฏิบัติตนตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม ส่งเสริมพฤติกรรมที่เหมาะสม โดยผู้สอนเป็นหัวหน้ากิจกรรรมมารยาทงามตามแบบประชาภิบาล ลักษณะการจัดกิจกรรมเป็นการประกวดการไหว้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยให้มีความถูกต้อง ตามวัฒนธรรมของไทย และสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของโรงเรียนประชาภิบาล คือ “ไหว้สวย” และ ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้แสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างหลากหลายตามความสามารถของตน ปลูกฝังให้ผู้เรียน มีจิตสาธารณะโดยให้ผู้เรียนรู้จักช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน และแบ่งปัน ผู้ที่เดือดร้อน นอกจากนี้ยังนำผู้เรียนเข้าค่ายคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของทางโรงเรียนเพื่อเป็นการ กระตุ้นผู้เรียนผ่านกิจกรรมในฐานให้ความรู้ต่างๆ และเป็นผู้สอนผู้เรียนร้องเพลง“คุณลักษณะอันพึง ประสงค์”เพื่อให้ผู้เรียนจดจำคุณลักษณะอันพึงประสงค์๘ ประการผ่านบทเพลง มีการนำหลักเกณฑ์ การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์มาใช้ในการประเมิน และประสานขอความร่วมมือจากผู้ปกครอง ให้ร่วมมือในการประเมินพฤติกรรมผู้เรียนจากทางบ้าน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาพฤติกรรมผู้เรียนให้มี พฤติกรรมที่พึงประสงค์(ภาพประกอบ ที่ ๓ หน้า ๓๒) ส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตรงตามหลังสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กำหนด
๖ ตารางที่ ๑ ผลการประเมินคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ จากตารางที่ ๑ พบว่าในปีการศึกษา ๒๕๖๐ ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์อยู่ในระดับดีเยี่ยม เฉลี่ยร้อยละ ๘๔.๖ ระดับดีเฉลี่ยร้อยละ ๓๓.๕ ระดับผ่านเฉลี่ยร้อยละ ๑.๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์อยู่ใน ระดับดีเยี่ยมเฉลี่ยร้อยละ ๖๒.๖ ระดับดี เฉลี่ยร้อยละ ๓๐ ระดับผ่านเฉลี่ยร้อยละ ๗.๓ ๓.๑.๔ วัดและประเมินผลผู้เรียนด้วยเทคนิคที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริง ข้าพเจ้าได้ใช้วิธีการวัดและประเมินผล มีเครื่องมือในการวัดอย่างชัดเจน เป็นมาตรฐานใน การตัดสินผลการเรียนรู้ ตามที่สถานศึกษาได้กำหนด โดยคำนึงถึงศักยภาพของผู้เรียนและสอดคล้องกับ หลักสูตรสถานศึกษา ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ ครอบคลุมทั้งพุทธิพิสัย ทักษะพิสัย และเจตคติ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพราะวิชานาฏศิลป์เป็นวิชาที่มีกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งด้าน เนื้อหาและทักษะการปฏิบัติได้แก่ แบบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ใช้วัดพื้นฐานความรู้ของผู้เรียนแต่ละคน เพื่อ นำไปสู่แนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน และเมื่อเรียนจบ บทเรียนก็ทำการวัดผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนอีกครั้งเพื่อวัดความก้าวหน้าทางด้านการเรียน เพื่อใช้ในการ พัฒนาผู้เรียน และเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่อไป แบบวัดและประเมินทักษะทางนาฏศิลป์ใช้วัดทักษะที่เกิดจากการเรียนรู้ผ่านกระบวนการ ปฏิบัติท่ารำในวิชานาฏศิลป์ ตรวจสอบความถูกต้องของท่ารำ ความสวยงามของท่ารำ โดยคำนึงถึง ความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียนเป็นสำคัญ แบบสังเกตพฤติกรรม เพื่อใช้สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนขณะที่เรียนในชั้นเรียน เพื่อใช้การ วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เรียนในชั่วโมงเรียนว่ามีพฤติกรรมตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่ จากนั้นนำ ข้อมูลไปปรับเปลี่ยนแก้ไขพฤติกรรมของผู้เรียนโดยใช้วิธีการที่หลากหลายให้เหมาะสมกับแต่ละคน การตรวจชิ้นงาน ใช้ในการวัดความรู้ของผู้เรียนในการเรียนแต่ละชั่วโมง ว่าผู้เรียนมีความ เข้าใจในเนื้อวิชาหรือไม่ ทั้งยังฝึกความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายอีกด้วย การสัมภาษณ์และการซักถาม การเรียนนาฏศิลป์ซึ่งเป็นวิชาที่เน้นทักษะการปฏิบัติ ผู้สอนจะมีความใกล้ชิดกับผู้เรียน จึงสามารถสัมภาษณ์หรือซักถามความรู้สึก เจตคติที่มีต่อการเรียนใน ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ระดับชั้น จำนวน ผู้เรียน ทั้งหมด จำนวนผู้เรียนตามระดับคุณภาพ จำนวน ผู้เรียน ทั้งหมด จำนวนผู้เรียนตามระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี ผ่าน ไม่ ผ่าน ดีเยี่ยม ดี ผ่าน ไม่ ผ่าน ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๙๓ ๖๐ ๓๑ ๒ - ๘๖ ๔๐ ๓๔ ๑๒ ประถมศึกษาปีที่ ๒ ๘๙ ๗๑ ๑๘ - - ๘๙ ๖๒ ๒๗ - - ประถมศึกษาปีที่ ๓ ๗๖ ๕๓ ๒๓ - - ๘๒ ๕๖ ๒๖ - - ประถมศึกษาปีที่ ๔ ๘๘ ๖๙ ๑๙ - - ๗๕ ๗๐ ๕ - - ประถมศึกษาปีที่ ๕ ๘๒ ๔๗ ๓๕ - - ๘๔ ๔๒ ๓๗ ๕ - ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๗๑ ๕๓ ๑๔ ๔ - ๘๕ ๔๔ ๒๑ ๒๐ - รวม ๔๑๗ ๓๕๓ ๑๔๐ ๖ - ๕๐๑ ๓๑๔ ๑๕๐ ๓๗ - เฉลี่ย ๑๐๐ ๘๔.๖ ๓๓.๕ ๑.๔ - ๑๐๐ ๖๒.๖ ๓๐.๐ ๗.๓ -
๗ ชั่วโมง ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถามอย่างใกล้ชิดและสามารถได้รับคำตอบกลับไปในทันที เป็นการเสริมแรงให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นต่อการเรียนยิ่งขึ้น ข้อมูลที่ได้รับการจาการประเมินในรูปแบบที่หลากหลายนี้ข้าพเจ้าได้นำข้อมูลเหล่านี้มา วิเคราะห์และนำไปใช้ในการให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนเห็นถึงความก้าวหน้า จุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของตนเอง เพื่อไปปรับปรุงแก้ไข และยังนำข้อมูลเหล่านี้มาทำวิจัยเพื่อแก้ปัญหาและ พัฒนาความสามารถของผู้เรียน เช่น การส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ในการแสดงนาฏศิลป์ใน กิจกรรมต่างๆหรือได้ร่วมงานกับหน่วยงานภายนอก ส่งผลให้ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ผ่านเกณฑ์ประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด คือผู้เรียนผ่าน เกณฑ์ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป มีเจตคติที่ดีต่อวิชานาฏศิลป์ มีความมั่นใจในตนเองสามารถนำไปบูรณาการ ร่วมกับวิชาอื่นๆได้ ๓.๑.๕ ปฏิบัติงานวิชาการของสถานศึกษา ในการปฏิบัติงานทางวิชาการของโรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานครนั้น ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ดังนี้ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ข้าพเจ้าได้จัดการประชุมวางแผนเพื่อจัดทำและพัฒนา หลักสูตรสาระการเรียนรู้ศิลปะทุกปีการศึกษาเพื่อให้เหมาะสมกับสังคมที่เปลี่ยนแปลง ผู้เรียนและ สิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้เรียนและผู้สอนได้มีการพัฒนาความรู้และวิธีการสอนอย่างสม่ำเสมอ มีการนิเทศ การสอนของครูในกลุ่มสาระอย่างน้อยปีการศึกษาละ ๒ ครั้ง ประชุมวางแผนร่วมกันเพื่อหาแนวทางใน การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะให้สูงขึ้นพร้อมกับหาแนวทางในการ แก้ไขปัญหาในด้านการเรียนของผู้เรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ส่งผลให้ ครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ มีการวางแผนการทำงานอย่างมีระบบ วางแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทางด้านวิชาการและด้านทักษะความสามารถทางศิลปะใน แขนง ต่างๆ และช่วยให้เกิดความกระตือรือร้นในการจัดกิจกรรมเพื่อนำมาพัฒนาความสามารถของผู้เรียน จึง ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะผ่านเกณฑ์ตามที่สถานศึกษา กำหนด ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ -๖ สนับสนุนผู้เรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะที่มี ความสามารถให้ออกไปแข่งขันเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ในชีวิตแก่ผู้เรียน คณะกรรมการบริหารงานฝ่ายวิชาการ ข้าพเจ้ามีหน้าที่ร่วมกับคณะทำงานในการวางแผน การจัดการเรียนการสอน จัดทำตารางสอน การตรวจรับการสั่งหนังสือแบบเรียน ตลอดจนการวางแผน และกิจกรรมโครงการต่างๆที่ส่งผลต่อการพัฒนาผู้เรียน เช่น ร่วมประชุมวางแผนในการจัดการเรียนการ สอน การเลือกหนังสือแบบเรียนที่เหมาะสมกับผู้เรียน การประชุมเพื่อวางแผนยกระดับผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้การประชุมเพื่อพิจารณาโครงการต่างๆที่ส่งเสริมการพัฒนา ในด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาของผู้เรียนให้เหมาะสมกับระดับวุฒิภาวะ ส่งผลให้ผู้เรียนได้ร่วมกิจกรรมและโครงการต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนทั้งในการดำเนิน ชีวิตประจำวัน เช่น โครงการค่ายคุณลักษณะอันพึงประสงค์ กิจกรรมตลาดนัดพอเพียง กิจกรรม มารยาทงามตามแบบประชาภิบาล และกิจกรรมในโครงการพัฒนาศักยภาพผู้เรียน ๘ กลุ่มสาระ จึงส่งผลให้ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านตามเกณฑ์ที่ สถานศึกษากำหนด และส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ออกไปแข่งขันทางวิชาการในโอกาสต่างๆ สามารถนำ ประสบการณ์จากการร่วมกิจกรรมต่างไปใช้ในการดำเนินชีวิตจริง
๘ รับผิดชอบโครงการพัฒนาศักยภาพทางด้านศิลปะ ซึ่งในกิจกรรมนี้ประกอบด้วยกิจกรรม พัฒนาศักยภาพทางด้านทัศนศิลป์ กิจกรรมพัฒนาศักยภาพทางด้านดนตรีไทย กิจกรรมพัฒนาศักยภาพ ทางด้านดนตรีสากล และกิจกรรมพัฒนาศักยภาพทางด้านนาฏศิลป์ ช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้ครูในกลุ่ม สาระการเรียนรู้ศิลปะได้ปฏิบัติตามโครงการและกิจกรรมที่ได้กำหนดไว้อย่างราบรื่น และส่งเสริมให้ ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะทางด้านศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นทัศนศิลป์ ดนตรี หรือนาฏศิลป์ ให้ผู้เรียนได้แสดง ศักยภาพทางศิลปะทั้งในและนอกโรงเรียน เช่น การนำผู้เรียนไปประกวดวาดภาพเนื่องในงาน นิทรรศการวิชาการ ส่งเสริมและสนับสนุนผู้เรียนให้แสดงความสามารถทางด้านดนตรีสากลและดนตรี ไทยในกิจกรรมต่างๆ สนับสนุนให้ผู้เรียนแสดงความสามารถทางด้านนาฏศิลป์ทั้งหน่วยงานภายในและ ภายนอกอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ผู้เรียนได้แสดงความสามารถของตนเอง ก่อให้เกิดความมั่นใจ มีความกระตือรือร้น ในการพัฒนาตนเองให้มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น ความกล้าแสดงออกได้ทางที่ถูกต้องทั้งยังสามารถ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย รับผิดชอบโครงการวิจัยในชั้นเรียน ข้าพเจ้าได้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโครงการวิจัยในชั้น เรียน ได้จัดทำปฏิทินปฏิบัติงานวางแผนการรวบรวมวิจัยในชั้นเรียนของคณะครูโรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร บันทึกข้อมูลลงสมุดบันทึกการส่งงานวิจัยในชั้นเรียน พร้อมทั้ง ให้คำปรึกษากับครูที่มาขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับรูปแบบในการทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาในการ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้บรรบลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ส่งผลให้ครูทำงานวิจัยในชั้นเรียนเพื่อแก้ปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ปีการศึกษาละ ๒ เล่ม ครบทุกคน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ และผู้เรียนได้รับการแก้ไขปัญหาและส่งเสริม การเรียนอย่างต่อเนื่องและทันท่วงที รับผิดชอบโครงการกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน(ยุวกาชาด) ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้เป็น หัวหน้าครูยุวกาชาดของโรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่ ประชุมครูผู้สอนยุวกาชาดแต่ละระดับชั้นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรยุวกาชาด ทุกปีการศึกษา เพื่อให้เนื้อหาเหมาะสมกับสภาพสังคม และความต้องการของผู้เรียน นำผู้เรียนเข้าค่ายผู้นำยุวกาชาด ร่วมกับโรงเรียนในเขตบางเขน เพื่อฝึกความรู้ทางยุวกาชาดและนำมาถ่ายทอดให้กับสมาชิกยุวกาชาด ภายในโรงเรียน ประชุมวางแผนการจัดกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ-ยุวกาชาดภายในโรงเรียน เพื่อฝึก ทักษะกระบวนการทางลูกเสือ-ยุวกาชาดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง รู้จักคิดและแก้ไขปัญหา เฉพาะหน้าได้ ส่งผลให้ผู้เรียนผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือ-ยุวกาชาด ทุกคน และสามารถนำหลักการ ของยุวกาชาดมาเพื่อดูแลตนเองและผู้อื่นได้ รับผิดชอบกิจกรรมมารยาทงามตามแบบประชาภิบาล ซึ่งกิจกรรมนี้อยู่ในโครงการพัฒนา คุณธรรมและจริยธรรม ของโรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ข้าพเจ้าได้ วางแผนกำหนดปฏิทินปฏิบัติกิจกรรม โดยกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ทำต่อเนื่องตลอดปีการศึกษา มี จุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนมีมารยาทที่ดีตามวัฒนธรรมของไทยและสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของโรงเรียน ประชาภิบาลคือ “ไหว้สวย” และเอกลักษณ์ของโรงเรียนประชาภิบาลคือ “นั่งงามตามแบบ ประชาภิบาล”ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การไหว้แสดงความเคารพที่ถูกต้อง สวยงาม และการนั่งงามตามแบบ
