The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mashida.m, 2022-05-17 01:10:55

DR CBD Employee Manual_2022

EMPLOYEE HANDBOOK



DR. CBD



































DR. CBD Co., Ltd. ป 2565

พนักงานทีรักทุกท่าน


ผมขอแสดงความยินดีกับต าแหนงใหม่ของทุกท่าน และมีความยินดีอย่าง


ยิ่งทีได้ต้อนรับทุกท่านเข้ามาเปนส่วนหนึงของทีมงาน ดร.ซีบีดี

คุณค่าของการเปนส่วนหนึงในทีมงานDR. CBD นั้นก็เปรียบเสมือนเปนการ







ก้าวสูโลกทีทุกแห่ง จะเปดต้อนรับทุกท่านเช่นกัน ซึงโอกาสของความ

เจริญก้าวหนาในการงานมีอยูอย่างมากมาย ส าหรับทุกท่านที่มีความตั้งใจและ



มุ่งมั่น เพือให้DR.CBD ก้าวไปสูความส าเร็จ
ผมมีความเชือจากใจในระบบการพัฒนาพนักงานของเรา ทีจะช่วยให้



พนักงาน แสดงศักยภาพได้อย่างสูงสุด โดยในส่วนของการเปนสมาชิกในทีมเริ่มต้น
นั้น ทุกท่านควรแสดงให้เห็นถึงความเชียวชาญ ของท่านในระดับทีสมควร รวมไป


ถึงผลงานและการฝกฝนในการปฏิบัติงานด้านต่างๆอย่างเหมาะสม เพราะทุกสิ่งจะ




เปนส่วนประกอบ ทีท าให้ท่านสามารถปฏิบัติหนาที่ ตามทีได้รับมอบหมายได้อย่าง

มั่นใจ และมีความเปนมืออาชีพ ส่วนท่านทีเพิ่งเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมกับทีมของเรา





นั้น เพือนร่วมงานของท่านจะให้ความช่วยเหลือ และให้ค าแนะนาแก่ท่าน เพือให้


ท่านสามารถก้าวข้ามผ่าน การท างานในช่วงแรก ทีDR. CBD ได้ อย่างราบรืน

และอีกครั้ง ผมขอแสดงความยินดีกับทุกท่าน และขอขอบคุณ ทีเลือกเข้า
มามีส่วนร่วม และก้าวไปพร้อมๆกับDR. CBD สุดท้ายนี ผมขอให้ทุกท่านประสบ


ความส าเร็จ และพบกับความเจริญก้าวหนาในหนาทีการงานในอนาคต






พรชัย ปทมินทร

ประธานกรรมการบริหาร

2

สารบัญ




บทที1 บททั่วไป ............................................................... 4


บทที2 การจ้างงาน ........................................................... 7

บทที3 การบริหารค่าจ้าง ................................................... 10


บทที4 หนาทีและความรับผิดชอบของพนักงาน ..................... 12

บทที6 ผลประโยชนของพนักงาน ....................................... 14



บทที6 ข้อบังคับเกียวกับการท างาน .................................... 18

บทที 7 หลักเกณฑ์การท างานล่วงเวลา /การท างานในวันหยุด...................21


บทที 8 วันลาและหลักเกณฑ์การลา..........................................................25
บทที 9 วินัยและโทษทางวินัย...................................................................30

บทที 10 การเลิกจ้าง ค่าชดเชย ค่าชดเชยพิเศษ........................................38






















3

1




ี่
1. วัตถุประสงค์การจัดท าข้อบังคับเกยวกับการท างาน


1.1 เพื่อใช้ข้อบังคับการท างานฉบับนี เปนคู่มือการบริหารงานบุคคลให้เปนธรรม เหมาะสม


กับธุรกิจและสอดคล้องกับกฎหมายทีเกียวข้อง


1.2 เพื่อให้พนักงานทุกคนยึดถือเปนแนวปฏิบัติตน ปฏิบัติงานให้เปนระบบ ระเบียบเดียวกัน

1.3 เพื่อให้การบริหารกิจการของบริษัทฯ ด าเนินไปอย่างราบรื่นและได้ผลอย่างมี
ประสิทธิภาพ

1.4 ให้ถือว่าข้อบังคับเกียวกับการท างานฉบับนีเปนส่วนหนึงของสภาพการจ้างด้วย




2. ค านิยาม
2.1 บริษัทฯ หมายถึง บริษัทดร. ซีบีดี จ ากัดและหรือกรรมการผู้มีอ านาจท าการแทนบริษัทฯ

และหรือผู้ได้รับมอบอ านาจให้ท าการแทนบริษัทฯและหรือผู้ได้รับมอบอ านาจให้ท างานแทนผู้มี

อ านาจรวมถึงผู้ทีได้รับมอบหมายให้ท าการแทนบริษัทด้วย

2.2 สถานทท างานของบริษัทฯ หมายถึง ส านักงาน หรือ สาขา หรือ สถานทีท างานของ





ลูกค้าทีบริษัทฯส่งพนักงานไปท างานตามลักษณะธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในปจจุบันและทีจะมีต่อไป
ในอนาคต

2.3 ผูบังคับบัญชา หมายถึง พนักงานทีบริษัทฯ มอบหมายให้เปนผู้บริหาร ผู้จัดการ และ


หัวหนางานทุกระดับ มีอ านาจบังคับบัญชาพนักงานอื่น ให้ท างานตามหนาทีให้บรรลุผลตาม






แนวทางทีบริษัทฯ ก าหนด และมีฐานะเปนนายจ้างในฐานะผู้ทีได้รับมอบหมายให้ท าการแทน
บริษัทฯ ด้วย

2.4 พนกงานรายเดือน หมายถึง พนักงานทีท างานให้กับบริษัทฯโดยได้รับค่าจ้างเปนราย


เดือน



2.5 พนกงานรายวัน หมายถึง พนักงานทีท างานให้กับบริษัทโดยได้รับค่าจ้างเปนรายวัน

ตามวันทีท างานจริง
4

2.6 พนกงานทดลองงาน หมายถึง พนักงานทีตกลงท างานให้แก่บริษัทฯ ทีมีระยะเวลา




ทดลองงานตามระยะเวลาทีบริษัทฯ ก าหนด

2.7 พนกงานประจ า หมายถึง พนักงานทีบริษัทฯว่าจ้างให้ท างานประจ า




ี่
2.8 พนกงานสัญญาจ้างทมก าหนดระยะเวลาแนนอน หมายถึงพนักงานทีบริษัทฯว่าจ้าง


ให้ท างาน โดยมีก าหนดเวลาเริ่มต้นและสินสุดชัดเจนตั้งแต่วันแรกทีเริ่มจ้าง

2.9 พนกงานจ้างพิเศษ หมายถึง ผู้ทีมีความเชียวชาญพิเศษ หรือ พนักงานทีจ้างต่อหลัง






เกษียณ ทีบริษัทฯตกลงจ้างท างานตามระยะเวลา โดยได้รับค่าจ้างตามทีตกลงกัน




2.10 พนกงานผู้รับเหมาชวง หมายถึง บุคคลทีบริษัทฯมอบหมายให้ผู้อืนจัดหาและส่งเข้า


มาท างานในพืนทีของบริษัทฯ




2.11 ค านิยามอนๆ ทีมิได้ก าหนดไว้ ให้ใช้ค านิยามตามกฎหมายทีเกียวข้อง


3. การสงวนสิทธิทางการบริหาร
เพื่อให้การบริหารงานใด ๆ ในธุรกิจของบริษัทฯ บรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับ


สภาวการณทางเศรษฐกิจ บริษัทฯ จึงขอใช้สิทธิและทรงไว้ซึงสิทธิทางการบริหารจัดการได้ใน
เรื่องดังต่อไปนี ้


3.1 มีสิทธิจัดงาน สั่งงาน มอบหมายงาน ให้พนักงานท างานตามหนาทีและความรับผิดชอบ

ตามสัญญาจ้างงานและหรืองานอื่นทีอยู่ในวิสัยทีพนักงานท าได้


3.2 มีสิทธิเปลียนวันท างานปกติ เปลี่ยนเวลาท างานปกติ เวลาพัก เปลียนวันหยุดทุก

ประเภท เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณทางธุรกิจหรือความจ าเปนใด ๆ ในการท างาน โดย




จะแจ้งให้พนักงานทราบล่วงหนาเปนคราว ๆ ไป
3.3 มีสิทธิจัดให้ท างานล่วงเวลา ให้ท างานวันหยุด ให้ท างานล่วงเวลาในวันหยุด ได้ตาม

ความจ าเปน

3.4 มีสิทธิส่งไปท างานส านักงาน ส่งไปท างานสาขา และหรือ สถานทีท างานของลูกค้าที ่
เกียวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ

3.5 มีสิทธิเปลียนสถานทีท างาน ปรับเปลียน ต าแหนง หนาที เพื่อความเหมาะสมและตาม






เหตุผลความจ าเปนในการบริหารงาน

3.6 มีสิทธิการประเมินผลงาน การให้ความดี ความชอบ ให้รางวัล ตามวิธีการ หลักเกณฑ์ที ่
บริษัทก าหนด
5


3.7 มีสิทธิลงโทษความผิดทางวินัย ความผิดตามกฎหมาย ตามหลักเกณฑ์ วิธีการทีบริษัท
ก าหนด

3.8 มีสิทธิเพิ่มหรือลดจ านวนพนักงาน การปรับ ลด ยุบ ย้าย หนวยงานตามเหตุผลความ
จ าเปนทางธุรกิจ

3.9 มีสิทธิเลิกจ้างพนักงานทีมีสุขภาพ หรือ พฤติกรรม ทัศนคติทีไม่เหมาะสมกับการท างาน


3.10 มีสิทธิปรับเปลียนวิธีการท างาน การใช้วัสดุอุปกรณ เครื่องจักร เครืองมือใด ๆ




ตลอดจนก าหนด เพิ่มเติม เปลียนแปลงวิธีการปฏิบัติงานอื่นใด
3.11 มีสิทธิส่งเข้ารับการฝกอบรม ศึกษา ดูงาน เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถตาม



ลักษณะงานในหนาทีและความรับผิดชอบรวมถึงการก าหนดข้อผูกพันใดๆ ทีเกียวข้องกับการ



ฝกอบรมดังกล่าวได้
3.12 มีสิทธิเรียกเงินค ้าประกัน ให้หาบุคคลมาค ้าประกันในต าแหนงทีท างานเกียวกับเงินหรือ



ทรัพย์สินทีมีมูลค่าสูง ทีมีโอกาสเสียหาย หรือ เรียกค่าเสียหายตามทีเกิดขึนจริงเต็มจ านวนได้




3.13 มีสิทธิส่งตรวจประวัติอาชญากรรม การตรวจสารเสพติด หรือสิ่งอันผิดกฎหมายใด ๆ
3.14 มีสิทธิออกประกาศ ระเบียบ ค าสั่ง วิธีปฏิบัติอื่นใด เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ทางการบริหารได้


3.15 มีสิทธิก าหนดให้สิ่งประดิษฐ์ทีคิดค้น ท าขึนใด ๆ ทีพนักงานท าขึนขณะเปนพนักงาน






ของบริษัทฯ ให้ถือว่าสิ่งประดิษฐ์ คิดค้นเหล่านั้นตกเปนทรัพย์สินทางปญญาของบริษัทฯฝาย
เดียวโดยสมบูรณ ์
3.16 สิทธิทางการบริหารหรือการด าเนินการอืนใดทีไม่ได้ก าหนดไว้ในข้อบังคับเกียวกับการ



ท างาน



ฉบับนี บริษัทฯ จะด าเนินการตามข้อก าหนดของกฎหมายทีเกียวข้อง





6

2



1. นโยบายการจ้างงานโดยทั่วไป

1.1 บริษัทจะไม่จ้างบุคคลทีมีอายุต ากว่า 18 ปบริบูรณเข้าท างาน




1.2 บริษัทจะไม่จ้างบุคคลซึงมีความเกียวพันกับพนักงาน ของบริษัท โดยเปนบิดาหรือ



มารดา หรือคู่สมรส หรือบุตร หรือญาติพีน้องเข้าท างาน
1.3 ผู้สมัครทุกคนต้องผ่านการคัดเลือก จากผู้อ านวยการฝายทรัพยากรบุคคล และ


ผู้อ านวยการของแผนก หรือหัวหนาแผนก ซึงผู้สมัครจะต้องท างานในแผนกนั้น โดย


ผ่านการอนมัติ จากกรรมการผู้จัดการ หรือ ผู้จัดการทั่วไป
1.4 ผู้สมัครทีผ่านการคัดเลือก ต้องมอบหลักฐานให้ฝายทรัพยากรบุคคลดังต่อไปนี ้



ก) ภาพถ่ายของผู้สมัคร หนาตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นกันแดดขนาด 2” x 1.5”
ซึงถ่ายมาแล้วไม่เกินหกเดือน จ านวน 4 รูป

ข) ส าเนาบัตรประจ าตัวประชาชน
ค) ส าเนาทะเบียนบ้าน
ง) ส าเนาหลักฐานการศึกษา หรือส าเนารับรองคุณสมบัติทีบริษัทต้องการ


