สารบัญ เรื่อง หน้า ความเป็นมา................................................................................................................... ความเป็นมา............................................................................................................ 1-2 ความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า........................................................................ 2 ความสำคัญของการศึกษาค้นคว้า............................................................................ 2 ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า................................................................................. 2 นิยามศัพท์เฉพาะ..................................................................................................... 2 สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า............................................................................. 4 การศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง........................................................................................... เอกสารที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคแม่แบบ........................................................................ 5 เอกสารที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการรำ........................................................... 5 การดำเนินการพัฒนา................................................................................................... 5 ประชากร.................................................................................................................. 5 กลุ่มตัวอย่าง.............................................................................................................. 5 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย .......................................................................................... 5 วิธีดำเนินการสร้างเครื่องมือ...................................................................................... 5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล.................................................................................. 6 ผลการพัฒนา ผลการพัฒนา 7 ข้อเสนอแนะ 7 บรรณานุกรม 8 ภาคผนวก
ความเป็นมา ศิลปวัฒนธรรม เป็นจิตวิญญาณในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ที่สืบทอด สร้างสรรค์ กันมาแต่สมัย โบราณจนเป็นเอกลักษณ์ และใช้พัฒนาสังคม และประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า จนเป็นรูปแบบที่ ยั่งยืน เรียกว่า “ภูมิปัญญา” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญยิ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้คนอยู่ดีมีสุข (กระทรวงศึกษาธิการ. 2546:2) วัฒนธรรม คือ ความคิดเห็น ความรู้สึก ความประพฤติและกิริยาอาการ หรือการกระทำใดๆของมนุษย์ในส่วนรวมลงรูปเป็นพิมพ์เดียวกัน และสำแดงออกมาให้ปรากฏเป็นภาษาศิลป์ ความเชื่อถือ ระเบียบ ประเพณี นาฏศิลป์ไทยจัดเป็นศิลปะและวัฒนธรรมของไทย ซึ่งได้สืบเนื่องตกทอดเป็น มรดกมาแต่โบราณ จนกล่าวได้ว่าสิ่งเหล่านี้ได้ฝังเข้าไปในสายเลือดคนไทยจนไม่อาจแยกได้ นาฏศิลป์ไทย เป็นที่รวบรวมแห่งศิลปะการฟ้อนรำ ขับร้อง ดนตรีไทย ศิลปะไทยและวรรณคดีไทย มีท่ารำอ่อนช้อยงดงาม โดยแสดงออกทางกิริยาเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกายตั้งแต่ศีรษะ ไหล่ แขน มือ ลำตัว ขา จนถึงเท้าให้งดงามตามจังหวะดนตรีที่ประกอบ ด้วยเหตุนี้ นาฏศิลป์ไทยนับเป็นวัฒนธรรมทางด้าน ศิลปะ เป็นเครื่องแสดงความเจริญงอกงามทั้งทางจิตใจและวัตถุ เพราะงานศิลป์นั้นจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อ มี ความสุขสมบูรณ์ในทุกด้าน นาฏศิลป์ไทยจึงมีคุณค่าในแง่เป็นเครื่องแสดงความสมบูรณ์ของชาติไทยในอดีตอีก ด้วย ด้วยเหตุนี้จึงได้บรรจุวิชานาฏศิลป์ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 และได้พัฒนา ไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ซึ่งได้กำหนด ดนตรี - นาฏศิลป์ เป็นรายวิชาซึ่งอยู่ในกลุ่มสาระศิลปะ (กรมวิชาการ. 