๙ ประชาภิบาล ทำให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมที่คงทน สามารถนำไปปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน โดยมีการทำ แบบสอบถามไปถึงผู้ปกครองเพื่อประเมินพฤติกรรมเมื่อผู้เรียนอยู่ที่บ้าน ส่งผลให้ผู้เรียนมีพฤติกรรมการไหว้ที่ถูกต้อง ผู้ปกครองให้การสนับสนุนในการสังเกต พฤติกรรมของผู้เรียนเมื่ออยู่ที่บ้าน ผู้เรียนนำพฤติกรรมนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน รับผิดชอบกิจกรรมเล่านิทานประกอบท่าทาง เป็นหนึ่งในกิจกรรมในโครงการรักการอ่าน มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการอ่าน โดยข้าพเจ้าได้วางแผนกำหนดปฏิทินปฏิบัติ กิจกรรม เป็นกิจกรรมที่ปฏิบัติตลอดทั้งปีการศึกษา จัดทุกวันศุกร์ช่วงเวลาพักกลางวัน ณ ห้องสมุดโดย ให้ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เป็นผู้นำในการทำกิจกรรม เนื่องจากสอดคล้องกับมาตรฐาน การ เรียนรู้ ศ ๓.๑ เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า นาฏศิลป์ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ศ ๓.๑ ป๕/๒ แสดงท่าทางประกอบเพลงหรือ เรื่องราวตามความคิดของตน ลักษณะของกิจกรรมคือ คัดเลือกนิทานจากห้องสมุดที่น่าสนใจมาหนึ่งเรื่อง นำมาฝึกซ้อมการแสดงและทำการแสดงผ่านการเล่า เรื่องประกอบท่าทางตามเนื้อเรื่อง เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนในระดับต่างๆได้ใช้บริการห้องสมุดและ จูงใจให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในการอ่านหนังสือในห้องสมุดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมนี้และพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ เพิ่มขึ้น รับผิดชอบกิจกรรมพัฒนาศักยภาพทางด้านนาฏศิลป์ซึ่งเป็นกิจกรรมในโครงการพัฒนา ศักยภาพทางด้านศิลปะ ส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านนาฏศิลป์ให้กับผู้เรียนทุกคนที่สนใจ โดยจัดตั้ง ชมรมนาฏศิลป์ ถ่ายทอดและฝึกปฏิบัติท่ารำให้กับผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะทางนาฏศิลป์ในช่วงเวลาเช้า ก่อนเข้าเรียน ช่วงเวลาพักกลางวันและช่วงเวลาหลังเลิกเรียนของทุกวัน ฝึกให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงและ ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดเจตคติที่ดีต่อวิชานาฏศิลป์ มีความรักสืบทอดวิชานาฏศิลป์ ปลูกฝังให้ผู้เรียนเกิด ความรักและเคารพซึ่งกันและกัน ความภาคภูมิใจในตนเอง ตลอดจนการนำไปสู่การแข่งขันจาก หน่วยงานภายในและภายนอกเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับผู้เรียน ส่งผลให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถของตนเอง และแสดงความสามารถของตนเองให้เป็น ที่ประจักษ์จนได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ เหรียญทอง ประเภทนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ประดับ ชั้นป.๑-ป.๖ งานศิลปหัตถกรรมผู้เรียน ระดับ เขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ ๖๖ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษากรุงเทพมหานครประเภทนาฏศิลป์สร้างสรรค์ รองชนะเลิศอันดับหนึ่งการแข่งขันจิตนลีลา ประกอบบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในโครงการนิทรรศการวิชาการเครือข่ายที่ ๑๙ เขตบางเขน ทำให้ ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง มีเจตคติที่ดี มีความมุ่งมั่นพัฒนาตนเองให้มีทักษะทางนาฏศิลป์ เพิ่มขึ้น และกล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้อง สืบทอดการแสดงนาฏศิลป์ไทย (ภาพประกอบที่ ๕ หน้าที่ ๓๓) ๓.๑.๖ ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้เป็นครูพิเศษในระดับสายชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จึงได้เข้ารับการ ประชุมในสายชั้น เพื่อทบทวนกระบวนการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียนในด้านต่างๆ มีองค์ประกอบ ๕ ประการ คือ ๑. การวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ๒. การคัดกรองผู้เรียน ๓. การป้องกันและแก้ปัญหา ๔. การพัฒนาและส่งเสริมผู้เรียน ๕. การส่งต่อ ซึ่งข้าพเจ้าได้ปฏิบัติดังนี้
๑๐ ๑. การวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ข้าพเจ้าได้จัดทำข้อมูลของผู้เรียน บันทึกข้อมูล พื้นฐาน บันทึกการสัมภาษณ์รายบุคคล บันทึกผลการเรียน นำข้อมูลมาสรุปผล โดยศึกษาข้อมูล เบื้องต้นจากระเบียบสะสม(ปพ. ๘) ในแต่ละระดับชั้นและในแต่ละห้องเรียนร่วมกับการสังเกตพฤติกรรม ของผู้เรียน การสัมภาษณ์ผู้เรียน ผู้ปกครอง และนำมาวิเคราะห์ปัญหาของผู้เรียนร่วมกับครูประจำชั้น ๒. การคัดกรองผู้เรียน โรงเรียนประชาภิบาลได้จัดให้มีระบบการคัดกรองพฤติกรรมผู้เรียน อย่างเป็นระบบ โดยใช้แบบประเมินพฤติกรรม (SDQ) เป็นเครื่องมือในการพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับ ผู้เรียนเพื่อนำมาจัดกลุ่มผู้เรียน โดยแบ่งออกเป็น ๔ กลุ่มคือ กลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มที่มีปัญหา กลุ่ม พิเศษ โดยข้าพเจ้าทำการวิเคราะห์ร่วมกับครูประจำชั้น ครูผู้สอนวิชาแนะแนวการศึกษา และเจ้าหน้าที่ จากศูนย์อนามัยและศูนย์บริการสาธารณสุขที่ ๒๔ บางเขน กรุงเทพมหานคร จากนั้นนำข้อมูลที่ได้จาก การวิเคราะห์ นำไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียนที่สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนทั้งทางด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและด้านเจตคติที่ดีต่อการเรียน นอกจากการคัด กรองตามที่กล่าวมาข้างต้น ข้าพเจ้ายังได้สังเกตผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษในด้านนาฏศิลป์ เพื่อ ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ทักษะ ด้านนาฏศิลป์เป็นพิเศษ ทำให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจ ๓. การป้องกันและแก้ปัญหา ข้าพเจ้าหมั่นคอยสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนทั้งในช่วงเวลา เรียนแต่ละชั่วโมง และช่วงเวลาพัก จึงได้จัดตั้งชมรมนาฏศิลป์ขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนได้เข้ามารับบริการด้าน ความรู้ทักษะทางนาฏศิลป์ เป็นการใช้เวลาว่างในช่วงพักกลางวันให้เกิดประโยชน์ เพื่อป้องกันไม่ให้ ผู้เรียนได้ไป มั่วสุม หรือทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมตามวัย ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดลักษณะนิสัยที่ดี เช่น การตรงต่อเวลา ความอดทน และความภาคภูมิใจในตนเอง นอกจากนี้ข้าพเจ้าได้ร่วมกับครูประจำชั้น ครูประจำวิชาภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ในการสอนซ่อมเสริมการอ่านในเวลาก่อนเข้า เรียนในช่วงเช้า และในเวลาว่าง ๔. การพัฒนาและส่งเสริม ข้าพเจ้า ได้จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมผู้เรียนทั้งในวิชาการและ ทางด้านทักษะทางนาฏศิลป์ โดยข้าพเจ้าได้จัดตั้งชมรมนาฏศิลป์ไทยเพื่อส่งเสริมผู้เรียนที่มีความสนใจ ทางนาฏศิลป์ สอนผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ ในชั่วโมงชมรม ทุกวันอังคาร ซึ่งเป็น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่ทางโรงเรียนได้กำนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา และสอนซ่อมเสริมในตอนเช้า เวลา ๐๗.๐๐-๐๗.๔๕ น. ตอนพักกลางวัน เวลา ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ น.และช่วงเวลาหลังเลิกเรียน เวลา ๑๕.๓๐- ๑๖.๓๐ น. โดยในการเรียนนั้นข้าพเจ้าไม่ได้คัดเลือกเฉพาะเด็กที่รำสวยแต่ข้าพเจ้า รับผู้เรียนทุกคนที่สนใจในวิชานาฏศิลป์เนื่องจากข้าพเจ้าคำนึงว่า การพัฒนาผู้เรียนนั้นต้องปฏิบัติกับ ผู้เรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เปิดโอกาสในผู้เรียนได้ค้นพบความสามารถของตนเองด้วยประสบการณ์ จริง เพื่อให้ผู้เรียนได้มีสิทธิ์ในการเลือกความต้องการและความสนใจของตนเองอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นส่วน หนึ่งของโครงการส่งเสริมทักษะ ๘ กลุ่มสาระในกิจกรรมพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ นอกจากนี้ ข้าพเจ้าได้มีส่วนในการประเมินและสอนซ่อมเสริมผู้เรียนที่อ่านหนังสือไม่ออก โดยข้าพเจ้าจะใช้เวลาใน ๐๗.๔๕ – ๐๘.๕๕ น. เพื่อให้ผู้เรียนได้มาฝึกอ่านข้อความหรือประโยคสั้นๆ โดยข้าพเจ้าได้ใช้ แบบฝึกการอ่านที่ทางกรุงเทพมหานครได้จัดพิมส่งมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติร่วมด้วยแบบฝึกการอ่าน ที่ข้าพเจ้าสืบค้นมาจากทางอินเทอร์เน็ตอีกทางหนึ่ง ๕. การส่งต่อ ข้าพเจ้าได้รับแต่งตั้งให้เป็นครูพิเศษสายชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และ ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในวิชานาฏศิลป์และในวิชาอื่นๆตลอดทั้งการสอนในกิจกรรมชมรม นาฏศิลป์ทำให้ข้าพเจ้าพบกับผู้เรียนที่หลากหลายระดับชั้น ข้าพเจ้าได้สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนและ
๑๑ สัมภาษณ์ผู้เรียนและนำข้อมูลเหล่านี้ส่งต่อให้กับครูประจำชั้นในรูปแบบต่างๆเช่น การบอกกล่าวด้วย วาจา การบันทึกข้อมูล การใช้แบบประเมินพฤติกรรมในชั้นเรียน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในการ ให้ความช่วยเหลือผู้เรียนในด้านต่างๆ เช่น ผู้เรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการเรียน ทางโรงเรียนได้ขอ ทุนการศึกษาให้กับผู้เรียนกลุ่มนี้ หรือผู้เรียนที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์ สังคม และสติปัญญาทาง โรงเรียนได้รับความร่วมมือจาก เจ้าหน้าที่จากศูนย์อนามัยและศูนย์บริการสาธารณสุขที่ ๒๔ บางเขน กรุงเทพมหานคร ได้มาบริการตรวจสุขภาพและคัดกรองผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ และส่ง นักจิตวิทยาเพื่อมาดูแลอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการดูแลและแก้ไขปัญหาอย่างทั่วถึงและทันท่วงที จากการที่ได้ ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องทำให้เป็นประโยชน์ สูงสุดทั้งผู้เรียน ครู ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชน ทำให้ผู้เรียนมีการพัฒนาทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา การรู้จักตนเองและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ อันดีระหว่างครูและผู้ปกครองในการร่วมกันแก้ปัญหาและพัฒนาความสามารถของผู้เรียน เห็นได้จาก ผู้เรียนมีความสุขในการมาโรงเรียนและร่วมกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนการประกวดแข่งขันต่างๆ เช่นการ ประกวดจินตลีลาประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ เป็นต้น (ภาพประกอบที่ ๖ หน้า ๓๓) ๓.๑.๗ ปฏิบัติงานวิจัยทางการศึกษา วิเคราะห์ ประเมินพัฒนาการของผู้เรียนเพื่อนำไป พัฒนาการเรียนการสอน ข้าพเจ้าได้ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียน ประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร โดยในแต่ละชั่วโมงนั้น ข้าพเจ้าจะสังเกต พฤติกรรมของผู้เรียนและนำมาบันทึกหลังการสอนและประเมินตามสภาพจริงเพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มา วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เมื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุแล้วจึงวาง แผนการพัฒนาและแก้ไขอย่างเป็นระบบโดยใช้กระบวนการในการทำวิจัย ข้าพเจ้าได้พิจารณา ดังต่อไปนี้ ๑. การสำรวจและวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ข้าพเจ้า วิเคราะห์จากพฤติกรรมของผู้เรียนที่นำมาบันทึกหลังการสอนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนถ้าพบผู้เรียน คนใดที่ไม่สามารถผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ข้าพเจ้าคัดเลือกผู้เรียนคนนั้นเพื่อมาทำการวิจัยในชั้นเพื่อ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและให้ผู้เรียนได้ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในที่สุด ๒. การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ข้าพเจ้าได้ทำการศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่จะนำมาใช้การการทำ วิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาในการเรียน ที่มาจากหลายแหล่ง เช่น แหล่งข้อมูลปฐมภูมิโดยการสัมภาษณ์ผู้เรียน ที่พบว่าไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนดว่าผู้เรียนมีความคิดความรู้สึกอย่างไร หรือมีปัญหาด้านใดในการเรียน วิชานาฏศิลป์ในชั้วโมงนั้น โดยบันทึกข้อมูลเหล่านี้ จากนั้นข้าพเจ้าได้ไปศึกษาข้อมูลในเรื่องที่เกี่ยวข้อง กับปัญหาที่ข้าพเจ้าได้ทราบจากผู้เรียน เช่น ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ผู้เรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การ เรียนรู้เรื่อง นาฏยศัพท์ จากการที่ข้าพเจ้าได้สัมภาษณ์ผู้เรียน ได้ให้คำตอบว่า ทำไม่ได้เนื่องจากอาย และมือไม่อ่อน รำไม่สวย ข้าพเจ้าจึงไปค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการสอนนาฏศิลป์ ข้อมูลเกี่ยวกับ ทฤษฎีการสอนที่ช่วยในการเสริมแรงของผู้เรียน เพื่อนำความรู้เหล่านี้มาเป็นพื้นฐานในการทำวิจัย ๓. กำหนดวิธีการดำเนินการวิจัยและเลือกนวัตกรรมที่เหมาะสม หรือวิธีการแก้ปัญหา เช่น จากปัญหาผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ เรื่องนาฏยศัพท์ ข้าพเจ้าได้ กำหนดวิธีการดำเนินวิจัย โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง คือผู้เรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การ