จ) ส าเนาหนาบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์
ฉ) หนังสือรับรองความประพฤติ จากส านักงานต ารวจแห่งชาติ
1.5 พนักงานใหม่ทุกคนต้องผ่านการตรวจสุขภาพ ก่อนเริ่มต้นการท างาน โดยแพทย์แผน

ปจจุบัน ตามนโยบายบริษัท เพื่อความปลอดภัยของพนักงานทุกท่าน

2. ประเภทการจ้าง


2.1 บริษัทฯ อาจจ้างงานแบบมีก าหนดระยะเวลาเริ่มต้น – และสินสุดชัดเจนแนนอน เมื่อ
ครบก าหนดแล้ว ให้ถือว่าสัญญาสินสุดโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหนา


2.2 บริษัทฯ อาจจ้างพนักงานแบบประจ าแต่มีการทดลองงานก่อนเปนเวลาเท่าใดก็ได้


2.2.1 พนักงานทั่วไป อาจจะทดลองงานไม่เกิน 90 วัน ถ้าไม่ผ่านให้บอกล่วงหนา 1
งวด ถ้าไม่ครบ 120 วัน ไม่ต้องจ่าค่าชดเชย

2.2.2 พนักงานระดับผู้จัดการขึนไป หรือ คนทีต้องใช้ทักษะ ความรู้พิเศษ อาจจะ


ทดลองงาน 180 วัน ถ้าไม่ผ่านทดลองงานให้บอกล่วงหนา 1 งวดค่าจ้างและถ้าครบ 120 วันให้
จ่ายค่าชดเชย 30 วัน

7




2.3 บริษัทฯอาจจ้างพนักงานเข้าท างานทีมีลักษณะเปนงานโครงการทีไม่ใช่ธุรกิจการค้า




โดยตรงของบริษัทฯหรือเปนงานฤดูกาลทีมีก าหนดเวลาการจ้างแนนอนไม่เกิน 2 ป เมื่อครบ
ก าหนดและเลิกจ้างตรงวัน บริษัทฯไม่ต้องบอกกล่าวงล่วงหนา ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

2.4 ระหว่างการจ้าง หากพนักงานท าความผิดร้ายแรงตามข้อบังคับและหรือผิดกฎหมาย
อาญาใด ๆ หรือท าประการอืนใดอันไม่สมควรแก่การปฏิบัติหนาทีของตนให้ส าเร็จลุล่วงโดย




ถูกต้องและสุจริต บริษัทฯ มีสิทธิเลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหนา ไม่จ่ายค่าชดเชย

และหรือผลประโยชนใด ๆ


2.5 บรรดาข้อมูล หรือเอกสารใด ๆ ทีพนักงานได้รับรองว่าเปนความจริง ถือว่าเปนส่วน


หนึงของสัญญาจ้าง / สภาพการจ้าง พนักงานต้องยินยอมให้บริษัทฯใช้ข้อมูลนั้นได้เพื่อประโยชน ์

ในการท างานร่วมกัน หากพบว่าเปนความเท็จ หรือ มีการปลอมแปลง ถือว่าพนักงานกระท า
ความผิดอาญาโดยเจตนาต่อนายจ้าง จงใจท าให้บริษัทเสียหาย ถือว่าเปนความผิดร้ายแรง

บริษัทฯจะเลิกจ้างทันที





3. การโยกยายหนาทและความรับผิดชอบ
บริษัทอาจตกลงกับพนักงานในการเปลียนแปลงหนาที หรือความรับผิดชอบของพนักงาน



ตามความเหมาะสม โดยอยู่ในดุลพินิจของบริษัท โดยไม่ขัดกับ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานป ี
พ.ศ.2541 และพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518

พนักงานต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเกียวกับการท างาน สัญญาจ้าง ประกาศ ระเบียบ ค าสั่ง

จรรยาบรรณ วิธีการท างานและหรือข้อก าหนดใด ๆ ของบริษัทฯอย่างเคร่งครัดและได้ผลดีตามที ่

บริษัทฯหรือหัวหนางานมอบหมาย

3.2 ท างานเต็มความรู้ ความสามารถ ให้ความร่วมมือกับหัวหนางาน หรือ พนักงานอื่นด้วย
ความเต็มใจ



3.3 ต้องเอือเฟอ ช่วยเหลือกิจการของบริษัทฯโดยสุจริต ไม่ว่าจะเปนหนาทีโดยตรงหรือไม่ก็



ตาม
3.4 ในวันหยุด หรือ ก่อน – หลังเวลาท างานปกติ พนักงานควรพักผ่อนและมีสภาพร่างกาย

พร้อมทีจะมาท างานกรณีเร่งด่วน ฉกเฉินในวันหยุด หรือ นอกเวลาท างาน ตามทีบริษัทร้องขอ


3.4 ต้องรักษาความลับทางธุรกิจใด ๆ ทั้งของบริษัทฯและหรือของลูกค้าไว้เปนความลับ ไม่





นาไปเปดเผยและหรือนาไปแสวงหาผลประโยชนใด ๆ ไม่ท าธุรกิจส่วนตัวและหรือไม่ไปท างานกับ
บุคคลอื่นอันเปนลักษณะคู่แข่งทางธุรกิจของบริษัทฯ ตลอดระยะเวลาท าทีท างานและหลังจากพ้น



สภาพการเปนพนักงานภายใน 2 ป ี


8

4. การเกษยณอายุ

4.1 บริษัทฯ ก าหนดอายุเกษียณไว้ทีอายุตัวครบ 60 ปบริบูรณตามวันเกิดของแต่ละคนและ






ให้ถือวันสินเดือน ของเดือนทีเกิดเปนวันสุดท้ายของการท างาน


4.2 พนักงานทีอายุตัวตั้งแต่ 60 ป ขึนไป หรือ อายุงานครบ 20 ปขึนไป หากประสงค์จะขอ



หยุดการท างาน


ก่อนเกษียณ ให้แจ้งบริษัทฯทราบล่วงหนาอย่างนอย 30 วัน เพื่อบริษัทฯจะพิจารณาจัดให้
เกษียณก่อนก าหนดก็ได้ บริษัทฯจะใช้ดุลพินิจพิจารณาเปนรายบุคคล


4.3 พนักงานทีมีสถิติการหยุดงานสูง หรือ มีสุขภาพร่างกายไม่เหมาะสมกับงานทีท า หรือ




มีทัศนคติทีไม่เหมาะสมทีจะท างานร่วมกันต่อไป บริษัทฯ มีสิทธิทีจะเลิกจ้างได้ โดยแจ้งล่วงหนา ้

และจ่ายค่าชดเชยให้ เมื่อใดก็ได้โดยไม่จ าเปนต้องถึงวันเกษียณก็ได้


4.4 พนักงานทีครบเกษียณ บริษัทฯอาจตกลงกับพนักงานเปนรายบุคคล ขยายเกษียณ



ออกไปและนับอายุงานต่อเนือง หรือ จ่ายเงินค่าชดเชยตัดอายุงานก่อนแล้วจ้างใหม่เปนป ๆ ไป
ก็ได้



5. การพ้นสภาพการเปนพนกงาน


สภาพการเปนพนักงานย่อมสินสุดลงเมื่อพนักงานตกอยู่ในสถานะใด สถานะหนึง

ดังต่อไปนี ้
5.1 เมื่อครบก าหนดเวลาทีจ้าง

5.2 เลิกจ้างเพราะไม่ผ่านทดลองงาน
5.3 ลาออก
5.4 เสียชีวิต
5.5 เลิกจ้างโดยจ่ายค่าชดเชย
5.6 เกษียณการท างาน
5.7 เลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย

6. การลาออก
6.1 พนักงานทีประสงค์จะลาออก ให้ยื่นใบลาออกต่อบริษัทฯล่วงหน้า ตามเวลาดังต่อไปนี ้


- พนักงานทั่วไป ให้แจ้งล่วงหนา 30 วัน

- พนักงานตั้งแต่ผู้จัดการขึนไป ให้แจ้งล่วงหนาอย่างนอย 120 วัน


การแจ้งล่วงหนาดังกล่าว ให้นับจากวันทีผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพนักงานผู้นั้นได้ลงชื่อรับแจ้ง


การลาออกแล้วและต้องอยู่ท างานจนครบก าหนด
9


6.2 ช่วง 30 วัน หรือ 60 วันสุดท้ายของการท างานนี บริษัทฯจะไม่อนญาต / จะไม่จัดให้

พนักงานหยุดพักผ่อนประจ าป เพื่อให้มีเวลาสอนงานคนใหม่ หรือ สะสางงานค้างให้ครบถ้วน


ถูกต้องกอนการหยุดงาน


6.3 กรณีทีลาออกล่วงหนา หรือ อยูท างานจริง ไม่ครบตามก าหนด จนท าให้บริษัทฯไม่มี

คนท างานแทน หรือ ท าให้บริษัทฯขาดรายได้ หรือ เกิดความเสียหายใด ๆ พนักงานต้องชดใช้
ค่าเสียหายเต็มจ านวนทีเกิดขึน



















































10

3





1. ระดับของพนกงาน
บริษัทจัดระดับของพนักงานแบ่งออกเปน 10 ระดับ ดังต่อไปนี ้

ระดับ E กรรมการบริษัท

ระดับ C ผู้บริหาร
ระดับ 1 ผู้อ านวยการ

ระดับ 2 ผู้ช่วยผู้อ านวยการ
ระดับ 3 ผู้จัดการ

ระดับ 4 ผู้ช่วยผู้จัดการ


ระดับ 5 หัวหนางาน
ระดับ 6 รองหัวหนางาน

ระดับ 7 พนักงานอาวุโส
ระดับ 8 พนักงานทั่วไป






พนักงานต าแหนงอืนๆซึงมิได้จัดล าดับไว้ข้างต้น เช่นเลขานการ จะถูกจัดล าดับตาม

นโยบายของบริษัท
2. การค านวณค่าจ้าง


การค านวณค่าจ้างเปนรายวันหรือรายเดือนให้เปนไปตามข้อตกลงทีระบุไว้ในหนังสือสัญญาจ้าง



3. การปรับเงินเดอนและการเลอนต าแหนง





นโยบายต่อไปนีก าหนดไว้เพือให้บริษัทสามารถควบคุมงบประมาณเงินเดือนประจ าปได้


3.1 การปรับเงินเดือน หรือ การเลื่อนต าแหนง หรือ โยกย้ายต าแหนงงาน จะกระท าใน
ระหว่างปก็ได้เพื่อความเหมาะสมในการบริหารงาน

11


3.2 การปรับขึนเงินเดือนประจ าปจะกระท าได้เมื่อพนักงานท างานครบรอบปการ



ท างานของแต่ละคน การขึนเงินเดือนจะพิจารณาจากผลงานและข้อเท็จจริงประกอบกัน



3.3 การพิจารณาปรับขึนเงินเดือนประจ าปขึนอยู่กับผลประกอบการของบริษัทและให้
อยู่ในดุลยพินิจของบริษัทแต่เพียงฝายเดียว



3.4 การพิจารณาเงินเดือน หรือ การเลื่อนต าแหนง ให้นาจ านวนชั่วโมงทีบริษัท

ก าหนด ให้พนักงานแต่ละระดับเข้ารับการอบรมมาประกอบด้วย















































12

ี่
1. การเข้า-ออก สถานทท างาน
พนักงานต้องเข้า-ออกสถานทีท างานทางด้านประตูซึงทางบริษัทก าหนดไว้ ยกเว้นบุคคลซึง ่





ได้รับอนญาต เปนหนังสือจากฝายบริหาร ให้ใช้ทางเข้า-ออก ด้านอื่นได้

2. การตรวจค้นพนกงาน


เมื่อพนักงานเข้าออก หรือ ขณะอยู่ในบริเวณบริษัท อาจถูกตรวจค้นโดยเจ้าหนาทีรักษา
ความปลอดภัย หรือบุคคลซึงได้รับมอบหมายจากบริษัท เพื่อความปลอดภัยและรักษา

ผลประโยชนของบริษัท



3. บันทกเวลาเข้างานและเอกสารบันทกเวลาเข้างาน
บริษัทไม่อนญาตให้พนักงานลงเวลา ในเครื่องบันทึกเวลาการเข้า-ออกงานให้พนักงานคน



อื่น หากฝาฝนจะถูกลงโทษทางวินัยขั้นร้ายแรง
4. บัตรประจ าตัวพนกงาน


ฝายทรัพยากรบุคคลจากจัดท าบัตรประจ าตัวพนักงานมอบให้พนักงานทุกคน เพื่อเปนการ

รักษาความปลอดภัย พนักงานต้องพกบัตรติดตัวอยู่ตลอดเวลา ขณะอยู่ในบริเวณบริษัท และต้อง

รายงานให้ฝายทรัพยากรบุคคลทราบทันที เมื่อบัตรดังกล่าวช ารุดหรือสูญหาย


5. เครื่องแบบพนกงาน เเละการเเตงกาย
พนักงานต้องดูแลเครืองแบบให้สะอาดเรียบร้อย และแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เคารพ