2546:1) ดังนั้นการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่และสืบทอดสู่อนุชนรุ่นหลัง จึงเป็นสิ่ง เร่งด่วน กระทรวงศึกษาธิการในฐานะหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบในการให้การศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้บรรจุวิชา นาฏศิลป์ไว้ในกลุ่มศิลปะ โดยมีจุดมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ และการคิดที่เป็นเหตุเป็นผลถึง วิธีการทางศิลปะ ความเป็นมาของรูปแบบ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และรากฐานทางวัฒนธรรมตระหนักในคุณค่า และเกิดความซาบซึ้งในคุณค่าของศิลปะ สามารถค้นพบศักยภาพความสนใจของตนเอง มีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ มีความเชื่อมั่นพัฒนาตนเองได้และแสดงออกได้อย่างสร้างสรรค์มีสมาธิในการทำงาน มี ระเบียบวินัย และมีความรับผิดชอบสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข (กระทรวงศึกษาธิการ. 2544:2 ) วิชานาฏศิลป์เป็นวิชาที่ทำให้เด็กได้แสดงออก มีความชื่นชมจากการเรียน ทำให้รู้จักจังหวะ สร้าง บุคลิกภาพ ท่าทาง ทรวดทรง ฝึกการเป็นผู้นำ ผู้ตาม ความพร้อมเพรียง ความสวยงาม การประสานงาน ตลอดจนฝึกความอดทน ความขยันหมั่นเพียร ถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก จินตนาการ และเกิดความ รัก ชื่นชม รับรู้นาฏศิลป์อันเป็นมรดกไทย (กรมวิชาการ.2546:104) ในฐานะที่ผู้วิจัยเป็นครูผู้สอนวิชานาฏศิลป์ไทยในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดบางรักน้อย สังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ได้สังเกตพบว่านักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4 ส่วนใหญ่มีปัญหาในการ เรียนวิชานาฏศิลป์ไทย เช่น ทำท่าทางในการรำไม่ได้ ทำท่าทางรำไม่สวยงามและไม่ถูกต้องตามหลักนาฏศิลป์ และมีความเขินอายในการปฏิบัติท่ารำ เป็นต้น ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ทำการสำรวจปัญหาเบื้องต้นกับประถมศึกษาปี ที่ 4 โรงเรียนวัดบางรักน้อย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี จำนวน 45 คน การพัฒนาความสามารถในการรำในวิชานาฏศิลป์ไทยนั้นอาจทำได้หลายวิธี เช่น การชี้แนะ การสอน แบบเทคนิค 4 MAT การทำกิจกรรมกลุ่ม การใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต เป็นต้น ในการวิจัย ครั้งนี้ผู้วิจัยใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิตซึ่งเป็นวิธีที่จะพัฒนาความสามารถในการรำของนักเรียนได้ โดยเน้น 1
ความสำคัญของการเรียนรู้โดยการสังเกตหรือเลียนแบบ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งตัวบุคคลจริงๆ เช่นครู เพื่อน และการ ใช้เทคนิคแม่แบบโดยการสังเกตการจากตัวแบบนั้นจะพัฒนาความสามารถในการรำของนักเรีย ซึ่งการที่นักเรียน ได้เห็นการกระทำตลอดทั้งผลของการกระทำที่เกิดขึ้นกับแม่แบบที่มีชีวิตจะช่วยให้นักเรียนเลียนแบบและมั่นใจที่ จะแสดงพฤติกรรมนั้นๆซึ่งสอดคล้องกับแบนดูราและเมนเลิฟ ที่กล่าวว่า (ผ่องพรรณ เกิดพิทักษ์. 2530 ; 61 อ้างอิงมาจาก Bandura;& Menlove. 1968 ) การเสนอตัวแบบที่เป็นชีวิตจริงหรือตัวแบบสัญลักษณ์ ซึ่งการ เสนอตัวแบบที่เป็นชีวิตจริงนั้นมีข้อดีตรงที่น่าสนใจมากกว่าตัวแบบที่เป็นสัญลักษณ์ในการรับรู้ของคนบางคน อีกทั้งสามารถแปรเปลี่ยนพฤติกรรมการแสดงออกได้ตามสภาพการณ์ ด้วยเหตุนี้ผู้วิจัย จึงสนใจการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต เพื่อพัฒนาความสามารถในการรำ เรื่อง นาฏยศัพท์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนวัดบางรักน้อย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด นนทบุรี ความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า 1. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการรำ ของนักเรียนก่อนและหลังจากได้การใช้เทคนิค แม่แบบที่มีชีวิต 2. เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการเรียนรู้วิชานาฏศิลป์ ของนักเรียนก่อนและหลังจากได้รับเทคนิค แม่แบบที่มีชีวิต ความสำคัญของการศึกษาค้นคว้า ผลการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้จะเป็นแนวทางสำหรับครู ที่จะนำเทคนิคแม่แบบที่มีชีวิตไปใช้เพื่อพัฒนา ความสามารถในการรำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งจะนำไปสู่ผลการเรียนรู้ที่ดีขึ้นและประสบ ความสำเร็จในการเรียนวิชานาฏศิลป์ไทย ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า 1. ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปี การศึกษา 2565 โรงเรียนวัดบางรักน้อย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี จำนวน 45 คน 2. กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ประถมศึกษาปี4/1 ปี การศึกษา 2565 โรงเรียนวัดบางรักน้อย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี จำนวน 26 คน 3. ตัวแปรที่ศึกษา 3.1 ตัวแปรอิสระ ได้แก่ วิธีพัฒนาความสามารถในการรำโดยใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต 3.2 ตัวแปรตาม ได้แก่ ความสามารถในการรำ นิยามศัพท์เฉพาะ 1. การใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต หมายถึง วิธีที่ทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และทักษะใน การรำโดยการสังเกตพฤติกรรมของครู ซึ่งเป็นแม่แบบที่มีชีวิตและท่ารำที่ถูกต้องตามหลักของนาฏศิลป์ไทย ซึ่ง เป็น ท่ารำนาฏยศัพท์ โดยมีขั้นตอน 3 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำ ผู้วิจัยสนทนาและซักถามนักเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติท่ารำ 2