๑๒ เรียนรู้ตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยข้าพเจ้าจะใช้เทคนิคการแม่แบบที่มีชีวิต (ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของ แบนดูรา) เพื่อแก้ไขปัญหาโดยตั้งสมมติฐานว่า ผู้เรียนมีความสามารถในการรำเพิ่มมากขึ้นหลังจากได้รับ การใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต ๔. การสร้างเครื่องมือและการหาประสิทธิภาพของเครื่องมือ ข้าพเจ้าได้สร้างแบบวัด ความสามารถในด้านการรำ โดยนำแบบวัดความสามารถทางด้านการรำไปให้ผู้เชี่ยวชาญในด้านวัดผล ประเมินผล และเพื่อนครูที่สอนวิชานาฏศิลป์ได้ตรวจสอบความถูกต้องและหาค่าความเชื่อมั่น ตลอดจน การทดลองนำไปใช้จริงและนำมาปรับปรุงแก้ไข ๕. ดำเนินการแก้ไขตามขั้นตอนที่กำหนด เช่น ปัญหาผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ที่ไม่ผ่าน จุดประสงค์การเรียนรู้ เรื่องนาฏยศัพท์ ข้าพเจ้าได้นำแบบวัดความสามารถในด้านการรำ มาใช้ในการ แก้ปัญหาทางด้านการรำของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เรื่องนาฏยศัพท์ เป็นเวลา ๖ สัปดาห์ ในช่วงเวลาพักกลางวัน โดยผ่านกระบวนการแม่แบบที่มีชีวิต คือ ตัวครูโดยผู้เรียนจะได้เรียน จะได้ เรียนรู้โดยผ่านองค์ประกอบ ๔ องค์ประกอบ ๑.กระบวนการสนใจ ๒.กระบวนการเก็บจำ ๓.กระบวนการแสดงออก ๔.กระบวนการจูงใจ ๖. ขั้นวิเคราะห์และสรุปผลการพัฒนาและทำรายงาน ข้าพเจ้าทำการสรุปผลการดำเนินการ วิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และสม่ำเสมอในทุกภาคเรียน เพื่อเป็นการรายงานผลที่เกิดจาก การแก้ไขปัญหา ส่งผลให้ข้าพเจ้าได้ทำการวิจัยเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเรียนปีการศึกษาละ ๒ เรื่อง ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น และมีเจตคติที่ดีต่อวิชานาฏศิลป์เพิ่มขึ้น เช่น เรื่องผลการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีต่อความสามารถในการรำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรีย น ประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน ผลการใช้เทคนิคการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเพื่อพัฒนา ความสามารถในการรำวงมาตรฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เป็นต้น ๓.๑.๘ พัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพให้ก้าวหน้า ข้าพเจ้าได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงไปของสังคม และความก้าวหน้าในความรู้ด้านต่างๆ จึงได้แสวงหาความรู้ต่างๆเพื่อเพิ่มพูนให้ได้ชุดข้อมูลที่ทันสมัยเหมาะสมแก่การนำไปถ่ายทอดให้กับ ผู้เรียน เช่น การแสวงหาความรู้ในการพัฒนาตนเอง ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมในการบวชเนกขัมมะ ณ วัดปัญญานันทาราม จังหวัดปทุมธานี เพื่อพัฒนาตนเอง ให้อยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา มีสติและให้เป็นคน คิดดี ทำดี พูดดีอยู่เสมอ มีความรักและเมตตาต่อผู้อื่นอย่างจริงใจโดยเฉพาะความรักและเมตตาต่อศิษย์ ตลอดจนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้เรียน เช่น ในการทำบุญตักบาตรในตอนเช้า ข้าพเจ้าแสวงหาความรู้ ในการพัฒนาตนเองด้วยการใช้เทคโนโลยีในเวลาว่าง เช่น การใช้โปรแกรมตัดต่อและอัดเสียงเพลงด้วย โปรแกรม GARAREBAND โปรแกรม WavePad Sound Editor โปรแกรม Youtube Download โปรแกรม Format Factory เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการใช้ในการตัดต่อ บทเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง จากwww.youtube.com และได้นำความรู้เรื่องนี้ไปถ่ายทอดให้กับผู้เรียนเพื่อเพิ่มความรู้ที่ นอกเหนือจากวิชาที่ผู้เรียนได้เรียน ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงอีกด้วย ข้าพเจ้าแสวงหาความรู้ด้าน นาฏศิลป์ และรูปแบบการแสดงนาฏศิลป์ไทยโดย การเข้าชมการแสดงโขนพระราชทาน ณ ศูนย์ วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และนำประสบการณ์เหล่านี้มาถ่ายทอดและพัฒนาผู้เรียน
๑๓ การพัฒนาวิชาชีพ ข้าพเจ้าได้สมัครเป็นสมาชิกชมรมครูนาฏศิลป์กรุงเทพมหานคร และได้ เข้าร่วมการอบรมเพื่อทบทวนและเพิ่มพูนความรู้ทางด้านนาฏศิลป์ เช่น อบรมพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนนาฏศิลป์ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อบรมทบทวนรำวงมาตรฐาน ตามโครงการพัฒนาคุณภาพครูผู้สอนนาฏศิลป์ โดย ชมรมครูนาฏศิลป์ กรุงเทพมหานคร ณ โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ อบรมการเขียนผลงานทางวิชาการ โดยชมรมครูนาฏศิลป์ กรุงเทพมหานคร ณ โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังได้เข้าอบรมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการ สอน ดังนี้ อบรมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาEducation 4.0 ณ โรงเรียนประชาภิบาล อบรมการจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 ณ มหาวิทยาลัยเกริก อบรมการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ณ มหาวิทยาลัยเกริก อบรมการขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู่ Thailand 4.0 ณ มหาวิทยาลัยเกริก อบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อยกระดับผลทางการศึกษาแห่งชาติขั้น พื้นฐาน ณ โรงแรมบางกอกพาเลส อบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาหลักสูตรตามโครงการพัฒนาคุณภาพการดำเนินงาน ศูนย์วิชาการเขต ณ โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ อบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ณ โรงเรียนประชาภิบาล อบรมการทำแผนการจัดการเรียนรู้ ณ โรงเรียนประชาภิบาล อบรมการพัฒนาการประกันคุณภาพภายใน ณ โรงเรียนประชาภิบาล อบรมวิจัยในชั้นเรียน ตามโครงการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กรุงเทพมหานคร ด้านการวิจัยทางการศึกษารุ่นที่ ๓ ณ โรงแรมปริ้นพาเลซ กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้ข้าพเจ้าได้นำความรู้ที่ได้จากการอบรมในด้านต่างๆมาพัฒนาความรู้ความสามารถ ของตนเอง ทั้งในด้านคุณธรรม ทางด้านความรู้ทางวิชาชีพ เพื่อไปพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้กับผู้เรียน ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะทางนาฏศิลป์เพิ่มขึ้น และข้าพเจ้าได้สรุปความรู้ที่ได้ จากการอบรม จัดทำเป็นรายงาน ขยายผลการอบรมต่อคณะครูในโรงเรียน เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ และให้เป็นแนวทางในการจัดการการเรียนการสอนได้ต่อไป ๓.๑.๙ ปฏิบัติงานประสานความร่วมมือผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรส่วนท้องถิ่น หรือ สถานศึกษาประกอบการเพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ ๑.ข้าพเจ้าได้ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรส่วนท้องถิ่น และสถาน ประกอบการในด้านต่างๆ เพื่อร่วมมือกันทำกิจกรรมต่างๆที่ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์จริง แก่ผู้เรียน ดังนี้ ข้าพเจ้าร่วมประชุมผู้ปกครองในวันเปิดภาคเรียนทุกปีการศึกษา เพื่อชี้แจงนโยบายของ สถานศึกษา แนะนำการจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน ชี้แจงและทำความเข้าใจให้ตรงกันระหว่าง ผู้ปกครองกับโรงเรียน ๒. ข้าพเจ้าเชิญผู้ปกครองมาร่วมชมการแสดงของผู้เรียนเนื่องในวันสำคัญต่างๆ ที่จัดขึ้นใน โรงเรียน เช่น วันพ่อแห่งชาติ วันแม่แห่งชาติ วันเด็กแห่งชาติ กิจกรรมกีฬาสี ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่าง ดีจากผู้ปกครอง อีกทั้งผู้ปกครองยังมีส่วนร่วมในการแต่งตัว แต่งหน้าทำผมในกิจกรรมการแสดงต่างๆ
๑๔ ด้วยความรักและมีไมตรีต่อกัน ตลอดจนยังช่วยสนับสนุนการซื้อชุดการแสดงเครื่องประดับให้กับชมรม นาฏศิลป์ของโรงเรียนประชาภิบาล เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ในการแสดงอีกด้วย ๓. ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ในการจัดกิจกรรมการให้ความรู้ เกี่ยวกับการแสดงนาฏศิลป์ไทยให้กับผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษา ให้เกิดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนได้เห็นแบบอย่างจากประสบการณ์จริง เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชานาฏศิลป์ ๔. นำผู้เรียนเข้าร่วมแสดงการรำถวายความอาลัย เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร่วมกับผู้เรียนชมรมนาฏศิลป์ ทุก โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เพื่อปลูกฝังให้ผู้เรียนได้แสดงถึงความรักและ เทิดทูลต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของชาติ ส่งผลให้ผู้เรียน ครู ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชนให้ความร่วมมือกับโรงเรียนเป็นอย่างดีให้ การช่วยเหลือและร่วมมือด้วยความเต็มใจ ให้ความสนใจ สนับสนุนเข้าร่วมในกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัด ขึ้นทำให้จัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น (ภาพประกอบที่ ๑๒ หน้าที่ ๓๖) ๓.๑.๑๐ ปฏิบัติงานบริการสังคมด้านวิชาการ ทำนุบำรุง ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานบริการสังคมทางด้านวิชาการ การทำนุบำรุง ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นดังนี้ ๑. ให้บริการยืมเอกสารทางวิชาการต่างๆแก่คณะครูทั้งในโรงเรียนและต่างโรงเรียน เช่น การยืมสื่อการเรียนรู้ การยืมวิจัยในชั้นเรียนเพื่อนำไปศึกษา ๒.ปฏิบัติหน้าที่ให้ความรู้เรื่องมารยาทไทย แก่ผู้เรียนในช่วงเวลากิจกรรมหน้าเสาธง พร้อมกำกับติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียนโดยได้รับความ ร่วมมือจากทางผู้ปกครอง คณะครูและผู้เรียนเป็นอย่างดี๓. ปฏิบัติหน้าที่วิทยากรผู้นำยุวกาชาดแก่ ผู้เรียนในโรงเรียนประชาภิบาล และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ๔. นำความรู้ที่ได้จากการเข้ารับการอบรมทางวิชาการขยายผลให้กับคณะครูในโรงเรียน ๕.นำผู้เรียนไป แสดงความสามารถทางศิลปวัฒนธรรม ด้านต่างๆ ทั้งกิจกรรมในโรงเรียนและหน่วยงานอื่นที่ ขอความร่วมมือ ๖. นำผู้เรียนไปร่วมกิจกรรมตามแหล่งเรียนรู้ในเขตบางเขน เช่นวัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร ศูนย์เยาวชนเขตบางเขน ตลาดยิ่งเจริญ เป็นต้น ส่งผลให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชานาฏศิลป์เกิดความรัก ความภาคภูมิใจในตนเอง ชุมชน และหน่วยงานต่างๆประสานความร่วมมือกันช่วยเหลือในกิจกรรมด้านต่างๆ เผยแพร่กิจกรรมต่างๆของ โรงเรียนให้เป็นที่รู้จัก และได้รับความร่วมมือและความไว้วางใจจากชุมชน ๓.๒ ผลงานด้านคุณภาพการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิทยฐานะ ๓.๒.๑ ผลงานที่เกิดจากความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงาน ๓.๒.๑.๑ ทฤษฎีการเรียนรู้และการสอน ข้าพเจ้าได้ศึกษาทฤษฎีการเรียนรู้และการสอนและได้นำมาประยุกต์ให้มีความสอดคล้อง กับบริบทของผู้เรียน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีพฤติกรรมที่ดี โดยปฏิบัติดังนี้ ข้าพเจ้าได้ทำการวิเคราะห์ผู้เรียน และนำข้อมูลไปออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา โดยใช้หลักทฤษฎีการเรียนรู้ของบลูม (Bloom’s Taxonomy) ซึ่งจำแนกหลักการเรียนรู้ออกได้เป็น ๓ ด้าน คือด้านพุทธิพิสัย ด้านทักษะพิสัย และด้านจิตพิสัย สอดคล้องกับธรรมชาติของการเรียนวิชานาฏศิลป์ เนื่องจากการเรียนวิชานาฏศิลป์ ผู้เรียนจำเป็นต้องรู้