สถานทีท างาน ไม่ว่าจะอยู่ในชุดเครืองแบบหรือชุดไปรเวทก็ตาม โดยมีข้อก าหนด ดังนี ้
พนักงานระดับ ผู้อ านวยการขึนไป ให้แต่งกายสุภาพตามเห็นสมควร



พนกงานส านกงาน (ฝายการตลาด, ฝายขาย, ฝายกฎหมาย, ฝายการเงิน, ฝายบุคคล)






สวมชุดไปรเวท วันจันทร์ - วันพุธ - วันศุกร์ และ สวมชุดเครืองแบบทุก วันอังคาร - วัน
พฤหัสฯ







พนกงานฝายปฏิบัติการ (ฝายเพาะปลูก, ฝายสกัด, ฝายช่าง, ฝายโลจิสติกส์, ฝาย
คลังสินค้า)
13

สวมชุดเครืองแบบ เสือโปโลDR. CBD กางเกงขายาวทุกวันท างาน


พนกงานคลินิก สวมชุดแพทย์ หรือเครื่องแบบตามได้รับมอบหมาย ทุกวันทีเข้าปฏิบัติงาน


6. ทรัพย์สินของบริษัท
ห้ามนาทรัพย์สินของบริษัทออกนอกบริเวณโดยไม่ได้รับอนญาต การนาทรัพย์สินของ







บริษัททุกชนิด ออกจากบริเวณบริษัท ต้องได้รับอนญาตจากฝายบริหารเปนลายลักษณอักษร


พนักงานรักษาความปลอดภัยมีอ านาจหนาทีในการตรวจค้นหีบห่อ หรือสิ่งของ เมื่อ


พนักงานนาเข้าหรือนาออกจากบริเวณบริษัท


ทรัพย์สินส่วนตัวของพนักงานซึงนาเข้ามาในบริเวณบริษัท ต้องบันทึกรายละเอียด



เกียวกับทรัพย์สินไว้ ทีห้องพนักงานรักษาความปลอดภัย และฝายบุคคล


7. ปายประกาศข่าวสารส าหรับพนกงาน

ป้ายประกาศข่าวสารส าหรับพนักงานเปนสื่อส าคัญ ซึงฝายบริหารสามารถส่งข่าวสารถึง



พนักงาน โปรดปฎิบัติให้เปนปกตินิสัย ในการอ่านปายประกาศดังกล่าวอย่างสม าเสมอ



ห้ามปดประกาศ หรือปลดออก หรือเปลียนแปลงประกาศของบริษัท หรือเรื่องราวต่างๆ ซึง ่





บริษัทปดประกาศไว้ โดยไม่ได้รับอนญาต จาก ฝายบริหาร หรือผู้อ านวยการฝายทรัพยากร


บุคคล หากฝาฝนจะได้รับโทษทางวินัย
8. การปองกันอัคคภัยและรักษาความปลอดภัย






บริษัทไม่อนญาตให้พนักงานสูบบุหรีในบริเวณทางเดิน หรือในอาคาร ตลอดจนสถานทีอืน
ซึงก าหนดให้เปน “สถานทีห้ามสูบบุหรี” เนืองจากสถานทีดังกล่าว เปนจุดทีอาจเกิดอัคคีภัย










ร้ายแรงได้ง่าย พนักงานจากสูบบุหรีได้เฉพาะในบริเวณทีบริษัทจัดไว้ให้เท่านั้น
กรณีพบว่ามีอัคคีภัยเกิดขึน พนักงานควรปฏิบัติดังต่อไปนี ้

ก) ดึง/กดสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้

ข) โทรศัพท์แจ้ง พนักงานรักษาความปลอดภัย ทราบถึงจุดทีเกิดเพลิงไหม้


ค) พยายามดับไฟ แต่อย่าท าในลักษณะทีเสียงภัย
ง) ถ้าเห็นควันออกจากห้อง อย่าเปดประตูห้องดังกล่าว แต่ให้แจ้งเหตุทันที โดยดึง

สัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้

หมายเหตุ พนักงานจะต้องเข้าร่วมในการซ้อมการปองกันอัคคีภัย ทีทางบริษัทได้จัด



ขึนเปนประจ าทุกป ี
14


1. เงินโบนส
การจ่ายโบนัส ให้อยู่ในดุลยพินิจของบริษัทเท่านั้น โดยพิจารณาจากผลการปฏิบัติงานของ


พนักงาน ของแผนกทีท่านสังกัดอยู และผลประกอบการของบริษัท เมื่อพนักงานปฏิบัติงานครบ

หนึงปขึนไป


2. อาหารส าหรับพนกงาน


พนักงานจะได้รับสวัสดิการการรับประทานอาหารทีจัดเตรียมไว้ตามนโยบายบริษัท จ านวน



วันละหนึงมือ ส าหรับมือกลางวัน
3. รางวัล


บริษัทจะมอบประกาศสัญญาบัตรและรางวัลทีระลึกให้กับพนักงานซึงได้รับการคัดเลือกให้
เปนพนักงานดีเด่น ดังต่อไปนี ้

3.1 พนักงานดีเด่นประจ าเดือน / ไตรมาส
3.2 พนักงานดีเด่นประจ าป ี
3.3 หัวหนางานดีเด่นประจ าป ี


4. การฝกอบรม




บริษัทมีนโยบายทีจะพัฒนาความรู้ความสามารถให้กับพนักงาน เพือให้ปฏิบัติหนาทีได้


อย่างมีประสิทธิภาพ การฝกอบรมทีจัดให้กับพนักงาน มีดังต่อไปนี ้

4.1 การฝกอบรมเกยวกับการท างาน
ี่


หัวหนาแผนกหรือหัวหนางานเปนผู้ฝกอบรมให้พนักงานรู้วิธีการท างานในหนาทีตามความ




รับผิดชอบ
4.2 การฝกอบรมภายในบริษัท



บริษัทจัดให้มีการสอนและฝกงาน เกียวกับวิชาทั่วๆไป ซึงมีความจ าเปนส าหรับพนักงาน


ทุกฝายหรือทุกแผนก


15

4.3 การฝกอบรมภายนอกบริษัท


บริษัทมีนโยบายทีจะพัฒนาความรู้ความสามารถให้กับพนักงานเพื่อปฏิบัติหนาทีได้อย่างมี


ประสิทธิภาพ กรณีสมาคมหรือสถาบันต่างๆ เสนอหลักสูตรการฝกอบรม หรือ การสัมมนา เมือ



บริษัทพิจารณาเห็นสมควร ก็จะส่งพนักงานไปร่วมฝกอบรม หรือร่วมสัมมนา
5. การตรวจสุขภาพประจ าป ี



5.1 พนักงานจะได้รับสวัสดิการเรืองการตรวจสุขภาพประจ าปตามทีบริษัทก าหนดโดย
พนักงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
5.2 หากพนักงานเปนโรคติดต่อต้องแจ้งให้บริษัททราบทันที และต้องลาพักการท างาน

เพื่อการรักษาพยาบาล
6. การรักษาพยาบาล

บริษัทดูแลสุขภาพให้กับพนักงานทุกคนโดยจัดให้มี

6.1 ประกันสุขภาพ
6.2 ประกันอุบัติเหตุ





7. การชวยเหลอกรณสมาชิกในครอบครัวเสยชวิต

กรณีทีสมาชิกในครอบครัวชั้นต้นของพนักงาน อันได้แก่บิดา มารดา สามีหรือภรรยา และ

บุตรทีถูกต้องตามกฎหมาย เสียชีวิตลง บริษัทจะให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสม โดยจะมี



ตัวแทนบริษัทนาพวงหรีด ไปแสดงความเสียใจในงานพิธีทางศาสนาด้วย แต่พนักงานทีมี


ครอบครัวอยูต่างจังหวัด บริษัทอาจพิจารณาให้ความช่วยเหลืออืนแทน
8. กองทุนเงินทดแทน

บริษัทได้ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทนไว้ทีส านักงานกองทุนเงินทดแทน โดยมีวิธี
ปฏิบัติดังต่อไปนี ้


8.1 พนักงานได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บปวย หรือเปนโรคซึงเกิดจากการท างานไม่ว่าจะ

เล็กนอยเพียงใด ต้องรายงานให้หัวหนางานและฝายทรัพยากรบุคคลทราบทันที



8.2 พนักงานจะได้รับการปฐมพยาบาล จากผู้ช านาญการเช่น แพทย์หรือพยาบาล

8.3 ในกรณีทีจ าเปนต้องนาส่งสถานพยาบาล ฝายทรัพยากรบุคคลจะท าหนังสือส่งตัวไป



ยังสถานพยาบาล
16


8.4 ส านักงานกองทุนเงินทดแทน จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล หรือประโยชนอื่นใดให้กับ

พนักงาน ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยเรื่องการเจ็บปวยจากการท างาน

8.5 ฝายทรัพยากรบุคคลมีหนาทีประสานงานกับส านักงานกองทุนเงินทดแทนเพื่อสิทธิ



ประโยชน และความสะดวกของพนักงาน และให้รายงานต่อคณะกรรมการความ
ปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการท างานของบริษัทได้ทราบ เพื่อหา
แนวทางในการปองกันแก้ไขต่อไป

9. กองทุนประกันสังคม
บริษัทจะจัดส่งเงินสมทบ (ส่วนของบริษัทและของพนักงานร่วมกัน) ให้ส านักงาน


ประกันสังคมเปนประจ าทุกเดือน และพนักงานจะได้รับความคุ้มครองตามสิทธิ และข้อก าหนดทีมี
ผลบังคับใช้ในพระราชบัญญัติประกันสังคม ได้แก่
9.1 ค่ารักษาพยาบาล

พนักงานจะได้รับความคุ้มครองเมื่อส่งเงินสมทบเข้ากองทุนมาแล้วไม่นอยกว่า3 เดือน โดย


พนักงานจะเปนผู้เลือกโรงพยาบาล ซึงจะระบุในบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล เมื่อพนักงาน


จะไปเข้า รับการรักษาพยาบาลทีโรงพยาบาลดังกล่าว(ยกเว้นกรณีฉกเฉินภายใน 72 ชั่วโมง) ให้

นาบัตรรับรองสิทธิฯ และบัตรประชาชนไปแสดงทีสถานพยาบาลนั้นๆ จะได้รับการรักษาโดยไม่

ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

9.2 ค่าท าฟน



พนักงานทีส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ มาแล้วไม่นอยกว่า 3 เดือน หากประสงค์จะท าฟน

(ถอน อุด และขูดหินปูนเท่านั้น) จะเข้ารับการรักษาทีสถานพยาบาลไหร่ก็ได้ โดยส ารองเงินจ่าย
ไปก่อน พร้อมทั้งนาใบเบิกให้แพทย์รับรอง แล้วท าเรื่องเบิกจ่ายค่ารักษา จากส านักงาน

ประกันสังคมตามสิทธิ์ต่อไป
9.3 ค่าท าศพ

พนักงานทีส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ มาแล้วไม่นอยกว่า 1 เดือน จะได้รับความคุ้มครอง ค่า


ท าศพ โดยผู้จัดการศพ เปนผู้มีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือตามทีก าหนด ส าหรับพนักงานทีได้ส่งเงิน




สมทบครบ 3 ปขึนไป ส านักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินสงเคราะห์แก่ทายาทตามสิทธิ์
9.4 กรณีทุพพลภาพ
พนักงานที ทุพพลภาพ หลังจากทีส่งเงินสมทบมาแล้วไม่นอยกว่า 3 เดือน และสูญเสีย




สมรรถภาพ ไม่ถึงร้อยละ 50 ของร่างกาย โดยให้นับผู้ทุพพลภาพอยู่ก่อนวันที 31 มีนาคม พ.ศ.
2558 จะได้รับสิทธิประโยชนทดแทนการขาดรายได้ตลอดชีวิต

17

9.5 ค่าคลอดบุตร
พนักงานทีส่งเงินสมทบมาแล้ว 7 เดือนใน 15 เดือน มีสิทธิ์ขอรับเงินค่าคลอดเหมาจ่าย ไม่

จ ากัดจ านวนครั้ง และได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงาน 90 วัน ไม่เกิน 2 ครั้ง ส าหรับผู้ประกันตน
หญิง

9.6 เงินทดแทนการขาดรายได้
ส านักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้ร้อยละห้าสิบ ให้พนักงานเพิ่มเติม
ในกรณีต่อไปนี ้



9.6.1 จ็บปวย ไม่เกินครั้งละ 90 วัน ปละไม่เกิน 180 วัน ถ้าโรคเรือรังได้ไม่เกิน 365 วัน


9.6.2 ทุพพลภาพตลอดชีวิต
9.6.3 คลอดบุตร จ านวน 90 วัน ส าหรับพนักงานหญิง
ทั้งนีให้ค านวณจากเงินเดือนสูงสุด ไม่เกินตามทีส านักงานประกันสังคมก าหนด





































18

1. วันท างาน เวลาท างานปกติและเวลาพัก
1.1 วันท างาน งานส านักงาน : วันจันทร์ ถึง วันศุกร์


งานปฏิบัติการ : ท างานสัปดาห์ละ 5 วัน ตามทีก าหนดและแจ้ง

ให้ทราบล่วงหนา
แม่บ้าน : วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ หรือตามเงื่อนไขสัญญา