ขั้นที่ 2 ขั้นเสนอแม่แบบมีขั้นตอนดังนี้ 2.1 ผู้วิจัยเสนอแม่แบบโดยการสาธิตท่ารำให้นักเรียนดู 2.2 ผู้วิจัยให้นักเรียนฝึกปฏิบัติทีละคน โดยให้นักเรียนเลียนแบบจากแม่แบบ ที่มีชีวิต (ผู้วิจัย) ถ้านักเรียนยังปฏิบัติท่ารำไม่ถูกต้องตามหลักนาฏศิลป์ไทย ผู้วิจัยสาธิตให้นักเรียนดูอีกครั้งหนึ่ง และให้นักเรียนปฏิบัติทำซ้ำๆ จนนักเรียนเกิดความชำนาญ 2.3 ผู้วิจัยเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถาม และแสดงความคิดเห็นหลังจากที่ได้ ปฏิบัติ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ผู้วิจัยและนักเรียนช่วยกันอภิปรายการปฏิบัติท่ารำนาฏยศัพท์และสรุปถึง ประโยชน์ของการปฏิบัติท่ารำที่ถูกต้องตามหลักนาฏศิลป์ไทย จากนั้นผู้วิจัยมอบหมายให้นักเรียนปฏิบัติท่ารำ ด้วยตนเองที่บ้าน 2. ความสามารถในการรำ หมายถึง การปฏิบัติท่าทางเฉพาะที่ใช้ในการร่ายรำให้ถูกต้องตามหลัก นาฏศิลป์ไทย 2.1. การจีบ คือ หงายมือ นิ้วหัวแม่มือแนบชิด โดยเอาท้องนิ้วติดกัน ปลายนิ้วหัวแม่มือจรด ข้อแรกของนิ้วชี้นิ้วทั้งสองเหยียดตึง นิ้วกลาง นิ้วชี้ นิ้วก้อย กรีดนิ้วให้ตึง หักข้อมือ 2.1.1 การจีบหงาย คือ หงายมือ นิ้วหัวแม่มือแนบชิด โดยเอาท้องนิ้วติดกัน ปลาย นิ้วหัวแม่มือจรดข้อแรกของนิ้วชี้ นิ้วทั้งสองเหยียดตึง นิ้วกลาง นิ้วชี้ นิ้วก้อย กรีดนิ้วให้ตึง หักข้อมือเข้าหา ฝ่ามือ 2.1.2 การจีบคว่ำ คือ หงายมือ นิ้วหัวแม่มือแนบชิด โดยเอาท้องนิ้วติดกัน ปลาย นิ้วหัวแม่มือจรดข้อแรกของนิ้วชี้ นิ้วทั้งสองเหยียดตึง นิ้วกลาง นิ้วชี้ นิ้วก้อย กรีดนิ้วให้ตึง หักข้อมือปลาย นิ้วชี้ลงพื้น 2.1.3 การสะบัดจีบ คือ การตั้งมือระดับศีรษะในลักษณะจีบโดยให้มือจีบหันเข้าหาแง่ ศีรษะ และสะบัดปลายนิ้วที่จีบ แบมือขึ้นตั้งเป็นวงม้วนลงล่าง แล้วตวัดข้อมือให้ปลายนิ้วขึ้นข้างบน 2.2 การตั้งวง คือ การเหยียดแขนออกไปข้างๆตัว แล้วจึงตั้งมือขึ้นโดย เหยียดนิ้วมือ ออกไปและรวมนิ้วทั้ง 4 คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วก้อย ให้ชิดติดกัน นิ้วหัวแม่มือหักเข้าหาฝ่ามือ หักข้อมือ งอแขน เล็กน้อยให้มีส่วนโค้งคล้ายกับงาช้างหรือครึ่งวงกลม 2.2.1 การตั้งวงบน คือ การเหยียดแขนออกไปข้างๆ ตัว แล้วจึงตั้งมือขึ้นโดย เหยียด นิ้วมือออกไปและรวมนิ้วทั้ง 4 คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วก้อย ให้ชิดติดกัน นิ้วหัวแม่มือหักเข้าหาฝ่ามือ หักข้อมือ ปลายนิ้วสูงเสมอแง่ศีรษะ (ส่วนที่เหนือจากหูขึ้นไปตรงขมับ) หรือหางคิ้ว งอแขนเล็กน้อยให้มีส่วนโค้งคล้ายกับ งาช้างหรือครึ่งวงกลม 2.2.2 การตั้งวงหน้า คือ การเหยียดแขนออกไปข้างๆตัว แล้วจึงตั้งมือขึ้นโดย เหยียดนิ้ว มือออกไปและรวมนิ้วทั้ง 4 คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วก้อย ให้ชิดติดกัน นิ้วหัวแม่มือหักเข้าหาฝ่ามือ หักข้อมือ ปลายนิ้วสูงเสมอปาก งอแขนเล็กน้อยให้มีส่วนโค้งคล้ายกับงาช้างหรือครึ่งวงกลม 2.2.3 การตั้งวงล่าง คือ การเหยียดแขนออกไปข้าง ๆ ตัว แล้วจึงตั้งมือขึ้นโดย เหยียด นิ้วมือออกไปและรวมนิ้วทั้ง 4 คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วก้อย ให้ชิดติดกัน นิ้วหัวแม่มือหักเข้าหาฝ่ามือ หักข้อมือ ปลายนิ้วสูงเสมอหัวเข็มขัด งอแขนเล็กน้อยให้มีส่วนโค้งคล้ายกับงาช้างหรือครึ่งวงกลม 3
กรอบแนวคิดของการศึกษาค้นคว้า ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม การใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต สามารถพัฒนาความสามารถในการรำของนักเรียนได้ ผู้วิจัยจึงตั้งข้อ สมมติฐานดังนี้ สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า 1. นักเรียน มีความสามารถในการรำเพิ่มขึ้นหลังจากได้รับการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต 2. นักเรียน มีพฤติกรรมการเรียนรู้วิชานาฏศิลป์เชิงบวกสูงขึ้นหลังจากได้รับการใช้แม่แบบที่มีชีวิต การศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องและได้นำเสนอตามหัวข้อต่อไปนี้ 1. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคนิคแม่แบบ 1.1 เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต 2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรำ 2.1 เอกสารที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการรำ 1. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคนิคแม่แบบ 1.1 เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคนิคแม่แบบ 1.1.1 ความหมายของเทคนิคแม่แบบ แบนดูรา ( Bandura. 1963 : 99 – 108 ) กล่าวว่าเทคนิคแม่แบบ หมายถึง กลวิธีใน การสร้างหรือสอนพฤติกรรมใหม่ โดยผู้สังเกตหรือผู้ประสงค์จะเลียนแบบสังเกตพฤติกรรมจากตัวแบบที่ผู้ สังเกตหรือผู้ประสงค์จะเลียนแบบสนใจ ผ่องพรรณ เกิดพิทักษ์ (2530 : 61) แม่แบบหรือตัวแบบ หมายถึง สิ่งที่เป็นแบบอย่างที่ถือ เป็นบรรทัดฐาน เป็นแบบ หรือเป็นแนวทางในการเปรียบเทียบและเป็นแบบอย่างในการเลียนแบบ จากเอกสารดังกล่าวข้างต้น สรุปได้ว่า เทคนิคแม่แบบเป็นกระบวนการที่บุคคลที่สังเกต ฟัง หรือ อ่าน เกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคล โดยสิ่งที่เป็นแบบถือเป็นบรรทัดฐานในการที่จะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้โดย แม่แบบจะทำหน้าที่เป็นสิ่งเร้าให้ผู้เรียนสังเกตและเลียนแบบพฤติกรรมที่เป็นเป้าหมาย และแม่แบบจะทำหน้าที่ เป็นสิ่งเร้าให้ผู้เรียนสังเกตและเลียนแบบพฤติกรรมที่เป็นเป้าหมาย ให้แสดงพฤติกรรมที่ต้องการ 2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรำ เรณู โกศินานนท์ ( 2546 : 1 ) กล่าวว่า กิริยาการเคลื่อนไหวที่ใช้ในการรำ การแสดงโขน ละคร เท่ากับเป็นภาษาพูดโดยมิต้องเปล่งเสียงออกมา แต่อาศัยอวัยวะส่วนหนึ่งแสดงออกมาเป็นท่าทาง ท่าทางที่ การได้รับการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต ความสามารถในการรำ 4