๑๕ หลักและเข้าใจวิธีการปฏิบัติท่ารำทางนาฏศิลป์ที่ถูกต้อง ตลอดจนเนื้อหาทางด้านความรู้เพื่อเป็นพื้นฐาน ในการปฏิบัติท่ารำ และต่อเนื่องมาถึงการใช้ทักษะการปฏิบัติท่ารำ โดยนำความรู้ความเข้าใจใน หลักการปฏิบัติท่ารำ มาปฏิบัติซ้ำๆจนเกิดความแม่นยำและชำนาญ จนสามารถต่อยอดไปถึงการคิด สร้างสรรค์ผลงานทางนาฏศิลป์ตามความคิดของตนได้ ตลอดจนสามารถประเมินผลงานของตนเองและ ของผู้อื่นได้ตามความเป็นจริง ก่อให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่เกิดจากความตระหนักเห็น คุณค่า ความสำคัญ และความภาคภูมิใจในตนเองที่ได้จากการเรียนวิชานาฏศิลป์ เช่น การฝึกนาฏยศัพท์ และภาษาท่าทางนาฏศิลป์ ผู้เรียนต้องฝึกการปฏิบัติจนเกิดความชำนาญและสามารถต่อยอดไปถึงการ สร้างสรรค์ท่ารำประกอบบทเพลงสั้นๆได้ ทำให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตน ๓.๒.๑.๒ การจัดการเรียนรู้ ข้าพเจ้าศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาและนำมาออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้น เรียนโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีความกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ในทางที่ถูกต้องโดยไม่ไปจำกัดความคิดของผู้เรียนในการแสดงความคิดเห็น โดยจะใช้วิธีการชี้แจงพูดคุย ให้ผู้เรียนได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ ละหน่วย ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมที่ผู้เรียนควรปฏิบัติเช่น การแสดงความเคารพต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การแสดงความเคารพต่อครู และผู้มีพระคุณ มารยาทของไทย ตลอดจนการยอมรับ ความคิดเห็นของผู้อื่น มีการใช้เทคนิควิธีการสอนที่หลากหลาย เช่น เอกสารประกอบการเรียนการสอน เรื่องนาฏศิลป์ไทยและรำวงมาตรฐาน (เพลงคืนเดือนหงายและเพลงหญิงไทยใจงาม) หนังสือเสริมการ เรียน สื่อการสอนเรื่องนาฏยศัพท์และเรื่องภาษาท่าทางนาฏศิลป์ในรูปแบบ Power Point และประเมิน ผู้เรียนตามสภาพจริงเพื่อนำผลไปพัฒนาผู้เรียน หรือหาแนวทางในการแก้ไขพฤติกรรมต่อไป ๓.๒.๑.๓ จิตวิทยาการศึกษา ข้าพเจ้าได้นำหลักจิตวิทยาการศึกษามาการจัดการเรียนการสอน เนื่องจากวิชานาฏศิลป์ นั้นเป็นวิชาที่ให้ความสำคัญด้านทักษะการปฏิบัติท่ารำซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากครูผู้สอนให้กับผู้เรียน ปฏิบัติจนเกิดถูกต้องและความชำนาญก่อนจะนำไปต่อยอดในการสร้างสรรค์ผลงาน ข้าพเจ้าจึงใช้หลัก ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม ของแบนดูรา (Albert Bandura) ซึ่งให้แนวคิดว่าพฤติกรรมของบุคคลเกิด จากการปะทะสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและสิ่งแวดล้อมผู้เรียนจะเลียนแบบตัวแบบ การเลียนแบบนี้ผู้เรียน จะเกิดกระบวนการขึ้นต่อเนื่องโดยอาศัยการสังเกตตัวแบบ รวมถึงปฏิกิริยาตอบสนองต่างๆ โดยอาศัย กระบวนการเรียนรู้ ๔ ประการ คือ กระบวนการสนใจ กระบวนการเก็บจำ กระบวนการแสดงออก และ กระบวนการจูงใจ ซึ่งในการเรียนวิชานาฏศิลป์ผู้เรียนจะได้รับการถ่ายทอดท่ารำและสังเกตลีลาการ ปฏิบัติของผู้สอน ผู้สอนจึงจำเป็นต้องเป็นตัวแบบที่ดี ถูกต้อง ตลอดจนเร้าความสนใจของผู้เรียนให้เกิด ความสนใจด้วยการเสริมแรงทางบวก จนนำไปสู่กระบวนการเก็บจำ คือผู้เรียนเก็บจำเนื้อหาความรู้และ กระบวนการท่ารำที่ถูกต้อง ไปสู่กระบวนการแสดงออก คือการปฏิบัติท่ารำให้ถูกต้องและมีลักษณะ ใกล้เคียงกับแม่แบบมากที่สุด กระบวนการจูงใจ เมื่อผู้เรียนปฏิบัติได้ถูกต้อง จะได้รับการเสริมแรงทำให้ ผู้เรียนนั้นเกิดแรงจูงใจในการปฏิบัติพฤติกรรมนั้นต่อไป ส่งผลให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติท่ารำได้ถูกต้อง เพราะเมื่อผู้เรียนเกิดความสงสัยจะได้ คำตอบหรือการแก้ไขปฏิบัติได้ทันที เนื่องจากผู้สอนและผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ผ่านการเรียนรู้ทั้ง ๔ กระบวนการ ส่งผลให้ผู้เรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีเจตคติที่ดีต่อ วิชานาฏศิลป์
๑๖ ๓.๒.๑.๔ การผลิตสื่อและการใช้สื่อ ข้าพเจ้าผลิตสื่อการสอน เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างหลากหลาย โดยศึกษาจากหลักสูตรสถานศึกษา นำมาวางแผนในการจัดการเรียนรู้แต่ละชั่วโมง และออกแบบสื่อการ เรียนรู้ที่มีความถูกต้องตามเนื้อหาตรงกับจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนด และมีความเหมาะสมกับ ผู้เรียนเร้าความสนใจให้ผู้เรียนเกิดความอยากเรียนรู้ เช่น การเอกสารประกอบการเรียนการสอนเรื่อง นาฏศิลป์ไทยและรำวงมาตรฐาน (เพลงคืนเดือนหงายและเพลงหญิงไทยใจงาม) หนังสือเสริมการเรียน สื่อการสอนเรื่องนาฏยศัพท์และเรื่องภาษาท่าทางนาฏศิลป์ในรูปแบบ PowerPoint เกมการศึกษาบิโก ภาษาท่าทางนาฏศิลป์-นาฏยศัพท์, บันไดงู , สมุดภาพรำวงมาตรฐาน ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในการเรียนมากขึ้น มีเจตคติที่ดีต่อวิชานาฏศิลป์ และ ผู้เรียนได้ร่วมลงมือในการทำก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง (ภาพประกอบที่ ๑๓ หน้าที่ ๓๖) ๓.๒.๑.๕ ภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศอื่นและเทคโนโลยีสำหรับครู ข้าพเจ้าได้เข้ารับการอบรมการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ณ มหาวิทยาลัยเกริก เพื่อทบทวนและพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังได้ขอคำปรึกษาจาก เพื่อนครูและศึกษาจากตำราเอกสารทางวิชาการที่มีคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับวิชานาฏศิลป์และนำคำศัพท์ เหล่านั้นสอดแทรกไปในบทเรียนและกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนได้รู้สึกคุ้นเคยกับคำศัพท์ และตระหนักว่า การใช้ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังมีความสนใจทาง เทคโนโลยีโดยเฉพาะโปรแกรมที่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์ผลงานทางนาฏศิลป์ โดยข้าพเจ้า ศึกษาข้อมูลเหล่านี้ผ่านการหา Google และ YouTube และลงมือปฏิบัติจริง เช่น โปรมแกรมการตัด ต่อบทเพลง GARAREBAND และโปรแกรม WavePad Sound Editor โปรแกรม Youtube Download โปรแกรม Format Factory และนำมาถ่ายทอดให้ผู้เรียนในชมรมนาฏศิลป์ทดลองในการตัดต่อเพลง ซึ่งผู้เรียนสามารถทำได้ ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ๓.๒.๑.๖ บูรณาการเนื้อหาวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ข้าพเจ้าได้บูรณาการทางด้านเนื้อหาวิชานาฏศิลป์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ที่มี ความสัมพันธ์กันสามารถเชื่อมโยงเนื้อหาเข้ากันได้ ก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่แปลกใหม่ และทำให้ผู้เรียนได้ ทดลองในการปฏิบัติจริง เช่น วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หน่วยการเรียนรู้เรื่องประวัติความเป็นมาของชาติไทย ข้าพเจ้าได้นำผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมในการนุ่งโจง กระเบน ซึ่งเป็นการแต่งกายของคนในสมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน ทำให้ผู้เรียนมีความสุขสนุกกับการได้ลง มือปฏิบัติกิจกรรม หรือการนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายเดียวกับภาษาท่าทางนาฏศิลป์ มา บูรณาการเข้ากับหน่วยการเรียนรู้เรื่อง ภาษาท่าทางนาฏศิลป์ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดความรู้สึกกระตือรือร้นในการเรียน เร้าความสนใจ มีบรรยากาศในการ เรียนที่สนุกสนาน เกิดเจตคติที่ดีต่อครูและวิชาที่เรียน ๓.๒.๒ ผลงานที่เกิดจากความสามารถในการจัดการเรียนรู้ ๓.๒.๒.๑ ใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน ข้าพเจ้าสามารถใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐานโปรแกรม Microsoft Word, Microsoft Excel, Microsoft PowerPoint โดยนำมาใช้ในการทำแผนการจัดการเรียนรู้ การทำใบงาน การทำโครงงาน
๑๗ การทำเอกสารวัดผล การผลิตสื่อการเรียนรู้ หนังสืออ่านเพิ่มเติม ที่มีคุณภาพสวยงามน่าสนใจ โดย ผู้เรียนสามารถนำสื่อการสอน หรือหนังสืออ่านเพิ่มเติมไปศึกษานอกเวลาได้ ส่งผลให้ข้าพเจ้าได้สร้างชิ้นงานที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้และจัดเก็บงานได้ อย่างเป็นระบบ สืบค้นข้อมูลได้ง่าย ผู้เรียนได้เรียนรู้ตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ มีสื่อการเรียนรู้ที่ หลากหลายและมีความสุขในการเรียน ๓.๒.๒.๒ จัดทำหลักสูตร ข้าพเจ้าได้ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จนเกิด ความเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ โดยการ วิเคราะห์จุดมุ่งหมาย คุณภาพ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง หลักสูตรระดับ ท้องถิ่นที่กรุงเทพมหานครกำหนด สำรวจความต้องการของผู้เรียน ชุมชน ผู้ปกครองและท้องถิ่น นำมา วิเคราะห์ และศึกษาจุดเน้น และกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนร่วมกัน จัดทำคำอธิบายรายวิชา กำหนดโครงสร้างรายวิชา หน่วยการเรียนรู้และทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ออกแบบการวัดผลประเมินผลและเมื่อถึงสิ้นปีการศึกษา จะมีการตรวจสอบและปรับปรุงหลักสูตร สถานศึกษา ส่งผลให้สถานศึกษามีหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะที่เหมาะสมกับผู้เรียน และ บริบทของสถานศึกษา ชุมชนและท้องถิ่น สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ส่งผลให้ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ๓.๒.๒.๓ จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างหลากหลาย ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งทางด้านวิชาการและการปฏิบัติจริง ในวิชานาฏศิลป์โดยใช้กระบวนการสาธิตส่งผลให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ เมื่อสามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง แล้วจึงนำไปสู่การคิดสร้างสรรค์ เช่น การนำนาฏยศัพท์ที่เรียนมาประกอบบทเพลงเตยโขง ในหน่วย การเรียนรู้ เรื่อง นาฏยศัพท์ ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ การแสดงบทบาทสมมติประกอบนิทาน ที่ผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ได้นำไปแสดงในกิจกรรม เล่านิทานประกอบท่าทาง ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งใน โครงการรักการอ่าน การทำโครงงาน จากการที่ผู้เรียนได้สังเกตว่าชมรมนาฏศิลป์ขาดแคลนผมมวย ปลอม จึงได้ศึกษาวิธีและขั้นตอนการทำ จัดทำเป็นโครงงาน Magic Ball ขึ้น และได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการประกวดโครงงานภายในโรงเรียน ผลที่ได้รับคือ ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจ และชมรมนาฏศิลป์ มีผมมวยปลอมไว้เพื่อใช้ในการแสดงต่างๆ ส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้แหล่งเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ ยุวกาชาด ส่งเสริมผู้เรียนให้เรียนรู้หลักและกระบวนการตามแบบ ประชาธิปไตย ในกิจกรรมเลือกตั้งสภาผู้เรียน ส่งเสริมผู้เรียนให้แสดงออกตามโครงการพัฒนาศักยภาพ ๘ กลุ่มสาระ โดยนำผู้เรียนแสดงความสามารถทางด้านนาฏศิลป์ในวันสำคัญ และกิจกรรมต่างๆอย่าง สม่ำเสมอ และส่งเสริมผู้เรียนที่มีความสามารถทางนาฏศิลป์เป็นเลิศในระดับโรงเรียนเพื่อเข้าร่วม โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกรุงเทพมหานครและเมืองยาชิโย ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทำให้ผู้เรียนเกิดความสนุกท้าทาย ความสามารถของตนเอง ที่ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงทำให้เกิดทักษะใหม่ๆการคิดและการแก้ปัญหา ตลอดจนนำข้อผิดพลาดมามาปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น
