การพัฒนา
ทางด้าน สังคม
การเมือง
เศรษฐกิจ
วัฒนธรรม
สิ่งแวดล้อม
ในสาธารณะรัฐประชาชน
ลาว
จัดทำโดย
นางสาว รินรดา เนติธำรงกุล ม.6/1-1 เลขที่ 12
(เศรษฐกิจในประเทศสปป.ลาว , จัดหน้ากระดาษ)
นางสาว ณัชชากร พันธุ์นิล ม.6/1-1 เลขที่ 14
(สิ่งแวดล้อมในประเทศสปป.ลาว , บรรณานุกรม )
นางสาว พิชญา กรุณา ม.6/1-1 เลขที่ 18
(วัฒนธรรมของประเทศสปป.ลาว , จัดหน้ากระดาษ)
นางสาว ศิริพิชญ์ ศิริพิริยะกุล ม.6/1-1 เลขที่ 22
(การเมืองในประเทศสปป.ลาว , ตกแต่งทั้งหมด)
นางสาว ธัญลักษณ์ อวิรุทธ์ชีวิน ม.6/1-1 เลขที่ 24
(สังคมในประเทศสปป.ลาว , จัดหน้ากระดาษ)
หมายเหตุ : ตรวจคำผิดทุกคน
รูปเเบบการปกครอง
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีระบบการปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ มีพรรคปฏิวัติประชาชนลาว เป็น
พรรคการเมืองที่บริหารประเทศเพียงพรรคเดียวมาโดยตลอด และคาดว่าจะยังคงรักษาอำนาจทางการเมืองในสปป.ลาวได้ มีนายก
รัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล และมีประธานาธิบดีเป็นประมุขเเละจอมทัพ
การแบ่งเขตการปกครอง แบ่งเป็น 16 แขวง และ 1 เขตปกครองพิเศษ (นคร หลวงเวียงจันทน์) แขวงต่างๆ ประกอบด้วย
เซกอง อัตตะปือ สาละวัน จาปาสัก สะหวันนะเขต คาม่วน บอลิคาไซ เวียงจันทน์ ไชยะบุลี หลวงพระบาง เชียงขวาง หัวพัน พงสาลี
อุดมไช หลวงน้ำทา และบ่อแก้ว
ฝ่ายบริหาร ประกอบด้วย
ประธานประเทศ ดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐและจอมทัพ วาระ 5 ปี มาจากการเลือกตั้งของสภาแห่งชาติ โดยได้รับคะแนนเสียง
ไม่น้อยกว่าสองในสามของสมาชิกสภาที่เข้าประชุม มีหน้าที่ลงนาม ประกาศใช้รัฐธรรมนูญและกฎหมาย แต่งตั้ง/ถอดถอน นายก
รัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารประเทศตามนโยบายพรรค โดยหัวหน้าฝ่ายบริหารคือนายกรัฐมนตรี ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของ
ประธานประเทศ โดย ผ่านความเห็นชอบของสภาแห่งชาติ วาระของรัฐบาลเท่ากับวาระของสภาแห่งชาติ
การบริหารท้องถิ่นของ สปป.ลาว มี 3 ระดับ คือ แขวง (เทียบเท่าจังหวัด) เมือง (เทียบเท่าอำเภอ) และบ้าน (เทียบเท่าหมู่บ้าน) ผู้
บริหารสูงสุดในแต่ละระดับ ได้แก่ เจ้าแขวง เจ้าเมือง และ นายบ้าน
ฝ่ายนิติบัญญัติ
เป็นระบบสภาเดียวคือ สภาแห่งชาติ มีสมาชิกตามรัฐธรรมนูญ 149 คน วาระ 5 ปี มีการประชุมสามัญปีละ 2 ครั้ง สภาแห่งชาติ
มี หน้าที่ออกกฎหมาย แก้ไขรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและฝ่ายตุลาการ รับรองแผน ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
สังคม และงบประมาณตามรัฐธรรมนูญ การแต่งตั้งประธานประเทศ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ประธานสภาศาลประชาชนสูงสุด และ
อัยการประชาชนสูงสุด จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาแห่งชาติ
ฝ่ายตุลาการ ประกอบด้วย ศาลประชาชนสูงสุด และอัยการประชาชนสูงสุด ระบบศาลมี 3 ชั้น คือ
1. ศาลประชาชนเขตหรือศาลชั้นต้น
2.ศาลประชาชนแขวง/นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
3. ศาลประชาชนสูงสุดหรือศาลฎีกา
รูปแบบเศรษฐกิจ
พัฒนาการทางเศรษฐกิจของประเทศลาวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ช่วง คือ
ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม (ปี 2518-2528) หลังจากการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ในปี 2518 ลาวได้ใช้ระบบ