แสดงออกนั้น เป็นท่าทางเลียนแบบท่าทางธรรมชาติของมนุษย์เรา โดยการนำกิริยาท่าทางนั้นมาดัดแปลงให้ เกิดความอ่อนช้อยสวยงาม วิจิตพิสดารกว่าท่าธรรมดา มีความสอดคล้องไปกับเพลง ดนตรี และการขับร้อง นอกจากนี้ก็มุ่งให้รำได้อย่างงดงาม เป็นสง่า โดยอาศัยหลักสำคัญในความงามของศิลปะ ซึ่งเป็นการแสดงจาก การใช้มือ แขน ขา เท้า ลำตัว ใบหน้า และศีรษะ การดำเนินการพัฒนา ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปี การศึกษา 2565 โรงเรียนวัดบางรักน้อย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดบางรักน้อย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรีที่มีความสามารถ ในการรำน้อย จำนวน จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. กระบวนการสอนด้วยเทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต 2. แบบบันทึกความสามารถในการรำ วิธีดำเนินการสร้างเครื่องมือ 1. เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต 1.1 ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต 1.2 ดำเนินการสอนโดยใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิตในการสอนรำในวิชานาฏศิลป์ไทย ให้สอดคล้องกับการนิยามศัพท์เฉพาะ 2. แบบบันทึกความสามารถในการรำ 2.1 ศึกษาเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวกับความสามารถในการรำ 2.2. สร้างแบบบันทึกความสามารถในการรำให้สอดคล้องกับนิยามศัพท์เฉพาะ 2.4 นำแบบบันทึกความสามารถในการรำนำใช้กับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนวัดบางรักน้อย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ตัวอย่างแบบบันทึกความสามารถในการรำ คําชี้แจง โปรดใสเครื่องหมาย √ ลงในชองคะแนนตรงกับการสังเกต โดยเทียบกับเกณฑการใหคะแนน เลขที่ รายการประเมิน รวม ผล วงบน วงกลาง วงล่าง จีบหงาย จีบคว่ำ จีบปรกหน้า จีบหลัง ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๒๘ ๑. ผ่าน 5
ระดับคุณภาพ - ๒๒ - ๒๘ คะแนน = ๔ อยู่ในระดับ ดีมาก - ๑๕- ๒๑ คะแนน = ๓ อยู่ในระดับ ดี - ๘ - ๑๔ คะแนน = ๒ อยู่ในระดับ พอใช้ - ๐- ๗ คะแนน = ๑ อยู่ในระดับ ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ ๘๐ - ได้ ๒๒ คะแนนขึ้นไป ผ่าน - ได้ ๐-๒๑ คะแนน ไม่ผ่าน เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินความสามารถในการรำ(นาฏยศัพท์) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ เกณฑ์การ ให้คะแนน ประเด็นพิจารณา วงบน ๔ หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ ขึ้นด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม ตัวพระ ปลายนิ้วอยู่ระดับ แง่ศีรษะ ตัวนาง ปลายนิ้วอยู่ระดับ หางคิ้ว ๓ หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ ขึ้นด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม ตัวพระ ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับ แง่ศีรษะ ตัวนาง ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับ หางคิ้ว ๒ ไม่หักข้อมือ นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ขึ้น ด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม ตัวพระ ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับ แง่ศีรษะ ตัวนาง ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับ หางคิ้ว ๑ ไม่หักข้อมือ นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ขึ้น ด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ เหยียดตรง ตัวพระ ปลายนิ้วอยู่ไม่ตรงระดับ แง่ศีรษะ ตัวนาง ปลายนิ้วอยู่ไม่ตรงระดับ หางคิ้ว 6
ผลการพัฒนา 1. ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 26 คน ทำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 10 คน ไม่ผ่านจำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 100 และเมื่อได้รับการสอนโดยใช้เทคนิคแม่แบบ พบว่า ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 26 คนทำแบบทดสอบหลังเรียน ผ่านจำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 100 2. ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 26 คน สามารถปฏิบติท่ารำ นาฏยศัพท์หลังจากได้รับการสอนโดยใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 100 3. ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 26 คน มีพฤติกรรมเชิงบวกทาง นาฏศิลป์ ก่อนได้รับการใช้เทคนิคแม่แบบ ในระดับดีมากจำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 73.07 ระดับดี จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 26.92 และเมื่อได้รับการสอนโดยใช้เทคนิคแม่แบบ พบว่าผู้เรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4/1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 26 มีพฤติกรรมเชิงบวกทางนาฏศิลป์ ในระดับดีมาก จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ข้อเสนอแนะ การจัดการเรียนการสอนวิชานาฏศิลป์ไทยครูและนักเรียนควรสนทนา ซักถาม ถึงความคิด ความรู้สึก และประโยชน์ของการเรียนวิชานาฏศิลป์ไทย นอกจากนี้ควรจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต และให้การเสริมแรง เนื่องจากการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต สามารถพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชา นาฏศิลป์ไทยให้เพิ่มขึ้นได้ ทั้งแม่แบบเองยังสามารถตอบข้อสงสัยของผู้เรียนได้ทันทีที่ผู้เรียนเกิดความสงสัย ทั้ง ยังมีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอน และผู้เรียน ทำให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่อ จึงควรนำวิธีดังกล่าวไปใช้เพื่อพัฒนา ความสามารถของผู้เรียนในการเรียนวิชานาฏศิลป์ไทย 7
บรรณานุกรม กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. ( 2543 ). การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา กรมการศาสนา. กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. ( 2546 ). การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและภัสดุภัณฑ์. กระทรวงศึกษาธิการ. ( 2545 ). นโยบายและแผนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา กรมศาสนา. ผ่องพรรณ เกิดพิทักษ์. ( 2530 ) . การปรับพฤติกรรมเบื้องต้น. กรุงเทพฯ : โครงการส่งเสริม การแต่งตำรา ทบวงมหาวิทยาลัย. เรณู โกศินานนท์ ( 2546 : 1 ) .รำไทย.พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บริษัทโรงพิมพ์ไทย วัฒนาพานิช จำกัด.
ภาคผนวก
แบบบันทึกคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน ใช้เกณฑ์การประเมินผ่านร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงถือว่าผ่านเกณฑ์ ระดับคะแนน คะแนน ๘ – ๑๐ = ผ่าน คะแนน ๐ – ๗ = ไม่ผ่าน เลขที่ คะแนน ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ ๑. ๓ - √ ๒. ๔ - √ ๓. ๓ - √ ๔. ๓ - √ ๕. ๒ - √ ๖. ๓ - √ ๗. ๓ - √ ๘. ๓ - √ ๙. ๔ - √ ๑๐. ๓ - √ ๑๑. ๓ - √ ๑๒. ๓ - √ ๑๓. ๓ - √ ๑๔. ๓ - √ ๑๕. ๓ - √ ๑๖. ๓ - √ ๑๗. ๓ - √ ๑๘. ๓ - √ ๑๙. ๓ - √ ๒๐. ๔ - √ ๒๑. ๔ - √ ๒๒. ๓ - √ ๒๓. ๔ - √ ๒๔. ๓ - √ ๒๕. ๓ - √ 26. ๓ - √
แบบบันทึกคะแนนแบบทดสอบหลังเรียน ใช้เกณฑ์การประเมินผ่านร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป จึงถือว่าผ่านเกณฑ์ ระดับคะแนน คะแนน ๘ – ๑๐ = ผ่าน คะแนน ๐ – ๗ = ไม่ผ่าน เลขที่ คะแนน ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ ๑. ๙ √ - ๒. ๙ √ - ๓. ๙ √ - ๔. ๘ √ - ๕. ๑๐ √ - ๖. ๑0 √ - ๗. ๙ √ - ๘. ๙ √ - ๙. ๙ √ - ๑๐. ๑๐ √ - ๑๑. ๙ √ - ๑๒. ๘ √ - ๑๓. ๙ √ - ๑๔. ๘ √ - ๑๕. ๘ √ - ๑๖. ๙ √ - ๑๗. ๑๐ √ - ๑๘. ๙ √ - ๑๙. ๙ √ - ๒๐. ๙ √ - ๒๑. ๑๐ √ - ๒๒. ๑๐ √ - ๒๓. ๙ √ - ๒๔. ๙ √ - ๒๕. ๙ √ - ๒6. ๙ √ -
แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล(ก่อนการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา ๒๕๖5 คำชี้แจง ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนเป็นรายบุคคล ลำดับที่ พฤติกรรม เห็นคุณค่าและ ความสำคัญ ของการแสดง นาฏศิลป์ไทย การแสดง ความคิดเห็น ความมีน้ำใจ ยอมรับความ คิดเห็นผู้อื่น ความ รับผิดชอบใน การทำงาน รวม ผ่าน ไม่ผ่าน ระดับคุณภาพ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๒๐ ๑. √ √ √ √ √ 14 √ - ดี ๒. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๓. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๔. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๕. √ √ √ √ √ 12 √ - ดี ๖. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๗. √ √ √ √ √ 15 √ - ดี ๘. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๙. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๑๐. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๑๑. √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๑๒. √ √ √ √ √ ๑๘ √ - ดีมาก ๑๓. √ √ √ √ √ ๑๘ √ - ดีมาก ๑๔. √ √ √ √ √ 12 √ - ดี ๑๕. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๑๖. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๑๗. √ √ √ √ √ 15 √ - ดี ๑๘. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๑๙. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๒๐. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๒๑. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๒๒. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๒๓. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๒๔. √ √ √ √ √ 13 √ - ดี ๒๕. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๒6. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก
ระดับคุณภาพ ๑๖- ๒๐ คะแนน = ๔ – ดีมาก ๑๑- ๑๕ คะแนน = ๓ – ดี ๖- ๑๐ คะแนน = ๒ – พอใช้ ๐- ๕ คะแนน = ๑ – ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ ๖๐ ได้ ๑๒ คะแนนขึ้นไป ผ่าน ได้ ๐-๑๑ คะแนน ไม่ผ่าน ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (นางณัฐิดา แตนต่อ)
แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล(หลังการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา ๒๕๖5 คำชี้แจง ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนเป็นรายบุคคล ลำดับที่ พฤติกรรม เห็นคุณค่าและ ความสำคัญ ของการแสดง นาฏศิลป์ไทย การแสดง ความคิดเห็น ความมีน้ำใจ ยอมรับความ คิดเห็นผู้อื่น ความ รับผิดชอบใน การทำงาน รวม ผ่าน ไม่ผ่าน ระดับคุณภาพ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๒๐ ๑. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๒. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๓. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๔. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๕. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๖. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๗. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๘. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๙. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๑๐. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๑๑. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๑๒. √ √ √ √ √ ๑๘ √ - ดีมาก ๑๓. √ √ √ √ √ ๑๘ √ - ดีมาก ๑๔. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๑๕. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๑๖. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๑๗. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๑๘. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๑๙. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๒๐. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๒๑. √ √ √ √ √ ๑๙ √ - ดีมาก ๒๒. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๒๓. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๒๔. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๒๕. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ๒6. √ √ √ √ √ ๒๐ √ - ดีมาก ระดับคุณภาพ ๑๖- ๒๐ คะแนน = ๔ – ดีมาก ๑๑- ๑๕ คะแนน = ๓ – ดี ๖- ๑๐ คะแนน = ๒ – พอใช้ ๐- ๕ คะแนน = ๑ – ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ ๖๐ ได้ ๑๒ คะแนนขึ้นไป ผ่าน ได้ ๐-๑๑ คะแนน ไม่ผ่าน ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (นางณัฐิดา แตนต่อ)
เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล ประเด็นพิจารณา เกณฑ์การให้คะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ เห็นคุณค่าและ ความสำคัญของการ แสดงนาฏศิลป์ไทย นักเรียนมีความ สนใจในการเรียน และกล้าแสดงออก อย่างเหมาะสม ตลอดทั้งชั่วโมง นักเรียนมีความ สนใจในการเรียน และกล้าแสดงออก อย่างเหมาะสมเป็น ส่วนมาก นักเรียนมี ความ สนใจในการเรียน เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่มีความ สนใจในการเรียน การแสดงความ คิดเห็น นักเรียนแสดงความ คิดเห็นทุกครั้งที่ครู เปิดโอกาสให้ นักเรียนซักถาม หรืออภิปราย นักเรียนแสดงความ คิดเห็นเป็น ส่วนมากเวลาที่ครู เปิดโอกาสให้ นักเรียนซักถาม หรืออภิปราย นักเรียนแสดง ความคิดเห็นเป็น บางครั้งที่ครูเปิด โอกาสให้นักเรียน ซักถามหรือ อภิปราย นักเรียนไม่แสดง ความคิดเห็นทุก ครั้งที่ครูเปิดโอกาส ให้นักเรียนซักถาม หรืออภิปราย ความมีน้ำใจ นักเรียนแสดงออก ถึงความมีน้ำใจกับ เพื่อนขณะเรียน หรือทำกิจกรรม อย่างสม่ำเสมอ นักเรียนแสดงออก ถึงความมีน้ำใจกับ เพื่อนขณะเรียน หรือทำกิจกรรม เป็นส่วนมาก นักเรียน แสดงออกถึง ความมีน้ำใจกับ เพื่อนขณะเรียน หรือทำกิจกรรม เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่ แสดงออกถึงความ มีน้ำใจกับเพื่อน ขณะเรียนหรือทำ กิจกรรม ยอมรับความคิดเห็น ผู้อื่น นักเรียนยอมรับ ความคิดเห็นผู้อื่น อย่างสม่ำเสมอ นักเรียนยอมรับ ความคิดเห็นผู้อื่น เป็นส่วนใหญ่ นักเรียนยอมรับ ความคิดเห็นผู้อื่น เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่ยอมรับ ความคิดเห็นผู้อื่น ความรับผิดชอบใน การทำงาน นักเรียนมีความ รับผิดชอบในการ ทำงาน หรือ กิจกรรมที่ มอบหมายเสร็จ สมบูรณ์ถูกต้อง สวยงามภายใน เวลาที่กำหนด นักเรียนมีความ รับผิดชอบในการ ทำงาน หรือ กิจกรรมที่ มอบหมายเสร็จแต่ ไม่ถูกต้องสวยงาม ตามเวลาที่กำหนด นักเรียนมีความ รับผิดชอบในการ ทำงาน หรือ กิจกรรมที่ มอบหมายเสร็จ แต่ไม่สมบูรณ์ เหลือจำนวนมาก ภายในเวลาที่ กำหนด นักเรียนไม่มีความ รับผิดชอบในการ ทำงานหรือ กิจกรรมไม่เสร็จ สมบูรณ์ภายใน เวลาที่กำหนด