๑๘ ๓.๒.๒.๔ จัดทำแผนการเรียนรู้และนำเทคนิคการสอนที่เหมาะสมกับกลุ่มสาระ เนื้อหาวิชา ข้าพเจ้าได้ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และ หลักสูตรสถานศึกษา โดยนำมาวิเคราะห์เนื้อหาหลักสูตร มาตฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด จัดทำแผนการ จัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน และผู้เรียน นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังได้ศึกษาหลักและ วิธีการสอนนาฏศิลป์เช่น หลักและวิธีการสอนนาฏศิลป์จาก อาจารย์อมรา กล่ำเจริญ หรือจากตำราการ สอนนาฏศิลป์จากวิทยาลัยนาฏศิลป์ การสัมภาษณ์ อาจารย์นันทา น้อยนิตย์ ครูวิทยฐานะครูชำนาญ การพิเศษ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์และนำมาประยุกต์ ให้เหมาะสมกับผู้เรียน โดยคำนึงถึงช่วงวัย ความแตกต่างระหว่างบุคคล และทักษะความสามารถทางด้านนาฏศิลป์ซึ่งแต่ละคนมีความสามารถที่ แตกต่างกัน ข้าพเจ้าจึงใช้เทคนิคการเรียนรู้ที่หลากหลายโดยคำนึงถึงธรรมชาติของวิชานาฏศิลป์ ให้ ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้ด้วยลงมือทำโดยผ่านกระบวนการคิด และให้คำแนะนำ เช่น การสาธิต การแสดงสถานการณ์จำลอง การแสดงบทบาทสมมติ เกมการศึกษาและไม่ลืมปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์การเคารพครูอาจารย์ โดยมีขั้นตอนดังนี้ ๑. ขั้นแนะนำ เป็นขั้นตอนที่ผู้เรียนจะรับรู้ถึงจุดมุ่งหมายของบทเรียน และเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้ ๒. ขั้นทบทวน ความรู้เดิม เป็นขั้นที่ผู้เรียนได้แสดงออกถึงความรู้ ความเข้าใจเดิมที่มีอยู่ในเรื่องที่กำลังจะเรียนรู้ ๓. ขั้นปรับเปลี่ยนความคิด สร้างความกระจ่างและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันและกัน สร้างความคิดใหม่จากการอภิปรายร่วมกัน และสาธิตแสดงให้เห็นจนทำให้ผู้เรียน สามารถกำหนด ความคิด หรือความรู้ใหม่ขึ้นได้ การประเมินความคิดใหม่ โดยการทดลอง หรือใช้กระบวนการคิด คิดอย่างไตร่ตรอง ลึกซึ้ง และประเมินคุณค่า การนำความคิดไปใช้ ผู้เรียนมีโอกาสได้ใช้ความคิด หรือ ความรู้ ความเข้าใจในการ พัฒนาการเรียนรู้อย่างมีความหมาย ๔. ขั้นทบทวน เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ ผู้เรียนจะได้ทบทวนความคิด ความเข้าใจ โดยการเปรียบเทียบ ระหว่างความคิดเดิมกับความคิดใหม่ ส่งผลให้ผู้เรียนได้สร้างความรู้ใหม่ และใช้ประสบการณ์เดิมของผู้เรียนได้สังเกตสิ่งที่ ตนเองสนใจ อยากเรียนรู้ แล้วจึงศึกษาค้นคว้าแสวงหาความรู้เพิ่มเติมและนำไปเชื่อมโยง ต่อยอด เกิดเป็นความรู้ใหม่ ของผู้เรียนเอง อีกทั้งได้พัฒนาทักษะกระบวนการคิดอีกด้วย ๓.๒.๒.๕ วิจัยในชั้นเรียน ข้าพเจ้าได้ทำการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระนาฏศิลป์ เป็นประจำทุกปี ปีละ ๒ เรื่อง โดยนำปัญหาจากการจัดการเรียนการสอนที่บันทึกไว้ใน แผนการจัดการเรียนรู้ มาวิเคราะห์ถึงปัญหา และทำการค้นคว้าศึกษาโดยใช้ทฤษฎีต่างๆ เพื่อนำมา ทดลองแก้ไข และจัดทำวิจัยในชั้นเรียน ดังนี้ ผลการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิตเพื่อพัฒนาความสามารถ ในการรำ ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชานาฏศิลป์ (เพลงงามแสงเดือน) โดยใช้วิธีการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ของชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๓ โรงเรียน ประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ผลการใช้ เอกสารประกอบการเรียนรู้เรื่อง การแสดงรำวง (เพลงคืนเดือนหงายและเพลงหญิงไทยใจงาม) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขต กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ การพัฒนาทักษะทางการรำ (นาฏยศัพท์) โดยใช้เทคนิคแม่แบบ ของผู้เรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
๑๙ ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาศิลปะ ผ่านเกณฑ์ตามที่สถานศึกษากำหนด และทำให้ผู้เรียนมีความกล้าแสดงออกมากขึ้นสามารถแสดงความสามารถของตนเองผ่านการร่วม กิจกรรมต่างๆ ๓.๒.๒.๖ การบริหารการจัดการชั้นเรียน ข้าพเจ้าจัดการบริหารการจัดการในชั้นเรียนโดย การจัดสภาพแวดล้อมให้มีพื้นที่ใน การจัดการเรียนรู้ ทั้งทางด้านความรู้และทักษะในการปฏิบัติทางนาฏศิลป์ เมื่อผู้เรียนได้เรียนในส่วน ของความรู้ ผู้เรียนจะเรียงเป็นแถวหน้ากระดาน และเมื่อการจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติทักษะทาง นาฏศิลป์จะเปลี่ยนแถวเป็นรูปตัวยูหรือวงกลม โดยการทำการเรียนผู้เรียนทุกคนจะต้องทำความเคารพ ต่อพระพุทธรูป พระพิฆเนศ พ่อแก่ เพื่อเป็นการปลูกฝังมารยาทไทย และการแสดงความเคารพต่อครู อาจารย์ทั้งก่อนเรียนและหลังเลิกเรียน จัดทำป้ายนิเทศเพื่อให้ความรู้กับผู้เรียน ๓.๒.๓ ผลงานที่แสดงให้เห็นถึงทักษะในการจัดการเรียนรู้ ๓.๒.๓.๑ การให้บริการที่ดี ข้าพเจ้าได้ให้บริการที่ดี ทั้งด้านการบริการผู้เรียน บริการชุมชน บริการบุคลากรในโรงเรียน ดังนี้ ด้านบริการผู้เรียน ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวันศุกร์ ดูแลความปลอดภัย และ ความเรียบร้อยภายในโรงเรียน ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่สหกรณ์ร้านค้าประจำวันจันทร์ เพื่ออำนวยความ สะดวกให้กับผู้เรียนและผู้ปกครองในการซื้ออุปกรณ์การเรียน และให้บริการในการสอนนาฏศิลป์แก่ ผู้เรียนที่มีความสนในช่วงเวลาเช้าก่อนเข้าเรียน พักกลางวัน และช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ด้วยความ สมัครใจ ด้านบริการชุมชน ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่พิธีกร เนื่องในงานต่างๆตามที่ชุมชนได้ขอความร่วมมือ มา เช่น พิธีกรในงานมงคลสมรส งานฌาปนกิจศพ และ ยังนำผู้เรียนไปร่วมแสดงเพื่อเป็นการฝึกทักษะ จากประสบการณ์จริง ด้วยความเต็มใจ ด้านบุคลากรในโรงเรียน ข้าพเจ้าให้บริการแก่เพื่อนครูและ บุคลากรในโรงเรียนทั้งทางด้านวิชาการและด้านอื่นเช่น บริการยืมสื่อการสอน วิจัยในชั้นเรียน ช่วยจัด สถานที่ในการจัดกิจกรรมต่างๆ หรือบริการในการซ้อมการแสดง แต่งหน้าทำผม เนื่องในโอกาสสำคัญ ของบุคคลากรในโรงเรียนด้วยความเต็มใจ ส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ผู้ปกครอง และชุมชนได้รับการบริการที่ดีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ครู ผู้ปกครอง และชุมชน (ภาพประกอบที่ ๑๖ -๑๗ หน้า ๓๘) ๓.๒.๓.๒ การออกแบบการเรียนรู้ ข้าพเจ้าออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยมีขั้นตอนในการจัดทำอย่างเป็นระบบ และ ทำเป็นประจำต่อเนื่องกันทุกปี คือ การพัฒนาและทบทวนหลักสูตรสถานศึกษา วิเคราะห์หน่วย การเรียนรู้ จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ประเมินผลและบันทึกหลังสอน วิเคราะห์ผู้เรียนและ สภาพปัญหา ทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาของผู้เรียน ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ตามเกณฑ์ที่ทาง สถานศึกษากำหนด ๓.๒.๓.๓ การจัดการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ ข้าพเจ้าจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ คำนึงถึงความแตกต่างระหว่าง บุคคล วัย โดยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาทั้งทางด้าน กาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาควบคู่กันไป โดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และปฏิบัติจริง เพราะการที่ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ทำให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ที่ คงทน และสามารถคิดแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ส่งผลในผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นใน การเรียน การทำกิจกรรม ส่งเสริมกระบวนการคิดแก้ไขปัญหา คิดสร้างสรรค์ เช่น การใช้ภาษาท่าทาง
๒๐ นาฏศิลป์ ในการสร้างสรรค์ท่าทางประกอบบทละครสั้นๆ ในหน่วยการเรียนรู้ เรื่องภาษาท่าทาง นาฏศิลป์ชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๔ และเมื่อผู้เรียนสามารถปฏิบัติได้ หรือขณะปฏิบัติ ข้าพเจ้าจะให้ คำชมเชย การมอบรางวัล เพื่อเป็นการเสริมแรงให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมจนเกิดความสำเร็จ ส่งผลให้ ผู้เรียนเกิดเจตคติทีดี มีความสุข กล้าแสดงออกสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ๓.๒.๓.๔ การจัดหาแหล่งการเรียนรู้ ข้าพเจ้าส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนได้แก่ การสืบค้นข้อมูล หรือ คำศัพท์ต่างๆ จากห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องดนตรีไทย ห้องดนตรีสากล ห้องศิลปะ สวนเกษตร พอเพียง และจากแหล่งเรียนรู้ภายนอก ได้แก่การเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเพิ่มความรู้กับศูนย์เยาวชน บางเขน วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ตลาดยิ่งเจริญ ส่งผลให้ผู้เรียนได้เกิดความ กระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ และนำความรู้และทักษะมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ๓.๒.๓.๕ การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ ข้าพเจ้ามีการพัฒนาการสื่อการสอน โดยการวิเคราะห์เนื้อหาในหลักสูตร กำหนด จุดประสงค์การเรียนรู้ โดยการผลิตสื่อการสอน ข้าพเจ้าจะแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ๑.ครูเป็นผู้ผลิตเช่น สื่อการเรียนรู้ นาฏยศัพท์ ภาษาท่า ในรูปแบบ PowerPoint และสื่อที่ผู้เรียนและครูเป็นผู้ร่วมกันผลิต เช่น สมุดภาพรำวงมาตรฐาน เกมการศึกษาต่างๆ เพราะการให้ผู้เรียนได้ลงมือร่วมกันผลิตจะส่งผลให้ ผู้เรียนได้เกิดการบวนการทั้งทางด้านการวางแผน การนำความรู้มาสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกันเป็น กลุ่ม และเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง โดยผ่านการช่วยเหลือและให้คำแนะนำจากครู ๓.๒.๓.๖ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นผลถาวรที่เกิดกับผู้เรียน ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง เนื่องจาก การลงมือปฏิบัติจริงนั้นจะส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่คงทนถาวร และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน ดังนี้ข้าพเจ้าให้ความรู้แก่ผู้เรียนเรื่องมารยาทในการไหว้ ในช่วงเช้าหลังกิจกรรมหน้าเสา ธง ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของโรงเรียนประชาภิบาลคือ “ไหว้สวย” และจัดการประกวดขึ้นภายในโรงเรียน เพื่อเสริมแรงให้ผู้เรียนได้เห็นคุณค่าและเกิดความภาคภูมิใจและนำไปปฏิบัติจริง โดยได้รับความร่วมมือ จากผู้ปกครองในการสังเกตพฤติกรรมและตอบแบบสอบถามส่งคืนกลับมาทางโรงเรียน การจัดกิจกรรม พัฒนาความสามารถทางด้านนาฏศิลป์ ตามโครงการพัฒนาศักยภาพ ๘ กลุ่มสาระ เพื่อให้ผู้เรียนได้ พัฒนาทักษะความสามารถทางด้านนาฏศิลป์ ด้วยการเรียนรู้จากครู และให้ผู้เรียนปฏิบัติซ้ำเน้นย้ำจน เกิดทักษะ และสามารถนำมาแสดงในกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนสามารถนำความสามารถไปแข่งขันใน หน่วยงานต่างๆ ได้เช่น รางวัลชนะเลิศเหรียญทอง ประเภทวงดนตรีลูกทุ่งประเภท ก ระดับชั้น ป.๑- ม.๓ งานศิลปหัตถกรรมผู้เรียน ระดับ เขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ ๖๖ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กรุงเทพมหานคร ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ เหรียญทอง ประเภทนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ ประดับชั้นป.๑-ป.๖ งานศิลปหัตถกรรมผู้เรียน ระดับ เขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ ๖๖ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษากรุงเทพมหานคร รางวัลเหรียญทอง การแข่งขันเล่านิทานคุณธรรม งานศิลปหัตถกรรมผู้เรียน ระดับ เขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ ๖๗ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร รางวัล ชนะเลิศการประกวดทักษะทางด้านนาฏศิลป์ไทย จากศูนย์เยาวชนเขตบางเขน การแข่งขันคัดเลือกยุว ทูตกรุงเทพมหานคร(ยาชิโย) เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ ผู้เรียนจะเกิดกระบวนการทักษะ ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ความอดทน การทำงานร่วมกับผู้อื่น