คนขับรถ : ท างานสัปดาห์ละ 6 วัน

1.2 เวลาท างาน
เวลาท างานปกติของพนักงาน ไม่รวมเวลาพัก คือ วันละ 8 ชั่วโมง และเมื่อรวมเวลา

ท างาน ทั้งสินแล้วสัปดาห์หนึงไม่เกิน 40 ชั่วโมง หรือบริษัท และพนักงานอาจตกลงกัน

ก าหนดเวลาปกติ เกินวันละ 8 ชั่วโมง แต่ต้องไม่เกินสัปดาห์ละ 48 ชั่วโมง และบริษัท จ่ายค่า




ล่วงเวลา เปนอัตราวันหยุด หรือ ชั่วโมงหยุดกลับคืนไม่นอยกว่าหนึงเท่าครึงของการท างาน


ล่วงเวลาทีเกิดขึนจริง โดยจะนับทุกสามสิบนาทีหลังจบกะเวลางาน
งานส านักงาน
เวลาท างานปกติ เวลา 09:00-18:00 น. เวลาพัก 12:00-13:00 น. หรือจัดให้เหมาะสม
ตามนโยบายของแผนก แต่ต้องไม่น้อยกว่าวันละ 1 ชั่วโมง หลังจากท างานมาแล้วไม่เกิน 5
ชั่วโมงติดต่อกัน
งานปฏิบัติการ

เวลาท างานจะแบ่งเปนรอบการท างานตาม นโยบายของแผนก รอบละ 9 ชั่วโมง รวม


เวลาพัก ซึงให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหนาแผนก เปนผู้บริหารจัดการ โดยต้องจัดเวลาพักให้



พนักงานไม่นอยกว่าวันละ 1 ชั่วโมง หลังจากท างานมาแล้วไม่เกิน 5 ชั่วโมงติดต่อกัน ทั้งนีการ

จัดเวลาพัก ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการท างาน
งานปฏิบัติการมีเวลาท างานปกติ ซึงรวมเวลาพัก 1 ชั่วโมงดังต่อไปนี ้

เวลา 7:00-16:00 น.
เวลา 8:00-17:00 น.



19

เวลา 9:00-18:00 น.
เวลา 10:00-19:00 น.

เวลา 11:00-20:00 น.

2. การมาสาย


พนักงานทีเข้าท างานหลังเวลาเริ่มท างานปกติทีบริษัทฯก าหนด ถือว่าเปนการมาสาย หรือ






พนักงานทีกลับก่อนเวลาทีบริษัทฯก าหนดถือว่าละทิงหนาที บริษัทฯ จะจ่ายค่าจ้างตามเวลาที ่

ท างานจริง เวลาทีมาสายหรือกลับก่อนนั้น ถือว่าไม่ได้ท างาน บริษัทฯจะไม่จ่ายค่าจ้างให้


นับตั้งแต่นาทีที 30 หลังเวลาเข้างาน และนาไปตัดสวัสดิการ หรือ ตัดคะแนนประเมินผลงาน

ประจ าป หรือ ลงโทษทางวินัย ตามหลักการ วิธีการทีบริษัทฯ ก าหนดแล้วแต่กรณี


เวลาทีมาสาย หรือ กลับก่อน ถือว่าไม่มีการท างาน บริษัทฯจะไม่นับรวมเปนอายุงาน

3. การขาดงาน


พนักงานทีไม่มาท างานในวันใด โดยไม่ลา ไม่แจ้งให้หัวหนางานทราบตามระเบียบการหยุด
การลาที บริษัทฯ ก าหนด หรือ การลาปวยโดยไม่มีหลักฐานทีนาชื่อถือว่าปวยจริง บริษัทฯ ถือว่า





พนักงานผู้นั้นจงใจขาดงาน และถือว่าพนักงานรู้แล้วว่าวันทีขาดงานนั้นจะไม่ได้รับค่าจ้าง บริษัท

ฯ จะไม่จ่ายค่าจ้าง
พนักงานทีขาดงานติดต่อกันตั้งแต่ 3 วันขึนไปไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตามโดยไม่มี



เหตุอันควร บริษัทจะเลิกจ้างตั้งแต่วันที 4 เปนต้นไป โดยจ่ายค่าจ้างให้ถึงวันสุดท้ายทีท างาน







จ านวนวันทีขาดงานในแต่ละป จะไม่นาไปรวมเปนอายุงาน ไม่นาไปค านวณสิทธิประโยชนใด ๆ

4. วันหยุดและหลักเกณฑ์ในการหยุด
4.1 วันหยุดประจ าสัปดาห์
งานส านักงาน หยุดวันเสาร์ และอาทิตย์
งานปฏิบัติการ มีวันหยุดประจ าสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 วัน
พนักงานขับรถ และ แม่บ้าน มีวันหยุดประจ าสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 วัน
โดยวันหยุดประจ าสัปดาห์มีระยะห่างกันไม่เกิน 6 วัน


วันหยุดประจ าสัปดาห์จะเปนวันใดก็ได้ ซึงสามารถสะสมและเลือนไปหยุดเมื่อใดก็ได้

แต่ต้องอยู่ในระยะเวลา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน และหัวหนางานหรือผู้จัดการแผนก จะเปนผู้ก าหนด


20


วันหยุดประจ าสัปดาห์ ทีสะสมไว้ให้พนักงานใช้ให้หมดในก าหนดเวลาดังกล่าว โดยได้รับค่าจ้าง
ตามปกติ
4.2 วันหยุดตามประเพณี

บริษัทจะประกาศก าหนดวันหยุดตามประเพณีให้พนักงานทราบเปนการล่วงหนาใน


เดือนธันวาคมของทุกป เพื่อใช้ปฏิบัติในปถัดไป โดยมีวันหยุดประเพณี 17 วันต่อป รวมวัน



แรงงานแห่งชาติ และได้รับค่าจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันท างานปกติ
วันหยุดตามประเพณี ก าหนดจากวันหยุดราชการประจ าป และ วันหยุดทางศาสนาใน

กรณีวันหยุดตามประเพณีวันใด ตรงกับวันหยุดประจ าสัปดาห์ของพนักงาน ให้พนักงานได้หยุด
ชดเชยวันหยุดตามประเพณีในวันท างานถัดไป

ในกรณีทีบริษัทไม่อาจให้พนักงานหยุดตามประเพณีได้ ให้หยุดในวันอื่นชดเชยได้
ภายใน 30 วัน โดยหัวหนางาน หรือผู้จัดการแผนกเปนผู้ก าหนด


4.3 วันหยุดพักผ่อนประจ าป ี





พนักงานซึงท างานติดต่อกันมาแล้ว 1 ป มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจ าปได้ปละไม่นอย
กว่า 8 วันท างาน โดยได้รับค่าจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันท างาน และ บริษัทจะเปนผู้ก าหนดวันหยุด




ล่วงหนาให้แก่พนักงานหยุดพักผ่อนประจ าป เปนไปตามข้อตกลงในสัญญาจ้าง และ/หรือ ตาม
ระดับของพนักงานดังต่อไปนี ้



ระดับ ครบ 1 ป แต ่ ครบ 5 ป แต ่ ครบ 10 ป ขึ้น

ไม่ถึง 5 ป ี ไม่ถึง 10 ป ี ไป
7-8 8 10 12
5-6 10 12 14
3-4 12 14 16

1-2 14 16 18

C 14 16 18


ทั้งนี บริษัทไม่มีนโยบายให้พนักงานสะสมวันหยุดข้ามป ี




21

1. หลักเกณฑ์การท างานล่วงเวลาในวันท างานปกติ การท างานในวันหยุด และ การ
ท างานล่วงเวลาในวันหยุด


1.1 ในกรณีทีเปนประโยชนต่อการท างาน หรือ การเพิ่มรายได้ให้พนักงาน บริษัทฯจะ


จัดให้พนักงานท างานล่วงเวลา ท างานวันหยุด โดยได้รับความยินยอมจากพนักงานเปนคราวไป

1.2 กรณีทีงานจ าเปนต้องท าต่อเนืองกันไป ถ้าหยุดจะเสียหายแก่งาน หรือ เปนงาน




ฉกเฉิน บริษัทฯ จะจัดให้พนักงานท างานล่วงเวลาในวันท างานปกติ ท างานวันหยุด ( วันหยุด

ประจ าสัปดาห์ / วันหยุดตามประเพณี / วันหยุดพักผ่อนประจ าป ) หรือ ท างานล่วงเวลาใน


วันหยุดได้ตามความจ าเปน พนักงานต้องช่วยท าจนแล้วเสร็จตามทีมอบหมาย
1.3 จ านวนชั่วโมงการท างานล่วงเวลาในวันท างานปกติ การท างานวันหยุดและการ
ท างานล่วงเวลาในวันหยุดนี้รวมแล้วไม่เกินสัปดาห์ละ 36 ชั่วโมง
1.4 การท างานล่วงเวลาในวันท างานปกติ การท างานในวันหยุด หรือ การท างาน


ล่วงเวลาในวันหยุดทีได้รับค่าจ้างนั้น จะต้องเปนงานที บริษัทฯจัดให้ท า การอยู่ท างานล่วงเวลา


เอง หรือ มาท างานวันหยุดเองโดยบริษัทฯ ไม่ก าหนดไม่อนมัติก่อนเปนกิจจะลักษณะ บริษัทฯจะ

ไม่จ่ายค่าล่วงเวลา ค่าท างานวันหยุดให้



1.5 พนักงานทีตกลงกันแต่แรกจ้างว่าไม่มีค่าล่วงเวลา บริษัทฯ ถือว่าเปนหนาทีทีจะ


ท างานในความรับผิดชอบให้แล้วเสร็จในวัน เวลาท างานปกติ บริษัทฯ ไม่มีนโยบายให้ท างาน


ล่วงเวลา ยกเว้นแต่จะได้รับมอบหมายและได้รับค่าตอบแทนอืนใด ทีบริษัทฯจะจัดให้เปนคราวๆ

ไป
1.6 บริษัทจะให้พนักงานท างานล่วงเวลา ท างานในวันหยุด และท างานล่วงเวลาใน
วันหยุดได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 36 ชั่วโมง ในกรณีทีมีการท างานล่วงเวลาต่อจากเวลาท างานปกติ

ไม่นอยกว่า 2 ชั่วโมง บริษัทจะให้พนักงานได้มีเวลาพัก 30 นาทีก่อนการเริ่มท างานล่วงเวลา

1.7 พนักงานหญิงมีครรภ์ โดยได้รับความยินยอมจากพนักงานซึงท างานบริหาร


วิชาการ งานธุรการ รวมทั้งงานเกียวกับการเงินหรือบัญชี สามารถท างานล่วงเวลาได้
22

2. การจ่ายค่าท างานและค่าล่วงเวลา
บริษัทมีนโยบายเรื่องค่าล่วงเวลา ถ้าท างานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดตาม
หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี

2.1 ค่าล่วงเวลาในวันท างานปกติ

ถ้าทางบริษัทให้พนักงานท างานนอกหรือเกินเวลาท างานปกติในวันท างาน พนักงาน



จะได้รับค่าล่วงเวลาเปนค่าจ้าง 1 เท่าครึงของค่าจ้างรายชั่วโมง ส าหรับการท างานทีล่วงเวลาใน
ทุกๆ 30 นาที โดยจะเริ่มค านวณหลังเลิกงานเวลาปกติไปแล้ว 30 นาที


ทั้งนี หากพนักงานท างานล่วงเวลาโดยพละการ โดยมิได้รับอนมัติจากหัวหนางาน

พนักงานจะไม่ได้รับเงินค่าท างานล่วงเวลา
2.2 ค่าท างานในวันหยุด
พนักงานได้รับสิทธิ์สวัสดิการวันหยุด เช่น วันหยุดประจ าสัปดาห์ วันหยุดตาม

ประเพณี และวันหยุดพักผ่อนประจ าป โดยได้รับค่าจ้างตามปกติ ถ้าบริษัทฯ จัดให้มาท างาน
วันหยุด บริษัทฯ จะจ่ายค่าท างานในวันหยุดให้ 1 เท่า ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันท างาน


ปกติ โดยจะจ่ายให้ตามจ านวนชั่วโมงทีท างานจริง หรือ แลกเปนวันหยุด ตามสมควร
2.3 ค่าล่วงเวลาในวันหยุด
2.3.1 พนักงานต้องท างานในวันหยุดจริงครบ 8 ชั่วโมงก่อน จึงจะมีสิทธิได้รับค่า
ล่วงเวลาในวันหยุดตั้งแต่ชั่วโมงที 9 เปนต้นไป


2.3.2 บริษัทฯจะจ่ายค่าท างานล่วงเวลาในวันหยุด ให้พนักงานทุกคนในอัตรา

3 เท่า ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันท างานปกติ ตามจ านวนชั่วโมงทีท าจริง