ประเมินความสามารถในการรำนาฏยศัพท์(หลังได้รับการใช้เทคนิคแม่แบบที่มีชีวิต) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา ๒๕๖5 คําชี้แจง โปรดใสเครื่องหมาย √ ลงในชองคะแนนตรงกับการสังเกต โดยเทียบกับเกณฑการใหคะแนน เลขที่ รายการประเมิน รวม วงบน วงกลาง วงล่าง จีบหงาย จีบคว่ำ ผล จีบปรกหน้า จีบหลัง ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๒๘ ๑. √ √ √ √ √ √ √ ๒๓ ผ่าน ๒. √ √ √ √ √ √ √ ๒๕ ผ่าน ๓. √ √ √ √ √ √ √ ๒๖ ผ่าน ๔. √ √ √ √ √ √ √ ๒๖ ผ่าน ๕. √ √ √ √ √ √ √ ๒๖ ผ่าน ๖. √ √ √ √ √ √ √ ๒๗ ผ่าน ๗. √ √ √ √ √ √ √ ๒๕ ผ่าน ๘. √ √ √ √ √ √ √ ๒๓ ผ่าน ๙. √ √ √ √ √ √ √ ๒๔ ผ่าน ๑๐. √ √ √ √ √ √ √ ๒๖ ผ่าน ๑๑. √ √ √ √ √ √ √ ๒๕ ผ่าน ๑๒. √ √ √ √ √ √ √ ๒๕ ผ่าน ๑๓. √ √ √ √ √ √ √ ๒๕ ผ่าน ๑๔. √ √ √ √ √ √ √ ๒๖ ผ่าน ๑๕. √ √ √ √ √ √ √ ๒๕ ผ่าน ๑๖. √ √ √ √ √ √ √ ๒๖ ผ่าน ๑๗. √ √ √ √ √ √ √ ๒๘ ผ่าน ๑๘. √ √ √ √ √ √ √ ๒๗ ผ่าน ๑๙. √ √ √ √ √ √ √ ๒๕ ผ่าน ๒๐. √ √ √ √ √ √ √ ๒๘ ผ่าน ๒๑. √ √ √ √ √ √ √ ๒๗ ผ่าน ๒๒. √ √ √ √ √ √ √ ๒๘ ผ่าน ๒๓. √ √ √ √ √ √ √ ๒๘ ผ่าน ๒๔. √ √ √ √ √ √ √ ๒๘ ผ่าน ๒๕. √ √ √ √ √ √ √ ๒๘ ผ่าน 26. √ √ √ √ √ √ √ ๒๘ ผ่าน
เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินทักษะทางนาฏศิลป์(นาฏยศัพท์) เ ก ณ ฑ ์ ก า ร ใ ห้ คะแนน ประเด็นพิจารณา วงบน ๔ หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ขึ้น ด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม ตัวพระ ปลายนิ้วอยู่ระดับ แง่ศีรษะ ตัวนาง ปลายนิ้วอยู่ระดับ หางคิ้ว ๓ หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ขึ้น ด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม ตัวพระ ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับ แง่ศีรษะ ตัวนาง ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับ หางคิ้ว ๒ ไม่หักข้อมือ นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ขึ้น ด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม ตัวพระ ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับ แง่ศีรษะ ตัวนาง ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับ หางคิ้ว ๑ ไม่หักข้อมือ นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ขึ้น ด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ เหยียดตรง ตัวพระ ปลายนิ้วอยู่ไม่ตรงระดับ แง่ศีรษะ ตัวนาง ปลายนิ้วอยู่ไม่ตรงระดับ หางคิ้ว
เกณฑ์การให้ คะแนน ประเด็นพิจารณา วงกลาง ๔ หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ขึ้น ด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ ในลักษณะครึ่งวงกลม ตัวพระ ปลายนิ้วอยู่ระดับไหล่ ตัวนาง ปลายนิ้วอยู่ระดับไหล่ ๓ หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ขึ้น ด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ ในลักษณะครึ่งวงกลม ตัวพระ ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับไหล่ ตัวนาง ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับไหล่ ๒ ไม่หักข้อมือ นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ขึ้น ด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม ตัวพระ ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับไหล่ ตัวนาง ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับไหล่ ๑ หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ขึ้น ด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือเหยียดตรงไม่ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม ตัวพระ ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับไหล่ ตัวนาง ปลายนิ้วไม่อยู่ระดับไหล่
เกณฑ์การให้ คะแนน ประเด็นพิจารณา วงล่าง ๔ หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลายนิ้วชี้ ขึ้นด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม กางศอกออกเล็กน้อย ตัวพระ ปลายนิ้วอยู่ระดับหน้าท้อง ตัวนาง ปลายนิ้วอยู่ระดับหน้าท้อง ๓ ไม่หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลาย นิ้วชี้ขึ้นด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม กางศอกออกเล็กน้อย ตัวพระ ปลายนิ้วอยู่ระดับหน้าท้อง ตัวนาง ปลายนิ้วอยู่ระดับหน้าท้อง ๒ ไม่หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลาย นิ้วชี้ขึ้นด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม กางศอกออกเล็กน้อย ตัวพระ ปลายนิ้วอยู่ต่ำกว่าระดับหน้าท้อง ตัวนาง ปลายนิ้วอยู่ต่ำกว่าระดับหน้าท้อง ๑ ไม่หักข้อมือตั้งขึ้น นิ้วทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน หัวแม่มือหลบเข้าหาฝ่ามือเล็กน้อย ปลาย นิ้วชี้ขึ้นด้านบน ช่วงแขนตั้งแต่ไหล่จรดข้อมือ โค้งให้ได้สัดส่วนอยู่ในลักษณะครึ่งวงกลม กางศอกแนบลำตัว ตัวพระ ปลายนิ้วอยู่ต่ำกว่าระดับหน้าท้อง ตัวนาง ปลายนิ้วอยู่ต่ำกว่าระดับหน้าท้อง