เศรษฐกิจแบบสังคมนิยมเป็นเวลานาน ซึ่งความสัมพันธ์ทางการค้ามุ่งเน้นประเทศสังคมนิยมคอมมิวนิสต์เป็นหลัก ทำให้เศรษฐกิจ
ของลาวซบเซา รัฐบาลจึงได้ทบทวนนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ พร้อมทั้งเริ่มกำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมขึ้นมา โดย
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับแรกนั้น ลาวได้พยายามพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวทางสังคมนิยมแบบโซเวียต ซึ่งยังเน้นการ
พึ่งพาตัวเองทางการเกษตรและเน้นการค้ากับกลุ่มประเทศสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ซึ่งผลปรากฏว่าเศรษฐกิจเติบโตต่ำกว่าเป้าหมาย
ระบบเศรษฐกิจเสรีการตลาด (ปี 2529-ปัจจุบัน) โดยหลังจากที่รัฐบาลชุดปัจจุบันยึดอำนาจได้ในปี พ.ศ.2518 ได้มีการปฏิรูป
ประเทศและเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ภายใต้ “นโยบายจินตนาการใหม่” ในปี พ.ศ.2529 โดยเริ่มเปิดเสรีทางเศรษฐกิจมาอย่างต่อ
เนื่องตลอดทศวรรษ 1990 ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศลาวมีพัฒนาการที่ดีตามลำดับในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา
ซึ่งนโยบายจินตนาการใหม่นี้อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 2 ที่เป็นการหันไปเปิดประเทศ ใช้กลไกตลาดสนับสนุน
การค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ และปรับความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน ส่วน
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 3 (2534-2538) และ ฉบับที่ 4 (2539-2543) มีความโดดเด่นมากขึ้น คือ เพื่อบรรลุเป้าหมายการ
พัฒนาเศรษฐกิจตามแผนดังกล่าว รัฐบาลจึงได้แบ่งพื้นที่ในการพัฒนาประเทศออกเป็น 3 เขต 6 แขวง
กล่าวสรุปคือ มีการเน้นเสรีภาพการค้าและการลงทุนเพิ่มขึ้น มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการให้ลาวเป็นศูนย์กลางการผลิตกระแส
ไฟฟ้าเพื่อการส่งออก พัฒนาเกษตรกรรม การค้าและการท่องเที่ยว โดยความร่วมมือกับประเทศสมาชิกเพื่อนบ้านในโครงการสี่เหลี่ยม
เศรษฐกิจ และโครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ และการเข้าเป็นสมาชิกขององค์การอาเซียนในปี พ.ศ.2540 รวมถึงนโยบายการ
พัฒนาการพัฒนาลาวให้เป็นศูนย์กลางการค้าและคมนาคมในอนุภูมิภาคนี้ เนื่องจากลาวเป็นประเทศเดียวที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศ
เพื่อนบ้านถึง 5 ประเทศคือ จีน เวียดนาม พม่า ไทยและกัมพูชา ทำให้อนาคตการพัฒนาเศรษฐกิจของลาวผูกพันกับการพัฒนาเศรษฐกิจ
ของกลุ่มประเทศอาเซียนและจีน นอกจากนี้ยังรวมถึงการวางเป้าหมายการนำประเทศให้หลุดพ้นจากความยากจนภายในปี 2563
สถานภาพทางเศรษฐกิจของลาวมีรายได้หลักมาจาก พลังงานไฟฟ้า โดยที่ลาวมีแหล่งน้ำสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ใน
ประเทศและส่งออกเป็นตามนโยบายการเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าของเอเชีย (Battery of Asia) ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของ GPD ของประเทศ
ถึง 27% จากโครงการต่างๆ ที่ขายไฟฟ้าให้กับประเทศไทย ส่วนภาคเกษตรกรรม ลาวมีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 40% โดยมีพืชเกษตร