2.4 พนักงานทีไม่มีสิทธิ์ได้รับค่าล่วงเวลา

2.4.1 พนักงานในต าแหนงผู้บังคับบัญชา หรือผู้ด ารงต าแหนงเทียบเท่าขึนไป




(Manager ขึนไป) ทีได้รับมอบหมายให้มีอ านาจหนาทีท าการแทนนายจ้าง ส าหรับกรณีในการ


จ้าง การให้บ าเหน็จ การลดค่าจ้าง หรือการเลิกจ้าง

2.4.2 พนักงานทีบริษัทมอบหมายให้ปฏิบัติงานเปนกะในเวลาใดก็ตาม และ



ท างานอยู่ในกะปกติทีได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติงาน พนักงานทีเดินทางไปท างานในท้องทีอื่น

นอกจากท้องทีส าหรับการท างานปกติ พนักงานไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาในระหว่างการเดินทาง

ตามความในมาตรา 72 ของ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541

23

3. การค านวณค่าล่วงเวลา
3.1 พนักงานรายเดือนให้ใช้ 30 วันเปนฐานในการค านวณค่าล่วงเวลา

3.2 พนักงานรายวันให้ใช้ 8 ชั่วโมงเปนฐานค านวณค่าล่วงเวลา


4. วันและสถานทจ่ายค่าจ้าง ค่าลวงเวลา ค่าท างานในวันหยุด
ี่
4.1 บริษัทฯ จะจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าท างานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด
และ ค่าตอบแทนอื่น ให้พนักงานอย่างนอยเดือนละ 1 ครั้ง

4.2 โดยปกติจะจ่ายให้ ณ วันสินเดือนขอทุกเดือน หรือ หากวันสุดท้ายของเดือนตรงกับ

วันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ หรือวันหยุดราชการอื่นๆ การจ่ายเงินดังกล่าวข้างต้นจะเลื่อนเร็วขึนอีก

หนึงวัน


4.3 การจ่ายค่าจ้างงวดปกติจะจ่ายผ่านเลขทีบัญชีธนาคารทีพนักงานแจ้งไว้กับบริษัทใน

วันเริ่มงาน

4.4 ค่าจ้างงวดสุดท้ายจะจ่ายเปนเงินสด เพื่อให้พนักงานรับรองวัน เวลาท างานครั้ง
สุดท้ายให้ถูกต้อง สะสางงานค้าง คืนทรัพย์สิน หรือ ชดใช้ความเสียหาย(ถ้ามี) ให้ถูกต้อง
ครบถ้วนก่อนการจ่ายค่าจ้าง พนักงานต้องมารับด้วยตนเอง ณ ทีท าการของบริษัททีพนักงาน


ท างานประจ า

4.5 กรณีทีเลิกจ้างพนักงาน บริษัทฯจะจ่ายค่าจ้างให้ภายใน 3 วัน


4.6 ในกรณีทีพนักงานลาออกเอง บริษัทฯจะจ่ายค่าจ้างให้ในวันทีจ่ายค่าจ้างปกติ

4.7 กรณีทีบริษัทฯไม่มีงานให้ท าเปนการชั่วคราว อันไม่ใช่เกิดจากเหตุสุดวิสัย บริษัทฯ



จะจ่ายเงินช่วยเหลือ ร้อยละ 75 ของฐานค่าจ้างปกติทีได้รับอยู่ก่อนวันหยุดงานตลอดระเวลาทีให้
หยุดนั้น
5. การหักค่าจ้าง

บริษัทฯ จะหักค่าจ้างของพนักงานในกรณีดังต่อไปนี
5.1 ช าระภาษีเงินได้ตามจ านวนทีพนักงานต้องจ่าย

5.2 หักเงินสมทบประกันสังคม

5.3 หักช าระสหกรณออมทรัพย์ เงินออม เงินสะสมส ารองเลียงชีพ (ถ้ามี) หรือ

สวัสดิการทีเปนประโยชน์ต่อพนักงาน




24



5.4 เปนเงินค ้าประกัน หรือ เงินชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายจ้างซึงพนักงานได้กระท า
โดยจงใจ หรือ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง โดยได้รับความยินยอมเปนหนังสือจากพนักงาน




5.5 เงินทีกรมบังคับคดี ทีศาลมีค าสั่งให้นายจ้างหักค่าจ้างพนักงานนาส่งกรมบังคับคดี


5.6 เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ทีกระทรวงการคลังสั่งให้หักนาส่งกระทรวงการคลัง

5.7 เงินทีพนักงานกู้ยืมจากบริษัท หรือ เงินสวัสดิการอื่นใดตามหลักเกณฑ์ทีบริษัท

ก าหนด
5.8 ขาดงาน หรือ มาสายเกิน 30 นาที
5.9 เงินอื่นตามทีกฎหมายก าหนดให้หักได้








































25

1. การลาปวยสวนตัวนอกจากการท างาน





1.1 พนักงานมีสิทธิลาปวยส่วนตัวนอกจากการท างานได้เท่าที “ ปวยจริง ” โดยได้รับค่าจ้าง
ไม่เกินปละ 30 วันท างาน วันหยุดทุกประเภทในระหว่าง 30 วันนี ไม่นับเปนวันลาปวย








1.2 พนักงานทีปวยติดต่อกันตั้งแต่ 3 วันท างานขึนไป ให้มีใบรับรองแพทย์แผนปจจุบัน
ชั้น 1 หรือ สถานพยาบาลของทางราชการ หรือ ชีแจงด้วยวาจาพร้อมหลักฐานทีนาเชื่อถือ







มาแสดงด้วยทุกครั้งหากไม่มีหลักฐานทีนาเชื่อถือว่าปวยจริง บริษัทฯจะถือว่าเปนการขาด
งาน ไม่จ่ายค่าจ้าง



1.3 พนักงานทีลาปวยติดต่อกัน 1 - 2 วัน ควรไปพบแพทย์เพื่อการตรวจรักษาทีถูกต้อง
รวดเร็วและขอใบรับรองแพทย์มาเปนหลักฐานการลาปวยด้วย ในกรณีทีไม่ไปพบแพทย์ให้









นาหลักฐานอื่นทีนาเชื่อถือว่าปวยจริง เช่น ยาทีรักษา ใบเสร็จค่ายา รูปถ่ายอาการปวยที ่

เห็นด้วยตา หรือ หลักฐานอย่างอื่น มาแสดงต่อบริษัทด้วย หากไม่มี หรือไม่นาเชื่อถือ

บริษัทฯ มีสิทธิไม่เชื่อว่าปวยจริง จะไม่จ่ายค่าจ้างให้

1.4 พนักงานทีปวยให้แจ้งการปวยกับหัวหนางานโดยตรงด้วยตนเอง หรือแจ้งฝายบุคคล







รับทราบแทน ก่อนเริ่มเวลาท างานในวันแรกทีปวย เพื่อให้หัวหนางานจัดงาน จัดคนแทนได้
ทันเหตุการณ และให้เขียนใบลาปวยพร้อมหลักฐานในวันแรกทีกลับมาท างาน



1.5 การแจ้งลาปวยในหมวดนี หมายถึงการได้พูดคุย สอบถามกันทั้ง 2 ฝายด้วยตนเอง



โดยตรงหรือทางโทรศัพท์ หรือ ถ้าพูดไม่ได้ การให้คนอื่นแจ้งแทน หรือ การส่ง Line /

Message ต้องมีรูปถ่ายอาการปวยจริงส่งมาให้ดูด้วย จึงจะยอมรับว่ามีการลาทีถูกต้อง

1.6 พนักงานทีประสบอันตรายหรือเจ็บปวยเนืองจากการท างาน ไม่นับรวมเข้าเปนวันลา









ปวยตาม หมวดนี และ จ านวนวันทีหยุดงานเนืองจากประสบอันตรายหรือเจ็บปวยเนืองจาก

การท างาน ให้เปนไปตามความเห็นแพทย์แผนปจจุบันชั้น 1 เท่านั้น


1.7 ใบรับรองแพทย์ทีระบุว่ามาตรวจจริง ไม่ได้สั่งให้หยุดงาน ถือว่าอาการปวยนั้นไม่


ถึงกับต้องหยุดงาน พนักงานต้องมารายงานตัวต่อบริษัท หากไม่มาถือว่าเปนการขาดงาน

ไม่ได้ค่าจ้าง

1.8. การลาไปพบแพทย์ตามนัด หรือ ไปรักษาต่อเนืองจากการปวยครั้งทีผ่านมา ถือว่า




เปนการลาปวยและให้แพทย์เขียนใบรับรองแพทย์มาด้วยทุกครั้ง
26


1.9 ในกรณีมีข้อถกเถียงกันว่าปวยจริง หรือ ไม่จริง ถ้าพนักงานอยากได้ค่าจ้างในวันทีอ้าง






ว่าปวยให้เปนหนาทีของพนักงานเปนฝายหาหลักฐาน พยานมาแสดงให้บริษัทฯ พิจารณา



หากไม่มีหรือไม่นาเชื่อถือ บริษัทฯ มีสิทธิไม่เชื่อว่าปวย จะไม่จ่ายค่าจ้างในวันทีหยุดงานนั้น

หรือ ลงโทษทางวินัยแล้วแต่กรณี



1.10. อาการปวยจากการกระท าต่อไปนี บริษัทฯ ถือว่าเปนการท าให้ตนเองปวยเอง บริษัท


ฯจะไม่จ่ายค่าจ้างในวันลาปวยนั้น


10.1 ปวยจากการเสพ จ าหนายสารเสพติด
10.2 ปวยจากาเหตุการเมาสุรา


10.3 ปวยจากอุบัติเหตุจากการขับรถผิดกฎหมายจราจร

10.4 ปวยจากการก่อการทะเลาะวิวาท ท าร้ายร่างกายกัน
10.5 ปวยจากการท าผิดกฎหมายใด ๆ


10.6 ปวยจากการเสริมความงาม หรือ สุขภาพส่วนตัว
10.7 ปวยจากการไปรักษาแบบพืนบ้าน นวดแผนโบราณ ทีแพทย์ไม่รับรอง หรือแพทย์



ไม่ได้สั่ง

10.8 ปวยใด ๆ อันมีลักษณะทีท าให้ตนเองเจ็บเองหรือให้คนอื่นท า

2. การลาเพื่อท าหมัน
2.1 พนักงานมีสิทธิลาเพื่อท าหมัน หรือ แก้หมันได้ โดยให้ลาล่วงหนาอย่างนอย 3 วัน และ


ต้องได้รับอนมัติก่อนการหยุดงาน

2.2 การลาเพื่อการท าหมัน ได้รับค่าจ้างตามใบรับรองแพทย์ก าหนด


3. การลากิจธุระอันจ าเปนสวนตัว



3.1 พนักงานทีมีกิจธุระอันจ าเปนให้ลาหยุดงานได้ โดยได้รับค่าจ้างไม่เกินปละ 10 วัน

3.2 กิจธุระอันจ าเปนทีลาได้รับค่าจ้าง ต้องเปนกรณีที ่





3.2.1 ต้องเปนกิจธุระทีต้องไปท าด้วยตนเอง คนอื่นไปท าแทนไม่ได้ และ



จ าเปนต้องไปในเวลาท างาน เช่น ท าบัตรประชาชน ใบขับขี เปนพยานในศาล ไปติดต่อ

ราชการอื่น ๆ เปนต้น




3.2.2 กรณีบิดา มารดา คู่สมรสและ บตร ทีชอบด้วยกฎหมาย เจ็บปวยฉกเฉินที ่
ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล หรือ เสียชีวิตกะทันหัน
27


3.2.3 กรณีไฟไหม้ นาท่วม เกิดอุบัติภัยสาธารณะใกล้ทีพักอาศัย


3.2.4 กรณีทีตนเองเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางมาท างาน

3.3 พนักงานทีจะลากิจ ถ้ามีวันหยุดพักผ่อนประจ าป บริษัทฯจะจัดให้หยุดพักผ่อน

ประจ าปแทนก่อนก็ได้ หากไม่มีจึงจะให้ลากิจ



3.4 การลากิจปกติ ให้ปรึกษาหัวหนางานก่อนล่วงหนา 3 วัน และต้องได้รับอนมัติก่อนจึง


จะเขียนใบลาหรือการหยุดงาน กรณีฉกเฉินให้ลาทันทีทีสามารถแจ้งได้ หรือ ก่อนเวลาเริ่ม

ท างานปกติของวันแรกทีหยุดงาน




4. การลาเพอไปฝกเพิมเติมทางทหาร

4.1 พนักงานทีเคยรับราชการทหาร หรือ ผู้เรียนรักษาดินแดน และได้รับหมายเรียกให้เข้า

ทดสอบ ความพรั่งพร้อมตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร มีสิทธิลาโดยได้รับ

ค่าจ้างเท่ากับ อัตราค่าจ้างในวันท างานตลอดเวลาทีลาจริง แต่ไม่เกินปละ 60 วัน รวม

วันเดินทางไป – กลับ ตามระยะทางโดยอนโลม


4.2 ให้พนักงานทีได้รับหมายเรียกแจ้งการลาทันทีทีสามารถแจ้งได้ และเมื่อครบก าหนด

แล้วให้กลับเข้าท างานตามปกติ ภายใน 3 วัน
5. การลาเพื่อฝกอบรมหรือพัฒนาความรู้




5.1 พนักงานทีว่าจ้างเปนพนักงานประจ าแล้ว มีสิทธิลาเพื่อฝกอบรมและพัฒนาความรู้

ความสามารถ ในกรณีดังต่อไปนี
● เพื่อประโยชนต่อการแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานหรือการเพิ่มทักษะความ