๒๑ ๓.๓ ผลงานตามโครงการที่ดำเนินงานในสถานศึกษาที่รับผิดชอบ ข้าพเจ้าได้เป็นผู้จัดทำและรับผิดชอบการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆดังนี้ ๓.๓.๑ โครงการวิจัยในชั้นเรียน หลักการและเหตุผล ตามที่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๒๔(๕) มีสาระสำคัญที่เน้นการ ปฏิรูปการศึกษาโดยเฉพาะการปฏิรูปการเรียนการสอน ซึ่งเกี่ยวข้องกับครูผู้สอนโดยตรง ดังนั้นครูใน ยุคปัจจุบันจึงต้องปรับเปลี่ยนบทบาทให้เป็นผู้รอบรู้และสามารถทำวิจัยได้ การวิจัยในชั้นเรียนเป็นนวัตกรรมรูปแบบหนึ่ง นำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาในชั้นเรียนประโยชน์ ของการทำวิจัยไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพแต่ยังช่วยพัฒนาวิชาชีพครู ให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อแก้ไขปัญหาการเรียนของผู้เรียน ๒. เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน การดำเนินงาน ข้าพเจ้าได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รับผิดชอบในโครงการวิจัยในชั้นเรียนโดยได้ดำเนินการประชุม วางแผนร่วมกับคณะกรรมฝ่ายวิชาการ จากนั้นเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติจากคณะผู้บริหาร สถานศึกษา และดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน ประสานงานกับคณะกรรมการและ ผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินงานตามแผนที่กำหนด และประเมินผลสรุปผลการดำเนินงาน ส่งผลให้ บุคลากรครูโรงเรียนประชาภิบาล ได้นำปัญหาที่เกิดขึ้นขณะจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนโดยผ่านการประเมินตามสภาพจริง มาวิเคราะห์ และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาของผู้เรียนได้อย่าง ทันท่วงที โดยคำนึงถึงผู้เรียนเป็นสำคัญ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาเพื่อทำงานวิจัยในชั้นเรียนเพื่อแก้ไข ปัญหาและพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นประจำเทอมละ ๑ เรื่อง ปีการศึกษาละ ๒ เรื่อง ครบทุกคน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ (ภาพประกอบที่ ๑๘ หน้าที่ ๓๙) ๓.๓.๒ โครงการพัฒนากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ หลักการและเหตุผล จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของวิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ ผู้เรียนมีพื้นฐานทางการเรียน วิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ ดีขึ้นเป็นลำดับ ทางกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ได้ตระหนักถึงเรื่อง ดังกล่าว จึงพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมต่างๆ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพทางการเรียนของผู้เรียนและสมรรถภาพการเรียนการสอนของ ครูผู้สอน รวมทั้งพัฒนาสื่อ อุปกรณ์ต่างๆ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ให้มีความหลากหลายซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ ให้สูงขึ้น วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ มีระบบและมี เหตุผล
๒๒ 2. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ 3. เพื่อพัฒนาศักยภาพทางการเรียนการสอนในวิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ 4. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอนในวิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ ให้สูงขึ้น การดำเนินงาน ข้าพเจ้าได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รับผิดชอบในโครงการพัฒนากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ โดย ข้าพเจ้าได้ดำเนินการวางแผนและดำเนินงานดังนี้ ข้าพเจ้าได้ประชุมวางแผนร่วมกับครูผู้สอนในกลุ่ม สาระการเรียนรู้ศิลปะ หลังจากได้แนวทางในการทำงานแล้วจึงเสนอโครงการต่อผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน และประสานงานกับคณะกรรมการ และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้รับทราบและมีความเข้าใจในจุดมุ่งหมายเหมือนกัน ทำการประชาสัมพันธ์โครงการและ กิจกรรมในโครงการให้ผู้เรียนได้ทราบ และดำเนินงานตามแผนที่กำหนดโดยมีกิจกรรมในโครงการดังนี้ ๑. กิจกรรมพัฒนาทักษะด้านดนตรีสากล ๒. กิจกรรมพัฒนาทักษะด้านดนตรีไทย ๓. กิจกรรมพัฒนา ทักษะด้านนาฏศิลป์ 4. กิจกรรมเส้นสายลายศิลป์๕. กิจกรรมจิตรกรน้อย เมื่อครบปีการศึกษาจึงได้ รวบรวมการดำเนินงานและประเมินผลและ สรุปผลการประเมินและเสนอแนวทางปรับปรุงเพื่อพัฒนา ส่งผลให้ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ผ่านเกณฑ์ตามที่โรงเรียนกำหนดไว้ ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถ ของตนเอง มีความกล้าแสดงออก ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และผู้เรียนได้รับรางวัลจากการเข้าร่วม การแข่งขันในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะทำให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง (ภาพประกอบที่ ๑๙ หน้า ๓๙) ๓.๓.๓ โครงการรักการอ่าน หลักการและเหตุผล จากที่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้วางแนวการจัดการศึกษาไว้ในมาตรา ๒๒ ว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด การอ่าน เป็นทักษะทางภาษาที่มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ พัฒนาตนเอง และสามารถพัฒนาทักษะทางด้าน ภาษาทั้ง ๔ ทักษะคือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ กล้าคิด กล้าทำ และแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้อย่างหลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในสถานการณ์ต่างๆ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้จากกิจกรรมอย่างหลากหลายเพื่อนำไปสู่การ เรียนรู้ตลอดชีวิต ดังนั้นทางกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนประชาภิบาล เห็นความสำคัญของการอ่าน จึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการโรงเรียนรักการอ่านขึ้น เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่าน และต้องการให้ ผู้เรียนใฝ่รู้ ใฝ่เรียนอย่างต่อเนื่อง และปลูกฝังให้ผู้เรียนมีนิสัยรักการอ่าน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการ เรียนรู้และการดำรงชีวิต ของผู้เรียนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีนิสัยรักการอ่าน ๒. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถศึกษาค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตนเอง ๓. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
๒๓ การดำเนินงาน ข้าพเจ้าได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการในการดำเนินงานตามโครงการรักการอ่านโดยมีการ ดำเนินการโดยประชุมวางแผน/เสนอแผนการปฏิบัติงาน/แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิบัติงาน และ ดำเนินงานกิจกรรมดังต่อไปนี้ ตามแผนของแต่ละกิจกรรมที่กำหนดในปฏิทินปฏิบัติงาน ประกอบด้วย กิจกรรม ๑๕ นาทีทวีปัญญา กิจกรรมผู้นำยอดนักอ่าน กิจกรรมเล่านิทานประกอบท่าทาง กิจกรรมก่อนเรียนเขียนอ่าน ๓ คำ กิจกรรมมุมรักการอ่าน กิจกรรมหนังสือมุมตึก กิจกรรมอ่านจากภาพ และแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการกิจกรรมแต่ละกิจกรรม ดำเนินการกิจกรรมต่างๆให้สอดคล้องกับ โครงการ สรุปผลการดำเนินงานแต่ละกิจกรรม ประเมินผลและสรุปผลการดำเนินโครงการ โดยข้าพเจ้า ได้รับผิดชอบกิจกรรม เล่านิทานประกอบท่าทาง ดำเนินการโดยให้ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เป็นผู้ทำกิจกรรมเล่านิทานประกอบท่าทาง โดยใช้ห้องสมุดเป็นที่แสดงในช่วงเวลาพักกลางวัน ส่งผลให้ผู้เรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมในการชมการเล่านิทานประกอบท่าทางได้รับความสุขและ ความสนุกสนาน ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการอ่าน ผู้เรียนเห็นประโยชน์ของการอ่านและการใช้บริการ ห้องสมุด เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาไทย ผ่านเกณฑ์ตามที่ สถานศึกษาได้กำหนดไว้ และผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ได้นำความรู้จากการเรียนวิชานาฏศิลป์ มาตรฐานการเรียนรู้ ศ ๓.๑ เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ คุณค่านาฏศิลป์ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ศ ๓.๑ ป๕/๒ แสดงท่าทางประกอบเพลงหรือ เรื่องราวตามความคิดของตน มาลงมือปฏิบัติ ผู้เรียนเกิดประสบการณ์สามารถคิดวางแผนการทำงานเป็นกลุ่มและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ทำให้เกิดความมั่นใจและภาคภูมิใจในตนเอง ๓.๓.๔ โครงการโรงเรียนส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม หลักการและเหตุผล ในสภาวการณ์ปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้าในทุกๆด้าน โดยเฉพาะทางด้านวัตถุ กระแสนิยม ชาติตะวันตกได้หลั่งไหลเข้ามาในสังคมไทยจนทำให้คนไทยสูญเสียเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีงามความเจริญทางด้านจิตใจกำลังเสื่อมลงในทุกสังคมจนเป็นปัญหาสังคมที่ยากจะเยียวยา ได้ การศึกษาเป็นหนทางหนึ่งที่สำคัญในการฟื้นฟูคุณธรรมและจริยธรรมในตัวบุคคลตั้งแต่ ยังเยาว์วัย ดังนั้น โรงเรียนซึ่งเป็นสถานศึกษาต้องให้ความตระหนักและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนที่เป็นเยาวชนเติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถอยู่ร่วมกันในสังคม ได้อย่างมีความสุข โครงการนี้เป็นโครงการหนึ่งที่สนองเจตนารมณ์ดังกล่าวที่โรงเรียนได้จัดให้มีขึ้น ทุกปี หลังจากผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาพบว่า เกิดผลดีต่อผู้เรียนส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีผู้เรียน บางส่วนที่ยังต้องได้รับการอบรมให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อปลูกฝังให้ผู้เรียนเจริญเติบโตภายในหลักธรรมตามคำสอนของศาสนาที่ตนเองนับถือ ๒. เพื่อให้ผู้เรียนมีความตระหนักสอนให้เข้าใจและให้เป็นคนดีมีความรู้ อยู่อย่างมีความสุข ๓. เพื่อให้ผู้เรียนทำความดี ละเว้นความชั่วและมีจิตใจที่ผ่องใส การดำเนินงาน
๒๔ ข้าพเจ้าได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมดำเนินงานตามโครงการโรงเรียนส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ให้ประสบผลสำเร็จโดยมีลำดับขั้นตอนในการดำเนินงาน โดยประชุมครูกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และครูที่รับผิดชอบกิจกรรม เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติจากผู้บริหาร แต่งตั้ง คณะกรรมการรับผิดชอบกิจกรรม ดำเนินงานกิจกรรมตามแผนของแต่ละกิจกรรมที่กำหนดในปฏิทิน ปฏิบัติงาน ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมดังนี้ กิจกรรมขยับกายสบายชีวีกิจกรรมค่ายคุณลักษณะอันพึง ประสงค์กิจกรรมจากใจถึงใจ กิจกรรมโตไปไม่โกง กิจกรรมประกวดมารยาทงามตามแบบประชาภิบาล และประเมินผลจัดทำรายงานผลการปฎิบัติตามโครงการ รวบรวมเป็นรูปเล่ม โดยข้าพเจ้าได้รับผิดชอบ กิจกรรมในโครงการทั้งหมด ๒ กิจกรรมคือ กิจกรรมขยับกายสบายชีวี เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อ ปลูกฝังให้ ผู้เรียนตระหนักถึงประโยชน์ของการนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบก่อนที่จะเรียนหนังสือ โดยการใช้ เสียงเพลงในการช่วยผ่อนคลายและช่วยให้จิตใจสงบ ทั้งยังเป็นการพักร่างกายก่อนทำการเรียนต่อไป และ กิจกรรมมารยาทงามตามแบบประชาภิบาล เนื่องด้วยโรงเรียนประชาภิบาลได้กำหนดเอกลักษณ์ ประจำโรงเรียน คือ นั่งงามตามแบบประชาภิบาล ซึ่งเป็นท่านั่งแบบเฉพาะของโรงเรียน เริ่มปฏิบัติด้วย การไหว้ขอบคุณ จากนั้นนั่งลง 4 จังหวะ และนั่งพับเพียบเก็บมือเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความพร้อมเพรียง เพื่อเป็นเอกลักษณ์ประจำโรงเรียน และ ปลูกฝังมารยาทพื้นฐานของไทยนำไปสู่การนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตจริงได้ ส่งผลให้ผู้เรียนมีความประพฤติที่ดี ได้ปฏิบัติมารยาทที่ดีของไทยอย่างเป็นประจำ ทำให้เกิด นิสัยที่ถาวร และผู้เรียนสามารถทำสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบ มีสติ และเตรียมความพร้อมในการเรียนและ สามารถนำการปฏิบัติกิจกรรมนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย (ภาพประกอบที่ ๒๐ หน้า ๔๐) ๓.๓.๕ โครงการการตรวจสอบทบทวนและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา หลักการและเหตุผล กระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ตั้งแต่ ปีการศึกษา 2552 ในโรงเรียนต้นแบบ และใช้ครบทุกโรงเรียนในปีการศึกษา 2555 ซึ่งหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ได้กล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดการ หลักสูตรไว้ว่าหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมีบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การดำเนินการจัดทำ หลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษามีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในระดับชาติโดยระบุบทบาทหน้าที่ ของหน่วยงานต้นสังกัดว่าเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนคุณภาพจัดการศึกษา เป็นตัวกลาง ที่จะเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและ ความต้องการของท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำหลักสูตรของสถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนา หลักสูตรในระดับสถานศึกษาให้ประสบความสำเร็จ รวมทั้งเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัย และพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม ติดตามผล ประเมินผล วิเคราะห์ และรายงานผล คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน และความต้องการของท้องถิ่นไปสู่การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอน ในชั้นเรียน จึงได้จัดประชุมปฏิบัติการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาทั้ง 8 กลุ่มสาระ ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