สำคัญ ได้แก่ กาแฟ ยางพารา ข้าว และข้าวโพด การเพาะปลูกที่สำคัญอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาการเกษตร
แผนใหม่เช่น การปลูกไม้ยางพาราร่วมกับมาเลเซีย ส่วนกาแฟเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ ส่วนใหญ่ทำการเพาะปลูกที่ภาคใต้ ถือเป็นกาแฟ
คุณภาพดีโดยเฉพาะที่ปากช่องแขวงจำปาสัก และเนื่องจากลาวมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์จึงมีการทำสัมปทานป่าไม้ เช่น ไม้สัก
ไม้มะฮอกกานี ไม้กฤษณา และการทำเหมืองแร่ เช่น ทองคำ ทองแดง โพแทช บ็อกไซต์ ถ่านหิน สังกะสี และอัญมณี
นอกจากนี้ยังมีการทำอุตสาหกรรมขนาดเล็กส่วนใหญ่อยู่บริเวณเวียงจันทน์ เช่น อุตสาหกรรมทอผ้าฝ้าย โรงงานผลิตเบียร์ลาว
เป็นต้น สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวตามนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลนั้น ลาวได้ตั้งเป้าหมายเป็น
ศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งภูมิภาคอินโดจีน ด้วยการวางแผนพัฒนา 5 เมืองหลักตามบริบทที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
กรุงเวียงจันทน์ เน้นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และแหล่งช็อปปิ้ง
เมืองหลวงพระบาง เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคเหนือ เน้นจุดขายธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
จำปาสัก เน้นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สำคัญคือ น้ำตกคอนพะเพ็ง และเกาะดอนโขง รวมถึงโบราณสถานเช่น ปราสาทวัดภู
และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลาว
สะหวันนะเขต เป็นศูนย์กลางการค้าการท่องเที่ยวระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม
เมืองห้วยทรายและแขวงบ่อแก้ว เน้นจุดเชื่อมต่อการท่องเที่ยวกับอนุภูมิภาคในเขตสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ คือภาคเหนือของไทย
พม่า และจีนตอนใต้
สถานการณ์และแนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจของลาว ที่ผ่านมาลาวตั้งเป้าหมายจะเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวในปี 2558 ส่วนด้าน
ธุรกิจท่องเที่ยวนั้น เมื่อปี 2556 ลาวมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวประมาณ 596 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งได้รับการคัดเลือกจาก
องค์การค้าและการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเป็นประเทศดีที่สุดด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมประจำปี 2556
อย่างไรก็ดี รัฐบาลอนุมัติแผนระงับการส่งออกถ่านหินชั่วคราวตั้งแต่ปี 2558 เพื่อสำรองปริมาณถ่านหินรองรับการบริโภคภายในประเทศ
ด้านสังคมประเทศสปป.ลาว
ประชากร
จากสถิติในปี พ.ศ. 2563 ประเทศลาวมีประชากรประมาณ 7.276 ล้านคน ประกอบด้วยชนชาติต่าง ๆ หลากหลายเชื้อชาติ
ซึ่งในภาษาลาวจะเรียกรวมกันว่า “ประชาชนบรรดาเผ่า” สามารถจำแนกได้เป็น 68 ชนเผ่าโดยประมาณ แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ตามถิ่น
ที่อยู่อาศัย ดังนี้
ลาวลุ่ม หมายถึงชาวลาวที่อาศัยอยู่ในเขตที่ราบ ใช้ภาษาลาวหรือภาษาตระกูลภาษาไทเป็นภาษาหลัก ประชาชนกลุ่มนี้มีอยู่ร้อย
ละ 68 ของจำนวนประชากรทั้งหมดและอาศัยกระจายอยู่ทั่วประเทศ
ลาวเทิง หมายถึงชาวลาวที่อาศัยอยู่ในเขตที่ราบสูง ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางภาคใต้ของประเทศ คิดเป็นร้อยละ 22 ของจำนวน