ช านาญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการท างานของพนักงาน
● เพื่อการสอบวัดผลทางการศึกษาทีราชการจัดหรืออนญาตให้จัดขึน การฝกอบรม หรือ





พัฒนาความรู้ ทีมีโครงการหรือหลักสูตรและก าหนดช่วงเวลาทีแนนอนและชัดเจน



5.2 พนักงานทีประสงค์จะลาให้แจ้งถึงเหตุทีลาโดยชัดแจ้ง พร้อมทั้งแสดงหลักฐานที ่


เกียวข้อง


ให้บริษัทฯทราบล่วงหนาไม่น้อยกว่า 7 วัน และต้องได้รับอนญาตก่อนการหยุดงาน
5.3 บริษัทฯอาจไม่อนญาตให้ลาในกรณีดังต่อไปนี ้


● ในปทีลานั้น พนักงานเคยได้รับอนญาตให้ลามาแล้วไม่นอยกว่า 30 วัน หรือ 3



ครั้ง
28

● บริษัทฯได้แสดงให้เห็นว่าการลาของพนักงานอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือ
กระทบต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ

5.4 พนักงานมีสิทธิ์ทีจะลาเพื่อฝกอบรมโดยได้รับค่าจ้างสูงสุด 5 วัน หากเกินจากนีจะ


ไม่ได้รับค่าจ้างในวันทีลาและจะไม่ได้รับเบียขยันหรือรางวัลอืนใดทีเกียวกับการไม่





ปวย ไม่ลา ไม่มาสาย ไม่ขาดงานเช่นเดียวกับการลาประเภทอื่น ๆ เว้นแต่เปนการ





มอบหมายจากบริษัทให้เข้าฝกอบรมโดยหัวหนาสายงานขึนไปเท่านั้น
6. การลาไปตรวจครรภ์และลาคลอดบุตร

6.1 พนักงานหญิงทีตั้งครรภ์มีสิทธิลาเพื่อการตรวจครรภ์ตามแพทย์นัดและลาคลอดบุตร
รวมกันได้ไม่เกิน 98 วันรวมวันหยุดทีมีระหว่างวันลาด้วย โดยได้รับค่าจ้างปกติไม่เกิน 45

วัน


6.2 การลาไปตรวจครรภ์อันเกิดจากการเจ็บปวย หรือ การแท้งบุตร ให้ถือเปนการลาปวย



6.3 พนักงานทีใกล้คลอดหรือตั้งครรภ์ตั้งแต่ 8 เดือนขึนไป บริษัทฯอนโลมให้ลาเพื่อเตรียม


ตัวก่อนคลอดได้ โดยให้นับรวมใน 98 วันนีก็ได้ หรือ ขอหยุดพักผ่อนประจ าป หรือ ลาโดย

ไม่ได้รับค่าจ้างก็ได้


6.4 พนักงานทีมีครรภ์ หรือหลังการคลอด หากสุขภาพไม่เหมาะสมทีจะท างานตามปกติ มี

สิทธิขอให้ บริษัทฯ เปลียนงานเปนการชั่วคราวได้ โดยใช้ใบรับรองแพทย์เปนหลักฐาน


หรือ บริษัทฯ อาจจัดให้เองตามทีเห็นสมควรก็ได้

7. การลาอุปสมบทหรือแสวงบุญ
พนักงานทีมีความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนา และประสงค์จะลาอุปสมบท หรือแสวงบุญ ให้





ยื่นใบลาตามระเบียบเพื่อขออนมัติล่วงหนาไม่นอยกว่า 15 วัน โดยบริษัทจะอนมัติจ านวน
วันลาตามอายุงานของพนักงานดังนี ้
อายุงาน 2 ป แต่ไม่ถึง 3 ปี 3 วัน


อายุงาน 3 ป แต่ไม่ถึง 5 ปี 5 วัน
อายุงาน 5 ปขึนไป 7 วัน


ทั้งนีพนักงานมีสิทธิ์ได้รับอนมัติลาได้เพียงครั้งเดียวตลอดระยะเวลาของการจ้าง




29

8. การลาเพื่อจัดการงานศพ
8.1 พนักงานมีสิทธิลาเพื่อประกอบพิธีศพของ บิดา มารดา คู่สมรส บุตร ทีชอบด้วย


กฎหมายได้กรณีละ 3 วัน โดยได้รับค่าจ้าง หากไม่พอให้ขอหยุดพักผ่อนประจ าป / ลากิจ
/ ลาไม่ได้รับค่าจ้าง


8.2 เมื่อครบก าหนดการลาให้นาใบมรณะบัตรของผู้ตาย มาแสดงต่อบริษัทฯ ภายใน 3 วัน
ทีกลับเข้าท างาน


9. การลาแตงงาน
9.1 พนักงานทีท างานครบ 1 ป แล้ว มีสิทธิลาแต่งงานตนเองได้ 3 วัน โดยได้รับค่าจ้าง




9.2 ให้ลาล่วงหนาอย่างนอย 7 วัน และให้นารูปถ่ายการจัดงาน หรือ การ์ดเชิญ หรือ

ทะเบียนสมรสมาแสดงในวันทีกลับมาท างาน

9.3 พนักงานทีจะลาสมรสนีให้ลาได้ 1 ครั้งตลอดอายุการเปนพนักงาน











10. การหยดงานทเกินสิทธิการหยด การลา ทุกประเภททกฎหมายและหรอเกินทบริษัทฯ


ก าหนด
10.1 พนักงานทีหยุดงานครบตามสิทธิการหยุด การลาแต่ละประเภทแล้ว หากมีเหตุ




จ าเปนต้องหยุดงาน เช่น ดูแลบิดา มารดา คู่สมรส บุตร ทีเจ็บปวย อาจขอลาหยุดโดยไม่รับ
ค่าจ้างก็ได้ แต่ต้องได้รับอนมัติจากบริษัทฯก่อนจึงจะหยุดได้

10.2 วันทีลาหยุดงานเกินสิทธินี เปนการหยุดทีเกินกฎหมายก าหนดแล้ว เปนการหยุดที ่









ลูกจ้างได้ประโยชน์ฝายเดียว บริษัทฯไม่ได้ประโยชนด้วย หรือ เสียประโยชนจากงานทีจ้าง
ในช่วงวันทีลาหยุดเกินสิทธินี บริษัทฯจะไม่จ่ายค่าจ้างวันท างานปกติ ไม่จ่ายค่าจ้างใน


วันหยุดทุกประเภท ไม่จ่ายสวัสดิการใด ๆ ทุกกรณี ไม่นับอายุงาน จนกว่าจะกลับมาท างาน
ตามปกติจึงจะเริ่มจ่าย / เริ่มนับให้ตามปกติ


30


บริษัทเชื่อมั่นว่า พนักงานทุกท่านทีผ่านการคัดเลือก และได้รับการบรรจุแต่งตั้ง ให้ท างาน






ตามทีได้รับมอบหมาย เปนทรัพยากรทีมีคุณค่าทีสุด เมื่อพนักงานฝาฝนวินัย บริษัทก าหนดให้
ผู้บังคับบัญชาพิจารณาและลงโทษต่อไปนี ้







1.วินยทพนกงาน “ ตอง ” ปฏิบัติตามอยางเครงครัด

1.1 ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเกียวกับการท างาน นโยบาย ระเบียบ ประกาศ จรรยาบรรณ


วิธีปฏิบัติงาน ใด ๆ ทีชอบด้วยกฎหมายและเปนธรรมของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด
1.2 ต้องมาปฏิบัติงาน – เลิกงาน ให้ตรงตามเวลาทีบริษัทฯ ก าหนด

1.3 ต้องลงบันทึกเวลาเข้างาน – เลิกงานด้วยตนเองทุกวัน

1.4 ต้องแต่งกาย แสดงบัตรประจ าตัว ให้ถูกต้องระเบียบทีบริษัทฯ ก าหนดตลอดเวลาที ่
ปฏิบัติงาน


1.5 ต้องปฏิบัติหนาทีด้วยความขยันและเต็มความรู้ ความสามารถ ให้ได้ผลตามที ่
มอบหมาย หรือตามทีแจ้งไว้ในวันทีรับเข้าท างาน


1.6 ต้องเชื่อฟงและปฏิบัติตามค าสั่งโดยชอบของหัวหนางาน ด้วยความเอาใจใส่



1.7 ต้องให้ความร่วมมือ ประสานงานกับพนักงานอื่นตามทีเกียวข้องให้ทันเหตุการณ ์

1.8 ต้องให้การต้อนรับ เอาใจใส่ ดูแลผู้มาติดต่องานกับบริษัทฯ ด้วยมารยาทอันดี


1.9 ต้องเอือเฟอ ช่วยกันปกปอง รักษาไว้ซึงผลประโยชนใด ๆ ของบริษัทฯ ตลอดเวลา







1.10 ต้องเข้าประชุม ฝกอบรม สัมมนาตามทีบริษัทฯ จัดขึนหรือตามทีมอบหมาย




1.11 ต้องยินยอมให้เจ้าหนาทีรักษาความปลอดภัยตรวจค้นกระเปาหรือสัมภาระก่อนออก
จากสถานทีท างาน



1.12 ต้องยินยอมให้มีการตรวจค้นล็อกเกอร์ โต๊ะท างาน หรือสถานทีเก็บของ ทีบริษัทฯจัด
ให้

1.13 ต้องดูแลสถานทีท างาน รักษาเครื่องมือและอุปกรณการท างานให้อยู่ในสภาพดี




สะอาด เปนระเบียบเรียบร้อยและครบถ้วนตามควรแก่หนาทีของตน
31

1.14 ต้องให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงอันเปนประโยชน์ต่อการบริหารงานของบริษัทฯ ทุกกรณี


1.15 ต้องรักษาไว้ซึงความรัก ความสามัคคี ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยกในหมู่เพื่อน
ร่วมงาน

1.16 ต้องประพฤติตนเปนพลเมืองดี ปฏิบัติตามกฎหมายและศีลธรรมอันดี เพื่อความสงบ

เรียบร้อยร่วมกัน
2. ความผิดสถานเบา

ประกอบด้วยวินัยดังตัวอย่าง เช่น

2.1 เข้าปฏิบัติงานสาย
2.2 ไม่สแกนนิ้วบันทึกเวลาเข้า-ออก ในการปฏิบัติงาน

2.3 ละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัย

2.3.1 ใช้เครื่องแบบ ไม่ระมัดระวังเกียวกับความสะอาด หรือขาดความเปนระเบียบ

หรือแปลงกายไม่สุภาพ
2.3.2 ไม่พก หรือไม่แสดงบัตรประจ าตัวพนักงาน ขณะอยู่ในบริเวณบริษัท หรือไม่แจ้ง
ให้ฝายทรัพยากรบุคคลทราบทันที ในกรณีบัตรประจ าตัวพนักงานช ารุด หรือสูญ

หาย
2.3.3 ไม่รายงานทันทีทีได้พบบุคคลได้รับบาดเจ็บ ภายในบริเวณบริษัท หรือเมื่อทราบ

ว่าเฟอร์นิเจอร์หรือทรัพย์สินของบริษัท ก าลังจะได้รับความเสียหาย



2.3.4 ใช้สถานทีต่างๆของบริษัทเพื่อการพบปะสังสรรค์ หรือจัดเลียง โดยไม่ได้รับ

อนญาตจากบริษัท

2.3.5 ไม่ระมัดระวังหรือละเลย ท าให้ทรัพย์สินของบริษัทสินเปลืองโดยใช่เหตุหรือสูญ
หาย

2.3.6 ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆของบริษัทโดยไม่ได้รับอนญาต
2.3.7 ประกอบธุรกิจส่วนตัวภายในบริเวณบริษัท
2.3.8 ท าให้บริษัทต้องสูญเสียเวลาการปฏิบัติงาน โดยการใช้โทรศัพท์ของบริษัทเพื่อ

ติดต่อเรืองส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนญาต



2.3.9 ไม่แจ้งให้ฝายทรัพยากรบุคคลทราบ ในกรณีย้ายภูมิล าเนาไปอยู่ในสถานทีที ่
แตกต่างจากทีแจ้งไว้ในทะเบียนบ้าน

32


2.3.10 หยอกล้อหรือเล่นกันในระหว่างปฏิบัติหนาที ่


2.3.11 รับประทานอาหารหรือเครืองดื่ม นอกบริเวณทีก าหนดไว้


2.3.12 ฝาฝนข้อบังคับเกียวกับสุขอนามัย หรือใช้ เครื่องสุขภัณฑ์ผิดประเภท

2.3.13 ไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของบริษัทเกียวกับการเข้ารับการตรวจสุขภาพของ