๒๕ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อพัฒนาให้คณะครูในโรงเรียนได้มีความรู้ ความเข้าใจในการตรวจสอบทบทวนหลักสูตร สถานศึกษา ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และบริบท ของสถานศึกษา ๒. เพื่อให้โรงเรียนได้ตรวจสอบหลักสูตรสถานศึกษา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่มตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๓. เพื่อให้โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน ได้พัฒนาไปสู่การประกันคุณภาพทาง การศึกษา การดำเนินงาน ข้าพเจ้าได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการฝ่ายวิชาการของโรงเรียนและหัวหน้ากลุ่ม สาระการเรียนรู้ศิลปะ ได้ร่วมกับคณะครูดำเนินการจัดทำโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ โดยดำเนินการจัด กิจกรรมการประชุมปฏิบัติการตรวจสอบทบทวนหลักสูตรสถานศึกษา/สาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม มีผู้บริหารและข้าราชการครู โรงเรียนประชาภิบาล สำนักงานเขตบางเขน เข้าร่วมประชุมปฏิบัติการ ตรวจสอบทบทวนหลักสูตรสถานศึกษา/สาระการเรียนรู้ทั้ง ๘ กลุ่มสาระ เพื่อกำหนดแนวทางและ ขั้นตอน โดยการดำเนินโครงการ ดังนี้ ๑.ประชุมวางแผนการดำเนินงานตามโครงการ ๒. จัดทำคำสั่ง เสนอผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อขออนุมัติผู้เข้าร่วมประชุมปฏิบัติการฯ ๓. แจ้งรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้า ร่วมกิจกรรมตามโครงการฯ ๔. จัดทำรูปเล่มรายงานการดำเนินโครงการฯ โดยข้าพเจ้าได้เชิญครูที่อยู่ใน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะประชุมกลุ่มย่อย เพื่อทบทวนการจัดกิจกรรมการสอนว่ามีความสอดคล้องกับ หลักสูตรแกนกลาง สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ท้องถิ่น และความเปลี่ยนแปลงของ สังคมหรือไม่ รวมทั้งปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั่วโมงเรียนเพื่อนำมาปรับปรุงให้ ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ชุมชนและสังคม ส่งผลให้โรงเรียนได้พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรในแต่ละกลุ่มสาระ รวมทั้ง การวัดประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และ โรงเรียนได้รับการพัฒนาการบริหารจัดการหลักสูตรทั้งระบบเป็นแนวทางให้โรงเรียนได้พัฒนาไปสู่การ ประกันคุณภาพทางการศึกษา ผู้เรียนได้รับการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการ และ ความแตกต่างของบุคคล สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน และทันสมัย (ภาพประกอบที่ ๒๑ หน้า ๔๐ ) ๓.๔ ผลงานที่เกิดกับผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ๓.๔.๑ รายงานผลที่เกิดกับผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การอ่านออกเขียนได้ คิด เลขเป็นหรืออ่านคล่อง เขียนคล่อง จับใจความได้ คิดเลขเป็นและสามารถคิดวิเคราะห์ได้เหมาะสม กับระดับชั้น ตาราง ๒ แสดงผลทางการเรียนด้านการอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็นและการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ และ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ระดับชั้น ประถมศึกษาปี ๔ ปีการศึกษา จำนวนผู้เรียน ทั้งหมด จำนวนผู้เรียนตามระดับคุณภาพ ผู้เรียนที่ผ่าน เกณฑ์คิดเป็น ร้อยละ ดีเยี่ยม ดี ผ่าน ไม่ผ่าน ๒๕๖๐ ๘๘ ๖๓ ๒๕ - - ๑๐๐ ๒๕๖๑ ๗๕ ๖๕ ๗ ๓ - ๑๐๐
๒๖ จากตาราง ผลทางการเรียนของผู้เรียนคิดเป็นร้อยละในปีการศึกษา ๒๕๖๐ และปี พ.ศ.๒๕๖๑ รวมเฉลี่ยร้อยละ ๑๐๐.๐๐ สรุปผลการประเมินด้านการอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็นและการคิด วิเคราะห์ของผู้เรียน ผ่านเกณฑ์ตามที่สถานศึกษากำหนด ๓.๔.๒ รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตารางที่ ๓ แสดงผลรายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ของผู้เรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ และ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ระดับชั้น ประถมศึกษา ปีที่ ๔ ปี การศึกษา จำนวน ผู้เรียน จำนวนผู้เรียนที่มีผลการเรียนรู้ ร้อยละผู้เรียน ที่ผ่านเกณฑ์ มาตรฐานของ ทางโรงเรียน ๔ ๓.๕ ๓ ๒.๕ ๒ ๑.๕ ๑ ๐ ๒๕๖๐ ๘๘ ๓๐ ๒๗ ๑๖ ๖ ๙ - - - ๑๐๐ ๒๕๖๑ ๗๕ ๓๖ ๒๓ ๘ ๗ ๑ - - - ๑๐๐ * สถานศึกษาได้กำหนดเกณฑ์การผ่านของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไว้ที่ระดับ ร้อยละ ๖๐ จากตาราง ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ และ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ รวมเฉลี่ยร้อยละ ๑๐๐.๐๐ สรุปผลการผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ผ่านเกณฑ์ตามที่ สถานศึกษากำหนด ๓.๕ ผลงานที่เกิดกับผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ๓.๕.๑ การพัฒนาด้านร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคม ข้าพเจ้าส่งเสริมการพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ของผู้เรียนโดยสนับสนุนให้ผู้เรียนได้รับประทาน อาหารเช้าและอาหารกลางวัน และการดื่มนมเป็นประจำทุกวัน ส่งเสริมให้ผู้เรียนออกกำลังกาย เข้าร่วม กิจกรรม Sport Day ในการออกกำลังกายทุกวันพุธ และดำเนินการตามโครงการส่งเสริมสุขภาพอย่าง ต่อเนื่อง โครงการว่ายน้ำเป็นเล่นน้ำได้ กิจกรรมกีฬาสี ส่งผลให้ผู้เรียนมีการพัฒนาทางด้านร่างกายที่ดี มีสุขภาพแข็งแรง รู้จักดูแลตนเองให้ให้มีความปลอดภัย การพัฒนาการทางด้านสติปัญญา ข้าพเจ้า จัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ส่งเสริมให้ผู้เรียน ใช้แหล่งเรียนรู้ทั้งในโรงเรียนและแหล่งการเรียนรู้ภายนอก มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แข่งขันเพื่อหาประสบการณ์ให้กับตนเอง นอกจากนี้ข้าพเจ้าจัดโครงการพัฒนา ศักยภาพทางนาฏศิลป์ จัดกิจกรรมชมรมเพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนความถนัดของตนเอง ผู้เรียนได้รับ บทบาทการเป็นผู้นำ ผู้ตาม ช่วยเหลือและแบ่งปันกัน ส่งผลให้ผู้เรียนมีการพัฒนาด้านร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคม ที่ดีมีน้ำหนัก ส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์ของสำนักอนามัยกำหนด มีระดับสติปัญญาอยู่ในเกณฑ์ดี ผู้เรียนได้เรียนรู้ ความสามารถของตนเอง มีความกล้าแสดงออก สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ๓.๕.๒ คุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้าพเจ้าส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยผ่านการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนเช่น การกราบพระกราบครูก่อนเริ่มเรียนวิชานาฏศิลป์ ฝึกฝนความมีระเบียบวินัยในการร่วม กิจกรรมหน้าเสาธง ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความซื่อสัตย์สุจริต ผ่านการทำกิจกรรมในหลักสูตรโตไปไม่โกง ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เก็บออม โดยฝากเงินได้ในโครงการธนาคารโรงเรียน ส่งเสริมการนั่งสมาธิผ่าน กิจกรรมขยับกายสบายชีวี เพื่อให้ผู้เรียนเกิดสมาธิในการเรียน นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้ผู้เรียนได้เข้า
๒๗ ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เช่น การตักบาตรในตอนเช้า การเข้าค่ายพุทธบุตร กิจกรรมมารยาทงามตามแบบประชาภิบาล เพื่อฝึกฝนให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญของการมีมารยาทที่ดี งามของไทยและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ จัดโครงการค่ายคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านกระบวนการปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ แม่นยำและถาวรเพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ส่งผลให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ของตนเองที่ได้รับมอบหมาย เป็น สมาชิกที่ดีของครอบครัว และสังคม สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และสามารถ ช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วยความเต็มใจ สามารถผ่านเกณฑ์คุณลักษณะอันพึงประสงค์ร้อยละ๑๐๐ ๓.๕.๓ สุขนิสัย สุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ข้าพเจ้าส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสุขนิสัย สุขภาพกายที่ดี และสุขภาพจิตที่ดี ด้วยการดูแลเอาใจ ใส่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิดและเป็นกัลยาณมิตร ให้การอบรมแนะนำให้คำปรึกษา ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีส่วน ร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่นส่งเสริมให้ผู้เรียนรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โครงการอาหารเช้า โครงการ อาหารกลางวันและอาการเสริม(นม) ส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยกิจกรรม Sport Day โครงการว่าย น้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย กิจกรรมกีฬาสี โครงการเข้าค่ายลูกเสือ-ยุวกาชาด ผู้เรียนได้รับการตรวจ สุขภาพจาก ศูนย์อนามัยที่ ๒๔ โครงการจัดระบบการดูแลช่วยเหลือผู้เรียนของโรงเรียน เป็นต้น ส่งผลให้ ผู้เรียนมีความร่าเริง แจ่มใส ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ อย่างมีความสุข มีสุขนิสัย สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี ๓.๕.๔ ความสนใจร่วมกิจกรรมและแสดงออกด้านศิลปะ ดนตรีและกีฬา ข้าพเจ้าจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้แสดงออกทางด้านศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ อย่างสร้างสรรค์ เช่น จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมทางด้านกีฬา เช่น กิจกรรม Sport Day กิจกรรมกีฬาสี ฝึกให้ผู้เรียนได้ออกกายบริหารประกอบเพลง จากการเป็นผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนา กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ข้าพเจ้าส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะทางด้านศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้แสดงความสามารถทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน รวมทั้งเข้าร่วมในการประกวด แข่งขัน เช่นได้รับรางวัล รองชนะเลิศการประกวดวาดภาพ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ ประกวด วงดนตรี เนื่องในงานนิทรรศการวิชาการ เครือข่ายที่ ๑๙ รางวัลชนะเลิศการแข่งขันทักษะทางนาฏศิลป์ จากศูนย์เยาวชนบางเขน ส่งผลให้ผู้เรียนได้เกิดมีการพัฒนาทักษะการแสดงออกด้านศิลปะ ดนตรีและกีฬา สามารถ สร้างผลงาน และชื่อเสียงให้กับโรงเรียน เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง ผู้ปกครองและชุมชน และ บุคลากรของโรงเรียน ๓.๕.๕ ความสามารถและด้านการคิดวิเคราะห์ ข้าพเจ้าส่งเสริมให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การคิดเป็นลำดับกระบวนการ การแก้ปัญหา การใช้คำถามปลายเปิดเพื่อกระตุ้นความคิดของผู้เรียน สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองและมีความริเริ่มสร้างสรรค์ โดยมีการจัดกิจกรรมเรียนรู้ผ่าน โครงงาน เช่น โครงงานMagic Ball และในฐานะข้าพเจ้าเป็นครูนาฏศิลป์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนฝึกการใช้ จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในการคิดท่าทางประกอบการแสดง เช่น สร้างสรรค์ภาษาท่าทาง นาฏศิลป์ประกอบบทละครสั้นๆ กิจกรรมเล่านิทานประกอบท่าทาง ในโครงการรักการอ่าน ผู้เรียนแสดง บทบาทสมมติประกอบนิทานสั้นๆ แสดงช่วงเวลาพักกลางวัน การคิดสร้างสรรค์ท่ารำประกอบบทเพลง