ประชากรทั้งหมด
ลาวสูง หมายถึงชาวลาวที่อาศัยอยู่ในเขตภูเขาสูง ส่วนมากอาศัยอยู่ในเขตภาคเหนือ และตามแนวตะเข็บชายแดนภาคเหนือ
ชาวลาวกลุ่มนี้คิดเป็นจำนวนร้อยละ 9 ของจำนวนประชากรทั้งหมด
ภาษา
ประเทศลาวใช้ภาษาลาวเป็นภาษาทางการทั้งในส่วนของภาษาพูดและระบบการเขียน ส่วนในกลุ่มชาวลาวเทิงและชาวลาวสูง
ยังคงมีการใช้ภาษาประจำเผ่าของตนควบคู่กับภาษาลาว ส่วนภาษาต่างประเทศอื่นที่มีการใช้ได้แก่ภาษาฝรั่งเศสซึ่งมีการใช้มาตั้งแต่
สมัยอาณานิคม ปัจจุบันยังคงใช้ในวงราชการและการติดต่อค้าขายบ้าง อีกภาษาหนึ่งที่สำคัญคือภาษาอังกฤษซึ่งใช้ในการติดต่อกับต่าง
ประเทศและการค้า ซึ่งนับวันการศึกษาภาษาอังกฤษก็ยิ่งจะขยายตัวมากขึ้น
ศาสนา
ชาวลาวส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาทซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ (ร้อยละ 60 ของชาวลาวทั้งหมด) ควบคู่ไปกับลัทธิ
นับถือผีบรรพบุรุษของชนชาติส่วนน้อยในแถบภูเขาสูง ส่วนชาวลาวที่นับถือศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามมีจำนวนที่ค่อนข้างน้อย
มาก
การศึกษา
อัตราการรู้หนังสือ 73% งบประมาณด้านการศึกษาประมาณ 15% ของ GDP การศึกษาภาคบังคับ 5 ปี ในระดับประถมศึกษา
ระบบการศึกษาระดับประถมศึกษาคือ 5 ปี มัธยมศึกษาตอนต้น 4 ปี และมัธยมศึกษาตอนปลาย 3 ปี ระดับอุดมศึกษา 4 ปี ส่วนระดับ
วิชาชีพชั้นกลาง 2 ปี และชั้นสูง 3 ลาวยังขาดสถาบันด้านอาชีวศึกษาและบุคลากรในสถาบันระดับอุดมศึกษา จึงพยายามที่จะพัฒนา
โดยตั้งเป้าหมายจะเร่งสร้างสถาบันเพื่อผลิตบุคลากรด้านอาชีวศึกษาให้ได้ 10,000 คน
วัฒนธรรมประเทศสปป.ลาว
ชาวลาวส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ (ร้อยละ 60 ของชาวลาวทั้งหมด) ควบคู่ไปกับลัทธินับถือ
ผีบรรพบุรุษของชนชาติส่วนน้อยในแถบภูเขาสูง ส่วนชาวลาวที่นับถือศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามมีจำนวนที่ค่อนข้างน้อยมาก โดยศาสนาคริสต์
ส่วนมาก จะมีผู้นับถือเป็นกลุ่มชาวเวียดนามอพยพและชาวลาวเชื้อสายเวียดนาม ส่วนศาสนาอิสลามพบว่ามีการนับถือในหมู่ชนชาติส่วนน้อย โดย
เป็นกลุ่มจีนฮ่อ ที่อาศัยตามชายแดนด้านติดกับประเทศพม่า และมีชุมชนมุสลิมที่มีเชื้อสาย เอเชียใต้ และจาม ในเวียงจันทน์ ซึ่งมีความคล้ายคลึง
กับคนภาคอีสานของไทยเป็นอย่างมาก ยังมีคำกล่าว ที่ว่า “มีลาวอยู่แห่งใดมีมัดหมี่แลลายจกอยู่ที่นั้น” ลาวมีประเพณีทาง พระพุทธศาสนาและ
อื่นๆ เช่น วันมาฆบูชา วันสงกรานต์ วันออกพรรษา บุญเข้าประดับดิน บุญเข้าฉลาก บุญส่วงเฮือ (แข่งเรือ) บุญธาตุหลวง เวียงจันทน์ ในเดือน 12
เป็นต้นพุทธศาสนาแบบเถรวาท นับเป็นแบบแผนหลักของวัฒนธรรมลาว ซึ่งปรากฏให้เห็นทั่วประเทศ ทั้งในด้านภาษาและศิลปะ วรรณคดี ศิลปะ
การแสดง ฯลฯ สำหรับดนตรีลาวนั้นมี "แคน" ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีประจำชาติ วงดนตรีของลาวก็คือ วงหมอลำ มีหมอลำ และหมอแคน ท่วงทำนอง
ของการขับลำจะแตกต่างกันไป ตามท้องถิ่น และมีรำ วงบัดสลบ (Paslop Dance) ซึ่งเป็นการเต้นท่าตามจังหวะเพลง
โดยจะเต้นพร้อมกันไปอย่างเป็นระเบียบ ถือเป็นการร่วมสนุกกันของชาวลาวในงานมงคลต่างๆ ได้แก่
การตักบาตรข้าวเหนียว : ถือเป็นจุด ชุดประจำชาติ อาหารประจำชาติ