พนักงานประจ าป และฝกอบรมการปองกันและระงับอัคคีภัยเปนต้น



2.3.14 หนวงเหนียว หรืออิดเอือน หรือ เถลไถลในการปฏิบัติงาน



2.3.15 อยู่ภายในบริเวณบริษัท หลังจากพ้นเวลาปฏิบัติหนาทีแล้วเกินกว่าครึงชั่วโมง




หรือกลับเข้ามาในบริเวณบริษัท ในขณะทีไม่ใช่เวลาท างาน หรือในขณะที ลา
หยุด โดยไม่มีเหตุอันควร (พนักงานระดับบริหารและหัวหนาแผนกต่างๆ ถือว่า

ปฏิบัติงานอยู่ตลอดเวลา ขณะอยู่ในบริเวณบริษัท)
2.3.16 ไม่ สแกนนิว ลงลายมือชื่อ หรือไม่ลงเวลาในเอกสารบันทึกเวลาเริ่มต้น หรือ


เวลาสินสุดการท างาน
2.3.17 ใช้ยานพาหนะของบริษัท โดยไม่ได้รับอนญาต

2.3.18 ไม่รายงานให้บริษัททราบ เมื่อรู้ว่ามีโรคติดต่อร้ายแรง ซึงอาจเปนอันตรายต่อ



ชีวิต หรือสุขภาพ ของพนักงานเกิดขึน

2.3.19 ใช้เครื่องมือ หรืออุปกรณต่างๆของบริษัท เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ได้รับ
อนญาต







2.3.20 สูบบุหรีในขณะปฏิบัติหนาที หรือในบริเวณซึงมีปาย “ห้ามสูบบุหรี”
ลักษณะการลงโทษ
1. ตักเตือนด้วยวาจา โดยบันทึกเปนลายลักษณอักษร


2. พักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างไม่เกิน 30 วันท างาน
3. ตัดค่าจ้าง 10 % ไม่เกิน 3 เดือน



4. ตักเตือนเปนหนังสือ ครั้งทีหนึง


5. ตักเตือนเปนหนังสือ ครั้งทีสอง

6. ตักเตือนเปนหนังสือครั้งสุดท้าย
7. เลิกจ้าง
33


ทั้งนีบริษัทสงวนสิทธิ ทีจะลงโทษโดยไม่ต้องด าเนินการตามล าดับขั้นตอนการลงโทษ โดย

พิจารณาจากลักษณะการกระท าผิดทางวินัย

3. ความผิดสถานหนก

2.1 ไม่แจ้งให้หัวหนางานหรือผู้จัดการแผนกทราบล่วงหนาเปนเวลาอย่างนอย 3 ชั่วโมง




ก่อนเวลาเข้างาน ในกรณีไม่สามารถปฏิบัติงานตามทีได้รับมอบหมาย โดยปราศจากเหตุ
อันสมควร

2.2 ไม่มาท างานตามวันและเวลาที บริษัทก าหนด หรือไม่มาท างานในวันหยุดประจ า
สัปดาห์ หรือวันหยุด ตามประเพณี ตามทีได้ตกลงยินยอมกันไว้ล่วงหนา







2.3 ละทิงสถานทีท างานในระหว่างปฏิบัติหนาที โดยไม่ได้รับอนญาตจากหัวหนางานหรือ

ผู้จัดการแผนก
2.4 ท าความผิดซ ้าหนังสือเตือนเกิน 3 ครั้ง


2.5 ขาดงานหรือละทิงหนาทีเปนเวลา 3 วันท างานติดต่อกัน ไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็


ตาม โดยไม่มีเหตุอันควร


2.6 นาบุคคลภายนอกเข้ามาในบริเวณบริษัทโดยไม่ได้รับอนญาต

2.7 แจงอาการปวยด้วยข้อมูลทีเปนเท็จ



2.8 ดื่มเครื่องดองของเมาในขณะปฏิบัติหนาที หรือภายในบริเวณบริษัท หรือ เข้ามาใน

บริเวณบริษัท ในขณะมีอาการมึนเมา หรือมาท างานในขณะมีอาการมึนเมา อาจ


ก่อให้เกิดความเสียหายได้ หรือ ไม่สามารถปฏิบัติหนาทีตามทีได้รับมอบหมาย

เนืองจากเสพเครื่องดองของเมา หรือเสพยาเสพติดให้โทษอืน


2.9 เสพหรือครอบครองยาเสพติดภายในบริเวณบริษัท

2.10 แจกจ่ายข้อเขียน หรือสิ่งพิมพ์ต่างๆ โดยไม่ได้รับอนญาต ภายในบริเวณบริษัท


2.11 ปดประกาศหรือเปลียนแปลง ปลดออก แก้ไขเพิ่มเติม ประกาศของบริษัท หรือ

สิ่งพิมพ์ของบริษัท ซึงติดอยู่ทีปายประกาศข่าวสารส าหรับพนักงาน หรือติดอยู่ภายใน


บริเวณบริษัท
2.12 ปลอมแปลงเอกสารของพนักงาน หรือของบริษัท
2.13 เจตนาท าให้เครื่องบันทึกเวลาได้รับความเสียหาย
34

2.14 แก้ไขหรือเพิ่มเติมเอกสารบันทึกเวลา โดยไม่ได้รับอนญาตจากผู้จัดการแผนก หรือ

ฝายทรัพยากรบุคคล



2.15 ท าความเสียหายต่อกลไก หรืออุปกรณไฟฟา หรือเครืองจักรกลต่างๆ หรือเจตนาใช้


อุปกรณต่างๆของบริษัท โดยผิดวัตถุประสงค์



2.16 พกปน หรือสารไวไฟ หรืออาวุธทีเปนอันตรายร้ายแรง บริเวณบริษัท

2.17 ประพฤติผิดศีลธรรม หรือไม่เหมาะสม กับพนักงานอืน


2.18 ฝาฝนข้อบังคับเกียวกับความปลอดภัยทั่วๆไป หรือการกระท าใดๆทีอาจท าให้บุคคล




อื่นได้รับอันตราย หรือเจตนาเก็บทรัพย์สิน ของบริษัท ในสถานทีซึงอาจสูญหาย หรือ
เสียหายได้
2.19 ยักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์ของบริษัท หรือของลูกค้า หรือของพนักงานอืน


2.20 ครอบครอง กุญแจต่างๆ ของบริษัท หรือจ าลองกุญแจเพื่อเปดประตูหรือทรัพย์สิน

อื่นๆของบริษัท โดยไม่ได้รับอนญาต
2.21 ใช้สื่อ Social Media หรือ ลงข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์อันท าให้เกิดความเสียหายต่อ
บริษัทฯ ลูกค้า หรือบุคคลอื่น





2.22 ใช้ต าแหนงหนาทีส่วนตัวเพื่อรับผลประโยชนจากพนักงานอืน หรือท าให้พนักงานอื่น

เสียผลประโยชน หรือรับเงินใดๆโดยทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่ได้รับอนญาต เสนอ

ให้อภิสิทธิ์หรือสัญญาว่าจะให้ค่าตอบแทน เพื่อกระท าการใดๆ แก่พนักงานอื่น หรือ

เรียกรับค่าตอบแทนในการใช้ดุลยพินิจใดๆ หรือเรียกรับค่าตอบแทนเพือช่วยเหลือให้
กระท าการใดๆ
2.23 เจตนาท าลายทรัพย์สินหรือชื่อเสียง หรือความมั่นคงของบริษัท


2.24 เข้าไปยุ่งเกียวกับการจัดซื้อของบริษัทโดยไม่ได้รับอนญาต
2.25 ใช้ชื่อเสียงของบริษัทเพือการค้าส่วนตัว หรือเพื่อประกอบธุรกิจอันเปนผลประโยชน ์



ส่วนตัว โดยไม่ได้รับอนญาต

2.26 ไม่รักษาความลับซึงอาจเปนประโยชนแก่คู่แข่งขัน หรือผู้ใดซึงท าให้บริษัท เสียเปรียบ




หรือเปนผลเสียหายแก่บริษัท หรือไม่รักษาความลับของบริษัท ท าให้ล่วงรู้ไปถึง
พนักงานทีไม่ได้รับอนญาต


35

2.27 ไม่ให้ความร่วมมือกับพนักงานอื่น หรือแสดงกิริยาหยาบคาย หรือกล่าวให้ร้าย หรือ
อาฆาต ใช้ภาษาและวาจาไม่สุภาพ หรือดูหมิ่น หรือยั่วยุ หรือท้าทายต่อพนักงานอื่น
หรือต่อผู้บังคับบัญชา

2.28 ขู่ท าร้ายพนักงาน หรือบุคคลอื่น ภายในบริเวณบริษัท

2.29 ประทุษร้ายพนักงาน หรือบุคคลอืน ภายในบริษัท

2.30 ท้าทายหรือยั่วยุให้มีการต่อสู้กัน หรือท าร้ายร่างกาย หรือท าลายทรัพย์สินของ
พนักงาน หรือบุคคลอื่นภายในบริเวณบริษัท

2.31 แสดงพฤติกรรมไม่สุภาพ ลบหลู่ หรือหยาบคาย หรืออวดดี หรือไม่ให้ความส าคัญใน

การปฏิบัติหนาที ่


2.32 เปนตัวการหรือผู้สนับสนน หรือก่อให้พนักงานอื่น ฝาฝนข้อบังคับ หรือระเบียบ



เกียวกับการท างาน หรือค าสั่งของบริษัท หรือค าสั่งของผู้บังคับบัญชาเกียวกับการ

ท างาน ด้วยการบังคับ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยั่วยุส่งเสริม หรือโดยวิธีอื่นใด

2.33 ไม่เชื่อฟงหรือขัดค าสั่งผู้บังคับบัญชา หรือไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ
2.34 ให้การเท็จเมื่อมีการสอบสวนหรือไต่สวน
2.35 หลับในขณะปฏิบัติหนาที หรือหลับภายในบริเวณบริษัท หลังจากคนหนาทีแล้ว โดย





ไม่ได้รับอนญาตจากผู้จัดการแผนก
2.36 ให้กู้ยืมเงิน เล่นหวย เล่นแชร์ หรือเปนธุระจัดการให้ภายในบริเวณบริษัท

2.37 เข้าร่วม หรือจัดให้มีการเล่นการพนันภายในบริเวณบริษัท
2.38 ท าความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583

2.39 ได้รับโทษจ าคุกตามค าพิพากษาถึงทีสุดให้จ าคุก เว้นแต่เปนโทษส าหรับความผิดทีได้






กระท าโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ ต้องเปนกรณีทีเปนเหตุให้บริษัทได้รับความ
เสียหาย
ลักษณะการลงโทษ
เลิกจ้างโดยไม่ได้รับค่าชดเชย และอาจด าเนินคดีตามกฎหมายหากเห็นสมควร
การพักงานระหว่างการสอบสวนหาความผิด

ในกรณีทีจ าเปนต้องท าการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และเห็นว่าผู้ต้องสงสัยจะรบกวนการ



สอบสวน หรือ เพื่อความเปนธรรมระหว่างสอบสวน บริษัทฯ จะด าเนินการดังต่อไปนี ้
36


1. ให้พนักงานทีต้องสงสัยหยุดท างานไม่เกิน 7 วัน โดยจ่ายค่าจ้างให้ 50 % ของค่าจ้าง

ปกติ หากสอบสวนแล้วพบว่าผู้ต้องสงสัยไม่มีความผิด บริษัทฯ จะจ่ายค่าจ้างส่วนทีขาดให้ครบ

ตามค่าจ้างปกติทีได้รับ หากพนักงานมีความผิดจะไม่จ่ายส่วนทีขาดนั้น

2. เมื่อครบก าหนด 7 วันแล้ว การสอบสวนยังไม่เสร็จสิน บริษัทฯจะให้พนักงานหยุดงาน

ต่อไปอีกโดยจ่ายค่าจ้างเต็มตามปกติ จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จก็ได้
3 การร้องทุกข์


บริษัทมีนโยบายเกียวกับการแก้ไขความเดือดร้อนของพนักงาน การร้องทุกข์ของพนักงาน โดย
จะพิจารณาและจัดการแก้ไขปญหาความเดือดร้อนของพนักงาน อย่างรวดเร็วและเปนธรรม


3.2 ขอบเขตและความหมายของข้อร้องทุกข์

ในกรณีทีพนักงานมีความไม่พอใจ ในเรื่องสภาพการท างาน สภาพการบังคับบัญชา
การสั่งหรือมอบหมายงาน การจ่ายค่าตอบแทนในการท างานหรือประโยชน์อื่น หรือการปฏิบัติที ่
ไม่เหมาะสมระหว่างผู้บังคับบัญชาต่อพนักงาน หรือระหว่างพนักงานด้วยกันให้พนักงานแจ้งให้

บริษัทใดทราบ และด าเนินการแก้ไขข้อยุติเหตุการณนั้น
3.3 วิธีการและขั้นตอน


ให้พนักงานยื่นค าร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาโดยตรง ยกเว้นเรื่องทีจะร้องทุกข์เกียวกับ

การปฏิบัติ ของผู้บังคับบัญชาโดยตรง ให้ยื่นค าร้องทุกข์ ต่อผู้อ านวยการทรัพยากรบุคคล โดย
การกรอกข้อความร้องทุกข์ ลงในแบบพิมพ์ ทีทางบริษัทจัดไว้ให้