เกณฑ์การให้ คะแนน ประเด็นพิจารณา จีบหงาย ๔ นำนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือมาบรรจบกันข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เหยียดตึงและกรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด หักข้อมือเข้าหาลำแขน หงายฝ่ามือปลายนิ้วชี้ขึ้นด้านบน ๓ นำนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือมาไม่บรรจบกันข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เหยียดตึงและกรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด หักข้อมือเข้าหาลำแขน หงายฝ่ามือปลายนิ้วชี้ขึ้นด้านบน ๒ นำนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือมาไม่บรรจบกันข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย งอและไม่กรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด หักข้อมือเข้า หาลำแขน หงายฝ่ามือปลายนิ้วชี้ขึ้นด้านบน ๑ นำนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือมาไม่บรรจบกันข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย งอและไม่กรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด ไม่หักข้อมือ เข้าหาลำแขน หงายฝ่ามือปลายนิ้วชี้ขึ้นด้านบน
เกณฑ์การให้คะแนน ประเด็นพิจารณา จีบคว่ำ ๔ นำนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือมาบรรจบกันข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่ ๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เหยียดตึงและกรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด หักข้อมือเข้าหาลำแขนคว่ำฝ่ามือให้ปลายนิ้วชี้ลง ๓ นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือไม่มาบรรจบกันนิ้วชี้ข้อที่ ๑ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เหยียดตึงและกรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด หักข้อมือเข้าหาลำแขนคว่ำฝ่ามือให้ปลายนิ้วชี้ลง ๒ นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือไม่มาบรรจบกันนิ้วชี้ข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย งอและไม่กรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด หักข้อมือเข้า หาลำแขนคว่ำฝ่ามือลงให้ปลายนิ้วชี้ลง ๑ นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือไม่มาบรรจบกันนิ้วชี้ข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑จากปลายนิ้ว) นิ้วกลางนิ้วนาง นิ้วก้อย งอและไม่กรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด ไม่หักข้อมือ
เกณฑ์การให้ คะแนน ประเด็นพิจารณา จีบปรกหน้า ๔ นำนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือมาบรรจบกับข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เหยียดตึงและกรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด ยกลำแขน ตั้งศอกขึ้น หักข้อมือและหันมือจีบเข้าหาลำตัว ปลายนิ้วอยู่ระดับหน้าผาก ๓ นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือไม่มาบรรจบกับนิ้วข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เหยียดตึงและกรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด ยกลำแขน ตั้งศอกขึ้น หักข้อมือและหันมือจีบเข้าหาลำตัว ปลายนิ้วอยู่ระดับหน้าผาก ๒ นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือไม่มาบรรจบกับข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย งอและไม่กรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด ยกลำแขนตั้งศอกขึ้น ไม่หักข้อมือหันมือจีบเข้าหาลำตัว ปลายนิ้วอยู่ระดับหน้าผาก ๑ นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือไม่มาบรรจบกับข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย งอและไม่กรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด ยกลำแขนตั้งศอกขึ้น ไม่หักข้อมือหันมือจีบเข้าหาลำตัว ปลายนิ้วอยู่ระดับสูงหรือต่ำกว่าหน้าผาก
เกณฑ์การให้คะแนน ประเด็นพิจารณา จีบหลัง ๔ นำนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือมาบรรจบกับข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เหยียดตึงและกรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด ส่งลำแขน ไปด้านหลังพลิกข้อมือให้ปลายนิ้วชี้ขึ้นด้านบน ๓ นำนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือไม่มาบรรจบกับข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เหยียดตึงและกรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด ส่งลำแขนไปด้านหลังพลิกข้อมือให้ปลายนิ้วชี้ขึ้นด้านบน ๒ นำนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือไม่มาบรรจบกับข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย งอและไม่กรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด ส่งลำแขนไปด้านหลังพลิกข้อมือให้ปลายนิ้วชี้ขึ้นด้านบน ๑ นำนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือไม่มาบรรจบกับข้อที่ ๑ ของนิ้วชี้ (เริ่มนับข้อที่๑ จากปลายนิ้ว) นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย งอและไม่กรีดออกให้มีลักษณะคล้ายพัด ส่งลำแขนไป ด้านหลังพลิกข้อมือให้ปลายนิ้วไม่ชี้ขึ้นด้านบน