เด่นของเมืองหลวงพระบาง ซึ่งโดยปกติแล้วนิยม หญิง : นุ่งผ้าซิ่นทอลาย ใส่เสื้อแขนยาว ซุปไก่ (chicken Soup) : เป็นอาหารยอด
ใส่บาตรด้วยข้าวเหนียวเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อ ทรงกระบอก และมีสไบเฉียงพาดไหล่ นิยม มีส่วนผสมสำคัญได้แก่ ตะไคร้ ใบ
ถึงเวลาฉัน ชาวบ้านจะยกสำรับกับข้าวไปถวายที่ ชาย : นุ่งโจงกระเบน และสวมเสื้อชั้น สะระแหน่ กระเทียม หอมแดงรวมถึงรส
วัด เรียกว่า "ถวายจังหัน" โดยเวลาใส่บาตร จะนั่ง นอก กระดุมเจ็ดเม็ด ชาตเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ จากมะนาว และพริก
คุกเข่าและผู้หญิงต้องนุ่งซิ่น ส่วนผู้ชายนุ่งกางเกง รับประทานร้อน ๆ กับข้าวเหนียว
ขายาว และมีผ้าพาดไหล่ไว้สำหรับเป็นผ้ากราบ ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกจำปาลาว
พระเหมือนกัน (Champa) หรือดอกลีลาวดี
สิ่งแวดล้อมและ
ทรัพยากรธรรมชาติ
ในประเทศสปป.ลาว
สปป.ลาวเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทางทะเล แต่สามารถเป็นจุดเชื่อมต่อ (land link) ด้านการคมนาคมขนส่งจากไทย ไปประเทศ
ที่สามในอนุภูมิภาค ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามแม่น้ำโขงทั้ง 4 แห่ง ได้แก่หนองคาย-เวียงจันทน์(8 เมษายน 2537) มุกดาหาร-สะห
วันนะเขต(20 ธันวาคม 2549) นครพนม-คำม่วน(11 พฤษจิกายน 2554) เชียงราย-บ่อแก้ว(11 ธันวาคม 2556) และในอนาคตอันใกล้จะมี
สะพานแห่งที่ 5 ที่ บึงกาฬ-บอลิคำไซ และแห่งที่ 6 ที่ อุบลราชธานี-สาละวัน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ
สปป.ลาวมีรายได้จากทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะป่าไม้และแร่ธาตุ เช่น ทองคำ ทองแดง และบ็อกไซต์ ซึ่งเป็น
วัตถุดิบเพื่อผลิตอลูมิเนียม มีเขื่อนหลายแห่งที่ผลิตไฟฟ้า พลังน้ำส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งไทย ภาคใต้ของสปป.ลาวเป็นที่ราบสูงที่
เป็นแหล่งปลูกกาแฟคุณภาพดีจนสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศได้
การพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาด้านเศรษฐกิจของลาวได้เริ่มมีความตื่นตัวขึ้นเมื่อลาวได้ลงนามรับรองอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ
อากาศ (UNFCCC) เมื่อวันที่ 4 เมษายน 1995 อนุสัญญานี้มีเป้าหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่ การทำให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกมีอัตราคงที่ เน้น
การปรับตัวของระบบนิเวศ ความมั่นคงทางอาหาร และการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และยังมีการลงนามในพิธีสารเกียวโต เมื่อวันที่ 6
กุมภาพันธ์ 2003 ผลจากการลงนามในสนธิสัญญาทั้งสองฉบับนี้ทำให้ลาวต้องดำเนินการเพื่อลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง สำหรับลาวนั้น
มีองค์กรที่สนับสนุนการปฏิบัติงานส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ได้แก่ Department of Environment (DoE) อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรน้ำและสิ่ง
แวดล้อม และยังมีการตั้งสำนักงานที่ดูแลเรื่อง climate change โดยเฉพาะด้วยในปี 2008
ที่สำคัญที่สุดลาวเตรียมการเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมมานานหลายปี และลาวได้พยายามอาศัยประเด็นสิ่งแวดล้อมในการเข้าไปมีส่วนร่วม