3.4 การสอบสวนและการพิจารณา
3.4.1 เมื่อผู้บังคับบัญชาได้รับค าร้องทุกข์จากพนักงานแล้ว ให้รีบด าเนินการ

สอบสวน โดยขอความช่วยเหลือจากผู้อ านวยการฝายทรัพยากรบุคคล และ/หรือ บุคคลที ่



เกียวข้อง ทั้งนี พนักงานพูดนั้นจะต้องให้ข้อเท็จจริงทีละเอียดแก่ผู้บังคับบัญชา ด้วยหากเรื่องอยู ่
ในขอบเขตอ านาจ หนาทีของผู้บังคับบัญชาทีสามารถแก้ไขได้ ก็ให้ด าเนินการแก้ไขโดยเร็ว แล้ว






แจ้งให้พนักงานทราบเปนหนังสือ ตามแบบพิมพ์ทีก าหนดไว้ พร้อมทั้งรายงานให้ฝายทรัพยากร
บุคคลทราบด้วย
3.4.2 ถ้าแก้ไขไม่ได้ ให้เสนอเรืองราวทีร้องทุกข์ พร้อมทั้งข้อเสนอในการแก้ไข



หรือความเห็นต่อผู้อ านวยการฝายทรัพยากรบุคคล และผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึนไปตามล าดับ

ผู้บังคับบัญชาแต่ละขั้นต้องด าเนินการเกียวกับค าร้องทุกข์โดยเร็วอย่างช้าไม่เกิน 7 วัน

3.5 กระบวนการยุติข้อร้องทุกข์
37

ถ้าพนักงานผู้ยื่นค าร้องทุกข์ทราบผลการพิจารณาและพอใจ ให้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชา


ทราบโดยเร็ว แต่ถ้ายังไม่พอใจให้พนักงานยื่นอุทธรณ โดยกรอกข้อความทีอุทธรณลงนายแบบ




พิมพ์ ทีบริษัทได้ก าหนดขึน และยื่นต่อผู้บังคับบัญชาสูงสุดภายใน 7 วันนับแต่ วันทีทราบผลการ
ร้องทุกข์ จากผู้บังคับบัญชาระดับต้น
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดจะพิจารณาการอุทธรณและด าเนินการแก้ไข หรือยุติเหตุการณ ์


ตามค าร้องทุกข์ และแจ้งผลให้พนักงานทราบตามแบบพิมพ์ทีได้ก าหนดไว้ภายใน 15 วัน

หากพนักงานยังไม่พอใจผลการพิจารณาอุทธรณ ย่อมมีสิทธิด าเนินการในทางอื่นอัน


ชอบด้วยกฎหมายต่อไปได้ หรืออาจเสนอต่อบริษัทเพื่อร่วมกันตั้งผู้ชีขาด เพื่อวินิจฉัยชีขาด
ปญหาอันเกิดจากค าร้องทุกข์นั้นต่อไป


3.6 ความคุ้มครองผู้ร้องทุกข์และผู้เกียวข้อง
บริษัทจะไม่เลิกจ้าง ลงโทษ หรือด าเนินการใดทีเกิดผลร้ายต่อพนักงาน ผู้ยืนค าร้อง


ทุกข์ พนักงานผู้ให้ถ้อยค า ให้ข้อมูล ให้ข้อเท็จจริง หรือให้พยานหลักฐานใดเกียวกับค าร้องทุกข์

และพนักงานทีเปนผู้พิจารณาค าร้องทุกข์ ซึงได้ด าเนินการเกียวกับการร้องทุกข์ไปโดยสุจริตใจ




ผู้ทีร้องทุกข์กล่าวโทษผู้อื่น ทีไม่มีมูลความจริงเพื่อกลั่นแกล้ง หรือใส่ความผู้อื่น


จะต้องถูกลงโทษทางวินัยสถานหนัก อาจถึงขั้นถูกเลิกจ้าง


























38


ในกรณีทีบริษัทฯ เลิกจ้างพนักงาน หรือ ให้เกษียณอายุงาน โดยไม่มีความผิดร้ายแรง
บริษัทฯ จะจ่ายเงินให้กับพนักงานดังต่อไปนี ้







1. การเลิกจ้างดวยเหตทไมมความผิดรายแรง


1.1 ในกรณีทีบริษัทฯ เลิกจ้างด้วยเหตุอื่นทีลูกจ้างไม่มีความผิดใด ๆ บริษัทฯจะบอกกล่าว



ล่วงหนาไม่นอยกว่า 1 งวดค่าจ้าง หรือ จ่ายเงินแทนการบอกกล่าวล่วงหนา 1 งวดค่าจ้างในวันที ่
บอกแล้วให้พนักงานพ้นสภาพการเปนพนักงานทันทีก็ได้ เช่นกรณี พนักงานมีสุขภาพไม่สมบูรณ ์



หรือหย่อนสมรรถภาพในการท างาน หรือมีวันลาปวยลากิจมาก หรือปฏิบัติงานได้ผลไม่เปนทีนา ่

พอใจ หรือไม่สามารถปรับปรุง หรือพัฒนาตัวเองให้ปฏิบัติงานในหนาทีอย่างมีประสิทธิภาพได้


หรือมีความประพฤติไม่เหมาะสม หรือมีพฤติกรรมไม่นาไว้วางใจ แต่ไม่ถึงกับมีความผิด หรือมี

หนีสินรุงรัง มีมลทินมัวหมอง บิดเบือน หรือปดบังข้อมูล ทะเบียนประวัติของตนเอง หรือกระท า




สิ่งทีไม่สมควร หรือปฏิบัติงานไม่ได้ตามมาตรฐานทีบริษัทก าหนด บริษัทมีสิทธิ์จะเลิกจ้าง โดย
จ่ายค่าชดเชยให้ตามกฎหมายได้
1.2 กรณีทีพนักงานท างานมาครบ 120 วันขึนไป บริษัทจะจ่ายค่าชดเชยให้ตามอายุงาน



1.31.4 อัตราค่าชดเชยตามอายุงาน จะคิดจากอัตราค่าจ้างสุดท้ายก่อนการเลิกจ้างดังต่อไปนี)
1.3.1 ผู้ทีท างานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ป จะจ่ายให้ไม่นอยกว่า 30 วัน




1.3.2 ผู้ทีท างานติดต่อกันครบ 1 ป แต่ไม่ครบ 3 ป จะจ่ายให้ไม่นอยกว่า 90 วัน




1.3.3 ผู้ทีท างานติดต่อกันครบ 3 ป แต่ไม่ครบ 6 ป จะจ่ายให้ ไม่นอยกว่า 180 วัน






1.3.4 ผู้ทีท างานติดต่อกันครบ 6 ป แต่ไม่ครบ 10 ป จะจ่ายให้ ไม่นอยกว่า 240 วัน



1.3.5 ผู้ทีท างานติดต่อกันครบ 10 ป ไม่ครบ 20 ป จะจ่ายให้ ไม่นอยกว่า 300 วัน




1.3.6 ผู้ท างานติดต่อกันครบ 20 ปขึนไป จะจ่ายให้ไม่นอยกว่า 400 วัน

1.4 พนักงานทีบริษัทฯจัดให้เกษียณ บริษัทฯจะจ่ายเฉพาะค่าชดเชยตามอายุงานดังกล่าวให้

ี่


ในวันสุดทายทท างาน หรือตามทีตกลงกัน

39




2. การเลิกจ้างทันทโดยไมตองบอกกลาวลวงหนาและไมจ่ายคาชดเชย





2.1 ท าความผิดร้ายแรงตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน มาตรา 119 หรือ กฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์มาตรา 583
2.2 กระท าความผิดกฎหมายอาญาอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของ
ประเทศ

2.3 มีพฤติกรรมท าความผิดร้ายแรงทีก าหนดไว้ในหมวดวินัยและการลงโทษทางวินัย

2.4 ครบก าหนดงานโครงการทีไม่ใช่ธุรกิจการค้าโดยตรงของนายจ้างทีมีก าหนดเวลาไม่


เกิน 2 ป หรือ หมดงานตามฤดูกาล




3. กรณเลิกจ้างเนองจากยายสถานประกอบการ

กรณีทีบริษัท ฯ จะปดสถานประกอบการกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน แล้วย้ายไปตั้ง ณ




สถานทีใหม่ หรือ การย้ายไปสถานทีทีมีอยู่ก่อนแล้ว บริษัทฯ จะด าเนินการดังต่อนี ้


3.1 จะแจ้งให้พนักงานทราบล่วงหนาไม่นอยกว่า 30 วันก่อนวันย้าย หรือ ถ้าแจ้งไม่ครบจะ

จ่ายเงินแทนการบอกกล่าวล่วงหนาให้เต็ม 30 วันแทน
3.2 พนักงานทีมีความเดือดร้อนส่วนตัวหรือครอบครัว ย้ายตามไปไม่ได้ ให้แจ้งเหตุผล



ความเดือดร้อนนั้นให้บริษัทพิจารณาภายใน 30 วัน นับจากวันทีแจ้งหรือวันทีย้าย เพื่อบริษัทฯจะ
พิจารณาตามความเหมาะสม หากไม่มีการแจ้งภายในเวลาทีก าหนดพนักงานต้องย้ายตามไปทุก

กรณี
3.3 หากพนักงานเดือดร้อน ย้ายไปไม่ได้จริงและไม่มีงานอื่นให้ท า บริษัทฯจะจ่ายเงิน

ชดเชยพิเศษตามอัตราค่าชดเชยทีกฎหมายก าหนด ภายใน 7 วัน นับจากวันทีครบก าหนดการ

ย้าย หรือ ตามวันทีคณะกรรมการสวัสดิการแรงงาน หรือ ศาลมีค าสั่ง

3.4 ในกรณีทีมีความเห็นต่างกันเรื่องความเดือดร้อนจริงหรือไม่จริง บริษัทฯจะแจ้งให้

คณะกรรมการสวัสดิการแรงงาน ตรวจสอบให้ภายใน 30 วัน นับแต่วันทีพนักงานแจ้งให้ทราบ


และจะปฏิบัติตามค าสั่งของคณะกรรมการฯ หรือ ตามทีศาลตัดสิน



4. การเลิกจ้างเพราะเหตทตองปรับปรุงหนวยงาน




ในกรณีทีบริษัทฯเลิกจ้างเพราะสาเหตุทีบริษัทฯต้องปรับปรุงหนวยงาน กระบวนการผลิต





การจ าหนาย หรือการบริการ อันเนืองจากการนาเครื่องจักรมาใช้หรือเปลียนแปลงเครื่องจักรหรือ
เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุง พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้ดีขึน เปนเหตุให้ต้องลดจ านวน


พนักงานลง บริษัทจะด าเนินการดังต่อไปนี ้
40


4.1 แจ้งวันทีจะเลิกจ้าง เหตุผล ให้พนักงานทราบล่วงหนาไม่น้อยกว่า 60 วัน หากบอกไม่

ครบจะจ่ายเงินให้เต็ม 60 วัน
4.2 บริษัทจะจ่ายค่าชดเชยให้อายุงานตามอัตราทีกฎหมายก าหนด




4.3 พนักงานทีพนักงานติดต่อกันครบ 6 ป 1 วัน ขึนไป บริษัทฯจะจ่ายค่าชดเชยพิเศษ




เพิ่มให้ปละ 15 วัน ค่าชดเชยพิเศษทีเพิ่มขึนนีรวมแล้วไม่เกิน 360 วัน
4.4 การนับอายุงานเพื่อค านวณค่าชดเชยพิเศษตามข้อ 4.3 ถ้าเศษของวันครบ 181 วัน


ขึนไป ให้นับ เปน 1 ป ี

ข้อบังคับเกียวกับการท างานฉบับนี ให้มีผลบังคับใช้กับพนักงานของบริษัทฯทุกคน จึง


ขอให้พนักงานทุกคนศึกษา ท าความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความสงบสุข
เรียบร้อยและมีประสิทธิภาพในการท างานร่วมกันตลอดไป


































41

ี่

การเปลยนแปลงแกไข


บริษัทฯอาจตกลงกับพนักงานในการเปลียนแปลง หรือแก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิกไม่ว่า



ทั้งหมดหรือบางส่วนของข้อบังคับ เกียวกับการท างานนีตามดุลพินิจของบริษัทฯ โดยได้รับความ
ยินยอมจากพนักงาน และจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ตลอดจนส่ง
ส าเนาให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเพื่อพิจารณา




ข้อบังคับเกียวกับการท างานฉบับนี ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที 1 มีนาคม พ.ศ. 2565



ประกาศ ณ วันที 21 มีนาคม พ.ศ. 2565






นายพรชัย ปทมินทร
ประธานกรรมการบริหาร
บริษัท ดร. ซีบีดี จ ากัด







บริษัท DR. CBD Co., Ltd. ปี










42

บันทก


……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………


……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………


……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………


……………………………………………………………………





43

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………


……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………


……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………


……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………



44

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………


……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………


……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………

……………………………………………………………………


……………………………………………………………………

……………………………………………………………………


……………………………………………………………………


45

2565

















































46


Click to View FlipBook Version