๒๘ ส่งผลให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตัดสินใจ แก้ปัญหาได้ อย่างมีสติ สมเหตุสมผล และแสดงผลงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน เช่น การแสดงชุด “ออเจ้าเอย” เนื่องในงานวันสุนทรภู่และวันต่อต้านยาเสพติดโลก ได้รับความชื่นชมจากผู้เรียนใน โรงเรียนและคณะครู ทำให้ผู้เรียนเกิดความภูมิใจและมั่นใจในตนเอง ๓.๕.๖ ความรู้และทักษะตามหลักสูตร ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามหลักสูตรของกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ โดย วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด คุณภาพของผู้เรียน สาระการเรียนรู้ และหน่วยการเรียนรู้ กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมี ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีสุนทรียภาพ กล้าแสดงออก วัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริงที่ สอดคล้อง กับจุดประสงค์การเรียนรู้ ด้วยวิธีการและเครื่องมือที่หลากหลาย ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด และ ผลการเรียนอยู่ในระดับสูงขึ้น ๓.๕.๗ ทักษะในการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ และ แก้ปัญหาด้วยตัวเอง ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสนใจใฝ่เรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน เช่น ห้องสมุด ห้องดนตรีสากล ห้องดนตรีไทย ห้องนาฏศิลป์ สวนเกษตรพอเพียง รู้จักการใช้เทคโนโลยีสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสนใจ แสวงหาความรู้จากภายนอก เช่น ห้องสมุดเยาวชนเขตบางเขน ศูนย์เยาวชนเขตบางเขน และส่งเสริมให้ ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการแสดงนาฏศิลป์และเรียนรู้ในการพัฒนาตนเองจากการแสดงผลงานตาม หน่วยงานหรือสถานที่ต่างๆ ส่งผลให้ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งการเรียนรู้รอบตัว รักการเรียนรู้และ พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องผ่านเกณฑ์ตามที่สถานศึกษากำหนด ๓.๕.๘ ทักษะในการทำงาน รักการทำงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้และมี ความรู้สึกที่ดีต่ออาชีพสุจริต ข้าพเจ้าจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมีทักษะ กระบวนการทำงาน รักการทำงานทั้งภายใน ห้องเรียนและนอกห้องเรียน โดยให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง มีการวางแผนในการทำงานอย่างเป็น ลำดับขั้นตอน ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม สามารถทำงานที่ได้รับ มอบหมายให้เสร็จได้ทันเวลาที่กำหนด รู้จักบทบาทการเป็นผู้นำผู้ตาม ในการปฏิบัติกิจกรรม เช่น ผู้เรียนร่วมกันประดิษฐ์ท่าทางประกอบบทเพลงโดยใช้นาฏยศัพท์ ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หรือ การประดิษฐ์เกมการศึกษา เช่น บิงโกรำไทย สมุดภาพรำวงมาตรฐาน และเมื่อผู้เรียนได้ไปร่วมกิจกรรม การแสดงกับหน่วยงานภายนอก มักจะได้รับทุนการศึกษาจากหน่วยงานนั้นๆทำให้ผู้เรียนเห็น ความสำคัญของการประกอบอาชีพที่สุจริต ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการทำงาน รักการทำงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้มี เจตคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพที่สุจริต ผ่านเกณฑ์การประเมินตามหลักสูตรที่สถานศึกษากำหนด ๓.๕.๙ การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ข้าพเจ้าจัดการการอบรมแก่ผู้เรียนเพื่อให้ความรู้เรื่องการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม สร้างความเข้าใจแก่ผู้เรียน ในช่วงกิจกรรมหน้าเสาธง เช่น วิธีการใช้น้ำและไฟอย่างประหยัด
๒๙ การดูแลต้นไม้ในโรงเรียน การแยกขยะตามสีของถังขยะ การประดิษฐ์ชุดรีไซเคิล และสอนให้ผู้เรียนได้ ประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ เป็นต้น ตลอดจนการดูแลรักษา การจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องแต่งกาย นาฏศิลป์ ให้เป็นระเบียบ ปลูกฝังให้ผู้เรียนรู้จักการเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อเป็นจิตอาสามาบำเพ็ญ ประโยชน์ให้กับส่วนรวม ส่งผลให้ผู้เรียนสามารถอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน เห็นความสำคัญของ สิ่งแวดล้อม สามารถนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ ๓.๕.๑๐ การปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ข้าพเจ้าได้ส่งเสริมให้ผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดี จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยการให้ผู้เรียนได้มีการออมเงินโดยแบ่งเงินค่าขนม หรือจากการขายผักและขวดพลาสติก ทำบัญชีรายรับรายจ่าย แล้วรวบรวมเงินไปฝากธนาคารโรงเรียน เป็นการปลูกฝังนิสัยรู้จักความ พอประมาณในการใช้จ่ายและให้ผู้เรียนได้เห็นคุณค่าของการออม สามารถซ่อมแซมเสื้อผ้าของตนเอง และนำวัสดุเหลือใช้มาประดิษฐ์หรือสร้างสรรค์ เช่น นำกล่องนมมาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะ การประดิษฐ์เครื่องประดับเพื่อนำมาใช้ในกิจกรรมการแสดงนาฏศิลป์ ส่งผลให้ผู้เรียนได้เห็นคุณค่าของการปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจากการ ปฏิบัติจริง เช่น การออมเงิน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง และได้ประดิษฐ์เครื่องประดับเพื่อ นำมาใช้ในกิจกรรมการแสดงนาฏศิลป์ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองและเกิดความภาคภูมิใจอีก ด้วย ๔. ผลงานวิชาการที่เสนอขอรับการประเมิน ผลงานทางวิชาการที่เสนอขอรับการประเมินจำนวน ๑ ชุด มี ๓ รายการ ดังนี้ ๑. เอกสารประกอบการเรียนการสอน เรื่องการแสดงนาฏศิลป์ไทยและลีลารำวงมาตรฐาน (เพลงคืนเดือนหงายและเพลงหญิงไทยใจงาม) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระที่ ๓ นาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ๒. คู่มือการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน เรื่องการแสดงนาฏศิลป์ไทยและ ลีลารำวงมาตรฐาน (เพลงคืนเดือนหงายและเพลงหญิงไทยใจงาม) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระที่ ๓ นาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ๓. รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน เรื่องการแสดงนาฏศิลป์ไทยและ ลีลารำวงมาตรฐาน (เพลงคืนเดือนหงายและเพลงหญิงไทยใจงาม) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระที่ ๓ นาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
๓๐ ขอรับรองว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง และเป็นความจริง (ลงชื่อ)......................................................ผู้ขอรับการประเมิน (นางสาวเมธาวรินทร์ แตนต่อ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ วันที่ 2๖ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕6๓ การตรวจสอบของคณะกรรมการ ได้ตรวจสอบข้อมูลและสภาพความเป็นจริงแล้วรับรองว่าเป็นรายงานที่ถูกต้อง ตรงความเป็นจริง (ลงชื่อ).......................................................กรรมการ (ลงชื่อ)....................................................กรรมการ (นางจินตนา บุญไพโรจน์) (นางเจนจิรา บุญญะภานุพล) (ลงชื่อ)..................................................ประธานกรรมการ (นายชณนบ พุทธิยมงคลกุล) รองผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนประชาภิบาล วันที่ 2๖ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕6๓ การตรวจสอบและรับรองของผู้บังคับบัญชาชั้นต้น ได้ตรวจสอบแล้วรับรองว่าการรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องและเป็นความจริง (ลงชื่อ)..................................................................... ( นางสาวโชตศิกาญจน์ ยุติธรรมนนท์) ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนประชาภิบาล วันที่ 2๖ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕6๓
๓๑ ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเรียนการสอน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและจัดการเรียนการสอนสาระการ เรียนรู้ท้องถิ่นตามกรอบที่กรุงเทพมหานครกำหนด ภาพที่ ๑ ข้าพเจ้าข้าพเจ้าสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการแสดง เต้นกำรำเคียว ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ การเกี่ยวข้าว เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับท้องถิ่นบางเขนอีกทางหนึ่ง ปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ภาพที่ ๒ ข้าพส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้หลายวิธีเช่นการใช้เกมการศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจใน การเรียนและเกิดความสนุกสนาน ภาคผนวก
๓๒ จัดการอบรมสั่งสอนและการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ภาพที่ ๓ ข้าพเจ้าส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีในการตักบาตรใน ตอนเช้า วัดและประเมินผลผู้เรียนด้วยเทคนิคที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริง ภาพที่ ๔ ข้าพเจ้าสร้างแบบประเมินเพื่อวัดผู้เรียนตามสภาพจริงในการสอนวิชานาฏศิลป์
๓๓ ปฏิบัติงานวิชาการของสถานศึกษา ภาพที่ ๕ ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มสาระศิลปะ นำผู้เรียนและครูในกลุ่มสาระฯไปประกวด ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง วงดนตรีลูกทุ่งประเภท ก เนื่องในงานศิลปหัตถกรรม ครั้งที่ ๖๖ ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
๓๔ ภาพที่ ๖ ข้าพเจ้าสอนผู้เรียนที่มีความสนใจในวิชานาฏศิลป์เพื่อมาฝึกทักษะ ในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน พักกลางวันและ ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยดูแลและส่งเสริมผู้เรียนให้ได้รับความรู้ และความปลอดภัย ปฏิบัติงานวิจัยทางการศึกษา วิเคราะห์ ประเมินพัฒนาการของผู้เรียนเพื่อนำไปพัฒนาการเรียนการ สอน ภาพที่ ๗ ข้าพเจ้าทำวิจัยในชั้นเรียนปีการศึกษาละ ๒ ครั้ง และเป็นผู้รับผู้ชอบโครงการวิจัยในชั้นเรียน สนับสนุนให้เพื่อนครูได้ทำงานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาของผู้เรียน ๓.๑.๘ พัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพให้ก้าวหน้า ภาพที่ ๘ ข้าพเจ้าเข้ารับการอบรมในโครงการพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนนาฏศิลป์ เรื่องรำวงมาตรฐาน
๓๕ ภาพที่ ๑๐ ข้าพเจ้าเข้ารับการอบรมวิจัยในชั้นเรียน ภาพที่ ๑๑ ข้าพเจ้าเข้ารับการอบรมธรรมโดยการบวชเนกขัมมะ ณ วัดปัญญานันทาราม
๓๖ ปฏิบัติงานประสานความร่วมมือผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรส่วนท้องถิ่น หรือสถานประกอบการเพื่อ ร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ ภาพที่ ๑๒ ข้าพเจ้าให้ความร่วมมือกับสำนักงานเขตบางเขน ในการนำผู้เรียนเข้าร่วมการแสดงรำถวาย ความอาลัย เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิ พลอดุลยเดช เพื่อปลูกฝังให้ผู้เรียนได้แสดงความรักต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และแสดงความสามารถ ทางด้านนาฏศิลป์ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจ ผลงานที่เกิดจากความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงาน ภาพที่ ๑๓ ข้าพเจ้าผลิตสื่อการสอนสมุดภาพ รำวงมาตรฐานเพื่อนำมาให้ผู้เรียนได้ศึกษาในชั่วโมงเรียน วิชานาฏศิลป์
๓๗ ภาพที่ ๑๔ ข้าพเจ้าถ่ายทอดความรู้เรื่องการใช้เทคโนโลยีในการตัดต่อเพลงแก่ผู้เรียนและให้ผู้เรียนได้ลง มือปฏิบัติจริง ผลงานที่เกิดจากความสามารถในการจัดการเรียนรู้ ภาพที่ ๑๕ ผู้เรียนเข้าประกวดการทำโครงงาน The magiv ball
๓๘ ผลที่แสดงเห็นถึงทักษะในการเรียนรู้ ภาพที่ ๑๖ ข้าพเจ้าให้บริการสอนนาฏศิลป์ให้กับผู้เรียนในช่วงเวลาพักกลางวัน ภาพที่ ๑๗ ข้าพเจ้าให้บริการแก่ชุมชนโดยนำผู้เรียนออกไปแสดงในงานต่างๆ และยังเป็นการฝึก ประสบการณ์จริงให้กับผู้เรียนอีกด้วย
๓๙ ผลงานตามโครงการที่รับผิดชอบ โครงการวิจัยในชั้นเรียน ภาพที่ ๑๘ คณะครูส่งงานวิจัยในชั้นเรียน ปีการศึกษาละ ๒ ครั้ง ครบทุกคนคิดเป็นร้อยละร้อย โครงการพัฒนากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ภาพที่ ๑๙ นำผู้เรียนเข้าร่วมแข่งขันในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกรุงเทพมหานครและ เมืองยาชิโย
๔๐ โครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ภาพที่ ๒๐ ผู้เรียนมีมารยาทงาม ปฏิบัติท่าไหว้ได้อย่างสวยงามและถูกต้อง โครงการทบทวนและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ภาพที่ ๒๑ ข้าพเจ้าเข้าอบรมโครงการทบทวนและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา
๔๑