กับกิจการระหว่างประเทศด้วย เริ่มจากการลงนามในสนธิสัญญา การกำหนดแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติในปี 2000 จนถึงสารพัดการประชุมระดับ
ชาติตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา และเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2012 เป็นต้นมา โดยที่ลาวเองพยายามจะเน้นแก้ปัญหาเชิงนโยบายและขอความ
ร่วมมือผู้ลงทุนประกอบธุรกิจในลาวให้ปฏิบัติตามกรอบด้านสิ่งแวดล้อมที่ลาวได้เคยวางไว้มากกว่าที่จะปล่อยให้เกิดปัญหาก่อนแล้วค่อยส่งเรื่องขึ้น
ศาล เพราะจะทำให้วุ่นวายจนเกินกำลัง แม้ว่าลาวจะมีลักษณะเป็นประเทศที่เรียกกันว่า“landlock” คือ ไม่มีทางออกทะเล และล้อมรอบไปด้วย
ประเทศอื่น ๆ (เช่นเดียวกับอัฟกานิสถาน) แต่ลาวก็พยายามจะสร้างโอกาสจากการเป็น landlock ให้เป็น“landlink”คือ เป็นตัวเชื่อมโยงภูมิภาค
ที่พูดมาก็ดูเหมือนจะราบรื่น แต่ก็เป็นความราบรื่นที่ไม่ราบเรียบนัก เพราะยังมีหลายปัญหาที่ท้าทายลาวอยู่ข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนที่จีน
สร้างกั้นแม่น้ำโขง หรืออย่างเขื่อนที่ขึ้นชื่อลือชาอย่างไซยะบุรี หรือแม้แต่การส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติภายในประเทศของตนมากขึ้น ประเด็น
เหล่านี้ เป็นสิ่งที่รัฐบาลลาวอาจจะต้องขบคิด และพิจารณาถ่วงดุลระหว่างปัญหาเศรษฐกิจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับประเทศในลุ่มน้ำโข
งอื่นๆ ทั่วไปว่า จะเลือกการพัฒนาเศรษฐกิจหรือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก่อน แต่ทางที่ดีที่สุดคงจะเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่การพัฒนาเศรษฐกิจ
และการพัฒนาสังคมดำเนินไปพร้อม ๆ กัน
บรรณานุกรม
สาธารณะรัฐประชาชนลาว. (2562). สาธารณะรัฐประชาชนลาว. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2565, จาก
http://www.dmr.go.th/download/article/article_20140110110457.pdf
ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. (2564). สาธารณะรัฐประชาชนลาว ข้อมูลทั่วไป.
(ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2565, จาก http://library.sut.ac.th/asean_data/?
m=data&country_id=4&category_id=11
Suraporn Nongtao. (2559). ทรัพยากรธรรมชาติไทย-ลาว. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2565, จาก
https://f3644.wordpress.com/ทรัพยากรธรรมชาติ/ทรัพยากรธรรมชาติของลาว/
ร้อยตรี เสกสรร อานันทศิริเกียรติ (ศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย). (2558). อาเซียนก้าวใหม่ ใส่ใจสิ่ง
แวดล้อม. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2565, จาก http://tic.car.chula.ac.th/tic-news/item/36466-
2015-01-27-01-25-04
ASEAN Insight. (2557). การรักษาสมดุลในการพัฒนาของลาว. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2565, จาก
https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/105196
Database of Southeast Asian Sociocultural. (2559). ลาว-ข้อมูลพื้นฐาน. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม
2565, จาก Informationhttps://www.sac.or.th/databases/southeastasia/subject.php?c_id=4&sj_id=38
WTravel. (2563). สังคมและวัฒนธรรม(ลาว). (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2565, จาก
https://wtravel.co.th/travel-info/สังคมและวัฒนธรรม-ลาว/